ความคิดเห็นที่ 1 ต้องถามกลับ...ด่วนเพื่อใคร? ปล.ความขัดแย้ง อย่างรุนแรง กำลังเริ่มต้นแล้วครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ยามประจำเผ่าฯ(350040) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:37:22 A:202.44.139.173 X: TicketID:350040

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นหนึ่งเรื่องที่ฮีรู้สึกอิจฉา ลึกๆแล้วกลัวว่าเขาจะทำได้สำเร็จ กลัวว่าเขาจะได้หน้า จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:38:06

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วรีบทำไมครับ ในเมื่อกระบวนการพิสูจน์ตัวเอง ทั้งสีแดงที่เผา และสีเหลืองที่ปิด ก็กำลังพิจารณาจากศาล คนที่ถูกกล่าวหา ย่อมอยากพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ผิด  เรียกได้ว่าสู้ได้ทุกศาล แต่คนที่รู้ว่าตัดสินยังไงก็ต้องเข้าซังเต ย่อมต้องอยากหาทางลัด งานนี้ถ้าไม่แกล้งโง่ หรือจำแลงเป็น การาบือ คงรู้ว่าทำเพื่ออะไร จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:49:50

ความคิดเห็นที่ 4 ยามฯอยากให้ปรองดองมั๊ยหล่ะ  ส่วนตัวเอาแบบไหนก็ได้  ถ้าจะเอากฏหมายก็เอาผิดทุกฝ่าย เหลือง แดง พันธมิตร ประชาธิปัตย์   จะนิรโทษกรรมก็ทั้งหมด   จะไม่เอา 2 แนวทางนี้แล้วรบกันต่อก็ทำไป แต่ยี่ห้อประชาธิปัตย์เค้าไม่เอาหรอกนิรโทษกรรม  เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าทางเค้าไม่โดนเล่นงานแน่  ถ้านิรโทษกรรมพรรคตัวเองจะเสียหายทางการเมืองมากกว่า จากคุณ : ย้ง (suanplu) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:51:37

ความคิดเห็นที่ 5 เพราะรายละเอียดยังไม่ถูกต้อง ครบถ้วน ต้องถามกลับ แล้วจะรีบไปทำใม? จากคุณ : เสื้อตัวเก่า-กระเป๋าใบเดิม เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:52:37

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องรีบหน่อยครับ เพราะเจ้านายมารอที่เมืองลาวแล้ว สงกราณ์จะกลับบ้านอ่ะ เขาว่ากันอย่างงั้นหุหุ... จากคุณ : jiwery เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:53:56

ความคิดเห็นที่ 7 ผมอยากให้เอาผิด ทุกฝ่าย(ที่ทำผิดครับ) อยากรู้ความจริงด้วย ไม่ใช่แล้ว ๆ กันไป จบ ปล.แล้วพี่น้อง ที่ตาย ที่บาดเจ็บ ที่เสียหายหล่ะ..ปล่อยให้มันจบแบบนี้เลยหรอ...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ยามประจำเผ่าฯ(350040) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:55:47 A:202.44.139.173 X: TicketID:350040

