วิธีการทำเรื่องขอแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก
การแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ไม่จำเป็นต้องจ้างทนายค่ะ เราสามารถไปยื่นคำร้องที่ศาลเองได้
ในการนี้ สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ ทายาททุกคน ต้องยินยอมให้เราเป็นผจก.มรดกเพราะมันต้องมีเอกสารยินยอมจากทุกคนด้วย ไม่งั้น ก็จะมีการยื่นคัดค้านอะไรกันอีกภายหลัง จะวุ่นวาย
ทีนี้ก็มาถึงเรื่องเอกสารล่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียมไป
1 สำเนาบัตรประจำตัวผู้ร้อง, ทะเบียนบ้านผู้ร้อง, สูติบัตรของผู้ร้อง. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
2 สำเนามรณบัตรผู้ตาย
3 สำเนาทะเบียนบ้านผู้ตาย
4 สำเนาทรัพย์มรดก เช่น บัญชีเงินฝากชื่อผู้ตาย , โฉนดที่ดิน , ทะเบียนปืน, ทะเบียนรถ, สัญญาเช่าซื้อ (ให้เลือกมาเพียง 1 อย่างเท่านั้น )
5 สำเนาบัตรประจำตัวทายาทผู้ให้ความยินยอมทุกคน (ลูกทุกคน) หรือ สำเนาสูติบัตร (กรณีทายาทผู้ให้ความยินยอมอายุไม่ถึง 15 ปี)
เอกสารตั้งแต่รายการ 1-5 ให้ถ่ายสำเนามาอย่างละ 3 ชุด และให้ผู้ร้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
ในเอกสารข้อ 1-4 ส่วนข้อ 5 เจ้าของบัตรแต่ละคนก็เป็นผู้ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง แล้วให้จัดเรียงเอกสารตามลำดับ 1-5 เย็บติดกันเป็นจำนวน 3 ชุด
แต่ ยังมีเอกสารอีก 2 รายการที่ทางศาลมีแบบฟอร์มไว้ให้แล้ว คือ
บัญชีเครือญาติ
เอกสารชุดนี้ เป็นการแสดงถึงลำดับญาติของเจ้าของมรดกว่ามีลูกกี่คน ชื่ออะไรกันบ้าง แล้วต้องเซ็นชื่อของแต่ละคนด้วย
อีกชุดหนึ่ง คือ หนังสือยินยอมของทายาทที่ให้เราเป็นผจก.มรดก ลูกๆ ทุกคนต้องเซ็นชื่อ
ดังนั้น เพื่อให้ยื่นครั้งเดียวผ่านไปเลย ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา หากเป็นไปได้ ก็ให้ญาติทูกคนไปด้วยกันหมด โดยเฉพาะเรื่องลายเซ็นนี่ล่ะ หากจะต้องเขียนใหม่ก็จะสะดวก ไม่ต้องย้อนกลับมาอีก
แต่ถ้าญาติเยอะ ก็ต้องยอมไปกลับหลายเที่ยวหน่อย คือครั้งแรกไปศาลเพื่อเอาเอกสารทั้งหมดที่ต้องให้ญาติเซ็นมา แล้วก็เดินสายไปหาญาติแต่ละคนเพื่อให้เขาเซ็น
เมื่อไปถึงศาล ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาก็ช่วยจัดเตรียมเอกสาร ดูตรวจเช็ค จากนั้น เขาก็จะพิมพ์หนังสือคำร้องขอแต่งตั้งเป็นผจก.มรดก ให้
เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เอาเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่ช่องรับเรื่อง จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร แต่ถามเขาก็ได้ เขาก็จะนัดวันให้มาขึ้นศาลถ้าจำไม่ผิดหลังจากวันที่ยื่นเรื่อง 1 เดือน
ก็จะได้เป็นใบรับเล็กๆ มา แล้วก็ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมศาล 200 บาท ค่าประกาศหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะของศาล 500 บาท ซึ่งค่าประกาศนี้ ก็จ่ายกันตรงนั้นล่ะ
พอถึงวันนัด ก็ไปตามเวลา ตอนนั้นจะมีคนมาขอเป็นทนายให้เพื่อเก็บคดี ซึ่งเป็นเรื่องของเขา แต่เราไม่ต้องจ่ายเงินให้ เขาก็ทำหน้าที่ซักถามเรา ให้เราตอบในศาล ก็เท่านั้น
เราขึ้นศาลช่วงเช้า พอช่วงบ่ายก็ลงไปตามเรื่องอีกแผนกหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ออกคำสั่งศาล ซึ่งก็คือ สิ่งที่เราต้องการนี่ล่ะ ตัวจริงเขาจะเก็บไว้ที่ศาล แต่ให้เราถ่ายสำเนาตรงนั้นล่ะ แล้วเอาไปให้เขาเซ็นรับรองและประทับตรา ค่าทำก็ 50 บาท ตัวนี้ก็เท่ากับตัวจริง เวลาเราจะใช้ ก็ให้ถ่ายสำเนาจากตัวนี้อีกทีแล้วเซ็นรับรอง ก็เหมือนกับสำเนาทะเบียนบ้านนั่นล่ะค่ะ
แต่ยังไม่จบเรื่องนะ 555 หลังจากได้คำสั่งศาลแล้ว อีกหนึ่งเดือนต่อมา ก็ให้มาติดต่อที่ศาลอีกเพื่อขอใบรับรองว่าคดีถึงที่สิ้นสุด เหตุที่ต้องรอ 1 เดือนมันเป็นกฏ เพื่อให้โอกาสคนที่ต้องการคัดค้านจะได้มาค้านซะ
แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีก 1 อาทิตย์หลังจากไปขอหนังสือรับรองว่าคดีถึงที่สิ้นสุด ก็ไปรับหนังสือได้
และแล้วก็จบเรื่อง
เหตุที่ต้องมีทั้งคำสั่งศาลแต่งตั้งผจก.มรดก และ ใบรับรองว่าคดีถึงที่สิ้นสุด ด้วยนั้น ก็เพราะบางธนาคาร อย่างในกรณีเรา คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะกำหนดไว้เลยว่าต้องมีทั้งสองอย่าง