ความคิดเห็นที่ 1 ผมจบนิติฯราม นะครับ ไม่ทราบว่า จขกท เรียนอยู่ที่ไหน เพราะถ้าเป็นนิติฯราม ผมอาจแนะนำได้ตรงจุดมากกว่าที่สถาบันอื่น แต่ไม่ว่าจะเป็นสถาบันไหน ผมคิดว่าคงไม่ต่างกันมากนัก ตอนผมเรียน ผมก็ประสบปัญหาว่าเขียนตอบอย่างไรจึงจะได้คะแนน แล้วเขียนมากแค่ไหนจึงจะได้คะแนน... อันนี้โดนกันมาทุกคนครับ เอาเป็นว่าผมมิอาจแนะนำได้ แต่ขอแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในช่วงเรียน ป.ตรีให้ฟังครับ อ.บอกว่าการเขียนตอบกฎหมาย ต้องเขียนให้คนที่เค้าไม่รู้เรื่องกฎหมาย อ่านแล้วเข้าใจกฎหมาย คนตรวจ...แน่นอนเป็น อ. และคนมีความรู้ทางกฎหมาย ดังนั้นคนที่เขียนตอบและตกหรือได้คะแนนน้อย มักคิดว่า คนตรวจรู้แล้วว่าเราตอบหมายถึงอะไร เราอ้างเรื่องใด เนื่องจากคนตรวจก็คือ อ. นั่นเอง ซึ่งความเข้าใจอย่างนี้ คือ ผิดถนัดครับ.. เพราะการเขียนตอบกฎหมายที่ได้คะแนนดีๆ คือ เขียนให้คนที่ไม่มีความรู้ อ่านแล้วเข้าใจได้เลย เอาง่ายๆนะครับ... หากมีการยิงกันตายกลางตลาด คุณไปถามแม่ค้าว่า คนยิงผิดอะไร แม่ค้าตอบทันทีว่า...ผิดข้อหาฆ่าคนตาย... จบแค่นั้นครับ แม่ค้าตอบได้แค่นั้น... หากคุณไปถามแม่ค้าต่อว่า แล้วผิดกฎหมายอะไร มาตราอะไร....แม่ค้าตอบว่าจะไปรู้เหรอไม่ใช่ ตร.ไม่ใช่ทนาย จะไปตอบได้ไง.. คราวนี้หากคำถามเดิม คือ นาย ก. ยิง นาย ข. ตายที่กลางตลาด เราจะตอบแบบนักกฎหมายก็ควรจะตอบดังนี้ - การที่นาย ก. ได้ใช้อาวุธปืน ยิงไปที่ นาย ข. จนถึงแก่ความตายนั้น เป็นการที่นาย ก.ได้คิดและตกลงใจในการกระทำความผิดโดยเจตนาประสงค์ต่อผลต่อความตายของนาย ข.แล้ว และเป็นการกระทำที่บรรลุผลสำเร็จของการกระทำตามเจตนาของนาย ก.แล้ว นาย ก.จึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตาม ปอ.มาตรา ๒๘๘ ประกอบ มาตรา ๕๙ ว.๑ และ ว.๒  นาย ก.จึงต้องรับผิดโทษในความผิดที่ได้กระทำนั้นตามกฎหมายอาญา... นี่คือตัวอย่างของคนเรียนกฎหมายตอบ และคนที่อ่านเค้าไม่รู้กฎหมายก็จริง แต่ถ้าเค้าอ่านแล้ว เค้าเข้าใจมากกว่าคำว่า.... ผิดฐานฆ่าคนตาย ปล.เดี๋ยวมาต่อ จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:06:45

