ความคิดเห็นที่ 1 จากนั้นคนร้ายวางสายแล้วออกอุบายต่อ คนร้าย “เจ๊มีเด็กคนงานว่างอยู่มั๊ย หัวหน้าบอกให้เข้าไปเอาของได้เลย เดี๋ยวเจ๊ให้เด็กถือเงินตามผมไปเลยนะ” พี่สาว “ได้ เดี๋ยวเจ๊ให้เด็กขับซาเล้งตามไปเลย จากนั้นคนร้ายก็เดินไปสำนักงานเขต” ผมนั่งฟังอยู่ตลอดรู้สึกไม่น่าไว้ใจ จึงบอกพี่สาวว่าจะไปกับเด็กด้วย ผมจะถือเงินไปเอง เมื่อไปถึงก็ให้เด็กจอดซาเล้งรอที่ด้านหลังของ สนง.เขต ซึ่งเป็นห้องเก็บของและคนร้ายยืนรออยู่ คนร้ายพาผมเข้าไปใน สนง.เขต เป็นตึก 3 ชั้นไปหยุดยืนที่หน้าบันได ตรงข้ามบันไดเป็นประตูเข้าในพื้นที่ ที่เจ้าหน้ามี่เขตให้บริการกับ ปชช. ด้านหลังประตูมีออฟฟิศเล็กๆ เนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้ติดแอร์จึงกั้นด้วย กระจกใสทั้งหมด คนร้ายบอกผมให้รอหน้าประตู จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปในออฟฟิศพูดคุยกับ จนท.คน หนึ่งแล้วก็กลับออกมาและบอกให้ผมเดินตามขึ้นไปชั้น 2 เพื่อไปเอากุญแจห้องเก็บของ บนชั้น 2 คนร้าย บอกให้ผมรออยู่หน้าบันไดแล้วเดินเข้าไปในห้อง สักครู่ก็กลับออกมาและบอกกับผมว่า คนร้าย เดี๋ยวผมขอเงินเลยนะ จะเอาเงินไปให้หัวหน้าก่อน ผม      ไม่ได้ ขอขนของขึ้นรถก่อน คนร้ายเริ่มหว่านล้อมด้วยคำพูดต่างๆเช่น ต้องเอาเงินให้ หน. ก่อนไม่งั้นเดี๋ยวแกจะดุผม,หน.ไม่ยอม ให้ขนของ ให้จ่ายเงินก่อน ฯลฯ จนผมรู้สึกรำคาญจึงยอมเอาเงินให้ไป จากนั้นก็มีอุบายมาอีกว่า ต้องขึ้นไปเอากุญแจที่ชั้น 3 แต่บอกผมไม่ต้องตามขึ้นไป เดี๋ยวเขาไปเอาลงมาให้เอง บันไดมีราวเป็นแบบซี่เหล็ก พอคนร้ายเดินขึ้นไปเกือบถึงชั้นบน ผมก็รีบเดินตามขึ้นไปทันที พอถึงชั้น 3 ก็เลี้ยวซ้ายตามที่เห็นคนร้ายเดินเลี้ยวมา แต่ไม่เห็นคนร้ายแล้ว ด้านขวามีห้อง ประตูเปิดอยู่ จากคุณ : freezerman เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:16:18

ความคิดเห็นที่ 2 มองเข้าไปเป็นห้องโล่ง ทะลุไปอีกด้านของตึกและเห็นมีบันไดอยู่ด้วย ผมหันกลับวิ่งลงทางบันไดเดิมมาที่ ชั้น 2 ก็เห็นคนร้ายกำลังเดินลงบันไดตัวเดียวกับผม แต่กำลังจะถึงชั้นล่าง ผมวิ่งตามไปทันที่ชั้นล่างพอดี พอถึงตัวคนร้าย ผมใช้มือซ้ายจับแขนขวาของคนร้ายให้หันกลับมา คนร้ายทำทีท่าออกอาการโมโห ผมจึงตวัดมือขวาเลิกชายเสื้อด้านหลังของผมและทำเหมือนเราจับอาวุธ แล้วบอกคนร้ายว่าให้เอาเงินคืนมา คนร้ายยังมีฮึดฮัดแต่น้อยลงเมื่อคิดว่าผมมีอาวุธ แต่ยัง:-)ว่ากำลัง จะเอาเงินไปให้ หน.ส่วนผมพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิมว่า กูบอกให้เอาเงินคืนมา คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึง ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเงินออกมานับคืนให้ผม จากนั้นก็รีบเดินออกไปทางด้านหน้าของ สนง.เขต ผมรีบเข้าไปหา จนท.ในออฟฟิศที่คนร้ายเข้าไปหาในตอนแรกแล้วสอบถามว่า ผู้ชายคนเมื่อกี้ใช่ จนท.ของที่นี่รึเปล่า จนท.ในออฟฟิศบอกว่า ไม่ใช่ ผู้ชายคนนั้นมาขอแลกตังค์ เขาเลย บอกให้ไปแลกที่การเงิน เมื่อได้ยินดังนั้นผมจึงรีบวิ่งไปด้านหน้า สนง.เขต ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจ แต่ไม่ทันครับ คนร้ายหายไปแล้ว จากคุณ : freezerman เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:17:29

ความคิดเห็นที่ 3 ครั้งนี้ถึงไม่สูญเสียเงิน แต่ก็เกือบ เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่า คนร้ายเตรียมการมาอย่างดี มีการสำรวจพื้นที่ ทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า มีการเข้า ไปพูดคุยกับ จนท. ของสำนักงานเขตให้เห็นเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ มีการหลอกไม่ให้ผมตามขึ้นที่ชั้น 3 แต่ คนร้ายรู้ว่าผมต้องตามขึ้นไปแน่ๆ บันไดอีกด้านของตึกลงไปได้แค่ชั้น 2 แล้วคนร้ายต้องกลับมาใช้บันได ทางฝั่งเดิม ถ้าผมวิ่งตามไปลงบันไดอีกด้านของตึกก็จะทำให้ตามไม่ทัน เดาว่าคนร้ายต้องว่างแผนไว้ก่อน คือ ขึ้นไปอ้อมลงมาอีกฝั่ง มาแอบดูผมและรอ พอผมเห็นนานผิดสังเกตผมจะต้องเดินขึ้นไป พอผมเห็นอีก ฝั่งของตึกซึ่งมีบันได ผมต้องไปที่อีกฝั่งแน่ๆ ทำให้มีเวลามากพอที่จะหนี แต่พอคนร้ายลงมาชั้น 2 ไม่เห็นผม จึงไม่ต้องรอ แต่ผม แค่ โชคดีที่รีบตามขึ้นไปและไม่ไปอีกฝั่งแต่กลับมาลงทางบันไดเดิมจึงตามทันอย่างเฉียดฉิว รวมถึงการแต่งกายที่ดูภูมิฐานและจากการพูดจาที่น่าเชื่อถือ ข้อมูลถูกต้อง ไม่มีตะกุกตะกักหรือ หยุดคิดก่อนตอบ ทั้งเรื่องตัวเองทำงานที่ไหน ที่มาของสินค้าว่าได้มาอย่างไร แม้ผมจะระแวง ระวังอยู่ ยังยอมให้เงินไป ก่อนที่จะได้เห็นของเสียอีก จากคุณ : freezerman เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:18:33

