ความคิดเห็นที่ 1 รอฟังค่ะ จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 19:04:48

ความคิดเห็นที่ 2 ความรักมันไม่มีจริงหรอก เธอเรียนพยาบาลส่วนผู้ชายจบ ปวส  ทำงานโรงงาน  อยู่ห่่างกันมากเพราะอยู่คนละภูมิภาค ระหว่างนี้มีเรื่องราวมากมายที่ผมรับรู้ผ่านจากเพื่อนสนิทของผม ผมได้รู้ว่าระหว่างที่เขาคบกันเพื่อนผมก็มีนอกใจแอบคบคนที่ทำโรงงานเดียวกัน  แต่มันเป็นคนที่บอกผมเองว่ารักผู้หญิงคนนี้มาก(แฟนที่เรียนพยาบาล)ขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นคนที่ดึงมันขึ้นจากนรก มันตายแทนได้เลย เล่าแม้แต่เรื่องที่ว่ามันภูมิใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ  ผมได้รับรู้เรื่องเหล่านี้มาตลอด เรียกได้ว่าผมเป็นคนที่เพื่อนไว้ใจมากที่สุด  แล้วผมก็ได้ติดต่อพูดคุยกับฝ่ายผู้หญิงบ้างจากการที่ครั้งแรกที่เราได้คุยกันหลังจากที่หายจากกันไปหลายปี  ตอนนั้นผมอยู่ที่บ้านพ่อแม่ผมบอกว่าเธอกำลังตกปลาที่ท้ายหมู่บ้าน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการที่ผมได้รู้ว่าเรื่องราวจากอีกฝ่าย  เธอเล่าว่าเธอเองก็รู้สึกถึงความกดดันที่มาจากสังคมรอบตัวเธอว่าเธอกับเพื่อนผมไม่เหมาะกัน ไม่คู่ควรกัน และเธอก็หมดรักที่มีต่อผู้ชายแล้ว เพราะไม่มีความเป็นผู้นำ แล้วก็ยังสร้างความสำบากให้เธอในเรื่องเงินๆทองด้วย ซึ่งเธอเองก็ทุ่มเทให้ทั้งที่เธอก็ต้องช่วยทางบ้านใช้หนี้ที่มีอยู่เกือบล้านบาท เธออยู่บนความท้อแท้และเหมือนสู้เพียงลำพัง ทางที่บ้านผู้ชายอยากได้ตัวเธอเป็นสะไภ้มาพูดทาบทามกำหนดวันแต่งงานแล้ว เวลานั้นเธอก็ทุกข์หนักที่เวลามันก็บีบเข้ามาเรื่อยๆ ผมเองก็ช่วยปลอบใจช่วยเป็นกำลังใจให้เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ในเวลาอันรวดเร็วความรู้สึกที่ดีที่เธอมีต่อผมมากขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอบอกว่ารักผม ผมเองก็ไม่แน่ใจตัวเองแต่ก็รู้สึกดีมากกว่าเพื่อนอย่างบอกไม่ถูก จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 19:27:53

ความคิดเห็นที่ 3 ความรักมันไม่มีจริงหรอก ผมเองก็ไม่แน่ใจตัวเองแต่ก็รู้สึกดีมากกว่าเพื่อนอย่างบอกไม่ถูก ทุกท่านจะว่าผมแย่งแฟนมาจากเพื่อนรักก็ไม่ว่าอะไรนะครับ  ผมเองก็ยอมรับว่าผมไม่ดี แต่ผมอยากบอกว่าเวลาที่เธอมาเล่าความทุกข์ของเธอจนร้องไห้นั้น ผมไม่เคยใช้เวลานี้ทำคะแนนให้ตัวเอง ตอนนั้นผมทำหน้าที่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กคอยให้กำลังใจเธอ สร้างแรงบรรดาลใจให้เธอมีความหวัง ช่วยเสนอทางออกต่างๆเรื่องเงินๆทองๆ เป็นเพื่อนผู้ที่รับฟังทุกเรื่องและมีคำตอบทุกครั้งที่เธอหาทางออกไม่ได้ และอีกหน้าที่คือช่วยเพื่อนสนิทของผมให้เธอกลับมามีความรู้สึกดีต่อเขาอีกครั้ง   แต่กลายเป็นว่าผมก็กลับมีความสงสารให้เธอมากจนผมเองก็หวั่นไหว แต่ผมก็ยังพูดเชียร์เพื่อนผมให้เธอกลับมารักให้ได้   ถ้ามีคนจะถามผมว่าเธอน่าสงสารอย่างไรน่ะเหรอ  ลองมาฟังที่ผมจะเล่าให้ฟังครับ บ้านเธอมี 4 คน พ่อ แม่ พี่ชาย เธอ  บ้านเธอรู้จักกับบ้านผมมานานแล้วอีกอย่างก็อยู่ไม่ใกลกันคนละหมู่บ้านที่ติดกันแค่นั้นเอง  ตั้งเด็กเธอมักเสียเปรียบพี่ชายมาตลอด ไม่เคยได้อะไรเหมือนที่พี่ชายได้ แต่พี่ชายกลับติดยา สร้างแต่ความวุ่นวายให้พ่อแม่  แม้ว่าตอนนั้นจะเลิกยาแล้วแต่ก็เกาะพ่อแม่กินเอาเปรียบพ่อแม่และญาติๆทุกอย่าง ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆครับ วันนึงมีคนมาขโมยเงินบ้านญาติไป สืบดูแล้วพอรู้ว่าขโมยเป็นเด็กแถวบ้านจึงให้พี่ชายของเธอเป็นคนไปคุยตกลงค่าเสียหาย  พี่ชายกลับบอกให้ลุงของเด็กเอาเงินมาให้ตัวเขาแล้วบอกให้เด็กนั่นหนีไปอยู่ที่อื่นซะ แล้วก็มาโกหกคนที่บ้านว่าเด็กหนีไปแล้ว สุดท้ายเอาเงินไปแอบใช้คนเดียว  และอีกหลายวีรกรรมมากมาย  ส่วนบรรยากาศที่บ้านของเธอไม่รู้จะเรียกว่าบ้านดีมั้ยพ่อแม่ของเธอไม่เคยพูดจากันดีๆอยู่แบบคนรู้จักกันอย่างไรอย่างนั้น  พ่อเธอบอกเธอว่าพ่ออยากหย่ากับแม่แต่ติดที่ลูกก็เลยไม่หย่า  หลายครั้งที่พ่อปล่อยให้แม่ทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ที่บ้านโดยพี่ชายเธอก็ไม่ช่วยเลย มีแต่ล้างผลาญ  เธอจบมาก็ช่วยที่บ้านอย่างมากเงินเดือนที่ได้มา  12000 ประมาณนั้ี เธอให้ที่บ้าน 10000 บาทเพื่อให้แม่ไปใช้หนี้ ที่บ้านของเธอมีผู้หญิงเป็นผู้นำ  เธอมีความฝันอยากมีบ้านเป็นของเธอเอง อยากให้ตัวเองและครอบครัวอยู่อย่างสบาย เธอน้อยใจตลอดเวลาที่เพื่อนผมนอกจากไม่ช่วยเธอแล้วยังยืมเงินเธอบ่อยๆ ไม่มีความประหยัด แต่เธอก็ให้มาตลอดเวลาช่วยแม้กระทั่งการเงินที่บ้านเพื่อนผมหลายครั้ง  ความรักทื่มีต่อเพื่อนผมมันก็เริ่มลดลงเรื่อยๆมองไปข้างหน้าก็เหมือนไม่มีแสงสว่าง แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 20:03:27 จากคุณ : chainmer เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:02:10

