ความคิดเห็นที่ 1 สวดแผ่เมตตาให้เค้ากันเถอะ  ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นค่ะ  อย่าเคียดแค้นไปเลยค่ะ จากคุณ : เสื้อเชิ้ต เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:14:17

ความคิดเห็นที่ 2 . . . โรงเรียนอะไรบอกมาเลยดีกว่าครับ จะได้รู้กันทั่วถ้วน . . . จากคุณ : ความฝันในกำมือ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:21:48

ความคิดเห็นที่ 3 เรามีเมตตา..แต่คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องมีเมตตาเหมือนเรา.. แค้นได้..แต่ก็ต้องปล่อยวาง..เพราะเราก็ได้ช่วยเด็กเต็มที่แล้ว.. ช่วยแค่ที่เราช่วยได้ครับ..สุดมือเราก็ต้องปล่อย.. จากคุณ : ครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:27:38

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ เรื่องจริงรึเปล่านิคับ ถ้าเรื่องจริง ผมอยากรู้ว่าไอ้วิทยากรนั่นมันชื่ออะไร ทำไมถึงแนะนำแบบนั้น ประเทศนี้เป็นอะไรกันไปแล้ว เรียนดีดันได้เกรดน้อย เรียนห่วยดันได้เกรดดี มีแบ่งชนชั้นอีกว่าเด็กพิการต้องได้เกรดน้อยกว่าเด็กปกติ เจริญละประเทศไทย คุณธรรมหายไปไหนกันหมด ---- รู้ชื่อวิทยากรรึเปล่าคับ ผมอยากรู้ชื่อน่ะ ผมจะได้ไม่เชิญคนแบบนี้เป็นวิทยากรน่ะ ถ้ารู้ เดี๋ยวผมทิ้งเมลไว้ให้คับ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 55 22:30:55 จากคุณ : Sieghart เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:29:19

ความคิดเห็นที่ 5 คุณความเห็นที่ 1 คะ ปล่อยวางได้อยู่ค่ะ แต่มัน...แหม.... ทีเด็กบางคนที่ดิฉันเคยสอน ก้าวร้าว สุด ๆ ไร้น้ำใจเป็นที่สุด ไม่เข้าเรียนด้วย ท่านพยายามที่จะช่วยให้จบ เด็กแบบสุภาพ.....ท่านวางเฉย....... ปล่อยวางค่ะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จากคุณ : สาวโฉด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:40:20 A:122.154.140.74 X: TicketID:213737

ความคิดเห็นที่ 6 คุณความเห็นที่ 2 คะ ถ้าบอกชื่อวิทยาลัย และ บอกชื่อ ผ.อ.บอกได้เลยว่าขึ้นกระทู้แนะนำหลายวันแน่ ๆ ................................................................................................... คุณSieghart คะ ความหมายของวิทยากรก็คือว่า มาตรฐานการให้เกรดคนพิการสำหรับวิทยากรท่านนั้นก็คือว่า ถ้าเด็กปกติทั่วไป ต้องทำให้ได้ 10 ข้อ หรือ 10 อย่างจึงให้ผ่าน ในแบบทดสอบ หรือ งานชนิดเดียวกัน ถ้าเป็นเด็กพิการ ได้แค่ 7 หรือ 8 คะแนน ก็ให้ผ่านได้ เพราะสภาพร่างกายไม่เท่ากัน หรือว่า เด็กปกติคะแนน 80 คะแนนขึ้นไป ได้เกรด 4 แต่เด็กพิการ ได้คะแนน 60-70 ก็ให้เกรด 4 ได้ นี่คือ ความเห็นของวิทยากรท่านนั้นนะคะ อย่าโทษท่านวิทยากรนะคะ จากคุณ : สาวโฉด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 22:49:21 A:122.154.140.74 X: TicketID:213737

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเราเป็นครูประจำชั้น เมื่อเด็กเริ่มเข้าเรียนห้องเรา ให้สำรวจว่าเด็กของเรามีความผิดปกติตรงไหนบ้าง เช่นมีความพิการ พิการซ้ำซ้อน หรือมีสมองที่ผิดปกติ หรือเป็น LD ADHD พวกปัญญาอ่อน สมาธิสั้น หรืออะไรก็ตาม ให้เราแจ้งผู้ปกครองให้พาเด็กไปตรวจโรงพยาบาลและโรงพยาบาลจะ ตรวจและยืนยันและให้เอกสารยืนยันพร้อมแนะแนวทางในการดูแลเด็ก เมื่อเราได้เอกสารนั้น ก็ให้เราทำบันทึกประกอบเอกสารจากโรงพยาบาล แจ้งตามลำดับบังคับบัญชา จากครูประจำชั้น -งานแนะแนว-หัวหน้าฝ่ายวิชาการ-ผอ. ทางโรงเรียนจะตีเรื่องย้อนกลับลงมาสั่งการยังครูประจำรายวิชา ครูรายวิชาก็ จะลดเกรฑ์การประเมินกรณีเด็กคนนั้นเป็นเด็กพิเศษ เช่นเด็กพิการสายตา หู หรือสมาธิสั้น หรือปัญญาอ่อน เราจะเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่าเด็กพิเศษเรียนร่วมเขา ก็จะเรียนร่วมเพื่อนในชั้นเรียนปกติแต่จะได้รับกรุณาเป็นพิเศษในการลดเกณฑ์การวัด การประเมิน ข้อดีเด็กอยู่ร่วมสังคมเด็กปกติได้ และเด็กสามารถเรียนได้จนจบ เช่นเดียวกับเด็กปกติทั้งหลายด้วย เด็กของท่านพิการทางกายเห็นชัดเจนเขา คงขึ้นบัญชีของจังหวัดไว้แล้วเพื่อรับความช่วยเหลือต่างๆ แต่กรณีพิการแบบนี้ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าต้องลดเกณฑ์ไหมอ่ะ แต่ปกติที่เจอกันพิการตา คาบอด หูไม่ได้ยิน ปัญญาอ่อน สมาธิสั้น โรงเรียนแถวบ้านเขาก็ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และเรียนจบ ม.3 ต่อม.ปลาย และจบม.6กันหมดอ่ะ ไม่มีใครตกค้างเลย จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:03:01 A:118.172.104.53 X: TicketID:358189

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยตาม คห.7 ครับ จากคุณ : ผู้ศึกษา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:14:11

