ความคิดเห็นที่ 1 เอกสารชุดนี้จัดทำเสร็จในช่วงเดือน กค. 2555 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ ถ้าใครแวะเข้าไปเว็บไซต์ของมูลนิธิน่าจะได้เห็นแล้ว ^^ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:32:13

ความคิดเห็นที่ 2 เขื่อนถาวรก็คือป่าไม้นี่เองครับ การตัดต้นไม้เพื่อสร้างเขื่อนคอนกรีต ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:37:12

ความคิดเห็นที่ 3 เขื่อนแม่วงก์ อยู่ที่ไหน หลายคนคงสงสัย ที่ตั้งสำหรับทำการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้นคือ การสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำแม่วงก์ บริเวณเขาสบกก ตำบลแม่เลย์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ จุดถ่ายภาพคือ: แก่งลานนกยูง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์. ที่มาของภาพ : Facebook ของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ ** แก้ไขคำผิด และเรียบเรียงคำใหม่ แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:19:36 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:39:33

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะคุณน้าอ๊อด ยินดีต้อนสู่ป่าผืนใหญ่ของไทยค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:40:15

ความคิดเห็นที่ 5 ประวัติความเป็นมา ของเขื่อนแม่วงก์ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ - พ.ศ. 2525 (กรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 200 ปี) กรมชลประทานริเริ่มโครงการ เพื่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ - พ.ศ. 2537 มติที่ประชุม คชก. (คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ) มีความเห็นให้กรมชลประทานศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมบริเวณเขาชนกัน เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงกว่าเขาสบกก - พ.ศ. 2540 กรมชลประทานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมตามมติ คชก. (คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ) - 23 มกราคม 2541 มติที่ประชุม คชก. (คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ) ครั้งที่ 1/2541 "ไม่เห็นชอบกับการดำเนินการโครงการเขื่อนแม่วงก์" - พ.ศ. 2543 มีการทำประชาพิจารณ์โครงการเขื่อนแม่วงก์ - พ.ศ. 2545 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติครั้งที่ 3 ยังไม่เห็นชอบต่อรายงานการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้กรมชลประทานหาทางเลือกของที่ตั้งโครงการ และศึกษาเพิ่มเติมการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบในลักษณะบูรณาการ - 10 เมษายน 2555 มีมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบในหลักการให้ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 13,280 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 8 ปี โดยผูกพันงบประมาณถึงปีงบประมาณ 2562 จุดถ่ายภาพคือ: แก่งลานนกยูง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์. ที่มาของภาพ : Facebook ของอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภ ** แก้ไขคำผิด   แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:23:20 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 16:50:00

ความคิดเห็นที่ 6 มาดูข้อมูลเบื้องต้น ของเขื่อนแม่วงก์กันค่ะ ลักษณะ: เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว ขนาดใหญ่ ความยาว 730 เมตร กว้าง 10 เมตร สูง 57 เมตร ความจุของอ่างเก็บน้ำสูงสุด: 262 ล้าน ลบ.ม. ความจุของอ่างเก็บน้ำปกติ: 258 ล้าน ลบ.ม. ความจุใช้งาน: 230 ล้าน ลบ.ม. ** แก้ไขคำผิด   แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:24:55 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:01:00

ความคิดเห็นที่ 7 แม่วงก์ ผมเริ่มหักดูนกที่นี้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ และก็กลับเข้าไปดูนกอีกหลายครั้ง (เบื่อตัวคุ่น) โดยเฉพาะที่นี่มีนกเงือกคอแดง และนกหายากอีกหลายชนิด ก็เสียดายหากมีการตัดต้นไม้เพื่อจะสร้างเขื่อน คสล. ซึ่งผมมองว่าได้ไม่คุ้มเสีย สัตว์ป่า และ พรรณไม้ต่างก็ต้องหมดไป สูญไปอย่างมากแน่นอน จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:04:52

ความคิดเห็นที่ 8 เหตุผลที่ต้องคัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ เหตุผลด้านนิเวศ:   1. ทำลายป่าต้นน้ำ   2. อาจเกิดการลักลอบตัดไม้ริมอ่างเก็บน้ำ ที่ยากต่อการควบคุม   3. เร่งให้เกิดการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกยูง เสือโคร่ง ฯลฯ   4. สูญเสียแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่า   5. ทำลายโอกาสการฟื้นฟูของอุทยาน   6. ส่งผลการทบต่อป่ามรดกโลก ทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง   7. ระบบนิเวศถูกคุกคาม   8. ง่ายต่อการลักลอบล่าสัตว์ป่า เหตุผลด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม   1. เขื่อนมีขนาดเล็ก ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน   2. เขื่อนไม่แก้ปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง   3. ทำลายแหล่งธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม   4. ทำลายความเชื่อมั่นด้านสิ่งแวดล้อมของไทย   5. เป็นช่องทางให้โครงการพัฒนาขนาดใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ** แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:28:10 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:08:45

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยกับน้าอ๊อดค่ะ รู้สึกแย่มาก จนทนไม่ไหว ต้องนำข้อมูลมาเผยแพร่ค่ะ อยากให้ทุกคนได้ทราบ ว่าประเทศเรากำลังทำอะไรอยู่ ผลดีผลเสียเป็นอย่างไรค่ะ ขออีกสักภาพนะคะ สำหรับ  แก่งลานนกยูง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์. จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:11:41

ความคิดเห็นที่ 10 มาดูบริเวณที่เป็นที่ตั้งของป่าตะวันของไทย หรือคิดเป็นพื้นทีประมาณ 5% ของเนื้อที่ทั้งหมดของประเทศไทย ซึ่งที่ตั้งของเขื่อนแม่วงก์จะอยู่ภายในวงกลมของภาพค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:16:49

ความคิดเห็นที่ 11 ตัดไม้ทำลายป่า เวลาแล้ง แล้งจัด เวลาฝนมา ทำท่วม ตัดไม้ทำลายป่า ฝนแล้ง น้ำ ท่วม มันก็จะวนเวียนแบบนี้แหละครับ ..... เขื่อนถาวร คือต้นไม้นี่แหละครับ มนุษย์นี่เลว ...... พยายามเอาชนะธรรมชาติ ด้วยการทำลาย .. การจะเอาชนะธรรมชาติได้ มีอย่างเดียว คือการ อนุรักษ์ รักษา จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:17:29

ความคิดเห็นที่ 12 นักการเมือง กรมป่าไม้ ทหารที่มีอิทธิพล พ่อค้านายทุน เลวๆ ควรหยุดได้แล้วครับ การลักลอบตัดไม้ การลักลอบขนไม้พยุง ออกจากป่า พวกมัน ควรเลิกได้แล้วครับ การตัดไม้ทำลายป่า ไม่เพียงแค่ ทำลายประเทศ ที่คุณอยู่ แต่มันทำลายโลก ทั้งใบ.... ภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ เลลนิโน่ มาจากการทำลายป่า ทั้งมวล จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:21:46

ความคิดเห็นที่ 13 จะเกิดอะไรขึ้น หากป่าแม่วงก์กลายเป็นอ่างเก็บน้ำ ของเขื่อนแม่วงก์ - บริเวณที่จะถูกน้ำท่วมคือป่าริมน้ำ และป่าที่ราบต่ำ ซึ่งต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 200 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง - แห่งที่อาศัยที่สำคัญที่สุดของสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เช่น ช้าง เสือ จะถูกน้ำท่วม - ป่าที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของป่าทั้งหดมจะถูกทำลาย ดังนั้น ... การสูญเสียป่าว 18 ตร.กม. หรือเพียง 2% อาจจะดูเล็กน้อยแต่เมื่อเทียบกับอวัยวะส่วนที่ว่านี้คือ "หัวใจ" ** แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:33:32 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:22:20

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีค่ะน้าลีโอ ที่พูดมานี่ถูกหมดเลย เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เห็นใจประเทศไทยเหลือเกิน สงสารสัตว์ป่าที่ถูกทำลายบ้าน คิดย้อนว่าหากตัวเองไม่มีบ้านอยู่ต้องทำอย่างไร เศร้าใจจริงๆ เลยค่ะ เห็นป่าที่สมบูรณ์มากๆ อย่างบริเวณเขื่อนแม่วงก์ อย่างภาพนี้ เห็นสีเขียวแล้วมีความสุขจริงๆ ค่ะ (แก่งลานนกยูง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์) จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:25:11

ความคิดเห็นที่ 15 ป่าแม่วงก์ เป็นส่วนหนึ่งของผื่นป่าตะวันตก ซึ่งป่าตะวันตกของไทยประกอบด้วยป่าอนุรักษ์ 17 ผืน (ซึ่งป่าแม่วงก์ คือ 1 ใน 17 ผืนของป่าตะวันตกค่ะ) ซึ่งต่อเนื่องกันเป็นป่าผืนใหญ่ ถึง 11.7 ล้านไร่ เป็นผืนป่าใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีขนาดใหญ่พอที่จะเป็นบ้านของสัตว์นานาชนิด เช่น เสื้อโคร่ง ช้าง กระทิง วัวแดง สมเสร็จ ควายป่า ฯลฯ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:38:36

