PANTIP.COM : S4324677 ช่วยด้วยครับ HC 9 แต่ตีแช้งค์มา 2 วันแล้ว ออก100+ [กอล์ฟ]

ความคิดเห็นที่ 2

ผมว่าคงต้องอ่านกันยาวหน่อยหน่อยล่ะครับ แต่จำเป็นต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นนักกอล์ฟก็จะมีปัญหาร้อยแปดมาถามอยู่เรื่อย แทนที่จะเป็นซ้อมเพื่อให้สิ่งที่เข้าใจเกิดเป็นผลที่ต้องการ หมายความว่าแม้จะเข้าใจแล้วแต่ถ้าไม่ซ้อมก็ทำไม่ได้หรอกครับ

ผมอยากให้ทำความเข้าใจในการสวิงกอล์ฟเสียใหม่ว่า ในการสวิงนั้น สิ่งที่นักกอล์ฟควรต้องการมากที่สุดน่าจะเป็นว่าสวิงให้ได้เหมือนเดิมทุกครั้งหรือมากที่สุด แทนที่จะเป็นสวิงให้แรงหรือตีให้ไกลที่สุด เมื่อคุณสามารถเปลี่ยนความคิดตรงนี้ได้ สวิงจะเป็นสวิงมากขึ้นซึ่งจะทำให้คุณเล่นได้แน่นอนมากขึ้น ความเร็วหรือความแรงมันจะตามเองในภายหลัง แต่ถ้าคุณคิดสลับกัน คุณก็จะมีปัญหาแบบนี้หรืออย่างอื่นๆ ตามมาอีกไม่รู้จบเพราะสวิงมันไม่เป็นสวิงนั่นเอง

คุณทราบหรือไม่ว่าความแน่นอนหรือความคงที่ในการสวิงเกิดจากการควบคุมของอะไร ถ้าคุณทราบคงไม่มีปัญหามาถามแบบนี้แน่นอน ถ้าไม่มั่นใจผมอยากเรียนแบบนี้ครับว่า เราใช้ร่างกายของเราในการควบคุมการสวิงครับ ไม่ใช่แขนหรือมือ แขนและมือมีหน้าที่ทำตามการหมุนของร่างกายเท่านั้น ลองนึกภาพการเขียนรูปวงกลมด้วยวงเวียนสิครับ ขาที่เสียบดินสอไว้จะหมุนเป็นวงกลมได้ต่อเมื่ออีกขาหนึ่งนั้นปักนิ่งอยู่กับที่ แล้วเวลาเราวาดรูปวงหลม เราจะหมุนที่หัววงเวียน ไม่ใช่จับที่ขาที่เสียบดินสอหมุนใช่ไหมครับ ถ้าคุณจับที่ขาที่เสียบดินสอเป็นตัววาดวงกลม มันไม่มีทางที่จะวาดเป็นวงกลมได้สักครั้ง เมื่อเอามาปรับเข้ากับการสวิงกอล์ฟก็หมายความว่าถ้าคุณบังคับการเหวี่ยงไม้ด้วยแขนหรือมือ คุณก็จะไม่มีทางบังคับให้ไม้กอล์ฟเดินทางกลับมาที่ตำแหน่งเดิมขณะที่คุณจรดได้ ถ้าคุณเห็นด้วยก็อ่านต่อ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็เลิกอ่านซะ เสียเวลาเปล่าๆ

เมื่อคุณเข้าใจตามนี้แล้วว่าร่างกายของคุณเป็นตัวควบคุมการสวิงคือลำตัวหมุนไปและกลับ แขนและมือก็จะอยู่เฉยๆ แขนและมือมีหน้าที่เพียงทำตามการหมุนของร่างกายเท่านั้นซึ่งจะทำให้เกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางขึ้น ภาษาอังกฤษคือ centrifugal force ตรงนี้แหละครับที่นักกอล์ฟร้อยละ 99 ไม่เข้าใจ ปัญหาก็เลยวนเวียนอยู่อย่างนี้ ส่วนอีกร้อยละ 1 ที่รู้และเข้าใจก็คือบรรดามืออาชีพทั้งหลายและนักกอล์ฟที่มีแต้มต่อน้อยๆ (แต้มต่อต่ำว่า 5ลงไป)

