|
ไม่ว่าจะโอลิมปิคครั้งไหนๆ กีฬาที่ใช้สายตาตัดสินอย่าง "มวย" มักมีเรื่อง "งามหน้า" ให้วิพากษ์วิจารณ์เสมอครับ
เมื่อคราวที่เกาหลีใต้จัดนั้น นักมวย้กาหลีได้เข้าชิงครบ 12 รุ่น และได้เหรียญทองไปถึง 11 รุ่นแบบค้านสายตา
มีเพียงรุ่นเดียวที่พลาดไป
หากผมจำไม่ผิดคือรุ่นเฮฟวี่เวท ที่ "เรย์ เมอร์เซอร์" ต่อยเจ้าภาพหลับคาเวที ก็ต่อยซะหลับแบบนั้น ต่อให้ 10 ไอบ้าก็คงช่วยโกงไม่ไหวดอกครับ
ภายหลังเมอร์เซอร์เทิร์นโปร และได้เป็นแช้มป์โลกครับ
ผมไม่อยากคิดว่าถ้านักมวยโสมขาวไม่โดนน็อค ผลจะออกมายังไง
โอลิมปิคครั้งนี้ก็เช่นกันครับ กีฬาที่ใช้ "สายตา" ให้คะแนน อย่าง มวย หรือ เทควานโด ก็มีเรื่องงามหน้าร้อยแปด
ในรุ่นแบนตั้มเวท 56 กก. ที่นักมวยญี่ปุ่นต่อยนักมวยอาเซอร์ไบจานนับไป 6 ครั้งนั้น ครับ.....คุณๆอ่านไม่ผิดหรอก ต่อยนับไปถึง 6 ครั้งจริงๆ อาเซอร์ใบจานน่าจะโดนจับแพ้ไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว....แต่ดันชนะคะแนน
ชนะแบบที่นักมวยเองก็งงๆ ส่วนนักมวยญี่ปุ่นที่ควรจะชนะ พอผลออกมาว่าแพ้ ก็ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก !!!
ทีมมวยญี่ปุ่นประท้วงเลยครับ จนท้ายที่สุดมีการกลับคำตัดสิน และไอบ้าก็ประกาศลงโทษกรรมการที่เป็นชาวตุรกี และอีกคนเป็นกรรมการเทคนิคจากอาร์เซอไบจาน
ด้วยการส่งทั้ง 2 กรรมการกลับบ้านทันที
อีกคู่ที่ "งามหน้า" ไม่แพ้กัน ก็คือรุ่นเฮฟวี่เวทระหว่างอิหร่าน กับ คิวบา นักมวยอิหร่านโดนเตือนไป 3 ครั้ง และโดนจับแพ้ฟาวล์
ทั้งๆที่อิหร่านมีคะแนนนำคิวบา
คู่นี้นักมวยอิหร่านโกรธมาก ตะโกนด่าพ่อ ล่อแม่ ใส่หน้ากรรมการ และเดินลงเวทีไปเลย
ไอบ้าสอบแล้วก็ลงโทษกรรมการชาวเยอรมัน ที่เตือนนักมวยอิหร่านเร็วไปหน่อย และให้พักการทำหน้าที่
และยังมีในรุ่นเวลเตอร์เวท ที่เออรอล สเปนซ์ นักมวยอเมริกัน ขึ้นฟาดปากกับวิคาส ครีชาน นักมวยอินเดีย
ผลปรากฏว่านักมวยโรตีชนะไป 13-11
แต่ทีมมวยอเมริกันประท้วง เพราะมันค้านสายตาจริงๆ
ท้ายสุดมีการกลับคำตัดสิน ในเออรอล สเปนซ์ ชนะไป เพราะเกิดความผิดพลาดจากการให้คะแนน
เนื่องจากนักมวยอินเดียทำฟาวล์ถึง 9 ครั้ง แถมยังจงใจพ่นฟันยางออกมาระหว่างการชก ซึ่งการจงใจทำแบบนี้ ตามกติกาของไอบ้าต้องตัด 4 แต้มครับ
มวยในโอลิมปิค 2012 ช่างงามหน้าจริงๆ
ผมมองว่ากีฬาที่ไม่ได้มี "สกอร์" หากแต่ใช้ "สายตา" มาให้คะแนนนี่แหละครับ ที่โกงกันได้ง่ายนักแล...
