ความคิดเห็นที่ 1 รู้ไปใยให้ใจเจ็บ จากคุณ : จี๊ดดด เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:10:44 A:210.77.24.138 X: TicketID:216612

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่มีใครจริงใจกับคุณครับ จากคุณ : ชอบเลี้ยงปลา เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:30:33

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงเวลา เราจะรู้ด้วยเองแหละน้อง ว่าจีบหรือแค่คุยไปเรื่อยๆ มันจะมากขึ้นๆไปตามเวลาของมัน แต่ถ้าถึงวันนั้นยังไม่แน่ใจ เอาแบบพี่มั้ย ถามเลยคิดยังไงกะเรา คิดขนาดไหน พี่ถามหมด กลัวพลาดไม่อยากคิดไปเอง อดีตไม่รู้นะ บางคนอยากรู้บางคนไม่ชอบที่จะรู้ อยู่ที่ 2 คนแลกเปลี่ยนกันมากกว่า เขาเล่าบ้าง เราเล่าบ้าง ความสนิทสนมคุ้นเคยมันจะนำพาเราไปเอง ว่าควรจะพูดถึงมั้ย วิธีรับมือ สำหรับคนแบบเราๆ ง่ายๆรักตัวเองก่อน ไม่ต้องตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ ไม่ใช่ ไม่คลิก ก็คบเป็นเพื่อนได้ค่ะ รถไปเสียแถวๆบ้านเขาก็ยังไหว้วานกันได้ จากคุณ : เบรานิ่ง เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:33:17

ความคิดเห็นที่ 4 ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ครับ จากคุณ : กบต้มยำ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:38:09 A:118.172.162.164 X: TicketID:350891

ความคิดเห็นที่ 5 แท้ที่จริงแล้ว เรื่องในอดีตของคนที่เราสนใจ ..เป็นสิ่งที่อยากรู้อย่างยิ่ง จากคุณ : กะลาน้อย เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:42:20

ความคิดเห็นที่ 6 คุยกันนานหรือยังครับ? บางทีทั้งสองคนก็ต้องลองคุยกันไปเรื่อยๆ ก่อนครับ ศึกษากันไปเรื่อยๆ แรกๆ อาจใช้คำว่า "ชอบ" แบบว่าถูกใจเลยกด Like ถ้ายังศึกษากันได้ไม่นานพอ ยังรู้จักกันไม่ดีเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ก็คงยังไม่ชัดเจน ส่วนเรื่องราวในอดีตก็คงมีบ้างที่ต้องเล่าสู่กันฟัง อาจไม่หมด น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญๆ สำหรับทั้งสองคนที่ควรรู้ไว้(บ้าง) เพราะบางเรื่องพอมารู้ทีหลังอาจเป็นสาเหตุขุ่นมัว ที่จะเป็นจุดเริ่มต้น ของปัญหาได้ครับ วิวัฒนาการความรักและความรวดเร็วในเรื่องความความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ก็ต่างกันไป บางคู่เปิดใจคุยกัน บ่งบอกความชัดเจนของตัวเองตั้งแต่แรก  ชื่อสัตย์ต่อกัน ก็จะพัฒนาไปได้เร็ว จนเป็น"ความรัก"  แต่ สำหรับคู่ที่ยังไม่ชัดเจน หรือคนที่เราคบอยู่ยังไม่แน่นอนหาจุดยืนไม่ได้ ก็คงต้องลองคุย ศึกษาไปเรื่อยๆ "เวลา...คงช่วยอะไรไม่ได้น่ะครับ คนสองคนต่างหากที่ต้องเปิดใจคุยกัน ถึงจะได้คำตอบครับ" เอาใจช่วยครับผม จากคุณ : I'm so small (Small Island) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:43:34

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องชัดเจนเรื่องคำพูดที่เรียกว่าแฟนด้วยครับ ไม่งั้นตอนหลังเค้าจะบอกกับคุณได้ว่า ผมเคยขอคุณเป็นแฟนด้วยเหรอ... จากคุณ : anaconda_l เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:47:41

ความคิดเห็นที่ 8 เขาไม่อยากรู้ก็ดีแล้ว เรื่องบางอย่างเก็บไว้กับตัวบ้างดีกว่า ไม่ต้องไปเล่าจนหมดเปลือก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องแฟนเก่า ไม่ต้องจาระนัยว่าทำท่าโลดโผนกันขนาดไหน ยังไง... ลงท้ายไอ้ที่พูดๆ ไปนั่น หวนกลับมาทำร้ายตัวเองเวลาทะเลาะกัน จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:53:59