ความคิดเห็นที่ 2 การตอบในชั้น ป.ตรี ที่นิติฯราม จะให้คะแนนสามส่วน คือ ๑ หลัก กม. ๒ วินิจฉัย ๓ สรุปฟันธง คะแนนในแต่ละส่วนจะได้ต่างกันแล้วแต่ อ.จะตั้งคะแนนไว้ เช่น (เต็ม ๒๕) ส่วนที่ ๑ ให้ ๘ คะแนน ส่วนที่ ๒ ให้ ๑๕ คะแนน ส่วนที่ ๓ ให้ ๒ คะแนน ดังนั้นคุณดูซิว่า ต้องทำคะแนนส่วนไหนให้มากและให้ได้ดีที่สุดจึงจะผ่าน เห็นว่า ในส่วนที่ ๑ และ ๒ คือส่วนสำคัญที่สุด สำหรับในส่วนที่ ๓ อาจได้มาง่ายๆ หากฟันธงถูก แต่ถ้าฟันธงผิดก็ไม่ได้คะแนน ตอนผมสอบ ผมมาตรวจคำตอบจากธง มีหลายครั้งหลายวิชาที่ผมฟันธงผิด แต่ก็ผ่านมาได้เช่นกัน เพราะในส่วนที่ ๑ และ ๒ ผมอธิบายหลักกฎหมายพร้อมวินิจฉัยเอาไว้อย่างดีแล้ว จึงทำให้ผ่านมาได้ การฝึกตอบนั้น คุณต้องคิดเสมอว่า เราเป็นนักกฎหมาย การอ้างกฎหมายก็คืออ้างมาตราในกฎหมายเรื่องนั้นๆว่า ทำไมจึงต้องรับผิด และทำไมจึงไม่ต้องรับผิด เพราะอะไร มีสาเหตุเพราะอะไร หรือ เพราะข้อยกเว้นอะไร เราก็อธิบายไป พูดง่ายๆสั้นๆว่า หากเราท่องตัวบทได้ เราก็เอาคำในตัวบทมาอธิบายเข้าไปนั่นเอง ซึ่งเรียกว่าเป็นการตอบที่อ้างหลักกฎหมายได้อย่างดี คนตรวจก็จะรู้ทันทีว่าเราเข้าใจกฎหมาย และนำมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงได้เป็นอย่างดี อย่างในวิชาแพ่งเรื่อง กู้ยืม หากเราไปถามแม่ค้าในตลาดว่า นาย ก.ยืมเงิน นาย ข.ไป ๑ หมื่นบาท ไม่ได้ทำสัญญา นาย ข.จะทวงเงินคืนจาก นาย ก.ได้มั้ย แม่ค้าตอบทันทีว่า...ได้ซิ ก็ยืมไปก็ต้องคืน ไม่คืนโดนด่าแน่...ถ้ามันหน้าด้านไม่ยอมคืนก็โดนรุมตึบชัวร์.. นั่นคือคำตอบของแม่ค้า แต่ถ้าเราตอบข้อสอบ และตอบแบบนักกฎหมาย เราต้องตอบว่า การกู้ยืมเงินตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาท ขึ้นไปต้องมีหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้กู้จึงจะฟ้องบังคับคดีได้ ตาม ปพพ มาตรา ๖๕๓ การที่ นาย ก.กู้ยืมเงิน นาย ข. ๑ หมื่นบาท โดยไม่มีหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อ นาย ก. ผู้กู้นั้น นาย ข.จึงไม่อาจฟ้องร้องให้ นาย ก. ชำระหนี้เงินกู้คืนได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อ นาย ก. ผู้กู้ ตาม ปพพ ม.๖๕๓ ว.๑ นั่นเอง สรุป... นาย ข.ฟ้องร้องให้นาย ก. ชำระหนี้เงินกู้ยืมคืนแก่นาย ข. ไม่ได้ ข้อสังเกต แม่ค้าตอบว่า ทวงคืนได้ เพราะมันเอาเงินไป แต่นักกฎหมายตอบว่า ทวงคืนไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานลงลายมือชื่อ นาย ก. ถามว่าคำตอบใครผิดหรือถูก.. คำตอบคือ ไม่มีใครผิด และไม่มีใครถูก เนื่องจาก มูลหนี้เงินกู้ ๑ หมื่นบาทยังมีอยู่ เพียงแต่จะฟ้องร้องกันนั้น ยังไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานฯ นั่นเอง แต่ถ้านาย ก.ยอมทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ ก็ฟ้องได้ หรือ นาย ก.ยอมทำสัญญากู้ภายหลัง ก็ฟ้องได้ หรือ นาย ก.ใช้สิทธิหักกลบลบหนี้ ก็ย่อมทำได้ หรือ นาย ข.ปลดหนี้ให้นาย ก. ก็ย่อมทำให้หนี้ระงับได้ ดังนั้นเรื่องนี้ถ้าเป็นการตอบข้อสอบ การจะบอกว่าทำได้หรือไม่ ก็ต้องประกอบด้วยเหตุผลตามหลักกฎหมายนั่นเอง ขอให้โชคดี จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:24:31

ความคิดเห็นที่ 3 ลายมือมีส่วนค่ะ.... อาจารย์ก็คนนะคุณ เห็นลายมืแไก่เขี่ยเวลาอารมณ์บ่จอย ไม่อยากอ่านเลยแหละ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:27:39

ความคิดเห็นที่ 4 อืม...เรื่องลายมือนี่ผมจนปัญญาครับ และที่สำคัญ ผมลายมือแย่มากๆ ผมเป็นคนเขียนเร็วมาก อ่านแทบไม่รู้เรื่อง (ผมอ่านรู้คนเดียว) ผมแก้ปัญหาในเรื่องนี้ คือ เขียนตัวโตๆ และมีหัวทุกตัวอักษร มันช้าหน่อยในความรู้สึกผม แต่ก็ยังเร็วเช่นเดิม ปกติคนอื่นเขียนตอบ ๑ หน้า ผมจะล่อเข้าไปหน้าครึ่ง เพราะเขียนตัวโต ในที่สุดการเขียนตัวโตๆ ก็ทำให้ปัญหาอ่านไม่ออกหมดไปครับ ผมเคยเจอบางคน เขียนตัวเล็กมาก เล็กจริงๆ ไม่ไหวจะเคลีย... จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 12:35:54

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณน้าออดมากๆครับ ผมเป็นบัตรผ่านที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร และไม่ได้สันทัดกรณีในข้อกฎหมายแต่อย่างใด แต่ชอบมาอ่านข้อปัญหากฎหมายในศาลาเสมอ และในแต่ละกระทู้ที่ถกกันบ้าง หรือขอคำปรึกษาบ้าง ผมก็มักจะพบชื่อ"น้าออด"เสมอ ผมเป็กนักศึกษารามคำแหงเช่นเดียวกันครับ ขณะนี้ก็เรียนกฎหมายชั้นปริญญาตรีอยู่ที่ราม เรียกได้ว่าเป็นรุ่นน้องของน้าออดก็ว่าได้ ^^ อย่างไรก็ตามผมขอขอบพระคุณอีกครั้งกับคำแนะนำที่น้าออดบรรจงพิมพ์มาข้างบนนะครับ ผมสัญญาว่าจะนำไปปรับใช้กับตน และใช้ประโยชน์สูงสุดกับคำแนะนำข้างต้นครับ จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:03:40 A:125.24.127.9 X: TicketID:354956