ความคิดเห็นที่ 4 พวกมิจฉาชีพเดี๋ยวมันก็ไปคิดวิธีพิสดารมาอีก พวกนี้มันช่างสรรหาวิธี ดีค่ะที่คุณฉุกใจไม่เสียท่า และดีที่เขาทำคนเดียวถ้าหากเขามีพรรคพวกนี่คงแย่แน่เลย จากคุณ : เปรมสินี เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:43:52

ความคิดเห็นที่ 5 เยี่ยม ช่วยกันโหวต อ่านสัก พันหรือ หมื่นคน อาจทำให้ใครแม้แต่คนเดียวรอดเหมือน จขกท.ก็คุ้มแล้ว จากคุณ : m เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 23:57:39 A:223.204.34.125 X: TicketID:283876

ความคิดเห็นที่ 6 ขอชื่นชมจขกท ที่ฉุกคิดได้ไวมาก เป็นเราคงยื่นรอมันเอาของลงมาให้จนถึงเย็นแน่ๆ จากคุณ : Khunnootom เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 00:07:37

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อสำคัญเลย... อย่าให้เงินโดยเด็ดขาด ถ้าของไม่มากองอยู่ตรงหน้า... จากคุณ : อิสสระ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 00:12:05

ความคิดเห็นที่ 8 อาศัยหากินกับความโลภของคนแท้ๆ จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 01:28:58

ความคิดเห็นที่ 9 เคสลักษณะนี้เคยมีลงหนังสือพิมพ์แล้ว ผมเคยอ่านเจอน่ะครับ ไอ้พวกชั่วพวกนี้มันไม่ใช่คนแล้ว หากินแบบหลอกคนอื่น เสียดายจับมันไม่ได้ นี่คงหนีไปหลอกคนที่อื่นอีก จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 01:37:33 A:124.120.221.238 X: TicketID:256612

ความคิดเห็นที่ 10 ดีครับที่คนร้ายอ่อนหัดไม่สู้คน ถ้าคนร้ายจัดๆ อาจมีการทำร้ายร่างกายได้อีก เห็นได้ว่าทุกวันนี้อันตรายมันรอบด้าน และทุกวิธีจริงๆ จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 02:22:05

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะที่เอามาลงให้อ่าน จากคุณ : sexythaiweb เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 05:30:08 A:49.229.0.119 X: TicketID:358210

ความคิดเห็นที่ 12 เจ๋ง ครับ จขกท มีสติ และ คิดวิธีได้ โดย ทันทีทันใด และ ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องใช้กำลังด้วย เจ๋ง โคตรๆๆ 555+ ถามจริงๆๆ ครับ ตอนนั้น จขกท มีอาวุธไหม ครับ 555+ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 07:09:36

ความคิดเห็นที่ 13 คนเราจะหลอกกันได้มันมีอยู่ไม่กี่อย่าง 1. ความกลัว 2. ความโลภ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 07:39:17 จากคุณ : แพะภูเขาเจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 07:39:03

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกๆท่านครับ รบกวนบอกต่อเรื่องราวให้คนรู้จักฟังกันนะครับ จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกเศษเดนมนุษย์ ปล.วันนั้นผมไม่มีอาวุธครับ แค่ทำท่าหลอกคนร้ายเท่านั้น จากคุณ : freezerman เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 08:04:10

ความคิดเห็นที่ 15 ใครว่างน่าจะตั้งกระทู้รวบรวมกลเม็ดการหลอกลวงโพสไว้นะ ใครเจอแบบไหนมาก็เอามาแปะๆ ไว้ จะได้อ่านของหลายคน หลายแนวทาง เผื่ออาจจะมีคนเคยโดนแก๊งค์เดียวกันหลอก จะได้มีเจ้าทุกข์เพิ่ม หรือ มีวิธีรับมือถ้าเจอเหตุการร์คล้ายๆ กันได้ จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 08:35:26

ความคิดเห็นที่ 16 ดูรายการนาทีฉุกเฉิน แล้วจะรู้วิธีการหลอกลวงว่ามันมีหลายรูปแบบมาก แต่ส่วนมากจะเล่นกับความโลภ ความอยากได้ของถูก ความเกรงใจ ความสงสาร ของเหยื่อให้หลงกล จากคุณ : อยากเต้นก็เต้นสิคะ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 08:46:42 A:27.130.147.4 X: TicketID:311904

ความคิดเห็นที่ 17 ความโลภ ความขี้เกียจ ความไม่รู้ ความไม่ถี่ถ้วน จะทำให้เราตกเป็นเหยื่อของพวกโจรมิจฉาชีพ จากคุณ : คุณป้าจอมตะลอน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 09:07:10

ความคิดเห็นที่ 18 ยื่นหมู  ยื่นแมว จากคุณ : ยิ้มก่อนอ่านตาหวานก่อนตอบ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 09:17:31

ความคิดเห็นที่ 19 โลกนี้ไม่มีของถูกแล้วดีครับ จากคุณ : เชร็ค 3 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 09:44:31

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท เก่งมากค่ะ จากคุณ : เเม่ครัวมั่วระเบิด เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:25:45

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่ะ บอกตัวเองเสมอ "ไม่โลภ และคิดแบบมีเหตุผล" จากคุณ : เบรานิ่ง เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:47:30

ความคิดเห็นที่ 22 เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณเจ้าของกระทู้ จากคุณ : กะลาน้อย เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:22:16

ความคิดเห็นที่ 23 จขกท เก่งและหัวไวมากค่ะ คิวเร็วทำเร็ว นับถือจริงๆ จากคุณ : beer112 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 15:51:14

ความคิดเห็นที่ 24 ดีที่คนร้ายไม่มีอาวุธ และไม่ต่อสู้ จขกท ปลอดภัยและได้เงินกลับมาก็ดีแล้ว จากคุณ : ปรุงรสตามชอบ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 22:31:24

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นผมตามพวกมากระทืบค่าดอก7000 จากคุณ : issey kasawa เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 11:25:17