ความคิดเห็นที่ 8 การนำเรื่องการเมืองไปให้ศาลตัดสินเป็นการทำลายศาลจริงหรืไม่ลองคิดดูนะครับ  การเมืองสกปรกยิ่งกว่าอุจจาระ "บิ๊กจิ๋ว" ออกจดหมายเปิดผนึกหนุนนิรโทษกรรม อ้างคำสั่ง 66/23 เป็นเฃิงเปรียบเทียบ แนะใช้การเมืองนำกฎหมายแก้ปัญหา ชี้ส่งเรื่องไปศาลยิ่งเพิ่มความขัดแย้ง พร้อมกับถือเป็นการตอบจดหมายเปิดผนึกของ "มาร์ค" เรื่องการสร้างความปรองดองแห่งชาติ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกจำนวน 11 หน้า ถึงผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ตอบจดหมายเปิดผนึกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน เรื่องการสร้างความปรองดองแห่งชาติ โดยมีเนื้อหาสรุปได้ว่า การปฏิบัตินโยบาย 66/23 สำเร็จในขั้นตอนที่ 1 คือยุติสงครามกลางเมืองลงได้ แต่ขั้นตอนที่ 2 คือการสร้างประชาธิปไตยระดับสูง คือการยกเลิกระบอบเผด็จการทุกชนิด คือระบอบเผด็จการรัฐสภา เผด็จการรัฐประหาร ยังไม่แล้วเสร็จ จึงทำให้เกิดสถานการณ์ต่างๆ จนถึงปัจจุบัน มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง โดยรสช.และคมช. จนเกิดการจลาจลนองเลือดขนานใหญ่หลายครั้ง เกิดม็อบต่อสู้ขัดแย้งรุนแรงระหว่างเสื้อเหลือง เสื้อแดง เกิดการเข่นฆ่าจับกุมคุมขังประชาชน เกิดคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนับร้อยๆคดีมากมายเป็นประวัติการณ์ และแทนที่จะแก้ไขด้วยมาตรการทางการเมืองอย่างถูกต้องตามนโยบาย 66/23 กลับเอาปัญหาที่เกิดจากการเมืองเหล่านี้ไปแก้ในศาล ยิ่งทำให้ปัญหาวิกฤติหนัก พล.อ.ชวลิตระบุต่อไปว่า เราเคยใช้นโยบาย 66/23 คือแก้ด้วยมาตรการทางการเมือง ไม่ใช่ด้วยมาตรการกฎหมาย มาตรการทางศาล การใช้กำลังหรือการปราบปราม แต่ใช่มาตรการเหล่านี้เป็นส่วนประกอบ เป็นการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่มีการจับกุมดำเนินคดีในศาล หรือเช่นฆ่าทรมานใดๆทั้งสิ้น จึงยุติสงครามกลางเมืองช่วงนั้นได้หากยังดำเนินการตามนโยบาย 66/23 ก็แทบไม่ต้องมาถกเถียงกันเรื่องนิรโทษกรรม ซึ่งสามารถหักล้างได้กับข้อโต้แย้งของนายอภิสิทธิ์ ที่ว่าจะเป็นการล้มล้างอำนาจตุลาการ ทำลายระบบยุติธรรมนั้น การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมตามนโยบาย 66/23 จะเป็นการช่วยให้อำนาจตุลาการเข้าหาระบบยุติธรรม หรือยิ่งทำให้ระบบยุติธรรมของไทยดียิ่งขึ้น คือไม่นำปัญหาการเมืองที่เกิดจากระบอบเผด็จการรัฐสภา เผด็จการรัฐประหาร เข้ามาแก้ในระบบยุติธรรม “ศาล” นอกจากแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังทำให้บานปลาย ฝ่ายที่แพ้จะหมดสิ้นความเชื่อถือศรัทธาในระบบยุติธรรมไทย นำเอาผลการพิพากษาไปโจมตี ทำให้จำเลยไม่ยอมรับในการตัดสินของศาลไทย เดินทางออกนอกประเทศ จนกลายเป็นปัญหาใหม่อยู่ขณะนี้ จดหมายของ พล.อ.ชวลิตระบุอีกว่า การนำปัญหาการเมืองไปให้ศาลแก้ คือการทำลายศาล ไม่มีทางสำเร็จมีแต่จะเกิดปัญหามากขึ้น แต่การนิรโทษกรรมปัญหาการเมืองคือการช่วยศาล เป็นการสร้างประชาธิปไตย ทำให้คนไทยทุกคนทั้งผู้เสียหานและผู้ถูกกระทำได้รับประโยชน์ร่วมกันสูงสุด คือเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย อำนาจรัฐชนิดสูงสุด บุคคลที่เข้าข่ายเป็นผู้ได้รับการนิรโทษกรรมคือทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ต้องระบุชื่อ นามสกุล เป็นการเลิกต่อกัน จบต่อกัน เป็นการนิรโทษกรรมแบบบูรณาการอย่างปราศจากเงื่อนไข ยุติความแตกแยก สร้างความปรองดองแห่งชาติได้อย่างแท้จริง และยังเป็นเป็นการเปลี่ยนสถานการณ์เก่าเป็นสถานการณ์ใหม่ จะไม่มีปัญหาแบบเดิมอีกต่อไป ซึ่งรายงานวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า ล้วนมีเจตนาดีต่อประเทศ ส่วนคดีความของคตส.ปัญหาที่มาเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับอยู่แล้ว ถูกต้องขึ้นโดยระบอบเผด็จการรัฐประหาร ย่อมไม่ชอบธรรมอยู่ในตัว เมื่อไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้นย่อมเป็นโมฆะ ซึ่งปัญหาคอร์รัปชันเป็นปัญหาของระบอบ แต่คตส.กลับไปแก้ปัญหาที่ตัวบุคคลจึงผิดพลาดร้ายแรง ต้องเลิกทุกสิ่งทุกอย่างที่คตส.ทำลงไป โดยทุกอย่างต้องคืนสู่สถานภาพเดิม จากคุณ : cobainlover เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 09:59:09

ความคิดเห็นที่ 9 ขงเบ๊ เขียนเอง หรือว่าเป็นแค่ คนส่งจดหมาย? ปล.ถ้ายังจำกันได้ 2 คนนี้มีบุญคุณต่อกันเยอะ...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ยามประจำเผ่าฯ(350040) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:23:07 A:202.44.139.173 X: TicketID:350040

ความคิดเห็นที่ 10 วกวนเวียนว่ายอยู่ในวังวนอันวุ่นวาย... จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:34:34

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าไม่ปรองดอง ก็คือใช้กำลังกันใช่ไหม ?      ถ้าอย่างนั้น........ผมพร้อมแล้ว จากคุณ : ว่าวปักเป้า เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:40:37

ความคิดเห็นที่ 12 เรียนท่านเจ้าของกระทู้ คำว่าปรองดองตามที่ท่านได้ความเห็นมานั้นถูกทุกถ้อยคำทุกบรรทัดครับ แต่.....ไม่ใช่ เอาปรองดองมาแล้วบอกว่า นิรโทษกรรมทุกฝ่ายคือการปรองดอง ถ้าเป็นเช่นนี้ เค้าเรียก เนียน เกรียน แถ ครับ นายกมาร์คทำผิดอย่างที่คนเสื้อแดง กล่าวหาแล้วศาลตัดสินว่าไงก็ต้องเป็นไปตามนั้น คุณทักกี้ก็เช่นเดียวกันศาลตัด สินแล้วว่าอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้นครับ เกรงว่าทุกท่านน่าจะรู้อยู่แก่ใจตัวเอง ว่าปรองดองที่รัฐบาลต้องการคือ แบบใด ทำไม เพื่อใคร เอ๊ะ หรือไม่รู้..... คนเห็นแก่พรรคพวกก็ย่อมมองแต่มุมมองของพวกตัวเอง คนเห็นแก่ชาติบ้านเมือง ทำอะไรก็จะนึกถึงประโยชน์แท้จริงส่วนรวม ไม่ปลอมปนอยุ่แล้ว จะยกอ้างบุคคลใด มาสร้างความน่าเชื่อถือ ก็เพราะคนคนนั้นเห็นด้วยกับตน เป็นเรื่องธรรมดาเด็ก ป1 ที่ ได้จะได้ใช้แท็บเล็ตก็รู้ แต่จะมีกี่คนคิดพิจารณาตาม ขอบคุณครับ จากคุณ : สู้ๆ (Hallgood) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:49:25

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่เห็นด้วยกับคุณมาร์คอย่างแรงครับ  สมควรต้องปรองดอง  ส่วนเรื่องถูกผิดก็แค่ว่ากันไปตามกฏหมาย  ให้กลไกทำงานของมันไป จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:50:19

