ความคิดเห็นที่ 1 [บทที่ 18 เมื่อความหดหู่มาเยือนอีกครั้ง ในช่วงระหว่างที่ผมกำลังก้าวสู่จุดสูงสุดในการรับใช้สโมสรนี้เมื่อฤดูกาล 2004/05  ผมต้องทุกข์ทรมานกับช่วงเวลาแห่งความลังเล ความคิดที่ว่าจะออกไปค้าแข้งกับเชลซียังคงกัดกร่อนจิตใจของผมอยู่ ลิเวอร์พูลอาจจะชนะเลิศรายการ UCL แต่พรีเมียร์ชิพก็ยังตกเป็นของเชลซี ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติประจำตัวอย่างหนึ่งที่ผมมี ผมจึงแสดงออกอย่างตรงไปตรงมากับลิเวอร์พูลเสมอ ในการแถลงข่าวก่อนหน้าที่จะลงเตะ UCL กับโอลิมเปียกอส มีคนถามผมว่า “คุณจะทำยังไงถ้าลิเวอร์พูลไม่ได้เล่น UCL ฤดูกาลหน้า”.... ผมตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “ผมคงจะต้องเริ่มพิจารณาถึงอนาคตของผม” ...ไม่มีทางเลือก... จากนั้นกระแสข่าวลือก็เริ่มหนาหูขึ้นเพียงเพราะผมไม่ได้ออกมาพูดว่า “ผมจะไม่ย้ายไปอยู่กับรีลมาดริด หรือ เชลซี” ผมไม่ต้องการที่จะโกหก หรือพูดว่า ทุกอย่างในลิเวอร์พูลช่างดูหวานชื่นหรือสดใสไปหมด ผมต้องการที่จะรอดูว่าสโมสรจะมีพัฒนาการไปอย่างไร ในอุดมคติแล้ว ลิเวอร์พูลควรจะชนะเลิศหรืออย่างน้อยได้รองแชมป์ จากนั้นผมก็สามารถที่จะประกาศว่า ผมไม่มีความจำเป็นต้องย้ายออกไปที่ไหน....น่าเศร้าที่ที่เราต้องมาต่อสู้ดิ้นรนเพื่อคว้าอันดับ 4 หรือ 5 อีกครั้ง ความกังวลที่จะต้องกลับไปเล่นยูฟ่าคัพเริ่มเด่นชัดอีกครั้ง ในวันที่ 10 ธันวาคม 2004 ริค แพร์รี่พยายามสยบข่าวลือด้วยการออกมาเน้นย้ำว่า ลิเวอร์พูลไม่เคยมีความคิดที่จะปล่อยให้ผมไป “ถ้าเราสามารถนำความสำเร็จอย่างสูงมาสู่สโมสรได้ ผมเชื่อว่า สตีเฟ่นจะยังคงอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป” ริคกล่าว.... เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับตัวผมเริ่มปรากฏขึ้นในช่วงระหว่างการเปิดตลาดนักเตะช่วงฤดูหนาว “เจอร์ราดจะยังคงอยู่หรือ?” “สตีเฟ่นกำลังจะย้ายไป”  (มุขพาดหัวข่าวใช้ Stevie G-oing - ผู้แปล) พาดหัวข่าวอันแล้วอันเล่าเปรียบเหมือนการเติมเชื้อฟืนลงในกองไฟ อีกครั้งหนึ่งที่ริค แพร์รี่ออกมาเน้นย้ำว่าสโมสรให้ความสำคัญอย่างสูงกับตัวผมมากแค่ไหน “เจอร์ราดเป็นอนาคตของลิเวอร์พูล เราขอปฎิเสธทุกข้อเสนอ ไม่ว่าจะเป็น 30, 40 หรือ 50 ล้านปอนด์ก็ตาม” ริคยังเคยมาหาผมเป็นการส่วนตัวถึง 2 ครั้งในช่วงระหว่างฤดูกาลนั้นและพูดว่า “เราต้องการต่อสัญญาของนาย เราต้องการให้นายอยู่ที่นี่” แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 20:33:43 จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:30:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แต่ผมยังคงสับสน ถ้าลิเวอร์พูลต้องการผมอย่างมาก เพราะอะไรถึงยังไม่นำสัญญามาวางบนโต๊ะ แสดงให้ผมเห็นถึงข้อตกลงต่าง ๆ ราฟาเองก็ต้องการให้ผมออกมาแสดงการตัดสินใจฝากอนาคตไว้กับสโมสร แต่ผมจะทำแบบนั้นได้อย่างไรเมื่อผมยังไม่ได้รับข้อเสนอประการใดทั้งสิ้นจากสโมสร พวกเขาไม่เคยติดต่อกับ Struan (เอเย่นต์ของเจอร์ราด - ผู้แปล) ผู้ที่เป็นคนจัดการเกี่ยวกับข้อตกลงต่างๆของผม ผมไม่เข้าใจว่าลิเวอร์พูลกำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ พวกเขาต้องการเก็บผมไว้หรือเปล่า?...ถ้าใช่ ริคและราฟากำลังทำแบบนั้นในวิถีทางที่แปลกๆ “เราต้องการให้นายอยู่” ราฟาบอกกับผมในวันหนึ่งที่เมลวู้ด...[/i]” “เราต้องการเก็บนายไว้”  ริคบอกกับผม... แต่มันดูเหมือนกับว่า ลิเวอร์พูลต้องการเก็บผมไว้ตามแบบเงื่อนไขของพวกเขา สิ่งที่ลิเวอร์พูลยื่นให้ผมคือ “เมื่อเราบอกให้เซ็น นายก็เซ็นมันซะ แล้วถ้านายตกลงเราจะบอกเองว่า สัญญานี้มีมูลค่าเท่าไหร่” ในฐานะกัปตันทีมสโมสรลิเวอร์พูลและคนที่อุทิศตัวในสนามเพื่อทีมนี้ ผมควรจะได้รับการปฏิบัติด้วยความให้เกียรติจากสโมสรมากกว่านี้ การต่อรองสัญญากับผู้เล่นชั้นยอดไม่ควรจะเป็นแบบที่ลิเวอร์พูลกำลังกระทำ ผมไม่ใช่เด็กใหม่ที่เพิ่งจะจบจากโรงเรียนฝึกหัดฟุตบอลนะ   ความชะงักงันในเรื่องนี้นำไปสู่ข่าวลือที่ปรากฏบนสื่อต่าง เชลซี, เชลซี, รีล มาดริด, รีล มาดริด ไม่มีหยุดหย่อน มันเริ่มจะกลายเป็นละครน้ำเน่าไปแล้ว.....ก่อนหน้าที่จะลงเตะลีกคัพรอบรองชนะเลิศกับวัตฟอร์ดในเดือนมกราคมปี 2005  เบนิเตซดึงผมไปพูดว่า “ฟังนะ นายสามารถหยุดข่าวลือที่อยู่ในหนังสือพิมพ์พวกนั้นได้ โดยการเซ็นสัญญาใหม่ซะ” แต่...มันไม่มีสัญญาใหม่อยู่ที่นั่น!! ความสับสนในสถานการณ์ทำให้ผมเริ่มเหนื่อยหน่าย “เจ้านายก็รู้ว่าเอเย่นต์ของผมอยู่ที่ไหน” ผมบอกกับราฟา “คุยกับเขาซะ เขาจะทำข้อตกลงในฐานะตัวแทนของผม” ครั้งแรกที่ราฟากับริคเริ่มต้อนผมเข้าสู่การเจรจา ผมพูดว่า “ดูสิ ผมจะเซ็นสัญญา 4 หรือ 5 ปีได้ยังไง ในเมื่อเรากำลังต้องดิ้นรนกับอันดับ 4 หรือ 5 ในพรีเมียร์ชิพ” ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมเองอยากรู้ว่าลิเวอร์พูลมีข้อเสนอทางการเงินยังไง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผมอยากให้ราฟากับริครับประกันถึงความก้าวหน้าของสโมสร พอกันทีกับการมาจมปลักกับอันดับ 5 ผมมองตาแล้วพูดกับราฟาว่า “ถ้าหากผมเซ็นสัญญาใหม่แล้วฤดูกาลหน้าต้องไปเล่นยูฟ่าคัพ แล้วผมจะทำยังไง?  จะเกิดไรขึ้นหากผมต้องหลุดจากทีมชาติอังกฤษ?” ราฟาจ้องมองกลับพร้อมกับพูดว่า “นายก็แค่ต้องเชื่อมั่นในตัวฉันเท่านั้น” ผมชอบและเชื่อมั่นในตัวราฟา เชื่อมั่นอยู่เสมอ และจะยังเชื่อมั่นต่อไป แต่มีความไม่แน่นอนมากมายกำลังรายล้อมลิเวอร์พูลอยู่ในตอนนั้น “ทำไมเราไม่รอจนกว่าจะจบฤดูกาลแล้วค่อยมาดูอีกทีว่าเราได้เล่น UCL มั้ย” ผมแย้ง “มาดูว่าจากนี้ไปจนจบฤดูกาลเราจะเป็นยังไง จากนั้นผมจะเซ็นสัญญา ถ้าคุณนำความสำเร็จมาสู่สโมสรและทำให้สโมสรนี้ก้าวไปข้างหน้า... ผมจะอยู่ที่นี่ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวผมเช่นกัน” จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คำพูดเกี่ยวกับ “ความเชื่อมั่น” ไม่ได้ทำให้ราฟาและริคพอใจ พวกเขามาหาผมอีกสามครั้งใน 9 สัปดาห์ช่วงกลางฤดูกาล หลังจาการแลกเปลี่ยนความเห็นในครั้งแรก ผมประหลาดใจที่พวกเขากลับมาอีกครั้ง ผมนั่งอยู่ที่นั่น ฟังชาย 2 คนที่ผมให้ความนับถือพูดเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาแล้วคิดอยู่กับตัวเองว่า “ทำไมพวกคุณถึงกลับมาพูดเรื่องนี้เป็นครั้งที่ 2 คุณควรจะรู้ว่าคุณจะได้รับคำตอบเหมือนเดิม” ผมบอกกับพวกเขาว่า “ผมจะไม่บอกว่าผมจะอยู่ร่วมหัวจมท้ายกับสโมสรจนกว่าผมจะรู้ว่าเราจะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีกฤดูกาลหน้าหรือเปล่า” ผมรู้สึกเหมือนเป็นแผ่นเสียงตกร่อง ย้ำกับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า บ้าชะมัด!  