ความคิดเห็นที่ 26 ถือว่า จขกท เก่งมากนะ เป็นผมคงต้องเสียเงินไปแล้วละครับ    เพราะคงให้ลูกน้องไปเอาแทน จากคุณ : sriwit เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 13:46:53

ความคิดเห็นที่ 27 มันต้องชำนาญพื้นที่แน่นอน ไม่งั้นไม่รู้หรอกว่าต้องทำยังไง จขกท ฉลาดมาก ไหวพริบดี จากคุณ : โดเรม่อนทมิฬ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 13:53:30

ความคิดเห็นที่ 28 เคยเจอมิจฉาชีพเข้าร้าน 2 ครั้ง ครั้งแรกมากันเป็นทีม พ่อ แม่ ลูก ทำทีมาสั่งจัดดอกไม้ใส่แจกัน (ร้านเราเป็นร้านดอกไม้) แล้ววันนั้นพอดี๊ พอดี ลูกน้องไปทำงานที่บ้านเรา (อยู่ใกล้กับร้าน 200 เมตร) ในร้านจึงมีเราอยู่คนเดียว พอสั่งเสร็จ ก็บอกอีกเดี๋ยวจะมาเอา เราก็รอไปสิ เกือบ 2 ชั่วโมงได้ ก็เลยคิดว่าคงไม่เอาแล้ว เพราะดูท่าทางการแต่งตัวไม่เหมือนคนที่จะมาสั่งดอกไม้ให้เพื่อนวันเกิดเลยสักนิด ชั่วโมงนั้นเลยแว่บเข้าห้องน้ำหลังร้าน แค่ไม่ถึง 5 นาที ออกมาทำงานต่อ ลูกน้องก็กลับมาแล้ว แต่นึกขึ้นได้ว่า กระเป๋าเงินเราที่ยังมีเงินหยวนเต็มกระเป๋า (เพราะเพิ่งกลับจากจีน) และกล้องแคนนอนที่เพิ่งซื้ออีก หายไปจากโต๊ะหน้าคอมฯ ในร้าน! มันเป็นไปได้ยังไง ยังแปลกใจอยู่ แต่ก็คิดว่า มันคงมาดูลาดเลาก่อนแล้ว พอเห็นเราแว๊บเข้าหลังร้าน ก็เลยให้ลูก (ประมาณ 10 ขวบ) วิ่งมาหยิบ งานนี้โทษตัวเองอย่างเดียว ที่เลินเล่อเอง ไม่ล็อคประตู ไม่เก็บของมีค่า ทำให้ต้องสูญเงิน สูญบัตรสำคัญๆ สูญทรัพย์สินมีค่าไป ผ่านมาปีกว่า วันนึงมีผู้ชายท่าทางดีมาสั่งดอกไม้ และในวันนั้นมีเราอยู่กับน้องลูกค้าคนหนึ่ง ส่วนลูกน้องไม่อยู่ ไปทำงานที่บ้านเรา (อีกแล้ว) พอเห็นลูกค้าดอกไม้มา ลูกค้าอีกคนก็ลากลับ ก็เลยเหลือเรากับลูกค้าดอกไม้ 2 คน ระหว่างจัดดอกไม้ให้ ลูกค้าคนนี้ก็ชวนคุยโน่นคุยนี่ แบบคุยดีมากๆ จนสักพัก เค้าก็บอกว่าฝากไว้ก่อนจะมาเอา แล้วก็รีบออกจากร้านไป เราก็เริ่มแปลกใจแล้ว รีบไปดูกระเป๋าเงินที่อยู่ในกระเป๋า ก็ยังมีอยู่ รีบค้นมือถือที่ซ่อนไว้ใต้กองเอกสารหน้าคอมฯ หายไปแล้ว! ขนาดซ่อนไว้ มันยังเอาไปได้เลย เลวแบบได้ใจจริงๆ มนุษย์สมัยนี้ ทุกวันนี้ เวลาที่อยู่คนเดียวจะล็อคประตูร้านทุกครั้ง เวลาใครเข้ามาซื้อของจะระแวงเรื่องทรัพย์สินตัวเองตลอด ไม่ช่วยตัวเองก่อน ก็ไม่ต้องหวังให้ใครมาช่วยแล้ว! จากคุณ : puthalee เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 14:34:00

ความคิดเห็นที่ 29 คนเราจะหลอกกันได้มันมีอยู่ไม่กี่อย่าง 1. ความกลัว 2. ความโลภ จากคุณ : แพะภูเขาเจ้าเล่ห์   + + + + + + เพิ่มความสงสาร  กับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ค่ะ จากคุณ : aicm เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 14:57:29

ความคิดเห็นที่ 30 คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ   อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน ท่องไว้ ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ดีที่ จขกท. มีสติ  ถ้าปล่อยให้เด็กในร้านมาด้วย สูญเงินชัวร์  ขอบคุณสำหรับประสบการณ์จะได้ ระวังกันไว้ จากคุณ : ความรักมาทักทายแล้วหายไป เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 15:14:52

ความคิดเห็นที่ 31 คนแบบนี้น่ากลัวนะ ถ้าเกิดมันไม่ได้ทำคนเดียว มีพรรคพวกคอยช่วยเหลือ ยุ่งแน่ๆ จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 15:38:41

ความคิดเห็นที่ 32 ชื่นชม จขกท.มากๆครับ ฉลาดและมีสติ เป็นเครื่องคุ้มภัยเราครับ เสียดายรู้ตัวช้าไปหน่อยนะครับ จะได้กระทืบมันตรงนั้นเลย จากคุณ : Fayewinds เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 16:05:36

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากสำหรับ บทความที่ดีดี เป็นประโยชน์แก่สมาชิกท่านอื่น ๆ ด้วย แต่ขออนุญาตคัดค้านเล็กน้อย    ความคิดเห็นที่ 19     โลกนี้ไม่มีของถูกแล้วดีครับ จากคุณ : เชร็ค 3   มีครับมี แต่มีปัญหาคือไกลมาก ผมไปกินไม่ไหว  คนเชียงใหม่เค้ามีของถูกและดีฮะ จากคุณ : LODI เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 16:42:42

ความคิดเห็นที่ 34 จขกท. บอกว่า "คนร้ายใจถึงมากๆ" แต่เราว่า " จขกท. ใจถึงกว่าคนร้ายอีก" เจ๋งอ่ะค่ะ จากคุณ : ann_g เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 18:35:21

