ความคิดเห็นที่ 1 ขอเล่าบรรยากาศการทำงานนิดหนึ่งนะค่ะว่า ที่ ๆ เราเรียนมาโรงพยาบาลมหาลัย ที่มีความพร้อมทุกอย่าง มีงบอุดหนุนไม่อั้น  แพทย์ยั้วเยี้ยเต็มโรงพยาบาล กับความเป็นจริงของโรงพยาบาลชนบท ตามอำเภอ 1. โรงพยาบาลตามชนบทแพทย์ที่มีคือแพทย์จบใหม่ใช้ทุนกันสองปี ครบสองปีก็ไปเรียนต่อ ยังขาดประสบการณ์  และบางส่วนมักลองภูมิตัวเองด้วยการเก็บคนไข้อาการแย่ ๆ ลองรักษาเอง ไม่ยอมส่งต่อยังโรงพยาบาลจังหวัด ที่เสียชีวิตไปก็มี เราพยาบาลคนที่เฝ้าคนไข้ บอกตรง ๆ ใจจะขาด บางครั้งต้องทะเลาะกับแพทย์เรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ  บางเคสช้าเกินไป ส่งไปก็เสียชีวิต 2. แพทย์ในโรงพยาบาลมีสองถึงสามคน  แพทย์อยู่เวรตามยาก ไม่เหมือนตาม โรงพยาบาลใหญ่ที่มีความพร้อม ความสบายใจในการทำงานน้อยนะค่ะ อย่าง รพ.เราพอหมดเวลาราชการคนที่ตรวจคนไข้ที่ห้องฉุกเฉินคือพยาบาลค่ะ แพทย์เวรนอนอยู่บ้าน จะตามแพทย์มาเป็นรายเคสที่คิดว่าเกินความสามารถของเราสั่งยาได้  หรือมีเคสฉุกเฉินต้องใส่ท่อช่วยหายใจ   ยิ่งเวรดึกคนไข้อาการแย่ พยาบาลเฝ้ารายงานอาการ ก็ได้เพียงคำสั่งการรักษาทางโทรศัพท์ น้อยมากที่จะขึ้นมาดูคนไข้เอง 3. ต้องทำงานควบ 16 ชั่วโมงที่สำคัญ มีการจัดเวร แบบควบเวลา 24.00 – 8.00 น. อันนี้ทรมาณมาก 4. การทำงานต้องขึ้นเวรโอทีแบบอุตลุตเพราะพยาบาลขาดค่ะ เรียกว่าเดือนหนึ่งมี 30วัน แต่เราทำงานกัน  33, 34 วันค่ะ เพราะ ต้องทำโอถึงไม่อยากทำก้อต้องทำค่ะ ไม่งั้นก็ไม่มีใครดูแลคนไข้ บางครั้งเพื่อนร่วมงานป่วย ก็ต้องทำเพิ่มอีก 5. วัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันตัวที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ปฏิบัติงานไม่มี อ้างว่าไม่มีเงินซื้อ ยกตัวอย่างนะค่ะ  อย่าง รพ.มหาลัยที่เราเรียนฝึกงาน หรือโรงพยาบาลเอกชนจะมีกล่องทิ้งเข็มโดยกล่องจะมีที่สอดเข็มเข้าไปแล้วพอเราดึงเข็มก็จะหลุดออกจาก syring โดยที่เราไม่ต้องใช้มือเราดึง  เพิ่มความปลอดภัยลดอุบัติการณ์เข็มทิ่มตำเจ้าที่ได้   โรงพยาบาลเล็ก ๆ จน ๆ อย่างเราไม่มีค่ะต้องเสี่ยงกับการดึงเข็มออกจาก syring ด้วยตัวเอง เพื่อนร่วมงานเราโดนเข็มตำไป สองสามราย เครียดนะค่ะ เกิดคนไข้เป็น HIV มันไม่คุ้มเลยกับชีวิตเรา จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 12:59:56

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนจะพูดถึงปัญหาเรื่องการบรรจุ และค่าตอบแทน  ขอเล่าถึงภาระงานก่อนแล้วกันค่ะ มีหลายครั้งที่ได้ยินหลายคนพูดว่างานเราสบาย ได้เงินเยอะ  วัน ๆ ไม่เห็นทำไรเลย  ก็เลยอยากจะเล่าให้พอนึกภาพออก แล้วกันค่ะ  ว่าเราจะกระจายอยู่ทุกจุดทุกแผนกของ โรงพยาบาลเลยก้อว่าได้ 1. แผนกห้องเฉินนะค่ะ เรามีหน้าที่ ประเมินวัดสัญญาญชีพ ล้างแผล ในที่ที่ไม่มีแพทย์อยู่ตลอดเราต้องเย็บแผล ผ่าฝี เองด้วย บางแห่งต้องตรวจรักษาเองด้วยในช่วงเวลา 16.00-8.00 น แต่แพทย์เวรก็นอนได้ตังค์ค่าเวรที่บ้านนะค่ะ 2. ห้องคลอด พยาบาลทำหน้าที่ทำคลอดในเคสปกติทุกเคส สังเกตอาการตั้งแต่คนไข้มาหาเรา ประเมินความก้าวหน้าในการคลอด ต้องรู้ว่าอะไรคือความผิดปกติ ที่อันตราย และรายงานแพทย์ตามแพทย์มาดูคนไข้ให้ได้เมื่อเกิดความผิดปกติ 3. ตึกผู้ป่วยใน  อันนี้ดูแลคนไข้ที่นอนโรงพยาบาล หลัก ๆ ก็ ทำตามแผนการรักษา ประเมินความผิดปกติที่เกิดกับคนไข้  แผนการรักษาก็ เช่นการเจาะเลือด ส่งเลือดตรวจ ให้เลือด ฉีดยา จัดแจกยา ตรวจสอบความถูกต้องของยาที่ห้องยาจัดมา ดูแลให้น้ำเกลือ ทำแผล วัดสัญญาณชีพ เหล่านี้ นอกจากนี้งานเอกสาร เก็บสถิติคนไข้  ฉีดวัคซีน  ยาคุมกำเนิด ฝากครรภ์  คัดกรองคนไข้  ซักประวัติ ก็งานเราทั้งนั้น จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:01:07

ความคิดเห็นที่ 3 มาถึงความก้าวหน้าในอาชีพของเราในกระทรวงสาธารณสุข เรียกได้ว่าไม่มีเลยค่ะ ตามที่ได้แจ้งเงินเดือนไปในขั้นต้นเราในฐานะลูกจ้างชั่วคราวต่างจากข้าราชการพยาบาลเยอะเลยทั้ง ๆ ที่ทำงานเหมือนกันทุกอย่าง  เงินเดือนเราโดนหักประกันสังคมไปหกร้อยกว่าบาท ซึ่งก็รู้  ๆอยู่ว่าปล้นกันชัด ๆ ในขณะที่ข้าราชการไม่ต้องโดนปล้นเหมือนเรา  การเติบโตของข้าราชการมีการทำตำแหน่ง เลื่อนขั้น เงินเดือนปรับขึ้นทุกหกเดือน แต่สำหรับลูกจ้างชั่วคราวขึ้นอยู่กับผู้บริหารบอกความจริงเลยนะค่ะว่า เราได้รับการประเมินปรับเงินเดือนแค่ครั้งเดียวค่ะตลอดเกือบสี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้เงินเบี้ยเลี้ยงโดนตัดเพราะ รพ ไม่มีเงินจ่าย  แสดงว่ากระทรวงนี้แค่บอกว่าไม่มีเงินก้อไม่ต้องจ่าย ไม่ต้องสนปากท้อง หรือกำลังใจของคนทำงานเลย   แถมเงินที่รัฐให้เพิ่มเงินให้พยาบาลเจ็ดร้อย ซึ่งเป็นผลจากการชุมนุมที่ผ่านมา รพ. ไม่จ่ายค่ะเพราะอ้างว่าไม่มีเงินให้  นโยบายที่เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 รพ.เราก้อไม่จ่ายค่ะเพราะไม่มีเงิน ในขณะที่เพื่อนเราอยู่ รพ อื่นได้กัน  เพราะฉะนั้นความไม่เท่าเทียบของค่าตอบแทน ของ รพ ในสังกัด กระทรวงสาธารณสุข ขึ้นอยู่กับเงินบำรุงค่ะ บาง รพ จ่าย บาง รพ ไม่จ่าย แล้วถามหน่อยว่าใครจะอยากอยู่ รพ ที่ไม่มีเงินจ่ายค่ะ จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:03:01

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนนี้เราเงินเดือน 13,700 ค่ะขึ้นจากการประเมินครั้งเดียว 200 ส่วนอีก 1,000 เพราะนโยบายหาเสียงนะค่ะ ในขณะที่เพื่อนพยาบาลที่อยู่สังกัดโรงพยาบาลของมหาลัย ของกระทรวงศึกษาธิการ ถึงจะเป็นลูกจ้างแต่มีอนาคตมีการเติบโตกว่าเยอะเลย ตอนนี้เพื่อนเรา เงินเดือนจากเริ่มต้น 10,900 ขึ้นเป็น 17,500 เงินโอทีได้เวรละ  700-900 บาท ในขณะที่เรา 600 เท่าเดิม  แถมของกระทรวงศึกษาธิการยังมีกรอบให้ว่า ทำงานครบห้าปี สามารถทำตำแหน่งชำนาญการ ได้เงินประจำตำแหน่งเพิ่มอีก ห้าพัน ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ไม่มีให้เลย และกระทรวงศึกษาธิการ ยังปรับเงินเดือนให้ทุกหกเดือนเหมือนข้าราชการอีกด้วย จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:04:32

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนเรื่องการบรรจุมันน่าน้อยใจมั้ยค่ะที่เราจบปริญญาตรี เป็นอาชีพที่เรียกว่าวิชาชีพเฉพาะ  แต่ไม่มีหนทางให้บรรจุเป็นข้าราชการได้เลย   1. กพ.ไม่มีการเปิดสอบบรรจุเพราะเป็นวิชาชีพเฉพาะ 2. ที่ทำทำงานให้รัฐอยู่ก็ไม่มีการบรรจุบางคนรอมาห้าหกปีแล้ว และน่าน้อยใจตรงที่คนที่จบวุฒิอื่น  ๆ  บรรจุกันเกรียวกราว พนักงานบัญชี การเงิน   อบต เทศบาล ท้องถิ่น กพ.เปิดสอบบรรจุทุกปี อยากถามว่าจงเกลียดจงชังอะไรพยาบาลนักหนาเหรอ........... และอย่างน้อยถ้าไม่บรรจุให้เราก็ควรมีกรอบการเติบโตในอาชีพให้เราเหมือน กระทรวงศึกษาธิการก็ยังดี เรายังพอยอมรับได้นะค่ะ ไม่ใช่เป็นลูกจ้างต๋อกต๋อย ไม่มีอนาคตไปวัน ๆ รอประเมินพร้อมลูกจ้างทั่วไปในโรงพยาบาล ที่เป็นคนเก็บขยะ   คนกวาดถนน ในโรงพยาบาลที่จ้างด้วยวุฒิ ป. 6 จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:06:38

ความคิดเห็นที่ 7 และสุดท้ายแล้วหากยังไม่มีอนาคต เงินเดือนไม่เพิ่มอย่างนี้ สิ่งที่เราวางแผนสำหรับชีวิตเราเอง เราคงต้องออกจากกระทรวงนี้แน่นอน ลาออกย้ายสังกัดไปยังกระทรวงศึกษาที่ดูมีอนาคตรองรับมากกว่า ไม่ก็ไปเอกชนเลยหาเงินทำธุรกิจแล้วก็ออกจากวิชาชีพนี้ไปเลย   การทำงานเพื่อดูแลชีวิตคนอื่น มันเหนื่อยนะค่ะ เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ นอนไม่เป็นเวลา แบ่งกันทำงานทั้ง 24 ชั่วโมง  แต่กลับได้ผลตอบแทนแบบนี้  มันสาสมมาก ๆ  เลยค่ะ แล้วก็ซึ้งมาก ๆ เลยค่ะ   ที่สำคัญเจ็บปวดที่ชีวิตพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวนับหมื่น   กำลังถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครเหลียวแล เทียบไม่ได้เลยกับชีวิตควายเผือก ที่หายไป  หรือสุนัขจรจัดที่ถูกทารุณ  เราดูแลชีวิตคุณจนลืมดูแลชีวิตตัวเองไป ถ้าวันหนึ่งเราหายไป คุณก็คงด่าว่าเราเห็นแก่ตัวใช่มั้ย   แต่เราก็คงต้องเห็นแก่ตัวบ้างแล้วละ ในเมื่อไม่มีใครเห็นแก่เรา จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:08:10

ความคิดเห็นที่ 8 น่าเห็นใจนะคะ ลองตั้งกลุ่มเรียกร้องดีไหม ถ้าไม่ได้ผลก็หาช่องทางอื่นเพิ่มได้ป่าว ระวังความปลอดภัยตนเองด้วยนะ จากคุณ : นา เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:34:01 A:118.172.116.180 X: TicketID:200519

ความคิดเห็นที่ 9 เราก็เป็นบุคลากรคนนึงของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ไม่ใช่พยาบาล แต่ตอนนี้ลาออกมาแล้วค่ะ เราได้เงินเดือน ค่าวิชาชีพ ค่าเวร เดือนๆนึงก็ถือว่าเยอะ แต่ว่าปริมาณงานก็ไม่น้อยเลยทีเดียว ปัญหาก็เยอะ เราไม่อยากทำตามระบบเก่าที่คนเก่าคนแก่ เค้าทำกันมา ชินแต่แบบนั้น ปัจจุบันคนไข้มหาศาล ผลจาก30บาท ทำให้มีคนไข้มารับการรักษามากขึ้น คนเก่าคนแก่เค้าไม่ยอมปรับเปลี่ยนแนวทางการให้บริการรักษาในรูปแบบที่จะอำนวยให้คนไข้และบุลากรทำงานเร็วขึ้น เราเคยสนอไปให้setระบบการรักษาที่มันสะดวกกว่านี้ คนที่สูงกว่าก็อ้างไปเรื่อยว่า จะพูดไรได้ โอเค งั้นเราออกดีกว่า ออกไปทำอะไรที่เป็นเจ้านายตัวเอง ดีกว่าต้องอยู่กับระบบงานที่ฉุดให้เสียturn around time ของคนไข้ และทำให้เสียเวลาการตรวจรักษาคนไข้จากเรื่องจุกจิก ทั้งที่มันแก้ได้ แต่คนหัวแข็งบางกลุ่มไม่ยอม ... แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 55 13:41:26 จากคุณ : บุ้งกี๋กาก้า...ปีศาจตัวน้อย (บุ้งกี๋กาก้า...ปีศาจตัวน้อย) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:39:36

