ความคิดเห็นที่ 1 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซูปเปอร์สตาร์ไทยในเวียดนาม กับลูกสาววัยน่ารัก จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ความรุ่งเรืองเมื่อวันวาน             ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี พ.ศ.2530 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฟุตบอลคือกีฬายอดฮิตของคนไทย ด้วยผลงานที่สมาคมฟุตบอลฯยังคงปลาบปลื้มมาจนทุกวันนี้ คือการคว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ที่ประเทศจีน แต่ผลงานหลังจากนั้นเริ่มตั้งแต่ระดับซีเกมส์ ทีมชาติไทยเริ่มสั่นคลอน หลังต้องเผชิญกับทีมฟุตบอลของประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่ง เวียดนาม ที่พัฒนาทีมของตนเองจนสามารถสู้กับไทยได้อย่างสูสี             ในอดีตบรรยากาศของการแข่งขันระดับฟุตบอล คิงส์คัพ แฟนบอลชาวไทยต่างพากันเบียดเสียดยัดเยียดจนสนามศุภชลาศัยแทบแตก ทุกคนต่างมุ่งหวังเข้าไปดูลีลาของซูเปอร์สตาร์อย่าง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, อรรถพล บุษปาคม, รณชัย สยมชัย, วรวรรณ ชิตะวณิช หรือแม้กระทั่ง สุรัก-สุทิน ไชยกิตติ             อย่างไรก็ตามแม้ว่านักฟุตบอลไทยในช่วงนั้นจะได้รับยกย่องว่ามีฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์มากหากเทียบกับบรรดาพ่อค้าแข้งไทยในปัจจุบัน แต่ก็มีส่วนน้อยที่จะมีโอกาสได้ไปค้าแข้งในต่างประเทศ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการติดต่อสื่อสารและการเดินทางยังคงไม่สะดวก จึงมีเพียงนักเตะไม่กี่คนที่มีโอกาสไปโชว์เพลงแข้งยังต่างแดน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ที่ออกไปเล่นให้กับลัคกี้ โกลด์ สตาร์ ทีมในเกาหลีใต้จนกลายเป็นขวัญใจคนเกาหลีไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับสโมสรปาหังในมาเลเซียอีกระลอก             ปัจจุบันนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในอดีตหลายคนก็ผันตนเองจากผู้เล่นกลายเป็นผู้ฝึกสอน และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ดังเช่น วรวรรณ ชิตะวณิช ที่พิสูจน์ความสามารถพาทีม แทมปิเนส ซึ่งมีนักเตะไทยอย่าง โชคทวี พรหมรัตน์ และ สันติ ไชยเผือก คว้าแชมป์เอสลีกได้สำเร็จ พร้อมกับตำแหน่งผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำปีของลีกสิงค์โปร์ ด้วย จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:15:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ค่าเหนื่อยยั่วยวน 'เอสลีก'และ 'วีลีก' แหล่งขุดทองแข้งไทย             เมื่ออยู่ในบ้านตัวเองรายได้แทบจะไม่พอยาไส้ นักเตะซูเปอร์สตาร์หลายรายก็เริ่มหันไปมองความท้าทายจากลีกต่างแดน โดยเฉพาะบ้านใกล้เรือนเคียงที่ชื่นชอบฝีเท้านักเตะไทยมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความสามารถเฉพาะตัวที่นักเตะของเขาไม่มี ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาลีกอาชีพอย่างจริงจัง ทำให้สโมสรฟุตบอลในสิงคโปร์ และเวียดนาม ยอมทุ่มค่าจ้างเรือนแสนให้นักฟุตบอลไทยได้ไปโชว์ฝีเท้าในลีกฟุตบอลของเขา ในขณะที่สโมสรของบ้านเราเองไม่มีปัญญา             สำหรับพ่อค้าแข้งในยุคแรกที่เข้าไปขุดทองในลีกฟุตบอลประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เอ็มลีก ของมาเลเซียคือ ตะวัน ศรีปาน ที่เซ็นสัญญากับ เซมบาวัง จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเตะต่างชาติยอดเยี่ยม ขณะที่ สุรชัย จตุภัทรพงศ์, สุธี สุขสมกิจ และ นิเวส ศิริวงค์ เซ็นสัญญากับสโมสรใน เอส ลีก ของสิงคโปร์ ซึ่งทุกคนประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง             โดยเฉพาะ สุรชัย ที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวสิงคโปร์และประธานสโมสรเป็นอย่างมาก ถึงขนาดได้รับการโอนสัญชาติเป็นคนสิงคโปร์เลยทีเดียว ล่าสุดมีนักฟุตบอลไทย ถูกดึงตัวไปเล่นในเอสลีก เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น วรวุธ ศรีมะฆะ และธงชัย อัครพงษ์ สังกัดสโมสร กลันตัน             ปัจจัยหลักที่ทำให้นักฟุตบอลไทย พากันไปค้าแข้งในลีกฟุตบอลประเทศเพื่อนบ้าน คือค่าเหนื่อยที่เมื่อเทียบกับไทยลีกแล้วก็น่าใจหาย เมื่อ สิงคโปร์ ประเทศที่ฟุตบอลไม่ใช่กีฬายอดฮิต โดยนักเตะที่โด่งดังที่สุดมี ฟานดี้ อาหมัด เจ้าชายลูกหนัง สามารถจ่ายค่าแรงให้แก่นักเตะไทยเดือนละหลายแสนบาท แถมยังมีบ้านให้อยู่อย่างถาวร ในขณะที่นักฟุตบอลในไทยลีกจะได้รับค่าตัวสูงสุดราว 4-5 หมื่นบาท แต่ก็มีส่วนน้อยเท่านั้น             ด้าน วี ลีก ซึ่งเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานแต่ด้วยความตั้งใจจริงของรัฐบาลเวียดนาม รวมทั้งความคลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลของคนเวียดนาม ทำให้วีลีก เป็นลีกการแข่งขันฟุตบอลอาชีพที่น่าจับตามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเวลานี้ โดยสโมสรใน วี ลีก ได้รับการสนับสนุนจากทุกด้านจนสามารถจ้างซูเปอร์สตาร์จากเมืองไทยในค่าแรงที่คิดเป็นเงินไทยแล้วกว่าแสนบาท             โดยนักเตะที่ไปสร้างชื่อใน วีลีก เป็นอย่างมากคือ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม คุ้มค่าเหนื่อยเดือนละเกือบสองแสนบาท ระดับค่าจ้างในเวียดนามก็สูงกว่าในเอสลีก สิงค์โปร์อยู่นิดๆ ซึ่งตอนที่ตัดสินใจไปที่นั่น ซิโก้ กล่าวว่า "ไม่ใช่เหตุผลเรื่องเงินอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความท้าทายด้านฟุตบอลด้วย"             ความสำเร็จของยอดกองหน้าทีมชาติไทยผู้นี้ เปรียบเสมือนเป็นใบเบิกทางให้เพื่อนนักเตะชาวไทยอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน และตะวัน ศรีปาน ได้เดินตามรอย โดยสโมสร ฮอง อันห์ ยาลาย ให้ความเชื่อมั่น ถึงขนาดให้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ทำหน้าที่เป็นทั้งแมวมองและพ่อสื่อ ในการจูงมือเพื่อนๆให้ตามไปร่วมเล่นกับเขาที่เวียดนาม             หลังจากนั้นพ่อค้าแข้งจากแดนสยามหลายคนได้เดินตามรอยเท้า "ซิโก้" อีกนับสิบคน อาทิ นิเวส ศิริวงค์, ศักดา เจิมดี, เทิดศักดิ์ ใจมั่น ที่เล่นให้กับ อีสต์ เอเชีย แบงก์ ส่วน อิศวะ สิงห์ทอง, ยุทธจักร ก้อนจันทร์ และ นิรุธ สุระเสียง เล่นให้กับ บินดินห์ ขณะที่สโมสร ฮอง อันห์ ยา ลาย สังกัดเดียวกับ "ซิโก้" ก็มี ดุสิต เฉลิมแสน และ ตะวัน ศรีปาน ที่เพิ่งย้ายมาจากสิงคโปร์ไม่นาน จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:15:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความสำเร็จของทีม แทมปิเนส ซึ่งมีโค๊ชและนักเตะไทย ในเอสลีก จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:18:54 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ นักเตะอาชีพที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของไทย จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 นักเตะไทยสินค้าออกชั้นดีระดับอาเซียน             มีคนเคยกล่าวว่านักเตะไทยถือว่ามีเบสิกดีที่สุดประเทศหนึ่ง เพราะถ้าเทียบกับนักเตะชาติอื่นในแถบอาเซียนด้วยกันแล้ว นักเตะไทยถือว่ามีฝีเท้าเหนือกว่าทุกประเทศในย่านนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่ทั้ง เอส ลีก และ วี ลีก จะทุ่มเงินคว้าตัวผู้เล่นจากแดนสยามไปร่วมทัพ นอกจากนี้แฟนบอลสิงคโปร์และเวียดนามก็มองภาพนักเตะไทยอยู่ในขั้นซูเปอร์สตาร์เลยทีเดียว ดังนั้นการที่สโมสรจากประเทศเหล่านี้ดึงนักเตะไทยไป นอกจากจะทำให้ทีมประสบความสำเร็จแล้ว ยังสามารถดึงดูดความสนใจของกองเชียร์ให้เข้าสนามมากขึ้นกว่าเดิมด้วย             ดังเช่นในกรณีของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่หากยังเล่นในเมืองไทยก็เป็นเพียงนักเตะคนหนึ่งของสโมสรราชประชา และคงไม่มีแฟนบอลรุมล้อมเหมือนตอนเล่นให้กับทีมชาติ แต่พอย้ายไปเล่นที่เวียดนาม "ซิโก้" กลับได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ มีการพาตัวไปแห่แหนรอบเมืองตั้งแต่วันแรกที่เหยียบแผ่นดินเวียดนาม รวมทั้งมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวบนหน้าหนังสือพิมพ์อยู่โดยตลอด             ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพยายามพัฒนาลีกฟุตบอลอย่างเต็มความสามารถ แต่สำหรับไทยลีก หรือ ฟุตบอลถ้วย ก. ในอดีตกลับย่ำอยู่กับที่ เมื่อเป็นเช่นนี้นักฟุตบอลฝีเท้าดีหลายต่อหลายคนจึงตัดสินใจไปขุดทองในเวียดนาม หรือ สิงคโปร์ และส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทีมชาติ ที่ไม่มีนักฟุตบอลฝีเท้าดีให้เลือกใช้งาน เนื่องจากนักฟุตบอลอาชีพหลายคนมักจะติดสัญญากับต้นสังกัดและกลับมาเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อมได้ลำบาก             'ตะวัน ศรีปาน' อดีตมิดฟิลด์เชิงสูงทีมชาติไทยที่เคยไปค้าแข้งอยู่กับ เซมบาวัง และปัจจุบันได้ย้ายมาขุดทองที่ วี ลีก กับ ฮอง อันห์ ยาลาย ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่นดรีมทีมอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน และเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ให้มุมมองอย่างน่าสนใจในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งว่า             "ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า สิงคโปร์ ทำงานอย่างเป็นระบบและเอาจริงเอาจัง โดยจะทุ่มเทกับงานอย่างที่สุด ทุกสโมสรจะมีแผนงานอย่างเป็นระบบ มีการฝึกเยาวชนตั้งแต่อายุ 12 , 14 และ 16 ปีจนถึงชุดใหญ่ นอกจากนี้แต่ละสโมสรก็จะได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ยกตัวอย่างทีม เซมบาวัง ซึ่งถือเป็นทีมเล็กๆ ก็จะได้เงินจากรัฐบาลประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้แต่ละทีมก็ยังสามารถหาสปอนเซอร์จากบริษัทเอกชนได้อีก ซึ่งหากมองกันตามมาตรฐานการเล่นฟุตบอลของสิงคโปร์ ยังสู้นักฟุตบอลไทยไม่ได้ แต่ต่อไปก็เป็นไปได้เหมือนกันที่สิงคโปร์จะก้าวมาทัดเทียมหรืออาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ"             ด้าน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหอกทีมชาติไทย เคยให้สัมภาษณ์ถึงความแตกต่างระหว่างฟุตบอลลีกของไทยกับเวียดนามว่า คงมาจากคนเวียดนามคลั่งไคล้ฟุตบอลมากและรัฐบาลเวียดนามก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ละนัดจะมีแฟนบอลเข้ามาชมกันแน่นสนาม ดังนั้นโอกาสที่ วี ลีก จะพัฒนาไปข้างหน้าก็มีความเป็นไปได้สูง จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:22:58 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กองเชียร์ทีมชาติไทย แต่ไร้บรรยากาศแบบนี้ในบอล ระดับสโมสร จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8       ลีกยุโรปยังเป็นได้แค่ฝัน             แม้นักฟุตบอลไทยจะได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน แต่สำหรับตลาดฟุตบอลในยุโรปแล้ว ชื่อและชั้นของนักฟุตบอลไทยยังถือว่าห่างไกล ที่ผ่านมามีนักเตะไม่กี่คนที่ได้โอกาสไปทดสอบฝีเท้าแต่ก็ไม่สามารถสานต่อความฝันได้สำเร็จ ผิดกับในรุ่นแรกที่มี วิทยา เลาหกุล ซึ่งได้รับโอกาสไปโชว์ฝีเท้ากับทีม แฮร์ธา เบอร์ลิน ในศึกบุนเดสลีกาของเยอรมัน จนทำให้ฝรั่งมังค่ารู้จักพลังแข้งของนักเตะไทยระดับอาชีพเป็นครั้งแรก             ส่วนนักฟุตบอลรุ่นหลังที่ได้โอกาสไปทดสอบฝีเท้าดังเช่น วิทยา ก็มีอย่าง โกวิทย์ ฝอยทอง และ ดัสกร ทองเหลา ซึ่งที่สุดแล้วก็ได้เพียงตำแหน่งในทีมสมัครเล่นเท่านั้น ส่วนที่ฮือฮาคงเป็นกรณีของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งเคยได้รับเชิญจากสโมสร มิดเดิลสโบรช์ และ ฮัดเดอส์ฟิลด์ ทาวน์ ในอังกฤษ ให้ไปร่วมทดสอบฝีเท้า แต่สุดท้ายก็ไม่ผ่านการคัดเลือกเช่นกัน             อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีนักเตะไทยแท้ที่แจ้งเกิดบนเวทีระดับนานาชาติ แต่ในฐานะคนไทยก็ยังมีเรื่องให้น่าภาคภูมิใจอยู่บ้างเพราะอย่างน้อยก็ยังมีพ่อค้าแข้งที่ได้ชื่อว่ามีสายเลือดไทยอยู่ครึ่งหนึ่ง สามารถยึดเกมฟุตบอลเป็นอาชีพได้สำเร็จหลายคนด้วยกัน ยกตัวอย่างก็มี ธีรยุทธ "เจฟฟรีย์" พรหมมายน ลูกครึ่งไทย-เนเธอร์แลนด์ ที่เกิดใน จ.อุดรธานี แต่ย้ายไปอยู่กับครอบครัวในดินแดนกังหันลมตั้งแต่เด็ก สามารถสร้างชื่อด้วยการติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดเยาวชน แถมยังเคยค้าแข้งให้กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เจ้าของแชมป์พรีเมียร์ดัตช์ปีล่าสุด             ครั้งหนึ่งเจฟฟรีย์ ผู้นี้เคยประกาศว่าต้องการรับใช้ทีมชาติไทยประเทศบ้านเกิด แต่ความฝันก็ต้องสลายเมื่อตามกฎของฟีฟ่าไม่อนุญาตให้นักเตะที่เคยติดทีมชาติอื่นๆ ไม่ว่าชุดใดก็ตามไม่สามารถย้ายมาเล่นอีกทีมชาติหนึ่งได้ ปัจจุบัน เจฟฟรี่ย์ กลับมาอยู่เมืองไทยมาเป็นโค้ชให้กับโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ด้วยค่าเหนื่อยเดือนละ 4 หมื่นบาท             อีกคนที่เคยตกเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เมืองไทยก็คือ เจมี่ เวต นายทวารรูปหล่อสังกัด ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด ที่เคยถูกเรียกตัวมาคัดเลือกติดทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน แต่ดูเหมือนฝีมือจะไม่เข้าตาสตาฟโค้ชทีมชาติไทยในขณะนั้น เลยไม่มีโอกาสรับใช้ทีมชาติไทย สำหรับกรณีของ เวต ไม่มีปัญหาสามารถลงเล่นในนามทีมชาติไทยได้ตามกฎเกณฑ์ เนื่องจากหนุ่มวัย 20 ปี รายนี้ เคยลงเล่นในทีมเยาวชนทีมชาติไทยมาก่อนแล้ว             จากผลงานในลีกระดับอาเซียนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านักฟุตบอลไทยไม่ได้มีฝีเท้าด้อยลง แต่ที่ไม่พัฒนาคือระบบการจัดการของสมาคมฟุตบอลไทยที่ยังย่ำอยู่กับปัญหาเดิม ทำให้ทุกวันนี้ฟุตบอลอาชีพในเมืองไทยจึงอยู่ในสภาพที่ไร้คนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอล หรือแม้แต่ตัวนักฟุตบอลเองก็ตาม เมื่อเป็นเช่นนี้จุดหมายปลายทางของวงการฟุตบอลไทยที่คิดไกลไปถึงบอลโลกหรือฟุตบอลลีกอาชีพเพื่อสกัดปัญหา "แข้งไหล" ออกนอกประเทศ คงเป็นแค่เพียงฝันกลางแดดเหมือนเช่นที่ผ่านมา                                                   * * * แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 13:04:23 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รายชื่อนักเตะไทยที่ค้าแข้งต่างแดนในปัจจุบัน             ชื่อ                                สโมสร                               เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง   ฮอง อันห์ ยาลาย      เวียดนาม       ดุสิต เฉลิมแสน             ฮอง อันห์ ยาลาย      เวียดนาม       ตะวัน ศรีปาน               ฮอง อันห์ ยาลาย      เวียดนาม       นิเวส ศิริวงค์                อีสต์ เอเชีย แบงก์     เวียดนาม       ศักดา เจิมดี                 สต์ เอเชีย แบงก์       เวียดนาม       เทิดศักดิ์ ใจมั่น            อีสต์ เอเชีย แบงก์      เวียดนาม       อิศวะ สิงห์ทอง             บินดินห์                    เวียดนาม       ยุทธจักร ก้อนจันทร์     บินดินห์                    เวียดนาม       นิรุธ สุระเสียง              บินดินห์                    เวียดนาม       สุรชัย จตุรภัทรพงศ์     โฮม ยูไนเต็ด             สิงคโปร์       สุธี สุขสมกิจ               โฮม ยูไนเต็ด              สิงคโปร์       โชคทวี พรหมรัตน์       แทมปิเนส โรเวอร์       สิงคโปร์       สันติ ไชยเผือก            แทมปิเนส โรเวอร์       สิงคโปร์       วรวุธ ศรีมะฆะ              กลันตัน                    มาเลเซีย       ธงชัย อัครพงษ์            กลันตัน                มาเลเซีย จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอรูป  ตะวัน  ศรีปาน  บ้างได้ป่ะค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Plakud04 - [ 22 ส.ค. 49 09:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งกว่า สักวัน ฟุตบอลลีกไทย   จะเป็นลีกที่อาชีพ ... ที่คนไทยให้ความสำคัญ   และเชียร์ด้วยหัวใจคนรักฟุตบอล...ตามถิ่นฐานบ้านเกิด  .... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ...ตะวัน...อดีตหมายเลข 10 ทีมชาติไทย ...   "ผมเริ่มต้นจากบอล ระดับ ถ้วย ค. ครับ" จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:36:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เปิดใจ แบน ตะวัน...เบอร์ 10 ทีมชาตืไทย ปัญหาลีกของบอลไทย ส่วนตัวผมคิดว่า บอลลีกของเมืองไทย มันซ้ำซ้อนกัน โดยไทยลีกนั้นก็เตะกันกระจุกในเมืองๆเดียว มันไม่มีแฟนบอลแบบพวกพันธุ์แท้ของแต่ละทีม เป็นทีมบอลจากองค์กร ไม่มีแรงยึดเหนี่ยวให้แฟนบอลได้ผูกพัน ได้ตามเชียร์กันแบบจริงๆจัง คิดว่า บอลรายการโปรลีกนี่แหละมาถูกทางแล้วแต่ก็ยังขาดแรงดึงดูดที่จะให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์ในสนามอยู่ดี ปัญหาใหญ่ๆของบอลลีกไทยก็คือ การจัดการแบบอาชีพและกองเชียร์แบบแฟนพันธุ์แท้ อนาคตของบอลไทย คิดว่าเมืองจะต้องมีลีกที่ได้มารตราฐานเน้นความเป็นอาชีพ มีโรงเรียน - โค้ช - นักวิชาการทางฟุตบอลเข้ามาสอนเด็กรุ่นใหม่ให้มีทักษะทางฟุตบอลแบบจริงๆจังๆ....ส่วนเรื่องนี้ในความคิดของผมมันคงยังต้องใช้เวลาอีกนานครับ เพราะถ้าทางคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้ในบ้านเรายังคงไม่เปิดใจกว้าง ยอมรับในการกระจายของทีมในลีกให้ทั่วประเทศแล้วละก็.....คงยากครับที่ฟุตบอลบ้านเราจะเจริญ อนาคตของตัวเอง คิดว่าจะเล่นให้ต้นสังกัดอีก 1 ฤดูกาล แล้วจะกลับมาทำธุระกิจเล็กๆของตัวเองหรือไม่ก็ไปเป็นโค้ชให้ทีมเยาวชน....ส่วนเรื่องที่จะกลับมาเล่นที่ลีกของบ้านเรานั้น...