ความคิดเห็นที่ 1 สภาพทีมก่อนเกม มิลาน – โรม่า เจ้าบ้าน มิลาน ต้องขาดผู้เล่นตัวสำคัญไปหลายคน เมื่อไม่มีทั้ง เชฟเชนโก้, มัลดินี่, สตัม และ อัมโบรซินี่ ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ คาฟู ก็ยังไม่พร้อมที่จะเป็นตัวจริง ยังดีตรงที่กองกลางที่เป็นตัวจริงทั้ง 4 คนอยู่กันพร้อมหน้า ทำให้ระบบสมดุลของทีมโดยตรงไม่เสียศูนย์ไปมากนัก เกมนี้ อันเชล็อตติ วางระบบ 4-3-1-2 โดยมี ดิด้า เป็นนายทวาร แผงหลัง 4 คนประกอบไปด้วยคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เนสต้า กับ คาลัดเซ่ แบ็กขวาใช้ ซิมิช ส่วนแบ็กซ้ายให้ แซร์จินโญ่ ลงเล่น ขยับมาที่แดนกลางมี 3 ประสาน เซดอร์ฟ – ปิร์โล่ – กัตตูโซ่ คอยเก็บบอลโดยมี กาก้า เป็นเพลย์เมคเกอร์ ยืนอยู่หลังคู่หัวหอกทีมชาติอิตาลี จิลาร์ดิโน่ และ ปิ๊ปโป้ อินซากี้ ทีมเยือน โรม่า ต้องขาด 2 เซนเตอร์ตัวสำคัญอย่าง คิวู และ คูฟฟูร์ ที่เจ็บจากเกม โคปปา อิตาเลีย เมื่อกลางสัปดาห์มาทั้งคู่ ขณะที่คนอื่นๆอย่าง อากวิลานี่ และ มอนเตลล่า ก็ยังเจ็บเช่นกัน หมดสิทธิ์ลงสนาม ส่วน ต๊อตติ ที่สภาพร่างกายไม่ฟิตเต็มร้อย ยังต้องนั่งเป็นตัวสำรองข้างสนามต่อไป โดยกลับมาเลือกใช้ ตาดเด เป็นศูนย์หน้าตัวเป้าอีกครั้งในนาทีสุดท้าย ทำให้ นงด้า ศูนย์หน้าอีกคนที่หายเจ็บแล้ว ได้เป็นแค่ตัวสำรองเช่นกัน เกมนี้ สปัลเล็ตติ วางระบบ 4-2-3-1 โดยมี โดนี่ ยืนเฝ้าเสา แนวรับ 4 คนมี เม็กแซส กับ โบโว่ เป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ แบ็กขวา ปานุชชี่ และแบ็กซ้าย คูเฟร ขยับมาที่มิดฟิลด์ตัวรับมี เด รอสซี่ ยืนตัดเกมร่วมกับ ดากูร์ โดยมี มานซินี่ และ ตอมมาซี่ ยืนทำเกมริมเส้นซ้าย-ขวา ตามลำดับ ส่วน แปร์ร็อตต้า ยืนตรงกลางคอยทำเกมสนับสนุนศูนย์หน้าจำเป็น ตาดเด จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แผงผังการเล่นของทั้งสองทีม มิลาน (4-3-1-2) ...................จิลาร์ดิโน่..............อินซากี้................... ...................................กาก้า................................ ............เซดอร์ฟ............ปิร์โล่...........กัตตูโซ่........... แซร์จินโญ่.........คาลัดเซ่...........เนสต้า...............ซิมิช ....................................ดิด้า................................. โรม่า (4-2-3-1) .................................ตาดเด................................. มานซินี่...................แปร์ร็อตต้า...................ตอมมาซี่ ................ดากูร์.......................เด รอสซี่................ คูเฟร.............โบโว่..................เม็กแซส.........ปานุชชี่ ..................................โดนี่................................... จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:38:05 ]

ความคิดเห็นที่ 3 มิลาโน่, ลอมบาร์เดีย ที่สนามซาน ซิโร่ (หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า) ในเมืองมิลาโน่ เป็นเกมสำคัญบิ๊กแมตช์ของสัปดาห์สุดท้าย มีแฟนบอลเข้ามาในสนามทั้งสิ้น 66,305 คน อุณหภูมิก่อนแข่ง 22 องศาเซลเซียส ทีมเจ้าถิ่น มิลาน ลงสนามในชุดเสื้อแดงดำ กางเกงขาว ถุงเท้าดำ ขณะที่ โรม่า ทีมเยือนมาในชุดเสื้อสีส้ม กางเกงดำ ถุงเท้าส้ม สำหรับผู้ตัดสินเกมนี้ ได้แก่ อันเดรีย เด มาร์โก จากเมือง คิอาวารี่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ตัดสินหน้าใหม่ของวงการ โดยผู้ตัดสินชื่อดังทั้งหมด ถูกห้ามลงตัดสินในสัปดาห์สุดท้ายหลังจากเกิดข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตในวงการฟุตบอล เกมนัดนี้มีบุคคลสำคัญของวงการฟุตบอลอิตาลีเข้ามาชมเกมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี, โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติ, ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ อดีตนายกรัฐมนตรี และเจ้าของทีมมิลาน รวมทั้ง อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ ประธานเลก้า กัลโช่ และบอร์ดบริหาร มิลาน เป็นต้น สำหรับบรรยากาศในสนามนั้นมีสีสันสุดยอดมากทีเดียว แม้ว่าแนวโน้มที่หลังจบเกม ทั้ง มิลาน และ โรม่า มีสิทธิ์สูงที่จะกอดคอกันเศร้าก็ตาม   ครึ่งแรก หมาป่าเสียจุดโทษแมวข่วนตั้งแต่ 6 นาทีแรก “กาก้า” ซัดให้ มิลาน ขึ้นนำ 1-0 ก่อน เม็กแซส โขกตามตีเสมอ 1-1 เกมที่สนาม ซาน ซิโร่ เปิดฉากขึ้น มิลาน เป็นฝ่ายเดินเกมรุกใส่ โรม่า ก่อนทันที และแค่เพียง 42 วินาทีแรกของเกม เจ้าถิ่นก็ได้โอกาสยิงประตูก่อนเลยจาก อินซากี้ แต่บอลยังเบาเกินไป เข้ามือ โดนี่ รับไว้ได้ หลังจากนั้น มิลาน พยายามเร่งเกมบุก แต่ยังเจาะไม่เข้า เนื่องจากแนวรับหมาป่ายังคงยืนกันแน่น จึงได้แต่ต่อบอลไปมาอยู่ก่อน จนกระทั่งมาถึงนาทีที่ 5 มิลาน ก็มาได้ลูกจุดโทษแบบที่ต้องบอกว่าก้ำกึ่งเล็กน้อย จากจังหวะที่ คูเฟร วิ่งเบียดกับ จิลาร์ดิโน่ ล้มลง ซึ่งจากภาพช้า คูเฟร ไปดึงเสื้อ จิลาร์ดิโน่ แล้วปล่อย ซึ่ง จิลาร์ ตัดสินใจทิ้งตัวล้มลงทันที และผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกจุดโทษ ถือว่าเป็นการตัดสินที่โหดไม่น้อย เพราะจังหวะนั้นบอลไม่ได้อยู่ในทิศทางที่ จิลาร์ดิโน่ จะเล่นได้ด้วย และสุดท้ายเป็น กาก้า ที่ซัดจุดโทษเข้าไปตุงตาข่าย โดยยิงไปทางมุมซ้ายของตัวเอง โดนี่ พุ่งไปถูกทางก็จริง แต่ไปไม่ทัน มิลาน ขึ้นนำ โรม่า ไปก่อน 1-0 หลังจากเสียประตู โรม่า พยายามเร่งเครื่องบุก เพื่อหวังตีเสมอ เพราะต้องการชัยชนะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากยังหวังจะไปแชมเปี้ยนส์ ลีก นาทีที่ 7 ปานุชชี่ ลองยิงไกลด้วยซ้ายจากริมเส้นฝั่งขวา บอลพุ่งเรียดก่อนจะหลุดกรอบออกหลังไป จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา ทีมเยือนมาได้ลูกเตะมุม มานซินี่ เขี่ยบอลสั้นๆให้ คูเฟร เปิดบอลกลับเข้าไปหน้าประตู แต่ถูก ปิร์โล่ โหม่งสกัดบอลออกมาได้ โรม่า เริ่มจะทำเกมบุกได้มากกว่า มิลาน อย่างเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 11 เม็กแซส เติมเกมรุกขึ้นมาสวย โดยทำชิ่งกับ ตาดเด ก่อนจะรับบอลกลับมาแล้วลองยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลยังไปตรงตัว ดิด้า รับเอาไว้ได้ จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา โรม่า น่าจะได้ลูกจุดโทษคืนบ้าง จากจังหวะที่ทีมได้ลูกฟรีคิก ตาดเด เปิดบอลเข้ามาจะให้ เด รอสซี่ แต่ไปถูก เนสต้า วิ่งเบียดก่อนจะดึงเสื้อจนล้มลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผู้ตัดสินกลับไม่ว่าอะไร ปล่อยให้เล่นต่อ ทำเอาผู้เล่น โรม่า ถึงกับเซ็งไปตามๆกัน เกมผ่าน 15 นาทีแรกไป ทีมหมาป่ายังครองเกมบุกได้มากกว่า นาทีที่ 17 โรม่า ได้ฟรีคิกระยะไกล โบโว่ ลองยิงเข้ามา บอลไม่แรงมาก ก่อนจะกระดอนพื้นเข้ามือ ดิด้า