Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จาก 2 กระทู้แนะนำ ... เรื่องแย่ๆในชีวิต ... ติดต่อทีมงาน


เรื่องที่เสียใจที่สุดสำหรับเราคือ ในช่วงชีวิตนึง มีเเต่เหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นกับเรา

กันยายน พ่อเราเข้าโรงพยาบาลเพราะเส้นเลือดในสมองเเตก เป็นอัมพฤกษ์
เมื่อเสาหลักของบ้านล้มลง เราเป็นลูกคนเดียว เราต้องออกจากงานประจำ
มาช่วยเเม่ทำกิจการที่บ้าน แล้วแม่ก็ต้องดูเเลพ่อไปด้วย
ซึ่งมันหนักหนามากสำหรับผู้หญิงที่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนในชีวิต
พ่อไม่เคยให้เรากับเเม่ต้องทำงานหนักเลยตั้งเเต่เราจำหน้าพ่อกับหน้าเเม่ได้

พ่อเราไม่เคยแม้เเต่จะซื้อนาฬิกาให้ตัวเอง ทั้งๆที่อยากได้มากขนาดไหน
(เราแอบเห็นตอนที่พ่อพาไปเที่ยวห้าง ระหว่างรอเเม่กับเราซึ้อกับข้าวเพื่อไหว้ตรุษจีน
พ่อเดินไปยืนอยู่หน้าร้านนาฬิกา จ้องมอง มองอยู่นาน จนเเม่กับเราซื้อของเสร็จ
วันนั้นเราเลยเเซวขำๆว่า ป๊าอยากได้หรอ ชอบสีทองๆหรอ เดี๋ยวซื้อให้เอาป่าว
พ่อตอบกลับมาว่า อืม ชอบสีทองๆ ไม่ต้องซื้อให้หรอก เงินป๊าทั้งนั้น เเล้วก็ขำกัน)

ยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี นึกเเล้วก็สุขใจทุกที ต่อมาเราจึงเก็บเงินได้จำนวนห้าพันบาท
แล้วเอาไปซื้อนาฬิกาให้พ่อ พ่อดีใจมาก แต่ก็ยังบอกแหล่ะว่า เงินป๊าทั้งนั้น

พ่องกกับตัวเค้าเองทุกครั้ง แต่ถ้าเรากับแม่จะซื้ออะไร อยากได้อะไร พ่อให้ทุกอย่าง
ไม่เคยงก ไม่เคยห้าม เราไม่เข้าใจพ่อเลยจริงๆ

หลังจากที่พ่อไม่สบาย
เราต้องทำงานตากแดด แบกเหล็ก ขับรถยก ทำกับข้าว ดูเเลงานบ้าน ช่วยเเม่
ส่วนเเม่เราเป็นคนขับรถออกไปส่งของ บริหารคิดจัดการทุกอย่าง
ตั้งเเต่พ่อล้ม คนงานก็พากันลาออก แล้วก็ขโมยของที่ร้านออกไปขายด้วย
จะเหลือก็เเค่ลุงคนขับรถส่งของที่อยู่กันมานานกว่าสิบปี

กิจการก็ดำเนินไปอย่างลุ่มๆดอนๆ ไม่ราบรื่นเหมือนตอนที่พ่อทำอยู่
แต่ก็มาได้เรื่อยๆ พอใช้จ่ายในบ้านบ้าง บางเดือนก็ไม่พอ ก็ต้องชักเนื้อออกบ้าง
แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร

เพิ่งรู้ว่า กว่า30ปีในชีวิตของพ่อ พ่อทำงานหนักขนาดไหน..


