ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าเราเป็นแม่ เราจะให้มรดกลูกคนที่ 2 มากกว่า....เหตุเพราะเขามีรายได้น้อย และน่าจะช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็นั่นนะ...ปัญหามรดกนี่ ถ้าพ่อ แม่ให้ไม่เท่ากันก็มีปัญหา พ่อ แม่ แบ่งเท่ากัน ก็มีปัญหาอีก..... ดูจากตระกูลตลาดดัง....ที่พี่น้อง ต้องแบ่งกันเป็น 2 ฝาก เพราะเรื่องมรดกนี่แหละ อีกกรณีก็....ลูกชายเสี่ยร้านทอง ที่เอาเงินแบงค์พันเป็นปึกๆ ไปตัดแล้วทิ้งถังขยะไง เหตุก็เกิดจากมรดก....เหมือนกันนี่แหละ คนถึงว่าไม่มีอะไรพอดี...ในคนที่ไม่พอดี T__T จากคุณ : ขาวสวยหมวยสาว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 13:51:14

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ควรคับ ถ้าสมบัติของเราต่อยอดที่ดีได้ ผมให้ทางนั้นเเต่ก็ไม่ได้ต่างจากอีกคนมาก คนที่ไม่ขยันขี้เกียจก็ให้เเต่เขาต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเองก่อน เพราะถึงให้ไปเท่ากัน เขาไม่รู้จักวิธีต่อยอด มันก็หมดโดยสั้นๆเรียกว่าผลาญคับ อาจดูไม่เท่าเทียม เเต่ถ้าเท่าทัน ก็โอเคสำหรับผม จากคุณ : กรรมดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 13:53:15

ความคิดเห็นที่ 4 เราว่าควรให้เท่ากัน เพราะคนที่ทำตัวดี เหมือนถูกลงโทษกลายๆ เราให้เท่ากัน แต่สั่งให้พี่ดูแลน้องด้วย คือ ไม่ให้เงินคนน้องเป็นก้อนใหญ่ แต่ต้องคุยกับพี่ เอาเงินไปใช้ในทางที่เหมาะสม (ให้พี่กำกับดูแล) แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 14:56:23 จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 13:56:47

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเราเป็นแม่  เราจะให้เท่ากันค่ะ  ถ้าเราให้เท่ากันแล้วพี่น้องจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องลำเอียงค่ะ  แล้วที่สำคัญคนเราวาสนาไม่เท่ากัน  พ่อแม่ให้เท่ากันแล้วสุดแต่ความสามารถของลูกที่จะหาเพิ่มค่ะ อย่างที่บ้านแฟนเรา พ่อแม่แฟนเรา บ้านเราฐานะดีกว่าซัพพอตได้ทุกเรื่องไม่ว่าเป็นเรื่องรถเรื่องบ้าน   แม่แฟนจะช่วยน้องชายตลอดเพราะแฟนเค้าไม่ได้ร่ำรวย แต่กลับกันแม่แฟนเราคิดทุกส่วนกับแฟนไม่มีการช่วยเหลือ  เราไม่ได้เข้าไปยุ่งแต่เราว่าไม่แฟร์สำหรับแฟนเรา  แต่เราไม่อยากพูดให้เค้าเสียใจ จากคุณ : titleinlove เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 13:58:50

ความคิดเห็นที่ 6 ควรให้เท่ากันครับ จากคุณ : Starfight เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 13:59:51

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าลูกทั้งสองคน ต่างไม่เกเร ไม่เล่นการพนัน   หากเป็นผมจะให้คนที่สองมากกว่าครับ  ให้เพื่อชดเชยกับสติปัญญา ที่พ่อแม่ (ไม่ตั้งใจ) ให้เขาติดตัวมาน้อย  จึงทำให้เขาหัวไม่ดี เรียนไม่เก่งครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:04:46

ความคิดเห็นที่ 8 ควรจะได้เท่ากันครับ เพราะถ้าคนที่ทำดีมาทั้งชีวิต จะได้น้อยกว่า เพียงเพราะเขามีอยู่แล้ว คิดว่าจะเข้าใจว่าไม่ต้องทำดี ถึงจะได้มากกว่า ซึ่งแบบนั้นคงไม่ใช่แน่นอนมั้งครับ แต่ในการที่จะให้เท่ากันก็ไม่ได้จำเป็นว่าต้องให้เท่ากันแบบหารสองเลยซะหน่อยครับ ให้ไปเท่ากันในจำนวนหนึ่งก่อน แล้วค่อยมีเพิ่มให้ในคนที่จำเป็นต้องใช้ครับ แบบนั้นได้ใจลูกทั้งสองคนแน่นอนครับ และการจะให้เพิ่มควรจะมีกฎเกณฑ์ที่ดีพอเพื่อให้ลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้นนะครับ เพราะจขกท.หรือคนเป้นพ่อแม่ดูแลลูกไม่ได้ทั้งชีวิตแน่นอน จึงต้องใช้ทุกโอกาสที่จะมีคอยแนะนำ สั่งสอน หรือให้กำลังใจลูกให้ปฏิบัติตัวเป็นคนดี เป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ และมีความสุขในการใช้ชีวิตได้ต่อไปครับ ปล.เคยเห็นมาไม่น้อยครับ สำหรับลูกที่ทำตัวดีมาตลอด และไม่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่ เพียงเพราะเขาเห็นเราดีแล้ว อยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว เลยห่วงน้อยกว่า หรือไม่ห่วงเลย ซึ่งถ้าคิดในมุมมองลูก เขาคงอยากได้รับความเอาใจใส่เท่าๆกันมากกว่า ซึ่งต่อให้ยอมด้อยกว่าก็น่าจะมีความสุขกว่าด้วยซ้ำไป จากคุณ : I am not old Y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:21:20

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วแต่พ่อแม่ครับ มันเป็นสิทธ์ของพ่อแม่ จะให้หรือไม่ให้ใครก็ได้ แต่ถ้าถามถีงโอกาสในอนาคต ควรให้โอกาสกับ คนที่ ๒ มากกว่า จากคุณ : Jedcon เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:24:24

ความคิดเห็นที่ 10 ในสายตาลูกควรแบ่งเท่ากัน  ทำไม ทำดี ไม่ได้ดี แต่ในสายตาพ่อแม่ ยิ่งเลว ยิ่งแย่แค่ไหน ยิ่งน่าสงสาร กลัวเอาตัวไม่รอด เลยให้เยอะกว่าคนอื่น เรามีน้องชายที่ได้มรดกจากป้าเรา คนอื่นไ้ด้สามแสน น้องได้ไปหกแสน ในฐานะพี่สาว ไม่เคยอิจฉาน้อง แต่โลกยุติธรรมเสมอ น้องได้หกแสนตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง เลยเป็นเสี่ยไปเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนกินเยอะ แต่พอเีสี่ยหมดเงิน ก็เหมือนหมาตัวหนึ่ง จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:26:12