ความคิดเห็นที่ 16 ป่าแม่วงก์ พื้นที่แห่งโอกาส จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:40:47

ความคิดเห็นที่ 17 ผลกระทบที่ไม่สามารถป้องกันได้ ระหว่างการก่อสร้างเขื่อนในระยะเวลา 8 ปี รวมทั้ง หลังจากการสร้างเขื่อนเสร็จด้วยค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:43:06

ความคิดเห็นที่ 18 การลงทุนสร้างเขื่อนแม่วงก์ ใช้งบประมาณ 13,280 ล้านบาท แต่ความจุของอ่างเก็บน้ำ สามารถกักเก็บน้ำได้เพียง 1% ของปริมาณน้ำท่วมลุ่มน้ำภาคกลางในปี 2554 (ปีที่แล้ว) มันคุ้มค่ากับการลงทุนแล้วหรือ ???? จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:48:00

ความคิดเห็นที่ 19 เขื่อนแม่วงก์ ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วม ในอำเภอลาดยาว และอำเภอสว่างอารมณ์ได้ น้ำจากลำน้ำแม่วงก์ที่เขาสบกก ซึ่งท่วม อำเภอลาดยาว คิดเป็น 10-20% แล้วน้ำที่เหลืออีก 80% ที่ท่วมมาจากไหน ???? จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:53:42

ความคิดเห็นที่ 20 สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วม เกิดจากน้ำไม่สามารถไหลผ่านได้สะดวก, ถนนที่ขวางกั้นท่อระบายน้ำ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 17:59:09

ความคิดเห็นที่ 21 การทำเกษตรเชิงเดี่ยว คือการปลูกพืชชนิดเดียวกัน ในพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยเป็นพืชประเภทอายุสั้น ทำให้รากไม่ลึก ไม่สามารถอุ้มดินได้ เมื่อเวลาฝนตกจึงทำให้เกิดการชะล้างหน้าดินสูง และเป็นส่วนหนึ่งทำให้เกิดน้ำท่วม จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:07:21

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อสร้างเขื่อนแล้ว ปริมาณน้ำท่วมบริเวณอำเภอลาดยาวลดลงไม่ถึง 30% จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:11:04

ความคิดเห็นที่ 23 ใครได้น้ำสำหรับฤดูแล้งเท่าไหร่ จากเขื่อนแม่วงก์ มาดูกันเลยค่ะ 1. อำเภอขาณุวรลักษบุรี ได้ 2% คิดเป็น 5,838 ไร่ 2. อำเภอเมืองนครสวรรค์ ได้ 9% คิดเป็น 26,271 ไร่ 3. อำเภอสว่างอารมณ์ ได้ 3.5% คิดเป็น 10,216.5 ไร่ 4. อำเภอแม่วงก์ ได้ 15% คิดเป็น 43,785 ไร่ 5. อำเภอลาดยาว ได้ 70.5% คิดเป็น 205,789.5 ไร่ ซึ่งเป็นอำเภอที่ได้รับน้ำมากที่สุด จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:15:48

ความคิดเห็นที่ 24 มาดูตัวอย่างเขื่อนที่ทับเสลากันค่ะ ที่อ่างเก็บน้ำในเขื่อนทับเสลา ตอนที่สร้างมีวัตุประสงค์ และสามารถใช้งานได้จริงดังนี้ - เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำ - ปกติเขื่อนทับเสลากักเก็บน้ำได้ 160 ล้าน ลบ.ม. - ในปัจจุบัน ปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 42.46 ล้าน ลบ.ม. - โดยปริมาณที่สามารถใช้น้ำได้จริง มีเพียง 25.46 ล้าน ลบ.ม. - ซึ่งในปริมาณน้ำดังกล่าว (25.46 ล้าน ลบ.ม.) จะได้เป็นพื้นที่เขตชลประทานการเกษตรได้ 12,000 ไร่ เท่ากับพื้นที่บ้านเพชรน้ำผึ้ง และพื้นที่บ้านประดู่บางส่วน มาดูพื้นที่ชลประทานในพื้นที่ต่างๆ ของเขื่อนทับเสลากันค่ะ - พื้นที่ชลประทานบ้านเพชรน้ำผึ้ง เป็นพื้นที่ชุมชนจัดสรรที่ดินและน้ำตามโครงการ "ที่ได้น้ำตลอดทั้งปี" จำนวน 4,500 ไร่ - พื้นที่ชลประทานตำบลประดู่ยืน อำเภอลานสัก จำนวน 6,000 ไร่ และ 15,000 ไร่ (ตามภาพ) - พื้นที่ชลประทานอำเภอหนองฉาง และอำเภอทัพทัน จำนวน 88,000 ไร่ - พื้นที่ชลประทานตำบลเขากวางทอง อำเภอหนองฉาง จำนวน 30,000 ไร่ * ข้อมูลอ้างอิงระดับน้ำจาก ฝ่ายทับเสลา ประจำวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 * อ้างอิงข้อมูบการใช้น้ำในการทำนาของเกษตรกรบ้านแม่น้ำน้อย ตำบลลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ (1 ไร่ : 2,000 คิว) * แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กรมชลประทานที่รับผิดชอบฝ่ายทับเสลาแจ้งว่าประตูระบายน้ำทับเสลาไม่ได้เปิดมาตั้งแต่เดือน พฤษจิกายน 2554 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:40:58

ความคิดเห็นที่ 25 ปริมาณน้ำที่ใช้ในพื้นที่ชลประทานเขื่อนทับเสลา และปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 255 (ล้าน ลบ.ม.) จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:43:58

ความคิดเห็นที่ 26 มาดูปัญหาที่ซ่อนจากการสร้างเขื่อนแม่วงก์กันบ้างค่ะ 1. พื้นที่ชลประทานระบบท่อสูงอยู่ที่ไหน 2. พื้นที่เป็นของใคร 3. ค่าใช้จ่ายในการสูบน้ำ ค่าไฟ ใครเป็นคนจ่าย 4. และใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จากน้ำที่แท้จริง จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:47:48

ความคิดเห็นที่ 27 การสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้น จำเป็นต้องมีการเวนคืนที่ดิน จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:50:48

ความคิดเห็นที่ 28 เสร็จแล้วข้อแชร์กระทู้ครับ เอาไปส่งต่อกัน บางทีก็น่าเหนื่อยนะครับที่มนุษย์มัวแต่คิดว่าตัวเองเดือดร้อนแล้วต้องทำทุกอย่างให้ตัวเองหายเดือดร้อนไม่ว่าจะทำลายสิ่งอื่นเท่าไร ขออ้างทุกครั้งที่พูดกันพวกคุณไม่เจอผลกระทบก็พูดได้สิ ก็อยากบอกว่าพกกรูก็โดนอยุ่นี่ไง ของแพง อากาศร้อน หนาว สับสน ไม่ตรงฤดู มันไม่ใช่ผลกระทบที่พวกตรูเจอจากการหาประโยชน์และต่อต้านธรรมชาติแบบไร้ความคิดหรอกรึ จากคุณ : et009 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:51:03

ความคิดเห็นที่ 29 เกี่ยวกับการเวนคืนที่ดิน (ต่อ) จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:52:47

ความคิดเห็นที่ 30 สวัสดีค่ะ et009 รู้สึกยินดีมากๆ เลยค่ะ ที่ตั้งใจ Capture ทีละหน้า โทรศัพท์ถาม อ.ศศิน และพี่บอย (รองเลขาธิการมูลนิธิ) หลายๆ รอบเพราะอยากได้ภาษาที่เข้าใจง่าย และอยากจะสื่อความให้ทุกคนรู้ค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:58:07

ความคิดเห็นที่ 31 เนื่องจากเขื่อนแม่วงก์ เป็นเขื่อนขนาดเล็ก ทำชาวนาในพื้นที่ชลประทาน จำเป็นต้องสูบน้ำเพื่อไปใช้ในนาของตัวเอง ** แก้ไขคำผิด   แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:41:07 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 18:59:47

ความคิดเห็นที่ 32 เนื่องจากในระบบชลประทานในฤดูแล้ง ไม่ได้ระบุว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลประโยชน์ ซึ่งทำให้เกิดความเหลือมล้ำ และการใช้อำนาจของผู้เป็นใหญ่ในพื้นที่ ที่จะดึงน้ำเข้าพื้นที่ตัวเองก่อน (อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเศร้ามากๆ เลยค่ะ) จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:02:58

ความคิดเห็นที่ 33 คราวนี้มาดูทางออกกันค่ะ ถ้าหากประเทศไทย ไม่มีเขื่อนแม่วงก์ ไม่ต้องสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ สัตว์ป่า รวมทั้งเงินซึ่งควรเรียกว่าหนี้มากกว่า เพราะว่าตอนนี้ประเทศเราเงินงบประมาณไม่พอใช้ ต้องไปเป็นหนี้โดยการยืมมา มาดูตัวอย่างการจัดการน้ำ ระดับบุคคลธรรมดา 1. สร้างคันดินสูง 4 เมตรรอบพื้นที่นาเพื่อกันน้ำ 2. ปลูกกล้วยบริเวณคันนา เพื่อเป็นรายได้เสริม 3. สร้างบ่อพักน้ำ เพื่อหมุนเวียนใช้ในนา และเลี้ยงปลาเพื่อเป็นรายได้เสริม 4. มีโรงปุ๋ยคอก และโรงปุ๋ยน้ำชีวภาพ 5. มีระบบสูบน้ำและส่งน้ำบาดาล 6. มีระบบชลประทานน้ำบาดาล เข้าสู่ที่นา 7. เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพื่อบริโภคในครัวเรือน และเป็นรายได้เสริม ** แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 24 ก.ย. 55 11:43:02 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:10:26