ความคิดเห็นที่ 9 คุณเล่าได้ เป็นภาพยนตร์สยองขวัญมากๆ ค่ะ ให้กำลังใจค่ะ BY ROSELIA69 จากคุณ : สาวกึ่งฟาดตะกร้อตัวยง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:14:27 A:161.200.208.160 X: TicketID:360277

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติมค่ะ มีโรงเรียนบางที ที่ได้พบมา กำหนดเกณฑ์ไว้ว่า คนพิการใดๆ จะต้องได้เกรดไม่เกิน 2.5 หรือ 3.0 ก็มีค่ะ เพราะถ้าได้มากกว่าคนปกติพวกพ่อแม่คนปกติจะไม่พอใจเอาน่ะค่ะ แค่จะบอกว่ามันีจริงๆ จากคุณ : สาวกึ่งฟาดตะกร้อตัวยง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:17:11 A:161.200.208.160 X: TicketID:360277

ความคิดเห็นที่ 11 7. พิมพ์ผิดคำว่า เกณฑ์ อ่ะขอโทษ กรณีเด็กสมาธิสั้น หรือปัญญาอ่อนอะไรก็ตามเราไม่ได้ระบุง่ายๆ เพราะต้องผ่านการตรวจจากแพทย์เป็นปี ทีมแพทย์ถึงได้วินิจฉัยและให้เอกสารยืนยัน ......................................................................................................... อันนี้พูดถึงเด็กพิการเรียนร่วมแบบอื่นๆที่พิเศษมาก เพราะว่าเคยมีครูหรือผู้ปกครอง หลายท่าน มองเด็กจากภายนอกระยะสั้นโดยไม่ได้คลุกคลีกับเด็กนานๆจะมองความ ผิดปกติเด็กไม่ออก และมักจะมาพูดซี้ซั้วกันว่า ครูประจำชั้นทำร้ายเด็ก ทำไมไปแจ้ง กับครูอื่นๆว่าเขาพิการ ทำให้เขาตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น ถูกคนอื่นลดขั้นความเป็นคนของเขา ลดทอนค่าความเป็นคน หรือวัฒนธรรมข้ามคน ประมาณนั้น ซึ่งเคยได้เจอและอธิบาย ได้ว่า เราไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยโรคเด็ก แต่เด็กคนนี้ผ่านการรักษาดูแลจาก รพ.มา กว่าเขาจะระบุว่าเป็นโรคสมาธิสั้น หรือปัญญาอ่อนอะไรต่างๆทีมแพทย์ทาง รพ.ได้ ทดสอบ ด้านสติปัญญา หรือแม้สารในร่างกาย ทดสอบกันเป็นปีกว่าจะให้ใบรับรองมา คนพูดที่เข้าใจผิดถึงได้เงียบ ไม่งั้นครูประจำชั้นก็ถูกต่อว่าจากสังคมไปเพราะเด็กสมาธิสั้นบางคน บางวิชาเขาทำคะแนนได้ดีกว่าเด็กปกติอีก แต่การเรียนเขาไม่อยู่นิ่ง ไปแกล้งเพื่อนร่วมชั้นให้วุ่นวายด้วยควาไม่อยู่นิ่งของเขา และเขาต้องได้รับยาควบคุม ตนเองทุกวัน เช่นเช้ามาเขาจะวิ่งซกๆเหงื่อไหลมาเข้าแถวช้า พอในห้องก็วิ่งไปแกล้งคน นั้นคนนี้ บางทีก็จับเพื่อทุ่มแบบเล่นเกินขอบเขต และทำให้เพื่อนบาดเจ็บถ้าครูไม่ช่วยดูและและระวังเขาก็อาจทำร้ายเพื่อนโดยไม่ตั้งใจเพราะความซนเกินเหตุ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:19:04 A:118.172.108.78 X: TicketID:358189

ความคิดเห็นที่ 12 เจ้าของกระทู้มาตอบอีกครั้งนะคะ เด็กคนนี้มีบัตรคนพิการค่ะ ก่อนหน้านั้น มีเคสหนึ่ง เด็กคนหนึ่ง พิการคล้าย ๆ กัน ถูกรีไทร์.....เพียงเพราะว่าทำคะแนนได้น้อย......เพราะความพิการ ทั้งครูที่ปรึกษา ผู้บริหารก็ไม่ได้ใส่ใจเลย จากคุณ : สาวโฉด เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:24:55 A:122.154.140.74 X: TicketID:213737

ความคิดเห็นที่ 13 12.ผู้บริหารคงยุ่งมากน่ะ จริงๆแล้วอยู่ที่ครูที่ปรึกษาเมื่อรับการสั่งการจาก ผู้บริหารแล้ว ได้ทำเอกสารเวียนให้ครูประจำวิชาให้เขาลงลายมือชื่อรับทราบ เป็นหลักฐานหรือไม่ เพราะบางทีบอกๆกันก็จะลืมกันไป เราต้องมีหลักฐานว่าเขารับทราบ และหมั่นตรวจตราการเรียนของเด็ก ว่าได้รับความเป็นธรรมจากครูประจำรายวิชาหรือไม่ เช่นขอดูว่า วิชานี้มีตัวชี้วัดเท่าไรอย่างไร หรือผลการเรียนรู้อะไรที่เด็กปกติจะผ่านเกณฑ์ และลดเกณฑ์ให้เด็กพิการเรียนร่วมเท่าไร เช่นคำศัพท์อังกฤษเด็กปกติในบทนี้ ต้องได้ 10 คำ เด็กพิการเรียนร่วมได้กี่คำผ่านเกณฑ์ มองไปครูประจำชั้นออกจะรับภาระหนัก แต่ ทุก โรงเรียนเขาจะมีครูที่ได้รับการอบรมมาดูแลเด็กคนนี้เป็นพิเศษด้วย ครุประจำชั้นต้องร่วมกันครูแนะแนวและครูที่ดูแลเด็กพิการเรียนร่วมช่วยเหลือเด็กเป็นพิเศษ เพราะเด็กพิเศษนี้เราต้องนำเขาเข้าสู่สังคมปกติให้ได้ แม้ในชั้นมัธยม เพราะถ้ามัวแต่เอาฝากไว้ในโรงเรียนเด็กพิเศษ เมื่อไหร่กันล่ะที่เขาจะใช้ชีวิตในสังคมปกติได้ เราต้องช่วยกันดูแลให้เขาอยู่ในสังคมปกติให้ได้เท่าที่จะทำได้อ่า เป็นการลดภาระของรัฐอย่างหนึ่งไม่ให้คนจำนวนมากอยู่ในโรงเรียนพิเศษ และดูแลไม่ให้เป็นปัญหาของสังคม หรือไม่ให้เขาตกเป็นเครื่องมือถูกชักจูงจากคนไม่ดีเอาเขาเป็นเครื่องมือหากินทางที่ผิดๆอ่ะ เช่นส่งยาอะไรพวกนี้ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 23:45:06 A:118.172.96.60 X: TicketID:358189