ความคิดเห็นที่ 10 ตำแหน่งข้าราชการสมัยนี้มีบรรจุน้อยลง + คนมาสมัครสอบเยอะ ข้าราชการตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ มีสอบบรรจุที่กทม เมื่อปีที่แล้ว พี่คนที่รู้จัก สอบบรรจุได้(อายุเค้า 36 ปี) ลองหาข้อมูลดีนะ ปล. ข้าราชการตำแหน่งอื่น ๆ ก็มีเปิดสอบบรรจุในอัตราตำแหน่งน้อย ๆ แต่คนมาสอบเยอะ ๆ  ตำแหน่งเรามาสอบ 29xxx คน แต่รับไม่กี่สิบคน กว่าสอบได้ แทบรากเลือด แต่ก็ยังดีกว่า ตำแหน่งปลัด ที่คนมาสอบที เป็นแสน - -" จากคุณ : Sarani เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:41:58

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องบรรจุตอนสามสิบก้อคงไม่ไหวแล้วละค่ะ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นตอนนี้คงก้าวหน้าไปไกลเลยละ จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 13:53:38

ความคิดเห็นที่ 12 ราชการหลายๆคนเขาขอให้ได้บรรจุก่อน ถึงจะไกลก็ไป แล้วค่อยหาทางกลับบ้าน ของ จขกท. เลือกเอาอนามัยใกล้บ้านรึเปล่าครับ จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:05:45

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ใช่ค่ะ เป็นโรงพยาบาลอำเภอค่ะ จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:09:24

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่แน่ใจว่า...เงินบางส่วนที่จขกท.โดนตัดออก เพราะรพ.ไม่มีเงิน อันนี้มันขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารของ ผอ.รึเปล่าคะ จากคุณ : อีกฝั่งฟากของเวลา เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:11:54

ความคิดเห็นที่ 15 ที่สอบบรรจุพยาบาลวิชาชีพได้ 20ต้น ๆ ก็มีนะ เพียงแต่คนที่เรารู้จัก เค้าอายุ 36 นะ ตอนนี้ จขกท. มีเป้าหมายชีวิต คือบรรจุเป็นราชการ ลำดับต่อมาต้องลองหาเส้นทางว่า จะบรรจุต้องทำอย่างไร เดินทางไกลพันลี้ ตัดสินที่ย่างก้าวแรกนี่และ จากคุณ : Sarani เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:25:27

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนี้ก็กำลังรู้สึกบางอย่างกับงานที่ทำเหมือนกันค่ะ เหตุผลที่มาเพราะใจเหมือนกัน รู้สึกมาตลอดแต่ก็อดทนล้มแล้วลุกซ้ำๆมาตลอด อาจจะไม่เข้าใจพยาบาลลึกซึ้งแต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สายเดียวกันและกำลังเศร้าอยู่เหมือนกัน กิ่งว่า..บางครั้งเราก็ต้องทบทวนในอุดมการณ์ที่ผ่านการพิสูจน์ว่ามันลมๆแล้งๆ หรือเป็นจริงได้แค่ไหน กับการมีชีวิตสบายๆกับสายที่รู้สึกดีมีความสุขมากกว่าและที่สำคัญคือถูกต้องไม่ก่อให้ใครเดือดร้อน เป็นน้องใหม่ห้องนี้เข้ามาเล่นครั้งแรก ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ จากคุณ : กลีเซอรีน เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:27:42

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องเงินบำรุงและการประเมินลูกจ้างชั่วคราว ต้องรวมตัวกันไปถามกับฝ่ายบริหารแล้วล่ะค่ะว่าเอาเงินไปทำอะไรหมด แต่ต้องรวบรวมข้อมูลและหลักฐานให้ละเอียดนะคะ รวมทั้งข้อมูลจาก รพ อื่นที่คุณอ้างอิงถึงด้วย ถ้าผู้บริหารยังนิ่งเฉย หรือไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ก็ตัดสินใจเอาเองว่าจะลุยต่อ หรือหยุด ยอมรับสภาพต่อไป หรือลาออก จากคุณ : ร้อยดอกไม้ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:30:53

ความคิดเห็นที่ 18 มันเหนื่อยกับการต้องสู้รบปรบมือ เพื่อเรียกร้องสิทธิ บางทีคงต้องลาออกแล้วละมั้ง เราก้อเป็นคนธรรมดา ๆ ไม่รู้จะไปสู้กับเค้ายังไง จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 14:48:57

ความคิดเห็นที่ 19 แม่เราไม่สบาย แอดมิทโรงพยาบาล 12 วัน ใช้สิทธิ์บัตรทองที่ศิริราช แม่นอนไม่รู้ตัวอยู่ 3 วัน เราไปเฝ้าแม่ทุกวัน เห็นการทำงานของพยาบาลแล้ว ขอบอกว่าพวกคุณทำเกินเงินเดือนจริงๆค่ะ ตอนแรกยังคิดว่าจะได้เงินเดือนเยอะๆ สวัสดิการดีๆ มีโอกาสก้าวหน้า พอมาฟังคุณเล่าแล้ว น่าหมดอาลัยจริงๆค่ะ เราเองเคยสอบติดสำรองพยาบาลอันดับที่ 3 ของมหาวิทยาลัยเอกชน แต่พอดีไม่มีใครสละสิทธิ์ เราเลยไม่ได้เรียน ตอนนั้นนึกเสียดาย แต่มาตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วค่ะว่ายังงัย ลองทำตามคำแนะนำของท่านอื่นๆดูนะคะ คุณเองก็ระวังตัวด้วย เพราะใช้ล็อกอินโพสต์ เอาใจช่วย ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : น้องพุงค่ะ (ดอกดาวเรือง) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:16:40

ความคิดเห็นที่ 20 คุณความเห็นที่ 19 โชคดีแล้วละค่ะที่คุณไม่ได้เรียน เรายังว่าเราพลาดเลย ที่เลือกทางนี้ ส่วนเรื่องใครจะทำอะไรเรา เราไม่กลัวแล้วละ เพราะเราไม่มีอะไรจะเสีย จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:19:37

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนี้หมอจบใหม่หลายคนยังไม่ได้เป็นข้าราชการเลยค่ะ ตำแหน่งมันไม่มี เค้ายุบไปหมดแล้วไงคะ ตามนโยบายของท่านนายกท่านนึง ไม่ใช่แต่เฉพาะพยาบาลที่ไม่ได้บรรจุ เภสัช เทคนิคการแพทย์ ก็ลูกจ้างชั่วคราวทั้งนั้น ดีหน่อยก็พนักงานราชการ (ซึ่งก็ไม่ได้ต่างกันเลย) ใครทำงาน รพ ชุมชน เจ้าหน้าที่น้อยๆก็อยู่เวรหน้ามืดเหมือนกันค่ะ ค่าเวรก็เท่าๆกับ จขกท. เดือนๆนึงค่าเวรอื้อ แต่ไม่มีเวลาไปใช้เงินค่ะ ส่วนใหญ่ที่ได้บรรจุก็คือรอคนเก่าเกษียนหรือลาออก ไม่งั้นก็ไม่ได้บรรจุเหมือนกัน ลองตามข่าวตามกรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขนะคะ เค้าจะเปิดสอบทุกปี ของกรมควบคุมโรคนี่เปิดทุกปี พยาบาลเราเห็นเค้ารับหลายตำแหน่งด้วยนะคะ อย่าไปโวยวายว่าคนที่จบบัญชีหรือบริหาร การเงินเค้าเรียกบรรจุง่ายเลยค่ะ สอบ กพ คนเป็นแสนๆนะคะ อัตราแข่งขันสูงมากกกก แถมหลายๆครั้งและหลายๆคนก็ขึ้นบัญชีรอเรียกเก้อ จนบัญชีหมดอายุ อุตส่าห์สอบแทบตาย ไม่ได้เรียกซะงั้น สอบวิชาชีพเฉพาะ คนสอบไม่ถึงร้อย บางที 20 คนด้วยซ้ำ บางครั้งไม่ต้องสอบข้อเขียนด้วยซ้ำไป วิชาชีพอื่นก็มีปัญหาเรื่องไม่ได้บรรจุเหมือนกัน รวมถึงค่าตอบแทนด้วย ทำงานหนักแต่ไม่ได้รับการเหลียวแลเพราะไม่ได้สัมผัสคนไข้โดยตรง เป็นผู้ทำงานอยู่เบื้องหลัง คนน้อยกว่าพยาบาล เสียงเรียกร้องเลยไม่ดังเท่า อยากให้ จขกท รู้ว่า พยาบาลลูกจ้างก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรม เป็นเภสัช เทคนิคการแพทย์ลูกจ้างเหมือนกัน อย่าน้อยใจ เพราะมีอีกหลายวิชาชีพที่ถูกกดขี่มากกว่านี้อีกค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 55 15:41:25 จากคุณ : มามั่ว เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:21:03

ความคิดเห็นที่ 22 เคยไปนอนเฝ้ายาย เป็นเดือนๆ ที่โรงพยาบาล  พยาบาลทำงานหนักมากกกกก กะดึก ต้องลงมาตรวจคนไข้ ใส่นู่น พลิกนี่ทั้งคืนยังเช้า ยังคิดอยู่เลยว่า ทำไมงานหนักขนาดนี้จะคุ้มเงินเดือนเปล่านิ แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 55 15:23:03 จากคุณ : ice apisto เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:22:35

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นกำลังใจให้ครับ เคยได้ยินเรื่องราวบ้างจากพี่ๆ ที่รู้จักเหมือนกัน จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:26:23

ความคิดเห็นที่ 24 แม่เป็นพยาบาลเก่า... บอกว่าลาออกดีกว่า ได้ไม่คุ้มเสีนค่ะ :) แม่เคยเป็นพยาบาล บัดนาวเป็นคุณครูระค่ะ ร่ำรวยกว่า+เหนื่อยน้อยกว่าเยอะ จากคุณ : via iPhone (mercipians) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:51:48

ความคิดเห็นที่ 25 ผมขอเก็บเคสนี้เป็นกรณีศึกษานะครับ จากคุณ : ทะลายร่างทะลวงใจ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 15:52:32

ความคิดเห็นที่ 26 เข้าใจความรู้สึกนะครับ จบมา กว่าจะได้บรรจุก็นาน ยิ่งถ้าสอบใบวิชาชีพยังไม่ผ่านอีก เงินก็แทบจะไม่ได้ ยิ่งบางที เคยเจอ ตกเบิก ไป 3- 4 เดือน (ลูกจ้างราชการ รู้จักคำนี้กันเกือบทุกคน) แต่ขอแย้งในเรื่องของ กฟผ ว่า ที่มาตั้งโต๊ะสมัคร คือ ประชาสัมพันธ์ให้สมัครสอบเข้าครับ ต้องไปแข่งขันกันอีกทีอยู่ดี เพื่อนพี่ผมจบจากพยาบาลกองทัพแห่งหนึ่ง ปีนั้นมีนโยบาลไม่บรรจุทุกคนพอดี ไปสอบกฟผ รอเลิกนานมาก ปัจจุบัน ไม่รอ ทำอยู่ ที่จุฬาภรณ์ แล้วครับ จากคุณ : คุณโซนี่ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 16:22:00 A:101.108.143.87 X: TicketID:352993

ความคิดเห็นที่ 27 นี่สินะอนาคตของหนู..... TT_TT อ่านแล้วไม่อยากเรียนจบเลย   หนูไปร่วมประชุมการพยาบาลแห่งชาติครั้งที่ 14 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเพื่อนคนนึงพูดว่า "จะมีพยาบาลซักกี่คนกันที่อยากให้ลูกโตมาแล้วเป็นพยาบาล" ถ้าคุณภาพชีวิตของพยาบาลยังเป็นแบบนี้อยู่!! จากคุณ : PeNQuiNSoCute เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 16:49:03

ความคิดเห็นที่ 28 คับข้องใจมาอยากให้สังคมรับรู้ เราก็ช่วยโหวตไปให้อ่านกันให้ทั่วถึง จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 17:18:40