ความคิดเห็นที่ 14 หึหึ ตลกกับคำนี้จัง ความจริงไม่ปรากฏ ก็อย่าหวังเลย.... จากคุณ : dunk_16 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:54:57

ความคิดเห็นที่ 15 อ้าวยามกลับมาแล้ว     คิดว่ายามจะหายหัวไปหลายเดือน คิดว่าถึงฤดูจำศีลแล้วเสียอีก     เอิ๊กๆๆๆ ๆๆๆ ๆๆๆๆ จากคุณ : บัวใส เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 11:55:15

ความคิดเห็นที่ 16 นักการเมืองเก่า..เค้าก็ใช้แนวคิดแบบเก่า ๆ ว่า การเมือง คือเรื่องที่พูดคุยตกลงกันได้.. ยุคหลังเนี่ยะ การเมืองบ้านเราเล่นกันแรง.. แรงกันจนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้.. ฉะนั้น..ถ้าถามนักการเมืองรุ่นเก่าๆ..เค้าก็คิดในแนวเก่าๆ แบบนักเลงโบราณว่า เลิกแล้วต่อกัน เล่นกันใหม่.. แต่ พวกนักการเมืองรุ่นใหม่ บางพรรค ที่คิดว่า ทำแบบนี้แล้วเสียเปรียบ เพราะองค์กรที่มี อยู่ ที่สร้างขึ้นมาจาก คณะรัฐประหาร..นี่มีผลดีกับ พรรค กับพวกตน มากกว่า.. ถ้าจะดำรงค์คงอยู่ และยื้อต่อไป ..ผลประโยชน์.จะตกอยู่กับพรรคมากกว่า เพราะการได้ ไล่บี้ อีกฝ่าย โดย องค์กร ที่ตั้งขึ้นมา เพื่อใช้ข้อได้เปรียบในการตีความข้อกฏหมาย เพื่อเอาผิด ..มันดีกว่า .. ใครจะยอมปรองดองเร็ว.. ก็ใช้องค์กรเหล่านี้ ยึดไว้แน่นๆ แล้วก็ตี ให้อีกฝ่ายตาย คาสนามไปซะ แต่ปัญหา คือประชาชน สมัยนี้เค้าไม่ยอม่ง่ายๆ แล้วหล่ะซิ.. ถ้าไม่รีบปรองดอง..หรือใช้วิธี พิเศษ เข้ามา กุมอำนาจอีกครั้ง.. บ้านเมือง กลียุคแน่ๆ จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:00:47 A:223.205.42.47 X: TicketID:347422

ความคิดเห็นที่ 17 ---ปล่อยให้อดีตนายกและสาวกของท่านดิ้นรนไป..สุดท้ายท่านจะพบว่าท่านกับสาวกกำลังจะเป็นบ้า ---แนวคิดของท่านอดีตนายกคือ ค้านทุกเรื่อง..อะไรก็ไม่ได้ ไม่ดีหมด ไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ..ไอ้นั่นก็ไม่ดี..ไอ้นี่ก็ไม่ได้ คนอื่นทำคือขายชาติ มีผลประโยชน์ทับซ้อน(ตัวเองทำไม่เป็นไร..พรรคอื่นซื้อเสียงเลวหมด..พรรคตัวเองซื้อไม่เป็นไร..แม้แต่จ้างคนมาฟังหาเสียงก็ไม่เป็นไร) ---ผมสงสารท่านจริงๆ ท่านคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกเป็นคนดี..แต่สุดท้ายท่านจะพบว่า..ตัวท่านเองกำลังจะบ้า.....ผมขอฟันธงเลยว่า....สุดท้ายของชีวิตนายอภิสิทธิ์...ท่านจะเป็นบ้า จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:02:15

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าดีนะปชป.ได้สร้างมตราฐานไว้เป็นกรณีศึกษาเพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังได้เป็นแบบอย่าง โดยเฉพาะคุณมาร์คมีฝีปากในการพูด พูดได้ทุกเรื่องตั้งแต่หัวจดเท้า แต่ละคำพูด พูดไม่เคยพ้นตัวที่เคยทำไว้ทั้งสิ้น จากคุณ : kunchai129 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:11:39

ความคิดเห็นที่ 19 จะยุติความขัดแย้ง มันก็มีอยู่แค่สองทางเลือก "ปรองดอง" ไม่ก็ "ฆ่ากันจนกว่าจะตายหมดไปซักข้าง" ไอ้เรื่องที่จะแค่เชือดไก่ให้ลิงดูฆ่าตายไปเกือบร้อยคนแล้วหวังว่าทุกอย่างจะสงบเหมือนจะไม่ได้ผลแล้ว ทางที่ดีฝึกต่อสู้ฝึกอาวุธไว้รอเลยดีกว่ามิ ถ้าต้องฆ่ากันก็ฆ่ากัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ประเทศไทยไชโย จากคุณ : จิ๋วจี๊ด เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:17:15

ความคิดเห็นที่ 20 พวกปากคาบประชาธิปไตยแต่ใจเผด็จการ พวกปากร้องปรองดอง แต่ไม่กล้ามาลองรับผิด จากคุณ : moonalica เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:20:37

