ความคิดเห็นที่ 1 สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นครับ รัชกาลที่2 และรัชกาลที่3 พระองค์ทรงพระปรีชาด้านการค้าและการติดต่อธุรกิจกับต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง ตอนนั้นประเทศไทยเจริญที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วครับ จากคุณ : whitesung เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:12:53

ความคิดเห็นที่ 2 สมัยน้าชาติครับ เสือตัวที่ ๕ ของเอเซีย แต่มันเป็นการพัฒนาที่ก้าวยาวเกินไป กระโดดสูงเกินไป ทำให้พลาด ตกลงมาเจ็บครับ ยุคไหนเศรษฐกิจดีที่สุด คงตอบยากครับ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:15:18

ความคิดเห็นที่ 3 เคยมีด้วยหรือครับ ช่วงที่ประชาชนชาวไทยมีความสุข จำได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ   ที่ฉลองในหลวงอายุครบ80 พรรษาเท่านั้น ช่วงนั้นมีความสุขอยู่ช่วงนึง นอกจากนั้น เท่าที่นึกออก  ประเทศนี้  มีแต่เรื่องบ้าๆ ทุกวันนี้  ทำงาน มีความสุขส่วนตัวแค่นั้นครับ ประเทศจะฉิปหายอะไร  ไม่ค่อยอยากสนใจแล้ว ^_____^ จากคุณ : รปภ.บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า (GMPLS) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:15:30

ความคิดเห็นที่ 4 ระบบศก.แบบทุนนิยม โดยปกติมันจะมีวัฎจักรนะคะ  คือมีช่วงที่เฟื่องไปหมดทุกอย่าง  เงินทองก็หาง่าย ผู้คนก็ใช้เงินกันมากมาย  แล้วก็เข้าสู่ขาลง  แต่ก่อนอเมริกาก็เคยเป็น ไทยก็เคย ทุกประเทศน่ะค่ะ ทีนี้สมัยก่อนช่วงฟื้นตัวจะยาวนานกว่าช่วงฟุบ  แต่เดี๋ยวนี้ช่วงฟุบยาวนั้นกว่า  บางทีไม่ทันฟ้ีนเลยก็ฟุบใหม่แล้ว สำหรับไทย ก่อนหน้านั้นไม่ทราบ  ที่เรารู้จักครั้งแรกคือสมัยที่ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีการเปลี่ยนแปลง ค่าเงินบาทครั้งนึง  แล้วต่อมาสมัยนายกชาติชายที่คุณพูดถึงเรื่องแปลงสนามรบให้เป็นสนามการค้า  ตอนนั้น ที่ดินพุ่งขึ้นทีเป็นหลายสิบเท่า  ซื้อขายเก็งกำไรกันไม่จบไม่สิ้น ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเป็น  1700 จุด  เงินบาทแข็งค่ะ ช่วงนั้น  ดอกเบี้ยก็สูง  ขณะที่สหรัฐดอกเบี้ยต่ำมาก  คนไทยก็เลยหันไปกู้เงินนอกดบ.ต่ำๆ มาใช้กัน  ลงทุนจริง บ้าง ถลุงเล่นกันบ้าง  ธนาคารก็ปล่อยกู้กันอย่างง่ายๆ  เรียกว่าเงินสะพัด  เราขึ้นแท็กซี่ คนขับยังชวนไปซื้อที่ บางคันก็โม้เรื่องหุ้นอะไรต่างๆ มากมาย สุดท้ายเป็นหนี้ต่างประเทศมาก  จนต้องลดค่าเงินบาท  สมัยนั้นพลเอกชวลิต เป็นนายก  จาก 25-26บาท/ดอลล์ กลายเป็นเกือบ 50 บาท/ดอลล์  คนที่กู้เงินจากต่างปท.แทบล้มทั้งยืน เพราะหนี้เพิ่มเป็นเท่าตัว  ทำเท่าไหร่ถึง จะพอจ่ายหนี้  ดอกเบี้ยก็ค่อยๆ เพิ่มจนสูงสุด 16-17%  หลายๆบริษัทต้องปิดตัวไป หลายบริษัทต้องลดจำนวน พนักงาน หลายบริษัทลดเงินเดือนพนักงาน ลดเวลาทำงาน อาจจะทำเหลืออาทิตย์ละ 3 วัน อะไรแบบนี้ ก่อเกิด คำว่า "คนเคยรวย" ขึ้นมา  ภาครัฐต้องไปกู้ IMF ซึ่งมีเงิือนไขต่างๆ มากมาย โชคดีที่ประเทศเราเป็นกึ่งเกษตรกรรม  คนที่ตกงานกลับบ้านก็ยังมีบ้านอยู่ ปลูกพืชหาผักปลากินได้  ไม่ต้องเป็น คนจรจัดเหมือนประเทศอื่น  แต่ก็มีคนอีกมากที่รู้ก่อนและมีการเก็งกำไรเงินตรากันมากมาย คนหนึ่งที่ดังมาก ก็คือคนที่ดูไบนั่นเอง ตลาดหุ้นตอนนั้นตกลงมาเหลือ 200 กว่าจุด แล้วค่อยไต่มา400จุด  ค่อยๆ ขึ้นมาเรื่อยๆ  ตอนนี้อยู่ที่  1300 ทุกอย่างค่อยๆ ดีขึ้น  ก็มาเจอวิกฤตของอเมริกา ซ้ำอีก  พอฟ้ืนมาได้หน่อย ตอนนี้ก็เจอวิกฤตของยูโรโซน ก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ  วงจรของศก.แบบทุนนิยม แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 20:34:02 จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:31:53