ความคิดเห็นที่ 29 น่าเห็นใจนะครับ 1. รับราชการ ค่าตอบแทน ตามขั้นเงินเดือนซึ่งไม่มากอยู่แล้ว ซึ่ง จขกท ก็น่าจะทราบดีว่า    อัตราขั้นเงินเดือนภาครัฐเป็นอย่างไร ไม่ว่าลูกจ้างหรือข้าราชการประจำ และลักษณะงาน    ตั้งแต่เลือกเรียนครับ หรือ ข้อมูลจากรุ่นพี่ๆครับ 2. ตำแหน่ง ขรก อย่างที่ความเห็นด้านบนตอบ ราชการตำแหน่ง กพ มีไม่มากสายวิชาชีพ        อื่น เช่น สาย ปกครอง กฎหมาย ก็สอบแข่งกันเป็นหลักหมื่นหลักแสนครับต่อปีครับ    มีรุ่นน้องสอบได้ รอเรียก ขรก กรมที่ดิน มา 2-3 ปีแล้วครับตอนนี้จะไปสอบ ผู้พิพากษา    แล้วครับ 3. งานบริการผู้อื่นเป็นงานหนักน่าเห็นใจครับ ยิ่งอยู่ในที่ทุรกันดาร    ส่วนค่าตอบแทนที่ติดค้างและเรื่องอุปกรณ์   ความปลอดภัย สวัสดิการ สิ่งอำนวยความ    สะดวก คิดว่าทุกในสถานพยาบาลก็ได้รับผลกระทบควรแก้ไขเพื่อกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน 4. ถ้าความก้าวหน้าของวิชาชีพคือค่าตอบแทน เท่าที่ฟังดู จขกท ก็มีประสบการณ์ทำงาน    ทำไมไม่เปลี่ยนสายงานเอกชนเต็มตัวเลยครับ เท่าที่ดูเอกชนหลายที่รายได้ก็ดีมากครับ    ส่วนประกันสังคม ลูกจ้างไม่ว่าทำงานอะไรก็ถูกหักตามกฏหมายเหมือนผู้อื่นนะครับ    ส่วนตำแหน่งข้าราชการก็ได้ตอบแล้วว่า เหลือจำกัดทุกสาย ขรก ประจำ    หรืออาจจะไปศึกษาต่อเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย    หรือสาขาเฉพาะที่มีความต้องการมากขึ้นในอนาคต    เช่น ผู้สูงอายุ 5. การปฏิบัติงานใดที่นอกเหนือหน้าที่เช่นวินิจฉัยโรคและจ่ายยาเอง หรือผ่าตัดเย็บแผลที่    จขกท กล่าวมาเท่าที่ฟังไม่ใช่หน้าที่พยาบาลครับ ให้ตามแพทย์มาตรวจดูอาการตาม    บทบาทหน้าที่ดีกว่าครับ ถ้าวินิจฉัยไม่ถูกจะให้การรักษาอย่างไรครับ    ถ้ามีปัญหารักษาแล้วผิดพลาดก็มีแต่จะเสียหายทั้ง จขกท ผู้ป่วย    ส่วนที่กล่าวอ้างว่าแพทย์ถ้าลองวิชา หรือ วินิจฉัยไม่ถูกต้องเก็บคนไข้ไม่ส่ง    ตามศักยภาพ ผมไม่แน่ใจว่าแพทย์อาจจะรักษาตามมาตรฐานแต่ จขกทมีความเห็นต่าง    หรือไม่อย่างไรครับ เพราะถ้าเป็นการปฏิบัติที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้ามั่นใจนะครับก็ร้อง    เรียน ผอ หรือ กระทรวงให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงครับ    จะได้มีโอกาสฟังข้อเท็จจริงทั้งหมดรอบด้าน    ยุติธรรมกับทุกฝ่ายครับผู้ป่วยก็สบายใจ ถ้าเจ็บ หรือ ตาย ก็จะได้รับการเยียวยาด้วยครับ    ถ้ามีมูลก็เปิดช่องทางการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้อีก   6. ส่วนแพทย์ ที่อยู่เวรราชการตามไม่ได้ ถือว่าบกพร่องครับ มีบทลงโทษครับอยากให้ช่วยให้ข้อมูล ทางกระทรวงด้วยครับ อะไรไม่ถูกต้องให้ช่วยกันครับ (ปปช ปกปิดชื่อผู้แจ้งครับ) ส่วนแพทย์จะพักอยู่บ้านหรือห้องเวรแพทย์หรือที่ใดก็เป็นเรื่องที่การทำงานร่วมกันในองค์กร น่าจะพูดคุยเสนอแนะตามหลักเหตุผลได้นะครับ   สรุป มองเรื่องค่าตอบแทน คำตอบคงเป็น ภาคเอกชนครับ        ความมั่นคง ก็ ขรก แต่ตำแหน่งน้อยทุกสายงานครับ        งานบริการผู้อื่นทางสาธารณสุข เสียสละน่าเห็นใจทุกสาขาอาชีพครับ        ไม่ว่าสายงานใด ก็ต้องพัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถพิเศษครับ        ไม่ว่าราชการหรือเอกชนก็ต้องแข่งขันกันอยู่ดีครับ        ในสายงานนั้นๆถ้าเราต้องการความ ก้าวหน้า จากคุณ : sternberg เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 17:40:44

ความคิดเห็นที่ 30 แนะนำให้ออกดีกว่าค่ะ ไปอยู่รพ.เอกชนเถอะ ลูกจ้างเหมือนกันแต่คุณภาพชีวิตต่างกัน วิชาชีพพยาบาลนับวันจะถอยเข้าคลอง ตันที่ชำนาญการตลอดกาล ชำนาญการพิเศษมีน้อยมาก  บางคนจะเกษียณอยู่แล้วยังชำนาญการอยู่เลย  ขณะที่วิชาชีพแพทย์ 30+ก็แพทย์เชี่ยวชาญกันแล้ว  ครูเดี๋ยวนี้ยังดีกว่ามากๆเลย งานหนัก คุณภาพชีวิตแย่มาก บางคนอยู่16ชม. หายไปนอนแป๊บเดียวก็เห็นมาทำงานเต่ออีก บอกว่าพยาบาลขาดแคลน เป็นแบบนี้เป็นสัปดาห์ๆ เห็นแล้วนึกว่าหุ่นยนต์  นับถือน้ำใจจริงๆ   จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 18:10:15

ความคิดเห็นที่ 31 ที่สำคัญเจ็บปวดที่ชีวิตพยาบาลลูกจ้างชั่วคราวนับหมื่น   กำลังถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครเหลียวแล เทียบไม่ได้เลยกับชีวิตควายเผือก ที่หายไป  หรือสุนัขจรจัดที่ถูกทารุณ เราดูแลชีวิตคุณจนลืมดูแลชีวิตตัวเองไป ถ้าวันหนึ่งเราหายไป คุณก็คงด่าว่าเราเห็นแก่ตัวใช่มั้ย   แต่เราก็คงต้องเห็นแก่ตัวบ้างแล้วละ ในเมื่อไม่มีใครเห็นแก่เรา .......................................................................... เราขอแย้งนิดหนึ่งนะคะ ตามข้อความที่เรายกของเจ้าของกระทู้มา...คุณไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับควายบุญมา หรือหมาแมวจรจัด เพราะสัตว์พวกนี้ไม่มีปากเสียง ไม่มีความรู้ ไม่ได้รับการศึกษา ไม่มีสิทธิใดๆที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรมหรือใดๆเลย เพราะถูกกระทำโดยคนเช่นเรา เช่นคุณ ที่ไม่มีมโนธรรมในจิตใจ เอารัดเอาเปรียบแม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน  แต่คุณเป็นคนที่มีการศึกษาแล้ว มีปากมีเสียง มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ตัวเองได้ อย่ารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจถึงขนาดนั้นเลยค่ะ ทางออกมีเยอะแยะ หลายท่านก็ได้แนะนำไปแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ก็ลองทำดูเลยค่ะ อย่างน้อยที่สุดคุณก็ได้พยายาม จะได้ไม่ค้างคาใจ ขอโทษนะคะที่แสดงความคิดเห็นออกมาแบบนี้ เพราะรู้สึกอย่างนี้จริงๆค่ะ ถ้าเจ้าของกระทู้หรือเพื่อนๆไม่ชอบใจก็ต้องขออภัยล่วงหน้า และสามารถแจ้งลบได้เลยค่ะ จากคุณ : น้้องพุงค่ะ (ดอกดาวเรือง) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 18:56:43

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ วิชาชีพของคุณดีมากครับ ถือว่ามีหน้ามีตา มุมมองที่ดีมีคุณค่าในสังคม ดีกว่า วิชาชีพของผมเยอะ วิชาชีพของผม คุณค่าทางสังคมต่ำสุดในระบบข้าราชการแล้วครับ โดนด่าแทบทุกวัน แต่ผมภาคภูมิใจที่สอบได้ และทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้ครอบครัว และไม่คิดที่จะหนี วิชาชีพนี้ไปไหนครับ สู้ๆๆครับ ลองตั้งกลุ่มเรียกร้องสิทธิดูครับ จากคุณ : อาบาเซเต้17 เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 22:12:55

ความคิดเห็นที่ 33 บทบาทของพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:19:35

ความคิดเห็นที่ 34 ป้องกันโรค จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:23:48

ความคิดเห็นที่ 35 คุณลืมไปแล้วหรือก่อนจะ ทำงานโรงพยาบาลรัฐบาล จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:40:02

ความคิดเห็นที่ 36 หรืออยากเป็นหมอ จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:41:58

ความคิดเห็นที่ 37 สุดท้ายครูไพลินบอกว่าอย่างไร ลืมไปแล้วหรือ จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:43:33

ความคิดเห็นที่ 38 แล้วสภาวิชาชีพของเรา พึ่งไม่ได้แล้วเหรอ จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:59:21

ความคิดเห็นที่ 39 หรือต้องแบบนี้ จากคุณ : nurseนะครับ (nurseนะครับ) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 01:05:21

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ฟากเพลงคลายเครียดมาให้ฟังค่ะ บัตรผ่านแปะลิงค์ไม่ได้ อะไรก็ ku ของเอดดี้ ตลาดแตก www.youtube.com/watch?v จากคุณ : ว่างจะนอน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:06:07 A:188.28.48.32 X: TicketID:317543

ความคิดเห็นที่ 41 ข้าราชการ ตอนนี้พวกแก่ๆ ก็คิดแต่จะหาทางยุบตำแหน่งเล็กๆ รวมให้เป็นตำแหน่งใหญ่ ระดับบริหาร อำนวยการ เพียบแตาเด็กๆ คนทำงานตัวจริงไม่มี จะรอดมะนั่น จากคุณ : (ป๊อก-แปด) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:53:30

ความคิดเห็นที่ 42 ไม่รู้สิครับ ก่อนเข้าทำงานเค้าสัญญาอะไรเอาไว้บ้าง กี่ปีบรรจุ การปรับอัตราเงินเดือนเป็นยังไง ที่ผมรู้คืออาชีพพยาบาล มันหนักและเหนื่อยมาก และไม่ใช่อาชีพที่ผมจะแนะนำลูกไปเรียนถ้าเค้ายังไม่รู้จริงๆว่ามันหนักและเหนื่อยแค่ไหน ก็หวังว่าคงจะได้รับการแก้ไขในเร็ววันนะครับ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 11:38:43

ความคิดเห็นที่ 43 ทำใจซะเถอะคับ พวกผู้ใหญ่ของกระทรวงไม่ยอมทำอะไรมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วน่ะคับ และก็อย่าว่าแต่ลูกจ้างพยาบาลเลยคับ ลูกจ้างสาธารณสุขจังหวัดอย่างผมก็โดนไปด้วยนั่นแหละ ผมขี้เกียจไปสู้รบปรบมือแล้วล่ะ ผมเลยหาทางออกง่ายๆ ย้ายจากกระทรวงสาธารณสุขไปอยู่กระทรวงยุติธรรมดีกว่า จากคุณ : Sieghart เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:12:25

ความคิดเห็นที่ 44 น่าจะลาออกไปให้หมดนะครับ พวกลูกจ้างชั่วคราวที่ถูกเอารัดเอาเปรียบทั้งหลาย แล้วให้ไอ้พวกข้าราชการที่นั่งกินเงินเดือนหลวงทั้งหลาย ทำงานเอง งานเอกชนมีเยอะแยะไป ยังไงก็ดีกว่าลูกจ้างชั่วคราว ที่โดนโกงแน่นอน ผิดพลาดยังไง ฟ้องกรมแรงงาน ก็ยังได้รับการคุ้มครอง ได้สิทธิต่างๆคืนมาแน่นอน จากคุณ : kamo-s (kamo-s) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 12:29:01

ความคิดเห็นที่ 45 ^^ ^^ เห็นด้วย  อยากให้พยาบาลที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวลาออกไปทำเอกชนให้หมด เพื่อชีวิตจะดีขึ้นกว่านี้  ให้ฝ่ายนโยบายได้เห็นว่าปัญหามันมากจริงๆ อย่าทนเลยลูกเอ้ย! ทำงานหนักก็สมควรได้รับผลตอบแทนให้คุ้มค่า ถ้าพยาบาลยังอดทนทนอดอยู่อย่างนี้ ใครๆก็ไม่เห็นคุณค่า  อย่าไปสนใจเลยว่าเห็นแก่อุดมการณ์ ถ้าใครว่าก็ให้คนที่บอกว่ามีอุดมการณ์ลองมาทำงานหนักๆแบบนี้บ้าง  เคยมีหมอที่สนิทกัน เขายังพูดเลยว่าไม่รู้ว่าพวกพี่ๆน้องๆพยาบาลทนทำงานหนักๆได้ยังไง ไม่เห็นผู้บริหารเห็นคุณค่าสักเท่าไหร่  อาจจะดูบอกให้เห็นแก่ตัว  แต่ใครล่ะที่ไม่เห็นแก่ตัว จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 13:32:50

ความคิดเห็นที่ 46 ความคิดเห็นที่ 31 จะอธิบายว่าการต่อสู้มันไม่ได้โลกสวยเหมือนที่เราดูข่าวเลยค่ะ จากการเรียกร้องของเราที่ผ่านมา ทางแกนนำได้ยื่นหนังสือให้กับสื่อต่าง ๆ ช่วยกันตีแผ่ข้อมูล มีเพียงสื่อเล็ก ๆ อย่าง ไทยพีบีเอส ที่ให้ความช่วยเหลือ ส่วนสื่อใหญ่  ๆอย่างช่องสามพวกนั้นยากค่ะ แถมอาจต้องมีค่าตอบแทนให้เค้าด้วย ในการทำข่าว  มันก็เลยอดคิดไม่ได้ค่ะ ว่าชีวิตควายเค้ายังสนใจเล่นข่าว ในขณะที่ชีวิตพวกเราอีกหลายชีวิต พยายามร้องต่อสื่อยังไม่แลเลย แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 13:54:43 จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 13:39:25

ความคิดเห็นที่ 47 เข้าใจที่คุณอธิบาย และเข้าใจระบบดีค่ะ เพียงแต่ไม่อยากให้คุณเอาตัวเองไปเปรียบกับสัตว์อย่างนั้น ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกค่ะ เรื่องหมู หมา กาไก่ วัว ควาย มันเป็นข่าวที่ขายได้ มันถูกจริตของคนหมู่มาก แต่เรื่องของระบบ เป็นเรื่องที่มีลับลมคมนัย มีนอกมีใน ไม่โปร่งใส ไม่ใช่คุณคนแรกที่ออกมาเรียกร้อง เห็นมาเยอะแล้วๆก็เงียบหายไปทุกครั้ง ถ้าคุณพยายามแล้ว ไปไม่รอด ก็ถอยเถอะค่ะ ไปหาอนาคตที่สดใสกว่าดีกว่าค่ะ ในความเห็น 31 อาจรุนแรงไปจริงๆต้องขอโทษด้วย แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆค่ะ สมัยเรายังเด็กเราต้องเดินข้ามภูเขาหลายลูกเพื่อไปเรียนหนังสือ เราถึงเข้าใจเรื่องที่คุณพูด จากคุณ : น้้องพุงค่ะ (ดอกดาวเรือง) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 15:21:47