ที่ดักจังหวะรับไว้ได้สบาย ถัดมาไม่กี่อึดใจ มิลาน โต้สวนกลับขึ้นมาได้อย่างอันตรายโดย กาก้า ควบบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจะโยนบอลข้ามฟากมาให้ จิลาร์ดิโน่ วอลเลย์ทันทีด้วยซ้าย แต่ยิงไม่ถนัดมากนัก บอลเหินข้ามคานออกไปไกล โดยรวมทีมหมาป่ายังเป็นฝ่ายกดดัน มิลาน ได้อย่างต่อเนื่อง ถึงนาทีที่ 19 โรม่า ก็เกือบจะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ปานุชชี่ โยนบอลจากฝั่งขวาให้ มานซินี่ โหม่งเช็ดต่ออีก 1 จังหวะอย่างรวดเร็วให้ ตาดเด ได้โขกเล่นทาง แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว โดยที่ผู้เล่น มิลาน ได้แต่ยืนขาตายกันหมดแล้ว รูปเกมตอนนี้ มิลาน เริ่มจะกลับมาครองบอลได้มากขึ้น แต่ก็ยังเจาะแนวรับทีมหมาป่าไม่เข้า ถึงนาทีที่ 23 มิลาน บุกขึ้นมาทางซ้าย แซร์จินโญ่ เปิดบอลจะให้ อินซากี้ เข้าฮอส แต่ ปิ๊ปโป้ นั้นยืนล้ำหน้าไปก่อนแล้ว จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา มิลาน มาได้ลูกเตะมุม แซร์จินโญ่ เขี่ยบอลสั้นๆให้ ปิร์โล่ เล่น แต่ทำช้า ถูก เด รอสซี่ วิ่งเข้ามาบล็อกได้เร็ว ก่อนจะสกัดบอลออกมาได้ ถึงตอนนี้ สปัลเล็ตติ สั่งให้ ต๊อตติ ออกไปวิ่งวอร์มที่ข้างสนามแล้ว หลังจากรู้ข่าวร้ายที่สนาม เบนเตโกดี้ เพราะ ฟิออฯ ขึ้นนำ คิเอโว่ ไปแล้ว 1-0 ถ้าจบสกอร์นี้ โรม่า อดไปแชมเปี้ยนส์ ลีก แน่นอน เกมในสนามยังคงเต็มไปด้วยความสนุก นาทีที่ 28 โรม่า บุกขึ้นมาอีก คูเฟร โยนยาวให้ มานซินี่ หลุดเข้าไปถึงในเขตโทษไม่ล้ำหน้า แต่บอลแรงไกลตัวออกไป และเหมือนว่า มานซินี่ จะรู้ว่าไปไม่ทันแน่ๆ เลยไม่วิ่งเข้าไปกดดัน ดิด้า ต่อ ทำให้นายทวาร มิลาน รอรับบอลเข้ามือได้อย่างสบายๆ ถัดมาไม่กี่อึดใจ มิลาน สวนกลับเร็วและเกือบจะได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ กาก้า โชว์ลีลากระดกบอลข้ามแผงหลัง โรม่า ให้ อินซากี้ หลุดโล่งๆก่อนซัดบอลผ่าน โดนี่ เข้าประตู แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าก่อนไปนานแล้ว เกมรุกเร็วของ มิลาน จาก กาก้า น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาแนวรับหมาป่าปั่นป่วนไม่น้อย นาทีที่ 30 กาก้า พาบอลกระชากลุยขึ้นมาก่อนจ่ายออกทางขวาให้ อินซากี้ ตบเข้ากลางอีกครั้ง บอลไปติดหัวของ เม็กแซส ทิ้งตัวโขกสกัดออกมา แต่บอลยังกระดอนมาเข้าทาง อินซากี้ วิ่งไปรับบอลได้อีกครั้ง ก่อนจะยิงซ้ำด้วยซ้าย แต่ก็ยังไปติดบล็อก ปานุชชี่ ทิ้งตัวสกัดบอลได้อย่างหวุดหวิดทีเดียว นาทีต่อมา โรม่า พยายามตอบโต้จากลูกโยนยาวของ คูเฟร เข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ตาดเด โหม่งตั้งจะให้เพื่อนเล่นต่อ แต่ไม่มีใครเข้ามาถึงทัน ก่อนที่ ดิด้า จะคว้าบอลไว้ได้ โรม่า กำลังจะเปลี่ยนตัวส่ง ต๊อตติ ลงสนาม แต่ยังไม่ทันจะได้เปลี่ยน ทีมหมาป่าก็มาได้ประตูตีเสมอสำเร็จในนาทีที่ 34 จากจังหวะที่ โบโว่ โยนลูกฟรีคิกจากกลางสนามมาที้เสาไกลด้านขวาให้ เม็กแซส วิ่งเบียดตีคู่กับ จิลาร์ดิโน่ ก่อนที่กองหลังผมสวยจะใช้ความแกร่งเบียดเข้ามาโขกบอลระยะเผาขนผ่านตัว ดิด้า เข้าประตูไป ทำให้ โรม่า ตีเสมอ มิลาน ได้แล้วเป็น 1-1 ซึ่งจังหวะนี้ต้องบอกว่า จิลาร์ พยายามดึงแล้วก็เอาไม่อยู่ ส่วน ดิด้า ก็ปัดโดนบอลแล้ว แต่ลูกก็อยู่ในระยะเผาขนเกินไป ยากที่จะป้องกันด้วย ถึงนาทีที่ 36 สปัลเล็ตติ ส่ง ต๊อตติ ลงสนามมาแทน ดากูร์ เพื่อหวังเดินเกมรุกแลกกับ มิลาน อย่างใจกล้าสุดๆ ทั้งที่เป็นทีมเยือน โดยยังยึดที่ระบบเดิม 4-2-3-1 ให้ ต๊อตติ เป็นศูนย์หน้า พร้อมกับขยับ ตาดเด ลงมายืนเป็นปีกขวา ส่วน ตอมมาซี่ หุบเข้าไปยืนกลางตัวรับคู่กับ เด รอสซี่ ขณะที่รูปเกมหลังจากที่ มิลาน เสียประตู ก็เร่งเครื่องโหมเกมรุกอย่างหนักทันที แซร์จินโญ่ ได้โอกาสเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาที่หน้าประตู แต่ถูกแนวรับทีมหมาป่าสกัดออกมาได้ มิลาน ยังคงบุกได้มากกว่า นาทีที่ 39 อินซากี้ ได้บอลใกล้ๆกับมุมธงโดยมี โบโว่ ตามคุมเชิงอยู่ ก่อนที่ ตอมมาซี่ จะวิ่งเข้ามาช่วยรุมอัด กลายเป็นลูกฟาวล์บริเวณใกล้มุมธง ปิร์โล่ เปิดบอลเข้ามาหน้าประตูแต่ผู้ตัดสินเป่าให้ โรม่า ได้ฟาวล์ เนื่องจากมองว่า จิลาร์ดิโน่ ไปผลัก เม็กแซส ก่อนแล้ว จากนั้น 2 นาทีต่อมา โรม่า เสียลูกเตะมุมจากการไม่เข้าใจกันเองของ โบโว่ และ โดนี่ จากลูกเตะมุม กาก้า เปิดบอลเข้ามาให้ กัตตูโซ่ ได้ยิงหน้าเขตโทษ บอลยังโด่งเหินข้ามคาน เกมอยู่ในช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 43 ตาดเด โดน แซร์จินโญ่ ทำฟาวล์ เป็นลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา ตาดเด พยายามจะเล่นเร็ว โยนบอลเข้ามาก็ถูก เซดอร์ฟ โหม่งสกัดบอลออกมาได้ จากนั้นนาทีต่อมา มิลาน บุกกลับมาอีกครั้ง ปิร์โล่ โยนบอลยาวมาทางซ้ายให้ กาก้า ก่อนที่ดาวเตะแซมบ้าจะพยายามโยกหลอก เม็กแซส แต่ยิงไม่ผ่านบล็อกของยอดกองหลังฝรั่งเศส ได้เพียงลูกเตะมุม แต่ก็ทำพลาดกันไปเอง กาก้า เขี่ยบอลสั้นๆให้ กัตตูโซ่ ก่อนจะเบิ้ลกลับขึ้นหน้าโดยไม่ได้เช็คไลน์ กลายเป็นลูกล้ำหน้าของ กาก้า ไป ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ มิลาน ยังบุกได้ดี นาทีที่ 46 จิลาร์ดิโน่ เปิดบอลจากด้านซ้ายให้ อินซากี้ ปาดยิง แต่ยิงไม่ถนัดนักเพราะถูกประกบอยู่ โดนบอลไม่เต็มเท้า ก่อนที่บอลจะไหลเรียดหลุดกรอบออกหลังไป จากนั้นนาทีต่อมา กาก้า เดินเกมรุกมาเองอีกครั้ง ก่อนจะเปิดบอลจากด้านซ้ายระยะอันตรายเข้ามาหน้าประตู แต่ไปติดตัว เด รอสซี่ บล็อกเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้ตัดสินทดเวลามาครบ 2 นาที ก็เป่านกหวีดหมดครึ่งแรก มิลาน กับ โรม่า เสมอกันอยู่ 1-1 จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ครึ่งหลัง มิลาน โหมบุกแหลก แต่หมาป่ายันไว้ได้หมด สุดท้าย โบโว่ ทำเสียจุดโทษโฉ่งฉ่าง อโมโรโซ่ ซัดชัยให้ มิลาน ชนะ 2-1 ช่วงพักครึ่ง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด ลงสนามกลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ยังเป็นฝ่าย มิลาน ที่เดินเกมบุกได้มากกว่า นาทีที่ 47 กาก้า พาบอลลากลุยขึ้นมาน่ากลัว ก่อนจะลองซัดเองด้วยขวา แต่บอลยังไปติดตัว โบโว่ ออกหลัง จากลูกเตะมุมเปิดเข้ามาก็ติด ตอมมาซี่ สกัดบอลออกมาได้ อีก 3 นาทีต่อมา โรม่า บุกขึ้นมาบ้าง คูเฟร บุกขึ้นมาก่อนจะเปิดบอลไปติด คาลัดเซ่ ออกหลัง เป็นลูกเตะมุม มานซินี่ เปิดเข้ามาหน้าประตู เซดอร์ฟ สกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทาง แปร์ร็อตต้า วิ่งเข้ามาซ้ำจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงทแยงมุมหลุดกรอบเสาสองไปนิดเดียว รูปเกมทั้งคู่ดูสูสีกันมาก ต่างฝ่ายพยายามเปิดเกมแลกกัน แต่ยังไม่มีฝ่ายใดได้ประตูเพิ่ม นาทีที่ 53 กาก้า พยายามพาบอลแหวกเข้าในเขตโทษเอง และก็ทำได้น่ากลัว