ความคิดเห็นที่ 1 ยิ้มรับหมายศาลทันทีแล้ว  ไปตามนัดศาลเตรียมเรื่องที่จะขอผ่อนผันกับทางธนาคาร   ไม่ต้องเอาทนายไปเพราะเป็นการนัดพร้อมครั้งแรก เพื่อเจรจา  อาจผ่อนน้อยลงแต่มีกำหนดระยะแล้วศาลจะนัดมาใหม่   บ้านยังไม่ถูกยึดเพราะการยึดบ้านต้องมีการตัดสินของศาลให้อายัด  ซึ่งใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปี    สบายใจทุกอย่างมีทางออก   ประสบการณ์ครั้งแรกจะทำให้รู้สึกกลัวแต่พอผ่านครั้งที่1  ไปครั้งที่สองเฉยเลย 5555555 จากคุณ : ปั๋นแก้วเจริญ เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 22:36:44

ความคิดเห็นที่ 2 ไปศาลครับไม่ต้องกลัว ศาลจะให้เจรจากันก่อนครับ คุณสามารถไปขอผ่อนผันเขาได้ ถ้าไปได้สวยอาจได้ลดดอกด้วยซ้ำนะ จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 22:50:14

ความคิดเห็นที่ 3 เบื้องต้นสามารถเข้าไปเจรจากับทางธนาคารก่อนถึงวันนัดได้เลยครับ แนวทางของธนาคารจะมีประมาณ 2.ทาง (เท่าที่ผมรู้นะ) 1. ลูกหนี้ไม่มีเงินก้อนพอชำระดอกเบี้ยค้างชำระทั้งหมด ก็ต้องทำสัญญายอม งวดละเท่าไหร่ก็ตกลงกับธนาคาร จะมากกว่าที่เคยส่งเล็กน้อยหรือไม่ก็เท่ากับที่เคยส่ง ระยะเวลาในสัญญายอมจะให้ผ่อน 3 ปี หลังจากนั้นต้องเจรจากับธนาคารอีกรอบ กรณีนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารอาจให้ชำระค่าใช้จ่ายบางส่วน แล้วเงื่อนไขนี้จะถูกส่งไปยังทนายที่ฟ้องคดี เพื่อนัดทำสัญญยอมกันต่อไป 2. ขอให้ธนาคารถอนฟ้อง กรณีนี้ลูกหนี้ต้องหาเงินก้อนมา เพียงพอที่จะชำระดอกเบี้ยค้างหรือค่างวดที่ค้างชำระทั้งหมด เช่น นับถึงวันเจรจาค้างมาแล้ว 10 งวด ก็หามาให้ครบ บวกกับค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง เสนอชำระแล้วขอให้ธนาคารถอนฟ้อง วันไปขึ้นศาลไม่ว่ากรณีไหน ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ ผมแนะนำให้เข้าไปเจรจาเบื้องต้นก่อนเลยครับ จะได้รู้แนวทางว่ามีทางไหนที่เราจะปฏิบัติได้บ้าง จากคุณ : yunyoo2961 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 00:13:24

ความคิดเห็นที่ 4 จขกท ฟังให้ดีนะ คุณมีแนวทางแก้ปัญหา2แบบคือ ก) นอกรอบกับแบงค์...โดยตกลงกันแล้วแบงค์อาจถอนฟ้อง ข้อดี...มีน้อยกับเรา ข้อเสีย...กับเรามีมากกว่า อาทิ ข้อตกลงประนอมหนีเราอาจเสียเปรียบ / อาจถูกฟ้องและเอาเปรียบประเด็นอื่นๆอีก ...โดยเฉพาะการซ่อนเงื่อนเอาเปรียบเรา..ที่เราตามไม่ทันเขา จะมารู้ตัวก็สายเสียแล้วเพราะเราไม่รู้กฏหมายลึกๆ และเขามักเอากฏมั่วมาหลอกเราให้กลัวให้ยอม เขาจะเรียกค่าโน่นนี่เราก็ต้องยอมแบบโง่ๆ เพราะเขาอ่านว่าคุณกลัวมาขึ้นศาล ข) ตกลงประนอมหนี้ต่อหน้าศาล ข้อดี...เราไม่ถูกเอาเปรียบเกินกฏหมายกำหนด ทุกอย่างแฟร์ เพราะมีทนายและศาลคอยให้ความเป็นธรรม ถึงแม้ประนอมหลายๆรอบไม่สำเร็จก็ยังมีโอกาสเข้าสู่การพิจารณาของศาลขั้นต้นได้อีก ข้อเสีย...อาจมีค่าทนายบ้างแต่ผมมองว่าคุ้มกว่าที่แบงค์จะเอาเปรียบเราหลายเท่านัก ผมแนะนำว่าควรเลือกทาง ข) ถ้าไม่มีทนายผมช่วยหาให้1ท่านเป็นทนายอาสา จบเน เคยว่าความให้ผมโดยชนะน๊อคอัยการในยก1 ด้วยข้อกฏหมาย เป็นคนดี ไม่เห็นแก่เงิน ลองโทรคุยดู...บอกว่าผมแนะนำมาก็ได้(บอกเขาว่า ขอว่าความฟรีหรือ low cost ได้ไหม) ...ชื่อ ทนายบุญ....081-8249570 (แกไม่ได้เล่นในบอร์ดนี้นะ) จากคุณ : ชายไท เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 01:28:20 A:203.156.25.246 X: TicketID:326030

