ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาฟังค่ะ อยากรู้ใจคุณผู้ชายเหมือนกัน จากคุณ : กึมซุน (คนยองกึมชุน) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 08:22:33

ความคิดเห็นที่ 2 ยุดนี้เวลานี้ผมก็ไม่รู้ว่าผู้ชายที่คิดจะหาเมีย มานจะคิดอย่างที่ จขกท.ว่าหรือเปล่านะครับ.. เพราะสภาพสังคมและความคิดอ่านมานเปลี่ยนแปลงไปเอามากๆ แต่ยุดผมตอนคิดจะมีเมีย... อันดับแรกของผมคิดรูปร่างหน้าตา โดยมีเงื่อนไขขั้นต่ำคืออย่างน้อยต้องไปวัดไปวาได้ อันดับสอง การศึกษาพอสมควร แต่ห้ามสูงกว่าผม และห้ามต่ำเกิน (ม.๖พอรับได้) อันดับสาม ลักษณะนิสัยใจคอ...ที่ผมประมาณได้ว่า...เขาสามารถเป็นแม่ที่ดิของลูกได้  ทั้งนี้....หากไม่มีอันดับหนึ่ง ถึง อันดับสาม หากฐานะดีก็จะรับไว้พิจารณาครับ คือ ฐานะอยู่อันดับท้ายๆเลยแหละครับ... จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 08:28:45

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าขาวสวยหมวย มันก็จะดูดีเองแหละครับ แต่ถ้าไม่เราก็รค้องพยายามหาอะไรดีๆมาเติมให้ตัวเอง กลับไปเรียนก่อนอันดับแรก จากคุณ : คิวปิดน้อย (คิวปิดน้อย) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 08:40:20

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่อง การศึกษาหรือฐานะ ผมคิดว่าก็มีส่วนในการตัดสินใจในการแต่งงานนะครับ แต่...ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ ถ้าเจอคู่ชีวิตที่การศึกษาดี ฐานะดี แต่เข้ากับครอบครัวเราไม่ได้ หรือดูถูกครอบครัวเรา ต่อให้สวยระดับนางฟ้าหรือรวยล้นฟ้า(ซึ่งผมคงไม่มีวาสนาเจอ) ผมก็ขอลาเหมือนกันครับ แต่ในโลกความเป็นจริงแล้วการคบกันเพื่อที่จะยกระดับไปใช้ชีวิตคู่นั้น ก็ต้องมีบ้างล่ะครับที่ต้องพิจารณาทั้ง การศึกษาหรือฐานะถ้าเลือกได้ใครๆก็อยากเลือกแบบนี้อยู่แล้วครับ จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 08:54:55

ความคิดเห็นที่ 5 และในทางกลับกันผมขอถามคุณผู้หญิงนะครับว่า ถ้าคนเลือกได้คุณอยากได้ชีวิตคู่แบบระดับเดียวกันกับคุณ หรือระดับล่างกว่า หรือระดับสูงกว่า จากคุณ : โลกสีน้ำเงินเข้ม เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 09:02:33

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคบกันจนเบื่อแล้วจะอาย จากคุณ : เฮ้อ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 09:09:33 A:124.122.26.253 X: TicketID:140846

ความคิดเห็นที่ 7 หน้าตาดี-นิสัยดีเข้ากันได้   ก็โอเคแล้วครับ การศึกษา-ฐานะ  มันสร้างกันได้นี่ครับ  ไปเรียนเพิ่ม-หางานทำมาค้าขาย   เดี๋ยวก็มีวุฒิมีฐานะไปเองละครับ แต่ถ้าหน้าตาไม่สวย-นิสัยไม่ดีเข้ากันไม่ได้   มันสร้างลำบากนะครับ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 09:36:25 จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 09:35:53

ความคิดเห็นที่ 8 แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 55 10:08:04 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 09:42:36 จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 09:39:50

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วนะครับ สังคมสมัยนี้เขาวัดกันที่ความสามารถ จบตรี จบโท จบเอก แล้วใช่ว่าจะทำงานเป็น หรือว่าจะมีระดับปัญญามากกว่าคนอื่น พวกเรียนจบสูงๆ แต่ไม่สามารถนำมาใช้จริงมีเยอะแยะไป ลองไปเปิดตำราดูว่าเขาเรียนอะไรกัน แล้วคุณจะได้คำตอบ หลายๆวิชาผมยังสงสัยอยู่ว่า จะให้ผมเรียนไปทำไม ใช่ครับการศึกษามันเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต แต่การศึกษาไม่จำเป็นต้องเกิดจากการเรียนในสถาบันต่างๆเสมอไป ถ้าคุณเป็นคนใ่ส่ใจ ใฝ่รู้ คุณก็คือคนมีการศึกษาเหมือนกัน ส่วนเรื่องฐานะ ผมว่าผู้ชายมีความสามารถทั่วๆไป ไม่ค่อยสนใจฐานะฝ่ายหญิงอยู่แล้วครับ เพราะ โดยทั่วๆไปผู้ชายยังคงต้องทำตัวเป็นเสาหลัก ส่วนตัวผมว่าเรื่องการศึกษา ฐานะ ผู้ชายอาจจะมีความจำเป็น มากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ ผู้ชายเรียนน้อย ฐานะไม่ดี ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยแลหรอกครับ.... จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:08:08

