ความคิดเห็นที่ 1 เกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย : ระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา ฟุตบอลบุนเดสลีก้าเยอร์มันมีจำนวนเฉลี่ยผู้เข้าชมเกมส์ในสนามสูงสุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ของยุโรปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 18:01:56 จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 17:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย 2 ฟุตบอลบุนเดสลีก้า มีเฉลี่ยการทำประตูต่อนัดที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในบรรดาลีกชั้นนำของยุโรป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 18:00:32 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โอลิมปิก ลียงแชมป์ 5 สมัยครับ ไม่ใช่ 7 สมัย! ฌักซ์ ซ็องตินี่ 1 สมัย ปอล เลอ กูแอ็น 3 สมัย เชราด์ อุลลิเยร์ 1 สมัย แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 18:02:48 จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ วันแรงงาน 18:00:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 #3 ขอโทษทีครับ เหอะๆ ขอบคุณที่เข้ามาท้วงติงครับ จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 18:07:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมก็ว่ามันไม่ได้ผูกขาดนะครับ แล้วตอนนี้ใน UCL ฝรั่งเศส กับ ฮอลแลนด์ 2ลีกนี้มาแรงมากครับ จากคุณ : Nutonline - [ วันแรงงาน 18:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 บอลเยอรมัน ก็ดูสนุก เข้าแรงๆ สะใจ จากคุณ : zenzen - [ วันแรงงาน 19:15:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไอ้คนที่ว่าๆมาข้างล่างน่ะ คงจะแค่อ่านข่าวลวกๆ ไม่ได้ติดตามบุนเดสลีกาใกล้ชิด ถึงผมจะเชียร์เสือใต้แต่ยอมรับว่ามีกำลังภายในนิดๆนะ แต่ไม่ถึงขนาดที่มีคนว่าหรอก ผมว่าบุนเดสลีกาไม่น่าเบื่อหรอกครับ ลีกไหนๆมาฉายก็สู้บอลอังกฤษไม่ได้อยู่แล้วคนดูกันมานานจนชิน ปีนี้เบรเมนก็ตกรอบแบบโกล์พลาดอย่างเหลือเชื่อ จากคุณ : ice-gooner - [ วันแรงงาน 19:17:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ที่ผ่านมาไม่ใช่ แต่ในอนาคตผมว่ามีแนวโน้มครับ เพราะดูๆ แล้วจะหาทีมมาทาบชั้นกับ บาเยิร์น ได้ยากจริงๆ 2 ซีซั่นล่าสุด บาเยิร์น คว้าดับเบิ้ลแชมป์ 2 ครั้งรวด แบบนี้ใครจะสู้พี่เสือได้ ผมว่าการขาด บัลลัค ไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อบาเยิร์นในลีก เพราะทีมอื่นยังไงๆ ก็สู้ไม่ไหว แต่ในระดับยุโรป ผมว่ามีผลแน่ๆ เพราะ บัลลัค คือนักเตะในระดับสุดยอด ปล.ผมเชียร์ เบรเมน แบบห่างๆ นะ จากคุณ : ฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยง - [ วันแรงงาน 19:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมไม่ชอบดูบอลเยอรมัน แต่การที่ใครสักคน ที่ไม่ได้ติดตามลีคนั้นๆอย่างจริงจัง จะมาด่าว่า โวยวาย ดูถูก ความศักดิ์สิทธิ์ของประวัติศาสตร์วงการกีฬาของชาตินั้นๆ ถือว่าเป็นความเขลาและการผิดมารยาทแบบที่ไม่น่าให้อภัย ไม่ต่างจากหลายๆคน ที่ด่าว่าลีคอังกฤษด้วยข้อมูลความรู้แบบงูๆปลาๆเลย คิดเองเออเอง ไม่มีข้อมูลความรู้อะไรสักอย่าง คารวะกูรูบอลเยอรมันคนไทยทุกท่านจริงๆครับ จากคุณ : Darth_Vader - [ วันแรงงาน 19:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็บาเยิร์นแกเล่นดึงตัวเก่งๆ จากทีมร่วมลีกมานะ เป็นการตัดกำลังคู่แข่งไปในตัวด้วย ไม่ได้แชมป์บ่อยก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วนะ จากคุณ : ยอดชายนายพัน - [ วันแรงงาน 20:03:34 ]

ความคิดเห็นที่ 11 บาเยิร์น ซื้อผู้เล่นเก่งๆ ของทีมอื่นๆ ทีมอื่นๆ ยอมขายสตาร์ดังออกไปให้ก้อเป็นธรรมดาเกมส์ฟุตบอลก้อคือเกมส์ธุรกิจซึ่งสมัยนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน ผลประกอบการของทีมในบุนเดสลีก้าถ้าว่ากันในเรื่องของลิขสิทธิการถ่ายทอดสด จะทำกำไรไม่เท่ากับสโมรสรในอิตาลี,สเปน,อังกฤษ ทำให้การหากำไรของสโมรสรในบุนเดสลีก้ายิ่งโดยเฉพาะทีมระดับกลางๆ หรือแม้แต่ทีมที่อยู่หัวแถวบางทีมในบุนเดสลีก้า ที่สลับกันขึ้นมาท้าทายอำนาจบาเยิร์น ต้องแสวงหาการทำกำไรกันด้วยการขายนักเตะ ถามว่าทำมัยช่วงหลังๆ บาเยิร์นมีแต่ผู้ท้าชิง ทำมัยบาเยิร์นไม่เป็นผู้ท้าชิงคนอื่น สาเหตุหลักๆ ก้อคือทีมอื่นๆ การบริหารจัดการในระยะหลังๆ ดีไม่เทียบเท่าบาเยิร์น สำหรับบาเยิร์นคงต้องยกความดีความชอบไปให้กับ บอร์ดบริหาร โดยเฉพาะ อูลี่เฮอเนส แต่ทั้งนี้ระยะหลังๆ ทีมต่างๆ เริ่มนำยุทธวิธีการบริหารการจัดการที่มีประสิทธิภาพอย่างบาเยิร์นไปใช้บ้างแล้ว ถ้าจะบอกว่าบาเยิร์นชอบทำมัยชอบแย่งซื้อนักเตะคนอื่น ดูจะเป็นการพูดไม่ค่อยเป็นธรรมสำหรับบาเยิร์นนัก ในกรณีของนักเตะที่ต้องการจะย้ายสโมรสร ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆด้วยว่า นักเตะอยากมาอยู่หรือไม่ ทีมอื่นๆ นั้นอยากได้เงินหรือไม่ ทำมัยถึงรั้งนักเตะไว้ไม่ได้ ระบบการจัดการต่างๆ สู้ไม่ได้? ซึ่งทั้งนี้ก้อต้องโยงไปถึงเรื่องรายได้อื่นๆ ของทีมสโมรสรบุนเดสลีก้า ผมเชื่อได้ว่าถ้าทีมในบุนเดสลีก้า มีรายได้จากการขายเสื้อ, ลิขสิทธิทีวี, สปอร์ตมาเก็ตติ้งอื่นๆ ที่สูงเชื่อว่าทีมต่างๆ จะหันมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับสโมรสรในระยะยาวได้อย่างบาเยิร์น ผู้ท้าชิง รายอื่น ชาลเก้ เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ยอดผู้ชมเฉลี่ยในสนามสูงมาก ในทีมมีระบบการจัดการที่ดี ลงทุนกับสนามแข่งขันไปมาก ชี้ให้เห็นว่าต้องการที่จะก้าวมาเป็นยักษ์ใหญ่ของบุนเดสลีก้าอีกทีม ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการทุ่มดึงสตาร์เก่งๆ จากหลายๆ ทีมเข้ามาเสริมศักยภาพ เควิน คูรานี และ บอร์ดอน จากสตุ๊ตการ์ท, ลินคอน จากไกเซอร์, ราฟินญ่า จากคอร์ติบ้า, ฟาเบียน แอนท์ จากเบรเมน, รวมไปถึงฤดูกาลหน้าก้อจะได้กองหน้าดาวซัลโวอันดับต้นๆ ของบุนเดสลีก้าอย่าง ฮาฮิล ฮันตินท๊อป มาเสริม เบรเมน ทีมนี้มีระบบการจัดการที่ดีเช่นเดียวกันโดยเฉพาะเห็นได้ว่าช่วงหลังๆ ทีมนี้มีมาตราฐานที่ดีที่สามารถแข่งขันในเวทียุโรปได้อย่างสูสี เช่นเดียวกับในเวทีบุนเดสลีก้า ทุ่มซื้อสตาร์นักเตะฝีเท้าดีเข้ามาเยอะเพื่อยกระดับทีมให้อยู่ในระดับยุโรป มิโรสลาฟ โคลเซ่ จาก ไกเซอร์, ทอร์เท่น ฟริงกส์ ดึงคืนถิ่นมาจากบาเยิร์น, นัลโด้ จากสโมรสรบราซิล ผนึกกับสตาร์ระดับชาติรายอื่นๆ ที่มีฝีเท้าอยู่ในระดับแนวหน้าทำให้ทีมเบรเมนยังคงได้ลุ้นแชมป์บุนเดสลีก้า และโชว์ผลงานได้ดีในเวทียุโรป ฮัมบูรก์ ทีมนี้เป็นยักษ์หลับ แต่พร้อมแล้วที่จะคืนชีพ ตั้งแต่มีการขยายสนาม และได้สปอนเซอร์สนามเป็น AOL ซึ่งจุคนได้ถึง 55,800 คนทำให้เห็นว่าฮัมบูร์กพร้อมแล้วในด้านศักยภาพ การทุ่มซื้อ ดาเนียล ฟานบุยเต็น มาจาก มาเซย์, เบนจามิน เลาธ์ จาก 1860 มิวนิค, บูราลูสห์ จากวัลไวซ์, อาธูบ้า จากสเปอร์, และสองสตาร์ฮอลแลนด์อย่าง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ เดอร์ยอง นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าฮัมบูร์กตั้งใจเสริมศักยภาพทีมจริงๆ จังๆ เพื่อที่จะมาแข่งขันกับทีมหัวแถวในบุนเดสลีก้ารายอื่นๆ พร้อมทั้งต้องการกลับสู่เวทียุโรป หลังจากที่ห่างเหินมานาน การเสริมทีมในระดับนี้ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการเป็นไม้ประดับในบุนเดส แต่จุดมุ่งหมายคือการคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า ส่วนทีมอื่นๆ ที่มีแนวโน้มที่ดีได้แก่ ดอร์ทมุนด์, เลเวอร์, กลัดบัค และ สตุ๊ตการ์ท แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 20:36:17 แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 20:31:51 จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันแรงงาน 20:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คห 9 พูดได้ดีมากเลยครับ จากคุณ : jolin_sao - [ วันแรงงาน 20:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนหนึ่งคงต้องยอมรับระบบจัดการของทีมอย่างบาร์เยิร์น มิวนิค ว่าเป็นสโมสรที่จัดการในทุกเรื่องได้ดีจริง ๆ เทียบกับทีมอื่นในบุนเดสลีก้าแล้ว จะเห็นได้ว่าเสือใต้แทบจะไม่มีข่าวในเชิงลบเกี่ยวกับบัญชีตัวเลข รวมไปถึงการจัดการบริหารด้านต่าง ๆ เลย แถมอดีตนักเตะระดับแชมป์โลกต่าง ๆ ยังขึ้นแท่นเป็นทั้ง ผจก. ประธาน บอร์ดบริหารต่าง ๆ อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บาร์เยิร์น มิวนิค จะเป็นเบอร์1 ของเมืองเบียร์ไปอีกนานเลยทีเดียว ทีนี้ถามว่าทำไมบาร์เยิร์น จึงผูกขาดความเป็นแชมป์ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ 1.