ความคิดเห็นที่ 1 คีน ณ จุดสูงสุด เมื่ออายุ 29 ตอนนั้น ถ้ามีคนบอกกับเขาว่าจะต้องอำลาแมนยูในอีก 4 ปีข้างหน้า คิดว่าเขาก็คงจะไม่แปลกใจ อาจจะแถมยักไหล่ให้คุณนิดๆด้วยซ้ำ เพราะคีนคิดอยู่เสมอว่าเขามีโอกาสที่จะถูกเฟอร์กี้ให้ออกจากทีมทุกขณะถ้าทำอะไรผิดพลาด คีน เมื่ออายุ 29 ปี เป็นกำลังหลักที่ขาดไม่ได้ของแมนยู และเป็นนักเตะที่ได้ค่าจ้างสูงที่สุดในเกาะอังกฤษ แต่นี่คือสิ่งที่เขาพูดตอนนั้น “ ทุกครั้งที่เห็นเจ้านาย ไม่ว่าจะในการฝึกซ้อม หรือในสนามแข่ง ผมจะพยายามทำให้เขาประทับใจเสมอ เขาเป็นคนที่ตั้งมาตรฐานไว้สูง และผมก็เห็นนักเตะหลายคนที่ฟอร์มการเล่นตกลงไปเล็กน้อย แล้วก็จากไปหลังจากนั้นไม่กี่เดือน ความเข้มงวดของอเล็กซ์ เฟอร์กุสัน เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เขาเรียกร้อง และพวกเรามีหน้าที่ที่จะทำให้ได้ ผู้เล่นที่ดีกว่าผมหลายคนต้องไปจากยูไนเต็ด ผมคุยกับพวกเขาหลังจากนั้น และทุกคนบอกว่านั่นคือสิ่งที่น่าเสียใจที่สุดในชีวิต” “คุณไม่ต้องคิดที่จะไปจากยูไนเต็ดหรอก ถ้าคุณไม่ดีพอเมื่อไหร่ผู้จัดการทีมนั่นแหละจะให้คุณไปเอง และผมก็ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น เห็นไหมว่าผมกดดันขนาดไหน” นอกจากนั้น ดูเหมือนคีนจะค่อนข้างคิดมากกับอนาคตและกังวลกับฟอร์มการเล่นที่อาจจะร่วงโรยไปตามอายุ  และไม่อยากจะจบลงเหมือนนักเตะที่โรยราทั่วไปที่ยอมเล่นในระดับที่ต่ำลงๆ และค่อยๆหายไป “ผมไม่อยากฟอร์มตก ตอนนี้ผมกำลังพีค แต่นี่ก็เป็นฤดูกาลที่ 11 ของผมแล้ว มันผมก็รู้สึกว่ามันยากขึ้นทุกๆปี ผมเหลือสัญญาอีก 2 ปี แน่นอนว่าผมจะไม่เซ็นต์สัญญาระยะยาว 5-6 ปี เพราะตำแหน่งที่ผมเล่น รวมถึงมาตรฐานของสโมสรและตัวผมเอง ทำให้อะไรๆอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด”   “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าละอายใจเวลาที่เห็นผู้เล่นชั้นแนวหน้าที่อายุมากต้องยอมลดระดับลงเพราะเหตุผลเรื่องเงิน ผมหวังว่าผมคงจะไม่เป็นอย่างนั้น ผมนับถือเอริค คันโตน่ามาก ตอนที่เขาตัดสินใจเลิกเล่น เขารู้ตัว มันมี 1-2 เกมส์ที่เขารู้ว่าเขาทำได้ดีกว่านั้น เพราะเขาตั้งมาตรฐานของตัวเองไว้และไม่ยอมล้มเหลว ผมก็เป็นคนอย่างนั้นเหมือนกัน” ชัดเจนว่าคีนเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีและให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นมากเหลือเกิน บางทีการที่เขาต้องจากทีมไปเมื่อปี 2005 นั้น นอกจากการทำเกินบทบาทหน้าที่จนเฟอร์กี้รับไม่ได้แล้ว คงเป็นเพราะคีนรู้ตัวว่าตัวเองเล่นไม่ได้ตามมาตรฐานที่เขาตั้งไว้สำหรับยูไนเต็ดด้วย จากคุณ : cirE - [ 20 เม.