Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ดราม่าอัมพวาของคนกรุง : ว่ายทวนอารมณ์ โดยใบตองแห้ง ....คมชัดลึกออนไลน์ [ย้ายจาก : สังคม] ติดต่อทีมงาน


baitongpost@yahoo.com

2-3 วันก่อนมีข่าว “นักอนุรักษ์” ต้านรื้อห้องแถวไม้โบราณที่อัมพวา
ซึ่งนักธุรกิจไฮโซจะสร้างโรงแรมมูลค่า 500 ล้านเป็นที่พักนักท่องเที่ยว

เรื่องนี้ชาวเน็ตถกเถียงกันมาก่อน กระทั่งเว็บ “ดราม่าเอยจงซับซ้อนยิ่งขึ้น”
เอาไปถ่ายทอดเป็นที่สนุกสนาน
       
“นักอนุรักษ์” พากันคร่ำครวญว่า วิถีทุนนิยม (สามานย์) จะเข้าไปทำลาย
วิถีชีวิตดั้งเดิมของคนอัมพวาที่อยู่ริมน้ำ เหมือนที่ความเจริญเข้าไปทำลาย
เกาะสมุย หรือเมืองปาย จนสูญเสียธรรมชาติ เปลี่ยนจิตใจคนให้เป็นธุรกิจ
มุ่งแต่แสวงหากำไร

       
ฟังแล้วซึ้งจัง ถ้าไม่มีคนอัมพวาเองโต้ว่า วิถีที่คนกรุงเห็นอยู่นี่ไม่ใช่ของ
ดั้งเดิม แต่เดิมอัมพวาเป็นแค่ตลาดขายเครื่องมือการเกษตร ตลาดน้ำมี
ตามวันจันทรคติ ไม่ได้มีกาแฟโบราณ ห่อหมกโบราณ ผัดไทยโบราณ
สารพัดโบราณ ขายกันทุกเสาร์อาทิตย์เหมือนตอนนี้ ความจริงก็คือวิถีดั้ง
เดิมของอัมพวาหมดไปนับสิบปีแล้ว ตั้งแต่คนกรุงเห่อแห่ไปเที่ยวนั่นแหละ
ชาวบ้านบางคนรำคาญ ค่ำมืดดึกดื่นเที่ยวล่องเรือดูหิ่งห้อยกันอยู่ได้ เขาก็
ตัดต้นลำพูทิ้ง
       
จริตคนกรุงทำให้อัมพวาเปลี่ยนไป แล้วตอนนี้คนกรุงก็อยากสตัฟฟ์อัมพวา
ไว้ ให้เป็น “วิถีชีวิตดั้งเดิม” ในจินตภาพของตัว

       
ที่พูดนี่ไม่ใช่ผมสนับสนุนให้รื้อห้องแถวสร้างโรงแรมให้หมด จริงๆ แล้วควร
เป็นเรื่องที่ชุมชนเขาตกลงกัน ว่าทำอย่างนั้นแล้วจะเรียกนักท่องเที่ยวมาก
ขึ้นหรือทำให้คนไปเที่ยวน้อยลง ถ้าเห็นว่าเรียกนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็ช่าง
เขาเถอะ (อย่างน้อยห้องแถวไม้โบราณ 100 ปีที่เห็นในภาพมันก็จะพังมิพังแหล่)
       
แต่ประเด็นน่าถกคือทัศนคติของคนกรุง คนชั้นกลาง ที่โหยหา “วิถีชีวิตดั้งเดิม”
“ธรรมชาติ” ในแบบอยากให้คนชนบทเขารักษาวิถีชีวิต “พอเพียง” เพื่อหลัง
จากตัวเองใช้ชีวิตอยู่กับ “วิถีทุนสามานย์” มาทั้งสัปดาห์ แล้ววันเสาร์อาทิตย์
หรือวันหยุดยาว จะได้ขับโฟร์วีลส์ไดรฟ์ออกไปมองไร่นาเขียวขจีผ่านกระจกรถ
เห็นชาวนาไถนาอยู่กับควาย แล้วร้องว่า อ้า! ช่างเป็นวิถีชีวิตที่สุขสงบเสียนี่กระไร
       
โทษที เดี๋ยวนี้ไม่มีควายแล้วมีแต่คูโบต้า กู้ ธ.ก.ส.กู้กองทุนหมู่บ้าน หรือเอา
บัตรเครดิตชาวนาไปรูดปื้ด
       
อ้าว ก็ด่าอีกว่าสนับสนุนให้ก่อหนี้เพิ่ม ไม่รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
       