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าผู้ชายเป็นคนต่างชาติ บางชาติ เขาจะไม่มีอารมณ์มาแบบ"เป็นแฟนกันเถอะ" แต่การกระทำ มันจะบ่งบอกเองอย่างแน่ชัด ส่วนการที่ไม่สนประวัติ มันก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้สนใจคุณจริงๆ หรือก็เป็นไปได้ว่าเขารักที่ตัวคุณในปัจจุบัน ไม่สนใจอดีต ส่วนพวกชอบพูดจาหมาหยอกไก่ ก็แค่โยนหินถามทาง ถ้าคุณโอเค ทุกอย่างมันก็จบ(บนเตียง) ใครจริงใจ ไม่จริงใจ ผมเชื่อว่าเซ้นส์ของผู้หญิงแยกแยะออกครับ จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:56:14

ความคิดเห็นที่ 10 อดีตไม่สำคัญก็จริงครับ..แต่ถ้าเราเล่าให้ฟัง..แล้วเขาไม่สนใจที่จะฟัง..ก็น่าคิดนะ.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:03:04

ความคิดเห็นที่ 11 ระวังนะครับ    ให้มาถึงห้อง  หากแบบง่ายๆ เดี๋ยวก็คิดว่า  เคยง่ายกับใครมาหรือเปล่า   บางคนเป็นแบบนี้จริงๆ ผมคบกับแฟนก็ไม่ได้สนใจเรื่องอดีตนะ    แค่ถามมีใครจีบอยู่หรือเปล่า  แต่ก็พอรู้มาก่อนแล้วล่ะ ตอนนี้ก็  2 หน่อ  อิอิ จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:14:48

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเก๋.................... เป็นธรรมดาของคนสวยแบบคุณเก๋ ที่จะมีคนเข้ามาเยอะแยะ....แต่เหมือนจะบอกไปหลายครั้งแล้ว ว่าอย่าเพิ่งรีบร้อน อย่าเพิ่งรีบรัก คนดีเข้ามา เราก็ศึกษา พูดคุยไปเรื่อยๆ....ใช้เวลาให้ช้าๆ ค่อยๆ ดู ค่อยๆ ตัดสินกันไป เรื่องอดีตของแต่ละฝ่ายจะเล่า ไม่เล่า...พี่มองว่ามันเป็นเรื่องของจังหวะ ว่าคนๆ นั้น สามารถทำให้เราไว้ใจ เชื่อใจ จนเล่าเรื่องอดีตได้เมื่อไหร่มากกว่า ส่วนคนไหน..รุกเร้าอยากมาหา มาที่ห้อง ให้ปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใยไปเลยค่ะ....มีแต่ผู้ชายหน้าม่อเท่านั้น ที่จะทำแบบนี้....เก๋ คิดว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้ไหม เมื่อต้องอยู่ 2 ต่อ 2 ในที่ลับตาคนแบบนั้น เมื่อเขาไม่ให้เกีรยติเรา..เราก็ไม่สมควรจะให้เกียรติเขาค่ะ....... เป็นพี่..พี่ด่านะ ด่าแรงด้วย ไม่ถนอมน้ำใจ ไม่กลัวว่าจะน่าเกลียดหรืออะไรหรอก จากคุณ : ขาวสวยหมวยสาว เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:26:03