เพราะการใช้ "สายตา" ในการให้คะแนนนั้น มันขึ้นอยู่กับความพอใจ
ผมเกลียดกีฬาที่ให้คะแนนโดยใช้ "สายตา" ครับ
เทียบกับกีฬาอย่าง บอล บาส สนุ๊กเกอร์ ฯลฯ ที่ใช้ "สกอร์" ที่ทำได้มากำหนดผลแพ้ชนะของเกมส์แล้ว ผมว่ากีฬาที่ใช้สกอร์มาตัดสินดูโปร่งใสกว่าเยอะมากเลย
กีฬาที่ใช้ "สายตา" มาให้คะแนนมักมีปัญหาอยู่เสมอๆ
เพราะสายตาของคนเรามันไม่เท่ากันครับ มันอาจมีได้ทั้งสายตาที่ยุติธรรม ,สายตาที่อคติ, สายตาที่ชาตินิยม ไปจนถึงสายตาที่มืดมัวเพราะโดนเงินปิดบังไว้
แม้แต่ในแวดวงอาชีพ ที่ก่อนหน้านี้ที่ยังจำกันได้ไม่ลืม ก็คือคู่มวยระหว่าง ปาเกียว กับ มาเควซ ที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าปาเกียวแพ้แต้มแน่ๆ
เพราะแม้จะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา ต้อนมาเควซ แต่กลับโดนมาเควซต่อยหน้าหงายลอยไปลอยมาเป็นลำตัดแม่ประยูรเลย
พอครบสิบสองยกปาเกียวกลับชนะไปหน้าตาเฉย
ชนะในแบบที่คนชนะก็งงๆไปไม่น้อยเหมือนกัน
กีฬาแบบนี้แหละครับ ที่นำมาซึ่งความขัดแย้ง จนทำให้ทัวร์นาเม้นท์มัน "เสื่อม" ลงไปเรื่อยๆ
และยิ่งหากเป็นกีฬาที่แข่งกันในแถบอุษาคเนย์ หรือในดินแดนแบบมลายูแล้วละก็...หึหึหึ.... หลายต่อหลายครั้งต้องบอกว่า "งามหน้า"
ไทยเรานี่แหละครับตัวดีเลย เพราะเราโกงตั้งแต่ "ตาชั่ง" เลย
หลายต่อหลายครั้งที่นักมวยต่างชาติที่มาต่อยเมืองไทย เขาเกิดความรู้สึกว่า "ตาชั่ง" ในการชั่งน้ำหนักมันขาดมาตรฐาน
เพราะเขามั่นใจในพิกัดน้ำหนักของเขาที่ทำมา แต่พอมาเมืองไทย น้ำหนักที่เขาคิดว่าใช่มันกลับเพี้ยนไป
ลองสังเกตุดูดีซิครับ ในยุคหลังๆของเขาทราย กาแล็คซี่ ที่อายุมากขึ้น ทำน้ำหนักได้ไม่ง่ายเหมือนตอนหนุ่มๆนั้น
เขาทรายของเราไม่เคยออกไปชกนอกประเทศเลย
บอกแล้วไง...ไทยเราก็น่าดูเหมือนกันในเรื่องอะไรทำนองนี้
กีฬาที่ใช้สายตาในการให้คะแนน มักเกิดกรณีทุเรศๆจากการให้คะแนนให้เล่าขานกันเสมอๆ
เหมือนในกรณีซีเกมส์ ในอีเว้นท์ปัญจะสีลัตที่นักกีฬาอินโดฯนั้น ทั้งกัด ทั้งวิ่งหนีไปหลบข้างหลังกรรมการ
แต่กลับชนะ อโนทัย ชูเพ็ง นักกีฬาไทยไปแบบค้านสายตาอย่างงี้
http://www.youtube.com/watch?v=mbaARQnjy0Y&feature=player_embedded
http://www.youtube.com/watch?v=mbaARQnjy0Y
http://www.youtube.com/watch?v=zM59hAhpAjE&feature=player_embedded
เทียบกับกีฬาที่มี "สกอร์" เป็นตัววัดแล้ว กีฬาที่ใช้การให้คะแนนโดย "สายตา" มีการโกงมากกว่าจริงๆ
หากแก้ปัญหาไม่ได้...ผมว่าเลิกจัดไปเลยจะดีกว่า...!!!
"แก้ว พงษ์ประยูร" ไม่ได้แพ้หรอกครับ เพราะแก้วชนะในสายตาของทั้งสื่อะเครือข่ายสังคม ไม่ว่าจะซีเอ็นเอ็น , บีบีซี, ชาแนลนิวส์เอเชีย และ อีสท์ไซ้ท์บ็อกซิ่ง
ต่างก็เห็นตรงกันว่านักมวยไทยคือผู้ชนะ
ส่วนผู้แพ้นั้น หึหึหึ.....ไม่ต้องเดาหรอกครับ เพราะไม่ใช่ ซู ชี หมิง คู่ชกของแก้วหรอก
หากแต่เป็น "ไอบ้า" และ "โอลิมปิค" ครับ
ที่พ่ายแพ้ในแบบอัปยศ จนไม่เหลือศักดิ์ศรีอีกเลย !!!!!!!
ตราบเท่าที่เรายังใช้ "สายตา" ให้คะแนน เรื่องแบบนี้จะยังมีให้พูดถึงกันต่อไปเรื่อยๆ ทั้งในซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และ โอลิมปิค ครับ !!!!
จากคุณ |
:
ตุ้ม (Toom McCartney)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันแม่แห่งชาติ 55 16:59:06
|
|
|
|
|