ความคิดเห็นที่ 34 คราวนี้ มาดูทางออกของการจัดการน้ำ ในระดับที่ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด คือระดับชุมชนค่ะ จากในภาพ 1. เราจะเห็นเขาแม่กระทู้ แล้วมีการสร้างฝายเก็บน้ำขนาดเล็ก จำนวน 3 จุด หลังจากนั้นก็จะพบอ่างเก็บน้ำที่ 1 2. ระหว่างทางที่ระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำที่ 1 เราก็สามารถส่งน้ำไปยังที่นาของชาวบ้านได้ และน้ำที่เหลือเรายังจะสร้างอ่างเก็บน้ำที่ 2 ที่จะไหลกระจายให้กับชาวนาได้อีก สร้างที่เลี้ยงปลา ก่อนที่จะไหลมารวมเป็น "แม่น้ำแม่วงก์" 3. ระบบประปาหมู่บ้าน ก็ได้มาจากน้ำที่เกิดจากเขาแม่กระทู้เช่นเดียวกัน สามารถมาใช้ประโยชน์ในหมู่บ้านและชุมชน สร้างรายได้จากการทำเกษตร และการเลี้ยงสัตว์ 4. สร้างกองทุนหมู่บ้าน, กองทุนอาหารกลางวัน, กองทุนครู, กองทุนสาธารณะต่างๆ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:17:15

ความคิดเห็นที่ 35 มาดูส่วนที่ใหญ่ขึ้นไปอีกค่ะ คราวนี้เป็นตัวอย่างการจัดการน้ำในระดับตำบล ในภาพหมายถึงพื้นที่ ตำบลหนองหลวง อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี - มีอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง - มีการพัฒนาแหล่งน้ำในระดับตำบล โดยการสนับสนุนจากภาครัฐ - พัฒนาแม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง ที่มีอยู่ และขุดสระน้ำเพิ่มเติม - มีการสร้างฝายชะลอน้ำ และโครงการสูบน้ำ - มีการสนับสนุนบ่อบาดาลคันโยก และระบบประปาชุมชน - มีแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงต่อต่อการทำเกษตรในระยะเวลา 3 ปี (2556 - 2558) - ใน Model นี้มีความเพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และพอสมควรกับพื้นที่นาขนาด 12,000 กว่าไร่ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:22:25

ความคิดเห็นที่ 36 และมาถึงตรงนี้ นี่คือแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน "วาระน่าน - โครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ จังหวัดนาน" โครงการปิดทองหลังพระจังหวัดน่าน มีการพัฒนาและบริหารจัดการแหล่งน้ำ ปรับปรุงปัจจัยการผลิตพื้นฐาน ได้แก่ ดิน น้ำ และเมล็ดพันธุ์ โดยก่อสร้างระบบกระจายน้ำเข้าสู่แปลงเกษตร รวมทั้งฝายต้นน้ำ ฝ่ายชะลอน้ำ และจัดหาแหล่งใหม่เพิ่มเติม จากภาพ 1. จะมีฝายหลักของหมู่บ้าน ที่อยู่บนภูเขา 2. เมื่อน้ำล้นมาจากฝายก็จะมีถังน้ำเพื่อกักเก็บน้ำสำหรับใช้ในหมู่บ้าน 3. มีโรงเลี้ยงสัตว์ และบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งใช้น้ำที่ได้มาจากฝาย และสร้างเป็นอ่างเพื่อพวงใช้ในการเกษตรอีกด้วย 4. และท้ายที่สุด น้ำก็จะถูกนำไปใช้ในนา เพื่อการเพาะปลูก และการเกษตร จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:28:14

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่มีเขื่อน เราก็อยู่ได้ และอยู่ได้ดี เพราะ 1. เรามีป่าบนเขาชนกัน ที่ผลิตสายน้ำให้ตลอดปีอีก 10 สาย ที่จัดการได้ตามแบบธารมะยม Model และ หนองหลวง Model 2. เรามีน้ำใต้ดินทั้งที่อยู่ลึกเพียง 3 เมตร และลึกกว่านั้นที่อาจพัฒนาเป็นสระน้ำประจำไร่นาตามแบบศาลเจ้าไก่ต่อ Model 3. หลายพื้นที่อาจพัฒนาระบบอ่างเก็บน้ำหลัก และอ่างพวง ตามแบบปิดทองหลังพระ Model (โดยการจัดการน้ำอย่างหยั่งยืนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) 4. แม้ลำน้ำแม่วงก์นอกอุทยานเองก็อาจพัฒนาเป็นที่เก็บน้ำตลอดลำน้ำโดยปรับปรุงฝายเดิมที่เสียหาย และสร้างเพิ่มตามบริเวณที่เหมาะสม จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:32:46

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่มีเขื่อน เราก็อยู่ได้ และอยู่ได้ดี เพราะ 5. แทนที่จะใช้เงิน 13,280 ล้านบาท เพื่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ (ให้เป็นหนี้ เป็นสิน) ในป่าที่สมบูรณ์ และสร้างคลองชลประทานคอนกรีตอีก 500 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณสำหรับ 23 ตำบล ตำบลละ 200 บ้านบ้าน รวม 4,600 ล้านบาท (ประมาณ 1 ใน 3 ของงบประมาณสร้างเขื่อนแม่วงก์) แล้วหาทางพัฒนาแหล่งน้ำโดยชาวบ้านแต่ละตำบลเป็นเจ้าของเรื่อง โดยให้ทางราชการเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการ 6. ใช้โครงการต้นแบบ ราษฏรและข้าราชการร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยไม่ต้องทำลายป่าเพื่อสร้างเขื่อน 7. ขยายพื้นที่มรดกโลก ทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง โดยรวมอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อุทยานแห่งชาติคลองลาน และทั้งผืนป่าตะวันตกเข้าไปด้วย จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:37:52

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพนี้โดนใจมากเป็นพิเศษ สำหรับเรา จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:39:28

ความคิดเห็นที่ 40 Credit: ที่มาของข้อมูล อ.ศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิ ที่แนะนำข้อมูลชุดนี้ให้เราอ่าน รวมถึงให้คำปรึกษา และขอบคุณภาณุเดช เกิดมะลิ รองเลขาธิการมูลนิธิด้วยค่ะ ที่ให้คำปรึกษา เรื่องดินน้ำ การเพาะปลูก เพื่อนำมาขยายความ Link: สำหรับ Download: http://www.seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=864:seubnews&catid=5:2009-10-07-10-58-20&Itemid=14 ลงชื่อคัดค้านเขื่อนแม่วงก์กันได้ที่นี่ค่ะ: https://docs.google.com/spreadsheet/embeddedform?formkey=dFRiXzJmRExPY2lENU5UM2NiRUZKWUE6MQ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:45:18

ความคิดเห็นที่ 41 ช่วงท้ายนี้ เราขอปิดท้ายด้วยภาพธรรมชาติสวยๆ จุดที่จะเป็นสันเขื่อนแม่วงก์ค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:46:54

ความคิดเห็นที่ 42 มันจะต้องถูกน้ำท่วม >< จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:47:36

ความคิดเห็นที่ 43 มันคืออะไร แต่สวยดี จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:48:15

ความคิดเห็นที่ 44 งดงามจริงๆ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:48:58

ความคิดเห็นที่ 45 :) จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:49:43

ความคิดเห็นที่ 46 มีคำถาม หรือข้อสงสัยอะไร ทิ้งไว้นะคะ ^__________^ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 19:50:42

ความคิดเห็นที่ 47 ปลอดจะเอา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 20:56:34

ความคิดเห็นที่ 48 แล้วคนพื้นที่ว่ายังไงกับโครงการนี้..? แล้วเหตุผลของรัฐที่จะสร้าง...? ขอบคุณครับ ปล.ดูจากรูปเป็นพื้นป่าที่สมบูรณ์จริงๆ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 55 22:00:10 จากคุณ : เด็กวัดจันทร์ เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 21:58:16

ความคิดเห็นที่ 49 เคยไปเที่ยวและคุยกับเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าอุทยานฯแม่วงค์ เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแล้วในเมืองไทย เชื่อมต่อกับอุทยานอื่น ๆ กว้างมาก ๆ  สำหรับผมคงเสียดายมากถ้าจะไปทำเขื่อน และกลัวเรื่องผลประโยชน์อย่างอื่นมากว่าของประเทศ จากคุณ : นครกรณ์แก้ว เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 55 22:21:22

