ความคิดเห็นที่ 1 คนเราก็อยากหาความท้าทายอะไรใหม่ๆบ้าง บัลลัคเองอายุก็ใช่น้อยละ จากคุณ : อยากบอกว่ารักแต่อายเพื่อน - [ วันแรงงาน 11:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าไปสนใจเลยครับ บอลบุนเดส ลีก้า แปลอ้อมๆก็คือ บาเยิร์น มิวนิก นั้นแหละ สิบปีมานี่เห็นมีอยู่ทีมเดียวทั้งลีก ที่ผลงานโดดเด่น ทั้งในลีกและยุโรป และแน่นอน บาเยิร์นเป็นทีมเดียวที่เป็นหน้าเป็นตาของประเทศเยอรมัน ที่จาพอเชิดหน้าในยุโรปได้ พอมีข่าวใครจาย้ายออก สื่อและคนดังก็ย่อมเฉ่งมากเกินกว่าเหตุ ยิ่งเสือใต้คว้าแชมป์ลีกติดต่อกันมากเท่าไหร่ ยิ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอ ของลีกมากเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยที่ฟรีทีวีเอาลีกเยอรมันมาฉาย เพราะคนไม่ค่อยนิยมและค่าลิขสิทธ์ถูกกว่าถ้าเปรียบเทียบกับลีกดังอื่นๆ ในยุโรป จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ - [ วันแรงงาน 11:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ....................... จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก - [ วันแรงงาน 13:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แผนการบริหารของบาร์เยินทีทำให้ตัวเองผูกขาดแชมป์ในเยอรมันแต่เพียงผู้เดียวนั้นนั้นไม่ได้วางแผนแค่ทำให้ตัวเองแกร่งขึ้นอย่างเดียวแต่ยังวางแผนให้คู่แข่งอ่อนลงด้วย เพราะ เสือใต้นิยมซื้อนักเตะจากคู่แข่งจากลีกตัวเองโดยเจาะจงคู่แข่งที่กำลังสั่นคลอนบัลลงค์ของตัวเอง ซึ่งทำให้คู่แข่งอ่อนลง เนื่องจากคู่แข่งสู้อำนาจเงินของตัวเองไม่ได้เลย เวลาบาร์เยินอยากได้ใครแทบไม่มีทีมใหนในเยอรมันรั้งนักเตะไว้ได้ ยกตัวอย่างเด่นๆก็ มัสเธอุส เอฟเฟ่นแบร์ก จากกลัดบัค เจอร์เก้น โคห์เลอร์จากโคโลญ เอลแบร์จากสตุ๊การ์ท แฮร์โซก บาสเลอร์  อิสมาแอล  ปิซซาโร่ จาก เบรเมน คาห์น โชล จาก คาร์ลรูห์ บัลลัค เซ โรแบร์โต้ ลูซิโอ จาก เลเวอร์คูเซ่น ตอนนี้เล็ง ฟานบุยเต็ง จากผู้ท้าชิงรายใหม่ ฮัมบูร์ก นักเตะที่บาร์เยินซื้อมาจากคู่แข่งนั้นบางคนพอมาอยู่กับบาร์เยินก็เล่นไม่ดีเช่นแฮร์โซก แต่ก็ไม่ส่งผลเสียต่อบาร์เยินมากเท่าเบรเมนที่เสียนักเตะชั้นดีไป ในขณะที่คู่แข่งได้เงินกลับมาไม่มากเท่าไหร่ด้วย อย่างตอนบัลลัคย้ายมา ก็ 4-5 ล้านยูโรเอง นอกจากนักเตะแล้ว เทรนเนอร์ก็เป็นอีกหนึ่งที่บาร์เยินใช้จัดการคู่แข่ง จำได้ใหมตอนทีมีการตั้ง Taskforce