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วคนที่ทำตัวดี เค้าผิดอะไรล่ะคะ ทำไมไปตัดสิ่งที่เค้าควรได้ไปล่ะ งี้ลูกก็คิดว่า เออ ดีนะ ทำตัวแย่ๆ แต่ได้เงินเยอะกว่า แล้วจะทำดี ดิ้นรนไปเพื่ออะไรกัน จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:28:02 A:58.11.183.197 X: TicketID:146314

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเราเป็นแม่ เราให้เท่ากันค่ะ เว้นแต่คนที่ 2 เนี่ย น่าเป็นห่วงแนวว่าผลาญสมบัติเราได้ การที่คนนึงเกิดมาฉลาดน้อยกว่าอีกคนมันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ เราไม่คิดว่าคนเป็นแม่จะต้องไปนั่งคิดว่า ลูกคนแรกทำให้สมบัติเรางอกเงยได้ดีกว่าคนที่ 2 อะไรทำนองนั้น และเราคิดว่าเป็นเรื่องไม่สมควรคิดออกมาดังๆหรือทำแบบนั้นให้ลูกรู้สึกความแตกต่าง เพราะของแบบนี้ละเอียดอ่อนมาก และถ้าคุณอธิบายไม่ได้ว่าเหตุใด คนที่ 2 ควรได้สมบัติน้อยกว่าคนแรกเพียงเพราะว่าฉลาดน้อยกว่า ทั้งที่เป็นคนดีของสังคมเหมือนกัน เราว่ายิ่งไม่ควรให้ไม่เท่ากัน ถ้าคนที่ 2 จะใช้เงินจนหมด จะไปรอดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกรรม และความสามารถเค้าเอง จากคุณ : Shiki neko เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:28:58 A:118.173.7.215 X: TicketID:351705

ความคิดเห็นที่ 13 คนเราจะทำตัวดีหรือไม่ น่าจะทำมาจากใจ จิตสำนึกเพื่อชีวิตตนเอง ไม่ใช่เพื่อสมบัติ เพราะเราเชื่อว่าคนที่ฉลาดกว่า ดีกว่า เก่งกว่า ส่วนใหญ่เมื่อได้สมบัติไม่ใช่ว่าจะกลับหน้ามือเป็นหลังมือ กลายเป็นคนเลวหนิ จากคุณ : Shiki neko เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:31:06 A:118.173.7.215 X: TicketID:351705

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับ^^^ ค่ะ น้องสาวเรา  แม่สามีซื้อรถให้ แต่น้องสาวเราต้องผ่อนเอง ออกค่าดาวน์ให้ ส่วนน้องชายเราไม่ได้ทำอะไร แม่ซื้อรถเงินสดให้ ใช้คำว่าไม่มี  แล้วบอกกับน้องสาวเราว่า มีรถแล้วไม่ต้องรับผิดชอบซื้อให้ เราเลยมองว่าขยันหาเงินผ่อนรถเองลำบากยังไง ก็ได้  สรุปสุดท้าย พ่อเราออกรถให้ทุกคน  เพราะว่าเป็นของที่พ่อให้สมควรที่จะได้เท่ากัน  ของนอกเหนือเป็นของที่เค้าอดออมเป็นของจากทางบ้านสามี จากคุณ : titleinlove เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:32:56

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่มีลูกค่ะ คงอีกยาว เเต่เเม่มีลูกสามคน เป็นคนกลางค่ะ (มีพี่สาวกับน้องชาย) เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กๆมักจะบอกเเม่ว่า เเก้วเเหวนเงินทองหนูขอนะ เเม่ต้องให้หนูนะ กลัวว่าเเม่จะไม่ให้อะไรเลย..... เเต่ตอนนี้เรื่องสมบัติอะไรไม่อยากได้ เเม่ให้เเหวนมาใส่ก็เเทบจะเอาไปคืน (ก็ไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่เเล้ว 5555555) ปีก่อนๆเเม่บอกว่าจะทำประกันชีวิตให้ ก็บอกปฏิเสธไป "ไม่ต้องทำหรอกเเม่ เสียดายตัง ถ้าจะทำเเม่ก็ทำให้คนอื่นเถอะหนูไม่เอา" เเม่เลยทำให้น้องชาย (อายุ 20) เเละเก็บเงินฝากให้พี่สาวไปทุกๆเดือน (อายุ 27) 5555555 ส่วนตัวเเล้ว ไม่มีอะไรเเละไม่ได้อะไรเลย T^T 555555 เวลาทำบุญเเม่มักจะใส่ชื่อเรา 555  ก็บอกไปอีกว่า "เเม่ทำให้ตัวเองเถอะ หนูทำของหนูอยู่เเล้ว" ไม่ชอบขอ ไม่เรียกร้อง ครอบครัวจะให้หรือไม่ให้อะไรก็ไม่สำคัญ มีเเต่จะเป็นผู้ให้คนอื่นๆเท่านั้น.................. จากคุณ : ปาง อม ยิ้ม เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:33:04

ความคิดเห็นที่ 16 เท่ากันนั่นแหละครับ จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:33:06 A:125.25.76.106 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ให้สักคน . . . เขาจะได้เท่ากันเมื่อเราตาย จากคุณ : Wairoon เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:46:30

ความคิดเห็นที่ 18 เท่ากันค่ะ พ่อแม่ให้สองมือสองเท้า ครบ32แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความพยายาม จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:46:46

ความคิดเห็นที่ 19 ดูแล้ว ลูกคนที่ ๒ น่าจะผลาญสมบัติได้เร็วกว่าคนที่ ๑ หลายเท่าครับ เรียกได้ว่า มีที่ขายที่ มีรถขายรถ มีบ้านขายบ้าน คนที่รู้จักของคุณรู้จักผม เป็นคนจนครับ แต่บังเอิญแกได้รับที่ดินเป็นมรดกมา แกขายครับ ได้เงินหลายอยู่ (ประมาณ ๓๐ กว่าล้าน) ซึ่งเงิน ก้อนนั้น หมดในระยะเวลาไม่ถึง ๕ ปีครับ ตอนนี้ แกเล่าผมว่า บ้านก้ไม่มีอยู่ครับ เหอ เหอ คนเราน้อ คนเรา จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:47:21

ความคิดเห็นที่ 20 ความเห็นต่างกันจัง คือคนที่2ก็น่าเป็นห่วงกว่า แต่ถ้าให้คนที่2มากกว่า คนแรกจะน้อยใจไหม จากคุณ : ขอถาม เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:47:57 A:49.237.78.154 X: TicketID:360717

