ความคิดเห็นที่ 1 สมัครสมาชิก : แจ้งความจำนงค์ได้ครับ เรื่องการมีบัตร : 1) ถ้าทำเองได้ก็ทำเองเลยครับ                   2) ถ้าทำเองไม่เป็น แจ้งชื่อและเลขสมาชิก ที่กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5296768/S5296768.html  นะครับ แล้ว คุณ**คนผ่านมาเจอ** ,คุณ Batty_Bounce ,คุณนะโม 3จบ ,คุณ kadett และคุณ bob_bob จะทำให้ครับ อัพเดทบัตรที่ขอมาทุกวันเข้าตามลิงค์ด้านบนเลยครับ จะได้หาง่าย ๆ จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 2 UCL semi-finals round First leg: Chelsea v Liverpool เชลซี-ลิเวอร์พูล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันแข่งขัน: วันพุธที่ 25 เมษายน 2550 เวลาแข่งขัน: 1.45 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) กรรมการตัดสิน: มาร์คุส แม็ก สถิติ -ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกเริ่มต้นเปลี่ยนเป็นระบบแบ่งกลุ่มครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 1992/93 -ยูโรเปียน คัพ/ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 1955/56 -ศึกฟุตบอลสโมสรยุโรปที่จัดโดยยูฟ่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 5 รายการ คือ แฟร์ คัพ, ยูฟ่า คัพ, คัพ วินเนอร์ส คัพ, ยูโรเปียน คัพ และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (ไม่นับรายการยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ และ อินเตอร์ โตโต้ คัพ) เฮดทูเฮด          เชลซีและลิเวอร์พูลพบกันทั้งหมด 4 ครั้งในการแข่งขันถ้วยสโมสรยุโรป โดยเป็นการเจอกันในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกทั้ง 4 ครั้ง โดยพบกันในฤดูกาล 2004/05 ในรอบรองชนะเลิศ (0-0, 1-0) และในฤดูกาล 2005/06 ในรอบแบ่งกลุ่ม (0-0, 0-0) โดยประตูเดียวที่เกิดขึ้นคือการทำประตูของหลุยส์ การ์เซียในเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ชนะเชลซี 1-0          ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลเคยเจอกับสโมสรของอังกฤษในรอบรองชนะเลิศของศึกสโมสรยุโรป 3 ครั้งคือ รายการแฟร์ คัพ กับลีดส์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 1970/71, ยูโรเปียน คัพกับนอตติงแฮม ฟอเรสต์ ในฤดูกาล 1978/79 และกับเชลซีในฤดูกาล 2004/05 ยูโรเปียน ฮิสตอรี่          เชลซีเคยเป็นแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ 2 ครั้ง (1971 และ 1998) พวกเค้าชนะเลิศในรายการซุปเปอร์ คัพในปี 1998          นี่เป็นการเข้าร่วมเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกเป็นครั้งที่ 5 โดยพวกเค้าทำได้ดีที่สุดคือเข้ามาเล่นในรอบรองชนะเลิศ 3 ครั้ง (2003/04, 2004/05 และ 2006/07)          ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์รายการยูโรเปียน คัพ/ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รวม 5 ครั้ง โดยคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดคือเมื่อฤดูกาล 2004/05 โดยชนะเอซี มิลานในการดวลจุดโทษ 3-2 หลังเสมอในเวลา 120 นาที 3-3 โดยก่อนหน้านั้นเคยเป็นแชมป์มาแล้วในปี 1977, 1978, 1981 และ 1984          ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์รายการยูฟ่า คัพ รวม 3 ครั้ง, ราการซุปเปอร์ คัพ 3 ครั้ง ลิเวอร์พูลเข้าร่วมเล่นในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกเป็นครั้งที่ 5 และเป็นครั้งที่ 34 ในการลงเล่นในรายการถ้วยสโมสรยุโรป (รวมทุกถ้วย) เปรียบเทียบฟอร์ม          เชลซีชนะในการลงเล่นในบ้านทั้ง 5 นัดในฤดูกาลนี้          ลิเวอร์พูลชนะในการออกไปเยือน 2 นัดล่าสุดในฤดูกาลนี้ (5 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1) ผู้เล่นที่โดนแบนในนัดนี้ และหากได้ใบเหลืองจะไม่ได้ลงเล่นนัดที่ 2          เชลซีมีผู้เล่นโดนแบน 1 คน คือ มิคาแอล เอสเซียง ส่วนผู้เล่นที่มีใบเหลืองติดตัวมีอาเย็น ร๊อบเบน, มิชาเอล บัลลัค, โจ โคล, ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ลาสซานา ดิอาร์ร่า (เชลซี) และ เจอร์เมน เพนเนนท์ (ลิเวอร์พูล)          ยอห์น อาเน่ ริเซ่ หากได้ลงเล่นจะเป็นนัดที่ 50 ในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยเค้าลงเล่นนัดแรกเมื่อ 12 กันยายน 2000 ในนัดที่โมนาโกบุกไปพ่ายกาลาตาซาราย 2-3 ที่มา: http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/europe/6582695.stm จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 UCL Update-ก่อนเกมเชลซี-ลิเวอร์พูล          เชลซีหวังที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกให้ได้เป็นครั้งแรก ในขณะที่คู่แข่งที่พวกเค้าต้องเจอในรอบรองชนะเลิศคือลิเวอร์พูลซึ่งเคยเขี่ยพวกเค้าตกรอบรองชนะเลิศเมื่อปี 2005 อย่างเจ็บปวด เกร็ดเล็กๆน้อยๆก่อนการเจอกันระหว่างเชลซี-ลิเวอร์พูล -ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เคยเขี่ยเชลซีตกรอบรองชนะเลิศรายการนี้เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน -นี่เป็นครั้งที่ 3 ใน 4 ฤดูกาลหลังสุดที่เชลซีผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ -ในฤดูกาล 2004/05 ในรอบรองชนะเลิศเกมแรกที่เจอกันที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ผลจบลงด้วยการเสมอ 0-0 ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะชนะที่แอนฟิลด์ 1-0 จากประตูของหลุยส์ การ์เซียและผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับเอซี มิลานที่อิสตันบูล -เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนในรอบรองชนะเลิศนัดแรกเมื่อ 27 เมษายน 2005 นักเตะที่ได้ลงเล่นประกอบด้วย เชลซี: เช็ก, จอห์นสัน, คาร์วัลโญ่, เทอร์รี่, กัลลาส, มาเกเลเล่, ติอาโก (ร็อบเบน 59’), แลมพาร์ด, จ.โคล (เคซมัน 78’), กุดยอห์นเซ่น, ดร็อกบา ลิเวอร์พูล: ดูเด็ค, ฟินเนน, คาร์ราเกอร์, ฮูเปีย, ตราโอเร่, หลุยส์ การ์เซีย (ซมิเซอร์ 90’), บิสคาน (คีลล์ 87’), เจอร์ราร์ด, อลอนโซ่, ริเซ่, บารอส (ซิสเซ่ 66’) -เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนในรอบรองชนะเลิศนัดที่สองเมื่อ 3 พฤษภาคม 2005 นักเตะที่ได้ลงเล่นประกอบด้วย ลิเวอร์พูล: ดูเด็ค, ฟินเนน, คาร์ราเกอร์, ฮูเปีย, ตาโอเร่, หลุยส์ การ์เซีย (นูเยซ 84’), ฮามันน์ (คีลล์ 73’), บิสคาน, เจอร์ราร์ด, ริเซ่, บารอส (ซิสเซ่ 66’) เชลซี: เช็ก, เจเรมี่ (ฮูธ 76’), คาร์วัลโญ่, เทอร์รี่, กัลลาส, มาเกเลเล่, ติอาโก (เคซมัน 68’), แลมพาร์ด, จ.โคล (ร็อบเบน 68’), กุดยอห์นเซ่น, ดร็อกบา -ในฤดูกาล 2005/06 สองทีมจากพรีเมียร์ชิพก็ต้องโคจรมาพบกันอีกในรอบแบ่งกลุ่ม โดย 2 เกมที่พบกันเสมอ 0-0 ทั้ง 2 เกม ก่อนที่ทั้งคู่จะจูงมือเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาท์โดยลิเวอร์พูลเป็นที่ 1 ของกลุ่ม ส่วนเชลซีเป็นที่ 2 ของกลุ่ม -ในการพบกันในศึกสโมสรยุโรป 4 ครั้ง เชลซีไม่เคยชนะลิเวอร์พูลได้เลย แถมไม่สามารถทำประตูลิเวอร์พูลได้ด้วย -ในการพบกันในรายการบอลถ้วย 6 ครั้ง เชลซีไม่เคยชนะลิเวอร์พูลได้เลย เสมอ 4 และแพ้ 2 -แต่ในเกมลีก 6 ครั้งหลังสุด เชลซีชนะลิเวอร์พูลได้ถึง 5 ครั้ง โดยชนะในบ้าน 3 ครั้งรวดแถมไม่เสียประตูให้ลิเวอร์พูลเลย -เชลซีไม่เคยชนะลิเวอร์พูลในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยในเวลา 90 นาทีเลย มีเพียงถ้วยลีก คัพรายการเดียวที่เชลซีชนะลิเวอร์พูลในปี 2005 ได้ แต่นั้นเป็นการชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ (3-2) -เมื่อฤดูกาลก่อนลิเวอร์พูลชนะเชลซีในรายการเอฟเอ คัพ 2-1 ที่โอล์ด แทรฟฟอร์ด โดยได้ประตูจากหลุยส์ การ์เซียและริเซ่ ส่วนเชลซีได้ประตูจากดร็อกบา -ในรายการคอมมูนิตี้ ชิลลด์ที่เล่นที่สนามมิลเลเนียม สเตเดียมเมื่อต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลเอาชนะเชลซีได้ 2-1 -ในการพบกันทั้งหมด 145 ครั้ง ลิเวอร์พูลชนะ 66 ครั้ง, เชลซีชนะ 50 ครั้งและเสมอกัน 29 ครั้ง -เชลซีหวังที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชองชนะเลิศที่กรุงเอเธนส์ โดยในรอบแบ่งกลุ่มพวกเค้าชนะ 3 นัดรวดและไม่เสียประตูให้คู่แข่งเลย -ในรอบน็อกเอาท์พวกเค้าบุกไปยันเสมอกับเอฟซี ปอร์โต้ 1-1 ก่อนที่จะเปิดบ้านชนะ 2-1 -ในรอบ 8 ทีมพวกเค้าเสมอบาเลนเซียในบ้าน 1-1 ก่อนบุกไปชนะที่บ้านบาเลนเซีย 2-1 โดยได้ประตูจากเชฟเชนโกและเอสเซียง -ในเกมที่เสมอบาเลนเซีย 1-1 ดร็อกบาเป็นคนทำประตูได้ และทำให้เค้าเป็นคนทำประตูมากที่สุดในทีมสำหรับรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก คือ 6 ประตู -เชลซีไม่แพ้ใครในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกยามเล่นในบ้าน 15 นัดแล้วภายใต้การคุมทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ โดยเกมล่าสุดที่แพ้ภายใต้การคุมทีมของโจเซ่ มูรินโญ่คือฤดูกาลที่แล้วในรอบน๊อกเอาท์ พวกเค้าแพ้ต่อบาร์เซโลน่า -ถ้าโจเซ่ มูรินโญ่พาทีมเชลซีเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้จะเป็นกุนซือคนที่ 3 ที่เป็นแชมป์กับ 2 สโมสร (พาเอฟซี ปอร์โต้เป็นแชมป์ในปี 2004) โดยก่อนหน้านี้มีเพียง Ernst Happel (เฟเยนูดส์ 1970, ฮัมบรูกส์ 1983) และ Ottmar Hitzfeld (โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 1997, บาเยิร์น มิวนิค 2001) -ในฤดูกาลนี้ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 5 สมัย แพ้เพียงนัดเดียวในการออกไปเยือน คือแพ้กาลาตาซาราย 2-3 (ซึ่งไม่มีความหมายแล้ว) เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2006 -เมื่อ 4 ฤดูกาลก่อนเชลซีเจอทีมจากเกาะอังกฤษในรอบรองชนะเลิศคือ อาร์เซน่อล โดยพวกเค้าเสมอ 1-1 ในบ้าน ก่อนออกไปชนะ 2-1 ที่ไฮบิวรี (ซึ่งในฤดูกาลนั้นบอลภายในประเทศเชลซีไม่เคยชนะอาร์เซน่อลได้ซักรายการ!) -แต่เชลซีก็ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศได้เมื่อบุกไปพ่ายโมนาโก 1-3 ก่อนกลับมาเล่นในบ้านทำได้เพียงเสมอ 2-2 -ในปี 1970/71 ในรายการคัพ วินเนอร์ส คัพ เชลซีพบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศ โดยพวกเค้าชนะ 1-0 ทั้ง 2 นัดที่เจอกัน ก่อนที่จะทะลุไปชิงกับรีล มาดริด (เชลซีชนะ 3-2 จากการแข่งขัน 2 นัด) -ในปี 1972/73 ในรายการยูฟ่า คัพ ลิเวอร์พูลพบทอตแนม ฮอทสเปอร์ส ในรอบรองชนะเลิศ พวกเค้าชนะ 1-0 ในแอนฟิลด์ ก่อนที่จะแพ้ที่ไวท์ ฮาร์ทเลน 1-2 (สตีฟ ไฮเวย์เป็นคนทำประตู) แต่ก็เข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยกฏอเวย์ โกล์ -ในปี 1978/79 ในรายการยูโรเปียน คัพ ลิเวอร์พูลพบน๊อตติงแฮม ฟอเรสต์ โดยนัดแรกลูกทีมของไบรอัน คลัฟ ชนะ 2-0 ก่อนที่จะบุกมายันเสมอ 0-0 ที่แอนฟิลด์ -เชลซีเป็นแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปทั้งสิ้น 2 ครั้ง คือรายการ คัพ วินเนอร์ส คัพทั้ง 2 ครั้ง -ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ฟุตบอลสโมสรยุโรปทั้งสิ้น 8 ครั้ง แบ่งเป็น ยูโรเปี้ยน คัพ 4 ครั้ง, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 ครั้ง และยูฟ่า คัพ 3 ครั้ง ที่มา: http://www.uefa.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:53:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผลงานของทั้งสองทีมในรอบที่ผ่านมาในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เชลซี รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เบรเมน (ในบ้าน) 2-0 ชนะ เลฟสกี (นอกบ้าน) 3-1 ชนะ บาร์เซโลน่า (ในบ้าน) 1-0 เสมอ บาร์เซโลน่า (นอกบ้าน) 2-2 แพ้ เบรเมน (นอกบ้าน) 0-1 ชนะ เลฟสกี (ในบ้าน) 2-0 รอบน๊อกเอาท์ เสมอ เอฟซี ปอร์โต้ (นอกบ้าน) 1-1 ชนะ เอฟซี ปอร์โต้ (ในบ้าน) 2-1 รอบควอเตอร์-ไฟนัล เสมอ บาเลนเซีย (ในบ้าน) 1-1 ชนะ บาเลนเซีย (นอกบ้าน) 2-1 ยิงได้ 16 ประตู เสีย 8 ประตู ดาวซัลโวประจำทีม: ดิดิเยร์ ดร็อกบา 6 ประตู ----- ลิเวอร์พูล รอบแบ่งกลุ่ม เสมอ พีเอส (นอกบ้าน) 0-0 ชนะ กาลาตาซาราย (ในบ้าน) 3-2 ชนะ บอร์กโดซ์ (นอกบ้าน) 1-0 ชนะ บอร์กโดซ์ (ในบ้าน) 3-0 ชนะ พีเอส (ในบ้าน) 2-0 แพ้ กาลาตาซาราย (นอกบ้าน) 2-3 รอบน๊อกเอาท์ ชนะ บาร์เซโลน่า (นอกบ้าน) 2-1 แพ้ บาร์เซโลน่า (ในบ้าน) 0-1 รอบควอเตอร์-ไฟนัล ชนะ พีเอส (นอกบ้าน) 3-0 ชนะ พีเอส (ในบ้าน) 1-0 ยิงได้ 17 ประตู เสีย 7 ประตู ดาวซัลโวประจำทีม: ปีเตอร์ เคร้าช์ 6 ประตู ที่มา: http://www.uefa.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 UCL Update-ราฟา: ตอนนี้ผมคิดแต่เรื่องที่จะชนะเชลซี ที่มา : อ๊อฟฟิศเชี่ยล เว็บไซด์ 24 April 2007          ก่อนที่ราฟาจะพาทีมบินไปทำศึกแชมเปี้ยนส์ลีกที่ สแตมฟอร์ต บริดจ์ กับเชลซี ... ราฟาได้ออกมาเผยว่าเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะกลับมาคว้าแชมป์อันยิ่งใหญ่นี้ได้อีกครั้ง          ราฟาจะพาลูกทีมบินไปลอนดอนในเย็นวันนี้ ... เพื่อเตรียมตัวลงทำศึกกับเชลซีในคืนวันพุธนี้ ... และเขายังเผยว่า บรรยากาศในแคมป์ฝึกซ้อมนั้น นักเตะช่างมีความมั่นใจกันเหลือเกิน .....          