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณอีกครั้งครับ ที่ช่วยกันดันจนขึ้นกระทู้แนะนำ ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง ต้องขอให้เครดิตคุณ noneonly ครับ ผมเห็นหลายๆท่านต้องการรู้ถึง คำพูดในการสนทนาและวิธีหลอกล่อ ของคนร้าย จากเรื่องของคุณ นัน ผมหวังว่า เรื่องราวของผมจะเป็นประโยชน์ ที่จะทำให้หลายๆท่าน พอได้แนวทางไว้ระมัดระวังตัวกันนะครับ จากคุณ : freezerman เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 19:03:56

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านแล้วลุ้นตามค่ะ เป็นเราคงคิดไม่ทันนะเนี่ย จากคุณ : asita เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 04:25:56

ความคิดเห็นที่ 37 ของทั้งถูกและทั้งดี ยังมีอยู่ "คือน้ำใจ" ครับ จากคุณ : Top27 เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 06:56:52

ความคิดเห็นที่ 38 รออ่านรูปแบบอื่นๆค่ะ จากคุณ : bookalive เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 10:25:36

ความคิดเห็นที่ 39 เราเคยดูรายการเรื่องจริงผ่านจอหรือนาทีฉุกเฉินก้ไม่รู้นะ เป็นแบบของ จขกท.เลยค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องของ จขกท.หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ แสดงว่า คนร้ายใช้วิธีนี้มาหลอกล่อร้านค้าหลายรายแล้ว เพราะฉะนั้น ร้านค้าที่อยู่ใกล้สำนักงานเขตต่าง ๆ ต้องระวังเป็นอย่างมากเลยนะคะ จากคุณ : ging_gong_kaew เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 12:18:37

ความคิดเห็นที่ 40 เวลาผมเจอพวกคนไม่ดี พวกชอบโกง หลอกคนอื่น ทำให้ผมชอบคิดอยู่ตลอดว่า ถ้าพวกนี้เวลาแก่ตัวไป มีสภาพดูน่าสงสารตามที่เราเห็นๆกันในทีวี ถามว่า ถ้าคุณรู้ว่า สมัยหนุ่มสาว เขาทำตัวเช่นนี้ คุณจะยังสงสารคนแก่เหล่านั้นอยู่มั้ยครับ เวรกรรมมันมีจริงนะ จากคุณ : คุณชายไข่เจียว เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 13:15:03

ความคิดเห็นที่ 41 เพิ่งอ่านการ์ตูนคุโรซากิเล่ม8ไป เหตุการณ์เดียวกันเป๊ะเลยกับจขกท. จากคุณ : Jailhouse Rock เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 19:43:43

ความคิดเห็นที่ 42 มีสติดีจังเลยครับ เป็นผมคว้าคนร้ายได้ มันทำท่าโมโห คงได้ซัดกันแล้วทำให้เกิดการเจ็บตัวเกิดขึ้นแต่ จขกท. มีการเล่นอุบายทำให้ไม่ต้องออกแรง มีสติดีจริงๆ จากคุณ : คนผ่านเธอ (คุณคอนโด) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:12:59

ความคิดเห็นที่ 43 อิจฉามิจฉาชีพส่วนใหญ่จังที่พูดอะไรใครๆก็เชื่อ ส่วนเราพูดความจริงเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเชื่อ ทั้งๆที่ไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะ ไม่รู้ชาติที่แล้วทำกรรมอะไรมา เคยจะขายเตาอบอย่างดี ที่เราซื้อมาใหม่ ใช้แค่ครั้งสองครั้งซื้อมาเพราะว่าจะอบเค้กขาย แต่เราเปลี่ยนใจไม่ทำแล้ว ก็เลยขาย เครื่องอย่างดีมาก เราซื้อมาหลายหมื่น แต่จะขายต่อแค่พันเดียว คือจริงๆอยากจะให้ใครก็ได้ที่อยากใช้ แต่ให้ฟรีๆก็กระไรอยู่ ปรากฎคนที่จะซื้อไม่เชื่อเราเลยว่าเราเพิ่งซื้อ ทั้งๆที่ดูภายนอกก็ใหม่มาก ใบเสร็จก็อยู่ครบเช็ควันที่ได้ แต่เค้าก็ไม่เช็ค ให้ลองใช้เครื่องตรวจสภาพดูได้ เค้าก็ไม่ยอมตรวจ แต่อยากได้เครื่อง และสงสัยเราทำหน้าระแวงว่าทำไมเราขายถูก พูดจาไม่ค่อยสุภาพกับเราตลอด ทำน้ำเสียงกระโชกตลอด ตอนแรกกะจะให้ฟรี แต่ทำหน้าสงสัยเราตลอด จะเช็คเครื่องก็ไม่เช็ค เราก็เลยเชิญให้ออกไปจากบ้านเรา นี่แค่เรื่องเดียวนะ จริงๆยังมีอีกเป็นร้อยเรื่องเลย ที่คนระแวงเราคิดว่าเราเป็นมิจฉาชีพ มีอยู่ครั้งนึงนานแล้วเราถูกล้วงกระเป๋าสตางค์ เลยไม่มีเงินซักบาท เรราอยู่ไกลบ้านด้วย ยังอายุ13-14เอง ก็เลยขอร้องคนขอเงินซักสิบบาท สมัยนั้นรถเมล์3บาท50สตางค์ เราคาดว่าต้องขึ้น2ต่อ ก็เลยขอซัก10บาท จริงๆแล้วเราไม่กล้าขอเงินคนแปลกหน้าเลย แต่วันนั้นเราเดือดร้อนจริงๆ แต่ก็ไม่มีใครให้เลย เปลี่ยนเป็นขอบาทเดียวก็ไม่มีใครให้ และคนจะทำหน้าระแวงเรา บางคนพูดกับเราเลยว่ากระเป๋าตังค์หายจริงรึเปล่า และผู้หญิงคนนึงก็พูดประมาณว่า "ทำอย่างนี้เงินดีล่ะสิ" พูดเหมือนกับว่าเรากุเรื่อง สรุปวันนั้นเราเดินกลับบ้าน ใช้เวลา ประมาณ6ช.ม. จำได้ว่าปวดขามาก หิวมาก แถมโดนแม่ว่าด้วยเพราะมาถึงดึก และประเป๋าตังค์หาย มีเงินตั้งหกร้อยกว่าบาท มีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ เช่นเราถูกมิจฉาชีพเข้ามาหลอก คนอื่นเค้าก็คิดว่าเราเป็นมิจฉาชีพ ฯลฯ ปล.ขอแค่ระบายค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 11:42:31 จากคุณ : Pooh (gwyndapooh) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 11:40:42

