ความคิดเห็นที่ 8
วงกิ๊ฟไม่มีในกีฬากอล์ฟ
แชมป์ที่พัตไม่จบหลุม ควรนำถ้วยไปคืนชมรมเสีย
นักกอล์ฟไทยร้อยละ 80 ทำผิดกฎกอล์ฟอย่างร้ายแรง โดยไม่เข้าใจในเรื่องการพัตไม่จบหลุม บางกลุ่มใช้วิธีการให้โดยใช้พัตเตอร์วัด พัตเตอร์ใครยาวหน่อยก็จะได้เปรียบพัตเตอร์ที่สั้นกว่า ก่อให้เกิดข้อขัดแย้งขึ้นบ่อยๆในหมู่นักกอล์ฟ หลายสนามหลายชมรมใช้วิธีตีวงกิ๊ฟ วงกิ๊ฟมีขนาดรัศมี 50 -75 ซม.แล้วแต่ว่าชมรมหรือสนามกอล์ฟจะเลือก ถ้านักกอล์ฟฝีมือดีหน่อยก็วงเล็ก ถ้านักกอล์ฟด้อยฝีมือก็วงใหญ่ๆรีบๆจบ โดนตกลงกันเองว่า ถ้าลูกกอล์ฟเข้าไปอยู่ในวงถือว่า ไม่ต้องพัตต่อ บวกอีก 1 แต้มแล้วไปทีออฟได้เลย ท่านที่ได้รับถ้วยรางวัลแข่งขันทุกท่านที่พัตไม่จบ ขอแนะนำให้ท่าน รีบนำถ้วยรางวัลเหล่านั้นไปคืนให้ชมรมเสีย เพราะท่านได้ละเมิดกฎกอล์ฟอย่างร้ายแรง ถ้วยที่ได้รับมาเป็นชัยชนะที่ไม่บริสุทธ์ มีมลทิน ถ้าลูกหลานที่ศรัทราท่าน ทราบประวัติความเป็นมาของถ้วยแต่ละใบ อาจจะสิ้นศรัทราก็เป็นไปได้
กฎกอล์ฟสากลที่รับรองโดย R&A และ USGA ซึ่งมีสมาชิก 128 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย กฎข้อแรก ข้อ 1-1 ระบุไว้ว่า กีฬากอล์ฟ เป็นการเล่นลูกหนึ่งลูกด้วยไม้กอล์ฟ จากแท่นตั้งทีไปลงหลุม โดยการตีหนึ่งครั้ง หรือหลายครั้งต่อเนื่องกันตามกฎข้อบังคับ หมายควาว่า การเล่นกอล์ฟไม่ว่าจะแข่งขันหรือไม่แข่งขันก็ตาม ต้องเล่นจนจบหลุม ถ้าตีทีเดียวลงหลุมเราเรียกกันว่า โฮล-อิน-วัน ตีต่ำกว่าที่กำหนดลงหลุม เรียกกันว่า เบอร์ดี้ ตีเท่ากับที่กำหนดลงหลุม เรียกกันว่า พาร์ หรือตีเกินกว่าที่กำหนดลงหลุม เรียกว่า โบกี้ เป็นต้น จะเห็นได้ว่ากีฬากอล์ฟต้องพัตจนจบหลุม ที่องค์กรกอล์ฟโลก ประกาศเป็นเจตนารมณ์ชัดเจน ในกฎกอล์ฟข้อแรก ไม่ว่าท่านจะเล่นหรือแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ หรือแบบแมทช์เพลย์ก็ต้องพัตจนจบ ทั้ง 2 รูปแบบ
มีคำถามตามมาว่า เห็นการถ่ายทอดการแข่งขันแบบแมทช์เพลย์ทางโทรทัศน์ มีการกิ๊ฟให้ กันจะเป็นการขัดต่อกฎข้อที่ 1-1 หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ขัด เพราะกฎข้อ 1-1 ตีหนึ่งครั้ง หรือหลายครั้งต่อเนื่องกันตามกฎข้อบังคับ แต่การแข่งขันแบบแมทช์เพลย์คิดผลแพ้ชนะเป็นหลุมต่อหลุม ตามกฎข้อ2-4 ระบุถึงการเล่นแบบแมทช์เพลย์ว่า การยอมให้แต้มต่อไป ยอมแพ้ในหลุม หรือยอมแพ้ในแมทช์ หมายความว่า ฝ่ายตรงข้ามอาจยอมให้ในแต้มต่อไปได้ ต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามให้เท่านั้น ผู้เล่นจะให้ตัวเองไม่ได้ หรือให้ฝ่ายเดียวกันไม่ได้ ข้อสำคัญ ไม่มีวงกิ๊ฟในแมทช์เพลย์อย่างเด็ดขาด