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วผู้ชายสมัยนี้ เป็นอะไรกัน มาทำเป็นจีบ มารุกเราเต็มที่ (และซึ่งเรากะเค้าก็คุยกันตลอดเว ประหนึ่งว่าเป็นแฟนกัน) แต่เอะอะอะไรก็ชอบมาแหย่หรือพูดจริงไม่รู้ว่าจะมาห้องเรา จะรับมือกะผู้ชายหรือปฏิเสธยังไงดีเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดอ่าคะ จากคุณ : เขาวานให้หนูรับบทอลิซาเบธสวอน   ---------------------------------------------- คุยกันตลอดเวลา ประหนึ่งว่าเป็นแฟนกัน? ก็แสดงว่าเราเปิดรับเค้าในระดับนึงเลยนะ แบบนี้ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็น่าจะคิดว่าเก๋มีใจให้ ก็เลยไปนเต็ปต่อไปทำเป็น"หมา"หยอกไก่อยากไปหาที่ห้องตลอดๆ ถ้าเป็นตัวเอง ผู้ชายที่เพิ่งคบกันมาทำแบบนี้ ต้องคิดว่ามันต้องอยาก"ฟัน"เราแน่นอนเลยอ่ะ หรือจากการที่เก๋เปิดโอกาสให้เค้า คุยกันประหนึ่งแฟนขนาดนั้น ก็เลยได้คืบจะเอา...ศอก ลองดู...เผื่อฟลุ๊ค ถ้าเรายอมให้เค้ามาหาที่ห้องก็เท่ากับว่าเราเปิดโอกาสให้... ยังคบกันไม่นาน ยังไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงกันเลยก็อย่าเสี่ยงเลยเนอะ เค้าอยากมาหาที่ห้องก็ปฏิเสธไปเลยว่านัดเจอกันข้างนอกดีกว่า ไม่ต้องมีเหตุผลประกอบใดๆ... แค่นี้ผู้ชายก็น่าจะรู้แล้วว่า ณ ตอนนี้แกไม่ได้แอ้มชั้นหร๊อก...ถ้ารักจริงก็ต้องพิสูจน์ตัวเองนะจ๊ะ เรื่องแบบนี้ต้องดูกันไปนานๆนะเก๋ ผู้ชายก็มารยาเยอะเหมือนกันนะจ๊ะ ดูๆกันไปเรื่อยๆก่อนดีกว่าเนอะ หนทางอีกยาวไกล การเลือก"คู่ชีวิต"เลือกคนที่จะมาใช้ชีวิตอยู่กับเราไปจนแก่เฒ่า ต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันไปอีกหลายสิบปี เสียเวลาในการตัดสินใจเลือกคนที่ใช่ 5 ปี หรือแม้กระทั่งเป็น 10 ปี...ก็เป็นการรอคอยที่คุ้มค่าจ้า! จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:27:34

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นเป็นคนนึงนะคะที่ไม่ถามเรื่องอดีตของสามีเลย แล้วเราไม่ต้องการรู้ด้วยค่ะ เราจะบอกเค้าเสมอว่าไม่ต้องเล่าอะไรทั้งนั้น เพราะว่าเรารักไงคะ อยู่กับเราแล้วก็มีเพียงแต่เรื่องของเราก็พอ ถามว่ารู้แล้วจะสบายใจหรอ รู้แล้วมันทำให้ชีวิตดีขึ้นหรอ ไม่หรอกค่ะ ต่อไปจะมีแต่การประชดปนะชันกันเสียอีก เราถึงเลือกที่จะไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : Imphamog เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:32:51

ความคิดเห็นที่ 16 นั่นแน่ๆ ๆ ๆ ร้ายนะ นั่นแน่ๆ! แฮ่.. ไม่รู้สิ ถ้าจะคบกันจริงจังก็น่าัจะคุยกันให้รู้เรื่องอะ ไม่รู้สิ หรือมันเป็น pattern ไปรึเปล่า เราไปเดทกัน เริ่มรู้สึกดีๆ ต่อกัน ห่วงกัน สนิทกัน ตกลงคบกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่เราว่ามันก็เป็น pattern ที่น่าทำนะ จะได้เข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่ายและไม่เสียเวลา แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้หญิงหรือผู้ชายควรจะเอ่ย หรือเอ่ยพร้อมๆกัน แฮ่.. ยกเว้นแต่ "รักสนุกไม่อยากผูกพนธ์ ดูและกันและกันไปจนกว่าวันเธอเบื่อ" ก็ค่อยว่ากัน เห้อ... ขึ้นชื่อว่าผู้ชายอะนะ... หึหึ ที่เค้าไม่อยากสนอดีตเรา 1. เห็นว่ามันไม่สำคัญ ทุกอย่างเริ่มต้นได้ใหม่ ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมาชั้นรับด้าย ประมาณ 10% 2. ไม่สนใจ เพราะไม่อยากสน อยากจะพาเธอไปจุ๊กกาดู้กันสองคนอะ สนป่ะๆ 90% ปล. ยิ่งถ้ารู้ว่าเรากำลังอ่อนแอเหมือนหอยแมลงภู่ที่ต้องการเสายึดเกาะ ระวังโดนฉวยโอกาสแบบ "ไอ้โอมมี่" แต่นี่ไม่ได้ฉกตังค์นะ แต่จ้องโจ๊ะไข่แดงอะ.. นะ จิ๊บิๆๆ จากคุณ : ปลาทองตุบๆ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:33:30