ความคิดเห็นที่ 44 ก็เพราะกลัวเจอคนเดือดร้อนจริงๆแบบคุณ Pooh แล้วมองข้ามไง เราจึงเลือกที่จะช่วยเหลือไว้ก่อน หากโดนหลอก ก็ถือว่า ซวยไป เคยให้ค่ารถกลับบ้าน สามร้อย ห้าร้อย  ไปถอนเอทีเอ็มให้ก็มี คนอื่นอาจมองว่าโง่ ไม่ทันคน แต่เราทำแล้วรู้สึกดี ไม่หวังผลตอบแทน และไม่ได้เดือดร้อนตัวเอง(ตัวเองมีกินมีใช้) หากจะต้องเสียรู้เพราะความตั้งใจดี ก็ให้มันเป็นไป แค่นั้น! จากคุณ : เอื้องราตรี เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 12:17:55

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ Pooh ตอนนั้นถ้าได้เจอกับคุณเอื้องราตรี ก็ดีนะ จากคุณ : ปลงกับสังคม (ลูกป้าดม) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 19:45:18

ความคิดเห็นที่ 46 จขกท เก่งมากค่ะ เสียดายตอนที่ไปถาม จนท. ใน สนง. น่าจะลากคอมันเข้าไปถามด้วย ก็ไหนบอกว่าจะเอาเงินไปให้หัวหน้า!! จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 22:50:30

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 35 ของเรามันมืออาชีพกว่ามากๆ คะ แต่ละคนแต่ละเคสที่เจอ ต่างวิธีการหมดเลย อาจจะมีคล้ายกัน แต่ก็ยังไม่เหมือนกันคะ ยังไงฝากด้วยนะคะ http://www.facebook.com/omehunter กดอ่านไปเรื่อยๆ ข้อมูลทั้งหมดอยู่ใน http://www.facebook.com/omehunter แล้วคะ จากคุณ : noneonly เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 01:02:19

ความคิดเห็นที่ 48 สปอนด์เซอร์ 20 ลัง  ราคา 7พันเลยเหรอครับ  แพงมากๆ ลังละกี่ขวดครับเนี่ย หรือเป็นกระป๋อง จากคุณ : Free Kick เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 12:04:13

ความคิดเห็นที่ 49 #36 ถ้าโดนบ่อยๆ หรือโดนหนักๆ มาแบบผม จะทำให้ระวังและคิดได้ทันมากขึ้นครับ #37 ของถูกต้องถูกแบบมีเหตุผลครับ ผมค้าขาย หนีไม่พ้นต้องช่วยเหลือเกื้อกูล จนท. เจ้าของพื้นที่ บางครั้งนายเก่าไปนายใหม่มา ชั้นผู้น้อยจัดเลี้ยงรับ-ส่ง จะมาขอเหล้า เบียร์ น้ำดื่ม ไปใช้ในงานฟรีๆครับ #38 โปรดรอหน่อยครับ กำลังเรียบเรียงและย่อความอยู่ เสร็จเมื่อไรจะนำมาโพสครับ #39 เคสนั้นไม่ใช่ผม แต่พวกที่หากินแบบนี้คงทำไปทั่วครับ #40 คงรู้ได้ยากครับ ว่าเมื่อก่อนเขาทำอะไรไว้ แต่ถ้าปัจจุบันเขาไม่เป็นพิษเป็นภัย ก็ช่วยๆไป ถือว่าทำบุญทำทานครับ #41 ขออภัยครับ ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสอ่านหนังสือการ์ตูนครับ #42 ผมกลัวเจ็บตัวครับ เลยหาทางเอาตัวรอดด้วยวิธีดังกล่าว(ได้ผลมาตั้งแต่เด็ก) #43 อย่าไปใส่ใจครับ ผมเคยตกเป็นจำเลยอยู่ห้าปี กว่าความจริงจะปรากฏว่าใครขโมยทองของแม่ ไม่ว่าจะสาบานยังไงก็ไม่มีใครในบ้านเชื่อผม ทั้งๆที่ผมไม่เคยมีประวัติหรือเคยถูกจับได้เรื่องขโมยของ ไม่ว่าในบ้านหรือนอกบ้าน #44 คิดเหมือนกันครับ ถ้าช่วยได้ เราไม่เดือดร้อน ก็ช่วยไปเถอะครับ #46 เสียดายอยู่เหมือนกัน ถ้าตอนนั้นผมมีอาวุธจริงๆ หรือเด็กคนงานอยู่ใกล้ๆ คงลากคอมันเข้าซังเตไปแล้วครับ #47 คุณนันท์ครับ ผมว่าคนนี้ก็มืออาชีพครับ ดูจากการเตรียมการมาอย่างดี ผมอยู่ที่นี่มากว่าสิบปี ยังไม่เคยรู้เลยว่า สนง.เขต มีอีกฝั่งของตึกที่เดินทะลุถึงกันได้ #48 ไม่ใช่ยี่ห้อสปอนเซอร์ครับ พวกขวดเล็กหน่อย ขวดสีน้ำตาล ขนาด 150 ซีซี แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 55 16:45:07 แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 55 16:41:30 จากคุณ : freezerman เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 16:39:11