โดยราฟาได้ออกมาเผยว่า ... " เอ่อ ... ตอนนี้ผมคิดถึงแต่เรื่องชัยชนะนะ ถ้ามันจะเป็นไปได้ ... บางครั้งคุณอาจจะต้องเล่นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ ... แต่บางครั้งคุณก็อาจจะต้องดันขึ้นสูง ... มันก็คงจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์น่ะนะ ... แต่มันจะเป็นเรื่องดีใช่น้อยหากว่านัดนี้เราจะออกไปยิงประตูนอกบ้านได้ และกลับออกมาด้วยชัยชนะ " .....          " มันแน่นอนซะเหลือเกินว่า ... เรารู้ใส้รู้พุงเขาดี ในขณะที่เขาก็รู้จักเราดีเช่นกัน ... ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ... ในรายละเอียดเพียงนิดเดียว มันอาจจะทำให้เกิดความแตกต่างในเกมส์ได้เลยนะ " .....          " สองปีที่ผ่านมา เชลซีคว้าแชมป์ได้มากมายในประเทศนี้ ... และเขาก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากซะด้วย ... โดยเฉพาะกับการเล่นในบ้าน ... ซึ่งผมคิดว่าทีมเขาในตอนนี้อาจจะดีกว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วซะอีกนะ ... แต่ทีมเราก็ได้ประสบการณ์มากขึ้นเช่นกัน ... และผมคิดว่าเราจะทำได้ " .....          " ตอนนี้ผมสามารถบอกคุณได้อยู่อย่างหนึ่งนะ ว่านักเตะของเราต่างกระหายในความสำเร็จ เฉกเช่นเดียวกับเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา " ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 UCL Update-ราฟาเชิดใส่ไม่เล่นเกมไซโคตามน้ามู          ราฟาเอล เบนิเตซ ยอดกุนซือสมองกลทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ปฏิเสธที่จะเล่นเกมจิตวิทยาตามโจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมอหังการคู่รักคู่แค้น ก่อนที่จะบุกไปเยือนเชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์          จากการที่สองทีมคู่ปรับ ซึ่งรวมถึงกุนซือที่เป็นคู่แข่งบารมีกันมาตลอดอย่างราฟา และมูรินโญ่ ต้องกลับมาพบกันอีกครั้งในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิส ทำให้มีการเล่นเกมไซโคกันพอหอมปากหอมคอ          โดยทางมูรินโญ่ ได้แขวะเล็กๆใส่ราฟา ว่าเหลือโอกาสลุ้นแชมป์เพียงรายการเดียวเท่านั้นคือในแชมเปี้ยนส์ ลีก ต่างจากเชลซี ที่ยังมีลุ้นคว้าครบ 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้อยู่          แต่กุนซือสมองกลชาวสเปน ก็ได้เหน็บกลับเบาๆเหมือนกัน "ผมคิดว่าเป้าหมายแรกของพวกเขาคือแชมเปี้ยนส์ ลีก"          "พวกเขาพูดได้ถึงแชมป์มากมายในอตนี้ และพวกเขาก็มีทีมที่ใหญ่พอที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆในช่วงนี้ของฤดูกาล"          "เป้าหมายแรกของพวกเขาก็คือรายการแชมเปี้ยนส์ ลีก"          "ทั้งสองทีมรู้เขารู้เรากันเป็นอย่างดี และรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในเกมก็จะเป็นจุดตัดสินที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างทั้งสองทีม"          "เรามีทีมที่ดีกว่าเมื่อ 2 ปีก่อน แต่บางทีพวกเขาก็อาจจะมีทีมที่ดีกว่าเดิมด้วยเหมือนกัน"          "เรามีประสบการณ์มากขึ้นในตอนนี้ และเรารู้สึกว่าเราทำได้แน่"          "เราจะลงเล่นเกมด้วยการเตรียมพร้อมเหมือนในการไปเยือนบาร์เซโลน่า"          "เราจะพยายามชนะและยิงให้ได้ 1-2 ประตู ซึ่งมันค่อนข้างยากเพราะเชลซี ไม่ค่อยเสียประตูเท่าไหร่" ที่มา: http://www.soccersuck.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 UCL Update-เบนิเตซกำชับลูกทีมลืมเหตุการณ์ปี 2005          ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล กำชับลูกทีมให้ลืมเหตุการณ์ในปี 2005 และมุ่งมั่นยิงประตู เชลซี ให้ได้ถึงถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ในวันพุธที่ 25 เมษายนนี้          แน่นอนเหตุการณ์รอบตัดเชือกเมื่อปี 2005 ถูก โฮเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เชลซี ขุดคุ้ยขึ้นมาพูดอีกครั้งว่าลูกยิงของ หลุยส์ การ์เซีย ที่ส่งให้ ลิเวอร์พูล เข้าชิงจนคว้าแชมป์นั้นไม่เป็นประตูอย่างแน่นอน เพราะภาพทางโทรทัศน์ไม่สามารถจับได้อย่างชัดเจน          เดือดร้อนถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลาง "หงส์แดง" ต้องออกมาสะกิด "เฮียมู" ให้เลิกบ่นไร้สาระได้แล้ว ซึ่งล่าสุด ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ก็แนะให้ลูกทีมลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนให้หมดสิ้นและมุ่งมั่นกับปัจจุบัน          "คือเรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่ถ้าหาก เชลซี ต้องการโต้เถียงเกี่ยวกับประตู เราก็จะเถียงว่าจังหวะนั้นควรเป็นใบแดงและจุดโทษ แต่เวลานี้สิ่งที่ดีที่สุดคือมองไปข้างหน้า ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของทั้งสองทีมจะมีขึ้นหลังจากสองเกมนี้ และคือสิ่งสำคัญที่สุดมากกว่าอะไรที่ผ่านมาแล้ว" เบนิเตซ เผย          นอกจากนี้ เบนิเตซ ยืนยันจะไปเปิดเกมบุกแหลกกับ เชลซี เพราะต้องการจะยิงประตูอะเวย์โกล์ให้ได้ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์          "ผมไม่คิดว่าจะมีการยิงประตูมากมาย เชลซี มีเกมรับที่ดีและเสียประตูแค่ไม่กี่ลูก แต่เราก็ต้องพยายามยิงประตูให้ได้ก่อน เราเคยยิงได้ที่ บาร์เซโลน่า และก็ตั้งใจจะยิงที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อจะคว้าชัยให้ได้" นายใหญ่สเปนเผยในที่สุด ที่มา: http://www.manager.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:55:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 UCL Update-คาร์ราเกอร์เตรียมทำสถิติเทียบเท่าคาราเกนกับนัดที่ 89 ในบอลยุโรป แหล่งข่าว ฟ๊อกซ์สปอร์ต มารฟ้าฯแปล          Jamie Carragher จะทำสถิติเทียบเท่ากับ Ian Callaghan ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสรก็ว่าได้ กับการลงสนามในเวทียุโรปถึง 89 นัด ในเกมวันพรุ่งนี้ที่หงส์จะต้องบุกไปเยือนสิงโตพันล้าน ในศึก Champions League รอบรองชนะเลิศเลคแรก          Rafael Benitez นั้นดูเหมือนจะสบายใจยิ่งขึ้น กับเลคแรกที่ Stamford Bridge ด้วยเหตุที่ว่าแบ็คขวาตัวหลักอย่าง Steve Finnan ได้หายจากอาการคอเคร็ด (ตกหมอน) ทำให้อดลงสนามติดต่อกันถึง 2 นัด          Benitez ได้ออกมายืนยันว่า เขาจะไม่ดร๊อปนายทวารมือสองอย่าง Jerzy Dudek เด็ดขาด แม้ว่าเจ้าตัวได้ออกมาโวยว่าอยากจะย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ เพราะสัญญาของเขาก็หมดลงพอดี กุนซือชาวสเปนรายนี้กล่าวว่า: "เราได้พูดคุยถึงเรื่องอนาคตของเขา และบางทีเขาอาจจะย้ายออกไป แต่ ตอนนี้สภาพจิตใจเขาพร้อมมากๆ และผมก็ยังยืนยันว่าเขาจะต้องมีชื่อเป็นมือสองในเกมกับ Chelsea วันพรุ่งนี้แน่นอน" ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 9 UCL Update-อลอนโซ่โวล้างอาถรรพ์บุกขยี้เชลซี          ชาบี อลอนโซ่ ห้องเครื่อง ลิเวอร์พูล ทำปากดีก่อนเกมที่จะไปเยือน เชลซี ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก กลางสัปดาห์ คุยลั่นบรรยากาศใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่เคยสร้างความสะพรึงกลัวหรือขาสั่นสำหรับคู่แข่ง พร้อมมั่นใจจะล้างอาถรรพ์บุกไปชนะที่นั่นเป็นหนแรก ภายใต้ยุคการทำทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ในครั้งนี้          ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ออกมาเปิดอกให้สัมภาษณ์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ไม่เคยรู้สึกเกรงกลัวในการบุกไปเยือนสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ เชลซี ทีมคู่แข่งร่วมลีก ถึงแม้ผลงานที่ผ่านมา ไม่เคยบุกไปชนะที่นั่น ภายใต้ยุคการคุมทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการคนเก่ง ก็ตาม          เบนิเตซ ถือเป็นโค้ชจอมแสบสำหรับกองเชียร์ เชลซี หลังเคยฝากรอยแค้นด้วยการเขี่ยพวกเขาตกรอบตัดเชือกทั้งถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และล่าสุดยังเป็นทีมสุดท้ายที่เอาชนะ เชลซี ในเกมลีก ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อเดือนมกราคม ซึ่ง อลอนโซ่ หวังว่าจะทำได้เช่นนั้นอีก ในเกมที่จะไปเยือนสนามอาถรรพ์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ในวันพุธที่ 25 เมษายนนี้          ดาวเตะเลือดกระทิงดุ กล่าวว่า "ไม่มีอะไรที่เราต้องหวาดกลัวกับบรรยากาศที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ผมไม่เคยรู้สึกหวั่นใจแม้แต่น้อย แต่ยังไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเราไม่เคยมีผลงานที่ดีในการเล่นที่นั่นในอดีตที่ผ่านมา หวังว่าผลลัพธ์ครั้งนี้จะแตกต่างออกไป"          "เราจะไม่เล่นตั้งรับที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพราะเราต้องการประตูในฐานะทีมเยือน ซึ่งหากทำได้สำเร็จ งานของเราก็จะง่ายขึ้นสำหรับในนัดที่สอง บางทีการยิงได้ 1 หรือ 2 ประตูที่นั่นจะช่วยยกสปิริตในทีมให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มความมั่นใจ ส่วนตัวแล้วผมเชื่อมั่นในฝีเท้าเพื่อนร่วมทีมทุกคน และรู้ดีว่าเราสามารถเอาชนะพวกเขาได้เหมือนที่เพิ่งปราบมาในเกม พรีเมียร์ชิพ" อลอนโซ่ ทิ้งท้าย ที่มา: http://www.siamsport.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:56:39 ]

ความคิดเห็นที่ 10 UCL Update-อลอนโซ่โวลั่นหงส์แดงไม่กลัวเชลซี          ชาบี อลอนโซ่ มิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล เชื่อต้นสังกัดจะลงเล่นกับ เชลซี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ โดยปราศจากความกลัว ชี้บรรยากาศที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ส่ง ผลแต่อย่างใด และมั่นใจเต็มที่ว่าจะเอาชนะได้แน่นอน หลังคว่ำ "สิงห์บลูส์" มาตลอดในช่วงหลังที่พบกัน          ชาบี อลอนโซ่ กองกลาง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ชิพ ออกมาเผยเมื่อวันอังคารที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ต้นสังกัดจะลงเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก กับ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันพุธนี้ โดยปราศจากความหวาดกลัว          การแข่งขันนัดนี้จะเหมือนการรีแมตช์รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2005 ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ได้สำเร็จ ก่อนก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ที่อิสตันบูล และ อลอนโซ่ ก็มั่นใจ ว่าต้นสังกัดจะคว้าผลการแข่งขันที่ดีกลับมา ก่อนเอาชนะที่สนามแอนฟิลด์ในสัปดาห์หน้า          "บอกตามตรงเลยว่าบรรยากาศที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ไม่ส่งผลอะไรกับเราเลย ผมไม่รู้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้ผลการแข่งขันที่ดีที่นั่นในช่วงที่ผ่านมา ผมเชื่อมั่นในทีมและเพื่อนร่วมทีม ผมมั่นใจว่าเราสามารถเอาชนะพวกเขาได้เหมือนในเกมพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ เราจะชนะถ้าเราเหนือกว่า เชลซี ในเรื่องของแท็กติก, เทคนิค และสภาพร่างกาย มันคือเคล็ดลับในการคว้าแชมป์ รายการนี้ เราแสดงให้เห็นแล้วว่าเราสามารถชนะพวกเขาในรอบรองชนะเลิศ และการพบกับพวกเขาก็ทำให้เรามีความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ" ดาวเตะทีมชาติสเปน กล่าว          อลอนโซ่ เชื่อว่า ลิเวอร์พูล มีเคล็ดลับในการประสบความสำเร็จภายใต้การนำทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ หลังจากที่ผู้จัดการทีมชาวสแปนิชเอาชนะลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ตลอด 2 นัดหลังสุดที่เจอกันในรอบรองชนะเลิศ          "เชลซี แพ้เรามาตลอด โดยเฉพาะภายใต้การคุมทีมของ ราฟา เบนิเตซ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการเล่นกับพวกเขานับตั้งแต่ที่เข้ามาคุมทีม เบนิเตซ ไม่เคยปล่อยให้พวกเขา เล่นได้อย่างสบายในการเจอกับเรา ผมไม่เชื่อว่ามันคือความกลัว แต่แน่นอนว่ามันติดอยู่ในใจ เชลซี เมื่อพวกเขาต้องเล่นกับเรา เราเอาชนะ เชลซี ในรอบรองชนะเลิศ 2 นัด ทั้งในแชมเปี้ยนส์ ลี กและเอฟเอ คัพ เมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้เราก็มีสิทธิ์ทำได้อีกเป็นครั้งที่ 3"          "รายการนี้จะสู้กันด้วยแผนการ ทีมที่ได้ครองบอลมากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะและผมก็มั่นใจว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล เราลงเล่นด้วยความมั่นใจและเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ และเราก็กำลังเล่น ฟุตบอลได้ดีที่สุดในฤดูกาล ตั้งแต่ผมย้ายมา ลิเวอร์พูล เกมกับ เชลซี มีความพิเศษเสมอทั้งในด้านความมุ่งมั่นและการต่อสู้ การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดแต่ชัยชนะก็หอมหวาน" อดีตสตาร์ เรอัล โซเซียดาด กล่าว ที่มา: http://www.siamsport.co.th แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 08:58:26 จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 UCL Update-สตีวี่จีแนะมูหุบปากเรื่องประตูการ์เซีย          สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดกองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ชี้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เชลซี หยุดบ่นเรื่องประตูของ หลุยส์ การ์เซีย ในเกมรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อ 2 ปี ก่อนได้แล้ว บอกเป็นเรื่องไร้สาระที่สุด เพราะถ้าลูกนั้นไม่เป็นประตู "สิงห์บลูส์" จะต้องเสียจุดโทษแน่นอน แถม ปีเตอร์ เช็ก นายทวารของทีม จะต้องโดนไล่ออกด้วยเช่นกัน          สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดมิดฟิลด์กัปตันทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ชิพ ออกมาเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า เขาอยากให้ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หยุดพูดซ้ำซากถึงเรื่องประตูชัยของ หลุยส์ การ์เซีย ในรอบรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2005 ได้แล้ว หลังกุนซือชาวโปรตุกีสยังไม่ ยอมรับความจริงว่าลูกยิงของดาวเตะทีมชาติสเปนได้ข้ามเส้นเข้าประตูไปแล้ว          ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี 1-0 ด้วยประตูของ การ์เซีย ก่อนทะลุไปถึงตำแหน่งแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ มูรินโญ่ ก็ไม่ยอมรับว่าทีมของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เนื่องจาก ภาพช้าจากทางโทรทัศน์ไม่สามารถจับให้เห็นว่าลูกได้ข้ามเส้นประตูเข้าไปแล้วหรือยัง และในวันพุธที่ 25 เมษายนนี้ทั้ง 2 ทีมจะมาพบกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ และ เจอร์ราร์ด ก็อยากให้อดีตกุนซือ เอฟซี ปอร์โต้ เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว          "เชลซี คร่ำครวญเรื่องนี้ในตอนนั้น มูรินโญ่ ยังบ่นไม่เลิก ผมตลกเขาจริงๆ การพร่ำบ่นของ เชลซี ไร้สาระ ถ้ามันไม่เป็นประตู ปีเตอร์ เช็ก ก็ต้องโดนใบแดงจากการทำฟาวล์ มิลาน บารอส แล้ว เชลซี จะเลือกอะไร? มันต้องเป็นจุดโทษอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการไล่ออกหรือประตู ใครจะสนล่ะ? ผู้ตัดสินเป่าเป็นประตูไปแล้ว เรื่องจบลงตรงนั้น" เจอร์ราร์ด กล่าว ที่มา: http://www.siamsport.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 UCL Update-"เซนเด้น" ชี้หงส์ขี่เชลซี มั่นใจได้ดาวเพิ่มแน่          เบาเดอไวน์ เซนเด้น กองกลาง ลิเวอร์พูล ชี้เกมที่จะเจอกับ เชลซี ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันพุธที่ 25 เมษายนนี้ที่รัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะเป็นการสู้กันในเรื่องแท็กติกระหว่างสองกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ และ โฮเซ่ มูรินโญ่ แต่สุดท้ายมั่นใจว่า "หงส์แดง" จะผ่านได้แน่นอน          เซนเด้น ค่อนข้างมั่นใจว่า ลิเวอร์พูล จะผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากฟอร์มในถ้วยยุโรปที่ผ่านมาเป็น "หงส์แดง" ที่ข่ม เชลซี รวมถึงเมื่อ 2 ปีก่อนที่เอาชนะได้ในรอบรองชนะเลิศพร้อมก้าวไปคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลาย          เซนเด้น กล่าวว่า "จะเป็นการสู้กันในเรื่องแท็กติกมากกว่าความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ จะเป็นสองเกมที่ดุเดือดทั้งที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และ แอนฟิลด์ ซึ่งผมมั่นใจว่าเราดีกว่าในถ้วยยุโรป เพราะว่าแสดงให้เห็นถึงสไตล์การเล่นที่แน่นอน และผมก็เชื่อว่าเราจะได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ"          "ถือว่าเราได้เปรียบมากที่ได้เล่นเกมนัดสองที่บ้าน และนั่นจะช่วยให้เราเข้าชิงอีกครั้ง เรามีดาว 5 ดวงแล้วสำหรับรายการนี้ และผมคิดว่า ราฟาเอล เบนิเตซ คือสุดยอดกุนซือจอมแท็กติกของยุโรป ซึ่งเรามีโอกาสสูงมากที่จะได้ดาวเพิ่ม" ปีกชาวดัตช์เผย ที่มา: http://www.manager.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 13 UCL Update-เคร้าช์กระหายความสำเร็จในฟุตบอลยุโรป แหล่งข่าว วีทัลฟุตบอล มารฟ้าฯแปล          ดาวยิง Liverpool นาย Peter Crouch ยอมรับว่าเขารู้สึกกระสันอย่างแรงกล้าที่จะลิ้นลองรสชาติของความสำเร็จในเวที UEFA Champions League และหวังว่าจะสามารถยิงประตูที่ 7 ของตนเองในฟุตบอลรายการนี้ ในวันพรุ่งนี้ ณ ถิ่น Chelsea          'หลายๆคนในทีมต่างเคยได้ลิ้มลองรสชาติของการเป็นแชมป์ European Cup แล้ว และผมเองก็อยากจะมีโอกาสได้ลิ้มลองอะไรแบบนี้บ้าง จะดีใช่น้อย' Crouch ให้สัมภาษณ์กับทาง LFC magazine.          'มันเป็นบางสิ่งที่ผมพลาดไป และตอนนี้เรามีผู้เล่นหน้าใหม่ที่ก้าวเข้ามาในทีม ตอนนี้ผมจึงอยากจะมีประสบการณ์แจ่มๆแบบนี้บ้าง'          'ผมรู้สึกสนุกกับการแข่งขันรายการนี้มากๆ ผมยิงประตูได้พอควร และผมกำลังก้าวเข้าสู่ความหวังในรายการฟุตบอล Europe เพราะงั้นผมหวังว่ามันจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องอย่างนี้จนถึงรอบชิง'          'เกมสองนัดกับ Chelsea นั้นเป็นอะไรที่ยาก แต่เราก็ได้พิสูจน์กันมาแล้วว่าเราโค่นพวกเขาได้' เขากล่าว          'เราชนะพวกเขา 3 ครั้ง จาก 4 ครั้งหลังที่เราเจอกัน และเราเพิ่งโค่นพวกเขามาหมาดๆใน Anfield เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา          'แต่เราก็รู้ดีว่า เราจะต้องเล่นกันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากว่าต้องการจะเก็บชัยชนะเหนือพวกเขาได้ แต่หากว่าเราเล่นกันได้ดีๆแบบที่เราเล่นกันมาตลอดในบอลรายการนี้ เราเองก็สามารถโค่นได้ทุกทีมจริงๆ' ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 UCL Update-ทอม ฮิกส์: ผมมั่นใจ เราจะโค่นเชลซีได้ แหล่งข่าว ไทมออนไลน์ มารฟ้าฯแปล          ยังไม่ทันแข่งกัน ก็มีการประคารมและสงครามจิตวิทยาก่อเกิดขึ้นกับยอดกุนซือทั้งสองไม่ว่าจะ Rafa หรือ Mourinho ซึ่ง Liverpool จะต้องเจอกับ Chelsea อีกแล้วครับท่านในศึกชิงความยิ่งใหญ่แห่งยุทธจักรฟุตบอลยุโรปรอบรองชนะเลิศ งานนี้ทางหนึ่งในเจ้าของทีมชาว American วันนี้ก็ขอออกมาร่วมสงครามจิตวิทยาครั้งนี้ด้วย ก่อนที่เกมนัดนี้จะเริ่มขึ้นเลคแรกที่ Stamford Bridge วันพรุ่งนี้          หากเปรียบเทียบในเรื่องของการเงินแล้วทั้ง George Gillett Jr และ Tom Hicks ยังไม่สามารถเห็นฝุ่นได้เมื่อเปรียบเทียบกับทาง Roman Abramovich, แต่เจ้าของทีมรายใหม่ฉบับดูโอ้ได้ออกมายืนยันว่า พวกเขาจะพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า เงินของ อภิมหาเศรษฐีพันล้านชาว Russia จะไม่สามารถซื้อแชมป์ยุโรปให้กับ Chelsea ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะมีแนวทางการมองธุรกิจฟุตบอลในแบบอเมริกันก็ตาม แต่ นาย Hicks ได้กล่าวว่าพวกเขามุ่งมั่นเหลือเกินว่าจะได้เห็นทีมคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้อีกครั้ง หลังจากได้แชมป์มาเมื่อปี 2005, ซึ่งในปีนั้น Liverpool ก็โค่น Chelsea ได้ในรอบรองชนะเลิศเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะไปโค่น AC Milan ในรอบชิงชนะเลิศสุดยิ่งใหญ่ที่ Istanbul.           “ผมเป็นคนมองอะไรในแง่บวกครับ” Hicks กล่าว. “ผมได้มองไปถึงรอบชิงแล้วก่อนที่เราจะเตะกับ PSV Eindhoven นัดแรกที่เราโค่นพวกเขาไป 3-0 เสียอีก. มันจะเป็นแนวทางที่ยิ่งใหญ่แค่ไหนสำหรับที่จะเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่และอนาคตใหม่ของสโมสรด้วยการคว้าแชมป์รายการนี้อีกครั้ง ผมจะบอกให้นะครับ ในเครื่องบินส่วนตัวของผม ผมมี DVD และ videos ต่างๆของการคว้าแชมป์ FA Cup และ European Cup มากมาย และผมกำลังใช้เวลาติดตามดูสิ่งเหล่านี้ให้ทัน เพื่อจะได้อัพเดทกับทีมเรา ผมได้ดูเกมที่ Istanbul หลายครั้งมากๆ ลูกชายผม Alex ดูเป็นสิบๆรอบ และผมหวังว่าหากว่าเรามีโอกาสได้เข้าชิงอีกครั้ง เราจะไม่โดนนำไปก่อน 3-0 นะครับ เพราะหัวใจผมจะวายเอา เอิ๊กๆๆ.”           “เกมนัดนี้ผมไม่คิดว่าจะมีการยิงประตูกันมากหรอกครับ คิดว่าน่าจะมีการเสมอกัน 0-0 ตอนที่ไปเยือนพวกสิงโตพันล้าน แต่ผมก็คิดว่าอาจจะเป็นผลการแข่งขันที่ยังไม่ดีพอเท่าไหร่ มันคงจะดีกว่าถ้าเรายิงพวกเขาได้ในบ้าน เหมือนอย่างที่เรายิง Barcelona ได้ในบ้านของพวกเขา เพราะงั้นไอเดียของผมและของกุนซือชาวสเปนคือ เราจะต้องยิงประตูให้ได้ใน Stamford Bridge และหวังถึงชนะในเกมนั้นเลยด้วยซ้ำ” ที่มา: http://www.hongmarnz.com แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 09:00:10 จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 08:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 UCL Update-อลัน เคนเนดี้: เด็กพวกนี้ทำให้ผมนึกถึงปี 81 และ 85 แหล่งข่าว เดอะไทม มารฟ้าฯแปล          Alan Kennedy รู้ดีที่สุดถึงเรื่อง Liverpool ขึ้นครองความยิ่งใหญ่แห่ง Europe, โดยเฉพาะเขาคือคนอังกฤษคนเดียวที่ยิงประตูชัยได้ในศึก European Cup รอบชิงชนะเลิศถึงสองครั้ง และเขารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่นี้ก็ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่ Istanbul นาย Jerzy Dudek เริ่มต้นการกระทำการลีลาแบบเดียวกันกับการตัดสินที่ลูกจุดโทษ แบบเดียวกับที่ Bruce Grobbelaar เคยทำได้ว่าจนเป็นฮีโร่ที่กรุง Rome เมื่อ 21 ปีที่แล้ว ซึ่งปีนั้น แบ็คซ้ายนาย Alan Kennedy คนนี้ก็ได้เป็นคนยิงลูกจุดโทษลูกตัดสินจนทำให้ Liverpool คว้าแชมป์เป็นครั้งที่ 4 ในรายการนี้          แต่ตอนนี้ Liverpool ก็ต้องเจอกับ Chelsea อีกครั้งในศึก Champions League รอบรองชนะเลิศในรอบรองชนะเลิศในค่ำวันพรุ่งนี้ และ Kennedy รู้สึกเหมือนกับเป็นปรากฎการณ์ deja vu (ปรากฎการณ์ภาพซ้ำซ้อน) ดาวเตะรายนี้เป็นผู้ยิงประตูโทนในเกมที่ Liverpool โค่น Real Madrid ในปี 1981 ของศึก European Cup รอบชิงชนะเลิศที่กรุง Paris, อดีตปรากันหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้ ก็เป็นคนเดียวกับที่ยิงประตูชัยอีกครั้งกับการเจอ AS Roma ในรายการเดียวกันนี้.           “จริงๆแล้วผมไม่ได้ตั้งใจเลยนะนั่น" Kennedy กล่าวเกี่ยวกับการยิงจุดโทษตัดสินที่ทำให้หงส์ในชุดนั้นคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ “ผมยังจำได้เลย ตอนนั้น Joe Fagan [กุนซือของทีมชุดนั้น] เข้ามาถามผมว่า โอเคมั๊ย ก่อนเตะจุดโทษตัดสินกัน ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาถามว่าผมจะยิงมั๊ย นึกว่าถามผมว่า ผมโอเคมั๊ย เหนื่อยมั๊ยอะไรประมาณ แต่กลายเป็นว่าเขานึกว่าผมตอบตกลงยิงจุดโทษซะงั้น และผมก็เป็นคนยิงลูกสุดท้ายในเกมนั้น           “ปีนั้นเทพเจ้าทุกองค์อยู่ฝ่ายเราครับ รวมไปถึงลีลากวนประสาทของ Bruce ในการป้องกันประตู คือเรียกได้ว่าทุกๆอย่างก็ว่าได้. และอีก 21 ปี ให้หลัง ผมได้เห็น Jamie Carragher เดินไปคุยกับ Jerzy Dudek โดยให้เขาทำอะไรแบบเดียวกับที่ Bruce เคยทำ งานนั้นนายประตูชาวโปลที่มัวแต่ดูเด็ก รายนี้ก็ ออกลีลาแด๊นซ์ซะงั้น จนทำให้ผมยิ้ม ขำเกือบตกเก้าอี้ ทั้งๆที่เครียดอยู่นะนั่น และแล้วก็กลายเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีใครได้เห็นในรอบชิงชนะเลิศบอลยุโรปมาเลยทีเดียว.”          