คงต้องดูความต้องการของทีมและแฟนบอลชาวไทยด้วยนะครับ เพราะต้องยอมรับว่า ฟอร์มการเล่นชองผมเองก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลา... ถ้ายอมรับตรงจุดนี้ได้ก้ไม่มีปัญหาครับ ผมพร้อมที่จะช่วยประคองทีมหรือให้คำแนะนำแก่เด็กรุ่นใหม่ให้..และอยากที่จะให้บอลลีกของบ้านเราเจริญเทียบเท่าของลีกเมืองนอกอยู่แล้วครับ จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:48:27 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:54:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ..... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:55:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ...นัดตะวัน ศรีปาน ยิงให้ไทย ตีเสมอ แมน ยูฯ (นัดกระซับมิตร) จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ..เพื่อนซี้ ผมครับ ... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 09:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Nick Name: BAN Date of Birth : 13 December 1971 Place of Birth: Saraburee Province. Height: 169 cm. Weight: 61 kgs Position: Midfield National Team Shirt No. 10 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:02:22 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เนติพงษ์ ศรีทองอิน ... ...ผมเคย ยืนหน้าคู่ กับ ภานุวัตน์ ยินผัน   วรวุฒิ  คว้าแชมป์สโมสรเอเซีย 2 สมัย กับ ธ.กสิกรไทย.. จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ...เบอร์ 9 ตลอดกาล  ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน...   .... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ...สุธี  สุขสมกิจ  สมัยเล่นให้กับ ธ.กสิกรไทย จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ...ทุ่มเท กับฟุตบอล ... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 นิตยสาร ฟุตบอลสยาม  ปัจจุบันหาซื้อไม่ได้แล้ว... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ...กัปตันทีมชาติไทย เจ้าของเบอร์เสื้อ 12   สุรชัย...จตุรภัทรพงศ์ จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:10:28 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หมายเลข 11 ...ผู้ยิงประตูนัดประวัติศาสตร์ ในเอเซียนเกมส์ ปี 98  นัดพบเกาหลีใต้ ... แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 10:13:38 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:12:23 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ..ผมเคยจับมือ กิกส์ แล้วครับ .. จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ...เสื้อเบอร์ 5  ...โชคทวี พรมรัตน์ ..ยอดปราการหลัง จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:16:17 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ...โรนัลดินโญ่  ผมเคยประทะฝีเท้ากันมาแล้ว      นิรุต .. จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ..อนุรักษ์ ศรีเกิด... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:18:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ...ไม่ยอมให้ไปง่ายๆ หรอก...อึบส์.. จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านเสร็จ พร้อมใจกันตะโกนว่า VJ...... (รับรองไม่โดนรุมตื๊บ) จากคุณ : ศุศศิ - [ 22 ส.ค. 49 10:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นี่ คือโลโก้ ทีมชาติไทย ในปัจจุบัน จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สีเสื้อ ทีมเหย้า - ทีมเยือน ที่ใครๆ หลายคนสงสัย.. ....สถิติ ... เกมต่างประเทศเกมแรก เวียดนามใต้ 3 - 1 ไทย (เวียดนามใต้; ไม่รู้วัน พ.ศ. 2499) ชัยชนะสูงสุด ไทย 10 - 0 บรูไน (กรุงเทพ, ประเทศไทย; 24 พฤษภาคม 2514) พ่ายแพ้สูงสุด อังกฤษ 9 - 0 ไทย (เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย; 26 พฤศจิกายน 2499) เอเชียนคัพ เข้าเล่น 5 (เข้าครั้งแรก 1972) อันดับสูงสุด อันดับ 3 1972 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 o.k.thank u. vote vote.. แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 10:36:49 จากคุณ : kokobig - [ 22 ส.ค. 49 10:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ผมล่ะสงสัยจริงๆครับ อย่างไอเวอร์รี่โคสนี่เขาใช้ตัวหลักในทีมชาติเป็นพวกที่ค้าแข้งต่างประเทศทั้งนั้น แต่กับประเทศเรานี่สิ พอใครไปเล่นต่างประเทศ อนาคตในทีมชาติก็ดับวูบทันที ข้อดีของนักบอลที่ได้ไปเล่นในลีคอาชีพต่างประเทศก็คือพวกเขาจะได้รับการฝึกซ้อมอยู่ตลอด ทำให้ทีความฟิตอยู่เสมอ พอถูกเรียกว่ารวมทีมชาติก็ใช้เวลาในการเตรียมทีมน้อยลงเพราะไม่ต้องมาคอยนั่งเรียกความฟิตอีก ไม่รู้สมาคมชอบอะไรหนักหนากับการเตรียมทีมนานๆ พอพวกนี้มาเตรียมทีมทีล่ะ 2-3 เดือนไม่ได้ก็ตัดเขาจากทีมทันที จากคุณ : I want to change the world - [ 22 ส.ค. 49 10:37:03 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สถิติ ผลงาน ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลโลก ทีมชาติไทยไม่เคยได้ร่วมฟุตบอลโลก พ.ศ. 2474-2513 - ไม่ได้เข้าร่วม พ.ศ. 2517-2549 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก เอเชียนคัพ อันดับสูงสุดของทีมชาติไทยในเอเชียนคัพ ได้อันดับที่ 3 ในปี พ.ศ. 2515 พ.ศ. 2499-2507 - ไม่ได้เข้าร่วม พ.ศ. 2511 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก พ.ศ. 2515 - อันดับ 3 พ.ศ. 2519 - ถอนตัวหลังจากผ่านรอบคัดเลือก พ.ศ. 2523-2531 - ไม่ผ่านรอบคัดเลือก พ.ศ. 2535-2547 - เข้ารอบแรก พ.ศ. 2550 - เข้าร่วมเล่นในฐานะ 1 ใน 4 ทีมเจ้าภาพ ไทเกอร์คัพ ทีมชาติไทยชนะเลิศ ไทเกอร์คัพ 3 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2539 2543 และ 2545 พ.ศ. 2539 - ชนะเลิศ พ.ศ. 2541 - รอบรองชนะเลิศ พ.ศ. 2543 - ชนะเลิศ พ.ศ. 2545 - ชนะเลิศ พ.ศ. 2547 - เข้ารอบแรก จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:41:11 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ดาวรุ่ง ในอดีต ... สวีปเปอร์ : อรรถกร เสนเพ็ง เกือบจะเป็นนักเตะที่ถูกลืมไปแล้ว หลังจากเคยเป็นกองหลังดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งของวงการลูกหนังไทย เมื่อเป็นกัปตันทีมเยาวชนไทย อายุไม่เกิน 17 ปี ไปชิงแชมป์โลกหนแรกในประวัติศาสตร์ ที่อียิปต์เมื่อ 8 ปีก่อน แต่ไม่อาจเบียดขึ้นมาแย่งตำแหน่งตัวจริงในสโมสรบีอีซี เทโรศาสน ได้ ทว่าเมื่อย้ายมาร่วมทีมธนาคารกรุงไทย เขากลายเป็นตัวหลักและฤดูกาล 2546-2547 ที่ผ่านมา เป็นกองหลังที่ปราศจากใบเหลืองใบแดงติดตัว พาทีมเข้าป้ายความแชมป์อย่างยิ่งใหญ่เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน แม้รูปร่างจะเล็ก แต่ "เจ้าแอม" อรรถกร อาศัยการอ่านทางบอล ทำให้เข้าสกัดอย่างได้ผล ทว่าด้วยรูปร่างที่บอบบางทำให้เขาถูกมองข้ามจากกุนซือทีมชาติ จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 38 สตอปเปอร์ : นิเวส ศิริวงศ์ แม้ในทีมชาติไทยเวลานี้ ตำแหน่งของ "เทอร์มิเนเป็ด" นิเวส ศิริวงศ์ จะถูกจับมายืนเป็นกองหลังตัวสุดท้าย แต่สำหรับบทบาทที่เหมาะสมแล้ว เขาน่าจะเป็นตัวชน เพราะเป็นนักเตะที่แข็งแกร่ง เล่นได้ดุดัน ความฟิตเป็นเลิศ ไม่ว่ากองหน้าคู่แข่งจะเล็กหรือใหญ่ ไม่เคยครั่นคร้าม ปัจจุบันเมื่อถูกถอยหลังไปเป็นสวีปเปอร์ ดูจะไม่เหมาะ แต่ภาวการณ์จำเป็นของทีมที่ต้องการตัวเก๋าประคอง เขาก็สามารถทำได้ไม่เลว แม้กับระดับสโมสรจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะอีสต์ เอเชียแบงก์ ตกชั้นจาก วีลีก ไปสู่ ดิวิชั่น 1 และนักเตะไทยถูกยกเลิกสัญญา 2 คน ส่วนเขายังอยู่ต่อ นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใด จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สตอปเปอร์ : รุ่งโรจน์ สว่างศรี แน่นอนเหลือเกินตำแหน่งนี้ ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครมาเกินหน้านักเตะจากเมืองขุนแผน "เจ้าโรจน์" รุ่งโรจน์ สว่างศรี ถือเป็นกองหลังระดับมันสมอง แต่ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวที่ติดเพื่อน ทำให้หลายครั้งเขาปฏิเสธการไปค้าแข้งต่างแดน รวมถึงทีมชาติไทย ทำให้จำนวนแมทช์ติดทีมชาติชุดใหญ่ถึงตรงนี้มีเพียง 19 แมทช์เท่านั้น ทำไมรุ่งโรจน์ จึงติดทีมชุดนี้ คงไม่ต้องอธิบายความสามารถกันมาก ตัดบอลเก่ง อ่านทางบอลเยี่ยม และยังเป็นกองหลังที่สามารถจ่ายบอลปรับเกมจากรับเป็นรุกได้อย่างยอดเยี่ยม จนว่ากันว่า นับตั้งแต่ประเทศไทยขาด นที ทองสุขแก้ว ไป ก็เพิ่งมีเขาคนนี้แหละที่น่าจะเป็นตัวตายตัวแทนได้ไม่ยาก จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 กองหน้า : สุธี สุขสมกิจ เพิ่งจะมีโอกาสสัมผัสตำแหน่ง 11 คนแรกในนามทีมชาติไทยแบบยืนยาว เมื่อสิ้นยุค ปีเตอร์ วิธ และเขาสามารถสำแดงความยอดเยี่ยม จน โฮม ยูไนเต็ด ในเอสลีก ของสิงคโปร์ หวงยิ่งกว่าไข่ในหิน ความเร็วในการกระชากบอลทั้งเปิดและยิงเอง เขาทำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะยกตำแหน่งในกองหน้าให้กับเขา เพราะกองหน้าในประเทศวันนี้หาทำยาได้ยากจริงๆ จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:44:40 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ทีมชาติไทย ชุด ที่ 4 เอเซียนเกมส์ ที่ ปูซาน จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 10:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หมดหวังกับอนาคต ถ้ายังมีสมาคมฟุตบอลแบบนี้และคนแบบนี้ในสมาคม จากคุณ : juapung - [ 22 ส.ค. 49 11:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ปัจจุบันกับ อนาคต ช้างไทย ไปเอฟเวอร์ตัน ... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:07:03 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ...เมื่อไหร่เมืองไทยจะมีคนตั้งใจพัฒนาวงการฟุตบอล   บ้านเราสักทีฟ่ะ ...(เหนื่อยใจ)... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 "คาลอส"เปิดใจก่อนลา บอลไทยไม่รุ่งเพราะ............. ยอมรับว่าเสียใจมากที่ต้องลาประเทศไทยไปก่อนกำหนด ยอมรับว่าทักษะบอลเด็กไทยไม่เป็นรองใครในโลก แต่ขาดเรื่องความมุ่งมั่นและเรื่องการฝึกซ้อมที่ไม่ต่อเนื่อง นักเตะบางคนต้องเรียนหนังสือ ต้องทำงาน ผิดกับบราซิล แม้จะติดเรียนหรือทำงาน แต่ทุกคนต้องมาฝึกซ้อมกับสโมสรช่วงเย็น ขณะวันเสาร์ - อาทิตย์ก็ต้องซ้อมต่อเนื่อง และที่พัฒนาช้าอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องแทคติกฟุตบอล ทำให้เล่นไม่คงที่คงวา บางนัดจะเล่นดี บางนัดก็เล่นไม่ดี ทำให้วงการฟุตบอลไทยไม่พัฒนาเท่าที่ควร” กุนซือชาวบราซิลยังเผยอีกว่า หากจะให้วงการฟุตบอลไทยพัฒนาก้าวขึ้นสู่ระดับโลก สิ่งแรกต้องสร้างบอลอาชีพ วางแผนการเตรียมทีมอย่างเป็นระบบ ไล่ตั้งแต่ระดับเยาวชนไปถึงชุดใหญ่และซ้อมให้ต่อเนื่อง ต้องเป็นแบบมืออาชีพ ถ้าทำได้เชื่อว่าโอกาสที่บอลไทยจะไปบอลโลกไม่ไกลเกินฝันแน่นอน จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 46 "เอสลีก" VS "ไทยลีก" ในมุมมอง "วรวรรณ ชิตะวานิช" - เท่าที่สัมผัสนักฟุตบอลที่สิงคโปร์ และนักฟุตบอลในเมืองไทย มาตรฐานและความเป็นมืออาชีพแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด             ถ้าพูดถึงเรื่องฝีมือนักฟุตบอลไทยจะเล่นได้ดีกว่ามาก สังเกตไหมว่านักฟุตบอลรุ่นเยาวชนของไทยจะมีเทคนิคการเล่นที่ดีมาก แต่พอก้าวไปสู่ระดับทีมชาติกลับทำผลงานได้ไม่ดี ซึ่งนักฟุตบอลของสิงคโปร์เองก็ไม่ใช่ว่าจะมีฝีเท้าดีอะไรมาก แต่ว่าการจัดการของสมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ทำได้ดีกว่าเมืองไทย เพราะเขาจะแบ่งการบริหารออกเป็นสองส่วนคือการจัดการในระดับสมาคม และอีกส่วนจะเป็นงานบริหารระดับสโมสร             ที่สำคัญนักฟุตบอลสิงคโปร์ที่เล่นอาชีพจะมีระเบียบวินัยสูงมาก รู้หน้าที่รับผิดชอบของตนเองว่าต้องทำอะไรบ้าง อย่างนักฟุตบอลในระดับเยาวชนที่วางเป้าหมายชัดเจนว่า จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หากเขาซ้อมไม่ดี โชว์ฝีเท้าไม่ได้ เขาก็ต้องถูกหักเบี้ยเลี้ยง แต่ถ้าเล่นดี เงินเดือนก็จะเพิ่มขึ้นและมีโอกาสได้เล่นในทีมใหญ่เร็วขึ้น             - ระบบจัดการฟุตบอลของสิงคโปร์ มีภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน             การจัดการฟุตบอลอาชีพในสิงคโปร์ มีเงินสนับสนุนส่วนใหญ่ มาจาก “สิงคโปร์พูล” หรือ โต๊รับพนันบอลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อิตาลี เยอรมนี รวมไปถึง เอสลีก ด้วย ซึ่งรายได้จาก “สิงคโปร์ พูล” จะเป็นเงินสนับสนุนก้อนใหญ่ที่นำไปแจกจ่ายให้กับสโมสรฟุตบอลต่างๆ โดยมีการกีฬาของสิงคโปร์ เป็นผู้รับผิดชอบ             เปรียบเทียบง่ายๆ ระหว่างฟุตบอลลีกของเมืองไทยที่ปีนี้หนังสือพิมพ์สยามกีฬา ตั้งเงินรางวัลไว้ที่ 5 ล้านบาท ซึ่งสูงมากถ้าเทียบกับลีกอาชีพสิงคโปร์ ที่มีเงินรางวัลสำหรับทีมชนะเลิศ 3 ล้านบาท แต่สโมสรอาชีพในสิงคโปร์ได้รับเงินสนับสนุน ทีมละ 650,000 เหรียญสิงคโปร์ ประมาณ 15 - 16 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ทาง ภาครัฐให้แต่ละสโมสรไปจัดการ เพื่อให้แต่ละทีมได้ผลสำเร็จสูงสุด ซึ่งต่างจากบ้านเรา             สาเหตุสำคัญที่ทางภาครัฐของสิงคโปร์ ให้การสนับสนุนเรื่องฟุตบอล เพราะเขาเห็นความสำคัญของกีฬาว่าจะเป็นตัวเชื่อมความแตกต่างทางเชื้อชาติในประเทศ เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลายเชื้อชาติ ทางรัฐบาล เล็งเห็นว่าฟุตบอล จะเป็นตัวเชื่อมที่ดีที่ทำให้ทุกคนในชาติรักและสามัคคีกัน จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 น้ำตากรูพาลจะไหล เหมือนย้อนเวลาไปนั่งข้างพ่อดูบอลไทยเตะ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนี้พ่อก็ยังนั่งดูบอลข้างๆผมเหมือนเดิม แต่พ่อเชียร์บราซิล ผมเชียร์อาร์เจนติน่า (พ่อเชียร์หงส์แดง ผมเชียร์ไก่เดือยทอง) ช่วยไล่วีเจหน่อย ผมกับพ่ออยากเชียร์ทีมเดียวกัน จากคุณ : Imprezza79 - [ 22 ส.ค. 49 11:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 48 หนึ่งบทความ กับแฟนบอลในอดีต ผมเป็นแฟนบอลทหารอากาศเข้าสายเลือดซึ่งก็เหมือนแฟนบอลรุ่นเดียวกันเนื่องจากมี"พี่ตุ๊ก"ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนเป็นตัวซูเปอร์สตาร์แถมมีตัวเด่นอย่างประทีป ปานขาว,กัมปนาท อั้งสูงเนิน วันไหนโปรแกรมมีทอ.เตะแฟนบอลหน้าตามากกว่าทุกทีม ผมเกลียดท่าเรือและราชประชามากเพราะยุคนั้นเบียดแย่งแชมป์กับทัพฟ้า ได้หวดแข้งเจอกันประจำตามรายการคัพต่างๆที่ผุดเป็นสิบแต่โตโยต้า คัพเป็นโคตรรายการที่ระเบิดแข้งเมื่อไหร่สนามแทบแตก มันน่าเหลือเชื่อที่นักบอลไทยในอดีตชื่อคุ้นหูมาก แต่ละชื่อที่พูดขึ้นมามันเป็นอะไรที่"คลาสสิก"และน่า"ขนลุก"...ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน,เฉลิมวุฒิ สง่าพล,ประธีป ปานขาว,นที สุขแก้ว,สุทิน-สุรัก ไชยกิตติ,วิฑูรย์ กิจมงคงศักดิ์,ชะลอ หงษขจร,วรวรรณ ชิตะวณิช,สมปอง นันทประภาศิลป์หรือแม้กระทั่งนำโชค ชัยเจริญจอมซูเปอร์ซับตัวจริงเสียงจริง ผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเคยบ้าบอลไทยถึงขั้นจองทีวีไม่แบ่งใครนั่งดูถ่ายทดสดหลังลอกเอ้ยทำการบ้านเสร็จ มาถึงณ ปัจจุบันนี้ ผมไม่ได้โกรธแค้นใครที่ทำให้ความฝันของพวกเราต้องดับสลายไปพร้อมๆกับยุคของเหล่าโคตรซูเปอร์สตาร์แห่งวงการฟุตบอลเมืองไทยแต่กลับกลายเป็นเรื่องดีเสียอีกที่สามารถเล่าถึงความทรงจำดีๆให้คนรุ่นหลังได้ฟังอย่างมีความสุข ส่วนคนที่อยากให้วงการลูกหนังไทยฟื้นกลับมาเหมือนในอดีตนั้น ผมขอแนะนำว่ายังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะจะก่อม็อบ,ประท้วงหรือร่างรายชื่อขับไล่ มันไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรขึ้นมาแค่รอให้"มัน"และ"พวกพ้อง"ไสหัวไปอย่างเดียวเท่านั้นพอ อาจจะรอนานหน่อยแต่มันเป็นทางเดียวของพวกเรามิใช่หรือ?... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:42:23 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ทัศนะ นายกฟุตบอลไทยในปัจจุบัน ...  “วีเจ” วิจิตร เกตุแก้ว เตรียมระดมมันสมองผู้ทรงคุณวุฒิวงการฟุตบอลไทย 400 ชีวิต เสวนาเรื่อง “เส้นทางสู่ฟุตบอลโลก”  พร้อมประกาศชัดเจนมีเงินทุนก้อนโตสามารถสร้างความสำเร็จได้ทุกอย่าง ด้าน โค้ชหรั่ง ชาญวิทย์ ผลชีวิน บอกโปรเจกต์ไปฟุตบอลต้องทำเป็นนโยบายสาธารณะ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม พร้อมผุดไอเดียฝังโค้ชเอไลน์เซ่นต์ทั้ง 12 โรงเรียนกีฬาทั่วประเทศ เชื่ออนาคตประสบความสำเร็จแน่ ทาง นายวิจิตร เกตุแก้ว นายกสมาคมฟุตบอล เปิดเผยว่า การประชุมปรึกษาหารือกันในวันนี้เป็นการมอบหมายหน้าที่ให้แต่ละคนนั้นรับผิดชอบในเรื่องเสวนาระดมความคิด”เส้นทางสู่ฟุตบอลโลก” เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือของคนในชาติ แต่ละองค์กรต่างๆ ในการฟันฝ่าอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ไปสู่ความเป็นเลิศของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย โดยตนนั้นมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าปัจจัยหลักและสำคัญในการที่จะสร้างฝันให้กับคนไทยนั้นประสบความสำเร็จเรื่องของ เงินนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถที่จะเนรมิตทุกอย่างได้ เพราะหากแม้มีบุคลากรในการทำงานแต่ไม่มีเงินในการจัดจ้างก็จะไม่ทำให้สิ่งที่มุ่งหวังสำเร็จได้ จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ...ฟุตบอลสยาม กับหัวข้อ ...เด็กไทยอยู่ไหน? จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 11:58:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ปิดท้ายด้วยภาพกองเชียร์ไทยในดีต ... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 12:03:15 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ....... จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 12:06:02 ]

