ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาดูคนกะลังฝัน 555 จากคุณ : K.Ruan - [ 28 ม.ค. 49 19:55:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แค่เห็น ฟาวเลอร์กลับมา ก็เหมือนฝันเป็นจริงแล้วครับ จากคุณ : Niceguy_C (Niceguy_C3) - [ 28 ม.ค. 49 19:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยูเมืองไทยละซิคุณหยิก......รอมาทั้งวันว่าจะเข้ามะนี่ เดี๋ยว Rep. ล่าง ๆ จะมีมุมมอง และประวัติต่าง ๆ มาฝากด้วย อิอิ สุขสันต์วันปีใหม่จีนครับคุณหยิก จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 19:59:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .../modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=12713&sid=7965b35c669628484df88951346050f1 เดอะ ก็อด ร๊อบบี้ ฟาว์เลอร์ ........... มันเป็นปรากฏการณ์ที่ยิงใหญ่เลยทีเดียว ยิ่งกว่า ปรากฏการณ์สนธิ หรือ บั้งไฟพญานาคเสียอีก .. บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อต้อนรับการกับมาของ เดอะ ก็อด ร๊อบบี้ ฟาว์เลอร์ อดีต ตำนานที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ซึ่งก็เป็นอดีตไม่กี่ปีที่ผ่านมา ... ความรู้สึกส่วนตัวแล้ว มันเป็นอะไรที่ดีใจมากมายก่ายกองเลยครับท่านผู้อ่าน .. ผมไม่รู้ว่าการกลับมาในครั้งนี้ ของร๊อบบี้ นั้นจะมีความสุข เท่ากับการกลับมาของ เอียน รัช เมื่อสมัยในอดีต ที่ผมยังเป็นวุ้นอยู่หรือไม่ ..  แต่ที่แน่ๆ เด็กๆ รุ่นผมหรืออาจจะมากว่าผมสักนิด หรือ ต่ำกว่าผมนิดๆ นั้นคงจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขาคือ ฮีโร่ อดีต ขวัญใจ ของพวกเราจริงๆ เท้าซ้ายอันทรงอัศจรรย์ ยังคงติดตราตึงอยู่ในใจเราเสมอ ผมก็เพิ่งได้ดูคลิ๊ป VDO 50 ประตูในความทรงจำ ซึ่ง ผมก็ไม่ยักจะเชื่อเลยว่า วันหนึ่งเขาจะกลับมาใส่เสื้อ สีแดงเพลิง อีกครั้ง ... ปล.ลิงค์ยาวมาก .../modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=12713&sid=7965b35c669628484df88951346050f1 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 49 20:20:38 แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 49 20:17:56 จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 20:04:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือ พลาสเตอร์ แปะที่จมูกของเขา ... .......... ร๊อบบี้ ฟาว์เลอร์ เกิดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 1975 ซึ่ง ณ. เวลานี้ก็อายุขึ้นเลข หลัก 3 ไปแล้ว แต่นั้นก็ไม่เป็นที่หนักใจเท่าไหร่ เพราะเรายังเชื่อมั่นเสมอว่า ก็อด ยังไงก็เป็นก็อดอยู่วันยังค่ำ แล้วราฟาก็คิดว่า คงไม่ได้เอาฟาว์เลอร์เป็น ศูนย์หน้าตัวหลักอย่างแน่นอน ด้วยประสบการณ์ ไหวพริบ ปฏิพาน ของฟาว์เลอร์ ผมคิดว่ายังไง ลิเวอร์พูลก็ได้รับผลประโยชน์อย่างแน่นอน ถึงแม้ ตัวเขาจะไม่ค่อยมีโอกาศได้ลงเล่น หรือลงเล่นแต่ยิงได้ไม่เยอะ มันก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่รู้สิ แค่ได้เห็นก็มีความสุขแล้ว .. เว่อซะไม่มี อิอิ   ... ร๊อบบี้ เกิดที่ ท็อกซ์เทธ ลิเวอร์พูล ซึ่งในย่านนั้น ก็ไม่ได้เป็น ย่านที่คนมีกระตังส์จะอยู่ เป็นย่านที่มีสิ่งอบายมุขมีอยู่เยอะ ทำให้ ร๊อบบี้นั้น โตเกินวัยและ อาจจะเป็นผู้ใหญ่ก่อนที่จะบรรลุนิติภาวะซะอีก โดย เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ฟาว์เลอร์ได้เข้ามายังรั่วแอนฟิลด์ เป็นเด็กของสโมสรลิเวอร์พูล เล่นในระดับทีมยูธเรื่อยมา จนกระทั่ง จนฟอร์มเข้าตาจึงทำให้ได้มีโอกาศลงเล่นในทีมชุดใหญ่ โดยฟาว์เลอร์ได้เข้าร่วมทีมลิเวอร์พูล ในปี 1992 แต่ในฤดูกาลนั้น ฟาว์เลอร์ยังไม่มี โอกาศได้สัมผัสเกมเลย แต่กับฤดูกาลที่ 2 นั้น ฟาว์เลอร์ก็ฉายแวว แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว โดยประตูแรกที่ ร๊อบบี้ ได้ทำไว้ในนัดที่พบกับ ฟูแล่ม ในปี 1993 ในศึก ลีกคัพ ซึ่งก็เป็นนัดแรกในของการลงทีมในชุดใหญ่เลยทีเดียว โดยในนัดที่ 2 ที่พบกับ ฟูแล่มเช่นกัน ฟาว์เลอร์ สามารถทำแฮตทริคแรกได้ แต่ไม่ใช่แค่แฮททริค 3 ประตู แต่เป็น แฮททริคที่ทำได้ 5 ประตูเลยทีเดียว เป็นอะไรที่บอกว่าสุดยอดแระครับ ..   และนั้นอาจจะบอกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้น ของยอดยาวยิงของสโมสรลิเวอร์พูลเลยทีเดียว โดยจบฤดูกาลนั้น ฟาว์เลอร์ทำไปได้ ทั้งหมด 18 ประตู จากการลงเล่น 34 นัด ใครจะคิดเล่าว่า เด็กคนหนึ่งที่ยังอายุไม่ถึง 20 ปีเต็ม ลงเล่นในฤดูกาลแรกแล้วจะสามารถทำประตูได้ดีขนาดนี้ .... และเพียงแค่ในฤดูกาลที่ 2 สำหรับตัวเขา เขาก็สามารถทำประตูได้เกิน 30 ประตูต่อ ซีซั่นได้แล้ว ซึ่งทำได้ 31 ประตู จากการลงเล่น 57 นัด และหลังจากนั้น ถัดมาเรื่อยๆ ในอีก 2 ปีถัดมาเขาก็สามารถยิงไปได้อีก 36 ... และ 31 ประตู ซึ่งก็ทำให้เขาสามารถยิงประตูได้ เกิน 100 ประตูโดยใช้เวลาเพียง 4 ฤดูกาลกับ ลิเวอร์พูลชุดใหญ่ ... ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นทีมมาสู่ชุดใหญ่ ฟาว์เลอร์ก็มีความสำเร็จมาการันตี หงส์ด้วยการพาทีม U-18 คว้าแชมแชมป์ ยูโร มาครองได้สำเร็จในปี 1993 นั้นเอง .... แต่หลังจาก 3 ฤดูกาลนั้น เขาก็ไม่สามารถทำประตูได้เกิน 20 ประตูเลย อาจจะเป็นเพราะคู่ต่อสู้เริ่มจับทางได้ อีกทั้ง แท็คติคใน สมัย กุนซือ เชราร์ ก็อาจจะทำให้เขายิงประตูได้น้อยลง ฟอร์มฝืดลงก็มีผล อีกทั้งอาการบาดเจ็บด้วย .... แต่ด้วยความเป็นศูนย์หน้าอาชีพ ความมีสัญชาติญาณนั้นเขาก็ยังสามารถประคองตัวเล่นกับเพื่อนร่วมทีมต่อไปได้เรื่อยๆ และ ไม่ค่อยทำให้กุนซือผิดหวังเลย จนในที่สุด ฟาว์เลอร์ก็สามารถพาทีม คว้า ทริปเบิ้ลแชมป์ได้สำร็จในปี 2001 – 2002 และเขาก็มีส่วนสำคัญของทีมในการคว้าถ้วย ยูฟ่า คัพมาครองได้ โดยในนัดนั้น ร๊อบบี้ ฟาว์เลอร์ได้ลงมาเล่นเป็นตัวสำรอง แทนที่ เอมิล เฮสกี้ ในนาทีที่ 64 ซึ่งขณะนั้น สกอร์ยังอยู่ที่ 3 – 3 ... และหลังจากการลงมาได้ เพียงไม่ถึง 10 นาที ฟาว์เลอร์ก็มีโอกาศยิง และเป็นประตูขึ้น อลาเบส จากสเปนไป 4 – 3 ซึ่งตอนนั้น ใครๆก็คิดว่า ลิเวอร์พูลที่มีเกมรับดี น่าจะมาสามารถ ยันสกอร์ไว้ได้ แต่สุดท้ายก็โดนตามตีเสมอจนได้ แต่ในช่วงต่อเวลาโกลด์เด้นโกล์ ... อลาเบสก็ทำเข้าประตูตัวเองทำให้ ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ไปได้ และนั้นก็คือความสำเร็จอีกครั้งของ ร๊อบบี้ ฟาว์เลอร์ .... ซึ่งนั้นก็เป็นถ้วยใบที่ 5 ของเขา และเป็นใบที่ 3 ในฤดูกาลนั้นด้วย ... ซึ่งเขาได้ภาคภูมิใจกับความสำเร็จในครั้งนั้นมากทีเดียว สรุปแล้ว ร็อบบี้ ฟาว์เลอร์ สามารถ ยิงถล่มประตูไปได้ถึง 171 ประตู จากการลงเล่น 330 นัด โดยประตูที่เกิดขึ้นสำหรับเขาก็คือในนัดที่พบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ ฟิลเบริกสตรีท ... ซึ่งเป็นการยิงที่ต้องบอกว่า สมบูรณ์แบบโดยแท้ ... เพราะนัดนั้นเขาสามารถทำแฮททริคสุดท้ายได้ ก่อนที่จะย้ายไปลีดส์ ซึ่งเชื่อไหมว่า เขาได้ยิงประตูได้ ในช่วงต้นเกม นาทีที่ 4 กลางเกมในนาที ที่ 43 และ สุดท้ายของเกมในนาทีที่ 90 ... ปิดฉากความสวยงามในถิ่นแอนฟิลด์ได้อย่างประทับ จ๊อดเลยทีเดียว แต่นั้นไม่ใช่นัดสุดท้ายของ ฟาว์เลอร์ นัดสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2001 ... นัดพบ ซันเดอร์แลนด์ หลังจากนั้นก้ได้ย้ายไปอยู่ทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสูงถึง 11 ล้านปอนด์ ใน 4 วันถัดมา คือวันที่ 29 พฤศจิกายน 2001 .... แต่การย้ายไปลีดส์ในครั้งนี้ มันก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จนักทีเดียว มีอาการบาดเจ็บรบกวนเสมอๆ แต่ก็ยังสามารถที่จะพอยิงประตูได้ .... แต่ในท้ายที่สุด ฟาว์เลอร์ก็ไม่สามารถอยู่กับลีดส์ได้ และ ต้องพเนจร ย้ายไปอยู่กับทีม เรือใบสีฟ้า ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ ในอีก 2 ปีถัดมาคือในเดือน มกราคม 2003 .... แต่ด้วยวัยที่สูงอายุ แล้ว ก็ยังไม่ฟิต มีตัวที่ตุ้ยนุ้ย ทำให้ ฟาว์เลอร์ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้ดีดังเดิม จนทำให้ สจ๊วต เพียซ์ ได้สั่งให้ฟาว์เลอร์ เข้า คอรส์ พิเศษ เพื่อลดหุ่นให้มีความฟิตมากขึ้น จนในที่สุดเขาก็กลับมาลงเล่น แต่ก็ไม่ได้ดีเปรี้ยงป้างเช่นเคย จนตกเป็นข่าวการย้ายทีมอยู่เรื่อยมา ซึ่งในท้ายที่สุด เขาก็ได้กลับมาสู่บ้านที่อบอุ่น อย่างลิเวอร์พูล ............ แต่เขาก็ได้ฝากความทรงจำไว้ดีดี กับ แมนซิตี้ ไว้เช่นกัน โดยล่าสุดไม่นานมานี้ ก็สามารถทำแฮททริค ได้ในนัดที่พบกับ สคันธอร์ป ในศึก เอฟเอคัพ ... และที่แสบสุด ก็คงหนีไม่พ้น การลงไปเป็นตัวสำรอง แล้วยิงฝัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในศึก พรีเมียร์ชิพ โดยชนะไป 3 – 1 .... ซึ่งก็ต้องบอกว่า ฟาว์เลอร์นั้นเป็น คู่อริกับ ทีม ผีแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบสมบูรณ์แบบ .... ก็จะไม่ให้เป็นศัตรูได้ยังไงเล่า ตอนอยู่ ลิเวอร์พูล ก็ยิงแสกหน้า ชไมเคิ่ล มาหลายครั้ง ... จนเป็นของประจำไปเลย ถึงขนาด ชไมเคิ่ล ประตูที่ได้ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก ยังยกย่อง ยังกลัว ฟาว์เลอร์เลย ... แล้วทั้ง อเล็ก เฟอร์กูสัน ก็ยังจ้องๆ เลห์ๆ อยากให้ ฟาว์เลอร์ไปร่วมทีมก็เคยมี ... และที่แสบไปกว่านั้น 3 สโมสร ที่ฟาว์เลอร์ อยู่นั้น เป็นคู่อริ โดยตรง กับ แมนยู อย่าง สิ้นเชิง ... ลิเวอร์พูล ... ลีดส์ ... และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ... คู่ปรับร่วมเมือง ... จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 20:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ......... ฟาว์เลอร์กับทีมชาติ .... ฟาว์เลอร์สามารถพาทีม U – 18 คว้าแชมป์ยุโรปได้ในปี 