ความคิดเห็นที่ 48 เข้าใจและเห็นใจนะครับ ถ้าไม่ไหวก็ออกเถอะครับ ผมเห็นด้วย จากคุณ : อาทิตย์ (Athijaran) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 16:00:41

ความคิดเห็นที่ 49 งานพยาบาลขาดแคลนมาก น่าจะลาออกไปทำที่อื่น ถ้ามีรวมตัวประท้วงรอบหน้าผมว่านัดกันลาออกไปทำเอาชนให้หมดน่าจะดี รับรองว่ามีผลกระทบกันโรงพยาบาลแน่ๆ ผู้ใหญ่เค้าจะได้หันมาใส่ใจ ใครจะมองว่าผมเห็นแก่ตัวก็ช่าง ไม่อย่างนั้นมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป จากคุณ : น้องปออ้วน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 17:21:41

ความคิดเห็นที่ 50 กรมทุกกรม. กระทรวงทุกกระทรวง เด๋วนี้มีแต่ลูกจ้างชั่วคราวทั้งนั้น ทำเป็นชาติก็ไม่มีการบรรจุ เงินเดือนอย่าหวัง ทำจนตายก็ไม่มีวันขึ้น เรียกว่าถ้าใครเข้าไปทำแล้วอยู่นานๆ ไม่หาทางไปที่อื่น หมดอนาคตครับ กว่าจะคิดได้ก็อายุเกินไปที่อื่นเขาไม่รับ เห็นใจมากครับ สำหรับลูกจ้างชั่วคราวในหน่วยงานภาครัฐ ที่ทำงานมากกว่าข้าราชการเต็มตัว คนเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีความสามารถ เก่ง แต่ทำไมรัฐ ไม่ให้โอกาสพวก้ขาลืมตาอ้าปากบ้าง บางคนอยู่มาเป็นสิบปี ก็ยังเป็นลูกจ้างชั่วคราว เงินเดือนเท่าเดิมตลอดไม่เคยขึ้น น่าจะเปลี่ยนจากตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว เป็นลูกจ้างชั่วชีวิต ไปซะ จากคุณ : Konzaza555 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 22:15:11

ความคิดเห็นที่ 51 เรามีทั้งพี่ชายเป็นหมอ  ที่มีภรรยาเป็นพยาบาล และมีน้องสาวที่เป็นพยาบาลด้วย น่าสงสารทุกคน พี่ชายงานหนักมาก แล้วยังต้องวิ่งทำงานนอกเวลา และสอน นศพ น้องสาวบอกอยู่เวรจนเบื่อไม่รู้จะทำไง แล้วโสดก็จะโดนแลกเวรให้อยู่ช่วงเทศกาลตลอดๆ เงินไม่มากแล้วก็ไม่มีเวลาใช้ พี่ชายเงินมากแต่ก็ไม่มีเวลาใช้เช่นกัน โชคดีเราเรียนไม่เก่งก็เลยเป็นลูกจ้าง ทำไปวันๆ จากคุณ : via iPad (ท่าน้ำนนท์) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 23:00:55

ความคิดเห็นที่ 52 เราจบเทคนิคการแพทย์มา ตามความเห็นที่ 21 เลยค่ะ ไม่ได้ต่างอะไรกับวิชาชีพพยาบาลเลย ทุกวันนี้กว่าใครจะได้บรรจุ็ก็ต้องรอให้คนเก่าแก่เกษียณไปก่อน งานก็เยอะ เงินก็ไม่คุ้มกัน ปิดทองหลังพระจริงๆเลยค่ะ จากคุณ : สายลม สายฝน คนน่ารัก เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 23:33:49

ความคิดเห็นที่ 53 เราเป็นวิชาชีพหนึ่งที่ทำงานในโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน รู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่น้องร่วมวิชาชีพสอบถามเรื่องบรรจุข้าราชการ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือช่องว่างระหว่างวิชาชีพที่ไม่เท่าเทียมกัน ผู้บริหารเองซึ่งเป็นแพทย์ก็เรียกเงินสวัสดิการทุกอย่าง ตั้งแต่ของงานบ้านยันเครื่องมือเครื่องใช้กระทั่งยา อนาจใจจริง เงินใต้โตะ๊นั้นก็เอาไปใช้ส่วนตัว. iPad ,note TV รุ่นใหม่ล้วนเป็นของเล่นส่วนตัวที่ท่านเรียกหามาได้ง่ายดายจากผู้แทน รถหลวงก็ไดใช้ น้ำมันก็เงินบำรุง งานตรวจรักษาก็ไม่ต้องทำ เงินก็ได้มาก โดนร้องเรียนมาก็มาก แต่ก็รอดตัวมาได้ตลอดเพราะเข้าหาผู้ใหญ่ นี่ไงระบบราชการไทย ปกป้องพวกพ้องตัวเอง อยากบอกว่าไม่ได้ติดชายแดนเล้ย ปริมณมลแท้ๆติดกทม เลย. ยังทำไปได้ ลูกน้องคนไหนจะกล้าร้องเรียน หาชื่อคนร้องให้เจอ เล่นงานคืนอีกตะหาก ที่เรากล่าวถึงเราเชื่อว่าเป็นเรื่องกมลส่วนตัวของบุคคลล้วนๆ ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพอื่นๆแต่อย่างใด คนดีก็มีมาก แต่คนไม่ดีเพียงคนเดียว องค์กรก็ล้มไม่เป็นท่าไดเหมือนกัน. จากคุณ : Barbie เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 00:16:14 A:125.24.46.112 X: TicketID:373627

ความคิดเห็นที่ 54 วิชาชีพเราก็แทบไม่มีเปิดบรรจุข้าราชการค่ะ มีก็ลูกจ้างชั่วคราวเป็นหลัก บทบาทไรก็แทบไม่มี ไปโรงพยาบาลนั่งอ่านบอร์ดนโยบายมีพูดถึงวิชาชีพต่างๆมากมายทั้งนักกิจกรรมบำบัด นักกายภาพ เภสัช พยาบาล หมอ ......... แต่ไม่มีวิชาชีพเรา แอบเศร้าค่ะ หันไปเปิดศูนย์กับเพื่อนๆ ไม่เข้าระบบน่าจะรุ่งกว่า จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 00:44:06

ความคิดเห็นที่ 55 จขกท ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนค่ะ ดูจากการเขียน ความรู้สึกนึกคิด จขกท ก็เป็นคนกล้าอยู่น้า เราเคยเห็นพยาบาลหลายคนออกจากราชการไปเป็น aupair (พี่เลี้ยงเด็กที่อเมริกาค่ะ) ปีสองปี เพื่อหาช่องทางเป็นพยาบาลที่นั่นค่ะ กล้าหรือเปล่าล่ะคะ ถ้าแบบอยากมาเป็นอาขีพพยาบาลเลย อันนี้ภาษาเราต้องพร้อมแล้ว รับกับสภาพแวดล้อมได้ ที่เขามาเป็น aupair เหมือนมาดูลู่ทาง ฝึกภาษา สิ่งแวดล้อม อากาศ เสร็จตัดสินใจ ไม่งั้นอีกทางก็ฝึกภาษาดีๆ หน่อย อดทนฝึกสักปีสองปี มันต้องพัฒนากันบ้างแหละ เสร็จแล้วก็สมัครไปเลย ตำแหน่งนี้มีทั่วโลกค่ะ ได้ประสบการณ์ในชีวิตด้วย พยาบาลในต่างประเทศมีสวัสดิการทุกอย่างทำงานเป็นรายชั่วโมง อาทิตย์นึงเต็มเวลาไม่เกิน 40 ชมค่ะ ถ้าเป็นชิพแบบ 12ชั่วโมง ก็ทำงานแค่ 3 วันต่ออาทิตย์ อย่าไปยึดติดว่าต้องเป็นข้าราชการค่ะ ทำงานมา 4 ปี เย็บแผลได้ เก่งสุดยอดแล้ว พยาบาลเมืองนอกทำไม่ได้ ประสบการณ์เหลือเฟือที่จะไปทำงานต่างประเทศค่ะ  อ้อ อีกอย่างอย่าท้อค่ะ เพราะเมืองนอกสมัครงานเขาไม่ดูอายุ ถ้าพร้อมสัก 40 ก็ไม่สายนะ  แต่ก็นั่นแหละเมืองนอกไม่มีระบบขั้นซีโน้นซีนี้ แล้วถ้าเห็นอายุเยอะประสบการณ์อาจไม่เยอะ เห็นหน้าเด็กๆ อาจทำงานมาหลาย เงินเดือนขึ้นนับตามประสบการณ์ว่ากี่ปีแล้ว ตัดสินใจไม่ผิดหรอกค่ะสำหรับ จขกท หรือท่านใดๆ ที่เรียนเป็นพยาบาลค่ะ ความเก่งอาจจะไม่เท่าหมอเลยมาเป็นพยาบาล อาชีพนี้มีประโยชน์มากนะคะ ดูแลได้ตัวเราเองและคนในครอบครัว เห็นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ชีวิตจะได้ปลงๆ ด้วยค่ะ ไม่ตามกิเลส เวลาทุกข์ก็ไม่ต้องทุกข์มาก เวลาสุขก็มีสติกับมัน เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เป็นอาชีพนี้ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 02:33:03 จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 02:27:39

ความคิดเห็นที่ 56 กระทรวงนี้หมอเป็นใหญ่ เอะอะอะไรก็ให้หมอไว้ก่อน วิชาชีพอื่นเขาไม่สนหรอก เพราะคนใหญ่คนโตในกระทรวงหมอทั้งนั้น มีแม้กระทั้ง ตัดตำแหน่งข้าราชการผู้น้อย 2-3 ตำแหน่ง เพื่อไปเพิ่มตำแหน่งใหญ่ๆให้หมอ 1 ตำแหน่ง จากคุณ : ไถนาอุตลุด เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 02:35:31

ความคิดเห็นที่ 57 เห็นดวยเห็นด้วย กับคห.56 เราเข้าใจว่าเป็นวิชาชีพที่ขาดแคลน need มาก แต่ในเวลาปฏิบิบัติไม่เหมือนกันเลย บอกว่าทุกวิชาชีพสำคัญเท่ากันดูแลคนไข้เหมือนๆกัน จะไปเท่ากันได้ยังไงในเมื่อพยาบาลจบใหม่ อยู่มา5ปี บางวิชาชีพเป็นสิบปี ยังไม่ได้บรรจุ แต่แพทย์มาจากเอกชน อยากกลับเข้าบรรจุรับราชการ ไม่กี่วัน ยุบรวมให้ได้แล้ว จากคุณ : Barbie เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 05:56:44 A:125.24.35.105 X: TicketID:373627

ความคิดเห็นที่ 58 เราก็ขอให้กำลังใจ จขกท เพราะเราเองก็อยู่จนท้อเหมือนกัน กับระบบราชการ แต่ก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป เพราะปัจจัยและเงื่อนไขในชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน บางท่านที่มีทางเดินชีวิตอื่นที่ดีและเหมาะสมกับตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ถ้าทำแล้วเครียด คุณภาพชีวิตก็แย่เช่นกัน จากคุณ : Barbie เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 06:03:56 A:125.24.35.105 X: TicketID:373627

ความคิดเห็นที่ 59 พยาบาลและหมองานหนักจริง ส่วนหนึ่ง ผมว่าเพราะบุคลากรมีน้อย สังเกตเอาจากที่เคยพาคุณพ่อคุณแม่ไปใช้บริการ ไปแต่ตี 4 จับบัตรคิว ได้พบหมอ ตอน 11 โมง ไม่ได้โทษหมอหรือพยาบาลว่าช้า เพราะรู้ว่าคนใช้บริการเยอะเหลือกิน ว่าแต่เรื่องเงินเดือนเพื่อนคุณยังดีนะทำงานไม่กี่ปีได้ 17000 แล้ว ผมเองทำงานจะพอหกปีแล้ว รวมเบ็ดเสร็จยังหมื่นสี่อยู่เลย พยาบาลทำงานล่วงเวลาได้ ค่าล่วงเวลา แต่ข้าราชการแบบผม ทำล่วงเวลา ไม่ได้ค่าตอบแทนนะเออ นี่ได้ยินว่า หัวหน้าจะให้มาทำงานช่วงปิดเทอม ไม่ให้หยุด  อ่อ อีกอย่างค่ารักษาพยาบาล แม้ว่าจะเบิกได้ แต่ต้องสำรองจ่ายก่อนนะครับ กว่าจะเบิกได้ รอไปอีกสองเดือนครึ่ง วิชาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่มีเกียรติและน่าชื่นชม จขกท อดทนทำงานไปไม่นานครับ จะพบความเจริญก้วหน้าในชีวิตแน่นอน จากคุณ : Classic Joomla เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 06:38:19

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ จขกท.ยังดีนะคะ 4 ปีที่แล้ว ลูกจ้างชั่วคราวจ้าง 12,500 บ. ของเรานักกายภาพบำบัดค่ะ เพิ่งจบ ค่าตอบแทน 10,530 บ. พตส.1000+เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย 1200 บาง รพ.ก็ไม่มี OT ก็อยู่กันไปอย่างนั้นแหละ เฮอะๆ เราเพิ่งไปสอบพนักงานราชการมาเมื่อวาน เปิดรับ 4 ตำแหน่งค่ะ มีข่าววงในบอกมาว่า มีคนของเขาอยู่แล้วทั้งนั้น และไอ้คนของเขาอยู่แล้วนี่ก็ไม่ได้ตำแน่งฟรีๆ นะคะ คุณอยากได้ต้องจ่ายหลักแสน เป็นอย่างนี้ทุกที่ค่ะ จากคุณ : ซาลาเปาขาวอวบ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 11:21:08

ความคิดเห็นที่ 61 ใจเย็นๆครับ ทุกอย่างมีทางออกเสมอ จากคุณ : Soboi เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 12:25:15