ทีมมีองค์ประกอบที่ลงตัวอย่างที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่พูดถึงระบบบริหารจัดการแล้ว เอาแค่ในเรื่องของผู้เล่น นักเตะ และสตาฟโค้ช บุคคลที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมได้ ต้องได้รับการคัดสรรมาแล้วว่า จะสามารถร่วมทีมได้อย่างไม่มีปัญหา ในส่วนของนักเตะ ทีมจะไม่ซื้อนักเตะที่แพงเกินเหตุ ต้องซื้อประเภทที่ว่าเหมาะกับทีม และเรื่องของเพดานค่าเหนื่ยต้องไม่เกินระดับที่สโมสรจะจ่ายแน่ (กรณบัลลัคเป็นตัวอย่างที่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้) ในกรณีของโค้ช ต้องดึงมาเฉพาะระดับที่เคยประสบความสำเร็จ รวมไปถึงเป็นคนที่มีบารมีมากพอที่จะมาจัดการสตาร์ต่าง ๆ ในเสือใต้ได้ และยิ่งเป็นคนที่จัดการเกี่ยวกับสื่อ และข่าวลือต่าง ๆ ได้ยิ่งดี (ตรงนี้ยังมี เฮอเนส กลั่นกรองให้อีกต่างหาก) 2.ถ้าเราจะบอกว่าการซื้อตัวผู้เล่นของเสือใต้ ส่งผลกระทบต่อทีมอื่น ๆ ก็ไม่ผิดมากนัก ยิ่งเป็นการซื้อตัวผู้เล่นโดยการซื้อผู้เล่นตัวหลัก ๆ ของสโมสรต่าง ๆ ในบุนเดสลีก้าเองยิ่งเป็นการตัดกำลังทีมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี (แถมยังไม่แพงอีกด้วย) การพาเหรดกันมาของนักเตะอย่าง คาห์น , บาสเลอร์ , เยเรมีส , 2 พี่น้องโควัช , ลูซิโอ + เซ โรแบร์โต้ + บัลลัค , ไดส์เลอร์ , ปิซาโร่ , อัลแบร์ , ฟริงก์ ปีก่อนก็ อิสมาเอล ฯลฯ แถมนี่ก็มีข่าวแว่ว ๆ เกี่ยวกับ ฟาน บุยเต็น และ ลินคอล์น อีก ซึ่งคงต้องบอกว่าปัจจัยเหล่านี้มีผลอย่างมากทีเดียวในการทำให้ทีมตัวเองแข็งแกร่งขึ้น หรือทำให้ทีมอื่นอ่อนลง ซึ่งถ้าถามว่าทีมเหล่านี้ไม่ขายนักเตะก็ได้นี่ ส่วนหนึ่งคงต้องไปดูในสัญญาด้วยว่าทำไว้เช่นไร แต่ถ้าเราคิดง่าย ๆ ว่าถ้าคุณเป็นนักเตะเล่นอยู่ในบุนเดสลีก้า แล้วมีทีมอย่างบาร์เยิร์น มิวนิค มาติดต่อขอให้คุณไปเล่นด้วย คุณจะไม่ไปเหรอ ?? 3.ผู้ท้าชิงไม่สามารถทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวา จะเห็นได้ว่าทีมที่เลื่อนขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงของบาร์เยิร์นไม่สามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องข้ามปี เช่น เบรเมนที่ได้แชมป์เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน หรือดอร์ทมุนด์ ที่รุ่งสุด ๆ ในยุคของ อ็อตมา ฮิทเฟลด์ หรือสุดยอดปาฏิหารย์ อย่าง เรฮาเก้ล กับ ปีศาจแดงแห่งเบ็ตเซ่นแบร์ก ทีมเหล่านี้ต่างขึ้นมาได้ประเดี๋ยวประด๋าว เท่านั้นในเรื่องของมาตรฐาน แต่ละปีทีมจะทำได้ดีในช่วงระดับเวลาใด เวลาหนึ่งเท่านั้น ยิ่งการทำทีมอย่างต่อเนื่อง ก็คงต้องบอกว่าเป็นรองเสือใต้อย่างเห็นได้ชัด ทีนี้ถ้าจะถามว่าทำไมทีมจากเมืองเบียร์จึงดูอ่อนชั้นสำหรับเวทียุโรป จริง ๆ คงต้องบอกว่าจากระดับทีมและฝีเท้าของนักเตะ ไม่ได้เป็นรองทีมใหญ่ ๆ จากลีกยุโรปลีกไหนเลย 10 ปีหลังสุดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมจากเยอรมัน เข้ารอบชิงได้ถึง 4 ครั้ง ตรงนี้เป็นตัวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าทีมจากบุนเดสลีก้า ยังคงเป็นทีมที่อันตรายและสามารถที่จะก้าวไปเป็นแชมป์ได้ทุกครั้งนั่นแหละ เพียงแต่ในช่วง 3-4 ปีหลังสุด สโมสรอย่างบาร์เยิร์น และสโมสรอื่น ๆ ฟอร์มตกลงไปเมื่อต้องเล่นในศึกนี้ รวมไปถึงด้วยว่าทีมจากลีกอื่น ๆ (ที่ไม่ใช่ลีกใหญ่อย่าง ฝรั่งเศส โปรตุเกส และฮอลแลนด์) สามารถทำระดับได้ใกล้เคียงทีมอื่น ๆ มากขึ้น จึงทำให้ตรงนี้มีผลต่อทีมจากเมืองเบียร์ไม่มากก็น้อย ร่ายมาซะยาว จริง ๆ ก็แค่จะบอกว่าทีมจากเยอรมันไม่ได้เป็นรองชาติไหนทั้งนั้น เพียงแต่นอกจากจะอาศัยในเรื่องของฝีเท้าแล้ว ในเรื่องของจังหวะแลโอกาส ก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับบอลถ้วยในรายการนี้ครับ ปล.อาจจะมีข้อมูลที่ผิดพลาดบ้าง คงต้องขออภัย อาศัยความจำสั้น ๆ ของตัวเองที่ติดตามบอลเยอรมันมาพอสมควร ซึ่งถึงแม้ว่าหลัง ๆ จะไม่ได้ชมเป็นประจำซักเท่าไหร่ ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 49 21:29:47 จากคุณ : tottong - [ วันแรงงาน 20:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าที่ทำให้ถูกมองอย่างนั้นเพราะ บอลเบอรมันยังขาดผู้ท้าชิที่ยินระยะได้จริงมั้งครับ เท่าที่ดูมาในเวลา 10 ปีนี้ ยัไม่มีทีมไหนยืนระยะ สู้กับบาเยินร์ได้เลยอะ อาจจะมีแย่งแชมป์ได้บ้างแต่บาเยินร์ก็กลับมาได้ทุกครั้งโดยวิธีส่วนใหญ่ก็ไปคว้านักเตะทีมเหล่านั้นมา มันเลยดูเหมือนผูขาดมั้งครับ จากคุณ : et009 - [ วันแรงงาน 21:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เดี๋ยวนี้ผมว่าบอลเยอรมันเล่นแบบเอ็นเตอร์เทรนคนดูมากขึ้นนะ สนุกกว่าเมื่อก่อนเยอะ จากคุณ : คนน่ารักมึนตึบ - [ วันแรงงาน 22:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หุหุ ช่วงนี้ในเว็บ กระทู้บอลเยอรมันดูร้อนๆยังไงไม่รู้ครับ จากคุณ : Jacare - [ วันแรงงาน 22:20:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #8 ไม่เกี่ยวหรอกครับ บาเยิร์นก็มีนักเตะดีกว่าทีมอื่นเขามาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะได้แชมป์ทุกปี เพียงแต่บาเยิร์นเป็นทีมเดียวที่รักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้ ส่วนทีมอื่นพอเสียโค้ชก็ขาดใจไม่ว่าจะเป็นไกเซอร์และเบรเมนของเรฮาเกนท์ ดอร์ทมุนด์ของฮิตเฟล แต่ส่วนตัว ไม่ค่อบชอบดูบุลเดสลีกาสักเท่าไหร่น่ะครับ ชอบกัลโช่กับพรีเมียร์มากกว่า แต่ก็เอาใจช่วยดอร์ทมุนด์อยู่บ้างนะครับ จากคุณ : Renesis - [ วันแรงงาน 23:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าไม่น้า ก็เข้าชิงทศวรรต2000นี่ก็2ครั้งถือว่าไม่น้อยน่ะ ส่วนการที่บาเยิร์นสูบนักเตะก็มีส่วน แต่ผมว่าบอลเยอรมันดูสนุกน่ะ เปิดแลกกันมันกว่าบอลลีกอื่นๆบางคู่อีก ผมดูบุนเดสได้ทุกคู่เลย คือเล่นกันไม่ค่อยดึงเชง มันดี ผิดกับกัลโช่ดูแล้วจะหลับ ถ้าทีมจากเยอรมันเล่นได้ แบบดอทร์มุนด์ปี97 ก็คงมีลุ้น รูปเกมเหนียวแน่นมาก แต่ชุดนั้นสตาร์ดังเยอะน่ะ จากคุณ : รังแคน้อย - [ 2 พ.ค. 49 02:09:43 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่า ทีมอื่นในเยอรมัน ทั้งเรื่องเงิน บารมี มันสู้บาร์เยิน ไม่ได้ จึงยืนระยะไม่ได้นานก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่ ลีกชั้นนำอื่นๆมีใหมล่ะที่ทีมหัวแถวด้วยกันจะซื้อนักเตะคู่ทีมคู่แข่งด้วยกันเองในราคาแสนถูกเท่านี้ ส่วนใหญ่ต้องรอหมดสัญญาหรือไม่ก็ต้องทุ่มมหาศาล แต่บาร์เยินซื้อนักเตะเด่นของทีมคู่แข่งขณะที่มีสัญญามาด้วยราคาไม่แพงเท่าไหร่เลยเพราะ 1.