ขึ้นมาเพื่อกอบกู้เยอรมันหลังยุคแบร์ตี้ โฟล์ค ทีทีมต่างๆส่งคนเข้าไปช่วยทีมชาติ บาร์เยินเลือกที่จะส่งรุมมินิเก้  อูลี่เฮอเนส มาช่วยทีมชาติแต่บีบให้เลเวอร์คูเซ่นส่งเทรนเนอร์ของตัวเองคือ โฟลเลอร์และ คริสโตส ดอห์ม แทนที่จะเป็นเทรนเนอร์ ฮิตเฟลท์ ที่มีฝีมือดีที่สุด วิธีการของบาร์เยินนั้นทำให้ตัวเองผูกขาดอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียวในเยอรมัน แต่ในถ้ายุโรปคงไม่มีทาง ต้องยอมรับด้วยว่า ทีมอื่นในเยอรมันบารมีเป็นรองเยอรมันแบบกูไม่กลับ ลองถ้าเป็นอังกฤษสิทำไม่ได้หรอกครับที่แมนยูจะทุ่มเงินซื้อนักเตะของหงส์แดง เพราะหงส์ไม่ทีทางยอมขาย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 13:14:47 จากคุณ : Mica - [ วันแรงงาน 13:12:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 วิ้ว ว ว จากคุณ : Ready2Rumble - [ วันแรงงาน 13:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เสียเงินซื้อมา อยู่กับทีมเป็นสตาร์ ปล่อยฟรีออกไป เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องออกอาการหัวเสีย ส่วนเรื่องที่ทีมอื่นๆ ยอมขายสตาร์ดังออกไปให้ก้อเป็นธรรมดาเกมส์ฟุตบอลก้อคือเกมส์ธุรกิจซึ่งสมัยนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน อยากจะถามว่าผลประกอบการของทีมในบุนเดสลีก้าถ้าว่ากันในเรื่องของลิขสิทธิการถ่ายทอดสด จะทำกำไรไม่เท่ากับสโมรสรในอิตาลี,สเปน,อังกฤษ ทำให้การหากำไรของสโมรสรในบุนเดสลีก้ายิ่งโดยเฉพาะทีมระดับกลางๆ หรือแม้แต่ทีมที่อยู่หัวแถวบางทีมในบุนเดสลีก้า ที่สลับกันขึ้นมาท้าทายอำนาจบาเยิร์น ถามว่าทำมัยช่วงหลังๆ บาเยิร์นมีแต่ผู้ท้าชิง ทำมัยบาเยิร์นไม่เป็นผู้ท้าชิงคนอื่น สาเหตุหลักๆ ก้อคือทีมอื่นๆ การบริหารจัดการในระยะหลังๆ ดีไม่เทียบเท่าบาเยิร์น สำหรับบาเยิร์นคงต้องยกความดีความชอบไปให้กับ บอร์ดบริหาร โดยเฉพาะ อูลี่เฮอเนส ถ้าจะบอกว่าบาเยิร์นชอบทำมัยชอบแย่งซื้อนักเตะคนอื่น ดูจะเป็นการพูดไม่ค่อยถูกต้องนักเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่านักเตะอื่นๆ ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆด้วยว่า นักเตะอยากมาอยู่หรือไม่ ทีมอื่นๆ นั้นอยากได้เงินหรือไม่ ทำมัยถึงรั้งนักเตะไว้ไม่ได้ การจัดการต่างๆ สู้ไม่ได้ใช่หรือไม่ ซึ่งทั้งนี้ก้อต้องโยงไปถึงเรื่องรายได้อื่นๆ ของทีมสโมรสรบุนเดสลีก้า ผมเชื่อได้ว่าถ้าทีมในบุนเดสลีก้า