มาฟังเรื่องพ่อลูกเขาคุยกันค่ะ...
|
|
เสาร์ที่แล้ว เตี่ยของเราที่ตาบอดได้นั่งรถเมล์ขึ้นมาหาเรา ที่ขึ้นมาได้ก็เพราะคนข้างบ้านฝากรถเมล์มาลงที่บ้านเราค่ะ ลงหน้าบ้านเป๊ะอาจเป็นเพราะ บ้านเราหาง่ายด้วยมั้ง
เตี่ยขึ้นมา เพื่อจะบอกเราว่าแม่เราหนีไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มแม่บ้าน เราก็บอกว่าให้แม่ไปเที่ยวมั่งเหอะ เขาเครียด ถ้าเป็นน้อง ๆไปนานแล้ว ไม่อยู่รอจนป่านนี้หรอก ก็เตี่ยเล่นด่าเขาเช้าเย็น บางทีนอนหลับได้ตื่นนึง ตีสองตีสามมีปลุกลุกขึ้นมาด่าต่ออีก เขาไม่บ้าไปก็ดีเท่าไหร่แล้ว
เสร็จแล้วเราก็รับหน้าที่ขายของสองแผนก โดยให้สามีเราเข้าไปคุยกับเตี่ยแทน เตี่ยฟ้องสามีเราว่า สงสัยแม่เราจะเล่นชู้กับอาจารย์อะไรซักคนนี่แหละ และเขาจะไปแจ้งความ เรื่องนี้เตี่ยไม่กล้าเล่าให้เราฟังหรอกค่ะ
เย็นวันเสาร์เราถามเตี่ยว่า พรุ่งนี้จะกลับมั้ย จะได้ไปส่ง ถ้าเป็นวันจันทร์เราต้องเปิดร้านจะไม่มีใครไปส่งนะ เขาก็บอกว่าไม่กลับ อ่ะ ไม่เป็นไร ไม่กลับก็นอนที่บ้านนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าแม่จะมารับก็แล้วกัน
วันอาทิตย์ ปกติเราตื่นสายค่ะเพราะเป็นวันพักผ่อน แต่นี่เตี่ยมาอยู่ด้วย เราก็ตื่นตีห้ากว่า เสียบกาต้มน้ำ เพราะเตี่ยชอบกินน้ำร้อนกับกาแฟตอนเช้า พร้อมขนมปัง ระหว่างให้เตี่ยดื่มน้ำร้อนตามสูตรของเขากี่แก้วก็ไม่รู้ ที่เรากดน้ำใส่แก้วทิ้งไว้ให้ ระหว่างนั้นเราก็เสียบหม้อหุงข้าวและเตรียมทำผัดผักให้เตี่ยกินตอนเช้า หลังกินข้าวเช้าก็นั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ แต่คำว่าเรื่อย ๆ นี่คือตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นน่ะ ขออนุญาตเล่าเรื่องที่คุยกับเตี่ยนะคะ
เตี่ย "แหม๊ ไอ้ฟ้านี่มันแย่จริง ๆ มันกล้าพูดเนาะว่ามันเกลียดพ่อมัน" เรา "จะว่าแปลกก็แปลกอยู่นะเตี่ย การที่ลูกสาวคนเดียวจะกล้าพูดออกจากปากว่าหนูเกลียดพ่อนี่ แสดงว่าเขาก็ต้องมีอะไรในใจเยอะอยู่นะ" เตี่ย "จะมีอะไร้ ก็เห็นพ่อเขาพูดกับลูกเพราะจะตาย ลูกไปไหนก็คอยโทร.หา กินข้าวยัง ทำไรอยู่" เรา "สิ่งที่เราเห็นหรือได้ยิน อาจไม่ใช่ของจริงก็ได้นะเตี่ย ผู้ชายบางคนอยู่นอกบ้านพูดจาดี เทคแคร์คนอื่นดี๊ดี พอเข้าบ้านมาพูดกับลูกเมียใช้ไม่ได้เลยก็มีนี่นา เราไม่ได้อยู่กับเขาตลอด24ชั่วโมง คงไปตัดสินว่าพ่อถูกลูกผิดไม่ได้หรอก"