ความคิดเห็นที่ 62 มาขอบคุณแทนคนไข้   และขอให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ สิ่งที่คุณทำทุกคนซาบซึ้งค่ะ จากคุณ : น้องหญิงอนัตตา เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:26:36

ความคิดเห็นที่ 63 เราชะตากรรมเดียวกันค่ะคุณ ซาลาเปาขาวอวบ   ถึงได้เท้านั้น 12500 แต่บัดนี้ยังไม่กระเต์้องเลยค่ะ เฮอะ ๆ และตอนนี้แย่หนักคือทำงานแล้วไม่ได้เงิน รพ ไม่มีตังจ่ายค่าโอที ค้างโอทีเราอีก เศร้า จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:36:56

ความคิดเห็นที่ 64 ความคิดเห็นที่ 53  รพ.ก้อสถานะภาพ คล้าย ๆ กันค่ะ ใต้โต๊ะ โกงกิน หาทางทุกอย่างเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่ผู้บริหาร รพ.อื่น ๆ ที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ดี ๆ ก้อมีนะค่ะ ไม่ได้เหมารวม เพียงแต่ของเราแย่มาก จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:44:03

ความคิดเห็นที่ 65 ตอนนี้เรานอนคิดทุกคืนเลยว่าจะเอาไงดี ทิ้งบ้านเกิด พ่อแม่ แล้วเดินทางไปหาความก้าวหน้าในอาชีพ หรือ ยอมที่จะจมปลัก ไม่ก้าวหน้า เงินเดือนไม่ขึ้น แต่แลกกับการได้อยู่กับครอบครัว พอคิด ๆ คิด ๆ มันก็ทำให้งานที่เราทำออกมาไม่ดี เหมือนทำไปวัน ๆ เราไม่ชอบใจตัวเองเลย สุดท้ายก็คิดไม่ตก จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 15:47:33

ความคิดเห็นที่ 66 Demand&Supply ล่ะครับ อะไรๆ ก็แย่ คนยังแย่งกันสอบเข้า? จากคุณ : via iPhone (เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:11:38

ความคิดเห็นที่ 67 จขกท. คุณไม่ใช่ทาสในเรือนเบี้ย ถ้ามีทางที่ดีต่อตัวเองก็เลือกทางนั้นเถอะ อย่าทรมานตัวเองเพื่อคนอื่นเลย จากคุณ : Misty เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 16:27:46 A:49.48.110.17 X: TicketID:363072

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นใจ จขกท.นะครับ เพื่อนผมก็จบพยาบาลมาหลายคน ทั้งจบจากมหาวิทยาลัย ทั้งจบจากวิทยาลัยพยาบาล ไม่แน่ใจว่าได้บรรจุกันหรือไม่ (จบปี 49) พยาบาลเป็นงานที่หนักนะครับ ผมเคยเข้าไปที่ห้องฉุกเฉิน โอ้ย เห็นเเล้วเหนื่อยแทนเลย ทั้งฉีดยา ทั้งทำแผล ทั้งปั๊มหัวใจ ไหนจะเลือด ไหนจะของเหลวของเสียทั้งหลายแหล่ คือถ้าใจไม่รักจริงนี่ทำไม่ได้เลยนะนั่น ที่นี่มาพูดถึงการบรรจุ เอาตามที่เห็นนะครับ แต่ถูกผิดแค่ไหน ไม่แน่ใจ พยาบาลช่วงหลังมาไม่ได้บรรจุทันทีหลังจากเรียนจบ น่าจะช่วงสิบปีนี้ได้มั้งที่ได้ข่าวนี้มาเพราะน้าผมเขาบรรจุตั้งเเต่เรียนจบเลยเมื่อยี่สิบกว่าปีที่เเล้ว บรรจุอายุยังน้อย 20 21 ก็บรรจุเเล้ว แต่ช่วงหลังซักประมาณปี 46 ได้มั้งที่ได้ข่าว เหมือนเขาจะไม่บรรจุ เหตุผลอะไรยังงัย ผมก็ไม่ทราบได้ แต่รุ่นพี่ผมเขาบรรจุให้นะครับ(เรียนจบประมาณปี 2547) แล้วทำไม ตำแหน่ง จพง.สาธารณสุขชุมชน นวก.สาธารณสุข ถึงบรรจุกันได้มากจัง เพื่อนผมก็เพิ่งได้บรรจุเป็น นวก.สาธารณสุข ระดับปฏิบัติการ เมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง หลังจากจบมา 4 ปี แต่พยาบาลวิชาชีพไม่ได้บรรจุ??? ที่ว่าเภสัช ไม่ได้บรรจุ ผมก็ไม่แน่ใจนะครับเพราะเห็นน้องที่รู้จักเพิ่งจบปีนี้ก็ได้บรรจุลงโรงพยาบาลประจำจังหวัดเลยทันที ยังงัยก็เอาใจช่วยน จขกท.นะครับ สู้ๆ ป.ล.น้าผมนะ เป็นพยาบาลประจำห้องคลอด ทำงาน เข้าเวรเยอะมาก เก็บเงินอย่างเดียว ตอนนี้เงินเดือนตันของระดับชำนาญการเเล้ว อายุยังไม่ถึง 50 มีบ้านหลังหลายล้าน มีรถคันเป็นล้านๆ แต่....................เป็นมะเร็งเต้านมทั้งสองข้างเลย ...........จบข่าว........ จากคุณ : คนชุมพรนอนกรุงเทพ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 19:11:08

ความคิดเห็นที่ 69 เป็นลูกจ้างชั่วคราว กระทรวงสาธารณสุข มันเจ็บปวดอย่างนี้แหละค่ะ เงินเดือนขึ้น 2 ปีขึ้น 1 ครั้งๆละ 180 บาท ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าโอที ไม่เคยได้ เพราะ รพ.ไม่มีเงิน 15,000 ก็ไม่ได้เพราะไม่มีเงิน แต่ไปดูงานตจว. ไปเที่ยว ตปท. มีแฮะ ทุกเดือนจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัด มาประชุมประจำเดือนด้วย เรื่องการบริหารของ ผอ. ทำได้ไม่มากเท่าผู้หลักผู้ใหญ่คนนั้นหรอกค่ะ เข้าใจ จขกท ดี เป็นกำลังใจให้นะคะ *เพิ่มเติม แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 55 19:28:42 จากคุณ : เตะหมา ด่าแมว เป่ากบ ตบชะนี เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 19:25:43

ความคิดเห็นที่ 70 "งานหนักไม่เคยฆ่าคน" อยากบอกว่ามันทั้งเหนื่อยกายเหนื่อยใจจริงๆ ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมวิชาชีพทุกๆคนนะคะ จากคุณ : veracha เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 20:29:41

ความคิดเห็นที่ 71 ดิฉัน งง  ใครก็ได้อธิบายทีว่า คุณจขกท.จบพยาบาล แต่ไม่ได้บรรจุเหรอค่ะ พยาบาล กับ พยาบาลวิชาชีพ นี่คือ มีคำว่าวิชาชีพคือราชการเหรอค่ะ ไม่มีคำว่าวิชาชีพคือ พนักงานของโรงพยาบาลเหรอค่ะ ไม่เข้าใจจริงๆ เพราะว่าไม่ได้อยู่ในสายงานนี้ รอคนมาตอบก่อน ดิฉันถึงจะย้อนขึ้นไปอ่านอีกรอบ ตอนนี้งง นึกว่าเรียนจบพยาบาลจากมหาลัยรัฐบาลที่มีเปิดสอนทุกแห่งแล้ว จะได้บรรจุเป็นข้าราชการสะอีก จากคุณ : tukta_von เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:12:06

ความคิดเห็นที่ 72 รพช. หลายแห่งรัดเข็มขัดเหลือเกิน ประหยัดโน่นนี่นั่น บุคลากรระดับปฏิบัติงานทำงานอย่างหนัก. โอทีไม่ให้ขึ้น แต่คุณภาพอยากได้นัก. HA. ขั้น2ขั้น3 กลัวแต่ไม่ผ่านการประเมิน มันไม่ผ่านตั้งแต่การบริหารงานแล้ว. สร้างภาพทุกๆครั้งที่มีการประเมิน คิดหรือว่าคนไข้ได้รับการบริการที่ได้มาตรฐานจริง ที่เป็นข่าวร้องเรียนก็มาก ไม่เป็นข่าวก็มีเยอะ ช่วยกันปกปิด รู้ปัญหาแต่ไม่แก้ไขตามหลักการทางวิชาการและการบริหารงานที่จริงจัง จากคุณ : Barbie เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:37:37 A:101.108.67.243 X: TicketID:373627

ความคิดเห็นที่ 73 พี่สาวแฟนเป็นพยาบาลห้องผ่าตัดค่ะ(ไม่ได้บรรจุ) เงินดีจริง แต่ไม่ค่อยได้ เพราะรอตกเบิกนานมาก หลายเดือน พี่สาวแฟนอยู่เวรหนัก คนอื่นหยุดแต่แกไม่หยุด หลังๆแกเบื่อเลยลาออกไปเป็นอาจารย์แทน เห็นใจคนทำอาชีพนี้จริงๆค่ะ จากคุณ : constantoon เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:46:33

ความคิดเห็นที่ 74 วิชาชีพกายภาพบำบัดก็เช่นกัน มีความเสี่ยงสูง ค่าตอบแทนต่ำ เรามีเพื่อนที่ได้รับการผ่าตัดรักษากระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เมื่อตอนอายุได้ 35 ปีเองแน่นอนเป็นผลสืบเนื่องจากลักษณะงานที่เพื่อนทำนั่นเอง ความหวังในการที่จะได้บรรจุน้อยมาก อาจจะน้อยกว่าพยาบาลซะอีก เรียนด้วยทุนตัวเองอีกตะหาก เราคิดว่ามีจำนวนไม่น้อยที่ลงทุนลงแรงร่ำเรียนในสายงานเหล่านี้ จะมาคิดถอนทุนคืน หรือหวังความร่ำรวยจากคนเจ็บป่วย พิการหรอก อย่างน้อยก็ต้องเป็นเรื่องรากฐานด้านความรู้สึกนึกคิดที่มีเมตตา อยากทำงานเพื่อช่วยเหลือคนอื่นจริงๆ คนส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบในวิชาชีพเหล่านี้ก็มักผันตัวเองออกตั้งแต่ตอนเรียนบ้างแล้วล่ะ จากคุณ : Barbie เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 21:52:34 A:101.108.67.243 X: TicketID:373627

ความคิดเห็นที่ 75 คห 71 พยาบาลเดี๋ยวนี้จบมาแล้วไม่ได้บรรจุค่ะ ต้องรอสอบ รอตำแหน่ง และรออะไรอีกหลายๆอย่าง .. ส่วนคำว่าพยาบาลวิชาชีพ คือเรียนจบปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตรบัณฑิต(หลักสูตร 4 ปี) และสอบใบประกอบวิชาชีพ(ของสภากาลพยาบาล)ผ่าน จะเรียกว่าพยาบาลวิชาชีพทุกคนค่ะ พยาบาลที่ไม่ได้เป็นข้าราชการก็เป็นพยาบาลวิชาชีพค่ะ จากคุณ : PeNQuiNSoCute เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 55 23:13:33

ความคิดเห็นที่ 76 อยากบอกเจ้าของกระทู้ว่า   การออกมาทำงานเอกชนไม่ได้แปลว่าเราเป็นคนดีน้อยลงนะคะ  คนไข้โรงพยาบาลเอกชนหลายๆแห่งก็รับคนไข้บัตรทองนี่แหละภาระงานก็มหาศาลเหมือนกัน หรือคนไข้ประกันสังคมก็ดี หรือแม้แต่คนไข้เงินสดก็ดี ก็ยังถือว่าคุณได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่เพื่อนมนุษย์ ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่ค่ะ เพียงแต่คุณได้enjoyชีวิตของคุณมากขึ้นและได้ค่าตอบแทนที่ดีขึ้นด้วย ลองชั่งน้ำหนักดูดีๆนะคะ อันนี้พูดในฐานะที่เคยเป็นลูกจ้างเหมือนคุณ จนบรรจุเป็นข้าราชการซึ่งตอนบรรจุก็ไม่ได้แคร์อะไรเท่าไหร่ จนกระทั่งลาออกมาอยู่เอกชนแล้ว งานก็ไม่เห็นว่าจะน้อยลงเลยค่ะ เพียงแต่มีเงินเหลือเก็บมากขึ้นเท่านั้นเอง จากคุณ : CutieVicki เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 09:14:36

ความคิดเห็นที่ 77 แหมๆ คุณ nurseนะครับ พูดเหมือนไม่ได้ลืมตาดู ระบบของมันเลยว่ามันเป็นเช่นไร พวกนี้เค้าเรียกร้องอยู่ ตลอด แต่ก็นั่นแหละ ได้แต่เรียกร้อง พูดแล้วมันก็สาวไปยาวโน่นเลยเรื่องการบรรจุต่างๆ ยังไง จขกท ถ้าอยู่แล้วลำบากใจก็ไปเถอะครับ หาที่ใหม่อนาคตใหม่เราก็มีเพื่อนเป็นแบบ จขกท นี่แหละ ตอนนี้หาที่ใหม่ไปและ จากคุณ : กบกระโดดไม่ไกล เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 10:40:21

ความคิดเห็นที่ 78 นายพยาบาลขอเป็นกำลังใจครับ จากวิทยาลัยพยาบาลบรมราช................แรกๆทำงานก็ลูกจ้างชั่วคราว ทำงานในตจว. ก่อนย้ายเข้าทำงานในเมือง  เมื่อภาระต่างๆลดลงก็ลาออกครับ ทำงานอิสระ ทำงานรพ.เอกชน ขอให้สู้ๆครับมองในเชิงบวก ไม่ใช่แค่พยาบาลครับสหวิชาชีพอื่นๆก็ไม่ต่างจากเรา แต่เรางานโดนอัดทุกประตู หน้าหลังบนล่าง แพทย์ ญาติ คนไข้ สหวิชาชีพด้วยกัน และถูกอัดทะลุมิติจาก นโยบายต่างๆทั้งจากเจ้านาย รัฐบาล ขอบ่นนอกเรื่อง ชีวิตการทำงานเครียดพอทำงานนานๆผมและสามีพยาบาลทั้งคู่เลยไม่มีเวลาจะสวีทหวานแหววด้วยกันเลยทั้งที่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว   ไม่มีความสุขเหมือนตอนเรียนเลยแม้จะอยู่คนละที่ เพราะโดนที่บ้านแต่ละฝ่ายกีดกันความรัก แต่ก็ชื่นหัวใจนะเนื่องจากมีความหวังว่า หลังเรียนจบเราจะ หนีตามกัน5555  คลายเครียดครับพี่น้อง แต่ผม 2 คนก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ จากคุณ : ชิงเยี่ยม (ชิงเยี่ยม) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 11:24:18