ผมโกรธที่ลิเวอร์พูลพยายามกดดันให้ผมเซ็นสัญญาให้ได้ ราฟากับริคควรให้ความเคารพในการตัดสินใจเรื่องที่ว่า ผมยังไม่สามารถให้คำตอบได้จนกว่าจะจบฤดูกาล บางทีพวกเขาอาจจะกลัวว่าลิเวอร์พูลจะไม่ได้ไปเล่นแชมเปี้ยนลีก เพราะเรากำลังต้องดิ้นรนอยู่ในพรีเมียร์ชิพ บางทีพวกเขาอาจจะรู้สึกว่าผมกำลังจะจากไปถ้าพวกเขาไม่ได้มัดผมไว้ด้วยสัญญาที่ยาวขึ้น บางทีพวกเขาอาจจะไม่ต้องการผมแล้ว บางทีพวกเขาอาจจะต้องการขายผมเพื่อนำเงินมาสร้างทีมใหม่... ลิเวอร์พูลยังคงพูดถึงเรื่องสัญญาใหม่แต่ผมกลับไม่เคยเห็นเอกสารใดๆทั้งสิ้น ผมเริ่มรู้สึกอยากจะตะโกนใส่พวกเขา “ถ้าพวกคุณต้องการผม เอาสัญญาที่เหมาะสมมาสิ แต่ถ้าพวกคุณอยากคุยตอนช่วงหน้าร้อน เชิญเลย” ความรู้สึกของผมต่อลิเวอร์พูลและแฟนบอลบางกลุ่มเริ่มหม่นหมองเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนัดชิงคาร์ลิ่งคัพกับเชลซีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2005 วันที่เริ่มต้นด้วยความหวังกลับจบลงด้วยความเลวร้าย จริงๆแล้วมันก็แค่ลีกคัพ แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษคือเป็นครั้งแรกที่ผมได้นำลิเวอร์พูลเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย คืนก่อนหน้านั้น ผมฝันถึงการได้ชูถ้วยรางวัล ตัวผม คนแรกที่ได้สัมผัสถ้วย ชูมันขึ้น และแฟนลิเวอร์พูลเฉลิมฉลองอย่างสุดชีวิต แต่ในความเป็นจริง กลับมีแต่เพียงความเศร้า เราเกือบที่จะเป็นผู้ชนะจากการขึ้นนำอย่างรวดเร็วด้วยประตูของรีเซ่ แต่หลังจากนั้น ผมกลับทำลูกเข้าประตูตัวเอง เชลซีพลิกกลับมาชนะในช่วงต่อเวลาและฝันร้ายก็เริ่มขึ้น ตัวผมเหมือนถูกฉีกให้กระจาย ผมทำให้ทุกคนผิดหวัง ทั้งสโมสร แฟนบอลและผู้เล่นคนอื่น การยื่นประตูเป็นของขวัญให้เชลซียิ่งทำให้มันเลวร้ายเข้าไปอีกเพราะข่าวลือต่างๆที่ตามมา คนทั่วไปลือกันว่า โชเซ่ มูริญโญ่เข้ามาปลอบใจผม แต่จริงแล้วเขาไม่ได้ปริปากกับนักเตะลิเวอร์พูลคนใดๆทั้งสิ้น มูริญโญ่ชื่นชมยินดีอย่างยิ่งกับชัยชนะ ผมรู้สึกเหมือนตัวบัดซบ  เหนื่อยล้า ท้อแท้ ไร้ชีวิตชีวา ตราบจนถึงทุกวันนี้ ความรู้สึกเจ็บปวดยังคงมีอยู่เวลาผมมองภาพของนัดชิงคราวนั้น  ภาพของนักเตะเชลซีรับเหรียญรางวัลชนะเลิศยังคงอยู่ในใจ ย้ำเตือนถึงความผิดพลาดของผมในวันนั้นที่คาร์ดิฟฟ์ หลังจากพาร่างที่แหลกละเอียดกลับขึ้นรสบัสของทีม ผมเปิดโทรศํพท์ดูข้อความจากเพื่อนๆ พยายามจะทำใจ พ่อผมโทรมา “เชิดหน้าเข้าไว้ ลืมมันซะ” เสียงโทรศัพท์ดังอีกครั้งมันมาจาก Lan Dunbavin ที่เดินทางไปคาร์ดิฟฟ์พร้อมกับแม่ “สตีวี่ แม่นายโกรธสุด ๆ” ผมส่งข้อความไปหาแม่ “โทรกลับด้วยเมื่อแม่พร้อมจะคุย” ผมเริ่มสงบสติอารมณ์แล้วแม่ก็โทรมา แม่อารมณ์เสีย หลังจากที่ผมทำเข้าประตูตัวเอง แฟนลิเวอร์พูลที่นั่งใกล้ๆกับบริเวณนั้นตะโกนด่าตัวผม ด่าอเล็กซ์ (ภรรยาเจอร์ราด) ***ตรงนี้ขออนุญาตไม่แปล อ่านเอาเองละกัน*** จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมรู้ดีว่าสิ่งที่แม่พูดไม่ได้โกหกหรือเติมแต่งขึ้นมาเองแน่ แม่ช่างน่าสงสาร แฟนลิเวอร์พูลพวกนั้นไม่รู้ว่าเธอเป็นแม่ของผม แม่ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่มีทางเลือก คุณจะไปหาเหตุผลอะไรกับพวกงี่เง่านั้นหละ จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่าแฟนลิเวอร์พูลด่าสาปแช่งผมและอเล็กซ์อย่างสาดเสียเทเสียในตอนนัดชิงคาร์ลิ่งคัพ โชคร้ายที่มีแฟนลิเวอร์กลุ่มเล็กๆที่ทำตัวน่าผิดหวัง ผมไม่รู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร แต่พวกนั้นใส่ชุด ถือผ้าพันคอ มีตราสโมสรลิเวอร์พูล ร้องเพลง “You’ll Never Walk Alone” และด่าผมต่อหน้าแม่ของผม สำหรับผมแล้ว พวกนั้นไม่ใช่แฟนลิเวอร์พูลที่แท้จริง...แม่ผมไปมิลลิเนียมเพื่อดูลูกชายตัวเอง นั่งอยู่ที่นั่นด้วยความภูมิใจ แต่แล้วกลับต้องมาเผชิญกับยาพิษ(คำด่า)พวกนั้น คนพวกนั้นมันเป็นพวกขี้ขลาด ไม่มีใครกล้ามาพูดแบบนี้ต่อหน้าผมซักคน ผมยอมรับได้กับคำตำหนิถ้ามันเป็นการตำหนิอย่างสร้างสรรค์ แต่ผมทำพลาดอย่างร้ายแรงในนัดชิงที่ผมพยายามต่อสู้เพื่อลิเวอร์พูล ผมจึงไม่สมควรโดนด่าเช่นนั้น ยิ่งไม่สมควรที่จะถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศและต้องรับฟังโทรศัพท์ปนเสียงสะอื้นของแม่ตัวเอง สำหรับบางคนนี่อาจจะทำให้เขาหันหลังให้กับสโมสรและขยะขแยงกับพฤติกรรมถ่อยๆของแฟนบอล...ทำไมแม่ของผมต้องเจอแบบนี้?....ทำไมผมต้องโดนแบบนี้? แน่นอน ผมไม่ได้เหมารวมว่าแฟนลิเวอร์พูลทุกคนเป็นแบบพวกนี้ แฟนบอลลิเวอร์พูลยังคงยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ส่วนใหญ่แล้วดีกับผมมากมาตั้งแต่ต้น แต่ในช่วงที่มีข่าวลือกับเชลซี แฟนบอลก้าวร้าวบางพวกเริ่มมาต่อต้านผม พวกนั้นหลงเชื่อข่าวลือและเริ่มแสดงความโกรธใส่ผม...แฟนบอลพวกนั้นควรจะคิดก่อนที่จะมาด่าทอผม พวกงี่เง่าเหล่านี้น่าจะนึกซักนิดว่าแม่ของพวกเค้าจะรู้สึกยังไงบ้างถ้าต้องเจอแบบแม่ผม ผมไม่มีวันลืมและให้อภัยพวกนี้เป็นอันขาด ผมเป็นลูกผู้ชายพอที่จะรับมือกับการด่าทอเพราะความผิดพลาด แต่ผมทนไม่ได้ถ้ามีใครมาด่าว่าให้แม่ผมต้องทรมานใจ ตั้งแต่นั้นมาแม่ของผมหันหลังให้กลับเกมส์ฟุตบอล แม่รักผมและยังอยากไปดูผมเล่น แต่ตอนนั้นผมไม่ยอมให้เธอไปดูอีกเพราะปัญหาเรื่องข่าวลือของผมกับเชลซี ไม่มีทางเลือก ทำไมแม่จะต้องไปนั่งทนกับเสียงด่าผมด้วยหละ? อเล็กซ์ไปดูบ้างเมื่อมีเกมส์ที่สำคัญๆ แต่ผมก็คอยเตือนถึงสิ่งที่เธออาจจะได้ยิน “ไม่ใช่ทุกคนที่ตะโกนชื่นชมเจอร์ราดว่าเป็นวีรบุรุษหรอกนะ” เธอเคยได้ยินเสียงตะโกนด่าผมบ้าง ถ้าหากผมทำพลาดแฟนบอลที่เสียเงินไปดูย่อมมีตะโกนด่าบ้าง แต่การด่าทอสาปแช่งที่ คาร์ดิฟฟ์เป็นเรื่องที่มากกว่านั้น การพลาดเข้าร่วมฟุตบอลโลก 2002 มันดูแย่ แต่การได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ทางโทรศัพท์เพราะลูกชายตัวเองทำเข้าประตูตัวเองแล้วโดนแฟนๆด่ามันทำให้ผมรู้สึกแย่ยิ่งกว่านั้น จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ข่าวลือแย่ ๆ พวกนั้นยังคงรุมล้อมผม ผมรักลิเวอร์พูล มันเจ็บปวดที่ทำให้พันธะที่ผมมีต่อสโมสรต้องแปดเปื้อนกับข่าวลือพวกนี้ ตอนที่เราเอาชนะเชลซีได้ในรอบรองชนะเลิศของแชมเปี้ยนลีกและก้าวไปสู่นัดชิงที่อีสตันบูล ผมไม่อาจเก็บมันไว้ได้ “สิ่งที่ผมต้องการคือ การเห็นสโมสรก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง และชัยชนะนัดนี้แสดงให้เห็นว่าพวกเรามาถูกทางแล้ว” คำพูดของผมนี้พิสูจน์ว่าหัวใจของผมอยู่ที่แอนฟิล์ด... อีกครั้งเมื่อเราชนะในนัดชิงอันน่าชื่นชมนั้น ผมแสดงมันออกมาอีกครั้ง “ผมจะจากสโมสรไปได้อย่างไรหลังจากค่ำคืนแบบนี้ และหลังจากได้รับประสบการณ์ทั้งหมดในค่ำคืนเช่นนี้” ผมพูดในงานแถลงข่าวที่อีสตันบูล มองไปที่ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพและได้ยินเสียงแฟนบอลอันวิเศษสุดของเรากำลังเฉลิมฉลองอยู่ด้านนอก แน่นอนว่ามันเป็นการแสดงความรักที่ผมมีต่อสโมสรลิเวอร์พูลแห่งนี้ “ผมจะเซ็นสัญญากับสโมสรไปอีก 4 หรือ 5 ปี” ผมประกาศกับโลก พระเจ้า! ถ้านี่ไม่ใช่การแสดงท่าทีถึงความผูกพันอันลึกซึ้งต่อสโมสรแล้ว จะให้ทำแบบไหนได้อีก? ผมดิ้นรนมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ เพื่อขจัดความอึมครึมเกี่ยวกับข่าวลือ เพื่อแสดงออกถึงความรักและผูกพันกับ สโมสรลิเวอร์พูล ผมอยู่กับริคและพูดว่า “มาเลย มาทำให้มันจบไปเถอะ ข่าวลือมากมายพวกนั้น มาเถอะ ริค มาทำให้มันหมดไปซะ” ผมจะเซ็นสัญญาใหม่ในทันที ตอนที่เหงื่อยังไหลอยู่บนหน้าผาก ด้วยมือที่เพิ่งจะยกถ้วยยูโรเปี้ยนคัพให้กับลิเวอร์พูลนี่แหละ ตอนนี้เลย อย่ามัวเสียเวลา พูดกันมากไปแล้ว เอาปากกามาเลย มาเซ็นสัญญากันเถอะ ที่อีสตันบูลอะดรีนาลีนกำลังสูบฉีดไปทั่วตัว แต่สติผมแจ่มใสชัดเจนมาก ผมไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างดีแล้ว ผมไม่สามารถย้ายไปไหนได้ ผมต้องการอยู่ที่นี่ ได้โปรด มาเซ็นสัญญากันเถอะ จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:39:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เงียบ ผมประหลาดใจมาก มันเคยมีสัญญาปรากฏบนโต๊ะพร้อมข้อเสนอที่ผมคิดว่ามันยังไม่ดีพอ  มันเหมือนกับว่าผมกำลังได้รับเงินสงเคราะห์จากรัฐบาล แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูลน่าจะรีบกระโจนเข้าหาผมด้วยข้อเสนอที่เหมาะสม พร้อมด้วยปากกา ในตอนที่เสียงเชียร์ที่อีสตันบูลยังคงกึกก้องในหูผม พูดถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพกลับมาสู่แอนฟิล์ด เป็นใบที่ 5 ที่ทำให้เราได้เก็บมันไว้ตลอดกาล และสตีวี่ จี กำลังกลับมาเพื่อให้สโมสรเก็บไว้เช่นกัน ช่วงเวลานี้แหละ คว้าโอกาสนี้ไว้เหมือนตอนที่ผมคว้าถ้วยยูโรเปี้ยนคัพด้วย 2 มือนี่แหละ เรามาก้าวไปพร้อมๆกันเลย แต่....