ความคิดเห็นที่ 10 คิดว่าคุณ จขกท.คงกำลังเสียความมั่นใจกับสิ่งที่ได้เจอมา ขอเล่าเป็นกำลังใจนะคะ วุฒิเราตอนนี้ คือ ม.6 ค่ะ ตอนนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายขายในบริษัทอสังหาแห่งหนึ่ง จากตอนแรกที่สมัครคือพนักงานขายธรรมดา แต่ด้วยได้รับโอกาสให้ได้พิสูจน์ตัวเอง จึงพยายามตั้งใจทำงาน จนเจ้านายมองเห็น และให้การยอมรับ การปรับเงินเดือนเรียกได้ว่าก้าวกระโดด มาถึงตอนนี้เรื่องงานถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นคนที่นายเรียกถามความเห็นเป็นอันดับต้นๆ ส่วนหนึ่งต้องขอบอกว่า ที่การงานโตมาได้แบบนี้ เพราะมีข้อเปรียบเทียบค่ะ กับพนักงานที่เข้าพร้อมกัน มีวุฒิป.ตรี แต่ไม่มีความฉะฉาน ภาษาไม่ได้(แม้แต่ศัพท์พื้นๆ)   ส่วนเราก็ไม่ได้เก่งหรอกค่ะ แต่อาศัยศึกษา ครูพักลักจำ เค้ามา อาศัยที่ชอบพัฒนาตนเอง เรียนรู้ในสิ่งที่คิดว่าจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน สิ่งที่เราทำมา ไม่เสียแรงเลยค่ะ มันคือสิ่งที่ทำให้คนที่เป็นเจ้านายมองเราด้วยความทึ่ง กับความรู้ที่เกินวุฒิของเรา จึงเป็นข้อได้เปรียบของเรา ส่วนครอบครัว บ้านเรา แม่ทำนา พ่อเป็นข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ ไม่มีหน้ามีตา หนี้สินพอประมาณ สามีเราเป็นวิศวกร จบจากมหาวิทยาลัยรัฐ พ่อแม่สามีเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งคู่ ท่านทั้งสองก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจเรา   แต่ท่านก็ขยันเชียร์ให้เราไปเรียนให้จบซะ 55 คือ เราก็เข้าใจท่านนะคะ เพราะการที่ท่านไม่ตั้งแง่กับเราก็ถือเป็นเมตตามากแล้ว ส่วนพี่น้องสามี ตอนนี้ก็ต่อปริญญาเอกเป็นอาจารย์ อีกคนจบโทแล้ว คู่สะใภ้ก็จบโทม.รัฐอันดับหนึ่ง บางทีเราก็รู้สึกเหมือนต่ำต้อยกว่าคนอื่น(เมื่อต้องไปรวมตัวพบปะกัน) แต่เรายังเหลือความภูมิใจในตัวเอง ที่เราสามารถยืนได้ด้วยขา และสองมือตัวเอง ไม่ได้พึ่งพาใคร ตั้งแต่สร้างบ้านหรือสินสอดแต่งงาน นี่คือสิ่งที่ทำให้เรายังเชิดหน้าอยู่ได้ค่ะ ในมุมของเรานะคะ เรามองว่า การศึกษาก็สำคัญค่ะ   เพียงแต่ว่าจะสำคัญมากที่สุดในชีวิตไหม กรณีของเรา การที่ให้เรากลับไปเรียนตอนนี้ เรายังทำไม่ได้ เพราะตอนนี้ สิ่งที่อยู่ตรงหน้า คืองานของเราสำคัญที่สุด เพราะหากเราแบ่งเวลาไปให้การเรียน แต่ทำให้เราไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เราคิดว่ามันจะส่งผลต่อการทำงานของเรามาก และเราอยู่ไมไ่ด้ถ้าไม่มีงานทำ ส่วนคู่ชีวิตนั้น ให้คุณบอกผุ้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิตคุณไปเลยค่ะ ว่าสถานะชั้นเป็นแบบนี้ รับได้ก็รับ รับไ่ม่ได้ก็เชิญ เพราะเราก็ใช้คตินี้ตอนที่รู้จักกับสามี ก็โชคดี ที่สามีเค้าไม่ได้คิดจุดนี้ ยังไงขอให้ จขกท.อย่าได้ท้อนะคะ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 10:10:54 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 10:09:53 จากคุณ : Madam_B เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:08:42

ความคิดเห็นที่ 11 เราถามน้องชายเรามาให้ น้องเราบอกว่า อย่างแรกก็ต้องดูที่หน้าตา ต่อมาก็มาดูที่นิสัยใจคอ    ไม่ต้องการคนมีการศึกษาสูงแต่ต้องการคนที่ ขยัน รักพ่อแม่ของเรา    ก็ปรามาณนี้นะ จากคุณ : บัวใส เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:13:23

ความคิดเห็นที่ 12 ความรักอย่างเดียวไม่พอค่ะ ขออนุญาตที่ต้องพูดตรงๆ ถ้าคุณต้องคบผู้ชายที่ด้อยกว่าคุณ มองไม่เห็นอนาคต คุณจะคบมั้ยคะ การแต่งงาน เป็นเรื่องของสองครอบครัวค่ะ ไม่ใช่แค่คนสองคน ถ้าแต่งแล้วไม่เชิดหน้าชูตา ที่บ้านของเราหรือของเขาอับอาย ก็อยุ่เป็นโสดดีกว่าค่ะ สำหรับความคิดของเรานะคะ ความรักอย่างเดียว ไม่เคยทำให้ใครไปรอดเลย สำหรับคุณ เราว่าทำงาน เก็บเงิน แล้วหาทางเรียนต่อเถอะค่ะ ภาคค่ำก็ได้ หรือวันเสาร์-อาทิตย์ สำหรับสังคมเรา ถ้าการศึกษาไม่สูง หรือเงินไม่ดีพอ อยู่ยากค่ะ ความจริงที่โหดร้าย แต่เราต้องยอมรับค่ะ นิสัยก็สำคัญค่ะ แต่มันดูยาก เพราะมันเฟคกันได้ เรียนต่อ อย่างน้อยที่สุด ก็พัฒนาตัวเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 10:15:48 จากคุณ : น้องหมาของฉันน่ารักกว่าหลินปิง เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:14:50

ความคิดเห็นที่ 13 คุณรู้ไหม  ญี่ปุ่นเนี่ย  คนทำงานในโรงงานจะมีคำๆหนึ่ง คือ การพัฒนาปรับปรุงต่อเนื่องอย่างไม่หยุด    มีข้อสังเกตสำหรับบางคนเหมือนกัน พยายามเรียนสูงๆ และเมื่อจบก็หยุดการเรียนรู้ ไปใช้ชีวิตด้านอื่น  วุฒิที่มีกลายเป็นแค่ความภูมิใจที่ใช้หากินชั่วชีวิต   การศึกษาตามระบบไม่ได้สำคัญอะไรนักสำหรับผม  เรียนตามระบบก็แค่สี่ปี แต่ถ้าหยุดการพัฒนาทุกอย่างก้หยุดแค่นั้น   ถ้าผมจะคบใครสักคนก็ต้องเริ่มพูดคุยกัน  และตรงนั้นจะทำให้ทราบได้ว่า วุฒิภาวะของผู้หญิงอยู่ระดับไหน  คนที่ใฝ่รู้ ในหน้าที่การงานขยันปรับปรุงตัวเองตลอดเวลา  จะต่างกับคนที่หยุดการเรียนรู้ อย่างแน่นอน  ในความจริงของโลก ผมเจอแบบ 10# เยอะเลย แทบทุกสาขาอาชีพ เรื่องฐานะผู้หญิง ยิ่งไม่สำคัญสำหรับผม  ผมไม่ได้ต้องการให้ผู้หญิงมาหาเลี้ยงผมนะครับ  และผมก็เชื่อว่าผู้ชายส่วนใหญ่รู้ตัวอยู่แล้วว่าหน้าที่ตัวเองในครอบครัวควรต้องเป็นแบบไหน แต่แฟนของคุณน่ะ ยังอยู่ใต้อิทธิพลของครอบครัว  อย่างที่พี่สาวแฟนคุณคิดนั้นไม่ต่างจากผู้หญิงส่วนใหญ่  ที่เวลาเลือกผู้ชายต้องเลือกที่ไม่ด้อยกว่าทั้งฐานะและการศึกษา สำหรับผู้ชายทั่วไปนั้น  ดีกรีความช่างเลือกตามฐานะ วุฒิการศึกษา ตรงนี้จะน้อยกว่าผู้หญิงครับ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:32:31