ความคิดเห็นที่ 14 ระบบสังคมไทยเป็นแบบนี้ล่ะ แก้ยากครับ ถ้าดุแล้วคุยกับ ผอ. คงยาก ไปคุยกับครูเจ้าของเคสน่าจะง่ายกว่าครับ จากคุณ : Mr.T-B@cK เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 02:29:59

ความคิดเห็นที่ 15 พยายามใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์นะครับ จริงอยู่ว่าเธอน่าเห็นใจ แต่ก็ต้องพยายามแยกแยะด้วย ไม่งั้นเราจะช่วยใครไม่ได้เลย ประเด็นที่ 1 เรื่องทำไมได้คะแนนน้อย อันนี้คุณไม่ได้เป็นคนสอนเธอเอง คุณจะรู้ได้ยังไงว่าเธอทำได้หรือไม่ได้ ถ้าเธอไม่สามารถทำได้ตามเกณฑ์จริงๆ ล่ะ คุณเห็นว่าควรจะปล่อยให้เธอได้วุฒิแล้วประกอบอาชีพเย็บผ้าจริงๆ หรือ เกิดเธอไปทำแล้วได้รับอุบัติเหตุ หรือทำไม่ได้อย่างที่ลูกค้าต้องการ เธอไม่โดนหนักกว่านี้หรือครับ ผมว่าทางที่ดีคุณลองไปคุยกับครูผู้สอนเธอดีกว่า ขอดูคะแนนในการทำงาน การสอบต่างๆ ว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ ถ้าคุณเห็นว่าเธอทำได้ดีแล้ว แต่ครูกดคะแนนเกินไป จะร้องเรียนอะไรก็จะได้มีหลักฐานชัดเจน ประเด็นที่ 2 ทำไม ผอ ไม่ช่วย ผอ ก็คงมีงานล้นมือ ส่วนใหญ่ก็ต้องอ้างอิงจากเอกสารต่างๆ ที่ส่งมานั่นแหละ จะให้ไปสังเกตเด็กเป็นรายบุคคลก็คงไม่ไหว ดังนั้นถ้าคุณอยากช่วยนักเรียนคนนั้นจริงๆ ก็ต้องพยายามหาเอกสารอ้างอิง หลักฐานต่างๆ ให้มากที่สุดล่ะครับ ประเด็นที่ 3 ทำไมเด็กเกเรบางคนถึงผ่านได้ อันนี้ผมว่ามันหลากหลายเกินไปที่จะเอามาโยงด้วย ก็จริงว่าเด็กบางคนอาจมีเส้นสาย ซึ่งตรงนี้ก็คงไปทำอะไรไม่ได้ โลกนี้มันไม่ได้ยุติธรรมอยู่แล้ว แต่เด็กบางคนถึงไม่ได้เข้าเรียนบ่อย เกเร แต่ก็อาจจะสามารถสอบผ่านได้ด้วยเหมือนกันนะครับ อย่ามองแต่ว่าเด็กพวกนี้เลวร้ายเกินไป เอาใจช่วยให้ช่วยเหลือเด็กคนนั้นให้ได้นะครับ เด็กดีควรได้รับการสนับสนุนอยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูความสามารถด้วย แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 07:13:12 จากคุณ : Dream Seeker เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 07:04:43

ความคิดเห็นที่ 16 แค้นแล้วจะปล่อยวาง.... แค้นทำไม? จุกทำไม? เล่าทำไม? หงุดหงิด!!!!!!!! จากคุณ : แก้ไขข้อความ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 08:21:52

ความคิดเห็นที่ 17 ผอ. ต้องการเอกสารก็ถูกต้องตามขั้นตอนแล้วหนิคะ  อย่าแค้นเค้าเลย ยิ่งแค้นยิ่งทำงานด้วยกันลำบาก จากคุณ : โดเรม่อนทมิฬ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 09:07:07

ความคิดเห็นที่ 18 น่าเห็นใจน้องคนนั้นมากเลยค่ะ ทั้งชีวิตต้องอยู่ยากกว่าคนปกติหลายเท่า แถมคนปกติยังช่วยคนปกติ(ที่ไม่ตั้งใจเรียน)มากกว่าอีก เศร้าจังค่ะ จากคุณ : someonesaysomething เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 09:07:27

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท. ได้ปฏิบัติตามธรรมะทั้งสามข้อแรกแล้วคือ  เมตตา  กรุณา  มุฑิตา ในเมื่อได้พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถแล้ว ที่เหลือก็คงต้องทำใจ  แล้วตั้งอยู่ในธรรมะข้อสุดท้าย คือ   อุเบกขา  ครับ  เพื่อให้จิตใจเราไม่เกิดเป็นทุกข์ พุทธศาสนากำหนดธรรมะข้อนี้ไว้  สำหรับปัญหาที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งเป็นธรรมะข้อสุดท้่ายใน หลักพรหมวิหาร 4 จากคุณ : jutapit เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 09:14:11

ความคิดเห็นที่ 20 ชีวิต... จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 09:34:01

ความคิดเห็นที่ 21 ครูผู้สอนกับผอ. "ใจพิการ"ค่ะ จากคุณ : Apple So Good เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 10:07:43

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบอกว่าน้ำตาไหล ในฐานนะที่เป็นคนพิการคนหนึ่ง ที่พยายามอยู่ร่วมกับสังคมคนปกติที่บางคนก็ดีแสนดีกับเรา บางคนก็รังเกียจเราเหมือนกันตัวอะไรสักอย่าง ตอนเรียนนอกจากที่จะรู้สึกเหนื่อยกับการเดินทางไปเรียนแล้ว ยังรู้สึกท้อใจกับสายตา คำพูด การกระทำ ของคนปกติที่รังเกียจเรา แต่ขอบคุณอ.สมหญิง อ.พละผู้ชาย(จำชื่อไม่ได้) และเพื่อนๆ รร.จันหุ่น ที่ช่วยเหลือเราตลอด ไม่ว่าจะให้คำปรึกษา การปลอบใจ ปล.คุณต้องเป็นอาจารย์อีกคนที่น้องเค้าระลึกถึงอยู่เสมอแน่ๆค่ะ     ขอบคุณที่ไม่รังเกียจคนพิการค่ะ จากคุณ : รักแม่นะ จุ๊บ ๆ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 10:22:23

