 |
เร่งพัฒนา 'หาบเร่ เสน่ห์เมือง' สร้างความประทับใจนักท่องเที่ยว
จากการที่กรุงเทพมหานครได้รับรางวัล "เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก" (The World' s Best Award 2012) โดยผลโหวตจากนักท่องเที่ยวและผู้อ่านนิตยสาร "เทรเวล แอนด์ เลชเชอร์" ซึ่งเป็นนิตยสารท่องเที่ยวยอดนิยมของสหรัฐอเมริกา ได้รับเป็นครั้งที่ 4 แสดงให้เห็นว่ากรุงเทพฯ มีเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว ผลการสำรวจความพึงพอใจนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกรุงเทพฯ สิ่งหนึ่งเป็นเพราะกรุงเทพฯ มีร้านค้าหาบเร่เป็นจำนวนมาก ที่จับจ่ายใช้สอยได้อย่างสะดวกและประหยัดทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ
ดังนั้นเป็นที่แน่นอนว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องพัฒนา การค้าขายริมทางบาทวิถีให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อรักษา จุดเด่นของกรุงเทพฯ ไว้ ซึ่ง กทม. มีโครงการอยู่แล้วในชื่อ "หาบเร่เสน่ห์เมือง" ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2554 โดยคัดสรรจุดหาบเร่ทั่วกรุงเทพฯ จาก 50 เขต โดยแรกเริ่ม 26 จุดใน 14 เขต ต่อมาได้กำหนดนำร่องใน 5 พื้นที่ ได้แก่ เสน่ห์ดอกไม้ บริเวณจุดจำหน่ายดอกไม้พวงมาลัยหน้าพระพรหม เขตปทุมวัน เสน่ห์อาหาร บริเวณเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ เสน่ห์แฟชั่นเสื้อผ้า 3 จุดคือ บริเวณจุดค้าเสื้อผ้าประตูน้ำ เขตราชเทวี, บริเวณถนนตานี บางลำพู เขตพระนคร และถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา แต่สุดท้ายที่ทำได้เห็นผลเหลือเพียง 3 จุดหลัก
จุดแรก คือ "หาบเร่ เสน่ห์ดอกไม้" เขตปทุมวัน ที่เป็นแหล่งจำหน่ายพวงมาลัยดอกไม้สดและเครื่องบูชา ที่หน้าพระพรหมเอราวัณ เนื่องจากเป็นจุดที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนและเป็นสินค้าหลักในการทำการค้า ซึ่งเป็นจุดผ่อนผันเดิม โดยจัดระเบียบให้เป็นซุ้มหน้าอาคารไซโก้โดยตีเส้นชัดห้ามล้ำแนว เพื่อให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีประชาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ให้การสนับสนุนและดูแล นอกจากนี้ยังมีกรรมการผู้ค้าที่คอยดูแลที่ทำหน้าที่ประสานงานกับ กทม. และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเข้มแข็ง จึงเป็นจุดแรกที่มีการรวมตัวของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้ให้ตั้งจุดค้าขาย โดยไม่สร้างความรำคาญให้กับลูกค้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและชอปปิงขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ซึ่งจากการดำเนินโครงการได้มาร่วม 1 ปี ตั้งแต่ เดือน มิ.ย. 54 จนถึงปัจจุบันก็ได้รับการตอบรับและสร้างความพึงพอใจให้นักท่องเที่ยว
จุดที่สองคือถนนราชปรารภทั้ง 2 ฝั่ง ย่านประตูน้ำ เขตราชเทวีซึ่งเป็น "หาบเร่ เสน่ห์แฟชั่น" ซึ่งเป็นจุดผ่อนผันเดิมที่ได้มีการพัฒนา จัดระเบียบทั้ง 2 ฝั่งถนนให้มีความสวยงามเป็นระเบียบ ซึ่งเป็นผู้ค้าเดิมที่มีการค้าขายอยู่แล้ว กว่า 400 ร้าน โดยคัดสรรให้เป็นการค้าขายที่เป็นสินค้าที่เป็นประเภทแฟชั่น คือเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ฯลฯ โดยไม่ให้สินค้าประเภทอาหารหรือของสดเข้ามาจำหน่าย พร้อมกับใช้ผ้าใบ ร่มสีเดียวกันให้เป็นระเบียบสวยงาม นอกจากนี้จุดนี้ยังมีประชาคมชาวประตูน้ำให้ความร่วมมือในการร่วมกันพัฒนาตลอดแนวย่านประตูน้ำ ให้เกิดความสวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชอปปิงกันมากขึ้น ทั้งนี้จุดดังกล่าวมีการพัฒนามาตั้งแต่ต้นปี 2555 แต่ก็หยุดชะงักไปในช่วงหลัง เนื่องจากมีการก่อสร้างปรับปรุงถนนเป็นระยะ ๆ จึงทำให้มีฝุ่นละอองเกิดขึ้น ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะกลับมาปรับปรุงให้สวยงามอีกครั้ง