ความคิดเห็นที่ 4 ความรักที่ รักพ่อ รักแม่ รักพี่ รักน้อง รักญาติน่ะมีอยู่จริง และคงอยู่ตลอดไป แต่ความรักแบบหนุ่มสาว พอเลิกกันก็กลายเป็นคนอื่น ถึงจะเคยรักหวานซึ้งแค่ไหนก็สามารถเกลียดกันได้ หรือคนที่รักกันจะเป็นจะตายแต่งงานจนอยู่ด้วยกันนานๆเข้า เริ่มเบื่อหน่าย ซ้ำซาก หรือเริ่มมีลูก ความรักนั้นก็อาจน้อยลงๆ เพราะไปให้ลูกทุ่มเทกับลูกแทน ความรักแบบแฟนกันอาจจะไม่มีเลยแล้วก็ได้กลายเป็นความผูกพันธ์หรือเป็นแค่เพื่อนที่ยังอยู่ด้วยกันเท่านั้น เห็นมาหลายคนเหมือนกัน จากคุณ : เบบี้ดอลล์ เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:16:21

ความคิดเห็นที่ 5 ความรักมันไม่มีจริงหรอก ความรักทื่มีต่อเพื่อนผมมันก็เริ่มลดลงเรื่อยๆมองไปข้างหน้าก็เหมือนไม่มีแสงสว่าง วันที่เธอบอกว่ารักผม เราก็ฝ่าฟันความรู้สึกที่สังคมรอบตัวไม่เข้าใจเรามาอย่างยากลำบากมากโดยเฉพาะเพื่อนสนิทผมที่เขาแทบฆ่าตัวตาย แต่วันนี้ผมกับเพื่อนคนนี้ถึงไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกันแต่ก็คุยกันได้ หลังจากที่เธอมาเป็นแฟนผมแล้ว ตรงกับช่วงที่ผมเรียนจบพอดี (ผมจบช้ากว่าเธอครับ เพราะผมเรียนหลักสูตร 5 ปี) ผมได้รับการยอบรับจากที่บ้านเธอเป็นอย่างมากเนื่องจากฐานะทางบ้านผมไม่รวยแต่ก็ไม่ด้อยกว่าฐานะครอบครัวเธอ การศึกษาของผมที่เท่าเทียมกับเธอ และสอบรับราชการครั้งเดียวก็ได้เลยทันทีที่เรียนจบ  วันที่เราเป็นแฟนกันตอนแรกเธอบอกผมว่าเธอไม่บริสุทธิ์แล้วผมรับได้มั้ย  ผมบอกไปว่า  ผมรู้มานานแล้วเรื่องที่เพื่อนผมได้เธอแล้ว เธอนึกไม่ถึงที่เพื่อนผมจะมาเล่าให้ผมฟังเรื่องนี้  แต่ผมก็ไม่เล่าเรื่องที่เพื่อนผมนอกใจเธอให้ได้ฟังเพราะผมเองก็ไม่อยากทำร้ายจิตใตเธอมากกว่านี้และไม่อยากให้เพื่อนผมดูไม่ดีในสายตาเธอไปมากกว่านี้ ความจริงผมบริสุทธฺ์นะครับจบจบมหาลัย  ช่วงแรกๆเราปรับตัวเข้าหากันให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้  ด้วยการเล่าประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมาของแต่ละคน เธอก็เล่าเรื่องแฟนแต่ละคนให้ผมฟัง และชีวิตสมัยเรียนพยาบาล  มันทำให้ผมรู้ว่านักศึกษาพยาบาลจำนวนไม่น้อยหลอกผู้ชายที่เข้ามาจีบเพื่อหวังสิ่งต่างๆไม่ว่าเลียงอาหาร ดูหนังฟรี ได้ช๊อปฟรี  และที่สำคัญจำนวนมากมีแฟนมาแล้วและก็คบผู้ชายอีกคน(หรือหลายคน)ช่วงที่เรียนอยู่ด้วย  ***ต้องขออภัยที่กล่าวพาดพิงวิชาชีพพยาบาลนะครับ  แต่นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดเฉพาะตัวบุคคลในช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วครับ*** จากคุณ : chainmer เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:35:45

ความคิดเห็นที่ 6 มายืนยันว่าความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก มันมีอยู่จริงค่ะ เรามีลูกเราเข้าใจเลยค่ะ ว่าที่ผ่านมาแม่เรารักเรามากแค่ไหน และเรารักลูกเรามากแค่ไหน จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:40:17