ความคิดเห็นที่ 53 1 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 12:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 54 2 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 12:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 55 3 จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 12:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 56 4 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : art anfield - [ 22 ส.ค. 49 12:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 57 คิดแล้วเศร้า ทีมชาติชุดใหญ่เรายังไม่มีเลย แล้วรวมลีคจะตกม้าตายอีกหรือป่าว พูดจริงๆนะเครียดกว่าทำงานอีก...........เบื่อโค-ตะ-ระ มากๆๆๆ จากคุณ : TOOMNOI - [ 22 ส.ค. 49 15:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณคุณ art anfield อ่านแล้วจะร้องไห้ โหวต จากคุณ : Dr.เต่า - [ 22 ส.ค. 49 17:05:32 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ทุกวันนี้ ก็ไปดูกันได้นะครับ   บอลมันก็เตะกันเหมือนเดิมนั่นแหละ วีเจ ไม่ได้ลงมาเตะซักหน่อย    มาตรฐานเราดีกว่าบอลเวียดนาม มาเลย์ด้วยซ้ำ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 49 18:39:14 จากคุณ : Roy E Nem - [ 22 ส.ค. 49 18:36:47 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อย่างนี้ต้องโหวต จากคุณ : Killer Red - [ 22 ส.ค. 49 20:06:04 ]