ความคิดเห็นที่ 50 ทำงานที่ร้านกาแฟ โจร... ทำทีคุยโทรศัพท์กับเจ้าของร้านที่เราทำงานอยู่        'คุณ.. ครับผมมาถึงร้านแล้ว ่อให้เอาเงินจากเด็กเลยใช่มั้ยครับ ครับผมเจอน้องในร้านแล้วครับ ๆๆๆ'        ' น้องชื่ออะไรนะ" เรา- '... คะ' โจร ' ครับตอนนี้น้อง..อยุ่ร้านครับ' โจรมันทำทีเป็นคุยโทรศัพท์กับเจ้าของร้าน ว่าพี่เจ้าของร้านสั่งของแล้วให้มาเก็บเงินที่ร้าน เป็นจำรวนเงิน 8000 กว่าบาท แล้วมันก็หันมาถามเราว่า คุณเจ้าของร้านให้ถามว่ามีเงินในร้านเท่าไหร่  (จริงเงินในร้านก็มีพอตามที่มันต้องการ แต่ด้วยความเอ๋อ เราบอกว่าวันนี้ขายไม่ดี เงินมีแค่ 2000)  ไอ้โจรมันก็คุยกับพี่เจ้าของร้านทางโทรศัพท์ต่อ ว่าเงินในร้านไม่พอ คุยไปคุยมา มันบอกว่าพี่เจ้าของร้านให้เราไปยืมตัง ผู้จัดการสถาณที่มาจ่ายก่อน เดี่ยวเขาเข้ามาคืนเอง มันเนียนมากเลยนะรู้จักชื่อพี่เจ้าของร้าน คุยโทรศัพท์เหมือนคุยกับพี่เจ้าของร้านจริงๆ แต่มันพลาดตรงที่ พี่เจ้าของร้านไม่ถูกกับผู้จัดการสถาณที่ เราเลยเอะใจ แล้วบอกมันว่า ผู้จัดการยังไม่มานี่คะ มันก็คุยโทรศัพท์อีกสักพัก ก็หันมาพูดกับเราว่า มีเท่าไหร่ก็เอามาจ่ายเท่านั้นก่อน เร็วๆน้อง เดี่ยวไม่ทันได้ของ พี่เขารีบเอา ช้าจะไม่ได้นะ  เราเลยลองโทรไปหาพี่เจ้าของร้านดู  พี่เขาปิดเครื่อง ทีนี้เลย 2 จิตสองใจ  เลยพูดไปว่า พี่คะหนูขอคุยกับพี่เจ้าของร้านหน่อยสิค่ะ ไอ้โจรเลยชักสีหน้าไม่พอใจ แล้วพูดว่า ไม่เป็นไรละน้อง พี่เขาบอกไม่เอาแล้ว ชักช้า เรื่องมาก ไม่ทันแล้ว (นั่นมีแขวะเราด้วย)  ตอนเดินออกไปมีมองหน้าอาฆาตด้วยนะ สักพักเราเลยลองโทรเข้าเบอแฟนพี่เจ้าของร้านดู ปรากฏว่าพี่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย วิธีป้องกันโจรง่ายๆคือ อย่าเอาเงินจากกระเป๋าเรา ออกจากกระเป๋าง่ายๆ มือหนักเข้าไว้ มือมีถือเอง แบกเอง อย่าให้ใครช่วยถือ ของๆคนอื่นก้อไม่เอา รักษาเอง อย่ามาฝาก มองโลกเป็นสีดำบ้าง จะปลอดภัย ส่วนมากคนที่โดนหลอกนี่มองโลกสีขาวทั้งนั้น จากคุณ : ขวัญใจมหาชน (ขวัญใจมหาชนสุดยอดแล้ว) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 08:21:32

ความคิดเห็นที่ 51 โชคดีมากๆเลยค่ะ   ดิฉันอ่าน Case คุณ Pooh ก็ยอมรับนะคะ ว่าเดี๋ยวนี้ระแวงมาก แต่ดิฉันก็ให้ทุกครั้ง (หากไม่มากและให้ได้)  คุณแม่ชอบย้ำเสมอ  ทำดีก็คือทำดี ถ้าเขาเดือดร้อนจริงๆ ไม่ได้หลอกเรา ก็ดีมากได้ช่วยคน  แต่ถ้าเขาหลอกเราก็ถือซะว่า เขาคงเดือดร้อนกว่าเรา ถึงได้มาหลอกขอตังเรา   บทสรุปคือได้ช่วยคนทั้งคู่ จากคุณ : Tangdoaw เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 12:17:33

ความคิดเห็นที่ 52 Give หมด แงงงง เพราะคุณนันท์คนเดียวแท้ ๆ (หมายถึงเพราะไปอ่านกระทู้คุณนันท์ แต่เราแจกให้คนอื่นเยอะนะ ไม่ใช่เฉพาะคุณนันท์) Pooh (gwyndapooh)คคห. 43 เอื้องราตรี คคห. 44 ขวัญใจมหาชน (ขวัญใจมหาชนสุดยอดแล้ว) คคห. 50   ให้ดอกไม้แทนนะคะ T.T เห็นด้วยค่ะว่าคนที่มองโลกในแง่ดี ไม่ระแวงคนอื่น ก็มักจะไม่ทันกลโกงของคนร้าย เป็นเหตุให้โดนหลอกง่าย เราเองก็เป็นคนหลอกง่ายคนหนึ่ง จึงรู้สึกขอบคุณทุกครั้งที่มีคนเตือนหรือแชร์ประสบการณ์โดนหลอก เพราะจะได้เอาไว้เป็นบทเรียน เตือนให้ตัวเองระวังตัวต่อไปในอนาคต ป.ล. ของเราเคยให้เงินลุงแก่ ๆ กับคุณป้าสักคนไป (2เหตุการณ์ ไม่ใช่วันเดียวกัน) เพราะเขาบอกว่าไม่มีค่ารถกลับบ้าน เราก็ให้ค่ะ เพราะแค่ 10 บาท ไม่ได้หนักหนาอะไร เราคิดว่าการหัดระแวงคนอื่นมันก็ดีนะคะ แต่ระแวงมากเกินไปจนกระทั่งกับแค่ 10 บาทหรือ 1 บาทก็ไม่ยอมช่วยเขาเนี่ย เราว่าเกินไปจริง ๆ ค่ะ อ่านแล้วเศร้า ทำให้นึกสะท้อนใจว่า สังคมสมัยนี้ ในสายตาของพวกเขาเป็นอย่างไร พวกเขาไปเจอเรื่องร้ายแรงอะไรมาหรือ ถึงสูญสิ้นความไว้ใจในมนุษย์ ถึงขนาดไม่ยอมช่วยเหลือคนเดือดร้อนตรงหน้าได้ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 55 12:24:26 จากคุณ : Moonlight & Valentino เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 12:21:02

ความคิดเห็นที่ 53 กฎหมายต้องให้แข็งกว่านี้เป็นพันๆเท่า จับได้ ตัดอวัยวะประจานเลย แบบสมัยก่อน คนมันชั่วเพิ่มขึ้น ทำไมกฎหมายมันหย่อนลง สวนทางกันได้ไงเนี่ยยยยยยยยยย จากคุณ : เมืองโบราณ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 14:09:55