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าบางทีคุณอภิสิทธิ์อาจจะพูดถูกก็ได้ครับ เพราะวาทกรรม "ปรองดอง" นั้น มันไม่ได้มีอยู่จริงในสังคมไทยเลย เมื่อมันไม่มีอยู่จริง เราจะไปรีบปรองดองกันทำไมเล่า ???? "ปรองดอง" มันฟังดูสวยหรูครับ แต่หาได้มีจริงในสังคมไทยแต่อย่างใด.... ยกเว้นแต่เราจะดัดจริต และนึกถึงมันในเชิงอุดมคติครับ หากจะมองย้อนไปตั้งแต่ 19 กย.49 ที่ทหารนอกแถวเอารถถังออกมายึดอำนาจ และฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งไปโดยไม่นึกถึง "เสียง" ที่ออกไปเลือกตั้งแล้ว ถ้ายังจำกันได้ มีคนจำนวนหนึ่งที่ "สะใจ" และออกมาแสดงความดีใจกัน บางคนถึงขนาดเอาดอกไม้ไปมอบให้ทหารเลยก็มี คราวนั้นมีคน "สมน้ำหน้า" แม้วมันอย่างโจ่งแจ้ง พอมีการเลือกตั้ง และสมัครนำพลังประชาชนกวาดมา 233 เสียง ก่อนที่จะตกเก้าอี้เพราะข้อหา "ทำกับข้าวออกทีวี" คราวนั้นก็มีคน "สะใจ" ที่สมัครเป็นเทวดาตกสวรรค์ แม้จนกระทั่งสมัครป่วยเจียนตาย จนต้องถ่อสังขารไปรักษามะเร็งที่อเมริกา ก็ยังมีสีเสื้อบางสีไปเขียนป้ายด่าสมัครที่สนามบิน สมกับวาทกรรม "ปรองดอง" ซะจริงๆ พอมาถึงสมชาย ที่ตกเก้าอี้จากตุลาการภิวัฒน์ ก็มีแต่คนซ้ำเติมพี่แก เพราะหมั่นใส้ที่เป็นน้องเขยแม้ว และเมื่อครั้งอภิสิทธิ์ก้าวขึ้นเป็นนายกฯ ก็เกิดการ "ล้างบาง" ในทุกกระทรวง ทบวง กรม มีการแต่งตั้งโยกย้ายคนของตัวเองมาอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญๆ อันนี้ผมไม่โทษอภิสิทธิ์หรอกครับ เพราะใครเป็นใหญ่ก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น ไม่งั้นเขาจะทำงานได้อย่างไรล่ะ...??? แต่พอกระแสลมเปลี่ยนทิศ และยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกฯ คราวนี้ก็มีเสียงเรียกร้องให้ปรองดอง ไม่ให้มีการเช็คบิลแต่งตั้งโยกย้ายคนทำงานทันที มีการจุดพลุเรื่องปรองดอง สมานฉันท์ ทั้งๆที่ คกก.ชุด คณิต ณ นคร ก็เคยเสนอไปแล้ว ทั้งๆที่ คกก.ชุด อานุนทน์ ปัณยารชุณ ก็เคยเสนอไปแล้ว แต่เป็นการเสนอที่ไม่เคยได้รับการเสนอจากรัฐบาลอภิสิทธิ์เลย พอกระแสลมหมุนกลับ ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ และอภิสิทธิ์เป็นฝ่ายค้าน คราวนี้ยิ่งลักษณ์ก็ทำแบบเดียวกันบ้างกับอีกฝ่ายนึง ทั้งการย้ายล้างบางในระนาบปลัดกระทรวงของขั้วอำนาจเก่า ทั้งการไล่บี้คดีของเหลือง และ คดี 91 ศพที่ตอนนี้กำลีงเข้มข้น ทั้งการออกมติ ครม.เพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้กับคนเสื้อแดง ที่แน่นอนว่าขั้วอำนาจเก่า และ สีเหลืองย่อมต้องไม่พอใจแน่ๆ ไม่นับการเล่นเกมส์การเมืองต่างๆ ทั้งการตั้งคนอย่างสนธิ บังฯ ผู้เคยปฏิวัติ มาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการหาหรทางปรองดอง โถ...ไอ้หมอนี่มันเชื่อถือระบอบรัฐสภาที่ไหนเล่า หากมันยึดมั่นในระบอบนี้จริง มันคงไม่เอารถถังออกมายึดอำนาจหรอก ทั้งหมดนี่แหละครับ ที่ทำให้เราปรองดองกันไม่ได้ "ปรองดอง" มันเป็นวาทกรรมที่ไม่มีจริง นับตั้งแต่วันที่ 19 กย.2549 แล้วครับ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามปัจจัยที่มีอยู่ และเป็นไปตามเหตุ ตามผล ตามการกระทำก่อนหน้าทั้งสิ้น !!! ไม่แปลกเลย ที่จะมีคนด่ายิ่งลักษณ์ไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เปิดตัวหาเสียง และมีคนซ้ำเต็มอภิสิทธิ์กันอย่างที่เป็นอยู่ ในวันที่เขาแพ้การเลือกตั้ง หากเราไม่ดัดจริต หรืออยู่ในอุดมคติกันจนเกินไป ยอมรับกันเถอะครับว่าปรองดองมันเกิดขึ้นได้ยากจริงๆในบ้านเรา ใครทำอะไร ก็ได้อย่างนั้นไป เคยทำเขาไว้ ตอนนี้โดนเอาคืนก็คงต้องยอมรับ ทั้งหลายทั้งปวงเป็นเพราะเราไม่ยึดถือการเมืองในระบอบรัฐสภา แต่ชอบไปเล่นการเมืองนอกสภา ,การเมืองในค่ายทหาร, การเมืองแบบมือที่มองไม่เห็น คุณอภิสิทธิ์พูดถูกครับ ว่าเราไม่ต้องรีบปรองดองกันหรอก เพราะในความเป็นจริง ความขัดแย้งนี้อาจอยู่ไปอีกเป็นทศวรรษเลยก็ว่าได้ อาจต้องถึงขนาดหมดรุ่นของคุณยิ่งลักษณ์ และ คุณอภิสิทธิ์เลยเสียด้วยซ้ำครับ จากคุณ : ตุ้ม (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 12:37:00

ความคิดเห็นที่ 22 ปรองดอง ทำกันได้จริงหรือคะ พิสูจน์ความจริงกันก่อนดีไหม คนทำผิดก็สมควรได้รับโทษ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน อยู่ๆ มาเจ๊าๆ กันไป ปรองดอง ตรงไหน??????? จากคุณ : naruemol_K เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 13:04:21