ปล.1 เตี่ยเราพูดกับคนนอกดีมาก แต่ด่าแม่เราเหมือน...จนคนข้างบ้านบอกว่ายาย..หนูสงสารยายจริง ๆ เลย เวรกรรมอะไรของยายน้อมาเจอคนแบบนี้
ต่อมาเป็นเรื่องยา เราเห็นเขากินยาก่อนอาหารเช้า 8 เม็ด หลังอาหาร 2 เม็ด เที่ยง 2 เม็ด เย็น 8 เม็ด เราก็ถามว่ายาอะไรนักหนาน่ะเตี่ย กินยาเยอะอย่างงี้ต้องระวังโรคไตด้วยนะ เขาบอกว่าถ้าเขาก็เป็นโรคไต ก็เพราะแม่เราทำกับข้าวเค็มนี่แหละ เราก็ขำนะ เลยบอกว่าเอางี้ น้องจะให้แม่ทำกับข้าวให้จืดไว้ก่อน แล้วทำพริกน้ำปลาไว้ให้เตี่ยถ้วยนึงบนโต๊ะ ถ้ามันจืดไป เตี่ยก็เติมน้ำปลาเองนะ เดี๋ยววันหน้าเป็นโรคไตจะได้ไม่ไปโทษแม่ อ่ะ จบไปอีก 1 เรื่อง
ถัดมาเตี่ยก็ถามถึงเพื่อนรุ่นเดียวกับเตี่ยว่ายังรวยอยู่รึเปล่า เราก็บอกว่ารุ่นนั้นน่ะไปเฝ้าพระอินทร์กันหมดแล้ว ไอ้ที่เหลือ ๆ นะไม่ตายก็เหมือนตาย เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตกันก็เยอะ มั่งก็ล้มละลายก็มี ตอนนี้เศรษฐีเป็นคนรุ่นใหม่หมดแล้ว เราก็ยกตัวอย่างลูกค้าเราให้ฟังว่าเป็นพยาบาลสูงอายุ มีลูกสาวทำงานเมืองนอกส่งเงินมาให้แม่ซื้อที่ซื้อตึกตามแต่แม่จะเห็นสมควร แล้วเตี่ยก็หันมาจิกเราว่า เขามีบุญเนอะ ทำอะไรลูกก็ช่วยส่งเสริม เขาถึงรวยเอารวยเอา
เราก็หัวเราะแล้วบอกว่า ก็เตี่ยจะให้น้องช่วยได้ยังไงล่ะ ไอ้โครงการที่เตี่ยคิดจะทำน่ะ น้องไม่เคยเห็นด้วยซักอย่าง แล้วจะให้ช่วยยังไง อย่างเตี่ยจะปรับที่ น้องบอกให้จ้างรถแมคโครทำงานเป็นชั่วโมง จริงอยู่ว่ามันอาจแพงหน่อย แต่เสร็จงานก็จบกัน รถเสียก็ไม่เกี่ยวกับเรา แต่เตี่ยก็ไม่ฟังน้อง เตี่ยไปซื้อแมคโครมือสองมา แล้วมันดีมั้ย ซ่อมแล้วซ่อมอีก นี่จอดซ่อมมาจะพอเดือนแล้ว เตือนก็แล้ว ห้ามก็แล้วในเมื่อไม่ฟังก็ตามใจ เพราะเงินก็ไม่ใช่เงินน้อง น้องไม่ได้ไปปวดหัวกับเตี่ยด้วยซักหน่อยอยากทำอะไรก็ตามใจเลย อย่างน้องนี่นะ ถ้าไม่เห็นด้วย น้องหันหลังให้เลยนะ แต่แม่ทำไม่ได้ไง ยังไงก็ต้องช่วยเตี่ย เห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ต้องทำ เตี่ยอย่าคิดนะว่าทุกวันนี้เตี่ยเก่ง เตี่ยทำนั่นทำนี่ได้ ถ้าเตี่ยลองคิดดูให้ดี เตี่ยจะรู้ว่างานทั้งหมดที่ลุล่วงได้ไม่ใช่เพราะเตี่ยนะ แต่เป็นเพราะแม่ต่างหาก ขอให้เตี่ยลองคิดดูให้ดี ๆ คิดให้ลึก ๆ