ความคิดเห็นที่ 6 จขกท ค่อยๆ ฝึกครับ การเขียนตอบได้ดีหรือไม่ ต้องอ่านข้อสอบเก่าบ่อยๆเยอะๆ หรือ อ่านฎีกาเยอะๆ คำว่าอ่านเยอะๆในที่นี้ ไม่ใช่อ่านแบบว่า ข้ารู้ฎีกาเยอะ แม่นฎีกาอะไรทำนองนั้น แต่ให้อ่านเพื่อจะได้จดจำคำที่เค้าเขียนในฎีกา หรือ ในธงคำตอบวิชานั้น เพราะเราจะสังเกตได้ว่า คำตอบของข้อสอบ กับ ย่อสั้นฎีกาจะคล้ายๆกัน เมื่อเราชิน เราคล่อง เราจดจำได้ การเขียนตอบมันจะไหลออกมาเองครับ เรื่องเขียนตอบในชั้น ป.ตรี อ.จะดูว่าเรามีความรู้ในทางกฎหมายหรือไม่ อ.ดูแค่นั้นครับ โดย อ.จะไม่ดูไปถึงว่าเราเอากฎหมายไปใช้เป็นหรือไม่ เพราะในระดับ ป.ตรี เรียนกฎหมาย เพื่อให้รู้กฎหมาย แต่ถ้าจะเรียนเพื่อใช้กฎหมาย ต้องเรียนในระดับเนติฯ ต่อไป ดังนั้นการตอบในชั้น ป.ตรี กับ ชั้น เนติฯ จึงต่างกัน ผมทำคะแนนได้ดีในชั้น ป.ตรี ได้ G หลัก ๑๐ ตัว แต่ในชั้นเนติฯ กลับมาตายน้ำตื้น เพราะยังปรับวิธีการตอบไม่เป็น และวนอยู่ในอ่าง หาทางออกไม่เจอ เพราะไม่รู็ว่าในชั้นเนติฯ เรียนแบบใช้กฎหมาย ไม่ใช่เรียนแบบรู้กฎหมาย ดังนั้นการตอบแบบรู้กฎหมายอย่างเดียวในชั้นเนติฯ จึงยังไม่พอ ผมเคยอ่านบทความของ อ.หลายๆท่านที่ประสบความสำเร็จในด้านกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นระดับ อ.หรือ ระดับผู้พิพากษาศาลฎีกาหรือผู้พิพากษาเก่งๆหลายๆท่าน แทบจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การอ่านข้อสอบเก่าเยอะๆ จะช่วยให้เราทำข้อสอบในวิชานั้นๆได้ เพราะการออกข้อสอบ หรือ การเฉลยข้อสอบ และวิธีถามตอบ มันอยู่ในข้อสอบเก่าทั้งหมด ดังนั้นเราจับทางข้อสอบได้ เราก็สอบผ่านได้ และอาจได้คะแนนดีๆ ด้วย แต่การอ่านข้อสอบเก่าอย่างเดียว อาจไม่ทำให้เราสอบผ่าน หากเราไม่มีความรู้ทางกฎหมายที่ถูกต้องเลย จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:23:31

ความคิดเห็นที่ 7 เอางี้...ผมขอให้ จขกท ลองตอบคำถามวิชา กฎหมายอาญา ๑ ให้ผมดูหน่อยครับ คิดว่ายังไงคุณคงเรียนวิชานี้มาแล้วแน่นอน ผมอยากให้คุณลองเขียนตอบให้ผมดูหน่อย ผมจะได้ดูว่าคุณขาด เกิน หรือ ดีอยู่แล้ว ตรงไหนบ้าง ลองดูนะครับ อ้อ.. อย่าเปิดหนังสือเฉลยตอบนะ แต่อนุญาตให้เปิดตัวบทได้ หากจำเลขมาตราไม่ได้ คำถามคือ นายแดงวางแผนจะฆ่านายดำจึงไปยืมปืนจากนายเหลืองเพื่อจะมายิงนายดำ โดยนายเหลืองก็รู้ว่านายแดงจะเอาปืนไปยิงนายดำ นายแดงเฝ้ารอนายดำออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้า จากนั้นช่วงเวลาสายๆ นายดำเดินออกจากบ้านมา นายแดงเห็นนายดำจึงยกปืนขึ้นเล็งไปที่นายดำ และยิงไปที่นายดำทันที แต่กระสุนไม่ถูกนายดำ แต่เลยไปถูกนายเขียวที่กำลังเดินผ่านมาตายทันที และกระสุนยังทะลุไปโดนกระจกรถยนต์ของนายฟ้าแตกเสียหาย ถามว่านายแดงและนายเหลืองต้องรับผิดต่อใคร อย่างไรหรือไม่เพียงใด ลองตอบดูครับ จะได้เอามาดูว่าคุณเขียนตอบเป็นอย่างไร จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:31:44

ความคิดเห็นที่ 8 คำถาม ยากไปครับ จากคุณ : boxxcatt เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:52:03