นักเตะทีมอื่นหลายคนเวลาทำสัญญาไว้ มักมีสัญญาเอาไว้ว่า ถ้ามีทีมใหญ่มาดึงตัวต้องปล่อย หรือถ้าเสนอราคามาเท่านี้ต้องปล่อย 2. นักเตะทีมอื่นในบุนเดสลีก้า แทบทุกคนอยากเล่นให้บาร์เยินทั้งนั้น  ค่าเหนื่อย โบนัส ความสำเร็จ มันแทบจะการันตีได้เลย 3. ตั้งแต่กลางยุค90  ปีทีบาร์เยินไม่ได้แชมป์ มักจะเป็นปีที่มีปัญหาในทีมกันเท่านั้น   สมัยก่อน บาร์เยินซื้อสตาร์จากทีมคู่แข่งในบุนเดสลีก้า แล้วขายทำกำไรไปอิตาลี แล้วเลือกเอาใหม่จากบุนเดสลีก้า มียุคหนึ่งทีดอร์ทมุนด์ทุ่มซื้อนักเตะพวกนี้กลับมา และเบียดกับบาร์เยินได้พักนึงแต่สภาพการที่ทุ่มเงินแข่งกับเสือใต้  (ซึ่งต้องจ่ายมากกว่าด้วย) สักพักก็ล้มละลาย (แต่อันนี้ต้องโทษตัวเองที่ไม่รู้จักประมาณตนเอง ) ส่วนทีมอื่นน้อยรายที่จะกล้าลงทุนอย่างนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎของเดเอฟเบที่ค่อนข้างคุมเข้มในการออกใบอนุญาตลงเตะที่ทีมใหนมีหนี้สินเยอะก็จะไม่ได้ใบอนุณาตให้ลงเล่น (อันนี้เป็นสิ่งดี แต่ก็ทำให้ในบุนเดสลีก้าไม่มีการทุ่มซื้อเงินซื้อสตาร์มาเป็นสีสันเท่าลีกอื่น) ตอนนี้ทีมจากบุนเดสลีก้า ที่สร้างผลงานอย่างคงเส้นคงวาทั้งในลีกและยุโรปก็มีแค่บาร์เยินทีมเดียว นอกนั้นก็สลับกันไป ฮัมบูร์กที่กำลังจะพุ่งขี้นมาก็คงยาก เพราะกลางฤดูกาลมีข่าวเรื่องฟานเดอฟาร์ทกับเสื่อใต้ ตอนนี้ก็เป็นฟาน บุยเต็งกับเสือใต้อีก (ตามข่าวราคา 10 ล้านยูโร ) ชาลเก้ก็มีข่าวเรื่องลินคอห์น (10ล้านยูโรเช่นกัน) ถ้าตีเป็นปอนด์ 10 ล้านยูโรนี่ก็แค่เจ็ดล้านเอง ในอังกฤษซื้อนักเตะดาดๆยังไม่ได้เลย  แต่ในเยอรมันแค่นี้จัดว่ามหาศาลแล้ว ทั้งๆที่บาร์เยินน่าจะมองหานักเตะที่มีระดับกว่านี้มาเสริมทีมหากจะต้องการเป้าหมายในระดับอินเตอร์แต่ก็เลือกนักเตะของคู่แข่งแทน เนื่องจากได้สองเด้งคือ ทีมแกร่งขึ้น+คู่แข่งอ่อนลง ซึ่งในลีกอื่น คงไม่มีทางที่เชลซีที่มีเงินเยอะ จะจ่ายเงินเท่านี้ซื้อ ริโอ เฟอร์ดินานด์ หรือสตีเฟ่น เจอร์ราด มาได้ ส่วนนึงเป็นเพราะศักศรีที่ค้ำคอกันอยู่ ถ้าไม่ทุ่มแบบบ้าคลั่งไม่ทีทางที่จะได้ ทีมยักษ์ใหญาในพรีเมียร์ลีกจึงไปเลือกนักเตะจากลีกอื่นแทนที่จะซื้อนักเตะของทีมคู่แข่ง แต่ในเยอรมันไม่มีใครสู้เสือใต้ได้เลย และคงเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 10:26:23 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 10:23:15 จากคุณ : Mica - [ 2 พ.ค. 49 10:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยกับ คห.13 ครับ (แม้ว่าผมจะเชียร์บาเยิร์นอยู่เหมือนกัน) ต้องบอกว่าค่อนข้างโชคดีที่สื่อ(เมืองไทย)ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับบุนเดสลีกา ดังนั้น เราจึงมีโอกาสได้ดูแมทช์บุนเดสลีกาอย่างต่อเนื่อง (ขอบคุณช่อง 11 ) สำหรับการซื้อตัวนัดกเตะจากทีมอื่นมาเสริมกำลังให้กับทีมตัวเองนั้น ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตรงนี้ บาเยิร์นถือว่าพร้อมสุด อย่างที่คุณว่า     ซึ่งหากกรณีดังกล่าวไปเกิดกับลีกยอดนิยมในหมู่คนไทย (อังกฤษ ) คงเป็นเรื่องราวใหญ่โต และอาจมีการออกมาถล่มกันจนบอร์ดไหม้ก็ได้  ลอลนึกถึงกรณีที่เชลซี จะซื้อเจอราร์ดก็ได้ ถ้าได้มาจริงๆ จะขนาดไหน สำหรับกรณีของแชมเปี้ยนลีกนั้น ผมมองว่าจริงๆแล้วก็ไม่ได้เลวร้ายมากนักนะครับสำหรับทีมจากบุนเดสลีกา  เพราะในการแข่งขันระบบน้อคเอาท์นี่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ โดยเฉพาะการจับบาเยิร์นมาเจอกับมิลาน และอย่าลืมนะครับว่า ถ้าไม่มีลูกผีจับยัดของอีเมอร์สัน จากการพลาดของทิม วีเซ่ (ที่ไม่รู้ว่าให้รับอีก 99 ครั้ง จะพลาดแบบนี้หรือเปล่า ) แล้วละก็  ทีมที่จะผ่านเข้ารอบก็เป็นทีมจากบุนเดสลีกานะครับ จากคุณ : อาร์คีมิดิส - [ 2 พ.ค. 49 13:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ซาบซึ้งที่กระทู้ได้จุดประกายนะครับ ผมก็ยังคิดเหมือนเดิมว่า ที่เยอรมันไม่เหมือนที่อื่น สถิติก็เป็นสิ่งที่ชัดเจนครับ และการตีความ และการพยายามที่จะเข้าใจก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมครับ แหม แต่ตอบแบบมาเฟีบางท่านนะครับ กลัวจริงๆเลย ไม่กล้าพูดถึงมาเฟีย เอ๊ย บาเยิร์นแล้วละ จากคุณ : Double07 - [ 2 พ.ค. 49 16:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 #13 เห็นด้วยกับคุณ tottong ที่มาสรุปประเด็นได้ดีครับ แต่ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมนิดนึงครับ 2.ถ้าเราจะบอกว่าการซื้อตัวผู้เล่นของเสือใต้ ส่งผลกระทบต่อทีมอื่น ๆ ก็ไม่ผิดมากนัก ยิ่งเป็นการซื้อตัวผู้เล่นโดยการซื้อผู้เล่นตัวหลัก ๆ ของสโมสรต่าง ๆ ในบุนเดสลีก้าเองยิ่งเป็นการตัดกำลังทีมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี (แถมยังไม่แพงอีกด้วย) การพาเหรดกันมาของนักเตะอย่าง คาห์น , บาสเลอร์ , เยเรมีส , 2 พี่น้องโควัช , ลูซิโอ + เซ โรแบร์โต้ + บัลลัค , ไดส์เลอร์ , ปิซาโร่ , อัลแบร์ , ฟริงก์ ปีก่อนก็ อิสมาเอล ฯลฯ แถมนี่ก็มีข่าวแว่ว ๆ เกี่ยวกับ ฟาน บุยเต็น และ ลินคอล์น คาห์น ที่ย้ายมาจาก คาห์ลสรูห์ สมัยนั้นผมมองว่าไม่ใช่การตัดกำลัง เพราะคาห์ลสรูห์ ในช่วงเวลานั้นไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ที่จะมาต่อกรกับบาเยิร์น ซึ่งเป็นการซื้อตัวธรรมดาๆ แต่ถือว่าหลักแหลมมาก เพราะต่อมาคาห์นก้อโชว์ฟอร์มได้สุดยอดจนติดทีมชาติ บาสเลอร์ บาสเลอร์ย้ายมาอยู่กับบาเยิร์นแค่ 2 ปีเอง ซื้อมาแพงพอสมควร 4.1 ล้านยูโร แต่ก้อถือว่าสร้างสีสันได้มากน่าเสียดายแมตช์ที่ซัดฟรีคิกนำแมนยูในนัดชิง ucl เขาน่าจะเป็นฮีโรผู้ช่วยให้บาเยิร์นเป็นแชมป์ ซึ่งต่อมานั้น เขามีปัญหากับบาเยิร์น เลยต้องโดนขายออกไปให้ไกเซอร์ในราคาแค่ 7.5 แสนยูโร ทั้งๆที่ซื้อมาตั้ง 4.1 ล้านยูโร เยเรมีส ย้ายมาจากทีมร่วมเมือง 1860 มิวนิค ด้วยค่าตัวราว 8 แสนยูโร ซึ่งสถานะในตอนนั้นก้อไม่ได้เบียดลุ้นแชมป์อะไรกับบาเยิร์น เพียงแต่เป็นนักเตะที่เก่ง และในยุคนั้นก้อมีนักเตะมิดฟิลด์ตัวรับเก่งหลายๆ คน 2 พี่น้องโควัช ผมไม่มองว่าการซื้อตัวสองพี่น้อง โควัชเป็นการตัดกำลังคู่แข่งแต่อย่างใดยิ่งโดยเฉพาะในรายนิโก้ ของฮัมบูร์ก ซึ่งสถานะในขณะนั้นก้อไม่ได้เป็นทีมที่จะมาแย่งแชมป์บาเยิร์นแต่อย่างใด ผมยังงงเลยนะอยู่ดีๆ ซื้อมาเล่นกันทั้งพี่น้องซึ่งในรายของ โรเบิร์ท ก้อถือว่าเข้ามาช่วยเหลือบาเยิร์นในแผงหลังได้ดีพอสมควร แต่ในรายของ นิโก้ ซึ่งในขณะนั้นแผงมิดฟิลด์มีให้เลือกใช้งานเยอะอยู่แล้ว นิโก้ จึงดูเหมือนเป็นส่วนเกินของบาเยิร์น ในปีนั้นบาเยิร์นเสริมตัวผู้เล่นไม่ค่อยดีครับ ทั้งเธียม, ทั้งนิโก้ โควัช จะมีใช้ได้หน่อยก้อ ปิซาโร่ แต่ที่ขายไปคือหัวใจแนวรับ แพททริก แอนเดอร์สัน แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหน โรเบิร์ท ก้อไม่สามารถทดแทน แอนเดอร์สัน ได้อย่างที่ควรจะเป็น เซ โรแบร์โต้ + บัลลัค มาพร้อมกัน เซโรแบร์โต้ แพงกว่าบัลลัค 5.5 ล้านยูโร คือ 11.5 ล้านยูโร ทั้งเซ โรแบร์โต้ และ บัลลัค ผมยอมรับว่าการย้ายมาครั้งนี้ของทั้งคู่ทำให้ เลเวอร์อ่อนลงจริงๆ แต่ต้องยอมรับว่า นักเตะอยากมาอยู่ด้วยเช่นเดียวกับสถานะการเงินของ เลเวอร์คูเซ่น ก้อไม่แน่นอนการขายนักเตะเพื่อแลกกับเงินจึงเป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องไม่ลืมว่าในขณะนั้น เซ โรแบร์โต้ มีหลายทีมจาก สเปน และ อิตาลี ให้ความสนใจอยู่ด้วยเช่นกันเกือบจะได้ย้ายไปแล้วแต่สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ ค่าตัวก้อราวๆ นี้เหล่ะ ส่วนบัลลัคในขณะนั้นมีหลายทีมในยุโรปให้ความสนใจเหมือนกัน แต่เล่นกดราคาซ่ะเวอร์ และอีกอย่างบัลลัคก้อบอกว่าต้องการมาพิสูจน์ตัวเองกับยักษ์ใหญ่เยอร์มันเพื่อพิสูจน์ตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ต่างๆ โดยเฉพาะ UCL ซึ่งบาเยิร์นเป็นทีมที่มีมาตราฐานดีที่สุดทีมหนึ่งของโลกย้ายไปที่อื่นในขณะนั้นอาจจะเป็นการเสี่ยง ลูซิโอ ถ้ายังจำกันได้ เกือบได้ย้ายไปเล่นในอิตาลีซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ เลเวอร์มักจะปล่อยผู้เล่นที่ซื้อมาถูกๆ แล้วนำมาปั้นเพื่อขายในอดีตเร็วๆ นี้มีทั้ง เวิร์น และ เอเมอร์สัน ที่ทำรายได้เข้าสโมรสรได้เป็นกอบเป็นกำ สำหรับในกรณีของลูซิโอ มีการสู้กันในเรื่องของราคาค่าตัวสุดท้ายลงเอยกันที่ 12 ล้านยูโร แต่บาเยิร์นมีภาษีดีกว่าตรงที่ ลูซิโอ ชอบชีวิตในเยอร์มัน และ สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงได้เมื่อย้ายไปถึง ไดส์เลอร์ ไดส์เลอร์ สมัยนั้นเป็นดาวรุ่งพรสวรรค์สูงของเยอร์มัน ย้ายเข้ามาในปี 2003 ในราคา 9 ล้านยูโรซึ่งในขณะนั้นไดส์เลอร์ เป็นกำลังสำคัญของแฮร์ธ่า เล่นได้อย่างโดดเด่น ถ้ายังจำกันได้ในกรณีไดส์เลอร์ บาเยิร์นเคยจะคว้าตัวมาตั้งแต่ในสมัยที่อยู่กลัดบัค แต่หลายๆท่านคงจะทราบกันดีถึงการตกลงกันระหว่างสองพี่น้อง อูลี่ เฮอร์เนส และ ดีเตอร์ เฮอร์เนส ที่ทางฝั่งบาเยิร์นดูเหมือนว่าต้องการให้ ไดส์เลอร์ได้ไปฝึกฝนฝีมือกับ แฮร์ธ่าก่อนเมื่อพร้อมแล้วบาเยิร์นสามารถตกลงที่จะเซ็นสัญญามาได้ทุกขณะ ซึ่งตรงนี้เหมือนมีการจองตัวไดส์เลอร์ไว้ตั้งแต่ล่วงหน้า แต่ในขณะนั้นดาวรุ่งพรสวรรค์ของเยอร์มัน ทั้ง โรเบิร์ท เอ็งเค่, เซบาสเตียน เคห์ล หรือแม้แต่ คริสเตียน ทิมม์ ที่บาเยิร์นสนใจ แต่กลับไม่ได้สักคน ปิซาโร่ ปิซาโร่ เบรเมนซื้อมาจากทีมเปรรูแค่ 1.5 ล้านยูโร แต่ขายให้บาเยิร์นถึง 8 ล้านยูโรในปี 2002 ซึ่งปิซาโร่เล่นให้กับเบรเมนแค่ 1 ปีเองคราบบบบ ตอนนี้เบรเมนมีตัวทดแทนชั้นยอดทั้ง โคลเซ่, วัลเดส, คลาสนิค ฯลฯ เอะ แปลกใจจัง ทำมัยบาเยิร์นไม่ซื้อ โคลเซ่ และ คลาสนิค นะ ตัดกำลังไปเลยยย  เอาให้สมคำลำลือหน่อย 555 อัลแบร์ ย้ายมาในยุคเดียวกับ ลิซาราซู ซึ่งในขณะนั้นบาเยิร์นเสียแบคคนเก่งไปคือ ซีเก้ เอลแบร์ เดิมทีเคยเล่นอยู่ในอิตาลีกับ เอซี มิลาน ในช่วงสั้นๆ แต่ไม่รุ่ง เลยถูกปล่อยไปให้กับกลาสฮ๊อปเปอร์ซูริค ก่อนที่จะถูกดึงมาอยู่กับสตุ๊ตการ์ท ในปี 95 เล่นอยู่ 2 ปีสร้างชื่อให้กับสตุ๊ตการ์ท สร้าง 3 เหลี่ยมมหัศจรรย์ เอล, บา, โบ มีแนวรุกที่สวยงาม (แต่แนวรับหลวม 555) ซึ่งหลังจากเอลแบร์ ย้ายมาอยู่กับบาเยิร์น สตุ๊ตการ์ทในยุคนั้นเปลี่ยนมาเป็น อัค, บา, โบ แต่กลับไม่เนียลเหมือนเก่าแล้วก้อล่มสลายไป เมื่อครั้งที่ เอลแบร์ย้ายมาอยู่กับบาเยิร์นปีแรกหลายๆ คนก้อไม่อยากคาดหวังอะไรกับนักเตะกองหน้าต่างชาติ เพราะเนื่องจากไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จเลยในบาเยิร์น ปีแรกที่ย้ายมานั้น บาเยิร์นถูกตบหน้าฉากใหญ่จากทีมที่เพิ่งขึ้นมาจากลีก้า 2 คือไกเซอร์ สเลาเทิร์น ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าไปอย่างหน้าตาเฉย แต่หลังจากนั้นมา เอลแบร์ และบาเยิร์นผนึกกำลังกันได้ดีและมีฤดูกาลที่ได้แชมป์มาแบบโชคเข้าข้าง ซึ่งจะว่าไปยุคนั้นบาเยิร์นไม่ได้เก่งในเฉพาะในบุนเดสลีก้า แต่สุดยอดในระดับฟุตบอลยุโรปด้วย โดยเข้าชิงชนะเลิศสองปีติดต่อกันในปี 2001 และ 2002 ฟริงก์ สำหรับคนนี้ถ้าใครยังจำกันได้ บาเยิร์นเคยแย่งตัวกับดอร์ทมุนด์ในช่วงนึงซึ่งผล บาเยิร์น แพ้ดอร์ทมุนด์ในการแย่งตัวนักเตะ เช่นเดียวกับที่เคยแย่งกันในกรณีของ เซบาสเตียน เคหล์ และ โธมัส โรซิคกี้ ปัจจัยคืออะไรก้อคงทราบกันดีถ้าไม่ใช่เรื่องเงินๆ ทองๆ ก้ออย่างที่บอกไปทีมไหนมีเงินมากกว่า โดยเฉพาะในยุคที่ฟุตบอลคือธุรกิจการบริหารกรจัดการที่ดีเยี่ยมทำให้เงินทองมีมากกมาย การซื้อนักเตะการแย่งนักเตะกับทีมต่างๆ ก้อสามารถกระทำได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับในกรณีของดอร์ทมุนด์นั้นเป็นที่น่าเสียดายที่การลงทุนหลายๆ กรณีเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะศูนย์ปล่าว โดยเฉพาะการที่ทีมผลงานไม่ดีการไม่ได้ไปลุยบอลถ้วยใหญ่ UCL เป็นเวลาหลายปีทำให้ทีมขาดรายได้ไปมหาศาล โดยการลงทุนที่มหาศาลไปนั้นกลับไม่ได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ทำให้ตัวเลขหนี้สินต่างๆ มีมากขึ้นเลยทำให้ดอร์ทมุนด์ มีปัญหาทางด้านการเงินเลยจำใจต้องขายนักเตะตัวหลักหลายๆ คนออกไป โดยเฉพาะในรายของ ฟริกงส์ หลังจากที่เคยแย่งตัวกับบาเยิร์น ในเมื่อครั้งที่ฟริกงส์อยู่กับ เบรเมนในตอนนั้น ดอร์ทมุนด์ทุ่มซื้อมา 8.5 ล้านยูโร โชว์ฟอร์มให้ดอร์ทมุนด์ได้ดีพอสมควรโดยอยู่กับสโมรสรเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่สโมรสรจะตัดสินใจขายให้กับบาเยิร์นเพื่อเป็นการลดภาระหนี้สินขายไปราคา 9.5 ล้านยูโร ถือว่ากำไร แต่สำหรับบาเยิร์นแล้ว ฟริงกส์นั้นไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดั่งที่คาดหวังไว้จนบาเยิร์นคิดว่าเป็นการซื้อตัวที่ผิดพลาดครั้งใหญ่อีกครั้งนึง จนต่อมาบาเยิร์นจำต้องขายต่อกลับไปให้กับเบรเมน ในราคาแบบขาดทุนคือ 5 ล้านยูโร และทำอ๊อปชั่นเปิดทางให้มีการเซ็นสัญญาคว้ากองหลัง เบรเมนมา 1 คนซึ่งได้แก่ อิสมาเอล โดยบาเยิร์นต้องควักตังค์จ่ายอีก 8.5 ล้านยูโร โดยกรณีเรื่องเงินๆ ทองๆ บาเยิร์นขาดทุนไป 3.5 ล้านยูโร เพื่อแลกกับกองหลังอิสมาเอล วัย 29 ปี และ การใช้งานที่ไม่คุ้มค่าของทอร์เท่นฟริงกส์ อิสมาเอล ^ อ่านในหัวข้อฟริงกส์ ฟาน บุยเต็น จริงๆ ฮัมบูรก์เคยเกือบจะขายมาหลายรอบแล้วแต่ผมลุ้นไม่ให้ขายนะ อยากให้ฮัมบูร์กสร้างหลักปักฐานให้แข็งแกร่งด้วยนักเตะเก่งๆ หลายๆ คน ซึ่งกรณี ฟาน บุยเต็น เคยเกือบไป นิวคาสเซิ้ล มั้งแต่ฮัมบูร์กบอกปัดไปเพราะค่าตัวน้อยไป (แสดงว่าจะขายเหมือนกัน) แต่เร็วๆ นี้ก้อมีข่าวกับบาเยิร์น โดยราคาตลาดของ ฟาน บุยเต็นอยู่ที่ราวๆ 14 ล้านยูโร แต่ฮัมบูร์กต้องการถึง 15 ล้านยูโรเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ฮัมบูร์กแสดงเจตจำนงแล้วว่าไม่ได้ร้อนเงินแต่อย่างใด เมื่อเงินไม่ได้อย่างที่ต้องการก้อไม่มีทางขายปราการหลังตัวสำคัญออกไป แต่อยากจะบอกว่าฮัมบูร์กงานนี้มีแต่กำไรโดยเฉพาะการขายออกไปถ้าได้เงินถึง 15 ล้านยูโร ทั้งๆที่เขาคว้าตัว ฟาน บุยเต็น มาจาก มาเซย์ 3.8 ล้านยูโรเท่านั้น ลินคอน ว่ากันตามตรง ถ้าจะไปหาเพลย์เมคเกอร์ในระดับสุดยอดที่สามารถมาทดแทนบัลลัคได้แล้วถ้ามองหาที่ในลีกชั้นนำของยุโรป เป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินสูงมากๆ ซึ่งก้อเป็นเรื่องยากที่บาเยิร์นจะยอมทุ่มจ่ายสูงๆ โดยเฉพาะเมื่อมองกันถึงการทำกำไรของสโมรสรในเยอร์มัน กับ สโมรสร อิตาลี, สเปน, อังฤษ ที่มีการแข่งขันกันสูงทั้งค่าลิขสิทธิ TV, สปอตมาเก็ตติ้งอื่นๆ ทำให้มีรายได้มาก พร้อมที่จะทุ่มซื้อนักเตะค่าตัวแพงๆ ได้ต่างกับ สโมรสรในเยอร์มัน แม้หลายๆ ทีมจะไม่มีหนี้สินมากมาย แต่ก้อต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง อย่างสมเหตุสมผล เพราะช่องทางการหารายได้ของสโมรสรจากเยอร์มันนั้นยังถือว่าน้อยอยู่เมื่อเทียบกับสโมรสรชั้นนำของยุโรป เราจึงได้เห็นว่าสโมรสรต่างๆ นั้นไม่ค่อยจะยอมทุ่มจ่ายเงินสูงๆ คว้าตัวนักเตะมากเท่าไหร่นัก เมื่อมองกันถึงปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว เวทีบุนเดสลีก้าจึงเป็นแหล่งที่มีการซื้อขายนักเตะกัน ด้วยราคาที่สมเหตุ สมผล และไม่แพง