ความคิดเห็นที่ 5 จำได้แม่นเลยเรื่องเสือตัวที่ห้า  สุดท้ายตอนนี้ก็แค่หมาน่อยธรรมดา จากคุณ : susijang (susijang) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:32:25

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่ายุคทักษิณช่วงที่มีงานโอท็อปครั้งแรกนั่นล่ะ เรารู้สึกได้เลยว่าเศรษฐกิจมันดี ค้าขายคล่องตัวมาก จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 20:48:43

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วเศรษฐกิจตอนนี้มันไม่ดียังไงเหรอครับ? คุณอยากจะกลับไปอยู่ในยุคเมื่อ 30 ปีที่แล้ว หรือ 150 ปีที่แล้ว เหรอครับ? แน่ใจเหรอครับ? ประเทศเราพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง สมัยก่อนคนไม่มีอันจะกินจริงๆ ขนาดคนมีฐานะยังต้องเก็บเงินโคตรนานกว่าจะมีรถสักคัน แถมมีโปลิโอ มีคอมมิวนิสต์ มีจอมพล ฯลฯ เศรษฐกิจเลวของเมืองไทย กับเศรษฐกิจดีของซิมบับเว คุณอยากได้แบบไหนครับ? เศรษฐกิจเลวในวันนี้ อาจหมายถึง ขายของไม่ดี ปีนี้ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ เศรษฐกิจดีเมื่อวันวาน อาจหมายถึง ขายข้าวได้ราคา ปีนี้ไม่อดอยากแล้ว อยากได้แบบไหนครับ? จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:18:51 A:171.101.176.56 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 8 #6 นั่นยังน้องๆ สมัยชาติชายค่ะ  ทักษิณมาตอนที่ฟุบไปแล้ว กำลังฟื้นค่ะ  ราวๆ  4-5 ปีหลังวิกฤตต้มยำกุ้ง (2540) จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:20:43

ความคิดเห็นที่ 9 เศรษฐกิจตอนนี้ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันก็ไม่ได้ดีนะครับ งานหายากขึ้น เงินก็หายากขึ้น สวัสดิการก็แย่ลง รัฐบาลก็ไม่แข็งแกร่งเหมือนก่อน นักการเมืองก็แย่ลง คนไทยทะเลาะกันเอง ไม่การเมืองนะ แต่ผมอยากให้สงบสุขเหมือนตอนผมเด็กๆ งานการหาง่าย เงินทองหาไม่ยาก อยู่กันสบายๆ คนไทยเหมือนพี่เหมือนน้อง ผ่านทางเดียวกันกลับด้วยกัน คิดถึงอดีตที่ไม่รู้ว่าจะมีอีกเมื่อไหร่ ปัจจุบันสังคมแย่ลงเยอะจริงๆครับ ผมรู้สึกได้ หลายๆคนก็คงรู้สึกได้ ถ้าคุณไม่คิดแบบนั้นลองถามจิตสำนึกตัวเองดีๆว่า แต่ก่อนมันเป็นแบบนี้รึเปล่า? จะฆ่ารันฟันแทงกันเพราะ "เห็นต่าง" ความแตกแยกเกิดจากการบ่มเพาะ(ไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม มันได้เกิดขึ้นแล้ว ผมไม่โทษว่าเป็นความผิดของใคร) จากคุณ : darkness2 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:24:33

