ความคิดเห็นที่ 1 จขกท.ยังดีแค่คนเดียว ของผมสามคนเรียนกันมาตั้งแต่ประถม เห่อๆๆ ก็ดีนะเพื่อนมันก็ทำงานตามหน้าที่ จากคุณ : หน๋มสายไหม เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 23:13:43

ความคิดเห็นที่ 2 ตบแล้วจิกหัวมาพูดครับ "แก อย่าให้ชั้นต้องลงมือไปมากกว่านี้นะย๊ะ ชั้นเป็นหัวหน้าแกนะ เกรงใจชั้นบ้าง ต่อให้เป็นเพื่อนแล้วถ้าทำแบบนี้มันจะมีอำนาจปกครองหรือตำแหน่งไว้ทำทุเรียนอะไร" จากคุณ : totto3000 เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 23:38:30

ความคิดเห็นที่ 3 คุณต้องแยกความเป็นเพื่อน ออกจากความเป็นหัวหน้างาน  อธิบายกับเพื่อนไปตรงๆ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนั้นเรื่องนึง แต่ความสัมพันธ์ในลักษณะหัวหน้าลูกน้องมันคนละเรื่องกัน อย่าเอามาปนกัน มันจะเสียงาน ถ้าเพื่อนคิดว่า มีเพื่อนเป็นหัวหน้าแล้วอู้ได้ หรือทำอะไรได้ตามชอบ ไม่มีใครกล้าว่า อย่างนี้อย่าเอาไว้เป็นเพื่อนเลย  ว่าไปตามระเบียบ ผิดก็ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ดีขึ้นก็ออกหนังสือเตือน ยังไม่กระดิกก็เชิญออกไป คนที่เขาอยากทำงานมีอีกเยอะ จากคุณ : Lawanwadee เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 23:51:57

ความคิดเห็นที่ 4 แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 55 06:01:56 จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 23:54:39

ความคิดเห็นที่ 5 ในองค์กรผม คนที่เข้ามาใหม่ เขาเลื่อนขึ้นไปเป็นหัวหน้ากันหมดแล้ว เหลือผมที่เป็นลูกน้องเขา   และเป็นลูกน้องประเภทที่หัวหน้าว่าไม่ได้เสียด้วยสิ แต่ถ้าผิดก็ต้องรับผิดนะ ถูกก็ต้องว่ากันไปตามถูก ส่วนใหญ่ถ้าไม่สะดวกคุยกันต่อหน้า ให้วิธีการคุยกันผ่านเมลสิ สะดวก มีหลักฐาน และไม่เสียเวลา งานก็คืองาน เพื่อนคุณอาจรับไม่ได้เพราะ อายุงานยังน้อย หรือผ่านการทำงาน ไม่หลายสถานที่พอ ในเมลบอกความรู้สึกเราที่เรารู้สึกเกรงใจเขา แต่ก็ขอความร่วมมือให้เข้าใจเรา งานก็คืองาน นะ จากคุณ : root_http เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 00:11:27

ความคิดเห็นที่ 6 คุยส่วนตัวแล้วไม่เชื่อ ก็เมล์เตือนครั้งที่สอง ถ้ายังไม่เชื่ออีกก็ออกหนังสือเตือนเป็นทางการ จากคุณ : TingTing เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 07:41:25

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ  ได้ข้อคิดมากเลย ดิฉันคิดว่า ตัวเองคงต้องทบทวนบทบาทหน้าที่ของตัวเองให้ชัดเจนเหมือนกัน แบ่งหน้าที่และงานให้ ลูกน้องแต่ละคนพูดคุยกันให้เข้าใจอย่างชัดเจนไปเลยค่ะ ขอบคุณผู้มีประสบการณ์ทุกคนด้วยนะค่ะ........^,,^ จากคุณ : Phahom เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 08:43:23