ความคิดเห็นที่ 17 อดีต  ถ้ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่น่าจดจำ  ก็ไม่อยากไปรู้อะไรเขาหรอก  อยากบอกเธอคงบอกเราเองแหละ  ผมคิดงี้นะ ส่วน มานัวเนียวอแวอย่างที่ว่ามา แล้วไม่เคยบอกว่ารักว่าชอบเลย ...ถ้าคบกันถึงจุดๆหนึ่ง บางครั้ง การกระทำ ก็ สำคัญกว่าคำพูด ถึงขนาด เช้าถึง เที่ยงถึง เย็นถึง  จ๋าจ๊ะๆ กินข้าวรึยัง ร้อนมั้ย รถติดปะ เหนื่อยมั้ย  ฝันดีนะ  วันพิเศษจำได้หมด  วันเกิดหมาที่บ้านยังจำได้ มีไปมาหาสู่ ไปกินข้าวบ้าง ดูหนังบ้าง ไปทะเลบ้าง ภูเขาบ้าง  ออกงานด้วยกันบ้าง  ไปหาผู้ใหญ่ของแต่ละคนๆ  รู้ชื่อพ่อชื่อแม่ ปู่ย่าตายายบ้าง มีอวจนภาษา เช่น จับมือบ้าง จับผมบ้าง โอบได้บ้าง ยังงี้ น่าจะเรียกว่า จีบถึงขั้นเป็นแฟนแล้วละ  ถ้า อีกฝ่ายตกลงนะ   แต่ถ้าจะให้ชัวว์  ก็ถามสิครับ  คุณคิดกับฉันยังไง เป็นเพื่อนหรือเป็นแฟน... บางครั้งฉันอยากถาม  ถามตัวเธอสักหน เรื่องราวของเราสองคน ควรจะลงเอยยังไง บางครั้งฉันแอบเห็น เห็นเธอเดินควงใคร มันเหมือนมีมีดกรีดใจ  หวงเธอใช่ไหมคนดี ฉันเลยต้องถาม ถามเธอบอกเธอ ตลอดเวลานะเออที่เธอคบกับฉัน เธอคิดกับฉันยังไง เป็นเพื่อนหรือเป็นแฟน แต่ฉันรักเธอนักแรง  รักหวงคิดถึงตลอดไป ** แล้วเธอล่ะรักฉันม่าย  ฉันถามไปเพราะอยากรู้ แล้วเธอคิดถึงฉันม่าย เหมือนที่ใจฉันคิดถึงแต่เธอ บางครั้งนอนละเมอ บางคราวฉันก็เผลอ ว่าเธอรักฉันม่าย ฉันถามไปเฉยๆ ไม่รักก็บอกมาเลย  อย่าปล่อยล่วงเลยเวลา จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:49:37

ความคิดเห็นที่ 18 ความเห็นส่วนตัวคะ ... มาแบบก้อล่อก้อติดแบบนี้ เป็นเราจะถามไปเลยว่าคิดกับเราแบบไหน ..... ถ้ามาเล่นๆ แก้เหงา ให้ไปหาข้างหน้าค่ะ แต่ถ้าคิดอยากเป็นแฟน ก็ต้องคุยกัน ขอบเขตในการคบคะ จะมาขออยู่ ขอค้าง ตอบไปเลยคะว่าไม่ได้ อย่าใจอ่อนนะคะ ดูใจกันไปนานๆก่อนดีกว่า ...... ส่วนที่เค้าไม่ชอบเล่าอดีตของตัวเอง (เรื่องความรัก) .... ก็มี 3 แบบคะ คือมีอะไรบ้างอย่างปกปิดเราอยู่, มีอดีตขมขื่นเจ็บปวดไม่อยากเล่าเยอะ (แต่สำหรับ เราว่าสมควรเล่าบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี รู้แล้วจะได้สบายใจหน่อย) และไม่เคยมีแฟนมา ก่อนมีรักนี้เป็นครั้งแรก (แบบนี้น้อย) เราว่าคุณคบกับเค้าไปนานๆ อาจจะรู้คำตอบก็ ได้คะ ...... **จากคำสนทนาที่คุณเล่า ... คาดว่าผช.คนนี้น่าจะเจ้าชู้เหมือนกัน ดูดีๆนะคะ จากคุณ : แมงมุมดำ (สาวน้อยริมบึง) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 14:35:45

