เล่าสู่กันฟัง...จบแบบไม่ค่อยเจ็บ
|
|
มีเรื่องเบาๆมาเล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคยครับคุณผู้ชม
วานนี้เอง จขกท.ได้ไปซื้อของที่ตลาดใกล้ๆบ้าน ด้วยอากาศร้อนๆ ก็เลยแวะนั่งดื่มชาเย็นที่ร้านขายเครื่องดื่ม ร้านเล็กๆร้านนึง
เจ้าของร้านเป็นสาวน้อยหน้าตาสดใสวัย24-25 เป็นเพื่อนของหลานจขกท.เองแหละ เราก็เลยสนิทสนมคุ้นเคยกันดี เธอเองก็ค่อนข้างนับถือเรามากทีเดียว เธอบอกว่า คุยกับน้าแสนแล้วสบายใจ ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี และมักมีคำแนะนำดีๆให้เสมอ หน้าตาก็ดีแถมรักเดียวใจเดียวอีก อ้อ...อันนี้เธอไม่ได้พูดหรอก ผมเติมให้เองน่ะครับคุณผู้ชม
และทุกครั้งที่แวะไปที่ร้าน เธอก็มักจะเล่าโน่นนี่นั่นให้ฟังเสมอ ที่สำคัญเธอเคยบอกว่า รู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้เจอ เธออยากให้น้าแสนเป็น...เป็นพ่อของเธอ เล่นเอา เสียเซลฟ์เลย ไม่ใช่สิ ฟังแล้วรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากทีเดียว
เมื่อวานนี้ ระหว่างนั่งดื่มชาเย็น ก็มีชายหนุ่มคนนึงเข้ามาที่ร้าน ก็พอรู้คร่าวๆล่ะนะ ว่าเป็นชายหนุ่มที่มาชอบเธอนั่นแหละ เห็นคุยกันอยู่ประมาณว่าทำไมฝ่ายหญิงไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย แล้วก็ตัดพ้อต่อว่ากันไป คุยกันไม่ถึง 5นาที ก็ได้ยินเธอบอกให้ฝ่ายชายกลับไปเถอะ และไม่ต้องโทรมาอีก มันจบแล้ว แล้วก็เห็นผู้ชายเดินคอตกกลับไป
เราก็แกล้งนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เดี๋ยวเธอจะหาว่าเราสอดรู้สอดเห็น แต่ก็มั่นใจว่าเดี๋ยวเธอก็ต้องมาระบายให้เราฟังเอง แล้วก็จริง สักพักเธอก็มานั่งคุยด้วยแล้วเล่าให้ฟังว่า เพิ่งเริ่มจะคบกันไม่นานนี้เอง ดีนะที่รู้ตัวก่อน ผู้ชายดูจริงใจมาก นิสัยดี พูดจาดีน่าคบทีเดียว
แต่ เค้ามีภรรยาแล้ว มีปัญหากันได้สักพักนึงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เลิกรากันชัดเจน และทั้งคู่ทำงานอยู่คนละจังหวัดแต่เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกัน
เธอรู้เพราะเธอถามเค้าตรงๆ ว่าสถานะตอนนี้เค้าเป็นอย่างไร เธอบอกว่า เธอต้องถามในสิ่งคนจะคบกันเป็นแฟนต้องรู้ เพราะเธอเห็นว่าถ้าจะคบกับใคร เรื่องนี้ต้องเคลียร์ เมื่อไม่เคลียร์ก็ต้องจบ
เธอบอกอีกว่า ดีที่เค้ายอมรับความจริงในเรื่องนี้ แต่เค้าก็ยืนยันว่า จะเลิกกับภรรยาเค้าแน่นอน แต่เธอก็ยืนยันว่า เค้าควรแก้ปัญหานี้ให้เรียบร้อยเสียก่อน จะอยู่หรือแยก ก็ควรให้ชัดเจนและเลือกทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเค้าและภรรยาของเค้า และหากต้องเลิกรากันจริง นั่นแหละเค้าถึงจะมีสิทธิไปคบกับคนอื่นต่อไป ถึงวันนั้นเค้าจะกลับมามองเธอหรือไม่ ก็ให้เป็นเรื่องของวันข้างหน้า แต่วันนี้ เธอขอเลือกทำเพื่อตัวเองแล้วกัน
เธอเชื่อว่า ถ้าเธอใจอ่อนยอมรับเรื่องนี้ได้ แล้วยอมคบกับเค้าต่อ ก็เหมือนกับการปิดกั้นตัวเอง ตีกรอบให้แคบลง ให้มีทางเลือกน้อยลงไปเรื่อยๆ ขอยอมจบแล้วเจ็บแค่ตรงนี้ดีกว่า ไม่นานก็คงหาย
คุยกับลูกสาวคนนี้ (ก็เธอให้ผมเป็นพ่อนี่นา ) ก็รู้สึกชื่นชมความคิดเธอหลายอย่างทีเดียว จริงอยู่ สิ่งที่เธอทำอาจไม่ใช่วิธีที่ดี่สุด แต่ผมก็เชื่อนะ ว่าหากเราใช้ทั้งสติและหัวใจนำทางความรักเหมือนเช่นเธอ แม้จะต้องผิดหวังแต่ก็จะไม่เสียใจมากมาย แม้จะทุกข์ใจแต่ก็จะไม่ทรมาน
และเมื่อเราทำดีกับตัวเองดี ดีกับความรัก วันนึงความรักก็จะดีกับเราเช่นกัน
จากคุณ |
:
แสนเชิง
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเกิด PANTIP.COM 55 15:18:52
|
|
|
|