ทะลุเข้าไปกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายถูก เด รอสซี่ วิ่งเข้ามาเบียดก่อนจะบังบอลให้ โดนี่ ออกมาคว้าบอลเอาไว้ได้ จากนั้นนาทีเดียว มานซินี่ ไปสกัดบอลจากเท้า เนสต้า เป็นลูกฟาวล์ ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองทันที ทำเอา มานซินี่ ลุกขึ้นมาทำท่าไม่พอใจเกือบจะปะทะผู้ตัดสินซึ่งๆหน้า ถือว่าโชคดีสุดๆที่ผู้ตัดสินยังใจดี มานซินี่ เลยรอดตัวไม่โดนไล่ออกหวุดหวิด ถึงนาทีที่ 55 อินซากี้ ยังคงพลิ้วได้สวย มีโอกาสหมุนตัวสับไกยิงประตู แต่บอลยังหลุดกรอบออกไป จากนั้นนาทีต่อมา โรม่า บุกกลับขึ้นมาบ้าง เด รอสซี่ ลองยิงไกลบอลไปแฉลบ คาลัดเซ่ ออกหลังเป็นลูกเตะมุม ต๊อตติ เปิดบอลเข้ามาและเป็น ปิร์โล่ โขกสกัดบอลออกมาได้ ต่อมาในนาทีที่ 57 อินซากี้ ไปถูก เม็กแซส ทำฟาวล์ เป็นลูกฟรีคิกริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ระยะอันตราย ปิร์โล่ เปิดบอลเข้าไปก็ถูก แปร์ร็อตต้า โหม่งสกัดบอลออกมาได้ จังหวะต่อมา เซดอร์ฟ โยนบอลเข้าไปให้ จิลาร์ดิโน่ ได้โหม่ง แต่บอลยังเหินข้ามคานไปอีกครั้ง โรม่า ถูก มิลาน บุกอยู่นาน มีจังหวะโต้สวนกลับได้บ้างในนาทีที่ 61 จาก ต๊อตติ ที่เปิดบอลยาวจากกลางสนามให้ แปร์ร็อตต้า วิ่งควบไปเอาบอลเกือบสุดเส้น โดยที่ คาลัดเซ่ น่าจะสกัดบอลได้ก่อน แต่ทำพลาดเสียเตะมุม ต๊อตติ เปิดบอลเข้ามาจะให้ มานซินี่ แต่จับบอลเล่นต่อไม่อยู่ บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาทีต่อมา มิลาน บุกขึ้นมาอีกครั้งและ จิลาร์ดิโน่ เกือบจะได้หลุดเดี่ยว แต่ เม็กแซส ยังยอดเยี่ยม ใช้ความแกร่งวิ่งเบียดชิงจังหวะบอลก่อนบังให้ โดนี่ รับเอาไว้ได้ นาทีที่ 63 มิลาน บุกขึ้นมา และเกือบจะได้ประตูที่สองอีกครั้ง จากจังหวะทำทางของ กาก้า ที่จ่ายบอลให้ จิลาร์ดิโน่ หลุดขึ้นไปโล่งๆ แต่ก็ล้ำหน้าไปก่อนอีกครั้ง แม้ จิลาร์ จะรับจ่ายบอลต่อเร็วให้ อินซากี้ ที่ไม่ได้ยืนในตำแหน่งล้ำหน้า แปบอลเข้าไปตุงตาข่ายก็ไม่ได้ประตูอยู่ดี จากนั้นนาทีต่อมา มิลาน มาใหม่ คราวนี้เป็น แซร์จินโญ่ กระชากบอลขึ้นมาทางซ้าย ก่อนจะตัดสินใจลองซัดเองที่เสาแรก แต่ โดนี่ ยังไว พุ่งมาปัดออกไปได้หวุดหวิด มิลาน ยังคงเดินหน้าบุกไปเรื่อยๆ นาทีที่ 65 อินซากี้ มีโอกาสพลิกตัวยิงอีกครั้ง บอลยังไปติดบล็อกของ เม็กแซส สกัดไว้ได้ จังหวะต่อมา มิลาน เดินหน้ามาอีก กาก้า จ่ายบอลให้ เซดอร์ฟ ก่อนจะเปิดบอลกลับเข้ามาหน้าประตู แปร์ร็อตต้า พยายามสกัดบอลทิ้งแต่ไม่ขาด บอลมาเข้าทาง กาก้า ได้ซ้ำ แต่ไปยิงเข้าใต้บอล บอลพุ่งเหินข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น ถึงตอนนี้ มิลาน บุกแบบขึง โรม่า ได้หมดแล้ว นาทีที่ 67 เซดอร์ฟ ลองยิงไกล บอลไปติดบล็อก เด รอสซี่ สกัดเอาไว้ได้ เกมเล่นมาถึงนาทีที่ 69 มิลาน เปลี่ยนตัวคนแรก โดยถอดเอา เซดอร์ฟ ออก แล้วส่ง รุย คอสต้า ลงไปแทน จากนั้นนาทีต่อมา โรม่า พยายามบุกอีกครั้ง ต๊อตติ เปิดบอลให้ ปานุชชี่ ทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะโยนบอมบ์เข้ามาหน้าประตู แต่ถูก เนสต้า สกัดบอลออกมาได้ จากนั้น สปัลเล็ตติ ทำการเปลี่ยนตัวคนที่สอง โดยส่ง อัลบาเรซ ลงมาแทน มานซินี่ ที่หายไปจากเกมในครึ่งหลัง ทำเอาดาวเตะแซมบ้าถึงกับทำหน้าเซ็งที่ถูกเปลี่ยนตัวออก จังหวะต่อมาไม่นาน มิลาน ได้ลูกฟรีคิก ปิร์โล่ เปิดบอลเข้ามาแต่ยังถูก เม็กแซส โหม่งสกัดออกไปได้ นาทีที่ 75 มิลาน ทำการเปลี่ยนตัวคนที่สอง โดยส่ง คาฟู อดีตดาวเตะชุดแชมป์อิตาลีกับ โรม่า เมื่อปี 2001 ลงมาแทน ซิมิช เพื่อเสริมเกมบุกให้มากขึ้น นาทีต่อมา กาก้า กระชากบอลขึ้นหน้าอันตราย ทำเอา เด รอสซี่ ต้องตามไปดึงไว้เพื่อหยุดเกม โดนใบเหลืองไปตามระเบียบ จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษของ มิลาน ปิร์โล่ ยิงบอลทะลุกำแพงไปได้ แต่ไปตรงตัว โดนี่ รับไว้ได้สบาย จากนั้นในนาทีที่ 78 กัตตูโซ่ ลองยิงไกลด้วยซ้าย แต่บอลยังไปเข้ามือ โดนี่ รับไว้ได้หนึบอีกครั้ง เกมดำเนินมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย โอกาสที่ โรม่า จะได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก เริ่มริบหรี่ลงไปเรื่อย สปัลเล็ตติ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชนะเท่านั้น เลยเสี่ยงขั้นสุดท้าย เปลี่ยนตัวถอด คูเฟร ที่เป็นแบ็กซ้ายออก แล้วส่ง โรซี่ ที่เป็นกองกลางลงไปแทน พร้อมกับปรับแผนใหม่เป็น 3-4-3 จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา มิลาน เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายบ้าง โดยส่ง อโมโรโซ่ หัวหอกชาวบราซิเลียน ลงมาแทน อินซากี้ ส่วนตัวผมคิดว่า อันเชล็อตติ เริ่มจะทำใจว่า มิลาน คงพลาดสคูเด็ตโต้แน่นอนแล้ว เลยถอด ปิ๊ปโป้ ที่เล่นได้ดีออกมาพัก เกมเล่นมาถึงนาทีที่ 82 โรม่า น่าจะได้ลุกจุดโทษจากจังหวะที่ ต๊อตติ เปิดบอลไปโดนแขน เนสต้า บล็อกเอาไว้ ทำให้บอลเปลี่ยนทางเต็มๆ แต่ผู้ตัดสินกลับใจแข็งไม่เป่าให้เป็นจุดโทษ ทำเอานักเตะ โรม่า หัวเสียกันใหญ่ เอาแต่ประท้วงผู้ตัดสินจนประมาท ถูก มิลาน สวนกลับเร็วจนเกือบจะเสียประตู จากจังหวะที่ กาก้า พาบอลลุยขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะถูกสกัดบอลออกหลังไปได้หวุดหวิด ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแล้ว โรม่า ได้ลูกฟรีคิก ต๊อตติ เปิดบอลให้ เม็กแซส ได้โขก แต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป จากนั้นแฟนบอลหมาป่าถึงกับก้มหน้ารับชะตากรรม เมื่อรู้ข่าวร้ายว่า ฟิออฯ ขึ้นนำ คิเอโว่ ไปเป็น 2-0 แล้ว ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า โรม่า น่าจะจบอันดับที่ 5 ไม่ว่าผลเกมนี้จะเป็นอย่างไร แต่ถึงกระนั้นนักเตะในสนามยังคงมุ่งมั่นเล่นกันต่อ มิลาน มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย ริมเส้นหน้ากรอบเขตโทษ ปิร์โล่ ปั่นบอลเข้ามาหน้าประตู โดนี่ พุ่งออกมาตัดบอลคว้าไว้ได้ติดมืออย่างสวยงาม ถึงนาทีที่ 88 โรม่า มีโอกาสจะได้ประตูชัยฝัง มิลาน คาบ้านสุดๆ จากจังหวะความผิดพลาดในแนวรับของ มิลาน ที่ปล่อยให้ ตาดเด รับบอลหลุดเข้าไปโล่งๆในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ ตาดเด จะกระชากเข้าไปดวลเดี่ยวๆกับ ดิด้า แล้วสับไกยิงด้วยขวาไปที่มุมซ้ายกะให้เสียบมุม แต่ ดิด้า โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้ด้วยปลายนิ้วอย่างไม่น่าเชื่อ โรม่า พลาดโอกาสทองในการขึ้นนำ มิลาน อย่างน่าเสียดายที่สุด พอ โรม่า ไม่ได้ประตูนำ กลับกลายเป็นฝันร้ายของแฟนบอลหมาป่าทันที เมื่อทีมมาเสียลูกจุดโทษให้ มิลาน ในนาทีสุดท้ายของเกม จากจังหวะที่ กัตตูโซ่ โชว์ลีลากระชากบอลผ่านทั้ง ปานุชชี่ และ เด รอสซี่ เข้าไปโล่งๆในกรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายบอลเข้ากลางให้ จิลาร์ดิโน่ ที่กลางหน้าปากประตู แต่ถูก โบโว่ ดึงเสื้อแทบขาด