แต่มันไม่ยังไม่จบแค่นี้ พลังหรือความเร็วยังเกิดขึ้นจากอีกสองส่วนด้วยกันคือ การคลายออกของข้อมือซ้ายขณะที่ร่างกายหมุนและเหวี่ยงผ่านไป และการยืดออกของศอกขวาเรียกว่าแรงง้างหรือแรงงัด(leverage) แต่จะเกิดขึ้นในจังหวะที่เหมาะสมซึ่งเกิดจากการเหวี่ยงตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น - ตรงนี้แหละครับที่คุณผิด เพราะคุณยืดหรือคลายศอกขวาออกเพื่อตีก่อนหรือเร็วเกินไป แทนที่จะปล่อยให้มันทำงานของมันเองตามธรรมชาติ เวลาที่คุณยืดศอกขวาออกก่อน แขนขวาจะผลักให้แขนซ้ายหดเข้าด้านใน ไม้กอล์ฟแทนที่จะเดินทางไปตามแนวสวิง มันก็เดินผิดทิศทาง เท่ากับแขนหรือมือขวาดันไม้ออกไป แทนที่มันจะกลับมาที่ตำแหน่งเดิม มันก็ไม่แน่

ความเป็นไปได้จากที่อ่านที่คุณเขียนมาคือเพราะสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์เต็มที่เพราะเพิ่งหายป่วยและอยากจะตีให้ได้ระยะทางอย่างที่เคยทำได้ คุณเลยพยายามทำมากไป ตอนนี้น่าจะสมบูรณ์ดีแล้ว ลองเข้าสนามซ้อมสักครั้ง แล้วพิจารณาซ้อมตามที่ผมเขียนมาดูว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่ผมต้องบอกก่อนนะครับว่า ต่อให้คุณรู้และเข้าใจ ถ้าไม่ซ้อมเลยคุณก็จะไม่ได้ความรู้สึกนั้น เหมือนคุณอ่านตำราว่าด้วยการขี่จักรยาน ถามว่าอ่านจบแล้วจะขี่จักรยานเป็นเลยหรือ?

ที่ผมอยากบอกอีกนิดคือ การเริ่มต้นการสวิงที่ถูกจะทำให้การสวิงที่ตามมาผิดน้อยลง แต่หากการเริ่มต้นทำแบ็คสวิงผิด การสวิงที่ตามมาไม่มีทางถูกได้เลย นั่นคือคุณต้องมั่นใจว่า ลำตัวส่วนบนของคุณต้องหมุนด้วยในขณะที่แบ็คสวิง ถ้าลำตัวของคุณไม่หมุน แรงเหวี่ยงก็ไม่มี ก็เท่ากับการยกไม้ขึ้นเฉยๆ คือบอกว่ายกไม้ขึ้นเฉยๆ อาจฟังดูแล้วไม่น่าจะจริง อาจคิดว่าเหวี่ยงไม้ แต่มันไม่ต่างกันหรอกครับเพราะถ้าลำตัวคุณไม่หมุน มันก็จะเหวี่ยงไปเฉพาะแขนและมือ ลำตัวคุณไม่ได้ทำงานไปพร้อมกันด้วย ผลลัพธ์ก็ออกมาไม่ดีครือกันแหละ

การซ้อมมีผลดีอยู่ที่ช่วยให้คุณหาความรู้สึกได้แล้วสร้างความรู้สึกนั้นให้เป็นความเคยชิน ไม่อย่างนั้นคุณก็จะตีได้บ้าง ตีไม่ได้บ้าง จังหวะมันไม่แน่ไม่นอน ที่คุณเล่นได้ขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้ว แต่อย่าไปหวังเลยว่าจะดีไปกว่านี้ บอกเลยว่าไม่มีทาง ถ้าคุณไม่ซ้อม

แล้วความรู้สึกที่ถูกต้องมันไม่ใช่ได้มาแบบจับฉลากนะครับ คุณดูเด็กๆ สมัยนี้สวิงกันสิครับ ถามว่า เด็กๆ น่ะเรียนมาตั้งกี่ปี ซ้อมมานานแค่ไหนกว่าจะตีได้แบบนั้น แล้วเห็นไหมครับว่าเด็กๆ น่ะแทบจะไม่ต้องคิดอะไร จรดแล้วก็เหวี่ยงไปเลย

ผมเองก็เหมือนกัน บางช็อตตีเหมือนโปร บางช็อตเหมือนคนหัดใหม่ ก็เพราะไม่ได้ซ้อม หรือสองสามเดือนซ้อมครั้งหนึ่ง ทั้งที่รู้นี่แหละ

ความจริงยังมีปัจจัยอื่นอีกเยอะ เขียนครบหมดก็เท่ากับหนังสือหนึ่งเล่ม ไม่ไหวหรอกครับ แค่นี้ก็อ่านกันตาแฉะแล้ว

จากคุณ : thongprakai - [ 29 เม.ย. 49 09:02:20 ]