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าผมสนใจใคร ผมจะสนใจทุกรายละเอียด ทุกรูขุมขน อิอิ แต่ก็ไม่ได้บังคับนะ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก ที่ผมสนใจจริงๆ ก็คือ "อะไร" ที่ทำให้เค้าเป็นคนแบบนี้ แต่บางทีรู้มากไปมันก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน มันเหมือนเป็นการล่วงล้ำอธิปไตยของเค้าน่ะ อะไรที่อยากจะให้เค้ารู้ก็บอกเค้าเองละกัน จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 14:39:04

ความคิดเห็นที่ 20 คุณเก๋คะ ดีใจมาก ที่เห็นกระทู้แนวนี้ของคุณ ซึ่งคุณคงรู้ว่าเพราะอะไร ดีใจที่หลุดพ้น ดีใจที่มีคนมาให้ศึกษา อย่าลืมนะคะ หลายๆคนที่เข้ามา เขาอาจรู้ประวัติคร่าวๆ ของคุณมาแล้ว บางคน ก็เข้ามาแบบจริงจัง บางคนก็อาจเอาตรงนี้เป็นจุดอ่อน เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ค่อยๆศึกษาไปค่ะ ดูภูมิหลัง และนิสัยให้ดีๆ คุณเก๋เป็นคนมีฐานะพอควร (เท่าที่เคยอ่านกระทู้มา) และก็หัวอ่อนมากๆด้วย อาจมีคนหวังผลอะไร จากคุณ ตอนนี้ เลือกได้ เลือกเลยนะคะ ไอ้ประเภทเข้ามาแบบน่าสงสาร อย่าไปชายตาค่ะ ตอนแรกก็ไม่เอาอะไรหรอก ให้ก็ไม่เอา หลังจากนั้น คุณอาจโดนทั้งร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน (คนแรกคุณโดนแค่ทรัพย์ กะจิตใจ ยังดีที่ไม่โดนทำร้ายร่างกาย) ไอ้แบบรุกมากๆ มันก็แค่หวังฟัน อย่าไปสนนะคะ (กันไว้ก่อน ศึกษาไปเรื่อยๆได้) สุดท้าย เราว่า ให้เพื่อนผู้ชาย ช่วยดู เพื่อนกะเทยช่วยเลือก และ ผู้ใหญ่ช่วยพิจารณา และ ดูนานๆค่ะ จากคุณ : กุ้งเคย เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 16:14:10

ความคิดเห็นที่ 21 ขอโทษนะถ้าคำตอบเราจะทำให้คุณไม่สบายใจ ถ้าคุณมีใจให้เค้านะ เราว่า เค้ายังไม่ใ่ช่สำหรับคุณอ่ะ มันดูโหวง ๆ พิกล แต่ที่แน่ ๆ คุณอย่าให้เค้าเข้าใกล้ที่พักคุณอย่างเด็ดขาด อย่าไปเที่ยวด้วยกันจนดึกดื่น จนเค้าหาเหตุทำอย่างที่พูดได้ เป็นกำลังใจให้จ้ะ .... จากคุณ : เบดูอิน เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 16:14:42

ความคิดเห็นที่ 22 เพิ่มนะ ใครจะรู้ บางที เขาอาจจะได้ยินคนพูดถึงคุณแบบ เพิ่งเลิกกะสามีมา โดนหลอกไปหลายแสน แต่มันมีตังค์ ไม่เดือดร้อน ได้ยินปุ๊บ เข้ามาปั๊บ แล้วพวกนี้มาแบบมาดดีทั้งนั้น เป็นห่วงนะคะ ทำบุญเยอะๆ จะได้เจอคนดีๆกะเขาซะทีค่ะ จากคุณ : กุ้งเคย เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 16:16:41

ความคิดเห็นที่ 23 ผมไม่เคยอ่านเรื่องของคุณเก๋มาก่อนเลย ขอให้โชคดีนะครับ พยายามตั้งสติหน่อย แล้วคุณจะแยกแยะได้เองว่าใครมาดีใครมาร้ายครับ จากคุณ : jom_bk เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 17:07:32