ความคิดเห็นที่ 23 เดี๋ยวมันคนนั้นก็ได้รับกรรมค่ะ ... เรื่องของคุณมันทำให้เราอดนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตครั้งที่เราไปสอบเข้าสถาบันแห่งหนึ่ง สายศิลปะโดยตรง ตอนนั้นเราเห็นนักเรียนพิการคนหนึ่งมือสองข้างหงิกงอ แขนงอเหยียบดตรงไม่ได้ทั้งสองข้าง เขามาสมัครสอบพร้อมเราเลย แม่ของคนพิการคนนั่นกำลังยืนคุยกับอาจารย์อยู่ ซึ่งอาจารย์กำลังชี้แจงว่าเขาคงไม่สามารถรับเด็กคนนี้เข้าเรียนได้ เพราะวิชาที่เรียนต้องใช้มือในการเขียน ปั้น ตลอดเวลา เขา(เด็กพิการ)จะมีปัญหาในการเรียน ตอนนั้นในความรู้สึกเราที่ยืนฟังอยู่ เหมือนสมองมันตีกันด้วยเหตุผล เหตุผลแรกคือ เราเชื่อนะว่าคนพิการคนนั้นเขาคงเรียนได้แน่นอน ไม่งั้นเขาคงไม่มาสมัครเรียนหรอกถ้าเขาคิดว่าเรียนไม่ได้ เหตุผลที่สองคือ เราก็เข้าใจอาจารย์ ว่าการเรียนสายนี้มันเป็นแบบที่อาจารย์ว่าไว้จริงๆ คือต้องวาดรูป ปั้นดิน ซึ่งมันเป็นการเรียนแบบเน้นปฏิบัติคนพิการจะลำบากและอาจารย์คงไม่สะดวกในการต้องมาดูแลตลอดเวลา เหตุการณ๋วันนั้นเราจะได้ไม่ลืมเลย เรียนจบมาหลายปีแล้วเราก็ยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ ป่านนี้ไม่แน่นะว่าคนๆนั้นจะเป็นอย่างไร แล้วเขาจะได้เรียนต่อไหม จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 10:29:28

ความคิดเห็นที่ 24 ตกลงเด็กเรียนอ่อนเพราะพิการหรือเรียนไม่ไหวกันแน่ คนพิการต้องการโอกาสที่เหมาะสมนะ. ไม่ได้ต้องการความสงสาร ถ้าเขาเรียนไม่ไหวจริงๆ เลื่อนให้ เรียนชั้นสูงขึ้นเด็กจะไม่แย่เหรอคะ ท่าทางไปเรียนพิเศษหรืออะไรก็ลำบากอีก ช่วยหาสถานที่เรียนที่เหมาะสมให้เด็กดีกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 55 10:45:02 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 10:43:46

ความคิดเห็นที่ 25 ตกลงใครมันพิการกันแน่ ผอ.? หรือน้องคนนั้น ? จากคุณ : แก้ไขข้อความ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 10:53:30

ความคิดเห็นที่ 26 สรุปว่า สังคมเราทุกวันนี้ ต้องการให้ "คนพิการมิสิทธิ์เท่าเทียมกับคนธรรมดา" หรือ "คนพิการควรได้สิทธิ์มากกว่าหรือน้อยกว่าคนธรรมดา" ครับ จากความคิดผม คนพิการก็คนเหมือนเราๆ มีสิทธิ์มีเสียงเหมือนคนปกติทุกอย่าง ผมไม่คิดว่า คนพิการ จะมีความภาคภูมิใจ ที่ได้สิทธิพิเศษ "เหนือกว่า" คนธรรมดา จขกท กล่าวว่า "ในขณะที่เด็กหลาย ๆ คน มาเรียน แล้วก็โดดเรียน พอปลายเทอมก็มาเรียน ทางโรงเรียนก็จะมีมติว่า อย่าให้เด็กตกนะ...ดังนั้นไอ้พวกนี้ก็จะมีคะแนนปลอม ๆ โดดขึ้นมากันเป็น สิบ ยี่สิบคะแนนเพื่อให้ได้อยู่ระดับพ้นคำว่าได้เกรด 0" หรือจากที่ จขกท กล่าวมา "สอบตก พ่อแม่ก็มาขอให้ช่วยหน่อย" จขกท ทราบมาจากไหนครับ ??? จขกท กำลังจะบอกว่า ทางโรงเรียน ช่วยเหลือเด็กธรรมดา แล้วกลั่นแกล้งเด็กพิการหรือครับ ??? ทางโรงเรียน มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำอย่างนั้น? เด็กธรรมดา ที่สนใจการเรียน ไม่เคยขาดเรียน เข้าแถวกลางแดดนาน ก็สามารถสอบตกได้ เหมือน จขกท พยายามจะเอาจุดด้อยของน้อง มาให้คนสงสารและช่วยเหลือ และเหมือน จขกท จะพยายามคิดเองว่า เด็กธรรมดาเลว เด็กธรรมดาไม่ดี ทำไมไม่ช่วยเหลือเด็กพิการ และเอาสิ่งที่ตัวเองคิดเอง มาทำให้น้องเค้าดูน่าสงสาร อยากถาม จขกท ว่า "อะไรที่ทำให้น้องเค้าได้คะแนนน้อย?" คนพิการ แต่ใจรักที่จะสู้ รักที่จะเรียน ผมว่า คนเหล่านี้ มีความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตัวเอง เค้าเชื่อมั่นว่า เค้ามีความสามารถเหมือนคนทั่วๆไป ตอนสมัยผมเรียนอยู่ที่ ตปท ผมไปงานรับปริญญาเพื่อนผมที่ต่างรัฐ และได้มีโอกาสรู้จักคนเกาหลีคนหนึ่ง(เพื่อนของเพื่อนผม) ซึ่งพิการทางขา เดินเป๋ไปเป๋มา เราต่างไปฉลองกันที่ผับแห่งหนึ่ง เพื่อฉลองความสำเร็จ คนเกาหลีคนนี้ ต้องการลุกไปสั่งเบียร์ ด้วยความที่ต้องการช่วยเหลือ ผมรีบบอกเค้าว่า "ไม่ต้อง คุณต้องการอะไร คุณบอกได้เลย ผมดูแลเอง" คุณรู้ไม๊ครับว่า คนเกาหลีคนนั้น มองหน้าผมด้วยความโกรธแค้น และตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า "ไม่ต้อง ฉันดูแลตัวเองได้" แล้วลุกขึ้น เดินกระเผลกเป๋ไปเป๋มาเพื่อไปซื้อเครื่องดื่มเอง ..... เพื่อนผมบอกว่า "...พื้นเดิม คนเกาหลี เป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเหมือนคนญี่ปุ่น ต่อให้เค้าเป็นคนพิการ เค้าก็ยังคงหยิ่งในศักดิ์ศรีของเค้า ไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร เค้าสามารถดูแลตัวเองได้ และเค้าก้มีความภาคภูมิใจในตัวเองที่ประสบความสำเร็จระดับปริญญาโทด้านบริหารได้..." ผมเชื่อว่า คนไทยที่พิการจำนวนไม่น้อย หยิ่งในศักดิ์ศรีตัวเองเช่นกัน และไม่เคยคิดว่า ตัวเองด้อยกว่าใคร หรือต้องให้ใครมาสงสาร จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:10:32