1993 ... แต่กับทีมชาติชุดใหญ่ ฟาว์เลอร์ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเอาเสียเลย ฟาว์เลอร์ ติดทีมชาติไปเพียง 26 / 5 นัดเท่านั้นเอง ซึ่งในการติดทีมชาตินัดแรกเกิดขึ้นเมื่อ ปี 1996 ในนัดที่พบกับ บัลแกเรีย ... ซึ่งไม่แน่ว่าถ้าการกลับมาในคั้งนี้ ฟาว์เลอร์ สามารถทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ บางที สเวนอาจจะหนีบ ไปเยอรมันก็เป็นได้ แต่คาดว่าคงยาก เพราะฟาว์เลอร์อาจจะมีฟอร์มที่ไม่ถูกกับทีมชาติก็เป็นได้ ... จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 20:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้วยรางวัล เกีตริยศ เพรียบ .... ที่ทำกับ ลิเวอร์พูล ........ ถ้วยรางวัล เกีรติยศ ฟาว์เลอร์ คว้ารางวัลนักเตะ ดาวรุ่งยอดเยี่ยมได้ 2 สมัยซ้อน ซึ่ง 2 สมัยนั้นเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 1995 และ 1996 ... ซึ่ง 2 ฤดูกาลนั้นฟาว์เลอร์ ทำประตูไปได้ 67 ประตู ... ยิงกันระเบิดเถิดเทิงไปเลยครับ พี่น้อง ... จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 20:11:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพ อมตะ ของเดอะ ก็อด เขาแระ ... ......... วีรกรรม ที่ เดอะ ก็อดได้ทำไว้ก็มีหลายความทรงจำเช่นกัน การดีใจที่สุดโต่งด้วยการ วิ่งไปที่แถวกองเชียร์ เอฟเวอร์ตัน ตรงเส้นสีขาวๆ แล้วทำถ้าสูบโคเคน เยาะเย้ย .... อีกทั้ง ทำท่าแบบ ตุ๊ดๆ ล้อใส่ แกรม เลอ โซ ในนัดที่พบกับ เชลซี .... แต่ที่น่าชื่นชมยิ่งหนัก ก็เห็นจะเป็นการปฏิเสธการได้จุดโทษของทีมลิเวอร์พูล หลังจากที่ บอลหลุดไปในเขตโทษ แล้ว เดวิด ซีแมน ออกมาขวางทางเล่นของ ฟาว์เลอร์ แล้วฟาว์เลอร์ก็ล้มไป .... ผู้ตัดสินก็เลยให้จุดโทษกับลิเวอร์พูล แต่ ฟาว์เลอร์รุกขึ้นมา เพื่อมาบอกกรรมการว่า ลูกนี้ไม่เป็นการฟาวล์ เขาได้ล้มไปเอง โดยที่ ซีแมนไม่ได้ถูกตัวเขา .... แต่แล้วกรรมการก็ตัดสินใจไปแล้ว ฟาว์เลอร์จำต้องยิงจุดโทษ แต่ก็ยิงไปเพื่อให้ ซีแมนเซฟ และไม่ได้ประตูในที่สุด การกระทำครั้งนั้น ทำให้ ในท้ายที่สุด ฟาว์เลอร์ได้รางวัลอะไรสักอย่างหนึ่ง นี้แระ เกี่ยวกับ แฟร์เพลย์ประมาณนั้นอะครับ .... จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 20:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านมาสะดุดข้อนี่ครับ 6. Fowler ย้อมผมสีทอง พร้อมชวนเพื่อนร่วมทีมอย่าง เจิด Alonso Carra Reina(ได้มั้ยหว่า) มาย้อมผมทองเป็นเพื่อน เรื่องหัวทองนี่ขอฟาวเลอร์ย้อมคนเดียวพอ อย่าให้ย้อมทั้งทีมเลยครับกลัวจะเป็นแบบโรมาเนียตอนบอลโลก ฟรองซ์ 98 พอโรมาเนียเข้ารอบ2 ย้อมหัวทองทั้งทีม นัดต่อไปกระเด็นตกรอบเลย^^ สัญลักษณ์หัวทองของฟาวเลอร์ปี 95/96 ขอให้เป็นลักษณะของเค้าคนเดียวพอ ปล.ว่าแต่ฟาวเลอร์สมัยเล่นให้ลิเวอร์พูลชอบยิงแมนฯยูฯกะอาร์เซนอลประจำนะ จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 28 ม.ค. 49 20:12:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ........ การกลับมาครั้งนี้ ของ ฟาว์เลอร์ เชื่อว่า เดอะค๊อปทุกคนคงอาจจะไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่ ฟาว์เลอร์ไว้อย่างมาก เพราะอย่างน้อยก็ต้องยอมรับความจริงว่า ฟาว์เลอร์ไม่ได้รุ่งเรือง เหมือนในอดีต ไม่ได้คม เปรี้ยงปร้างเหมือนในอดีต การที่จะฝากไว้กับ ศูนย์หน้าที่ชื่อฟาว์เลอร์ เพื่อจะหวังให้ ฟาวืเลอร์พาทีมก้าวไปคว้าแชมป์ต่างๆนาๆ คงจะเป็นการไม่ดีแน่นอน ... ผมเชื่อว่าการกลับมาในครั้งนี้ จะทำให้ เดอะ ค๊อบมีความสุข โดยเฉพาะ ผมที่มีฟาว์เลอร์เป็นขวัญใจโดยตรง ... ผมไม่ได้ตั้งความหวังไว้ว่า ฟาว์เลอร์ต้องกลับมายิงมากมาย แค่ขอให้นำประสบการณ์ที่ดี มาช่วย ประคอง ช่วยสนับสนุนทีม ... ช่วยสอนการยิงให้กับเพื่อนร่วมทีม ... ซึ่งสิ่งนั้นน่าจะมีดีกว่าหวังให้ยิงประตู ... และถ้าเกิดว่า ฟาว์เลอร์ไม่สามารถยิงประตูได้ และ อาจจะทำให้ผิดหวังมาบ้าง อย่างน้อย สิ่งที่ผมไม่อยากเห็นคือ ... การเอาศูนย์หน้าขวัญใจผม จับมาเป็นแพะ ... ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นจริงๆ ประเภทที่ว่า " ราฟาเอามาทำไมฟร่ะ แก่ก็แก่ ช้าก็ช้า " ... อย่านะครับ ได้บอกกล่าวกันไว้ก่อนเลย .... เพราะผมหนึ่งคนแระ ที่จะคอยปกป้อง ขวัญใจผมไว้อย่างที่สุด ... ผมจึงบอกไงครับ อย่าตั้งความหวังไว้กับ ฟาว์เลอร์ไว้สูงมากนัก เอาเป็นว่าช่วงเวลามีความสุขกันดีกว่า ที่ได้ ขวัญใจกลับคืน สู่ถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้ง ........... โอ้วเยสสสสสส ....... 10 มหัศจรรย์ ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์ โหลด คลิ๊ป 50 ประตู ฟาว์เลอร์ คลิ๊ปสุดยอด 100 ประตูสุดสวยของฟาวเลอร์ _________________ " if you are first you are first. if you are second you are nothing. " ... Bill Shankly [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 20:15:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กรี๊ดดดดดดด พี่เท่งน่ารักที่สุด!! จากคุณ : Pinch me - [ 28 ม.ค. 49 20:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 12 GOD!!!! SAVE THE KOP. จากคุณ : A.J.100 - [ 28 ม.ค. 49 20:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ท่าพี้ยาของฟาวเลอร์นี่ติดตามากเลยค่ะ นั่งดูอยู่ยังอึ้ง... คิดได้งัยเนี่ย แสบมากๆ จากคุณ : กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก - [ 28 ม.ค. 49 20:33:38 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาฝันด้วยคนค่ะ อืม...ข้อสุดท้ายแอบเป็นฝันร้ายของบางคนนะเนี่ย แต่....มีความสุขจัง จากคุณ : Abandoned Star - [ 28 ม.ค. 49 20:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Copy มาให้อ่าน Parry: Rafa's decision to sign Robbie Liverpool chief executive Rick Parry says the decision to bring Robbie Fowler back to Anfield was made by Rafael Benitez and nobody else. Speaking earlier this evening, Parry said: "He was so desperate to come back and we're delighted to have him back obviously. "It's always been in his heart and as he said today, he probably never thought it would happen but it's a special circumstance and his relationship with the club since he was 11 years old is one everyone knows about. "Once the chance was there, there was no hesitation