มันกลับมีเพียงความเงียบ ลิเวอร์พูลมัวทำอะไรอยู่ถึงไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็วหละ?  หลังจากอีสตันบูล เขาเพียงคิดว่า เพราะเราชนะแชมเปี้ยนลีก เลยไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าผมจะเซ็นสัญญาตอนไหนงั้นหรือ ไม่มีความกระตือรือร้นจากสโมสร แต่สำหรับผมมันมีความหมายอย่างยิ่ง... มันช่างแตกต่างอย่างสุดขั้วกับกรณีของ เธียร์รี่  อองรีและอาร์เซนอลหลังจากนัดชิงยูโรเปี้ยนคัพ 2006  อองรีเซ็นสัญญาใหม่หลังจากจบเกมส์แค่ 36 ชั่วโมง อาร์เซนอลจัดการมันอย่างรวดเร็ว ลิเวอร์พูลไม่เคยตระหนักถึงความปรารถณาอย่างแรงกล้าที่จะเซ็นสัญญาของผม ผมชื่นชมในตัวริค แพร์รี่ผู้เป็น Chief Executive ของลิเวอร์พูลที่ทุ่มเทหัวใจในการทำงาน ในการดูแลสโมสรอย่างดีที่สุด แต่ดูเหมือนริคจะไม่เข้าใจว่าในหัวของผมมันทรมานแค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของของตัวเองนับตั้งแต่ ยูโร 2004 คลื่นแห่งความสงสัยเริ่มรายล้อมผมอีกครั้ง ตลอดฤดูกาลนั้น ริคพูดเสมอว่า ลิเวอร์พูลต้องการเก็บผมไว้... 3 ครั้งที่พวกเขามาติดต่อผม ผมเป็นสัญลักษณ์ของลิเวอร์พูล เด็กหนุ่มผู้กระตือรือร้นจาก Huyton เติบโตขี้นมาที่เมลวู้ดและแอนฟิล์ด แน่นอนว่าพวกเขาต้องการให้กัปตันที่เติบโตจากเด็กท้องถิ่นอยู่คู่สโมสรต่อไป.... ดิดี้ (ฮามันน์) เซ็นสัญญาหลังจากอีสตันบูล แต่ไม่ใช่ผม .ราฟาจัดประชุมผู้เล่น 3-4 คนเพื่อกำหนดอนาคตของพวกนั้น แต่นั่นไม่รวมผม “สตีเฟ่น ฉันจะมาพบนายหลังจากกลับมาจากพักร้อน” ราฟาพูดหลังจากอีสตันบูล พระเจ้า! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมพูดคุยกับครอบครัวและ Struan ว่ามีใครอธิบายสาเหตว่า ทำไมลิเวอร์พูลถึงได้เย็นชาเฉยเมยกับผมหลังจากผ่านเดือนอันอบอุ่นเช่นนี้ ไม่มีใครเข้าใจ หรือมันเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การเจรจาต่อรองของพวกเขา ลิเวอร์พูลแลดูแสดงออกต่อสารณะชนในแง่บวก ในวันที่ 19 มิถุนายน ราฟาประกาศในหนังสือพิมพ์ “ผมไม่ต้องการขาย สตีเฟ่น เจอร์ราด” 5 วันหลังจากนั้น ผมเจอในหนังสือพิมพ์ว่า ริคพูดว่า “เราต้องการให้สตีเฟ่นอยู่ ไม่มีการหน่วงเหนี่ยวเรื่องสัญญาของเขาแน่” ข่าวลือเริ่มกลับมาปรากฏอีกครั้ง รีลมาดริดพยายามอย่างยิ่งที่จะซื้อตัวผม มีการพูดถึงการแลกตัวผมกับกูตีพร้อมด้วยเงินจำนวนหนึ่ง กูตีเป็นมิดฟิล์ดรีลมาดริดที่ราฟาชื่นชม มันเข้าใจได้เพราะเขาก็เป็นผู้เล่นที่ดี...ผมอ่านเจอข่าวนี้...ไม่มีไฟก็ไม่มีควัน... มีครั้งหนึ่งที่ผมได้เจอกูตีที่ชายหาดในสเปนช่วงหน้าร้อนนั้น ผมไปพักผ่อน เจอเขาที่นั่นเลยเดินเข้าไปทักทาย มีคนจับภาพได้และมันไปปรากฏบนหนังสือพิมพ์ แล้วคนก็เริ่มลือเกี่ยวกับการย้ายไปรีลมาดริด ความจริงแล้วรูปนั้นมันไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้นถ้าคุณเป็นผู้ดูฟุตบอลที่ฉลาด มันก็แค่นักฟุตบอล 2 คนพูดทักทายกัน ก็เท่านั้น แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 21:12:02 จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:39:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข่าวเรื่องมาดริดยังคงอยู่ ผมพิจารณาเรื่องความสัมพันธ์ของราฟากับรีลมาดริด สถานที่ซึ่งเขาเคยเป็นโค้ชเยาวชนมาก่อน ผมเริ่มประหลาดใจ สื่อในสเปนเริ่มลงข่าวเกี่ยวกับความสนใจของรีลมาดริด ฟลอเรติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรรีลมาดริดตอนนั้น พูดถึงผมเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกใหม่ของพลพรรคกลาติกอส... สิ่งที่ทำให้ผมโมโหมากก็คือเรื่องที่มาดริดออกมายืนยันว่า ผมได้คุยกับราฟาแล้วว่าต้องการย้ายไปรีลมาดริด  ไร้สาระ ไร้สาระสิ้นดี “ความจริง”มักเป็นของแสลงสำหรับพวกพวกชอบสร้างกระแสทั้งในหนังสือพิมพ์สเปนและอังกฤษ หัวใจของผมเริ่มห่อเหี่ยวเมื่อได้เห็นคำพูดของราฟาในสื่อสเปนที่พูดว่า “ผมไม่ต้องการดารานักฟุตบอล ผมต้องการขายออกไป” ผมคว้าหนังสือพิมพ์ไปถามต่อหน้าราฟาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาพูดในสื่อสเปน ตัวต่อตัว มาเลย มาคุยกัน “ฟังนะ, เจ้านายต้องการขายผมหรือ?” ผมถาม “ไม่” ราฟาตอบกลับ “แล้วนายต้องการจะไปรึ” ผมมองหน้าราฟาด้วยความประหลาดใจ ราฟากล้าพูดอย่างนี้ได้อย่างไรหลังจากเหตุการณ์ที่เราเผชิญร่วมกันที่อีสตันบูล?[/i]” ผมเดินออกมาแล้วโทรหา Struan “Struan, ราฟากำลังคอยให้ผมเป็นคนออกปากเองหรือเปล่า?? เขาต้องการให้ผมพูดว่า ผมต้องการย้าย อย่างงั้นหรือ ลิเวอร์พูลกำลังเล่นเกมส์บ้าๆอะไรอยู่นี่” ความตื่นตระหนกเริ่มเกิดขึ้น ลิเวอร์พูลกำลังมีปัญหา พวกเขาต้องการเงิน พวกเขาต้องการขายผมเพื่อหาทุนมาให้ราฟาใช้สร้างทีม ผมเริ่มคิดไม่ตก เรื่องราวมากมายออกมาจากมาดริดอีก “มาดริดพร้อมสำหรับการย้ายทีม”  อีกครั้งที่ผมไปพูดเรื่องนี้กับราฟาเกี่ยวกับเสียงซุบซิบในสื่อสเปน “เอเย่นต์นายนั่นแหละที่ให้ข่าวพวกนี้” ราฟาโทษ Struan เกี่ยวกับข่าวที่ปรากฏในสื่ออังกฤษ แต่ว่าเรื่องราวทั้งหมดในสื่ออังกฤษกลับมีต้นตอมาจากสเปน บางคนในลิเวอร์พูลกำลังช่วยสื่อสเปนกระพือข่าว แล้วพาดหัวข่าวพวกนั้นก็กลับมาปรากฏในอังกฤษอีกที ดูเหมือนมีการเล่นเกมส์มากมายเกี่ยวกับอนาคตของผม ผมรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ในท่ามกลางความสับสน, ในวันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน, 1 เดือนหลังจากอีสตันบูล Struan กับริคจัดการประชุมขี้น ในที่สุดเราก็มาคุยข้อตกลงกันซะที ข่าวลือทั้งหลายจะได้ยุติซะที Struan ก้าวเข้าไปในที่ประชุมหวังว่าจะได้รับข้อเสนอที่ดีขึ้น ในที่สุดลิเวอร์พูลก็มีเวลามากพอที่จะร่างข้อตกลง ผมรออยู่บ้านคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าวงจรต่างๆจะได้เริ่มดำเนินไปซะที ผมกำโทรศัพท์ไว้ในมือ เตรียมพร้อมทุกเมื่อที่จะรับโทรศัพท์แสดงความยินดีจาก Struan  ผมคาดหวังว่าจะได้ยิน Struan พูดว่าลิเวอร์พูลพร้อมจะร่วมมืออย่างไรกับผม และข้อตกลงเหล่านั้นจะบรรลุไปได้อย่างไร แค่เพียงลายเซ็นอันเดียวเท่านั้น และเราจะเซ็นมันลงไป ยอดเยี่ยม สมบูรณ์แบบ! . .. ... ผมคอยแล้วคอยเล่า ในที่สุด Struan ก็โทรมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสับสน  “มันไม่มีสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้นวางอยู่บนโต๊ะ  ลิเวอร์พูลอยากรู้ก่อนว่า เราต้องการอะไร” งี่เง่าสิ้นดี!!  