Kennedy ได้มีโอกาสดูเกมรอบชิงกับ AC Milan ที่กลายเป็นเกมประวัติศาสตร์ไปแล้ว ตอนที่ทำงานกับทางสื่อเมื่อสองปีที่แล้ว เขากล่าวว่า “ตอนที่ตามหลังอยู่ 3-0 เกมดูเหมือนว่าจะจบลงแล้วและหากว่าพวกเขาโดนไปอีกลูกละก็ คงจะโดนเละไปเป็น 4-5 หรืออาจจะเป็น 6 เม็ดเลยด้วย แต่ Steven Gerrard ยิงประตูได้เร็ว รวมไปถึงการเซฟสุดมหัศจรรย์ต่อลูกโขกและยิงซ้ำของ [Andriy] Shevchenko รวมไปถึงการตัดสินที่จุดโทษ มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ           “เกมนัดนั้นยิ่งใหญ่กว่า ปี ’81 และ ’84 ของพวกผมไปเลย ตอนที่ผมอยู่ในสนามตอนปีที่ผมเป็นแชมป์นั้น เกมมันแต่ไม่ตื่นเต้นถึงขนาดนี้ และเมื่อผมมีโอกาสยิงลูกตัดสินที่จุดโทษอันเป็นการตัดสินเกมนัดนั้น ผมยังจได้ดีว่าเพื่อนร่วมทีมของผมต่างกุมมือกันอยู่ตรงวงกลมกลางสนาม ซึ่งมันก็เป็นภาพเดียวกันกับที่เด็กๆพวกนี้ทำในปี 2005 เราสวดมนต์กันในใจ” ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 UCL Update-น้ามูไซโคหงส์เป็นต่อ-เตือนดร็อกบาระวังโดนยั่ว          โจเซ่ มูรินโญ่กุนซือไร้เพื่อนใช้จิตวิทยาเห็นๆหลังโยนความกดดันให้ลิเวอร์พูลเนื่องจากเชื่อว่าลูกทีมของราฟาเอล เบนิเตซอยู่ในสภาพที่เหนือกว่าแต่ก็เตือนให้ทุกคนจับตามองให้ดีว่าทีมเยือนจะตามเสียบดิดิเยร์ ดร็อกบาเพื่อยั่วให้โมโหจนติดแบนนัดสอง          "ถ้าคุณมาบีบให้ทีมผมเหนือกว่าผมคิดว่าลิเวอร์พูลน่าจะเหนือกว่านะ"          ในขณะเดียวกันมูรินโญ่ไซโคอีกยกว่านักเตะลิเวอร์พูลจะไล่บี้ดิดิเยร์ ดร็อกบาเพื่อให้ตอบโต้และจะโดนแบนในเกมหน้าเนื่องจากมีเหลืองติดตัวอยู่แล้วหนึ่งใบเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันถึง 5 คนทีเดียว          "เรามีนักเตะที่หลายคนที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่ มันไม่ได้ทำให้ผมแปลใจเลยถ้าพวกเขาจะไล่ล่าดร็อกบาตลอดทั้ง 90 นาทีว่าจะโดนเหลืองอีกใบหรือไม่"          บิ๊กบอสเพื่อนน้อยเกมนี้สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดจะได้เปรียบแฟร็งค์ แลมพาร์ดหลังสภาพร่างกายสดกว่าอย่างชัดเจน          "ลิเวอร์พูลพักนักเตะตั้งหลายคน สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดไม่ได้เล่นในเกมล่าสุด คุณคิดว่าสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและแฟร็งค์ แลมพาร์ดอยู่ในสภาพเหมือนกันที่จะห้ำหั่นกันงั้นเหรอ? ผมไม่คิดว่าจะเป็นการปะทะกันที่แฟร์ๆเท่าไหร่" ที่มา: http://www.soccersuck.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 UCL Update-มูมั่นใจสิงห์ไม่สะเทือนแม้ไร้เอสเซียง          โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เชลซี มั่นใจ การขาด "เดอะ เทรน" มิชาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์พันธุ์บู๊ ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธนี้ กับ ลิเวอร์พูล จะไม่ส่งผลกระทบต่อทีม เชื่อลูกทีมทุกคนมีความพร้อมมากพอทดแทนได้ และเมื่อนำมาบวกกับการได้เล่นในบ้านก็ต้องถือว่าได้เปรียบมากเพียงพอแล้ว          โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี เชื่อมั่นว่า พวกตนสามารถที่จะรับมือกับ ลิเวอร์พูล ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันพุธที่ 25 เม.ย.นี้ ได้แบบไม่มีปัญหา ถึงแม้ว่าจะไม่มี มิชาเอล เอสเซียง ดาวเตะสารพัดประโยชน์ทีมชาติกานา ที่ติดโทษแบน 1 นัด หมดสิทธิ์ลงสนามอย่างแน่นอนก็ตาม          เดิมที เอสเซียง เป็นที่รู้จักกันในฉายา "เดอะ ไบซัน" (ควายป่า) แต่ มูรินโญ่ เปลี่ยนให้ดูดีขึ้นเป็น "เดอะ เทรน" เสมือนรถไฟขบวนพิเศษ จากการที่สามารถเล่นได้ทุกแห่งบนสนาม โดยในรอบที่แล้ว อดีตดาวเตะ โอลิมปิก ลียง ก็เริ่มต้นในตำแหน่งมิดฟิลด์ ก่อนถูกโยกไปเล่นแบ็กขวา และทำประตูชัยให้ เชลซี เฉือนชนะ บาเลนเซีย 2-1 ในนัดที่ 2 พาทีมผ่านเข้ารอบมาแบบหวุดหวิดในนาทีสุดท้าย          อย่างไรก็ดี จากการที่ เอสเซียง ถูกจดชื่อในช่วงต้นเกมเดียวกันนั้น ส่งผลให้เจ้าตัวต้องติดโทษแบนในเกมนัดแรกของรอบตัดเชือก แต่อดีตเทรนเนอร์ เอฟซี ปอร์โต้ ก็ไม่ได้หนักใจแต่อย่างใด โดยเห็นว่าการที่ได้ลงเตะในบ้านที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ถือเป็นความได้เปรียบเพียงพอแล้ว          "เฮียเครียด" กล่าวว่า "เอสเซียง เป็นผู้เล่นที่พิเศษ เขาสามารถที่จะวิ่งได้ไม่มีหมด เขาสามารถลงเล่นได้ทุกวัน เขาเป็นสุดยอดนักกีฬา ตอนที่เราต้องเสียเขาไปเมื่อเดือนก่อน มันถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่เขาก็กลับมาพร้อมสำหรับเกมนัดสำคัญกับ บาเลนเซีย ผมรู้ว่าเขาจะถูกแบนในนัดหน้า แต่มันไม่สำคัญ เพราะเราจะได้เล่นในบ้าน แถมยังมีเกมนัดที่สอง ซึ่งเขาจะกลับมาได้รออยู่อีก"          พร้อมกันนั้น กุนซือชาวโปรตุกีส ยังยืนยันว่า ไม่ได้จ้องจะล้างแค้น ลิเวอร์พูล แต่อย่างใด หลังเคยถูก "หงส์แดง" เขี่ยตกรอบเดียวกันมานี้ ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อ 2 ปีก่อน "ผมไม่ได้สนใจเรื่องล้างแค้น มันไม่ใช่คำสำหรับผมทั้งในฟุตบอลหรือชีวิต เรารู้ว่าเราเป็นรอง เพราะ ลิเวอร์พูล สามารถทุ่มสมาธิไปที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างเต็มที่ ขณะที่เรายังต้องลงเล่นทุกรายการ"          "นอกจากนี้ เรายังมีผู้เล่นติดโทษแบน และใบเหลืองติดตัวอีกเพียบ แต่ ลิเวอร์พูล อยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดโปร่งกว่ามาก ดังนั้น ผมจึงคิดว่าพวกเขาจะเริ่มต้นในจุดที่เหนือกว่าเรา แต่ในส่วนของจิตใจ และบุคลิกลักษณะที่ผู้เล่นของผมแสดงออกมาให้เห็น ผมเชื่อว่าเราพร้อมที่จะสู้กับพวกเขา" มูรินโญ่ กล่าวในที่สุด ที่มา: http://www.siamsport.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 18 UCL Update-คาร์วัลโญ่ซ้อมได้แต่บัลลัค-เอสเซียงชวดเจอหงส์          ทีม "สิงโตพันล้าน" เชลซี เจอข่าวดีเล็กๆผสมข่าวร้ายใหญ่ๆ เมื่อริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ปราการหลังชาวโปรตุเกสที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนสามารถกลับมาร่วมซ้อมกับทีมได้แล้ว แต่ในรายของมิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์เยอรมันหมดสิทธิ์ และมิชาแอล เอสเซียง ลงสนามรับมือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล          โดยในวันพุธนี้เชลซี จะต้องเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อเล่นเกมรีเทิร์นแมตช์ ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เคยมีความหลังกันมาเมื่อลิเวอร์พูล เฉือนเอาชนะได้ด้วยประตูน่ากังขาของหลุยส์ การ์เซีย ก่อนจะคว้าแชมป์ในบั้นปลาย          สำหรับความพร้อมของเชลซี ที่เพิ่งพลาดเสมอกับนิวคาสเซิลมาเมื่อวันเสาร์ ทางด้านโจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมอหังการ ได้รับข่าวดีเมื่อคาร์วัลโย่ ที่พลาดเกมล่าสุดและเคยถูกคาดหมายว่าจะลงสนามไม่ได้ ขณะนี้กลับมาลงซ้อมได้แล้วและจะรอเช็คสภาพความฟิตในนาทีสุดท้ายอีกครั้ง          อย่างไรก็ดีสำหรับรายของบัลลัค ที่เดี้ยงตั้งแต่ต้นเกมที่บุกไปเยือนนิวคาสเซิล ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค โดยมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า หมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอน และจะเป็นจอห์น โอบิ มิเกล ที่ลงสนามทำหน้าที่แทน          อีกรายที่มูรินโญ่ หมดสิทธิ์ใช้งานแน่นอนคือมิชาแอล เอสเซียง มิดฟิลด์ชาวกานา ที่เป็นฮีโร่ทำประตูสำคัญในช่วงท้ายเกมในรอบที่แล้วให้เชลซี ผ่านด่านหินอย่างบาเลนเซียมาได้ เกมนี้ติดโทษแบนลงเล่นไม่ได้แน่นอน          ในขณะที่ทางด้านทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลนั้น สภาพทีมมีความพร้อมสุดๆ โดยราฟาเอล เบนิเตซ ยอดกุนซือสมองกล แทบไม่มีปัญหาให้หนักใจเลย          โดยผู้เล่นชุดใหญ่ที่นำโดยสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม พร้อมลงสนามทุกคน แม้จะมีกรณีปัญหาของเจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค นายทวารมือสองชาวโปแลนด์ ที่ออกมาโจมตีราฟา ในเรื่องการปฏิบัติต่อลูกทีม แต่กุนซือชาวสเปน ก็ได้ออกมาสยบกระแสร้อนแล้ว          นอกจากนี้ทางด้านเจมี่ คาร์ราเกอร์ หากได้ลงสนามก็กำลังจะทำสถิติเทียบเท่ากับทางด้านเอียน คัลลาแกน ตำนานยุคเรืองรองของสโมสรที่ลงสนามในเกมยุโรปมากถึง 89 นัด ขณะที่ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ แบ็กตีนผีก็กำลังจะลงเล่นนัดที่ 50 ในเกมสโมสรยุโรปให้กับลิเวอร์พูล เช่นกัน ที่มา: http://www.soccersuck.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 UCL Update-ดร็อกบาแค้นฝุ่งหุ่นหวังอัดหงส์ล้างอาย แหล่งข่าว เดอะมีร์เรอร์ มารฟ้าฯแปล          DIDIER DROGBA ได้ออกมาประกาศว่า Chelsea นั้นจะไม่มีความกังวลหรือลังเลใดๆ อันเกิดผลมากจาการพ่ายแพ้ต่อหงส์ ในรอบรองชนะเลิศศึก Champions League เมื่อสองปีที่แล้วแต่อย่างใด โดยย้ำว่า เพราะพวกเขาต่างกำลังวุ่นวายอย่างหนักในการเตรียมล้างแค้นหงส์จนไม่มีเวลาไปคิดอะไรอย่างอื่นแล้ว          ทีมสิงโตพันล้านทีมนี้ต้องตกรอบบอลถ้วยใบเขื่องของ Europe จากประตูโทนของ Luis Garcia จนนำพาให้ Liverpool คว้าถ้วยที่ Istanbul ได้ในที่สุด แต่ Drogba กำลังมองไปที่เกมใหญ่ที่จะเตะกันในวันพรุ่งนี้แต่ถ่ายเดียว          เขากล่าวว่า: "เราไม่คิดอะไรกันมากครับเกี่ยวกับนัดนั้น เราเสียประตูที่ไม่สมควรจะนับเป็นประตู เพราะงั้นเราบอกได้เต็มปากว่าเราไม่ได้แพ้ เพราะลูกนั้นมันไม่เข้า ตอนนี้เรามองไปที่การล้างแค้นหงส์แต่ถ่ายเดียวครับ เพื่อที่จะทะยานเข้าชิงไปคว้าแชมป์รายนี้ให้สำเร็จเป็นครั้งแรกของสโมสร          "มาถึงตรงนี้แล้วการที่เราได้เล่นในบ้านก่อนไม่มีผลใดๆครับ เพราะยังไงก็ตาม ทีมที่ดีกว่าก็จะชนะแล้วเข้าชิงไปในที่สุด" ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:02:44 ]

ความคิดเห็นที่ 20 UCL Update-เชว่าหวังล้างอาถรรพ์ฝันร้ายแห่งอิสตันบูล. แหล่งข่าว เดอะมีร์เรอร์ มารฟ้าฯแปล          ANDRIY SHEVCHENKO เคยเจอกับฝันร้ายกับปาฎิหาริย์แห่ง Istanbul เมื่อสองปีที่แล้ว โดยโดน Jerzy Dudek เซฟจุดโทษของเขาได้ ทำให้ Liverpool กลับมาเก็บชัยชนะในนัดชิงประวัติศาสตร์ครั้งนั้นได้ ทั้งๆที่โดนนำห่างไปก่อนถึง 3-0 ศึก European Cup รอบชิงกับ AC Milan ครั้งนั้น          จนถึงเดี๋ยวนี้ Sheva ยังคงส่ายหัวทุกๆครั้งที่นึกถึง การเซฟสุดมหัศจรรย์ของ Dudek ในระยะแค่ไม่ถึง 5 หลา แถมเซฟได้ถึงสองครั้งซ้อนในเวลาชั่วพริบตา ทำให้เขาไม่สามารถยิงประตูชัยให้กับทีมได้ในนัดนั้นอย่างเหลือเชื่อสุดๆ          "โอ้ยมันเจ็บจี๊ดๆทุกๆครั้งที่ผมนึกถึงเรื่องนั้น แต่ตอนนี้ผมกำลังจะเล่นกับ Liverpool อีกครั้งโดยปราศจากความคิดถึงเรื่องอาถรรพ์ในรอบชิงอะไรนั่น" เขากล่าว "ก็อย่างว่าทำไมต้องพูดถึงเรื่องเก่ากันด้วยหล่ะ?          "สิ่งที่เกิดขึ้นรอบชิงปี 2005 มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว ผมไม่สามารถจะกลับไปยิงประตูแก้ตัวในครั้งนั้นได้ ทั้งในเกมและตอนยิงจุดโทษ ผมไม่สามารถกลับไปหยุด Dudek ไม่ให้เซฟแบบนั้นได้แล้ว มันจะเป็นเกมที่ยากแน่ๆสำหรับคืนพรุ่งนี้ เพราะ Liverpool แกร่งมากๆโดยเฉพาะในศึก Champions League." ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 21 UCL Update-ปีเตอร์เช็ก: หงส์น่ากลัว เพราะเหลือแค่แชมเปี้ยนลีคให้ลุ้น แหล่งข่าว สกายสปอร์ต มารฟ้าฯแปล          Petr Cech ได้ออกมายืนยันว่า Chelsea ไม่มีความคิดที่จ้องจะล้างแค้นที่พวกเขาตกรอบศึก UEFA hampions League รอบรองชนะเลิศไปเมื่อสองปีที่แล้ว ด้วยน้ำมือ Liverpool แม้แต่น้อย          ทั้งสองยอดทีมได้โคจรมาเจอกันอีกครั้งในรอบเดียวกันของทัวร์นาเม้นท์นี้ เมื่อสองปีที่แล้ว ซึ่งจบลงด้วยประตูชัยที่เป็นที่วิภาควิจารณ์กันอย่างมาก ของ Luis Garcia จนทำให้หงส์เข้าชิงไปแบบเฉียดฉิว          หลังจากนั้น Liverpool ก็คว้าถ้วยแชมป์ยุโรปมาได้ งานนี้ Cech ยืนยันว่าพวเขามองแต่โอกาสเข้าชิงเพื่อคว้าถ้วย มากกว่าการมุ่งหวังแต่เพียงจะล้างแค้น.          "การเจอกับ Liverpool นั้นนี้ไม่ใช่การ replay นัดเมื่อสองปีที่แล้ว เราไม่ได้มองไปที่จุดนั้น เป้าหมาของเรามิใช่การล้างแค้น หากแต่ต้องการจะเข้าชิงให้จงได้" Cech กล่าว          นายทวารทีมชาติ Czech ได้ออกมากึ่งชมกึ่งแขวะว่า          "พวกเขาตกรอบสนิทไปแล้วทั้งในศึก Carling Cup, FA Cup และพวกเขาก็หมดลุ้นสำหรับแชมป์ Premiership ตั้งแต่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำแล้ว เพราะงั้นถ้วย Champions League จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาที่จะได้อะไรติดไม้ติดมือในฤดูกาลนี้ ทีมหลังชนฝาแบบนี้แหล่ะน่าจะอันตราย"          Cech ไม่เชื่อว่าการที่ต้องเตะนัดแรกที่ Stamford Bridge เป็นอะไรที่เสียเปรียบ เพราะการตัดสินนัดที่สองในรังหงส์นั้นเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก          "ผมรู้ดีถึงบรรยากาศของ Liverpool ในรังของพวกเขา แต่พวกเขาก็ต้องเข่าอ่อนเช่นกันเมื่อต้องมาเล่นที่ Stamford Bridge. เพราะงั้นผมเลยไม่รู้สึกวิตกใดๆที่ต้องเล่นเกมแรกที่บ้าน สุดท้ายผมก็ไม่ต่างกัน" ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:03:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 UCL Update-เช็กยันไม่สนแก้แค้นหงส์ขอมุ่งเข้าชิงชปล.