ความคิดเห็นที่ 9 สุดยอดครับ น้าออด เป็นการทดสอบที่ได้จังหวะมากๆ ตอนนี้ผมกำลังฝึกงานอยู่ที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง และตอนนี้งานผมก็เสร็จแล้วด้วย ว่างพอดี รับประกันได้ว่า ณ บัดนาว ผมไม่สามารถหาหนังสือข้อสอบเก่า หรือ ประมวลกฎหมายอาญามาเปิดดูได้แต่อย่างใด ขอด้นสดเลยละกันนะครับ ดีไม่ดีอย่างไรก็ต้องว่ากันตามเนื้อความเลยนะครับ หลักกฏหมายที่เกี่ยวข้อง - ประมวลกฎหมายอาญา วางหลักไว้ว่า "บุคคลจักต้องรับผิดทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่ได้กระทำโดยประมาทในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดแม้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติโดยชัดแจ้งให้ต้องรับผิดแม้กระทำโดยไม่มีเจตนา การกระทำโดยเจตนาหมายถึง การกระทำที่ผู้กระทำประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น การกระทำโดยประมาทหมายถึง การกระทำโดยไม่มีเจตนา แต่เป็นการกระทำที่ขาดความระมัดระวังตามสมควรซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ บุคคลนั้นอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นแต่หาได้ใช้อย่างเพียงพอไม่" -ประมวลกฎหมายอาญา วางหลักไว้ว่า "ผู้ใดเจตนากระทำต่อบุคคลหนึ่งแต่ผลของกระกระทำเกิดแก่อีกบุคคลหนึ่งโดยพลาด ถือว่าผู้นั้นกระทำโดยเจตนาต่อผู้ที่ได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น" - ประมวลกฎหมายอาญา วางหลักไว้ว่า "ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด ไม่ว่าก่อนหรือขณะกระทำความผิด ไม่ว่าผู้กระทำความผิดจะรู้ถึงการช่วยเหลือนั้นหรือไม่ ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษ . . " จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:20:43 A:125.24.127.9 X: TicketID:354956

ความคิดเห็นที่ 10 วินิจฉัย ตามข้อเท็จจริงข้างต้น ข้าพเจ้าขอวินิจฉัยแยกเป็นประเด็นดังนี้ ประเด็นที่ 1 ความผิดของนายแดง นายแดงได้วางแผนจะฆ่านายดำจึงได้ไปยืมปืนจากนายเหลืองมาเพื่อจะยิงนายดำ โดยนายเหลืองก็รู้ว่านายแดงจะเอาไปยิงนายดำ ความตามข้อเท็จจริงถือว่า นายแดงมีเจตนาที่จะฆ่านายดำแล้วโดยการไปยืมปืนจากนายเหลือง จากนั้นเมื่อนายแดงได้ไปดักรอนายดำ เมื่อพบนายดำแล้วนายแดงชักปืนออกมาเล็ง ในขั้นนี้การเล็งเท่ากับเป็นการพยายามแล้ว เลยขั้นตระเตรียมกัน ถือว่านายแดงได้พยายามฆ่านายดำแล้ว ความปรากฎต่อมาว่า นายแดงได้ยิงปืนออกไปยังนายดำ แต่กระสุนกลับไปถูกนายเขียวที่กำลังเดินผ่านมา ถือว่านายแดงได้เจตนาต่อนายดำ แต่ผู้ที่รับผลร้ายจากกระทำดังกล่าวคือ นายเขียว นายแดงย่อมถือว่าได้กระทำโดยเจตนาต่อนายเขียวตามหลักกฎหมายที่ข้าพเจ้าได้วางหลักมาข้างต้น แล้วเมื่อนายเขียวตายถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว นายแดงต้องรับผิดฐานฆ่านายเขียวโดยเจตนาโดยพลาด ความต่อมากล่าวว่า เมื่อนายแดงได้ยิงนายดำแล้วกระสุนถูกนายเขียวตายและยังเลยไปถูกรถยนต์ของนายฟ้าแตกเสียหาย ถือการกระทำของนายแดงได้กระทำโดยพลาด แต่หลักของการกระโดยพลาดนั้น เป็นการกระทำที่ใช้หลัก “คนต่อคน ทรัพย์ต่อทรัพย์” การที่นายแดงเจตนากระทำต่อคน แต่ผลไปเกิดแก่ทรัพย์หาได้ทำให้นายแดงต้องรับผิดแก่นายฟ้าไม่ อีกทั้งหากจะถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาทก็หาได้มีความผิดไม่ เพราะการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เสียทรัพย์นั้น ไม่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาว่ามีความผิดแต่อย่างใด นายแดงไม่ต้องรับผิดต่อนายฟ้า ประเด็นที่ 2 ความผิดของนายเหลือง ความตามข้อเท็จจริงนายเหลืองนั้นรู้ถึงเจตนาของนายแดงที่จะไปฆ่านายดำและได้ให้นายดำยืมปืนของตนไป ถือว่านายเหลืองมีเจตนาที่จะกระทำการอันเป็นการก่อให้นายแดงกระทำความผิดตามหลักกฎหมายที่ข้าพเจ้าได้วางหลักไว้ข้างต้นแล้ว นายเหลืองเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิด ต้องรับผิดต่อนายดำและนายเขียวฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามหลักกฎหมายข้างต้น สรุป ประเด็นที่ 1 นายแดงต้องรับผิดต่อนายดำ ฐานพยายามฆ่า นายแดงต้องรับผิดต่อนายเขียว ฐานฆ่าโดยเจตนาโดยพลาด ประเด็นที่2 นายเหลืองต้องรับผิดต่อนายดำและนายเขียว ฐานเป็นผู้สนับสนุน จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:21:39 A:125.24.127.9 X: TicketID:354956