ความคิดเห็นที่ 8 คห.2 "บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น" 555555555 เพื่อนคุณไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ตัวเองแถมยังไม่แยกแยะงานกับเรื่องส่วนตัว งานก็คืองาน แต่ละคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง คุณเป็นหัวหน้าก็มีสิทธิ์มีหน้าที่ในการตักเตือนลูกน้อง แต่ในกรณีที่ไม่อยากแตกหัก ก็เตือนในแบบของการขอความร่วมมือ พยายามทำความรู้จักเค้าให้มากขึ้น ถามสารทุกข์สุกดิบด้วยความจริงใจ ซื้อของมาฝากบ้าง ให้เค้ารู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกับคุณ เค้าอาจจะเปิดใจยอมรับให้ความร่วมมือคุณมากกว่าเดิม ขอให้ทำงานสำเร็จราบรื่นนะคะ เอาใจช่วยค่ะ ^o^ จากคุณ : I'll be there for you. เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 08:45:14

ความคิดเห็นที่ 9 งั้นแปลว่า ปัญหาอยู่ที่ตัวลูกน้องนี่คะ ก็ต้องสู้ๆค่ะ แม้จะอายุเท่ากัน เป็นเพื่อนกัน แต่เอยู่ในที่ทำงาน จขกท ก็ต้องปฏิบัติกับเพื่อนเหมือนเขาเป็นลูกน้องให้ได้ คือ 1) แนะนำเรื่องของการทำงาน (พยามสร้างคนทำงานขึ้นมา) 2) ตั้งเป้าหมายการทำงาน (เพื่อให้ลูกน้อง มีทิศทางการทำงาน ที่จขกท ต้องการ) ซึ่งประกอบด้วย timeline และผลลัพธ์ เช่น ภายในเวลาเท่านี้ ลูกน้องควรทงานได้แบบนี้ๆๆแล้ว 3) ถ้าทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งร่วมกัน อะไรจะเกิดขึ้น เช่น เปลี่ยนหน้าที่การทำงาน หรือโดนตัดเงินเดือน หรือให้พิจารณาตนเอง อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : เล็กแห้งตับสด เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 08:52:35

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วคนอื่นที่เป็นลูกน้องล่ะคะ ถ้า มีคนอื่นที่ตั้งใจทำงาน และทำได้ดีกว่า ก็หันไปสนับสนุนคนที่ทำได้ดีกว่า ดีกว่านะคะ เพื่อเป็นการเตือนเพื่อนคุณคนนั้นอ้อม ๆ ว่า ในที่ทำงาน ควรทำงาน จริงๆ เมื่อทำแล้วก็จะได้อะไรมากกว่า หรือถ้าทำแล้วไม่ได้ก็ จัดการเลยค่ะ อย่าคิดมาก (โหดไปมั๊ย) จากคุณ : zenZoro เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 09:55:50

ความคิดเห็นที่ 11 อย่าคิดมากเป็นเรื่องปกติ จากคุณ : saisanan เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 10:17:18

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อนคุณต้องรู้กาละ เทสะ .... เวลางาน เวลานอก อย่าเอามาปน ถ้าไม่รู้เรื่อง ตบหัวทิ่มล่ะ จากคุณ : จักรยานล้อหลุด เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 11:03:44

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นเพื่อนกันก็ไม่ควรมีสิทธิพิเศษอะไร เขาทำอะไรออกมาได้ดี ทำได้ดีขึ้น พัฒนา หรือปรับตัวดีขึ้น ก็ควรชมเชยตามความเหมาะสม ไม่ใช่ผิดอะไรก็ว่าอย่างเดียวไม่เคยชมเลย ก่อนว่าใคร ลองชมในสิ่งที่เขาทำได้ดีก่อน หรือพูดประมาณว่าเมื่อ ก่อนคุณก็เป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำนั้นมันสามารถพัฒนาให้ ดีขึ้นได้ บางคนนั้นยิ่งสนิท ยิ่งลามปาม ยิ่งถามสารทุกข์สุขดิบ ก็ ยิ่งนำปัญหามาให้ ต้องค่อยๆดูว่าเพื่อนคนนั้นเราดีกับเขา แล้วเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร อีกอย่างลูกน้องทุกคนมีปัญหาส่วนตัวกันทั้งนั้นไปรับรู้มาก จขกท.นะแหละไหวรึเปล่า เห็นใจลูกน้องนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่างถึงขั้นผ่อนผันมากหรือบ่อยไปนะ มันจะทำให้เรา คุมคนอื่นอีกมากไม่ได้ การที่หัวหน้าของจขกท.เลือกจขกท.มาเป็นหัวหน้านั้นแปลว่า เขาเห็นความสามารถในตัวจขกท. ก็สมกับที่เคยเหนื่อยมา อย่าให้เขาผิดหวังเพราะเพื่อนคนเดียว บางครั้งการคุยตรงๆ(ไม่ใช่ต่อว่าหรือด่านะ)ก็เป็นการกระทำที่ "บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น" มากที่สุดและเร็วที่สุด แต่ก็ขึ้นกับวิธีพูดด้วย การปล่อยไว้หรือมัวหาวิธีที่ละมุนละมอมนานเกินไป คนที่เป็น หัวหน้าจขกท.อีกทีอาจผิดหวังกับจขกท.ได้นา อย่าลืมครับว่าตอนนี้เรามีอำนาจอยู่ในมือ มีกฏระเบียบอยู่ในมือ ดังนั้นต้องรู้จัก"ใช้อำนาจ"อย่างถูกวิธีและเหมาะสมด้วย จากคุณ : ครั้งหนึ่งเคยเล่นดอท เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 11:19:24

ความคิดเห็นที่ 14 ก็คุยกับตามปกติค่ะ ไม่ต้องวางตัวเหมือนว่าเป็นหัวหน้าอะไรหรอก ยิ่งเราถือตัวว่าเป็นหัวหน้าและทำอะไรต่างไปจากเดิม เรานี่เองที่จะรู้สึกไม่ดี สู้ทำตัวปกติเหมือนอย่างเคยดีกว่า จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 12:09:56

ความคิดเห็นที่ 15 เรียกประชุมค่ะ  เมื่อวางรูปแบบการพูดในเวลาเป็นงานเป็นการ  จะพูดได้ตรงประเด็น และพูดตามอำนาจหน้าที่ แล้วตอนหลังเค้าจะรู้เองว่า   เราคือหัวหน้า   เค้าเป็นลูกน้อง  การคุยโทรฯ  และการนัดคุยกัน   ควรจำกัดแต่พอดี  บริษัทอื่นบางทีเวลางานห้ามใช้โทรด้วยซ้ำไป จากคุณ : น้องหญิงอนัตตา เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 12:16:40

ความคิดเห็นที่ 16 ต้องแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกครับ ลูกน้องผมคนหนึ่ง อายุมากกว่าผมตั้ง 5 ปี แต่ก่อนก็ทำงานระดับเดียวกันแต่อยู่คนละแผนก ด้วยความที่อายุน้อยกว่าผมก็เรียกเขาว่า "พี่" ส่วนเขาก็เรียกชื่อผมตรง ๆ มาตลอด สองปีก่อน บริษัทปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ผมกลายเป็นผู้จัดการควบสองแผนก โดยได้พี่คนนี้เข้ามาเป็นลูกน้อง คำเรียกหาระหว่างเราสองคนผมยังให้คงไว้เหมือนเดิม แต่การสั่งงานหรือสายบังคับบัญชา ผมก็มีสิทธิ์สั่งได้เต็มที่ตามอำนาจในตำแหน่ง ถ้าพี่เขาทำตัวมีปัญหา ก็ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้ แต่ที่ผ่านมาก็ราบรื่นดีครับ สรุปคือคุณกับเธอยังคงเป็นเพื่อนกันเช่นเดิม แต่ต้อง "อย่าปล่อย" ให้เพื่อนคุณเอาความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนมาปะปนกับการทำงาน สอนให้เธอรู้ว่าในเวลางานคุณมีอำนาจสั่งการเหนือกว่า แต่นอกเวลางาน เราไปกินข้าว ไปเที่ยว ไปช้อปปิ้งด้วยกันได้ จากคุณ : macenjoy เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 16:06:53

ความคิดเห็นที่ 17 พูดกันไปตามตรงเลยครับ ในลักษณะเชิงเพื่อนฝูงกัน  อย่าให้เอาคำว่าหัวหน้ามาขวาง  พูดกันตรงๆ และบอกแนวทางเขาไปหน่อยว่า ทุกๆคนก็มีสิทธ์เป็นหัวหน้าได้ถ้าขยัน แล้วพูดถึงตัวเราเองว่าเราก็ไม่ได้คิดว่าจะได้ขึ้นมา ยังอยากเป็นลูกน้องเหมือนเดิม คิดว่าสักพักเพื่อนก็อาจจะได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าแบบเราได้ จากคุณ : DACKKURA เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 17:50:14