ความคิดเห็นที่ 1 "เบคส์"รับ1.3พันล้าน/ปี ลั่นวาจาไม่กลับรังผีแดง     เดวิด เบคแคม อดีตมิดฟิลด์กัปตันทีมชาติอังกฤษของ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ออกโรงยืนยันด้วยตนเองว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสจะได้กลับไปร่วมทีม “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของยอดกุนซือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อีกครั้งอย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีข่าวลือไม่น้อยที่ระบุว่า เบคแคม อาจจะรีเทิร์น กลับมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้งก็ตาม เบคแคม วัย 31 ปี ไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมมาดริดได้ในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาอาจจะตัดสินใจย้ายออกจากทีมตอนจบฤดูกาล ซึ่งมี หลายทีมดังที่ตกเป็นข่าวกับเขา โดยเต็ง 1 ก็คือ ลอส แองเจลิส กาแล็กซี ในศึกเมเจอร์ ลีก ซอค เกอร์ สหรัฐ แต่ก็อาจจะมีความเป็นไปได้เช่นกันที่เขาจะกลับมาเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง เพราะเบคแคมยืนยันมาตลอดว่าอยากจะกลับมาสู่ทีม อย่างไรก็ดี ล่าสุด เบคแคม เผยว่า “ผมมีช่วงเวลาหลายปีที่วิเศษมาก ๆ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันดีที่สุด ดีมาก ๆ เลยทีเดียว แต่มันจบลงแล้ว และนั่นก็คือจุดสิ้นสุด แน่นอนที่สุดว่าผมคิดถึงเพื่อน ๆ ของผมที่แมนเชสเตอร์ รวมถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่นั่นด้วย ผมคิดถึงแมนเชสเตอร์ แต่ผมจะต้องก้าวหน้าต่อไปจากจุดนี้” ด้าน “เดอะ ซัน” สื่อสิ่งพิมพ์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า เบคแคม มีรายได้ถึง 19 ล้านปอนด์ (ราว 1,330 ล้านบาท) ในปีนี้ ซึ่งนั่นยังไม่รวมค่าจ้างอีก 6 ล้านปอนด์ (ราว 420 ล้านบาท) ที่เขาได้รับจาก รีล มาดริด หรือ การร่วมมือทำธุรกิจอื่น ๆ กับ วิคตอเรีย ภรรยาสุดที่รัก ด้วย แต่รายได้ส่วนใหญ่มาจากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าชื่อดังอย่างอาดิดาส, ยิลเลตต์, เปปซี และแว่นตากันแดด โปลิส โดยตัวเลขดังกล่าวมาจากบัญชีงบดุลย์ปลายปีของ ฟุตเวิร์คส์ โปรดักชันส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลด้านธุรกิจของ เบคแคม เอง ถึงแม้ว่าปีนี้กำไรของบริษัทจะลดลงถึง 2 ล้านปอนด์ (ราว 140 ล้านบาท) ก็ตาม Credit :: เดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th ข่าวลือเรื่องเบ็คส์นี่มาหลายกระแสจริง ๆ สงสัยจะได้แค่ลือ จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอเยนต์ยัน "สมิธ" ไม่ย้าย ขอสู้ต่อกับผีแดง       เอเยนต์ส่วนตัวยืนยัน อลัน สมิธ กองหน้า "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ย้ายทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองเปิดทำการในเดือนมกราคมนี้ โดยต้องการจะสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กลับคืนมา              อลัน สมิธ อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เพิ่งหายจากอาการขาหักรุนแรงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการปล่อยให้กับทีมอื่นยืมตัวเพื่อเคาะสนิมในช่วงปีใหม่นี้              โดยมี คาร์ดิฟฟ์ จ่าฝูง เดอะแชมเปี้ยนชิป และ แอสตัน วิลล่า ทีมใน พรีเมียร์ชิป ที่อยากจะขอยืมตัว สมิธ อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ แบล็ค เอเยนต์ยืนยันนักเตะวัย 26 ปี ไม่ต้องการย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่น        "สมิธ จะไม่ย้ายไปไหนทั้งสิ้น เขาต้องการอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด และพูดคุยทุกสิ่งกับสโมสรและ เซอร์ อเล็กซ์ ทีมได้เพิ่มการซ้อมพิเศษให้กับเขาเพื่อเร่งเรียกความฟิต และสู้เพื่อตำแหน่งของตัวเองในทีม" แบล็ค เปิดเผย Credit :: ผู้จัดการออนไลน์  http://www.manager.co.th/sport จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โตแช็คเผยกิ๊กส์เจ็บข้อเท้าเหตุเปลี่ยนตัว จอห์น โตแช็ค เทรนเนอร์ "มังกรแดง" เวลส์ เผย ไรอัน กิ๊กส์ ปีกตัวเก่งของทีมเจ็บข้อเท้าทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งของเกมที่ไล่ถล่ม ลิกเตนสไตน์ กระจุย 4-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จอห์น โตแช็ค โค้ชทีมชาติเวลส์ เผยถึงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนตัว ไรอัน กิ๊กส์ ปีกซ้ายตัวเก๋าจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งศึกพรีเมียร์ชิพ ออกในช่วงพักครึ่งเวลา ในเกมอุ่นเครื่องที่ เวลส์ ไล่ต้อน ลิกเตนสไตน์ ขาดลอย 4-0 เมื่อวันอังคารที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากนักเตะมีอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า โตแช็ค กล่าวถึง กิ๊กส์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งแรก ว่า "พวกเราต้องมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงพักครึ่งเวลา เนื่องจาก ไรอัน มีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า และเขาก็เป็นนักเตะที่มีความสำคัญในแดนกลางกับทีมมาโดยตลอด ส่วนดาวรุ่งอย่าง ริชาร์ด ดัฟฟี่ ก็รู้สึกว่าตัวเองมีอาการบาดเจ็บโคนขาหนีบด้วย" อย่างไรก็ดี แม้จะมีนักเตะตัวหลักบางรายได้รับบาดเจ็บ แต่ กุนซือ "มังกรแดง" ก็ยังพอใจกับผลการแข่งขันที่ออกมา "ผมคิดว่าพวกเราพอใจกับผลการแข่งขัน พวกเรายิงได้ 4 ประตู ซึ่งมันน่าพึงพอใจมาก และประตูเหล่านั้นที่พวกเขายิงได้ต่างก็เป็นประตูที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าทีมของเรามีนักเตะดาวรุ่งท้องถิ่นถึง 3 คนลงสนาม แต่ในครึ่งแรกพวกเราก็โชว์ฟอร์มได้ดีมาก และผมก็พอใจกับมันเป็นที่สุด แต่บางครั้งแนวรับของเราก็พลาดไปบ้างทำให้พวกเขาได้มีโอกาส แต่ในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอล การเคลื่อนที่ของนักเตะ ก็ทำได้อย่างเป็นที่น่าประทับใจมาก" "มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเล่นตลอดทั้ง 90 นาทีให้เหมือนกับที่พวกเราเล่นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ก่อนเกมจะเริ่มขึ้นผมรู้สึกกังวลว่านักเตะจะคิดว่าเกมนี้มันน่าจะง่ายกว่านี้ แม้มันอาจจะไม่ยากเท่ากับเกมที่เจอกับ สาธารณรัฐเช็ก และ เยอรมัน แต่ ลิกเตนสไตน์ คุณก็รู้ว่าพวกเขาต้องซ้อมอย่างหนัก และสภาพร่างกายของพวกเขาต้องฟิตเต็มที่แน่นอน ซึ่งมันสามารถสร้างความหงุดหงิดใจให้กับเราได้ ขณะที่พวกเราก็เดินมาได้ถูกทาง และผมก็พอใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกมนี้" Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ฮาร์กรีฟส์รับเลิกคิดซบผีหลังบาดเจ็บกระดูกแตก โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางพลังเทอร์โบของ บาเยิร์น มิวนิค รับเลิกคิดเรื่องที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโชคร้ายได้รับบาดเจ็บที่กระดูกน่องแตกเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา พร้อมรับตอนนี้การเรียกความฟิตเพื่อกลับมาลงสนามให้เร็วที่สุด โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ มิดฟิลด์ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่ของศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ออกมาเปิดเผยว่า เขาเลิกล้มความคิดที่จะย้ายไปค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังในศึกพรีเมียร์ชิพ แล้ว และขอมุ่งสมาธิไปที่การเรียกความฟิตกลับมาลงสนามอีกครั้งเป็นอันดับแรก ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกน่องแตกเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ในช่วงเวลาเดียวกับที่ตกเป็นข่าวได้รับการทาบทามให้ย้ายสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำให้ทุกอย่างต้องปิดฉากลงชั่วคราว "มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาอยากเซ็นสัญญากับผม" "แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผมคือการกลับมามีสภาพร่างกายสมบูรณ์อีกครั้ง นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้รับความสนใจ และเราจะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าอาการจะเริ่มดีขึ้นอย่างช้าๆ แต่มันก็ดีที่เห็นอะไรคืบหน้าบ้าง ผมพอใจมาก Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รูนี่ย์รับรางวัลประตูยอดเยี่ยม การกลับคืนฟอร์มของเวย์น รูนี่ย์สะท้อนออกมาให้เห็นด้วยผลการโหวตของแฟนๆ ผ่านทาง ManUtd.com หัวหอกรายนี้รับรางวัล “ประตูยอดเยี่ยมประจําเดือน” ไปครองจากลูกที่สองในจํานวนสามลูกที่เขายิงโบลตัน วันเดอเรอร์สได้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยแฮตทริกดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งแรก ของเขานับตั้งแต่ทําได้ในนัดประเดิมสนามกับปิศาจแดงเมื่อปี 2004 ทําให้เขายุติการลงเตะให้สโมสรและทีมชาติโดยทําประตูไม่ได้ติดติอกัน 10 นัดลง หนึ่งในสามของแฟนบอลที่ร่วมโหวตครั้งนี้ (33.9%) เลือกประตูของรูนี่ย์เป็นประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ปิศาจแดงทําประตูได้ถึง 14 ลูกในทุกรายการ และชนะรวดทั้ง 6 นัดเหนือนิวคาสเซิ่ล, วีแกน, เอฟซี โคเปนเฮเกน (นัดเหย้า), ลิเวอร์พูล, ครูว์ และโบลตัน แต่ความหวังของรูนี่ย์ที่จะคว้าทั้งอันดับหนึ่งและสองในโพลไปครองก็ถูกขัดขวางโดยนักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งลงเล่นให้แมนฯยูฯเป็นนัดแรก คีแรน ลี หนึ่งในห้านักเตะที่ได้ประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ในเกมกับครูว์ ได้รับคะแนนโหวตไปจากประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมคาร์ลิ่งคัพ โดยแฟนบอลเกือบหนึ่งในสี่ (22.9%) เลือกประตูของเขาเป็นประตูยอดเยี่ยมประจําเดือนตุลาคม ขณะที่ประตูแรกของรูนี่ย์ในเกมกับโบลตันได้รับคะแนนโหวตเกินหนึ่งในห้าไปเล็กน้อย (21.3%) ประตูที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้ด้วยได้แก่ประตูของริโอ เฟอร์ดินานด์ในเกมกับลิเวอร์พูล (ที่ 4), ประตูแรกของพอล สโคลส์ในเกมกับเอฟซี โคเปนเฮเกนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด (ที่ 5) และประตูของหลุยส์ ซาฮาในการกลับมาชนะวีแกนได้ในครึ่งหลัง   Credit :: MANUTDTH.COM http://www.manutdth.com จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เซอร์อเล็กซ์ : เราเล่นอย่างห้าวหาญ แมนฯยูฯเก็บชัยชนะเหนือแบล็คเบิร์นที่อีวู้ด ปาร์คได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเรียกมันว่าฟอร์มการเล่นที่ห้าวหาญ ประตูเดียวของเกมจากหลุยส์ ซาฮาทําให้แมนฯยูฯชนะติดต่อกันในลีกเป็นนัดที่ 6 แต่ถึงแม้ปิศาจแดงจะเล่นได้เหนือกว่ามากในนัดนี้ แบล็คเบิร์นก็ไม่เคยยอมแพ้ “ผมพอใจมากกับความห้าวหาญที่เราแสดงออกมา” เซอร์อเล็กซ์บอกกับสกายสปอร์ต “เราทํางานหนักมากเพื่อเอาชนะให้ได้ เพราะเราต้องทําแบบนั้น เราพบว่ามันยากเสมอในการมาแข่งที่นี่ มันไม่ใช่ที่ที่ง่ายสําหรับทุกทีมที่มาเยือน” “มันเป็นดาร์บี้แมตช์ ดังนั้นความกดดันจะมีสูง คุณจําเป็นต้องมีสมาธิดีมาก โดยรวมแล้วเรามีเกมรับที่ดี ส่วนเกมรุกเราน่าจะทําประตูได้มากกว่านี้ แต่การชนะแบล็คเบิร์น 1-0 ก็ถือว่าดีมากแล้ว” ชัยชนะในลีกนัดล่าสุดยังเป็นลางที่ดีสําหรับการลุ้นแชมป์ด้วย “เราพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าปีนี้เรามีโอกาส” เซอร์อเล็กซ์เสริม “เรายังนําเชลซีอยู่ พวกเขาทําผลงานได้สุดยอดมากในสองปีที่ผ่านมา โดยคว้าแชมป์ลีกได้อย่างรวดเร็ว ปีนี้เราเริ่มต้นได้ดี ซึ่งจะทําให้เรามีโอกาสมากขึ้น” “แต่เราต้องผ่านเดือนธันวาคมไปให้ได้ก่อน ซึ่งถือเป็นเดือนที่ยากเสมอ มันเป็นช่วงเวลาที่สําคัญ เพราะหลังจากนั้นคุณจะเริ่มเห็นภาพชัดขึ้นว่าใครบ้างที่จะยังมีลุ้นแชมป์อยู่ เราจําเป็นต้องรักษาฟอร์มการเล่นเอาไว้และควบคุมสถานการณ์เกี่ยวกับการบาดเจ็บของนักเตะให้ดี นั่นคือสิ่งสําคัญเช่นกัน” Credit :: MANUTDTH.COM http://www.manutdth.com จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:26:47 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาปาดดดดดดดดด   คุณ  เอที หรือเปล่าเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย          ขอบคุณคร้าบบบบบบบ เสาร์นี้.....แมนฯยูแข่ง กะ เชฟฯยูฯ    สดทาง ยูบีซี ช่อง 37  เวลา 22.00    หรือเปล่า   เห็นเค้าว่ากัน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 15:28:53 จากคุณ : จับหน้าผากตัวร้อน - [ 15 พ.ย. 49 15:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โอเล่คว้าตําแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุบอลของนอร์เวย์ (NISO) เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์นอร์เวย์ โพสต์ยืนยันว่าโอเล่ได้รับรางวัลดังกล่าว ซึ่งประกาศผลในงานเลี้ยงประจําปีของ NISO เมื่อคืนวันอาทิตย์ เช่นเดียวกับที่แมนเชสเตอร์ โอเล่เป็นนักเตะขวัญใจของชาวนอร์เวย์ด้วย และความตั้งใจจริงของเขาที่จะกลับมาเล่นให้ได้อีกครั้งหลังถูกปัญหาการบาดเจ็บรบกวนนานกว่าสองปีก็ทําให้เขาได้รับตําแหน่งดังกล่าว โซลชาร์มีความสําคัญกับแมนฯยูฯมากในฤดูกาลนี้จนกระทั่งเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันผู้จัดการทีมปิศาจแดง ตั้งเป้าให้เขาทําให้ได้เกิน 20 ประตูให้ทีมในฤดูกาลนี้ Credit :: MANUTDTH.COM http://www.manutdth.com จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สิงโตส่งเอ.เจ.หอกคู่รูน เกมอุ่นเครื่องดัตช์วันนี้ พลพรรค "สิงโตคำราม" อังกฤษ ตัดสินใจใส่ชื่อ แอนดี้ จอห์นสัน กองหน้าฝีเท้าจัดของ เอฟเวอร์ตัน ลงยืนเป็นหัวหอกตัวจริงคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงจอมดีเดือดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมอุ่นแข้งกับ ฮอลแลนด์ พุธนี้ ด้าน มิก้าห์ ริชาร์ดส์ ปราการหลังดาวรุ่ง ของ แมนฯ ซิตี้ ก็จะได้ประเดิมสนามในตำแหน่งแบ็กขวาเช่นกัน สตีฟ แม็คคลาเรน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ประกาศรายชื่อ 11 ผู้เล่นที่จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมกระชับมิตรกับ ทีมชาติฮอลแลนด์ ที่สังเวียน อัมสเตอร์ดัม อารีน่า นครอัมสเตอร์ดัม ประเทศฮอลแลนด์ ในวันพุธที่ 15 พ.