 |
ศ. Mason Gaffney เขียนว่า นักเศรษฐศาสตร์หลายสิบคนบอกว่าภาษีในอุดมคติคือภาษีที่คิดจากมูลค่าที่ดิน ผลดีส่วนใหญ่คือการเลิกภาษีอื่นๆ ซึ่งก่อภาระมากเกินไป (excess burdens) แต่แล้วนักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้กลับบอกให้ลืมภาษีนี้เสีย เพราะคิดว่ามูลค่าที่ดินมีน้อยไปไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสมัยใหม่ (http://economics.ucr.edu/papers/papers08/08-12old.pdf )
เอกสารวิจัยของท่านได้รับการตีพิมพ์ในปีถัดมา (http://www.masongaffney.org/publications/G2009-Hidden_Taxable_Capacity_of_Land_2009.pdf )
ต่อมาเมื่อ 17 ส.ค.2012 นี้เอง ท่านได้เขียนว่า เป็นเพราะแหล่งข้อมูลมาตรฐานทั้งหลายไม่ได้พิจารณาสิ่งที่อาจเป็นฐานภาษีที่ดินได้จำนวนมาก และยังให้มูลค่าต่ำเกินไปแก่ส่วนที่พิจารณาด้วย เอกสารวิจัยของท่านมีจุดมุ่งเพื่อแสดงมาตรการกำหนดมูลค่าและค่าเช่าที่ดินที่แม่นยำและกว้างขวางกว่า และวิธีเก็บภาษีที่ดินหลายวิธีที่นอกเหนือไปจากภาษีทรัพย์สินแต่เดิม (http://masongaffney.org/blog/index.php/2012/08/the-hidden-taxable-capacity-of-land-enough-and-to-spare-2/ )
ส่วน Henry George Institute บอกว่า เศรษฐศาสตร์กระแสหลัก หรือ Neoclassical economics ได้ปฏิเสธมาตลอดว่า ที่ดินมิใช่ปัจจัยการผลิตที่แยกต่างหาก (http://www.henrygeorge.org/rem42.htm )
ภาษีเดี่ยวจากที่ดินนี้ กลุ่ม Physiocrats ในฝรั่งเศสคิดขึ้นมาก่อนแล้ว เรียกว่า Impot Unique แต่ไม่ค่อยทราบกันแพร่หลาย แกนนำท่านหนึ่งของกลุ่ม คือ Francois Quesnay (June 4, 1694 December 16, 1774) แพทย์ราชสำนัก สำหรับเฮนรี จอร์จ (2 กันยายน ค.ศ. 1839 - 29 ตุลาคม ค.ศ. 1897) เจ้าตำรับภาษีเดี่ยวของสหรัฐฯ เพิ่งมารู้ภายหลังจากมีชื่อเสียงเพราะหนังสือ Progress and Poverty (พิมพ์ปี 1879) แล้ว ซึ่งเขาบอกว่ามีความยินดีมากเมื่อได้ทราบข่าวนี้ แสดงว่ามีคนที่คิดเหมือนเขาอยู่ในโลก
แต่ภาษีที่ดินอย่างเดียวจะพอเป็นค่าใช้จ่ายของรัฐบาลทุกระดับหรือไม่นั้นผมก็ไม่เห็นว่าเป็นปัญหา ขอให้เก็บเป็นลำดับแรกก็แล้วกัน เพราะมันก็เกิดผลดีแล้ว ถ้าไม่พอก็ค่อยเก็บภาษีการลงแรงลงทุนเพิ่มให้พอ แต่วิธีที่ดีคือค่อยๆ เพิ่มภาษีที่ดิน พร้อมกับลดภาษีการลงแรงลงทุนผลิตและค้าลงเท่าๆ กันทุกๆ ปี สัก 30 ปีครับ ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/suthon.hin ในส่วน About ครับ
จากคุณ |
:
สุธน หิญ
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ย. 55 01:07:33
|
|
|
|
 |