ความคิดเห็นที่ 10 เอ่อ คห.9 รู้จักจอมพลป.กับจอมพลถนอมไหมครับ รู้จัก 6 ตุลา 14 ตุลา พฤษภาทมิฬ คณะราษฎร ไหมครับ ตอนผมเด็กๆ ผมเห็นโฆษกทหารออกทีวีตอนเช้าบ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วนเลยนะครับ สมัยคุณเด็กๆ มันไม่ได้สงบสุขไปกว่าวันนี้หรอกครับ เพียงแต่ว่าคุณยังเป็นเด็ก เลยไม่แคร์มากกว่า จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:32:16 A:171.101.176.56 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ rp พูดถึงดิฉัน จขกท หรือเปล่าคะ คือดิฉันไม่ได้บอกเลยว่าตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี แค่คิดโน้นนี่ไปว่า ทุกวันนี้ เรายังมีรอยยิ้มให้กัน ยังใช้ชีวิตกันอย่างเป็นสุขสงบไหม แค่ย้อนกลับไปดูสมัยที่ตัวเองยังเป็นเด็ก เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือดิฉันอายุมากขึ้น ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง ทำให้คิดไปว่า ทุกวันนี้โลกเบี้ยวๆ ใบนี้แย่ลงหรือไม่ หรือ มันเป็นเช่นนี้ของมันมานานแล้ว ฆ่ากัน ทะเลาะกัน ต้องแก่งแย่ง ชีวิตร้อนรนวุ่นวาย ถ้าดิฉันทำให้คุณเคืองใจ หรือไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ เพราะก็บอกไปแล้วว่า เป็นความคิดส่วนตัว หรือ ดิฉันจะโดนสะกดจิตจากสื่อต่างๆ ว่า เศรษฐกิจมันมีแต่ทรงกับทรุดคะ จากคุณ : เหวย+c เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:33:20

ความคิดเห็นที่ 12 เกิดไม่ทัน ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็อีกนั่นแหละ สำคัญว่า เราทำอาชีพอะไร ถ้ามีทุน มีเส้นมีสาย หรืออยู่ในธุรกิจผูกขาด ก็ดีมันทุกสมัยนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 55 21:38:37 จากคุณ : rusifer เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:37:03

ความคิดเห็นที่ 13 ผมไม่ได้เคืองจขกท.ครับ ขออภัยด้วย แต่อยากจะให้จขกท.ลองถามคำถามที่คุณอยากถาม กับคนอายุ 60 ขึ้นไปดูครับ สมัยก่อน ยังไม่ถึงศตวรรษนึงด้วยซ้ำ คนยิวถูกฆ่าด้วยการรมแก๊สพิษหลายล้านคน เพียงเพราะเขาเกิดเป็นยิว คุณยังว่าสมัยนี้มันเถื่อนกว่าสมัยโน้นอีกเหรอครับ จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 21:43:39 A:171.101.176.56 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 14 เฉพาะตัวผม ดีที่สุดคือยุค นายชวน กับ นายบรรหาร และมาสลบเหมือดกันทั้งประเทศในยุค คุณ เชาวลิต ส่วนยุค สินไทย ผมเข้าใจว่าเป็นยุคที่ รมต.พาณิชย์ ชื่อคุณ ตามใจ ขำภโต รมต.คลังชื่อ บุญชู โรจนเสถียร  เป็นยุคที่ ราชาเงินทุนล้ม เศรษฐกิจเสียหายมาก ซึ่งต่อมาประเทศเรารอดพ้นภัยมาได้ด้วยนโยบายรัดเข็มขัด สมัย นายสมหมาย ฮุนตระกูล เป็น รมต.คลัง ที่มีวินัยสูงมาก นักการเมืองรุมด่าแกเละ แต่สมัยนั้น พล.อ.เปรม มีอำนาจมากและหนุนนโยบาย นายสมหมาย เต็มที่ นักการเมืองเลยเอาไปถลุงเล่นไม่ได้ ยุคน้าชาติเป็นยุคที่ราคาที่ดินบูม เศณษฐีใหม่มีเกิดใหม่กันทุกวัน  แต่ก็เป็นยุคเริ่มต้นของ คอรัปชั่น ที่เกาะกินสังคมไทยอย่างหนักหน่วงมาจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 22:15:47

