CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    +-+-+-+ [อัซซูรี่สวัสดีเยอรมัน] Review Semi-Final Match อิตาลี 2 - 0 เยอรมัน : ก็บอกแล้ว เราทำได้ ... +-+-+-+

    ไม่ใช่ว่าจะอู้นะ แต่ว่าไม่ได้ใช้คอมฯ มา 2 วันหลังจากจบแมตช์รอบรองฯ อิตาลี - เยอรมันเลย (ไม่ได้ทายผลคู่โปรตุเกส - ฝรั่งเศสด้วย ไม่งั้นตอนนี้ 4,000 ล้านแล้ว เสียดายๆ) มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา (ใครสนฟะ 555) ...

    เกมนี้ลิปปี้ยึดระบบการเล่น 4-4-1-1 อีกครั้ง หลังจากที่ประสบผลสำเร็จในเกมรอบก่อนรองฯ กับยูเครนมาแล้ว โดยมีมาเตราซซี่ที่พ้นโทษแบนกลับมายืนเป็นเซนเตอร์คู่กับคันนาวาโร่ ส่วนอีก 10 คนยังคงมาจากนัดก่อน ...

    - - - - - - - - - - - - - - - - - Buffon - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    - - - Zambrotta - - - Cannavaro - - - Materazzi - - - Grosso - - -
    - - - - Camoranesi - - - Gattuso - - - - Pirlo - - - - Perrotta - - - -
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Totti - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    - - - - - - - - - - - - - - - Toni - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    เริ่มเกมเป็นอิตาลีที่ได้ทักทายก่อนจากฟรีคิกระยะกว่า 30 หลาของต๊อตติ แต่เลห์มันน์ก็คว้าเอาไว้ได้ จากนั้นอิตาลีก็น่าจะทำประตูได้จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของแปร์ร็อตต้า แต่เลห์มันน์ก็ออกมาขวางทางยิงได้อีกครั้ง เยอรมันได้โอกาสครั้งแรกเมื่อลาห์มเปิดมาให้จากฝั่งซ้าย โพดอลสกี้ยิงเต็มข้อแบบไม่จับ แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล นาทีที่ 31 เป็นอิตาลี่ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อกรอสโซ่เปิดจากฝั่งซ้ายเข้ากลางมาให้โทนี่ได้ยิง แต่เมตเซลเดอร์สกัดออกหลังไปได้ทัน หลังจากนั้นเยอรมันก็พลาดโอกาสทองในการทำประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดายเมื่อโพดอลสกี้ไหลบอลต่อไปให้ชไนเดอร์หลุดขึ้นมายิงโล่งๆ แต่กลับยิงข้ามคานออกไปอย่างหวุดหวิด จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0 - 0 ...

    ครึ่งหลังกลับเป็นเยอรมันที่ทำเกมบุกเข้าใส่อิตาลีได้ดีกว่า และมีโอกาสทำประตูจากทั้งจังหวะของโคลเซ่และโพดอลสกี้ แต่บุฟฟ่อนก็เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เยอรมันส่งชไวน์สไตเกอร์ลงมาเล่นแทนโบรอฟสกี้ ส่วนอิตาลีให้จิลาร์ดิโน่ลงมาเล่นแทนโทนี่ แต่ก็ยังไม่มีทีมใดทำประตูได้ จบเกมจึงเสมอกันไป 0 - 0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ...

    ในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก อิตาลีให้ทั้งยาควินต้าและเดล ปิเอโร่ลงมาเล่นแทนคาโมราเนซี่และแปร์ร็อตต้า ส่วนเยอรมันส่งโอดอนคอร์ลงมาเพิ่มความเร็ว และเป็นอิตาลีที่น่าจะได้ประตูถึง 2 ครั้งจากจังหวะยิงชนเสาของจิลาร์ดิโน่ และยิงชนคานของซามบร็อตต้า ส่วนเยอรมันก็มีลุ้นจากจังหวะโหม่งโล่งๆ ของโพดอลสกี้ แต่ก็ไม่ตรงกรอบ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0 - 0 ...

    ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง เยอรมันส่งไพ่ใบสุดท้ายคือนอยวิลล์ลงมาเล่นแทนโคลเซ่ที่เริ่มหายไปจากเกม และในช่วงท้ายเกมก็เป็นอิตาลีที่มาได้ประตูติดๆ กัน 2 ประตูในนาทีที่ 119 และ 120 จากกรอสโซ่และเดล ปิเอโร่ จบเกมอิตาลีจึงเอาชนะเจ้าภาพเยอรมันไปได้อย่างสนุก 2 - 0 พร้อมทั้งเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ส่วนเยอรมันก็ต้องไปชิงอันดับที่ 3 กับผู้แพ้ระหว่างโปรตุเกสหรือฝรั่งเศส (ซึ่งก็คือโปรตุเกสนั่นเอง) ...