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นผมก็ให้เท่ากันนะ ถ้ามองจากลูกคนโต จะคิดว่า พ่อแม่ไม่ลำเอียง เพราะที่เขาสบายในวันนี้ เพราะตัวเขาเอง แล้วถ้าเกิดน้องตกยากในวันหน้าเขาก็จะช่วยอยู่ แต่ถ้าพ่อแม่ให้อีกคนมากกว่า เขาจะเกิดความรู้สึกทันที ในกรณีที่อีกคนนั้นใช้มรดกนั้นหมดแล้วและตกยาก เขาจะไม่อยากช่วย ตอนนั้น พอ่แม่ก็กลับมาช่วยเองละกัน จากคุณ : มารนิติ (mojamoja16) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 14:55:28

ความคิดเห็นที่ 22 เท่ากันค่ะ จากคุณ : ผู้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:01:12

ความคิดเห็นที่ 23 คนที่2 รู้สึกว่าจขทก รักคนแรกมากกว่า ถ้ารักเท่ากันคงไม่ต้องถาม จุดไหนที่ไม่ชอบก็บอกให้เขาแก้ไขคุณคงไม่สามารถอยู่กับเขาตลอดไป จากคุณ : somchai4966 เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:01:49

ความคิดเห็นที่ 24 ให้เท่ากันเถอะค่ะ ถ้าให้ไม่เท่ากันเมื่อไหร่ ความรู้สึกที่ลูกมี มันจะเปลี่ยนทันที และจะมีปัญหาในอนาคตค่ะ พ่อแม่ ให้เท่ากัน มันแสดงว่ารักลูกทั้งสองคนเท่ากัน แม้ในใจจะห่วงใครมากกว่าก็ตามแต่.. ถ้าให้พี่คนโตมากกว่า ลูกคนเล็กก็ต้องน้อยใจ เออ..จน เงินเดือนน้อย แล้วต้องจนตลอดไปใช่ป่ะ  ถ้าให้ลูกคนเล็กมากกว่า ลูกคนโตก็ต้องน้อยใจ เออ..ทำดีมาแทบตาย สุดท้ายก็ได้แต่ความไม่ยุติธรรม แล้วจะทำดีไปทำไม? วันนึงข้างหน้าลูกคนเล็กลำบากมา ลูกคนโตจะสมน้ำหน้าหรือจะช่วยล่ะคะ เงินก็ได้ไปเยอะกว่า ยังจะซมซานกลับมาหาพี่อ่ะหรอ ให้เท่ากันดีที่สุด ใครจะเอาไปใช้ยังไง ไม่เกี่ยว ถือว่าพ่อแม่ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ได้ให้ต้นชีวิตลูกทั้งสองคนเท่ากันแล้ว ใครจะต่อยอดให้มันเพิ่มขึ้น หรือลดน้อยลงยังไง มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลนั้นๆ จากคุณ : นางมารทรงเครื่อง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:06:49

ความคิดเห็นที่ 25 ให้ไม่เท่ากัน เดี๋ยวก็โดนว่าลำเอียงอีกละครับ จากคุณ : เกิดวันศุกร์ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:08:08

ความคิดเห็นที่ 26 แล้วแต่กรณีครับ อยู่ที่ว่าใครผลาญมากผลาญน้อย ใครทำตัวเป็นที่พึ่งพิงให้พี่น้องคนอื่นได้ จากคุณ : หนุ่มบางปะกง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:18:10

ความคิดเห็นที่ 27 เท่ากัน จากคุณ : love2loveU เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:32:55

ความคิดเห็นที่ 28 ก็ให้ลูก คนโต เป็นคนแบ่งมรดกออกเป็นสองกอง แล้วให้ลูกคนเล็กเลือกก่อน เท่านี้ก็ยุติธรรมแล้ว จากคุณ : แล้วทำไม12 เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:37:28

ความคิดเห็นที่ 29 ให้เท่ากันค่ะ จะได้ไม่มีปัญหากันว่าแม่รักลูกไม่เท่ากัน ส่วนคนไหนจะทำให้สมบัตินั้นงอกเงยหรือหดหาย ก็ไม่ใช่เรื่องที่ จขกท จะต้องกังวลแล้วเพราะได้ให้ความยุติธรรมแก่ลูกเท่าเทียมกัน จากคุณ : หลง หลง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:39:57 A:58.8.234.51 X: TicketID:329794

ความคิดเห็นที่ 30 พ่อแม่ย่อมรักลูกเท่ากันอยู่ แต่โดยมาก    ในเชิงปฎิบัติสำหรับลูกที่ยังลำบากและไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต   พ่อแม่ก็ย่อมห่วงมากกว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าลูกลำบากมาขอความช่วยเหลือ    แม้จะลำบากต้องกู้หนี้ยืมสินมาช่วย    หรือขายที่นาที่ไร่มาช่วยก็ยอมทำ ในกรณีแบ่งมรดก   เราว่าควรแบ่งให้เท่าๆกัน ส่วนในกรณีที่ลูกมีความเดือดร้อนเฉพาะหน้า   มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษก็อาจจะต้องจำเป็นช่วยก่อน   โดยไม่เอาคำว่าแบ่งมรดกเท่าๆกันมาเกี่ยว ส่วนสำคัญคือ   ความรักใคร่ปรองดองของพี่น้อง    สำคัญกว่ามรดกเงินทองเสียอีก      ถ้าพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันดี    จะไม่แบ่งแยกเราเขาว่าใครได้มากได้น้อย ส่วนบ้านเรานี่แสนจะโชคดีที่พ่อแม่ไม่มีทรัพย์สมบัติให้ลูกแบ่งมรดก   ลูกๆเลยไม่มีสมบัติให้มาแช่งชิงกัน        พี่น้องรักกันดี    ไม่มีปัญหาว่า พ่อแม่รักคนนั้นมากกว่าให้สมบัติมากกว่าให้เรา จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:40:34

ความคิดเห็นที่ 31 เราว่าแล้วแต่แม่นะคะ แม่คงมีเหตุผลอยู่แล้ว บ้านเราเรียนจบตรีเพราะพ่อแม่ส่งทุกคน น้องสาวเรียนจบโทด้วยเงินตัวเอง ซื้อรถเอง ซื้อบ้านเอง แม่เราเป็นข้าราชการบำนาญ ชอบซื้อที่เก็บไว้ บางทีก็ไปเอาเงินน้องมาซื้อก่อนค่อยๆ คืนให้ ส่วนเราจบตรีไม่ได้ต่อโท ทำงานพอเลี้ยงตัวเองได้ แต่ไม่ได้ให้แม่ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ แม่บอกกับเราว่าถ้าแม่ตายไปแล้วแม่ให้มรดกน้องสาวเยอะกว่าอย่าว่าแม่นะ เพราะแม่เอามาจากน้องสาวเยอะค่ะ ที่บ้านไม่เคยมีปัญหาเรื่องพี่น้องอิจฉากันนะคะ จากคุณ : sunsmile_a เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:41:20