ความคิดเห็นที่ 50 ครับ เวลาน้ำท่วมก็อย่าออกมาโวยวายกันเยอะๆสิครับ สงบเสงี่ยมเจียมตัวบ้างน้อ คนที่โดนน้ำท่วมน่ะ ตอนนี้ ชาวบ้านกำลังสร้างเขื่อนที่อยู่กับเราได้ชั่วชีวิตอยู่ ผมเห็นด้วยนะ ว่า ไม่มีป่า ก็ไม่มีน้ำ แต่ จากประวัติศาสตร์ที่เราเรียนรู้มา เราไม่เคยรักษาป่าไว้ได้เลยครับ ประเทศไทยเราสูญเสียพื้นที่ป่าไม้มาโดยตลอด แม้จะปิดสัมปทานป่าไม้ไปแล้วก็ตาม พื้นที่ป่าไม่เพิ่มขึ้น มีแต่จะลดลง คนปลูก มันมีน้อยกว่าคนทำลายครับ ปลูกไม่ทันด้วย ปลูก ๒๐ ปี ตัด ๒ นาที ก็ต้องชั่งน้ำหนักครับ ว่า อะไรคุ้มค่ากว่ากัน ไม่มีทางเลือกไหนดีที่สุดครับ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง ปล. เมืองไทยปัจจุบัน จะสร้างเขื่อนได้ ต้องฟ้าประทานครับ อยู่อย่างเขื่อนป่าสัก ถ้าไม่มีพระองค์ท่าน สร้างไม่ได้หรอกครับเขื่อนนั้น จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 10:15:04

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีค่ะคุณLUCKPOWERRICH ขอยิ้มกว้างๆ ให้กับ comment นะคะ พร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลพราก T_T สวัสดีค่ะคุณเด็กวัดจันทร์ เดี๋ยวจะเร่งหาข้อมูลมาตอบให้นะคะ สวัสดีค่ะคุณนครกรณ์แก้ว ค่ะป่าแม่วงก์เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์มากจริงๆ สวัสดีค่ะคุณ Iceman เนื่องจากเขื่อนป่าสักเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ และสามารถกักเก็บน้ำได้ค่อนข้างมาก สามารถช่วยในเรื่องน้ำท่วมได้จริงค่ะ แต่สำหรับเขื่อนเล็กๆ อย่างเขื่อนแม่วงก์ จากข้อมูลข้างต้นก็เห็นแล้วว่าเราเสียเงินไปมากมายกว่าประโยชน์ที่ได้รับจริงๆ เลยค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 11:49:51

ความคิดเห็นที่ 52 โอกาสถลุงเงินภาษีเราอีกแล้วครับท่าน !! จากคุณ : เขียนบน 3310 เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 13:15:02 A:49.48.122.27 X: TicketID:339615

ความคิดเห็นที่ 53 แทนที่จะมาคัดค้านการสร้างเขื่อนอย่างเดียว ผมว่าทางกลุ่มน่าจะทำอะไรให้เป็นรูปธรรมในการรักษา ป่าเอาไว้นะครับ  เช่นจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครมาดูแล พวกลักลอบตัดไม้  หรือไปปลูกป่าเพิ่มเติม เพราะถึงเขื่อนไม่ได้สร้าง ผมก็เห็นป่าไม้ถูกทำลายลงไป ทุกวัน จากคุณ : P and P เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 55 17:03:04

ความคิดเห็นที่ 54 ผมไม่เคยคิดว่าเขื่อนไม่ดี จะสร้างแก้มลิง หรือ เขื่อนก็ได้ แค่ไม่ทำลายที่มีอยู่น้อยนิดก็พอเเล้ว ใครอยากให้สร้างเขื่อนก็ลองช่วยบริจาคที่ส่วนตัวส้รางดูสิครับ...เท่ดี จากคุณ : Taewada เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 10:15:42

ความคิดเห็นที่ 55 บวกและลบสิ่งที่จะได้กับสิ่งที่จะต้องเสีย ก็เห็นๆกันอยู่ว่ายังไงก็ไม่คุ้มแน่นอน แล้วคนที่พากันชงเรื่องจะสร้างๆ เขามองเห็นป่าบ้างไหมนะ หรือมองเห็นแต่เม็ดเงินหมื่นล้านอย่างเดียว เสียดายผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ "ป่าดีน้ำอุดม ป่าล้มน้ำเหือดหาย" จากคุณ : 1-2-3 เริ่ม (p40035) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 12:32:38

ความคิดเห็นที่ 56 ห้ามสร้างเด็ดขาด ต้องเก็บป่าไม้ไว้ให้พวกมอดไม้กับพวกค้าสัตว์เท่านั้น น้ำท่วมช่างหัวมันพวกเราคนดีศรีไทยแลนด์ขอต่อต้านเขื่อนและแสดงพลังในเน๊ตอย่างสุดหัวใจ เพียงแค่พร้อมใจกันกดไลค์แอนด์แชร์รัวๆๆๆ จากคุณ : agios เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 14:52:17

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีค่ะคุณเขียนบน 3310 ขอแสดงความคิดเห็นด้วยน้ำตาก็แล้วกัน Y_Y พร้อมกับยืนไว้อาลัยค่ะ สวัสดีค่ะคุณ P and P คือทางมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เรามีโครงการจอมป่าค่ะ เดี๋ยวเราขอปรึกษากับท่านอาจารย์ศศิน เฉลิมลาภก่อนนะคะ ว่าจะเล่าในมุมมองไหนดี ซึ่งโครงการนี้ ทางมูลนิธิจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และชาวบ้านในชุมชน เพื่อช่วยป้องกันและดูแลป่าไม้ รวมถึงสัตว์ป่าด้วยค่ะ ^__________^ (เป็นโครงการที่น่ารักมากๆ) สวัสดีค่ะคุณTaewada เนื่องจากเขื่อนแม่วงก์มีการเวนคืนที่ดินด้วย คงต้องมีที่ของชาวบ้านส่วนหนึ่งด้วยค่ะ นอกจากพื้นที่ที่เป็นบ้านของสัตว์ป่า เรามีความคิดเห็นว่าไม่มีการได้จากสิ่งไหนไม่สูญเสียหรอกค่ะ แต่เราจำเป็นต้องวัดและเลือกว่าสิ่งไหนคุ้มค่ากับการสูญเสียมากกว่ากัน สวัสดีค่ะคุณ 1-2-3 เริ่ม (p40035) เม็ดเงินไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าสำคัญแค่ไหน แต่จากข้อมูลที่เรามี เราค้นพบว่าเมื่อ 3 ปีก่อน งบประมาณที่ใช้สร้างเขื่อนแม่วงก์อยู่ที่ 7 พันกว่าล้านบาท เพียง 3 ปีถัดมา งบประมาณที่ใช้สร้างเพิ่มเป็น 13,280 ล้านบาท (เกือบ 100%) กำลังสงสัยว่าข้าวแกงที่กินอยู่ทุกวันก็แพงขึ้นจาก 3 ปีก่อนไม่มาก แต่ทำไมการสร้างเขื่อนถึงแพงขึ้นเกือบเท่าตัวก็ไม่รู้ค่ะ สวัสดีค่ะคุณ agios นอกจากกดแชร์ แสดงความคิดเห็นใน Internet เราสามารถร่วมเป็นพลังในการคัดค้านด้วยการลงชื่อ ตามระบบประชาธิปไตยของไทยได้ค่ะ โดยเข้าไปที่ Link นี้แล้วลงชื่อค่ะ (กรณีที่เห็นด้วยกับการคัดค้าน) https://docs.google.com/spreadsheet/embeddedform?formkey=dFRiXzJmRExPY2lENU5UM2NiRUZKWUE6MQ คุณเด็กวัดจันทร์ค่ะ ขอโทษด้วยที่ตอบข้อมูลล่าช้า ตอนนี้ยังรอข้อมูลที่เป็นรูปธรรมอยู่ค่ะ แต่ว่าเท่าที่ทราบมา ชาวบ้านในพื้นที่มีทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยค่ะ ส่วนความต้องการของรัฐบาล ก็คือการทำระบบชลประทาน ดูแลและจัดการน้ำ เพื่อลดปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้งค่ะ ** แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 55 15:37:15 แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 55 15:34:14 จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 15:30:14

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ จากคุณ : ลานีญ่า เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 15:54:38

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องผลดีผลเสียคงไม่ขอคุยแล้วครับจุดหมายและการมองภาพของผู้ค้านและผู้สนับสนุนชัดแจ้งอยู่ในตัวอยู่แล้ว แต่ผมอยากฝากถามไปทางมูลนิธิสืบหน่อยครับหากเขื่อนแม่วงก์ตกไปแล้วมีโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ขึ้นมาแทนทางมูลนิธิยังจะคัดค้านอีกหรือไม่ หรือยังจะมองอ่างเก็บน้ำเป็นภัยร้ายแบบอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ ผมอยากได้คำตอบแค่นี้จริง ๆ แก้ไขเมื่อ 25 ก.ย. 55 16:02:06 จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 16:01:31

ความคิดเห็นที่ 60 มันมีสองความเห็น   คนอยากได้คือ คนในพื้นที่โดนน้ำท่วม ประจำ คนไม่อยากได้ คือ คนนอกพื้นที่  ที่อยากเห็นป่าไม้ จากคุณ : หัวเวียงใต้ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 16:19:22