ความคิดเห็นที่ 11 คำถามไม่ยากครับ อันนี้พื้นๆของอาญา ๑ เลยครับ (เอ..หรือยากไป) จขกท ลองตอบดูก่อน เพราะไม่ได้ดูที่ว่าตอบถูกหรือผิด แต่จะดูวิธีตอบเท่านั้น จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:22:40

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้สดของจริงครับ ผมเขียนตอบประมาณนี้เลยครับในข้อสอบ อันนี้ใช้ความรู้เดินล้วนๆ เท่าที่ดูเหมือนลืมวางหลักเรื่องพยายาม และไม่แม่นในเรื่องผู้สนับสนุน หรือตกหล่นอะไรไปอีก ดำเป็นแดง แดงเป็นดำ อาจมั่วๆมึนๆไปบ้าง แต่ผมก็ตั้งใจสุดขีดแล้วครับ เสมือนว่าอยู่ในห้องสอบจริงๆ รบกวนน้าออดหรือผู้รู้ช่วยดูด้วย ผมจะเอาตัวรอดได้ไหมนี้ในการเรียนกฎหมาย ^^ จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:24:01 A:125.24.127.9 X: TicketID:354956

ความคิดเห็นที่ 13 อืม...ก็ตอบได้ดีประมาณหนึ่งครับ แต่เรื่องการอ้างหลักกฎหมายนั้น คุณยังยิงไม่ตรงจุดในตอนวินิจฉัย เช่น ที่คุณอ้างว่า "หลักกฎหมายที่ข้าพเจ้าได้วางหลักมาข้างต้น.." ตรงนี้ผมมองว่าคุณเหวียงแหในหลักกฎหมายไปหน่อย หากคุณวางหลักกฎหมาย ๔ หลัก คุณบอกว่าจากหลักกฎหมายข้างต้น อาจมองได้ว่า คุณยิงไม่ตรงจุด อย่างแรกควรเขียนไปเลยว่า การกระทำของนายแดงที่เกิดขึ้นกับนายเขียวนั้นเป็นการกระทำโดยพลาดไป เพราะนายแดงจะกระทำต่อนายดำแต่ผลของการกระทำเกิดขึ้นกับนายเขียวโดยพลาด ตาม ป.อ.มาตรา...(ก็ว่าไป) โดยไม่ต้องบอกว่าตามหลักกฎหมายข้างต้น (หลักอะไรล่ะ..จริงไหม) จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:35:19

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนเรื่องตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน นั้น ตรงนี้ผมไม่ซีเรียส เพราะถือว่าแค่ดูการเขียนเท่านั้น แต่ถ้าตอบจริงๆ ในเรื่องผู้สนับสนุน กับ ผู้ใช้นั้น หลักกฎหมายคุณจะไม่ได้คะแนนเลย เพราะผู้สนับสนุน คือ ผู้ที่ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกก่อนหรือขณะกระทำความผิด แต่ถ้าเป็นผู้ใช้ คือ ผู้ที่ "ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด.." ดังนั้นหลักกฎหมายคุณยกเรื่องผู้ใช้มา แต่วินิจฉัยว่าเป็นผู้สนับสนุน คะแนนตรงนี้อาจโดนหักได้ แต่ในตอนนี้ผมถือว่าคุณผ่านแล้วกัน แต่ถ้าสอบจริงๆต้องแม่นกว่านี้ จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:39:16

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบพระคุณครับน้าออด เป็นความรู้เก่าที่ผมมั่วๆ ลืมๆไปบ้าง โชว์ห่วยเลยผมงานนี้ 5 5 5 ผมมีคำถามสำคัญอีกอย่างนึงครับ เกี่ยวเนื่องด้วยข้อเท็จจริงที่น้าออดกล่าวมาเกี่ยวกับการเขียนของผมคือ ที่ผมเขียนว่า หลักกฎหมายข้างต้นเอย หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องเอย ตรงนี้คือ ตอนทำข้อสอบผมไม่เขียนเลขมาตราอ่ะครับ ผมเลยไม่สมารถอ้างได้ประมาณว่า ตามป.อ.มาตรา ... อะไรประมาณนี้ นี่คือ ปัญหาอย่าางใหญ่หลวงของผมคือ ถ้าไม่ได้เลข เวลาอ้างผมก็ไม่รู้จะอ้างยังไงนอกจาก ตามหลักกฎหมายข้างต้นเอย หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องเอย ประมาณนี้อะครับ แต่ตอนนี้จะปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่ เพราะใครๆหลายคนบอกผมเลขไม่สำคัญ แต่พอมาเจองี้คงจะต้องจำเลขให้ได้ซะแล้ว น้าออดคิดเห็นอย่างไนในเรื่องเลขมาตราครับ แล้วขณะที่น้าเรียนเน และตอบข้อสอบเนติ เลขสำคัญมากไหมต่อการอ้างในการวินิจฉัยเพื่อย่นระยะเวลา แล้วถ้าไม่เขียนเลข ผมจะต้องเขียนอ้างยังไงให้ตรงจุดเป๊ะ ไม่เหวี่ยงแหเหมือนข้างต้น จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 14:48:56 A:125.24.127.9 X: TicketID:354956