ความคิดเห็นที่ 7 ความรักมันไม่มีจริงหรอก และที่สำคัญจำนวนมากมีแฟนมาแล้วและก็คบผู้ชายอีกคน(หรือหลายคน)ช่วงที่เรียนอยู่ด้วย นั่นก็รวมทั้งเพื่อนของเธอที่ผมก็รู้จักเพราะจบ ม ปลายมาจากที่เดียวกัน และตัวเธอด้วย เรื่องราวที่เธอเล่าก็มีเพียงเรื่องที่ได้ไปกินอาหารฟรี ดูหนังฟรี กับผู้ชายที่เข้ามาจีบเธอสมัยเรียนตอนนั้นเจอกันขณะที่เธอกำลังกลับบ้าน เธอเล่าเรื่องนี้เพียงสั้นๆ  เธอบอกว่าก็แค่ครั้งเดียวและจะไม่ทำแล้ว ผมรับฟังอย่างดีและไม่ได้คิดอะไรหรือไม่ได้ระแวงเลย แถมลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เราดูเข้าใจกันมากขึ้นและรักกันมาก แม้เราทำงานไกลกัน เธอทำงานใก้ลบ้านส่วนผมทำงานต่างจังหวัด  ผมรู้สึกว่าได้พบกับคนดี คนเก่ง เธอช่างมีค่ามากในสายตาผม ผมระวังใจตัวเองตลอดที่ห่างกันเพราะครอบครัวผมผู้ชายมีเมียเยอะกันทั้งนั้น พ่อผมก็ด้วยผมเคยเห็นน้ำตาแม่ที่เสียให้กับพ่อเรื่องราวต่างที่เกิดจากความเจ้าชู้ของคน  ผมมัวแต่ระวังตัวเองและไว้ใจแฟนจนเวลาผ่านไป 2 ปี ก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น จากคุณ : chainmer เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 20:56:22

ความคิดเห็นที่ 8 ความรักไม่มีจริงหรอก เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อไม่นานมานี้แฟนผมได้เจอแฟนเก่า(รุ่นพี่คนนนั้น)โดยบังเอิญใน facebook  ผู้ชายคนนั้นเค้าให้เบอร์ไว้กับแฟนของผม  แฟนผมก็โทรไปคุยกันประมาณ 2  ชัวโมงหลังจากนั้นผู้ชายคนนั้นก็พยายามโทรหาแฟนผมตลอดเวลาวันละหลายๆครั้ง ทั้งที่แฟนผมบอกไม่อยากให้โทรมาและก็บอกว่ามีแฟนแล้ว จนแฟนผมต้องปิดเสียงมือถือ  ไม่งั้นไม่มีเวลาทำงานแน่นอน(แฟนผมมาบอกทีหลัง)  ตอนนนั้นผมเองก็เริ่มเอะใจก็เลยเข้า facebook ของแฟนผม  เข้าไปเช็คข้อความในนั้น  ก็เจอข้อความของผู้ชายคนนั้น ในข้อความก็ไม่มีอะไรมากเป็นการคุยกันธรรมดาและก็เห็นเบอร์ผู้ชายคนนั้นที่เค้าให้ไว้ในข้อความ... แต่มันไม่ใช่แค่นั้นผมยังเจอข้อความที่แฟนผมยังคุยกับแฟนเก่าอีกคน(แฟนคนที่สอง)ในข้อความนั้นเวลาที่ปรากฏมันบ่งบอกว่าเค้าคุยกันมาเป็นระยะๆแล้วช่วงแรกๆก็เป็นเรื่องที่ผู้ชายปรึกษาเรื่องที่โดนผู้หญิงทิ้งแล้วก็ถามว่าแฟนผมมีเพื่อนอีกมั้ยที่ยังโสดอยู่ แฟนผมกลับพูดว่ามีแต่ตัวเค้านี่แหละที่โสดอยู่ซึ่งพูดแบบนี้ 3 ครั้งในช่วงเวลาที่คุยกันประมาณ 1 เดือน โดยแฟนผมก็แนะไปว่าถ้าอยากได้ใจผู้หญิงก็ต้องทำอะไรบ้างแต่มีข้อหนึ่งบอกว่าต้องพาไปเที่ยวบ้าง ในช่วงเวลานั้นเค้าทักกันในข้อความแบบคนคุ้นเคย และผู้ชายเองก็เริ่มคุยแบบทะลึ่งนิดหน่อย(เรื่องในร่มผ้า)และก็แบบล้อเล่นกับแฟนผม ตลอดเวลาที่คุยกันซึ่งแฟนผมทั้งเล่นๆด้วยและห้ามว่ามันเกินไป   แล้วก็คุยกันเรื่องที่เค้าทั้ง 2 คนเลิกกันเพราะอะไรแล้วแฟนผมก็ชวนผู้ชายให้มาพักใจด้วยกัน  มีอยู่วันหนึ่งในข้อความแฟนผมก็บอกว่าเบื่องานอยากไปเที่ยว ผู้ชายก็เลยชวนไปเที่ยวโดยบอกว่าจะได้บรรยากาศเก่าๆบ้าง แฟนผมก็เห็นดีด้วย หลังจากนันผู้ชายเริ่มคุยแบบที่คนรักเค้าคุยกัน(ที่จริงผู้ชายคนนี้รู้มานานแล้วนะครับว่าผมกับแฟนคบกันมานานแล้ว) แต่ว่าแฟนผมห้ามเอาไว้ไม่อยากให้พูดแบบนั้น โดยบอกว่าที่ผ่านมาก็แค่พูดเล่นเท่านั้นแล้วทั้ง 2 ก็ทะเลาะกันครับ        ผมเห็นข้อความเหล่านี้รู้ว่าเค้าคุยกันมาเกือบ  2  เดือน ผมก็เลยบอกว่าปริ้นข้อความทั้งหมดไปให้แฟนผมดูมีทั้งหมด 17 หน้า(ใช้อักษรตัวเล็กและตั้ง 2 คอลัมน์แล้วนะ) เธอก็บอกว่าขอโทษแล้วก็บอกว่าทำไปไม่ได้คิดอะไรจริงๆ แล้วก็มีผมคนเดียวหลังจากนั้นเราก็คุยกันดี    ผมเองก็ไม่ได้ด่าหรือต่อว่าเธอมากมาย (เราไม่ได้ทะเลาะกันเลยแม้นิดเดียว) โดยหวังว่าเธอจะเข้าใจในสิ่งที่ทำไปและคิดได้เอง แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 21:05:18 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 21:03:16 แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 55 21:01:16 จากคุณ : chainmer เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:00:06

ความคิดเห็นที่ 9 ขอโทษสำหรับชื่อกระทู้ที่กำกวมครับ  ในที่นี้คือรักแบบคนรักครับ   ขอโทษครับ จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:04:48