ย. 50 16:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 Kean, The Player คีนในฐานะผู้เล่นเป็นที่รู้กันว่าดุดัน จริงจัง และกระหายชัยชนะ สำหรับตัวเขาเอง ก็รู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ “ พูดกันตรงๆเลยนะ รอย คีน ไม่ใช่ผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม ไม่มีทางเลย ห่างไกลด้วย แต่ผมมีอย่างอื่นที่จะชดเชย อย่างเช่น ความกระหายและทะเยอทะยาน ผมเล่นฟุตบอลโดยใช้ความแข็งแกร่ง ผมไม่สามารถเปิดบอลได้เหมือนเบคส์ หรือเลี้ยงจี้เข้าหากองหลังได้เหมือนกิกส์ซี่ ไม่มีทางทำได้เลย  อีกทั้งสโมสรก็มีนักเตะที่เป็นตำนานหลายคน เบสต์ ลอว์ ชาร์ลตัน และผมไม่ได้เป็นหนึ่งในพวกนั้น ผมไม่ใช่ตำนานแต่ผมก็ยังเป็นผู้ชนะ และผมก็ภูมิใจกับสิ่งนั้น” “มันตลกมากที่ผมมักจะจำความผิดหวังได้ดีกว่าความสำเร็จ อย่างตอนที่เราเสียแชมป์ลีกให้กับแบล็กเบิร์น ตอนที่อาร์เซนอลมาได้แชมป์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือแม้แต่ตอนที่ผมอยู่ฟอร์เรสต์ที่แพ้ให้กับสเปอร์สในนัดชิงบอลถ้วย แต่ความผิดหวังนี่แหละที่เตือนผมให้เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ” นอกจากพูดถึงตัวเองแล้ว คีนยังพูดถึงแมนยูว่าเป็นสโมสรที่กระหายชัยชนะและความสำเร็จอยู่เสมอ “ แน่ละว่าพวกเราที่ยูไนเต็ดอยากที่จะชนะทุกๆนัด แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ หลังจากที่เราต้องตกรอบเอฟเอคัพ จากการที่พ่ายแพ้ให้กับเวสต์แฮม ทุกคนเศร้าไปหมดตั้งแต่ผู้เล่น คนจัดเสื้อผ้า คนเสริ์ฟน้ำชา ไปจนถึงพ่อผมเอง ตอนที่ผมโทรกลับบ้านเขาไม่ยอมพูดกับผมเลย แถมไม่ยอมออกมาจากห้องนอน ยังกับว่ามีคนในครอบครัวตายอย่างนั้นและ กลายเป็นว่าผมต้องคอยปลอบใจคนอื่นๆ ผมคิดว่ามันสำคัญที่เราจะต้องรับกับความพ่ายแพ้ให้ได้ มันไม่ใช่วันสิ้นโลกซักหน่อย” สำหรับเพื่อนร่วมทีมแล้ว คีนเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม และทุกคนก็อุ่นใจเมื่อมีเขาอยู่ในสนาม กิกส์พูดถึงคีนว่า “ เวลามีคีนนี่อยู่ในทีม คุณจะรู้สึกเหมือนกับว่าใครก็เอาชนะคุณไม่ได้ เขาไม่เคยยอมแพ้ ผมไม่ได้บอกว่าคนอื่นทีมมีความอยากที่จะชนะน้อยกว่าคีนนี่ แต่คีนมีสิ่งที่แตกต่างกว่าคนอื่นคือวิธีที่เขาแสดงออก เขาเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลกับทีมมากกว่าใครที่ผมเคยพบมา” มีคนกล่าวว่าคีนเป็นเหมือนเฟอร์กี้ในสนาม ทำหน้าที่ผู้นำและผู้จัดการเมื่อทีมลงเล่น จึงไม่น่าแปลกใจเลยกับเส้นทางที่เขาเลือก เมื่อสิ้นสุดอาชีพนักฟุตบอล จากคุณ : cirE - [ 20 เม.ย. 50 16:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 Keane, The Manager จากนักเตะที่เงียบขรึมและอารมณ์ร้อน กลายมาเป็นผู้จัดการทีมที่นักข่าวหลายสำนักลงความเห็นว่าเขาเติบโตและเปลี่ยนไป “มีอารมณ์ขัน ฉลาดเฉลียว และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์” เป็นคำที่สื่อต่างๆกล่าวถึงเมื่อพูดถึงคีนในฐานะผู้จัดการทีม คีนได้รับการติดต่อให้มาคุมซันเดอร์แลนด์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2006 จากไนออล ควิน ซึ่งเคยเล่นด้วยกันในทีมชาติไอร์แลนด์ และไม่ได้พูดกันตั้งแต่เหตุการณ์ที่คีนออกจากทีมเมื่อบอลโลก 2002  ทั้งคู่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของการพูดคุยกับสื่อใดๆ คีนเพียงแต่เล่าว่าเขาได้บินไปคุยกับควินน์แบบไม่เป็นทางการ ใส่สูท แต่ไม่ได้ผูกไทด์ และปิดห้องคุยกัน 2 คน ส่วนควินน์กล่าวแบบติดตลกว่าตอนที่เจอคีน เขาไม่แน่ใจว่าจะยกแขนตั้งการ์ดไว้ก่อนดี หรือจะเข้าไปสวมกอดดี การพูดคุยเป็นไปด้วยดี แต่น่าเสียดายว่าคีนต้องการจะเรียนหลักสูตรโค้ชให้จบในระดับ A ก่อน จึงยังมาคุมทีมไม่ได้ และตอนนั้นซันเดอร์แลนด์ก็ยังติดต่อโค้ชอีก 2 คน คือ แซม อัลลาไดซ์ และ มาร์ติน โอนีลไว้ด้วย หลังจากนั้นไม่นาน คีนเล่าว่าขณะที่พักผ่อนอยู่ที่สเปน มีโทรศัพท์จากเอเจ้นท์ว่าซันเดอร์แลนด์ติดต่อกลับมาอีก เขาได้ปรึกษากับเทเรซ่า ภรรยา และเธอก็บอกว่า “ไปเถอะ” คีนนำความเปลี่ยนแปลงมาให้กับซันเดอร์แลนด์อย่างมาก มีการซื้อขายผู้เล่นถึง 30 ครั้ง โดยทั้งหมดสโมสรต้องจ่ายเงินออกไป 1 ล้านปอนด์ “ สิ่งแรกที่ผมมองหาจากผู้เล่นของผมคือ คาร์แรคเตอร์” และคีนก็เชื่อว่าเขาโชคดีในเรื่องนี้ เขาสร้างทีมที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เห็นได้จากชัยชนะของซันเดอร์แลนด์ จากประตูที่ทำได้ในท้ายเกมส์บ่อยๆ พวกผู้เล่นต้องพยายามทำประตูให้ชนะให้ได้ เพราะพวกเขากลัวที่จะเดินกลับมายังห้องแต่งตัวและต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของคีน นอกจากการสร้างคาร์แรคเตอร์ของตัวผู้เล่นและทีมแล้ว คีนยังจัดระบบระเบียบเล็กๆน้อยเพื่อสร้างวินัยและความกลมเกลียวให้กับทีม เช่น ให้ผู้เล่นแต่งตัวดีๆ สวมสูทเมื่อไปเยือน ให้พักโรงแรมในคืนก่อนเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นนัดเหย้าหรือเยือน และให้มีกิจกรรมร่วมกันอย่างการปั่นจักรยานเสือภูเขา พายเรือ หรือเล่นเพ้นท์บอล จากคุณ : cirE - [ 20 เม.ย. 50 16:37:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีเรื่องฮือฮา 2 เรื่องที่ซันเดอร์แลนด์ เกี่ยวกับความเฮี้ยบและดุของคีน เรื่องแรกเกิดหลังจากที่ซันเดอร์แลนด์บุกไปชนะเวสต์ บรอม ผู้จัดการทีมของเวสต์ บรอม คือโทนี่ มอว์เบรย์ได้พูดถึงสไตล์การเล่นของซันเดอร์แลนด์และบอกว่า เวสต์ บรอมยังเป็นทีมที่ดีกว่า (ประโยคแบบนี้คุ้นๆมั้ยแฟนผี 555 ) หลังจากนั้นไม่นาน คีนก็ออกมาเตือนว่าผู้จัดการทีมที่แพ้น่ะ ไม่มีสิทธิจะดูถูกคนอื่นหรอกนะ เรื่องที่ 2 เกิดหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ คีนไล่ผู้เล่นออกไป 3 คน “พวกเขามาสาย ทุกคนอยู่บนรถบัสเพื่อจะไปเยือนบาร์นส์ลี่ย์  เราควรจะออกตั้งแต่ 15 นาทีที่แล้ว แต่เราก็รอ พวกเขาโทรมาหาผมบอกว่าติดอยู่แยกนั้นแยกนี้ จนผมคิดว่าเรารอไม่ไหวแล้ว ผมใช้เวลาคิดในรถอยู่ 5 นาทีเพื่อตัดสินใจจะไล่พวกเขาออก มันไม่ได้มีความเกลียดชังอะไร พวกเขาผิดเวลา พวกเขาพลาดที่จะลงเล่นให้ทีม” อย่างไรก็ตาม คีนก็บอกว่า