ความคิดเห็นที่ 14 ก็มีส่วนนะ มันก็แล้วแต่คนด้วย บางคนต้องการคู่คิด ก็ต้องการคนที่พูดคุยปรึกษาได้ มีการศึกษาทัดเทียมกัน บางคนห่วงเรื่องหน้าตา ฐานะทางสังคม ก็ต้องการคนที่เดินควงแล้วไม่อายใคร บางคนต้องการคนที่มาช่วยสร้างฐานะ ก็ต้องการคนที่มีหน้าที่การงานดีไม่แพ้กัน แต่สำหรับผู้ชาย(คิดว่า)ส่วนใหญ่ มันก็ไม่ถึงกับสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ถ้ามีข้อดีอย่างอื่นมาลบล้างได้ เรื่องที่ว่ามาก็พร้อมจะมองข้ามได้ จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:40:57

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเอง ผมก็เอามาคิดนะเรื่องฐานะและการศึกษา ถ้าเลือกได้ จริงๆก้คือเลือกนั่นแหละ โดยเฉพาะเรื่องฐานะ ผมเลือกคนที่ไม่รวยนะ ถึงจนก็ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้หญิงที่รวยนั้นน่ะ มันไม่ใช่รวยที่ตัวเขา แต่มันรวยที่พ่อแม่เขา ไม่ใช่ตัวเขาเอง เรื่องฐานะ ผมไม่กลัวผมมั่นใจในฝีมือผมว่าผมสร้างได้ ผมพอมี ถ้าไม่มี คงไม่คิดมีเมีย แต่สิ่งที่ผมเลือกและต้องมีคือ เขาจะต้องเป็นคนเข้มแข็ง เก่ง ทำมาหากินเป้น ผมต้องประเมินได้ว่า ถ้าผมพลาดพลั่ง ตายก่อนเวลาอันสมควร เขาต้องสานต่องานผมได้ สามารถที่จะ ดูแลลูกของเราให้ไปตลอดรอดฝั่งได้ นั่นแหละสำคัญกว่าฐานะ และการศึกษา ผมลืมบอกไปว่า ทุกวันนี้ มันพิสูจน์ว่า ที่ผมคิดนั้นถูก แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 55 11:08:46 จากคุณ : เราชื่อ มารบูรพา เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:56:08

ความคิดเห็นที่ 16 หากคิดที่จะพัฒนาตนเอง และปรับวุฒิการศึกษา สำหรับสมัยนี้เปิดกว้างมากค่ะ เช่น มสธ.  ม.ราม ภาคพิเศษเรียนช่วงค่ำ  ภาคพิเศษเรียนเสาร์-อาทิตย์ หรือเรียนฉพาะวันอาทิตย์ ซึ่งไม่ได้เอาเวลางาน หรือเบียดเบียนเวลางานค่ะ จากคุณ : double you เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 10:59:27

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าพฤติกรรมของคนรักเปลี่ยนไปจากที่เคยสนิทคุยกันบ่อย และจากคำพูดของพี่สาวที่ถามเรื่องการศึกษา สันนิฐานได้ว่า เขาต้องการจากไปแล้ว แต่เขาเพียงแต่สงสารคุณ ก็เลยมีน้ำใจและมิตรไมตรีที่ดี ก็เลยโทรมาบ้าง ให้ขนมบ้าง อย่าถือความคิดเห็นของผม เป็นเรื่องใหญ่ อาจจะผิดก็ได้ครับ จะดีใจมากหากความคิดเห็นของผมผิด จากคุณ : TheMATABA เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 11:01:34

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดของเรานะตอบเฉพาะในเรื่องฐานะเท่านั้นไม่เกี่ยวกับอารมณ์เพราะถือว่าตัดสินใจถูกใจกันแล้ว ผู้ชายยุคแรกที่สร้างฐานะเอง ญาติส่วนใหญ่ไม่มีผลกระทบในการตัดสินใจเลือกของเขาจะเคารพความเห็นเขาเพราะเป็นผู้นำ จะไม่ค่อยมีปัญหากันผู้หญิงก็ปรับตัวสบายหน่อยเพราะฝ่ายชายไม่สนฐานะอยู่แล้ว ส่วนยุคสองมีเงินทองมากแล้วแต่ได้มาเพราะมรดก อันนี้คนที่บ้านเข้าก็ต้องคัดสรรว่าที่ภรรยาแบบเข้มข้นเพราะกลัวมาปอกลอก ถ้ายุคสองหนักแน่นมากพอก็ฝ่าด้านอรหันต์ไปได้แต่แบบทุลักทุเลหน่อยเพราะหญิงต้องพัฒนาตามกระแสและอาจต้องไหลตามน้ำคืออาจจะอยู่แบบอึดอัดต้องเกรงใจหลายฝ่าย แต่ถ้ายุคสองโชคดีมีพ่อแม่แบบที่ลำบากมามากก่อนและเข้าใจคนดีแต่ลำบากก็อาจจะให้โอกาสหญิงได้พิสูจน์ตัวเอง จากคุณ : สายหนึ่งอยุธยา เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 11:07:48

ความคิดเห็นที่ 19 ฉันมองผู้ชายที่การศึกษา และ ตำแหน่งหน้าที่การงานก่อน เพราะฉันชอบคนเก่ง ฐานะยังสำคัญน้อยกว่าความสามารถเลย เพราะคนเก่ง ฉันเชื่อว่าเขาสามารถสร้างฐานะตนเองขึ้นมาได้ หน้าตาเป็นอันดับสุดท้ายเลย  ไม่สำคัญ  แต่ถ้าความสามารถต่ำกว่าฉันไม่อยู่ในสายตา คนไม่หล่อ แต่ว่าเก่ง จะดูดีขึ้นมาเองในสายตา แต่ถ้าหล่อแล้วไม่เอาไหน มันก็จะหมดหล่อไปเอง จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 11:22:44