ความคิดเห็นที่ 15 #14 ทำให้ดิฉันคิดถึง พลเอกอาทิตย์ ตอนนี้จะขึ้นมาฉายแสงแข่งท่านพลเอกเปรม เรื่องเกี่ยวกับนโยบายการเงินการคลังนี่แหละ  ตอนนั้นดูโทรทัศน์อยู่ออกมาพูดอะไรไม่รู้ คิดว่าทหารยกพลซะแล้ว  แต่ท่านเปรมก็ดับอาทิตย์ไปได้ เหมือนกัน ต่อจากยุคชาติชายก็เป็นยุค รสช.ที่อ้างความฟอนเฟะของรัฐบาลชาติชาติ ทำรัฐประหาร และยึดทรัพย์รมต.หลายคน  แต่ไปๆมาๆ พลเอกสุจินดา ไม่ยอมลงจากเก้าอี้นั่งชั่วคราว จึงเป็นต้นเหตุของ "พฤษภาทมิฬ"  และได้นายกในดวงใจของดิฉันมาคือ ท่านอานันท์ ปันยารชุน ค่ะ  ตอนนั้นท่านได้ออกกฎหมายหลายอย่างที่เป็นปย.แก่ประเทศชาติ แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว  รู้สึกว่าตัวเองชักลืมเรื่องต่างๆ ไปเยอะ จากคุณ : ต๊อตโตะจัง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 55 22:25:43

ความคิดเห็นที่ 16 ผมชอบที่  #4 บรรยายมากครับ แต่ขออธิบายเพิ่มนิดนะครับ เชื่อไหมครับ ระบบทุนนิยมที่แท้จะเป็นระบบแรงงานนิยมด้วย และจะไร้วิกฤตฟองสบู่วัฏจักรอสังหาฯ และไร้ความยากจนด้วย สิ่งที่ทำให้ทุนนิยมดูเหมือนเป็นทุนนิยมสามานย์ (vulgar capitalism) ตามที่สังคมนิยมกล่าวหา ก็คือ การเก็งกำไรค้าขายกักตุนที่ดิน ซึ่งผมขอเรียกว่า ระบบที่ดินนิยม ผมขออนุญาตแนะนำแนวคิดแก้ฟองสบู่อสังหาฯ และความยากจน ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/เฮนรี_จอร์จ ขอบคุณครับ จากคุณ : สุธน หิญ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:31:25

ความคิดเห็นที่ 17 วิชาเศรษฐศาสตร์ได้ถูกคอร์รัปชันในสหรัฐฯ โดยปัจจัยการผลิตที่มี ๓ ปัจจัย คือ ที่ดิน แรงงาน(กาย+สมอง) และ ทุน ถูกตัดเหลือ ๒ ปัจจัย ส่วนที่ขาดหายไปคือที่ดิน ได้ถูกนำไปรวมกับ “ทุน” เพราะพวกที่มีผลประโยชน์มากในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องการกลายเป็นเป้าเด่นตามที่เฮนรี จอร์จชึ้ให้เห็น ข้อเขียนและคำปราศรัยของ Henry George (ค.ศ.1839-1897) ในช่วง 20 ปีสุดท้ายของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่เสนอให้ยกเลิกภาษีทั้งสิ้น ยกเว้นให้เก็บภาษีมูลค่าที่ดินเพียงอย่างเดียว ซึ่งได้รับการต้อนรับจากคนส่วนใหญ่ ทำให้กลุ่มอำนาจต้องหาทางรักษาสถานภาพที่เป็นอยู่ (status quo) ส่วนที่สำคัญก็คือพยายามมีอำนาจควบคุมการเรียนการสอนเศรษฐศาสตร์ตามมหาวิทยาลัยสำคัญๆ ของสหรัฐฯ ศาสตราจารย์ Mason Gaffney อธิบายว่าเศรษฐศาสตร์แบบนีโอคลาสสิกเริ่มขึ้นเมื่อ John Bates Clark (ค.ศ. 1847-1938) ผู้มีชื่อเสียงด้านพัฒนาแนวคิดเรื่องผลิตภาพหน่วยท้ายสุด (marginal productivity) ถือเอาเป็นภาระหน้าที่ของตนที่จะต้องต่อต้าน Henry George ต่อมา Clark ได้รับการย้ายไปยังมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย แล้วบรรดาศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ที่คุ้นเคยกับการโต้แย้งทางจริยธรรมก็ถูกแทนที่ด้วยผู้ผ่านการศึกษาด้านทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ใหม่ๆ สิ่งแรกที่กลุ่มนีโอคลาสสิกทำคือ การถอนเอา “ที่ดิน” ออกจากสมการเศรษฐกิจ โดยไม่ถือเป็นปัจจัยการผลิตที่แตกต่างจากทุนและสินค้าที่ผลิตขึ้นมาด้วยการใช้แรงงาน โลกเศรษฐกิจจึงเหลือสิ่งสำคัญพื้นฐานเพียง 2 สิ่ง คือ แรงงาน และ ทุน อิทธิพลความคิดของ Henry George และกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์เดิมที่เรียกว่า political economists แทบจะหมดไปในราวกลางทศวรรษที่เริ่มจาก ค.ศ.1920 (จาก The Corruption of Economics (excerpt) http://politicaleconomy.org/gaffney.htm ) จากคุณ : สุธน หิญ เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 09:51:33