แล้วในการเล่นแบบสโตรกเลย์ มาร์เกอร์ หรือเพื่อนร่วมกลุ่มกิ๊ฟให้ได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะการแข่งขันแบบสโตรกเพลย์คิดแต้มรวมตามรอบที่กำหนด เช่น ทั้ง 18 หลุม และมีกฎกอล์ฟข้อ 3-2. การไม่เล่นให้จบหลุม เกี่ยวกับการเล่นแบบสโตรกเพลย์ ระบุว่า ถ้าผู้เข้าแข่งขันไม่เล่นให้จบในหลุมใดก็ตาม และไม่แก้ไขความผิดพลาดให้ถูกต้อง ก่อนทำการตีบนแท่นตั้งทีของหลุมต่อไป หรือก่อนออกจากกรีนของหลุมสุดท้ายของรอบที่เล่นนั้น ผู้เข้าแข่งขันถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน ความหมายก็คือ การเล่นกอล์ฟ ต้องตีลูกจากแท่นตั้งทีจนลงหลุม หากเผลอหยิบลูกขึ้นไปก่อนลงหลุม วิธีแก้ไขง่ายๆก็คือ ต้องนำลูกกลับมาไว้ที่เดิม แล้วพัตจนจบ ปรับโทษตัวเอง 1 แต้มที่ทำลูกอยู่ในการเล่นให้เคลื่อนที่ ตามกฎข้อ 18-2 ในการเล่นแบบสโตรคเพลย์ หากไม่แก้ไขให้ถูกต้อง แล้วไปทีออฟหลุมถัดไป มีโทษถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน
ชมรมผู้ตัดสินกอล์ฟไทย มีแผนรณรงค์เผยแพร่ให้วงกิ๊ฟหมดจากประเทศไทยภายใน 10 ปี ปัจจุบันชมรมกอล์ฟ และสนามกอล์ฟหลายแห่ง ได้ตีวงกิ๊ฟให้นักกอล์ฟที่มาเล่น หรือแข่งขัน โดยเฉพาะวันหยุดราชการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดกฎกอล์ฟอย่างร้ายแรง สนามกอล์ฟมีอาชีพกอล์ฟโดยตรงไม่ควรที่จะกระทำการผิดอุดมการณ์กอล์ฟเสียเอง และจะเป็นการสร้างความเข้าใจผิดๆต่อนักกอล์ฟทั่วไปว่า กีฬากอล์ฟไม่พัตจนจบก็ได้ จะเป็นตัวอย่างไม่ถูกต้องต่อเยาวชนของชาติ รัฐบาลโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ใช้งบประมาณมหาศาลโฆษณาเชิญชวนนักกอล์ฟต่างชาติ เข้ามาเล่นกอล์ฟในประเทศไทย แต่มาพบกับความไม่มาตรฐานในการตีวงกิ๊ฟ จะเป็นการเสียภาพพจน์ของประเทศ การที่ส่งเสริมให้นักกอล์ฟเล่นอย่างผิดกฎ จะเป็นผลส่งให้นักกอล์ฟละเมิดมารยาทมากขึ้น