ความคิดเห็นที่ 23 อยากให้กิ๊บ คุณตุ้มฯ ......ต้องมาคุยกันเรื่อง การให้อภัยกันก่อนดีกว่า..... ปล.ความปรองดอง ความปรองดอง....ดองเอาไว้....เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ยามประจำเผ่าฯ(350040) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 13:24:44 A:202.44.139.173 X: TicketID:350040

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นบางท่านบอกว่า ยังไม่ต้องปรองดอง ให้หาคนรับผิดก่อน ผมก็เห็นด้วยครับในส่วนที่ว่าใครทำผิด ก็ต้องว่าไปตามผิด และรับโทษกันไปครับ เอางี้     เริ่มจากพวกที่ทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรานี้ก่อนเลยครับ มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ...ถ้าไม่คิดจะปรองดองกันจริงๆ  ก็ต้องเอากฏหมายมาจัดการอย่างตรงไปตรงมา  และต้อง  จัดการกับพวกที่ทำผิดกฏหมายอาญาข้างต้นก่อนครับ... อย่าบอกนะครับ ว่า พวกเขา นิรโทษกรรมตัวเองไปแล้ว  เจ๊าๆไป โทษถึงประหารชีวิต    นิรโทษกรรมกันง่ายๆชิวๆ ด้วยอำนาจจากปลายกระบอกปืน         กลับยอมรับกันได้ โทษติดคุกไม่กี่เดือนกี่ปี จาก คดีการเมือง  จะนิรโทษกรรมด้วยอำนาจของประชาชนผ่านทางรัฐสภา    กลับรับกันไม่ได้ แปลกดีครับ  ประเทศนี้ จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 13:46:07

ความคิดเห็นที่ 25 จริงครับ..ผมเห็ฯด้วยกับเฮียอุบล.. กฏหมายรัฐธรรมนูญ ถือว่าสูงสุด...แต่ดัน แพ้การประกาศ ของคณะปฏิวัติ.. พอปฏวิติ เสร็จ ก็ออกกฏหมาย ยกเลิกความผิด ทั้งก่อนหน้าและ หลัง.. แล้วจะ มานั่งเปลือง สสร ..ทำไม...ในเมื่อ .. ประกาศ คณะปฏิวัติ ..มันสำคัญ กว่า จนลบล้างความผิดได้หมด.. หลายเรื่องครับ..ที่ยังคา ใจ ในระบบ ความยุติธรรม แบบฉบับๆ ไทยๆ.. ถ้าจะ สังคยนา ไม่ปรองดอง ก็ต้องเล่น ล้างมันทั้งระบบเลย..แล้วล้างไพ่ มาเล่นใหม่.. เซ็นให้เมียซื้อที่.. เสียตัง 7 ร้อยล้าน..เป็นคดี..กลายเป้น นช.. แต่ เอาที่หลวงสปก. ยกให้พรรคพวก..แค่คืนที่ก็หายกัน หรือ..เอาที่ ป่าสงวนไปทำที่พักผ่อน..คืนที่ก็จบกัน.. มันเป็นความยุติธรรมที่ยังคาใจ คนจำนวนไม่น้อย.. ถ้าจะให้เคลียร์ ต้องเอา จัดการให้หมด ให้เป้นบรรทัดฐาน ..เพื่อประเทศนี้จะได้ไม่มี.. เรื่องค้าง คาใจกัน.. ประเทศไทยตองไม่ใช้ คำว่า "จริยธรรม" ไล่ทำร้ายคน เพราะไม่มีใครกำหนด มาตรฐานของคำว่า "จริยธรรม" ไว้ตรงไหน.. ไม่ใช่ พรรคตน พวกตน ทำอย่างเดียวกัน ก็ใชโวหารว่ามันถูกมันควร ทั้งๆ ที่ผิดกับคนทั้งประเทศ.. แต่พอ อีกฝั่งทำในสิ่งเดียวกัน..กลายเป้นความผิดมหันต์.. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:11:14 A:223.205.42.47 X: TicketID:347422

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ อุบลแมน ตอนนี้รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยุ่แล้ว...รื้อคดีเก่า ๆ มาเล่นงานเลยก็ได้นี่ครับ แต่ต้องเอาทุกคดีนะครับ....ไม่มีการยกเว้น? ปล.ผมก็อยากจะรู้ว่า นักการเมืองมันกล้าทำกันหรือป่าว...เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ยามประจำเผ่าฯ(350040) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:12:26 A:202.44.139.173 X: TicketID:350040

ความคิดเห็นที่ 27 จะปรองดองกันได้ยังไง แต่ละฝ่ายยังคิดเข้าข้างตัวเองกันอยู่ คิดว่าต้องทำแบบนี้สิ แล้วอีกฝ่ายมันต้องปรองดอง ไม่คิดอย่างเดียวกับเราเป็นพวกแปลก ฝ่ายหนึ่งก็บอก ต้องจับคนสั่งยิงมาลงโทษ แต่ฝ่ายตัวเองทำผิดเพราะการเมืองให้ยกโทษ ฝ่ายตัวเองศาลตัดสินไม่ถูกต้อง คดีเป็นการเมืองแต่อีกฝ่ายเป็นอาญาต้องติดคุกให้หมด ส่วนอีกฝ่ายบอกศาลตัดสินไปแล้วคนที่ทำผิดก็ต้องจับมาลงโทษก่อนสิ รวยแล้วไม่รับโทษได้ไง ยอมรึเปล่าล่ะถ้าให้ตัวการใหญ่สุดมารับโทษเพราะเขาเป็นนักโทษแล้ว จากคุณ : gagigunggai เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:19:11

