18+ช่วยด้วยค่ะเผลอมีsexเเล้ว เราจะตั้งเงื่อนไขให้เเฟนมาหมั้นดีไหม? (กะทู้เดิมหาย)
|
|
(กะทู้เดิมหายไปมันขึ้นว่า Not found งงมากเลยค่ะ กำลังจะตอบคอมเม้น อยู่ดีดีหายไปเฉยเลย T_T ต้องการโพสเพื่อรับฟังมุมมองความเห็นของหลายๆท่าน เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยจริงๆ หวังว่ากะทู้นี้จะไม่โดนลบอีกแล้ว - -)
ค่ะ เราอายุ 22 กำลังเรียนอยู่ปีสี่ที่มหาลัยรัฐ(ป.ตรี) เเฟนเราอายุ 27 เรียนอยู่ ม.รัฐ(ป.เอก)
เรากับแฟนเจอกันที่เว็บไซต์หาคู่เว็บหนึ่ง คุยกันถูกคอจนรู้สึกว่าปิ๊งกัน เราประทับใจเขาที่เขาเรียนเก่ง นักเรียนทุน เป็นติวเตอร์ หาตังเองรับผิดชอบได้ และออกแนวธรรมะธรรมโม และเขาก็บอกชอบเราที่เราเป็นคนดูมั่นใจดี เลยตัดสินใจคบกันเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ปี 54
หลังจากนั้นก็นัดเจอกันที่ร้านอาหาร(ตอนนั้นทำงานที่ร้านอาหารด้วยค่ะ) เจอกันก็คุยกันชอบกัน ก็โทรคุยติดต่อกันมาเรื่อยๆ แสดงตัวตนกันและกันออกมาให้มากที่สุดโดยที่ไม่เฟคโดยเราตั้งเงื่อนไขว่า จะไม่ยอมมี sex จนกว่าแต่งงาน เขาก็บอกว่าเขารอได้ เขาดูใส่ใจเราดีโทรหาทุกวัน
จากนั้นก็คุยกันได้ประมาณ 8 เดือน เขาก็ไป-มา หาสู่เราตลอด (เราอยู่สาทร พี่เขาอยู่พระราม 2) และระหว่างที่คุยกัน 8 เดือน เค้าตื้ออยากมาที่ห้องเรามากๆ เราก็ไม่ให้มาเพราะกลัวว่ามันจะเลยเถิดไปสู่เรื่องอย่างว่า ก็มีทะเลาะๆกันนิดหน่อย นานๆครั้ง เราก็ถามถามเค้าเสมอ ไหนบอกตกลงกันแล้ว? เค้าก็บอกกับเราว่า พี่ไม่ได้ต้องการ sex เค้าแค่ต้องการอยากกอดเราเฉยๆ อยากมี area ส่วนตัวบ้าง เวลาเจอกันอยู่ตามห้าง ตามสวนสาธารณะ ไม่มีโอกาสได้จับมือ หรือหวานๆกุ๊กกิ๊กเหมือนคนอื่นๆบ้างเลยหรือ ถ้าพี่ปลดกระดุมสักเม็ด หรือ ยุ่งส่วนล่างพี่ให้เราเลิกได้เลยหรือยังไม่ลองให้พี่ขึ้นห้องดูเลย แล้วจะรู้เหรอว่าพี่เหมือนที่เราคิดรึป่าว ไอเราก้เริ่มคิด ใจจริงๆอยากจะกอดมากๆ แต่ด้วยศักดิ์ศรีและกลัวว่ามันเลยเถิดเลยข่มใจมาจนครบ 8 เดือน
จนกระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 9 ของการคบกัน (เมษายน 55)เราขอให้พี่เขาช่วยแปลงานให้บทหนึ่ง เขาก็รับปากว่าแปลให้ทั้งๆที่งานเขาก็เยอะมากๆ ไหนจะสอบ แต่เขาก็อยากช่วย โอเคเราเลยบอกเขาว่าจะให้รางวัล(หอมแก้ม) แค่นั้น ครั้งแรกของการที่พาเค้ามาห้อง เรามีเพื่อนอยู่ด้วย พอเพื่อนกลับไปแล้ว ....เราก็ยังไม่ได้มี sex กัน แค่นอนกอดกันเฉยๆ ยังไม่มีอะไร แต่ก็แอบตื่นเต้นเล็กน้อย 5555+ จนกระทั่ง....