ความคิดเห็นที่ 10 1. รัก ก็แค่คำคำนึง 2. คำว่า รัก คือความเห็นแก่ตัวของคนๆนึง ใช้เพื่อให้ได้คนอีกคนนึง(หรือหลายคน)มาครอบครองหรือใช้ประโยชน์เท่านั้น 3. ถ้า รัก คือการให้ ทำให้อีกคนมีความสุข ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟน ไม่ต้องเป็นเจ้าของ แค่ทำให้คนๆนั้นมีความสุขก็พอแล้ว และไม่จำเป็นที่จะต้องการอะไรกลับมา   (ถ้าคน2คน รักกันในแบบ ข้อ3. ได้ล่ะก็ นั้นคือรักที่สมบูรณ์(แต่จะทำได้นานแค่ไหนนั้นคืออีกเรื่อง เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมักจะหมดรักก่อน)) 4. รัก มีอายุขัยของมัน (แต่ละคนไม่เหมือนกัน) จากคุณ : ReiLove เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ทราบว่าเล่าจบหรือยังครับ ผมก็รออ่านอยู่ แฟนคุณน่าจะเป็นคนเจ้าชู้นะครับ แต่บ้านเธอน่าสงสาร แต่เป็นคนละเรื่องกันนะครับ ผมว่ามีแววที่แฟนคุณจะพบรักใหม่ แล้วชิ่งไปต่ออีก ถ้าไปก็ต้องปล่อยเค้าไปครับ อย่าไปคิดมากเลย แต่ขอแย้งนะ ความรักมีจริง ๆ นะ หลายคู่อยู่กันจนแก่ตายไปข้างเลย แต่ไม่ทุกคนที่จะได้พบมัน ก็เท่านั้นแหล่ะ จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 22:51:33

ความคิดเห็นที่ 12 ความรักไม่มีจริงหรอก ผมเองก็นึกว่าเธอจะคิดได้และรู้สึกสำนึกผิด ที่ไหนได้เธอกลับมองว่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องขำๆ เพราะเธอไม่ได้จริงจังกับเรื่องที่เกิดขึ้น มีแต่ผมคนเดียวที่เต้นแร้งเต้นกาอยู่คนเดียว ผมไม่ขำเลยกับเรื่องที่เกิดพยายามพูดอย่างไรก็ไม่ได้อะไรขึ้นมามีแต่จะทะเลาะกันเปล่าๆ เธอเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงและมองเห็นคุณค่าในตัวเอง ชอบเอาคนอื่นมาเปรียบกับตัวเองเรื่องพรรณนี้เพื่อนเธอก็ทำและเธอก็ช่วยปิดเรื่องของเพื่อนเธอด้วยไม่ให้แฟนของเพื่อนรู้ด้วย หลังจากผมรู้เรื่องนี้ผมก็ลืมมันไป แต่เธอเองนั่งแหละ่ที่คอยมาระแวงผม ดูโทรศัพท์ผม ลบรูปเพื่อนผมจากโทรศัพท์ คอยบอกผมว่าต้องพูดอย่างนั้นอย่างนี้กับเธอเพื่อให้เธอพอใจ คอยกำกับผมทุกเรื่องให้อยู่ในภาพความคิดของเธอ ให้เป็นอย่างที่เธอต้องการ แม้แต่เรื่องที่ผมทำเพื่อพ่อแม่ผมเธอกลับแสดงอาการเหมือนว่าเธอเสียเปรียบที่ผมให้ความสำคัญต่อพ่อแม่มากกว่า(ผมเป็นลูกชายคนโต ผมช่วยพ่อแม่ผ่อนรถ กู้เงินซื้อที่ให้พ่อแม่ จนผมเหลือเงินใช้ต่อเดือนแค่ 4000) เพราะว่าเธอรอผมขอแต่งงาน ผมพยายามที่อธิบายอย่างไรก็ไม่ได้รับความเข้าใจจากเธอ แต่เธอบอกเสมอว่าเธอเข้าใจผม จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 23:03:01

ความคิดเห็นที่ 13 ความรักไม่มีจริงหรอก เธอบีบคั้นผมให้ตอบให้ได้ว่าทำไมเธอไม่ใช่คิวต่อไปที่ผมวางแผนไว้  ผมเองก็อยากบอกแต่ผมว่ามันคงดูเป็นการเห็นแก่ตัวที่จะตอบเธอตามความจริง ผมจึงซื้อเวลาผัดผ่อนเรื่อยมา   หลายท่านอาจเคยอ่านกระทู้ที่ผู้มาโพสว่าทำไมผู้ที่คบกันไม่ขอแต่งงานซะที  หลายความเห็นโทษผู้ชายว่าไม่มีความมุ่งมั่น หรือไม่ก็โทษว่าคำว่าไม่พร้อมหรือไม่มีเงินเป็นแค่คำอ้างของผู้ชายที่เห็นแก่ตัว  ผมก็เลยไม่กล้าพูดกับเธอตามความจริง ผมซื้อเวลาตลอดมา ผมขอเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ผมบอกได้เต็มปากว่าผมไม่พร้อมจริงๆครับ  อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอย่าพึ่งตำหนิผมนะครับ  ผมมีเหตุผลที่จะเล่าให้ฟังแม้จะมีใครที่ได้อ่านมันแล้วจะบอกว่าเป็นข้ออ้างก็ตาม อย่างที่บอกครับผมเป็นลูกชายคนโต มีน้องผู้หญิง 2 คน คนกลางแต่งงานแล้ว คนเล็กกำลังเรียนจบ ม ปลาย  หลายคนคงสังสัยว่าทำผมต้องทุ่มเทให้ที่บ้านขนาดนี้ด้วย  ผมเป็นคนเดียวในลูกสามคนที่ได้รับรู้ว่าพ่้อแม่สร้างตัวมาอย่้างไร จากที่พ่อมารักแม่โดยที่บ้านของพ่อไม่มีใครเห็นด้วยเลยซักคน พอพ่อแต่งงานกับแม่ก็ยังช่วยปู่ทำงานไร่ต่อไป แล้วอายุ 20 ปี พ่อก็ออกมารับจ้างขับรถบรรทุกดิน นานๆพ่อจะกลับบ้านซะที โดยแม่อยู่ที่บ้านทำนายากจนมากขนาดที่ว่าเงินจะซื้อสบู่จะขัดตัวยังไม่มี(ผมจะร้องไห้) พ่อแยกบ้านมาโดยการเอาเงินไปไถ่ที่ปู่มาจึงมีที่สร้างบ้านซุกหัวนอน พอปู่ตายความจริงแล้วปู่มอบที่ดินให้พ่อและรถ 6 ล้อคันหนึ่งแต่พ่อยกให้ป้า  ป้า(ลูกคนโต)กลับยึดเอาที่ดินเสียเองโดยพ่อผมก็ไม่อยากมีปัญหากับพี่น้องก็เลยปล่อยเลยตามเลย พ่อแม่สร้างตัวมาจากมือเปล่าจริงๆ ฝังทางแม่ผมก็ใช่ย่อยจนสุดๆตากับยายแต่งงานกันมีที่ดินมากมายเป็นมรดกแต่ตาก็กินแต่เหล้าจนยายท้อประชดชีวิตกินเหล้าตามที่ดินที่เคยมีก็หายไปหมดเพราะเหล้า ตอนที่พ่อแม่มีผมช่วงที่ยังแบเบาะครั้งหนึ่งผมไม่สบายมากแม่พาไปหาหมอ หมอด่าแม่ผมว่าทำไมปล่อยให้ลูกขาดสารอาหารขนาดนี้  ผมจึงโตมาด้วยร่างกายที่เตี้ย(157 ซม) แต่ไม่อ้วนนะครับ ครอบครัวเราทำนามาตลอดแล้วก็มาขายผลไม้ขาดทุนย่อยยับช่วงนั้นแม่เครียดมากเพราะเงินเก็บที่ออมมาตลอดหมดไปในพริบตา สุดท้ายมีแม่ค้าขายขนมครกบอกว่าจะให้เซ้งร้านพร้อมสูตร  มีต่อ จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 55 23:46:13