ความคิดเห็นที่ 18 ยุค นายกฯ ชาติชาย ชุณหวัน จากคุณ : วิวเฟรโด้โกเมส ซานวาดอซานเชส เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 12:58:50

ความคิดเห็นที่ 19 คห.15 ในยุค รสช ที่ตั้งตุณอานัันท์ เป็นนายกฯ สิ่งที่ผมชอบใจอยู่เรื่องหนึ่งก็คือ การเร่งออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ออกมาได้อย่างมากมาย ซึ่งกฎหมายหลายอย่างถูกดอง ถูกหมักหมมเอาไว้ในสมัยที่มี ส.ส. เพราะมันไม่เป็นประโยชน์กับคนรวยคนชั้นสูง ที่สำคัญก็เช่นระบบการจัดเก็บภาษีของรัฐ จากภาษีการค้ามาเป็นระบบ VAT ทำให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้น  เพียงแต่ตอนหลัง คุณ สุจินดาดันจะไปมีแนวคิดแบบสมัย ถนอม ซึ่งมันหลงยุคอย่างแรง ประชาชนจึงพร้อมใจกันรับไม่ได้ เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกับสมัย คมช ซึ่งตอนนั้นผมเห็นว่า เมื่อเป็นเผด็จการแล้วก็ควรเร่งออกกฎหมายที่สำคัญ ๆ ออกมาให้มากที่สุดแบบสมัย รสช แต่กลับกลายเป็น กฎหมายออกได้ช้ายิ่งกว่าตอนมีสภาเสียอีก เพราะ คมช เต็มไปด้วยการต่อรองทางการเมืองและผลประโยชน์กับฝ่ายคุณทักษิณ ผลคือประชาชนซวยมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนทั้งทักษิณ ทั้ง คมช ก็ลอยนวลด้วยกันหมด แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 55 13:14:37 จากคุณ : LUCKPOWERRICH เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 13:14:11

ความคิดเห็นที่ 20 ความสุขอยู่ที่ใจคน ไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ บางคนส่งออกก็ชอบปี 40 เพราะเงินเข้าเยอะ แต่คนกู้เงินเมืองนอกก็ทุกข์เพราะหนี้เพิ่มบาน วันนี้คนมีเงินเยอะก็เป็นสุข แต่ถ้าพรุ่งนี้เงินน้อยก็ทุกข์ ไม่ได้เกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจหรอกครับ จากคุณ : nubtong เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 13:56:13

ความคิดเห็นที่ 21 ที่รู้สึกว่าเศรษฐกิจดี,คนไทยมีความสุขก็ 2 ช่วง - นายกฯ เปรม รู้สึกว่าประเทศไทยสงบ อยู่กับพอเพียง ไม่หวือหวา ไปเรื่อยๆ รัฐบาลมั่นคงมาก - นายกฯ ทักษิณ รู้สึกว่าประเทศไทยเท่ห์มาก มีโอท็อป เป็นที่รู้จักของเมืองนอก ได้รักษาแพงๆ ในราคาแค่ 30 บาท รากหญ้าได้ลืมตาอ้าปาก จากคุณ : เจ๊วรรณา เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 55 16:36:42