ไม่ใช่ว่าเขารับความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆไม่ได้เลย “ผมยังอยู่ในโลกของความเป็นจริง นักเตะก็เป็นคน ทำผิดเล็กๆน้อยๆได้ โอเค เราต้องการมาตรฐานที่สูง แต่เราก็เริ่มจากเรื่องง่ายๆ เช่น การเดินทางไปเยือน แล้วผมก็ไม่เคยคิดจะจับตาดูทุกคนตลอด 24 ชั่วโมงด้วย” จริงๆแล้ว คีนอ้างว่าเขาทำตัวสบายๆกว่าตอนที่เป็นนักเตะเยอะ เขาสังสรรค์กับทีมงานในซันเดอร์แลนด์อยู่บ่อยๆ “ผมไม่ได้ทำอย่างนั้นบ่อยๆตอนเป็นนักเตะ ผมเครียดเกินไป  สำหรับผมการพักผ่อนที่สุดยอดคือการอยู่กับครอบครัว หรือไม่ก็พาหมาไปเดินเล่น” นอกจากนั้นบางครั้งลูกทีมก็ยังกล้าล้อเลียนเขาด้วย คีนยิ้มเมื่อพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนคริสมาสต์ “พวกหนุ่มๆล้อเลียนผม พวกเขาไปปาร์ตี้ในกลาสโกว์ หลังจากที่ดื่มไป 1-2 ไพน์ ก็มีคนกล้าโทรมาหาผม ผมได้ยินเสียงลอดเข้ามาในโทรศัพท์ มีคนทำเสียงเลียนแบบผมอยู่ข้างหลัง ผมพอจะรู้นะว่าใครเป็นคนทำ แต่เสียดายว่าไม่มีหลักฐาน” ในฐานะผู้จัดการทีมมือใหม่ คีนคิดขวนขวายหาความรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะมาจากหนังสือ ซึ่งเขาเป็นนักอ่านตัวยงคนหนึ่ง หรือมาจากประสบการณ์คนอื่นๆในวงการ “ ผมคิดว่าสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดคือการได้เรียนรู้จากผู้จัดการทีมของผม ผมนึกย้อนหลังไปแม้กระทั่งกับร็อคเมาท์ ทีมในคอร์คที่ผมอยู่ตอนเป็นเด็ก ผู้จัดการทีมที่ดีที่สุด แน่นอนว่าคือ อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน ตอนอยู่ยูไนเต็ดผมบอกได้เลยว่าเขารู้เสมอว่าทีมต้องการอะไร เขาจะเข้ามาและเติมในสิ่งที่ทีมต้องการ เช่น บางครั้งเราต้องการพักผ่อน บางครั้งเราก็ต้องการแรงกระตุ้นเล็กๆน้อยๆ นี่คือสิ่งที่ผมพยายามสังเกตตั้งแต่ตอนยังเป็นนักเตะ ผู้คนที่คุณรู้จักต่างก็มีแนวคิด มีภูมิปัญญาที่มีคุณค่า ที่น่าเรียนรู้ทั้งนั้น” จากคุณ : cirE - [ 20 เม.ย. 50 16:38:34 ]

ความคิดเห็นที่ 5 The New Alex Ferguson? จากผลงานของคีนกับซันเดอร์แลนด์ รวมถึงภาพลักษณ์แบบผู้จัดการทีมที่ดูดีมีสไตล์ ทำให้เกิดความคาดหวังในหมู่แฟนผี ว่าคีนนี่เอง ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งจากเฟอร์กี้ แน่นอนว่านักข่าวต่างก็ต้องถามคีนในเรื่องนี้เหมือนกัน ซึ่งแฟนผีอ่านแล้วมีเซ็ง “ฟังนะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซันเดอร์แลนด์เป็นทีมที่มีศักยภาพ และเป็นความคิดที่ผิดและดูถูกกันมากถ้าจะคิดว่าผมใช้ซันเดอร์แลนด์เป็นบันไดไปสู่ทีมอื่น ผมมีสัญญา 3 ปีกับทีม และตราบใดที่ผมยังสามารถทำงานที่ผมอยากทำที่นี่ได้ จะไม่มีปัญหาอะไรเลย ผมมองเห็นตัวเองอยู่ที่นี่ไปอีกหลายปี อาจจะ 10 ปีก็ได้” “ผมไม่ได้นั่งอยู่ที่บ้านในตอนกลางคืนและคิดว่าวันหนึ่งจะเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีความท้าทายอีกมากที่ซันเดอร์แลนด์ เรากำลังจะได้แชมป์เปี้ยนชิพ เรามีคนดูในสนามเกมส์ละเกือบ 