ความคิดเห็นที่ 27 คห.4 เข้าใจผิดครับ ลองอ่านใหม่อีกรอบนะ จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:11:06

ความคิดเห็นที่ 28 เพราะโลกใบนี้มันเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเยอะมากจริงๆ เราจะหวังหาสังคมที่เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ความช่วยเหลือกัน อย่างจริงใจ แทบจะหาดูไม่ได้แล้ว ที่เห็นๆ ส่วนมากมักเป็นการทำไปเพื่อหวังผลบางอย่างทั้งสิ้น นับวัน มันกลายเป็นสังคมแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ใครอยู่รอดไม่ได้ ก็ต้องยอมรับชะตากรรม ทุกวันนี้ ผมละอยากจะหลีกหนีไปอยู่ในป่าคนเดียวซะให้รู้แล้วรู้รอด จากคุณ : Classic Joomla เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:21:19

ความคิดเห็นที่ 29 บอกชื่อ รร.ได้มั้ยคะ เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง สงสารน้องจัง จากคุณ : มารร้ายแอนด์สาวแก่ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:48:47

ความคิดเห็นที่ 30 ที่โรงเรียนมีนักเรียนม.1 สอบเข้ามาที่โรงเรียน เป็นเด็กแขนพิการ คือไม่มีมือค่ะ แต่เด็กคนนี้เป็นที่รักของเพื่อนๆ ของครูทุกคนเพราะเค้ามัยิ้มแย้มแจ่มใส นิสัยดี น่ารัก มีสัมมาคาราวะ เรียนอยู่ในระดับดี เพื่อนๆช่วยเหลือเค้า และที่โรงเรียนก็พิจารณาให้ทุนเด็กคนนี้เข้าเรียนในห้อง English Program โดยเสียค่าเทอมเท่ากับหลักสูตรปกติ และให้ทุนเรียนดีพิเศษ ครั้งแรกที่เจอเด็กคนนี้ ประทับใจตั้งแต่แรกเจอเลยค่ะ เค้าเป็นนร.ใหม่คนเดียวตอนมอบตัวที่เดินเข้ามาทักครูทุกคนในห้องพักครู จากคุณ : เจ้าหญิงแห่งMK เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 13:53:40

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจความรู้สึกของจขกท.ดีขอเอาใจช่วย แต่เราโชคร้ายที่มีผู้บริหารการศึกษาเฮงซ...........อย่างนี้ แล้วตกลงน้องสุภาพเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้ จากคุณ : ช้างนาโน เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 14:10:31

ความคิดเห็นที่ 32 เดี๊ยนเห็นด้วยกับ คห.26 นะคะ  ถึงแม้ว่าจะมีความเห็นใจ เมตตา แต่มาตรฐานก็คือมาตรฐานค่ะ  ถ้าน้องเขาไม่ไหวจริง ๆ ต้องหาสาเหตุ แล้วไปช่วยเขาที่สาเหตุนั้น ไปแก้สาเหตุนั้น ไม่ใช่มาบอกว่า จะเอาคะแนนคนอื่นที่ไม่ตั้งใจเรียนมาให้น้องเขา มันไม่ถูกค่ะ ถ้า จขกท อยากช่วย น่าจะลองพิจารณาวิธีการอื่น เช่น จับน้องเขามาติวเพิ่ม สอนพิเศษให้ (โดยไม่คิดเงิน) หรืออื่น ๆ  ที่มันจะไม่ทำให้เกิดข้อครหาตามมาทีหลังได้มากกว่านะคะ จากคุณ : isiss12 เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 14:29:14

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อนเราเรียนพละแล้วพลาดขาหัก มันยังทำอย่างอื่นทดแทนวิชาพละได้เลย ก็เรียนจบปกติเกรดสวยด้วย จากคุณ : โจรดอกบ๊วย เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 14:49:13

ความคิดเห็นที่ 34 พาเด็กคนนี้ไปประท้วงหน้าทำเนียบ ผมสนับสนุนเต็มที่ อย่างน้อยเด็กคนนี้ควรจะเรียกร้องแล้วได้รับสิทธิมากกว่า ไอ้พวกหัวหงอกหัวดำที่ไปประท้วงครับ จากคุณ : Mario A เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 16:31:21

ความคิดเห็นที่ 35 เจ้าของกระทู้ เข้ามาอ่านไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยตอบนะคะ เพิ่งกลับจากทำงาน จากคุณ : สาวโฉด เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:15:44 A:122.154.140.74 X: TicketID:213737

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นด้วยกับความเห็ฯที่ 24 ค่ะ ในเมื่อมีความพิการทางด้านแขนและขา ทำไมไม่หาสิ่งที่เหมาะกับตัวเองล่ะคะ สมมติว่าเรียนต่อจนจบในสายเย็บผ้าจิง แล้ว...จะมีงานทำหรอคะ จะหาเลี้ยงตัวเองได้หรือไม่ และกว่าจะเรียนได้จนจบ แขนและขาที่ใช้งานไม่เหมาะสมนั้น จะทำให้ร่างกายและแขนขา ยิ่งแย่ลงไปอีกหรือเปล่า มองอีกแง่ อาจจะเป็นการดีกับน้องเค้าเองที่จะได้เปลี่ยนไปทำสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองค่ะ จากคุณ : kiki_kaka เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:20:02