เป็นลูกฟาวล์ชัดเจน และผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ โบโว่ ออกจากสนาม เพราะเห็นว่า โดนี่ นั้นไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะป้องกันประตูได้แล้ว โรม่า เสียจุดโทษอย่างไม่คาดคิดในนาทีสุดท้าย และต้องเหลือผู้เล่น 10 คน จากลูกจุดโทษ มิลาน เลือกให้ อโมโรโซ่ เป็นคนยิง หวังจะให้เขาทำประตูแรกของตัวเองในสีเสื้อ มิลาน และ อโมโรโซ่ ก็ไม่พลาด ซัดเข้าไปที่มุมซ้ายของตัวเอง โดยที่ โดนี่ ขยับพุ่งไปถูกทาง แต่ก็ไปไม่ทันอยู่ดี มิลาน ขึ้นนำ โรม่า ไปอีกครั้ง 2-1 ขณะที่เหลือเวลาน้อยมากที่ โรม่า จะกลับมาได้ ผู้ตัดสินทดเวลาไปทั้งสิ้น 3 นาที ก่อนจะเป่านกหวีดจบเกมที่ ซาน ซิโร่ มิลาน ชนะ โรม่า ไป 2-1 แต่ต้องผิดหวังกันทั้งสองฝ่าย เมื่อสคูเด็ตโต้ ตกเป็นของ ยูเวนตุส ส่วน โรม่า ของ สปัลเล็ตติ ก็ไปไม่ถึงดวงดาวเช่นกัน       จากผลการแข่งขันแบบนี้ เลยทำให้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า โรม่า ต้องจบฤดูกาลในอันดับที่ 5 ของคลาสซิฟิก้า ชวดโอกาสไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน่าเสียดาย มีคะแนนเท่าเดิมที่ 69 คะแนน คะแนนน้อยกว่า ฟิออเรนติน่า ทีมอันดับ 4 ซึ่งคว้าโควตาสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ ลีกไปครองถึง 5 คะแนน คะแนนน้อยกว่า ยูเวนตุส แชมป์อิตาลี 22 คะแนน และมีคะแนนมากกว่า ลาซิโอ ทีมคู่ปรับร่วมเมืองอยู่ 7 คะแนนครับ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม มิลาน (4-3-1-2) : 1.เนลสัน ดิด้า; 17.ดาริโอ ซิมิช (2.มาร์กอส คาฟู 75), 13.อเลสซานโดร เนสต้า, 4.คาค่า คาลัดเซ่, 27.เคลาดิโอ แซร์จินโญ่; 8.เจนนาโร่ กัตตูโซ่ (กัปตันทีม), 21.อันเดรีย ปิร์โล่, 20.คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ (10.มานูเอล รุย คอสต้า 69); 22.ริคาร์โด้ กาก้า; 9.ฟิลิปโป้ อินซากี้ (37.มาร์โช่ อโมโรโซ่ 87), 11.อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ เทรนเนอร์ : คาร์โล อันเชล็อตติ สำรองไม่ได้ลงสนาม : 16.เซลจ์โก้ คาลัช, 43.วิลลี่ ออบาเมยัง, 46.ลิโน่ มาร์โซรัตติ, 18.มาเร็ค แยนคูลอฟสกี้ โรม่า (4-2-3-1) : 32.อเล็กซานเดอร์ โดนี่; 2.คริสเตียน ปานุชชี่ (กัปตันทีม), 5.ฟิลิปป์ เม็กแซส, 3.เซซาเร่ โบโว่, 25.เลอันโดร คูเฟร (28.อเลอันโดร โรซี่ 80); 16.ดานิเอเล่ เด รอสซี่, 15.โอลิวิเย่ร์ ดากูร์ (10.ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ 34); 17.ดาเมียโน่ ตอมมาซี่, 20.ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า, 30.อเลสซานโดร มานซินี่ (7.เอ็ดการ์ อัลบาเรซ 70); 11.โรดริโก้ ตาดเด เทรนเนอร์ : ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ สำรองไม่ได้ลงสนาม : 1.จานลูก้า คูร์ชี่, 33.จานลูก้า เฟร็ดดี้, 35.สเตฟาโน่ โอกาก้า, 40.ชาบานี่ นงด้า ผู้ตัดสิน : อันเดรีย เด มาร์โก (คิอาวารี่) จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใบเหลือง : มิลาน : กัตตูโซ่ 32                โรม่า : มานซินี่ 54, ตอมมาซี่ 68, เด รอสซี่ 76 ใบแดง : โรม่า : โบโว่ 90 สถิติเกม                         มิลาน – โรม่า เปอร์เซ็นต์ครองบอล        60.4% - 39.6% โอกาสยิงประตู                     18 – 12 ยิงเข้ากรอบ                           6 – 3 ยิงหลุดกรอบ                         7 – 6 ยิงติดบล็อก                           5 – 3 เตะมุม                                  7 – 5 ล้ำหน้า                                 7 – 3 ทำฟาวล์                             19 – 20 จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คลิปการทำประตูที่เกิดขึ้นในเกม : Credit คุณ pippo_9 เว็บ thaimilan.net 1-0 : กาก้า (มิลาน) (จุดโทษ) 5 2-0 : เม็กแซส (โรม่า) 33 3-0 : อโมโรโซ่ (มิลาน) (จุดโทษ) 90+1 ไฮไลท์การทำประตูทั้งหมดรวมในไฟล์เดียวครับ http://www.acmilan.com/images/104018.wmv จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สปัลเล็ตติ : “ยินดีกับ ฟิออเรนติน่า ด้วย” ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ เทรนเนอร์ โรม่า ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่ โรม่า บุกมาพ่าย มิลาน 1-2 จบอันดับสิ้นฤดูกาลที่ 5 ได้ไปเพียง UEFA Cup โดยมีใจความสำคัญดังนี้ “ผมคิดว่า โรม่า น่าจะได้ผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้ แม้ว่ามันจะไม่ได้ทำให้ทีมเราไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ก็ตาม” “เราโชคไม่ดีที่เสียประตูไปอย่างรวดเร็ว ทำให้แนวทางของเกมเปลี่ยนไป เราต้องทำงานหนักกันมากขึ้นกว่าเดิม และผมพอใจกับลูกทีมที่ตอบสนองกับมันได้ดี” “ผมต้องขอแสดงความยินดีกับ ฟิออเรนติน่า ด้วย พวกเขาสมควรได้รับการยกย่องจากความสำเร็จครั้งนี้” “สำหรับ ต๊อตติ เขายังไม่ฟิตเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเพราะเขาเพิ่งจะหายจากอาการไข้หวัดได้ไม่นาน ผมคิดว่ามันยังเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเขา และคิดว่าเขาพร้อมแล้วสำหรับการลงเล่นในฟุตบอลโลก” ทางฝั่ง คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ มิลาน ให้สัมภาษณ์เช่นกัน โดยมีใจความสำคัญดังนี้ “นี่เป็นฤดูกาลที่สวยงามสำหรับเรา และมันเยี่ยมมากกับการได้เห็นแฟนบอลของเราเข้ามาชมกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง” “สำหรับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นและมีข่าวพาดพิงถึงเรา พวกเรายังค่อนข้างงง และเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน อยากจะให้ชี้แจงให้กระจ่างไปเลย ถ้ายังคลุมเคลือ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย กับความรู้สึกที่เราจะถูกลงโทษในสถานการณ์เช่นนี้” จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วิจารณ์ฟอร์มนักเตะหมาป่ารายตัว หลังเกมพ่าย มิลาน 1-2 ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล โดนี่ : นายทวารบราซิเลียน หมดสิทธิ์กับ 2 จุดโทษที่โดนยิง เขาพุ่งไปถูกทางทั้ง 2 ลูก แต่ไปไม่ทัน โดยรวมถือว่าช่วยทีมได้ดีที่สุดแล้ว มีจังหวะเซฟลูกยิงของ แซร์จินโญ่ และลูกฟรีคิกของ ปิร์โล่ ได้ดี รวมถึงโอกาสมากมายสารพัดของ มิลาน ก็ไม่ทำให้เพื่อนร่วมทีมเป็นกังวลกับการตัดบอลของเขา คะแนน : 7.5 ปานุชชี่ : อดีตแบ็กขวาทีมชาติอิตาลี มีบทบาทช่วยเกมรับของทีมได้ดี มีจังหวะดักสกัดบอลสวยๆหลายครั้ง และในขณะเดียวกันก็พยายามช่วยทีมเติมเกมรุกได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทำได้ดีมาตลอดจนใกล้จะจบเกม แต่กลับมาเสียฟอร์มนาทีสุดท้าย ถูก กัตตูโซ่ ลากบอลหนีในเขตโทษ ซึ่งเป็นเหตุให้ทีมเสียจุดโทษในเวลาต่อมา คะแนน : 6.5 เม็กแซส : กองหลังที่เพิ่งหลุดทีมชาติฝรั่งเศสชวดไปฟุตบอลโลกสดๆร้อนๆ อาจจะโชว์ฟอร์มตอกหน้า โดเมเน็ค หงายได้เลย เพราะเกมนี้อาจจะเป็นเกมที่ดีที่สุดของเขาตั้งแต่มาเล่นใน อิตาลี ก็ว่าได้ นอกเหนือไปจากประตูสำคัญที่เขาช่วยโขกตีเสมอให้ทีมได้ เขายังมีบทบาทในเกมรับของทีมตลอดจากการถูก มิลาน โหมบุกอย่างหนักในครึ่งหลัง ทั้งการยืนตำแหน่ง และการเข้าสกัดบอลทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ บอกได้คำเดียวสั้นๆว่า “เพอร์เฟกต์” มิลาน มีตัวรุกเล่นเด่นหลายคน แต่ โรม่า มีกองหลังที่เล่นเกมรับเด่นจริงๆอยู่คนเดียวคือเขา   คะแนน : 9.5 โบโว่ : กองหลังสารพัดตำแหน่ง ได้โอกาสลงสนามเพราะ คิวู และ คูฟฟูร์ เจ็บพร้อมกัน โดยรวมในครึ่งแรกฟอร์มพอใช้ได้ แต่รูปเกมส่วนใหญ่ก็เป็น โรม่า บุกได้มากกว่า พอมาในครึ่งหลังถูก มิลาน เดินหน้าบุก เขาก็พยายามช่วยทีมแต่ไม่โดดเด่นเหมือน เม็กแซส สุดท้ายกลายเป็นฝันร้ายเมื่อไปดึง จิลาร์ดิโน่ แบบประเคนจุดโทษให้ มิลาน ก่อนจะถูกไล่ออกจากสนามไปในที่สุด คะแนน : 5.5 คูเฟร : แบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนติน่า พยายามช่วยเกมรับของทีมในครึ่งแรกได้ดี แต่โชคร้ายไปหน่อยที่เขาทำให้ทีมเสียจุดโทษเร็วตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งเป็นลูกที่ค่อนข้างกังขาด้วย ครึ่งหลังเหนื่อยพอสมควรกับเกมรุกของ มิลาน แต่ก็ช่วยเหลือทีมได้ดี เกมรุกยังช่วยเปิดบอลให้ทีมตลอด โดยรวมแล้วถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ได้ครับ คะแนน : 6.5 เด รอสซี่ : มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี หายไข้กลับมายืนเป็นตัวจริงในแดนกลาง และทำได้ดีในครึ่งแรก มีจังหวะเดินเกมรุกได้สวยหลายครั้ง และในเกมรับก็ยังช่วยสกัดลูกยิงของ กาก้า ได้ยอดเยี่ยม ส่วนครึ่งหลัง ก็ยังคงเล่นได้ดี แม้ว่าจะโดนใบเหลือง แต่ก็เป็นการช่วยทำลายเกมบุกของ มิลาน ให้ชะงักลง มาเสียฟอร์มเล็กน้อยในนาทีสุดท้าย เมื่อไม่สามารถร่วมมือกับ ปานุชชี่ ในการป้องกัน กัตตูโซ่ ให้ดีกว่านี้ คะแนน : 7 ดากูร์ : อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส มีเวลาลงเล่นแค่ 34 นาที ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกตามแท็กติก เพราะทีมต้องเร่งบุกมากกว่าเดิม เลยไม่มีโอกาสได้ฉายฟอร์มมากเหมือนเกมที่แล้ว แต่ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสนามก็ไม่ได้เป็นจุดบอดของทีมแต่อย่างใด คะแนน : 6 ตอมมาซี่ : อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทที่มีอย่างเต็มเปี่ยม ไม่หวั่นว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ ครึ่งแรกเล่นได้ดี มีบทบาทพอสมควร หลังจากที่ ดากูร์ ถูกเปลี่ยนออก เขาต้องหุบมายืนตรงกลาง และโดยรวมก็ทำได้น่าพอใจครับ คะแนน : 7 แปร์ร็อตต้า : มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี ยังคงเป็นตัวเชื่อมเกมรุกที่สำคัญของทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรก สามารถสอดประสานกับเพื่อนร่วมทีมกดดัน มิลาน ได้ดี ครึ่งหลัง มีโอกาสยิงประตู มิลาน ได้เหมือนกัน แต่โชคไม่ดี บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว คะแนน : 7 มานซินี่ : ปีกซ้ายแซมบ้าจอมลีลา วันนี้พลิ้วไม่ออกเท่าไหร่ ขึ้นเกมทางกราบซ้ายสร้างความกดดันให้ มิลาน ไม่ได้มาก โดยในครึ่งแรกเกมจะขึ้นตรงกลางมากกว่า ส่วนในครึ่งหลังก็แทบหายไปจากเกมเลย เพราะโดน มิลาน ขึงบุกอยู่เกือบตลอด ก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลัง คะแนน : 6 ตาดเด : ศูนย์หน้าจำเป็นชาวบราซิเลียน มีบทบาทในเกมรุกของทีมพอสมควรในครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลังจะลงต่ำมาเก็บบอลในแดนกลาง มีโอกาสหลุดไปยิงเดี่ยวๆกับ ดิด้า เพื่อพาทีมขึ้นนำ แต่ทำไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ฟอร์มโดยรวมก็ถือว่าใช้ได้ครับ คะแนน : 6.5 สำรอง ต๊อตติ : เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติอิตาลี ลงสนามมาแทน ดากูร์ ตั้งแต่นาทีที่ 34 แต่ยังไม่สามารถโชว์ลีลาเด็ดของตัวเองออกมาได้อย่างที่หวังไว้ เพราะสภาพร่างกายยังไม่เต็มร้อย อย่างไรก็ตามเขายังดูมุ่งมั่น และพยายามเข้าหาบอล เพียงแต่เกมนี้เหมือนบอลจะไม่เป็นใจมาหาเขามากเท่าไหร่ คะแนน : 6 อัลบาเรซ : ปีกขวาทีมชาติฮอนดูรัส ลงสนามมาแทน มานซินี่ ถือว่าได้ความสดลงมากระตุ้นเกมรุกของทีมได้ดีเหมือนกัน มีจังหวะหลอกล่อผู้เล่น มิลาน ได้สวย 2-3 ครั้ง คะแนน : 6.5 โรซี่ : มิดฟิลด์ดาวรุ่งลงสนามมาแทน คูเฟร ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เวลาน้อยไป ยังแทบไม่มีบทบาทอะไรกับเกมเลย คะแนน : ไม่มี เทรนเนอร์ สปัลเล็ตติ : เกมนี้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้วครับ น่าเห็นใจที่ต้องมากดดันหลังจากถูก มิลาน ขึ้นนำไปเร็วตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะกลับมาเล่นได้ดีจนตีเสมอได้ พอมาในครึ่งหลังไม่มีทางเลือก เพราะต้องชนะเท่านั้น เลยต้องเสี่ยงเปลี่ยนตัวนำผู้เล่นในแนวรุกลงสนาม แต่กลับเป็นว่าเปิดพื้นที่บุก และมีช่องว่างในแนวรับมากขึ้น เลยโดนขึงจนพลาดท่าเสียจุดโทษในที่สุด โดยรวมผมคิดว่าเทรนเนอร์เราตัดสินใจได้ดีที่สุดแล้วครับ คะแนนผู้เล่นทีม มิลาน ที่ผมให้ ดิด้า 7.5; ซิมิช 6 (คาฟู 6.5), เนสต้า 7, คาลัดเซ่ 7, แซร์จินโญ่ 7.5; กัตตูโซ่ 7, ปิร์โล่ 6.5, เซดอร์ฟ 6 (รุย คอสต้า 6.5); กาก้า 9; อินซากี้ 8 (อโมโรโซ่ 6.5), จิลาร์ดิโน่ 7.5 จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หมาป่าไร้ปาฏิหาริย์ พ่าย มิลาน จาก 2 จุดโทษ แต้มตาม ฟิออฯ สุดไกล 5 แต้ม จำใจรับอันดับ 5 ไป UEFA Cup จบลงไปเรียบร้อยกับเกมชี้ชะตาที่ ซาน ซิโร่ รูปเกมโดยรวมต้องบอกว่า มิลาน เล่นเกมรุกได้ดีกว่า โรม่า อย่างชัดเจน และแม้ว่าแนวรับของ โรม่า จะพยายามช่วยกันป้องกันอย่างยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ก็ไม่อาจเก็บคะแนนอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้ น่าเสียดายไม่น้อยครับเพราะมาโดนลูกจุดโทษในนาทีสุดท้าย ซึ่งทีมหมาป่าไม่มีเวลาเหลือให้แก้ตัวเลย จำต้องรับความพ่ายแพ้ไปอย่างสุดเซ็ง ประตูแรกโดนต้นเกม ประตูที่สองโดนนาทีสุดท้าย เหมือนกับโชคชะตาได้ขีดเขียนมาว่า โรม่า จะไม่มีคะแนนในเกมนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว จังหวะที่ทีมหมาป่าเสียประตูแรก ความเห็นผมคิดว่าไม่น่าถึงขั้นเป็นจุดโทษเลย เพราะ จิลาร์ดิโน่ นั้นไม่ได้อยู่ในทิศทางที่จะเล่นบอลจากลูกเปิดทางซ้าย และ คูเฟร ก็เล่นไปตามสัญชาตญาณกองหลัง อาจมีการดึงเพียงเล็กน้อย เพื่อรบกวนสมาธิ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาในเกมฟุตบอลอิตาลี แต่ภาพที่ผมเห็นคือ จิลาร์ดิโน่ พุ่งล้มเวอร์ไปอย่างเห็นได้ชัด และผู้ตัดสินก็เป่าให้เป็นจุดโทษทันที