ความคิดเห็นที่ 28 เจอ สปก , เจอ คตส. เข้าไปก็อิ่มใจแล้ว อย่างที่ในจดหมายเหตุ ว่าไว้นั่นแหละ พรรค ปชป. เกิดมาเพื่อสนับสนุน และ เป็นฐานกำลังให้กับระบบศักดินาโดยเฉพาะ สู้กับพรรคอื่นที่เป็นพรรคของประชาชน จะเห็นได้ว่า พรรคนี้อยู่มาได้นาน ไม่ใช่เพราะ ประชาชนรักใคร่ชื่นชม หรือ มีผลงานบริหารประเทศดีแต่อย่างใดเลย แต่อยู่ได้เพราะ คนหนุนหลังใหญ่มาก ไม่สามารถทำอะไรได้กับพรรคนี้ ถ้าไม่ด้คนหนุนหลังไว้ พรรคนี้ล้มไปนานแล้ว จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:22:59

ความคิดเห็นที่ 29 ...เอามาฝาก.... ญาติผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง บุกสภาฯ ค้านนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าพิจารณา เหตุฝ่ายการเมือง-กองทัพ เป็นผู้ได้รับประโยชน์ จี้หาคนสั่งฆ่า ปชช.มารับโทษก่อน วันนี้ (28 มี.ค.) ที่รัฐสภา นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด อาสาพยาบาลที่เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามวรวิหาร พร้อมกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 53 ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อคัดค้านการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภาฯ โดยมีนายพินิจ จันทรสมบูรณ์ ผู้ช่วยประธานสภาฯ รับหนังสือแทน ทั้งนี้ นางพะเยาว์กล่าวว่า กลุ่มพวกตนเห็นด้วยกับการนำ พ.ร.บ.ดังกล่าว มาเป็นตัวตัดสินปัญหา เพราะตั้งแต่ปี 2549-2553 ได้เกิดเหตุการณ์ในประเทศมากมาย โดยมาจากความขัดแย้งทางการเมือง จึงเห็นว่าควรที่จะต้องหาคนมารับผิดชอบกับการเสียชีวิตของประชาชน และการจะเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ได้ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่ผู้ได้ประโยชน์คือฝ่ายการเมืองและกองทัพ จึงขอคัดค้านไม่ให้นำ พ.ร.บ.นี้เข้าสู่สภาฯ จนกว่าความจริงจะปรากฏว่าใครเป็นคนฆ่า และใครเป็นคนสั่งฆ่าประชาชน ถ้าได้ความจริงและนำคนผิดมารับโทษตามกฎหมายแล้ว จะเอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภาฯ ก็คงไม่สายไป ปล.แบบนี้ แค่จ่ายเงินปิดปาก มันคงไม่พอหรอกครับ....เอิ๊ก ๆ ๆ จากคุณ : ยามประจำเผ่าฯ(350040) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:24:24 A:202.44.139.173 X: TicketID:350040

ความคิดเห็นที่ 30 ผมว่าปรองดองมันดูห่างไกลในสังคมไทยตอนนี้นะครับ มองไม่ออกบอกไม่ถูกว่าสังคมเหมือนถึงทางตัน ซึ่งต้องปรองดอง หรือว่าความขัดแย้งมันเพิ่งเริ่มต้น? หรือว่ามันสุกงอมจนพอที่จะปรองดองเหมือนสมัยหนึ่งที่เราปรองดองด้วยคำสั่ง 66/23 ?  หลายคำถามหลายกรณีโยนลงมาให้สังคมตัดสิน มันเหมือนเตะฟุตบอลอัดกำแพง ? โจทย์คำว่าปรองดองยังอยู่ห่างไกล ผมว่าต้องให้สังคมห้ำหั่นกันให้มากกว่านี้ ให้เกิดความป่นปี้มากกว่านี้ เราถึงจะมาเริ่มคำว่าปรองดอง ?  วิวาทะแห่งคำว่าปรองดองผมว่าเก็บเข้ากรุก่อนดีกว่า ? แม้กระทั่งสมัยหนึ่งเข้าพันทิป ไปราชดำเนิน การคิดแตกต่าง ความไม่ลงรอย ไม่เห็นด้วยมีเยอะ แต่ไม่ห้ำหั่นเฉียดเฉียนกันจนเปรอะไปหมด  สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ยังมองว่าไม่มีทางที่ความปรองดองจะเกิดหรอกครับ เนื่องจากแต่ละฝ่ายยังมีข้อแม้ หรือเงื่อนไขอยู่อีกมาก และหรือก็อาจมองว่าถึงไม่ปรองดอง ฝ่ายตัวเองก็ไม่เสียหาย   ผมว่าต่อสู้กันไปอีกสัก 3-4 ปี แล้วค่อยมาพูดคำว่าปรองดองดีกว่า ? หรือ จขกท.ว่าไงครับ ? จากคุณ : chongck เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:30:53

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าเอาผิดได้ทุกฝ่ายจริง 1 เหลืองยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน 2 แดง เผาที่ต่างๆ 3 ทหารยิงคนตาย (มันมากเกินไป 90 กว่าคน) ถ้ารับโทษหมด  ไม่ต้องปรองดอง จัดเต็มไปเลย ป.ล.  แล้ว คดี  ป.ร.ส ละ เงียบเลยนะ  ผมว่ามันรุนแรงกว่า คดีของแม้วมาก   ของแม้ว ดูยังไง มันก็เรื่องทางการเมืองมากลั่นแกล้งกัน จากคุณ : ชัดเจนทางตรง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:33:53