ทำให้ทีมต่างลีกมาซื้อสตาร์จากลีกนี้ไม่ค่อยแพงมากนัก เช่นเดียวกันเหมือนกับเป็นช่องทางให้ทีมที่มีเงินในบุนเดสลีก้า หันมานิยมซื้อนักเตะในลีกตัวเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในราคาสูงๆ ถ้าจะทุ่มซื้อสตาร์จากต่างลีก จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 17:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 23 #19 กลับมาอ่านกรณีของ ลินคอน แต่คุณก้อเข้าใจได้ค่อนข้างดีครับ แต่กลางยุค 90 อย่าไปโทษอย่างนั้นครับไม่งั้นทีมอื่นๆ ที่โชว์ฟอร์มได้ดี จนคว้าแชมป์ไปเขาก้อไม่คู่ควรงั้นสิครับ ต้องรอให้บาเยิร์นมีปัญหาทีมอื่นถึงจะคว้าแชมป์ได้หรือครับ?? ซึ่งกลางยุค 90 ทีมที่เก่งและดีอย่าง ดอร์ทมุนด์ยังมีดีพอที่จะคว้าแชมป์ยุโรป ได้เลยน่ะครับ #21 ถ้าหมายถึงผมก้อไม่เป็นไร ผมก้อตอบแบบนั้นเหล่ะครับ เพราะผมแย้งไปในบางประเด็นที่เป็นเรื่องจริง ผมพิมพ์ข้อความเพิ่มเติมลงไปเพื่อให้มีรสชาติลงไปก้อเป็นสิทธิของผม ถ้าเกิดทำให้ไม่พอใจก้อขออภัย จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 17:33:00 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ปล.ถ้าเรามัวแต่ตัดพ้อถึงความสำเร็จ ของผู้อื่น โดยที่ไม่หันมามองที่ตัวเอง และคิดปรับปรุงตัวเองเพื่อแข่งขันกับผู้อื่นได้ ทำอย่างไรก้อไม่สามารถที่จะพัฒนาได้อย่างที่ต้องการ จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 17:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 25 #20 ผมว่าสื่อเมืองไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่สายของบุนเดสโดยตรง ส่วนใหญ่จะมองบุนเดสลีก้าแบบที่ไม่ค่อยให้ความสนใจ จนบางครั้งถึงขั้น " ดูถูก " เลยน่ะครับ แต่ผมไม่ขอพาดพิงไปถึงลีกอังกฤษน่ะครับ เพราะผมคิดว่าอย่างไรซ่ะคนไทยก้อคุ้นเคยกันอยู่แล้วครับ เพราะผมคิดว่าแม้จะทุ่มซื้อตัวกันยังไง คนไทยส่วนใหญ่ก้อยังดูกันครับ ก้อเหมือนกับผมจะยังไงก้อดูบุนเดสลีก้าเหล่ะครับ ส่วนเรื่องการถ่ายทอดมันคงสืบเนื่องมาจากสายสัมพันธ์เก่าๆ ที่ดีของทีมถ่ายทอดฟุตบอลเยอร์มัน, แฟนฟุตบอลเยอร์มัน, คลับแฟนบอลของเยอร์มัน ที่เหนียวแน่น ทำให้เป็นปัจจัยหนึ่งที่เขายังถ่ายทอดฟุตบอลบุนเดสลีก้าให้ดูถึงทุกวันนี้ ส่วนอีกปัจจัยคือค่าลิขสิทธิที่ไม่แพงมาก และเข้าใจว่าการซื้อลิขสิทธิถ่ายทอดบุนเดสลีก้าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เป็นผลพวงเรื่องการได้สิทธิพิเศษบางประการจากเยอร์มันในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 ด้วยครับ จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 17:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรียน คุณ ::Sholl:: ผมไม่ได้หมายความว่า ทุกกรณีที่เสือใต้ซื้อเป็นการตัดกำลังคู่แข่ง (แต่ไม่น้อยที่เป็นอย่างนั้น) อย่างที่บอก กรณีอย่างนี้ เป็นลีกอื่นนี่ทำยาก กับการใช้เงินที่ไม่มากซื้อนักเตะจากคู่แข่งร่วมลีกโดยตรง แต่ในเยอรมันมันแตกต่างออกไปกับบาร์เยินและทีมอื่นๆ เพราะนอกจากเสือใต้แล้ว ทีมอื่นในเยอรมันนี่การบริหารทีม sponsor การขายของที่ระลึก ลิขสิทธิ์ทีวี นี่ยังเป็นรองลีกชั้นนำอื่นๆแบบสุดกู่  งบประมาณในการทำทีมก็เลยน้อย อย่างเลเวอร์คูเซ่น สนามความจุไม่ถึงสามหมื่นคน ไม่ขายนักเตะจะอยู่ได้ยังไง ส่วนทีมที่มีแฟนบอลค่อนข้างเยอะอย่างสองทีมย่านถ่านหิน คือชาลเก้และดอร์ทมุนด์ บอกตรงๆการบริหารทีมค่อนข้างแย่ ดอร์ทมุนด์ คือทีมโปรดของผมในเยอรมัน ติดตามมาตั้งแต่ยุค แฟรงค์ มิลล์ + นอร์เบิต ดิ๊คเคิ่ล ทุกวันนี่น่าเสียดายที่หนี้สินเยอะจนต้องเอาสนามไปจำนอง และดูแล้วโอกาสฟื้นแทบไม่มี เนื่องจากยุคนี้เงินไม่มีก็ไม่ต้องพูดถึง จะปั้นเด็กมาก็ยาก ไม่รู้เป็นยังไง คนเยอรมันยุคใหม่ไม่ค่อยเล่นฟุตบอลหรือเปล่า นักเตะรุ่นใหม่คุณภาพดีๆจริงๆหาทำยาไม่ได้เลย แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 18:01:44 จากคุณ : Mica - [ 2 พ.ค. 49 17:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนเรื่องความนิยม บุนเดสลีก้า คงไม่ได้รับความนิยมไปกว่านี้ เพราะ 1. ไม่มีการทุ่มซื้อดารามาเสริมทีมเหมือนลีกอื่น นักเตะต่างชาติ จะเป็นนักเตะ จากอเมริกาใต้หรือยุโรปตะวันออก ที่ไม่ใช่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเป็นส่วนใหญ่ 2. บาร์เยินผูกขาดแชมป์ ทีมอื่นเป็นแค่ลูกไล่ 3. สไตลล์การเล่นของทีมต่างๆในลีก เล่นกันช้า เน้นความแน่นอน 4.  เวลาเตะถึงแม้จะไม่ดึกจนต้องถอดใจดูเหมือนสเปนแต่โชคร้ายกว่าตรงที่ตรงกับฟุตบอลอังกฤษ  อันดับหนึ่งตลอดกาลของบ้านเราและเอเชีย แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 18:24:41 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 18:02:44 จากคุณ : Mica - [ 2 พ.ค. 49 18:00:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #26 คุณ mica ขอบคุณที่เข้าใจครับ และคุณก้อเข้าใจได้ค่อนข้างถูกต้องในหลายๆ ประเด็นครับ แต่ผมก้อยังมีความเชื่อที่ว่า ยี่ห้อ " เยอร์มัน " การที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะสิ่งที่ล้มเหลวลงไป เขาจะตั้งใจทำมันจริงๆ จังๆ เชื่ออย่างนั้นว่าจะต้องได้รับการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมคำว่า " สูงสุด คืนสู่สามัญ " คำนี้ใช้ได้เสมอกับฟุตบอล จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 18:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 29 #27 เห็นด้วยในข้อ 1. และ 4. แย้งข้อมูลนิดหน่อย 2. บาร์เยินผูกขาดแชมป์ ทีมอื่นเป็นแค่ลูกไล่ แล้วแต่ ดุลพินิจ ผมเชื่อว่าถ้าได้ปัจจัยของข้อ 1 ที่ว่าด้วยเรื่องสตาร์เข้ามาทดแทน ยังไงผู้ชมก้อต้องการที่จะดูอยู่ดี 3. สไตลล์การเล่นของทีมต่างๆในลีก เล่นกันช้า เน้นความแน่นอน ยุคหลังๆ มานี้ผมว่าไม่ใช่อย่างที่เข้าใจแล้วครับ การที่ทีมในบุนเดสมีการ import นักเตะจากลาตินเข้ามามาก และนักเตะเทคนิคสูงๆ จากยุโรป ตะวันออกเข้ามาทำให้สไตล์การเล่นของบุนเดสลีก้ามีการผสมผสานหลากหลายมากขึ้น การเล่นในทีมของบุนเดสเร็วขึ้น, เน้นการบุกทำประตูมากขึ้น, เรื่องการเข้าสกัดที่หนักหน่วง รวดเร็ว ยังคงมีเช่นเดิม เดี๋ยวนี้ทีมในบุนเดสลีก้าเน้นการเอนเตอร์เทรนคนดูด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเกมส์รุก บุกเพื่อยิงประตู ผู้ชมในสนามในรอบหลายๆ ปียอดสูงขึ้นๆ เฉลี่ยการทำประตูต่อนัด สูงที่สุดในลีกชั้นนำของยุโรป ติดต่อกันหลายปี ฉนั้นผู้ที่สัมผัสบุนเดสยุคก่อน กับยุคปัจจุบัน จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 18:14:59 ]