ผมผิดหวังกับก้าวแรกของลิเวอร์พูลมาก วันต่อมา วันอังคาร ราฟาเรียกผมเข้าไปในออฟฟิศแล้วยื่นกระดาษเปล่าขนาด A4 ให้ตรงหน้าผม “เอาไป สตีเฟ่น เขียนสิ่งที่นายต้องการลงไป” ผมตกตะลึง การโต้ตอบเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ไม่” ผมตอบ “ทำไมหละ” “คุณต้องการคำตอบว่าผมต้องการอะไรงั้นหรือ งั้นผมจะมีเอเย่นต์ไว้ทำไม” ราฟามองผมด้วยสายตาเย็นเฉียบ “ผมไม่ชอบเอเย่นต์” “แต่คุณเองก็มีเอเย่นต์ไม่ใช่รึ ใครที่เป็นคนจัดการสัญญาต่างๆกับริค ตัวคุณเองรึว่าเอเย่นต์ของคุณเป็นคนจัดการกัน” “เอเย่นต์ของฉัน” “ด้วยความเคารพ เจ้านาย ผมก็มีเอเย่นต์ไว้จัดการเรื่องพวกนั้นเหมือนกันนั่นแหละ ผมต้องการมุ่งมั่นกับฟุตบอล ผมไม่เคยพูดกับผู้จัดการทีมเรื่องสัญญามาก่อน มันเป็นหน้าที่ของเอเย่นต์ผมต่างหาก” ผมรู้สึกถึงความไม่เป็นมืออาชีพของราฟา ผมเริ่มโมโห “คุณกำลังสร้างความยุ่งยากให้ผม เอเย่นต์ผมรู้ดีว่าผมต้องการอะไร เราคิดว่าคุณจะปรับปรุงข้อเสนอให้กับเรา” ราฟาไม่ได้ตอบกลับมาทันที หลังจากนิ่งเงียบไปชั่วขณะ ในที่สุดก็ตอบกลับมาว่า  “เราจะคอยและดูต่อไป” แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 20:43:46 จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ช่วงสัปดาห์นั้น ความตึงเครียดระหว่างผมกับลิเวอร์พูลเพิ่มขึ้นทุกวัน ผมต้องอ่านพาดหัวข่าวมากมายเช่น “เบนิเตซอาจจะต้องการเงินจากเจอร์ราด” หรือข่าวลือเกี่ยวกับเชลซีพร้อมจะจ่ายค่าเหนื่อย 110,000 – 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ จริงๆแล้วผมก็แค่ต้องการเซ็นสัญญาที่เหมาะสมกับลิเวอร์พูลและไม่ย้ายไปไหนทั้งสิ้น หลังจากรู้สึกได้ถึงอารมณ์หงุดหงิดของผม Struan พยายามที่จะปลดเงื่อนตายนี้ ในวันที่ 29 มิถุนายน  Struan ติดต่อกลับไปที่ลิเวอร์พูลอีกครั้งแล้วแจ้งให้พวกเขารู้ว่า เรากำลังพิจารณาเรื่องค่าจ้าง “มันเป็นเรื่องสมเหตุผล” Struan ชี้แจงกับริค “โลกนี้มีนักฟุตบอลชั้นยอดอยู่แค่ราวๆ 20 คน แล้วพวกนั้นก็ได้รับค่าแรงอยู่ในช่วงระหว่าง 2 ระดับนี้”  2 ระดับที่ว่าคือ 90,000 และ 110,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์  “ผมและสตีวี่ต้องการแค่ขั้นต่ำเท่านั้น แต่ถ้าเราย้ายไปที่อื่นเราคงเรียกร้องขั้นสูงสุด”  Struan ย้ำ มันดูยุติธรรมดี ผมไม่ได้ต้องการจะเรียกค่าไถ่สโมสรที่ผมรัก ความจริงแล้ว การอยู่ลิเวอร์พูลต่อไม่ได้ทำให้ค่าแรงผมมีความแตกต่างจากเดิมมากนัก หนังสือพิมพ์ทุกฉบับลงข่าวว่า ผมมีรายได้อยู่ประมาณ 7- 80,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ขึ้นอยู่กับการลงสนาม แล้วตอนนี้ ผมต้องการ 10,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ผมช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้ายูโรเปี้ยนคัพ ซึ่งทำให้สโมสรยังมีโอกาสเข้าร่วมรายการนี้ต่อไปในฤดูกาลที่จะมาถึง และมันก็ดีต่ออนาคตของสโมสร พูดก็พูดเถอะ สโมสรอื่นพร้อมจะเสนอค่าเหนื่อยสูงกว่านี้อีก ริคยอมรับว่าตัวแปรเรื่องค่าเหนื่อยสำหรับนักเตะชั้นนำนั้นยุติธรรมดี เขายังเห็นด้วยที่ว่าสิ่งที่ผมต้องการนั้นมันเป็นเพียงขั้นต่ำที่นักเตะชั้นนำควรได้รับ “ขอเวลา 2-3 วัน ผมจะคุยกับประธานและบอร์ดบริหารให้” ริคพูด “เยี่ยม” ผมบอกกับ Struan “ตอนนี้ลิเวอร์พูลควรจะจัดการได้เรียบร้อยหละนะ พวกเขาคงยื่นข้อเสนอที่ใกล้เคียงกับขั้นต่ำนั้นมาให้ ผมจะได้เซ็นมันและจบๆเรื่องวุ่นๆพวกนี้ซะที” จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ในทุก ๆ นาที ผมหวังจะได้รับโทรศัพท์จาก Struan แจ้งให้ทราบว่า ริคจัดการทุกอย่างเรียบร้อย สัญญาตกลงกันแล้ว สิ่งที่ยังต้องการอีกก็แค่ลายเซ็นของผมเท่านั้น.... น่าเศร้า ที่ความเงียบงันกลับมาอีกครั้ง ทุกวันผมไปที่เมลวู้ดพูดกับราฟาว่า “คุณหยุดเรื่องงี่เง่าพวกนั้นได้ ผมไม่ได้มีความสุขกับมันนะ ผมจะอยู่ถ้าเพียงแต่คุณยื่นสัญญาใหม่ให้ผม”   ผมไม่ได้ก้าวร้าว ผมยอมรับว่าในช่วงสัปดาห์นั้นความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเบนิเตซตึงเครียดอย่างมาก แต่มันไม่เคยมีการลงไม้ลงมือหรือแสดงอาการก้าวร้าวใส่กันแต่อย่างใด ข่าวลือพวกนั้นมันไร้สาระสิ้นดี ไม่ได้มีการทะเลาะกันด้วยถ้อยคำหยาบคาย การโต้แย้งระหว่างผมกับราฟาอาจจะร้อนแรงแต่ไม่ได้หยาบคาย สำหรับความแตกต่างกันในเรื่องเกี่ยวกับสัญญาของผมนั้น ผมยอมรับและเข้าใจในตัวราฟาอย่างมาก เขาเองก็หงุดหงิดเช่นกัน “สตีเฟ่น ผมไม่ได้ชื่นชอบการหยิบหนังสือพิมพ์มาอ่านข่าวลือพวกนี้หรอกนะ” เขาบอกกับผม “มันเป็นแผนของรีลมาดริดที่พยายามทำให้เรื่องมันวุ่นวาย พวกนั้นต้องการได้ตัวนาย” “ด้วยความสัตย์จริงเช่นกัน เจ้านาย ถ้าลิเวอร์พูลต้องการผม บอกริคให้รีบโทรไปหา Struan ด่วน ผมไม่สนใจว่าสื่อสเปนจะเล่นข่าวยังไง ผมสนใจแค่อยากจะจัดการอนาคตผมให้เสร็จซะที ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” “ถ้าลิเวอร์พูลยังคงเอื่อยเฉื่อยต่อไป” ผมคิด “ผมอาจจะต้องไปจากที่นี่” ความคิดนี้มันเหมือนค้อนทุบใส่หัวผม ไปจากลิเวอร์พูล? แน่นอนมันเป็นไปได้ ประตูทางออกของลิเวอร์พูลเปิดก็เพราะความลังเลของพวกเขา ผมเริ่มขยับเข้าไปใกล้ประตูนั้นแล้ว วันที่ 1 กรกฎาคม Struan โทรไปหาริค “สตีวี่อยากจะไป”  “ขอเวลาอีกซัก 2-3 วัน” ริคตอบกลับมา ศุกร์นั้นมีงานแต่งงานของ คาร่า ผมไปร่วมงาน รู้สึกยินดีมากที่ได้เห็นว่าคาร่าดูมีความสุขขนาดไหน มันเป็นงานเลี้ยงที่ดี กับเพื่อนของเขา ไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ ผิดกับผมที่รู้สึกเหมือนมีโลกทั้งใบอยู่บนบ่า พวกเพื่อนๆเข้ามาถามผมว่า เกิดอะไรขึ้นกับลิเวอร์พูล “ตอนนี้ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับพวกบอร์ดบริหารแล้ว” ผมตอบกลับไป ตลอดสุดสัปดาห์นั้นเรายังคงไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จากลิเวอร์พูล ไม่มีอะไรทั้งสิ้น แล้วมันก็มาถึงจุดแตกหัก ในวันเสาร์ผมเข้าไปเมลวู้ดเพื่อพบราฟา คุยกันแบบตัวต่อตัว “ผมไม่ได้โลภมากนะ เจ้านาย” ผมบอกกับเบนิเตซเมื่อเขาถามเรื่องค่าแรงที่ต้องการ “ผมต้องการได้รับค่าจ้างเหมือนกับที่มิดฟิล์ดชั้นยอดในยุโรปคนอื่น ๆ รับเท่านั้น มันเป็นอัตราที่สมควรแล้ว” “สตีเฟ่น เราต้องการเก็บนายไว้” ราฟาพูด “นายจะกลายเป็นนักเตะชั้นนำคนนึงของโลก แต่นายมีคนให้คำปรึกษาที่ไม่ดีเลยนะ เพื่อน ครอบครัว หรือใครก็ตามที่ให้คำปรึกษานาย มันไม่ถูกต้อง” ผมโกรธมากเพราะผมเชื่อมั่นใน Struan ไม่ใช่แค่เรื่องการเงินแต่รวมถึงเรื่องอื่นๆในชีวิต “เจ้านาย คุณโทรไปคุยกับริคตอนนี้แล้วถามเค้าได้มั้ยว่า “[i]เราจะยื่นสัญญาใหม่ให้กับ สตีเฟ่น เจอร์ราดรึเปล่า?” [/i]” ไม่มีการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น พอกันที หลังจากผ่านพ้นสุดสัปดาห์ไปโดยไม่มีคำใดๆออกมาจากทางลิเวอร์พูล Struan และผมตัดสินใจยุติการเจรจา  ทุกอย่างชะงักงันไปหมด Struan รับโทรศัพท์จากเอเย่นต์คนหนึ่งที่ถามว่า ผมเซ็นสัญญาใหม่ไปหรือยัง “คำตอบคือ ยัง” เขาตอบกลับไป เชลซีถือว่านี่เป็นการส่งสัญญาณที่มากพอกับพวกเขา ที่จะเดินเรื่องต่อไป ในวันจันทร์หนังสือพิมพ์เต็มไปด้วยข่าวที่ว่า ผมกำลังจะย้ายออกจากลิเวอร์พูล เชลซีเดินหน้าส่งแฟกซ์เพื่อยื่นข้อเสนอซื้อกับลิเวอร์พูลแล้ว ในหัวของผมยุ่งเหยิงไปหมด ในทีวี ผมได้ยินเบนิเตซพูดในงานแถลงข่าวการคว้าตัว โบโล่ เซนเด้น ทุกคำถามล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของผมทั้งสิ้น “ผมต้องการให้สตีเฟ่นอยู่ลงเล่นกับเราต่อไปอีก 8 ปี ต่อจากนั้นมันก็ยังมีหน้าที่อื่นให้เขาอีก” ผมไม่ได้เชื่อสักนิดเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าผมอาจจะกลายเป็นผู้จัดการทีมต่อจากนั้น แต่สิ่งที่ผมประทับใจคือ ความจริงใจเมื่อตอนที่ราฟาพูดว่าเขาต้องการให้ผมอยู่ต่อไป “บางทีราฟาอาจจะต้องการเก็บผมไว้จริงๆ” ผมคิด...แต่จริงๆแล้ว ผมไม่รู้จะคิดอะไร ผมกำลังอยู่ในภาวะที่แย่มาก กังวล เครียด หัวแทบระเบิด จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:47:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แล้วแสงสว่างก็ปรากฏขึ้น ประธานสโมสรที่ยอดเยี่ยมอย่าง เดวิด มัวร์ส เรียกประชุมที่เมลวู้ดในบ่ายวันจันทร์นั้น ผมรู้ดีถึงความเอาใจใส่ของประธานที่มีต่อผมในฐานะของมนุษย์ ในฐานะของนักฟุตบอล มิสเตอร์มัวร์สตระหนักถึงสถานการณ์ที่ชะงักงันระหว่างกัปตันทีมกับสโมสรลิเวอร์พูล ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเข้ามาแทรกแทรง ประธานสโมสร, ผม, Struan, ราฟาและริค นั่งล้อมวงพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มันยังไม่มีข้อสรุปใดๆ แต่นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น ตอนที่ผมกลับขึ้นรถ ผมบอกกับ Struan ว่า “บางทีพวกเขาอาจจะต้องการเก็บผมไว้จริง” ผมเริ่มตำหนิตัวเองเกี่ยวกับความคิดของผม ผมรู้สึกผิด ผมอาจจะคิดไปเองว่าลิเวอรพูลต้องการให้ผมไป แต่การประชุมที่เมลวู้ดนี้สร้างความประทับใจที่แตกต่าง ให้ผมเห็นถึงความจริงใจของสโมสร.... ...