เท่านั้น          ปีเตอร์ เช็ก นายทวารร่างโย่งของ เชลซี เผยเกมชน ลิเวอร์พูล รอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก ไม่สนใจเรื่องแก้แค้น หรือเอาคืนอะไรทั้งนั้น ลั่นเป้าหมายเดียวคือการล้ม "หงส์แดง" เพื่อเข้าไปล่าแชมป์ยุโรปมาครอง พร้อมเตือนเพื่อนร่วมทีมอย่าประมาท เพราะทีมเยือนจาก แอนฟิลด์ เหลือความหวังเดียวให้ลุ้น          ปีเตอร์ เช็ก มือกาวสุดหนึบของ เชลซี ยอดทีมเมืองผู้ดี ยืนยัน ไม่มีนักเตะคนไหนในแคมป์ "สิงโตน้ำเงินคราม" มองเกมที่จะเปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เจอกับ ลิเวอร์พูล ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก นัดแรก วันพุธนี้ ด้วยความหมกมุ่น อยากต้องการแก้แค้นเอาคืนให้สาสม หลังจากพวกเขาโดน "หงส์แดง" ของ ราฟาเอล เบนิเตซ เขี่ยตกรอบบอลถ้วยเป็นประจำ          แม้สถิติเจอกันในเกมลีกส่วนใหญ่จะเข้าทาง เชลซี แต่ถ้านับเฉพาะบอลน็อกเอาต์ ถือว่า ลิเวอร์พูล ทำ เชลซี เจ็บช้ำน้ำใจมานักต่อนัก ปีก่อนก็เขี่ย เชลซี ตกรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ มาแล้ว ขณะที่ปี 2005 ทีม "หงส์แดง" ก็จัดการคว่ำทีมแกร่งจากลอนดอนในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก จนก้าวไปคว้าแชมป์ยุโรปมาครอง ส่วนปีนี้เจอกัน 3 นัด เป็นเกม ลิเวอร์พูล ชนะ 2 นัด (2-0 เกมลีกที่ แอนฟิลด์, 2-1 คอมมูนิตี้ ชิลด์, แพ้ 0-1 เกมลีกที่ เดอะ บริดจ์)          "เกมกับ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่เกมรีเพลย์จากที่เราเจอกันในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เราไม่ได้มองเกมนี้แบบนั้น เป้าหมายของเราไม่ใช่การแก้แค้น แต่เป็นการเข้ารอบชิงชนะเลิศต่างหาก พวกเขาตกรอบทั้งใน คาร์ลิ่ง คัพ และ เอฟเอ คัพ ขณะที่แชมป์พรีเมียร์ชิพก็ไม่มีหวังแล้ว เพราะฉะนั้น แชมเปี้ยนส์ ลีก จึงเป็นความหวังสุดท้ายที่พวกเขาจะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้"          นอกจากนี้ เช็ก ยังลดกระแสความได้เปรียบ-เสียเปรียบจากการเล่นในบ้านก่อน-หลัง โดยชี้ว่า "พวกเรารู้บรรยากาศที่ แอนฟิลด์ ดี และพวกเขาก็รู้ดีว่า สแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นยังไง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงไม่คิดว่าการเล่นในบ้านก่อนจะมีผลอะไร" ที่มา: http://www.siamsport.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 UCL Update-เปาแมร์กไม่เครียดกระแสเดือดเชลซี-หงส์          มาร์คุส แมร์ก ผู้ตัดสินชาวเยอรมัน ที่จะได้ลงทำหน้าที่ในเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือกระหว่าง " สิงโตพันล้าน" เชลซี กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าไม่รู้สึกดดันแต่อย่างใด แม้ว่ากระแสก่อนเกมจะค่อนข้างรุนแรงก็ตาม          โดยแมร์ก ซึ่งได้รับการสับเปลี่ยนให้ทำหน้าที่ในเกมสำคัญนี้ กล่าวด้วยความมั่นใจ โดยนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เคยโดนเล่นงานด้วยการ เป่าลูกฟรีคิกให้กับบาเยิร์น ในช่วงท้ายเกมแบบน่ากังขาจนเป็นประตูตัดสินแชมป์ของทีม "เสือใต้" และทำให้ชาลเก้ ต้องอกหักไปในฤดูกาล 2000-01          "เราไม่มีทางเป็นผู้ตัดสินได้ถ้ามัวแต่เก็บเรื่องพวกนี้มาคิดตลอดเวลา"          "ผมเชื่อว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร เราก็ต้องแข็แงกร่ง และมีสมาธิ และต้องไม่ยอมปล่อยให้คนชั่วมาเปลี่ยนชีวิตของเรา" ที่มา: http://www.soccersuck.com แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 09:14:05 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 09:05:23 จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ราฟา เบนิเตซ: ผมไม่อยากชม เจอร์ราร์ด          ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ขึ้นชื่อว่าเป็นกุนซือจอมวางหมากที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ ในหัวสมองเขาเต็มไปด้วยแผนการมากมายจนบางทีแฟนบอลเองก็อดคิดไม่ได้ว่าจะเปลี่ยนทีมอะไรกันนักหนา          เบนิเตซ เคยทำสถิติสับเปลี่ยนหมุนเวียนผู้เล่นร่วม 100 นัดติดต่อกัน โดยให้เหตุผลว่านอกจากเรื่องแท็กติกการเล่นแล้ว เขาต้องการให้นักเตะทุกคนอยู่ในสภาพฟิตสมบูรณ์เต็มที่ไปตลอดทั้งฤดูกาลด้วย          แม้จะได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ต้องถือว่ากุนซือชาวสแปนิชให้ความสำคัญในเรื่องของการดูแลลูกทีมเป็นอย่างดี และล่าสุดได้ออกมากล่าวว่าเขาไม่ต้องการให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมตัวเก่ง ตกเป็นเป้าสนใจมากจนเกินไป หลังจากระเบิดฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมในช่วงท้ายฤดูกาล          "จี-ฟอร์ซ" ทำผลงานได้อย่างสุดยอดในเกมยูโร 2008 รอบคัดเลือก ที่ช่วยให้ทีมชาติอังกฤษ ถล่ม อันดอร์ร่า 3-0 และเกมพรีเมียร์ชิพที่เหมาซัด 2 ประตูให้ต้นสังกัดเอาชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 จนการันตีพื้นที่แชมเปี้ยนส ลีก เป็นที่แน่นอนแล้ว          เบนิเตซ ไม่ต้องการให้นักเตะคนใดในทีมหลงระเริงและมุ่งมั่นอยู่กับเกมสำคัญที่ ลิเวอร์พูล จะบุกไปเยือน เชลซี ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ในวันพุธนี้          การแข่งขันที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะเป็นงานหนักสำหรับนักเตะ "หงส์แดง" อย่างแน่นอน เนื่องจากเจ้าถิ่นมีสถิติไร้พ่าย 21 นัดติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่บุกไปพ่าย 0-2 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมั่นใจเต็มที่ว่ามีโอกาสฟาด 4 แชมป์ในซีซั่นนี้          อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ก็มีสถิติที่ดีในการพบกับ เชลซี 4 นัดหลังสุดพวกเขาเอาชนะได้ถึง 3 นัด และ เบนิเตซ ก็มั่นใจว่าด้วยฟอร์มอันสุดยอดของ เจอร์ราร์ด ซึ่งซัดไปแล้ว 11 ประตูในฤดูกาลนี้จะช่วยให้ทีมคว้าผลการแข่งขันที่ดีกลับมา          "ผมต้องการยกเครติดให้กับนักเตะคนอื่น สตีเว่น เล่นได้ดีในช่วงกลางสัปดาห์และยิงได้ 2 ประตู แต่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ก็ทำได้ยอเยี่ยมและผมก็อยากย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ ที่มีต่อเราด้วยเช่นกัน"          "เขาเป็นนักเตะสำคัญในชัยชนะเหนือ บาร์เซโลน่า และมันสำคัญสำหรับผมในการสนับสนุนนักเตะให้ทุ่มเท 100 เปอร์เซนต์อยู่เสมอ เมื่อคุณเล่นกับ เจอร์ราร์ด มันเหมือนกับว่าคุณอาจไม่ได้รับเครดิตเท่าที่ควร แต่สำหรับผมในฐานะผู้จัดการทีมมันสำคัญที่ได้รู้ว่านักเตะทุ่มเทเสมอและจะสำคัญสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาล" เบนิเตซ กล่าว          มีประเด็นถกเถียงกันมาตลอดว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของ เจอร์ราร์ด คือมิดฟิลด์ตัวกลางหรือทางฝั่งขวากันแน่ ซึ่งอดีตกุนซือ บาเลนเซีย กล่าวว่า "ผมรู้ว่า สตีเว่น อยากเล่นตรงกลาง เขาสามารถทำได้ดีมากในตำแหน่งนั้น และเขาก็สามารถทำได้ดีมากเช่นกันในฝั่งขวา เราจำเป็นต้องหาความสมดุล มันไม่ใช่เรื่องของนักเตะเพียงคนเดียว มันเป็นเรื่องของทีม"          ทุกครั้งที่อดีตโค้ช เรอัล มาดริด ถูกขอให้แสดงความเห็นเรื่องฝีเท้าของ เจอร์ราร์ด เขามักจะเลี่ยงคำถามและพูดถึงเรื่องโดยทั่วไปของทีมแทนอยู่เสมอ แต่เขาก็รู้ดีว่ามีเพียงแต่ความทุ่มเทชนิด 100 เปอร์เซนต์ของทีมเท่านั้นถึงจะทำให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่กำลังท็อปฟอร์มได้          "นักเตะรู้ว่าทุกคนจะพูดถึงแต่ เจอร์ราร์ด เพราะเขามีฝีเท้าชั้นยอด แต่คนอื่นๆ ก็มีควาสำคัญและมันเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นนักเตะใหม่ทำผลงานได้ดี ผมมีนักเตะที่ฉลาด พวกเขารู้ว่า สตีเว่น จะได้รับคำชมทั้งหมด แต่บางครั้งก็ทำให้พวกเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ง่ายขึ้น"          "มันก็เหมือนกับสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นๆ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มีการพูดถึงแต่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เวย์น รูนี่ย์ ที่ เชลซี ทุกคนก็พูดถึงแต่ ดีดิเย่ร์ ดร็อบา และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ อาร์เซน่อล ก็มีการพูดถึงแต่ เธียร์รี่ อองรี"          "ผู้คนไม่ค่อยพูดถึงคนอื่นๆ ในทีม แต่นักเตะรู้และเข้าใจดีว่าแต่ละทีมก็มีดาวเด่น ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม แต่พวกเขารู้ว่ามันมีอย่างอื่นที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มันหมายความว่าพวกเขาไม่ตกอยู่ภายใต้ความกดดัน เพราะพวกเขาจะไม่ถูกพูดถึง แต่มันทำให้พวกเขามีเวลาทำงานและพัฒนาตัวเอง" เบนิเตซ กล่าว          กุนซือชาวกระทิงออกมายอมรับว่าเขาวางแท็กติกผิดพลาดที่ให้ ซิสโซโก้ เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก ในเกมฟาดแข้งกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา          "ผมพยายามเปลี่ยนแปลงบางอย่างโดยให้ มาสเคราโน่ เล่นอยู่หลัง เจอร์ราร์ด และ ซิสโซโก้ แต่มันเป็นเรื่องยากสำหรับ โมโม่ ที่ต้องทำงานในพื้นที่แคบ เกมออกมาแย่มาก ผมทดลองดูว่ามันเป็นไอเดียที่ดีหรือเปล่า แต่ตอนนี้ผมรู้เกี่ยวกับลูกทีมมากขึ้น โมโม่ เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา ผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าใครจะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์หรือกองหน้าในเกมกับ เชลซี แต่ผมรู้ว่าเราจะต้องใช้ทุกคนในทีมในเกมที่ เชลซี ซึ่ง โมโม่ จะปิดทองหลังพระ ขณะที่ เจอร์ราร์ด จะเป็นดาวเด่น" เบนิเตซ กล่าว โดย: บารมง ที่มา: http://www.siamsport.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรน่าทุบสถิติคลีนชีทสโมสร          เปเป้ เรน่าออกอาการภูมิใจหลังจากสามารถทำลายสถิติคลีนชีทสโมสรของเรย์ คลีเมนซ์ ซึ่งทำไว้ 51 นัดจากการลงเล่น 100 นัดแรกให้สโมสร โดยเรน่าสามารถเก็บคลีนชีทได้ 55 นัด ในนัดที่เจอกับวีแกน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา          "มันเป็นสถิติที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม แต่มันจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าปราศจากเพื่อนร่วมทีมของผม" เรน่ากล่าว          "ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สโมสร มันเป็นสถิติที่ดี แต่คุณต้องพยายามทำมันให้ได้อีก ผมพยายามเสมอที่จะทำงานของผมให้ดีเท่าที่จะทำได้ และผมหวังว่ามันเป็น 100 นัดแรกในจำนวนหลายๆคลีนชีท หรือบางที ผมจะทำมันได้อีกใน 100 นัดต่อไป"          "คลีนชีทอีก2 เกมกับเชลซี ถ้าได้มันจะดีมาก แต่เราต้องคอยดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราลงสนามพร้อมความมั่นใจเต็มเปี่ยม เราสามารถรวบรวมสมาธิทั้งหมดไปยังเกมกับเชลซีได้ในตอนนี้ เราต่างรู้ว่าเป้าหมายหลักของเราคือ การทำให้มั่นใจว่าสามารถไปเล่นรอบคัดเลือกใน UCL ฤดูกาลหน้าได้ และตอนนี้เราก็ทำได้แล้ว เรามีเวลามากพอที่จะคิดถึงเกมกับเชลซี"          "จากตอนนั้น มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว และผมรู้ว่าบรรยากาศจะเป็นไปด้วยดี และบรรดานักเตะทั้งสองทีมต่างก็รู้ว่าอะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ เราต้องเจอกับทีมที่ใครๆ ต่างให้ความยำเกรง"          "ผมไม่รู้ว่า กี่ครั้งแล้วที่เราเจอพวกเขาในช่วง 2-3 ปีมานี้ แต่เราทั้งคู่ต่างรู้ว่า แต่ละทีมมีดีแค่ไหน พวกเขารู้จุดแข็งและจุดด้อยของเรา เหมือนกับที่เรารู้ของพวกเขาเช่นกัน มันไม่ใช่เกมที่จะมีเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ทีมที่ทำผิดพลาดน้อยที่สุดจะได้ชัยชนะ"          "บอสให้เราเตรียมตัวให้ดี และทุกๆวินาที ถ้าเรามีโอกาส เราจะทำมันให้ได้" เพิ่มเติมสถิติคลีนชีท 100 นัดแรก เปเป้ เรน่า 55 คลีนชีท เรย์ คลีเมนซ์ 51 คลีนชีท บรู๊ซ กรอบเบล่าร์ 50 คลีนชีท เจอร์ซี่ ดูเด็ด 45 คลีนชีท เรียบเรียงโดย ohm_pheang [thekop.in.th] ที่มา : vitalfootball.co.uk , lfconline.com ที่มา: http://www.thekop.in.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 26 "ทีมทอล์ค" จัดทีมแห่งปีผีโผล่ 4 ราย ปอมปีย์ติด 2 หน่อ          สำนักข่าว "ทีมทอล์ค" ในเมืองผู้ดีจัดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของศึก พรีเมียร์ชิป โดยมีนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 จาก 8 รายที่ติดทีมยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ หรือ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ นำทัพ โดยมี เดวิด เจมส์ นายทวารที่เพิ่งสร้างสถิติใหม่ไม่เสียประตู 142 นัด และ แม็ทท์ เทย์เลอร์ ห้องเครื่องจอมยิงไกล สองนักเตะจาก ปอร์ทสมัธ ติดโผตัวจริงด้วย          ทีมยอดเยี่ยม 11 ตัวจริงของสำนักข่าว "ทีมทอล์ค" - เดวิด เจมส์ (นายทวาร / ปอร์ทสมัธ), มิคาเอล เอสเซียง (แบ็กขวา / เชลซี), เนมานย่า วิดิช (เซนเตอร์ฮาล์ฟ / แมนฯยูไนเต็ด), เจมี่ คาร์ราเกอร์ (เซนเตอร์ฮาล์ฟ / ลิเวอร์พูล), แม็ทท์ เทย์เลอร์ (แบ็กซ้าย / ปอร์ทสมัธ)          คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ปีกขวา / แมนฯยูไนเต็ด), ไรอัน กิ๊กส์ (ปีกซ้าย / แมนฯยูไนเต็ด), พอล สโคลส์ (มิดฟิลด์ / แมนฯยูไนเต็ด), มิเกล อาร์เตต้า (มิดฟิลด์ / เอฟเวอร์ตัน), ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (กองหน้า / เชลซี), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (กองหน้า / ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์)                ตัวสำรอง - ปีเตอร์ เช็ก (นายทวาร / เชลซี), สตีฟ ฟินแนน (แบ็กขวา / ลิเวอร์พูล), สตีเว่น เจอร์ราร์ด (มิดฟิลด์ / ลิเวอร์พูล), เชส ฟาเบรกาส (มิดฟิลด์ / อาร์เซนอล), เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ (กองหน้า / แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส) ที่มา: http://www.manager.