ความคิดเห็นที่ 32 เราก็มีทรัพย์สมบัติน้อยกว่าพี่ๆ แต่พ่อเราแบ่งให้เท่ากันทุกคน รู้สึกโอเคดีค่ะ ให้เท่ากันดีที่สุดแล้ว ส่วนคนที่รวยกว่าจะยกให้ อีกคนหรือไม่ก็แล้วแต่เขา จากคุณ : เรนโบว์สายรุ้ง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:44:56

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าเราเป็นลูกเราอยากได้เท่ากัน ไม่ว่าใครจะรวยหรือจนกว่า ได้ไปแล้วไปต่อยอดเอาเอง บ้านเราจะให้คนที่ดูแลพ่อแม่เยอะสุดค่ะ ซึ่งเป็นเรา เพราะเราไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว จากคุณ : If not you who? เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:52:11

ความคิดเห็นที่ 34 ในกรณีแบบนี้ กำลังเกิดขึ้นกับบ้านเราค่ะ คุณป้าเรา มีเงินอยู่แปดหลัก ทองคำแท่ง สลากออมสิน ที่ ยกให้น้องชายเราเกือบหมด ทั้งที่น้องเราไม่ตั้งใจเรียนเท่าเรา เกเร สารพัด เราบอกกับคุณพ่อคุณแม่ไว้เลยว่า น้องชายได้มรดกมาเมื่อไร ก็เชิญดูแลตัวเอง จะเป็นจะตาย ต่อไปนี้น้องชายอย่ามาเกี่ยวข้องกับเรา เราทำดี แล้วไม่ได้อะไรเลย ก็จะไม่ทำค่ะ เรามีสิทธิที่จะคิดว่ามันไม่ยุติธรรม เป็นผู้ชายแล้วได้ทุกอย่าง ความคิดแบบนี้ เจอบ่อยมากค่ะ รับไม่ได้กับคนที่ทำแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 55 16:14:18 จากคุณ : น้องหมาของฉันน่ารักกว่าหลินปิง เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 16:13:56

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นเราอยากให้พ่อแม่แบ่ง มรดกออกเป็น 40-40-20 ก่อน แบ่งให้ลูกทั้ง 2 คนละ 40 ไปก่อนไม่ว่าลูกคนไหนจะยากดีมีจนกว่ากัน ส่วนที่เหลือ 20 เก็บไว้เป็นทุนฉุกเฉินหากลูกคนไหนต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน และหากมรดกก้อน 20 นี้ไม่ได้ถูกใช้อะไรไปก็น่าจะต้องยกให้ลูกคนที่เลี้ยงดูพ่อแม่จนวาระสุดท้ายไป มันก็แล้วแต่ว่าลูกคนไหนเอาสมบัติไปต่อยอดให้มันงอกเงยขึ้นมาอีก จากโจทก์ด้านบนนี้ ทำนายเลยว่าลูกคนที่ 2 น่าจะผลาญสมบัติหมดก่อนจนต้องทำให้พ่อแม่ดึงเอาส่วน 20 มาอุดหนุนชัวร์ จากคุณ : คุณป้าจอมตะลอน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 16:33:17

ความคิดเห็นที่ 36 เท่ากันทุกๆคนครับ   คนไหนรวยจนอีกเรื่องหนึ่ง เพราะทำกันเองหากใครจะต่อยอดธุรกิจที่บ้านก็ว่าไปอย่างหนึ่ง โชคดีที่ผมเกิดมาจนนน   ไม่ต้องแบ่งต่างคนต่างดิ้นรนหาเงินกันมาใช้หนี้สิน จุดหมายสูงสุดของพี่น้องและลูกๆ คือ สร้างบ้านให้แม่ พาแม่เที่ยว ทั่วเมืองไทยและต่างประเทศ ตอนนี้ความตั้งใจจริงของลูกๆ 95% แล้ว  ขอบคุณความจนอีกครั้ง จากคุณ : sriwit เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 16:56:37

ความคิดเห็นที่ 37 เค้าว่าได้เท่ากันทั้งสองฝ่ายยังไม่เรียกว่ายุติธรรมค่ะ ต้องพอใจทั้งสองฝ่ายถึงจะเรียกว่ายุติธรรม ถ้าเป็นเราเราจะคุยกันสามคนแม่ลูกค่ะ 1 ต้องแบ่งเท่ากันมั้ย พี่อาจจะรักน้อง ห่วงน้อง จนเอ่ยปากแบ่่งให้มากกว่าเองก็ได้ (เดาว่าคุณอยากแบ่งให้คนน้องมากกว่า) แต่ถ้าเค้าต้องการได้เท่ากันก็เป็นสิทธิ์ของเขาค่ะ ถ้าพี่เป็นฝ่ายเอ่ยปากให้เอง คนพี่จะพอใจและภูมิใจในตนเองว่าได้ช่วยน้อง และน้องจะได้รู้สึกขอบคุณพี่ที่รักและห่วงเค้า ถ้าคุณแม่แบ่งให้น้องมากกว่าโดยพละการคนพีี่่อาจน้อยใจและพาลไม่อยากให้ความช่วยเหลือเมื่อน้องพลาดอย่างที่ คห บนๆบอกค่ะ 2 ต้องแบ่งครึ่งทุกชิ้้นมั้ย หรือแบ่งแบบสองชิ้นเล็ก กับ หนึ่งชิ้นใหญ่ ใครอยากได้ชิ้นไหนเป็นพิเศษมั้ย 3 ลูกมีโครงการลงทุนอะไรอยู่ในใจมั้ย อยากให้แบ่งตอนนี้เลยรึป่าว หรือยังไง ได้แล้วแพลนเอาไปทำอะไร แล้วให้คำแนะนำไปค่ะ นอกจากคนน้องนิสัยล้างผลาญอาจต้องวางเงื่อนไขกันเยอะหน่อย อาจจะแบ่งแต่บังคับให้เอาเงินมาลงทุนทำกิจการอะไรสักอย่าง 4 สอนลูกว่าอย่าหวังกับอะไรที่ไม่ใช่ของตัวเองและไม่แน่ไม่นอน สมบัติแม่คือของแม่ค่ะ แม่ตายอาจจะไม่ใช่ของลูกก็ได้ สิทธิขาดย่อมอยู่ที่แม่ ชีวิตคนอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทรัพย์ที่มีอยู่อาจหมดไปเพราะกิจการขาดทุน แม่ป่วยหนัก หรือบั้นปลายแม่อยากเอาไปใช้ทำบุญบ้าง ให้เ้น้นให้เค้าพึ่งตัวเองให้ได้ มรดกจัดเป็นทุกขลาภที่มีไม่รู้จะได้เมื่อไรและได้เท่าไรเอามาใช้แพลนชีวิตไม่ได้ 5 บอกลูกว่าแม่มีสิทธิแบ่งสมบัติตามใจแม่ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ลูกเป็นคนสร้างมา แม่อาจอยากให้พี่มากกว่าเพราะพี่ทำตัวดีถูกใจแม่ หรืออยากให้น้องมากกว่าเพราะเป็นห่วงก็สิทธิของแม่ค่ะ 6 รับมรดกก็ต้องรับภาระหน้าที่ที่ติดมาด้วยนะคะ คุณแม่มีเงื่อนไขอะไรก็ว่าไป แล้วอย่าลืมกันเงินไว้ให้ตัวเองด้วยนะคะคุณแม่ ขอให้คุยกันได้ราบรื่นนะคะ ถ้าตอบอะไรไม่ถูกใจขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยค่ะ จากคุณ : หนูไพลิน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 16:57:29 A:49.48.212.211 X: TicketID:363431