ความคิดเห็นที่ 79 ใครไม่รู้จักวงการพยาบาลคงไม่เข้าใจ ตอนนี้ เค้าไม่บรรจุพยาบาลแล้ว พอจะบรรจุที ใครเส้นใหญ่ก็ได้ไปแซงรุ่นพี่ก็มี เพื่อนเราหลายคนเป็นพยาบาล มีทั้งทนเป็นลูกจ้างโรงบาลรัฐ เพราะหวังจะได้บรรจุและได้อยู่กับที่บ้าน แต่ก็มีอีกหลายคนที่ทนไม่ไหว ไร้อนาคต ไม่ทนเงินเดือนน้อยๆ งานหนักๆ ไปเอกชน ไปชลบุรีเยอะมาก และความจริงคือ อาชีพพยาบาลยังขาดแคลนอยู่ ยังหาคนขึ้นเวรไม่เคยเพียงพอ ไม่ใช่อาชีพพอแล้ว ล้นแล้วเลย สรุป พยาบาลยังขาดแคลน แต่ขาดการดูแล ไม่บรรจุให้แล้ว ใครๆ ก็ไม่อยากจากบ้านไปทำงานเอกชนไกลๆหรอก จากคุณ : เขียนบน 3310 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 12:23:54 A:110.168.125.144 X: TicketID:339615

ความคิดเห็นที่ 80 อืม เอาใจช่วยคุณพี่เจ้าของกระทู้นะคะ.... .....เข้าใจความรู้สึกของพี่ดีคะ.......... ...เพราะหนู ก็เป็นพยาบาล..... ....และก็เคยทำงานโรงพยาบาลรัฐบาล ..... ....ก็รู้ว่ามันเป็นยังไง หนูตอนนี้จบมาได้2ปีกว่าแร้ว.. ....ไม่ทำงาน รพ. รัฐแล้วคะ เพราะมองอย่างที่พี่มองนั่นแหละ ....ปีแรกที่ทำงาน ก็เหนื่อยนะ แต่ก็มีความสุขเพราะเราไฟแรงไง ....แต่ก็อยากต่อโท....อยากก้าวหน้า ....ถามหัวหน้าพยาบาลว่า ถ้าจะไปเรียนต่อได้หรือไม่ ....คำตอบ ต้องหาเวลาเรียนเอง อ้าว แล้วจะเอาเวลาที่ไหนอะเนี่ย ไม่มีเวลาแม้กระทั่งนอน เหอๆๆๆ .....แล้วถ้าไม่มีเวลาละ ทำไง....ก็ต้องรอบรรจุอย่างน้อย 1 ปี ถึงลาศึกษาต่อได้ ....โห แล้วปีไหนอะเนี่ย สงสัยแก่ต่ยคา โรงพยาบาลแน่ๆ ......ไม่คิดไรแล้ว ลาออกมาเลย...เหอๆ ....ตอนนี้หา ปสก. อยู่ตาม รพ.เอกชน ก็หนุกดีนะคะพี่ คนไข้ก็ดี.....เพื่อนร่วมงานก็ดี .....และหา ปสก. ขึ้นเวรเป็นพยาบาลอาชีวอนามัย... มีคนไข้ให้ตรวจและแนะนำเค้าตลอด.....ค่าเวรก็ไม่แพงมาก แต่เราทำงานแบบ สบายๆ และมีเวลาให้กับครอบครัว ....พยาบาล อยู่ที่ไหนเราก็เป็นพยาบาลคะ ........ขอให้พี่หาทางออกให้ตัวเองได้นะคะ.... ..........เพราะถ้าพี่ออกมาสู่ภายนอกแล้ว จะรู้ได้เลยว่า เราไปทำอะไรอยู่ที่เดิมตั้งนาน ข้างนอกหน้าอยู่กว่าเยอะคะ จากคุณ : ฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:37:48 A:125.25.77.121 X: TicketID:360828

ความคิดเห็นที่ 81 คิดเหมือนคุณ  ฟ้าสีคราม เลยแต่ตัดใจจากพ่อแม่ไม่ได้ซะที จริง ๆ เราไม่ได้หวังเงินทองมาก เท่าที่มีขอแค่ให้ขึ้นอย่างมีระบบแบบแผน แต่นี่ไม่มีเลย   อีกอย่างมันจี๊ดตรงที่ ไม่ว่านโยบายรัฐบาลจะเป็นไง เงินเดือนหมื่นห้าหรืออะไร เราทำงานให้่รัฐแท้ ๆ ยังไม่ได้รับผลจากนโยบายนั้นเลย ถ้าประกาศนโยบายงี้ ใครก็ประกาศได้หรอก พูดแต่ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ดูแล ว่าฝนจะตกทั่วฟ้ามั้ย จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:54:28

ความคิดเห็นที่ 82 น่าเบื่ออย่างงี้แหละ ขนาดเราข้าราชการไม่ใช่พยาบาลเรายังเบื่อเลย คืออยากให้มีตำแหน่งข้าราชการเพิ่มบ้างน่ะนะ เพราะว่าลูกจ้างชั่วคราวอัตราลาออกมันสูง ลูกจ้างประจำตอนนี้ก็รู้สึกจะไม่มีแล้วมั้ง เราเป็นข้าราชการก็ทำงานกับน้องๆ ลูกจ้าง แป๊บๆ เดียวพอสอบบรรจุได้ก็ไปซะแล้ว อยากให้มีตำแหน่งข้าราชการเพิ่มขึ้นสักนิดก็ยังดีจะได้อยู่ทำงานกันไปนานๆ คือคนคิดนโยบายตอนนั้นก็คิดว่าจะลดจำนวนข้าราชการ แต่ทีนี้พอลดไปมันดันไม่ลดไอ้ตรงที่คนเกินงาน ไอ้ส่วนที่คนอยู่น้อยอยู่แล้วยังไปลดเค้า เลยกลายเป็นขาดคนกันไปหมด ดูอย่างข่าว ตม.สุวรรณภูมิสิ ลดซะจนไม่มีคนมาทำงาน จนคิวยาวอายเค้าไปทั่วนะนั่น หรือว่าถ้าอยากจะลดจริงๆ ก็ออกมานอกระบบเลยมั้ย เอาแบบ รพ. บ้านแพ้วเลย รพ.ไหนเลี้ยงตัวเองได้ออกมาเลย เพื่อให้องค์การมันเติบโต จากคุณ : แมวบนหลังคา เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 13:59:22

ความคิดเห็นที่ 83 ถึง...........  น้องเจ้าของกระทู้ พี่เป็นพยาบาลวิชาชีพค่ะ รับราชการมา 13ปี ตอนนี้ลาออกมาได้ 2ปีแล้ว......นี่เป็นล้อคอินสามีพี่......จิ้มหลังไมด์มาคุยกับพี่ ..ค่ะ จะบอกว่าพยาบาลไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่กับโรงพยาบาล....หรืองานราชการนะค่ะ มีหลายวิธีและหลายทางที่ไม่หนักและเหนื่อย แถมยังได้ช่วยผู้คน...โดยเฉพาะคนแรกที่ต้องช่วยคือ ตัวน้องและครอบครัวค่ะ จากคุณ : ปาป้าน้องพริสตี้ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:14:01

ความคิดเห็นที่ 84 ขอแนะนำว่า คุณ จขกท ลาออกไปทำที่เอกชนเถอะค่ะ เพราะอยู่ไปก็ไม่รู้จะได้บรรจุเมื่อไร หรือมันอาจจะไม่มีโอกาสบรรจุเลยด้วยซ้ำ เห็นด้วยกับคห. อื่นที่ว่า การลาออกไม่ใช่สิ่งที่ผิด ตอนเราจบใหม่ๆ ก็ไม่ได้บรรจุเหมือนกัน เงินเดือนเราอยู่ที่ 6,820 บาท ได้ค่าเวรเดือนละประมาณ 2 พันกว่าบาท จำได้ว่าหนักมาก ควงเวรจนไม่ได้พัก เวรบ่าย RN ขึ้น 2 คน เวรดึก RN 1 คนไข้มี 20 เตียง เดินจนขาขวิด และ Head ward ชี้แจงเพียงว่า คนไข้ End stage ไม่ต้องดูแลอะไรมาก.. แต่ Head ไม่เคยใส่ใจเลยว่า ตอนคนไข้ป๊อกพร้อมๆ กัน 2 เตียง มันวุ่นวายแค่ไหน... ตอนนั้นเซ็งชีวิตมากๆ เลยลาออกไปอยู่ รพ.เอกชน เอกชน เมื่อหลายปีก่อน (ปัจจุบันไม่รู้-เราออกจากวิชาชีพแล้ว) start ให้ 12,000-14,000 แล้วแต่ รพ. มีสวัสดิการ มีโบนัส คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากมาย งานหนักเหมือนๆ กัน แต่เงินมากกว่ากัน ซึ่งมันก็มีผลทำให้มีกำลังใจทำงานมากขึ้น เบ็ดเสร็จรวมค่าเวร OT  ก็อยู่ที่ ประมาณ 18,000 บาท ปัจจุบันนี้เราลาออกจากพยาบาลมา 5-6 ปีแล้ว เห็นใจเพื่อนพี่น้องร่วมวิชาชีพที่มีปัญหานี้มากๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ทางกระทรวงสาธาฯ ไม่สามารถช่วยเหลือได้ .. และพวกเราคงต้องรอคอยโชคชะตาเพียงอย่างเดียว เราก็บอกจขกท ได้แต่เพียงว่า..อนาคตของเรา .. เรากำหนดเองได้ ไม่ต้องรอโชคชะตา.. บางที การเปิดประตูออกมาเจอโลกใหม่ๆ เราอาจจะพบสิ่งที่สดใส ที่ไม่คาดคิดก็ได้.. มองโลกในแง่ดีไว้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 55 20:30:48 จากคุณ : fon_k เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 16:43:39

ความคิดเห็นที่ 85 .....หนูอยากบอกพี่ว่า.....แม่หนูมาตามให้กลับไปทำงานที่เดิมอยู่หนูยังไม่ไปเลย ย้ายที่ทำงานตลอดหนีพ่อ/แม่ เพื่อพิสูจน์ว่าหนูสามารถทำได้ เดินได้ด้วยตนเอง ....แม่อยากให้ทำงานใกล้บ้าน แต่หนูมองไม่เห็นความก้าวหน้าของตนเอง .....ไม่ใช่ไม่รักท่าน แต่หนูจะเข้มแข็งได้อย่างไร ในเมื่อตลอดชีวิตไม่เคยมีความคิดเป็นของตัวเอง และยืนด้วยขาของตนเองเลย หนูคิดอย่างนี้ เลยตัดใตเดินออกมาจากที่ทำงานเก่า...... ......ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปต่อโทตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกก็ตาม แต่ไม่มีวันไหนเลยที่ขี้เกียจไปทำงาน ขี้เกียจขึ้นเวร....มีความสุขมากกว่าแต่ก่อนเยอะคะ .....งานพยาบาลที่เอกชนที่เป็นเอกชนจริงๆ แตกต่างจากรัฐบาลที่ทำตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบมาก......ไม่ต้องเอาไรมาก(ตอนอยู่รัฐบาล) ตอนอยู่ ER. พยาบาลไปช่วยกันทำคลอดคนไข้ 3 เคสพร้อมกัน เราอยู่ห้อง ER คนเดียว ผวาตลอด วันไหนจะเจอแจ๊คพอตแตกก็ไม่รู้ ยิ่งช่วงเย็น อุบัติเหตุหมู่มาตลอด คิดเลยว่า เรียนมา4 ปี กว่าจะสอบใบประกอบได้ เหนื่อบแทบตาย เอาชีวิตมาแขวนบนเส้นด้ายอีก.......... ........เราเป็นพยาบาล รักคนไข้ได้คะ แต่ก็ต้องรักตัวเองด้วย เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเอง แม้มันอาจไม่สวยหรูในสายตาคนอื่น ช่างมันสิ ขอให้เราทำมันได้ดีและมีความสุข สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ ไม่ใช่เป็นพยาบาลบอกคนอื่นได้ว่าเป็นผู้นำสุขภาพ แต่ตัวเองขึ้นเวรควงไปควงมาตลอด ไม่มีเวลาพัก ไม่มีเวลากิน แล้วมันจะไปแนะนำคนอื่นเค้าได้อย่างไร .....เฮ้อ...เศร้าใจคะ... จากคุณ : ฟ้าสีคราม เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 19:24:15 A:125.25.78.198 X: TicketID:360828

ความคิดเห็นที่ 86 ไม่ทราบว่า อาชีพพยาบาลจะดี หรือ ไม่ดี        แต่        ผม ขอกราบขอบพระคุณ ใน อาชีพพยาบาลทุกท่าน จากคุณ : weyoy000 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 20:45:26

ความคิดเห็นที่ 87 ที่นี่ประเทศไทย จากคุณ : ระวีรุ่งสว่าง เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 55 21:52:37

ความคิดเห็นที่ 88 http://www.youtube.com/watch?v=NSTGGGMX6P4&feature=youtube_gdata_player จากคุณ : รวมเงิน (รวมเงิน) เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 00:06:10