ความคิดเห็นที่ 61 โหวต.... จากคุณ : แหงนมองดูดาวอันสูงส่ง - [ 22 ส.ค. 49 21:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เราก็มีหน้าที่เชียร์กันต่อไปครับ จากคุณ : นายสำรวม - [ 22 ส.ค. 49 23:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 63 โหวตด้วยคนครับ เมื่อไหร่ เมื่อไหร่ เมื่อไหร่ น้า จะได้มีลีกดีๆกะเค้า เหมือนในสมัยก่อน ที่บอลถ้วย ก ฮิตมาก จากคุณ : นายฝันเฟื่อง - [ 23 ส.ค. 49 01:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 64 เชียร์ต่ออยู่แล้วครับ ทุกวันนี้ผมก็ยังเข้าไปดูไทยลีกอยู่เสมอ จากคุณ : il giallorossi - [ 23 ส.ค. 49 01:20:49 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คงไม่ต้องพูดอะไรเพิ่มแล้ว จากคุณ : Skalidis - [ 23 ส.ค. 49 12:16:36 ]

ความคิดเห็นที่ 66 พอเถอะครับ จะร้องไห้ จากคุณ : ไต้ก๋งหงส์แดง (Sawakato) - [ 23 ส.ค. 49 15:18:56 ]

ความคิดเห็นที่ 67 จบกันแล้วครับฟุตบอลไทย ผมคิดว่าถ้า VJ ออกไปแล้วคิดเหรอครับว่าจะไม่มี VJ 2 VJ 3  ครับ ไมนายกสมาคมฟุตบอลต้องเลือกกันเฉพาะคนในสมาคมด้วยฟะ เฮ้อ เศร้า.................................................. จากคุณ : มีคน..มีต้นไม้..มีสัตว์ป่า - [ 23 ส.ค. 49 19:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ต้องช่วยกันสนับสนุนโปรลีกอย่างเต็มที่ครับ วางรากฐานให้แน่นเหมือนญี่ปุ่นแล้วถึงฝันไปบอลโลกดีกว่า จากคุณ : ลูกผู้ชายหัวใจคลาสสิค - [ 23 ส.ค. 49 22:48:49 ]

ความคิดเห็นที่ 69 vote ครับ.. อ่านแล้วจะร้องไห้.. ขอบคุณครับ...นึกถึงตอนเด็กๆเลย..ว่าบอลไทยมันส์ขนาดไหน ที่ซึ้งสุดๆก็...ผมอยากเชียร์ทีมเดียวกับพ่อครับ จากคุณ : King Cantona - [ 24 ส.ค. 49 04:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 70 รู้สึกข้อมูลจะผิดไปนิดครับสำหรับกรณีของ เจฟฟรี่ พรหมายนต์ เจฟฟรี่ เคยติด U16 ของฮอลแลนด์ก็จริงครับ แต่สามารถย้ายมาเล่นทีมชาติไทยได้ครับ เพราะเกิน 2 ปีแล้ว ปัญหาอยู่ที่ว่า หอยศักดิ์ จอมโว ตั้งเงื่อนไขไว้ครับ ว่า เจฟฟรี่ ต้องมาซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่เป็นเวลา 2 อาทิตย์ขึ้นไป ตามหลักการทำทีมของ หอยศักดิ์ จอมโว ซึ่ง นักเตะอาชีพระดับเจฟฟรี่ ที่เล่นอยู่กับ เปเอสเว ไอน์โฮเฟน จะยอมเหรอครับ อย่าลืมครับ ไม่ใช่ทัวร์นาเมนต์ระดับบอลโลก สโมสรจะปล่อยมาเหรอครับ แถม เปเอสเว ก็มีการแข่งขันกันสูง นักเตะต้องทุ่มเทมาก ถ้ามาติดทีมชาติเลยก็คงดี แต่ตอนนั้น วิงแบ๊กขวา ก็โดนจองโดย สุทัศน์ หรือชื่อเดิม กฤษฏา เพี้ยนดิษฐ์ แบ๊กทื่อ (เพราะมีแต่ความเร็ว แต่เปิดบอลได้แย่มาก) จองอยู่แล้ว ที่สำคัญ เจฟฟรี่ เป็น แบคอาชีพ ไม่ใช่ วิงแบค จึงไม่ใช่ สไตล์ ที คุณพ่อยอดโค้ชของใครต่อใครหลาย ๆ ท่าน อย่าง ปีเตอร์ วิธ ชอบใจนัก รวมถึง หอยศักดิ์ จอมโว ด้วย ดังนั้น เมื่อสมาคมฯ ไม่ทำหนังสือไป ถึง สโมสร แล้วจะให้ เปเอสเว ปล่อยตัว เจฟฟรี่ มาคัดตัว มันก็ผิดกฏสิครับ สื่อเองก็ประโคมข่าวหลายรอบ แต่ หอยศักดิ์ จอมโว ยืนกรานคำเดิมครับ สุดท้าย เรื่อง เจฟฟรี่ ก็เป็นแค่ฝัน จากคุณ : ABC - [ 24 ส.ค. 49 10:32:47 A:58.10.222.233 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ไปเลย ไปเลย กระทู้นี้ พันธ์ทิพย์ช่วยทำเป็นกระทู้แนะนำด้วยเถิด สุดยอดที่สุด ให้เด็กรุ่นหลังและพวกบ้าบอลนอกดูซะ จากคุณ : เยีย่ม - [ 24 ส.ค. 49 22:17:39 A:124.120.160.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณค่ะ คิดถึงอดีตนะค่ะ จากคุณ : Super Rookie - [ 25 ส.ค. 49 19:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 73 โหวตครับ จากคุณ : ซ้ำซ้อน - [ 25 ส.ค. 49 20:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 74 โหวตด้วยคนครับ เราอ่านเเล้วน่าจะช่วยกันกลับเข้าไปดูบอลกันในสนามนะครับ นักฟุตบอลจะได้มีเเรงใจในการเล่น เเละลีกเราจะได้ดีขึ้น จากคุณ : tinglyamec - [ 25 ส.ค. 49 21:35:37 ]

ความคิดเห็นที่ 75 สำหรับ เจฟฟรี่ พรหมายนต์ ก็ตาม #70 นะครับ คือเค้าไม่ได้เล่นในชุดใหญ่ และไม่ได้เป็นนัดแข่งแบบทางการ ดังนั้นจึงสามารถเล่นให้ทีนชาติไทยได้ครับ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เล่น น่าเสียดายจริงๆ สำหรับนักบอลไทยที่ค้าแข้งในยุโรป ผมเคยได้ยินมาว่า มีอยู่หลายคน น่าจะมีการเรียกมาทดลองซ้อมกับทีมชาติมั่ง จากคุณ : sawatcafe - [ 25 ส.ค. 49 22:48:07 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ซึ้งมากๆครับ นึกถึงตอนเป็นเด็กที่ตามพ่อต้อยๆเข้าไปดูบอล ได้แต่สงสัยคนเยอะจัง พอโตขึ้นก็เริ่มที่จะชักชวนเพื่อนๆ เข้าไปดู แต่ปัจจุบันเท่าที่จำได้นัดสุดท้ายที่เข้าไปดู ทีมชาติแข่งก็ตอนที่เราแพ้หลีเหนือคาบ้าน2-4ตอนคัดบอลโลกนะแหละ ยอมรับว่านัดนั้นเศร้ามากๆ จากคุณ : แบกเป้ใบโต หิวโซขึ้นภูเขา - [ 25 ส.ค. 49 22:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ ^ นั่นก็เป็นนัดสุดท้ายที่ผมดู(ถ่ายทอดสด) ดูไม่จบนัดด้วยซ้ำ จากนั้นผมก็ไม่รู้จักนักเตะทีมชาติไทยอีกเลย จากคุณ : rithirong - [ 26 ส.ค. 49 00:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ผมยังโชคดีที่ทันกับประสบการณ์ยอดเยี่ยม หลายๆครั้ง แมตช์ประทับใจอีกหลายแมทช์  เกาหลีใต้ หรือว่า อัดอาร์เซน่อล แพ้แมนยู อย่างน่าประทับใจ เสมออิหร่านแบบหน้าชนะ แต่ตอนนี้เราไม่มีทีมชาติชุดใหญ่แล้วครับ จากคุณ : Baro5 - [ 26 ส.ค. 49 00:38:15 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เงินนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถที่จะเนรมิตทุกอย่างได้ เพราะหากแม้มีบุคลากรในการทำงานแต่ไม่มีเงินในการจัดจ้างก็จะไม่ทำให้สิ่งที่มุ่งหวังสำเร็จได้ โถ ..... ไอ้ VJ เอ๊ยย อ่านแล้วยิ่งเซ็งมัน คิดได้เท่านี้มันถึงไม่ไปไหน จากคุณ : C h u N g - [ 26 ส.ค. 49 00:49:29 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ยังคงเชียร์ทีมชาติไทยทุกรายการค่ะ ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะนาน ๆ จะมีแมตช์ลงเตะสักที ก็ยังคงติดตาม ดีใจ และ เสียใจร่วมกับผลการแข่งอยู่ค่ะ สำหรับโปรลีก ชื่นชมค่ะ รู้สึกร่วมค่อนข้างเยอะ (ลุ้นอยู่ว่าเมื่อไหร่จังหวัดตัวเองจะได้เข้าร่วมสักที) แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีข่าวทางสื่อเลย T T สำหรับไทยแลนด์ลีก เอ่อ ........ No comment จากคุณ : karaokeGirl - [ 26 ส.ค. 49 08:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เห็นด้วยกับเรื่อง เจฟฟรี่ครับ มาเข้าร่วมทีมชาติได้ แต่ไทยเราไม่เอาเอง นักเตะ ต่างแดนในยุโรป เราก็มีอีกครับ แต่ไทยเราไม่ค้นหา หรือเรียกเค้ามา ( ไม่ทุ่มทุนแหละ สงสัยให้ออกเงินเองหมด ใครจะมาว่ะ ) โหวตครับ จากคุณ : Skiver - [ 26 ส.ค. 49 10:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ชาตินี้จะได้ไปบอลโลกใหมเนี้ย จากคุณ : Mu004 - [ 26 ส.ค. 49 11:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 83 นัดแพ้เกาหลีเหนือในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกนี่รู้สึกจะเป็นนัดสุดท้ายที่มีทีมชาติชุดใหญ่นะ  นัดนั้นไปดูที่สนามจริงครั้งแรก และอาจจะเป้นครั้งสุดท้ายมั้ง จากคุณ : นายทองดี - [ 26 ส.ค. 49 12:08:51 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เศร้า... จากคุณ : PEDestrain - [ 26 ส.ค. 49 14:38:39 ]

ความคิดเห็นที่ 85 "โดยตนนั้นมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่าปัจจัยหลักและ สำคัญในการที่จะสร้างฝันให้กับคนไทยนั้นประสบความสำเร็จเรื่องของ เงินนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถที่จะเนรมิตทุกอย่างได้" จะหาเรื่องของบเพิ่มอีกอ่ะดิ แล้วที่ล้มเหลวผ่านๆ มา รัฐให้เงินสนับสนุนตั้งหลายล้านหน่ะ เอาไปไหนหมดฟะ ล้มทีก็ทำเป็นเงียบที เวลาผ่านไปก็ผุดโปรเจคหาเรื่องของบอีก จุดประสงค์มานเห็นกันชัดๆ อย่างนี้ ทำไมไม่มีหน่วยงานไปตรวจสอบสมาคมที่ได้ชื่อว่าใช้งบเปลืองที่สุด แต่ผลงานห่วยสุด จากคุณ : kokcona (kokcona) - [ 26 ส.ค. 49 15:34:51 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เกลียดไอ้เลวอเวจีครับ โหวตด้วยคน ไว้ลงหลุมเมื่อไหร่จะเผาเงินไปให้ละกาน เห็นสำคัญสุดแล้วหนิ คิดว่าคงเนรมิตให้ลุงไปขึ้นสวรรค์ได้นะ แก้ไขเมื่อ 26 ส.ค. 49 17:04:54 จากคุณ : Siegfried - [ 26 ส.ค. 49 17:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ด่ามันจนไม่รู้จะด่ายังไงแล้ว ไอ้ วีเจ เนี่ย ด่าจนคนด่ายังเซ็งแล้วเลย จากคุณ : nc_115 - [ 26 ส.ค. 49 21:07:41 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อยากให้มันโดนบอมจริงๆจัง ไอ้นายกสมาคมหน้าเหี่ยๆนี่ จากคุณ : fuzkdapoliz - [ 26 ส.ค. 49 21:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อ่านแล้ว นึกเซ็งวงการฟุตบอลไทยขึ้นมาทันที VJ Get Out !!! จากคุณ : กลมกลิ้ง - [ 27 ส.ค. 49 01:08:25 ]