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเลือกที่ "การศึกษา" ครับ เพราะผมมองว่าการศึกษาสร้างคน มันสร้างคนๆหนึ่งเพื่อให้มีความรู้ขึ้นมา มีโลกทัศน์ มีทัศนคติ มีมุมมองในแบบคนที่มีความรู้ และแน่นอนว่าการมีโลกทัศน์ที่ใกล้เคียงกัน มันจะทำให้คนสองคนมีพื้นฐาน มีต้นทุนในการอยู่ด้วยกันแบบมีปัญหาน้อย ตัวผมเองเรียนจบปริญญา มีความชอบเรื่องของหนัง, เพลง, หนังสือ, ท่องเที่ยว, สุนัข, การเมือง, สังคม, ไปจนถึงความเป็นโลกาภิวัฒน์ของโลกเราที่หมุนแบบไม่หยุดนิ่ง หากผมคิดจะมีเมีย และเมียของผมจบ ป.7 หรือ มศ.3 คุณคิดว่าโลกทัศน์มันจะไปกันได้หรือเปล่าล่ะ ??? เมื่อโลกทัศน์ของคน 2 คนต่างกัน การใช้ชีวิต, การปรับทัศนคติ ,การมองปัญหา มันก็จะเป็นการมองกันในแบบที่ต่างพื้นฐาน ต่างเหตุ ต่างผล พูดง่ายๆว่าคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ ผมอาจอยาคุยเรื่องของ เช เกวาร่า กับการเป็นไอคอนของนักปฏิวัติ แต่เธออาจอยากคุยเรื่องของ  สมศักดิ์ ภักดี ลิเกเงินล้านที่ครองใจคนรากหญ้า ผมอาจอยากคุยเรื่อง "ย่าเหล" หรือ "ฮาจิ" 2 หมาแสนรู้ แต่เธออาจอยากคุยเรื่องการเลี้ยงปลาในกระชัง และการปลูกผักสวนครัว ผมอาจดัดจริตอยากอ่าน "ไทม์" หรือ "นิวส์วีค" แต่เธออาจบอกว่า "ซื้อคู่สร้างคู่สมเถอะ ดวงเขาแม่นดีนะคุณ" แบบนี้มันก็ไปกันไม่ได้หรอกครับ เพราะพื้นฐานมันต่างกัน แต่หากเธอจบด็อกเตอร์ และผมเป็นแค่คนจบ ป.ตรีธรรมดา แบบนั้นก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่องว่าเธอจะเอาผมหรือเปล่า เพราะเธอก็อาจจะมองว่าโลกทัศน์ผมต่างจากเธอเช่นกันแหละน่า คนเป็นด็อกเตอร์อย่างเธออาจอยากคุยเรื่อง infrastructure ของสังคม ส่วนผมอาจสนใจแค่ว่าวันนี้เราทำแกงส้มดอกแค กินกับไข่เจียว กันดีมั๊ย ??? การศึกษาน่าจะสำคัญที่สุดครับ ส่วนฐานะนั้น คนสองคนช่วยกันสร้างได้ครับ หากว่าเขาและเธอรักกันจริง และพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน ถ้ารักกันจริง และพื้นฐานใกล้เคียงกัน ไม่แน่ว่ามีแค่ร้านกาแฟเล็กๆในชนบท หรือร้านขายข้าวไข่เจียวธรรมดาๆ...ก็อาจมีความสุขได้พอๆกับมหาเศรษฐีครับ จากคุณ : ตุ้ม (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 11:32:00

ความคิดเห็นที่ 21 เรียนไม่สูงแต่รู้จักแสวงหาความรู้ ทำตัวดูดี เราว่าใครคบก็ไม่น่าอาย แต่เราเคยเจอ คนเรียนน้อยแล้วยังไม่แสวงหาความรู้อีก เวลาคุยกันมันไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ยิ่งเจอประเภทที่อวดฉลาดอีกนะ เราน่ะเลิกคุยเลย เราคิดว่าบางทีการศึกษาสูงหรือต่ำมันไม่สำคัญหรอก แต่มันอยู่ที่ตัวคน แม้เราไม่สามารถเรียนสูงถึงปริญญาได้ แต่เราต้องหมั่นหาความรู้นอกตำรา ทำมาหากินให้ประสบความสำเร็จ คู่ชีวิตกันมันต้องเกื้อหนุนกัน ไม่เกื้อหนุนที่ฐานะมันก็ต้องเกื้อหนุนที่ความคิด คบกันมันจะได้ไม่อายใคร จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 11:38:30

ความคิดเห็นที่ 22 ก็คงจะจริง เคยถาม ตอบประมาณว่า ถ้าไม่จบป.ตรีคงไม่แต่ง สำหรับเราเองก็คิดเหมือนกัน ถ้าความรู้ต่างกันมาก ก็อาจจะคุยกันไม่รู้เรื่องอ่ะ แต่มันก็ไม่สำคัญสำหรับทุกคนหรอกนะ บางคนอาจ ไม่ได้คิดกันแบบนี้ก็ได้... เพราะพี่ชายเราจบมศ.5  ได้เมียจบป.โท อ่ะ และเมียก็ยังต้องพึ่งพี่ชายเราทุก เรื่องเลย เรายังคิดว่า เฮ้ย!! ความรู้ ป.โท มันทำได้แค่นี้เองเหรอ (เฉพาะพี่ใภ้เรานะ) จากคุณ : หยาดรุ้ง เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 12:05:57

ความคิดเห็นที่ 23 อย่าถามผู้ชายเลย ถามว่าคุณเจอคนแบบไหนดีกว่า... เรามีโอกาสรู้จักเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ซึ่งรวยมากๆ  และน้องชายของภรรยาเจ้าของ ซึ่งเป็นทันตแพทย์ อายุประมาณ 48 แล้ว แต่งงานกับคนงานในบ้านตัวเองค่ะ มีลูกน่ารัก 2 คน แต่สถานะของผู้หญิงดูจะน่าอึดอัดเหมือนกันนะคะ เพราะได้เลื่อนจากคนใช้เป็นภรรยาเจ้าของบ้านเนี่ย  เราว่า มันก็ไม่สบายเลยค่ะ เพราะหน้าที่ต้องดูแลลูกยังมี เห็นเธอนั่งดูแลลูกอยู่คนเดียว สามีกลับมาบ้านก็มาอุ้มลูก เล่นกับลูก ... โลกนี้มีคู่หลากหลายร้อยพันแบบค่ะ จากคุณ : แฮม (noopin) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 12:27:39

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกอย่างมีข้อยกเว้น อย่างที่ผมเจอ คนที่การศีกษาน้อย แต่คุยเรื่องอินเตอร์ได้ ในขณะที่บางคนจบโท แต่ความคิดความอ่านระดับมัธยมก็มีให้เห็น จากคุณ : TheMATABA เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 12:52:08

ความคิดเห็นที่ 25 การศึกษา ผมว่าไม่เกี่ยว นะครับ แต่ ฐานะ บางคน นะครับ บางคน เอามาเกี่ยว ข้องด้วย นะครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 12:56:39