มีรายได้จากการขายเสื้อ, ลิขสิทธิทีวี ที่สูงเชื่อว่าทีมต่างๆ จะหันมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับสโมรสรอย่างยั่งยืนแบบบาเยิร์น เพราะไม่ต้องพึ่งพารายได้ส่วนใหญ่ที่มาจากการขายนักเตะ หรือตั๋วเข้าชมเพียงแค่นั้น วกกลับมาเรื่องการซื้อตัวนักเตะ ไม่ต้องลากไปไกลเอาใกล้ๆ แค่ช่วง 1990-2006 ปี 91-92 บาเยิร์นปล่อยนักเตะตัวหลักออกไปสองคนทั้ง รอยเตอร์ และ โคล์เลอร์ ให้กับยูเว่ 6 ล้านยูโร กับ 6.8 ล้านยูโร อีกปีถัดมา รอยเตอร์ กลับมาอยู่กับดอร์ทมุนด์ด้วยค่าตัว 2 ล้านยูโร, และในปี 95 โคห์เลอร์กลับมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ด้วยค่าตัว 2.6 ล้านยูโร ซึ่งทั้งคู่มาจากยูเว่ ถามว่าทั้งสองคนคือนักเตะคนสำคัญของทีมชาติ แต่ทำมัยบาเยิร์นไม่ซื้อคืนมารอบสอง??? ซึ่งก้อไม่แน่เสมอไปที่จะต้องซื้อตัดกำลังคู่แข่ง ในกรณีของ มัทเธอุส ผมว่าเหมือนเป็นการทำกำไรมากกว่าซึ่งมัทเธอุสมาอยู่กับทีมแค่ 3 ปีต่อมาถูกขายให้กับอินเตอร์ไป 3.6 ล้านยูโร และก้อไปอยู่กับอินเตอร์แค่ 3 ปีเช่นกันบาเยิร์นซื้อตัดกำลังอินเตอร์ มางั้นหรือ??? ด้วยค่าตัว 2 ล้านยูโร หักลบกำไร 4 แสนยูโรสำหรับมัทเธอุสแถมท้ายสุดได้ใช้งานนานถึง 7 ปีถือว่าเป็นการวางแผนการซื้อนักเตะที่คุ้มค่า สำหรับบาเยิร์น เอลแบร์ย้ายมาอยู่บาเยิร์น กับสตุ๊ตการ์ทด้วยค่าตัว 5.7 ล้านยูโร ในปี 98 ในขณะที่สตุ๊ตการ์ทได้เอลแบร์มาฟรีๆ จาก กาสฮอปเปอร์ซูริก ต่อมาเอลแบร์อยากหาความท้าทายที่ลีกอื่นๆ ก้อถูกปล่อยตัวไปลียงที่ติดต่อเข้ามาจริงๆ จังๆ บาเยิร์นขายออกไปในปี 2004 ด้วยค่าตัว 4.7 ล้านยูโร หักลบขาดทุน 1 ล้านยูโรแต่ใช้งานคุ้มค่า นี่คือการวางแผนการซื้อนักเตะที่ยอดเยี่ยมของบาเยิร์นอีกอย่างหนึ่ง ถามว่า สตุ๊ตการ์ทได้ประโยชน์อะไร ที่เขาอยากได้ เงินใช่มั้ย ปัญหาจากอะไรไม่ต้องให้อธิบายย้อนหลังมากลองอ่านดูที่ยกตัวอย่างไปด้านบนๆ ซึ่งในกรณีของสตุ๊ตการ์ทที่ขายเอลแบรไปปีนั้นได้กำไรจากการขายนักเตะราว 2.5 ล้านยูโรแต่เชื่อมั้ยตั้งแต่เกิดวิกฤตของ เคริท์มีเดีย เจ้าพ่อสื่อเยอร์มันที่ดูแลเรื่องลิขสิทธิบุนเดส ผลประกอบการของสตุ๊ตการ์ทแย่มาก บาเยิร์นเองก็ไม่ได้ให้เกียรติยศในระดับนานาชาติกับนักเตะเจ๋งๆ ???? ในกรณีเอลแบร์ที่ได้บุคคล VIP ของบาเยิร์น คืออะไร นักเตะเจ๋งคืออะไร คือนักเตะที่เจ๋งอย่างเดียวแต่ไม่ได้สร้างความสำเร็จให้กับเยิร์นหรือ?? งั้นนักเตะอย่าง แอลง ซูสเตอร์, เอมิล