แล้วเตี่ยก็เงียบไปสักพักนึงแล้วก็พูดขึ้นมาว่า มีใครมั่งจบป.4 มีที่ดินเยอะอย่างเตี่ย ตัวเองทำได้ป่าว เราก็บอกว่ามันก็จริงของเตี่ยนะ คนสมัยเตี่ยอาศัยขยันอย่างเดียว ยิ่งเตี่ยนี่นะ โชคดีเป็นบ้า สมัยที่เตีียกับแม่ยังแข็งแรง เตี่ยเที่ยวไล่ไปดูที่ดิน ถ้าเจอแปลงไหนที่ชอบราคาถูกใจ เตี่ยก็แค่วางมัดจำไว้ 500 ที่เหลือแม่ก็จัดการหาเงินไปจ่ายจนครบ เพราะฉะนั้นที่เตี่ยสามารถซื้อที่ได้เยอะ ก็เป็นเพราะแม่ขยันหาเงินด้วยนะ อย่าลืม เรียกว่าตลอดวันอาทิตย์นั่น เราพยายามพูดให้เตี่ยคิดให้ได้ว่า แม่มีค่าสำหรับเตี่ยมากเท่านั้นเองค่ะ
แล้วเตี่ยก็บอกว่าอยากไปวัด ๆ หนึ่ง เพราะพระเทศน์เก่งมาก เตี่ยอยากไปนั่งคุยกับท่านซักวันหนึ่ง เราก็บอกว่า มันก็เป็นธรรมดาของมนุษย์นะเตี่ย คนเราเนี่ยมักจะเลือกฟังเสียงที่ตัวเองชอบเท่านั้น ที่จริงเตี่ยน่าจะชวนแม่ไปด้วยนะ ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน ใจจะได้เย็นลง ไปนั่งฟังพระพูดในสิ่งที่ถูกใจตัวน่ะ มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก สู้ไปฝึกสมาธิ พอเป็นแล้วก็มาทำที่บ้านก็ได้ หมั่นทำทั้งผัวทั้งเมียนั่นแหละเผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้นมั่งไง
เตี่ยบอกว่า ที่เตี่ยทำอะไร ๆ ตั้งหลายอย่างนี่นะ ใคร ๆ ก็ว่าาเตี่ยดีทั้งนั้นแหละ เราก็บอกว่าเสียงนอก จะดีกว่าเสียงของคนที่นอนข้าง ๆ เรารึ คนข้าง ๆ นี่ นอนกับเรามาเกือบ50ปี เขารู้อยู่แหละว่าเราเป็นคนแบบไหน เสียงของคนที่นอนข้าง ๆ ก็ยังไม่จริงใจเท่าเสียงที่ก้องอยู่ในตัวเราหรอก ตัวเราย่อมรู้อยู่เองว่าเราเป็นทองแท้รึเปล่า ถ้าเราเป็นทองแท้ ต่อให้คนข้างนอกบอกว่าเราเป็นนาค มันก็เปลี่ยนอะไรในตัวเราไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอให้เตี่ยอย่าเอาหูไปฟังเสียงว่าข้างนอกจะมองจะว่าเราอย่างไร แต่ให้มองใจของเตี่ยดีกว่า ว่าเราคิดอย่างไร คิดอะไรอยู่ มองแต่ข้างในตัวก็พอแล้ว ก่อนจะทำให้คนอื่นเป็นสุข ทำให้คนข้างตัวมีความสุขให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ย คุยกันตั้งแต่เช้ายันเย็น พ่อเราไม่มีเถียงเราซักแอะเลยนะ ยอมจำนนว่างั้นเถอะ ขนาดสามีเรายังแปลกใจว่าคุยกันเข้าไปได้ยังไงเป็นสิบ ๆ ชั่วโมง โดยไม่ทะเลาะกัน