ความคิดเห็นที่ 14 ความรักไม่มีจริงหรอก แม่ผมขายขนมครกส่งผมเรียนจบจนปริญญาตรีด้วยเงินขนมครก เรื่องราวต่างๆทั้งพ่อและแม่จะเล่าให้ผมฟังตอนปี 2 -3 ผมรู้ซึ้งดีว่าบ้านเรายังขาดอะไรอีกมาก ผมเริ่มวางแผนเพื่อตอบแทนพ่อแม่ เดิมน้องสาวคนกลางเป็นคนที่ผมวาดหวังว่าจะให้อยู่กับพ่อแม่เวลาที่ผมทำงานต่างจังหวัดแล้วไม่ได้กลับบ้าน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อน้องแต่งงาน มันเอาใจแต่ผัวมันอะไรที่แม่อยากกินถ้าผัวมันกินไม่ได้มันก็ไม่ทำให้แม่กิน บางที่น้องผมถามผมว่าจะช่วยพ่อแม่ส่งรถทำไมผมรู้ดีว่าเมื่อส่งหมดแล้วน้องคนกลางคงขอรถไปแน่นอน แต่ถึงเป็นอย่างนั้นผมก็ทนดูไม่ได้ที่พ่อแม่จะส่งรถคนเดียวทั้งที่ผมก็มีเงินเดือนแล้ว อีกอย่างทุกรู้ดีว่าข้าราชการเงินเดือนน้อยผมอยากตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตจึงกู้เงินมาซื้อที่ให้พ่อแม่ เพราะมาชั่งใจดูแล้วถ้ารอเก็บเงินเองก็คงนานและเวลานั้นที่ดินอาจแพงมาก  ผมยอมใช้เงินต่อเดือน 4000 บาท (หักค่าห้องเช่าก็เหลือ 2000) ส่วนน้องคนเล็กเป็นความหวังของผมมากที่สุดแต่น้องเป็นคนติดสบายเพราะว่าเกิดมาช่วงที่บ้านเริ่มตั้งตัวได้แล้ว  บ้านที่เราอยู่ปัจจุบันเป็นบ้านที่ไม่มีความสวยหรือหรูหราตรงไหนเลย เป็นบ้านสังกะสีตี 4 ด้านแค่นั้นเอง  มีต่อ จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 00:06:25

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้อ่านทุกคห. แต่จะตอบก่อนแล้วกันนะคะ ความรักมีจริง (หรอก) เราไม่คาดหวังความรักของเราที่มีให้คนอื่น ว่าเค้าจะต้องกลับมารักเราตอบ เราปล่อยให้เค้าไป รักของเรา อยู่ในใจกับเรา จนเรามีลูก ความรักทั้งหมดของเราให้ลูกตัวน้อย ๆ เพียงคนเดียว ณ วันที่เราตกต่ำที่สุดในชีวิต คนที่เรารักก็มาทิ้งไป กลายเป็นคนอื่น เราก็ดึงความรักเรากลับมา ไม่เคยเชื่อถือในความรักที่เรามีให้คนอื่น เราเลยทุ่มความรักทั้งหมดของเราให้ลูกเราคนเดียว แต่เวลาเห็นหน้าคนที่ทิ้งเราไปยามเราลำบาก รักมั้ย ก็ยังรักและรู้สึกดี ๆ อยู่ ก็ดูแลกันมา 10 กว่าปี ให้กลับไปเหมือนเดิมมั้ย ไม่กลับ แถมเสียดาย ถ้าแต่ก่อนรู้ว่า วันนึงที่เราตกต่ำ คู่ชีวิตที่คาดหวังว่าจะก้าวผ่านขวากหนามไปด้วยกัน จะจูงมือฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างไปด้วยกันนั้น จะมาทิ้งเราแบบนี้ เราจะไม่ฝากชีวิตเราไว้กับคน ๆ นี้เลย เรามีความรักและคาดหวังกับลูกของเราคนเดียวแล้วตอนนี้ ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด แต่รักที่จะให้คนอื่น ไม่มีอีกแล้ว เราไม่เชื่อในรัก ใครมาเจอแบบเรา เอาหัวเป็นประกัน ยากที่หาคนเคียงข้าง และก้าวผ่านอุปสรรค และขวากหนามไปด้วยกันเพราะรักได้ จากคุณ : ~amily~ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 00:38:09