คอสตาดินอฟ, สฟอตซ่า, แฮรโซก ควรถูกบันทึกใน hall of frame ด้วย ผูกขาดบุนเดสลีกา บอลถ้วย แต่ก็ล้มเหลวในถ้วยใบใหญ่ๆ พูดซ่ะเวอร์ ผูกขาดงั้นก้อไม่ต้องดูมันแล้วทุกปี บาเยิร์นคงเป็นแชมป์ทุกปีคงคล้ายลีกสก๊อตหรือลียงในลีกฝรั่งเศส ล้มเหลวในบอลถ้วยใหญ่ๆ เสียดาย เลเวอร์ดันแพ้ มาดริดนัดชิง UCL แต่คงลืมไปแล้วว่าปี 2001 บาเยิร์นเป็นแชมป์ UCL และเกือบได้อีกในปี 99 และในปี 97 ดอร์ทมุนด์เป็นแชมป์ UCL ชาลเก้เป็นแชมป์ยูฟ่าคัพ ก้อแค่ไม่นานมานี้ ลืมกันไปแล้ว?? กรณีการหนุนหลังคาห์นก็ออกจะเป็นลักษณะเส้นสายมากเกินไป โดยไม่ดูศักยภาพของนักเตะ ถูลู่ถูกังกันไปทั้งๆตัวคาห์นก็เริ่มออกปากว่าความฟิตเป็นปัญหา นี่ก้อมั่ว ไปดูทีมต่างๆ ในบุนเดสลีก้า ผู้รักษาประตูที่เก่งๆ มีอายุมากๆ หลายคนโกลเขาอายุมากแต่สภาพร่างกายยังดีอยู่ก้อยังเล่นได้ ถามว่าถ้าบาเยิร์นอยากตัดกำลังคู่แข่ง ทำมัยไม่ไปถึง ไวเดลเฟลเลอร์, ฮิลเดอร์บรัน หรือแม้แต่ ทิมวิเซ่ มาล่ะครับ?? ทำมัยถึงดัน เรนซิ่งขึ้นมาเป็นทายาทแทนคาห์น สำหรับกรณีของคาห์น ปัญหาที่เขาพบคือการบาดเจ็บเรื้อรังที่บริเวณหลังเป็นอยู่ช่วงนึงเกิดจากการเข้าปะทะ บัลลัค ย้ายมาอยู่กับบาเยิร์นด้วยค่าตัว 6 ล้านยูโรครับ ในปีเดียวกันไดส์เลอร์ ย้ายมาจาก กลัดบัคที่มีปัญหาการเงิน ด้วยค่าตัว 9 ล้านยูโร แพงกว่าบัลลัคอีก แต่กรณีของบัลลัคถือว่าคุ้มใช้ได้แม้จะไม่ได้ถึงถ้วย UCL อย่างที่บัลลัคเคยเกือบทำได้สมัยอยู่เลเวอร์ แต่การคว้าแชมป์บุนเดสก้อถือว่าตอบแทนสโมรสรได้ดี ส่วนไดส์เลอร์ พรสวรรคสูง เป็นนักเตะที่เก่ง แต่เรื่องความคุ้มค่ากับการใช้งานถือว่ายังไม่น่าพอใจ เพราะเจ็บบ่อยมาก แฮร์โซก บาสเลอร์  อิสมาแอล  ปิซซาโร่ รายแรกย้าย เบรเมนซื้อมาจาก ราปิด ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านยูโร เล่นอยู่กับเบรเมน 3 ปีมั้ง ก่อนย้ายไปอยู่กับบาเยิร์นด้วค่าตัว 2.4 ล้านยูโร ในปี 96 แต่เล่นไม่เข้าระบบกับบาเยิร์นเล่นอยู่ได้ไม่ถึงปี บาเยิร์นก้อยอมขายแบบขาดทุนกลับคืนให้กับเบรเมนด้วยค่าตัว 1.7 ล้านยูโร บาสเลอร์ย้ายมาอยู่กับบาเยิร์นแค่ 2 ปีเอง ซื้อมาแพงพอสมควร 4.1 ล้านยูโร แต่ก้อถือว่าสร้างสีสันได้มากน่าเสียดายแมตช์ที่ซัดฟรีคิกนำแมนยูในนัดชิง ucl เขาน่าจะเป็นฮีโรผู้ช่วยให้บาเยิร์นเป็นแชมป์ ซึ่งต่อมานั้น เขามีปัญหากับบาเยิร์น เลยต้องโดนขายออกไปให้ไกเซอร์ในราคาแค่ 7.5 แสนยูโร ทั้งๆที่ซื้อมาตั้ง 4.1 