ความคิดเห็นที่ 90 โหวตครับ! จากคุณ : เตียเป๋งลิ้ม - [ 27 ส.ค. 49 01:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อ่านแล้ว น้ำตาพาลจะไหล วันวานยังหวานอยู่ จากคุณ : คนข้างใจ - [ 27 ส.ค. 49 01:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ผมว่าหลังจากนัดแพ้เกาหลีเหนือคาบ้าน เป็นจุดหักเหที่ทำให้วงการฟุตบอลบ้านเราตกต่ำลงอย่างแท้จริง ....ผมจำได้ว่าช่วงก่อนหน้านั้นเรามีความหวังกันมาก จากคุณ : เอล มอโร่ - [ 27 ส.ค. 49 02:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ใช่ครับ 92# ก่อนหน้านั้นบุกไปชนะเยเมน 3-0 ด้วยซ้ำ ถ้า นัดนั้นทำดีๆกว่านี้ อะไร อะไร อาจไม่ออกมาในรูปนี้เลย ปล. อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย ทำไมบอลไทยถึงดูเลื่อนลอยแบบนี้ จากคุณ : ...เอาเถอะ - [ 27 ส.ค. 49 03:12:15 ]

ความคิดเห็นที่ 94 โหวตให้ครับ...เยี่ยม!!! จากคุณ : Mr.Waterloo - [ 27 ส.ค. 49 14:34:52 ]

ความคิดเห็นที่ 95 กระแทกใจอย่างแรง!!!!!!!! จากคุณ : spras77 - [ 27 ส.ค. 49 15:32:32 ]

ความคิดเห็นที่ 96 รู้อยู่แก่ใจ ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน....แต่เบื่อที่จะพูดแล้ว....อ่านแล้วก็เศร้า และเกิดอาการถวิลหาอดีตอย่างรุนแรง.....โหวตครับ.... จากคุณ : อ๊าดบ๊องส์ - [ 27 ส.ค. 49 19:54:07 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ข้อมูลบางอันผิดนะครับ ซิโก้ของเราตอนไปทดสอบฝีเท้าที่ฮัดเดอร์สฟิล  นี่ผ่านการคัดเลือกและได้เซ็นต์สัญญาเป็นนักเตะอาชีพนะครับ เพียงแต่ว่าไม่สามารถขึ้นชุดใหญ่ได้ ได้เตะเพียงทีมสำรอง และยิงประตูได้จำนวนหนึ่ง แต่ซิโก้ บอกว่าการสอดแทรกขึ้นชุดใหญ่เป็นเรื่องยาก เลยขอยกเลิกสัญญาและกลับเมืองไทยเองครับ จริงๆอันนี้ก็เป็นจุดอ่อนของนักเตะไทยอันหนึ่งเรื่องน้ำอดน้ำทน ถ้าได้ครึ่งเหมือน วิทยาเ ลาหกุลคงดี ผมว่าตอนนั้นถ้าซิโก้ ยอมทนอยู่อีกซักนิด พยายามขึ้นอีกหน่อย อาจพอได้เล่นตัวจริงบ้าง และสามารถไปเล่นทีมอื่นเช่นดิวิชั่นต่ำลงมาหน่อยก่อนก็ได้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างของเค้าเลยกลับมาเมืองไทยก่อน พูดถึงเรื่องนี้ก็พลอยนึกถึงปิยะพงษ์ที่ไม่ยอมบินไปค้าแข้งที่เบลเยี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายและคิดผิด เจ้าตัวก็บอกมาเองตอนหลังว่าคิดผิดจริงๆ จากคุณ : seven-elephant - [ 27 ส.ค. 49 22:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ตลกค่ะ จากคุณ : จอย - [ 28 ส.ค. 49 01:30:28 A:58.9.186.102 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เจ้าของกระทู้ให้เครดิตนักเตะไทยมากไปหรือป่าวคะ แข้งไทยจะไหลไปไหน จะมีคนเอาหรือป่าว ฝีเท้าออกห่วยอย่างนั้น ขายออกหรือคะ ได้ไปเล่นที่ไหนกันบ้าง ประเทศจนๆอย่าง เวียดนาม เหรอคะ รวยอีกนิดก็ มาเลเซีย สิงคโปร์ ขอบอกนะคะ เมื่อก่อนเวียดนามพม่า เขาเก่งกว่าเราเยอะ ที่เรามีโอกาสชนะเขาได้ ก็เพราะประเทศเขามีปัญหาทางการเมือง เดี๋ยวนี้ ประเทศพวกนี้ เขาเริ่มมีข้าวกินครบ 3 มื้อแล้ว พอท้องอิ่ม ก็เริ่มมีแรงทำกิจกรรมอย่างอื่นที่นอกจากทำไร่ทำนากันอย่างเดียว ไทยเราก็ไม่ต้องเสียใจหรอกนะ เขาแค่มาทวงตำแหน่งของเขาคืน แค่นั้นเอง เราว่านะ ในอาเซียน นักเตะไทยเรานั่นแหละที่มีโอกาสมากกว่าชาติอื่นๆ แต่เรามันไม่เอาไหนเอง ซึ่งอาจเป็นเพราะเราไม่เหมาะที่จะเล่นฟุตบอล แล้วอีกอย่างนะ โค้ชของไทยเรา ขอบอกค่ะว่า " ขี้โม้ " เอามั่กมาก มากจริงๆค่ะ หากใครไม่เชื่อ ก็ลองไปหาคำสัมภาษณ์ย้อนหลังอ่านดูสิคะ แล้วจะรู้เอง อีกเรื่องนะ พอเวลาเล่นแพ้กลับมา ก็แก้ตัวกันประจำเลย ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายกันเลย สุดท้ายพออ้างใครไม่ได้จริงๆ ก็โทษสมาคมโทษผู้ใหญ่กันซะอย่างนั้นไปเลย ก็แล้วทำไมไม่โทษที่ตัวผู้เล่นกันบ้างล่ะคะ ไม่เก่งก็ยอมรับเถอะค่ะ คนดูเขาไม่โง่กันหรอกนะ เป็นเรานะ ถ้ารู้ตัวว่าไม่เก่ง เราจะไม่กล้าขอเงินใครเลย และไม่กล้าเรียกร้องเอาจากใครด้วย แต่ถ้าใครจะให้ เราก็เอา แต่เชื่อเถอะ ไม่มีใครอยากให้หรอก เอาเงินไปโยนแม่น้ำยังจะดีกว่า เผื่อว่าร้อยปีต่อไปลูกหลานมันงมเจอเหรียญที่โยนลงแม่น้ำ มันก็จะกลายเป็นวัตถุโบราณมีราคาไป ดีกว่าเอาไปให้พวกนักเตะกับโค้ช ถลุงเงินกันเล่น ทีหลังนะ ก็อย่าไปเก็บตัวอยู่ที่ไกลๆอย่างต่างประเทศนะ มันเปลือง เอาแค่แถวชานเมืองก็พอ เข้าใจนะ จากคุณ : จอย - [ 28 ส.ค. 49 01:50:53 A:58.9.186.102 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 100 บางคนนะคะ รำพึงรำพรรณถึงสมัยก่อนใหญ่เลย นักเตะไทยเราเก่งอย่างนู้น เก่งอย่างนี้ แหม มันก็เป็นกันซะอย่างนี้ มิน่าหละ คนไทยถึงเล่นฟุตบอลกันไม่เป็นซะที ขนาดดูบอลก็ยังดูกันไม่เป็น แล้วอย่างนี้จะเล่นฟุตบอลเป็นกันได้ยังไงคะ จริงมั๊ย เพราะอะไรเหรอคะ โธ่ ๆ ๆๆ ไปดูเลยค่ะ สมัยปิยะพงษ์ มีนักเตะไทยคนไหนที่จับบอลที่เขาส่งมาโด่งๆ แล้วจับอยู่ได้บ้างคะ จับบอลที ลูกบอลกระเด็นไกลไป 3 เมตร 4 เมตร นู่นแหนะ โยนบอลส่งบอลก็ไม่เคยจะตรงตัวซะที เป็นประเภทโยนไปเถอะ ไม่มีให้ลุ้นหรอก ลูกเตะมุม 100 ลูก หากเข้าสักลูก แม่เจ้าพระคูณณณ ลูกช้างจะบนหัวหมูสัก 100 หัว ยิ่งสมัยก่อนนะคะ นิสัยนักเตะไทยเรา ไม่ต่างกะนักมวยค่ะ เล่นบอลไปด้วย ชกมวยไปด้วย ติดสันดานนักเลงค่ะ ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเรา ต่างหวาดผวากันเป็นทิวแถว ชิมิเคอะ คริ คริ จากคุณ : จอย - [ 28 ส.ค. 49 02:01:36 A:58.9.186.102 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบอกหน่อยนะ สิงคโปร์ทำลีกตัวเองขึ้นมาเพราะอะไรรู้มั๊ยคะ เพราะต้องการทำขึ้นมาเพื่อให้แรงงานต่างด้าวในสิงคโปร์ได้ดูกัน หุ หุ หุ รู้แล้วอย่าบอกใครนะ เก็บเป็นความลับกันนะคะ อย่าบอกใครเชียว ที่สิงคโปร์หนะ ทีมฟุตบอลเขามีนักเตะของชาติอาเซียนเกือบทุกประเทศแหละ แต่ไม่รู้ว่ามีนักเตะติมอร์ไปค้าแข่งกับเขาด้วยป่าว เราไม่แน่ใจนะ หุ หุ เพราะสปอนเซอร์เขาต้องการอย่างนั้นจริงๆค่ะ ก็แหม พวกแรงงานต่างด้าว เป็นลูกค้าของเขาทั้งนั้นแหละ ชิมิ เคอะ คริ คริ คริ จากคุณ : จอย - [ 28 ส.ค. 49 02:19:03 A:58.9.186.102 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ได้ยินมานะ มีคนหลายกลุ่มนะ ผลงานก็ห่วยแตก ฝีมือก็ไม่ได้ความ แต่ไปแบมือขอตังค์เขาอีกเฉย คราวก่อนก็ให้ไปแล้วนะ ดู๊ ดู ดู ดู หนากันจัง ไม่มีความเกรงใจกันบ้างเลย ย ย ผลงานอย่างนี้ ยังมีหน้ามาขอตังค์อีก บัดซบจริงๆ ขอซะจน คนเขาเอือมระอา จากที่เคยให้ เขาก็ไม่ให้ ตอนนี้เขาโบกมือลา บ๊าย บาย แล้ว ลาก่อนเพื่อน ทั้งฝีมือฝีเท้าห่วยแตกอย่างนี้ เมิงไปประกอบอาชีพอื่นเถอะ จากคุณ : จอย - [ 28 ส.ค. 49 02:26:28 A:58.9.186.102 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 103 กร๊าก เจอกระเทย บัตรผ่าน โชว์โง่ อีกแล้วครับ ใครว่าเวียดนาม จน ไปดูถูกเวียดนาม เค้าจ้าง เป็นแสน นะครับ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 49 06:14:59 จากคุณ : Baro5 - [ 28 ส.ค. 49 06:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 104 * จอย           " คนรักฟุตบอล เท่านั้น ย่อมรู้ ในสิ่งที่เกิด และรู้ว่าปัญหาคืออะไร.. เพียงแต่ว่าจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ " จากคุณ : art anfield - [ 28 ส.ค. 49 07:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 105 มายืนยันว่า ปัญหาของเราอยู่ที่ตัวนักเตะ ไม่ได้อยู่ที่สมาคม สมาคมเขาจะดูแลแต่ทางด้านบริหาร เรื่องการเล่น เขาไม่มายุ่งด้วย อย่าไปโทษซี้ซั้วเลย ผิดถูกเป็นอย่างไร ทั้งโค้ชและนักเตะรู้กันเองดีอยู่แล้ว ไม้ตายสุดท้าย ยกเครื่องนักเตะใหม่หมด เอานิโกรมาเล่นเกือบทั้งทีม เคยมีคนไปคุยมาแล้ว ก็ได้คนมาจากการแนะนำของนักเตะนิโกรที่ไปค้าแข่งในอังกฤษ เขายังบอกเราเลย ทางไทยจะเอากี่คน เดี๋ยวเขาจะหาให้ ก็เกือบเอามาแล้ว เอามาต่ออายุสมาคม แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า อายพวกสิงคโปร์ มาเลเซีย เดี๋ยวมันจะหัวเราะเรา แถมยังถูกคนในบ้านเราด่าอีก หากเอาทีมนี้มา ทีมอุเบกิสสถาน ยังเทียบเราไม่ติด พูดตามจริงค่ะ สูสีทีมยูเครน ไอ้เรื่องไปบอลโลกน่ะ ได้ไปแน่นอน ผ่านจีน ผ่านญี่ปุ่นเกาหลี ได้อย่างสบาย วิธีนี้ ทีมซาอุก็ทำมาแล้ว 4-5 ตัวที่เล่น ไปตามสืบได้เลย เป็นนิโกรในอัฟริกาเหนือที่เดินเล่นในยุโรปมาแล้วทั้งนั้น บอกให้นะ วิธีนี้ ยังใช้เงินน้อยกว่าทำทีมบอลไทยที่เป็นนักเตะไทยล้วนเสียอีก อยากไปบอลโลกกันนักนี่ วิธีนี้จะเอามั๊ย เราจะสู้หน้ามาเลย์ สิงคโปร์ ได้หรือป่าว จากคุณ : จอย - [ 28 ส.ค. 49 08:38:13 A:58.9.184.164 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คุณ..จอย ทำมัยต้องปลอมตัวด้วย ...เผยตัวตนที่แท้จริงคุณมาเถอะ.. จากคุณ : kokobig - [ 28 ส.ค. 49 15:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ดูเเล้วอยากร้องไห้ว่ะ จากคุณ : anonz - [ 28 ส.ค. 49 18:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ต้องรื้อสร้างระบบอั้งยี่ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ไปจนถึงอั้งยี่ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFA : Asian Football Anarchy) ไปจนถึงอั้งยี่ฟุตบอลนานาชาติ (L'AIFA : L'Anarchie Internationale de Football Association) อย่างเป็นระบบ วงการฟุตบอลจึงจะเกิดความยุติธรรม เสมอหน้าแก่นานาชาติ จากคุณ : ญา ญ่า ญุ๋ย - [ 28 ส.ค. 49 19:28:55 ]