ความคิดเห็นที่ 26 อาจจะจบไม่สูง แต่ขวนขวายหาความรู้ทันโลก ทันเหตุการณ์ ก็ทดแทนกันได้ค่ะ (กรณีอีกฝ่าย อาจจะจบสูงดังนั้นโลกแห่งการเรียนรู้อาจกว้างกว่าซักหน่อย) แต่ฝ่ายชาย ถ้าตัวเองด้อยกว่าฝ่ายหญิง ปัญหาแน่ ๆ แม้ปากจะพูดกว่า ความรักชนะทุกสิ่งก็เหอะ นั่นมันโบราณล้าหลังไปแล้ว เดี๋ยวนี้มันต้องพิจารณาจากหลาย ๆ อย่าง เราเคยคบคนหนึ่ง รักเขามาก แต่จริง ๆ แบคกราวน์คนละอย่างเลย (ซึ่งเราก็มารู้ทีหลัง) อย่างโลกของคนทำงานกลางคืน เที่ยวกลางคืน กับโลกของ พวกเด็กดีโลกสวย มันก็คนละอย่างแล้วอะ  เราอยากคุยเรื่องธุรกิจ เรื่องประวัติศาสตร์ (พอดีเป็นคนชอบเที่ยว โดยเฉพาะยุโรป) มันก็คุยกันไม่รู้เรื่อง ความสนใจมันคนละอย่างไปแล้ว  บางคนบอกว่าชีวิตตัวเองคงไม่มีวาสนาไปเที่ยว ตปท หรอก แต่มีเงินเที่ยวกลางคืน กินเหล้า อาทิตย์ละหลาย ๆ วัน  อะไรอย่างนี้ ความสนใจมันคนละอย่าง เรื่องการเรียน เราว่าอย่างน้อยคุณน่าจะเรียนให้จบ นะคะ มสธ ราม อะไรก็ได้ คือเข้าใจว่าคุณเป็นคนเก่ง การเรียนก็คือการพัฒนาตัวเองอย่างหนึ่งเหมือนกัน เราเคยคิดว่าเราประสบความสำเร็จ ทำงานมี ปสก มาหลายปี เงินเดือนก็ไม่อายใคร  แต่พอเราเริ่มเรียน ป โท (เรียนเมื่อทำงานไปแล้วเกือบ 10 ปีนะ เมื่อก่อนไม่เคยใส่ใจหรอก คิดแต่ว่าเปลือง ๆๆๆๆ จบ ตรีก็พอแล้ว)  แต่พอเริ่มเรียนความคิดมันเปลียน วิสัยทัศน์การมองภาพรวมขององค์กรมันเปลียน และคอยแต่จะคิดว่าจะพัฒนาคนอย่างไร  เหอ เหอ เพราะว่าต้อง discuss ทุกอาทิตย์ เราก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ทำงาน 6 วัน / อาทิตย์ต่างหาก ไม่มีทางหยุดทำงานแล้วไปเรียนหรอก  เปลืองตังค์ ไม่มีเงินเยอะขนาดน้านนน เงินทองหามาด้วยความเหนื่อยยากของตัวเอง อะนะ งก แต่คนที่มาจากสิ่งแวดล้อมต่างกันจะมี conflict แน่นอนค่ะ หากคบกันระยะยาว ยกเว้นผู้ชายต้องการแค่ ผญ คนหนึ่งมาปรนนิบัติ ทำหน้าที่ภรรยา ดูแลเขา ดูแลลูก  (เหมือน ฝรั่งที่มาหาหญิงไทยตามหมู่บ้านแถบภาคอิสานอะ ) แต่ฝรั่งหลาย ๆ คนก็โชคดี หลายชั้นไป ผู้หญิงไทยเก่ง ๆ เยอะ ที่อาจจะไม่ได้เรียนสูงแต่ ไฝ่รู้ไฝ่เรียนด้วยตัวเอง พวกนี้ก็จะไม่อยู่เฉย นะ ถึงแม้จะเรียนไม่สูง จบน้อย ได้แรกผลักดัน จากสามีอีก กลายเป็นมีธุรกิจใหญ่โต ในต่างแดนเลย ทั้งร้านอาหารเอย ส่งของ ส่งดอกไม้เอย  เป็นที่น่าชื่นชมกันไป คือ ถ้าเรียนน้อยก็ควรมีอะไรมานำเสนอให้ทัดเทียมคู่ตัวเอง  ไม่งั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนจะเอาไปพูด เอาไปนินทา  (คือ ก็อย่าเอามาคิดมาก เพราะอาจจะต้องคิดมาไปตลอดชีวิต) จากคุณ : Freedom of Life เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 14:19:42

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนตัวไม่ได้ให้ผู้ชายมาเลือกว่าเราการศึกษาระดับไหน ครอบครัวมีอาชีพอะไร เราทำงานอะไรค่ะ จะเป็นฝ่ายเลือกเองมากกว่า สุดท้ายก็ยังเลือกไม่ได้ ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนชาวบ้านเค้าซะที เอิ๊กๆ จากคุณ : สวยERROR เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 14:25:34

ความคิดเห็นที่ 28 ของผมนี่ขอให้เป็นผู้หญิงจริงๆก็พอแล้วล่ะครับ จากคุณ : เขียนในคีย์บอร์ด (ทะลายร่างทะลวงใจ) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:11:18

ความคิดเห็นที่ 29 อย่าว่าแต่สมัยนี้เลยค่ะ สมัยไหนๆเรื่องการศึกษาก็เป็นสิ่งสำคัญ การศึกษา อาชีพ มันเป็นตัวบ่งบอกว่าเราจะอยู่ตรงไหนของสังคมค่ะ คนเราเวลาจะคบกันจนถึงขั้นแต่งงาน เรื่องหน้าตา รูปร่าง รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้เลยว่าเค้าจะแต่งกับคุณหรือไม่ มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นในการคบหา ทำความรู้จักกันเท่านั้น ส่วนที่ว่าจะพัฒนาต่อไปหรือไม่ ก็ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆด้วยค่ะ เช่นพื้นฐานครอบครัว ฐานะทางบ้าน หน้าที่การงาน การศึกษา ฐานะทางสังคมว่าเสมอกันไปด้วยกันได้ ฝ่ายชายรู้สึกภูมิใจหรือไม่ ถ้าเค้าบอกว่าคนนี้เป็นภรรยาเค้า คุณทั้งคู่ส่งเสริมกันได้แค่ไหน แนะนำให้คุณไปเรียน ป.ตรี ทันทีค่ะ สมัยนี้มีหลายหลักสูตร เรียนไปเถอะค่ะ แป๊บเดียวก็จบแล้ว แล้วชีวิตคุณจะมีอะไรดีๆเพิ่มขึ้นในชีวิตอีกเยอะ คนเราต่อให้ทำงานได้เงินเยอะแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีการศึกษา คนบางคนเค้าก็จัดให้ไปอยู่ในสังคมที่ด้อยกว่าอยู่ดีค่ะ จากคุณ : ฉันชอบวินเทจแล้วไง??? เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 15:20:41

ความคิดเห็นที่ 30 นิสัยกับการศึกษาบางทีมันก็ไม่ไปด้วยกันค่ะ คนเรียนจบสูงบางทีก็นิสัยไม่น่ารัก ส่วนตัวเห็นด้วยกับคห.อื่นที่ว่าโลกทัศน์หรือความสนใจบางที่มันก็ไม่ได้ไปในทางเดียวกัน เคยคบกับคนจบป.ตรีสองคนไปด้วยกันไม่ได้ทั้งสองคน เขาจะสนใจในเรื่องพื้นๆ เรื่องเงินๆทองๆ อะไรแค่นั้น แต่เราอยากคุยเรื่องเศรษฐกิจโลกก็คุยไมรู้เรื่อง คนปัจจุบันจบโท พูดกันรู้เรื่อง แนวคิดคล้ายๆกันเข้าใจกันง่ายกว่าค่ะ จากคุณ : winter_peace เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 16:24:08