ได้มีการสำรวจสอบถามนักกอล์ฟสมัครเล่นประมาณ 1,000 คน ส่วนใหญ่ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้กฎกอล์ฟข้อนี้มาก่อน แคดดี้และเพื่อนนักกอล์ฟสอนว่า ถ้าโปรแข่งต้องพัตจนจบ ทีมชาติต้องพัตจบหลุม แต่ถ้าแข่งชมรมหรือเล่นกันเอง กิ๊ฟได้ สำรวจสอบถามสนามกอล์ฟกว่า 80 แห่งว่า ทราบกฎกอล์ฟข้อนี้หรือไม่ มากกว่าครึ่งตอบว่า ทราบ แต่เป็นเพราะชมรมกอล์ฟต้องการ สอบถามชมรมกอล์ฟกว่า 40 ชมรมว่า ทราบกฎกอล์ฟข้อนี้หรือไม่ มากกว่าครึ่งตอบว่า ทราบ แต่เป็นเพราะสนามกอล์ฟต้องการรีบให้นักกอล์ฟจบเร็วๆ ถึงกับกำหนดเป็นฟังค์ชั่นว่า ต้องการวงกิ๊ฟขนาดเท่าใด ทั้ง 2 ฝ่ายอ้างว่า รู้กฎกอล์ฟเป็นอย่างดี แต่ยังติดขัดเพียงพื่อให้นักกอล์ฟจบเร็วๆเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงการพัตจบว่า เป็นอุดมการณ์ของกีฬากอล์ฟ ไม่ให้โอกาสนักกอล์ฟได้สัมผัสกับจุดสุดยอดของเกมกอล์ฟ ได้ถามต่อไปว่า ในเมื่อรู้ว่าทำผิดกฎอย่างร้ายแรง จะช่วยกันแก้ไขให้ถูกหรือไม่ ชมรมกอล์ฟส่วนใหญ่ตอบตกลง สนามกอล์ฟส่วนหนึ่งพร้อมแก้ไข แต่อยู่ที่ชมรม แต่ยังเกรงว่ามีผลกระทบต่อยอดขายในวันหยุดราชการ
กอล์ฟการกุศล ตัวทำลายอุดมการณ์ของกีฬากอล์ฟ การจัดกอล์ฟที่หาเงินโดยอ้างการกุศล ขายทีมละ 30,000 50,000 บาท ขายทีมเต็มที่ร่วม 50 ทีม จำนวนนักกอล์ฟกว่า 200 ชีวิตอัดแน่นในสนามกอล์ฟ โดยไม่คำนึงถึงการจิตใจของนักกอล์ฟที่มาร่วมการกุศลแม้แต่น้อย คำนึงถึงแต่รายได้ด้านเดียว ด้วยเกรงว่าจะไม่จบจึงสั่งทางสนามให้ตีวงกิ๊ฟใหญ่ที่สุด ใช้กีฬากอล์ฟหารายได้ควรปฏิบัติตามกฎข้อบังคับกีฬากอล์ฟสักนิด ขอถ้วยรางวัลจากผู้หลักผู้ใหญ่ ควรให้ความเคารพแก่ผู้ใหญ่ที่ให้ถ้วยรางวัลมา อย่าไปดูถูกท่านว่าไม่มีความรู้เรื่องกฎกอล์ฟ ขอถ้วยมาแล้วจะจัดการแข่งขันผิดๆอย่างไรก็ได้เพราะท่านไม่รู้เรื่อง
แนวทางแก้ไข
1. เจาะหลุมง่ายๆ ในวันที่มีนักกอล์ฟเล่นมาก เจาะกลางกรีนที่มีพื้นที่ราบเรียบ
2. นักกอล์ฟที่พัตเข้าระยะ 1 พัตเตอร์ สามารถขอพัตจบได้ตามกฎข้อ 22
3. การพัตจนจบบ่อยๆ จนเกิดความเคยชิน จะไม่เกิดความล่าช้า
4. ปรับระยะการเล่นให้เหมาะสมในวันที่มีนักกอล์ฟมาก
5. กอล์ฟการกุศลไม่ควรขายเกิน 40 ทีม
วงการกอล์ฟจะพัฒนา ต้องได้รับความร่วมมือจากสนามกอล์ฟเป็นอันดับแรก ชมรมกอล์ฟและGolf Organizer เป็นลำดับถัดมา และนักกอล์ฟไทยยุคพัฒนาทุกท่าน หากเป็นดั่งนี้แล้ว วงกิ๊ฟคงจะหมดจากประเทศไทยก่อน 10 ปี อย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก http://www.a-classgolf.com สำหรับการแข่งขันของชมรมกอล์ฟธรรมศาสตร์(T.U.Golfclub) ไม่มีวงกิ้ฟ ทุกคนต้องพัตจนลูกลงหลุม
จากคุณ :
T.U.Golfclub (ปากหวานใจดี)
- [
6 มิ.ย. 49 09:51:41
]
|
|
|