ย. นี้ ออกมาเรียบร้อยแล้ว โดย แอนดี้ จอห์นสัน กองหน้าควาเร็วสูงของ เอฟเวอร์ตัน จะได้ลงเล่นเป็น หัวหอกตัวจริงคู่กับ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงพรสวรรค์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกันนั้น "บิ๊กแม็ค" ยังยืนยันด้วยว่า จะส่ง มิก้าห์ ริชาร์ดส์ ปราการหลังดาวรุ่ง วัย 18 ปี ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเล่นเป็นแบ็กขวาตัวจริงแทน แกรี่ เนวิลล์ ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้ กองหลังจากค่าย "เรือใบสีฟ้า" จะกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 7 ในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และจะกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงสนามให้ทัพ "สิงโตคำราม" เมื่อนับเฉพาะผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังด้วยกัน สำหรับในแดนกลางนั้น จากการได้รับบาดเจ็บของ อารอน เลนน่อน ทำให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม ลิเวอร์พูล ต้องสวมบทมิดฟิลด์ฝั่งขวาต่อไปอีกนัด ขณะที่ตรงกลางจะเป็นการจับคู่กันระหว่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ ไมเคิ่ล คาร์ริค โดยมี โจ โคล รับบทมิดฟิลด์ตัวขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษ พอล โรบินสัน; มิก้าห์ ริชาร์ดส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), แอชลี่ย์ โคล; สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, โจ โคล, เวย์น รูนี่ย์, แอนดี้ จอห์นสัน Credit :: สยามสปอร์ต http://www.siamsport.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:30:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 20 ปี เฟอร์กี้ VS นานาสารพัน ด้วยตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ชิพซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษาเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น นับเป็นนิมิตหมายที่ดียิ่งสำหรับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือชาวสกอตแลนด์ ในวาระที่นั่งเก้าอี้นายใหญ่แห่งค่ายโอดล์แทรฟฟอร์ดมาครบ 20 ปีเต็มพอดี เรื่องสถิติผลงานของ เฟอร์กี้ ตลอดเวลา 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ใครต่อใครเขาก็เอามารีวิวกันไปมากแล้ว แต่วันนี้เว็บไซต์ ฟุตบอล 365 ดอทคอม ได้หยิบยกอีกแง่มุมซึ่งถือเป็นไฮไลต์อีกประการหนึ่งของชีวิตผู้จัดการทีมฟุตบอลของเฟอร์กูสันมาฝาก นั่นคืออารมณ์ร้อนๆ ของท่านเซอร์กับวาจาสุดเชือดเฉือนที่พร้อมจะหาเรื่องทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา แบบไม่มีเกรงใจใครทั้งนั้น และนี่คือบางส่วนบางตอนของความแสบซ่าอันหลากหลายที่เฟอร์กี้ทิ้งไว้ให้ใครๆ ได้จดจำกัน... เฟอร์กี้ vs ลูกทีม ตัวอย่างสุดคลาสสิคของความห้าวหาญของกุนซือชาวสก๊อตเกิดขึ้นไม่นานหลังจากเขาเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ปีศาจแดงเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 1986 เมื่อเฟอร์กี้ประกาศกร้าวว่า "ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นใครหรือดังมาจากไหน เพราะผมคือผู้จัดการทีมคนใหม่ และมีอำนาจหน้าที่เต็มที่ที่นี่" ปรากฏว่าหลังเข้ามาปุ๊บ เฟอร์กี้ก็เริ่ม โละ ประดานักเตะเจ้าปัญหาหลายคน โดยเฉพาะพวกที่มีพฤติกรรมติดเหล้า โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอย่างที่ว่าไว้จริงๆ เพราะในผู้เล่น 11 คนแรกที่ได้ลงเล่นในเกมแรกนับจากเฟอร์กี้มาคุมทีม มีเพียง เคลย์ตัน แบล๊คมอร์ คนเดียวเท่านั้นที่อยู่ยาวไปจนถึงปี 1990 นอกนั้นอีก 7 คน ซึ่งรวมถึงนักเตะชื่อดังๆ อย่าง กอร์ดอน สตรักคั่น นอร์แมน ไวต์ไซด์ และ พอล แม็คกรัธ ต่างหายหน้าหายตาไปภายในระยะเวลา 24 เดือนแรกในหน้าที่ของเฟอร์กี้เท่านั้น! เฟอร์กี้ vs เอฟเอ หนึ่งในประโยคติดปากที่เฟอร์กี้มักจะส่งถึง สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) องค์กรสูงสุดที่ดูแลเกมลูกหนังเมืองผู้ดีอย่างสม่ำเสมอก็คือ "ถ้าเราไม่ใช่แมนฯยู คงไม่เจอเรื่องอย่างนี้แน่ๆ" เรียกว่าประโยคนี้จะแว่วมาให้ได้ยินเวลานักเตะผีแดงโดนเอฟเอสั่งลงดาบทางวินัยแทบทุกครั้งไป ยกตัวอย่างใกล้ตัวเมื่อต้นปีที่เฟอร์กี้ออกมาโวยเอฟเออย่างหัวเสียที่ลงโทษแบน พอล สโคลส์ และ เวย์น รูนี่ย์ จากเหตุใบแดงในเกมเตะที่อัมสเตอร์ดัม เท่านั้นไม่พอ ก่อนหน้านี้เฟอร์กี้ยังเคยโวย ไบรอัน บาร์วิค ประธานบริหารคนปัจจุบันของเอฟเอ สมัยยังทำงานให้สำนักข่าวบีบีซีว่า บาร์วิคมีอคติกับแมนฯยู ทำให้ลูกทีมของเขาพลาดรางวัลทีมกีฬายอดเยี่ยมของบีบีซีในปี 1996 เนื่องจากบาร์วิคเป็นแฟนตัวยงของคู่ปรับสำคัญ ลิเวอร์พูล นั่นเอง เฟอร์กี้ vs สื่อ ในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา กุนซือชาวสก๊อตได้ทำการคว่ำบาตรสื่อใหญ่ของเมืองผู้ดีมาแล้วหลายสำนัก ทั้งบีบีซี สกายทีวี หรือแม้แต่สถานีโทรทัศน์ของสโมสรเองอย่าง เอ็มยูทีวี ก็เคยโดนมาแล้วถ้วนทั่ว เฟอร์กี้มักรู้สึกว่าสื่อมวลชนอังกฤษปฏิบัติต่อทีมของเขาอย่างไม่ค่อยจะยุติธรรมนัก ถึงขนาดเคยบ่นดังๆ ว่า "พวกสื่อน่ะเกลียดแมนฯยูจะตาย!" แล้วลุกจากห้องแถลงข่าวไปทั้งที่เพิ่งเริ่มไปได้ 74 วินาทีเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และอีกครั้งเมื่อเดือนก่อน เฟอร์กี้ก็โวยว่า "ปัญหาของประเทศนี้ก็คือ สื่อมวลชนมักจะมีวิธีมองความสำเร็จของใครสักคนด้วยมุมมองที่พิลึกพิลั่นซะเหลือเกิน ผิดกับในอเมริกาลิบลับ ที่นี่น่ะ แทนที่จะเอาเรื่องดีๆ มายกย่อง กลับขุดหากันแต่ข้อเสียมาขึ้นหน้าหนึ่ง จะได้ขายหนังสือพิมพ์ให้ได้อย่างเดียว" กรณีพิพาทที่โด่งดังที่สุดเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2002 เมื่อสื่อเริ่มวิจารณ์เฟอร์กี้ว่า การทุ่มงบซื้อ ฮวน เวร่อน มา 28 ล้านปอนด์อาจเป็นการลงทุนที่สูญเปล่า นายใหญ่ผีแดงก็โวยกลับทันทีว่า "ฉันไม่ได้พูดกับไอ้พวก * อย่างนายนะเฟ้ย ไอ้พวก * เอ๊ย!!" ก่อนจะสั่งให้ รปภ.ของสโมสรไล่นักข่าวคู่อริออกไปทันที เฟอร์กี้ vs ตำรวจแมนเชสเตอร์ ครั้งหนึ่งเฟอร์กี้เคยโดนตำรวจจับข้อหาขับรถผิดกฎจราจร เนื่องจากเขาจงใจขับรถปีนขึ้นขอบทางหลวงเพื่อหลีกเลี่ยงรถติด พอถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ทนายของเฟอร์กี้ก็แก้ต่างด้วยอารมณ์ขันซะไม่มีว่า เหตุผลที่แหกกฎจราจรก็เพราะตอนนั้นเฟอร์กูสันกำลังท้องร่วงรุนแรงขนาดที่ว่าถ้าไม่เสี่ยงทำลงไป ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอะไรที่ดูไม่จืดกันเลยทีเดียว! เฟอร์กี้ vs ลิเวอร์พูล 5 ปีแรกกับภาระหน้าที่ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดของเฟอร์กี้มักจะลงเอยที่คู่ปรับสำคัญอย่างหงส์แดงคว้าชัยชนะถ้วยใหญ่น้อยได้ทุกครั้งไป ข้อเท็จจริงนี้จึงกลายเป็นการเติมเชื้อไฟให้ความหมั่นไส้ที่มีอยู่เดิมทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที ด้วยเหตุนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนกุนซือชาวสก๊อตเปิดอกให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดี้ยน เขาจึงประกาศกร้าวว่า "เป้าหมายยิ่งใหญ่ที่สุดของผมไม่ได้อยู่ที่สถานการณ์ปัจจุบันหรอกครับ แต่เป็นการเขี่ยลิเวอร์พูลตกจากบัลลังก์ * ของพวกเขาต่างหาก! พิมพ์ไปตามเลยนะ" ว่ากันว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เฟอร์กี้เปลี่ยนใจแบบ 180 องศาเรื่องอำลาวงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 อาจเพราะแมนฯยูปราชัยให้ลิเวอร์พูลคาบ้านใน 1 เดือนก่อนหน้านั้นก็เป็นได้! เฟอร์กี้ vs เวนเกอร์ ช่วงที่ อาร์เซน่อล สร้างทีมขึ้นมาเป็นก้างชิ้นโตของเฟอร์กี้ในลีกพรีเมียร์ชิพ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสของทีมปืนใหญ่ก็กลายมาเป็นไม้เบื่อไม้เมาของเฟอร์กี้ไปด้วยเช่นกัน เชื่อกันว่าเวนเกอร์ทำให้เฟอร์กี้รู้สึกจี๊ดใจขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่ไม่ยอมไปนั่งจิบไวน์กับเขาหลังเกมที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอันเป็นประเพณีปฏิบัติของเฟอร์กี้กับกุนซือฝ่ายตรงข้ามมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเพียง 6 เดือนหลังจากเวนเกอร์เข้ามารับหน้าที่ที่เกาะอังกฤษ เฟอร์กี้ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อทันทีว่าให้เวนเกอร์ หุบปาก ได้แล้ว นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หากมีโอกาสเมื่อไร คู่นี้เป็นต้องเปิดสงครามจิตวิทยา แลกเปลี่ยนคอมเมนต์และถ้อยคำเผ็ดร้อนใส่กันแบบไม่มีใครยอมใครเลย ปี 2002 หลังจากทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์พรีเมียร์มาครอง เฟอร์กี้ยังอาจหาญออกมาประกาศว่า อย่างไรเสีย แมนฯยูก็เป็นทีมที่ดีที่สุดของฤดูกาลอยู่ดี เลยโดนเวนเกอร์สวนกลับด้วยอุปมาบาดลึกว่า "ใครๆ ก็คิดว่าเมียตัวเองสวยที่สุดทั้งนั้นแหละครับ" ทันที อีกกรณีที่ฮือฮาอย่างยิ่ง เกิดขึ้นเมื่อแมนฯยูยุติสถิติไม่แพ้ใครของอาร์เซน่อลลงได้ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนตุลาคม 2004 ซึ่งหลังเกมอันดุเดือดวันนั้น นักเตะปืนใหญ่ต่างระบายอารมณ์กันในห้องแต่งตัวกันอย่างหัวเสีย และไม่รู้อีท่าไหน เฟอร์กี้ถึงโดนลูกหลงเป็นเศษพิซซ่าบินว่อนมาติดสูทสุดรักได้ซะนี่ เฟอร์กี้ vs เบ๊คส์ เมื่อยามรัก น้ำต้มผักก็ว่าหวาน ความสัมพันธ์ระหว่างท่านเซอร์กับซุปเปอร์สตาร์คู่บุญอย่าง เดวิด เบ๊คแฮม จึงดำเนินมาประดุจหนึ่งหนุ่มเบ๊คส์เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอีกคนของกุนซือชาวสก๊อตเลยทีเดียว แต่แล้วเมื่อมี มือที่สาม ชื่อ วิคตอเรีย อดัมส์ โผล่เข้ามาในชีวิตของนักเตะหนุ่ม ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อปี 2000 เฟอร์กี้เคยอาละวาดตัดเบ๊คส์ออกจากทีมมาแล้ว หลังจากลูกทีมคนนี้ไม่ได้ร่วมซ้อมกับทีม 2 วันก่อนหน้านั้น เนื่องจากวิคตอเรียอยากให้เขาช่วยอยู่ดูลูกชายที่กำลังป่วย ขณะที่เธอออกไปทำงาน และอีกหนในเดือนมีนาคมปี 2003 หลังปีศาจแดงพ่ายให้อาร์เซน่อลในเกมเอฟเอคัพคาถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด ผู้จัดการทีมเจ้าของฉายา ที่เป่าผม คนนี้ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ลูกทีมตามถนัด แต่เรื่องมันดัน เลยเถิด ขึ้นมาเมื่อท่านเซอร์มีการลงไม้ลงมือเหวี่ยงเท้าเตะสตั๊ดที่ถอดอยู่บนพื้นปลิวไปโดนเหนือคิ้วของหนุ่มเบ๊คส์แม่นยำราวจับวาง! ด้วยความตกใจ เบ๊คแฮมรีบตะโกนไปด้วยอารมณ์เดือดว่า "ไอ้ * ตาฉันเกือบบอดแล้วนะ" ซึ่งเฟอร์กี้ก็ตอบโต้ด้วยการหันไปพูดกับนักกายภาพบำบัดประจำทีมว่า "ทำแผลให้ไอ้...