4 หมื่นคน คงจะเป็นการดูถูกกันเกินไปหน่อย ถ้าจะพูดอย่างนั้น” ตอนนี้คีนคงมีความสุขดีที่ซันเดอร์แลนด์ แต่ก็ยังอีกนานที่เฟอร์กี้จะวางมือ เราก็ยังหวังว่าถึงตอนนั้น อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ได้ กับเวลากว่า 20 ปีกับแมนยู แฟนผีส่วนใหญ่ไม่ว่าจะรุ่นเก่าขนาดไหน ก็คงนึกภาพไม่ออกเมื่อไม่มีเฟอร์กี้อยู่ข้างสนาม และไม่อยากจะนึกว่าเมื่อวันนั้นมาถึงจะรู้สึกยังไง แต่ก็มีแฟนผีบางคนบอกว่า มีเพียงเรื่องเดียวที่จะทำให้เขาไม่เสียใจเมื่อเฟอร์กี้ไปจากแมนยู นั่นคือมีคีนเข้ามาแทน และเราก็เห็นอย่างนั้น คีนเคยบอกว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จของแมนยูคือ F Factors นั่นก็คือ “Fear : of Fergie and Failure”   เราขอสรุปตรงนี้ว่าปัจจัยที่นำความสำเร็จมาให้กับซันเดอร์แลนด์ก็มาจาก R Factors เหมือนกัน นั่นก็คือ   “Respect to Roy” รวมรวบจาก http://www.manchesterunited.com http://football.guardian.co.uk http://www.timesonline.co.uk แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 50 17:45:08 จากคุณ : cirE - [ 20 เม.ย. 50 16:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณที่เอามาให้อ่าน ไม่รู้จะตอบว่าไรดี รู้แต่ว่าตอนนี้ รอย คีน เป็นหนื่งในตำนานของยูไนเต็ดแล้วล่ะ     จากคุณ : Futari - [ 20 เม.ย. 50 17:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ชอบรอยคีนมาก ๆ ค่ะ เล่นบอลมันส์ดี ยิ่งอ่านกระทู้นี้ยิ่งชอบค่ะ ^ ^ จากคุณ : เด็กหงส์ปลอมตัวมา (karaokeGirl) - [ 20 เม.ย. 50 17:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นบทความที่เป็นตัวตนของรอยคีนและสะท้อนไปถึงยูไนเต็ดได้ดีจริง ๆ ทุกครั้งที่ฟังการให้สัมภาษณ์ของผู้เล่น/ผู้เกี่ยวข้อง ทุกคนจะพูดเหมือนกันว่า ยูไนเต็ดคือทีมที่ตั้งเป้าหมายและกระหายในชัยชนะ ขอบคุณค่ะที่เอามาให้อ่านกัน ^ ^ จากคุณ : BabyRed - [ 20 เม.ย. 50 17:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ จขกท. นะครับที่เอามาให้อ่าน   ผมชอบรอยคีนตอนตัดผมสกีนเฮด อะ มันเข้ากับบุคลิคที่ดุดันของเขาดี เขาเป็นคนเดียวในทีมแมนยูที่เวลาโดนไล่ออกจากสนาม แล้วผมด่าเขาไม่ลง  ผมยังจำได้ดีตอนที่ร็อบบี้ คีนไปเล่นที่โอแทดฟอร์ด แล้วกองเชียร์ของร็อบบี้คีนตะโกนเชียร์ร็อบบี้คีนว่า คีน  แล้วกองเชียร์แมนยูก็ตะโกนว่า ในโอแทดฟอร์ดมีคีนได้แค่ 1 คน นั่นคือ รอยคีน  ตอนนั้นผมขนลุกเลยครับ ปล. สำหรับผม รอยคีนเป็นกองกลางตัวรับที่เล่นได้มันส์ที่สุดในสายตาผมครับ จากคุณ : หัตต์เทวะ - [ 20 เม.ย. 50 17:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คีนนำความเปลี่ยนแปลงมาให้กับซันเดอร์แลนด์อย่างมาก มีการซื้อขายผู้เล่นถึง 30 ครั้ง โดยทั้งหมดสโมสรต้องจ่ายเงินออกไป 1 ล้านปอนด์ .......................................................... เหลือเชื่อ ซื้อขายนักเตะ 30 ครั้ง จ่ายแค่ 1 ล้านปอนด์เนี่ยนะ คุ้มจริงๆ จากคุณ : นายชัย - [ 20 เม.