แต่ผมยังคงไม่มั่นใจอยู่ดี . แม้ว่าแนวโน้มกำลังไปในทางดี ผมกลับประสาทเสียมากขึ้น หนังสือพิมพ์ลงข่าวบ้าๆเกี่ยวกับความสนใจของเชลซี “32 ล้านปอนด์” ปรากฏบนข่าวพาดหัวในวันอังคาร เมื่อมันเกิดขึ้น ริครีบโทรมาบอก Struan และพูดว่า “ข้อเสนอซื้อยังอยู่ ขอโทษด้วยที่มันใช้เวลานานไปหน่อย มันยังอยู่” นี่มันเป็นความจริงหรือ? ผมไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับลิเวอร์พูลทั้งสิ้น หรือว่าลิเวอร์พูลกำลังพูดถึงสัญญาใหม่เพื่อปิดปากแฟนบอล ในขณะที่กำลังพยายามขายผมให้กับเชลซี? ผมต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้ ผมตัดสินใจจะกดดันพวกเขา ผมโทรไปหา Struan “Struan  ผมต้องการรู้ว่าพวกเขาต้องการจะขายผมจริงหรือเปล่า ทำเรื่องขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเลย” Struan โทรไปหาลิเวอร์พูล “ถือว่าการโทรมาครั้งนี้เป็นการขอขึ้นบัญชีย้ายทีม ถ้าคุณต้องการเอกสารยืนยัน เราจะส่งตามมาให้ทีหลัง แต่ให้ถือว่านี่เป็นการขอขึ้นบัญชีได้เลย” ตูม!! การขอขึ้นบัญชีย้ายทีม เป็นเหมือนการโยนระเบิดมือลงไปกลางวงบอร์ดบริหาร วันอังคารที่ 5 กรกฎาคมนั้นมันบ้าบอสิ้นดี มันเป็นวันที่ยาวนานที่สุด ยากลำบากที่สุด และเต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่นที่สุดในชีวิตของผม ผมต้องลงมือทำ ผมเบื่อกับข่าวลือในหนังสือพิมพ์ เบื่อกับการถูกลากเข้าไปในออฟฟิศของเบนิเตซ เบื่อกับการรอคอยคำตอบจากลิเวอร์พูลเรื่องสัญญาใหม่ของผม ผมรู้สึกรำคาญที่ต้องรอคอยคำตอบจากลิเวอร์พูลเป็นเวลาเนิ่นนานนับตั้งแต่ผมได้บอกพวกเขาไปที่อีสตันบูลว่าผมต้องการจะอยู่ต่อ ผมจำได้ถึงความสับสนวุ่นวายใจเมื่อครั้ง ยูโร 2004 พอกันทีกับเรื่องแบบนั้น การขอขึ้นบัญชีจะช่วยปลุกให้ลิเวอร์พูลขยับตัวซะที! จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ทุกอย่างมันน่าจะจัดการเรียบร้อย แต่ลิเวอร์พูลกลับให้ข่าวกับสาธารณะชนทันทีเรื่องการขอย้ายของผม ริคจำเป็นต้องทำ เขาจำเป็นต้องทำเพื่อให้ความยุติธรรมกับบรรดาแฟนทั้งหลาย...ความบ้าคลั่งกระจายไปทั่ว... ผมนั่งอยู่ที่บ้าน มือหนึ่งถือโทรศัพท์ มือหนึ่งถือรีโมตจ้องมองตาไม่กระพริบราวกับดูละครบนสกาย (เคเบิ้ลทีวี – ผู้แปล) โดยมีผมเป็นนักแสดงเอก ยังๆ ผมยังนั่งเซื่องๆอยู่ที่บ้านดูพวกผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายโต้เถียงกันเรื่องผมและอนาคตของผม  เมื่อผมได้เห็นแฟนบอลเผาเสื้อเรุ่นเก่าเบอร์ 17 ที่ปักชื่อเจอร์ราด ที่ตรงหน้าประตูแชงคลีย์ มันทำให้ผมยิ่งสับสน คุณรู้รึไม่ว่าสิ่งนี้มันทำให้ผมร้าวรานแค่ไหน โทรศัพท์ของผมสายแทบไหม้ “ไม่ต้องห่วง” บางคนพูด “พวกนั้นทำแบบนั้นก็เพราะว่ามันมีกล้องทีวีของสกายอยู่ที่นั่น ก็เท่านั้นเอง” มันเป็นช่วงของกระแสข่าวลือ ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ โลกกำลังเป็นบ้าไปแล้ว ผมโทรไปหาพ่อและพอล “พ่อมาหาผมที่นี่ได้มั้ย ได้โปรดเถอะ” ผมขอร้อง พวกเขารีบมาทันที  เราเข้าไปที่ห้องนอนของผมคุยกันเกือบยี่สิบนาที “สตีเฟ่น อย่าไปเลย” พ่อผมขอร้อง “แต่พ่อครับ ดูที่ทีวีสิ แฟนพวกนั้นเผาเสื้อผมที่หน้าแอนฟิล์ด แต่สโมสรกลับไม่ยับยั้งพวกนั้น ลิเวอร์พูลไม่ต้องการผมอีกต่อไปแล้ว” แต่พ่อกับพอลไม่ยอมเชื่ออย่างนั้น “อย่าไปไหนเลยลูก” พ่อพูด “อย่าไปจากสโมสรที่แกรักเลย” . .. ... หลังจากที่พ่อกับพอลกลับไป ผมพูดกับอเล็กซ์ เธอไม่ใช่คนที่อยู่ในโลกของฟุตบอล เธอไม่เข้าใจในฟุตบอล แต่เธอเป็นคนที่วิเศษสุดสำหรับผม “สตีวี่ เธอต้องตัดสินใจแล้ว” อเล็กซ์พูด “แต่ไม่ว่าเธอเลือกอะไร ชั้นจะสนับสนุนเธอเต็มที่.... ชั้นพร้อมจะไปเชลซี มาดริด หรือที่ไหนๆก็ตาม..... ชั้นจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ..... ไม่ต้องห่วง.... ถ้าเธอจะไป ชั้นก็จะไปกับเธอ..... ถ้าเธออยู่ ชั้นก็จะอยู่กับเธอ” อเล็กซ์เป็นกังวลเกี่ยวกับตัวผม เธอรู้ดีว่าเกือบเดือนแล้วที่ผมไม่ใช่คนเดิม มันเป็นความสุขใจที่รู้ว่าความรักของเธอไม่ได้จืดจางลงไปไม่ว่าผมจะตัดสินใจไปอยู่ที่ไหนๆ ตอนที่เราคุยกันนั้น ลูกสาวที่น่ารักของเรา ลิลลี่-เอลล่า กำลังวิ่งเล่นอยู่รอบๆโดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องราวในโลก ....ถ้าเพียงแค่ชีวิตของผมเรียบง่ายแบบนั้น... แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 20:52:34 จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 13 Struan มาหาผมที่บ้านพยายามให้ผมสงบสติอารณ์ เขามองเห็นผมกำลังยืนที่ปากเหว ห่างจากหายนะแค่ไม่กี่ก้าว ผมมองดูข่าวแล้วข่าวเล่าด้วยน้ำตานองหน้า ผมต้องทุกข์ทรมานกับความเครียด พลังของผมหมดไปในระหว่างการเดินทางที่แสนจะยุ่งยากใจในการเข้าและออกจากห้องทำงานของเบนิเตซ หัวของผมแทบระเบิด ผมกินยาแก้ปวดพาราเซตามอลราวกับมันเป็นช๊อกโกแลตสมาร์ตี้ “ทำไมเรื่องราวมันถึงได้กลายเป็นเลวร้ายแบบนี้ .เมื่อเดือนก่อน ผมได้ชูถ้วยต่อหน้าคนทั้งโลกเส็งเคร็งนี้อยู่เลย, Stru (ชื่อเล่นของ Struan - ผู้แปล)  ผมตระเวณไปรอบๆเมืองต่อหน้าคนครึ่งล้าน... ผมได้ร่วมฉลองถ้วยใบใหญ่ที่สุดกับแฟนบอลของสโมสรที่ผมอยู่มาตั้งแต่แปดขวบ ...แล้วตอนนี้ ผมกลับต้องมาดูการถ่ายทอดสด การเผาเสื้อของผมทางทีวี นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมา” . .. ... นี่มันเป็นจุดต่ำสุดในชีวิตการค้าแข้งของผมแล้ว ผมท้อแท้ ตื่นตระหนก รู้สึกเลวร้ายสุดๆ พลังบางอย่างเข้ามาดับไฟในตัวผม ทำให้ผมหมดแรง ฉุดดึงผมสู่ความมืดมน ผมเหมือนถูกเผา ชีพจรเต้นระรัว...ผมเทพาราเซตามอลลงคอ แต่ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งอาการปวดหัวของผมได้ ผมโทรไปหาหมอวอลเลอร์ (แพทย์ประจำสโมสรลิเวอร์พูล) ผู้เป็นทั้งเพื่อน หมอ และคนที่ผมเชื่อใจด้วยชีวิต “หมอ ผมแย่มาก” ผมบอกเขา เขาเข้ามาปลอบโยนให้ผมสงบลง หมอวอลเลอร์ดีกับผมเสมอ ผมไว้ใจเขาเป็นอย่างยิ่ง นักเตะคนอื่นทุกคนก็เช่นกัน สายตาที่หมอวอลเลอร์มองมาที่ผมทำให้ผมตระหนักว่า คนในแอนฟิล์ดให้ความสำคัญกับมากผมแค่ไหน “สตีวี่” ผมบอกกับตัวเอง “จำได้มั้ยว่า มิสเตอร์มัวร์ส เรียกประชุมที่เมลวู้ดเพื่อแสดงให้เห็นว่าสโมสรรักนายมากแค่ไหน” ผมเริ่มกลับมาคิดว่า ผมกำลังจะโยนสิ่งเหล่านั้นทิ้งไป ความรัก ประวัติศาสตร์ทุกอย่างระหว่างเรา ความใฝ่ฝันอันยาวนานที่จะได้สวมชุดลิเวอร์พูล.... ผมจะถอดปลอกแขนลิเวอร์พูลได้จริงหรือ? .....ผมทำได้หรือที่จะหันหลังให้กับลิเวอร์พูลสโมสรและเมืองที่สร้างผมและทำให้ผมเติบโตขึ้นมา?..... ผมจะทำให้พ่อและพี่น้องของผมผิดหวังอย่างนั้นหรือ? ยังมีแฟนลิเวอร์พูลเข้าสายเลือดอีก ที่มองว่าการจากสโมสรนี้ไปก็เหมือนเป็นคนทรยศในสายตาของพวกเขา ผมจะยังมองหน้าพ่อที่ผมรักเทิดทูนได้อีกรึเปล่า?... ผมจะยังมองหน้าตัวเองในกระจกได้อีกหรือ? คำถามมากมาย ผมจะทำให้เหล่าเดอะค็อปผิดหวังอย่างนั้นหรือ?  ลืมพวกงี่เง่าที่เผาเสื้อผมต่อหน้ากล้องทีวีที่หน้าประตูแชงคลีย์ไปซะ  แฟนลิเวอร์พูลจะจัดการกับพวกนั้นเอง.....แล้วผมจะสวมเสื้อเชลซียืนเผชิญหน้ากับแฟนลิเวอร์พูลที่หน้าอัฒจันทร์เดอะค็อปได้อีกหรือ?.... คิดสิ สตีวี่ คิดให้หนัก... ผมต้องตัดสินใจให้ถูก .... ผมจะจากที่นี่ไปได้จริงๆหรือ?... ผมจะก้าวผ่านพ้นจากเขตแดนที่นี่ย้ายไปในที่ที่ไม่รู้จัก ผมจะไปจริงๆหรือ? จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 20:57:02 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่...