Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มีลูกมีหลาน สอนให้เขาเห็นความสำคัญของการศึกษาเถอะครับ ติดต่อทีมงาน

มีลูกมีหลาน สอนให้เขาเห็นความสำคัญของการศึกษาเถอะครับ

E-Mail : siam_shinsengumi@hotmail.com
FaceBook : Siam Shinsengumi

สัปดาห์ก่อนที่ผมบอกว่าหายไป ผมไปมาหลาย จว. ครับ ชลบุรี (พัทยา) ราชบุรี พิจิตร สงขลา (หาดใหญ่) และวันที่ไปสงขลา พวกผมต้องต่อไปยังปัตตานี (เฉพาะตัวเมือง ในเขตเทศบาล) แม้ว่าจะได้พักอยู่ที่นั่นเพียง 1 คืน แต่ก็รู้สึกกลัวครับ ก็นะ! ตอนแรกที่รู้ว่างานที่หาดใหญ่ ต้องลงไปต่อที่ปัตตานี กะว่าจะแกล้งป่วยจะได้ลางานได้ (ใครๆ ก็กลัวตายครับ เจอยิงเจอระเบิดมาจะทำไงละ ยิ่งคนบอบบาง ตีรันฟันแทงกับใครเขาไม่เป็นแบบผมด้วย ฮาๆ) แต่กลับโดนขู่ ทั้งจากเถ้าแก่และเพื่อนร่วมงาน “เฮ้ยถ้าไม่ไปนี่ไม่รู้นะปีหน้าจะต่อสัญญาจ้างป่าว?” ได้ยินแบบนี้ก็ต้องยอมไปครับ งานยิ่งหายากๆ อยู่ เกิดโดนไม่ต่อสัญญา ผมจะไปทำอะไรดี T_T!

ทีนี้ไปแล้วมันเป็นไง ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แค่ไม่กล้านอนหลับตลอดการเดินทางเท่านั้นเอง (ก็บอกแล้วว่าผมกลัวตาย) แม้ว่าระหว่างอยู่ในตัวเมือง คนแถวนั้นจะบอกว่าเหตุรุนแรงน่ะมันไม่ค่อยมีในเมืองหรอก ส่วนใหญ่อยู่รอบนอก เพียงแต่สื่อพากันไปทำข่าวพร้อมๆ กัน ทุกช่อง ทุกฉบับเล่นข่าว 3 จว. กันหมด คนข้างนอกก็เลยกลัวกันไปใหญ่ แถมทุกสื่อชอบ “เหมารวม 3 จังหวัด” ว่าเป็นพื้นที่สีแดง ทั้งๆ ที่เอาจริงๆ แล้ว ต้องแยกทีละจังหวัด ปัตตานีก็อย่าง ยะลาก็อย่าง นราธิวาสก็อีกอย่าง แต่ละจังหวัดมีจำนวนเหตุรุนแรง และระดับความรุนแรงไม่เท่ากัน แต่สื่อทุกค่ายเล่นประโคมข่าว “3 จังหวัดใต้ ระเบิด-ฆ่ากันตายรายวัน” ผลคือบางพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีเหตุอะไร ก็ซวยไปกับเขาด้วย (คนในเทศบาลเขาบ่นมาแบบนี้ จะเชื่อหรือไม่แล้วแต่ท่านครับ แต่ผมกลัวจริงๆ นะเออ)