ย. 50 18:03:55 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ  ปีหน้ารอดูป๊ะป๋าจับมือกับคีโน่ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 20 เม.ย. 50 18:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สุดยอดครับ ... ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : paphartnet - [ 20 เม.ย. 50 18:52:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ลูกพี่................สุดยอดดดดดด จากคุณ : limpid_eye - [ 20 เม.ย. 50 19:06:23 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากๆๆๆๆๆเลยครับสำหรับบทความ จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 20 เม.ย. 50 19:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไอ้ซื้อขาย 30 ครั้ง ส่วนใหญ่จะเซ็นของฟรี ไม่ก็ยืมของผีมาน่ะแหละครับ ดีน ไวท์เฮด เล่นเยี่ยงเทพเลยตอนนี้ ใน ชปช. หวังว่าปีหน้าจะยังแรงต่อเนื่องนะ... สู้เค้าคีโน่! จากคุณ : King of Extreme - [ 20 เม.ย. 50 19:16:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากเล่นบอลเก่งแบบคีนจัง  กลางตัวรับที่เก่งที่สุดสำหรับผม  วิเอร่ายังเคยชมคีนเลย อิอิ ขอบคุณสำหรับบทความ **ป.ล. ใครรู้บ้างว่าสุนัขที่คีนเลี้ยงไว้ชื่ออะไร ผมลืม?? จากคุณ : dmmo - [ 20 เม.ย. 50 19:20:07 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ซึ้งใจจริงๆ อิอิ จากคุณ : J_gossip (จันทราที่มองเหม่อ) - [ 20 เม.ย. 50 19:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับพี่แก้ว คิดถึงคีน และคิดถึงFutari จากคุณ : ประธานชมรมคนรักFutari - [ 20 เม.ย. 50 19:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ลูกพี่คีโน่สุดยอดจริงๆ จากคุณ : CrisTooNo - [ 20 เม.ย. 50 20:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 20 United  ยังคงรอคอย..รอยคีน  ....อนาคตมาเป็นผู้จัดการทีมนะ จากคุณ : siribinnie - [ 20 เม.ย. 50 20:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่นำมาให้อ่านครับ จากคุณ : GreaT DaneS - [ 20 เม.ย. 50 20:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ...สุดยอด ทั้งลูกพี่คีนและจขกท.ครับ ผมกดโหวตให้เลย.... จากคุณ : ton4fm - [ 20 เม.ย. 50 20:56:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดี ๆ ค่ะ คิดถึงคีโน่ลูกพี่ใหญ่จัง... จากคุณ : nanni - [ 20 เม.ย. 50 20:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ครับ ใน  แมนยู มีเพียง  1  คีน เท่านั้น จากคุณ : เทพพิสดาร - [ 20 เม.ย. 50 21:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 25 there is only one keano !!~ very thanks for your columm จากคุณ : Skyline_CII - [ 20 เม.ย. 50 21:17:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คิดถึงลูกพี่คีโน่ที่สุดเลย จากคุณ : มนุษย์ดี_ManUtd - [ 20 เม.ย. 50 21:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ยังไงก้อคงต้องให้ลูกพี่สั่งสมประสบการณ์ก่อนครับ สัก4-5ปีแล้วค่อยมาดูกัน (ดีกว่าให้เครอสเป็นต่อจากป๋าอะครับ) จากคุณ : MTY - [ 20 เม.ย. 50 21:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับบทความดี ๆ ครับ.. เชื่อมั่นในรอย คีน ไม่ว่ากี่ปีเราก็จะรอ .. M Factors ..  Man of Man U. จากคุณ : JadEiTe & WhiTe sHarK - [ 20 เม.ย. 50 21:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านแล้วยิ้มครับ รู้สึกดีจริงๆ จากคุณ : Bz in Red - [ 20 เม.ย. 50 23:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สุดยอดครับคนนี้ Keano ขอบคุณเจ้าของกระทู้สำหรับบทความดีๆจากนักเตะที่ผมชอบมากที่สุดคนหนึ่ง จากคุณ : aimenem - [ 20 เม.ย. 50 23:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ผิดหวังที่ยกให้เป็นพ่อคนที่ 2 อิอิ จากคุณ : OrangE_KnighT (OrangE_KnighT) - [ 20 เม.ย. 50 23:45:09 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แฟนผีต่างก็รอคอยการกลับมาสู่โอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างยิ่งใหญ่ของรอย คีนครับ อีกไม่นานเกินรอ....แน่นอน จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 21 เม.ย. 50 01:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ นะครับ จากคุณ : Mr.Luna - [ 21 เม.ย. 50 14:33:02 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่อง transfer 30 ครั้ง แต่เสียเงินเพียง 1 ล้านปอนด์ เพราะคีนขายผู้เล่นออกไปเยอะมากค่ะ โดยกัปตันทีมโดนก่อนคนแรก และก็อย่างที่ #15 บอก คือฟรีและยืมมาเยอะเหมือนกัน แต่ตรงนี้่ขอกลับไปเช็คข้อมูลอีกทีนะคะ เพราะใช้ข้อมูลจากหลายเวบมาก ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและร่วมคิดถึงลูกพี่ของเรา คิดว่าถ้าป๋ารออีกซัก 4-5 ปีค่อยวางมือ เราคงมีโอกาสได้เห็นคีนกลับมากันค่ะ แต่ถ้าก่อนหน้านั้น คงจะยาก.. จากคุณ : cirE - [ 21 เม.ย. 50 21:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านแล้วก็คิดถึงมากๆ ขอบคุณ พี่ cirE ที่หาและรวบรวมมาให้อ่านกัน ลึกๆในใจ เมื่อก่อน นึกถึงแมนยูทีไร หน้าคีโน่ก็จะลอย  มันเหมือนโลโก้แมนยู ณ ตอนนั้น ทั้งๆที่ตอนนี้ไปแล้ว แต่ในใจ ก็ยังคิดเสมอว่านี่คือ คนของแมนยูโดยแท้ จากประโยคนี้ "มีคนกล่าวว่าคีนเป็นเหมือนเฟอร์กี้ในสนาม " ^ ^ เห็นด้วยมากๆ คิดแบบนี้เหมือนกันตอนนั้น ขอโหวตกระทู้นะคะ ชอบอะ ไม่อยากให้กระทู้ตกเร็ว จากคุณ : fan_man_u - [ 23 เม.ย. 50 08:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ชอบคีนอะ รอลูกพี่กลับมาที่โอลด์ อีกครั้ง อ่านแล้วประทับใจมาก ๆ ขอบคุณ จขกท ค่ะ จากคุณ : scholes - [ 23 เม.ย. 50 11:13:18 ]