*****กระทู้เตือนภัย: ผู้ที่ชอบใช้บัตรเดบิต/เครดิต ซื้อสินค้าในห้าง ค่ะ***** [ย้ายจาก : ]
|
 |
เตือนภัยผู้ใช้บัตรเดบิต เครดิตจ่ายเงินซื้อของ: เมื่อคืนไปซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่งย่านบางนา ตอนเอาของไปที่เคานเตอร์จ่ายเงินปรากฎว่า บัตรเดบิตที่วางคู่กันกับthe 1 card หายไป พนักงานก็หาทั่วแล้วก็ไม่มี นึกว่าหล่นหรือว่าติดไปกับของที่เพื่อนซื้อ จึงขอทางห้างดู CCTV พนักงานรักษาความปลอดภัยคนแรกบอกว่า ดูไม่ได้เพราะกล้องไม่ได้แพนมาที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินแต่แพนไปที่สินค้า เราก็เลยบอกว่าถ้าเช่นนั้นก็ขอดูกล้องบ...ริเวณใกล้เคียง เพราะตนเองเห็นว่ามีคนซื้อสินค้าแล้วเดินไปทางด้านที่กล้องอาจจะแพนเอาไว้ เผื่อมีการหยิบติดมือไปจะได้เห็นจาก CCTV ในช่วงเวลาดังกล่าว (ประมาณ 19.30-20.10 น.) พนักงานคนแรกโทรศัพท์แจ้งความต้องการของเราต่อผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาคนที่สองเดินมาด้วยสีหน้าแสดงความไม่พอใจพร้อมถามว่า 'มีอะไรให้รับใช้ครับคุณผู้หญิง' ด้วยหน้าตาท่าทางที่บ่งบอกความรู้สึกที่ตรงกันข้ามกับคำพูด เราก็แจ้งความต้องการไป พนักงานคนที่สองบอกว่า ให้ดูไม่ได้เพราะว่ากล้องเสีย เราก็บอกไปว่าตอนแรกบอกว่ากล้องแพนไปที่สินค้า เราก็จะดูกล้องตัวนั้น แล้วทำไมตอนนี้บอกว่ากล้องเสีย ทำไมจะต้องโกหกกันด้วย ตอนนั้นเสียงเราก็เริ่มดัง เริ่มปรี๊ดแตกมากๆเพราะไม่ชอบความไม่ถูกต้อง แถมไม่ชอบคนโกหกด้วย ถ้ามีอะไรก็ว่ากันไปตามความจริง ตอนนั้นเพื่อนสาวที่ไปด้วยกันเขาบอกว่า เขาไม่ให้แกดูหรอก เพราะว่ามันเป็นเรื่องของ security ของห้างเขา เราก็บอกว่าเราเป็นผู้เสียหาย ถ้ากล้องคุณเสียจริงอย่างที่อ้างก็หามาตรการอื่นใดมารองรับกับเรื่องนี้? จะจดชื่อเราลงบันทึกประจำวันเสียหน่อยก็ไม่มี แค่มาปัดความรับผิดชอบแบบนี้มันสมควรแล้วหรือ ของก็หายไปจากเคาน์เตอร์จ่ายเงิน ไม่คิดจะสอบสวนหน่อยหรือว่าเกิดอะไรขึ้น ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร คิดว่าอายัติบัตร เงินไม่หาย พรุ่งนี้ไปเสียค่าทำบัตรใหม่ 100 บาทแล้วจะจบหรือ? เรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ที่เงิน ไม่ได้อยู่ที่การเสียเวลา ทั้งตอนที่กำลังอธิบายให้เขาเข้าใจ (แต่ดูเหมือนเขาไม่เข้าใจ) แต่มันอยู่ที่ความปลอดภัยของลูกค้าในการเดินช้อปปิ้งในห้าง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ช้อปปิ้งอะไรเลย กำลังรอจ่ายเงินแท้ๆ บัตรยังอัตรธานไปได้เลย และหากพนักงานจะทำหน้าที่บริการลูกค้า ทัศนคติเพียงแค่ว่าในเมื่อเงินไม่หายแล้วก็น่าจะจบเรื่อง แล้วคุณมาทำงานด้านนี้ทำไม เสียงดิฉันก็เริ่มดังขึ้นว่า มาตรการของคุณมีอะไรบ้าง (จากตอนแรกไม่ติดใจ แต่เจอคนที่ทัศนคติแบบนี้รับไม่ได้จริงๆ) เขาก็บอกว่าถ้าคุณผู้หญิงยังพูดแบบนี้ผมก็ไม่มีเวลาบอกว่าผมก็ต้องเรียกเด็กในแผนกมาค้นตัว ตอนนั้นก็กำลังจะกลับบ้านกันแล้ว เราก็ถามไปอีกว่าจะค้นตัวอย่างไร เขาก็บอกว่าจะเอาทั้ง floor เลยหรือเปล่า เราคิดว่าเออ มาตรการแบบนี้นี่แปลกเนาะ บอกว่าตัวเองมีมาตรการ แต่ดันมาถามว่าจะให้เช็คทั้ง floor เลยหรือเปล่า พยายามจะเปลี่ยนเรื่องเป็นว่าเราหาเรื่องทำให้เขาต้องทำงานเพิ่ม พนักงานต้องมานั่งตรวจสอบกันอีก แต่ของแบบนี้ถ้าระบบมันมีก็ต้องทำไปตามขั้นตอนสิ แต่นี่ทำเหมือนไม่มีระบบ (มาอีตอนนี้เพื่อนดิฉันเริ่มสายหัวบอกว่า นี่มันประเทศไทยนะ เราก็บอกว่าเพราะว่ามันเป็นแบบบนี้ ปล่อยปละกันแบบนี้ ก็เลยทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ไง คนนั้นก็แย้งว่าเกิดเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกแหล่ะ แล้วงั้นก็ดี เหตุการณ์จะได้จบลงที่ชั้นไง ไม่ต้องมามีคนโดนขโมยบัตร หรือบัตรหายอีกคน) พนักงานตรงนั้นก็เอากระเป๋ามาให้ตรวจ ซึ่งเราก็งงว่า แล้วแผนกที่ให้ตรวจพนักงานที่มาทำงานวันนี้มีกี่คน แล้วจำได้เหรอว่าเช็คใครไปแล้วบ้าง ทำแบบขอไปทีแบบนี้มันใช้ได้หรือ? ทำงานแบบนี้ใช้ได้หรือ? จำหน้าพนักงานกับชื่อได้หรือเราก็ถามไปเขาก็ไม่ตอบ จนกระทั่งผู้บังคับบัญชาการคนที่สูงกว่านี้ก็มา คนที่สามก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็แจ้งไป คนนี้สอบถามเหมือนว่าเราเป็นลูกค้าเขา ต้องการช่วยเหลือแสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ดีในการทำงาน เหมือนว่าจะเจอคนที่คุยรู้เรื่องแล้ว พอสอบถามเสร็จเข้าใจเรื่องแล้ว เขาก็เลยพาเข้าไปดู CCTV ตรงที่กล้องแพนไปยังสินค้านั่นแหล่ะ สุดท้ายก็ไม่มีอะไร แต่การแสดงออกทางวาจาและท่าทางระหว่างคนที่สองและคนที่สามแตกต่างกันมาก ซึ่งคนที่เป็นผู้เสียหายอย่างเราขอบอกเลยว่า เรื่องนี้ต้องถึงครูอังคณาแน่ อุ๊ยไม่ใช่ ต้องทำเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรส่งไปให้ทางห้างรับทราบ 1) เรื่องการหายไปของบัตร และ 2) work procedure ของพนักงาน และ attitude ของพนักงานคนนี้ อืมมมม เมื่อคืนดุจริงๆเรา ใครมีอะไรสอบถามเพิ่มเติม ยินดีตอบให้นะคะ ขอให้ทุกคนระวังเวลาเอาบัตรไปจ่ายที่เคานเตอร์ด้วย อย่าให้คลาดสายตาเกรงว่ามือดีจะฉกไปแบบอิฉันค่ะ ====================================== วันพฤหัสบดีที่ 30 สิงหาคม 2012 ขณะนี้ทางเซ็นทรัล นำโดยผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้ติดต่อกับดิฉันเรียบร้อยแล้ว (ตามที่ได้ส่งอีเมลล์ไปแจ้งผู้บริหารใหญ่) ทางผู้บริหารใหญ่ได้มีการแก้ไข โดยการเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องโดยด่วน (รู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ) โดยมีมาตรการดังนี้ 1) หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แคชเชียร์จะต้องรายงานเป็นลำดับขั้น มีการทำ work flow ขึ้นมาใหม่เพื่อเป็นมาตรการรองรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ 2) ติดตั้งกล้อง ซ่อมกล้องในแผนกที่เกิดเหตุให้แล้วเสร็จ 3) สอบสวนเพื่อติดตามที่มาที่ไป 4) ดำเนินการเขียนหนังสือขอโทษเป็นลายลักษณ์อักษร 5) ตัดคะแนนพนักงานที่ไม่มีจิตบริการ ผู้บังคับบัญชาเรียกมาตักเตือน และแจ้งให้แผนกที่เกี่ยวข้องรับทราบว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ไม่ดี ไม่ควรเอาอย่าง
ขอบคุณทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่ช่วยเป็นธุระโทรศัพท์มาตลอด ขอบคุณฝ่ายบริหารที่เมื่อทราบข่าวแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมให้ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ take action อย่างด่วนที่สุดให้กับดิฉัน
ขอเตือนภัยพี่น้องชาวพันธุ์ทิพย์ให้ระแวดระวัง อย่าเอาบัตรใดๆก็ตามอยู่ห่างจากมือนะคะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 55 15:25:04
จากคุณ |
:
just.a.girl
|
เขียนเมื่อ |
:
29 ส.ค. 55 16:46:43
|
|
|
|