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ดูเด็ค: ผมต้องการคำตอบจากราฟา แหล่งข่าว ไทรบัลฟุตบอล มารฟ้าฯแปล          Jerzy Dudek งานนี้อยู่ดีไม่ว่าดี ออกอาการตบะแตกใส่ Rafa Benitez เสียแล้ว เกี่ยวกับแนวทางที่เขาได้ถูกปฎิบัติด้วย ตลอดฤดูกาลนี้          นายทวารฮีโร่แชมป์ยุโรปรายนี้ กำลังเป็นเป้าหมายของ Wolfsburg และอดีตทีมเก่าของเขาอย่าง Feyenoord ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง The Sun ว่า: "ผมคงต้องออกมายื่นคำขาดกับ Rafa แล้วหล่ะว่าผมเตรียมจะย้ายออกจากทีมแล้ว เพราะบางทีเขาอาจจะยังไม่เคยรับรู้เลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเขาไม่เคยให้ความสนใจกับตัวผมแม้แต่น้อย          "ผมจะจดจำ Liverpool ไว้อย่างลุกๆในหัวใจเกี่ยวกับความสำเร็จที่เรามีร่วมกันมา แต่ไม่ใช่กับสถานการณ์แบบนี้ที่ผมกำลังประสบอยู่          "เมื่อผู้เล่นคนนึงรู้สึกว่าเขาเหมือนเป็นทาสในเรือนเบี้ย เขาจะไม่มีวันให้ใจกับผู้ว่าจ้างเต็มที่หรอก.          "การที่จะมีนายทวารดีๆได้ พวกเขาต้องจ่ายเงินถึง 3-4 ล้านปอนด์ และหลังจากนั้น Rafa ก็จะมาบอกนายทวารคนนั้นว่า: 'นายหน่ะจะต้องนั่งข้างสนามนะ'.          "ไม่มีนายประตูคนไหนที่ได้รับความเคารพ จะยินยอมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้หรอก แต่เพราะพวกเขาไม่ให้เกียรติผมเลย พวกเขาถึงได้ยินดีที่จะเก็บผมไว้ เพราะไม่คิดว่าผมจะบ่นอะไร" ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:07:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลื่อสนั่น มาร์กเซย์กดราคาซิสเซ่...งานนี้มีคัมแบ็คถิ่นหงส์ แหล่งข่าว แอนฟิลล์ออนไลน มารฟ้าฯแปล          Djibril Cisse อาจจะต้องกลับมาสู่ถิ่น Anfield อีกครั้งในช่วงจบฤดูกาลนี้ จากที่มีข่าวว่า Marseille อาจจะขอต่อราคา เหลือเพียง 7 ล้าน ปอนด์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Liverpool นั้นถึงกับส่ายหัวและไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าวทันที          หงส์แดงมีแผนที่จะพยายามขายนักเตะรายนี้ให้ได้ราคาสูง เพื่อชดเชยเงินที่เสียไปในการซื้อดาวเตะรายนี้ ในช่วงยุค Gerard Houllier กว่า 14 ล้านปอนด์ แต่ จากข่าวลือดังกล่าวว่า Marseille จะขอต่อราคาเหลือเพียงครึ่งเดียวซึ่งเป็นอะไรที่ขัดใจ Rafa Benitez มากๆ          ฤดูกาลนี้ของดาวเตะเด็กแนว ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ กับการเล่นที่ Marseille โดยเฉพาะมีแฟนบอลถึงกลับออกปากไล่และโห่ใส่สารพัด ก่อนที่ สองนัดล่าสุดจะกลับมาระเบิดฟอร์มยิงประตูได้สองนัดซ้อน หลังจากฝืดไปนาน          Djibril Cisse นั้นรู้สึกว่า อาชีพการค้าแข้งของเขากับ Liverpool อาจจะยังไม่จบก็เป็นได้ หลังจากที่มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะต้องกลับมาสู่ถิ่น Anfield.          Djib ได้ออกมาพูดกับสื่อว่า:           “ผมไม่เคยบอกว่า ผมอยากจะย้ายหนีจาก Marseille เพราะมันยังมี option พิเศษเรื่องการซื้อขายระหว่างสองทีมอยู่ และอยู่ที่พวกเขาจะใช้หรือไม่ใช่มันเท่านั้น เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กัน มันก็คงจะต้องใช้เวลาเปิดโต๊ะเจรจากัน           “แต่หากว่า Liverpool ขอให้ผมกลับไป การพูดคุยในเรื่องนี้กับ Marseille ก็จบ ผมก็ยินดีที่จะกลับ แต่ก็คงจะต้องรอการพิจารณาจากทาง Marseille ผมรู้ว่ามันเป็นอะไรที่ต้องคิดหนักเพราะมันหมายถึงเงินก้อนโตทีเดียว มันเสี่ยงที่จะทุ่ม แต่ผมรู้จักตัวผมเองดี ถ้าเป็นผมนะ ผมจะเสี่ยงจ่าย 12 ล้านยูโร เพื่อซื้อ Cisse นะ. ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ราฟายียวนบ่ายเบี่ยงเรื่องทอร์เรส          ราฟาเอล เบนิเตซยังไม่ยอมเผยแผนเขย่าโลกซื้อซูเปอร์สตาร์มาประดับแอนฟิลด์ในซัมเมอร์นี้หลังนักข่าวรุมถามถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เฟอร์นานโด ทอร์เรสปันใจให้"หงส์แดง"          "มันหมายถึงทีมของเรามีชื่อเสียงไปทั่วโลกเอามากๆ"          "ตอนนี้เรามีรายชื่อนักเตะ 20 คนแล้ว,พวกสื่อกำลังคิดถึงชื่อซักชื่อหรือไม่ก็อีกชื่อในแต่ละสัปดาห์"          เมื่อนักข่าวถามว่าทอร์เรสใช้เป้าหมายของลิเวอร์พูลในซัมเมอร์นี้หรือไม่ เบนิเตซยียวนตามประสาคนขี้เล่น"ก็เป็นหนึ่งใน 125 คนทั่วโลกจ๊ะ"          ส่วนในรายของเยอร์ซี่ ดูเด็คที่เพิ่งให้สัมภาษณ์แอบด่าจนสะดุ้งทางเอลบอสก็เผยว่าคงถึงเวลาแยกทางกันแล้ว"เขาหมดสัญญาหลังจบฤดูกาล"          "เราเคยคุยถึงเรื่องเขาและอนาคตเขามาแล้ว เราคาดว่าเขาคงย้ายทีมในซัมเมอร์นี้แต่เขาก็เตรียมตัวในแง่สภาพจิตใจอย่างเต็มที่ในการพบเชลซีวันนี้เหมือนเดิม" ที่มา: http://www.soccersuck.com แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 09:10:08 จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 30 สื่อยันหงส์ใกล้ซิวแข้งวัยใส          ลิเวอร์พูลยังตบเด็กไม่เลิกล่าสุดตกเป็นข่าวว่าใกล้ได้ตัวอเล็กซานเดอร์ คาคานิคลิชเจ้าหนูตัวเก่งของเฮลซิงบอร์กแล้ว          เจ้าหนูวัย 15 ปีทำผลงานได้น่าประทับใจในระหว่างมาทดสอบฝีเท้าที่แอนฟิลด์ 12 วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ก่อนกลับมาลิเวอร์พูลอีกรอบเมื่อต้นเดือนนี้          "มันเป็นอะไรที่สนุกมากงับ"หนุ่มวัยใสเผย          "ตอนซ้อมครั้งแรกตื่นเต้นนิดหน่อยแต่หลังจากนั้นก็ลื่นเลย"          "โค้ชแต่ละคนรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ด้วยดีและผมก็เล่นได้ฉลุยตลอด"          "มันเป็นช่วงอายุที่คุณสามารถพัฒนาได้มากสุดและสภาพอะไรต่างๆที่ลิเวอร์พูลก็ดีกว่าที่เฮลซิงบอร์กเยอะเลย" ที่มา: http://www.soccersuck.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หงส์ทีมหญิง โค่นวูลฟ 1-0 จี้จ่าฝูงเหลือแค่แต้มเดียว แหล่งที่มา เว็บทางการลิเวอร์พูลทีมหญิง มารฟ้าฯแปล          หงส์ทีมหญิงเก็บชัยชนะได้อีกแล้ว กับเกมที่ที่ต้องเจอกับ วูลฟแฮมป์ตั้น แวนเดอร์เรอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยประตูโทนของ โจ เทรย์เนอร์ 1-0 ความหวังคว้าแชมป์ใกล้เข้าไปเรื่อยๆแล้ว          กัปตันทีมหงส์แม่เนื้ออ่อน เกย์ล ฟอร์มสตั้น ได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง แทนที่ นาตาลี โฮลต์ ที่ป่วย นั่งสำรองไป ในขณะที่ เคลลี่ โจนส์ยืนแบ็คซ้ายเต็มรูปแบบอีกครั้ง...นิกกี้ เดวีส์ งานนี้เกือบจะเสียประตูตั้งแต่นาทีแรกจากลูกยิงไกลของ ฮันนาห์ สมิธของ วูลฟ แต่ก็ปัดข้ามคานไปได้ และพอทีมหมาป่าสาวไม่สมารถออกนำได้ ก็เจอทีเด็กหงส์แม้เนื้ออ่อนเข้าไปในนาทีที่ 5 ซึ่งเป็นการเปิดบอลอย่างสวยงามจาก เชริล ฟอสเตอร์ ลูกพุ่งมาเข้าหัว โจ เทรย์เนอร์ ที่วิ่งมาโขกเต็มๆ เข้าประตูไปแบบชนิดที่ ผู้รักษาประตูอย่าง นาตาลี่ ฮอลล์ หมดสิทธิ์รับด้วยประการทั้งปวง          พอออกนำได้สำเร็จแบบนี้ เกมก็มาเข้าทางหงส์สาวเต็มที่ ทำเกมบุกกระหน่ำแหลก โดยที่ ฟอสเตอร์.. จิลล์ ฮาร์ต..และ แทมมี่ เบิร์น ต่างเล่นกันสบายๆสุด เพราะไร้ความกดดันจากทีมหมาป่าสาว และก็เกือบจะได้ประตูที่สอง จากการจ่ายบอลทะลุของ เบิร์น โดย แชนเทลล์ แพร์รี่ หลุดไปแป แต่ ซาร่าห์ แลมเบ็ธก็ช่วยป้องกันไว้ได้ทันท่วงที หมดครึ่งแรกจบด้วยสกอร์ 1-0          ครึ่งหลัง โจ เอ็ดเวิร์ดส์ หลุดไปยิง แต่ ติดแนวรับ บอลหลุดออกหลังไป หงส์สาวได้เตะมุม งานนี้ ฟอร์สเตอร์เปิดบอลมาให้ ฟอร์มสตั้น ที่วิ่งมาวอลเลย์ ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย และแล้ว แพร์รี่ ก็ได้โอกาสวอลเลย์ทำประตูเช่นกันจากการเปิดของ เอ็ดเวิร์ดส์ แต่ก็ข้ามคานไปในแบบเดียวกัน..วูลฟ อาการร่อแร่สุดๆ บุกไม่ขึ้น ตั้งรับกันเต็มอัตราศึก และเกือบจะเสียประตูให้หงส์อีกครั้งจากลูก เอี้ยวตัวยิงของสมิธ แต่ก็ไม่ตรงกรอบอีก          แพร์รี่ได้โอกาสทำประตูอีกครั้ง จากการเปิดที่เยี่ยมของสมิธแต่ก็ยิงนกอีกแล้วครับท่าน ตัวสมิธเองก็ได้โอกาสขึ้นมาส่องบ้าง แต่ก็พลาดไปเช่นกัน          โฮลต์ที่ป่วยมีโอกาสได้ลงสนามมาในครึ่งชั่วโมงสุดท้าย และเปิดบอลได้สวย มาให้ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาเช่นกันอย่าง ฌีน แต่โขกวืดไปแบบน่าเสียดาย...          จบเกมหงส์ทีมหญิงก็เก็บสามแต้ม จี้ติดจ่าฝูงเหลือแค่ คะแนนเดียวแล้ว ความหวังคว้าแชมป์สดใสเหลือเกิน เพราะเล่นน้อยกว่าถึง 3 นัด ที่มา: http://www.hongmarnz.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:10:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ย้อนรอยอดีตหงส์: อุลลิเย่ร์ร้องหาหลักประกันกับลียง          เชราร์ อุลลิเย่ร์ เทรนเนอร์ โอลิมปิก ลียง เรียกร้องขอหลักประกันในอนาคตจากบรรดาผู้บริหารของสโมสร หลังจากที่เพิ่งพา "โอแอล" คว้าแชมป์ลีก เอิง 6 สมัยซ้อน มาสดๆ ร้อนๆ ชี้ผลงานในรอบ 2 ปี ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร แต่หากทุกๆ คนไม่มีความสุขก็พร้อมจะไปอยู่ที่อื่น          เชราร์ อุลลิเย่ร์ กุนซือ โอลิมปิก ลียง ทำงานฉลองแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส กร่อยไปในทันตา ด้วยการออกมาเรียกร้องหลักประกันจากบรรดาผู้บริหารของทีม หลังจาก "โอแอล" เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีก 6 สมัยซ้อน ถึงแม้จะไม่มีโปรแกรมให้ลงเล่นก็ตาม เมื่อ แรนส์ เปิดรัง สต๊าด เดอ ลา รุ้ต เดอ ลอริยองต์ ชนะ ตูลูส 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าไม่มีทีมไหนที่จะไล่ตามพวกเขาทันแล้ว อุลลิเยร์ ซึ่งยอมรับว่า ลองถามตัวเองไปบ้างแล้ว หลังจากที่โดนสื่อมวลชนประโคมข่าวอย่างหนักเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองนั้น กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศส ว่า "เรื่องส่วนใหญ่ก็เคยเขียนถึง และพูดกันไปแล้ว แม้กระทั่งในสัปดาห์นี้ก็ตาม ผมได้ถามตัวเองในบางเรื่อง"          "ผมรู้ดีอยู่แล้วว่า ผมกำลังจะทำอะไร อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่ต้องได้รับการการันตีอยู่บ้าง ทั้งที่ผมอยากจะได้รับ และเรื่องที่ยังไม่ได้รับ วันหนึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับสตาฟฟ์ของผม และวันถัดไปมันก็เป็นพวกนักเตะแข้งหลักบ้างล่ะ ซึ่งเข้ามาหาผมเพื่อให้ผมการันตีอนาคตให้ หลังจากนั้นมันก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวบรรดาผู้บริหารสโมสร"          "มันเป็นฤดูกาลที่ยากมากขึ้น เพราะว่าเราไม่ได้ประสบความสำเร็จทั้งหมดที่เราตั้งใจเอาไว้ แต่คุณไม่อาจจะพูดได้ว่า มันเป็นฤดูกาลที่แย่ ในรอบ 2 ปี มีการแข่งขันกันถึง 76 นัด และสโมสรก็รั้งจ่าฝูง 70 นัดจากการแข่งขันทั้งหมด แต่หากทุกๆ คนไม่มีความสุข ผมก็จะไปที่อื่น" อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล ทิ้งท้าย ที่มา: http://www.siamsport.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:11:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ย้อนรอยอดีตหงส์: เจมส์โล่งโกนหนวดเสียทีหลังสร้างสถิติใหม่          เดวิด เจมส์ นายด่านของ ปอร์ทสมัธ สุดโล่งที่จะได้โกนหนวดโกนเคราเสียที เพราะกลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่ไม่เสียประตู 142 นัดใน พรีเมียร์ชิป หลังเกมที่บุกไปยันเสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา          ก่อนหน้านี้ เจมส์ ทำสถิติไม่เสียประตูใน พรีเมียร์ชิป 141 นัดเท่ากับ เดวิด ซีแมน อดีตนายทวารรุ่นพี่ในทีมชาติอังกฤษ ซึ่งล่าสุดอดีตผู้รักษาประตู ลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลล่า และ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ได้กลายเป็นเจ้าของสถิติคนใหม่แล้ว          "ผมภูมิใจเพราะเป็นเกมที่ยากมาก แต่ก็เยี่ยมมากที่ไม่เสียประตูในการเจอกับทีมเก่า ผมพอใจพราะว่ามีคำถามอย่างไม่หยุดหย่อนก่อนหน้านี้ และก็จะได้โกนหนวดเสียทีเพราะก่อนหน้านี้ผมบอกว่าจะไม่หากทำไม่สำเร็จ" เจมส์ เผย ที่มา: http://www.manager.co.th จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 English job!