ตุลาคม-พฤศจิกายน มีน้ำท่วมใหญ่ น้ำท่วมร้านที่เราเปิดกิจการ
ถนนถูกตัดขาดจนต้องปิดร้านนาน 3 เดือน
เงินที่พ่อทำมา ก็เริ่มหดหายไปกับค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าเทอมหลานสองคน
(แม่รับเลี้ยงเพราะว่าพ่อเเม่ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเราของหลานเเยกทางกัน) 
ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่มีเเต่จ่ายออก เเละก็ซ่อมร้านหลังจากที่น้ำท่วม



กุมภาพันธ์ ร้านกิจการที่เราทำกับเเม่สองคน เกิดไฟไหม้
โกดังที่เก็บของมาตั้งแต่สมัยพ่อดูแล ถูกไฟไหม้หมดสิ้น
หลังคาและแปร ที่เป็นไม้ โดนไฟก็หักพังคืนลงมา
ตู้อ๊อกเหล็กหลายสิบตู้ เครื่องจักรต่างๆถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
รวมถึงสินค้าที่เก็บตุนไว้ในโกดังก็มอดไหม้ในเปลว
และที่โหดร้ายที่สุดคือ น้องหมาทั้ง 9 ตัวของเราเลี้ยงไว้ในกรงหลังโกดังถูกไฟครอกตายทั้งหมด

หลังจากรถดับเพลิงรุมฉีดน้ำดับไฟทั้งหมดเเล้ว

ตั้งแต่พ่อล้ม นั่นเป็นครั้งเเรก ที่เราเห็นผู้หญิงที่เรารักที่สุดคนนี้ " ร้องไห้ "
แต่พอแม่หันหน้ามาหาเรา แม่เช็ดน้ำตา แล้วยิ้มให้เรา แล้วก็หัวเราะ
เราจำประโยคที่แม่พูดกับเราได้ชัดเจน แม่บอกว่า
" ไม่เป็นไรเนอะ เห็นปอนไม่ร้องไห้ ไม่เสียใจ ม่าม๊าก็ดีใจแล้ว เดี๋ยวเราก็ผ่านมันไปได้ "
แล้วแม่ก็ยิ้มปนหัวเราะ ทั้งๆที่ตาเพิ่งหมาดๆจากน้ำตาที่เพิ่งเช็ดไป

มันเป็นภาพที่เราจดจำได้แม่นยำมาก แม่เราเข้มแข็งมาก เข้มแข็งจริงๆ
ซึ่งเราเองก็อยากเข้มแข็งเหมือนแม่ แต่ในใจเราสงสารแม่ สงสารตัวเอง
คิดอยู่เเต่ว่าทำไมเราต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรๆแบบนี้ด้วย
ทำไมชีวิตของเราเลวร้ายขนาดนี้ แต่เราก็ไม่เคยพูดกับแม่ เพราะว่าเราต้องเข้มเเข็ง
แม่จะได้ไม่ต้องมาห่วงเราอีก แค่สิ่งที่เค้าต้องห่วงมันก็มากมายเกินรับไหวเเล้วเนอะ


มีนาคม เราขับรถมาด้วยความเร็วพอประมาณ รถเสียหลัก ล้อปีนฟุตบาท
รถหมุนจากตีนสะพานขึ้นไปถึงกลางสะพาน แม็กซ์และยางแตกสี่ล้อ
บั้นท้ายด้านซ้ายฟาดเข้ากับขอบสะพานเต็มเเรง
อยู่ในสภาพที่ปอเต็กตึ้งถามเราว่า
" รถสภาพนี้ แต่น้องไม่เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนเลยหรอ ห้อยพระอะไรเนี่ย ? "

รถคันนี้เป็นรถคันแรก ที่พ่อยกให้เราตอนที่เราเรียนจบปริญญาตรี
เราก็รู้สึกแย่ที่ทำให้พ่อเเละเเม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว
แล้วในใจก็มีคำถามเดิมซ้ำๆ ว่าทำไมเราต้องเจออะไรเเย่แบบนี้ด้วย
ทำไมต้องเป็นเรา ?