ความคิดเห็นที่ 24 ผมไม่สนหรอก เรื่องในอดีตมันก็ผ่านมาแล้ว ผมจะมาใส่ใจให้มันบั่นทอนความสัมพันธ์ทำไม ถ้าผมตกหลุมรัก ต่อให้คุณผ่านผู้ชายมาแล้วทั้งโลก ผมก็จะรักคุณ ผมสนปัจจุบันมากกว่า เพราะปัจจุบันของเรามันเป็นตัวบ่งชี้อนาคต หากปัจจุบันของคนสองคนมันดี มันก็มีโอกาสที่อนาคตจะดีตามไปด้วย ก็ขนาดคำสอนของชาวพุทธยังสอนให้คนเราอยู่กับปัจจุบันเลย "เมื่อวาน" มันก็ผ่านไปแล้ว ส่วน "พรุ่งนี้" ก็ยังเดินทางมาไม่ถึง "วันนี้" ต่างหากที่มันกำลังอยู่ต่อหน้าเรา และต้องใส่ใจกับมัน บางทีการตกหลุมรักของคนเรา มันเป็นเรื่องของอารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่บางทีนั้น เหตุผลก็ควรจะนำหน้าอารมณ์ ไม่มีใครบอกคุณได้ และไม่มีใครแนะนำคุณได้หรอกครับ ที่ต้องทำก็คือ ให้สัญญชาติญานในตัวคุณมันบอกคุณเอง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร จงอย่าหยุดที่จะรัก เพราะหากว่ารักมันเดินมาทักทายแล้ว นั่นแสดงว่า "พระพรหม" กำลังทำหน้าที่ของท่านอยู่ครับ จากคุณ : ตุ้ม (Toom McCartney) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 20:05:08

ความคิดเห็นที่ 25 หาโอกาสจะมาที่ห้อง      ขอโอกาสจะค้างที่ห้อง      ในฐานะผู้ชาย...........      ผมบอกว่า เขาจ้องจะ "ฟัน" คุณ แน่นอน      แต่ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน เท่านั้น      มีสติ และใช้ปัญญา นะครับ จากคุณ : ว่าวปักเป้า เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 21:14:47

ความคิดเห็นที่ 26 เรื่องในอดีต  สำหรับเรา  เราอยากรู้ครึ่งหนึ่ง ไม่อยากรู้ครึ่งหนึ่ง ที่ว่าอยากรู้  ก็อยากรู้จักเขาเพิ่มขึ้นเท่านั้น  ได้รู้พื้นเพความเป็นอยู่ นิสัยใจคอ   ส่วนที่ไม่อยากรู้  ก็เพราะไม่แน่ใจว่า จะมีเรื่องที่ทำร้ายจิตใจ สะเทือนใจคนเล่า คือ ตัวเขาเองหรือเปล่า  ไม่อยากให้คนที่เราแคร์ต้องเสียใจซ้ำเพราะพูดถึงเรื่องในอดีต เรื่อง ช มาจีบ  โดยส่วนตัวคิดว่า  ให้ตามจีบเราไปสักพักละกัน  ขอดูความสม่ำเสมอและความจริงจังหน่อยละกัน ค่อยเริ่มรับพิจารณา  จะรับเป็นแฟนหรือเปล่าตอ้งพิจารณาอีกที (หลายที อิอิ) จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 22:07:48

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าเราอยู่คนเดียว เค้าขอมาห้อง แถวบ้านเรียก เสียมารยาท ไม่อยากลำบาก เลยขอนอนที่นี่ ซึ่งมันดูไ่ม่ดีสำหรับตัวผู้หญิง เห็นแก่ตัวไปรึเปล่า จะเอาผู้ชายแบบนี้จริงๆหรอ จากคุณ : Vnine เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 00:05:10

ความคิดเห็นที่ 28 การตกลงเป็น ควรให้ฝ่ายชาย ขอคุณค่ะ ไม่ใช่ เนียนๆมาตู่ว่าเป็นแฟนกันแล้ว แค่  ขอผู้หญิงเป็นแฟน  ยังทำไม่ได้  แค่นี้ .......  ไม่กล้าเลยเหรอ แล้วเรามองพวกที่เป็นสุภาพบุรุษค่ะ  อย่างขอมานอนห้องสาว   อย่ายุ่งเลยค่ะกับคนประเภทนี้   แค่อ้าปาก ก็เห็นถึงทวารหนักแล้ว ของเราโชคดีที่เจอกลุ่มกิจกรรมร่วมกัน เจอผู้ชายไม่มีเล่ห์เหลี่ยม รู้ประวัติกันดี ก่อนที่จะตกลงเป็นแฟน . จากคุณ : moonface เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 02:44:18