ถ้าลองมาเทียบกับจังหวะที่ เนสต้า ไปดึงเสื้อ เด รอสซี่ ซะแทบขาดในเขตโทษ มิลาน ก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า โรม่า หรือ มิลาน ฝ่ายใดที่น่าจะเสียจุดโทษมากกว่ากัน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ผ่านไปแล้ว และผมก็ไม่ได้ไปคิดโทษอะไรผู้ตัดสิน แต่มองว่าเป็นความซวยของ โรม่า มากกว่า เพราะหลังจากนั้น ผู้ตัดสิน เด มาร์โก ก็ไม่ได้ตัดสินค้านสายตาผมเท่าไหร่นัก ไม่มีลูกกังขา จังหวะ 50-50 ในเขตโทษจะไม่กล้าเป่าให้ฝ่ายใดได้ลูกโทษอีก จนกระทั่งมาถึงในนาทีสุดท้ายที่แหล่ะ ที่มาเป่าอีกครั้ง ซึ่งผมก็เห็นด้วยแน่นอน ว่าเป็นจุดโทษ 100% เพราะ โบโว่ ดึงแบบน่าเกลียดชัดเจน เรื่องไล่ออกนี่ก็เป็นการพิจารณาของเขาที่เห็นว่า จิลาร์ดิโน่ มีโอกาสทำประตูได้จะแจ้ง ซึ่งตรงนั้นผมก็ยอมรับได้ สิ่งที่เสียดายมากคือ โรม่า เอง มีโอกาสที่จะได้ประตูชัย เอาชนะ มิลาน เพื่อศักดิ์ศรีเหมือนกัน ในตอนที่ ตาดเด หลุดเดี่ยวไปดวลกับ ดิด้า แต่ยิงไปติดเซฟของ ดิด้า ที่ทิ้งตัวป้องกันได้อย่างเหลือเชื่อ ถ้าลูกนั้นเป็นประตู โรม่า ก็คงมีคะแนนกลับบ้านแน่ๆ แต่ ตาดเด ยังไม่เด็ดขาดพอจะยิงประตู ดิด้า ได้ ในส่วนของความกดดัน ผมคิดว่ามีส่วนทำให้ โรม่า ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับจากเกมบุกอันตรายของ มิลาน หลายครั้ง อย่างที่ผมกล่าวไปในช่วงของ สปัลเล็ตติ ก็เพราะ โรม่า บุกมายัง มิลาน เพื่อชนะเท่านั้น ไม่ใช่มาอุดประตูยันเสมอ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า สปัลเล็ตติ จะเปลี่ยนตัวเน้นตัวรุกลงมา ทั้งๆที่สกอร์ยังเสมอกันอยู่ ตรงนี้ถือว่าทำให้มีช่องว่างในแนวรับให้ มิลาน ได้เจาะง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ โรม่า ไม่มีทางเลือก ต้องเสี่ยงครับ แพ้หรือเสมอค่าเท่ากัน จังหวะอื่นๆก็มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นในเกม จังหวะปัญหาเรื่อง เด รอสซี่ ที่ถูกดึงในเขตโทษ ผมก็จะลืมๆมันไป ยังไง โรม่า ชนะ มิลาน ก็ไม่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่ดี คิดมากก็ปวดหัวเปล่าๆ คิดถึงการทำประตูของ เม็กแซส วันนี้เขาเยี่ยมมากๆ สมบูรณ์แบบ แต่กลับหลุดทีมชาติฝรั่งเศส จากการเลือกตัวของโค้ชที่ไม่เคยดู กัลโช่ เซเรีย อา ก็น่าเสียดาย แต่เขาก็ยังอายุน้อย 4 ปีข้างหน้าน่าจะมีโอกาสอีกครั้ง ส่วน ต๊อตติ ก็เอาใจช่วยให้เขาฟิตเต็มร้อยให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างผลงานที่ดีกอบกู้ชื่อเสียงในเวทีระดับชาติของเขาให้กลับคืนมา ทั้งนี้เพื่อผลงานของทีมชาติอิตาลีที่เขาเป็นตัวหลัก ตัวความหวังด้วย กลับมากล่าวถึงเกม ในส่วนของ มิลาน ผมประทับใจอยู่หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวรุก กาก้า กับ ปิ๊ปโป้ อินซากี้ เล่นได้อย่างโดดเด่นมาก สำหรับ กาก้า นี่โดดเด่นตามมาตรฐานปกติอยู่แล้ว แต่ อินซากี้ นี่ต้องบอกว่าดีเกินคาดจริงๆ แสดงให้เห็นถึงสัญชาตญาณในการเป็นยอดศูนย์หน้าออกมาให้เห็นตลอดทั้งเกม ต้องบอกว่า ลิปปี้ คิดถูกแล้วที่เลือก ปิ๊ปโป้ ไปร่วมทีมชาติอิตาลี ถ้าไม่ได้ไปคงเสียดายแย่ ตอนเขาถูกเปลี่ยนตัวนี่ผมงงเลย เปลี่ยนออกทำไมอ่ะ นอกนั้นคนอื่นๆส่วนใหญ่เล่นได้ดีครับ เห็นฟอร์มอย่างนี้เสียดายไม่น่ามาชน บาร์ซ่า รอบรองฯเลย หากไปอยู่อีกฝั่งอาจได้ไปลุ้นต่อในรอบชิงก็เป็นได้ เกมนี้ผมให้คะแนนตามความเห็นส่วนตัวไปแล้วด้านบน จบเกมที่ ซาน ซิโร่ มิลาน เอาชนะ โรม่า ไป 2-1 แฟนบอลกอดคอกันผิดหวังทั้งคู่ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:47:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หมาป่าทีมตำนาน ชนะ 11 นัดรวด อะไรเป็นจุดพลิกผันให้ชวด แชมเปี้ยนส์ ลีก? ในที่สุดทีมหมาป่าก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน กับภารกิจปฏิบัติการท้า “ปาฏิหาริย์” ซึ่งทำไม่สำเร็จตามความคาดหมายของสื่อมวลชน เป็นทีม ฟิออเรนติน่า ได้ไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฐานะทีมอันดับ 4 อย่างสง่าผ่าเผย ทั้งๆที่ฤดูกาลที่แล้วหวุดหวิดจะตกชั้นแบบจ่อคอหอยแท้ๆ ก็ต้องยอมรับครับว่า โรม่า แผ่วปลายกันไปเอง ฟอร์มคงเส้นคงวาสู้ ฟิออฯ ไม่ได้จริงๆ สำหรับ ฟิออฯ นั้นแรงมาตั้งแต่เปิดฤดูกาลแล้ว มีสะดุดบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ถึงกับเป๋ยาว โดยรวมยังรักษามาตรฐานตัวเองไว้ได้เยี่ยม ขณะที่ โรม่า ทำผลงานได้อย่างไม่น่าประทับใจในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก นักเตะโชว์ฟอร์มกันไม่ออก มีปัญหาภายในทีมหลายเรื่อง กว่าจะกลับมาเข้าฟอร์มได้ก็เป็นช่วงตั้งแต่คริสต์มาส ที่ทีมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลอิตาลี ด้วยการชนะคู่แข่งติดต่อกันมากที่สุดถึง 11 นัด แต่แล้วในความสุดยอดนั้น กลับต้องเจอเรื่องไม่คาดฝันเมื่อ ต๊อตติ นักเตะหมายเลข 1 ของทีมเกิดดวงซวย ข้อเท้าหักขึ้นมากระทันหัน ทำให้ โรม่า ไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นในช่วงสร้างประวัติศาตร์ไว้ได้จนจบฤดูกาล ทั้งๆที่มีโอกาสทำคะแนนนำหน้า ฟิออเรนติน่า ได้หลายครั้ง แต่ก็รักษาอันดับ 4 ของตารางไว้ไม่สำเร็จ หนึ่งในเกมที่เหลือเชื่อซึ่งน่าจะพูดได้เต็มปากว่าเป็นสิ่งที่กระชากความหวังสู่แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ โรม่า หายไปแบบน่าเศร้า คงจะเป็น 3 เกมวิปโยคติดต่อกัน ที่ทีมหมาป่าไม่อาจเอาชนะคู่แข่งได้อย่างเหลือเชื่อ เริ่มจากการออกไปเยือน ปาแลร์โม่ โดยขึ้นนำไปก่อนในครึ่งแรกถึง 3-0 ก่อนจะลงเอยด้วยการถูกตีเสมอเป็น 3-3 อย่างไม่น่าเชื่อ เกมนัดต่อมา เป็นการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซามพ์โดเรีย ทีมที่กำลังฟอร์มตกสุดขีด แพ้มากถึง 8 ใน 9 นัดล่าสุด แต่ โรม่า ก็ไม่สามารถยิงประตู ลา ซามพ์ ได้ เกมจบลงที่สกอร์ 0-0 เป็นเกมแรกในรอบ 27 นัด ที่ทีมหมาป่าเท้าบอด ยิงประตูไม่ได้อีกด้วย แล้วเชื่อไหมครับว่าหลังจากนั้น ซามพ์โดเรีย ก็ยังไม่ชนะใครใน 3 นัดสุดท้าย ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากจริงๆ ที่ โรม่า ทำไม่ได้ทั้งที่เล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ เกมนัดต่อมาคือการออกไปเยือน คิเอโว่ ทีมอันดับ 7 ที่กำลังลุ้นไปเล่น UEFA Cup จริงๆแล้วเกมนี้ถือเป็นงานที่ไม่ง่าย แต่ โรม่า ก็ขึ้นนำไปได้ถึง 3-1 แต่ก็กลับมาพลาดเสียประตูแบบไม่น่าเชื่ออีก กลายเป็นโดนยิงคืน 3 ประตูรวด มาเป็นตามหลัง 3-4 หน้าตาเฉย ต้องมาไล่ตามตีเสมอหืดจับ 4-4 แบบเต็มกลืนสุดๆ ขณะที่ ฟิออฯ ออกไปเยือน คิเอโว่ ในเกมสุดท้าย สามารถเก็บ 3 แต้มออกไปด้วยชัยชนะแบบนิ่มๆ 2-0 ก็เห็นชัดเจนครับถึงความแตกต่าง หลายท่านอาจจะสงสัยว่า คิเอโว่ เล่นไม่เต็มที่ในเกมสุดท้ายหรือไม่ หลังจากที่ได้ไปเล่น UEFA Cup เรียบร้อยแล้ว