2 ย่อหน้า ผมพูดแต่เรื่องไปเที่ยว เอ๊ย! ไปทำงาน (แต่เหมือนไปเที่ยว) แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการศึกษา คือก่อนหน้านี้ ผมลงใต้ค่อนข้างบ่อย นครศรีธรรมราชบ้าง สุราษฎร์ฯ บ้าง หาดใหญ่บ้าง บางครั้งก็เจอคนหลากหลายอาชีพ ทั้งครู พ่อค้าแม่ขาย คนขับรถตู้ ฯลฯ และหลายคนที่ว่านี้ต้องไปทำธุระใน 3 จว. อยู่เป็นระยะๆ แน่นอนละหลายคนพูดตรงกันว่าในตัวเมืองไม่ค่อยมีอะไร ส่วนใหญ่เป็นรอบนอก และสาเหตุคือคนที่อยู่รอบนอกนั้นส่วนใหญ่เป็น “สังคมปิด” คือไม่ยอมรับความรู้หรือข่าวสารใดๆ จากโลกภายนอกเลย หรือถ้าจะให้ชัด ก็คือเขาไม่ยอมรับข่าวสารใดๆ ที่มาจาก “รัฐไทย” ของเรา (แต่รับข่าวจากมาเลเซีย?) แน่นอนว่ามาจากผู้ใหญ่หัวเก่า หัวรุนแรงเป็นหลักที่ปลูกฝังความเชื่อแบบนี้ไปพร้อมๆ กับยุทธศาสตร์ “ฆ่าครู เผาโรงเรียน” เพื่อไม่ให้รัฐไทยสามารถสอนภาษาไทยและวิชาการสามัญได้ จนทุกวันนี้ระดับการศึกษามันต่างกันเกินไป คือคนในตัวเมือง ตัวเทศบาลมีการศึกษาที่ดีกว่า มีโอกาสไปเรียน ไปทำงานยังที่ดีๆ มีทางเลือกมากกว่า แต่คนรอบนอกตรงกันข้าม ไม่เพียงไม่มีโรงเรียน หรือถึงมีครูก็สอนไม่ได้เต็มที่ เพราะพวกผู้ก่อการร้ายมันจ้องฆ่าครู (ใครที่เป็นครูคงจะรู้ว่างานครูเป็นงานหนัก ไม่ใช่แค่เข้าเช้าออกเย็นเหมือนข้าราชการอื่นๆ แต่ต้องเตรียมการสอน ซึ่งบางทีก็ต้องอยู่กันดึกๆ ดื่นๆ หรือมาตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งใน 3 จว. ครูจะทำแบบนั้นไม่ได้เพราะถ้าฟ้าเริ่มมืดหรือยังไม่สว่างดีนัก โอกาสตกเป็นเป้าก็ยิ่งสูงตาม) ผลคือคนรอบนอกพูดได้แต่มลายูกับอาหรับเท่านั้น และมีความรู้แต่ด้านศาสนา ไม่ค่อยจะมีทางสามัญ (แต่ถ้าในเมืองจะเรียนกัน 4 ภาษา คือมีภาษาไทยกับอังกฤษเพิ่มไปด้วย)

ข้อมูลนี้จริงหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบเพราะมีเวลาอยู่ในพื้นที่น้อย (ดีแล้วที่กลับก่อน กลัวตายครับ ฮาๆ) แต่มันก็สะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง ที่มีคนบอกว่า “บ้านเมืองใดประชากรการศึกษาต่ำ โอกาสถูกชักจูงไปในทางผิดๆ ก็มากขึ้น” ซึ่งไม่ใช่แค่ 3 จังหวัดใต้เท่านั้น เพราะหากเราจะดูประเทศกำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนาทั้งหลายในโลก ผู้ที่ด้อยการศึกษาจะมีโอกาสในการเลือกประกอบอาชีพน้อยมาก (มีสักกี่คนที่จบ ป.4 แต่รวยเป็นเจ้าสัว?) และถึงมีอาชีพ ก็มักจะถูกเอาเปรียบอยู่เสมอ จะโดนโกงค่าแรงบ้าง ใช้งานเยี่ยงทาสบ้าง ถูกบีบให้ไปทำงานที่โทนสีเทาๆ ดำๆ บ้าง เพราะด้วยความที่ไม่มีวุฒิ แต่ปากท้องมันต้องกินต้องใช้ ดังนั้นใครใช้อะไรก็ต้องไป

พอผมได้ยินความเห็นดังกล่าวจากคนที่ลงไปพื้นที่บ่อยๆ มันก็เลยทำให้ผมนึกถึงหลายๆ อย่างที่ผมได้ยิน และได้เห็นมาด้วยตัวเอง แม้จะอยู่ใน กทม. แต่มันก็ไม่ต่างกันนัก ตัวอย่างแรกที่น่าสนใจ หากใครที่สนใจการเมืองข้างถนน ได้เข้าไปสังเกตการณ์ม็อบทั้ง 2 สี (ผมไม่เข้าข้างสีไหนทั้งนั้นนะครับในหัวข้อนี้) บางทีเราจะเห็นคนที่ดูแล้วเหมือนคนเมา คนสติไม่สมประกอบ นั่งเหม่อลอยอยู่ในสถานที่ชุมนุม แม้จะสวมเสื้อสีนั้นๆ แต่เหมือนกับว่ามานั่งไปงั้นๆ ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเท่าไร และเมื่อม็อบยุติลง เราก็มักจะเห็นคนเหล่านี้ไปปรากฏตัวข้างถนน ครับ! พวกเขาคือคนเร่ร่อน ผมพูดแบบนี้ไม่ได้ต้องการใส่ความสีไหนว่าจ้างคนพวกนี้มาร่วมชุมนุม (เพราะมีทั้ง 2 สี) เพียงแต่สิ่งที่ต่างกันคือ คนพวกนี้มาชุมนุมเพราะสินจ้างรางวัล (อย่างน้อยๆ ถึงไม่ได้เงิน แต่ก็มีข้าวกินฟรี) ไม่เหมือนอีกหลายๆ คนที่ไปชุมนุม เพราะมีความเชื่อ มีอุดมการณ์ตรงกันกับสีนั้นๆ จริงๆ