ไม่...ไม่... ผมไม่อาจไปจากรังที่ผมอยู่ ผมมองเห็นถึงโอกาสความเป็นได้มากมายของเชลซี แต่หัวใจของผมไม่ยอมให้ผมไปจากลิเวอร์พูล.... ลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักของผมจะไม่ยอมให้ผมไปจากลิเวอร์พูล หรือว่าผมจะไปสร้างชีวิตในมาดริดหรือลอนดอนกับครอบครัวใหม่ ลิลลี่-เอลล่า มีความสุขดีที่นี่ กับลูกพี่ลูกน้องของเธอ กับเพื่อนเล่นของเธอที่โรงเรียน สนุกสนานไปรอบๆบ้านที่เธอรัก แล้วยังอเล็กซ์ มันยุติธรรมกับเธอหรือที่จะพรากเธอออกจากเพื่อนและครอบครัวของเธอ พรากเธอออกจากสิ่งแวดล้อมที่เธอมีความสุขที่สุด....ไม่ ผมทำแบบนั้นไม่ได้... ผมกลัวที่จะจากสิ่งที่ผมมีที่ลิเวอร์พูล ผมไม่อาจลืมรากเหง้าของตัวเองได้ เมฆหมอกแห่งความเคลือบแคลงและคำถามต่างๆเริ่มจางหายไป... เชลซีมีความทะเยอทะยาน แต่ผมเองก็มีความทะเยอทะยานร่วมกับลิเวอร์พูลเช่นกัน ผมเป็นกัปตันทีม...ผมเพิ่งจะได้ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ ราฟาจะนำเราก้าวไปข้างหน้า ทำให้เราประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก เขาเป็นโค้ชที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยร่วมงานมา ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้ที่จะก้าวฝ่าพายุนั้นออกมา ตอนห้าทุ่ม ผมโทรไปหา Struan “บอกริคว่า ผมจะเซ็นสัญญา ผมต้องการจะอยู่ต่อ” Struan ติดต่อกลับไปที่ริค “ข้อเสนอนั้นยังคงอยู่ใช่มั้ย” “แน่นอน” “สตีวี่จะเซ็นมัน” ขอบคุณพระเจ้า มันจบลงซะที หัวใจของผมเลิกเต้นระรัว ผมรู้สึกปลอดโปร่ง โยนพาราเซตามอลทิ้งไป ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันพุธที่ 6 กรกฎาคม ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 21:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ระหว่างทางไปเมลวู้ดเพื่อพบราฟา ผมแวะบ้านของท่านประธานในฮอลซอล ความเคารพที่ผมมีต่อมิสเตอร์มัวร์สมากมายนัก ท่านประธานรักลิเวอร์พูลด้วยหัวใจเช่นเดียวกับผม และเขาก็ทุกข์ระทมกับเรื่องราวอันยืดเยื้อนี้เช่นเดียวกัน “ฉันไม่อยากเชื่อว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้” เขาบอก เขาเองก็รู้สึกโมโหที่สโมสรยึกยักเรื่องสัญญา “ทำไมนายไม่รีบโทรหาชั้นเร็วกว่านี้หน่อย ฉันไม่ชอบที่เห็นนายไม่สบายใจนะ สตีเฟ่น” แค่การคุยกับมิสเตอร์มัวร์สช่วยย้ำเตือนผมว่าการตัดสินใจอยู่ที่แอนฟิล์ดต่อไป เป็นเรื่องที่ถูกต้องมากแค่ไหน ผมกลับไปที่รถแล้วรีบไปที่เมลวู้ด “ผมตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ แต่ผมยอมวางมือจากตำแหน่งกัปตันทีมถ้าคุณคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่า” ผมบอกกับราฟา “เก็บปลอกแขนนั่นไว้เถอะ” ราฟาบอก ขอบคุณพระเจ้า การออกจากตำแหน่งกัปตันทีมอาจทำให้หัวใจผมสลาย แต่ผมจำเป็นต้องเสนอเช่นนั้น ผมขอโทษต่อลิเวอร์พูล ต่อริคและราฟา สำหรับเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้น พวกเขาเองก็แสดงความเสียใจเช่นกัน แต่ว่าเมื่อตอนที่ผมถอยกลับจากปากเหว ผมยังคงรู้สึกแย่ ๆ ว่ากับเรื่องที่ลิเวอร์พูลกดดันผมอย่างไรบ้างให้ไปยืนที่หน้าขอบเหวนั้น มันต้องโทษทั้ง 2 ฝ่าย ผมรู้ดี และผมเองที่ยึกยักเช่นกันจนทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แต่ลิเวอร์พูลควรจะจัดการกับมันได้ดีกว่านี้ พวกเขาเกือบจะบังคับให้ผมต้องออกจากแอนฟิล์ดไป ผมยังคงได้รับจดหมายที่หยาบคายจากแฟนบอลบางส่วน แต่เกือบทั้งหมดแล้วแฟนบอลดีกับผมมาก เดอะค๊อปพวกนั้นรู้ดีว่าผมต้องใจสลายแค่ไหน พวกเขารู้ดีถึงความรู้สึกผูกพันที่ผมมีต่อสโมสร เมื่อตอนที่ผมกำลังจะเซ็นสัญญาในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคมนั้น ผมบอกกับริคว่า “ลบเงื่อนไขที่จะสามารถยกเลิกสัญญาได้เลย ผมไม่เคยต้องการที่จะไปจากลิเวอร์พูล” สัญญาฉบับที่แล้วของผมมีเงื่อนไขข้อที่ว่า หากลิเวอร์พูลมีผลงานไม่ดี ผมสามารถย้ายออกจากที่นี่ได้... ผมไม่ต้องการเงื่อนไขนี้ในสัญญาฉบับใหม่ ตอนที่ผมจรดปากกาในสัญญาเมื่อวันศุกร์นั้น เปรียบได้ดั่งการลงชื่อในจดหมายรักก็มิปาน ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เรื่องระหว่างผมกับเชลซีจบลงได้ซะที ********************** จาก Gerrard : My Autobiography Chapter 18  Feeling Blue Again แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 49 21:14:54 จากคุณ : K.Ruan - [ 13 พ.ย. 49 21:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอโหวตกระทู้ดี ๆ แบบนี้ให้ขึ้นแนะนำ แทนกระทู้แย่ ๆ ข้างบนครับ... จากคุณ : Tiburon blanco - [ 13 พ.ย. 49 21:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาโหวตด้วยอีกคน มิมิ จากคุณ : LTI Systems - [ 13 พ.ย. 49 21:31:34 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบแทนความรักของเจิดกับความขยันของปู่หยวนไป 1 โหวตจ้า จากคุณ : MBA ฮาเฮ - [ 13 พ.ย. 49 21:42:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สุดยอด เรารักนายนะ สตีวี่ จากคุณ : น้าเสงี่ยมการเมือง - [ 13 พ.ย. 49 22:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ...ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆ ที่มอบให้ อยากให้นักเตะหงส์ ทั้งหลายเมื่อคืนนี้มาอ่านจัง ไม่ใช่ให้เจิดวิ่งคนเดียว ฟุตบอล ไม่ใช่เล่น แค่คนเดียว ฟุตบอลเล่นกันเป็นทีม ขอบคุณนายมากสตีวี่ ขอบคุณมาก ครับปู่หยวน... จากคุณ : จิ๊กโก๋ซอย 1+1 - [ 13 พ.ย. 49 22:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณ คุณหยวน สำหรับ บทความสุดยอดนี้ครับ 1 จึ่ก ตามระเบียบบบบ จากคุณ : Batty_Bounce - [ 13 พ.ย. 49 22:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อืม จากคุณ : MAD MAN_TO - [ 13 พ.ย. 49 23:09:53 ]

ความคิดเห็นที่ 23 mi mi hi hi จากคุณ : Mamew - [ 13 พ.ย. 49 23:46:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 LOVE IT. Voted. จากคุณ : 23 (jigij) - [ 14 พ.ย. 49 01:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตให้จขกท กับ เจอร์ราดครับ ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : InSaneKoh - [ 14 พ.ย. 49 01:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณบทความแปลดี ๆ ค่า อ่านแล้วเข้าใจจิตใจของพี่เจิดมากขึ้น เอาไปเลยหนึ่งโหวต ป.ล. ไม่รู้ตอนนี้พี่เจิดจะรู้สึกดีหรือไม่ดี ที่บอกให้ลบเงื่อนไขยกเลิกสัญญาออกจากสัญญาที่เพิ่งเซ็นไป -*- จากคุณ : ชิวเทียน - [ 14 พ.ย. 49 02:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณคุณหยวนสำหรับการแบ่งปันข้อเขียนดีๆ ในภาวะอย่างนี้ค่ะ ^_^ ปล.แอบเซ็งราฟากะริค -_-" จากคุณ : กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก - [ 14 พ.ย. 49 08:10:18 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ยังไม่ได้อ่านเลย แต่มาขอบคุณพี่หยวนไว้ก่อนค่ะ ปล. ไม่สแกนละเหรอครั้งนี้อ่า อยากได้แบบนั้นง่ะ (เรื่องมากอีกแน่ะ ^^) จากคุณ : piscespair - [ 14 พ.ย. 49 08:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล เอาไป 1 โหวตครับ จากคุณ : ชองลอง - [ 14 พ.ย. 49 09:03:13 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณครับ ชอบอ่าน ๆ .... จากคุณ : Thirdwave - [ 14 พ.ย. 49 09:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตก่อนอ่านครับ จากคุณ : Dkrab - [ 14 พ.ย. 49 10:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 1 VOTE for our captain จากคุณ : Mesia_82 - [ 14 พ.