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ครับ   ควรให้อีกคนที่จนมากกกว่า คนเป็นพี่ก็ควรใจกว้างและรับได้ด้วย ส่วนบ้านผมไม่มีปัญหา  เพราะไม่มีมรดกอะ  เรามีแต่หนี้ ฮิ ฮิ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 17:58:58

ความคิดเห็นที่ 39 ต้องดูที่นิสัยลูกค่ะ คนไหนนิสัยไม่ดีก็ให้น้อยกว่าค่ะ จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:34:03

ความคิดเห็นที่ 40 จะน้อยใจไหม ไม่ทราบค่ะแล้วแต่คน แต่ถ้าเป็เราจะให้เท่ากัน แต่หลังจากนั้นคนแรกเค้าอยากจะให้น้องเองก็ไม่ว่า เรื่องของเค้า แต่เราก็จะอยู่เป็นที่พึ่งเวลาเค้าเดือดร้อนทั้งสองคน ถ้าเราตายไป พวกเค้าก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้ค่ะ จากคุณ : The smiling moon เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:49:14

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่เท่ากันครับ ให้คนที่สองมากกว่า จากคุณ : เมาฟรีออริจินั่ล เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:52:26

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่เท่ากัน เรียนดีไม่ดีไม่เกี่ยว รายได้มากน้อยไม่เกี่ยว ใครเลียแข่งเลียขาเอาใจดี ดูแลดี ปรนิบัติรับใช้ เอาใจใส่ มาเยี่ยมเยียนดี พูดจาดี ไม่เคยทำให้เสียใจ ไม่ทำให้ผิดหวัง  รู้จักพาไปหาหมอ ถามไถ่กินข้าวหรือยัง สบายดีไหม เราให้คนนั้นมากกว่า  จิตพิศวาสล้วนๆ ถ้าลูกเขย ลูกสะใภ้ดี ก็ย่อมได้มากกว่า ลูกเขย ลูกสะใภ้ที่ไม่เคยมาใส่ใจเช่นกัน จากคุณ : ..ฟ้าใส.. เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:03:45

ความคิดเห็นที่ 43 -แบ่งให้ เท่ากัน ครับ... ยังไงเราตายไปแล้วไม่มารับรู้เรื่องของเค้าทั้ง 2 หรอกครับ...จะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเค้า... จากคุณ : notans เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:25:46

ความคิดเห็นที่ 44 ดิฉันได้ที่ดินจากพ่อและแม่ผืนหนึ่ง ท่านลงทุนทำปั้มน้ำมันให้ดิฉันและสามี (เงินลงทุนคือเงินสินสอดของดิฉํน ) ที่ทั้งทางฝ่ายเจ้าบ่าวให้มา แล้วก็คุณแม่ดิฉันให้ด้วย ตอนนี้เราสองคน ได้ซื้อที่อีกแปลง เพื่อทำปั้มน้ำมันแล้วก็ปั้มแก๊ส โดยที่ไม่เคยคิดว่าท่านจะแบ่งอะไรให้เราอีกไหม เราพอใจที่ท่านให้เรามีอะไรตั้งตัวได้ จากนั้นเป็นหน้าที่ที่เราต้องหาเอาเองค่ะ เพราะว่าสิ่งที่ท่านจะยกให้เราก็คือสมบัติของท่านที่ท่านหามา จากคุณ : tukta_von เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:26:53