พอจันทร์เช้า เราลงมาจากชั้นบน พอเตี่ยได้ยินเสียงเรา เตี่ยก็บอกว่า กรูจะกลับบ้าน ส่งกรูขึ้นรถที แต่เราไม่ยอม เพราะตกลงกันแล้วว่าถ้าไม่กลับวันอาทิตย์ก็ต้องรอให้แม่มารับกลับ หรือไม่ก็รอให้ลุงเราไปส่ง หรือรอเราปิดร้านตอนเย็นแล้วจึงจะไปส่งได้
ระหว่างเราขายของเตี่ยตะโกนโวยวายอยู่ในห้องกระจก เราปิดประตูขังเตี่ยไว้บอกว่าถ้าโวยวายด่าทอเรา เราจะเปิดทีวีและเครื่องเสียงกลบนะ เขาก็โวยวายลั่น ๆ แต่เสียงไม่อาจเล็ดลอดออกมาข้างนอกเพราะเราเปิดเครื่องเสียง จนเตี่ยหมดแรง ก็เดินเข้าไปนอนในห้องแอร์ตามระเบียบ
สามีเราดูอยู่ข้างนอก ก็สงสารเตี่ย ประกอบกับเห็นเราเครียดด้วยมั้งเลยอยากเอาเตี่ยไปส่งตามที่เตี่ยต้องการ แต่เราบอกว่า วันนี้เราจะให้บทเรียนเตี่ย ไหน ๆ เตี่ยขึ้นมาแล้วต้องได้อะไรกลับไปบ้าง วันนี้เตี่ยอาจเกลียดลูกสาวคนนี้ แต่ไม่เป็นไร กลับไปขอให้รักแม่มาก ๆ ก็พอแล้ว อันนี้เราพูดกับสามีเรานะคะ ไม่ได้พูดกับเตี่ย
ตกบ่ายลุงเรารับอาสาพาเตี่ยส่งกลับบ้าน เราจ่ายไป 3000.- ลุงบอกว่า เตี่ยไม่ได้ด่าอะไรเรานะ บ่นแต่ว่าเราขังเขาเหมือนหมา แถมมาบ้านเราไม่ได้ใช้เงินซักบาท อยากกินอะไรเราซื้อให้หมดแต่ไม่ให้ออกไปนอกบ้านแค่นั้นเองค่ะ
ตกวันรุ่งขึ้น เราโทร.หาแม่ ถามว่าเตี่ยเป็นไงมั่ง แม่โดนเตี่ยด่าอยู่อีกรึเปล่า แม่บอกว่า ผิดคาด นอกจากเตี่ยไม่ด่าแล้ว ยังพูดดีกับแม่ด้วย ผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย แล้วถามว่าเราไปทำยังไงเตี่ยถึงเปลี่ยนไป แต่ยังไง แม่ก็ขอบใจลูกมาก ที่ช่วยแม่ ทำให้เตี่ยดีขึ้นขนาดนี้ เราก็บอกว่าเราไม่รับรองนะว่าเขาจะดีตลอดไป เพราะเตี่ยเรานิสัยแบบนี้มาหลายสิบปี ถ้าจะแก้ให้ดีตลอดไปคงยาก
นี่ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว เตี่ยเรายังไม่แสดงอาการเกรี้ยวกราดด่าทอแม่เราเลย ทุกครั้งที่โทร.หาแม่ น้ำเสียงแม่ดูมีความสุขมากค่ะ
แสดงว่าที่เราอดทนพูดกับเตี่ย พยายามชี้แจงเหตุผลต่าง ๆ นาๆ ให้เตี่ยฟัง แล้วสามารถปรับพฤติกรรมเขาได้ขนาดนี้ ก็ไม่ถือว่าเสียแรงเปล่าจริง ๆ
วิธีการของเราอาจดูโหดร้ายสำหรับลูก ๆ หลาย ๆ ท่านในนี้ แต่มันก็ได้ผลสำหรับพ่อเราค่ะ
จากคุณ |
:
เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ย. 55 16:05:53
|
|
|
|