ย. 49 11:01:22 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่เคยรู้เลยว่าเรื่องมันวุ่นวายถึงขนาดนี้ สุดยอดจริงๆ กัปตันของเราคนนี้ จากคุณ : Frioniel - [ 14 พ.ย. 49 11:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณคุณหยวนค่ะ รักกัปตันจังเลย ^___^ จากคุณ : liv_pool - [ 14 พ.ย. 49 12:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วปลื้มจริงๆ  จบ........... จากคุณ : เป๋าตังค์ - [ 14 พ.ย. 49 12:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 36 Vote!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : rouge_Minerva - [ 14 พ.ย. 49 13:31:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากครับเฮียหยวน รักเจิด จากคุณ : Dr.เต่า - [ 14 พ.ย. 49 13:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ChocolateMousse - [ 14 พ.ย. 49 14:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โหที่รัก เจอเรื่องเลวร้ายถึงปานนี้เชียว สู้สู้ต่อไปนะกัปตัน  หึ..ยัยอเล็กซ์ ถึงชั้นจะไม่ค่อยชอบเธอ (อิจฉา) แต่ก็ขอบคุณมากนะที่คอยสนับสนุน เป็นกำลังใจให้สตีวี่ของฉันน่ะ จากคุณ : สะใภ้อังกฤษ (fanstevie g) - [ 14 พ.ย. 49 14:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านแล้วไม่ชอบ ราฟา เลย ทำแบบนี้ทำไม จากคุณ : Garfield-Th - [ 14 พ.ย. 49 14:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 41 vote จากคุณ : mr.kingkong - [ 14 พ.ย. 49 15:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องดีๆ ... จากคุณ : ASaeVunKey - [ 14 พ.ย. 49 15:32:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 โหวตให้ด้วยคนคะ ขอบคุณ จข กท ด้วยค่ะ หนังสือซื้อมานานแล้ว ดูแต่รูปค่ะ หุ หุ ไม่มีปัญญาแปล ปล เบื่อมากเลยกระทู้ที่ชอบด่า เค้า เป็นแฟนภาษาไรทีมแพ้ทีก้อมาด่า ยิ่งกำลังตกต่ำ ยิ่งต้องให้กำลังใจกันสิคะ อยากชนะทุกนัด น่าให้ไปเล่นกันเองจังพวกปากดี ๆ ในนี้เห็นมีเยอะ เล่นบอลเป็นป่าวก้อไม่รู้ นักวิจารณ์ทั้งหลายเนี่ย พูดแล้วลมขึ้น จากคุณ : แม่น้องริวว - [ 14 พ.ย. 49 15:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 44 Many Thanx krub. จากคุณ : ponnini - [ 14 พ.ย. 49 16:08:47 ]

ความคิดเห็นที่ 45 โห ซ่อนเงื่อนซะ จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ - [ 14 พ.ย. 49 16:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ...ดีจัง..ได้อ่านบทความดีๆๆ..นี้ก่อนกลับบ้าน.... จากคุณ : ตัวป่วน (<< sh-sh >>) - [ 14 พ.ย. 49 16:53:17 ]

ความคิดเห็นที่ 47 Vote !!!!! เดี๋ยวกลับมาอ่านครับ ขอบคุณ คุณหยวนมากๆเลยครับ ^_^ จากคุณ : ชิววี่ - [ 14 พ.ย. 49 17:37:07 ]

ความคิดเห็นที่ 48 พออ่านจบแล้วรู้สึก ราฟา เป็นคนที่ไร้หัวใจ เหมือนหุ่นยนต์อย่างที่พี่เจิดเคยบอกไว้เลยอ่ะ อิอิ ริค แพร์รี่ ก็ทำงานเชื่องช้า จะซื้อตัวทีก็ใช้วเวลาเยอะมากมาย ที่บ่นๆ ริค แพร์รี่ ไม่ใช่เพราะเกลียดแต่แค่ข้องใจว่าทำไมทำงานเชื่องช้า แต่ว่าที่เชื่องช้าอาจจะมีเหตุผลของเค้า สุดท้ายก็ที่พี่เจิด  ผมว่าพี่เจิดนี่เป็นคนที่คิดอะไรมากๆๆๆ อย่างว่าอ่ะนะ เป็นยอดนักเตะ ก็ต้องมีอะไรที่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆอยู่แล้วใช่มะ (แต่ทำไมโรนัลดินโญ่ ไม่เห็นคิดอะไรมากเลยอ่ะ วันๆก็เอาแต่ทำฟันเหยินอ่ะ อิอิอิ) จากคุณ : ชิววี่ - [ 14 พ.ย. 49 18:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ... เห็นแล้วอยากอ่านฉบับเต็มเร็วๆ...รอสอบเสร็จก่อนเถอะ ฮึ่ม!!! จากคุณ : Abandoned Star - [ 14 พ.ย. 49 18:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ได้รู้อะไรเยอะแยะเลย ว่าแล้วก็อยากอ่านเต็มๆ อ่ะ จากคุณ : daisy@nina - [ 14 พ.ย. 49 19:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : IrishCoffee - [ 14 พ.ย. 49 19:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านแล้วรู้สึกเหมือนมันหักมุมยังไงไม่รู้อะครับ แบบโดนทีมที่ตัวเองรักทำขนาดนั้น บีบอารมณ์ขนาดนั้น จวนจะไปอยู่แล้ว แตกหักกันแล้ว อยู่ๆก็ตัดสินใจอยู่ต่อเฉยเลย เลยงงนิดๆครับ :) จากคุณ : อย่างกัยบ้านทรายทอง (suansiam) - [ 14 พ.ย. 49 19:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 53 I love you G. Thanks a lot K.Ruan จากคุณ : Tigress - [ 15 พ.ย. 49 00:21:52 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ^ ฮ่าฮ่า ชี้ #52 นะคร๊าบผม ^ ^ ก็ว่าอ่ะค่ะ คือวันก่อนหน้าที่จะตัดสินใจอยู่ต่อ ข่าวทั้งหมดมันออกมาทางไปแน่ ทำใจแล้วว่าจะได้เห็นภาพเจิดชูเสื้อสีน้ำเงินแน่ๆ พอวันรุ่งขึ้นกลับมีข่าวว่าเจิดหักมุมอยู่ต่อ เข่าอ่อนเลย(ด้วยความดีใจ) เป็นครั้งแรกที่นั่งอ่านข่าวในเนตแบบน้ำตาไหลพราก (แล้วก็มีอีกครั้งตอน God return) แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 00:29:36 จากคุณ : 23 (jigij) - [ 15 พ.ย. 49 00:27:47 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่รู้จะบอกว่างัย ดีใจที่ เจิดยังรักทีมแบบนี้ จากคุณ : เค้าหาว่าผมเป็น (ตัวป่วน) - [ 15 พ.ย. 49 08:25:05 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ ที่แปล ให้ อ่านครับ  อยู่ด้วยหัวใจจริง ๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : re_der - [ 15 พ.ย. 49 08:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณนะหยวน รู้ใจแฟน ๆ จริง ๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 15 พ.ย. 49 13:19:41 ]

ความคิดเห็นที่ 58 i love my captain ขอบคุณ จขกท ที่มานำเสนอคับผม จากคุณ : Mr. Konga - [ 15 พ.ย. 49 13:23:22 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอบคุณมากจ้าสำหรับบทความดีๆ อ่านแล้วก็ทำให้เข้าใจถึงจิตใจของพี่เจิดเลยในช่วงนั้น คงสับสนแย่ คุณหมอวอลเลอร์มีบทแสดงเหมือนกันนะเนี่ย แอบชอบ อิอิ จากคุณ : Red Penguin - [ 15 พ.ย. 49 14:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 60 I got one Question from comment#14 =============================== Struan ติดต่อกลับไปที่ริค “ข้อเสนอนั้นยังคงอยู่ใช่มั้ย” “แน่นอน” “สตีวี่จะเซ็นมัน” ==================== Which contract they talked about? I didn't see any line mention about the contract (that Liverpool offered to Stevie). จากคุณ : Vanilla Coke - [ 15 พ.ย. 49 15:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วซึ้งใจกับ สตีวี่ จริงๆ .....ขอบคุณค่ะ... จากคุณ : nando19 - [ 15 พ.ย. 49 15:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 62 love you stevie.... จากคุณ : ppearl_theKOP - [ 15 พ.ย. 49 20:33:18 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อยากอ่านหนังสือเล่มนี้มากเลย ใครรู้เบาะแสว่ามีที่ไหน วานบอก จากคุณ : ข้าวปุ้นอุ่นอุ่น - [ 16 พ.ย. 49 00:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 วู้ๆ ตามมา vote~ จากคุณ : Pinch me - [ 16 พ.ย. 49 02:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เป็นเรืองสั้นแนวหักมุมนะ.....โหวดครับ เหมือนกับข้างบนครับใครทราบว่าซื้อได้ที่ไหน วานบอกครับ.... จากคุณ : บอล_รูสเตอ (บอล_รูสเตอ) - [ 16 พ.ย. 49 02:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 66 Oh Captain My Captain G จากคุณ : Mr.children - [ 16 พ.ย. 49 06:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ร้าน Bookazine มีค่ะ พวก เอเซียบุ๊ค ก้อน่าจะมีนา จากคุณ : แม่น้องริวว - [ 16 พ.