จุดที่สามคือบริเวณวัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าที่มีความสวยงามทางประวัติศาสตร์ "หาบเร่ เสน่ห์กรุงเก่า" จากเดิมเป็นผู้ค้าหาบเร่ที่มาตั้งร้านอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่ ที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบอยากตั้งขายตรงไหนก็ตั้ง ทางเขตจึงมีการดำเนินการทำแผงค้าให้เป็นตามมาตรฐานและอยู่จุด ๆ เดียว โดยให้แต่ละร้านจัดร้านเป็นแนววิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย โดยสินค้าที่จำหน่ายอาทิ สินค้าโอทอปของท้องถิ่น ของที่ระลึก ขนมโบราณ เป็นต้น พร้อมกับจะมีการพัฒนาทำจุดพักผ่อนให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะทยอยปรับปรุงแล้วเสร็จเรียบร้อยภายในสิ้นปีนี้
นายกระมล โอฬาระวัต ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กล่าวว่า ปัจจุบัน สามารถพัฒนาได้เพียงแค่ 3 จุด เพราะติดกฎเกณฑ์เงื่อนไขที่ไม่สามารถเข้าโครงการหาบเร่เสน่ห์เมืองได้ เช่น ต้องเป็นสินค้าที่เป็นโอทอป ต้องเป็นจุดผ่อนผันเดิม ต้องเป็นตามกฎเกณฑ์ของจุดผ่อนผัน 5 ข้อบังคับ 1. ต้องมีที่ว่างให้ประชาชนสัญจรกว้างไม่น้อยกว่า 1 เมตร 2. พื้นที่ค้าขายต่อรายต้องไม่เกิน 2 ตร.ม. 3. แผงค้าต้องสูงจากพื้นไม่เกิน 1.50 เมตร 4. ห้ามวางสินค้าบนพื้นทางเท้า และ 5. ทุกแผงค้าต้องมีหลังคาหรือร่มตามความเหมาะสม แต่ทางสำนักเทศกิจพยายามพัฒนาจุดค้าขายผ่อนผันอื่น ๆ ให้มีคุณภาพ มีความเป็นระเบียบ สะอาด ถูกสุขลักษณะเช่นเดียวกัน ด้วยการประกวดจุดผ่อนผันดีเด่น ประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 โดยปีนี้มีการส่งเข้าประกวด 23 จุด ซึ่งจะมีการประกาศจุดผ่อนผันดีเด่นที่ได้รางวัลในสิ้นเดือน ส.ค. นี้
ถึงแม้ว่าการพัฒนาโครงการหาบเร่เสน่ห์เมือง ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก แต่การได้รางวัลเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก เป็นการการันตีอย่างหนึ่งว่ากรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองที่ต่างชาติใฝ่ฝันอยากมาท่องเที่ยว ดังนั้นการพัฒนาไปพร้อม ๆ กับการคงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองให้คงไว้ กทม. คงต้องเร่งดำเนินการ เพราะยังมีหาบเร่อีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้เข้าไปจัดระเบียบ และดูแลเรื่องของสุขอนามัยและความสะอาด ซึ่ง กทม. จะต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสินค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอาหารริมทาง พร้อมกับสร้างความตระหนักให้พ่อค้าแม่ค้าใส่ใจใช้สินค้าที่มีคุณภาพ และรักษาความสะอาดในทุกขั้นตอนของการปรุงอาหาร จะเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กรุงเทพฯ อีกไม่น้อย และทำให้กรุงเทพฯ เมืองที่ไม่เคยหลับใหล ให้ยังคงเป็นเมืองที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวตลอดไปในทุก ๆ ปี.--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
จากคุณ |
:
เม่าน้อยสู่พญาปลวก
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 55 08:50:50
|
|
|
|
 |