ความคิดเห็นที่ 61 ความคิดเห็นที่ 60     มันมีสองความเห็น   คนอยากได้คือ คนในพื้นที่โดนน้ำท่วม ประจำ คนไม่อยากได้ คือ คนนอกพื้นที่  ที่อยากเห็นป่าไม้ จากคุณ : หัวเวียงใต้ +++++++++++++++++++++++++++++++++ ฝนแล้ง... น้ำท่วม มันก็จะลาม ไปเรื่อยๆ ครับ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 17:30:50

ความคิดเห็นที่ 62 น้ำท่วมแก้ได้ง่าย ถ้าแก้ถูกจุดและร่วมมือทุกฝ่าย แต่.... ป่าไม้ ตัดไปแล้วอีกกี่สิบปี จะได้มันกลับมา ทำลายป่า ง่ายกว่าปลูกป่าเยอะ เราไปสร้างบ้านเรือนผิดธรรมชาติไทย หรือเปล่า..... บ้านเรือนคนไทยมันควรเป็นไง ย้อนไปสัก ร้อยปีสิ จะแลกป่าแค่น้ำไม่ท่วมนี้เองหรอ...  คนเก่งในประเทศมีเยอะเขาแก้ได้หรอกมั้งไม่ต้องถึงกับสร้างเขื่อนหรอก จากคุณ : พิซซ่ากับอาเจ เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 22:02:44

ความคิดเห็นที่ 63 ถ้าชาวบ้านในพื้นที่ไม่รวมตัวกัน จะหวังพึ่งกระแสสังคมในเน็ตอย่างเดียว แบบนี้มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีทางชนะครับ ส่วนตัวผมมองว่าชาวบ้านต้องรวมตัวกันบีบผู้แทนของตัวเองให้ออกมาทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้เค้าครับ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็ทำใจเห็นบ้านตัวเองกลายเป็นเขื่อนไปเถอะ ถ้าครั้งนี้ชาวบ้านอาศัยกำลังของคนอื่นในการรักษาป่า วันหน้าเวลานักการเมืองมันจะเอาให้ได้ชาวบ้านก็ต้องพึ่งกำลังของคนอื่นอยู่เรื่อยไป วันไหนกระแสตกก็เสร็จครับ จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 55 23:47:40

ความคิดเห็นที่ 64 สวัสดีค่ะคุณลานีญ่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะ ^______^ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 10:21:50

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีค่ะคุณ DraGo ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าเราเป็นสาวแบงก์ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับมูลนิธิสืบหรอกค่ะ เพียงแต่เรามีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์ศศิน และทราบเกี่ยวกับพันธะกิจของมูลนิธิ เราซึ่งเป็นคนนอก ถ้าเอามาเผยแพร่ น่าจะช่วยได้ระดับหนึ่ง (รึเปล่า?) แต่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นการปลูกจิตสำนึกว่าผลการสำรวจเป็นอย่างไร ให้ทุกคนได้รับทราบค่ะ เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ กับเขื่อนนั้น ในมุมมองของเรา เราคิดว่ามันคือเรื่องเดียวกัน แต่สิ่งที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรกำลังคัดค้าน คือการทำลายป่าไม้ บ้านของสัตว์ป่า ค่ะ โดยหากอ่างเก็บน้ำนั้นไม่ทำลายอะไรมากมาย เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ของประเทศ และเงินภาษีก้อนพร้อมหนี้สินของคนทั้งชาติมันก็โอเค ... สำหรับทางออกในการแก้ไขปัญหาก็มี Model ต่างๆ ตามความคิดเห็นที่ 33, 34, 35, 36 โดยเฉพาะความคิดเห็นที่ 36 เป็นการแสดงถึงพระอัฉริยะภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสร้าง Model แบบที่ธรรมชาติอยู่ได้ ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้ โดยไม่ทำลายกันและกันค่ะ ซึ่ง Model แบบนี้น่าจะเป็นทางออกที่เป็นธรรมที่สุดค่ะ สำหรับจุดที่เหมาะสมในการสร้างอ่างเก็บน้ำ ก็คือจุดที่เก็บน้ำได้จริงๆ ไม่เบียดเบียนธรรมชาติค่ะ และชาวบ้านทุกคนสามารถเป็นส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหานี้ และอีกอย่างน่าจะใช้เงินน้อยที่สุดแล้วอะคะ เมื่อเปรียบเทียบกับการสร้างเขื่อน จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 10:26:04

ความคิดเห็นที่ 66 สวัสดีค่ะคุณหัวเวียงใต้ เราต้องมาดูกันค่ะ ว่าดาบที่ว่ามีสองคมนั้น คมไหนเจ็บตัวมากกว่ากัน ซึ่งจากข้อมูลข้างต้น เราก็เห็นกันแล้วว่าการสูญเสียมีมากกว่าได้รับ 1. สูญเสียป่า 2. สุญเสียสัตว์ป่าที่หนีน้ำไม่ทันและจมน้ำ 3. ทำลายบ้านของสัตว์ป่า 4. ระบบนิเวศถูกทำลาย 5. หนี้สินที่เกิดขึ้นให้กับไทยทั้งชาติ (เราก็รู้กันดี ว่าประเทศเราใช้เงินมากๆ ในช่วงนี้ทำให้ต้องเป็นหนี้เป็นสินกัน) แต่ถ้าเราทำตาม Model โครงการปิดทองหลังพระ ตามความคิดเห็นที่ 36 เราเสียทุกอย่างน้อยกว่า แถมได้ผลประโยชน์ด้านการจัดการน้ำพอๆ กันค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 10:30:26

ความคิดเห็นที่ 67 น้าลีโอค่ะ ความคิดเห็นที่ 61 นี่โดนใจค่ะ สวัสดีค่ะคุณ พิซซ่ากับอาเจ ชอบความคิดเห็นของคุณมากๆ ค่ะ เราเห็นด้วยจริงๆ เราว่าคนไทยเก่งๆ มีมากมาย ถ้าร่วมใจกันแก้ปัญหา รู้จักฟังความคิดเห็น น่าจะมีทางออกที่ไม่เบียดเบียนธรรมชาติค่ะ สวัสดีค่ะคุณ sleeper_j ก็เป็นธรรมดาค่ะ ที่ชาวบ้านบางส่วนเห็นด้วย บางส่วนไม่เห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ เทียบเท่ากับหนี้ระดับชาติที่รัฐบาลกำลังหยัดเหยียดให้ เราคนไทยน่าจะมาร่วมกันแก้ปัญหาค่ะ การแสดงความคิดเห็นของทุกคนในนี้ เราจะรวบรวม และส่งต่อให้มูลนิธิจัดทำ และส่งต่อให้รัฐบาลอีกทีค่ะ (ถ้ามันใช้ได้) จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 10:36:22

ความคิดเห็นที่ 68 ใครบอกคะว่าคนที่อยากได้เป็นคนในพื้นที่ ขอยกตัวอย่างเขื่อนปากมูล จังหวัดอุบลราชธานี คนในพื้นที่ทำทุกวิถีทางเพื่อต่อต้านเขื่อนปากมูล แต่ไม่สำเร็จ ถามว่าเขื่อนนี้ป้องกันน้ำท่วมอุบลได้ไหม คำตอบคือไม่ได้คะ จุดไหนที่น้ำเคยท่วมก็ยังคงท่วมทุกปีซ้ำซาก ดิฉันในตอนนั้นยังเด็กมองด้านเดียว สื่อของภาครัฐบอกว่าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ การต่อต้านที่ยาวนานไม่อาจทัดทานอำนาจบางอย่าง เวลาที่มองเขื่อนปากมูลดิฉันมองเห็นแต่ความเจ็บปวดของคนในพื้นที่ น้ำตาของคนบ้านเดียวกัน ดิฉันเสียใจที่ในวัยเด็กของตัวเองเคยเข้าข้างภาครัฐอย่างเต็มตัว ถ้าเรามองให้ดีๆและลึกเข้าไปจริงๆ ดิฉันคิดว่า เราน่าจะรู้นะคะ ว่าเขื่อนถูกสร้างเพื่ออะไรกันแน่ ดิฉันต่อต้านการสร้างเขื่อนแม่วงศ์คะ จากคุณ : Diesel Engine เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 12:10:57

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณสำหรับข้อมูล ผมไม่เข้าใจพวกบรรดานักการเมืองจริงๆ เอ๊ะอ่ะก็จะสร้างเขื่อนๆ ทั้งๆที่ตัวเองไม่กล้ารับประกันว่าปัญหาน้ำท่วมจะหมดจากประเทศไทยโดยสิ้นเชิง จากคุณ : คุกเข่า เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 14:19:39

ความคิดเห็นที่ 70 ใช่หรอ ไม่เกี่ยวกะผลโประโยชน์ทางการเมืองหรอ ถึงค้านกันนี่ จากคุณ : Robbie_God เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 14:36:39

ความคิดเห็นที่ 71 จะค้านจะอะไร ตามแบบฉบับของ NGO ไม่มีใครเขาว่าหรอก แต่ช่วยบอกหน่อยเหอะ ว่าควรจะไปสร้างอะไรที่ไหนดี ไม่ใช่สักแต่ค้าน แล้วดันใช้ไฟฟ้ากันบ้าระห่ำแบบนี้ จากคุณ : คนผ่านมา (ผมมีแค่ร้อยทิป) เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 55 15:31:10