ความคิดเห็นที่ 89 ผมรับราชการอยู่กระทรวงสาธารณสุขเช่นกันครับ ยื่นใบลาออกเรียบร้อยแล้ว โดยขอลาออกสิ้นเดือนธันวาคม 2555 ตอนนี้ก็อยู่เคลียร์งานค้างต่างๆ ให้เสร็จก่อนไปครับ ปีใหม่เริ่มต้นชีวิตใหม่ พอดีว่าผมไม่สามารถกินอากาศแทนข้าวได้.. ทำงานหนักโคตรๆแต่ได้แค่หมื่นห้า สมควรแล้วล่ะที่สมองไหลกันระนาว ทางเดินที่เลือกใหม่ได้เฉลี่ยเดือนละเกือบแสน คุณภาพชีวิตต่างกันราวฟ้ากับดิน ลาก่อนชีวิตกากๆ อยากได้คนเก่งแต่ดันให้ค่าตอบแทนเท่าเศษธุลี..ประเทศไทย จากคุณ : รักแมวเหมียวมาก เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 01:46:16

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่ได้เป็นพยาบาลแต่เข้ามาให้กำลังใจคุณพยาบาลทุกท่าน ขอให้หาทางออกที่ดีได้ในเร็ววันเลยนะคะ(ไม่รู้ว่าจะแนะยังไงเหมือนกัน  ลองดูคห บนๆค่ะ) จากคุณ : lengafterwork เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 08:15:48

ความคิดเห็นที่ 91 เพื่อนเราก็เป็นพยาบาล รพ.รัฐขนาดใหญ่ ในกทม. ทำได้สักปี ก็ลาออกมาขายเครื่องมือแพทย์ ทำได้ไม่กี่ปีก็ลาออกมาทำธุรกิจตัวเอง ตอนนี้มีรถหลายคันมีบ้านหลายหลัง มีเงินเป็นร้อยล้านแล้ว เจ๋งจริง ๆ จากคุณ : Dr.modx เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 11:45:52

ความคิดเห็นที่ 92 ต่างจังหวัด ที่ชุมพร โรงพยาบาลเอกชน จบใหม่ เริ่ม 20,000บาท / เดือน เวร  900 - 1,000 บาท ต่อ 8 ชั่งโมง ถ้าท้ออนาคตไม่รุ่ง ควรหันมามอง โรงพยาบาล เอกชน ซึ่งมีความต้องการอีกมาก จากคุณ : pisutk เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 12:39:10

ความคิดเห็นที่ 93 เคยเข้าไปเฝ้าพ่อในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งติดกับกทม. เนื่องจากเตียงคนไข้เต็ม พ่อไม่สามารถขึ้นตึกได้ต้องรอเตียง รอมัน 2 วันกับ 1 คืนที่ห้องฉุกเฉิน ภาพที่ได้เห็นในห้องก็คือความวุ่นวาย พยาบาลเกือบสิบคน กับคุณหมอ 1 คน คุณพยาบาลทั้งหลายเวลามีคนไข้เข้ามาก็จะวิ่งกันโกลาหล แต่คุณหมอนั่งเล่นพันธุ์ทิพย์ นี่แหละค่ะ  เห็นจะๆกะตา และจ้องอยู่นานมาก ถ้าคุณพยาบาลเรียกคุณหมอก็จะลุกมาดู ซึ่งนานๆทีค่ะ  ส่วนใหญ่คุณพยาบาลจะเป็นคนทำทุกอย่างหมดเลย ทันทีที่คนไข้มา คนแรกที่เข้าถึงคือพยาบาล  เห็นแล้วก็นะ เหนื่อยแทน แต่ชื่นชมค่ะมืออาชีพกันมาก น้องที่เป็นพยาบาลข้างบ้าน ทำงานได้สักสองปีค่ะ แกบอกว่าไม่มีเวลาจะใช้เงินเลย เงินเก็บแกมีหลายแสนเลยค่ะ   ยังไงก็ขอให้มีทางออกที่ดี เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : tidta เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 13:00:48

ความคิดเห็นที่ 94 จากประสบการณ์ เป็น แฟน พยาบาลวิชาชีพ เกี่ยวไหมนะ น่าสงสารครับ เดือนไหน เวรหนักๆ นี้ แทบ ไม่มีเวลา นอน จากคุณ : รู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องจริง เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 14:29:10

ความคิดเห็นที่ 95 ทหารทำไมขยายอัตรารับเป็นข้าราชการเยอะจัง พวก อบต.ด้วย แต่เงินเดือนน้อยนะและไม่มี โอด้วย เห็นเพื่อนบอก แฟนเพื่อนเป็นพยาบาลอยู่ศิริราช ก็ได้เงินแยะนะบวกโอเห็นบอกสามหมื่นกว่า อายุสามสิบต้นๆ ก็ได้ ซี 6 แล้ว จากคุณ : kotolay เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 18:53:30

ความคิดเห็นที่ 96 แย่อ้ะ ;( จากคุณ : nuza555 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 55 20:32:46

ความคิดเห็นที่ 97 คุณ ฟ้าสีคราม เก่งแล้วก้อเด็ดเดียวมากเลย ชื่นชมค่ะ บางทีคงต้องบ๊ายบายจริง ๆ เหมือนกัน แต่รับราชการ เห็นพี่ ๆ แต่ละคนก็มีแต่หนี้กันคลละหลายล้านเลย เหอ ๆ จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 02:07:04

ความคิดเห็นที่ 98 ผมเห็นมานานแล้ว พยาบาลลูกจ้างชั่วคราวที่ไหม่ได้บรรจุสักที กว่าจะได้บรรจุทีก็ไม่กี่คน วิ่งเต้นแก่งแย่งชิงดีกันเองทั้งๆที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมา พอไม่ได้ก็จะโดนผู้หลักผู้ใหญ่หลอกต่อไปเรื่อยๆว่า ปีหน้าบ้าง สองปีบ้าง แล้วก็ไม่ได้ซักที พอถึงคราวที่สุดทนจริงๆถึงลาออก พอลาออกก็เริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตการเป็นพยาบาล(เพราะฝังใจกับสิ่งที่เคยเป็น คล้ายๆ PTSD นั่นแหละ) บางคนหนีไปทำอย่างอื่น เป็นตัวแทนขายยา/เครื่องมือแพทย์บ้าง หรือประกอบอาชีพอื่นไปเลย สิง่ที่ผมพอจะแนะนำได้ก็คือ ถ้ามองแบบ จขกท.แล้วละก็ ลาออกอย่างเดียวครับ โลกนี้ยังอีกกว้างใหญ่ครับ ปัญหาโดยมากที่พยาบาลเป็นกันมากคือ"ความกลัว"ครับ ต้องยอมรับว่าชีวิตตั้งแต่เป็น นศพยบ จนกระทั่งจบมาเป็นพยาบาลวิชาชีพ มีโอกาสมองเห็นโลกภายนอกน้อยมากๆครับ บางที่ก็ปลูกฝังกันมาแบบผิดๆ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ถ้าต้องการช่วยคนจริงๆ อยู่ที่ไหนทำอะไรก็ช่วยได้ ไม่มีใครมองว่าการเป็นพยาบาลรพ.เอกชนเป็นเรื่องน่าเกลียด (นอกจากพวกวิชาชีพเดียวกันเองกับคุณ พวกรุ่นเคี้ยวหมาก!!) ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นหนี้ใครและรัฐก็ให้ตามความต้องการของคุณไม่ได้ ก็ออก...จบ ลองมองดูหลายๆมุม คุยกับคนหลายๆคน อาจมีคนชี้ทางให้ แต่อย่าทนครับ อย่าทนให้ระบบอันแสนห่วยเอาชนะคุณได้ ทางออกมีอยู่สองทางคือ คุณต้องเอาชนะระบบให้ได้ หรือ คุณต้องออกจากระบบ เท่านี้คุณก็ไม่ต้องเป็น"ผู้แพ้" อีกต่อไป จากคุณ : พิเศษไม่ใส่ผักโรย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 02:35:04

ความคิดเห็นที่ 99 ในโลกนี้ไม่มีของฟรี และทุกสิ่งทุกอย่างก็ เป็นผลมาจากนิสัยของ คนไทยจากในอดีตและปัจจุบัน และถ้าในอนาคตไม่แก้ไข ก็จะเลวร้ายไปกว่านี้ อยากจะบอกไว้อย่าง องค์กรใดๆที่ทำงานเกี่ยว กับสิทธิมนุษยชน องค์กรนี้เป็นตัวหลักเลยที่ทำให้เกิดปัญหา ในประเทศของเรา เชื่อหรือไม่ คุณคิดเอาเองได้ จากคุณ : ระวีรุ่งสว่าง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 08:28:31

ความคิดเห็นที่ 100 ผมทำฝ่ายไอทีใน รพ.แห่งหนึ่งยังได้น้อยเลยครับ จะลาออกเดือนหน้าละ ไม่ไหว งานหนักเงินเดือนน้อย อยู่ได้เพราะขึ้นเวร ถ้าไม่ขึ้นเวรอยู่ไม่ได้ แถมเอาเปรียบงานกันอีก  จากคุณ : TJz_13 (TJz_13) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 08:46:26

ความคิดเห็นที่ 101 งานกลุ่มนี้ ตำแหน่งว่างรอบรรจุก็ยังมีเยอะแยะนะ แถมขาดแคลนอีกด้วย แต่ส่วนมากจะอยู่ชนบทไกลๆ ซึ่งไม่ค่อยมีใครอยากจะไปทำกัน เขาเลือกที่จะอยู่ในเมืองซะมากกว่า จากคุณ : KikuAnonae เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 10:15:16

ความคิดเห็นที่ 102 น่าเห็นใจจขกท.นะคะ ที่ไม่ได้บรรจุ แต่ถ้าอยากจะเรียกร้องความเห็นใจ หรือขอความเป็นธรรมให้ตัวเอง ก็ไม่เห็นต้องทำให้คนอื่นดูแย่ลง เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นมาเลย - หมอตามรพ.ชุมชนส่วนใหญ่ เป็นหมอจบใหม่ก็จริง แต่ก็ผ่านการเพิ่มพูนทักษะมาแล้ว 1 ปี แล้วถึงมาอยู่รพช.อีก 2 ปี แต่ก็ยังมีหมออีกส่วนนึงที่ยินดีจะอยู่รพช.ไปตลอด - คิดได้ยังไงคะ เก็บเคสหนักๆไว้เพื่อลองภูมิ ไม่อยากเชื่อเลยว่าคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากของคนที่เป็น "พยาบาลวิชาชีพ" เราเชื่อว่า ไม่มีหมอคนไหน อยากให้คนไข้ตาย ต่อให้เป็นหมอนิสัยไม่ดี หรือแพทย์พาณิชย์ ทุกคนอยากให้คนไข้หายทั้งนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า แต่ละคน มีประสบการณ์และความสามารถไม่เท่ากัน เรามองว่า ถ้ามีเคสหนัก แล้ว refer ทุกเคส รพ.จังหวัดก็คงจะสงสัยว่า หมอรพ.นี้ รักษาอะไรได้เองบ้าง นอกจาก หวัด กับท้องเสีย และรพ.จังหวัดซึ่งเตียงเต็มและงานหนักอยู่แล้ว ก็คงจะรับไม่ไหว ดังนั้น สาเหตุที่เค้ายังไม่ส่งต่อคนไข้ น่าจะเป็นเพราะเค้าประเมินว่าสามารถรักษาได้ แต่เวลาผ่านไป อาการคนไข้แย่ลง จึงต้องมีการส่งต่อทีหลัง - ข้อนี้สำคัญมาก มีการเหน็บว่า แพทย์นอนอยู่กับบ้านก็ได้ค่าเวร ถามจริงๆ คุณคิดว่าเค้าอยากได้เหรอคะ ค่าเวรเนี่ย ถ้าเลือกได้ นอนอยู่บ้านเฉยๆ แบบไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ดีกว่ามั้ย ค่าเวรน้อยนิดที่ได้มา แลกกับภาระและความรับผิดชอบ คิดว่ามันเยอะแยะมากมายเหรอคะ อย่าลืมนะ ว่าไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นภายในเวรนั้น แพทย์ที่คุณบอกว่า นอนอยู่บ้าน นี่แหละ ที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด แล้วจขกท.ลืมไปหรือเปล่า คนที่คุณบอกว่าเค้านอนอยู่บ้านเฉยๆ รับโทรศัพท์เนี่ย เมื่อตอนกลางวันเค้าตรวจคนไข้ไปกี่คน เค้าไม่ได้นั่งเล่นอยู่ที่บ้านพักเพื่อรอเวลาอยู่เวรนะคะ ตรวจ opd 100-200 คน คุณคิดว่าไม่เหนื่อยเลยใช่มั้ย ถึงยังจะอยากให้เค้ามาทำงานนอกเวลา เท่ากับที่คุณต้องทำ แต่คุณทำงานเป็นกะ แพทย์ต้องทำงาน 24 ชม. อ่อ 36 ชม.สิ เพราะวันถัดไปก็ต้องทำงานต่อ เรากล้าพูดแบบนี้ เพราะเราเคยเจอมาหมดแล้วค่ะ แบบที่พูดมาทั้งหมด แต่โชคดี รพ.ที่เราเคยอยู่ พยาบาลน่ารัก เข้าใจว่าแพทย์ก็ทำงานหนักมากแล้ว ฉะนั้น มีอะไรเค้าช่วยได้ ก็ช่วย ถือว่าช่วยๆกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย สุดท้ายนี้ ก็ให้สมหวังได้บรรจุ ถ้ายังไม่ได้ ก็หาลู่ทางไปทำอย่างอื่นให้สบายใจ ไม่ต้องทนทุกข์กับงานที่ทำ ก็แล้วกันนะคะ จากคุณ : tachycardia เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 10:15:46