ความคิดเห็นที่ 30 แต่เรื่องสไตล์การเล่น ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่า เอาเข้าจริงๆก็ยังเป็นอย่างสไตล์นั้นอยู่ครับ ส่วนเรื่อง บาร์เยินผูกขาดแชมป์ ผมว่าถ้าเราไม่ได้เชียร์บาร์เยิน มันคงเป็นเรื่องไม่น่าสนใจเท่าไหร่ติดตามเท่าไหร่ ถ้าแข่งสัก 10 ปี มันงาบไปซะ 7-8 ส่วนที่เหลือก็เป็นทีมอื่น ที่ผลัดกันมาแบ่งไป จากนั้นมันก็มางาบดาราทีมนั้นไปอยู่บาร์เยิน เป็นวงจรอยู่อย่างนั้น (ขนาดสก๊อต หรือฮอลแลนด์ ยังเดายากกว่าเลย ว่าปีนั้นจะเป็นเซลติคหรือเรนเจอร์ หรือไอนโฮเฟ่นหรืออาแจ๊ค จะเข้าวิน) แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 18:32:28 จากคุณ : Mica - [ 2 พ.ค. 49 18:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมดูบอลเยอรมันบ้าง ไม่ดูบ้า่ง ใจจริงชอบบอลอังกฤษมากกว่า แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต้องชม ก็คือ หน้าบอลเยอรมัน ในซอคเกอร์ ทำได้ดีมาก ต้องยอมรับ คุณอาก.ป้อหล่วน คุณอาช่อคูณ ทำงานได้ดีจริงๆ อยากให้ฟากบอลพรีเมียร์ทำให้ได้อย่างนี้บ้าง ข้อมูลแน่นจริงๆ ไม่ค่อยพลาดเท่าไร ส่วนประเด็นอื่นในกระทู้นี้ ไม่ขอพูดถึงนะครับ จากคุณ : นายระเบียง - [ 2 พ.ค. 49 19:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #31 " แต่เรื่องสไตล์การเล่น ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างอย่างที่คุณบอก แต่ผมว่า เอาเข้าจริงๆก็ยังเป็นอย่างสไตล์นั้นอยู่ครับ " ...ชักจะสงสัยแล้วว่าบุนเดสลีก้าในช่วงหลังๆ ได้ดูเป็นประจำหรือไม่?? " ผมว่าถ้าเราไม่ได้เชียร์บาร์เยิน มันคงเป็นเรื่องไม่น่าสนใจเท่าไหร่ติดตามเท่าไหร่ ถ้าแข่งสัก 10 ปี มันงาบไปซะ 7-8 ส่วนที่เหลือก็เป็นทีมอื่น ที่ผลัดกันมาแบ่งไป จากนั้นมันก็มางาบดาราทีมนั้นไปอยู่บาร์เยิน เป็นวงจรอยู่อย่างนั้น (ขนาดสก๊อต หรือฮอลแลนด์ ยังเดายากกว่าเลย ว่าปีนั้นจะเป็นเซลติคหรือเรนเจอร์ หรือไอนโฮเฟ่นหรืออาแจ๊ค จะเข้าวิน) " ..... จริงๆ ผมชอบหลายทีมนะในลีกคือผมดูเพราะผมชอบลีกนี้ ย้ำดูเพราะชอบ โดยรวมๆ มาชอบลีกนี้ก้อเพราะติดตามทีมชาติ เลยทำให้ดูได้หลายๆ ทีมในบุนเดสลีก้า (แอบปันใจชอบหลายๆ ทีม) แต่ผมมีความคิดสวนทางที่ว่าเมื่อลีกไหนก้อแล้วแต่มีการคว้าแชมป์อยู่ทีมเดียว(ทุกปี) ผู้เชียร์สโมรสรนั้นๆ จะรู้สึกว่าไม่มีความท้าท้าย แต่ความสนใจยังคงอยู่เพราะเหตุผลที่(ชอบ) เพราะฉนั้นจึงเป็นสาเหตุให้หลายๆ คนต้องการที่จะชมเกมส์ฟุตบอลแบบที่ลุ้นกันสนุก มากกว่าไม่ค่อยได้ลุ้น ส่วนเรื่องงาบดาราทีมอื่นๆ อธิบายไปแล้วขี่เกียจวกกลับเรื่องเดิมๆ ส่วนเกมส์ฟุตบอลถ้าคนไหนที่ชื่นชอบลีกนั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องมาสนใจเรื่องการคาดเดา เพราะเมื่อใดที่เราตั้งสมุติฐานถึงการแข่งขัน หรือตั้งแง่ในเชิงอคติต่อฟุตบอลลีกนั้นๆ เมื่อนั้นดูยังไงก้อไม่สนุก เพราะเสนห์มันอยู่ที่เกมส์ฟุตบอลลีกของประเทศนั้นๆ นักเตะในสโมรสรนั้นๆ สไตล์การเล่นของลีกนั้นๆ ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 20:26:24 จากคุณ : ::Sholl:: - [ 2 พ.ค. 49 20:24:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ช่วงหลังยังพอติดตามการถ่ายทอดอยู่บ้างครับ สลับดูตอนก่อนเตะพรีเมียร์ลีก และ ช่วงพักครึ่งพรีเมียรืลีก แต่อ่านหน้าบอลบุนเดสลีก้าทุกวัน (คอลัมณ์ของคุณช่อคูณอ่านจะอ่านเป็นอย่างแรก ก่อนจะเปิดดูอย่างอื่น) นอกจากดอร์ทมุนด์ก็เอาใจช่วยทีมที่เป็นคู่แข่งของบาร์เยินสลับกันไปครับ คิดดูดิ 6-7 ปีนี่นี่เปลี่ยนกี่ทีมแล้ว ไกเซอร์  เลวอร์คูเซ่น เบรเมน สตุ๊ดการ์ท  ปีนี้ก็ ฮัมบูร์ก ซึ่งทีมพวกนี้บางทีมันสวิงเลย บางปีลุ้นแชมป์ปีต่อมาเกือบตกชั้น บางปีก็กลับมาดี ทั้งๆที่นักเตะในแต่ละปีไม่ได้ต่างจากเดิมมาก แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 49 20:33:17 จากคุณ : Mica - [ 2 พ.ค. 49 20:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #27 ผมว่าบอลเยอรมันไม่ช้าน่ะ และผมว่าก็ไม่ค่อยจะระวังตัวกันเท่าไหร่ด้วย คือเล่นกันตามเกม คุณลองดูไฮไลท์บอลเยอรมันดูว่าจังหวะทําประตู มากมายขนาดไหน ดูสกอร์เฉลี่ยทุกคู่ของบุนเดสลีกาในแต่ล่ะสัปดาห์ก็ได้ แต่ถ้าจะบอกว่าเยอรมันระมัดระวังในการใช้จ่ายน่ะถูก ยกเว้น ดอร์มุนด์น่ะ 555 จากคุณ : รังแคน้อย - [ 2 พ.ค. 49 21:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 จุดเด่นของบอลเยอรมัน ผมว่าคือจำนวนประตูที่ยิงได้ต่อนัดนะ การจะยิงได้นัดละ5-6ลูกเป็นเรื่องปกติสำหรับลีกนี้มาก ซึ่งก็คงทำให้แฟนบอลลีกนี้ได้สะใจมากกว่าลีกอื่นๆ แต่ว่าที่ผมกลัวอย่างนึงคือ ในช่วงหลังๆของUCLทีมในเยอรมันที่จะผ่านเข้ารอบลึกๆไปได้มีแต่เสือใต้ทีมเดียวเอง ทีมอื่นๆที่เข้าไปจะกลายเป็นไม้ประดับซะมากกว่า ไม่ขอวิเคราะห์ว่าเพราะอะไรนะเพราะผมเองไม่สันทัดลีกนี้ แต่ในอนาคตผมว่ามีอัตราสูงมากที่ ทีมจากฝรั่งเศสและฮอลล์แลนด์จะแซงหน้าแทบทุกๆทีมในUCLจากเยอรมันแน่ครับ(ยกเว้นบาเยิห์น) จากคุณ : รักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้ - [ 2 พ.ค. 49 23:12:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 #35 แล้ว เบรเมน,ชาลเก้,ฮัมบูร์ก, เลเวอร์, สตุ๊ตการ์ท เอาไปไว้ไหนล่ะครับ ผมว่ายังพอวัดกับ อาแจ็กซ์,ไอโฮเฟ่น,แฟเยนูส, ลียง, มาเซย์, โมนาโก ได้อย่างสบายๆ น่ะครับ จากคุณ : ::Sholl:: - [ 3 พ.ค. 49 00:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 37 Uli Hoeness ผู้จัดการทีมบาเยิร์นให้สัมภาษณ์ นสพ เมื่ออาทิตย์ก่อนว่า ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่บาเยิร์นถึงจะชนะเลิศได้ถ้วยแชมเปี้ยนลีค โดยเปรียบเทียบกับทีมยูเวนตัส ตูริน ที่มีรายได้จาก ทีวีปีละ 116 ล้านยูโร ขณะที่บาเยิร์นได้ปีละ 16 ล้านยูโร ระยะเวลาห้าปีจะมีรายได้ห่างกันถึง 500 ล้านยูโร จากคุณ : . (บอนเนอร์) - [ 4 พ.ค. 49 01:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #37 ใช่แล้วครับ คุณบอนเนอร์ นี่ขนาดบาเยิร์น ทีมที่ถูกมองว่าเป็นอันดับ 1 ในบุนเดสลีก้า ยังมีรายได้ต่างกันอื้อ กับสโมรสรชั้นนำในลีกยุโรปอื่นๆ ก้ออย่างที่ผมได้อธิบายไปข้างบนๆ โน้น ทำมัยทีมจากบุนเดสลีก้าไม่ค่อยนิยมทุ่มซื้อสตาร์แพงๆ จากลีกอื่น เช่นเดียวกับบาเยิร์นทำมัยถึงต้องมาซื้อสตาร์จากลีกเดียวกันแทน จากคุณ : ::Sholl:: - [ 4 พ.ค. 49 02:03:41 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ...ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ จะเอามาโยงกันไม่ได้น่ะครับ... ...ทีมที่ได้แชมป์บอลลีกทุกๆปี...ก้อมีถมไปที่ไม่ได้แชมป์บอลยุโรป...แต่ทีมที่เป็นรองแชมป์ได้ก้อมีครับ...ไม่น่าจะเอามาพ่วงกันน่ะว่าถ้าทีมที่เป็นแชมป์แบบผูกขาดถ้าไม่เคยได้แชมป์บอลยุโรปทีมที่ได้อันดับรองลงมาจะไม่สามารถสู้ทีมอื่นในยุโรปได้... จากคุณ : MK2006 - [ 4 พ.ค. 49 20:53:36 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บาเยิร์นทำให้ลีกบุนเดสลีกามันไม่พัฒนาพอมีทีมดีๆเกิดขึ้นมาก็เล่นไปซื้อตัวเก่งๆเค้ามาซะอย่างงั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลงานช่วงหลังทีมในบุนเดสในuclหรือuefa cupไม่ค่อยประสบความสำเร็จแม้แต่บาเยิร์นเองก็เถอะปีนี้ยังเจอมิลานถล่มกระจาย จากคุณ : kaka-musume - [ วันฉัตรมงคล 15:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณshollเวลาดูบอลคุณควรฟังความคิกเห็นของคนอื่นบ้างนะไม่ใช่หลับหูหลับตาเชียร์มีอะไรๆก็แย้งข้างๆคูๆดูความเป็นจริงด้วย จากคุณ : kaka-musume - [ วันฉัตรมงคล 21:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 42 #40 and #41 ไม่ฟังยังไง ปัญญาอ่อนแล้วครับ อ่านข้อความผมจบยังครับ ผมว่าคุยกับหลายๆ คนพอรู้เรื่องหมดแล้วน่ะครับ ผมไม่ได้หลับหูหลับตาเชียร์ครับ ประเด็นไหนที่ผมเห็นว่ามันไม่ใช่ ผมก้อแย้งไป ประเด็นไหนที่ผมเห็นว่าใช่ผมก้อไม่ได้แย้ง ผมก้อยังยอมรับเลยว่า บางครั้งซื้อตัวทำให้คู่แข่งอ่อนลงไปจริงๆ แต่บางครั้งมันไม่ใช่ ผมก้อสรุปประเด็นเป็นเรื่องจริง มีอันไหนไม่จริงเถียงมาต่อได้ มาคุยกันอย่ามาตั้งสมุติฐาน สรุปอะไรมั่วๆ แบบนี้ บอกตามตรงผมโคตรขำ สมัยบาเยิร์นซื้อตัวผู้เล่นทีมอื่นมา แต่ทีมบุนเดสช่วงนั้นเข้าชิง แชมป์เปี้ยนลีก หรือยูฟ่าคัพ แล้วเป็นแชมป์ ทำมัยไม่มีใครพูดถึงกรณีเสือใต้นะ 5555 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 49 21:48:23 จากคุณ : ::Sholl:: - [ วันฉัตรมงคล 21:31:59 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มันช่วงไหนครับที่ซื้อมาแล้วทีมในบุนเดสเข้าชิง