ล้านยูโร อิสมาแอล มาบาเยิร์น 8.5 ล้านยูโร เมื่อต้นปี อายุ 29 แล้ว และในกรณีการซื้อขายนี้อยู่ในเงื่อนไขของการขาย ฟริงกส์กลับคืนถิ่นเบรเมนด้วย ซึ่งบาเยิร์นขายกลับไป 5 ล้านยูโรทั้งๆ ที่ ฟริกงส์คือตัวความหวังของบาเยิร์นตอนที่ซื้อมา ซึ่งก่อนหน้านี้ยังคงจำกันได้แย่งกับดอร์ทมุนด์แต่แพ้ดอร์ทมุนด์ สำหรับในกรณีนี้ บาเยิร์นขาดทุนไป 3.5 ล้านยูโร ปิซาโร่ เบรเมนซื้อมาจากทีมเปรรูแค่ 1.5 ล้านยูโร แต่ขายให้บาเยิร์นถึง 8 ล้านยูโรในปี 2002 ซึ่งปิซาโร่เล่นให้กับเบรเมนแค่ 1 ปีเองคราบบบบ ตอนนี้เบรเมนมีตัวทดแทนชั้นยอดทั้ง โคลเซ่, วัลเดส, คลาสนิค ฯลฯ เอะ แปลกใจจัง ทำมัยบาเยิร์นไม่ซื้อ โคลเซ่ และ คลาสนิค นะ ตัดกำลังไปเลยยย  เอาให้สมคำลำลือหน่อย 555 คาห์น และ โชล โอลลี่ คาห์น ก้อคล้ายๆ จะเป็นเด็กปั้นของ คาลห์สรูห์ แต่จริงๆ แล้วเขามาจาก อมาธูเออร์ แบบฟรีๆ มั้งในปี 88 อยู่รับใช้สโมรสรถึง 6 ปีก่อนย้ายมาบาเยิร์นในปี 95  ด้วยค่าตัวไม่แพง 2.6 ล้านยูโร จะบอกว่าคาห์นเป็นมือ 1 ทีมชาติเยอร์มันได้ก้อเพราะบาเยิร์น เป็นแชมป์ ucl ได้ก้อเพราะบาเยิร์น ได้รองแชมป์โลกกับทีมชาติเยอร์มันได้ก้อเพราะบาเยิร์น โชล มาก่อนคาห์น อีกในปี 92 ย้ายมาจากสำนักเดียวกันคือ คาลห์สรูห์ ซึ่ง โชลอยู่กับ คาห์ลสรูห์แค่ 2 ปี แต่มาอยู่กับ บาเยิร์นในปี 93 ในราคา 2.5 ล้านยูโร ก่อนที่จะอยู่โยงยาวเป็นนักเตะคนสำคัญให้กับบาเยิร์นถึง 13 ปี โชลสร้างชื่อได้ก้อเพราะบาเยิร์น แต่ในขณะที่อยู่คาห์ลสรูห์ เขายังเป็นแค่ดาวรุ่งพรสวรรค์ ที่บาเยิร์นเอามาปั้นต่อ เซ โรแบร์โต้ ตอนแรกๆ จะย้ายไป สเปน และ อิตาลี แต่ฝั่งนั้นเขาไม่ยอมทุ่มเงินจ้างไป ก้อไม่รู้ทำมัย ไปๆ มาๆ ย้ายมาเป็นแพคเกจเลยพร้อมกับ บัลลัค แถมค่าตัวสูงกว่าอีกตั้ง 11 ล้านยูโรแต่เชื่อมั้ยว่า เลเวอร์ทีมนี้ ขายนักเตะหลักๆ ออกไปประจำให้กับทุกทีม ไม่ใช่เฉพาะบาเยิร์น ในอดีตไม่นานมานี้เคยขายทั้ง เวิร์น, อีเมอร์สัน, และเร็วๆ นี้อาจเป็นเบอร์บาตอฟ เพราะอะไร??? ไม่ใช่เพราะเงินเหรอ พูดถึงเรื่องเงินขี่เกียจอธิบายยาวเดี๋ยวก้อวงกลับเรื่องเดิมเบื่ออธิบายไปหลายรอบ แต่เชื่อมั้ย เซโรแบร์โต้ ตัวนี้คือนักเตะพรสวรรค์สูงมาดริดเคยซื้อตัวมาจาก เซาเปาโล ด้วยค่าตัวร่วม 9 ล้านยูโร แต่มาดริดก้อปล่อยฟรีไปให้กับ ฟาเม็งโก้ในบราซิล แต่ ต่อมาเลเวอร์ ทุ่มซื้อมาด้วยเงินถึง 4 ล้านยูโร (แพงสำหรับเลเวอร์) จากฟาเม็งโก้ ในปี 99 และอยู่จนอิ่มตัวกับเลเวอร์ รวมถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ของเลเวอร์ที่ส่วนใหญี่พึ่งพากับการปั้นนักเตะ ขายนักเตะแม้ว่าปีนั้นจะได้รองแชมป์ ucl แต่ก้อไม่จีรัง เลยเป็นเหตุให้ต้องยอมขายเพื่อแลกกับเงินก้อนโตของบาเยิร์น ซึ่ง เซ โรแบร์โต้ มาอยู่กับบาเยิร์นในปี 2003 จะหมดสัญญาซัมเมอร์นี้เหมือนกัน อาจจะเสียไปฟรีๆ อีก ปล.ผูกขาด ไม่ผูกขาด คนภายนอก คนภายใน มองต่างกัน แล้วแต่มุมมอง แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 15:27:24 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 15:24:29 จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 15:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สิบปีมานี่เห็นมีอยู่ทีมเดียวทั้งลีก ที่ผลงานโดดเด่น ทั้งในลีกและยุโรป ถ้าพูดถึงในรอบสิปปี ถ้วย ucl ทีมจากเยอร์มันเข้าชิง 4 ครั้งแล้วน่ะครับ โดยเป็นแชมป์ 2 ครั้งจาก บาเยิร์น และ ดอร์ทมุนด์ อกหักไปสองครั้ง บาเยิร์น และ เลเวอร์ แชมป์ ยูฟ่าคัพ 1 ครั้งจาก ชาลเก้ ทำมัยลืมง่ายจังฮ่ะ!! ส่วนค่าลิขสิทธิที่ถูกกว่าลีกอื่นๆ และอาจจะขายได้น้อยกว่าก้อเนื่องมาจากการทุ่มซื้อสตาร์ดังๆ ที่ไม่ค่อยนิยมทุ่มแบบลีกอื่นๆ ถามว่าคนดูบอลส่วนใหญ่ใครๆ ก้ออยากดูสตาร์ดังๆ ก้อไม่แปลกอะไรที่ บุนเดสจะมีค่าลิขสิทธิที่ถูกกว่าเนื่องจากลงทุนน้อยกว่า จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 15:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สุดยอดกูรูบุนเดสลีก้าจริง ๆ นับถือๆๆๆ จากคุณ : BLuEMaNiA - [ วันแรงงาน 16:25:25 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผลการแข่งขัน UCL ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก (ยูโรเปี้ยนคัพเดิม) ในรอบ 10 ปี 1996: Juventus 1 - 1 Ajax (Juventus ชนะจุดโทษ 4 - 2) 1997: Borussia Dortmund 3 - 1 Juventus 1998: Real Madrid 1 - 0 Juventus 1999: Manchester United 2 - 1 Bayern Munich 2000: Real Madrid 3 - 0 Valencia 2001: Bayern Munich 1 - 1 Valencia (Bayern ชนะจุดโทษ 5-4) 2002: Real Madrid 2 - 1 Bayer Leverkusen 2003: AC Milan 0 - 0 Juventus (AC Milan ชนะจุดโทษ 3-2) 2004: FC Porto 3 - 0 A.S. Monaco 2005: Liverpool FC 3 - 3 AC MILAN 2006 : Arsenal - Barcelona ?? จำนวนครั้งของสโมรสรในประเทศต่างๆ ที่เข้าชิง UCL ในรอบ 10 ปีหลังสุด - เยอร์มัน