ความคิดเห็นที่ 45 ปู่เราท่านทำแบบนี้ ท่านยกที่นาให้ ลูกทุกคน เท่าๆกัน สมมติมี 4 ไร่ ก็ให้คนละไร่ พอลูก 4 คนได้มาแล้ว พ่อเรา เนื่องจากท่านไม่ได้ทำนา และพ่อเราก็ตั้งตัวได้มากแล้ว พ่อเราจึงยกที่ทั้งหมดที่ชื่อของพ่อ ให้กับน้องสาวคนที่เลี้ยงดูปู่กับย่าตลอดเวลาที่ท่านป่วย เราว่า คนเป็นพ่อแม่ทำแบบนี้ถึงจะถูกนะคะ ให้ลูกทุกคนเท่าๆกัน แต่ลูกก็ควรจะมีจิตสำนึกที่ดี พี่น้องคนไหนลำบากก็ควรจะช่วยเหลือกัน --- ปู่กับย่าเรา ไม่ใช่คนร่ำรวย พี่น้องรักใคร่ไม่มีปัญหา มาดูฝั่งแม่เรา ยายเรา ท่านค่อนข้างมีฐานะ มีที่ดินในตัวเมืองเยอะมากกกกกกกกก!!(เมืองขอนแก่น) มีบ้านหลายหลัง มีเงินเก็บอีกจำนวนหนึ่ง ยายเรา แบ่งที่ดินให้ลูกทั้งหมด 5 คน คนละ 1 แปลง แล้วให้ บ้านพร้อมที่ดินอีก คนละ 1 หลัง (ก็คือ ได้ที่ 2 แปลง และบ้าน 1 หลัง ต่อคน) ในบรรดาลูกยาย แม่เราเป็นคนที่อยู่กับยาย และเลี้ยงดูยายจนวันสุดท้ายที่จากโลกนี้ไป แต่ยายให้แม่เรา แค่.. ที่ดิน 1 ผืน(บ้านที่ยายและแม่อยู่) และบ้าน 1 หลัง ก็คือหลังที่แม่กับยายอยู่นั่นแหละ แม่เราได้ที่ดินแค่ผืนเดียว แต่เป็นที่ดินค่อนข้างใหญ่ เนื้อที่เยอะ และอยู่ใจกลางเมืองเลย >< (ทุกวันนี้ขายได้ 10 ล้านอ่ะ แต่ยังไม่ขาย) และ.. เนื่องจากแม่เราได้น้อยที่สุดในบรรดาพี่น้อง แต่แม่เราเป็นคนเลี้ยงดูยายตอนแก่ ยายเราเลยให้เงินสดๆ(ไม่ใช่สมุดเงินฝากนะ ให้เป็นเงินสดๆในหีบเก็บเงินเลย) ให้กับแม่เราคนเดียว แต่.. ยายไม่ได้เขียนพินัยกรรมเกี่ยวกับเงินก้อนนี้.. แต่ยายบอกกับแม่เราและเมียน้อยตาเราว่า เงินก้อนนี้ให้แม่เรา ปรากฏ พอยายเสีย.. พวกพี่น้องแม่ของเรา(ป้า น้า อา) บอกว่า เงินก้อนนี้ไม่อยู่ในพินัยกรรม ต้องแบ่งเป็น 5 ส่วน!! คือ.. เราจะบอกว่า พี่น้องฝั่งแม่เราเนี่ย ทุเรศสุดๆๆๆ ไม่มีความรักความเมตตาระหว่างพี่น้องเลย >< แม่เราได้น้อยที่สุดอยู่แล้ว ยังมาเบียดเบียนอีก (ยายเราท่านก็ไม่รอบคอบด้วยแหละ ท่านไม่ได้เขียนเป็นพินัยกรรมเกี่ยวกับเงินก้อนนี้) สุดท้าย พวกป้าน้าอาของเรา รวมหัวกัน 4 คน ไปจ้างทนาย ฟ้องศาล ให้ศาลตัดสินแบ่งเงินก้อนนี้เป็น 5 ส่วน --- แม่เราเล่าให้เราฟัง ตอนเราโตๆแล้วนะ.. ทุกวันนี้ บ้านเรา อยู่ดีกินดี มีกิจการหอพัก แต่พวกป้าๆน้าๆของเรา ติดหนี้ติดสิน บางคนขายบ้านขายที่ดินของยายหมดเลย เพราะไม่มีเงินจะใช้กินใช้อยู่ เราว่าคนขี้โกง ยังไงก็ต้องได้รับผลกรรมค่ะ ^^ เราเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมมากๆๆๆเลยนะ ทุกวันนี้ ถึงแม้แม่เราจะโดนแย่งเงินก้อนนั้นไป แต่แม่เราก็มีชีวิตที่อยู่ดีกินดีกว่าพี่น้องคนอื่นๆ ที่ดินบ้านเราทุกวันนี้.. ตีราคาได้ 10 ล้านอ่ะ (เมื่อก่อนเมืองขอนแก่นยังไม่เจริญขนาดนี้ ที่ดินตรงไหนๆก็เหมือนๆกัน คือๆกัน มีมูลค่าไม่ต่างกันมาก สมัยนี้จังหวัดขอนแก่น เจริญมากกกกกกก!! ทำให้ที่ดินที่ยายให้แม่เรา ราคาสูงมากๆๆๆด้วย) จากคุณ : Gretchen เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:46:54

ความคิดเห็นที่ 46 ขึ้นอยู่กับว่าคนที่เก่งกว่ามีเงินมากกว่าแค่ไหน ถ้าลูกคนเก่งมีเงินเป็นร้อยล้าน เรา (พ่อแม่) มีมรดกอยู่หนึ่งล้าน เรายกให้ลูกคนด้อยกว่าหมดเลย  ไม่เอาเนื้อหมูไปเพิ่มเนื้อช้าง แต่ถ้าคนเก่งกว่าก็ไม่ได้รวยระดับเศรษฐีขนาดนั้น แค่มีเงินเดือนเยอะกว่า ดูสบายๆ กว่า  ดิฉันจะแบ่งเงินให้คนละห้าแสนเท่าเทียมกัน จากคุณ : กรรมใดใครก่อ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:47:25

ความคิดเห็นที่ 47 ในฐานะที่มีน้อง 1 คน ซึ่งนิสัยค่อนข้างเกเร ติดหญิง ชอบเที่ยว ขโมยเงินผมไปหลายครั้ง หากแบ่งมรดกให้ไม่เท่ากัน โดยให้ผมน้อยกว่าน้องนะ ผมจะยกให้น้องหมดเลย แล้วค่อยๆดูน้องผลาญสมบัติจนหมด.. แถมมีข้ออ้างไม่ต้องช่วยเหลือต่อไปอีกด้วย..สะใจดี คบไปก็มีแต่โทษ ฉุดให้ตกต่ำตามไปด้วย ชีวิตเจริญขึ้นอีกโข หุหุ จากคุณ : รักแมวเหมียวมาก เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 20:20:56

ความคิดเห็นที่ 48 ให้เท่ากันค่ะ เรากล้าพูดเลยว่าถ้าคุณให้ไม่เท่ากัน พี่น้องจะแคลงใจกันเองแน่ จากคุณ : Sassy Mink * เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 20:26:21

ความคิดเห็นที่ 49 ให้กึ่งๆค่ะ ประมาณ 45-55 อาจจะให้คนที่จนมากกว่า แต่มากกว่านิดหน่อยเท่านั้น อย่างเช่นถ้าเป็นที่ดินมีสองร้อยตารางวา คนที่จนกว่าอาจจะได้สัก 110 ตารางวา หรือถ้าเป็นเงินสดสิบล้าน คนที่จนกว่าจะได้ประมาณห้าล้านสามแสนบาทถึงห้าล้านห้าแสนบาทไม่เกินนี้ ...เป็นห่วงคนที่จนกว่าก็จริง แต่ไม่ว่าจะยังไงคนที่ขยันกว่าเรียนดีเงินเดือนดีกว่าก็สมควรได้รับรางวัลตอบแทนในความพยายามของเค้าด้วย จากคุณ : อ่าวโตเกียว เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 20:28:28 A:60.41.30.216 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 50 เราจะให้คนที่กตัญญูต่อพ่อแม่ค่ะ พระพุทธเจ้าสอนว่า ความกตัญญู คือเครื่องหมายของคนดี ถ้าดีทั้งสองคนให้เท่ากัน ถ้าคนรวยกว่าดี คนจนกว่าไม่ดี ก็ให้คนรวยกว่า เพราะเค้าเป็นคนดีเค้าจะช่วยคุณดูแลน้องของเค้าต่อไปค่ะ จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 21:58:39