หมูซัดทดเจ็บผีแซง3-2          เร้ดอาร์มี่เกือบเศร้าโดยมิได้นัดหมายทั่วโลกหลังเจอทีเด็ดกาก้ายิงให้เอซี มิลานมาพลิกนำถึงโอลด์แทรฟฟอร์ดในครึ่งแรก 2-1 ก่อนที่เวย์น รูนี่ย์จะตกมันแผลงฤทธิ์ทวงคืนรวดเดียวสองประตูโดยเฉพาะเม็ดทดเจ็บให้"ปิศาจแดง"ขย้ำ 3-2 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศนัดแรกแต่ยังไม่ได้เปรียบอะไรมากนักเพราะเสียอเวย์โกล์ไปถึงสองลูกเลยทีเดียว แมนฯยูไนเต็ด 3-2 เอซี มิลาน สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด ประตู : 1-0 โรนัลโด้ น.5,1-1 กาก้า น.22,1-2 กาก้า น.37,2-2 เวย์น รูนี่ย์ น.59,3-2 เวย์น รูนี่ย์ น.90+1          เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการปรับเปลี่ยนไลน์อัพ 3 ตำแหน่งจากเกมที่เสมอ มิดเดิลสโบรห์ 1-1 เมื่อวันเสาร์ โดยได้ ปาทริก เอวร่า คัมแบ๊กจากปัญหาที่น่อง ลงเสียบแทน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เดี้ยงพัก 2 สัปดาห์ ไรอัน กิ๊กส์ และ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ คืนทีมสตาร์ตเช่นกัน แนวรุกใช้สามประสานอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้,เวย์น รูนี่ย์ และ ไรอัน กิ๊กส์ เป็นตัวปิดสกอร์          ทางฝั่ง คาร์โล อันเชล็อตติ มีทีมค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อได้ ดิด้า นายทวารจอมเหวอฟิตกลับมา ทำให้ขุมกำลังชุดนี้ เป็นชุดเดียวกับที่ผ่าน บาเยิร์น มิวนิค มาได้ในรอบที่แล้ว โดยมี กาก้า และ คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ยืนป้อนบอลอยู่หลัง อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ที่พ้นแบนลงมาแทนโรนัลโด้ ซึ่งติดคัพไท          เริ่มเกมไปได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น จ่าฝูงพรีเมียร์ชิพออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะเตะมุมเข้ามาในกรอบ เป็น โรนัลโด้ ที่โขกไปชนไหล่ดีด้าซึ่งทะเล่อทะล่าออกมาไม่ได้บอล จนลูกลอยกลางอากาศจนนายทวารหน้าเอ๋อพยายามจะตามไปปัดแต่ก็ไม่ทันการเข้าประตูตามกาเบรียล ไฮนเซ่ที่พยายามจะโหม่งให้ชัวร์ๆแต่ก็ไม่โดนจนดีด้าและจิลาร์ดิโน่ที่ตามมาประกบกระเด็นกระดอนเข้าไปในตาข่ายอย่างทุลักทุเลทั้งหมด          หลังเสียประตูไป มิลาน พยายามเน้นความแน่นอนในการต่อบอล นาที 12 กาก้า ลองส่องไกล แต่ลูกไปเข้าซอง ฟาน เดอร์ ซาร์ รับกินสบาย          2 นาทีต่อมา ปีศาจแดง ซึ่งขึ้นเกมได้อย่างดุดัน ก็มีโอกาสทองอีกครั้ง จากจังหวะที่ คาร์ริก ซัดไม่เต็มเท้าบอลกระเด้งลงพื้นกระดอนเข้ากรอบแต่ดิด้าก็ต้องปัดทิ้งเพราะว่ามีผู้เล่นยืนบังก่อนจะเห็นทิศทางบอล          และแล้วนาที 22 ยอดทีมจากแดนมักกะโรนีก็ทำเอาเร้ดอาร์มี่ในโอลด์แทรฟฟอร์ดเงียบเป็นเป่าสากหลังตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ เซดรอฟ จ่ายทะลุช่องให้กาก้าที่วิ่งทำทางด้วยสปีดหนีทั้งคาร์ริคที่ส่งไม้ต่อให้ไฮนเซ่วิ่งเป่าปากมองก้นก่อนที่แข้งแซมบ้าจะหลุดไปซัดด้วยอีซ้ายบอลเสียบเสาไกลชนิดที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ยืนขาตายหมดสภาพมองบอลเข้าประตูอย่างชีช้ำ          เจ้าถิ่นชวดโอกาสขยับสกอร์เพิ่ม ในนาที 31 เมื่อ รูนี่ย์ เข้าชาร์จ ลูกที่ กิ๊กส์ เปิดตัดจากทางซ้ายมาให้ช้าไปนิดเดียวเท่านั้น จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา ดิด้า มาโชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดทิ้งลูกยิงนอกกรอบด้วยอีซ้ายของ โรนัลโด้ ออกไปได้          ก่อนหมดครึ่งแรก 8 นาทีฟ้าผ่ากลางโรงละครอย่างจังเมื่อลูกบอมบ์จากแดนมิลานมาให้กาก้าที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเพราะว่ามีแนวรับเจ้าถิ่นยืนกันสามตัวรายล้อมแต่แล้วสุดหล่อจอมพลิ้วกระดกข้ามหัวเฟลทเชอร์อย่างง่ายดายก่อนยื้อกับไฮนเซ่อีกตัวและเรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อเอว่ราซึ่งโฉ่งฉ่างวิ่งเข้ามาดับเครื่องชนซึ่งเป็นจังหวะเดียวที่กาก้าเอาหัวดุนบอลผ่ากลางหลุดเข้าเขตโทษจนแบ็คน้ำหอมและไฮนเซ่วิ่งชนกันจนกระเด็นไปคนละทิศคนละทางปล่อยให้เพลย์เมคเกอร์หน้าหวานเอียงตัวแปฟาน เดอร์ซาร์โล่งหมูๆเข้าไป แต่ไปชนกับ เอวร่า และซัดเข้าไปตุงตาข่าย หมดครึ่งแรกมิลานบุกมานำยูไนเต็ดชนิดแฟนมึนๆ 2-1          ออกสตาร์ตในครึ่งหลังทีมเยือนปรับแนวรับ ด้วยการส่ง โบเนล่า ลงไปแทน มัลดินี่ เริ่มเกมไปได้ 3 นาที ลูกทีมของท่านเซอร์ พลาดโอกาสตีเสมอจากจังหวะเตะมุมเมื่อ คาร์ริกซึ่งแอบมาอยู่เสาสองคนเดียวได้ยืนมองบอลวางเท้าแปเผาขนไม่กี่หลาแต่บอลเข้าข้างตาข่ายอย่างไม่น่าเชื่อ          นาที 56 ปีร์โล่ วางบอลไปให้ กาก้า ที่วิ่งหลุดกัปดักล้ำหน้าแต่จังหวะยิงมุมกว้างไปเยอะ ทำให้เพลย์เมคเกอร์บราซิเลี่ยน ซัดผ่านหน้าประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย          อีก 3 นาทีถัดมาแมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาเสมอเป็น 2-2 อย่างรวดเร็วและต้องชมพอล สโคลส์ที่โชว์เทคนิคฟุตซอลงัดบอลข้ามหัวฝูงแนวรับ รอสโซเนรี่หน้าเขตโทษมาให้รูนี่ย์หลุดเข้าไปยิงติดบล็อกแต่บอลยังแรงไหลเข้าประตูไป          เกมของเจ้าถิ่นมีชีวิตชีวาและมีกำลังใจอย่างชัดเจนเริ่มคึกคักอีกครั้ง นาที 64 แนวรับ มิลาน โขกเคลียร์ไม่ดีมาเข้าทาง เฟล็ตเชอร์ แต่กองกลางตัวปั้นของเฟอร์กี้ ก็ซัดไปถูก ดิด้า ปัดเอาไว้          นาที 83 โรนัลโด้ซึ่งพยายามฉายแววนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ลากตัดจากริมเส้นทางซ้าย เข้ามากดด้วยขวา แต่บอลเข้าข้างตาข่ายเสาแรกเท่านั้น          เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอแต่แล้วช่วงทดเวลาเจ็บ รูนี่ย์ ก็เป็นฮีโร่ ซัดประตูชัย ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แซงชนะ มิลาน ไป 3-2 จากจังหวะที่กิกส์ซึ่งลากขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนป้ายออกทางขวาให้"หมูพลิ้ว"หักข้อยิงแต่ดีด้าดันไม่คุมเสาแรกทั้งๆที่กองหลังปิดมุมเสาไกลให้แล้วเลยกลายเป็นประตูสุดสวยของเจ้าถิ่นที่นัดหน้าเปลี่ยนแผนมาเล่นเสมอก็ได้เข้ารอบแล้ว รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม แมนฯยูไนเต็ด (4-3-3) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6,จอห์น โอเช 7,เวส บราวน์ 7,กาเบรียล ไฮน์เซ่ 6,ปาทริก เอวร่า 7,ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6,ไมเคิล คาร์ริก 5,พอล สโคลส์ 6,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ 8,เวย์น รูนี่ย์ 8,ไรอัน กิ๊กส์ 8 สำรองไม่ได้ลงสนาม :โทมัสซ์ คุสซ์แซค,อลัน สมิธ,โอเล่ กุนนาร์โซลชาร์,ตง ฟาน โจว,คีแรน ริชาร์ดสัน,คริส อีเกิ้ลส์,คีแรน ลี ใบเหลือง : ปาทริก เอวร่า น.42,ไรอัน กิ๊กส์ น.62 เอซี มิลาน(4-3-2-1) ดิด้า,มัสซิโม อ๊อดโด้ 7,อเลสซานโดร เนสต้า 8,เปาโล มัลดินี่ 6(ดานิเอเล่ โบเนล่า น.46,6),มาเร็ค ยันคูลอฟสกี้ 6,เจนนาโร่ กัตตูโซ่ 8(คริสเตียน บร็อคคี่ น.53,6),อันเดรีย ปีร์โล่ 5,มัสซิโม อัมโบรซินี่ 8,กาก้า 8,คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ 8,อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ 6(โยฮันน์ กูร์คุฟฟ์ น.84) สำรองไม่ได้ลงสนาม :เซอร์โก้ คาลัซ,คาฟู,ฟิลิปโป้ อินซากี้ ,จูเซปเป้ ฟาวัลลี่ ใบเหลือง : กาก้า น.62 ,ดานิเอเล่ โบเนล่า น.74 ผู้ตัดสิน : คีรอส วาสซาราส (กรีซ) ที่มา: http://www.soccersuck.com จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 25 เม.ย. 50 09:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ข่าวหมดแล้วมั๊งเนี่ย... แปะรูปฮาๆ นัดเจอวีแกนหน่อย Rafa : ฮัดโช๊ะ!!! จากคุณ : no.29 (jigij) - [ 25 เม.ย. 50 09:23:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 Flying Speedy จากคุณ : no.29 (jigij) - [ 25 เม.ย. 50 09:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คนนี้ขอยกให้เป็น MOM อันดับสองรองจากเคาท์ จากคุณ : no.29 (jigij) - [ 25 เม.ย. 50 09:25:10 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เบน ฟรีคิก <benfreekick@hotmail.com> Gossip :ตอร์เรสปันใจให้หงส์ - ปืน,เชลซีแย่งซาฮิน วิลเลี่ยม กัลลาส์กองหลังตัวเก่งของอาร์เซนอลเป็นหนึ่งในลิสต์นักเตะลำดับต้นๆที่เรอัล มาดริดให้ความสนใจอยากได้ไปร่วมทีมหลังจบฤดูกาลนี้โดยพร้อมให้เงินที่อาร์แซน เวนเกอร์อาจปฏิเสธไม่ลงถึง 15 ล้านปอนด์ (ที่มาจากหลายสื่อ) ในขณะเดียวกันมาดริดเล่นตัวใหญ่หลังเฝ้าจับตามองสถานการณ์ของ"น้าเหี่ยว"ที่กำลังง่อนแง่นหลังเดวิด ดีนลาออกจากตำแหน่งรองประธานสโมสร (ที่มา tribalfoobal) มิดเดิลสโบรห์แอบลุ้นเซ็นสัญญาฌอน เดวิสมิดฟิลด์ปอร์ทสมัธด้วยค่าตัว 3 ล้านปอนด์ (ที่มาจากหลายสื่อ) เฟอร์นานโด ทอร์เรสส่งสัญญาณให้"หงส์แดง"ทางอ้อมหรือเปล่า?หลังติดสโลแกนสุดกระฉ่อน'You'll never walk alone'ไว้ที่ปลอกแขนกัปตันทีม (ที่มา The Sun) เชลซียังไม่เลิกล้มแผนดาวิด บีญ่าหลังเตรียมทำลายสถิติโลกด้วยการทุ่มเงินมหาศาลถึง 45 ล้านปอนด์ (ที่มา Daily Star) อาร์แซน เวนเกอร์ชายตามองโจอี้ บาร์ตันมิดฟิลด์แมนฯซิตี้โดยหมายจะให้มาเพิ่มความดุดันในแดนกลางและจะให้อิสระเชสก์ ฟาเบรกัสขึ้นไปสร้างสรรค์เกมมากขึ้นกว่าเดิมในซีซั่นหน้า (ที่มา tribalfooball) นูรี่ ซาฮินเจ้าหนูวัย 18 ปีของดอร์ทมุนด์ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างมานานพอสมควรว่าเป็นดาวรุ่งที่พรสวรรค์สูงและอาร์เซนอลตามเฝ้ามานานแล้วแต่ต้องออกแรงสู้กับทางเชลซีและอินเตอร์ มิลานที่อยากได้ไปร่วมทีมเช่นกัน (ที่มา tribalfooball) ดิดิเยร์ โซโกร่ามิดฟิลด์สเปอร์สเนื้อหอมหลังเซบีญ่าและบาเลนเซียแอบปิ๊งอยากได้ไปร่วมทีมด้วย (ที่มา tribalfooball) สตัน โครเอนเค่(เห็นฝรั่งในรายการ ESPN อ่านว่าโครเอนค์)เตรียมเข้าพบบอร์ดอาร์เซนอลเพื่อที่จะได้ฟังแผนการเข้าเทคโอเวอร์กว่า 500 ล้านปอนด์ครั้งนี้ (ที่มา Daily Mirror) มาร์ค ฮิวจส์มั่นใจว่าจะสามารถรั้งเบนนี่ แม็คคาธี่กองหน้าที่ยิงไปแล้ว 21 ประตูในซัมเมอร์นี้ได้แน่ (ที่มา THE SUN) แฮร์รี่ เร้ดแนปป์มีแผนตบรางวัลให้เดวิด เจมส์เป็นสัญญาใหม่หลังเพิ่งสร้างสถิติคลีนชีตมากสุดและจะทำให้อยู่เล่นกับปอร์ทสมัธจนถึงอายุ 40 ปีนู่นเลย (ที่มา THE SUN) เยอร์ซี่ ดูเด็คสร้างบรรยากาศเครียดหลังด่าราฟาเอล เบนิเตซว่าปฏิบัติกับเขาเยี่ยงทาส (ที่มา THE SUN) จาง จื้อมิดฟิลด์ทีมชาติจีนทำเท่ห์ร้องขอย้ายทีมหากตกชั้นไปเล่นในเดอะแชมเปี้ยนชิพ (ที่มา THE SUN) OTHER GOSSIP ดิดิเยร์ ดร็อกบาให้สัมภาษณ์ว่าทีมของเขาเอาแรงแค้นที่ลิเวอร์พูลฝากไว้เป็นตัวกระตุ้นที่ทั้งคู่จะเผชิญหน้ากันในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกวันนี้ (ที่มา Daily Mirror) ส่วนชาบี้ อลอนโซ่ก็บอกว่าพวกเขาไม่กลัวเสียงแฟนบอลในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ด้วยเช่นกัน (ที่มาจากหลายสื่อ) เคลเบอร์สันกองหลังคาโบฟริเอนเซ่ไปหยอกกรรมการ อูบิราซี่ ดามาซิโอด้วยการจูบไซ้ที่ใบหูจนโดนเรียกมาให้ใบเหลืองชนิดที่ยืนหน้าเหรอหราหลังเจ้าตัวไปทำฟาว์ลฝ่ายตรงข้ามโดยหลังจบเกมกองหลังผิวหมึกให้สัมภาษณ์ว่า"ผมไม่ยักกะรู้ว่าทำแบนี้ผิดกฏด้วย" (ที่มา The Sun) โจเซ่แหกกฏแบนห้ามคุมทีมข้างสนามของยูฟ่าเมื่อสองปีก่อนด้วยการลักลอบไปแอบอยู่ในตระกร้าซักรีดในห้องแต่งตัวเพื่อวางแผนช่วงพักครึ่ง (ที่มาจากหลายสื่อ) ลูก้า เทอร์ชี่แฟนบอลชาวอิตาลีซึ่งเดินทาง 36,000 ไมล์ต่อฤดูกาลเพื่อมาดูเกมที่ฟูแล่มอันเป็นที่รักลงเล่นได้รับการโหวตให้เป็นแฟนพันธ์แท้แห่งปีโดยสปอน์เซอร์'Pipex'โดยหนุ่มผู้คลั่งบอลผู้ดีซึ่งอาศัยอยู่ในโบโลญญ่าพลาดดูฟูแล่มเตะในบ้านแค่สองนัดในห้าปีได้กล่าวว่า"ผมยอมเดินทางไปทุกที่เพื่อดูฟูแล่มเตะ" Quotes of the Week "ครอบครัวผมแฮปปี้กับลิเวอร์พูลมากและผมก็เตรียมตัวให้ลูกสาวติดสำเนียงแอคเซ่นท์สเกาเซอร์แม้ว่าบางทีจะเป็นปัญหาให้ตัวผมเองก็ตาม!!" - เบนิเตซเผยถึงแผนระยะยาวที่แอนฟิลด์ "ทุกวันนี้เราจับนักเตะมาตรวจหาสารเสพติดแต่ผมว่าพวกคุณน่าจับผู้ตัดสินมาตรวจมากกว่า" - มิค แม็คคาธี่กุนซือวูลฟ์แฮป์ตันโวยหลังทีมโดนปฏิเสธลูกจุดโทษจะๆคาตาจนพ่ายเบอร์มิงแฮม 3-2 "แดนหน้าเราเล่นกันเหมือนเจ้าโลกแต่กองหลังเล่นเหมือนเจ้าเข้ามากกว่า" - พอล จิลล์กุนซือวีแกนบ่นอุบหลังเสมอสเปอร์สแบบมโหฬาร 3-3 "พวกเขาไม่ยอมจ่ายแม้กระทั่งยาแอสไพรินให้ไมเคิ่ล โอเว่นนับตั้งแต่โยนการดูแลมาให้เรา" - เฟร็ดดี้ เชพเพิร์ดประธานสโมสรนิวคาสเซิ่ลประชดเอฟเอที่เอาเบบี้โกล์ไปใช้งานแล้วปัดความรับผิดชอบหลังเข่าพังจนพักเป็นปี "วิลล่าทำให้เราผิดหวังจริงๆ เมื่อคุณแพ้คาบ้าน มันก็รู้สึกแย่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มันให้ความรู้สึกเหมือนโดนขโมยขึ้นบ้านชัดๆ" - แกเรธ เซาธเกทเชื่อว่าความพ่ายแพ้ของมิดเดิลสโบรห์คาบ้าน 3-1 ถูกวิลล่าปล้นกลางวันแสกๆ "นี่มันฮั้วกันนี่หว่า ใตรก็ตามที่จับฉลากพยายามกำจัดผมให้พ้นรายการนี้แต่ผมไม่สนใจหรอก ชอบจัง" - รอนนี่ โอซุลลิแวนร้องโอ้ยหลังจับฉลากเจอถิง จุนฮุยนักสนุ๊กเกอร์ดาวรุ่งของจีนในศึกชิงแชมป์โลกก่อนที่เด็กนรกจะเอาชนะไปขาดลอย 10-2 "ผมวิ่งจ้อกกิ้งที่ข้างสนามเพื่อวอร์ร่างกาย มันอาจลื่นหลุดมือและตกลงพื้น" - สจ๊วต เพียร์ซแก้ตัวน้ำขุ่นๆหลังปาขวดน้ำด้วยอารมณ์ในเกมที่เสมอกับวัตฟอร์ด 1-1 "เอามาได้แค่นี้เหรอ?"