วันที่ 6 เมษา 55 เค้ามาหาเราที่ห้อง (เพราะไม่ได้เจอกันนานคิดถึง) ก็เลยไปกินข้าวแล้วก็มานั่งเล่น นอนกอดกัน พอสักพักนี่อ่ะสิคะ... เหอะๆ เราก็มีอารมณ์ เค้าก็มีอารมณ์ (ในใจมันต่อต้าน เอา/ไม่เอา จะดีเหรอ ถ้าเราโดนทิ้งขึ้นมาอ่ะ) ลูบไปลูบมาอยู่นาน 55 เอาเป็นว่าก็มีอะไรกันแต่แบบไม่สอดใส่น่ะค่ะ เราก็ทำให้เขาเพราะด้วยความที่รักเขาจริงๆ อยากให้พี่เขามีความสุข เขาก็ดูชอบมากๆเขาบอกว่าไม่เคยมีใครทำให้แบบนี้เลย .. คืนนั้นเราเริ่มเครียดอ่ะสิคะ เริ่มกลัวว่าเขาจะคิดว่าได้มาง่ายไหม(เพราะตอนแรกอุดมการณ์ไว้หนักแน่นมาก) เริ่มกลัว กังวล กลัวความไม่มั่นคง กลัวใจ ผชเปลี่ยน กลัวหมดคุณค่า เพราะมันเกิดจากอารมณ์ทั้งสองพาไปล้วนๆ แต่เราก็ไม่บอกให้เขารู้ว่าเราเครียด เรากลัว
หลังจากนั้น วันที่ 7 เมษา 55 วันต่อมาอ่ะค่ะ พี่เขาก็หาเหตุผลมาหาเราอีก(เหมือนจะติดใจ 55) เหมือนเดิมค่ะ กอดกัน ไปมา ก็เข้าอีหรอปเดิมคือ มี sex แบบไม่สอดใส่ระหว่างที่มีไรกันเค้าขอให้เราใส่ชุด นศ.ด้วยอ่ะ ไอ้เราก็อึ้งๆ แบบ งงค่ะเหอะๆ สำหรับเรามันเหมือนบ้า เครื่องแบบ นศ.เหมือนโรคจิตยังไงไม่รู้ เหมือนเก็บกดยังไงบอกไม่ถูกอ่ะ
แต่ที่ทำให้ทั้งหมดเพราะเราก้อยากทำให้เขามีความสุข อยากคบกันไปนานๆจนถึงวันแต่งงาน แต่พอเขากลับไปเราก็มานั่งต่อต้านกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจตัวเองอีกเหมือนเดิมคือ กลัวการโดนทิ้ง,กลัวหมดค่า,กลัวเห็นว่าเราง่าย,กลัวมันนอกใจไปกิ๊กเดก นศที่อื่น คืนนั้นพอเค้าโทรมาเค้าก็บอกว่ากลัวเราเครียด ไม่อยากให้เราเครียด คิดไปคิดมาคนเดียวจนถึง ณ วันนี้ ที่มันเกิดคำถามในใจขั้นมา.. ว่า.. 1. เราจะหาโอกาสอันใกล้นี้พูดกับเขาให้เขามาขอเราหมั้นเพื่อความสบายใจของเรา เพราะ เราเห็นว่ามันเป็นการให้เกียรติ์ฝ่ายเรา และครอบครัวของฝ่ายเรา
คุณคิดว่าที่เรากำลังจะทำมันโอเครึปล่าว มันมากไปรึปล่าว แค่หมั้นแหวนวงเดียวมันไม่น่าจะหนักหนาอะไรใช่ไหม ก็ปากเค้าบอกว่ารักเรา มีเราคนเดียวนี่นา มันก็เป็นหลักทดสอบไปเลยว่าเค้าจริงจังกับเราแค่ไหน (บ้านเค้าก็เป็นคนจีนลูกชายคนเดียวด้วยนะ) ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหม มันจะเป็นวิธีที่วัดใจกันไปได้ไหม ดูวิธีการตอบคำถามของเขา ดูลักษณะทางบ้านเค้า มันจะรีบเกินไปรึปล่าว พวกคุณคิดว่าไง ?
2.ซื้อใจโดยใช้ความรักไปเรื่อยๆ ให้เค้ามาขอเราหมั้นเอง โดยที่เราไม่เอ่ยปากเรียกร้องอะไรจากเขาเลย จริงๆ ใจเราเทไปข้อนี้นะ แต่พอมานั่งคิดถึงเหตุผลความเป็นจริง มันดูงมงายยังไงไม่รู้ เผลอๆจะเสียตัว เสียใจ เสียเวลา ฟรีๆปล่าวๆ ดีไม่ดี คบไปคบมา เผลอ อิคึกันจริงเข้าสักวัน55+ แล้วจะเอาอะไรมาเป็นหลักประกันหล่ะถ้าถึงวันนั้น ??? เราเป็นลูกคนเดียว หลานสาวคนเดียว ด้วย
วันนี้มาในฐานะคนตั้งกะทู้ค่ะ เคยมาแต่ในฐานะคนอ่านกะทู้หลายปี เราเลยขอความจริงจัง จริงใจในการโพสนิดนึง และพร้อมจะเคารพคำคอมเม้นทุกๆท่าน ขอบคุณค่ะ. :)
จากคุณ |
:
ครั้งเเรกที่โพส
|
เขียนเมื่อ |
:
11 เม.ย. 55 14:27:36
A:49.228.109.41 X: TicketID:355330
|
|
|
|