ความคิดเห็นที่ 51 เสนอว่าอาจเรียกมาคุยทีละคนโดยสอบถามความคิดว่า ถ้าเค้าเป็นแม่ อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับแม่ เค้าจะแบ่งมรดกอย่างไร  เพื่อให้รู้ทัศนคติของแต่ละคนก่อนค่ะ แล้วค่อยตัดสินใจ ถ้าเป็นไปในทิศทางเดียวกันแบบที่แม่สบายใจได้ก็โอเค ถ้าเสียงแตกกัน คนเป็นแม่ก็จะทราบว่า ลูกคนไหน คิดอย่างไร จะได้ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ อย่าเพิ่งให้เผชิญหน้าพร้อมกันทีเดียว แม่จะได้หาวิธีการพูดที่ละมุนละม่อม เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดได้ เรื่องทรัพย์สิน บางทีก็เป็นเรื่องบาดใจได้ง่ายนะคะ ทางออกมีหลายทางขึ้นอยู่กับความพอใจของทุกคน และพื้นฐานครอบครัวของแต่ละบ้านค่ะ บ้านเราเน้นให้พี่น้องรักกัน ทางไหนที่ดีต่อทุกคน และทุกคนยอมรับได้ก็เลือกทางนั้นค่ะ เพราะหากแม่ไม่อยู่แล้ว พวกเรายังต้องประคับประคองกันต่อไป ไม่อยากให้จบเพียงแค่การแบ่งสมบัติน่ะค่ะ จากคุณ : ด้วยใจ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 23:08:50

ความคิดเห็นที่ 52 ให้เท่ากันค่ะ คนดี คนเก่งไม่ควรได้รับผลตอบแทนที่ไม่ยุติธรรม จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 23:43:55

ความคิดเห็นที่ 53 ถ้าเราเป็นแม่ เราจะแบ่งให้เท่า ๆ กันค่ะ ส่วนใครจะมีความสามารถในการบริการจัดการยังไง ก็ให้แต่ละคนเค้าไปจัดการกันเองอีกที จากคุณ : @ - ENYA - @ เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 01:35:31

ความคิดเห็นที่ 54 แม่ีมีลูกสามคน คนโตเป็นชาย เกเร ไม่เอาถ่าน ก่อแต่หนี้สินและความเดือดร้อน เราเป็นคนกลาง แม้ลำบากก็ไม่เคยบอกใคร แก้ปัญหาตัวเองได้ เราส่งน้องคนเล็กเรียนจบ ป.ตรี น้องคนเล็ก รับราชการ ได้ทุนจนถึง ป.เอก แม่ทำเรื่องมอบเงินญาปนกิจไว้ ก่อนหน้านี้ แม่มีประกันชีวิตใส่ชื่อน้องเราไว้ด้วย ประกันชีวิตแม่อันหนึ่ง เป็นเราส่งเงินให้ในชื่อแม่ วันหนึ่ง พี่ชายที่เกเร ไม่เอาถ่านตาย แม่จึงชวนเราไปทำเรื่อง วันนั้น เราจึงพบว่า แม่ไม่ได้ใส่ชื่อเราเป็นหนึ่งในทายาทรับเงิน ถ้าเป็นคุณ คุณจะคิดและรู้สึกอย่างไร จากคุณ : ลั่นทมเขาหลวง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 13:46:20

ความคิดเห็นที่ 55 ตอบในมุมของลูกคนหนึ่ง ลูกทุกคนต้องการเป็นลูกที่พ่อแม่รักมากที่สุด  กันทุกคนแหละคะ แต่สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต้องทำนั้นคือ   การปฎิบัติกับลูกทุกคนเท่าเทียมกัน หากพ่อแม่ทำการใดๆ กับลูกที่เป็นการลำเอียง  ไม่เท่าเทียมกัน  พ่อแม่ก็มีสิทธิทำได้คะ   ตราบใดที่พ่อหรือแม่ยังมีลมหายใจอยู่  ปัญหาก็ยังไม่มีมาก  เมื่อลูกรักลำบาก  พ่อแม่ก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ แต่...    คุณอย่าลืมนะตะ  ระหว่างพ่อแม่กับลูกๆ  ใครตายก่อนกัน   ซึ่งส่วนใหญ่  พ่อแม่จะตายก่อนลูกนะ เมื่อพ่อแม่ตายไปเหลือแต่ลูกๆ  เหลือแต่พี่น้องกัน   ที่ต้องคอยช่วยเหลือกันในยามยาก   ปัญหามันจะอยู่ตรงนี้ละคะว่า..  เมื่อลูกคนอื่นๆ ...ชิงชังลูกรักซึ่งพ่อแม่รักมากที่สุด หากลูกรักได้ดี  ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร  แต่ถ้าเกิดลูกรักต้องประสบพอเจอความเดือดร้อนหรือเจอเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือ   ลูกคนอื่นๆ  จะช่วยเหลือลูกรักนี้หรือเปล่าละคะ  ? การที่พ่อแม่จะต้องการปฎิบัติกับลูกทุกคนเท่าเทียมกัน  ไม่ใช่เพื่อที่ลูกจะรักพ่อแม่ที่รักลูกกันหรอกนะคะ   แต่เพื่อที่ลูกๆ  จะได้รักกัน รู้สึกถึงความเป็นพี่น้องกัน  เท่าเทียมกัน  ไม่อิจฉากัน เพราะต้องมีสักวันที่พ่อแม่จะต้องจากไป   ก็จะเหลือกันเฉพาะพี่น้องที่จะคอยให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ไม่ใช่หรือคะ... อย่างกรณีเจ้าของกระทู้   หากคุณให้มรดกลูกที่สอง  มากกว่าลูกคนแรก  คุณมีสิทธิที่จะทำคะ และเมื่อคุณตาย  ต้องมีสักวันที่ลูกคนที่สองใช้เงินมรดกหมด  และประสบความเดือดร้อน   ลูกคนแรกของคุณ  ก็มีสิทธินิ่งเฉย  ไม่แคร์  ไม่สนใจที่จะไม่ให้การช่วยเหลือใดๆ  ลูกคนที่สอง  เช่นกัน จากคุณ : ผึ้งเก่ง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 15:37:57

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าเป็นเรา  คงต้องคิดให้รอบคอบ  ว่า ลูกคนไหน  ที่จะ ผลาญ สมบัติ ได้มากกว่ากัน  ถ้าคนไหน มีรายได้ดีอยู่แล้ว(เพราะความเก่ง ขยัน)  ก็คงให้สมบัติที่ เป็น อสังหาฯ    ถ้าคนไหน ที่นิสัยดีเหมือนกัน  แต่ ไม่เก่ง คงให้เงินสด มากกว่า เพื่อเอาไปลงทุน และอสัหาฯ บางอย่าง เช่น บ้าน และมีเงื่อนไข ว่า  ห้ามขาย จนกว่าจะครอบครองครบ 15 ปี จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 18:40:00