ความคิดเห็นที่ 37 เข้าใจครับอาจารย์ สิ่งที่อาจารย์ทำได้น่าจะเป็นการปล่อยคะแนนตามเกณฑ์ที่อาจารย์เห็นว่าสมควร(อาจารย์น่าจะทำไปแล้วใช่ไหมครับ) แก่สุภาพ เพื่อชดเชยการให้คะแนนที่(อาจารย์เข้าใจว่า)อยุติธรรมครับ จากคุณ : lARtZnolASt เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 21:43:47

ความคิดเห็นที่ 38 หลักเกณฑ์การประเมินผล ผลลัพพ์ต้องบ่งบอกถึงคุณภาพของผู้ได้รับคะแนนจริงๆ การยอมให้เด็กเกเร ได้คะแนนผ่านไป ทั้งที่คะแนนไม่ถึง ถือว่าผิด การยอมให้เด็กพิการ ได้คะแนนผ่านไป ทั้งที่คะแนนไม่ถึง ถือว่าผิด ไม่ต่างกัน เพียงแต่ คนพิการ ที่ตั้งใจ ขวนขวายควรได้รับโอกาสที่เหมาะสมต่างหาก เพียงแต่ต้องหาว่า อะไร คือโอกาสที่เหมาะสม งานที่ทำได้ เหมาะกับศักยภาพของร่างกาาย น่าจะดีกว่านะ ส่วนเด็กเกเร ไม่เรียน ไม่ควรได้รับโอกาสใดๆ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 22:54:15

ความคิดเห็นที่ 39 น่าเห็นใจครับ แต่เรื่องเกณฑ์ ผมเองก็ไม่เห็นด้วยกับหลายๆ คน ที่จะให้เด็กพิการได้ตัดเกรดต่ำกว่าคนปกติในวุฒิเดียวกัน ผมเห็นว่า หากเขาเข้ามาเรียนร่วมกับคนปกติ ก็ควรใช้เกณฑ์เท่ากับคนปกติ แต่เป็นหน้าที่ของโรงเรียนที่จะต้องจัดการสอนแบบพิเศาเพิ่มเติมให้ เพื่อให้เขาเหล่านั้นพัฒนาได้จนผ่านเกณฑ์ แต่หากคนไหนที่ผิดปกติจนไม่สามารถเรียนรู้ได้จริงๆ ก็ควรส่งต่อไปให้ไปเรียนที่อื่นที่มีหลักสูตรโดยเฉพาะสำหรับความพิการด้านนั้น เพื่อให้สามารถฟื้นฟูเขาเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่.... ผมก็เข้าใจประเทศไทยดีครับ ว่าขนาดคนปกติยังแทบจะแย่งที่เรียนกันเลย แล้วจะประสาอะไรกับคนพิการที่จะหวังให้โรงเรียนมาดูแลเป็นพิเศษ ก็คงต้องใช้เกณฑ์ลดหย่อนแก้ขัดไปก่อนแหละ แต่ผมหวังว่าสมาคมพิการจะเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้มันถูกต้องในสักวัน จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 23:59:04

ความคิดเห็นที่ 40 เมื่อหมดหวังกับระบบการศึกษาของสถาบันนี้ ลองหาแหล่งทุนสนับสนุนอาชีพคนพิการเพื่อศึกษาต่อที่อื่นดีไหม แปลกจังทำไมคนส่วนหนึ่งเอาแต่วางอุเบกขาหรือทำใจ ปล่อยให้ปัญหาอยู่กับตัวเด็กต่อไปแล้วอ้างว่าไม่มีทางแก้ไขอะไรได้ คนจนคนพิการควรมีโอกาสด้านต่างๆ มากกว่านี้ ถ้าทุกฝ่ายหยิบยื่นความช่วยเหลือคนละไม้คนละมือโดยไม่ละเลยหรือแบ่งแยกพวกเขา เขาก็จะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เอ..หรือเราคิดเพ้อเจ้อไปเองคนเดียว จากคุณ : เป็นอะไรไปหมด เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 03:35:30 A:90.224.230.93 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 41 ให้เด็กทำงานเสริมเพื่อขอคะแนนเพิ่มได้ไหมครับ เป็นกำลังใจให้จขกทครับ สู้ต่อไปนะครับ เด็กโชคดีแล้วครับที่ยังมีคนอย่างคุณอยู่ ปล ต่างประเทศ คนพิการไม่มีคะแนนความสงสารนะครับ แต่โรงเรียนมีอุปกรณ์พิเศษให้ใช้เพื่อให้คนพวกนี้แสดงความสามารถได้เต็มที่เหมือนกับคนปกติครับ จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 07:39:49

ความคิดเห็นที่ 42 เด็กมีความพิการมาตั้งแต่กำเนิด เรียนด่อยกว่าเด็กที่ ครบ 32 นี้ไม่แปลกหรอกคับ...............คุณครู จากคุณ : เนก (Godcommand) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 11:12:00

ความคิดเห็นที่ 43 สมัยเรียน ม.5 (อเมริกา) เรียนโรงเรียนรัฐ มีนักเรียนที่เป็นเด็กออทิสติกมาเรียนด้วยหลายวิชา เรียนกันในห้องเรียนปกติ โดยเด็ที่เป็นออทิสติก จะมีพี่เลี้ยง(อาสาสมัคร) มาเข้าเรียนด้วยทุกวิชา เห็นแล้วตอนนั้นยังคิดว่า แล้วเค้าเรียนรู้เรื่องเหรอฟระ ผลสอบออกมา ปรากฏว่าเด็กออทิสติก ได้คะแนนมากกว่าตรูอีก (เราอ่านโจทย์ไม่ออก เพราะพึ่งย้ายโรงเรียน) แต่กลับมาแล้ว รู้สึกชื่นชมในระบบช่วยเหลือเด็กพิการจัง เมื่อไหร่เมืองไทยจะมีอย่างงี้บ้าง จากคุณ : tangdoaw (Tangdoaw) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 13:03:28

ความคิดเห็นที่ 44 อ่านแล้วอยากผลกหัวใจมาดูว่ามีอะไรอยู่ในใจ จากคุณ : Aladonn เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 15:12:46

ความคิดเห็นที่ 45 คนไทยก็แบบนี้ เลิกหวังเวรกรรม ได้แล้ว ถ้าคิดว่าสิ่งที่คุณเล่ามา ถูกต้อง อย่าลังเลอะไรเลย  เดินหน้าช่วยเธอให้ได้ ไปรอเวรกรรมประเภททำดีได้ดี ก็จะสายเกินไปกระมัง อยากหาแนวร่วมในนี้ก็บอกมา คงมีใครพร้อมจะช่วยคุณสู้ ฤาจะเอาไปอดอาหารหน้าโรงเรียนก็ได้ครับ จากคุณ : เฒ่าบ้าฯ เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 16:31:41