ความคิดเห็นที่ 16 ติดตามอ่านอยู่นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ฟองเซ) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 04:38:53

ความคิดเห็นที่ 17 อ่าว อารมณ์ค้างเลยอ่ะ จขกท หายไปไหนแ้ล้วคะ รีบๆกลับมาเล่าต่อนะคะ จากคุณ : มิเรอิ เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 09:41:13 A:110.164.75.144 X: TicketID:350167

ความคิดเห็นที่ 18 ความรักไม่มีจริงหรอก ผมเองก็เคยถามพ่อแม่ว่าทำมั้ยบ้านเราไม่สร้างใหม่ซะที แต่พ่อแม่ผมบอกว่าที่อยู่ก็เอาแค่อยู่ได้ไม่ลำบากมากนัก อีกอย่างมีอะไรที่สำคัญกว่าการมีบ้านหลังสวยอีกมาก (ความฝันการมีบ้านหลังงามอาจเป็นของใครหลายคน แต่สำหรับผมมันเป็นการลงทุน) ตอนนี้น้องคนเล็กกำลังจะเข้าเรียนมหาลัยด้วยคงต้องใช้เงินอีกไม่น้อยในเวลา 4 ปีนี้ ผมอยากจะออมแต่ว่ามันก็ติดที่ผมต้องแบ่งเบาภาระทางบ้าน ตอนนี้ผมและแฟนอายุ 26 ปี แต่ผมเองยังติดภาระทางบ้าน ผมเองก็รอเวลาตอบแทนพ่อแม่ไปนานกว่านี้ไม่ได้เพราะผมสงสารพ่อแม่มากๆๆ ท่านต้องตื่นแต่ ตี 3 ยืนขายขนมครกกว่าจะเลิกก็ บ่าย 2 โมง กว่าจะขายหมด คุณคิดดูครับว่าทำแบบนี้มา 10 ปี จะเป็นอย่างไร ลำพังผมยังหนุ่มอยู่ไปช่วยยืนขาย 2 วันยังปวดขาเลย แล้วพ่อแม่ที่อายุ 47-48 ล่ะท่านปวดแค่ไหน มันลำบากครับ ถ้าคุณถามว่าลำบากเกินไปทำไมไม่มองหางานอย่างอื่นให้พ่อแม่ ผมก็คิดอย่างนั้น แต่ืคนอายุมากขนาดนั้นรับผิดชอบรายจ่ายรอบตัว ใครจะกล้าเสี่ยงเปลี่ยนงาน อีก 4 ปี ถึงจะหมดภาระนั้น นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมกู้เงินมาซื้อที่ให้พ่อแม่ เพื่อเป็นที่ทำมาหากินของบ้านเราได้ เผื่อเวลาที่ขายของไม่ไหวเราก็มีที่ทำกิน เธออยากแต่งงานเพราะทางบ้านของเธอก็เร่งรัด เธออยากมีลูกก่อนที่จะอายุ 30 ปี เพราะเธอมีโรคประจำตัวคือ รูมาตอยน์ (ผู้ที่เป็นโรคนี้ถ้ามีลูก สุขภาพจะแย่ลงมาก ถ้ามีลูกตอนอายุมากก็เท่ากับอายุแม่จะสั้นลง) ผมอยากทำเพื่อเธอ แต่ผมเองก็มีทางเลือกไม่มาก (ถ้าเก็บเงินแต่งงาน พ่อแม่ผมก็ลำบาก แต่ถ้าช่วยแต่ที่บ้านไม่สร้างอนาคตกับแฟนก็ถูกว่าไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่ทำเพื่อคนที่รัก ) จะให้ผมทำอย่างไร ผมขอถามคุณผู้หญิิงที่ได้อ่านเรื่องนี้ว่าคุณอยากได้ชายที่ทุ่มเทให้ครอบครัว ทำมั้ยแฟนผมไม่เข้าใจผม มีต่อ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 11:28:00 จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 11:04:18

ความคิดเห็นที่ 19 ความรักมีจริง ในความคิดผมนะ ความรักจากพ่อแม่ ความรักจากเพื่อนๆ ความรักจากพี่ๆน้องๆ ความรักจากคู่รัก ความรักจากเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน มีความรักอยู่หลายแบบรอบๆตัวเรา ในความคิดผมนะ จากคุณ : หนุ่ม (Noum NaMon) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 12:15:07

ความคิดเห็นที่ 20 ความรักไม่มีจริงหรอก ผมไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน  ไม่เล่นหวย ไม่เจ้าชู้ รักครอบครัวตัวเอง มีความรับผิดชอบ แต่ยังไม่สามารถทำเพื่อเธอได้อย่างเต็มที่ ทำมั้ยต้องมาคาดคั้นเอาคำตอบเรื่องอนาคต ผมไม่อยากตอบและไม่อยากพูดอะไรที่ผมเองจะทำไม่ได้   ใครก็ตามที่อ่านมาถึงจุดนี้ผมเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงกลางแบบนี้ระหว่างพ่อแม่ และแฟน ควรทำอย่างไร ท่ามกลางเวลาที่มีจำกัดและเงินก็จำกัด   มีต่อ จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 12:24:21