ความคิดเห็นที่ 57 ให้เท่ากันค่ะ ในความรู้สึกของลูก พ่อแม่ต้องเป็นคนที่ยุติธรรมต่อเขามากที่สุด ถ้าคุณแบ่งไม่เท่ากัน คนที่ได้น้อยกว่า จะถอดใจทันที คุณอยากให้เขาถอดใจจากคุณ แล้วไม่รักน้อง หรือไม่รักพี่ไหมล่ะ เรื่องเขาเก่งหรือรวยมันมาจากหยาดเหงื่อ มันสมองของเขา เขาได้จากความพยายามของเขา ไม่ควรจะเอามาปะปนกับทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ สิ่งที่ทำได้  คือบอกให้เขาอย่าทิ้งน้องถ้าน้องลำบาก ถ้าคุณให้ไม่เท่ากัน วันหน้าถ้าน้องลำบาก เขาอาจไม่มีใจอยากช่วย จะนำไปสู่พี่น้องไม่รักกัน จากคุณ : กังกา เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 18:56:19

ความคิดเห็นที่ 58 ให้แบ่งเป็น 4 ส่วน ครับ 1 ส่วน ให้คนพี่ 1 ส่วน ให้คนน้อง 2 ส่วน ให้เอาไปลงทุนโดยให้คนพี่เป็นคนดำเนินการ ในทุกๆปี ตัองแบ่งกำไล เป็น 5 ส่วน 2 ส่วน สำหรับคนดำเนินการ 1 ส่วนสำหรับคนน้อง 2 ส่วนเอาไว้ขยายกิจการ จากคุณ : ธีระ หละรี เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 20:21:35

ความคิดเห็นที่ 59 มันมีปัจจัยที่มากกว่าฐานะของลูกนะคะ เราว่าน่าจะดูว่าลูกคนไหน รักและดูแลพ่อแม่ในยามแก่ชรามากกว่า ก็ควรให้คนนั้นมากกว่า  หากทอดทิ้งทั้งคู่ ก็ไม่ควรให้ทั้งคู่นั่นแหล่ะ  หากรักและดูแลเท่าเทียมกัน ก็ให้เท่ากันค่ะ ตัวเราเองก็เป็นลูกคนกลาง แต่เป็นลูกที่แม่รักมากที่สุด  และเราก็มั่นใจว่าเรารักแม่มากที่สุดในบรรดาพี่น้อง  ทุกครั้งที่แม่เราต้องการอะไร แกจะเรียกชื่อเราก่อนเลย หรือในยามที่แม่เราป่วย เราเป็นคนอาบน้ำ ป้อนข้าว แปรงฟัน หรือแม้แต่แม่ถ่ายไม่ออก เราก็ล้วงก้นให้  ในขณะที่พี่น้องไปทำหน้าแหยงๆ เอามือปิดจมูกกัน ไม่มีใครเคยทำให้แม่   เรากับแม่คุยกันทุกเรื่อง จนวันสุดท้ายที่แกจะจากไป แกแอบบอกที่ซ่อนเงิน+ทองให้เรา  ไม่ให้คนอื่นรู้ เพราะกลัวพี่น้องรู้แล้วจะแย่งกัน แล้วเราจะลำบาก (แม่แบ่งบางอย่างให้แล้วนะคะ แต่ในส่วนที่แม่ซ่อนไว้ ไม่มีใครรู้ค่ะ) ปล.  เราเป็นคนประเภทที่ 2  ทำงานเงินเดือนน้อย แต่ที่เงินเดือนน้อย เพราะเราต้องการทำงานใกล้บ้าน จะได้กลับบ้านมาอยู่กับแม่  ในขณะที่พี่น้องเราเลือกทำงานตัวเมืองเพื่อจะได้เงินเดือนสูงๆ มีชีวิตที่ดีกัน  เราว่าเงินเดือนไม่ได้วัดทุกอย่างนะคะ จากคุณ : หว่าหวาจัง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 09:37:03

ความคิดเห็นที่ 60 ควรจะคุยกับลูกก่อนแบ่งค่ะ เพราะถ้าคุณเลี้ยงลูกมาดี คนพี่อาจจะบอกว่าแบ่งให้น้องมากกว่าก็ได้ ก็จะไม่มีปัญหา จากคุณ : pencilcase เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 09:41:22

ความคิดเห็นที่ 61 ถ้าในฐานะพ่อแม่คงแบ่งให้เท่ากัน เพื่อความยุติธรรม ใครจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเขา  ในฐานะลูกเคยบอกแม่ไว้ว่า สมบัติทั้งหมดแม่เป็นคนหามา เป็นเงินของแม่ดังนั้นแม่จะให้ใคร ไม่ให้ใคร ให้ลูกคนไหนมาก คนไหนน้อย จะใช้ให้หมดก่อนตาย บริจาคการกุศลอะไรก็ตามใจ เพราะเแม่ให้มามากแล้วทั้งการศึกษา การเลี้ยงดู เพื่อให้เราสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ บอกแม่อย่างเดียวว่าอยากให้ทำอย่างไรก็เขียนทิ้งไว้แล้วกัน อย่าให้ลูกๆต้องไปนึกเอาเองทีหลัง จากคุณ : ไม่มีอะไรจริง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 10:58:12

ความคิดเห็นที่ 62 รักไม่เท่ากันไม่เป็นไร แต่ต้องยุติธรรม จากคุณ : Pariwat เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:07:19

ความคิดเห็นที่ 63 คนแรกผิดอะไร ในฐานะลูก เรียนเก่ง การงานดี เพราะตัวเองใช่หรือไม่ คนที่ 2 ก็ไม่มีอะไรผิด แต่กรรมคือการกระทำ คุณควรแบ่งให้เท่าๆ กัน เพราะสิทธิ์ของลูก คือลูกเหมือนกัน เราเคยอยู่ในฐานะของคนแรก ทั้ง ๆที่เป้นน้องคนสุดท้อง มีหน้าที่การงานดี เงินเดือนดี พ่อแม่เห็นควรให้มรดกน้อยกว่าพี่ๆ เพราะดูแลตัวเองได้ ลึกๆ ถามว่าน้อยใจมั๊ย น้อยใจค่ะ แต่ไม่อยากสร้่างความลำบากใจให้พ่อแม่ สมบัตินอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:13:15

ความคิดเห็นที่ 64 มันอยู่ที่การเลี้ยงดูของคุณด้วยค่ะ เรากล้าพูดได้เลย ว่าถ้าแม่ให้มรดกเราน้อยกว่าน้อง เราไม่อิจฉา ถ้าให้น้องมากกว่า น้องก็จะไม่อิจฉา  จากคุณ : pangzpang เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 21:59:41