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นที่ 10 วินิจฉัย ตามข้อเท็จจริงข้างต้น แยกเป็นประเด็นดังนี้ ประเด็นที่ 1 ความผิดของนายแดง นาย แดงได้วางแผนจะฆ่านายดำจึงได้ไปยืมปืนจากนายเหลืองมาเพื่อจะยิงนายดำ โดยนายเหลืองก็รู้ว่านายแดงจะเอาไปยิงนายดำ นายแดงมีเจตนาที่จะฆ่านายดำ โดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว จากนั้นเมื่อนายแดงได้ไปดักรอนายดำ เมื่อพบนายดำแล้วนายแดงชักปืนออกมาเล็ง และยิงไปที่นายดำแต่ไม่ถูกนายดำ การกระทำของนายแดงได้กระทำความผิดไปโดยตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล นายแดงจึงต้องรับในความผิดฐานพยายามฆ่านายดำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามกฎหมาย การที่นายแดงได้ยิงปืนออกไปยังนายดำนั้น แต่กระสุนกลับไปถูกนายเขียวที่กำลังเดินผ่านมาโดยพลาดไป ถือว่านายแดงได้เจตนาต่อนายดำ แต่ผู้ที่รับผลร้ายจากกระทำดังกล่าวคือนายเขียว นายแดงต้องรับผิดต่อนายเขียวฐานฆ่านายเขียวตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน โดยพลาดไป เมื่อนายแดงได้ยิงนายดำแล้วกระสุนถูกนายเขียวตายและยังเลยไปถูกรถยนต์ของนายฟ้าแตกเสียหาย กรณีเช่นนี้ไม่ถือว่านายแดงต้องรับผิดในทางอาญาต่อนายฟ้าในเรื่องการกระทำโดยพลาดไป เพราะนายแดงกระทำต่อบุคคล แต่ผลไปเกิดขึ้นต่อทรัพย์ นายแดงจึงไม่ต้องรับผิดในทางอาญาต่อทรัพย์ของนายฟ้า แต่นายแดงยังคงรับผิดต่อนา่ยฟ้าในทางแพ่งต่อไป ประเด็นที่ 2 ความรับผิดของนายเหลือง ตามข้อเท็จจริงนายเหลืองนั้นรู้ถึงเจตนาของนายแดงที่จะไปฆ่านายดำและได้ให้นายดำยืมปืนของตนไป ถือว่านายเหลืองมีเจตนาที่จะกระทำการอันเป็นการช่วยเหลือก่อนที่นายแดงจะกระทำความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน นายเหลืองเป็นผู้สนับสนุนให้นายแดงกระทำความผิดดังกล่าว นายเหลือง ต้องรับผิดต่อนายดำและนายเขียวฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดนั้น สรุป นายแดงต้องรับผิดต่อนายดำ ฐานพยายามฆ่านายดำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นายแดงต้องรับผิดต่อนายเขียว ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนโดยพลาดไป นายเหลืองต้องรับผิดต่อนายดำฐานเป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานพยายามฆ่านายดำโดยไตร่ตรองไว่ก่อน และรับผิดต่อนายเขียว ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยพลาดไป ส่วนทรัพย์ของนายฟ้านั้น นายแดงและนายเหลืองต้องร่วมกันรับผิดในทางแพ่งต่อนายฟ้า จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:01:01

ความคิดเห็นที่ 17 ใน คห.๑๖ ผมลองแก้ไขบางส่วน เพิ่มบางส่วนให้อ่านง่ายและอ้างหลักกฎหมายมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้อ้างเลขก็ตาม ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด แต่การที่คุณไม่เขียนเลขมาตรานั้น ถ้าอ้างหลักกฎหมายรวมๆ บางทีอย่างที่บอก มันเหมือนเหวี่ยงแหไปหน่อย คนตรวจอาจไม่ให้คะแนนในส่วนนี้ก็ได้ เพราะรู้ว่าคุณไม่แม่น จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:03:26