อีกเรื่องหนึ่ง คงจะเข้ากระแส คือข่าวล่าสุด ลูกคนรวยขับรถชนตำรวจตาย สารวัตรแทนที่จะปกป้องลูกน้อง ดันไปเอาคนรับใช้ของลูกคนรวยมาเป็นแพะ รู้ไหมครับ แถวบ้านผมพอดูข่าวนี้ บางคนบอกเลยว่า “ทั้งสารวัตร ทั้งลูกคนรวย โง่ทั้งคู่ แค่รับผิดไปก็จบ เพราะถึงเวลาติดคุกจริงๆ จ้างใครติดแทนก็ได้” ซึ่งเรื่องจ้างคนติดคุกแทนนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ผมได้ยินมาตั้งแต่ผมยังเป็นวัยรุ่น ว่าคนมีเงิน คนมี connection ดีๆ ถึงทำผิดก็ติดคุกแต่ชื่อ ตัวจริงหลบอยู่ในบ้าน หรือไปหลบอยู่ต่างประเทศ ส่วนคนที่พร้อมจะติดคุกแทนก็หาได้ง่าย คนจนๆ ไม่มีวุฒิ ตกงานเยอะแยะ และความเป็นอยู่ในคุก ถ้าไม่คิดอะไรมาก บางคนบอกอยู่สบายกว่าข้างนอก อย่างน้อยๆ ก็มีข้าวกิน 3 มื้อ (เพื่อนร่วมงานผมคนหนึ่งสมัยผมทำงานใหม่ๆ ในโรงงานเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว บอกมาแบบนี้พร้อมกับโชว์รอยสักเต็มแผ่นหลัง มันโดนคดียาเสพติด อยู่ในนั้น 5 ปี ว่างมาก เลยมีเวลาสักกันอย่างที่เห็น รอยสักมาจากในคุกเกือบทั้งหมด ก่อนเข้าไปมีแค่นิดเดียวเท่านั้น) แน่นอนละถ้าเป็นเราๆ ท่านๆ คงไม่บ้าเอาอิสรภาพไปแลกกับเงินทองแน่ๆ เพราะพวกเรามีทางเลือกมากกว่าเขา

จากเรื่องทั้งหมดนี้ ทำไมผมถึงบอกว่ากรุณาใส่ใจกับการศึกษามากๆ เพราะก่อนหน้านี้ ผมเจอรุ่นน้องผู้หญิง 2 คนมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งคู่ คนนึงทำงาน รปภ. อีกคนทำงานโรงงาน ทั้ง 2 คนพอใจกับรายได้ทุกวันนี้ (แน่นอนว่าได้มากกว่าผม ทั้งคู่มีรายได้มากกว่า 13,000 บาทต่อเดือน ทั้งคู่มีวุฒิแค่ ม.3 ส่วนผมได้ไม่ถึงหมื่นครับทั้งที่จบ ป.ตรี) เนื่องด้วยทั้งคู่มีวุฒิแค่ ม.3 ผมจึงบอกว่าไปเรียนต่อเถอะ พาณิชย์ภาคค่ำ หรือรามคำแหง หรือ มสธ. ก็ได้ ทุกวันนี้ค่าเทอมมันก็ไม่ได้แพงมาก เรียนให้ได้สัก ปวส. เป็นอย่างน้อย (ทั้งคู่ตัวคนเดียวครับ ส่งเงินให้ทางบ้านบ้างแต่ไม่มากนัก)หรือถ้าไม่ชอบวิชาการ ก็ไปอบรมวิชาชีพ เอาให้มันได้ certificate ได้วุฒิรับรองสักหน่อย เพราะงานระดับล่างอย่าง รปภ. ถ้าคุณแก่ตัวไปคุณก็ทำไม่ได้ (เว้นแต่จะเป็น รปภ. อาชีพที่ผ่านการฝึกเป็นเรื่องเป็นราวแบบเมืองนอก ซึ่งบ้านเรายังไม่มีหลักสูตรทำนองนี้) เช่นเดียวกับงานในสายพานผลิต ถ้าเกิดโรงงานต้อง Downsize ตามภาวะเศรษฐกิจ ก็ต้อง Lay-off ปลดพนักงานบางส่วนออก แน่นอนล่ะครับ พนักงานระดับล่างใน Line ผลิตทั้งหลายจะโดนเป็นพวกแรกๆ เพราะงานทั่วไปแบบนี้ “หาใครมาทำก็ได้” แล้วลองคิดว่าถ้าคุณโดน Lay-Off ตอนอายุ 30 ขึ้นไปละ? จะทำอะไร? เพราะวุฒิก็ไม่มี อายุก็เยอะขึ้น ทำให้บริษัทส่วนใหญ่ไม่อยากจะรับ