ความคิดเห็นที่ 21 ความรักไม่มีจริงหรอก ความเป็นจริงวันนี้ผมกับแฟนยังไม่แต่งงา่น และยังไม่มีวี่แววที่จะได้แต่ง ตัวเธอยังคงเป็นคนที่คงเส้นคงวาอย่างเดิมหรืออาจมากกว่าเิดิม เธอเป็นคนที่คอยเช็คผมมาก กว่าเิดิม ตรวจดูโทรศัพท์ผมทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันหรือมีโอกาส  สำหรับผมแล้วผมบริสุทธิ์ใจอยู่แล้วไม่มีปัญหาเลย  ไม่ว่าจะคุยกันเรื่องอะไรเธอมักคิดว่าเธอเป็นฝ่ายที่ถูกเสมอและคิดว่าความคิดตนเองดีที่สุด  มีครั้งหนึ่งพยายามตำหนิผมว่าการวางตัวกับผู้หญิงและเรื่องลามขึ้ันเกือบจะทะเลาะกันแต่เธอแพ้ภัยตัวเองไม่สามารถว่าอะไรผมได้เพราะผมสามารถตอบสิ่งต่างๆได้กระจ่างชัด เธอพูดอะไรได้ไม่เต็มปากเพราะสิ่งที่พยายามว่าผมมันกลับเป็นพฤติกรรมของเธอเอง ส่วนเรื่องของเธอผมก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรือไปก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวโดยเฉพาะในเฟสบุ๊คเธอที่ผมสามารถล็อกอินเข้าไปได้ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่จับได้คุยกับแฟนเก่าลับหลังผมแบบคนรักกันอยู่  ผมไม่ติดใจเอาความอะไรและบอกว่าถ้าไม่ทำอีกผมก็จะไม่มาเคยเช็คเฟสบุ๊คของแฟนจนเมื่อไม่กี่วันมานี่ผมก็รู้สึกว่าเวลาที่แฟนมีให้มันน้อยลง อะไรบางอย่างเริ่มผิดปกติผมเดาว่าน่าจะหาเรื่องราวต่างๆได้จากเฟสบุ๊คของเธอ แต่กลับถูกเปลี่ยนรหัสโดยที่เธอไม่ยอมบอกผม  และผมก็มารู้เมื่อวันก่อนนี้เอง  มีต่อ จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 13:13:42

ความคิดเห็นที่ 22 ความรักไม่มีจริงหรอก ผมรู้รับรู้ได้ว่าเธอเริ่มมีความลับต่อผมแล้วเพียงแต่เธอกำลังปิดบังมันอยู่  แต่ผมก็พยายามหาว่าสิ่งที่เธอปิดบังมันคืออะไร จนรู้ว่าความจริงบางอย่างเมื่อปลายปีที่ผ่านมาว่าแฟนเก่าเธอโพสรูปภาพที่ถ่ายกับเพื่อนของเขาเข้าใจว่าน่าจะเรียนวิศวะ น่าตาดี  สูง หล่อ ขาว  แฟนผมก็เข้าไปโพสคอมเมนต์รูปนั้นในเฟสบุ๊คแฟนเก่าว่า "คนขวาน่ารักอ่ะ ติดต่อให้หน่อยดิ" มีคนอยากได้เบอร์ผู้ชายคนนี้ 2 คน (จากคนที่มาโพส 30 คน) ซึ่งแฟนเก่าเธอเคยโพสรูปเพื่อนคนนี้มาก่อนนั้นเล้วและยังโพสตอบคนที่มาถามเบอร์ว่าจะให้ถ้าใครสนใจ  นั่นมันทำให้ผมรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ผมรู้ว่าความลับคืออะไร  ผมพึ่งมารู้ตัวอาจรู้ตัวช้าไปเพราะว่าผมโทรหาแฟนน้อยลงเนื่องจากผมเอาเวลาหัวค่ำของทุกวันไปติวเตรียมสอบผู้บริหารทุกวันตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม   ปกติแล้วก่อนที่ผมจะไปติวเราจะโทรหากันโทรคุยกันทุกคืน แต่นี่เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนหลังปีใหม่มานี้ผมมัวแต่ติวอยู่ไม่ได้กลับบ้านเลย จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 13:50:03

ความคิดเห็นที่ 23 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 14:53:30 จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 13:50:14

ความคิดเห็นที่ 24 รอฟังนะคะ ระบายมาเลยคะ เราก้เคยถามแฟนเราเหมือนกันคะว่าเมื่อไหร่จะแต่งซักทีแต่แฟนเราก็บอกว่าไม่พร้อม เพราะเค้าต้องช่วยที่บ้านก่อน ต้องสร้างบ้านให้พ่อแม่ก่อนถึงจะแต่งงานได้ อยากให้พ่อแม่สบายก่อน เราก็เห็นใจและเข้าใจเค้าคะ เราก็บอกเค้าว่าเรารอได้คะ จากคุณ : นพร209 เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 14:17:32 A:110.164.75.144 X: TicketID:350167

ความคิดเห็นที่ 25 ความรักไม่มีจริงหรอก ตอนนี้ผมยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้แฟนได้ฟังว่าผมรู้เรื่องแล้ว ผมยอมรับว่ามันเหนี่อยที่ต้องมาตามรับรู้เรื่องเหล่านี้  ผมไม่อยากรู้ว่ามันเริ่มเมื่อไหร่อย่างไร ไม่อยากรู้ว่าเธอกับว่าที่แฟนคนใหม่ของเธอไปถึงไหนกันแล้ว  ผมไม่อยากได้ยินอะไรจากเธออีกต่อไป และไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไป เมื่อคืนที่ผ่านมาเธอส่งข้อความว่า "เขารักตัวเองคนเดียว ตลอดมาและตลอดไป " ผมได้อ่านกลับรู้สึกเฉยๆได้แต่บอกตัวเองว่าเธอคงส่งข้อความให้ผิดคน  ผมได้แต่ถามตัวเองว่าคนที่เคยบงการคนอื่นบอกว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ดีเป็นสิ่งที่ควรทำ สิ่งไหนควรจะพูดกับแฟนว่าอย่างไร  ถ้ารู้ดีขนาดนั้นทำไมถึงได้กล้าพูดอย่างนั้น คนที่เห็นคุณค่าตนเองอย่างไม่ลดลงเลย  ได้มองเห็นคุณค่าคนอีกคนบ้างมั้ย  หรือตัวผมเองไม่ค่าพอให้เขาห้ามใจไม่ให้ทำอะไรอย่างนี้ได้  (มีพี่ที่ทำงานชมผมว่าแฟนของเป็นคนที่น่าอิจฉาจริงๆเพราะผมไม่เคยเจ้าชู้เลย แม้แต่สายตาก็ไม่เจ้าชู้  เป็นคนให้เกียรติผู้หญิง ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่  ตอนนั้นผมไม่สบายหลับไปแล้วรู้สึกตัวขึ้นมาตอนที่พี่กำลังเมาส์เรื่องผู้ชายในที่ทำงานอยู่โดยที่พี่ไม่รู้ว่าผมหลับตาแอบฟังอยู่) ขนาดคนอื่นยังมองเห็นความยึดมั่นในรักเดียวของผม  และก็มีเธอที่คอยทำลายมันลง   ตอนนี้ผมบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูก ไม่อยากมองว่าเรื่องนี่ใครผิด  อยากรู้อะไรทำให้เธอพูดอะไรแบบนั้นออกไปได้   อะไรที่เธอยื้อผมไว้และยื้อผมไว้เพื่ออะไร  และอยากถามคนที่เคารพตัวเองและเห็นคุณค่าในตัวเองสูงอย่างนั้น ทำสิ่งเหล่านี้มันคือการเพิ่มค่าให้ตัวเองใช่มั้ย ชอบใช่มั้ยที่ทำให้ใครๆมาสนใจตนเอง สนุกใช่มั้ยที่ได้มองดูแล้วเห็นผู้ชายหลายคนให้ความสำคัญตัวเอง มาถึงตอนสุดท้ายครับ ที่ผมบอกรักไม่มีจริง เพราะไม่ว่าผมจะพยายามซักเท่าไหร่เพื่อให้ได้ความรักมากลับไข่วคว้าได้แต่เพียงภาพลวงตา ผมได้แต่หลอกตัวเองว่าเห็นความรักจากนัยต์ตาของเธอคนนั้น   บอกผมทีครับว่าผมควรหาทางออกอย่้างไร  หรือผมควรทำหรือพูดอย่างไร สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาอ่านเรื่องราวของผม ความรักที่หลายท่านบอกผมว่ามี ผมน้อมรับตามที่ท่านว่ามาครับ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 55 18:09:16 จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 14:44:26

