เป็นความคิดของผู้ที่กำทุกธุรกิจโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคและบริโภคไว้ในมือเขามีกำลังที่จะจ่ายค่าแรงงานได้สูงเพียงใดก็ได้
และมาขึ้นราคากับสินค้าที่เขาผลิตขึ้นมาขาย
ซึ่งประชาชนจำเป็นที่จะต้องบริโภค
เขาจึงแทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรกับการขึ้นค่าแรงงาน
ตรงกันข้ามกลับได้รับผลดีจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
และเขาสามารถขายสินค้าได้เท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม
ผิดกับธุรกิจขนาดกลางหรือเล็ก เช่น SME
ซึ่งจำเป็นต้องขึ้นค่าแรงให้กับลูกจ้างตามกฎหมาย
แต่บางรายไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าที่ผลิต
ให้เป็นไปตามภาวะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นได้
จะด้วยสาเหตุที่ว่าสินค้าที่ผลิตน้้ันไม่ใช่สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
หรือเป็นสินค้าที่ยังไม่อยู่ในความนิยมของผู้บริโภคก็ตาม
สุดท้ายผู้ผลิตรายย่อยก็จะต้องค่อยๆหายไปจากวงจรธุรกิจ
ผู้มีพละกำลังที่กล้าแข็งแล้วเท่านั้นที่จะคงอยู่ได้
แล้วในประเทศไทยปัจจุบันนี้
ใครจะเป็นกลุ่มทุนที่สามารถในการดำรงอยู่
ภายใต้ทฤษฎีสองสูงนี้ได้บ้าง???
คู่แข่งขันทางธุรกิจที่หายไป
แม้จะเป็นรายเล็กรายน้อย
แต่เมื่อหายไปหลายรายเข้า
ผู้ที่สามารถคงอยู่ก็กลับจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น