แต่ผมได้ดูเทปเกมนี้ต้องบอกว่า คิเอโว่ ใช้ชุดใหญ่ และเล่นเต็มที่จริงๆ มีโอกาสขึ้นนำ ฟิออฯ ไปก่อนหลายครั้งด้วย แต่ทำไม่สำเร็จกันเอง ต้องบอกว่า ฟิออฯ เยี่ยมสมราคาครับ ที่บุกไปชนะได้ สุดท้ายก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ ฟิออเรนติน่า ทั้งแฟนบอลและผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ที่ได้โอกาสไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของสโมสรยุโรป ซึ่งผมคิดว่ามันยิ่งใหญ่ และสำคัญมากๆสำหรับทุกทีมที่ได้เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม เพราะฉะนั้น จะบอกว่างานของ ฟิออฯ ยังไม่จบ ต้องเอาชนะคู่แข่งในรอบคัดเลือกอีก 1 รายด้วย เพื่อเข้ารอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้าย รวมถึง อินเตอร์ ด้วย รักษาโควตา 4 ทีมของลีกอิตาลีไว้ให้ได้นะครับ ผมจะเอาใจช่วยเชียร์ด้วยคน จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตารางอันดับคะแนนฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2005/06 จากเว็บ soccernet ครับ http://soccernet.espn.go.com/tables?league=ita.1&cc=4716                       หมายเหตุ : ยูเวนตุส และ มิลาน ได้ไปเล่น UEFA Champions League รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม                อินเตอร์ และ ฟิออเรนติน่า ได้ไปเล่น UEFA Champions League รอบคัดเลือก รอบที่ 3                โรม่า, ลาซิโอ และ คิเอโว่ ได้ไปเล่น UEFA Cup รอบแรก                เตรวิโซ่, เลชเช่ และ เมสซิน่า ตกชั้นไปเล่นใน เซเรีย บี ฤดูกาลหน้า จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:49:56 ]

ความคิดเห็นที่ 13 จบฤดูกาลอันแสนเศร้าของชาวหมาป่า เริ่มกันใหม่ฤดูกาลหน้า ตามลุ้นนักเตะหมาป่าต่อในฟุตบอลโลก เกมสุดท้ายของฤดูกาลถูกตัดสินเป็นที่เรียบร้อยครับ โรม่า ไม่สามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมายที่หวังไว้ในช่วงคริสต์มาส นั่นคือการจบอันดับ 4 ของตารางเพื่อไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า เพราะคะแนนเป็นรอง ฟิออเรนติน่า ทีมอันดับ 4 ถึง 5 คะแนน เมื่อจบฤดูกาล ผมคงต้องบอกว่า โรม่า ทำได้ดีที่สุดแล้ว มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นมากมายสารพัดที่มีทั้งความสุข สมหวัง และผิดหวังรวมกัน แม้สุดท้ายทีมหมาป่าจะจบแค่อันดับ 5 และทำได้เพียงรองแชมป์ โคปปา อิตาเลีย จากการเข้าชิง 3 ครั้งใน 4 ปีหลังสุดก็ตาม แต่ก็เป็นหนึ่งในฤดูกาลที่น่าทึ่ง และน่าจดจำไม่น้อย สำหรับแฟนบอลหมาป่าทุกคน สำหรับการลงเล่นของ โรม่า ในฤดูกาล 2005/06 นี้ ทั้งหมด 56 นัด ซึ่งผมก็จัดทำรีวิวการแข่งขันมาให้เพื่อนๆชมกันครบทั้ง 56 เกมเป็นครั้งแรกเลย เขียนไปก็มีทั้งอารมณ์สุขและเศร้าปนกันไป แต่มันก็คือรสชาติของฟุตบอลแหล่ะครับ ผมเลือกที่จะดูแบบผิดหวัง ยังดีกว่าไม่ได้ดูอะไรเลย การติดตาม โรม่า ทีมรักได้ดำเนินมาจนจบฤดูกาลแล้ว สิ่งที่กำลังจะตามมาคือ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่ทุกคนรอคอย ผมเองก็เช่นกัน แม้เป็นแฟนบอลทีมชาติอิตาลี แต่แน่นอนว่าผมเอง เอาใจช่วยนักเตะ โรม่า ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ และก็เสียใจไปกับ เม็กแซส ที่ต้องพลาดหวังชวดไปฟุตบอลโลกในนาทีสุดท้ายด้วยเช่นกัน สำหรับ โรม่า คงต้องกล่าวคำว่า พบกันอีกครั้งในฤดูกาลหน้าเพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิมครับ แฟนบอลยังเป็นกำลังใจให้เสมอ รักนักเตะ เทรนเนอร์ และสตาฟฟ์โค้ช ทุกคนครับ .... รายชื่อนักเตะ โรม่า ที่ติดทีมชาติไปเล่นในฟุตบอลโลก 2006 กองหลัง : เลอันโดร คูเฟร (อาร์เจนติน่า), ซามูเอล คูฟฟูร์ (กาน่า) กองกลาง : ดานิเอเล่ เด รอสซี่ (อิตาลี), ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า (อิตาลี) กองหน้า : ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ (อิตาลี) จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:51:09 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ต๊อตติ, เด รอสซี่, แปร์ร็อตต้า สามทหารเสือหมาป่า ร่วมทัพ อัซซูร์รี่ ลุยฟุตบอลโลกที่เยอรมัน ในที่สุด มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เทรนเนอร์ทีมชาติอิตาลี ก็ได้ประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติอิตาลี 23 คนสุดท้าย ที่จะได้ไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม 2006 ที่ประเทศเยอรมนี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีนักเตะจากทีม โรม่า ร่วมทัพไปด้วยกัน 3 คน คือ ต๊อตติ, เด รอสซี่ และ แปร์ร็อตต้า ตามความคาดหมาย ซึ่งคาดว่าคนที่น่าจะเป็นตัวหลักจริงๆคงเป็น ต๊อตติ ส่วน เด รอสซี่ และ แปร์ร็อตต้า น่าจะได้ลงสนามเป็นตัวเสริมสลับกันไป โดยที่ เด รอสซี่ น่าจะมีโอกาสมากกว่าเล็กน้อย เพราะประสบการณ์ในทีมชาติมีมากกว่า ในส่วนของรายชื่อนักเตะจากทีมอื่นๆ ก็ถือว่าไม่พลิกล็อคแต่อย่างใด ไม่มีเสียงฮือฮาเหมือนหลายประเทศที่ประกาศรายชื่อออกมาก่อนหน้านี้ คนที่ผมรู้สึกว่าพลาดไปอย่างน่าเสียดายคือ ลูคาเรลลี่ ของลิวอร์โน่ ที่ฟอร์มในคัมปิโอนาโต้ เหนือกว่า ยากวินต้า อย่างชัดเจน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่มีประสบการณ์ในทีมชาติเลยเช่นกัน ส่วน เด ซานช์ติส ที่หลุดไปเป็นเพียงตัวสแตนด์บาย ก็ต้องบอกว่าเป็นผลพวงมาจากฟอร์มที่ตกลงไปกับ อูดิเนเซ่ ด้วย ส่วน อเมเลีย ต้องบอกว่าเขาโชคดีมากจริงๆที่ได้ มือ 3 ของทีมไป แค่นั่งดูอยู่ข้างสนามก็กำไรชีวิตแล้วครับ   รายชื่อผู้เล่นทีมชาติอิตาลี 23 คน ชุดลุยฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมนี ผู้รักษาประตู : จานลุยจิ บุฟฟ่อน (ยูเวนตุส), อันเจโล่ เปรุซซี่ (ลาซิโอ), มาร์โก อเมเลีย (ลิวอร์โน่) กองหลัง : จานลูก้า ซามบร็อตต้า (ยูเวนตุส), อเลสซานโดร เนสต้า (มิลาน), ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (ยูเวนตุส), ฟาบิโอ กรอสโซ่ (ปาแลร์โม่), คริสเตียน ซัคคาร์โด้ (ปาแลร์โม่), มาร์โก มาเตราซซี่ (อินเตอร์), มัสซิโม่ อ็อดโด้ (ลาซิโอ) กองกลาง : เมาโร คาโมราเนซี่ (ยูเวนตุส), อันเดรีย ปิร์โล่ (มิลาน), เจนนาโร่ กัตตูโซ่ (มิลาน), ดานิเอเล่ เด รอสซี่ (โรม่า), ซิโมเน่ แปร์ร็อตต้า (โรม่า), ซิโมเน่ บาโรเน่ (ปาแลร์โม่) กองหน้า : ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ (โรม่า), ลูก้า โทนี่ (ฟิออเรนติน่า), อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (มิลาน), อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (ยูเวนตุส), ฟิลิปโป้ อินซากี้ (มิลาน), วินเชนโซ่ ยากวินต้า (อูดิเนเซ่) ตัวเสริมกรณีฉุกเฉิน : มอร์แกน เด ซานช์ติส (อูดิเนเซ่), ดานิเอเล่ โบเนร่า (ปาร์ม่า), มาร์โก มาร์คิออนนี่ (ปาร์ม่า), ฟรังโก้ เซมิโอลี่ (คิเอโว่) หมายเหตุ : รายชื่อที่ขีดเส้นใต้คือนักเตะที่คาดว่าจะเป็น 11 ตัวแรก แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 49 13:00:23 จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 12:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 15 มาชมภาพการแข่งขันกันครับ สองผู้ยิ่งใหญ่แห่ง มิลาน แบร์ลุสโคนี่ เข้ามานั่งชมเกมข้างๆ กัลเลียนี่ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กาก้า ซัดจุดโทษให้ มิลาน ขึ้นนำ โรม่า ไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 5 จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เขาซัดไปที่มุมซ้าย โดนี่ พุ่งไปถูกทางแต่ไปไม่ถึง จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กาก้า ในมาดผมสั้นได้เฮ ขณะที่ เด รอสซี่ ถึงกับกุมหน้าด้วยความเซ็งสุดขีด จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:02:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วน จิลาร์ดิโน่ ที่ตามมาข้างๆ ทำหน้าเฉยๆ สงสัยจะเขินตัวเองที่ล้มง่ายไปหน่อย จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 20 คูเฟร สกัดบอลก่อนที่ จิลาร์ดิโน่ จะได้เล่น จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:02:40 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เด รอสซี่ บู๊แย่งบอลกับ จิลาร์ดิโน่ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ต๊อตติ กับ กัตตูโซ่ หันก้นชนกัน หาบอลไม่เจอทั้งคู่ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:03:16 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จิลาร์ดิโน่ เทคตัวเหนือ เม็กแซส ในจังหวะเล่นลูกกลางอากาศ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เนสต้า กับ กัตตูโซ่ ช่วยกันสกัดกั้นเกมรุกของ ต๊อตติ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 จังหวะดวลกันระหว่าง เนสต้า และ ต๊อตติ มีบ่อยครั้งในเกมนี้ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อันเชล็อตติ ออกแอ็กชั่นสั่งการลูกทีมที่ข้างสนาม จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:05:21 ]

ความคิดเห็นที่ 27 วันนี้ ปิ๊ปโป้ พลิ้วดีจริงๆ แต่ เม็กแซส ก็สุดยอดไม่แพ้กัน แต่กลับหลุดทีมชาติซะงั้น จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ปิ๊ปโป้ ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายทีมหมาป่าได้ แต่ล้ำหน้าไปก่อน และ โดนี่ ก็ไม่เล่น จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:06:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แซร์จินโญ่ ตั้งป้อมเตรียมหวดบอลโดยมี ต๊อตติ พุ่งเข้ามาบล็อก จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:06:25 ]

ความคิดเห็นที่ 30 กัตตูโซ่ บู๊ในแดนกลางกับ เด รอสซี่ คู่แข่งในทีมชาติได้สูสีกันมากทีเดียว จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ช่วงนาทีสุดท้าย มิลาน มาได้ลูกจุดโทษจากการที่ โบโว่ ไปดึง จิลาร์ดิโน่ อย่างชัดเจน ถึงขนาดที่ โบโว่ ถูกไล่ออก ทำเอาเจ้าตัวอึ้งไปเลย ขณะที่ เม็กแซส แสดงความไม่เห็นด้วยกับใบแดงของ โบโว่ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:07:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อโมโรโซ่ ฉลองประตูแรกในเสื้อ มิลาน หลังซัดจุดโทษในนาทีสุดท้ายให้ มิลาน ขึ้นนำ 2-1 จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คาฟู เพื่อนร่วมชาติบราซิล เข้ามาสวมกอดแสดงความยินดีกับ อโมโรโซ่ จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 34 กาก้า กับ จิลาร์ดิโน่ ตามมาแจมดีใจกับ อโมโรโซ่ ด้วย จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:07:55 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ต๊อตติ เกมนี้ยังไม่ฟิตเต็มร้อย โดยรวมเลยไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 กาก้า ปรบมือขอบคุณแฟนบอลหลังจบเกม จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:08:33 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สำหรับ รุย คอสต้า ไม่รู้จะเป็นเกมสุดท้ายของเขากับ มิลาน หรือเปล่า ตามข่าวกันต่อไป จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ปิดท้ายด้วยภาพของ เชฟเชนโก้ เข้ามานั่งชมเกมนี้โดยนั่งรวมอยู่กับกลุ่มแฟนบอลเลย จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เชว่า จะย้ายทีมเพื่อทิ้งภาพประทับใจแบบนี้ได้ลงคอหรือ ผมหวังว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น ในฐานะแฟนบอลเชว่าคนหนึ่ง อยากให้เขาเล่นในอิตาลีต่อไปครับ สำหรับ โรม่า เริ่มต้นกันใหม่ฤดูกาลหน้า หวังว่าคงจะไม่ขายใครออกไปเช่นกัน รีวิวในฤดูกาลนี้หมดแล้วครับทั้ง 56 นัด รอสรุปเป็น season review อีกครั้ง ประมาณไม่เกินสัปดาห์หน้าครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอด Forza Roma .....  Forza Totti ..... จากคุณ : il giallorossi - [ 16 พ.ค. 49 13:12:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อดเห็น ต๊อตติ ใน UCL ฤดูกาลหน้าเลย... จากคุณ : Anduril - [ 16 พ.ค. 49 13:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล และภาพ แต่ผมแปลกใจที่กรรมการไม่ให้จุดโทษกับโรม่าที่เนสต้าทำแฮนด์บอลจริงๆ ลูกโดนแขนจะแจ้งมากขนาดนั้น จากคุณ : LiTtLe miLAnEllO - [ 16 พ.ค. 49 13:48:35 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ........ถ้าต๊อตติไม่เจ็บซะก่อนน่าได้ไปแน่นอนครับ    แต่ฟอร์มก่อนเจ็บของต๊อตตินี่ ใกล้สุดยอดแล้ว จากคุณ : ton4fm - [ 16 พ.ค. 49 13:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 43 กำลังรอลุ้นผลสอบล้มบอลอยู่ เผื่อผลสรุปเป็นใจส่งให้ได้ไป UCL ครับ จากคุณ : giannini - [ 16 พ.ค. 49 14:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดูแล้วเซ็งแทนโรม่า  สองจุดโทษของมิลานนี่มันไม่ได้จะแจ้งสักลูกเลย ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกัน ลูกที่เนสต้าทำแฮนด์บอลก็ต้องเป็นจุดโทษ จากคุณ : maezono_no7 - [ 16 พ.ค. 49 14:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอแสดงความเสียใจจากแฟนมิลานมา ณ ที่นี้ด้วย -_-" จากคุณ : The Red - [ 16 พ.ค. 49 15:23:15 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แล้วข่าวเรื่อง ยูเว่  จริงรึป่าวคะ  ที่ว่าถ้าผลสอบเปนจริงอาจถูกปรับตกชั้น และสิทธิ์ ucl อ้ะค่ะ ถ้าจริงอาจมีส้มหล่นได้นะคะ จากคุณ : วัฌชา - [ 16 พ.ค. 49 18:49:26 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณทุกความเห็นครับ คืนนี้รอลุ้นกัน ใครจะเป็นจ้าวยุโรป ..... จากคุณ : il giallorossi - [ 18 พ.ค. 49 01:18:42 ]