เห็นคนอื่นเค้ามีคววามสุขกับชีวิตของเค้า พอเราย้อนมองกลับตัวเราเอง
เป็นความรู้สึกที่น้อยเนื้อต่ำใจมาก อยู่กับตัวเอง คิดวนเวียนอยู่ในความเห็นเเก่ตัวของตัวเอง
คิดอยู่อย่างนั้น จนวันเวลาผ่านไป ก็เริ่มทำใจได้ ไม่ได้คิดทุกวัน
มีบางอารมณ์ที่คิด หมกหมุ่นอยู่ในความรู้สึกนั้นนิดๆ

ส่วนสถานการณ์การดำเนินชีวิตของเรา
เมื่อหลากหลายปัญหาเกิดขึ้น เราไม่ได้คิดถึงวิธีเเก้เป็นเรื่องเป็นราว
เราลงมือทำเลย ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างเช่น
ถ้าฝนตก ของเปียก ส่งโรงงานไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องสร้างโกดังใหม่
เรากับแม่ก็ทำใหม่ สร้างโกดังใหม่ ทำเรื่อยๆ เอาเหล็กเก่าที่พ่อเคยเก็บๆไว้
เอามาทำโกดังใหม่ ยังดีที่พ่อเราเป็นคนดีมีบุญคุณกับคนอยู่มาก
คนนั้น คนนี้ จึงยื่นมือมาช่วยอยู่เสมอ เช่น อาเขยเอาหลังคาเมททัลชีทมาขายให้ถูกๆ
ลูกพี่ลูกน้องมาช่วยรื้อเเละเก็บโกดังเก่าที่ไฟไหม้
เรากับเเม่ก็สร้างโกดังกันเเดดกันฝนแบบเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
กับลูกน้องเก่าเป็นพม่านิสัยดี 1 คน แล้วเค้าพาเพื่อนที่ทำก่อสร้างเก่ามาช่วยอีก 1 คน

บอกตรงๆเรากับแม่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนเลย คิดแต่ว่า ไม่เป็นไร ทำมันไปเรื่อยๆ
เปิดร้านไปด้วย ซ่อมร้านไปด้วย ลูกค้าบางรายก็สงสาร หาช่างมาช่วยบ้างก็มี



ตอนนี้โกดังเสร็จเเล้ว กิจการที่ร้านก็ลุ่มๆดอนเหมือนเดิม ไม่มีกำไร เพราะต้องซ่อมแซมร้านเยอะ
แต่ก็ดี คิดอีกแง่ ก็ยังดีกว่าที่เราปิดร้านไม่มีรายได้ กินเงินเก่าไปเรื่อยมันมีแต่จะร่อยหรอ
เปิดร้านไปด้วย สมมติเดือนนึงเราขาดทุนหนึ่งหมื่น ถ้าปิดร้านเรายิ่งขาดทุนมากกว่าหมื่น
พ่อเคยสอนว่า คนเราเกิดมาต้องทำงาน ไม่มีใครอยู่สบายเเล้วมีเงินใช้ได้ตลอดไป


อยากให้กำลังใจคนที่ท้อแท้นะ ชีวิตมันมีทางออกเสมอ
เเค่อย่าหยุดเดิน ..



ตอนนี้เรามีกำลังใจขึ้นมาก เลิกคิดแบบคนเห็นเเก่ตัว มองโลกได้กว้างขึ้น
และเข้มแข็งมากขึ้นด้วย วันเวลา และคนรอบข้างช่วยเราได้จริงๆ

ขอบคุณกระทู้ สองกระทู้นี้มากๆ ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น รู้สึกเหมือนมีเพื่อน
รู้สึกว่า เราเองก็ไม่ได้เจอเรื่องแย่ๆอยู่คนเดียว

เราเลยอยากโพสเรื่องแย่ๆของเราเพื่อเป็นกำลังใจให้คนอื่นด้วยเช่นกัน :)

ขอบคุณที่รับฟังเรื่องราวของเรา ขอบคุณค่ะ

อ้างอิง และขอบคุณมากค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12291534/U12291534.html
http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12278841/U12278841.html

จากคุณ : gals-pon
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:29:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com