ความคิดเห็นที่ 109 เพิ่งมาอ่าน พอจำได้สมัยเด็กดูบอลไทยกับพม่า ต่อยกันในสนามประจำเลย  สนุกก็ตอนต่อยกันนี่แหละ ตอนหลังเลยหันไปดูมวยไทยแทน ปล.จริงหรือเปล่าว่าทีมไทยไม่เจริญเพราะเจอเด็กเส้น  แบบว่าไม่เก่งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย อยากให้ลงเตะเลยมาบีบโค้ชอีกที โค้ชเลยหนีกลับประเทศ   แบบว่าฟังเค้ามาอีกที่ ไม่ค่อยรู้จักนักบอล รู้แต่ ปิยะพงศ์,ซิกโก้, Eric Cantona, Beckham  และใครอีกไม่รู้เพราะไม่ได้สนใจ จากคุณ : Hulk Hogan (ying_ba) - [ 29 ส.ค. 49 01:05:09 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คุณจอยครับ ......หลังจากที่คุณเสียหมาในโต๊ะห้องสมุด เรื่อง ซ้ายไร้เดียงสา ยังไม่เข็ดอีกหรือครับ ..... คนที่เข้าห้องศุภฯ ส่วนใหญ่เขาเป็นพวกติดตามบอลไทยมาโดยตลอด ไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือปรัชญากีฬา ดูบอลไทยไม่กี่หน แล้วก็มาโพสประชดประชัน ทุกอย่างมันมีตรรกะหมดครับ ทีมไทยแพ้ เพราะนักเตะเราสู้เขาไม่ได้ รึโค๊ชวางแผนผิด นักเตะไม่เก่ง เพราะอะไร เพราะไม่ซ้อม ขี้เกียจ ซ้อมเต็มที่แล้วแต่สู้ไม่ได้ โค๊ชที่สอนไม่เก่งพอ โค๊ชไม่เก่ง เพราะไม่รู้เทคติกลึกซึ้ง วางตัวผู้เล่นไม่ดี ไม่ใช่โค๊ช A ไลเซ่น ทำยังไงให้นักเตะเก่ง ต้องมีระบบการซ้อมอย่างเป็นแบบแผน นักเตะต้องอยู่ในทีมที่มีการลงเล่นสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาฝีเท้า และต้องพบคู่แข่งที่เก่ง บ่อยมากกว่าเดิม ทำยังไงให้โค๊ชเก่ง เช่นเดียวกันคือ โค๊ชต้องมีเวทีให้ใช้การวางหมากในเกม อย่างบอลลีกที่มีคุณภาพ และเจอทีมที่เก่งๆเพื่อการพัฒนาตัวเอง , ต้องไปเรียนหลักสูตรโค๊ชในระดับที่สูงขึ้น ทำยังไงถึงจะมีทีมเก่งๆในประเทศให้มากๆ ต้องพัฒนาฟุตบอลลีกแบบยั่งยืน มีทีมคู่แข่งที่เก่ง มีลีกฟุตบอลอาชีพที่ยั่งยืน ทำยังไงถึงจะมีลีกอาชีพที่ยั่งยืน อยู่ที่การจัดการระบบของสมาคมฟุตบอล และ การสนับสนุนลีกของประชาชน เช่นการเข้าไปชมการแข่งขัน และมีส่วนร่วม (ขาดสิ่งใดไปไม่ได้) ทำยังไงถึงทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับลีกในประเทศ 1.) การสร้างทีมแต่ละทีมให้ประชาชนรู้สึกว่าทีมนั้นๆ เขามีส่วนร่วมมีความผูกพัน แล้วจะเข้าไปสนับสนุนด้วยการชมในสนาม รึลงขันช่วยทีมในรูปแบบซื้อเสื้อ ของที่ระลึก 2) สมาคมและสื่อต้องวางแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์การแข่งขันแบบจริงจัง เพื่อให้ประชาชนสนใจ (อย่างแรกสำคัญกว่าอย่างที่สอง) เอาแค่คร่าวๆ คงเห็นภาพนะครับ จากคุณ : C h u N g - [ 29 ส.ค. 49 17:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ใครบอกว่าเราดูบอลไทยไม่กี่หน หากเป็นบอลทีมชาติ เราดูเกือบ 100 นัด แมตช์อุ่นเครื่อง แมตช์แข่งจริง แมตช์เล่นละครต้มคนดู ทั้งซีดี วีดีโอ ที่พ่อเราเก็บไว้ แม้แต่บอลเอกชนอย่างโตโยต้าคัพ บอลหลวงอย่าง คิงส์คัพ ควีนคัพ เราดูย้อนหลังไปเกือบ 30 ปี เห็นพัฒนาการของทีมหมด มองเห็นปัญหาว่าอยู่ที่ตรงไหน แม้แต่พ่อเรายังบอกเลยว่า มันอยู่ที่ตัวนักเตะ มันขาดพรสวรรค์ในการเล่น ส่วนเรื่อง จิตใจ ของเรา 100 % เต็มอยู่แล้ว พูดง่ายๆคือ ยอมตาย ยอมพิการ คาสนามบอล เราเล่นตามรูปแบบเกมส์ที่วางไว้ไม่ได้ เพราะนักเตะมีความสามารถเฉพาะตัวต่ำ รูปแบบเกมส์ที่ยากๆ ต้องวางบอลแบบแม่นๆ เราก็เล่นไม่ได้ เพราะทำพลาดหมด ถึงแม้ซ้อมรูปแบบเกมส์นี้มาดีแล้ว แต่พอแข่งจริง เราก็ทำพลาด เพราะทักษะเราไม่ดี เหมือนนักดนตรีที่ไม่ค่อยมีฝีมือ แต่เลือกเพลงที่เล่นยากๆมาโชว์คนดู เวลาขึ้นเวทีโชว์ฝีมือ ก็เล่นเสียงเพี้ยนหมด คนที่เข้าใจทีมไทยเราดีคือ ปีเตอร์วิท เพราะเขารู้ว่าทักษะนักเตะของเราต่ำ ดังนั้นเขาจึงไม่หวังในเรื่องนี้ เขาจึงไม่เน้นที่ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ สังเกตดูสิ นักเตะบางคนทักษะก็ดีนะ แต่ปีเตอร์วิท กลับไม่เอาลงเล่น แต่เขาจะเน้นที่พละกำลัง เพื่อให้ได้เปรียบทีมเพื่อนบ้านอย่างชัดเจน เล่นกี่ทีกี่ทีก็ชนะเพื่อนบ้านเราตลอด แต่หากเล่นกับทีมอย่างจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี เขาก็จะให้เรารอจังหวะ เขารู้ว่า เขาอยู่เป็นโค้ชที่นี่ได้ไม่นาน เขาจึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการเพิ่มพละกำลังให้นักเตะ ซิโก้ก็ได้อานิสงฆ์จากการนี้ด้วยของปีเตอร์วิท สรุปปัญหาฟุตบอลไทย คือ 1. นักเตะเราขาดพรสวรรค์ในการเล่น 2. แฟนบอดูบอลไม่เป็น 3. สื่อกีฬามักหลอกลวงแฟนบอล หลอกลวงยังไง เอาไว้มีเวลาว่างๆ เราจะมาเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับคนที่ยังด้อยอยู่ ส่วนคนที่รู้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องอ่าน ให้ข้ามไปเลย ปัญหาของฟุตบอล ไม่เกี่ยวกับสมาคม เพราะเขาไม่ยุ่งการทำทีม เขาเพียงแต่อำนวยความสะดวกเท่านั้น จากคุณ : จอย - [ 29 ส.ค. 49 20:30:59 A:58.9.190.215 X: TicketID:125541 ]