ความคิดเห็นที่ 72 ชาวบ้านตาม ตจว. ประหยัดไฟให้ชาวกรุงใช้กัน........ หรือมันไม่จริง ไปดูตึกสูงๆใน กทม ซิ เปิดไฟบนตึกกัน ปริมาณไฟฟ้าแทบจะเท่ากับการใช้ไฟฟ้าทั้งอำเภอของ ตจว ซะด้วยซ้ำไป สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมก็ส่วนหนึ่ง สร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า.... ผลิตให้ใคร แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นช่วยกันประหยัดไฟฟ้า ผมคิดว่าเราก็ไม่จำเป็นต้องมีเขื่อนก็ได้..จริงมั้ย เรื่องนี้ต่างคนต่างยืนอยู่คนละจุด ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด เพียงแต่การสร้างเขื่อน มันได้มากกว่าเสีย หรือ มันเสียมากกว่าได้ เท่านั้นเอง จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 07:32:45

ความคิดเห็นที่ 73 ใครพอจะมีเหตุผลในการสร้างเขื่อนแม่วงก์หรือข้อมูลสนับสนุนที่ต้องสร้างเขื่อน หรือเหตุผลที่ ครม. มีมติให้สร้างบ้างครับ จะลองนำมาเปรียบเทียบกันดูครับ คือ ถ้าฟังจาก จขกท. มันก็ไม่สมควรสร้าง แต่ทำไม ครม. ถึงมีมติให้สร้าง อยากจะได้ข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย ครับ จากคุณ : I can't be a perfect man เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 10:19:50

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีค่ะคุณคุกเข่า เราเห็นด้วยค่ะ ไม่เห็นมีรัฐบาลออกมายืนยันเลยว่าน้ำจะไม่ท่วม เพราะผลการวิจัย ก็เป็นอย่างความคิดเห็นที่ 19 คือจากผลการสำรวจ EIA ก็พบว่ามันแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ 10%-20% แล้วก็ยังจะยืนยันจะสร้างอีก เพื่อ??? จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 10:46:53

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีค่ะคุณ Robbie_God เราคิดว่าไม่ใช่ผลประโยชน์ทางการเมืองหรอกนะคะ เพราะเวลาสร้างกันคนค้านได้อะไรค่ะ ถ้าหากการไถ่ชีวิตโคกระบือ ทำแล้วได้บุญ ถ้าหากการช่วยเหลือสุนัขเร่ร่อ ทำแล้วได้บุญ เราว่าการปกป้องไม่ให้สร้างเขื่อน เพื่อรักษาขีวิตสัตว์ป่าและรักษาบ้านของสัตว์ป่าให้มีที่อยู่ที่กิน เราว่าสิ่งที่คนคัดค้านการสร้างเขื่อน น่าจะได้บุญเช่นเดียวกันค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 10:52:37

ความคิดเห็นที่ 76 ข้อมูลหลายจุดที่หยิบยกมาจากมูลนิธิสืบผิดพลาดครับบางข้อไม่สามารถนำไปใช้พื้นที่ได้จริงเพราะพื้นที่แม่วงก์ ลาดยาว ไม่ได้มีแค่ที่ราบเชิงเขาแบบบ้านธารมะยม หรือว่าการสร้างคันดินรอบที่ดินตัวเองสูง 4 เมตรมองในแง่ปฏิบัติจริงก็ทำไม่ได้ง่าย ๆ ชาวไร่ชาวนาแถวนั้นบางคนเช่าที่ดินทำกินครับไม่สามารถทำอะไรกับที่ดินได้อีกทั้งหากมองกันแล้วมันจะออกมาในรูปแบบใดที่ดินทุกผืนมีคันคูกั้นเป็นบล๊อก ๆ สิบไร่ ยี่สิบไร่ต้องเสียพื้นที่ให้คันดินไปเท่าไร หลายอย่างมันเหมือนง่ายแต่ลงมือทำแล้วไม่ใช่เรื่องง่ายหรืออาจจะทำไม่ได้เลยครับ บ้านธารมะยมอยู่ต้นน้ำเขาแม่กระทู้ก็สามารถทำได้แต่ลองมองบ้านทุ่งแม่น้ำน้อย คลองสาลีห่างจากเขาแม่กระทู้สามสิบกว่ากิโลเมตรกลางน้ำเกือบปลาย ๆ น้ำจะทำอย่างไร ทุกโมเดลใช่ว่าจะนำมาใช้ได้กับทุกพื้นที่ การขุดคลองที่บอกยาว 500 กิโลเมตรทำไมทางมูลนิธิไม่บอกลงไปให้ละเอียดว่่า 500 กิโลเมตรนี่รวมระบบคลองเดิมตามธรรมชาติด้วยที่ขุดใหม่ก็มีแต่ไม่ใช่ทั้ง 500 กิโลเมตร ไหนจะเรื่องน้ำบาดาลตื้น 3 เมตรเจาะไปแล้วจะเจอหากเป็นเมื่อ 30 กว่าปีก่อนพอจะได้แต่ตอนนี้มันไม่ได้แล้วขนาดเจาะลงไป 3-4 วายังไม่ค่อยนจะเจอเลย อีกทั้งที่บอกว่าทำเกษตรเชิงเดี่ยวมีผลเสียแบบนั้นแบบนี้หากมองความจริงจะให้เกษตรกรทำอย่างอื่นด้วยเช่นทำนาแค่ 1 หรือ 2 ครั้ง จะให้ปลูกอะไรในเวลาที่เหลือต้องมองด้วยว่าพื้นที่นั้นมีตลาดรองรับไหม มีเมล็ดพันธุ์ไหม ต้องมององค์ประกอบหลาย ๆ ด้านรวมกันไปนะครับไม่ใช่หยิบยกแต่คำพูดสวย ๆ มาใช้ ทุกวันนี้ชาวนาทำนาไม่ได้จ่ายเงินสดกับพวกเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง แต่ 4 เดือนจ่ายทีเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวมองมุมนี้เข้าไปประกอบด้วยครับ ไอ้เรื่องเลี้ยงเป็ดไก่ ปลา ชาวบ้านเขาเลี้ยงกันไว้กินอยู่แล้วแต่มันไม่ได้ช่วยทั้งหมดแค่ช่วยบ้างเท่านั้น ทางผู้ค้านก็มองในมุมหนึ่งบางคนอาจจะมองในมุมของคนไม่เคยลงไปทำหรืออยู่กับมันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายก็มองว่าทำแบบนั้นแบบนี้แล้วมันต้องได้ผลดีตามที่เคยได้ยินได้รู้มา แต่ลืมนึกถึงตัวแปรในหลายๆ อย่างไปเอาแค่เรื่องคนนี่ก็จัดการยากแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่เคยจะฆ่ากันตายเพราะเรื่องเปิดปิดฝายระบายน้ำเรื่องแย่งน้ำกันทำนาเคยเกิดมาแล้ว ส่วนผู้สนับสนุนเขามองในมุมของเขาว่าอยากมีน้ำมาใช้ อยากได้มาป้องกันบรรเทาน้ำท่วมพืชผลเสียหาย นี่คือมุมมองของเขา เพราะเขาได้รับผลกระทบโดยตรง ถามว่าใครผิดหรือใครถูกตอบได้ไหม เขื่อนแม่วงก์ไม่ได้อยู่แถวช่องเย็นฝั่งกำแพงเพชร ไม่ได้อยู่ติดโมโกจู หลายท่านทราบหรือยัง ????? คนจ้องล้มโครงการเขื่อนแม่วงก์ไม่ได้มีแต่นักอนุรักษ์เท่านั้นนักอนุรักษ์มาทีหลังมีคนดึงและล้มกระดานเขื่อนแม่วงก์ไปหลายรอบแล้วโปรดทราบ และเรื่องเขื่อนนี้มันไปเกี่ยวพันกับเรื่องการเมืองไปแล้วเพราะมันไปผูกกับงบสามแสนกว่าล้านเหมือนแก่งเสือเต้นและอีกหลาย ๆ โครงการ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 55 11:10:13 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 55 11:07:44 จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 11:06:16