ความคิดเห็นที่ 54 ช่วงม.ปลายกระเป๋าตังค์หายบ่อยมากกก ไม่รู้เพราะเดินห้างทุกเย็นหลังเลิกเรียนหรือเปล่าเลยหายเอาๆ ตอนนั้นเด็กๆใสซื่อคิดว่าตัวเองคงทำหล่นหายเองทุกที แต่ตอนนี้มานึกย้อนไป เอ๊ะ โดนล้วงหรือเปล่าหว่า ปกติถ้าไม่สงสารจริงๆเราจะไม่ทำบุญกับขอทานที่นั่งขอหรือเดินขอตามโต๊ะอาหารนะ แต่ถ้ามีใครขอเงินค่ารถกลับบ้านเราให้ทุกคน (ไปแถวสนามหลวง เจอบ่อยมว้ากก) เคยมีคนขอเงินหกบาท เราถามหกบาทพอเหรอค่ารถเมล์มันแปดบาทนะ เขาบอก พอ มีอยู่สองบาทแล้ว เคยมีลุงยื่นบัตรประชาชนให้ดู บอก ไม่รู้จะกลับบ้านยังไงจริงๆ เราก็ถามว่าค่ารถกี่บาท ให้ไปตามนั้น มีลุงมาขอเงินสามบาทจะเอาไปซื้อพารา เราถามว่าสามบาทพอเหรอพาราแผงเท่าไหร่ แกบอกแกมีอยู่เจ็ดบาท เพื่อนๆชอบดูสถานการณ์แบบนี้ของเรา ถึงกับรอฟังบทสนทนากันทั้งกลุ่ม มันชอบตรงที่เราถามคนที่มาขอว่าจะเอาไปทำอะไร เอากี่บาท เท่าที่ขอนี่พอใช้มั้ย 55 เราเคยไม่มีเงิน มีเศษเหรีญญติดก้นกระเป๋าสองสามบาท โทรหาพ่อๆไม่รับ ต้องเดินกลับบ้านตอนสี่ทุ่ม มันเครียดมาก ทางข้างๆถึงจะเคยนั่งรถผ่านทุกวันแต่เวลาเดินคนเดียวมืดๆมันน่ากลัวไปหมด เดินไกลมาก สี่โลกว่าตอนกลางคืนนี่สุดยอดจริงๆ กลับถึงบ้านปุ๊บพ่อเปิดประตูให้ (พ่อนอนอยู่บ้านแต่ลืมเปิดมือถือ ฮึ่มม..) เราเข้าบ้านปุ๊บไม่พูดอะไรเลย นั่งลงร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมง มันเป็นปมในใจมาก ไม่อยากให้ใครต้องโดนแบบตัวเอง จากคุณ : มะหมีกล๊มกลม เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 14:23:46

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ จขกท ใจถึงที่ตามติด แต่จริงๆ ขนาดเห็นของยังไว้ใจไม่ได้เลย ถ้าของไม่รู้ที่มาที่ไปแน่ชัด อย่างเจ๊ข้างบ้านผมกะซื้อเบียร์สิงห์ถูกๆ มีคนมาเสนอขาย แต่งตัวและรถขนของดูดีเชียว แต่ข้างในเป็นน้ำล้วนๆ หมดไปสองหมื่นกว่าบาท ซวยไป สรุปคือ อะไรที่อยู่ดีๆ ก็มา ไม่รู้ที่มาที่ไป ไว้ใจไม่ได้ที่สุด จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 18:01:42

ความคิดเห็นที่ 56 กลับมาเล่าใหม่ เพิ่งนึกออกว่าตัวเองเคยมีสถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาความสงสารและความไว้ใจของคนแปลกหน้า เราเคยถูกล้วงกระเป๋าเอามือถือไปค่ะ ปรกติเวลาขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน ก็จะต่อรถเมล์มาที่ห้างแถวบ้าน เพราะซอยบ้านเข้าลำบากมาก วินมอเตอร์ไซค์ที่เคยใช้ประจำก็เจ๊งไป ปรกติจะลงแถวที่เคยเป็นวินฯ แล้วเดินกลับบ้าน ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ถ้าเย็นแล้ว คุณแม่จะไม่ให้เดิน แต่จะให้โทรเรียกคุณแม่ให้ขับรถออกมารับ เพราะนอกจากจะไม่มีฟุตบาธ กลัวโดนรถบรรทุกเฉี่ยว(แถวนั้นรถบรรทุกเยอะและซิ่ง)แล้ว ข้างทางยังเป็นรกเป็นพง น่ากลัวทั้งผู้ร้ายและงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ทีนี้วันนั้นฝนตก ถ้าไปลงที่เดิมจะไม่มีที่หลบฝน เราก็เลยกะว่าจะลงที่หน้าห้าง แล้วรถที่ป้ายรถเมล์(มีหลังคา) แต่พอถึงตอนที่จะโทรบอกคุณแม่ว่าให้ออกมาได้แล้ว (กะเวลาให้พอดีกัน) ปรากฏว่ามือถือหายไป ทั้ง ๆ ที่ตอนอยู่บนรถไฟฟ้าก็โทรคุยกับคุณแม่อยู่ เราต้องไปสะกิดผู้หญิงคนที่นั่งเบาะข้างหน้าห่างจากเราไป 2-3 แถว แล้วขอว่า ขอยืมมือถือโทรเรียกคุณแม่หน่อยได้ไหม เพิ่งรู้ตัวว่ามือถือหาย พี่เค้าก็ให้ยืม (ใจดีและน่ารักมาก ๆ ยังแสดงความเป็นห่วงและถามเราเลยว่าฝนตกจะกลับยังไง) เราก็โทรบอกคุณแม่แล้วให้ท่านขับรถออกมารับที่หน้าห้าง มานึกย้อนหลังดู ถ้าไม่คนที่เบียด ๆ กันหลบฝนตอนเราลงจากรถไฟฟ้าแล้วรอรถเมล์ ก็ต้องเป็นผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ เราในรถเมล์แหละ เพราะเราถือถุงช็อปปิ้งพะรุงพะรัง แล้วเอามือถือใส่ไว้ในซอกเล็กนอกกระเป๋าสะพายของเรา แล้วช่องนั้นเป็นแป๊กแม่เหล็กที่ค่อยข้างหลวม เปิดปิดง่ายไม่มีเสียงและไม่มีอะไรให้รู้สึกแบบซิป ตอนนั้นตกใจ เครียด เสียใจ แค้น และอารมณ์เสียมาก ๆ ที่โดนขโมยมือถือ คิดดูว่า สมมติหากตอนกำลังใจเสีย ลนลานอยู่ แล้วขอความช่วยเหลือแล้วไม่มีใครช่วย เพราะระแวงว่าเราโกหก และเป็นมิจฉาชีพที่คิดจะขโมยมือถือหรือวิ่งราว.... แถมยิ่งถ้ามีพูดไม่ดีแบบระแวงและกล่าวหาแบบที่คุณ Pooh (gwyndapooh) โดน เราคงร้องไห้โฮเลยแหละ การมีน้ำใจ กับการโง่หลงกล บางครั้งต่างกันแค่เส้นด้ายบาง ๆ และวินิจฉัยยาก ไม่อยากให้ทุกคนในสังคมมัวแต่กลัวโง่กลัวโดนหลอก จนไม่มีน้ำใจหยิบยื่นให้แก่กัน เราเลยโกรธ โมโห และหงุดหงิดมากหากมีกรณีคนมีน้ำใจช่วยเหลือคนอื่นแต่ลงท้ายกลายเป็นโดนหลอก มันทำให้ความเชื่อถือที่คนทั่วไปมีต่อมนุษย์(และผู้ร้องขอความช่วยเหลือ)ลดลงอย่างร้างกาจมาก!!! จากคุณ : Moonlight & Valentino เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 02:06:41