ที่ๆผมพูดมันคือช่วงปัจจุบันไม่เอาอดีตอะนะกรุณาแจงมาให้ฟังด้วย โคตรงงเลยครับ จากคุณ : kaka-musume - [ วันฉัตรมงคล 23:45:06 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สงสัยคุณจะคงคุ้นเคยแต่คำว่า จีรัง แต่ไม่คุ้นเคยกับคำว่า สูงสุดคืนสู่สามัญ แต่คุณถนัดที่จะจับประเด็นที่คนอื่นเขามองกันซึ่งเป็นประเด็นที่กล่าวโทษ ตัดพ้อถึงสิ่งที่ทำให้เป็นปัญหา แต่ยังขาดความเข้าใจลึกๆ อีกมากครับ เอาเป็นว่าจากกระทู้ผม ได้เปรียบเทียบเอาไว้ว่า ไม่เสมอไปที่บาเยิร์นต้องซื้อนักเตะ เพื่อตัดกำลังคู่แข่ง อย่างที่หลายๆ คนยกตัวอย่างมาและ ทีมจากเยอร์มันก้อไม่ได้ย่ำแย่ เมื่อมองถึงผลงานในรอบ 10 ปี แต่ในรอบ 5 ปีถือว่าผลงานทำได้ไม่ดี ทั้งนี้ในรอบ 10 ปี และ 5 ปีของวงการฟุตบอลเยอร์มัน ถ้าพูดถึงบาเยิร์นก้อไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากมายนัก นโยบายการบริหารงานก้อเหมือนเดิม รวมถึงหลายๆทีมในเยอร์มันเพียงแต่ว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตการ เคริสต์มีเดีย เจ้าพ่อแห่งสื่อของเยอร์มันที่เป็นใหญ่ในลิขสิทธิฟุตบอลบุนเดสลีก้า ทำให้ทีมจากเยอร์มันมีปัญหาเรื่องรายได้ของสปอนเซอร์จากทีวี ทำให้หลายๆ ทีมต้องหันมารัดเข็มขัดกันมากขึ้น รวมถึงยุคฟองสบู่แตกของ ดอร์ทมุนด์ #43 มันช่วงไหนครับที่ซื้อมาแล้วทีมในบุนเดสเข้าชิง <<<< **** เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่าง ในยุคต่างๆ ให้เข้าใจง่ายๆ เลยน่ะครับ แล้วอย่ามาทำเป็น งง น่ะครับเพราะผมอธิบายในกระทู้ไปเยอะแล้วและประเด็นในกระทู้ของผมก้อกล่าวถึงในเรื่องราวทำนองนี้ อย่ามาทำเป็น งง ว่าผมยกอดีต มาทำมัยเพราะอดีต กับปัจจุบันมันก้อไม่ต่างกันมากเกมส์ฟุตบอลมันขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสคำว่าสูงสุด คืนสู่สามัญ ยังคงได้ใช้เสมอ แต่แนวทางการพัฒนาในสโมรสร ยังคงต้องดำเนินต่อไป ขอย้ำว่า ไม่ใช่คนที่จะมาจมปลักแต่อดีต แต่อดีตที่กำลังจะถูกโยงเข้ามาปัจจุบันทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน และ บิดเบือน ผมยอมไม่ได้ **** สำหรับในยุค 97- 98 - 99 - 2000 รอยต่อความสำเร็จของบาเยิร์นที่ได้แชมป์บุนเดสลีก้า และ แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ในปี 99 ปี 97/98 ซื้อ เอลแบร์ จาก สตุ๊ตการ์ท, ซื้อ ทาร์นาท จาก คารห์สรูห์ ปี 97/98 ขาย ซีเก้ ให้ มิลาน, ปล่อย ครินส์มันน์ ให้ ซามโดเรีย ปี 98/99 ซื้อ เยเรมีส จาก 1860 มิวนิค, ได้ ซาลิฮามิสซิส จาก ฮัมบูร์ก, ได้ ลิงเค่ จาก ชาลเก้, ซื้อ เอฟเฟ่นแบร์ก จาก กลัดบัค, ซื้อ ดาอี  จาก บีเลเฟลด์ ปี 98/99 ขาย ฮามันน์ ให้ ลิเวอร์พูล, ปล่อย แนร์ลิงเกอร์ ให้ ดอร์ทมุนด์, ปี 99/2000 ซื้อ แพททริก แอนเดอร์สัน จาก กลัดบัค ปี 99/2000 ขาย บาสเลอร์ ให้ ไกเซอร์, ปล่อย มัทเธอุส ให้ นิวยอร์คนิวเจอร์ซี่, ปล่อย เฮลเมอร์ ให้ ซันเดอร์แลนด์, ขาย ดาอี ให้ แฮร์ธ่า ...... จริงๆ ช่วงนี้ได้นักเตะดีๆ มาเสริมอีกหลายคนจากลีกอื่น ลิซาราซู ในปี 97/98 เปาโล แซร์จิโอ้ ในปี 99/2000, ซาญอล ในปี 2000/2001 สำหรับในยุค 95 - 96 - 97 รอยต่อความสำเร็จของดอร์ทมุนด์ที่ได้แชมป์บุนเดสลีก้า และ แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ในปี 97 ปี 95/96 ซื้อ ไฮโค่ แฮร์ริช จาก กลัดบัค, ซื้อ ยอร์ค ไฮนริช จาก ไฟร์บร์วก,   ปี 96/97 ซื้อ เรเน่ ชไนเดอร์ จาก รอสต๊อค ปี 96/97 ขาย แบร์เกอร์ ให้ ลิเวอร์พูล ...... จริงๆ ช่วงนี้ได้นักเตะดีๆ มาเสริมอีกหลายคนจากลีกอื่น เจอร์เก้น โคห์เลอร์ ในปี 95/96, พอล แลมเบิร์ท และ เปาโล ซูซ่า ในปี 96/97 สำหรับในยุค 2001 - 2002 - 2003 รอยต่อความสำเร็จของเลเวอร์ที่ได้เข้าชิงแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ในปี 2002 ปี 2000/2001 ขาย อีเมอร์สัน ให้ โรม่า, ขาย เกรสโก้ ให้ โรม่า, ปล่อย บายส์ลิช ให้ แฮร์ธ่า ปี 2001/2002 ซื้อ เซเบสเซ่น จาก โวล์ฟบร์วก, ซื้อ บาสเติร์ก จาก โบคุ่ม, ได้ บุทท์ จาก ฮัมบูร์ก ปี 2001/2002 ขาย โรเบิร์ท โควัช ให้ บาเยิร์น, ขาย ปอนเต้ ให้ โวล์ฟบร์วก, ปล่อย นอยเอนดอฟ ให้ แฮร์ธ่า, ปล่อย โดโนแวน ให้ทีมอเมริกา ปี 2002/2003 ซื้อ พร้อย จาก แฟร้งคเฟริท์, ซื้อ คาลุสนี่ ค๊อตบุท, ซื้อ บีรอฟก้า จาก 1860 มิวนิค, ซื้อ ซีมัค จากฮันโนเวอร์ ปล. ถ้ายังเป็น งงกับอดีตที่ผ่านมาของบุนเดสลีก้า และ ปัจจุบันของบุนเดสลีก้า แล้วมาหาว่าผมทำให้ งง ก้อขอเชิญ งง ต่อไปครับป่วยการที่ผมจะอธิบายเพิ่มเติมไปทำ ความเข้าใจเองล่ะกันครับ อ่านตั้งแต่ต้นจนจบของกระทู้ที่ผม post ก้อได้ครับ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 01:27:16 จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 01:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 45 #42บอกตามตรงผมโคตรขำ สมัยบาเยิร์นซื้อตัวผู้เล่นทีมอื่นมา แต่ทีมบุนเดสช่วงนั้นเข้าชิง แชมป์เปี้ยนลีก หรือยูฟ่าคัพ แล้วเป็นแชมป์ ทำมัยไม่มีใครพูดถึงกรณีเสือใต้นะ 5555 นอกเหนือจากบาเยิร์นก็มีแค่ดอร์ทมุนทีมเดียวเองที่ได้แชมนะ และประโยคที่ว่าบาเยิร์นทำให้ลีกบุนเดสลีกามันไม่พัฒนาพอมีทีมดีๆเกิดขึ้นมาก็เล่นไปซื้อตัวเก่งๆเค้ามาซะอย่างงั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลงานช่วงหลังทีมในบุนเดสในuclหรือuefa cupไม่ค่อยประสบความสำเร็จแม้แต่บาเยิร์นเองก็เถอะปีนี้ยังเจอมิลานถล่มกระจาย ผมก็ต้องการสื่อให้เห็นถึงการซื้อตัวของบาเยิร์นนะมันได้ทำลายสมดุลของทีมอื่นๆไปคุณลองไปดูลีกอื่นๆที่นอกเหนือจากบุนเดสสิเค้าพัมนากันไปถึงไหนแล้วโดยเฉพาะกัลโช่ ลาลีกา พรีเมียร์ ดูได้จากค่าสัมประสิทธ์ของยูฟ่าในรอบ10ปีเรียกได้ว่าทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่นและกรุณาระวังลีกเอิงอีกลีกเพราะคะแนนขยับเข้าใกล้มาแล้วบุนเดสนะมันล้าหลังก็เพระบาเยิรนนะล่ะ จากคุณ : kaka-musume - [ 6 พ.ค. 49 01:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 #45 ใครเขานับค่าสัมปะสิทธิ แล้วคิดเรต แบ่งเกรดให้ในรอบ 10 ปีครับ 555 เอามาจากสำนักไหนครับ เขามีแบ่งเป็น 5 ปี และ 3 ปี ถ้าจะคุยเรื่อง ทำลายสมดุลนักเตะ ก้อขี่เกียจอธิบายล่ะ พอผมยกดอร์ทมุนด์มา ก้อบอกมีแค่ดอร์ทมุนด์ทีมเดียว ถ้าเกิด เลเวอร์ ตอนนั้นได้แชมป์ ผมยกมาอีก ก้อคงจะเพิ่มเลเวอร์เข้าไปอีกมั้ง 555 อย่าเอาเรื่อง มิลานถล่มกระจาย มาทับถมผม เฉยๆ อ่ะครับ ยอดทีมโดนถล่ม ผมเห็นบ่อยไป บาเยิร์น บอกว่า โดนมิลาน ถล่ม จะสื่อให้เห็นว่า บุนเดสลีก้า อ่อน และ อ่อนเพราะบาเยิร์นทำให้อ่อน 555 วันหลังผมจะจำไว้ว่าเวลาทีมชั้นนำจากลีกไหนโดนถล่ม ผมจะได้เข้าใจว่า ลีกนั้นอ่อน เพราะมีทีมทำให้อ่อน 555 จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 02:08:23 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จะบอกให้ ลีกเอิง แซงไปนิดนึงแล้วครับเพ่ ผมเคยบ่นๆ ไปถ้าทีมบุนเดสทำผลงานได้ไม่ดี ระวังลีกเอิงแซง และก้อเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่ผมก้อไม่ได้ซีเรียสอะไร ผมถึงได้บอกงัยฟุตบอลมีขึ้นก้อต้องมีลง เป็นของธรรมดา ลีกอังกฤษ ตามบุนเดส ก้อยุคมีบาเยิร์น ลีกบุนเดส ตามอังกฤษ ก้อยุคมีบาเยิร์น ลีกสเปน ตามบุนเดส ก้อยุคมีบาเยิร์น ลีกบุนเดส ตามสเปน ก้อยุคมีบาเยิร์น ลีกฝรั่งเศส ตามบุนเดส ก้อยุคมีบาเยิร์น ลีกบุนเดส ตามฝรั่งเศส ก้อยุคมีบาเยิร์น มีอะไรบ้างที่จีรัง ?? จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 02:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เพิ่มเติมยูฟ่าคัพเข้าไปอีกนิดนึงล่ะกัน - 97 ชาลเก้ ได้แชมป์ (ปีนั้น ดอร์ทมุนด์ได้แชมป์เปี้ยนลีก) - 2002 ดอร์ทมุนด์ เข้าชิง ยูฟ่าคัพ - 2006 ชาลเก้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ พ่ายไปช่วงต่อเวลาพิเศษ ใครได้ดูสองแมตช์นี้ บ่นเป็นเสียงเดียวกัน ชาลเก้ เหนือกว่าเห็นๆ แต่ก้อนะ เกมส์ฟุตบอล วัดกันที่ผลประตู จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 02:20:36 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ปล.