from Robbie's point of view. "We obviously need to score a few more goals but the most important thing to stress is that as ever this was Rafa's decision, a football decision. "I know there's a huge wave of emotion and I know it will give the fans a lift but that isn't the reason, the reason is purely a football decision because Rafa has decided he can bring something a little more different." จาก Koptalk http://www.koptalk.com/detail_subtitle_listing.php?link_id=458&subid=2&sticky=0 ถ้าเป็นอย่างที่ Parry บอกจริงๆ เราคงได้เห็น GOD ลงสนามบ่อยๆ เพราะป๋าคงไม่ซื้อเพราะว่าแค่ GOD อยากกลับมา Anfield แน่ๆ อย่างน้อยป๋าคงเห็นประโยชน์ ในการเป็นกำลังเสริมยามจำเป็นโดยเฉพาะช่วง 20-30 นาทีสุดท้ายของเกม ป๋าราฟาได้ใจ The Kop ไปเต็มๆ   แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 49 21:20:32 จากคุณ : K.Ruan - [ 28 ม.ค. 49 21:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 http://www.liverpoolthailand.com/webboard.php?file=viewtopic&t=37842 1975 : เกิดที่ ท็อกเทช ในเมืองลิเวอร์พูล วันที่ 9 เมษายน 1992 : เซ็นสัญญาเข้ามาในฐานะเด็กฝึกหัดของลิเวอร์พูล 1993 : ทำสกอร์แรกในพรีเมียร์ลีกในนัดที่ชนะ เชลซี 1-0 และซัดคนเดียว 5ประตูใส่ฟูแลม ในนัดที่ถล่มฟูแลม 5-0 ในโคคาโคล่า คัพ 1994 : ในเดือนพฤษภาคม เขาจบฤดูกาลด้วยการทำ18ประตู ในการลงเล่น 34นัด หลังจากที่ต้องพักยาวถึง2เดือน เนื่องจากขาหัก เป็นดาวดังในทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า21ปี ในการคว้าชัยในทัวร์นาเม้นท์ที่ ฝรั่งเศส 1995 : ได้รับการโหวตจากFA ให้เป็นผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปีด้วยการซัดไป31ประตู รวมทุกการแข่งขันให้ลิเวอร์พูล และคว้าถ้วยลีกคัพในชัยชนะเหนือโบลตัน 2-1 1996 : ในเดือน มีนาคม ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษนัดแรกในการเป็นตัวสำรองในนัดอุ่นเครื่องที่ชนะบัลแกเรียในเวมบลีย์ และในเดือน พฤษภาคม ได้ถูกFAโหวตให้เป็นผู้เล่นเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปีอีกครั้ง จากการซัดคนเดียว 35 ประตู จากการลงเล่น 53นัด แม้จะพ่ายในนัดชิงFA CUP กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ตาม 1997 : มีนาคม ได้รับคำสรรเสริญจากชมรมผู้รักกีฬาฟุตบอล จากการที่ไปประท้วงกรรมการ เจอรัลด์ แอชบี้ ว่า เดวิด ซีแมน ไม่ได้ทำเขาล้มในจุดโทษ ในเดือนเมษายน ถูกไล่ออกในเกมดาร์บี้แมช หลังจากเข้าปะทะกับ เดวิด อันสวอร์ธ 1998 : เดือนกุมภาพันธ์ ต้องพักยาวทั้งฤดูกาล และพลาดฟุตบอลโลก เนื่องจากบาดเจ็บที่เข่าจากการปะทะของผู้รักษาประตูของเอฟเวอร์ตัน โทมัส มายเออร์ 1999 : เดือนมกราคม ซัดประตูที่ 100 ของเขาในพรีเมียร์ชิพได้ ในนัดเจอกับเซาท์แทมตัน 27 กุมภาพันธ์ ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องไม่เป็นเรื่องจาก แกรม เลอ ซอง ในนัดที่ลิเวอร์พูลถูกปราบโดยเชลซี โดย เลอ ซอง เข้าทำร้าย ฟาวเลอร์ ในขณะที่ มีการทำท่าทางไม่เหมาะสมของลิเวอร์พูล 2 มีนาคม เลอ ซอง เขียนจดหมายขอโทษ ฟาวเลอร์ และ ทั้งสองถูกเรียกมาปรับความเข้าใจกัน โดยโค้ชทีมชาติอังกฤษ เควิน คีแกน 6 เมษายน FA จวกฟาวเลอร์เนื่องจาก ดีใจเกินเหตุ ถูกปรับ 32,000ปอนด์ 2000 : เดือน มิถุนายน ถูกเควิน คีแกน เลือกเข้ารับใช้ทีมชาติในศึกยูโร 2000 แต่ไม่ได้ลงเล่น เดือนธันวาคม ลิเวอร์พูลตอบรับข้อเสนอยื่นซื้อฟาวเลอร์ จากเชลซี เป็นเงิน 12,000,000 ปอนด์ แต่ฟาวเลอร์เลือกที่จะอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป 2001 : ทำประตูชัยให้ลิเวอร์พูลค้วาแชมป์เวิร์ธธิงตัน คัพ ในนัดที่เจอกับเบอร์มิ่งแฮม ที่มิลเลเนียม สเตเดียม 12พฤษภาคม นำทีมลิเวอร์พูลคว้าชัยในศึกFA CUP นัดชิงชนะเลิศ เหนืออาร์เซนอลไปได้ที่คาร์ดิฟ 16พฤษภาคม บรรลุเป้าหมายโดยการพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ไปครองจากชัยชนะเหนือ อลาเบส ที่ ดอร์ทมุนด์ 6 ตุลาคม เริ่มเกมให้กับทีมชาติ โดยการพาทีมเข้ารอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกจากผลเสมอ 2-2ต่อกรีช ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 20 ตุลาคม ซัด แฮต - ทริก ให้ลิเวอร์พูล ในนัดที่ถล่ม เลสซิสเตอร์ 4-1 27 พฤศจิกายน ลิเวอร์พูลบรรลุข้อเสนอ 11ล้านปอนด์จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด และฟาวเลอร์ก็ย้ายออกไป 2วันหลังจากนั้น 26ธันวาคม ซัด แฮท-ทริก ให้กับลีดส์ ในชัยชนะ 3-0เหนือโบลตัน 2002 : เดือนมิถุนายน ลงไปเล่นเป็นส่วนหนึ่งของเกมทีมชาติอังกฤษที่ทีมชาติอังกฤษชนะเดนมาร์คไป 3-0 ธันวาคม เขาต้องพลาดการเริ่มต้นฤดูกาลไปด้วยอาการบาดเจ็บที่เอว 2003 : 13 มกราคม ลีดส์ตกลงขายฟาวเลอร์ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในราคา 7ล้านปอนด์ 2005 : 28 กุมภาพันธ์ ซัดประตูที่150 และ 151 พรีเมียร์ชิพ ในนัดที่ชนะ นอริช ซิตี้ 3-2 2006 : 7 มกราคม ตะบัน แฮท-ทริก ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในชัยชนะเหนือสคันทอร์ป ในFA CUP รอบ3 โดยผู้จัดการของเรือใบ ได้กล่าวว่า "อย่าถามกับผมเกี่ยวกับการขายฟาวเลอร์" และเขาก็ได้จองตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดนี้ 14 มกราคม ถูกเปลี่ยนตัวลงมา และยิงตอกฝาโลง ในนัดแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมช ให้เรือใบ ชนะแมนเชสเตอร์อยู่ไนเต็ดไป 3-1 และ... วันที่ 27 มกราคม ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ย้ายกลับมาสู่ ลิเวอร์พูลโดยไม่มีค่าตัว จนจบฤดูกาลนี้ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 28 ม.ค. 49 21:19:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้ตาเท่งมาพร้อมสาระ...งดแซว 1 วัน จากคุณ : กิมเฮง - [ 28 ม.ค. 49 21:28:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่อยากเห็นอย่างเดียว แต่อยากจะอยู่ในสนามในวินาทีที่godยิงประตูแรกได้จัง เชื่อว่าคงมีคนร้องไห้เป็นเพื่อนแน่ จากคุณ : robbie_robbie - [ 28 ม.ค. 49 22:22:11 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอ้า...ฮิ๊วววววว!!!  กลับมาแล้วจริงๆ แบบนี้ก้อ...ฉลองงงงงง!!! จากคุณ : Mr.Waterloo - [ 28 ม.ค. 49 22:25:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 รักก็อดเสมอ เย้ๆๆๆๆ จากคุณ : rtype - [ 28 ม.ค. 49 22:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ว่าแต่ God จะมาใส่เสื้อเบอร์9 เลยเหรอครับ ?? จากคุณ : Batty_Bounce - [ 28 ม.ค. 49 23:03:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ดีใจโว้ยยยยยยยยยยย เชียร์หงส์ก็เพราะก็อดเนี่ยแหละ T^T จากคุณ : Ackaru - [ 28 ม.ค. 49 23:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 23 God ใส่เสื้อเบอร์ 11 ครับ จากคุณ : K.Ruan - [ 28 ม.ค. 49 23:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมก็อีกคนหนึ่ง ที่นึกถึงลีลาการยิงดุจใบมีดโกนของเขาล่ะ แกงค์สไปซ์บอย จากคุณ : Reonard - [ 29 ม.ค. 49 00:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 วันนี้ผมนั่งดูข่าวช่อง 3 อ่านตัววิ่งข้างล่าง.. ผมร้องเย้.. เลยครับ.. ดีใจจนลืมเรื่องร้ายๆของตัวเองไปเลยครับ.. จากคุณ : Handy Man - [ 29 ม.ค. 49 01:50:43 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เจ๋งเลยครับคุณเท่ง จากคุณ : you'll never walk alone (6,000 ไมล์ ไกลบ้าน) - [ 29 ม.ค. 49 03:56:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ฝันว่าเค้าจบอาชีพการค้าแข้งที่สโมสรที่รัก หลังจากนั้นก็ก้าวไปเป็นผู้ช่วยโค๊ช และอย่างอื่นตามลำดับ วันหนึ่งข้างหน้าเค้าอาจเป็น ผจก. ด้วย *เข้ามาฝันค่ะ* จากคุณ : sri123 - [ 29 ม.ค. 49 07:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 "It's incredible news," said his former team-mate Jamie Redknapp. "Robbie didn't really want to leave Liverpool. Now he's back where he belongs". ๋เจมี่ เรดแนปป์สุดหล่อ พูดเองเลยว่า God ต้องฝืนใจจากliverpoolไป ตอนนี้้เขากลับมายังที่ที่เขาควรจะอยู่แล้ว แว้กกกกกกกกกก ตื่นเต้น!!! อยากเห็นเร็วๆๆๆ จากคุณ : Pinch me - [ 29 ม.ค. 49 12:00:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 น่าจะเอา โอเว่น แมกก้า กลับมาด้วย ฮิฮิ จากคุณ : ข้าวปั้นหน้ากุ้ง - [ 29 ม.ค. 49 13:39:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เยี่ยมมากๆๆ จากคุณ : S_Hyypia - [ 29 ม.ค. 49 13:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อยากเห็นราฟาเซ็น Litty มาในวัน deadline 31 นี้แล้วมาช่วยถล่มประตูด้วยกัน จำนัด League cup ได้ litmanen ยิงได้แต่เหลือบเห็น god เลยส่งบอลให้ รู้สึกจะไม่ได้ประตู แต่ภาพนั้นมันสุดบรรยาย จากคุณ : FH หาดใหญ่ - [ 29 ม.ค. 49 14:00:06 ]

ความคิดเห็นที่ 32 Absolutely JAMIE!!! Anfield is where "GOD" belong. ดีใจจนน้ำตาไหล..ไม่อายคนที่บ้านเลย จากคุณ : liv'poolrulz - [ 29 ม.ค. 49 19:55:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หวัดดีค่า..ไม่ได้มาซะนาน อิอิ แต่ก็ดีใจค่ะ ที่ได้ข่าวว่า ฟาวเลอร์ ฮีโร่ของชาว The Kop จะกลับมา งึมๆ ฝันอยู่อย่างเดียวอ่ะ อยากเห็นโอเว่นใส่เสื้อ The Kop ลงล่าตาข่ายกับ God ของเราอ่ะ จากคุณ : ชากีร่า - [ 30 ม.ค. 49 10:06:19 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เด็กหัวทอง เบอร์ 23 ยิงกล้องพัง นัดเจอแมนยู สะใจ ครับ จากคุณ : tuppee - [ 1 ก.พ. 49 16:30:49 ]