    .
    .


    แม้เกมจบไปแล้ว 2 วันแต่ก็ยังมีควันหลงต่างๆ ตามมาอยู่ไม่น้อยทีเดียว ผมว่าแฟนบอลอิตาลีทุกคนเองก็ยังคงตื่นเต้นและดีใจอยู่ไม่หาย ผมเองก็เช่นกัน อย่างว่าแหละครับ พวกเรารอคอยมานานถึง 12 ปี กว่าที่อิตาลีจะได้เข้าไปเล่นในนัดสุดท้ายของทัวร์นาเมนท์อีกครั้ง ...

    รูปเกมในนัดนี้ต้องยอมรับและชื่นชมอิตาลีจริงๆ ว่าเล่นได้ดีมากๆ เล่นได้ตามแท็คติกที่ลิปปี้วางไว้ตั้งแต่ต้นเกมจนจบเกม นักเตะทุกคนทุ่มเทและพยายามมีสมาธิในเกมอยู่ตลอด หากเป็นเมื่อก่อน ผมว่าต๊อตติหรือมาเตราซซี่คงระเบิดอารมณ์ไปแล้ว เมื่อโดนลูกหนักของเยอรมันในหลายๆ จังหวะ แต่ในนัดนี้พวกเขาตั้งใจเล่นบอลอย่างเดียว ไม่มีการเอาคืนอย่างโง่ๆ ให้เห็นเลย เรียกได้ว่าโตเป็นผู้ใหญ่หมดแล้วมั้ง 555 ...

    จริงๆ ก็ไม่อยากแบ่งวิจารณ์ทีละคนนะครับ เพราะคงจะยาว และหลายๆ กระทู้ข้างล่าง ก็ยกนักเตะหลายๆ คนมาชื่นชมไปหมดแล้ว อย่างบุฟฟ่อน , คันนาวาโร่ , ซามบร็อตต้า , ปิร์โล่ 4 นักเตะอิตาลีที่ติด 10 คนสุดท้ายที่มีลุ้นรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนท์ ก็คงอย่างที่แฟนๆ ท่านอื่นได้ว่าไว้ล่ะครับ พวกเขาต่างเป็นแกนหลักของทีมที่พาอิตาลีมาจนถึงเบอร์ลิน แต่นอกจาก 4 คนนี้ก็ต้องชื่นชมผู้เล่นทุกๆ คนที่ช่วยกันเล่นอย่างสุดความสามารถจนอิตาลีได้เข้าชิงชนะเลิศจนได้ ...

    อีกคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ มาร์เชลโล่ ลิปปี้ อิล ชีทีผมสีดอกเลา ผู้นำเกมบุกมาสู่ทีมชาติ หลายปีที่ผ่านมาแฟนบอลอิตาลีต้องทนเห็นทีมเล่นเกมรับมาโดยตลอด แต่ในทัวร์นาเมนท์นี้ ลิปปี้ผสมผสานเกมรุกและรับได้อย่างลงตัว รับก็รับอย่างมีชั้นเชิง รอโอกาสรอจังหวะในการสวนกลับ และก็สำเร็จในหลายๆ นัด (ประตูของอินซากี้ในนัดเจอกับเช็ก หรือประตูย้ำชัยของเดล ปิเอโร่ในนัดที่ชนะเยอรมัน) ต้องยอมรับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วที่เลก้า กัลโช่เลือกลิปปี้ขึ้นมาทำทีมชาติชุดใหญ่ เพราะโค้ชที่เหลืออยู่ คงไม่มีใครมีคุณวุฒิและวัยวุฒิที่เหมาะสมไปกว่าเขาอีกแล้ว (กรุณาอย่าพูดถึงคาเปลโล่ เพราะเดี๋ยวเจ้าของกระทู้จะเสียอารมณ์) ...