เข้าชิง 4 แชมป์ 2 - ฮอลแลนด์ เข้าชิง 1 แชมป์ 0 - โปรตุเกตุ เข้าชิง 1 แชมป์ 1 - ฝรั่งเศส เข้าชิง 1 แชมป์ 0 - อังกฤษ เข้าชิง 3 แชมป์ 2 - อิตาลี เข้าชิง 5 แชมป์ 2 - สเปน เข้าชิง 5 แชมป์ 3 จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 16:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อ ปี 2002 ทีมจากเยอรมันก็เคยเข้าชิง บอลยุโรปพร้อมกัน 2 ถ้วยมาแล้วเหมือนกันนะครับ ยูฟ่า คัพ - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก - เลเวอร์คูเซ่น ส่วนที่มีคนบอกว่า ยิ่งเสือใต้คว้าแชมป์ลีกติดต่อกันมากเท่าไหร่ ยิ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอ ของลีกมากเท่านั้น  - -อ้าวแล้วอย่างนั้นถ้า เชลซี คว้าแชมป์ลีกติดต่อกันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของลีกอังกฤษมากเท่านั้นด้วยรึป่าวครับ ???? จากคุณ : jolin_sao - [ วันแรงงาน 17:08:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บัลลัคจะไปก็ปล่อยเค้าไปเถอะ กัดอยู่ได้ น่าเบื่อ จากคุณ : Vicente - [ วันแรงงาน 21:08:35 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าอย่ามองในมุมว่าผูกขาดหรือไม่เลย แต่เป้นผมก็ประนามพวก ผู้บริหารบาเยินร์อะ ทำไมละครับสัญญาฉบับสุดท้ายของเค้า จะให้เค้าไม่มีสิทธิ์เลือกหาทุนก้อนสุดท้ายของชีวิตหรืออกไปหาความท้าทายใหม่งั้นรึ   ผมว่ามันไม่ใช่สุภาพบุรุษพอมั้งครับนักเตะก็เล่นครบตามสัญญษแล้วก็ทุ่มเทเต็มที่ จริงไหม จากคุณ : et009 - [ วันแรงงาน 21:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคุณ Sholl สำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : Jacare - [ วันแรงงาน 22:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาต้อนรับ บัลลัค ครับ แหะๆ ข้อมูลแน่นมากๆ นับถือๆคับ จากคุณ : G~U~D 2 2 - [ 2 พ.ค. 49 10:21:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ  คุณโชล ครับสำหรับหรับข้อมูลแน่นตามเคย ------- บาย  บาย  บัลลัค  ไปแล้วไปลับ  อย่ากลับมานะ จากคุณ : Jewel of the Niles - [ 2 พ.ค. 49 15:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 บาเยิร์น ลียง เชลซี ยูเว่ บาร์ซ่า โอ๊ย งั้นทุกลีกก็อ่อนแอหมดเด่ะเพ่ จากคุณ : ไทยเชียร์ไทย - [ 2 พ.