ความคิดเห็นที่ 31 ในทางกลับกัน ถ้ามีผู้ชายจนๆคนหนึ่งจบแค่ประถม 6 หรือม. 3 มาชอบจขกท.แต่มีความจริงใจเหมือนละครทีวีเปี๊ยบ จขกท.จะโอเคไหม จากคุณ : คิดว่าคงคิดหนักเหมือนกัน เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 17:38:23 A:125.24.100.155 X: TicketID:257640

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ต้องยกตัวอย่างอื่นไกล ยกตัวอย่างผมนี่แหละ จบ ป.ตรี มาใหม่ ผมเข้าทำงานเป็นพนักงานออฟฟิต เลิกกับแฟนที่คบกันมาตอนเรียน เพราะอยู่กันคนละที่ ครั้งสุดท้ายที่โทรไปหา เธอบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่้ต้องโทรมาอีก ทำงานที่บริษัทนี้ได้เกือบ ๑ ปี ด้วยความเหงา จึงสนิทกับสาวโรงงานคนหนึ่ง ทำงานเป็นพนักงานรายวัน เธอจบแค่ ม.๖ สุดท้ายก็ตัดสินใจคบกับพนักงานรายวันคนนี้ เพราะผมชอบนิสัยเธอที่เหมือนผู้ชาย คือไม่ขี้งอน ไม่งอแง คบกันท่ามกลางการต่อต้านของเพื่อนร่วมงานออฟฟิตที่บอกว่า ไม่มีปัญญาหาคนอื่นแล้วเหรอถึงไปเอาพนักงานรายวันมาเป็นแฟน ช่วงที่ทำงาน คนทำงานออฟฟิตด้วยกันที่เป็นผู้หญิงอยู่ฝ่ายบัญชีก็มีหลายคนที่มาชอบผม แต่ผมก็ไม่ชอบ ด้วยนิสัยที่ชอบอวดร่ำอวดรวย แต่งเนื้อแต่งตัวของพวกเธอ สรุปเลยแล้วกันครับ - ครอบครัวของเธอค่อนข้างยากจน มีหนี้สินเยอะแยะไปหมด - ครอบครัวเธอไม่มีบ้าน ตอนนั้นเช่าเขาอยู่ - ผมถูกเพื่อนร่วมงานว่าตลอดว่า ผมโง่ หน้าตาดี หน้าที่การงานดี แต่ไม่มีปัญญาหาแฟนดี ๆ - งานเธอเริ่มหนัก ต้องเข้ากะกลางคืนด้วย เธอไม่ไหว ผมเลยให้ลาออก หางานทำที่อื่น - ได้งานใหม่เป็นผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น ผมจึงให้เรียนต่อ ปวส. - เธอเรียนจบ ปวส. ผมก็ให้เรียนต่อ ป.ตรี - ทุกวันนี้เธอเรียนจบ ป.ตรีแล้วครับ ตอนนี้ทำงานเป็นพนักงานราชการในหน่วยงานทหารแห่งหนึ่ง - ส่วนผมลาออกจากงานเอกชน ทุกวันนี้มารับราชการครับ - เราแต่งงานกันมา ๒ ปีแล้วครับ หลังจากที่คบกันมาเกือบหกปี - ปัจจุบันกำลังท้องลูกคนแรกครับ อิอิ ถ้าคุณอ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ ก็คงรู้แล้วนะครับ ว่าผมเลือกคบผู้หญิงตรงไหน จากคุณ : KenNeo เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 18:06:07

ความคิดเห็นที่ 33 มีตัวอย่างฝ่ายหญิงฐานะด้อยกว่า ที่เจอมา - เมียรายที่1  เป็นหนี้สินเพื่อนำมาให้แม่ของตัวใช้จ่าย ฝ่ายชายต้องคอยใช้หนี้ ใช้ไปใช้มา ก็ประกาศให้ทราบทั่วกันว่าหากเมียไปยืม หรือกู้ใครแล้วจะไม่ขอรับผิดชอบ - เมียรายที่ 2 มีแต่ญาติมาขอยืมเงิน มาทวงบุญคุณขอเงินใช้เพราะเคยช่วยเหลือตอนเมียนี้เป็นเด็กเพราะฐานะไม่ดี ฝ่ายชายก็ต้องคอยให้เงินจนไม่ไหวต้องทำแบบรายที่ 1 ตัวอย่างนี้อาจทำให้ญาติฝ่ายผู้ชายของคุณ VIP คงกลัวจะเกิดขึ้น จะเป็นไรไป หากไม่เลือกเรา เราอย่าได้แคร์ ต้องมีศักดิ์ศรีอย่าให้เขาดูถูก เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เราสิ้นไร้ไม้ตรอก ถ้ามีโอกาสหาความรู้เพิ่มเติม เรียนให้จบปริญญาตรีก็โอเคนะ ขอส่งกำลังใจให้เจอคู่ชีวิตที่ดีและให้เกียรติเรา เป็นตัวของตัวเองและมีภาวะผู้นำไม่ให้ญาติพี่น้องมาใช้เชือกร้อยจมูกให้หันซ้ายขวาตามสั่งได้เช่นที่คุณ VIP เล่ามาเป็นพอ โชคดีแล้วที่ไม่หลงเข้าไปในครัวนี้ จากคุณ : NCIS เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 18:32:15

ความคิดเห็นที่ 34 1...หน้าตา รูปร่าง บุคลิก ต่างๆ ดีพอประมาณ 2...หน้าที่การงาน หรือ ถ้าไม่ทำงาน ฐานะก็ดีหน่อยก็ทดแทนได้ 3...การศึกษา ก็ ม.6 ขึ้น ก็ประมาณนี้ครับ จากคุณ : mum (mumtheone) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 19:18:53

ความคิดเห็นที่ 35 อันดับแรกผมมองเรื่องทัศนคติรองลงมาก็การวางตัวครับ การศึกษาสำคัญไหม ผมว่าสำคัญในระดับนึง แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะโอกาสของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และการที่มีการศึกษาสูงไม่ได้หมายความว่าคนคนนั้นเป็นคนดีเสมอไปครับ ส่วนเรื่องฐานะต้องมองไปถึงการใช้จ่ายด้วยว่าเป็นอย่างไรครับ ถึงจะยากจนแต่ถ้ารู้จักวากแผนการใช้จ่าย ก็ยังพอมองเห็นทางที่จะสร้างอนาคตด้วยกันได้ครับ จากคุณ : Laevateinn เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 20:17:58