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าเราแม่นเลขนะ บางทีมันช่วยย่นระยะเวลาได้ อย่างถ้าผมเขียนตอบข้อสอบข้อนี้ผมจะเขียนว่า การที่นายแดงยิงนายดำไปนั้นกระสุนไม่ถูกนายดำ จึงเป็นกรณีที่นายแดงกระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล นายแดงจึงต้องรับผิดฐานพยายาม ตามมาตรา ๘๐ นายแดงต้องรับผิดต่อนายดำฐานพยายามฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตาม ปอ.มาตรา ๒๘๙(๔) ประกอบ มาตรา ๘๐ และ ม.๕๙ ว.๑และ ว.๒ กระสุนดังกล่าวได้เลยไปถูกนายเขียวถึงแก่ความตาย เจตนาที่นายแดงกระทำต่อนายดำจึงโอนไปยังนายเขียวโดยพลาดไป ตามมาตรา ๖๐ นายแดงจึงต้องรับผิดต่อนายเขียวฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยพลาด ตาม ม.๒๘๙(๔) ประกอบมาตรา ๖๐ กรณีทรัพย์ของนายฟ้าที่เสียหายนั้นเป็นความรับผิดในทางแพ่ง เนื่องจากนายแดงกระทำต่อบุคคล แต่ผลร้ายไปเกิดขึ้นกับทรัพย์จึงไม่เข้าหลักกฎหมายในเรื่องพลาดตาม ม.๖๐ และไม่ใช่เรื่องประมาทตาม ม.๕๙ ว.๔ แต่อย่างใด นายแดงจึงไม่ต้องรับผิดต่อนายฟ้าในทางอาญา แต่ยังคงมีความรับผิดต่อทรัพย์ในทางแพ่ง นายเหลืองเมื่อรู้ว่านายแดงจะเอาปืนไปยิงนายดำ การที่นายเหลืองช่วยเหลือนายแดงโดยการให้ยืมปืนไปนั้น จึงเป็นการช่วยเหลือก่อนที่นายแดงจะกระทำความผิด นายเหลืองจึงเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดนั้นตาม ม.๒๘๙(๔) ประกอบ ม.๘๖ ดังนั้น นายแดงต้องรับผิดต่อนายดำ ฐานพยายามฆ่านายดำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นายแดงต้องรับผิดต่อนายเขียว ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนโดยพลาดไป นายเหลืองต้องรับผิดต่อนายดำฐานเป็นผู้สนับสนุนในความผิดฐานพยายามฆ่านายดำโดยไตร่ตรองไว่ก่อน และรับผิดต่อนายเขียว ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยพลาดไป ส่วนทรัพย์ของนายฟ้านั้น นายแดงและนายเหลืองต้องร่วมกันรับผิดในทางแพ่งต่อนายฟ้า แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 15:16:36 จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:15:05

ความคิดเห็นที่ 19 คือที่ผมตอบไปนั้น ไม่ใช่คำตอบ(เขียน)ที่ดี แค่ผมยกตัวอย่างและตอบให้ตรงประเด็นมากที่สุด และเขียนตอบแบบอ้างเลขมาตราในการตอบเท่านั้น และผมพยายามไม่ใช้คำฟุ่มเฟือยไปนัก (ติดมาจากสอบเนติฯ) เพราะเวลามีน้อยในการสอบ สรุปคือ หัดเขียนเยอะๆ อ่านข้อสอบเก่าเยอะๆ จะเป็นประโยชน์มากสำหรับคุณ ขอให้โชคดีครับ ปิดคดี จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:19:16

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนอื่นผมขอเถียงที่ว่า คำตอบที่น้าออดตอบมาไม่ใช่คำตอบที่เขียนดี ผมรู้สึกว่าเป๊ะมากๆอ่ะคับ แม่นยำ ตรงจุด ไม่เยิ่นเย้อ ชัดเจนครับผม อย่างไรก็ตามขอบพระคุณสำหรับทุกความเห็น ทุกคำแนะนำครับ ยาวนานเหลือเกินสำหรับวันนี้ ผมได้อะไรเยอะมากๆเลยครับน้าออด ผมจะฝึกปรือสำนวนการเขียนให้มากๆยิ่งขึ้นครับ และจะตอบข้อสอบให้ได้ดั่งเช่นน้าออดครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:37:00 A:125.24.127.9 X: TicketID:354956

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ตอบดีนะครับ แต่ในชั้นปริญญาตรี ต้องอธิบายองค์ประกอบด้วย ถึงจะได้คะแนนเยอะ เช่น ม.288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น.. ต้องอธิบาย ความหมายว่า - ฆ่า คือทำอย่างไรอย่างไร ละเว้น งดเว้น พร้อมยกตัวอย่างประกอบว่า อะไรคือฆ่าหรือไม่ฆ่า เช่น สะกดจิตคน บอกให้คนอื่นไปฆ่า ใส่ร้ายผู้อื่นให้กระโดดตึกตาย เป็นต้น ที่คลาสิคก็คือ ใช้ปืนยินศพ ฆ่าตัวตาย อะไีรแบบนี้ อธิบายไปเลย - ผู้อื่น คือ ใคร ต้องนำ ปพพ. มาปรับ สภาพบุคคลต้องเริ่มคลอดและอยู่อยู่รอด... ชี้ประเด็นว่า เด็กที่เกิดมาไม่มีเสียงร้อง เป็นบุคคลแล้วเหรอไม่ - โดยเจตนา คืออะไรตาม ม.59 ยกตัวอย่าง แล้วก็วินิจฉัยปรับบท พยายามใช้คำในตัวบทให้มากที่สุด เขียนล้อตัวบทเลยก็ได้ ดึงเอาคำที่อธิบายตัวบทมาช่วยให้ดูสวยงามด้วย ถ้าธงถูก การปรับบทก็จะชัดเจน ไม่วนไปวนมา ดังนั้น หมั่นอ่านหนังสือ และ ฎีกาเยอะๆ เอาไว้เป็นธงเวลาเจอข้อสอบที่ไม่ธรรมดา ส่วนแพ่งก็ใช้หลักเดียวกัน แต่อ้างหลักเกณฑ์แทนองค์ประกอบ คิดว่าสำหรับปริญญาตรี ต้องหมั่นฝึกแบบนี้ให้คล่องก่อน บางทีมันน่าเบื่อแต่ก็ต้องทำ เพราะ เขียนหลายหน้า จนเมื่อย อยากวินิจฉัย และฟันธงเลย แต่มันทำไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามลำดับ จากคุณ : lulu เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:49:13 A:49.48.101.75 X: TicketID:179109