ความคิดเห็นที่ 103 ทำงานมาหลายปีพบเรื่องเศร้าหลายอย่าง ทั้งตัวเอง และ เจ้าหน้าที่อื่น           -รุ่นน้องส่งผู้ป่วยอาการหนักถึง รพ. จังหวัด ปลอดภัย แต่ ตัวเอง ถูกรถคนเมา ชนอัดต้นไม้ตายตอน ขากลับ พ่อแม่เศร้ามาก ลูกคนเดียว เป็นข่าวไม่นานคนก็ลืมแล้ว           -มีคนไข้อาการหนักหลายคน เจ้าหน้าที่น้อยมาก  มีคนไข้เสียขีวิต ถูกเรียกไปสอบสวน จากผู้ใหญ่ น่าน้อยใจเหลือเกิน ทำงานเกินเวลา ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน ท่านที่เรียกไปสอบสวน ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น จึงไม่เข้าใจ        -มีคนไข้ติดเชื้อ ทางเดินหายใจ ซึ่งมีหลายคนในตึก หลีกเลี่ยงได้ยาก ถึงจะป้องกันอย่างดี มีทื่ติดจากคนไขั เช่น วัณโรค        -การขึ้นเวร เวลาไม่เหมือนชาวบ้าน ดึกขับมอเตอร์ไซ ขึ้นทำงาน และลงเวร ถูกโจรกระชากกระเป๋าและถูกทำร้ายบาดเจ็บ        -การที่ พยาบาลมีน้อย เพราะลาออกกันเยอะ ถ้ามีคนไข้หนักมาพร้อมกัน  ต้องเลือกทำคนใดคนหนึ่ง  พยาบาลมีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย 24 ช.ม หัตถการทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ให้ยา ฉีดยา ให้เลือด ใส่สายสวน ตรวจสัญญาณชีพ9ล9  เพื่อพยุงชีวิตผู้ป่วย ฉะนั้นเมื่อขาดแคลนพยาบาล คงจะนึกออกว่าสภาพเป็นอย่างไร       -มีหลายอย่างที่ไม่สามารถเขียนได้หมด แต่อยากบอกให้รู้ว่า เป็นอาชีพที่หนัก  เสียสละเพื่อผู้อื่นจริงๆ  ไม่มีเวลาแม้แต่ดูแลพ่อแม่ตัวเองเลย จากคุณ : เรื่องจริง (ว่าวลอยลม) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 10:18:30

ความคิดเห็นที่ 104 สิงคโปร์กำลังแย่งเป็น Medical Hub อาชีพพยาบาลเป็นหนึ่งในสาย ที่สามารถไปทำงานได้ทั่ว 10 ประเทศ ASEAN ถึงปี 2015 จะเหลือหมอ พยาบาล อยู่ประเทศไทย สักกี่คนหนอ จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 13:12:36

ความคิดเห็นที่ 105 น่าเห็นใจครับ บ้านนี้เมืองนี้มันเป็นอะไรไปกันหมดแล้วเนี่ย คนขยันสื่อสัตย์สุจริต ทำงานแทบตายกลับไม่ได้ดี แต่คนขี้เกียจ ฉ้อโกง กลับได้ดิบได้ดีเอา ความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหน ? จากคุณ : Alucard [Dracula] เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 13:23:40

ความคิดเห็นที่ 106 ขออนุญาตนะครับ จขกท. คุณจะขอความเห็นใจอะไรก็ทำไปเถอะครับ แต่อย่ามาดูถูกเพื่อนร่วมวิชาชีพเช่นนี้สิครับ หมอไม่ได้นอนอยู่บ้านสบายๆให้คุณตรวจเเทนนะครับ งานตามวอร์ดก็มีให้ทำเยอะแยะเช่นกัน เข้าใจว่าคุณงานหนักแต่ช่วยให้เกียรติเพื่อนร่วมวิชาชีพหน่อยเถอะครับ จากคุณ : MrJack (MrJackTheRipper) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 14:42:25

ความคิดเห็นที่ 107 อาเซียนเปิดเสรี พยาบาลไทยที่ภาษาไม่ได้ก็เตรียมตัวตายล่ะครับ จากคุณ : Frabio เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 18:47:51

ความคิดเห็นที่ 108 ถ้าหากว่าข้อมูลที่เราเขียนทำให้เกิดความไม่พอใจ ก็ขออภัยนะค่ะ มันเป็นข้อมูลอีกด้านเท่านั้นเอง ทุกอาชีพมีทั้งคนดี และไม่ดี อาชีพเราก็ใช่ว่าจะดีทุกคน เราไม่ได้ดูถูก ดูหมิ่น ดูแคลน แพทย์ที่เราเคยเจอดี ๆ ทุ่มเท รับผิดชอบ มีไม่น้อย ที่เราทึ่งว่าเอาเวลาไหนพักผ่อน เพียงแต่ที่เราเจอบางกรณีมันเป็นปัญหาจริง ๆ ค่ะ ความมีมาตรฐานในวิชาชีพของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ความรับผิดชอบก็มีไม่เหมือนกัน ต้องยอมรับตรงนี้จริง ๆ ค่ะ มีสีขาว มีสีดำ มีสีเทาค่ะ จากคุณ : or elf เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 19:02:42

ความคิดเห็นที่ 109 ถ้าเราเป็นหมอมาอ่านเราจะเฉยๆ ถึงแม้จะโดนพาดพิง(โดยเฉพาะในทางลบ) การออกมาแก้ตัวจะยิ่งทำให้โดนด่าอะค่ะ ให้คนอ่านเขาใช้วิจารณญานในการรับชมรับฟังเองดีกว่านะคะ จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:25:10

ความคิดเห็นที่ 110 มีหมอมาร้อนตัวเยอะเลย...เป็นคนไข้นอนอยู่ รพ 8 วัน เห็นพยาบาลงานหนักจริง หมอชิลกว่าเยอะ!! จากคุณ : prettylatte เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 20:53:48

ความคิดเห็นที่ 111 เข้าใจว่าแต่ละวิชาชีพก็โอดครวญว่าตนเองลำบากนู้นนี้ จากประสบการณ์ในวงการนี้เหมือนกันเข้าใจว่าไม่สบายเหมือนอาชีพอื่น แต่อย่าดูถูกว่าวิชาชีพอื่นไม่มีความรับผิดชอบเลยค่ะ ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชล้วนลำบากเหมือนกันหมด และคุณอาจเข้าใจว่าแพทย์นอนเวชอยู่บ้านสบาย จริงๆแล้วไม่ใช่นะคะ อย่าพูดอะไรที่คุณเองก็ไม่รู้ดีพอ เรามีเพื่อนร่วมบ้านในรพ.เป็นแพทย์ใช้ทุนค่ะ และเพื่อนเราอยู่เวร15วันใน 1 เดือน ส่วนเวลาราชการตามปกตินะคะ ทำทุกวันค่ะ ไม่ได้พักเป็นกะ เหมือนพยาบาล ที่ทำเสร็จ 8 ชั่วโมง พัก 16 ชั่วโมง และถึงเค้าจะไม่ได้ไปประจำห้องฉุกเฉินกับคุณ แต่อีกหลายๆที่ในคืนนั้นที่เค้าต้องไปค่ะะ ทั้งห้องคลอด ห้องผ่าตัด วอร์ดผู้ป่วยใน อย่าเอาประสบการณ์ที่คุณเจอไม่ครบรอบด้านตัดสินคนอื่นเนอะ ชีวิตเราเองเป็นเภสัชก็ประสบชะตากรรมเดียวกับคุณค่ะ มีเวนมากมายเหมือนกัน ไม่ได้บรรจุเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่เห็นใจคุณนะคะ แต่ไม่อยากให้ดูถูกและว่าวิชาชีพอื่นด้วยค่ะ เข้าใจว่าระหว่างแพทย์ พยาบาลบางคน มีconflict กันมาก พยาบาลมักคิดว่า ตนเองลำบากกว่า เงินเดือนน้อยกว่า เก่งกว่าแพทย์จบใหม่ ที่เราเจอมาแพทย์ไม่ดีก็หลายคนค่ะ แต่ที่ดีก็เยอะ และเงินเดือนที่เค้ามากกว่าพวกเราก็มาพร้อมความรับผิดชอบและภาระที่หนักกว่าค่ะ ถ้าคิดว่าไม่ยุติธรรม คุณสามารถเรียนต่อเพื่อเพิ่มวุฒิความสามารถตัวเองได้นะคะ พยาบาลที่เรารู้จักหลายคน เรียนต่อแพทย์ค่ะ จากคุณ : ขนฟูตัวป้อม เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 21:11:33

ความคิดเห็นที่ 112 ทุกความคิดเห็น เป็นเพียงประสบการณ์หนึ่งๆ ที่แต่ละคนพบเจอมาไม่เหมือนกัน ย่อมกลั่นกรองออกมาเป็นความรู้สึกที่แตกต่าง กันได้ ไม่มีผิดถูกบางท่านทำงานมาหลายที่บางท่านเพิ่งเริ่มต้น มีข้อเปรียบเทียบที่แตกต่างกัน สำหรับเราที่เคยอยู่รพศ รพท รู้สึกว่าโอกาสบรรจุน่าจะสูงกว่า รพช เราอยู่รพช มา10 ปี ประเมินว่าทรัพยากรมีอยู่อย่างจำกัด ทุกวิชาชีพอยู่อย่างอึดอัดระวัง ตัว คุณภาพสวนทางกับการพัฒนางานอย่างจริงจัง หละหลวม ทีมนำเอาแค่พออยู่รอด ท่านที่ไม่ตรวจก็มี เดินไปเดินมารับเงิน หมื่น ตกเบิกมาซื้อรถได้ครึ่งคัน ให้น้องๆตรวจ ให้น้องๆขึ้นเวร มีเฉพาะทางไว้ทำ...อะไรพอมี dead case มาก็งี่เง่า โทษการ สื่อสาร โทษเพื่อนร่วมงาน จนสุดท้ายก็บอกว่า คนไข้มันจะตายเอง ทำตามมาตรฐานแล้วให้ทำไง. เออจะให้ทำไง โทษระบบ บริการหรือ ความเสี่ยงคุณมีคุณรู้แต่คุณไม่ปิดช่องว่าง ดึงดันว่ามันมีมาตรฐาน โอทีไม่อยากจ่ายโน่นนี่ไม่ลงทุนแต่อยากได้ คุณภาพ เหล่าลูกจ้างอยากปรับขึ้นเงินค่าครองชีพชั่วคราว แค่คนละ700 คูณจำนวนลูกจ้างทั้งรพ. ยังไม่เท่ากับคนพิเศษในรพ. เพียงคนเดียว กระนั้น ยังไม่อยากจะขึ้นให้ ลูกชั่วคราวที่อยากปรับวุฒิเช่นกัน มีการกำหนดจำนวนคนด้วย ว่าปีละ 2 คน คนที่ ไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อปรับวุฒิก็ต้องชิงกัน อะไรก็อ้างผลประกอบการ มันอ้างจนน่าเกลียดอ่ะ ไม่มีหลักธรรมาภิบาลเลย. เรียนสูง อย่างเดียวไม่พอ ต้องเพิ่มเติมเรื่องการบริหารกับคุณธรรมเข้าไปด้วยน่าจะดี. คอรัปชั่นกันจัง ผู้นำทั้งหลาย รพชรพท รพศ ใน กระทรวงด้วย ให้ คนรุ่นใหม่รับรู้ไว้ว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้องแต่ไม่ผิดหากจะทำ ขออภัยท่านที่ไม่คอรัปชั่น ที่กล่าวถึงนี้เฉพาะท่านที่กระหายอยากใน ทรัพย์สิน เงินทอง. แสดงถึงคนที่จะเจริญก้าวหน้าในสังคมไทยได้ บางส่วนก็ได้สิ่งนี้มาด้วยการคดโกง คดโกงลูกน้อง คดโกง เพื่อนร่วมงาน คดโกงสังคม. จากคุณ : Barbie เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 22:28:26 A:125.24.79.73 X: TicketID:373627

ความคิดเห็นที่ 113 ของอย่างนี้ รู้ตัวดีค่ะ ว่าตัวเองเป็นยังไง หมอก็ดี  พยาบาลก็ดี มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป ทุกอาชีพแหละค่ะ แต่โดยรวมแล้ว สุดท้ายอยู่ที่      "สามัญสำนึก" เราคนไข้ไม่ใช่ไม่ขอบคุณ ขอบคุณทั้งคุณหมอและพยาบาล บุรุษพยาบาลอย่างยิ่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่เทคนิคทุกท่าน หรือแม้กระทั่งยาม.. --------------------------------------------------------------------- ทุกคนที่ขึ้นชื่อว่าทำงาน  เหนื่อยทุกคนค่ะ แต่เหนื่อยแล้วก็อยากให้ใครๆ เห็นคุณค่าด้วย ดีแล้วที่ออกมาเรียกร้อง ในส่วนนี้ พยาบาลบางท่านที่บรรจุ และเก๋า แต่ขาดสามัญสำนึกอย่างแรง มีอีกเยอะค่ะ พวกนี้น่าปลดเพราะอยู่ไปก็ รกโรงพยาบาล นี่ถ้ามีการวัดมาตรฐานการทำงาน และจับมาสอบใบวิชาชีพ (มีอยู่แล้ว) แต่โดยให้คนไข้ร่วมเป็นผู้ประเมินการบริการ สัก 10% ของคะแนน เพื่อตรวจสอบสามัญสำนึกด้วยคงดีไม่น้อย  (แถม 10%ที่ว่าต้องมาจากรายชื่อที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละรอบด้วยยิ่งดี ) 5555 อันนี้มั่วๆ นะ ขำๆ จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 55 23:50:48

ความคิดเห็นที่ 114 แม่เราเป็นพยาบาลค่ะ และแม่สอนเรามาแต่เล็กแต่น้อยว่าอาชีพนี้ อย่าเรียน จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 01:22:08

ความคิดเห็นที่ 115 มาให้กำลังใจจขกทคะ ที่ต่างประเทศพยาบาลขาดแคลน โดยเฉพาะพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูง บางสาขาเงินเดือนมากกว่าหมออีก จขกทอย่าน้อยใจเลยนะคะ ส่วนตัวแล้ว พยาบาลเป็นอาชีพหนึงที่เรานับถือคนทำมากเลยคะ จากคุณ : Freedom and Justice เขียนเมื่อ : 8 ก.ย. 55 23:40:25

ความคิดเห็นที่ 116 แปลกที่บางหน่วยงานใส่ใจอาชีพที่สำคัญแบบนี้น้อยเหลือเกิน อย่างที่หลายๆความเห็นบอกกันก่อนหน้านี้ครับ อาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่ขาดแคลนในหลายประเทศ (แต่กว่าจะได้งานจริงๆก็มีข้อกำหนดเรื่องภาษาอะไรอีกเยอะพอควร) ยังไง จขกท สู้ๆครับ ยังมีหนทางอื่น ไม่ว่าเป็นรพ.เอกชน หรือตปท.ดูก็ดี จากคุณ : testdive เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 55 14:28:17