ผม เชฟกระทู้ไว้นะ และเก็บเข้าคลังกระทู้เก่าด้วย เพราะฉนั้นไม่ต้องกลัวกระทู้ตกแล้วจะหายไปไหน กันลืมอ่ะ ว่าใครพิมพ์อะไรไว้ตอนไหน แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 49 02:29:53 จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 02:24:28 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าเลเวอร์ป็นแชมปี2002จริงมันก็ไม่เกี่ยวกับการซื้อค่าตัวของบาเยิร์นนิเพราะบาเยิร์นมันซื้อบัลลัคกับเซ โรเบโต้หลังจากนั้นแล้วดูพอมันซื้อไปจากที่มที่แข็งแกร่งกลายป็นอ่อนขึ้นมาทันทีและนอกจากตัวผู้เล่นก็มีโค้ชอีกเช่นเฟลิก มากัธไปดึงมาจากสตุดการ์ดที่มก็อ่อนลงไปหรือแม้แต่อ็อตมาร์ ฮิตเฟลด์เองก็ใช่เล่นไปดึงมาจากดอร์ดมุนหลัง จากนั้นก็ไม่เคยเห็นดอร์ดมุนเฉียดเข้าใกล้แชมuclอีกเลย บุนเดสลีก้า อ่อน และ อ่อนเพราะบาเยิร์นทำให้อ่อน 555 วันหลังผมจะจำไว้ว่าเวลาทีมชั้นนำจากลีกไหนโดนถล่ม ผมจะได้เข้าใจว่า ลีกนั้นอ่อน เพราะมีทีมทำให้อ่อน 555 ที่ผมพูดนะหมายถึงทีมอื่นๆที่บาเยิร์นมันไปซื้อผูเล่นเค้ามาก็อย่างที่ยกตังอย่างไปนั้นแหละไม่เช่นนั้นปานนี้ยอดที่มของเยอรมันอาจจะไม่ใช่บาเยิร์นแต่อาจจะเป็นเลเวอร์หรือ สตุดการ์ดก็ได้คุณต้องมองภาพรวมๆไม่ใช่หลับหูหลับตาเชียร์อะไรๆก็ถูกตลอด#21แหม แต่ตอบแบบมาเฟีบางท่านนะครับกลัวจริงๆเลยไม่กล้าพูดถึงมาเฟีย เอ๊ย บาเยิร์นแล้วละ จากคุณ : kaka-musume - [ 6 พ.ค. 49 02:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 51 #50 ผมบอกไปตอนไหนว่า เลเวอร์เป็นแชมป์เกี่ยวกับการซื้อตัวของบาเยิร์น 555 งง อะไรหรือป่าวครับ ผมบอกไปตอนไหน อ่านและทำความเข้าใจใหม่ครับ การซื้อตัวนักเตะเก่งๆ ในบุนเดสลีก้ามีมาตลอด อยู่ที่กำลังทรัพย์ และสายตาของแมวมอง ว่าใครทำได้ดีกว่ากัน คว้านักเตะได้ดีกว่ากัน ซึ่งผมได้บอกว่ายอมรับไปตั้งกระการ post บนๆ โน้นแล้วว่า การซื้อ เซโรแบร์โต้ และ บัลลัค ทำให้ เลเวอร์อ่อนลงจริงๆ แต่โปรดอ่านทำความเข้าใจกับการอธิบายของผมด้วย ว่าเพราะอะไรเลเวอร์ถึงต้องขาย ?? ไปย้อนอ่านเอาเองครับ ตกลงคุณเริ่มจะทำให้ผมมึนแล้วน่ะครับ 555 ส่วนกรณีของ มากัธ ดึงมาเพราะว่าเก่ง ถ้าจะดึงทีมคู่แข่งโดยตรงที่คงเส้นคงวาหน่อย ไปถึง ชาฟ ไม่ดีกว่าเหรอครับ 555 มากัธ ทางบาเยิร์น เคยมองไว้นานแล้วครับ ส่วนกรณีของ ฮิลด์เฟลด์ เขาเป็นคนต้องการมาอยู่บาเยิร์นเองด้วยครับเพราะเขาอิ่มในความสำเร็จกับดอร์ทมุนด์แล้ว ได้ทั้งแชมป์เปี้ยนลีก ได้ทั้งบุนเดสลีก้า ประกอบกับบาเยิร์นทุ่มติดต่อไป แล้วเขาก้อสนใจด้วยเหล่ะครับ เขาถึงมาอยู่ แต่แปลกจังนะ ดอร์ทมุนด์เสียฮิลดเฟลด์ไป แต่ได้ซามเมอร์ มาคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าแทน บังเอิญจริงๆ 555 บาเยิร์น ที่เขามีศักยภาพสูงเพราะว่าเขาเป็นเมืองศูนย์กลางของแดนใต้เยอร์มันครับ และเป็นเมืองใหญ่สุด ศักยภาพการจัดการต่างๆ เพรียบพร้อมรวมไปถึงเรื่องฟุตบอล แต่จะว่าไป กลัดบัค ยุคนึงก้อเคยเป็นยอดทีม ดอร์ทมุนด์ช่วงสั้นๆ ก้อเคยเป็นยอดทีม รวมไปถึงเนิร์นแบร์กเมื่อนานมาแล้ว ทุกทีมเคยเป็นยอดทีมมาหมดเหล่ะครับ จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 03:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ส่วน #21 แหม! ปล่อยเขาไปเถอะครับ เอ่ะ หรือว่าคนเดียวกัน 555 จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 03:04:21 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ผมก็ขอให้คุณพอใจกับกับยอดทีมบาเยิร์นของคุณไปล่ะกันดีใจด้วยก็บาเยิร์นแกเล่นดึงตัวเก่งๆ จากทีมร่วมลีกมานะ เป็นการตัดกำลังคู่แข่งไปในตัวด้วย ไม่ได้แชมป์ บ่อยก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วนะมันเหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็กไปล่ะ ความรู้บุนเดสของคุณทำให้ผมได้ตาสว่างสงสัยจะเก่งกว่าคุณอานิกร ชำนาญกุลซะอีก อิ อิ จากคุณ : kaka-musume - [ 6 พ.ค. 49 03:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาตอบเล่นแก้เซ็งเป็นเพื่อนผมอิ อิ จากคุณ : kaka-musume - [ 6 พ.ค. 49 03:43:57 ]

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ ::Sholl:: ผมว่ายังไงก็ต้องยอมรับบ้างนะครับว่า -เสียบัลลัค เซโรแบร์โต้ ลูซิโอ ให้บาร์เยิน จากนั้นห้างขายยาไม่เคยทำผลงานได้ดีอีกเลย -เช่นเดียวกับม้าขาว ที่เสียเทรนเนอร์ให้บาร์เยิน หลังจากที่เป๋ไปหลายปีตอนเสีย เอลแบร์ -หลังเสีย เจอร์เก้น โคห์เลอร์ โคโลญ ก็ไม่ได้ลุ้นแชมป์อีกเลย ตอนนี้มีสองทีมที่พอจะแข่งกับบาร์เยิน มิวนิค คือ สิงห์เหนือ ฮัมบูร์ก และ ชาลเก้ ก็ดันมีข่าว ฟานบุยเต็งกับลินคอห์น(ก่อนที่จะเจ็บก็มีข่าวฟาร์นเดอร์ฟาร์ทในฐานะตัวแทนบัลลัค) พูดตรงๆต้องชม การบริหารของเสือใต้ ที่แตกต่างจากทีมอื่นๆในเยอรมันด้วยครับ จากคุณ : Mica - [ 6 พ.ค. 49 21:39:52 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สองท่านข้างบน จะมาเค้นให้ผมยอมรับอะไร บ้าป่าวเนี่ย ผมตั้งประเด็นกระทู้ขึ้นมาเพื่อชี้แจงความจริงที่ถูกเข้าใจบิดเบือนบางเรื่อง ซึ่งบางเรื่องที่เห็นตรงกันเป็นความจริงผมก้อไม่ได้แย้งหรือไม่ยอมรับอะไร ผมก้อเห็นพวกท่านยกมาแต่เรื่องเดิมๆ เหล่ะครับ คุยกันไปเป็นร้อยความเห็น ก้อไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกครับ ส่วนเสียเทรนเนอร์ เสียนักเตะ วันหลังออกกฎเลยน่ะครับ ห้ามบาเยิร์นซื้อนักเตะในบุนเดสลีก้า เดี๋ยวเอามาแล้วประสบความสำเร็จจะโดนโจมตี แต่ถ้าเอามาแล้วไม่ประสบความสำเร็จก้อรอดปากเหยี่ยว ปากกาไป ข่าวลือ ก้อคือข่าวลือ ส่วนประเด็นลึกๆ ในเรื่องของนักเตะ และสโมสรนั้นๆ ผมให้ความเห็นไปแล้วว่าทางไหนที่จะเป็นปัจจัยทำให้ย้าย ทางไหนที่เป็นปัจจัยไม่ให้ย้าย วิเคาระห์ต่อกันเอาเองล่ะกันครับ เดี๋ยวมาวกกลับเรื่องเดิมๆ อีกน่าเบื่อ ส่วนคุณ mica จะชมบาเยิร์น ก้อชมไปเถอะเขาบริหารได้ดี มีทีมไหนบ้างที่ไม่อยากจะประสบความสำเร็จในด้านการบริหารจัดการแบบบาเยิร์นบ้าง ซึ่งมันก้อต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ เพราะในแต่ละช่วงก้อมียุควิกฤต เข้ามา และก้อมีปัจจัยทำให้รุ่งโรจน์เข้ามาด้วยเช่นกัน สำหรับทีมคู่แข่งของบาเยิร์น มองแค่ ฮัมบูร์ก กับ ชาลเก้ เองหรือครับ แล้วทิ้งเบรเมน, สตุ๊ตการ์ท, ดอร์ทมุนด์ (ผมว่าน่าจะค่อยๆ ฟื้น) เอาไปไว้ไหนล่ะครับ ปล.จะให้บอกให้ผมภูมิใจต่อไป กับการเชียร์เสือใต้ เมื่อประสบความสำเร็จจะไม่ให้ภูมิใจได้งัยครับ แปลกคน แต่ผมก้อเคยบอกไปว่า ผมก้อเชียร์หลายๆ ทีมให้แข่งขันกันสนุกๆ ลุ้นแชมป์กันนัดท้ายๆ บ่อยๆ แค่นี้ก้อมันส์แล้วครับ จากคุณ : ::Sholl:: - [ 6 พ.ค. 49 23:19:44 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เรายอมรับเลยว่าเราเกลียดนายว่ะ คนไรอวดเก่งฉิบหายอ้างโน่นอ้างนี้เหมือนคุณเก่งอยู่คนเดียวต่อไปนี้เราจะไม่เข้าทุกๆกระทู้ที่มีคุณอยู่พอเข้าไปเดี๋ยวเกิดอาการหมั่นไส้ ปล.เจอกระทู้ของผมก็ไม่ต้องเข้าไปตอบล่ะกรูละเซ็งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : kaka-musume - [ 10 พ.ค. 49 22:48:43 ]