|
ในแง่ "คำสอน" ผมเชื่อว่าเขาก็คงสอนให้คนทำดี ครองตัวให้อยู่ในศีล ในธรรม ตามหลักคำสอนแบบชาวพุทธ
แต่ในแง่ของการ "นำเสนอ" พวกเขามีภาพของวัดนายทุนอย่างแท้จริง
เป็นภาพที่ขัดแย้งกับความเป็น "พระ" ในเชิงอุดมคติ ที่ควรจะมีความสมถะ กินอยู่เจียม และไม่ยึดติดกับความสบาย
อีทกั้งวิธีการบอกบุญของธรรมกาย ก็เน้นทำการตลาดแบบที่นักการตลาดควรศึกษา เพราะมักมีการอ้างอิงในเรื่องของ บุญ บาป สวรรค์ นรก โดยเชื่อมโยงไปกับ "ปัจจัย" ที่ชักชวนชาวบ้านชาวช่องให้ทำบุญ
ประมาณว่าหากทำบุญจำนวนมาก ก็จักได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อะไรแบบนั้น
แถมยังมีการอวดอ้างฤทธิ์เดช ปาฏิหารย์ต่างๆ
แหมมมม.....หากหลวงพ่อธัมมชัยโยเก่งขนาดนั้น ลองไปหาตัวคนวางระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นให้ผมดูหน่อยเถอะ
หรือหากท่านศักสิทธิ์จริงๆ ก็ช่วยทำให้รถหายติดแถวๆตลาดไท, นวนคร หน่อยเถอะ เพราะเวลาผมไปเที่ยวปากช่อง เขาใหญ่ แมร่งงงงติดshipหายเลย
แต่ที่ผมแปลกใจสุดๆ ก็คือกรมศาสนา และ มหาเถระสมาคม มัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนถึงไม่ได้แก้ปัญหาแบบนี้ซะที
ทั้งสันติอโศก ที่อ้างว่าเป็นนักบวช แต่แต่งตัวเหมือนพระในแถบธิเบต และยังมีวัตรปฏิบัติที่ดูแล้วเป็นนักบวชตรงไหนก็ไม่รู้
ทั้งธรรมเกย์ ที่บอกบุญกันทีแบบกะเอารวย เผลอๆไม่รู้ว่ามีอัพไลน์ ดาวไลน์ แบบพวกขายตรงรึเปล่าก็ไม่รู้
ในสมัยพุทธกาลนั้น พระจะธุดงค์แบบปลีกวิเวกครับ และมีสิ่งของอำนวยความสะดวกเพียงไม่กี่อย่าง
เป็นการออกธุดงค์เพื่อสร้างบารมี เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติและความสงัด เพื่อที่จะได้บำเพ็ญภาวนาและเข้าถึงธรรมอันเกิดจากความมานะ
แต่ที่เป็นอยู่นี่มันคือการ "เบียดเบียน" นะครับ
อย่างน้อยก็เบียดเบียนที่ทางสาธารณะ ในกิจกรรมที่พิสูจน์ไม่ได้เลยว่าเป็น "พุทธ" ตรงไหน
ผมดูแล้วเหมือนงานอีเว้นท์ของธรรมกาย ที่อาจวางแผนกันเป็น year plan แบบที่บริษัทเอกชนทำกัน
ประมาณว่าต้นปีต้องมีตักบาตร 1 แสนรูป พอมาฆะบูชาก็ต้องมีการนั่งสมาธิ 1 แสนคน พอสงกรานต์ก็ต้องมีการทำบุญสรงน้ำพระ 1 แสนรูป
พอพฤษภาคมก็สร้างพระรอบจานบิน 1 แสนองค์ พอถึงวันแม่ก็บวชอุบาสิกาแก้ว 1 แสนรูป พอถึงเดือนกันยายน ออกพรรษามีกฐินถวายผ้าไตร 1 แสนรูป
พอมาเดือนตุลาคมก็บวชเณรช่วงปิดเทอม 1 แสนรูป พอมาเดือนพฤษศจิกาฯ ก็บอกบุญถวายกลดพระธุดงค์ 1 แสนรูป พอมาเดือนธันวาคม ก็บวชพระวันพ่ออีก 1แ สนรูป
ถ้าท่านร่วมบุญตามนี้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง ท่านจะอุดมไปด้วยลาภ ยศ สรรเสิรญ แบบไม่ขาดสาย จะมั่งมีศรีสุข ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมาจนไม่มีที่เก็บ หากตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ และอาจมีโปรโมชั่นได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
แต่ช้าก่อน หากว่าท่านไม่สามารถร่วมบุญได้ทุกรายการ ท่านอาจใช้การผ่อนเป็นงวดๆ แบบทำบุญเงินผ่อน
และถ้าท่านหาลูกข่าย เพื่อมาเป็นดาวไลน์ของท่านได้ ก็จะมีการ "บวกบุญ" เพิ่มให้อีกเหมือนเป็นค่าคอมมิชชั่น
.....แบบนี้ในสมัยพุทธกาลมันมีด้วยหรือ.....?????
หากหน่วยงานทางศาสนา ยังไม่สามารถทำอะไรกับพุทธพานิชย์ได้ ผมว่ายุบไปเถอะครับ เสียดายภาษีที่จ่ายไปจริงๆ
วันๆถนัดแต่จับพระขี้เมา มั่วสีกา ให้หวย ปลุกเสกของขลัง เก่งแต่กับพระแบบ "เณรแอ" ที่ไม่มีเส้น
มาเจอวัดมีเส้น มาเจอพระมีเส้น "หงอ" จนหัวหดไปอยู่ในกระดองเลย
"คำสอน" ของธรรมกายเป็นเรื่องดีครับ แต่ "วิธีในการบอกบุญ" ต่างหากที่ผู้คนเขากังขาครับ
ยังไม่นับเรื่องของการให้ความสำคัญกับความเจริญทางวัตถุ ที่เป็นสิ่งที่แสดงคงวามยึดติด , ไม่สมถะ เหมือนที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ครับ
จากคุณ |
:
ตุ้ม (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
3 เม.ย. 55 14:10:51
|
|
|
|
|