ความคิดเห็นที่ 26 ความรักไม่มีอยู่จริง ช่วยตอบหน่อยครับว่า พูดอย่างไรไม่ให้เธอเจ็บ เมื่อต้องจากกัน จากคุณ : จขกท (chainmer) เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 15:00:41

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าจะจากกัน ลองเปลี่ยนมุมมองนะ จาก "พูดอย่างไรไม่ให้เธอเจ็บ" เป็นสิ่งที่ควรพูดเมื่อคนรักกัน 2 ปี มีปัญหาระหองระแหงบ้าง แต่เธอปันใจ และเราก็อาจไม่มีเวลาพอที่จะคอยตามคอยเช้ก เหนื่อยหน่ายในเรื่องไม่ควร ว่า "ความสัมพันธ์จบลงแล้ว" ความรักอาจยังอยู่ แต่รักคงไม่มากพอที่จะรักษาความสัมพันธ์ฉันคนรัก ที่ต้องอาศัยความไว้ใจและการให้อภัยกันและกันได้  ... ถ้าเจ้าของกระทู้มั่นใจว่าจบจริงๆ การพูดมันเป็นแค่การสื่อสารเพื่อให้เราเข้าใจตรงกัน ซึ่งต้องมีความจริงและสิ่งที่อยากบอกเป็นพื้นฐาน ส่วนความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้น คุณเจ้าของกระทู้ไม่สามารถห้ามใจใครได้ แม้แต่ตัวเองก็ตาม ถ้าคิดจะปล่อยนก ไม่สามารถคิดหาวิธีให้นกกลับสู่ป่าที่เราต้องการ สิ่งที่เราทำได้คือเปิดประตูแล้วขอให้โชคดีตามทางของเธอได้เท่านั้น .. ตั้งมั่นอยู่ในความจริงข้อนี้แล้วปล่อยใจตัวเองให้คลายความเหนื่อยล้า แต่ถ้าไม่คิดจะปล่อยเธอ ยังมีสายเชือกรั้งไว้ นกที่ว่าอาจเป็นว่าว ซึ่งคุณก็ต้องทบทวนให้ดีว่า เพื่ออะไร สุขใจดีไหม ส่วน "ความรักมันไม่มีจริงหรอก" เห็นด้วยค่ะ เพราะตอนคนอกหักกัน เกือบทั้งหมดมันมาจากรักที่เคยมีจางลงและหายไป .. คิดอย่างนี้ได้ในตอนนี้ไม่แปลก เพราะคุณกำลังเป็น แต่สิ่งที่คุณเป็นและเจอ มันไม่ใช่ทั้งหมดของความรัก ตอนนี้กำลังมุ่งมั่นเรื่องเรียนและครอบครัว ขอให้ได้สมดังหวัง ส่วนความรักนั้น แม้รักมากเท่าไหร่ รักให้ตายยังไง เมื่อมันจะจบมันก็ต้องจบ .. เมื่อมันจะเริ่มต่อให้เจ็บปวด เข็ดมาขนาดไหน มันก็ฝืนใจตัวเองไม่ไหว รักษาใจตัวเองให้มีสุข และเมื่อทุกข์ก็เอาให้เต็มเหนี่ยวเต็มที่ไป จบแล้วชีวิตดำเนินต่อไป ถ้าใจอยู่กับอดีต ปัจจุบันก็จะไม่มี ... อนาคตซึ่งเป็นผลของปัจจุบันก็กระทบไปด้วย สู้ๆ คนในห้องศาลาและคนที่เดินเจอกันมากมายตามท้องถนนล้วนผ่านความเสียใจและน้ำตาให้กับความรักมามากมาย ... แต่มันอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ สองมือสองเท้ายังต้องก้าวและเดินต่อไป ..เพราะชีวิตคือชีวิต สู้ๆๆๆๆ โว้ยๆๆๆๆๆ จากคุณ : แกงส้มผักบุ้ง เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 17:02:04

ความคิดเห็นที่ 28 เธอยังไม่ปล่อยคุณเพราะว่ายังจับคนอื่นไม่ิติดค่ะ เพราะคุณเองก็เป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ เพียงแต่แฟนคุณอาจจะเบื่อ  ในฐานะผู้หญิงคนนึง เท่าที่เห็นมา  ผู้ชายดีมักจะน่าเบื่อ  ในสายตาของผู้หญิงที่ไม่ค่อยเรียบร้อย อย่างแฟนของคุณ  (ดูจากที่คุณเล่านะคะ)  ก็เลยเฟลิทกับคนอื่น ถ้าไม่มีใครจริงจังกับเธอ  เธอก็จะอยู่กับคุณไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละค่ะ จากคุณ : loveouh เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 18:39:28

ความคิดเห็นที่ 29 คุณก็มีคุณค่าในตัวเอง จะเป็นตัวสำรองไปทำไม จากคุณ : ระวีรุ่งสว่าง เขียนเมื่อ : 9 มี.ค. 55 19:36:00