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นเหตุการณ์ 1 ในหลายๆล้าน ของความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย ที่มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ตราบใดที่เรายังอยู่ในสังคมทุนนิยม ที่หลายคนๆมองทุกอย่างเป็นเงินไปหมด จากคุณ : เพ็ชรสามสี1 เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 19:21:37

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าสังคมให้โอกาส สนับสนุน และช่วยเหลือคนพิการมากขึ้น คงมีภาพน่าประทับใจอย่างนี้ให้เห็นบ่อยขึ้น จากคุณ : LikitChamaiporn เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 03:55:29

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นเรื่องที่ที่น่าอดสูของประเทศทียังไม่พัฒนาและก็ต้องกัดฟันทำใจไปก่อน ณ ยุคนี้ครับ ผมเรียนป.โทที่อเมริกา มีเพื่อนคนหนึ่ง เธอตาบอด แต่ด้วยระบบสังคมที่สร้างโอกาส และมอบโอกาสให้ เธอทำอะไรได้เท่าคนอื่นทุกอย่าง ต่างกันแค่สื่อการสอนที่เธอต้องใช้ (เธอมีคอมพิวเตอร์อักษรเบรลขนาดพกพาติดตัวตลอด) เอกสารการเรียน อาจารย์ทุกคนจะช่วยหาเป็นไฟล์คอมพิวเตอร์ให้เพื่อที่เธอจะเอาไปแปลงเป็นอักษรเบรลได้ ผลคือ ความสามารถเธอไม่ด้อยไปกว่าคนอื่นเลยแม้แต่นิด ถือว่าเก่งระดับแถวหน้าเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งสาขาที่เรียนคือดนตรีและการแสดง ทุกคนให้โอกาสเธอรับบทขึ้นแสดงเหมือนคนอื่นทุกอย่าง ไม่มีการกีดกันว่าเธอตาบอด ได้เป็นเพื่อนกันคนนี้ผมรู้เลยว่า คนพิการไม่ใช่ภาระและไม่อากจะเป็นภาระหรือหวังพึ่งใคร หากแค่สังคมต้องมีความเข้าใจและมีพื้นที่ให้เขายืนด้วยเท่านั้นเอง จากคุณ : Baritone เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 06:02:59

ความคิดเห็นที่ 49 ปัญหา ไม่ใช่เรื่องเกณฑ์หรอกนะคะ แต่คือการให้ความสำคัญ และการอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนที่พิการ ที่โรงเรียนของคุณมีสิ่งนี้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีควรตำหนิค่ะ แต่เห็นด้วยการประเมินผล เค้าควรได้รับการประเมินผลที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป อันนี้ไม่พูดถึงเด็กที่พิการทางร่างกายอย่างเดียวนะคะ รวมถึงเด็กที่มีปัญหาอื่นๆ เช่น สมาธิสั้น ออทิสติก เป็นต้น เด็กพวกนี้สามารถเรียนร่วมกับเด็กปกติได้ค่ะ แต่ต้องได้รับการดูแลโดยครูที่มีความรู้ และมีใจรักงานที่ทำ อีกทั้งโรงเรียนต้องจัดหา อำนวยความสะดวก เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนร่วมกันได้ ถ้าสิ่งอำนวยความสะดวกให้เด็กพิเศษยังไม่มี แต่ให้ตัดเกณฑ์แบบเด็กปกติทั่วไป ยากนะคะ ยิ่งฐานะของน้องเค้าไม่ดี ยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ เราว่าคุณควรลองคุยกับผู้อำนวยการ เรื่องการขอสิ่งอำนวยความสะดวกให้นกเรียนเรียนได้สมบูรณ์ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ เราว่าควรให้น้องเค้าย้ายไปเรียนในโรงเรียนที่พร้อมและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ไม่ใช่ว่ากีดกันว่าทำไมถึงเรียนที่นี่ไม่ได้ เรียนกับคนทั่วไปไม่ได้ แต่เราคิดว่าเค้าจะมีคุณครู ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ น่าจะส่งผลดีกับน้องเค้ามากกว่า อยากให้โรงเรียน เป็นสถานที่ผลิตบุคคลากรที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แหล่งธุรกิจทำเงินของคนร่ำรวย จากคุณ : yurime เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 09:47:47

ความคิดเห็นที่ 50 คุณเจ้าของกระทู้จะสื่อว่าตัวเองแค้น ?????  ท่าน ผอ.คนสวย แต่ชั้นไม่บอกหรอกนะว่าท่าน ผอ. คือใคร โรงเรียนหรือสถาบันไหน คนที่จะช่วยหาทางแก้ไขก็งง มาเล่าแล้วจากไป เข้าใจว่าสงสารเด็ก คนทั่วไปก็สงสารเด็ก เราก็สงสารเด็ก แต่มีข้อมูลแค่นี้ไม่ช่วยอะไร ได้แค่สงสารเด็กกันทุกคน จากคุณ : naqdat เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 19:52:28

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นใจน้องมากๆ แต่ก็แปลกใจที่น้องเลือก (หรือคนอื่น) ในสิ่งที่ไม่ค่อยจะเหมาะกับตนเองเท่าไหร่ คิดเหมือน #24 และ #36 ค่ะ จากคุณ : ชีวิตวันวัน เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:40:40

ความคิดเห็นที่ 52 g8h เค้าประเมิน    รร. เด็ก คะแนนต่ำ.. ทำให้ รร มีปัญหา ค่าเฉลี่ย ของ รร ลดลง.. ถูก ตำหนิ จาก หน่วยงาน ต้นสังกัด.. เวลา   สมศ   มา ตรวจ จะโดน หักคะแนน.  เรีืองการเรียน มั้ง.. ,,,,,,,,,,วิธีงานที่สุด    คือ  กำจัด เด้ก คะแนนต่ำ ออกไป จากคุณ : นาย หุ้น n-park (prince-npark) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:54:16

ความคิดเห็นที่ 53 In many developed countries, all schools' policy has stated that equality is not enough but equity.... give more to those who have less... จากคุณ : a friend of Khun (ม่าว) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:10:14