ค. 49 15:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17 โห มาเป็นชุดเลย :-) ผูกขาดบุนเดสลีกา บอลถ้วย แต่ก็ล้มเหลวในถ้วยใบใหญ่ๆ พูดซ่ะเวอร์ ผูกขาดงั้นก้อไม่ต้องดูมันแล้วทุกปี บาเยิร์นคงเป็นแชมป์ทุกปีคงคล้ายลีกสก๊อตหรือลียงในลีกฝรั่งเศส ล้มเหลวในบอลถ้วยใหญ่ๆ เสียดาย เลเวอร์ดันแพ้ มาดริดนัดชิง UCL แต่คงลืมไปแล้วว่าปี 2001 บาเยิร์นเป็นแชมป์ UCL และเกือบได้อีกในปี 99 และในปี 97 ดอร์ทมุนด์เป็นแชมป์ UCL ชาลเก้เป็นแชมป์ยูฟ่าคัพ ก้อแค่ไม่นานมานี้ ลืมกันไปแล้ว?? อธิบายในตัวเองแล้วนะครับ กรณีการหนุนหลังคาห์นก็ออกจะเป็นลักษณะเส้นสายมากเกินไป โดยไม่ดูศักยภาพของนักเตะ ถูลู่ถูกังกันไปทั้งๆตัวคาห์นก็เริ่มออกปากว่าความฟิตเป็นปัญหา นี่ก้อมั่ว ไปดูทีมต่างๆ ในบุนเดสลีก้า ผู้รักษาประตูที่เก่งๆ มีอายุมากๆ หลายคนโกลเขาอายุมากแต่สภาพร่างกายยังดีอยู่ก้อยังเล่นได้ ถามว่าถ้าบาเยิร์นอยากตัดกำลังคู่แข่ง ทำมัยไม่ไปถึง ไวเดลเฟลเลอร์, ฮิลเดอร์บรัน หรือแม้แต่ ทิมวิเซ่ มาล่ะครับ?? ทำมัยถึงดัน เรนซิ่งขึ้นมาเป็นทายาทแทนคาห์น สำหรับกรณีของคาห์น ปัญหาที่เขาพบคือการบาดเจ็บเรื้อรั้ใจหรือครังที่บริเวณหลังเป็นอยู่ช่วงนึงเกิดจากการเข้าปะทะ ข้อนี้ก็ยังไม่ชัดเจนครับ เอาใหม่ครับ และเป็นการคาดเดาครับ(เหมือนผม) ว่าแต่คุณเหมือนผู้บริหารบาเยิร์นเลยละ แฮ่ม 5555555555555555555 ผมไม่ได้ความจำสั้นหรอกครับ แต่ผมต้องการสรุป "ความรู้สึกระหว่างบรรทัด" ที่มีต่อบาเยิร์น ซึ่งผมว่ามันก็เป็นความจริงนะ แต่ก็ไม่น่าจะเจ็บปวดอะไรมากมาย เพราะที่ผมคุยกับเพื่อนที่โน่นก็สะท้อนเช่นนี้ จากคุณ : Double07 - [ 2 พ.ค. 49 16:09:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ค่อยชอบแนวทางฉกผู้เล่นคนสำคัญของคู่แข่งเหมือนกันครับ แต่สองปีหลังลีกบุนเดสลีก้า แต้มไม่ทิ้งห่างเท่า พรีเมีย เลยครับ ก่อนหน้านี้ รู้สึกว่า แมนยูจะคว้าแชม 8 ใน 11 ปีหลังรึปล่าวครับ ขอยืมคำพูดคุณ ::Sholl::  ครับ ผูกขาด ไม่ผูกขาด คนภายนอก คนภายใน มองต่างกัน แล้วแต่มุมมอง จริงๆครับ จากคุณ : เจ้าแม้น - [ 2 พ.ค. 49 18:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความจำดี ขยันพิมพ์ ผมไม่ค่อยชอบที่บาเยิร์นพยายามใช้อำนาจซื้อตัวดี ๆ เข้ามา แล้วก็ทำให้ตัวดี ๆ เหล่านั้น เป็นตัวธรรมดาไป ตัวไหนหมดความมั่นใจ ก็ขายทิ้งเหมือนเศษเนื้อ นักเตะเสียคนไปก็หลาย เลเวอร์ตอนรุ่ง ๆ ก็โดนซื้อยกทีมเลย ผมไม่ใช่ไม่ชอบบาเยิร์น ผมไม่ชอบบุนเดสลีกา จากคุณ : Ready2Rumble - [ 2 พ.ค. 49 20:33:40 ]