วุฒิศักดิ์คลินิกยันจะสร้างคฤหาสน์ข้างอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
|
|
ที่ปรึกษาเจ้าของวุฒิศักดิ์ คลินิก เตรียมร้อง "เจ๊แดง" เยาวภา เคลียร์กับกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ ยันจะสร้างคฤหาสน์หรู ข้างลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยต่อไป ด้านทางจังหวัดเชียงใหม่ เร่งสอบเอกสารสิทธิ...
วันนี้ (4 พ.ย.55) ภายหลังจากที่นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ หุ้นส่วนสถาบันเสริมความงามชื่อดัง วุฒิศักดิ์คลินิก และเป็นนักธุรกิจหนุ่มรวยระดับพันล้าน ได้มาซื้อที่ดินติดกับลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ทางขึ้นดอยสุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ เพื่อสร้างคฤหาสน์หรู และระหว่างการก่อสร้างปรากฏว่าเสาอาคารได้โผล่ขึ้นมาอยู่สูงกว่าที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวจังหวัดเชียงใหม่ และชาวพุทธทั่วประเทศ จนมีตัวแทนชาวบ้านออกมาประท้วงการก่อสร้างดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 ก็โดดลงมาต่อต้านด้วย จนทาง ผวจ.เชียงใหม่ ต้องให้มีการสั่งชะลอให้หยุดการก่อสร้างเอาไว้ก่อน ตามที่ผู้สื่อข่าวไทยรัฐเกาะติด นำมาเสนออย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมมาว่า เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ (4 พ.ย.) จากการไปสังเกตการณ์ที่บริเวณโครงการก่อสร้างดังกล่าวพบว่า ทางผู้รับเหมาได้หยุดทำงานตามคำสั่งของ ผวจ.เชียงใหม่ แล้ว แต่ได้มี นายธนากร ลอมศรี เลขาฯ ส่วนตัวของนายณกรณ์ ได้ว่าจ้างผู้รับเหมาปลูกต้นไม้ นำต้นไม้ขนาดใหญ่ เข้ามาปลูกบริเวณรอบรั้วที่ติดกับลานอนุสาวรีย์ครูบาฯ พร้อมกับนำผ้าเต็นท์มากางคลุมหลังคาเอาไว้ เพื่อไม่ให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาได้เห็นโครงสร้างของอาคาร
โดยทางนายธนากร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางนายณกรณ์ ได้มอบหมายให้ตน สั่งซื้อต้นไม้ขนาดใหญ่ มาปลูกริมรั้่ว เพื่อบังอาคารก่อสร้างจำนวน 6 ต้น มูลค่าต้นละ 65,500 บาท ถึง 125,000 บาท ส่วนการก่อสร้างอาคารนั้นอยู่ในระหว่างให้ช่างออกแบบปรับระดับความสูงลงมาเหลือ 1 ชั้น เพื่อไม่ให้อยู่สูงกว่าที่ประดิษฐานครูบาฯ
ต่อคำถามผู้สื่อข่าวว่า มีความเห็นอย่างไร ที่กลุ่มเสื้อแดงออกมาต่อต้านการก่อสร้างในครั้งนี้ นายธนากร กล่าวว่าได้หนังสือชี้แจงไปยังกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 แล้ว แต่ก็ยังไม่หยุด และชายอีกคนที่มาเป็นเพื่อนกับเจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ได้พูดสวนขึ้นมาว่า เรากำลังให้ผู้ใหญ่ทำหนังสือไปยื่นต่อ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เพื่อมาช่วยเคลียร์กับกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ให้หยุดการเคลื่อนไหว รวมทั้งจะนำแบบบ้านไปยื่นต่อ เทศบาลตำบลสุเทพ เพื่อขออนุญาตในการก่อสร้างต่อไป
ทางด้านนายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเชียงใหม่อารยะ และเคยเป็นแกนนำในการประท้วง ที่จุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาในครั้งแรก กล่าวว่า ตนทำหน้าที่หมาเฝ้าบ้านจบลงแล้ว ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของชาวจังหวัดเชียงใหม่ และชาวพุทธทั้งประเทศ ที่จะมาช่วยกันปกป้องสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ในแนวคิดของตน วางแนวทางเอาไว้ 3 ด้าน คือ 1. เจ้าของที่ดินที่กำลังถูกต่อต้านนี้ควรบริจาคที่ดินแปลงดังกล่าวถวายเป็นพุทธบูชาอุทิศแด่ครูบาเจ้าศรีวิชัย อันเป็นที่เคารพเทิดทูนของชาวไทย 2. คนเชียงใหม่และทั่วไทยร่วมใจกันรับบริจาคซื้อแผ่นดินผืนนี้คืนมา แล้วมอบถวายเป็นพุทธบูชา 3. ดําเนินการในทางกฎหมายเพื่อยึดคืนผืนป่าผืนนี้โดยใช้กฎหมายที่ยุติธรรมและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ไล่เบี้ยจนได้ความจริง ว่ามีการออกโฉนดที่ดินที่เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้อย่างไร และจะต้องทำโดยเร็วที่สุด
นายนที ยังได้กล่าวอีกว่า ทางด้าน นายธานินทร์ สุภาแสน ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ตนได้แต่ตั้งคณะกรรมการ โดยมอบหมายให้ทาง รอง ผวจ.เป็นหัวหน้าเข้าไปดำเนินการสอบสวนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด และทางตนก็มีความเป็นห่วงบริเวณสถานที่ก่อสร้างอยู่ใกล้กับสถานที่ประชาชนพี่น้องชาวเชียงใหม่และชาวพุทธคนไทยทั่วประเทศให้ความเคารพนับถือ ซึ่งต้องให้ทั้งสองฝ่ายมาคุยกัน ทั้งฝ่ายผู้ที่กำลังก่อสร้างและประชาชนที่คัดค้านไม่เห็นด้วย เพื่อร่วมกันหาทางออก ขณะเดียวกันทางจังหวัด ก็ยังให้เร่งมีการตรวจสอบการได้มาซื้อเอกสารสิทธิ์ ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติว่า มีการได้มีโดยวิธีไหน กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่คาดว่า คงจะทราบผลในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงนี้ สถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งตั้งอยู่โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ด้านหลังวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ยังมีการเปิดสายโทรศัพท์รับฟังความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ต่อเรื่องดังกล่าว
โดยเสียงชาวบ้านส่วนใหญ่ที่โทรศัพท์เข้ามา ส่วนมากไม่ต้องการให้มีการก่อสร้างต่อไป เพราะสถานที่ดังกล่าว เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรจะมีการอนุรักษ์พื้นที่เอาไว้ และเรียกร้องให้ให้ทาง ผวจ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่รอบๆ ลานครูบาศรีวิชัย เพราะล้วนแต่เป็นพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และน้ำตกห้วยแก้ว เพราะมีกลุ่มคนที่มาจากที่อื่น เข้ามาจับจองบุกรุกครอบครอง.
จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 4/11/2555 อย่าดูอยู่เฉยๆครับ มาช่วยกันปกป้องเชียงใหม่บ้านของเรากันเถอะครับ
จากคุณ |
:
ARTRED
|
เขียนเมื่อ |
:
5 พ.ย. 55 19:49:30
|
|
|
|