ความคิดเห็นที่ 54 ได้เป็นเพื่อนกันคนนี้ผมรู้เลยว่า คนพิการไม่ใช่ภาระและไม่อากจะเป็นภาระหรือหวังพึ่งใคร หากแค่สังคมต้องมีความเข้าใจและมีพื้นที่ให้เขายืนด้วยเท่านั้นเอง จากคุณ : Baritone   ^ ^ กินใจมากๆเลยครับกับข้อความนี้ ผมสังเกตได้เองมาตั้งแต่เป็นเด็กไร้เดียงสาแล้วว่า.. ประเทศไทยไม่เคยพยายามปรับตัวให้เป็นประเทศที่คนพิการสามารถอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีเลย สมัยก่อนห้องน้ำไม่มีห้องคนพิการ ทางบันไดก็ไม่ทำทางลาด ถนนกับป้ายรถเมล์ก็ไม่ทำเสียงสัญญาณกับพื้นที่ปุ่มพิเศษให้คนตาบอด เมื่อประเทศไม่ "คิดเผื่อ" ว่าสังคมต้องอยู่ร่วมกับคนพิการ และส่งเสริมให้เขาช่วยตัวเองได้ คนพิการก็จะไม่มีทางเลือก และต้องคอยพึ่งพาครอบครัวร่ำไป สำหรับปัญหาที่คุณจขกท.เจอ คุณมีทางเลือกครับ เรามีทางเลือกเสมอ คือเลือกคับแค้น เลือกเดินออกมา หรือเลือกเปลี่ยนแปลงมัน จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 03:42:12

ความคิดเห็นที่ 55 เราเข้าใจความรู้สึกของจขกท และชื่นชม ขนาดเด็กเป็นแค่ลูกศิษย์ยังรู้สึกแบบนี้ แต่เราเป็นแม่ของเด็กพิเศษ จะรู้ซึ้งมากกว่าจขกทเยอะ และเจอมามากเลยค่ะ ทั้งให้โอกาส และไม่ให้โอกาส ต่อสู้มาตลอดเวลา และขณะนี้ก็ยังต่อสู้ต่อไป เราเองยังต้องเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็ปล่อยๆ เขาบ้างแล้ว เพราะเป็นหนุ่มแล้วค่ะ เรื่องเกณฑ์การตัดผลการเรียน จริงๆแล้วมันก็ต้องอลุ่มอะล่วยกันนะคะ สำหรับเด็กพิการกะเด็กปกติ ไม่ใช่ว่าเด็กพิการอยากได้สิทธิ์พิเศษอะไรหรอก เช่นเด็กบางคนอาจเป็นโปลิโอแต่มาเรียนร่วมกะเด็กปกติวิชาพละ ครูยังไม่เห็นให้เด็กวิ่งกะเด็กปกติเลย และก็ยังผ่านวิชานั้นมาได้ ... สังคมเราบางคนดีก็ดีใจหาย แต่บางคนบทจะไม่เข้าใจอะไรเลยก็มีเยอะค่ะ จริงๆแล้วอ่านก็รู้สึกเหมือนจขกทแหล่ะค่ะ เพราะเราเองเป็นแม่ ความรู้สึกแบบนี้จะเยอะกว่า เมืองไทยรร.บางแห่งก็ดีมาก มีทุกอย่างให้คนพิเศษแต่บางครั้งเราก็เข้าไม่ถึงเพราะเขารับแต่คน พิเศษที่ใหญ่ๆโตๆ  อันนี้เรื่องจริงนะคะ .. จากคุณ : หยาดรุ้ง เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 17:06:04

ความคิดเห็นที่ 56 เราเข้าใจ เจ้าของกระทู้ค่ะ เพราะเราก็เป็นครูเหมือนกัน เด็กที่มีพฤติกรรมดี ขยันเรียน สุภาพเรียบร้อย ย่อมเป็นที่รักของครู กับเด็กเกเร พอสั่งสอน ก็ทำตาขวางดื้อด้าน แซวครูเพ้อเจ้อ โดดเรียน แกล้งเพื่อน หาเรื่องตี กัน งานไม่ส่ง โอ๊ย สารพัดที่จะสรรหาปัญหามาให้ครู เด็กพวกนี้ทำเราเซ็ง เราเบื่อ แม้แต่ 0.5 คะแนน เราก็ไม่อยากช่วยค่ะ บอกตรงๆ จากคุณ : lemoncheeze เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 17:33:38

ความคิดเห็นที่ 57 คนละประเด็น เรืองคนพิการมีศักดิ์ศรี หรือ น้องที่พิการคนนี้ ไม่มีความเหมาะสมในวิชาที่น้องเลือก ประเด็นคือ คุณใช้จิตสำนึกได้ในการส่งเสริมเด็กที่ใฝ่ดีคนหนึ่ง ได้มีโอกาสเรียนในสิ่งที่เค้ารักและตั้งใจจริง.  ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะพิการหรือไม่ การให้โอกาส คนใฝ่ดี ไม่จำเป็นต้องมีเอกสารหรอกค่ะ ด้วยวุฒิภาวะของ ผอ.น่าจะคิดได้ เห็นอยู่ชัดๆแบบนั้น เราเห็นด้วยกับ จขกท และเชื่อว่าคุณไม่ได้แค้น ผอ หรอก แต่เสียความรู้สึกมากกว่า อารมณ์นั้นมันเป็นกันได้ทุกคนค่ะ ผิดหวัง สงสารเด็ก อะไรที่ จขกท แนะนำให้น้องได้ก็ทำเถอะค่ะ ช่วยทางอื่นไม่ได้ ก็เป็นกำลังใจให้น้องได้นะคะ จากคุณ : by iPhone (hug for love) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 19:32:33

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณ จขกท. มากๆ ที่มองเห็นความสำคัญของชีวิตคนๆ หนึ่ง ต้องพิการมันก็แย่อยู่แล้วนะ โรงเรียนคือะไรกันแน่ ถ้าเด็กความประพฤติดี มีความพยายาม ไม่ได้รับการส่งเสริม แต่ไปส่งเสริมเด็กเกเร โรงเรียนไม่ใช่สถานที่ที่มีไว้ผลิตเด็กเกเรนะ ปลูกฝังอะไรที่มันควรจะปลูกฝังหน่อยสิ จากคุณ : ปฏิจจสมุปบาท (ปฏิจจสมุปบาท) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 22:39:10

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านแล้วนึกตามเลยค่ะ ไอ้เรื่องความห่วยของระบบการศึกษาไทย และความคับแคบของจิตใจท่านผู้มีอำนาจทั้งหลาย จากคุณ : -0- เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 04:01:52 A:118.172.245.205 X: TicketID:172388