|
ผมได้ไปคลุกคลีกับเขาช่วงหนึ่ง ตอนนั้น "โบ้" ขายบะหมี่อยู่ตรงราชวัตร กิจการของเขาไปได้ด้วยดีครับ ประมาณผัวหาบเมียคอน
เมียของโบ้ทำบะหมี่ได้อร่อย เส้นเหนียวนุ่ม หมูแดงก็หั่นชิ้นหนาๆ เกี้ยวก็ใส่หมูสับมาแบบไม่หวง ไม่กลัวเจ๊ง
ช่วงนั้นคนไปกินเยอะพอสมควรครับ
โบ้มีทองมากมายในตอนชก แต่บางทีๆคุณเห็นกันก็เป็นทองปลอม เพราะหลายต่อหลายครั้งที่คนมอบไม่ได้เตรียมมา ก็เลยมอบทองปลอมบนเวีเพื่อให้ได้ภาพออกทีวีก่อน
จากนั้นก็จะให้ทองจริงๆหลังการชก
แต่มันไม่ทุกครั้งที่สปอนเซอร์ให้ตามที่สัญญาหรอกครับ
บางครั้งการชกผ่านไปแล้ว ได้ออกทีวี ได้รับการเอ่ยชื่อไปแล้ว มีหลายต่อหลายเจ้าที่หายเงียบไปเลย ไม่เอาของจริงมาให้
ประกอบกับตัวโบ้เองไม่มีการบริหารจัดการเงินที่ดี แถมยังมีรายจ่ายจากภาระต่างๆของญาติพี่น้องที่เห็นเขาเป็นบ่อเงิน
ทรัพย์สินเงินทองก็เลยหมดไปในเวลาอันรวดเร็๋ว
ในตอนที่ยังโลกแล่นบนผืนผ้าใบ เขาทำหน้าที่ของ "หมาล่าเนืิ้้อ" ได้อย่างดีเยี่ยม รัตนพลมีการชกแบบเดียวกับ แซมซั่น ลุกเจ้้าพ่อมเหศักดิ์
คือเป็นมวยประเภท "ถอยหลังไม่เป็น" ถอยหลังแล้วจะหกล้ม ถอยหลังแล้วจะต่อยไม่ออก เรียกว่าหากเป็นรถก็เป็นรถที่โรงงานลืมใส่เกียร์ R มาให้...ว่างั้นเหอะ...
มวย "ไฟเตอร์" แบบโบ้ เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งนั้น ร่างกายมันจะแสดงปฏิกิริยาทางสมองออกมาครับ
ต่างจากมวยแบบ "บ็อกเซอร์" ที่มักมีร่างกายที่ปราศจากผลกระทบในช่วงหลังการแขวนนวม
เป็นกันทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็น แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ที่สมัยหนึ่งก็คือว่าเป็น "ไฟเตอร์" เช่นกัน ก็มีผลกระทบทางกายภาพแบบนี้
หรือแม้แต่มวย "บ็อกเซอร์" อย่าง มุูฮัมหมัด อาลี เองก็ยังเป็นพาร์คินสันเลย
ประกอบกับช่วงหลังๆ โบ้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว ที่แทบจะทำไม่ได้ตามพิกัดของตนเอง ขึ้นชกแต่ละทีก็ลดกันจนตัวซีด ,เอวแกว่ง การลดน้ำหนักแบบผิดมนุษย์ของนักมวยไทย มันทำให้ร่างกายสึกหรอครับ
เพราะนิยามของการทำมวยบ้านเรา ก็คือการเอาคนน้ำหนักมากๆมาลด เพื่อต่อยในพิกัดเล็กๆ การทำแบบนี้จะทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ ชนิดที่ขึ้นเวทีแล้วตัวบังกันมิด
แต่ผลเสียจะอยู่กับตัวนักมวยครับ
เรื่องการทรมานนักมวย ในการลดน้ำหนักเพียงเพื่อให้ได้เปรียบคู่ชกในพิกัดนั้น ต่างประเทศเขาไม่ทำกันครับ เพรา่ะนักมวยของเขาจะต่อยในพิกัดจริงๆของตน
ยกเว้นว่าหาคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อกันไม่ได้
แต่คนไทยชอบทำแบบนี้ และพอบั้นปลายนักมวยก็ได้รับผลกระทบ
เนื่องจากการขึ้นเวทีในสภาพที่หมดแรงจากการลด นน.นั้น มันก็อาจจะจริงที่เราจะได้เปรียบเรื่อง "ขนาด" ของร่างกาย แต่หากนักมวยของเราไม่มีแรงแล้ว มันก็คือการขึ้นไปเพื่อ "ล่อเป้า" ดีๆนี่เอง
โดนล่อเป้า โดนต่อยแบบสะบักสะบอมมากๆ พอแก่ตัวไปมันจะไม่มีผลกระทบทางสมองได้อย่างไรละครับ....
ชีวิตหมาไล่เนื้ออย่างโบ้ ไม่มีทั้งความรู้ ไม่มีทั้งทักษะในการบริหารเงิน แถมยังมีหัวหน้าค่าย และ โปรโมเตอร์ ที่ไม่ดูแลกันยามยาก ท้ายที่สุดก็ไม่แปลกที่จะลงเอยด้วยสภาพแบบนี้แหละครับ.....
แต่ผมก็ยังขอบคุณรัตนพล ที่ครั้งนึงได้เคยสร้างชือให้เมืองไทย ในการมีแช้มป์โลกที่เป็นสถาบันหลัก ให้วงการมวยสากลของเราได้เชิดหน้าชูตาแบบไม่อายใคร
ผิดกับสมัยนี้ชนิดฟ้ากับเหว ที่มีแช้มป์เฉพาะกาล หรือ แช้มป์สถาบันห้องแถวกันเป็นดอกเห็ด
โชคดีนะโบ้....
ขอบคุณที่ครั้งนึงเคยทำให้คนไทยมีรอยยิ้ม
หากผ่านไปเมื่อไรจะแวะไปอุดหนุนแน่นอน
จากคุณ |
:
ตุ้ม (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ก.พ. 55 19:49:16
|
|
|
|
|