ความคิดเห็นที่ 32 การปรองดองมันง่ายนิดเดียว คือให้พวกเป้งๆที่เป็นหัวชนวนน่ะ จับเข่าคุยกันซะ แน่นอนว่าทุกฝ่ายต้องมีได้มีเสียประโยชน์ แต่ถ้าหากทุกฝ่ายเคลียร์กันลงตัว ก็สามารถปรองดอง ประเทศก็ก้าวพ้นวิกฤติถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ขณะนี้มีแน้วโน้มว่า ฝ่ายผู้ใหญ่ขั้วอำนาจเก่า ฝ่ายที่เป็นกลางเริ่ม ยอมรับเรื่องการปรองดองในรูปแบบได้บ้างเสียบ้างแล้วแม้แต่อดีต คมช. หลายคน รวมถึงอดีตประธาน คมช.เองก็ก้าวเข้าสู่การปรองดอง ทั้งนี้หากฝ่าย ทักษิณ ทหาร ขั้วอำนาจเก่า อำมาตย์เคลียร์กันได้ลงตัว คนที่จะกลายเป็นตัวตลก คือพวกท่านพรรค ปชป. นั่นเอง แม้จุดยืนของท่าน จะยึดมั่นในการรักษาตัวบทกฏหมาย นิติธรรม ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่หากวันนี้ไม่ปรองดอง วันหน้าเราอาจลุกขึ้นมาฆ่าฟันกันจนบ้านเมืองล่มสลาย ถึงตอนนั้น หลักนิติธรรมที่ท่านพยายามรักษาไว้มันก็จะกลายเป็นเศษกระดาษและนามธรรม ที่ไร้ค่าไม่มีใครสนใจ ท่ามกลางไฟสงครามกลางเมือง จากคุณ : หิมะละลาย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:48:25

ความคิดเห็นที่ 33 วันนี้ขอให้ gift เจ้าของ คคห 21 เป็นครั้งแรก 555 จากคุณ : Lowepro เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 14:49:36

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ : ตุ้ม (Toom McCartney)   ชัดเจนดีครับ **ผมว่าเจ้าของกระทู้**  อัคติกับอีกฝั่งเกินไป ทั้ง ป.ช.ป และ พ.ท.  จะเอาดีเอาเลว จริงๆไม่หนีกันซักเท่าไรหรอก ถ้าคุณจะเอาแต่สะใจ  ไม่ลืมหูลืมตา  จ้องแต่  จะหาเรื่องฝ่ายที่คุณไม่ชอบ อีแบบนี้  มันก็เหมือนเดิม  ไร้คุณภาพ ***แต่ถ้าจะมาช่วยกัน  หาทางออก ให้ประชาธิปไตย  มีกลไกลที่ดีขึ้น ให้ทหารเลิกยุ่งการเมือง  อันนี้น่าจะคุณภาพกว่า*** ป.ล. คุณอย่าคิดว่า คนเลือก พ.ท. โง่ รับเงินเลย  ผมเห็นคน คนรวย คนมีการศึกษาสูงๆ เขาเลือกก็มี   ป.ช.ป ก็แจกเงิน จะน้อยกว่า  พ.ท. ก็ว่ากันไป   แต่อื่นใดผมคิดว่า เป็นความต่างที่  มุมมองความเห็น  คุณอย่ายกตัวว่าฉลาดกว่าอีกฝั่งเลย จากคุณ : ชัดเจนทางตรง เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 15:04:52

ความคิดเห็นที่ 35 สงครามที่แตกต่างทางความคิดส่วนใหญ่ไม่เคยเริ่มต้นปรองดองด้วยการเจรจา เห็นมีแต่ฆ่ากันจน " เบื่อแล้ว " ถึงค่อยอยากมานั่งพูดคุยกัน แล้วส่วนใหญ่ไอ้ที่เหลือรอดมาได้นั่งพูดคุยกัน ก็มักจะเป็นไอ้พวกที่ขึ้นเวทีประกาศตัวเป็นแกนนำทั้งนั้น คำพระท่านถึงว่า " คนโง่มักจะเป็นเหยื่อของคนฉลาด " จากคุณ : internetsmile เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 15:37:34

ความคิดเห็นที่ 36 จำได้ว่า ตอนมัธยม ครูสอนเกี่ยวกับเรื่องการเมืองการปกครอง ครูบอกว่า นักการเมืองเขาจะเล่นกันในสภา พอออกจากสภาก็จบ และนักการเมืองที่ดี แม้คูแข่งมันจะเลวแค่ไหน เขาก็จะไม่ลงมือ ไม่ฆ่า ไม่ทำร้ายกัน ชนะด้วยปัญญามีศักดิ์ศรีกว่า แต่ปัจจุบัน ที่ครูสอน มันไม่มีเลยค่ะ ทุกคนให้ความเกลียดเข้าครอบงำตัวเอง คนไม่เห็นด้วยกับตัว จะอยู่ร่วมโลกไม่ได้ ยกตัวอย่าง เสธแดง เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร พอเขาตาย ลูกสาวเขาเปลี่ยนไป เราสงสัยตลอดมา ว่า เขาตาย เพราะได้รับการตัดสินในข้อหาอะไร เราไม่เหลืองไม่แดงนะคะ แต่ชีวิตคนมีค่ามาก ไม่ว่าคุณจะเหลืองหรือแดง จะชอบไทยรักไทย หรือประชาธิปัตย์ คุณก็ทำประโยชน์ให้กับโลกได้อีกมากมาย คนเรากว่าจะโตไม่ใช่นิทานเล่าไม่กี่นาทีก็โตได้ แต่เดิมร่วมโต๊ะประชุมอึดอัดมาก ใกล้ชิดกับอีกฝั่งมากเกินไปก็ไม่ได้ ทำอะไรพูดอะไรต้องระมัดระวังตัวตลอดเวลา คนทำดีตลอดมา กลับมาเป็นคนเลวแค่มีสี มันเกินไปไหมล่ะ แต่ทุกวันนี้มีความสุขมากขึ้นค่ะ เราทำงานได้ดีกับทั้งอดีตเหลืองและแดง บางทีความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มันก็ทำให้เราได้มองดูตัวเอง ใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น จะทำร้ายจิตใจ พูดจาถากถางกันไปทำไม คนรอบข้างเราพอเขาพ้นจากตรงนั้นมาได้ ร่วมโต๊ะประชุมเดียวกัน ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศ ดูไปยิ้มไปค่ะ เราอยากให้สิ่งที่ครูสอนมันกลับมาอีกครั้ง และสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ต้องยอมลดทิฐิ และรู้จักคำว่าให้อภัย จากคุณ : luksawkhonklang เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 18:16:29