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาเก็บข้อมูล แอบไปลงเรียนราม นิติ ควบไว้ ฮ่าๆๆ ^^ ปล. ไม่น่าหาเหาใส่หัวเลย ฮ่าๆ จากคุณ : อิคึอิคึ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:15:36 A:49.228.91.223 X: TicketID:355330

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเคยเข้าใจอย่างที่หลายๆท่านเข้าใจว่า การเขียนควรจะเขียนประหนึ่งว่า "ให้คนไม่รู้ได้รู้" >> ผลคือเวลาเขียนตอบเราก็จะปูนพื้นประหนึ่งให้คนไม่รู้ได้รู้จริงๆ  ที่ตามมาคือ น้ำท่วมทุ่งครับ สิ่งที่เขียนไปทั้งหมดไม่ได้อยู่ในธงเลย หลังๆผมเขียนในลักษณะว่าเขียน เพื่อ "ให้คนตรวจรู้ว่าเรารู้ " ผมเลยตัดปัญหาการเยิ่นเย้อได้ จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:22:14

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 23 นะ หาวิธีที่เราถนัดและสนุกกับมัน คนเราอาจจะแต่งเพลงรักได้ดี มากกว่าเพลงร็อค ถ้าเขียนแล้วเราไม่รู้แล้วใครจะรู้ เริ่มจากตัวเราก่อน หากเราอ่านแล้วยังไม่รู้ ก็ไปอ่านเอาความรู้ให้มันมากๆ แล้วมาเขียนใหม่ แต่คนเรียนดี ประสบความสำเร็จ ล้วนแนะนำว่า เขียนให้คนไม่รู้กฏหมายอ่านก่อน แต่ยังงัยแล้วถ้าตัวเองไม่รู้กฏหมายจะเขียนอธิบายได้ยังงัย อ่านเยอะๆ เขียนบ่อยๆ ยกมือขอเล่ม 2 อย่าได้อาย ทุกวันนี้ก็ ชั่วโมงครึ่งหมด 1 เล่มแล้ว จากคุณ : lulu เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 06:12:44 A:171.4.224.158 X: TicketID:179109

ความคิดเห็นที่ 25 น้าออด จำแม่นนะคะ แสดงว่ามีการฝึกฝนอยู่ตลอด ของหนู่จบมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ตอบข้อสอบ ป.โทก็เขียนแบบเอาตัวรอดไปวันๆ ขอบคุณน้อง จขกท. และน้าออด ที่มากระตุกอารมณ์ ให้นะคะ จะกลับไปรื้อฟื้นวิชา หัดเขียนตอบข้อสอบ ไว้สอบ ผู้ช่วยปีหน้าค่ะ หลังจากหลงระเริงกับการทำงานมาหลายปี จากคุณ : ริบบิ้นน้อย เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 11:24:38

ความคิดเห็นที่ 26 แต่เท่าที่จำได้ สมัยพี่เรียน  LW207 เนี้ย ต้องแยกองค์ประกอบความผิด + อธิบายองค์ประกอบความผิด แล้วค่อย วินิจฉัยและฟันธง แล้วจะได้คะแนนดี ซึ่งขั้นตอนนี้จะเพิ่มจาก อาญา1 และ อาญา3 ค่ะ พี่จำได้แค่นี้อ่ะค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับ จขกท ปล.ได้ข่าวว่าที่รามฯ จะเปลี่ยนรหัสวิชาใหม่ เป็น LA.... ไม่รู็้ว่ารุ่น จขกท. เปลี่ยนรึยัง จากคุณ : ริบบิ้นน้อย เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 11:34:31

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่มาเพิ่มเติมต่อจากน้าออดด้านบนนะครับ @ คุณ lulu ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำของคุณนะครับ ผมเองก็แอบขอสมุดคำตอบเพิ่มอยู่บ่อยๆ ในวิชาไหนที่ผมจำบทนิยาม, องค์ประกอบความผิด, ข้อยกเว้นความผิดในมาตรานั้นๆได้ แต่พอละเลงแล้วบางที่มันก็ฟุ้ง คงต้องปรับปรุงกันอีกเยอะครับ ^^ @ คุณเจ้าชายฯ ขอบพระคุณสำหรับข้อคิดเห็นของคุณเช่นกันขอรับ ^^ @ พี่ริบบิ้นน้อย ถ้าผมจำไม่ผิดรหัส LA ตอนผมเข้าเรียนในรหัส 52 นั้น ก็เปลี่ยนแล้วนะครับ แต่เริ่มมาตั้งแต่รุ่นไหนก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เข่น อาญา 1 ตอนนี้เป็น รหัส LA 206 มั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด วันก่อนผมได้ยินกลุ่มเด็กใต้ที่อ่านหนังสือแถวๆห้องสมุดพูดคุยกันว่า ในเร็วๆนี้รามอาจจะเปลี่ยนรหัสอีก เป็น 5 ตัว !!!! อาจจะเป็น LA??? 206 อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จประการใด ^^ จากคุณ : นักศึกษา เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 12:01:50 A:125.24.122.169 X: TicketID:354956