ทว่าคำตอบที่ได้รับ คือทั้งคู่บอกสั้นๆ ว่า “ขี้เกียจ-เรียนไม่ไหว” พร้อมกับย้อนผมอีกว่า “พี่จบปริญญาตรี ได้เงินเดือนน้อยกว่าพวกหนูที่จบ ม.3 อีก” ลงท้ายด้วย “เดี๋ยวให้ผัวหาเลี้ยง เชื่อดิ ไม่เป็นไรหรอก” (ขอให้เจอผัวดีๆ แล้วกันนะครับ จริงๆ ผมบอกไปอีกว่าถ้าเรียนสูงๆ โอกาสเจอคนดีๆ มีวุฒิภาวะก็มากไปด้วย แต่เขาไม่ฟังผมแล้ว)

ที่ผมเตือนพวกเขา เพราะวันนึงผมไม่อยากเห็น 2 คนนี้ไปยืนข้างถนน หรือไปประกาศว่าตัวเองร้อนเงินบนโลกออนไลน์ครับ (พูดง่ายๆ ว่าไปจบที่อาชีพขายบริการทางเพศนั่นละ) เพราะจากที่ผมเคยพูดคุยกับหลายคนที่ไปทำอาชีพแบบนั้น ไม่ว่าขาประจำหรือขาจร ก็มักจะยอมรับว่าสมัยสาวๆ เป็นเด็กใจแตก มีโอกาสเรียนแต่ไม่เรียน พออะไรเกิดขึ้น ตกงาน ก็ต้องมาทำแบบนี้ จนกว่าจะหางานใหม่ได้ เช่นเดียวกัน ถ้าเป็นผู้ชาย ผมคงไม่อยากเห็นเพื่อนเห็นน้องตัวเอง ไปรับจ้างเดินโพยบอล ไปขายยาเสพติด ไปรับจ้างติดคุกแทนคนอื่นหรือรับจ้างประท้วงเพียงเพราะเศษเงินหรอกครับ เพราะเราเป็นมนุษย์ เรามีสมอง เราคิดและเลือกทางได้ เราไม่ใช่สัต.ว์ ไม่ใช่สุนัขที่เห็นเศษอาหารก็วิ่งไปคุ้ยๆ เขี่ยๆ

ดังนั้นถ้าท่านเป็นพ่อแม่ ท่านต้องเห็นความสำคัญของการศึกษา จะวิชาการ หรือวิชาชีพก็ได้ เอาให้มีวุฒิรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ ลูกหลานท่านจะได้มี “มูลค่าชีวิต” ไปต่อรองรายได้ที่เป็นธรรมกับนายจ้าง หรือจะทำธุรกิจเองก็จะได้มี credit บ้าง จะได้ไม่ต้องถูกเอาเปรียบ ถูกข่มขู่ เพราะการศึกษาดี ทำให้มีชีวิตอยู่อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่คุกเข่าคลานสี่ขาเหมือนสัต.ว์ ที่ต้องประจบเจ้านายเพื่อขอข้าวกิน

ย้ำ! ผมเขียนบทความนี้ให้พ่อแม่ผู้ปกครองอ่านนะครับ เพราะภาครัฐ ไม่ต้องไปพูดถึงพวกเขาหรอก! เพราะผลวัดการศึกษา มันก็ชี้วัดอยู่แล้วว่าการศึกษาของเด็กไทยแย่ลงเรื่อยๆ เด็กจบ ป.6 อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ถูกพบได้บ่อยขึ้น เด็กเรียนมหา’ลัย แต่ความรู้พื้นฐาน หรือความรู้รอบตัวในสายคณะนั้นๆ ที่ควรจะรู้ตั้งแต่มัธยมก็ไม่มี

เปลี่ยนแผนกันสารพัด ปรับนโยบายกันอุตลุด แต่ผลคือแย่ลง แย่ลง และแย่ลง

ไปคิดกันเอาเองละกัน!

……………………………

จากคุณ : Siam Shinsengumi
เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 55 09:35:29 A:184.154.49.106 X: TicketID:360979




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com