ความคิดเห็นที่ 77 สวัสดีค่ะคุณคนผ่านมา (ผมมีแค่ร้อยทิป) ก็อย่างทีคุณน้าอ๊อดบอกหนะคะ ว่ามันคนละเรื่องกันค่ะ เรามาดูผลประโยชน์ กับผลเสีย ว่าสิ่งไหนคุ้มค่ากว่ากัน สำหรับเรื่องทางออกและวิธิการ เราได้เขียนบอกแล้วค่ะตามความคิดเห็นที่ 33, 34, 35, 36 ค่ะ ............................................... ขอบคุณน้าอ๊อดอีกครั้งนะคะ ^____^ ............................................... สวัสดีค่ะคุณ I can't be a perfect man เราขอเล่าประวัติความเป็นมาของเขื่อนแม่วงก์อีกครั้งแบบย่อค่ะ ส่วนแบบเต็มสามารถอ่านได้ตามความคิดเห็นที่ 5 ค่ะ เริ่มต้นปี 2525 กรมชลประทาน ริเริ่มโครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ ในปี 2537 มีมติให้ศึกษาการสร้างเขื่อนบริเวณเขาขนกัน แทนบริเวณเขาสบกก เนื่องจากได้รับการตอบแทนสูงกว่า (เขาสบกก คือบริเวณที่จะสร้างเขื่อนในปัจจุบัน) ปี 2540 กรมชลประทานศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ปี 2541 มติคณะรัฐมนตรี มีมติ "ไม่ให้" สร้างเขื่อนแม่วงก์ ปี 2543 ทำประชาพิจารณ์เขื่อนแม่วงก์ ปี 2545 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมยังไม่เห็นชอบให้สร้าง ให้ทำการศึกษาใหม่เกี่ยวกับระบบบูรณาการจัดการในลุ่มน้ำทั้งหมด ปี 2555 รัฐบาลมีมติอนุมัติ ให้สร้างเขื่อนแม่วงก์ โดยใช้เงิน 13,280 ล้านบาท โดยผูกพันกับปีงบประมาณ จำนวน 8 ปี จนถึงปี 2562 ค่ะ สำหรับเหตุผลตามข่าว ที่รัฐบาลชุดนี้ตัดสินใจสร้างคือ "อ้างเรื่องน้ำท่วม" ค่ะ โดยมีที่มาของข่าวโดยคร่าวๆ ตาม Link ดังนี้ค่ะ - http://www.dailynews.co.th/article/728/104163 - http://www.tcijthai.com/TCIJ/view.php?ids=475 - http://www.adeq.or.th/web/news/news_env_detail.php?id=58 - http://www.thaipost.net/sunday/290412/56075 - http://prachatai.com/journal/2012/05/40366 ฯลฯ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 11:13:27

ความคิดเห็นที่ 78 สวัสค่ะคุณ DraGo ขอบคุณค่ะสำหรับความคิดเห็น และเหมือนมันจะยากเกินกว่าคนนอกอย่างเรา ซึ่งเราไม่ได้เป็นนักวิชาการจะตอบได้ ยังไงเดี๋ยวขออนุญาตนำเรื่องนี้ส่งต่อไปให้พี่ๆ ที่มูลนิธิ แล้วมาตอบน่าจะดีกว่าค่ะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 11:19:47

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณที่จะส่งต่อคำถามครับแต่ผมว่าให้รวบรวมข้อมูลไปนำเสนอกับหน่วยงานรัฐจะดีกว่าที่จะมาตอบคำถามให้กับผมครับ ผมชี้ให้เห็นช่อง ให้เห็นข้อบกพร่องของข้อมูล เพื่อที่จะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องในการเผบแพร่และนำไปเสนอภาครัฐ หากยังเป็นแนวทางเดิม ๆ ที่นำมาเผยแพร่แค่นี้ยังไงก็เอาไปค้านภาครัฐเขาไม่ได้หรอกครับ คงได้แค่ทำเสวนา จัดอีเวนท์เท่านั้น เพราะหากเกิดการปลุกระดมเชื้อไฟในพื้นที่ซึ่งมีอยู่แล้วที่จะเอาเขื่อนให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีกมันจะลำบาก เพราะพวก อบต. ในหลายท้องที่เขามีทิศทางไปทางเดียวกันอยู่แล้ว ชาวบ้านจะทะเลาะกันและแตกแยกเสียเปล่า ๆ  อีกทั้งการจะลงพื้นที่ของมูลนิธิจะไม่สะดวกเสียเปล่า ๆ เพราะการมาตอบในนี้ไม่ก่อให้เกิดผลต่อการสร้างเขื่อนไม่ว่าจะสร้างได้หรือไม่ก็ตาม หากอยากให้ชาวบ้านหันมาสนับสนุนมูลนิธิต้องลงพื้นที่มากกว่านี้ ลองไปเสนอแนวทางให้ชาวบ้านเขาดู แล้วมองดูปฏิกิริยาเขาว่าเป็นเช่นไร นั่นละคือความจริงว่าทำได้หรือไม่โดยที่ไม่ต้องหยิบเอาโมเดลอะไรมาอ้างอิง จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 11:35:50

ความคิดเห็นที่ 80 น่าจะเอาเหตุผลและความจำเป็นของการสร้างเขื่อนมาเปรียบเทียบกับพวกที่เขาคัดค้านดูนะ เหตุผลของการสร้างเขื่อนอาจจะมีมากกว่าก็ได้ แต่ก็น่าจะยาก......... เพราะเหตุผลหลักของการสร้างเขื่อน ก็คือ "ผลประโยชน์" จากคุณ : ช้อนชา เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 17:23:40

ความคิดเห็นที่ 81 การสร้างเขื่อนไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้อย่างที่เราๆเคยเข้าใจกันเลย ตัวอย่างก็มีตั้งมากมายที่ยิ่งสร้างยิ่งแล้ง ยิ่งท่วม เพราะการสร้างเขื่อนมันก็ต้องตัดป่า ซึ่งไม่ใช่ที่น้อยๆเลยนะ นอกจากนั้น ที่ๆมาสร้างเขื่อนยังต้องไปเวณคืนที่ดินชาวบ้านแถบนั้นอีก ชาวบ้านที่อยู่รอบๆก็พลอยระแวงว่าเขื่อนจะแตก หรือทางการจะปล่อยระบายน้ำให้ท่วมที่เขาไหม การจะสร้างเขื่อนจึงควรตรวจสอบและคิดถึงคนที่อยู่แถวนั้นด้วยนะ อย่ายกเอาแค่เพียงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมาอย่างเดียวเลย จากคุณ : forest princess เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 55 21:18:26

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ DraGo ขอบคุณอีกครั้งค่ะ เดี๋ยวเราจะรีบส่งข้อมูลไปให้มูลนิธิสืบนะคะ ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ดีมากเลยค่ะ สวัสดีค่ะคุณช้อนชา ก็อาจจะมีมากกว่าเรื่องแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก็ได้ค่ะ หรือไม่มีก็ได้ แต่ดูจากยอดเงินที่ใช้ในการสร้างแล้วหละก็ >< ถึงกับ Error ไปทีเดียว 555++ สวัสดีค่ะคุณ forest princess ในความคิดเรา เราว่าก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง ก็ 10-20% อย่างที่เขียนบอกไปข้างต้น แต่เม็ดเงินที่สูญเสียไปกับผลประโยชน์ที่ประเทศได้กลับมา มันทำให้เรารู้สึกแย่จริงๆ เพราะปีปีหนึ่งเราเองก็เป็นบุคคลที่ต้องเสียภาษีค่อนข้างมาก จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 10:48:47

ความคิดเห็นที่ 83 ผมไปดูมากับตาแล้ว บ้านผมลำบากกว่าเยอะ(สุรินทร์) แล้งกว่านี้ยังอยู่ได้เลย ป่าเหลือนิดเดียวเก็บไว้เถอะ บริหารจัดการน้ำไปดีกว่า เงิน 13000 ล้านนี้ สร้างได้เขื่อนเดียวเองและก้ไม่ป้องกันน้ำท่วม ลองคิดดูถ้าเอาเงินนี้ไปให้จังหวัดแต่หละจังหวัดละ 100 ล้าน พัฒนาอย่างอื่นหรือจัดการน้ำ ยังจะได้ประโยชน์มากกว่าเขื่อนนี้ด้วยซ้ำ แถมไม่ถึง 13000 ล้านด้วย....ไอ้เรื่องข้อมูลหยั่งลึกอะไรหนะมันวิชาการไป เอาสามัญสำนึกดีกว่า ลองคิดดู ภาคเหนือประเทศไทศไทยมี อ อ่าง และ ข เขื่อนแล้วกี่ที่ เขื่อภูมิพล สร้างมาแล้วกี่ปี ? เขื่อนสิริกิตย์ กี่ปี ? คุณภาพชีวิตคนไทยมันก็ยังไม่ดีขึ้นเลย มันก็ยังแย่อยู่เหมือนเดิมนั้นแหละ มันก็แค่ฉวยโอกาส เอาสถาณการณ์มาหาผลประโยชน์ก็เท่านั้น สร้างจริงชาวบ้านก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิมหรอก ได้น้ำแต่ปุ๋ยแพงมันก็เท่านั้นจนเหมือนเดิมกู้เหมือนเดิม..... มีที่ใหนคนไทยนั้นเฉยๆก็จะให้เป็นหนี้ตั้งเยอะ....อยากจะนั่งเฉยๆแล้วทิ้งไว้ให้เป็นภาระคนรุ่นหลังก็ได้ ยังไงซะก็เก็บไว้เถอะ " Green is new Goal " .....คำนี้มีความหมายไม่ควรยุ่งกับป่าไม้ไปเลย 10 ปี อนาคตมันคือทองคำ คอยดูพม่าแล้วกัน.... จากคุณ : Green is new Goal เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 11:57:11 A:125.24.231.1 X: TicketID:376552

ความคิดเห็นที่ 84 http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/287377 จากคุณ : anima nightmare เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 12:14:45

ความคิดเห็นที่ 85 ป่า คือ เขื่อนธรรมชาติ ที่สรรสร้างมาดีแล้ว เราควรจะอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลาน ก่อนที่ "ป่า" จะเป็นแค่เพียง "นามธรรม"  !!!! จากคุณ : เพ็ญโสม เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 12:51:24

