ความคิดเห็นที่ 1 เอาคืนได้ตอนที่เขามาทำแผน เห็นญาติๆรุมยำประจำ จากคุณ : Wairoon เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 13:31:35

ความคิดเห็นที่ 2 รธน.2550 มาตรา ๑๔๒ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๓๙ ร่างพระราชบัญญัติจะเสนอได้ก็แต่โดย (๑) คณะรัฐมนตรี (๒) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ายี่สิบคน (๓) ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดองค์กร และกฎหมายที่ประธานศาลและประธานองค์กรนั้นเป็นผู้รักษาการ หรือ (๔) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นคนเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามมาตรา ๑๖๓ ในกรณีที่ร่างพระราชบัญญัติซึ่งมีผู้เสนอตาม (๒) (๓) หรือ (๔) เป็นร่างพระราชบัญญัติ เกี่ยวด้วยการเงินจะเสนอได้ก็ต่อเมื่อมีคำรับรองของนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ประชาชนได้เสนอร่างพระราชบัญญัติใดตาม (๔) แล้ว หากบุคคลตาม (๑) หรือ (๒) ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติที่มีหลักการเดียวกับร่างพระราชบัญญัตินั้นอีก ให้นำบทบัญญัติ มาตรา ๑๖๓ วรรคสี่ มาใช้บังคับกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นด้วย ร่างพระราชบัญญัติให้เสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรก่อน ในการเสนอร่างพระราชบัญญัติตามวรรคหนึ่งต้องมีบันทึกวิเคราะห์สรุปสาระสำคัญ ของร่างพระราชบัญญัติเสนอมาพร้อมกับร่างพระราชบัญญัติด้วย ร่างพระราชบัญญัติที่เสนอต่อรัฐสภาต้องเปิดเผยให้ประชาชนทราบและให้ประชาชน สามารถเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดของร่างพระราชบัญญัตินั้นได้โดยสะดวก มาตรา ๑๖๓ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อร้องขอ ต่อประธานรัฐสภาเพื่อให้รัฐสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตามที่กำหนดในหมวด ๓ และหมวด ๕ แห่งรัฐธรรมนูญนี้ คำร้องขอตามวรรคหนึ่งต้องจัดทำร่างพระราชบัญญัติเสนอมาด้วย หลักเกณฑ์และวิธีการเข้าชื่อ รวมทั้งการตรวจสอบรายชื่อ ให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตามวรรคหนึ่ง สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องให้ผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัตินั้นชี้แจงหลักการของ ร่างพระราชบัญญัติ และคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะต้อง ประกอบด้วยผู้แทนของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัตินั้นจำนวนไม่น้อยกว่า หนึ่งในสามของจำนวนกรรมาธิการทั้งหมดด้วย /////////////////////////// ตามหลักกฏหมาย รธน.  ประชาชน 10,000 +   มีสิทธิเสนอร่างกฏหมาย ตาม ม.163 (หมวด 3 หมวด 5  เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ) การเพิ่มโทษทางอาญา เป็นการแก้ไข ประมวลกฏหมายอาญา  ซึ่งเป็นกฏหมายระดับ พรบ.  และเกี่ยวกับ สิทธิเสรีภาพของประชาชน  ตามหมวด 3 แห่ง รธน.  ประชาชน 10,000+  จึงมีสิทธิเข้าชื่อเสนอแก้ไขได้อยู่แล้วครับ ในความเห็นส่วนตัว  โทษในปัจจุบันส่วนใหญ่เหมาะสมแล้ว  ปัญหาอยู่ที่ กระบวนการยุติธรรมและผู้ใช้กฏหมายมากกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 55 13:38:46 จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 13:31:48

ความคิดเห็นที่ 3 อืมม จำนวนโทษคุกกับปรับกี่ปีไม่รู้ แต่ผมรู้แค่ว่าเขาออกมาไวและกระทำผิดซ้ำได้อีกโดยไม่แคร์อะไรเลย มันทำให้รู้สึกขาดความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิต จากคุณ : nimea เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 13:42:43

ความคิดเห็นที่ 4 เอาพวกแว้น พวกยกพวกตีกันด้วยได้ไหม ต้องเพิ่มโทษหนัก ๆ เลย ไม่งั้นไม่หลาบจำ จากคุณ : อ้วนแต่น่ารักนะ เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 14:05:15

ความคิดเห็นที่ 5 มีกฎหมายหลายมาตราเหมือนกันคับ ที่ผมเล็งๆ ไว้ว่าจะเอาไปทำเอกน่ะ *** เพิ่มเติม *** คุณอุบลแมนคับ ผมว่าค่าปรับในคดีลหุโทษบางคดีมันปรับน้อยเกินไปจนไม่น่ากลัวเลยซักนิดนะคับ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 55 14:29:00 จากคุณ : Sieghart เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 14:27:40

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องเหล่านี้ จริงๆ แล้วสำคัญและเร่งด่วน กว่าเรื่อง ที่เป็นปัญหาตอนนี้ซะอีก จากคุณ : คิดดูว่าจริงมั้ย เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 15:47:43 A:58.11.127.171 X: TicketID:320488