ความคิดเห็นที่ 36 เราตอบจากตัวเองค่ะ ตอบจากใจจริง เราเลือกคนที่มีการศึกษา หน้าที่การงาน สังคมเพื่อนฝูงใกล้เคียงกันค่ะ อะไรที่ต่างกันมากเกินไปในระยะยาว มันต้องปรับตัวเยอะค่ะ แฟนเราเป็นคนง่ายๆ จิตใจดี แฟนเขาแต่ละคนเป็นใครก็ได้ที่เขาชอบพอ พอใจ แต่เรานั้นจะมีสเปค คือ มีการศึกษา แล้วหน้าที่การงาน การเงินมันก็ตามมา ไลฟสไตล์มันต้องใกล้ๆกันค่ะ คุณอาจจะเสียความรู้สึก แต่เราว่าพี่สาวเขาก็แฟร์ดีที่แอบๆ บอกคุณถึงหลักเกณฑ์ในครอบครัวเขา ดีกว่าฝ่ายชายคบคุณไปเรื่อยๆ พอถึงเวลาจริงชิ่งไปแต่งกับคนอื่น พี่น้องของเราเคยคบกับแฟนที่เรียนน้อยกว่านะคะ (แต่ฐานะดี หน้าตาดีค่ะ ใช้เงินกันเป็นฟ่อน แต่งตัวกันสะบัด ขัยรถแพงๆ) แต่ท้ายสุด ตอนแต่งงาน พวกเขาก็เลือกจะแต่งงานกับคนที่มีอะไรใกล้ๆ เคียงกันค่ะ คือ มีการศึกษา มีหน้าที่การงาน หน้าตาธรรมดาๆ คงแล้วแต่คน และแต่ละครอบครัวที่โตกันมาในสภาพแวดล้อมต่างๆ กัน จากคุณ : ** เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 20:35:00 A:88.77.206.40 X: TicketID:324043

ความคิดเห็นที่ 37 ผมเคยคิดว่าการศึกษากับฐานะที่ต่างกันไม่น่าจะเป็นอุปสรรคกับความรักระหว่างคนสองคน... จบบัดนั้นจนถึงตอนนี้ คำพูด...ความคิดความอ่าน.. lifestyle...และอีกหลายๆอย่าง มันต่างกันชัดเจนและสร้างปัญหาให้กับผมอย่างมาก สุดท้ายผมกำลังจะตัดสินใจมองหาคนที่ฐานะและการศึกษาใกล้เคียงกับผม คอยส่งเสริมซึ่งกันและกัน (มากกว่าที่จะส่งเสริมฝ่ายใดฝ่ายเดียว) มาเป็นคู่ชีวิตครับ สำหรับผม ชัดเจนครับ...การจะคบกับใครซักคนควรจะหาระดับเท่ากัน หรือต่างกันไม่มากจะดีที่สุด จากคุณ : nopex เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 21:54:07

ความคิดเห็นที่ 38 ที่พุดๆแสดง คห. กันอ่ะ.......เอาเข้าจริงๆมันไม่ได้เป็นไปแบบที่คุณวางมาตรฐานกันไว้อ่ะนะ คุณไม่มีวันรู้ว่า..ความรักของคุณมันจะเป็นแบบไหน... คุณไม่มีวันรู้ว่าคุณสมบัติของคนที่คุณจะรักมันจะอยู่ในข่ายที่คุณต้องการหรือไม่ เมื่อคุณจะรักใครซักคน..คุณก็จะให้น้ำหนักกับบางอย่างในคุณสมบัติของคนที่คุณรักมาก จนกลบคุณสมบัติที่ด้อยออกไปได้เสมอ..!! คุณไม่สามารถ เอาคุณสมบัติ 8 ประการ มาหาค่าเฉลี่ย..เพื่อตัดสินว่า เธอหรือเค้าจะเหมาะเป็นแฟนคุณหรือไม่..เหมือนงานวิจัย   คนที่กล้ากำหนดคุณสมบัติของคนที่คุณจะรัก...ไว้ก่อนที่เจอคนคนนั้นจริงๆ คือคนที่ไม่กล้าจะมีความรักครับ...ส่วนใหญ่มักจะยังโสดเพราะมีเหตุให้อ้างตลอดเวลา..เรื่องคุณสมบัติ ลองพยายามรักให้เป็นก่อนครับ..เรื่องหลักการพิจารณามันจะเกิดขึ้นเอง..ว่าอะไรคือมาตรฐานในการตัดสินใจของคุณ...แต่ละคนก็แตกต่างกันไป  มันจะเกิดขึ้นเองโดยที่คุณไม่ต้องพยายามอะไรกับมันมาก     สำหรับผม..ลักษณะทางกายภาพเป็นเรื่องสำคัญในเบื้องต้น..เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ผมสัมผัสได้ก่อนจะรู้จักตัวตนในเรื่องอื่นๆ...หลังจากนั้นก้อิมโพไวสท์เอาเรื่อยไป.. ไม่มีสมุดจดคุณสมบัติ แล้วเอามาเช็คคีย์...     ถ้าแฟนจน..ผมก็รักความสวยหรือ เก่งของเธอแทนก้ได้...ให้น้ำหนักกับoutstanding ของแฟนเรามากหน่อย...     แต่ถ้าหมดรักในระหว่างศึกษาซึ่งกันและกัน...ต่อให้คุณสมบัติครบผมก็ต้องปล่อยเธอไป    กำหนดนู่นนี่นั่นมันเข้าไป...อยู่แต่ในโลกทิดสะดี ..ก้เลยโสดกันเต็มบอรืดอยู่นี่ไง..!!! 0000000000000000000000000000000000000 ปล. กำลังหัดเขียน blog ยังไงไปเยี่ยมกันบ้างเน้อ จากคุณ : Bismarck the wolf เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 22:09:33

ความคิดเห็นที่ 39 คิดว่าน่าจะเลือกคบผู้หญิงที่ดูแลตัวเองได้ในฐานะหน้าที่การงาน ไม่ต้องมาลำบากผู้ชาย แต่ถ้าเรียกร้องล่ะก็...ไปล่ะ จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:37:11

ความคิดเห็นที่ 40 ขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะคะ และขอขอบคุณ คุณ Madam_B ด้วยนะค่ะที่ให้กำลังใจ ^^ จากคุณ : VIPOnline เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 55 23:58:04

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วแต่วาสนามั้งครับ เพราะเราไม่สามารถกะเกณฑ์คนที่ตรง SPEC. เราทุกอย่างให้เข้ามาในชีวิต และบังคับในเค้าชอบเราได้ จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 00:24:46