ความคิดเห็นที่ 112 เป็นเกียรติมากที่มีบทความผมอยู่ในกระทู้นี้ด้วย(คห.48) จากคุณ : เบน ฟรีคิก - [ 30 ส.ค. 49 01:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 113 โชว์สติปัญญาและหัวใจของคุณเต็มๆ   อนาถเหลือเกินครับคุณจอย ... ใช่ครับ  ผมเห็นด้วย!! บอลไทยไม่พัฒนาเพราะนักเตะห่วย คนดูก็โง่ๆ (ดูบอลกันไม่เป็น) ส่วนผู้หลักผู้ใหญ่ในสมาคมเขาทำถูกต้องมาเป็นชาติแล้ว ตรรกะแบบนี้น่าสนใจมากๆ ครับ เหมือนกับ หนังห่วย เพราะนักแสดงแย่  ส่วนผู้กำกับดีแล้ว ประเทศแย่  เพราะคนมันไม่ดี  ผู้นำประเทศเขาดีแล้ว รายการอะไรต่อมิอะไรมันไม่มีคุณภาพ   เพราะพิธีกรกับแขกรับเชิญแย่  ส่วนโปรดิวเซอร์กับ ครีเอถีบ  ดีแล้ว ตรรกะประมาณนี้ถ้าใครคิดได้ต้องมีสติปัญญามากมายทีเดียวครับ ... จากคุณ : เพลงน้ำ - [ 30 ส.ค. 49 02:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 114 มาต่อ .... จริงๆผมไม่ชอบวิธีโต้เถียงเพื่อเอาชนะกันด้วยเหตุผลนะครับ เอาเป็นว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดกันในนี้ก็แล้วกัน หากจะบอกว่าปัญหาในทีมชาติไทยคือนักเตะและโค๊ชไม่ดีพอ ก็ต้องกลับไปมองว่าเรามีตัวเลือกที่ดีกว่าปัจจุบันรึไม่ ...... ตัวโค๊ชนี่ไม่เท่าไหร่ครับ เพราะสามารถจ้างโค๊ชต่างชาติมาพัฒนาทีมได้ เหมือนกับที่หลายๆประเทศทำ แต่ตัวนักเตะเป็นปัญหาสำคัญที่เรายังแก้ไม่ตก ..... จะทำยังไงล่ะ? จับฝรั่งลูกครึ่งไทยที่เล่นบอลเก่งๆมาโอนสัญชาติ? รึจะใช้การพัฒนาบอลไทยให้ยั่งยืนด้วยระบบอาชีพ เมื่อมีระบบอาชีพตัวเลือกนักเตะก็จะมีมากขึ้น นักเตะก็จะได้พัฒนาฝีเท้าสม่ำเสมอ ...... ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่ไม่เถียงครับ โตโยต้าคัพ ทหารอากาศแข่งกับราชประชา เป็นบอลสโมสร คนยังเข้าสนามไปดูจนสนามแตก ยิ่งทีมชาติไม่ต้องพูดถึง ....... แต่สมัยนี้บรรยากาศนั้นมันไม่มีแล้ว มันหายไป ไม่ใช่เพราะแฟนบอลไม่อยากดูบอลไทย แต่ระบบฟุตบอลบ้านเรามันล่มสลายและขาดวิวัฒนาการ ........ สมัย 10 ปีที่ผ่านมา บอลลีกของไทยนับว่าล้มเหลว แต่ทีมชาติยังเรียกศรัทราจากแฟนบอลได้ แต่ปัจจุบันทฏษฎีโดมิโนมันเริ่มส่งผลกระทบกับทีมชาติ เมื่อระบบรากฐานเราไม่ดี เด็กเก่งๆก็มีน้อยลงๆ ตัวเลือกที่จะมาเล่นให้ทีมชาติก็น้อยตาม วิธีที่จะพึ่งพาตัวนักเตะเก่งๆอย่าง ปิยะพงศ์, ซิโก้, ตะวัน, เทิดศักดิ์,  ดัสกร มันก็เป็นส่วนนึงครับ แต่คำถามก็คือนักเตะเหล่านี้จะเสาะหามาเพิ่มจากไหน ในเมื่อระบบฟุตบอลบ้านเรามันยังย่ำอยู่กับที่ ...... หากจะนั่งรอนักเตะพวกนี้มาเกิดเพื่อช่วยประเทศแบบพระเมสิอาห์รึพระศรีอารย์ พร้อมๆกันทั้ง 11คนในยุคเดียวกัน หากระบบฟุตบอลอาชีพบ้านเรามันเป็นแบบนี้ผมว่าเราต้องรออีกนานเลยล่ะ ปัญหาเรื่องสื่อกีฬา ผมคิดว่าคนในห้องศุภฯ รู้กันหมดแล้วครับ คงไม่ต้องเอามาเล่าเอาให้สิ้นเปลืองเวลา ทั้งหมดที่เล่ามาอยากจะบอกว่าปัญหาใหญ่ๆของฟุตบอลบ้านเรา มันอยู่ที่สมาคมฟุตบอลฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ......... เอกชนรึองค์กรอื่นพยายามเข้ามาพูดคุยเพื่อวางรากฐานระบบลีกหลายครั้งหลายหน แต่พวกหลืบไรในสมาคมฯ กลับไม่สนใจและคิดว่าตัวเองทำได้ดีกว่า คิดแบบนี้มาเป็นสิบปี แต่กลับไม่เห็นอะไรดีขึ้นในแง่วิวัฒนาการของระบบฟุตบอล ...... ถ้าจะสาธยายความเลวของสมาคมฟุตบอลฯ ยังเล่าอีกได้หลายร้อยบรรทัดครับ จากคุณ : C h u N g - [ 30 ส.ค. 49 02:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 115 พอดีผมไปโพสความเห็นเกี่ยวกับบอลไทยไว้อีกกระทู้ ขอเอามาแปะไว้ละกันครับ -------------------------------------------------------------------------- หลายอย่างที่เจ้าของกระทู้ว่ามาจริงหลายเรื่องครับ แต่ที่คุณแนะนำมันก็คงแก้ไม่ได้ทั้งหมด ....... อย่างไอ้เรื่องคนในสมาคมมันไม่รู้เรื่องฟุตบอล รึเตะบอลไม่เป็นนี่ ผมว่าไม่เกี่ยวสักเท่าไหร่ ....กรณีอย่างเสียหมีโรมัน เจ้าของทีมเชลซี รายนั้นก็ (น่าจะ) เตะบอลไม่เป็น แต่ก็มีเรื่องเงินมาช่วยเหลือแทน ........ กลับกันที่บ้านเรา VJ แอนด์เดอะแก็งค์ มันเอางบประมาณภาษีของเราๆไปผลาญซะหมด ทำเรื่องของบจากรัฐบาลไปกี่ร้อยกี่พันล้านกันแล้ว แต่ไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่าง นอกจากแชมป์ซีเกมส์ กับลีกในประเทศที่ห่วยๆ จ้าดง่าว ตามมันสมองของผู้บริหารส่วนใหญ่ในสมาคม ...... ผมคิดว่าคนที่รักฟุตบอลจริงๆไม่ได้หวังแค่ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ ได้แชมป์โน่นแชมป์นี่ .....แต่ทุกคนอยากจะให้บรรยากาศช่วงสัก 20 ปีก่อนกลับมาอบอวลอีกครั้ง ยุคที่คนไทยนั่งเฝ้าจอทีวีรอดูฟุตบอล ทั้งฟุตบอลไทยแลนด์คัพที่ทีมสโมสรขับเคี่ยวกันและทีมชาติไทยที่ยังลุ้นได้กับการเอาชนะแถบทุกทีมในเอเซีย ใครที่อยากไปดูที่สนาม เรียกได้ว่าต้องไปจองที่กันตั้งแต่เนิ่น ปรากฎการณ์สนามแตก รถติด  เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ...... แต่ทุกวันนี้สิ่งที่ว่ามันหายไปและขาดการพัฒนาต่อเนื่องตั้งแต่ VJ และพรรคพวกมันเข้ามาบริหาร เรื่องนักเตะทีมชาติไทย เป็นเพียงปัญหาปลายเหตุ ....... เด็กไทยหลายๆคนเก่ง ผมคิดว่าจริง เพราะบ้านเราก็มีคนบ้าฟุตบอลเยอะ และเด็กๆก็ชอบเล่นฟุตบอล ...... ไปไหนต่อไหนก็จะเห็นทั้งผู้ใหญ่และเด็กเล่นฟุตบอลโกลล์หนูอยู่เยอะแยะ ..... เด็กบางคนที่เล่นบอลโกลล์หนู มีแววเก่งมากถ้าได้รับการสนับสนุนให้เป็นระบบอาชีพในอนาคต .... ลองถามคนในห้องศุภฯนี่ก็ได้ ผมเชื่อว่าตอนเป็นเด็กๆหลายคนในห้องนี้ชอบเล่นฟุตบอลจนถึงขนาดบ้า พักกลางวันที่โรงเรียน กินข้าวเสร็จ ก็เอารองเท้าเอากระเป๋ามาตั้งเป็นโกลล์ แล้วเล่นบอลกับเพื่อนๆ ......ตอนเลิกเรียนก็เล่นบอลกับเพื่อนๆอีก บางคนกลับบ้านดึกๆดื่นๆเพราะเล่นบอล ..... เสาร์อาทิตย์ก็เล่นบอลโกลล์หนูกับเพื่อนแถวบ้าน วนๆอยู่แบบนี้ ...... พื้นฐานฟุตบอลตอนเด็กของบ้านเรามันก็เลยค่อนข้างดี ....... บ้านเราโชคดีอย่างนึงตรงที่ยังพอมีพื้นที่ว่างให้เด็กๆมันเล่นบอลโกลล์หนูอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่เหมือนในบางประเทศที่เขามีพื้นที่น้อย ประชาชนจะออกกำลังได้ก็ต่อเมื่อไปฟิตเนส ..... เด็กบ้านเราอาศัยเล่นบอลตามซอกซอย ตามลานจอดรถ ลานว่าง ถึงแม้จะเป็นสนามปูน เล่นกันตามมีตามเกิดแต่มีจินตนาการเหลือล้น ก็ยังเล่นกันเพราะมันชอบเล่นฟุตบอลนี่หว่า ...... เด็กๆบางที่เล่นบอลกันเท้าเปล่ากลางสนามปูน เตะกันจนทีนเปิด ทีนพอง ทีนหนา ........ สิ่งที่ต้องระวังมีอยู่อย่างเดียวก็คือ เวลาลูกบอลกระเด็นไปเข้าบ้านใครแถวนั้น แล้วเจ้าของบ้านเขาดุๆ ก็ตัวใครตัวมัน โดนยึดลูกฟุตบอลแน่ๆ ..... รึบางทีเตะบอลไปโดนกระจกบ้านเขาแตก ก็เผ่นกันไปคนละทิศละทาง ไอ้เรื่องอยากให้รัฐบาลสร้างสนามบอลตามชุมชน หรือว่าลานกีฬา ตรงนี้ไม่จำเป็นเท่าไหร่แต่ถ้าสร้างได้ก็จะเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นเท่านั้นเอง เพราะถึงสร้างเสร็จคนที่มาเล่นก็จะเป็นเด็กวัยรุ่น-ผู้ใหญ่มากกว่า ส่วนไอ้พวกเด็กตัวเล็กๆ อยากแหยมไปเล่นนี่ เจอผู้ใหญ่มันคงไม่กล้าหือหรอก บางที่ไล่ให้เด็กไปเล่นโกลล์หนูซะงั้น   พื้นฐานของเด็กบ้านเราดีแต่บ้านเรามันไม่มีระบบฟุตบอลอาชีพ เด็กที่เล่นบอลเก่งอย่างมากก็ขึ้นไปเล่นบอลโรงเรียน บอลจังหวัด ทีมสโมสรสมัครเล่นกึ่งอาชีพ การพัฒนามันเลยขาดตอน ทั้งๆที่เด็กไทยตัวเล็กๆที่เล่นฟุตบอลมีพื้นฐานที่ดี เพราะมันเล่นบอลกันเป็นประจำ ......แต่พอเด็กมันโตมา ก็เริ่มตัน เพราะก็เล่นบอลอยู่แบบเดิมๆ ไม่มีระบบอาชีพมาฝึกสอนและพัฒนาเด็ก ...... มันก็ต้องเรียนไปเล่นบอลไป ถ้าติดทีมชาติก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่ติดทีมชาติก็มีงานอื่นทำรองรับ วิธีที่ยั่งยืนที่สุดคือการสร้างระบบลีกใน ทุกๆจังหวัด บางจังหวัดอาจจะมีทีมมากกว่า 3-4 ทีม ......  เมื่อมีระบบทีมแต่ละเมือง แต่ละจังหวัด มันก็จะง่ายในการพัฒนา ..... และแน่นอนที่สุดคือศูนย์ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชน ในแต่ละทีมก็จะต้องเกิดขึ้น เพราะไม่ต้องไปลงทุนซื้อนักเตะจากทีมอื่นมา ...... โค๊ชของทีมเมืองนั้นๆและ ทีมงานที่อาจจะเป็นคนท้องถิ่น ก็อาศัยไปมองเด็กตามสถานที่ที่เล่นบอลโกลล์หนูนี่แหล่ะ ใครมีแววก็ดึงมาเข้าทีมเยาวชน ฝึกสอนไปเรื่อยๆ มีเบี้ยเลี้ยงให้ ....... รึทางสโมสรอาจจะประกาศเปิดคลีนิคฝึกสอนฟุตบอลทุกวันอาทิตย์ให้กับเด็กๆในพื้นที่นั้นๆฟรี .... เด็กคนไหนมีแวว เล่นดีก็ดึงขึ้นไปชุดยุวชน เยาวชน ........ ถ้าทุกจังหวัด รึทุกเมืองทำได้แบบนี้ บอลไทยรุ่งครับ เวลาทีมสโมสรจังหวัด รึสโมสรของเมืองนั้นๆแข่ง ก็จะมีคนไปดูที่สนามแน่ๆ เพราะลูกหลานคนท้องถิ่นเขาเป็นนักเตะในทีม ย่มมีความผูกพัน สโมสรก็จะมีส่วนพัฒนาชุมชนนั้นๆ เป็นส่วนหนึ่งกับประชาชน แถมช่วยสร้างงานด้วย ........ สิ่งที่รัฐบาลและสมาคมจะต้องทำก็คือให้แต่ละอำเภอรึจังหวัดที่พร้อมจะมีทีมฟุตบอลของตัวเอง แจ้งความจำนงค์ไปเพื่อจัดตั้งทีม เรื่องสนามสำหรับทีมเล็กๆ อาจจะใช้สนามและสถานที่ของโรงเรียนประจำเมืองก็ได้ ..... โดยข้อแม้เรื่องนักเตะในทีมต้องมีกี่คน โค๊ชและทีมงานต้องมีกี่คน การเงินบัญชีเป็นยังไง อันนี้อาจจะต้องกำหนดรายละเอียด .......แต่ผมเชื่อว่าเรื่องเงินไม่ได้สำคัญที่สุดเหมือนที่ VJ มันชอบพูดว่า ไม่มีเงิน-ไม่พัฒนา ....... ถ้าแต่ละจังหวัดรึมากกว่านั้นคือบางเมืองบางอำเภอ มีทีมฟุตบอลของตัวเอง ปัญหาเรื่องเงินอาจจะแก้ได้ง่ายๆโดยใช้ระบบสหกรณ์ โดยให้ประชาชนที่ชอบฟุตบอลมาร่วมลงขัน โดยอาจจะมีคนลงขันรายใหญ่เป็นบริษัทเอกชน ห้างร้าน ในท้องถิ่น ...... ถ้าวิธีนี้ยาก หลายคนอาจจะคิดว่าใครมันจะบ้ามาลงขันมาเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมเล็กๆบางทีม ผมเสนออีกทางเลือกนึงซึ่งคิดว่าอาจจะได้ผล นั่นก็คือให้ วัด ในท้องถิ่นนั้นๆเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของทีมฟุตบอล ...... วัดเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับบ้านเรามานาน มีส่วนพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ หลายวัดก็สร้างโรงเรียนประจำท้องถิ่น คนไทยจึงค่อนข้างผูกพันกับวัด และเงินของวัดบางแห่งที่ได้จากการบริจาคแล้วมีอยู่เยอะ ถ้าเอามาสนับสนุนชุมชนด้วยการพัฒนากีฬา .....ประชาชนในท้องถิ่นก็จะเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจมากขึ้นในการมาช่วยลงขันพัฒนาทีมฟุตบอล ผมลองเสนอไอเดียดูคร่าวๆน่ะครับ เคยไปโพสเรื่องทีมท้องถิ่นกับเยาวชนไว้ที่เว็บไทยฟุตบอล กับเว็บโปรลีกทีนึงเมื่อนานมาแล้ว ....... แต่ไอ้เรื่องให้วัดมาช่วยเหลือเรื่องการเงินและประชาสัมพันธ์ทีมท้องถิ่นนี่ผมพึ่งจะมาคิดเหมือนกัน ........ จากคุณ : C h u N g - [ 30 ส.ค. 49 02:41:01 ]

ความคิดเห็นที่ 116 จอย--> จอมป่วนแห่งกระทู้เกี่ยวกับ บอลไทย ถ้าผมเดาไม่ผิด คงเป็นบุคคลคนนั้น แน่ ๆ ที่รักและเทิดทูนบอลนอกเป็นชีวิตจิตใจ น่าจะเป็นนายรูตันน่า แน่ ๆ ปล่อยให้ จอย เค้าโม้ไปเถอะครับ สงสารเค้า พวกนี้เค้ามีอาการโรคจิตแบบอ่อน ๆ ถ้าเรา ยิ่งเถียงก็ยิ่งสร้างความสนุกให้กับเค้า ถ้าเราอยู่เฉย ๆ พวกนี้ ก็จะประสาทรับประทานไปเอง.. 5 5 5 จากคุณ : เบื่อรูตันน่า จริง ๆ - [ 30 ส.ค. 49 13:19:16 A:58.10.222.49 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 117 การจะทำให้บอลลีกอาชีพประสบความสำเร็จนั้นคงอีกยาวไกล นักเตะไทยเก่ง ๆ ก็เลยต้องเดินทาไปค้าแข้งตามประเทศเพื่อนบ้าน แต่นั้นเป็นสิ่งที่น่าแปลกเก่งแต่กลับไม่ถูกเรียกมารับใช้ทีมชาติ การใช้ระบบทีมชาติแบบให้เงินเดือนที่กำลังจะนำมาใช้ ผมเกรงว่าอาจมีผลเสียเพราะนักเตะอาจขาดแรงจูงใจ เงินก็ได้อยู่แล้วความกระหายในชัยชนะอาจลดน้อยไป การที่ไม่เรียกนักเตะที่ดีที่สุดมาติดทีมชาติเพียงแต่เขาค้าแข้งอยู่ต่างแดน นี่ก็แปลก คงไม่มีที่ไหนเขาทำกัน จากคุณ : dogopolis - [ 30 ส.ค. 49 20:53:45 ]