    ยังไงก็ต้องชื่นชมเยอรมันด้วยครับ สปิริตในทีมเยอรมันยังมีอยู่เต็มร้อย นัดนี้อิตาลีอาจจะมีทีเด็ดทีขาดที่ดีกว่าจนทำให้ได้รับชัยชนะไป แต่เยอรมันเองก็มีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะได้เหมือนกัน เพียงแต่นัดนี้คงไม่ใช่วันของเยอรมัน ทีมชุดนี้อาจจะไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อคว้าแชมป์บอลโลกครั้งนี้ แต่ต้องยอมรับว่าในอีก 2 ปีข้างหน้ากับทัวร์นาเมนท์ยูโร 08 เยอรมันจะเป็นอีกทีมที่น่ากลัวมากๆ เลยทีเดียว เมื่อนักเตะวัยรุ่นหลายๆ คน มีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นกว่านี้ ยังไงก็เอาใจช่วยให้เอาชนะโปรตุเกสและคว้าอันดับที่ 3 มาครองได้นะครับ อ่อ! แฟนบอลเยอรมันในบอร์ดก็น่ารักทุกคน ต่างก็ออกมายอมรับและแสดงความยินดีกับแฟนอิตาลี ขอบคุณมากครับ แต่ก็จะมีแค่บางคนที่ยังทำใจไม่ได้และแสดงความคิดเห็นแบบเด็กๆ ให้เห็นในหลายๆ กระทู้นะครับ อันนี้ผมก็ไม่อยากจะว่า คิดว่าถ้าเธอทำใจได้แล้ว คงสงบสติอารมณ์และออกมาแสดงความคิดเห็นแบบผู้แพ้ที่ดีได้นะครับ หวังว่างั้น ...

    ในรอบชิงฯ อิตาลีต้องพบกับฝรั่งเศสอีกครั้ง โดยใน 2 ทัวร์นาเมนท์หลังระดับเมเจอร์ที่ทั้ง 2 ทีมพบกัน อิตาลีต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับฝรั่งเศสมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก ฟรองค์ 98 ที่อิตาลีพ่ายจุดโทษให้กับฝรั่งเศสในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หรือ ยูโร 2000 ที่ฝรั่งเศสพลิกกลับมาเอาชนะอิตาลีได้จากประตูโกลเดนโกล์ของเทรเซเก้ต์ ในรอบชิงชนะเลิศพร้อมทั้งคว้าแชมป์ยุโรปไปได้อีกสมัย อย่าถามเลยว่าแฟนบอลอิตาลี (โดยเฉพาะผม) ดีใจขนาดไหนที่เห็นฝรั่งเศสสามารถเอาชนะโปรตุเกสเข้ามาถึงรอบชิงฯ ได้ ความสงสัยจากนัดชิงยูโร 2000 เมื่อ 6 ปีก่อนคงจะได้เวลาสะสางกันอีกครั้งแล้ว ...

    อีกอย่างที่ผมดีใจก็คือในรอบชิงฯ จะมีเด็กยูเว่ลงเล่นถึง 8 คน (บุฟฟ่อน , คันนาวาโร่ , ซามบร็อตต้า , คาโมราเนซี่ , เดล ปิเอโร่ , ตูราม , วิเอร่าและเทรเซเก้ต์) ไม่มีทีมสโมสรใดอีกแล้วที่มีนักเตะลงเล่นในรอบชิงฯ มากถึงขนาดนี้ แม้ว่าหลังจากจบฟุตบอลโลก พวกเขาจะกระจัดกระจายย้ายทีมกันไปเนื่องจากโทษแบนของยูเว่ก็ตามที (หลังจากจบบอลโลกจะมาวิเคราะห์เรื่องนี้กันอีกทีครับ 12 ก.ค. ผลการตัดสินโทษคงออกมาแล้วเราค่อยมาคุยกัน) แต่ผมเชื่อได้เลยว่าไม่ว่ารอบชิงฯ จะจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายใด เราจะเห็นภาพมิตรภาพดีๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ...

    คือถ้าทำกระทู้รีวิวหลังจบเกมใหม่ๆ ผมคงจะมีอะไรพิมพ์มากกว่านี้แหละครับ แต่นี่มันก็ผ่านมา 2 วันแล้ว หลายๆ อย่างที่ผมอยากพิมพ์ผมอาจจะหลงๆ ลืมๆ ไปบ้าง เอาเป็นว่าไว้ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ผมจะมาปรีวิวเกมรอบชิงฯ อีกครั้ง โดยกระทู้นั้นจะเป็นกระทู้ที่ตั้งใจทำอย่างมากๆ เลยทีเดียว ถ้ามีเวลาก็ติดตามอ่านกันได้ครับ ขอบคุณครับ ...

    Forza Italia Forza Azzurri !!! ... f_italy

    จากคุณ : pinturicchio boy - [ 6 ก.ค. 49 22:20:23 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com