ตลาดร้อยปี ตลาดพันปี ผุดเป็นดอกเห็ดรอบกรุงเทพฯ สนองจริตคนกรุง ของ
เก่าที่เอาไปขาย ก็สั่งจากสำเพ็งนี่เอง มองอีกมุมหนึ่งไม่รู้ใครฉลาดกว่าใคร
ชนบทในสายตาคนกรุงไม่ใช่ชนบทที่เป็นจริง เพราะทุนนิยมเข้าถึงหมดแล้ว
แต่คนชั้นกลางที่ทำงานบริษัท รายได้ตั้งแต่หลายหมื่นไปถึงหลายแสน ยัง
อยากให้คนชนบทพอเพียงอยู่กับการปลูกผักปลูกหญ้า กินผักกินหญ้า ไม่ควร
ซื้อมือถือ มอเตอร์ไซค์ หรือรถปิกอัพ
       
คนกรุงอ่านข่าวลูกหลานชาวนาไม่อยากทำนา แล้วก็คร่ำครวญ อาชีพชาวนา
จะสูญพันธุ์ ถามตัวเองบ้างสิ อยากให้ลูกทำนาบ้างหรือเปล่า
       
ผมไม่ได้ต่อต้าน “พอเพียง” แต่ไม่ใช่คนกรุงที่มีเกินพอแล้วไปเรียกร้องให้
คนจนพอเพียง อันที่จริงแม้แต่ “วิถีชาวบ้าน” ปัจจุบันก็กลายเป็นเครื่องมือ
การตลาด สินค้าโอท็อป สมุนไพรไทย เกษตรอินทรีย์ วางขายเต็มห้างไปหมด
       
ที่พูดเรื่องนี้เพราะความขัดแย้งเรื่องวิถีพัฒนาประเทศ ทัศนคติของคนกรุง
ต่อคนชนบท เป็นประเด็นสำคัญในวิกฤติสังคมไทย โดยยังหาข้อสรุปไม่ได้
       
ไม่เอา “ทุนสามานย์” แล้วไง แล้วจะไปทางไหนต่อ ก็ไม่มีความชัดเจน
ในอนาคตเราจะมีรถไฟความเร็วสูง เป็นเส้นทางขนส่งระหว่างทวาย-ดานัง
คุนหมิง-สิงคโปร์ โดยภูมิประเทศที่เอื้อ ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลาง
ระบบโลจิสติกส์ในภูมิภาค ชาวนาจะยังอยากให้ลูกหลานทำนาอยู่หรือ
       
คนกรุงอยากให้คนชนบทรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิม ทั้งที่คนชนบทอาจบอกว่า
เฮ้ย อยากเป็นทุนนิยม จะได้ลืมตาอ้าปากบ้าง ไม่ได้อยากมีวิถีชีวิตสุขสงบ
แต่อยากรวย ผิดด้วยหรือ

       
ละครหลังข่าวเรื่องหนึ่งที่เพิ่งจบไป เอาพระเอกหล่อเฟี้ยว นางเอกสวย
ใสไปทำไร่ พร้อมกับคำพูดยัดเยียดให้ถูกจริตคนกรุง เช่นมีคนมาหลอก
ล่อคนงานไปทำงานเมืองนอกเงินเดือนหมื่นห้า พระเอกก็มีคำพูดซึ้งๆ ว่า
“อย่าคิดว่าเงินจะซื้ออะไรได้ทุกอย่าง เพราะถ้าวันไหนที่ชาวไร่ชาวนา
อย่างพวกเราไม่อยากขายข้าวให้คุณขึ้นมา คุณจะรู้ว่า ต่อให้คุณเอาเงิน
หมื่นยัดปากตัวเอง มันก็ไม่อิ่ม”
       
“ไม่มีใครตายเพราะกินอยู่อย่างพอเพียง แต่มีเศรษฐีบ้าอำนาจที่คิดแต่จะ
สร้างกำไรเท่านั้นล่ะที่ตายเพราะเส้นเลือดในสมองแตกไม่เว้นแต่ละวัน”
       
ทั้งที่แค่บอกคนงานว่าเงินเดือนหมื่นห้าต้องหักค่าหัวคิว ต้องเสียค่าใช้จ่าย
มีค่าครองชีพสูง แค่นั้นก็พอแล้ว เพราะถ้าเงินเดือนสามหมื่นไม่หักหัวคิว
คนงานไปแน่ ไม่มีใครซึ้งเป็นชาวนาอยู่หรอก

http://www.komchadluek.net/detail/20120903/139151/ดราม่าอัมพวาของคนกรุง.html

 

จากคุณ : sao..เหลือ..noi
เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 09:12:27




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com