ความคิดเห็นที่ 118 โหวตครับ ไม่มีชื่อผมไม่ได้  ผมรักบอลไทยครับ จากคุณ : TongKenTian - [ 1 ก.ย. 49 00:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 119 เข้ามาอ่านค่ะ เห็นด้วยว่า ไม่คาดหวังถึงขนาดไปบอลโลก แต่อยากได้บรรยากาศการเชียร์บอลไทยเหมือนสัก 10 ปีที่แล้วกลับมา มีคนเข้าเชียร์ทีมชาติไทยเต็มสนาม ตามร้านค้าบ้านคนพากันเชียร์บอลไทย มีอารมณ์ร่วมเดียวกัน พูดคุยกันจบหลังเกมส์ แค่นั้น อนาคตก็เป็นเรื่องของปัจจุบันนั้นแหละ เพราะถ้ารากฐานดี การก่อสร้างยอดมันก็ได้เอง ก็ นะ.. ทุกคนก็เข้าใจ.. ทุกวันนี้ก็ยังเชียร์บอลไทยอยู่ ติดตามข่าวทุกนัดที่ไปแข่ง เรื่องการรวมลีก การเลือกตั้งนายกสมาคม เอ่อ..แต่บางครั้งไม่อยากพูดถึง ไม่อยากเอาอารมณ์เข้าไปผูกพันจริง ๆ คล้ายกับว่า ให้ใจไปแล้ว แต่ละลายหายไปกับอากาศ ไม่มีจุดหมายปลายทางให้ฝันถึงเลย แค่นี้แหละ ... จากคนชอบ เสนาะ โล่งสว่าง นที ทองสุขแก้ว สุรชัย จิระศิริโชต และ วัชรพงศ์ สมจิตร จากคุณ : BabyRed - [ 1 ก.ย. 49 09:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 120 20 ปีที่แล้ว โลกมันหมุนผ่านมา 7,300 กว่ารอบแล้วครับ เราอย่าไปเปรียบเทียบเลย ตัวเลือกความบันเทิงในอดีตกับปัจจุบันก็ต่างกัน คนเราเลือกที่จะตอบความสนองความสุขด้วยวิธีที่สบายที่สุด ผมเคยไปเชียร์สตูลในไทยแลนด์คัพ นัดชิงที่สนามศุภฯ บรรยากาศสุดยอดมาก เดี๋ยวนี้ไม่เคยไป แม้จะมาแข่งที่กรุงเทพฯในฐานะทีมเยือน เพราะขาดแรงจูงใจและมีตัวเลือกอย่างอื่นทดแทนได้ดีกว่า อย่างผมเขาเรียก "ขาจร" แต่ฟุตบอลอาชีพจะอยู่ได้ ต้องมี "ขาประจำ" และต้องมากด้วย กีฬาอาชีพทุกประเภท จะยืนหยัดอยู่ได้ด้วย "ขาประจำ" จำนวนมากเท่านั้น "ขาประจำ" คือใคร ก็คือ กลุ่มบุคคลที่มักจบการขัดแย้งกันด้วยการ "เดิมพัน" นั้นแหละ ใช่แล้วครับ "การพนัน" และต้องถูกกฏหมายด้วยครับ มวยไทย ม้าแข่ง  ไก่ชน เป็นกีฬาที่มีการพนันได้ถูกต้องตามกฏหมาย วันนี้ มีคนที่นิยมทั้งขาจรและขาประจำต่อเนื่องมายาวนานกว่า 50 ปี บัตรเข้าชมก็ไม่ใช่ถูก ๆ ค่าตัวนักมวย ไฟท์ละเป็นแสนๆ ค่าตัวม้าตัวนึงเป็น 10 ล้าน ค่าตัวไก่ ตัวนึงเป็นแสนๆ อาชีพที่เกี่ยวข้องก็พลอยสะพัดไปตามๆ กัน จ็อกกี้คนนึงมีรายได้เดือนนึงเป็นแสนๆ ในแต่ละแมทช์ แต่ละไฟท์เก็บค่าตั๋ว ค่าโฆษณาในสนาม และค่าสปอนเซอร์ มีมูลค่ามหาศาลอย่างเทียบไม่ได้กับกีฬาที่ไม่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง ครับ เอาความรู้สึกทางศีลธรรมออกไปก่อน แล้วเรามามองความจริงกัน วันนี้ ฟุตบอลนอกได้รับความนิยมอย่างรุนแรงไปทั่ว แม้กระทั่งคนที่ไม่เคยดูบอลเลยก็ยังคลั่งไปด้วย เพราะอะไร ขนาดแม้ค้าตามตลาด ยังตามบอลนอกเลยครับ ถ้าไม่มีการพนันและการส่งสริมจากสื่ออย่างโจ่งแจ้งเหมือนทุกวันนี้ ความนิยมในฟุตบอลนอกมันจะไม่ไปขนาดนี้อย่างแน่นอน คือมันจะอยู่ในกลุ่มที่ชอบฟุตบอลเท่านั้น เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลย์ เงินที่มาสนับสนุนก็  มาจาการพนันเกือบ 100% ทำไมคนแน่นสนาม ก็เขาแทงเอาไว้ บางคนเล่นนิดๆหน่อย 30-50 บาท ถือว่าสร้างความมันส์ในการตามเชียร์ คนที่รวยหน่อยวงเงินก็ใหญ่ขึ้น บ่อนถูกกฏหมายก็มีเงินมากขึ้น ก็นำเงินไปสนับสนุนทีมฟุตบอลมากขึ้น นี่ยังไม่รวมค่าตั๋วที่แพงแต่คนยอมจ่าย และรายได้ทางอ้อมอื่นๆอีก ทีมก็มีเงินไปจ้างนักเตะแพงๆได้อย่างสบาย   เมื่อได้นักเตะใหม่ที่มีชื่อเสียง ก็ทำให้แฟนบอลอยากติดตามมากขึ้น ก็ยอมจ่ายค่าตั๋วเข้าไปเชียร์ แทงติดปลายนวมไว้เพื่อความมันส์ และถ้าทีมชนะก็ได้สะใจเพื่อนที่อยู่ตรงข้ามอีกต่างหาก คือมันมีอารมณ์ร่วมหลายๆอย่างที่ทำให้คนเข้าไปดู คนที่ไม่เล่นการพนัน ก็จะถูกกระแสความนิยม บีบให้ต้องติดตามและเข้าไปดูเพื่อความสนุกในเกมส์และทันกับค่านิยมของกลุ่ม นักฟุตบอลก็ต้องเล่นกันอย่างสุดชีวิต เพื่อโชว์ให้เข้าตาแฟนบอล เพราะความนิยมของแฟนบอลจะมีผลโดยตรงต่อรายได้ของนักเตะคนนั้น เมื่อแฟนบอลเยอะรายได้ก็เข้าสโมสรมาก และสโมสรก็ต้องรั้งนักเตะให้อยู่นานที่สุดด้วยข้อเสนอที่งดงาม ไปถามซิโก้ ดูสิว่า ทำไมถึงอยู่เวียดนามได้นานขนาดนั้น ซิโก้ไม่รักเวียดนามอะไรนักหรอก แต่เขารักตัวเองและครอบครัวมากกว่า เงินที่สะพัดอยู่ในวงการกีฬาอาชีพ ไม่น้อยกว่า 60% คือเงินจากการพนัน(ถูกกฏหมาย) และกีฬาอาชีพทุกประเภท ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากการพนันทั้งสิ้น แต่ประเทศไทยไม่สนับสนุนการพนันครับ ถ้ากีฬาฟุตบอลถูกยกให้เป็นการพนันถูกกฏหมายมาตั้งแต่สมัยโบราณ(ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475) เหมือนม้าแข่ง มวยไทย  เราไปฟุตบอลโลกก่อนญี่ปุ่นนานแล้วครับ ! จากคุณ : อ่อนนุช - [ 1 ก.ย. 49 14:15:38 ]

ความคิดเห็นที่ 121 อ่านถึง คห.49 แล้ว รู้สึกสิ้นหวังทันที ได้แต่หวังน่ะครับว่าบอลไทยจะกลับมาเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็ยังดี ความหวังบอลไทยไปบอลโลก ปัจจุบันกลายเป็นฝันกลางวันไปเท่านั้น กระตุ้นที ก็พัฒนาที แล้วก็เงียบหาย แก้ไขเมื่อ 02 ก.ย. 49 02:10:50 จากคุณ : AeOni - [ 2 ก.ย. 49 02:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ความคิดเห็นของคุณอ่อนนุชน่าสนใจ และมีเหตุมีผลทีเดียวครับ มวยไทยทุกวันนี้ ศึกวันทรงชัยเก็บค่าตั๋วได้เป็นล้าน คิดดูสิครับ กับคนดูในสนามมวยที่เล็กกว่าสนามบอลไม่รู้กี่เท่า ยังมีคนยอมจ่ายเงินรวมกันเป็นล้านต่อวัน ที่เข้า ๆ สนามมวยไปน่ะ ร้อยละ 90% ขึ้นไปคือเพื่อ "เดิมพัน" ทั้งนั้นแหละครับ จะมีที่เข้าไปดูเพื่อความบันเทิงก็แค่นักท่องเที่ยวต่างชาติกับคนไทยส่วนน้อยมาก ๆ เท่านั้นเอง กีฬากับการเดิมพันมันแยกกันไม่ออกจริง ๆ นั่นแหละครับ ถ้ามีการเดิมพันเข้ามาเกี่ยวข้อง คนดูก็จะมากขึ้น นักกีฬาก็ต้องเล่นเต็มความสามารถ หากแกล้งแพ้จะมีบริษัทพนันเข้ามาตรวจสอบทันที อย่างในการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันที่ผ่านมา มีนักเทนนิสชาวอาเจนไตน์ผู้หนึ่ง พ่ายแพ้ต่อมือรองบ่อนอย่างหมดท่าถึง 3-0 ในรอบแรก ปรากฏว่ามีชาวอาเจนไตน์แทงเดิมพันถูกจำนวนมากถึงกว่า 200 ล้านบาท ทางบริษัทพนันของอังกฤษเจ้าหนึ่งเข้าไปตรวจสอบทันที เพราะเห็นว่ามีลับลมคมใน (ปกติคนชาติเดียวกันใครจะไปแทงฝั่งตรงข้ามมากมายขนาดนั้น) อะไรแบบนี้ เป็นต้น อย่างสิงคโปร์เองก็เอาเงินที่กำไรจาก สิงคโปร์ พูล มาสนับสนุนทีมฟุตบอล ผมไม่ได้สนับสนุนการพนัน เพราะบ้านผมมีผีพนันหลายตัว ทำให้เดือดร้อนมาจนทุกวันนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการพนันแยกออกจากกีฬาไม่ได้จริง ๆ ครับ จากคุณ : ทอฟฟี่สีน้ำเงิน - [ 2 ก.ย. 49 17:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ส่วนตัวแล้วคิดว่าการที่บอลลีกภายในตกต่ำจนแทบไม่มีคนดู ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสโมสรไม่สามารถความผูกพันระหว่างสโมสรกับคนดูได้ ทำให้คนดูไม่รู้สึกว่านี่คือสโมสรของตน เวลาสโมสรชนะเราก็ชนะมีความสุข เวลาแพ้ก็เศร้าตามไปด้วย (แต่ไม่ใช่เศร้าเพราะเสียพนันนะ อันนี้ไม่สนับสนุน หุ หุ) เรายังจำบรรยากาศฟุตบอลยามาฮ่าคัพยุคแรกๆ ได้ ที่ให้แต่ละจังหวัดส่งทีมเข้าร่วมคัดเลือกตามภูมิภาคแล้วเอาตัวแทนมาเล่นรอบชิงในกรุงเทพ  ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นครั้งที่สอง ปีที่ทำให้ วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ ดาวเตะโนเนมจากนครสวรรค์แจ้งเกิดจนก้าวเข้าทำเนียบยอดนักเตะทีมชาติสำเร็จ ปีนั้นคนดูแน่นมากโดยเฉพาะรอบรองฯ คนดูล้นทะลักสนามไทย-ญี่ปุ่นจนต้องถ่ายทอดวงจรปิดออกมาให้คนข้างนอกดูกัน บอกตรงๆ ว่าอยากเห็นบรรยากาศแบบนั้นอีกจริงๆ แต่ขอเพิ่มเติมนิดนึงว่า ฟุตบอลระดับสโมสรกับระดับชาติ ไม่จำเป็นว่าต้องแปรตามกัน 100% ที่เห็นชัดคือในยุโรป ดูอย่างบางประเทศ เช่น เชก สวีเดน เดนมาร์ก ฯลฯ พวกนี้ก็มีปัญหาแข้งไหลเหมือนกัน ตัวดีๆ ถูกซื้อไปเล่นที่อื่นหมดจนลีกในประเทศตกต่ำ ส่งทีมไปเล่นสโมสรฟุตบอลยุโรปทีไรก็ตกรอบแต่ไก่โห่เป็นประจำ แต่ผลงานทีมชาติกลับสวนทางกับสโมสรสิ้นเชิง สามารถเทียบกับประเทศที่มีผลงานระดับสโมสรเด่นๆ อย่างสเปน อังกฤษ ได้สบายๆ จากคุณ : เกียรตินำ - [ 2 ก.ย. 49 22:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ผมว่านะ เรามัวแต่เสนอ ความคิดกันอยู้แต่ผมไม่แน่ใจว่า เราทำอะไรกันบ้างหรือเปล่า ถามว่า เรา (คือ แฟนบอลทั้งหลาย) ทำอะไรที่เรา สามารถ ทำได้ คำว่า สามารถทำได้ แปลว่า เราคงไม่สามารถทำให้ นายวิจวย นั้นออกไปได้ เพราะว่า เค้าก็ทำตามกติกา (เหมือนผู้นำประเทศสารขัณฑ์) แปลว่า ถ้าเราไม่อยากให้ เผือก อยู่ เราก็คงต้องไปแก้ระเบียบ ถามว่า ทำได้มั้ย  ไม่ได้ ฉะนั้นเรา มาเริ่มกันด้วยเรื่องง่ายๆ เริ่มด้วยการเข้าไป ชม เชียร์ ซื้อของที่ระลึก สโมสร เข้าชมเกมทีมชาติทุกครั้งที่ทำได้ ถ้าคนไทยแค่ 10 %  ทำแบบนี้ ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว ผมชื่นชมคุณ หลายๆคน ที่ติดตามเชียร์ทีมรักตัวเองไม่ว่า จะเป็นยังไง นี่สิถึงเรียกว่า ช่วยกันพัฒนา ฟุตบอลไทยจริงๆ ถ้าเรามัวแต่มา เขียน(พิมพ์) กันอยู่ มันไม่ได้ดีขึ้นหรอก เพราะคนที่เรากำลังด่า มันเอ้ย เผือก ก็ไม่เคยเข้ามาอ่านหรอก ทำสิ่งที่ทำได้ดีกว่า และมันก็ไม่ยากด้วย จากคุณ : G.T.S. - [ 3 ก.ย. 49 21:24:22 ]