ย. 49 11:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 68 The story for thekop Vote!!! จากคุณ : Lu Xun - [ 16 พ.ย. 49 13:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณค่ะ จะไปหามาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองให้ได้เลยทีเดียว จากคุณ : ข้าวปุ้นอุ่นอุ่น - [ 17 พ.ย. 49 02:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณ นายมาก อ่านอินวะ จากคุณ : Last Stand - [ 17 พ.ย. 49 14:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 71 1 โหวตสำหรับความพยายามของ จขกท. จากคุณ : rafaelo - [ 17 พ.ย. 49 18:10:43 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เยี่ยม !!! คิดจะเปลี่ยนงานอยู่พอดีเลย รู้สึกถูกบริษัท จับดอง ยังไงไม่รู้ เหมือนเจิดเลย ที่ถูก ราฟา จับดอง แต่อ่านบทความแล้ว รู้สึกดีอ่ะ ชื่นใจที่มีคนรัก LIVERPOOL มากขนาดนี้ ทั้งคนเล่น คนแปล คนอ่าน .... อยากเอาแบบเจิดมั่งจัง จะได้เลิกคิด เลิกเบิ่อ จากคุณ : khop_pi - [ 18 พ.ย. 49 11:40:13 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณจขกท.ค่ะ จากคุณ : ตาลสามต้น - [ 18 พ.ย. 49 18:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 74 อ่านมาหลายวันเพิ่งจบวันนี้แหละ ดีใจด้วยที่เจิดอยู่บ้านเก่า  แต่ผมต้องย้ายบ้านใหม่ยังไม่มีที่อยู่เลย  ใครมีบ้านให้เช่าบ้างครับ เศร้า  -____- จากคุณ : yamaha111 - [ 18 พ.ย. 49 20:28:01 ]

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้วเครียดแทนเจิดเลย จากคุณ : สวี่เหวินเฉียง - [ 19 พ.ย. 49 13:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สุดยอดครับ ขอบคุณ จขกท. ^^~ จากคุณ : ตอนคุณมองตะวัน ผมมองเจอแต่จัน - [ 20 พ.ย. 49 18:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 77 เยี่ยมมากๆ.. ขอบคุณครับ.. จากคุณ : Handy Man - [ 22 พ.ย. 49 10:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 78 Great! 1 vote จากคุณ : Laguna pao - [ 22 พ.ย. 49 13:05:29 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณคับ vote จากคุณ : หม่ำ หม่ำ - [ 23 พ.ย. 49 13:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ลงนามอีกคน I love Liverpool. จากคุณ : บิ๊กแม้น - [ 24 พ.ย. 49 10:16:14 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ขยันจริงๆ ขอบคุณคะ จากคุณ : understatement - [ 25 พ.ย. 49 18:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ยิงแล้วเจิด :-)ในพรีเมียร์ได้แล้ว แก้ไขเมื่อ 26 พ.ย. 49 00:34:28 จากคุณ : junjun - [ 26 พ.ย. 49 00:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณค่า รักเจิดขึ้นอีกเป็นกองเลยค่ะ (จากเดิมที่รักอยู่แล้วว) แล้วเมื่อคืนก็ยิงได้ด้วย เย้ เย้ จากคุณ : abcTux - [ 26 พ.ย. 49 09:11:49 ]

ความคิดเห็นที่ 84 Vote !!!    Love G. and LIV จากคุณ : ShoEiz - [ 26 พ.ย. 49 17:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ค่ะ จากคุณ : เข้ามาอ่าน - [ 26 พ.ย. 49 20:51:49 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เยี่ยมครับ vote ครับ ............. อ่านแล้ว เหนื่อยแทน จากคุณ : ตือโป๊ยก่าย - [ 26 พ.ย. 49 21:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อยู่สโมสรด้วยใจจิงๆ จากคุณ : สุขุม นุ่ม ลึก - [ 27 พ.ย. 49 01:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 88 สุดยอดครับ... จากคุณ : Liverpool Forever - [ 27 พ.ย. 49 18:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณนะคะ อ่านแล้วเข้าใจเจิดมากขึ้นเลย จากคุณ : daine - [ 27 พ.ย. 49 20:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่ได้เข้าห้องนี้มานาน.... คราวนี้เจอแจ็คพ็อตเลย.... โหวตครับ จากคุณ : โจนาธาน ลิฟวิงสตัน - [ 28 พ.ย. 49 22:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 91 นับถือหัวจิตหัวใจ  โหวตครับ โธ่ น่าจะมาเชลซี ซะเลยนะ เรื่องเงินไม่ต้องห่วงเลยนายเจิด จากคุณ : เซี่ยวลี้ - [ 29 พ.ย. 49 11:52:53 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ตัวเราเองก็มองอยู่ห่าง ๆ ไม่เคยคิดถึงแกเลยไอ้จี มาร้องไห้กับอกพี่มา จากคุณ : Bearlandia - [ 30 พ.ย. 49 16:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 93 What a lovely story! Thanks krab  ^___^ จากคุณ : ปุยนุ่นกะขนมเปียกปูน - [ 1 ธ.ค. 49 02:15:42 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณครับ จากคุณ : SamCommander - [ 1 ธ.ค. 49 10:23:38 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ซื้อที่ไหนครับ อยากได้ จากคุณ : Baro5 - [ 2 ธ.ค. 49 14:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 96 เมื่อตอนที่ผมกำลังจะเซ็นสัญญาในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคมนั้น ผมบอกกับริคว่า “ลบเงื่อนไขที่จะสามารถยกเลิกสัญญาได้เลย ผมไม่เคยต้องการที่จะไปจากลิเวอร์พูล” สัญญาฉบับที่แล้วของผมมีเงื่อนไขข้อที่ว่า หากลิเวอร์พูลมีผลงานไม่ดี ผมสามารถย้ายออกจากที่นี่ได้... ผมไม่ต้องการเงื่อนไขนี้ในสัญญาฉบับใหม่ ตอนที่ผมจรดปากกาในสัญญาเมื่อวันศุกร์นั้น เปรียบได้ดั่งการลงชื่อในจดหมายรักก็มิปาน >>  “ลบเงื่อนไขที่จะสามารถยกเลิกสัญญาได้เลย ผมไม่เคยต้องการที่จะไปจากลิเวอร์พูล”  << you will never walk alone.... จากคุณ : น้ำก้นแก้ว - [ วันพ่อแห่งชาติ 00:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 97 เยี่ยมครับ... จากคุณ : Ring of Fire - [ 7 ธ.ค. 49 08:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เพิ่งได้อ่าน ดีใจแทนแฟนหงส์ด้วย ที่ได้กัปตันแบบนาย G เฮ้อ  แฟนผีแอบเซ็ง แบบว่าแอบรักแฟนชาวบ้าน  แอบหวังว่าเค้าอาจมาใส่ตรงสามง่ามอ่ะ 55555 เผื่อฟลุค เลยพาลนึกถึงเรื่องของเบคส์กับป๋า  หรือ รุดกับป๋าเลย ไม่รู้จะซ่อนเงื่อนแบบนี้บ้างปะ จากคุณ : super_giggs - [ 8 ธ.ค. 49 13:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เอาเรื่องเงินค่าจ้าง สถานการณ์ มาปรับแต่งให้สวยหรู เพื่อขายหนังสือ??? อ่อ ป่าวครับ ผมล้อเล่นน่ะ ขำๆนะ แฟนผีอย่างผม ยังน้ำตาซึมเลยอะ จริงๆนะ ซึ้ง แล้วสรุปเขาได้ค่าจ้างเท่าไหร่ครับ เท่ากับที่สัญญาที่เขาเมินตอนแรกใช่ไหม?? แล้วมันเท่าไหร่ล่ะ จากคุณ : Mrtoonvb - [ 8 ธ.ค. 49 22:54:31 ]

ความคิดเห็นที่ 100 แปลได้เยี่ยมมากๆ ครับ ขอชม จากคุณ : ฆ่าไม่นับสับไม่เลี้ยง - [ วันรัฐธรรมนูญ 00:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบันทึกไว้ในความทรงจำ จากคุณ : หลังแฮนด์สี่ร้อยซีซี - [ วันรัฐธรรมนูญ 02:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ชื่นชม จขกท นะครับ แปลได้เยี่ยมมาก และทำให้ รักและเข้าใจ เจิดมากยิ่งๆขึ้น จากคุณ : จอมอสูร - [ วันรัฐธรรมนูญ 10:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เฮ้อ...กว่าจะอ่านจบ (สภาพร่างกายไม่อำนวย T_T) ขอบคุณ  คุณหยวนมากๆเลยนะครับ (^_^) จากคุณ : noome - [ วันรัฐธรรมนูญ 11:55:12 ]

ความคิดเห็นที่ 104 มาโหวตประจำวัน จากคุณ : Mr.children - [ 11 ธ.ค. 49 19:56:15 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เหมือนคุณ Mr.children ครับ จากคุณ : Avalance7 - [ 12 ธ.ค. 49 19:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 106 Saving Private Gerrard !!! จากคุณ : "MUPH" - [ 12 ธ.ค. 49 22:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ^o^ จากคุณ : Mr.children - [ 13 ธ.ค. 49 04:47:42 ]