ความคิดเห็นที่ 86 ถึงจะไม่ใช่คนพื้นที่แต่ก็พอดูได้เพราะที่บ้านก็ทำเกษตรเหมือนกัน ใครๆก็อยากได้ทั้งนั้นแหละอะไรๆที่จะทำให้เราสบายหนะ ถ้าบอกว่าบ้านผมมีทั้งอ่าง ทั้งฝาย ชาวมันก็ยังแย่อยุ่เลย อยากจะถามว่าถ้าสร้างเขื่อนแม่วงก์สำเร็จ โอเคคนพื้นที่มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างที่หวังที่พูด แต่คนที่บ้านผมซึ้งลำบากอยู่แล้วกลับต้องเป็นหนี้เพิ่มขึ้นโดยที่ตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์เนี้ย รับได้ใหม ก็ไม่มีใครรับได้อยู่ดี 13000 ล้านเนี้ยมันเงินกู้หนะ แล้วมันกระจายไปทั่วประเทศใหม....ถ้าเป็นงบประเทศว่าไปอย่าง กู้มาสร้างอย่างนี้ ได้ประโยชน์ที่เดียวแต่รับผิดชอบทั้งประเทศงั้นก็สมควรทำประชาพิจารณ์ไปดีกว่าใหม เอาแบบส่วนรวมไปเลยเพราะเงินที่นครสววค์มันก็คงเดินทางมาไม่ถึงที่อื่นหรอก...... จากคุณ : Green is new Goal เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 13:44:14 A:125.24.231.1 X: TicketID:376552

ความคิดเห็นที่ 87 หรือเอางี้ 13000 ล้านที่กู้มาลงที่แม่วงก์ สร้างได้โอเค แต่ภาษีก็เก็บไปใช้หนี้ที่นครสววค์ไปซิ แบบนี้ยังอยากจะสร้างเขื่อนหรอเปล่า เอาแบบบ้านๆ ง่ายๆ ไม่ต้องวิชาการอะไรมาก ถ้าทำได้ สร้างไปเลยจะไม่ค้านซักคำ จากคุณ : Green is new Goal เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 55 13:55:14 A:125.24.231.1 X: TicketID:376552

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ DraGo ค่ะ พี่บอยรองเลขาธิการมูลนิธิ ฝากตอบดังนี้ค่ะ "ทุกเรื่องยากหมดแหละครับ แต่บ้านธารมะยมทำได้ ก็แสดงว่าถ้าลงมือทำ ก็มีโอกาสทำได้ ความเป็นจริงแต่ละชุมชนอาจมีโมเดลที่ไม่เหมือนกัน. แต่ความสำคัญคือชุมชนต้องช่วยกันคิดและทำ รัฐคือผู้สนับสนุน เสริม และช่วยมองการจัดการในภาพรวมที่ต้องทำผสานๆกันไป สิ่งที่ยกมาเป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งมีอยู่จริง และแก้ปัญหาในชุมชนได้จริงครับ" สวัสดีค่ะคุณ Green is new Goal ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ ^_^ สวัสดีค่ะคุณ anima nightmare ขอบคุณนะคะ สำหรับมุมมองที่แตกต่าง เราก็เห็นใจชาวบ้านหนะคะ เขื่อนน่าจะเป็นความหวังสำหรับน้ำที่ใช้สำหรับทำนา ทางออกมันมีค่ะ และไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะมากมาย และสูญเสียธรรมชาติ สวัสดีค่ะ เพ็ญโสม ขอบคุณนะคะ สำหรับความคิดเห็น ^_^ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 14:01:38

ความคิดเห็นที่ 89 ถ้าไม่สร้างเขื่อน เราจะเอาไฟฟ้าจากไหนมาใช้ครับ 1. ซื้อจากต่างชาติ 2. สร้างโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 3. สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 4. โรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกเช่นลม หรือแสงอาทิตย์ ผมจะแจงให้เห็นแต่ล่ะข้อนะครับ 1. ซื้อจากต่างชาติ มันเป็นทางเลือกที่สิ้นคิดครับ ถ้าเกินวันหนึ่งเราพึ่งพาเขาซัก 20% ของไฟฟ้าทั้งประเทศไทย แล้วถ้าเราเกิดมีปัญหากับเขาขึ้นมาเกิดไม่ยอมขายไฟฟ้าให้ ประเทศเราจะเดือดร้อนขนาดไหนครับ 2. สร้างโรงไฟฟ้าปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เอาไหมครับ อยากได้รึเปล่าบอกผมหน่อย ถ้าไม่สร้างเขื่อน แต่สร้างโรงไฟฟ้านี้หลังบ้านคุณล่ะ เขตชุมชนก็ไม่เหมาะที่จะสร้าง หรือจะเอาไปสร้างที่ป่า หรือติดกับทะเลดี ช่วยคิดหน่อย 3. สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน คิดว่ามันมีผลกระทบความรุนแรงมากกว่าที่คิดเยอะครับ ผมว่ามันยิ่งกว่าตัดไม้ทำลายป่าอีก จะตายทั้งคน ทั้งพืช ทั้งสัตว์นี่แหละครับ และประเทศไทยก็ไม่ใช่ว่าขุดตรงไหนก็เจอแต่ถ่านหินนะครับ 4. ตอนนี้ต่างประเทศเริ่มบอกกันแล้วครับว่าไฟฟ้าพลังงานลม ทำให้ภูมิอากาศแปรปวน และไม่เหมาะสม และประเทศไทยไม่ใช่ว่าจะมีลมแรงมากพอที่จะผลิตทั้งปีนะครับ หรือจะบอกเป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ อันนี้บอกตรงๆว่าไม่คุ้มอย่างแรงครับ Solar cell มีอายุ และประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าต่ำครับ ใช้พื้นที่เยอะ ราคาแพง อยากจะขอร้องว่า ไม่ใช่แอะอะอะไรก็ NGO ถูกเสมอไม่ให้สร้างนู่นนี่นั่น ทำลายป่า ทำลายน้ำทำลายดิน ถามหน่อยเถอะ ไอ้รถที่พวกเขาขับไปประท้วงนี่มันกินอะไรครับ กินน้ำมันรึเปล่า แล้วไฟฟ้าบ้านเขานี่มาจากไหนครับ ปั่นด้วยมือรึเปล่า มันก็มาจากเขื่อนทั้งนั้นแหละ ถ้าแน่จริงอย่าใช้น้ำใช้ไฟ อย่าขับรถสิ เพราะรถปล่อยคาร์บอนเยอะ ถ้ารักธรรมชาติจริงก็อย่าทำลายสิครับ จากคุณ : ความรักฉันคือเธอ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 55 22:08:48

ความคิดเห็นที่ 90 ขอลงชื่อคัดค้านด้วยคนค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 08:31:26

ความคิดเห็นที่ 91 ความจริงอันน่าเจ็บปวด จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 19:49:01

ความคิดเห็นที่ 92 รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมซักขนาดไหน?? จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 19:55:22

ความคิดเห็นที่ 93 บางคนอยากได้เขื่อน..เพราะกลัวว่าพลังงานจะไม่พอใช้ อืมม....แล้วประเทศนี้ใช้พลังงานคุ้มค่าซักขนาดไหนเชียว..?? จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:03:00

ความคิดเห็นที่ 94 สวัสดีค่ะคุณ ความรักฉันคือเธอ เอ่อคือว่าคือ ผิดกระทู้หรือเปล่าค่ะ นี่กระทู้คัดค้านการสร้างเขื่อนแม่วงก์ค่ะ เขื่อนแม่วงก์มีหน้าที่เกี่ยวกับระบบชลประทานค่ะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการผลิตกระแสไฟฟ้า >< แต่ก็ขอบคุณนะคะ ที่มาแสดงความคิดเห็น จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:21:34

ความคิดเห็นที่ 95 สวัสดีค่ะคุณ ป้าฟู ขอบคุณมากๆ จริงๆ เลยค่ะ ที่ช่วยคัดค้าน ^______________^ สวัสดีค่ะคุณ พิงค์วู ขอบคุณค่ะสำหรับข้อมูลดีดี ซึ่งดีมากๆ เลย เราขออนุญาตส่งต่อให้พี่ๆ ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียรเลยนะคะ จากคุณ : Adjyjung เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 55 20:25:16

ความคิดเห็นที่ 96 ธรรมชาติกับความเจริญ เิดินสวนทางกันเสมอ จากคุณ : เด็กวัดจันทร์ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 55 22:23:21

ความคิดเห็นที่ 97 น่าขันรัฐบาลชุดนี้ยิ่งนัก  เขื่อนเท่าที่มีอยู่ก็ยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ ทั้งด้านการเกษตร การป้องกันน้ำท่วมส่วนหนึ่ง หรือด้านไหนก็ตาม แล้วจะสร้างอะไรกันนักกันหนา   กะจะไม่มีพื้นที่สีเขียวให้เพื่อนร่วมโลกบ้างหรือไรครับ ดูทีวีช่อง ไทยPBS รายงานจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ว่าสัตว์บางชนิดที่ผมคิดว่ามันได้สูญพันธุ์ไปแล้วมันอยู่ที่นี่ครับ คือ "สมเสร็จ"   และอีกหลายชนิดครับ จากคุณ : ลานโย เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 55 10:45:01