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านสิ่งที่เจ้าของกระทู้เขียนแล้ว เรารู้สึกได้ว่าเจ้าของกระทู้เป็นผู้หญิงที่เรียบเรียงความคิดได้เป็นระบบ เขียนหนังสือได้ดี มีเหตุผลแต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่นุ่มนวล ดังนั้นแม้ว่าเจ้าของกระทู้จะยังไม่ได้เรียนระดับปริญญา (เราใช้คำว่า "ยังไม่ได้เรียน" เพราะเราเชื่อว่าเจ้าของกระทู้มีความสามารถที่จะเรียนได้จนจบแน่นอนหากเลือกที่จะเรียน) แต่เราคิดว่าโดยพื้นฐานแล้วเจ้าของกระทู้เป็นคนที่เฉลียวฉลาด มีระบบความคิดที่ดี และมีศักยภาพในการทำงานไม่ว่าจะเลือกสิ่งใดก็ตามค่ะ เราก็เคยเจอกรณีคล้าย ๆ เจ้าของกระทู้ค่ะ แต่กลับกันตรงที่ว่าเรามีวุฒิการศึกษาสูงกว่าคนที่เราเคยคบ และความแตกต่างนั้นห่างกันมากพอสมควร เราไม่เคยเก็บเรื่องการศึกษามาตั้งแง่กับผู้ชายคนนั้น และเปิดใจคบด้วยความเต็มใจเพราะรู้สึกว่าเราคุยกันรู้เรื่อง แต่ท้ายที่สุดเมื่อถึงคราวเลิกกัน หนึ่งในเหตุผลที่เขาใช้อ้างก็คือเรื่องการศึกษาของเรานี่ล่ะค่ะ หาว่าเราเสียเวลามากไปกับเรียนให้จบ ทั้ง ๆ ที่ตอนเริ่มคบกันเราก็ตกลงกันชัดเจนแล้วว่าเราขอเรียนระดับนี้ให้จบก่อน แต่สุดท้ายกลายมาเป็นเรื่องให้ทะเลาะกันตลอด หรือพูดอะไรนิดหน่อยเขาก็คิดว่าเราไปดูถูกเขาทั้ง ๆ ที่เราไม่ใช่คนพูดจาทิ่มแทงใจคนอื่น สรุปว่าประเด็นอยู่ที่ปมในใจของเขาเองที่รู้สึกด้อยกว่าเรา แม้ว่าเราจะไม่เคยมองว่ามันเป็นอุปสรรคเลยก็ตาม ที่เล่านี้ก็เพื่ออยากจะเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ว่า 1) ไม่ใช่ทุกคนที่เลือกคบคนที่วุฒิการศึกษา เราเองเป็นผู้หญิงแท้ ๆ เราก็ยังไม่ตะขิดตะขวงใจเลยที่จะต้องคบกับคนที่อาจเรียนมาไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นผู้ชายที่ไม่คิดมากเรื่องนี้และมองที่ความสามารถเฉพาะตัวย่อมต้องมีแน่นอนค่ะ 2) ผู้หญิงที่มีฐานะและการศึกษาพร้อมหรือเสมอกับฝ่ายชาย ก็ใช่ว่าจะมีชีวิตรักที่ราบรื่นสมบูรณ์เสมอไป เพราะฉะนั้นอย่าเก็บเรื่องนี้มาบั่นทอนความมั่นใจตัวเองเลยนะคะ เราเชื่อว่าสักวันจะมีผู้ชายที่มองเห็นค่าเจ้าของกระทู้และชื่นชมเจ้าของกระทู้อย่างที่เป็นแน่นอนค่ะ อย่างไรก็ดี เราสนับสนุนให้เจ้าของกระทู้เรียนต่อเมื่อมีโอกาสนะคะ ถือว่าทำเพื่อตัวเอง เพื่ออนาคต ไม่ใช่ทำเพื่อคนอื่นหรือเอาชนะใคร ที่สำคัญคือเรารู้สึกว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนมีสติปัญญาดี ถ้ามีโอกาสได้เรียนต่อก็จะยิ่งเสริมให้มีความสามารถมากขึ้นไปอีก จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : * เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 03:41:24 A:92.29.49.16 X: TicketID:152752

ความคิดเห็นที่ 43 ผมเองคิดตามนี้ครับ " จงทำตัวเป็นผู้เลือก อย่าทำตัวเป็นผู้ถูกเลือก " คนเราทุกคนมีคุณค่าอยู่ในตัวเอง - ฐานะ ขยันทำมาหากิน ก็มีมากขึ้น - การศึกษา ถ้ายังเรียนไม่จบตรี ถ้ามีโอกาสก็ควรที่จะเรียนให้จบอย่างน้อยปริญญาตรี - หน้าตา พื้นฐานหน้าตาคนเราไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ พันธุ์ แต่ทำเพิ่ม เสริม ให้ดูดีได้ ผมเองคิดว่า จขกท น่าจะหน้าตาดีในระดับหนึ่ง ผมแนะนำว่าเอาเวลาไปทำ 3 อย่างหลักให้ดีขึ้นดีกว่าครับ เพราะทุกวันนี้เราอยู่ในสังคมทุนนิยม ถ้าใครมีพื้นฐานที่ดีกว่า ก็มี " โอกาส " มากกว่าครับ สังคมทุกวันนี้ส่วนใหญ่มองที่ " ฐานะ " ต่อให้การศึกษา ม.6 แต่ถ้าคุณมีสิ่งที่เรียกว่า" เงิน " ปัจจัยอื่นเช่น การศึกษา หน้าตา และอีกหลายอย่าง คนในสังคมก็พร้อมจะมองข้ามไปครับ คุณเชื่อที่ผมพูดมั้ยล่ะ? ตอนนี้สิ่งที่ผมแนะนำให้คุณได้คือ " ทำตัวเองให้ดูดีที่สุด เสื้อผ้า หน้า ผม ทำให้สม่ำเสมอดูแลตัวเองมากๆ อย่าปล่อยตัวเองให้โทรม ทำให้ได้ในทุกๆวัน " ผมเชื่อว่า คุณจะกลายเป็นผู้เลือก แน่นอนครับ จากคุณ : ^BmwM5^ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:24:09

ความคิดเห็นที่ 44 มีแต่คนห่วย ๆ ที่วัดค่าความรักของตนเองด้วยการศึกษาและเงินทองของคนที่ตนรัก จากคุณ : internetsmile เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:28:21

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าห่างกันมากในหลายๆเรื่อง เช่น ฐานะ และการศึกษา คนที่ด้อยกว่าก็จะรู้สึกอึดอัดและทนไม่ได้ในที่สุด บางทีก็แล้วแต่ว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน จากคุณ : pumpkin&blackbeauty เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:19:25

ความคิดเห็นที่ 46 องค์ประกอบหลายอย่างสำหรับชีวิตคู่ ถึงอยู่เป็นโสดมาจน 40 ปีล่ะ อยากได้แบบที่เค้าว่าไว้ คือ สุขใจยามอยู่ใกล้ชิด คู่ช่วยคิดชีวิตก้าวหน้า...(จะมีไหมเนียะ) จากคุณ : ขึ้นคานซะให้เข็ด เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 12:34:22 A:1.4.241.14 X: TicketID:345556