ความคิดเห็นที่ 5 เพื่อช่วย จขกท ไม่ให้จิตก กินได้นอนหลับ ไม่กลัวจนบ้ากลายๆ ...จะตอบที่คุณถาม จากที่ค้างชำระค่าบ้านกับธนาคาร ธอส ตอนนี้ได้หมายศาลมาแล้วค่ะ ตอบ...รวบรวมเอกสาร+ข้อเท็จจริงให้พร้อมเป็นแฟ้มเพื่อปรึกษาทนาย อยากรบกวนสอบถามว่าต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ ตอบ...เล่าข้อเท็จจริงให้ทนายฟังโทรนัดเขาออกมาพบได้จะดีกว่าเพราะดูเอกสารได้ ต้องหาทนายรึปล่าวเพราะไม่รู้จักใครเลยน่ะค่ะ ตอบ...ต้องใช้ทนาย+แนะนำให้แล้ว1ท่านแต่ถ้าต้องการหลายทนายไว้ปรึกษาก็ลองโทรหาน้าออด หรือทนายกิติภูมิ... (2ท่านนี้เล่นในบอร์ดนี้) แล้ววันไปขึ้นศาลต้องมีค่าใช้จ่ายมั๊ยค่ะ ตอบ...ไปครั้งแรกเป็นการไกล่เกลี่ย(ไม่ใช่ตัดสินคดี) ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เราควรมีทนายที่เราปรึกษาและวางแนวทางต่อสู้+ไกล่เกลี่ย ไว้แล้ว. คือถ้าคุณไปคนเดียวโดยไม่เตรียมตัวไป พอศาลเริ่มไกล่เกลี่ย...คุณจะกลายเป็นคนโง่ไปเลยเพราะไม่เตรียมข้อตกลงไปก่อน (กลายเป็นว่าเขาเรียกเอาอะไรคุณก็มักไปยอมเพราะ"ความกลัว") อันนี้คือเค้าจะยึดบ้านเลยใช่มั๊ยค่ะ ขอโทษค่ะที่ถามหลายอย่างเพราะกำลังทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ ตอบ...ยังไม่มีการยึดบ้าน ขั้นตอนจะเป็นว่า 1)ไกล่เกลี่ย ถ้าไม่สำเร็จค่อย 2)เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น(อีกหลายเดือนต่อมาจากไกล่เกลี่ย) 3)ตัดสินคดี 4)อุธรณ์ จากคุณ : MOONUCH จากคุณ : ชายไท เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 02:00:16 A:203.156.25.246 X: TicketID:326030

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกคำตอบน่ะคะ จากคุณ : MOONUCH เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 08:07:46

ความคิดเห็นที่ 7 บางทีธนาคารก็อยากช่วยลูกค้า แต่เนื่องจากระเบียบกฏเกณฑ์ว่าต้องฟ้องไม่อย่างนั้นผิดระเบียบจึงเกิดเป็นหมายศาลมาหาคุณ ดังนั้นคุณควรจะไปตามนัดและไปเจรจาหาทางออกร่วมกันต่อหน้าศาล ตอนนั้นทั้งศาลและธนาคารก็จะให้ความช่วยเหลือคุณได้ จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 09:30:17