ความคิดเห็นที่ 37 ^ เยี่ยมครับ ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะคนจำนวนมากไม่เชื่อเรื่องดีเลวตามหลักพุทธศาสนา  ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคณโทษ มองหาแต่สิ่งที่จับต้องได้จริง  เมื่อเห็นคนเลวได้ดีจึงเข้าใจไปเองว่ากฏแห่งกรรมไม่มีอยู่จริง  หนำซ้ำยังเชื่อว่าผิดถูกแล้วแต่มุมมองมนุษย์  ทั้งที่ความจริงแล้วมุมมองแบบมนุษย์จะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับการทำงานของกรรม ดังนั้น เรื่องเหลืองแดงฟ้าเขียวน้ำเงินขาวดำจึงเป็นแค่ภาพลวงตาของคนกลุ่มคนที่สุดโต่งหมกมุ่นกับความอาฆาตเครียดแค้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา  บอกบุญก็ไม่รับ  ทั้งที่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่จีรัง  อะไรที่เกิดจากความคิดมนุษย์โดยไม่สอดคล้องกับกฏเกณฑ์ของธรรมชาติจะอยู่ได้ไม่นาน เช่นกันครับ  เหลืองแดงฟ้าเขียวน้ำเงินขาวดำไม่ได้มีปัญหาอะไรในการทำงานหรือการอยู่ร่วมกันเลยครับ ผมคิดว่าเป็นคนดีตามหลักพุทธศาสนา มีค่าต่อตัวเองและสังคม  และดีกว่าเป็นเหลืองแดงฟ้าเขียวน้ำเงินขาวดำครับ ความเกลียดชังเป็นพลังงานด้านลบ  มันจะทำลายทั้งผู้ที่สร้างมันและผู้ที่ได้รับ   คนที่จิตใจหมกมุ่นกับความเกลี่ยดชังแม้แต่เดิมหน้าตาดีแค่ไหน  มันก็จะส่งผลให้หน้าตาน่าเกลียดในที่สุด แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 55 01:54:37 แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 55 19:22:26 จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 18:56:55

ความคิดเห็นที่ 38 ปรองดองกัน ไอ้มากก็เสียประโยชน์น่ะสิ จากคุณ : ฝากความยินดีกับคนของเธอ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 19:31:07

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าไม่ปรองดองกันก็คงยาก  คงจะหาความสงบกันลำบาก เพราะตอนนี้กลายเป็นเรื่องของ  แกก็ผิด  ฉันก็ผิด  มีแต่คนผิดเต็มไปหมด แล้วก็บอกว่าเอาคนนั้นมาลงโทษสิ  ชั้นถึงจะยอมรับผิด  อีกฝ่ายก็บอก เอาฝ่ายนั้นมาลงโทษก่อนสิ  ถ้าจะให้ดี  พิพากษาคดีทั้งหมดคราวเดียวกัน แล้วจับมือกันเดินเข้าคุกกันไปให้หมด  คงจะดี  ถึงจะสงบสุขกันมั้ง จากคุณ : loveouh เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 20:50:08

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาอ่านคะ จากคุณ : freebird365 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 22:38:38

ความคิดเห็นที่ 41 จริงๆเราก็ไม่เห็นด้วยกับนิรโทษกรรมนะ(ไม่เห็นด้วยที่คมช.นิรโทษกรรมตัวเองด้วย)สงสารน้องเกด ตามคห.29ด้วย แต่พออ่านคห.39 เออ....มันก็จริง สงสัยต้องจับมือกันเดินเข้าคุกให้หมด 55 ปล.ตอนนี้มองการเมืองอยู่เงียบๆ แต่ความหมั่นไส้พ่อมากและพรรคพวกเพิ่มขึ้นทุกวัน สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จากคุณ : tatra เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 15:34:00

ความคิดเห็นที่ 42 ปรองดอง ตอนผลประโยชน์ลงตัว ปรองร้ายตอนขัดผลประโยชน์ คุ้นๆมั้ยครับ ยังจำคำนี้และคำพูดนี้ได้มั้ย ครับ พ่อแม่พี่น้อง ถ้าพ่อแม่พี่น้องบาดเจ็บล้มตาย เสีย เลือดเสียเนื้อ ผมเองจะนำหน้าพ่อแม่พีน้องครับ แล้วการปลุกระดมของแกนนำทั้ง เหลืองและแดงของแกนนำที่บอก เผาเลยๆครับพ่อแม่พี่น้องผมรับผิดชอบเอง คนที่เสีย ชีวิตก็คือเหยื่อครับ ทั้งนายทุนพรรค ทั้งแกนนำที่เก๊บเกี่ยวผลประโยชน์จากคนที่ตาย ปรองดองๆครับ ไอ้คนที่ตาย คนที่บาดเจ็บก็รับเงินไป แต่ไม่ใช่เงินของผมน่ะครับ เป็น เงินของคนไทยทั้งชาติที่เสียภาษี แต่อย่าหวังได้เงินจากคนที่เป็นแกนนำและเป็นผู้ ที่ชัดใยอยู่เบื้องหลัง ถามคนที่เสียชีวิต บาดเจ็บล้มตายหรือยัง จากคุณ : ทามากิ เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 22:30:06 A:124.122.61.81 X: TicketID:337899

ความคิดเห็นที่ 43 วันนี้ฟังอ้ายหัวโจกแดงที่เผาเมืองทางช่อง 3 สำรอกออกมาว่าปรองดองเพื่อลูกหลานพูดเอาแต่เข้าข้างตนเองนิรโทษกรรม สุดท้ายผลประโยชน์ลงพ่อมันคนเดียวนับถอยหลังเป็นโมฆะะหมด เห็นคนไทยเป็นกระบือแบบพวกมรึงหรือไงมักง่ายนี่หว่า ถามจริงๆทุกวันนี้กล้าลงไปเดินแถวราชประสงค์ไหม จะโดนกระทืบเอานา จากคุณ : patrioter เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 55 23:30:25 A:125.27.37.244 X: TicketID:264751