ความคิดเห็นที่ 1
รู้ป่ะว่า ...
- ในประวัติศาสตร์ อิตาลีและฝรั่งเศสเคยเจอกันมาแล้วทั้งหมด 32 ครั้ง อิตาลีชนะ 17 ครั้ง และฝรั่งเศสชนะ 7 ครั้ง เสมอกันไป 8 ครั้ง ...
- การพบกันครั้งล่าสุดของทั้ง 2 ทีมคือเกมรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2000 เมื่อ 6 ปีก่อน ที่อิตาลียิงนำไปก่อนจากเดลเว็คคิโอ แต่ฝรั่งเศสกลับมาเอาชนะไปได้จากการยิงประตูของวิลตอร์และโกลเด้นโกล์สุดแสบของเทรเซเก้ต์ ...
- ฝรั่งเศสได้แชมป์โลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อ 8 ปีก่อนที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ ...
- อิตาลีเองก็คว้าแชมป์โลกมาแล้วถึง 3 สมัยจากการเข้างชิงฯ 5 ครั้ง คือในปี 1934 , 1938 และ 1982 ...
- อิตาลีไม่แพ้ใครมา 24 นัดติดต่อกันแล้ว ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1939 โดยเกมล่าสุดที่พวกเขาแพ้ก็คือเกมที่เจอกับสโลวีเนีย เมื่อ 9 ต.ค. 2004 ...
- 11 ประตูที่อิตาลีทำได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ มาจากผู้เล่นถึง 10 คน เท่ากับสถิติเดิมที่ฝรั่งเศสเคยทำไว้ในปี 1982 มีเพียงลูก้า โทนี่เพียงคนเดียวที่ทำ 2 ประตู ...
- อิตาลีมีโอกาสเป็นเจ้าของสถิติคลีนชีตทีมใหม่ในฟุตบอลโลกที่จำนวน 6 นัด หากไม่เสียประตูให้กับฝรั่งเศสในนัดชิงชนะเลิศ และจะยังเป็นการทาบสถิติไม่เสียประตูติดต่อกันมากที่สุดจำนวน 5 นัดอีกด้วย ...
- หากเกมนี้จานลุยจิ บุฟฟ่อน ไม่เสียประตู จนถึงนาทีที่ 65 เขาจะทำลายสถิติเก่าที่วอลเตอร์ เซ็งก้า นายทวารรุ่นพี่ที่เคยทำไว้ในฟุตบอลโลกปี 90 โดยขณะนี้บุฟฟ่อนไม่เสียประตูติดต่อกันมาแล้ว 453 นาที ส่วนสถิติของเซ็งก้าอยู่ 517 นาที ...
- ส่วนฟาเบียง บาร์กเตซ ก็มีสิทธิ์เป็นผู้รักษาประตูที่มีสถิติคลีนชีตดีที่สุดในฟุตบอลโลก หากไม่เสียประตูให้กับอิตาลีในเกมนี้ โดยปัจจุบัน เขาเป็นสถิติร่วมกับปีเตอร์ ชิลตัน ที่ทำไว้ 10 นัดระหว่างปี 1982 - 1990 ...
- มาร์เชลโล่ ลิปปี้ ใช้งานผู้เล่นอิตาลีชุดนี้ถึง 21 คน มีเพียง อันเจโล่ เปรุซซี่และมาร์โก อเมเลีย 2 ผู้รักษาประตูสำรองเท่านั้นที่ยังไม่มีโอกาสลงสนาม ส่วนบุฟฟ่อนและคันนาวาโร่ เป็น 2 ผู้เล่นที่ได้ลงสนามให้กับอิตาลีครบทุกนาทีในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ...
- บาร์กเตซ , กัลลาส , มาเกเลเล่ , ซาญอลและตูราม ก็เป็น 5 ผู้เล่นของฝรั่งเศสที่ได้ลงสนามครบทุกนาทีในฟุตบอลโลกครั้งนี้เช่นกัน ส่วน 5 ผู้เล่นของฝรั่งเศสที่ยังไม่ได้ลงเล่นเลยแม้แต่นาทีเดียวก็คือ บูมซง , ล็องโดร้ , ชิเว่ต์ , กูเป้ต์และชิมบงด้า ...
- เกมนัดนี้ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กัปตันทีมของอิตาลีจะลงสนามในนามทีมชาติเป็นเกมที่ 100 เป็นรองเพียงแค่ เปาโล มัลดินี่ (126 นัด) และดิโน่ ซอฟฟ์ (112 นัด) และเขาจะขึ้นรับถ้วยฟีฟ่า เวิลด์ คัพจากมือของเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่าหลังจบการแข่งขัน อิอิ ...
- ประตูของอองรีในนัดที่ฝรั่งเศสพบกับบราซิล ส่งผลให้เขาทำสถิติยิงประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้กับฝรั่งเศสแซงหน้า มิเชล พลาตินี่ ไปเรียบร้อยแล้วที่จำนวน 6 ประตู ...
- ยูเวนตุส ตูริน คือสโมสรที่มีผู้เล่นอยู่ในเกมรอบชิงชนะเลิศมากที่สุดจำนวน 8 คน คือ บุฟฟ่อน , คันนาวาโร่ , ซามบร็อตต้า , คาโมราเนซี่ , เดล ปิเอโร่ ของอิตาลี และตูราม , วิเอร่า , เทรเซเก้ต์ ของฝรั่งเศส (ทีมมันเก่งก็เงี้ย เอิ๊กๆ) ...
- อิตาลีและฝรั่งเศส เป็น 2 ทีมที่มีนักเตะถูกเสนอชื่อชิงรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำทัวร์นาเมนต์มากที่สุดที่ 4 และ 3 คนตามลำดับ ขณะที่ในลิสต์ 23 ผู้เล่นของทีมยอดเยี่ยม ก็มีผู้เล่นของอิตาลีอยู่ถึง 7 คน และฝรั่งเศสอีก 4 คนด้วยกัน ...
- ไม่ว่าทีมใดจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ ก็จะนับเป็นแชมป์ที่มีค่าเฉลี่ยอายุนักเตะสูงที่สุดนับจากบราซิลชุดแชมป์เมื่อปี 1962 (30.1 ปี) โดยค่าเฉลี่ยอายุของฝรั่งเศสอยู่ที่ 29.8 ปี ซึ่งถือว่ามากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วย ส่วนอิตาลีอยู่ที่ 28.3 ปี ...
- ฟาบิโอ กรอสโซ่ , จานลูก้า ซามบร็อตต้า , เจนนาโร่ กัตตูโซ่และเมาโร คาโมราเนซี่ ของอิตาลี จะติดโทษแบนในเกมรอบคัดเลือกยูโร 2008 นัดแรก หากเกมนี้พวกเขาได้รับใบเหลืองเพิ่มอีกใบ เช่นเดียวกับ ปาทริค วิเอร่า , ฟร็องค์ ริเบรี่ , ซีเนอดีน ซีดาน , วิลลี่ ซาญอลและลิลิยอง ตูรามของฝรั่งเศส แต่ก็นั่นแหละ ใครจะไปสน ...
จากคุณ :
pinturicchio boy
- [
9 ก.ค. 49 15:30:11
]
|
|
|