ความคิดเห็นที่ 57 ส่วนตัวแล้ว เราไม่เคยเจอเหตุสุดวิสัยที่จะขอความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า แต่นึกภาพออกนะ ว่าถ้ามีคนเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ แล้วไม่มีใครยื่นมือให้นี่....มันจะเลวร้ายแค่ไหน เมื่อไม่นานมานี้ เคยเกิดเหตุการณ์ที่ลูกชายเราต้องพึ่งคนแปลกหน้า เรื่องคือ เราไปส่งลูกที่สนามบอลตอนเย็น เอาเงินใส่กระเป๋าตังค์ให้ลูก แต่ด้วยความเลินเล่อ เราเอากระเป๋าตังค์ลูกใส่ลงในกระเป๋าสะพายของตัวเองซะนี่ บังเอิญอีกว่า พ่อของลูกไปถึงสนามบอลเลท ลูกจึงตัดสินใจขึ้นรถโดยสารกลับบ้านเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องมายืนโบกรถ ขึ้นรถเอง ที่ป้ายรถเมล์ คงจะงกๆเงิ่นๆพอควร พอใกล้ถึงบ้าน ลูกหากระเป๋าตังค์ไม่เจอ (นึกภาพว่า คงใจเสีย)จวนตัวแล้วลูกจึงขอตังค์พี่ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ บอกว่า ตัวเองทำตังค์หาย ขอค่ารถ 5 บาท ซึ่งคนแปลกหน้าคนนั้นได้ให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ สรุปลูกกลับมาถึงบ้าน 2ทุ่ม พอลูกเล่าว่า กระเป๋าตังค์หายแค่นั้นแหละ ลูกก็ร่ำไห้ออกมา เข้าใจนะว่าลูก ขวัญเสีย.. เพราะแค่ขึ้นรถเองก็คงประหม่าไม่น้อย ยังไม่มีเงินอีก แถมเป็นเวลามืดค่ำ ไม่เคยไปไหนมาไหนตามลำพัง ถ้าไม่มีใครให้ค่ารถเพราะระแวงว่า เด็กจะหลอกเอาเงิน คงเป็นสถาณการณ์ที่เลวร้ายสำหรับเด็กคนนึง(ที่พยายามจะช่วยเหลือตัวเอง โดยการกลับบ้านเอง) ตอนลงจากรถไม่รู้จะ จะโดนคนรถด่าอีกไหม วันนั้นเราเองรู้สึกผิดมากที่เอากระเป๋าตังค์ลูกกลับมาด้วย แต่พอเห็นว่าลูกแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ กล้าขอความช่วยเหลือ เราถือว่าได้ประสบการณ์จากความผิดพลาด ยังรู้สึกขอบคุณพี่ผู้หญิงคนนั้น เงิน 5 บาทไม่ได้มีค่าแค่นั้น มันมีความหมายต่อจิตใจมากมาย ณ ช่วงเวลานั้น จากคุณ : เอื้องราตรี เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 10:55:34

ความคิดเห็นที่ 58 ขอค่ารถเราก็ต้องดูก่อนนะ ถ้ามีกลิ่นเหล้าหึ่งนี่สันนิษฐานว่ามันจะไม่ใช่ค่ารถค่ะ มันอาจจะกลายเป็นค่าเหล้า บางทีก็วนเวียนขออยู่แถวนั้นแหละค่ะ ต้องลองถามพวกแม่ค้าแถวๆ นั้นดู ถ้าคนธรรมดาไม่มีกลิ่นเหล้าบางทีเราก็จะแนะนำให้ไปขอความช่วยเหลือจากสถานีตำรวจ เคยเจอคนมาขอค่ารถใกล้ๆ สถานีตำรวจน่ะค่ะ เราบอกเลยว่าน้องเดินไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจเลย ถ้าหลงทางจริงๆ ตำรวจส่งกลับบ้านให้ได้นะ แต่ถ้าแถวนั้นไม่มีตำรวจไม่มีอะไรเราก็คุยถามข้อมูลเค้านิดหน่อย ถ้าฟังแล้วไม่น่าโกหกก็ให้ค่ะ เคยให้ผู้หญิงอุ้มลูกเค้าบอกเค้าติดเชื้อ HIV เราฟังดูแล้วข้อมูลค่อนข้างตรง (เราทำงานสายใกล้เคียง) ก็ให้ไป จะให้ความช่วยเหลือใครก็ต้องดูก่อน แต่ถ้ามันมืดมันเปลี่ยวน่ากลัวก็ระวังๆ ไว้มั่งก็ดีค่ะ ถ้าเค้าบอกให้เราไปไหนกับเค้าอะไรอย่าไป เราช่วยแค่ตรงนั้นก็จบค่ะ จากคุณ : แมวบนหลังคา เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 14:56:25

ความคิดเห็นที่ 59 เคยมีคดีแบบนี้ออกรายการนาทีฉุกเฉินด้วย แต่ตอนนั้นเป็นกระดาษ อุบายแบบนี้เป๊ะๆเลย จขกท หัวไวมาก โชคดีไม่เสียเงินให้มัน จากคุณ : hamstersom เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 16:26:32

ความคิดเห็นที่ 60 คนชั่วพวกนี้บาปหนัก ที่ทำลายความจริงใจ ความหวังดี คิดดี ของคนเรา ทำให้ในสังคม หวาดระแวงกัน ไม่ไว้ใจคนอื่น เช่นพวกขอเงิน พวก หลอกลวง มันทำลายโอกาสของคนที่ ต้องการความช่วยเหลือจริงๆไป ทำให้คนมอง เค้าว่าเป็นพวกหลอกลวง จากคุณ : เลน่า เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:35:23

ความคิดเห็นที่ 61 คุณpooh  สมัยมัธยมต้นเราลืมกระเป๋าตังค์บ่อย ขอคนบนรถกระป๋องหรือรถเมล์ได้ตลอดเลย  บางทีแค่บ่นพึมพำกับตัวเองว่าลืมและค้นๆๆกระเป๋าก็มีพี่สาว หรือคุณป้าใจดีสักคนยื่นให้แล้ว "เอ้า นี่หนู ไม่เป็นไรๆ" คนที่ดูน่าจะมีลูกแล้วน่ะใจดี คนไทยมีใจดีๆเย้อออ อยากให้รู้น่ะค่ะว่า เอ่อ ไม่ได้มีแต่คนแบบนั้นนะ หรือเพราะบ้านเราอยู่ชาoเมือง ไม่ใช่ย่านเร่งรีบ คนเลยใจดี ? จากคุณ : sineseta เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 22:08:53