นี่ซิ!" ก่อนจะเดินหงุดหงิดออกจากห้องไป เหตุการณ์นี้เปรียบเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่เหนี่ยวรั้งกุนซือ-นักเตะคู่บุญ 2 คนนี้ไว้ด้วยกัน และ 3 เดือนหลังจากนั้น เบ๊คส์ก็ต้องเก็บผ้าผ่อนไปซบรัง รีล มาดริด แทน! Credit :: มติชน http://www.matichon.co.th จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข่าวหมดแล้วครับ ท่านใดมีข่าวเพิ่มเชิญเสริมได้ตามสะดวก ส่วนป๋าจับ ผมคิดค่าปาด 1 รูปภาพคับ ขอแนวนี้นะป๋า จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:33:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แบบนี้ก็โอเคนะป๋า จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 15 พ.ย. 49 15:36:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ ช่วยแปะรูปที่คุณATและหนุ่มๆชอบ จากคุณ : DEVILKAMO - [ 15 พ.ย. 49 15:52:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับข่าวสารและรูปภาพประกอบค่ะ จากคุณ : ผีแดงแรงฤทธิ์ - [ 15 พ.ย. 49 15:54:17 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ ปล. แถมให้ 1ภาพครับหุๆๆ จากคุณ : vn, man - [ 15 พ.ย. 49 16:02:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จุ๊ๆๆๆ......คุณ เอทีอย่าเสียงดัง....เดี๋ยวเค้าหาว่าผม....หื่นนะ....ยิ่งดูดี สุภาพอยู่ด้วย.... อ้าวว..นั่นประไร.....เจ้า   vn, man  ...มาย้ำสารตายกันพอดีละทีเนี้ยยย... จากคุณ : จับหน้าผากตัวร้อน - [ 15 พ.ย. 49 16:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 17 Thanks จากคุณ : Perfect Day : P-Blur - [ 15 พ.ย. 49 16:27:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับรูปครับ อ่อ ข่าวด้วย อิๆ จากคุณ : หนุ่มเซอร์ - [ 15 พ.ย. 49 17:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณครับ จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 15 พ.ย. 49 17:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : suansiam - [ 15 พ.ย. 49 18:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 21 Giggs เจ็บนานมั๊ยอะครับ ถ้านานไปนี่มีหวังซวยเลย ใกล้เดือน ธ.ค. เเล้วด้วยสิ ขอบคุณสำหรับข่าวคร้าบบ จากคุณ : Mr.tananuj - [ 15 พ.ย. 49 18:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : ซ้ำซ้อน - [ 15 พ.ย. 49 19:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมชอบกระทู้นี้จริงๆ ให้ตายเหอะ อิอิอิ จากคุณ : Journalise - [ 15 พ.ย. 49 20:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แหม่ เราก็รอว่าเมื่อไรข่าวจะหมดเร็วๆ จากคุณ : ปากกาสีดำ - [ 15 พ.ย. 49 22:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เออ...ก็เลยไม่มีใครบอกเลยว่าตกลงแมนยูถ่ายทอดสดช่อง37 รึเปล่า หรือว่ารอดูเทปตอนเที่ยงคืน....ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : gongto - [ 15 พ.ย. 49 23:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 26 thank you !!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : lasmat - [ 16 พ.ย. 49 01:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณมากค๊าบ................ จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 16 พ.ย. 49 08:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 28 โอเล่ๆๆๆ จากคุณ : petrified - [ 16 พ.ย. 49 13:40:31 ]