ความคิดเห็นที่ 29 "ผู้ชายสมัยนี้ เป็นอะไรกัน มาทำเป็นจีบ มารุกเราเต็มที่" มุขเก่าๆแบบนี้เรียก "หมาหยอกไก่" หยอดไปก่อนได้ก็เอา ไม่ได้ก็หยอดใหม่ ลงกับใครได้ก็ไป ส่วนใหญ่ไม่รักจริง มุขนี้เก่ามากอาจมีตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำ มุขนี้สามารถใช้กับหลายคนในเวลาเดียวกัน(ถ้าเก่งพอ-กระล่อนปลิ้นปล่อน) แบบต่างกรรมต่างวาระ และไม่แสดงขอบเขตมากนัก เพื่อไม่ให้คนที่ถูกหยอก นำไปพูดกับคนอื่น จะให้เดาๆงงๆ จนคิดไปเอง เดี๋ยวไก่ตื่นหมด สูตรนี้ตามสำนวนว่า "ดักลอบต้องมั่นกู้ เจ้าชู้ต้องมั่นเกี้ยว" (ภาษาคนกตัญญูว่า ว่างจัด งานการไม่ทำ พ่อแม่ไม่ใส่ใจ พี่น้องไม่เห็นหัว ถึงว่างไปเทียวไล้เทียวขื่อ-เทียวไปเทียวมา รักษาสมบัติ วงศ์ตระกูลไม่ได้) หญิงบางกลุ่มถ้ารู้ว่าถูกจีบ จะปฏิเสธ เชิงเยียดหยามทันที(ส่วนมาก หลงตัวเอง หัวสูง จนๆ หรือต้องเหนื่อยสร้างตัวไม่มอง) จึงต้องตะลอมใช้เชื่องแล้วตะตบที่เดียว มักใช้มุกมาตรฐาน คือ เงิน อำนาจ สบายแบบเจ้าหญิงในนิยาย แต่ตายอนาจแบบวังเกาหลีหรือเปล่าไม่รู้ ส่วนหญิงที่ดีๆ อาจแสดงมิตรภาพแทน(มักไม่สวย ต้องพึ่งพาความสามารถ หรือไม่อยากก่อบาป เพราะสำนึกผิด) การที่ชายขอไปที่ห้องตามลำพังกับจขกท. โดยไม่ได้สนิทสนมกัน ไม่ได้รู้เรื่องทั้งสองครอบครัว ส่อเจตนาเลว มากกว่าดี ชายดีๆที่ต้องการหญิงไปแต่งเป็นเมียหลวง ต้องรู้จัก หัวนอนปลายเท้ากันก่อน ครอบครัวดีไหม คุยกันรู้เรื่องไหม ความเชื่อไปกันได้ไหม ภาระรับกันได้ไหม และต้องเปิดโอกาสให้หญิง ทราบถึงชีวิตส่วนตัว สถานภาพทางครอบครัว ของฝ่ายชายด้วย เพื่อดูว่าแต่ละฝ่ายมีสันดานอย่างไร เข้ากันได้ไปกันรอดหรือเปล่า นี้จ้องจะเอาท่าเดียว อุตส่าห์ไปนอนเฝ้าหน้าห้อง สงสัยอดอยากหรือชอบของฟรีกระมัง ไม่ต้องเลี้ยงให้เปลือง กลัวว่าจะเงินที่เลี้ยงเด็กจะเลี้ยงผัวน้อยด้วย อดีต เป็นเรื่องสำคัญในบางเรื่อง ไม่ใส่ใจไม่ได้ ถ้าอีกฝ่ายเคยทำเรื่องร้ายแรง หรือมีผลกระทบมากๆ แล้วมารู้ทีหลังจะลำบาก ปรึกษาพ่แม่ ผู้ใหญ่ที่ครอบครัวดีๆ อบอุ่น อย่าฟังคำพวกมักง่าย บ้านแตกเด็ดขาด ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ ดูการกระทำ ไม่ใช่สนใจแต่คำพูด เพราะสุดท้ายผลลัพท์มีแค่เรื่องเดียว อยากได้ตัว หรืออยากได้ไปเป็นแม่ของลูก เพราะคนเราแก่ลงทุกวัน ไม่สวย ไม่เย้ายวนแล้ว จะดูดำดูดีเราไปชั่วชีวิตหรือเปล่า จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 10:50:59