ความคิดเห็นที่ 7 เจ้าหน้าที่ๆมีหน้าที่เขาก็ดูแลอยู่นะครับ ไม่ได้นิ่งนอนใจหรอกครับ คนเรากลัวแค่การเข้าคุกครั้งแรกเท่านั้นแหละครับ พอเข้าไปแล้วได้รู้ได้เห็นก็เกิดการย่ามใจ ไม่กลัวหวนไปกระทำผิดซ้ำอีก   >> ถ้าเราเพิ่มโทษ ถามว่าพวกนี้กลัวไหม  ผมว่าเขาไม่กลัวโทษนะ  แต่เขากลัว "ถูกจับได้"  เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำไม่ให้เขาถูกจับก็คงเป็นการทำลายหลักฐาน... ผมเกลียดนะครับคนทำผิดน่ะ แต่ผมก็จนใจกับคนพวกนี้จริงๆ การเอาโทษจำคุกจะส่งคนไปเรียนโจรเปล่าๆ  ถ้าเอาโทษถึงประหารก็อาจจะไม่เป็นธรรมได้ เพราะเรื่องเพศเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยากจริงๆ ถ้าข่มขืนชัดแจ้งก็ดีไป แต่กรณีรู้จักกันเป็นเพื่อนกันอันนี้พิสูจน์ยาก  แล้วประเด็นอันไหนชัดแจ้งจนเป็นโทษประหารอันไหนคุมเครือให้เป็นโทษจำคุกก็ไม่ได้ จะแบ่งโทษแบบนี้ก็ปวดหัวนักกฎหมายเปล่าๆ จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 16:54:44

ความคิดเห็นที่ 8 ผมขอโหวต ไม่ดี ครับ จากคุณ : นอนดูดาว (นอนดูดาว) เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 17:39:53

ความคิดเห็นที่ 9 บังคับใช้กฏหมายเท่าที่มีให้ดีก็พอครับ อย่าทำแบบทุกวันนี้ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเอากฏหมายมาหาผลประโยชน์ จากคุณ : นายกานต์ เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 17:44:21

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วถ้าเป็นการเพิ่มโทษคนที่ทำผิดซ้ำซากล่ะครับ ผิดครั้งแรก รับโทษตามปกติ ครั้งต่อไป (ในความผิดเดิม) รับโทษเพิ่มขึ้นทีละ 30% ตัดสิทธิ์ลดหย่อนทุกประเภท คิดว่าเป็นยังไง จากคุณ : taroteer เขียนเมื่อ : 5 มิ.ย. 55 17:58:40

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นคดีนึงนักโทษข่มขืนได้รับพิจารณาให้ออกก่อนครบกำหนด  คนๆนี้ทำผิดซ้ำซาก คนในหมู่บ้านหวาดกลัว เคยข่มขืนคนมาแล้วหลายครั้งมีทั้งเป็นคดีและผู้เสียหายไม่เอาความ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำกับคนมีอายุ แต่เจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องก็เข้าไปสอบถามคนในหมู่บ้านก่อนนะครับ ซึ่งคนในหมู่บ้านและทางผู้เสียหายก็ไม่เห็นด้วยให้ออกก่อน คนๆนี้จึงไม่ได้ออกก่อน คนที่ทำผิดซ้ำซากก็เห็นด้วยให้จัดการหนักขึ้นนะครับ แต่เพิ่มไป เขาก็ไม่ได้กลัวหรอกครับ เพราะตอนเขาทำผิด อาจจะเมาหรืออารมณ์ชั่ววูบ เขาไม่คิดถึงโทษก่อนหรอก จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 08:31:50

ความคิดเห็นที่ 12 โดยหน้าที่ สส ต้องทำ  แต่มันไม่ทำ    ค่าปรับคดีอาญาหลายมาตราแพ้อัตราเงินเฟ้อไปแล้ว   ปรับ500 ปรับ 1000นึงไม่ควรมีแล้วเริ่มต้น 5000ขึ้น   ที่สวิส เขาปรับเอาตามเปอร์เซ็นรายได้    คนรวย ร้อยล้านเจอปรับ10เปอร์เซ็นก็ร้อง จ๊ากแล้ว   เรื่องการลดโทษหลังจากเข้าคุกไปแล้วมันลดโดยกรมราชทัณ   ตรงนี้อะ โปร่งใสหรือเปล่า   ในอนาคต ข้างหน้า คนไทยน่าจะเดินทางไปสู่ยุคเก่า  คือล้างแค้นกันเอง  ไม่หวังพึ่งกฎหมาย จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 16:04:52

ความคิดเห็นที่ 13 งั้น  ใครก่อเหตุ เดิม เป็นครั้งที่ 2 จำคุก ตลอดชีวิต  ได้มั้ยคับ  เฉพาะ คดีเหล่านี้นะ ข่มขืน ผู้อื่นที่ มิใช่ ภรรยา (ถ้าเป็นแบบโดนจัดฉาก คงไม่โง่ให้จัดถึง 2 ครั้งมั้ง) ฆ่าคน ปล้นแล้วฆ่าเจ้าทรัพย์  ส่วนคดีอื่นๆ  ให้ลง โทษ จำคุก เป็น 2 เท่า ไม่มีการลดหย่อน ภายหลังด้วย จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 22:02:00