แฟนบอลเซนต์ อัลแบนส์ ซิตี้ซึ่งเล่นในบ้านพบกับอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ดร้องแซวแฟนทีมเยือนที่มีกองเชียร์ตามมาถึง 1,600 จากความจุสนามทั้งหมด 1,800 คน ที่มา: http://www.soccersuck.com จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:34:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ...ขอบคุณครับสำหรับข่าวคราว... ...ขอพี่น้องชาวหงส์แดง รวมใจกันเป็นหนึ่ง ผนึกกำลังกันกำราบศัตรูให้หมดสิ้น เราจะลั่นกลองรบอย่างหึกเหิม เราจะสู้อย่างถวายชีวิต เราจะบดขยี้ด้วยกำลังที่เรามี เราจะกรุยทางไปสู่เอเธนส์... ...หงส์แดงสู้ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย... จากคุณ : จิ๊กโก๋ซอย 1+1 - [ 25 เม.ย. 50 09:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 40 Jinn Hard-core : เชลซี vs ลิเวอร์พูล เทียบตัวต่อตัวภาค3 จริงๆ อยากรอดูรายงานการซ้อมเช้าวันอังคารของ เชลซี ก่อนค่อยมานั่งพิจารณาว่าใครจะได้ลงสนาม ใครเจ็บจริงไม่เจ็บจริง แต่ไม่อยากสนใจหรือเชื่อมากนัก อย่างรอบที่แล้ว โชเซ่ มูรินโญ่ ก็ปล่อยข่าวลวงมาแล้ว อย่างไรก็ดีเมื่อนั่งดูเกมระหว่าง นิวคาสเซิ่ล - เชลซี (ตามหน้าที่ไม่ใช่ขยันอะไรหรอก) ก็พอจะมองสภาพผู้เล่นในเกมคืน วันพุธนี้ออกบ้าง แต่มุมมองแผนการเล่นของเชลซีวันพุธนี้ก็ไม่ต่าง จากเดิมเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับว่า บัลลัค จะเจ็บแค่ไหน ตอนนี้ถ้าดูตารางนักเตะบาดเจ็บ แมนฯ ยู กลายเป็นทีมอันดับ 1 ในลีกด้วยนักเตะบาดเจ็บ 7 ราย หลังจากไม่มีปัญหานี้มากนักในช่วงกลาง ฤดูกาล แต่นั่นก็ไม่ใช่งานของเรา แต่เป็นงานของ มิลาน ถ้าได้โอกาสดีขนาด นี้ทำอะไรเกมวันอังคารนี้ไม่ได้ พุธหน้าที่ ซานซิโร่ อาจจะกลายเป็นสุสาน ของพวกเขาก็ได้ในวันพุธหน้าแทน แน่นอนว่า ลิเวอร์พูล จะไม่มี หลุยส์ การ์เซีย และฟาบิโอ ออเรลิโอ ส่วน แฮร์รี่ คีเวลล์ ยังไม่น่าจะมีส่วนในเกมกับ เชลซี ทั้งสองนัด ดังนั้นการที่เชลซีจะขาดใครไปบ้างผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องได้ เปรียบเสียเปรียบมากนัก และเป็นการทำตัวของพวกเขาเองคือในรายของ มิชาเอล เอสเซียง ที่สะสมใบเหลืองครบ 3 ใบ แต่นัดที่ 2 ที่แอนฟิลด์ สตาร์กานารายนี้จะกลับมาลงสนามได้อย่างไม่ต้องสงสัย จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 41 (2) อาร์เยน ร็อบเบน มีกำหนดคืนสนามในวันที่ 28 เม.ย. จากปัญหา บาดเจ็บเข่า ตรงนี้พอเชื่อได้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้เล่นกับลิเวอร์พูล นัดแรก เพราะ ห่างไกลกับคำว่าฟิตสมบูรณ์ แต่เกมที่ 2 ก็จะพร้อมกลับมาเช่นกัน แต่คงไม่ เต็มที่มากนัก เพราะเจ็บเข่าเป็นอะไรที่เรื้อรังมากกว่า ตรงกันข้ามกับส่วนของ มิชาเอล บัลลัค ที่บาดเจ็บข้อเท้า ในเกมที่ เซนต์เจมส์ พาร์ค เพราะเจ็บตรงนี้มักจะไม่จะรักษากันไม่นานนัก แต่ 3 วันหลังจากเกมที่นิวคาสเซิ่ลเร็วเกินไป ทำให้ผมคิดว่าตัวจริงของ เชลซี น่าจะเป็นแบบนี้ หรือผิดจากนี้ไม่มากนัก --------------------------เช็ก------------------------- ดิอาร์ร่า-------คาร์วัลโญ่-เทอร์รี่----------อ.โคล -------------------------มิเกล------------------------ --ไรท์น้อย(บัลลัค)-แลมพาร์ด---จ.โคล------- ----------------เชฟเชนโก้-ดร็อกบา-------------- คาร์วัลโญ่, อ.โคล และดิอาร์ร่า คือผู้เล่นที่ได้พักในเกมล่าสุด ขณะที่ จ.โคล, เชฟเชนโก้ และจอห์น โอบี มิเกล เป็นเพียงตัวสำรอง ซึ่ง หมายความว่าผู้เล่นเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะลงเป็นตัวจริงในวันพุธ ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบจริงๆ ของลิเวอร์พูล ที่ได้พักนานกว่า 1 วัน เมื่อกุนซือโปรตุกีสเห็นว่า ราฟา พักผู้เล่นหลายคน ก็จำเป็นต้องพักตาม จนส่งผลให้ทีมไม่ชนะนิวคาสเซิ่ล กระนั้นผลเสมอกับนิวคาสเซิ่ล ก็ยังไม่เสียหายจนเกินไป เมื่อ สาลิกา หยุดแมนฯ ยู มาแล้วในสนามของพวกเขา ก็ถือว่า เจ๊าๆ ไป อีก 4 นัดสุดท้าย เชลซี เล่นในบ้าน 3 นัด ไปเยือนปืน 1 นัด จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ..... แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 09:39:54 จากคุณ : อะไรก็ได้45 - [ 25 เม.ย. 50 09:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 43 (3) ส่วนแมนฯ ยู เยือน 3 นัด เล่นในบ้านกับเวสต์แฮมนัดสุดท้าย เกมเดียว 3 นัดหน้า จึงจะเป็นตัวตัดสิน โดยเฉพาะวันที่ 9 พ.ค. เกมระหว่า เชลซี - แมนฯ ยู น่าจะตัดสินผลกลายๆ ในรายของ คาร์โล คูดิชินี่ หรือ บูลาห์รูซ ก็คงไม่ได้เป็นตัวจริง อยู่แล้ว แต่การมีกองหลังดัตช์มาเป็นตัวเลือกก็ดีต่อเชลซี มากกว่าจะไม่มี กลับไปที่ประเด็น มาเกเลเล่ กับ มิเกล หลายคนอาจจะข้อง ใจอยู่เหมือนกัน และคิดว่า มาเกเลเล่ ดีกว่า แต่นั่นเป็นอดีตไปแล้ว เมื่อ ระยะหลัง มิเกล ได้เล่นในตำแหน่งนี้มาก ขณะที่ มาเกเลเล่ มีอาการ บาดเจ็บรบกวน กลับมาก็เสียตำแหน่งไปแล้ว และยังอยู่ในสภาพไม่ฟิตนัก ถ้าไม่มีบัลลัคจริงๆ มาเกเลเล่ ก็อาจจะได้ลุ้นลงสนาม ถ้าเชลซี จะใช้ตัวรับ 2 ตัว หรือดันมิเกล ไปเล่นแทนตำแหน่งบัลลัค ซึ่งสมดุลทีมจะ ดีเหมือนเก่า แต่นี่คือเกมในรังของพวกเขา ถ้าหวังแค่ผลเสมอก็คงเป็นไปได้ หรืออยู่ที่ว่า มูรินโญ่ จะเสี่ยงตั้งแต่ต้นเกมหรือปลายเกม? เอสเซียงได้เล่นในตำแหน่งทั้งเซนเตอร์ฮาล์ฟ และมิดฟิลด์ตัว รับในฤดูกาลนี้ อย่างที่บอกว่าเป็นโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะทำอะไรเหมือนกัน ในวันที่ไม่มีเขา ผังการเล่นของลิเวอร์พูลน่าจะออกมาแบบนี้ แม้โมโม่ จะได้พัก ในเกมล่าสุดก็ตาม ----------------------เรน่า------------------------ ฟินแน่น-แอ็กเกอร์-คาร์ราเกอร์-อาร์เบลัว เจอร์ราร์ด-อลอนโซ่-มาสเคราโน่-รีเซ่(เพนแน้นท์) ------------------เค้าท์-เคร้าช์------------------- จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 (4) ตำแหน่งที่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้คือระหว่าง มาสเคราโน่ กับซิสโซโก้ และปีเตอร์ เคร้าช์ จะได้ลงเป็นตัวจริงหรือไม่? แต่อย่างที่รู้กันว่า ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นหนึ่งในกุนซือที่เดาใจ ยากที่สุด บางทีเขาอาจจะมีแผนเด็ดในใจ ตัวที่จะพลิกเกมของทั้งสองทีมถ้าเชลซี ก็ต้องเป็น กาลู ถ้าเป็นลิเวอร์พูล คงเป็น เคร้าช์(ถ้าไม่ได้เป็นตัวจริง), เบลลามี่ หรือเพนแน้นท์ ขณะที่หากตัวจริงเล่นไม่ได้ดั่งใจ เซนเด้น จะเป็น อีกตัวเลือกสามารถประคองฝั่งซ้ายได้ ถ้าจะมีแบบไม่ได้คาดหมาย คือการใช้ มาร์ค กอนซาเลซ ร่วมกับ เพนแน้นท์ และใช้กองหน้าตัวเดียว พร้อมกับกลาง 3 แต่การเปลี่ยน เคร้าช์ ออกก่อนหมดเวลาในเกมล่าสุด น่าจะเป็นสัญญาน ว่าเขาจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และลิเวอร์พูล จะพยายามตีตรงกลาง และน่าจะเล่นเกมรุก โดย รีเซ่ กับ เจอร์ราร์ด จะได้หุบเข้ามาในเกมบุก ตาม อย่าลืมอีกแนวทางหนึ่งที่เป็นไปได้ในช่วงหลังคือการใช้ เพนแน้นท์ ที่กำลังฟอร์มดีวันดีคืน ยืนฝั่งซ้าย หรือขวา สลับกับ เจอร์ราร์ด ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าใจ และยังใช้น่าคู่ได้ แต่ผังที่ระบุคือแผนที่สันนิษฐานในเวลานี้ ขอคั่นด้วยการเปรียบเทียบแนวรับขวาไปซ้าย จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 (5) สตีฟ ฟินแน่น vs ลาสซาน่า ดิอาร์ร่า ฟินแน่น เหนือกว่าค่อนข้างมาก ทั้งประสบการณ์ และความสม่ำเสมอ ส่วน ดิอาร์ร่า ชอบจะเล่นปีกขวา หรือกองกลางมากกว่า แต่ในช่วงที่เฟอร์ไรร่า เล่นได้ไม่ดี และมูรินโญ่ ก็ใช้งานเขามาอย่างยาวนาน ****************** (ส่วนข้างบนเขียนไว้ตั้งแต่วันจันทร์) ถึงตรงนี้มีข้อมูลมาเพิ่มแล้ว แต่พูดถึง ฟินแน่น กับ ดิอาร์ร่า กันต่อ คู่นี้อย่างที่บอกว่า ดิอาร์ร่า ไม่ใช่แบ๊กธรรมชาติ แน่นอนว่าเขาจะมองการ เติมเกมอยู่เสมอ นั่นเป็นจุดแข็งมากกว่าจุดอ่อน เพราะเกมรับของเชลซี แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ถ้าหากแนวรับเชลซีไม่สมบูรณ์ล่ะ? เกมรับของเชลซีจะป้องกันเกมทะลุทะลวงตรงกลางได้ดี เพราะมีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่แข็งแกร่ง และมิดฟิลด์ตัวตัดเกมอย่าง เอสเซียง, มิเกล หรือมาเกเลเล่ และมีบัลลัค ถอยมาช่วยอยู่เสมอ แต่บริเวณด้านขวาของพวกเขา เปราะกว่าด้านซ้ายที่มี อ.โคล ลองเทียบกัน ฟินแน่น ในเวลานี้ถือว่าพัฒนาฝีเท้าขึ้นมามาก แบ๊กขวา ของลิเวอร์พูลผ่านเกมมามาก และทำผลงานถือว่าอยู่ในช่วงสุดยอด ของอาชีพการค้าแข้งก็ไม่เกินเลยนัก ขณะที่ ดิอาร์ร่า ที่แย่งตำแหน่ง จาก เฟอร์ไรร่า ได้ก็จริง ยังมีเส้นทางอีกยาวไกลให้พิสูจน์ ย้อนกลับไปสำหรับคนที่เคยดูเกม เชลซี - ลิเวอร์พูล น่าจะ เคยเห็นเกมที่เราเลือกใช้ เจอร์ราร์ด เล่นทางซ้าย เพื่อเจาะจุดบอดทางนี้ เป็นไปได้ว่าหมากตานี้จะถูกนำมาใช้อีกครั้ง เพียงแต่ เพนแน้นท์ ก็มีลุ้นลงรับงานนี้ เช่นเดียวกับ มาร์ค กอนซาเลซ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 (6) กระนั้น ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ยังดูจะเหมาะกับเกมแบบนี้ ที่สุด ในความเห็นของผม ขณะที่ ฟินแน่น สามารถเติมเกมรุกฝั่งขวาได้ดี โดยเฉพาะ วันที่มีเป้าหมายชัดเจน ถึงตรงนี้ ไม่เดิร์ค เค้าท์ หรือปีเตอร์ เคร้าช์ จะต้องรับหน้าที่ ซึ่งรายหลังน่าจะอยู่ในใจใครหลายคนมากกว่า ขณะที่ รีเซ่ น่าจะช่วยรับมือการเติมเกมของ ดิอาร์ร่า ได้ดี แม้บางที ราฟา อาจจะวัดไปที่ เพนแน้นท์ เพื่อให้ลงมาสลับเล่นกับ เจอร์ราร์ด ในบางช่วงของเกมก็เป็นได้ เกมที่ฟินแน่นต้องรับมือไม่ว่าจะเป็น โจ โคล หรือ สลับมาเป็น ไรท์-ฟิลลิปส์ นั้นเป็นงานหนักแน่นอน แต่ผู้ช่วยใช้ อีกของ ฟินแน่น ชื่อว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด เท่านี้ก็อุ่นใจขึ้นเยอะ จอห์น เทอร์รี่ vs เจมี่ คาร์ราเกอร์ เบอร์ 26 กับ เบอร์ 23 ของทั้งสองทีมกัปตันทีมชาติอังกฤษ กับรองกัปตันทีมลิเวอร์พูล ศักดิ์ศรีอาจจะเป็นรองในแง่จำนวนหมวก ที่ติดทีมชาติ แต่ฝีเท้าน่ะหรือ? สิ่งที่หลายเสียงมักจะมองว่า คาร์ร่า เป็นรอง เทอร์รี่ คือ การเติมเกมรุก โดยเฉพาะขึ้นไปโหม่งลูกเตะมุม ซึ่งก็เป็นความจริงเสียด้วย จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:40:31 ]

ความคิดเห็นที่ 47 (7) เมื่อต้องเตะมุม เทอร์รี่ ต้องน่ากลัวกว่า คาร์ร่า อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่มีแฟนหงส์ ยอมแลก คาร์ร่า กับ เทอร์รี่ อย่างแน่นอน และสำหรับแฟนเชลซีก็คงไม่ต่างกัน พวกเขาไม่ยอมแลกกัปตันทีม รายนี้กับใครแน่ๆ แต่ความเป็นผู้นำของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ โดดเด่นกว่าในเกมยุโรป ไม่จะไม่ได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมก็ตาม ยิ่งเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น คาร์ร่า ยิ่งโดดเด่น ถ้าเทียบแล้วเหนือกว่า เทอร์รี่ ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ดีทั้งสองต่างเป็นหัวใจในแนวรับของทีม ถ้าจะเทียบ เทอร์รี่ น่าจะเทียบกับ แอ็กเกอร์ ที่เป็นตัวที่สามารถเติมขึ้นไป แต่ที่เลือก คู่นี้เพราะมีความสมน้ำสมเนื้อกันมากกว่า ถ้าคู่นี้เล่นในทีมชาติ เทอร์รี่ จะดูโดดเด่นกว่าแน่นอน เพราะ เขาไม่ใช่ตัวชนไม่ใช่ตัวรองบอล แต่ในทีม ลิเวอร์พูล คาร์ราเกอร์ เป็นทุกอย่าง แม้จะเป็นรองในแง่เกมรุก แต่คาร์ร่า ก็ชดเชยด้วยการเป็น หนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ และเขายืนได้ทุกตำแหน่งใน แนวรับนั่นคือข้อได้เปรียบ ถ้าลิเวอร์พูล ดึง เทอร์รี่ ออกจากแนวเซ็นเตอร์เมื่อไหร่ จะเห็นความแตกต่างระหว่าง คาร์ราเกอร์ กับ เทอร์รี่ แน่นอน และเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ จำเป็นต้องปักหลักอยู่ตรงกลางเสมอหรือเปล่า ถ้าเกมถูกโจมตีด้านข้างล่ะ? จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:40:54 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขออนุญาตออกความเห็นหน่อยครับ คืนนี้ต้อง 4-4-2 เกมส์นี้ต้องกล้าๆหน่อย เพราะเชลซีไม่ฟูลทีมคงเน้นตั้งรับ  แล้วเราจะไปรับด้วยทำไม บุกเลย แต่กองหลังอย่าดันสูง ระวังโดนสวน ให้กองกลางกับกองหน้าทำเกมส์ก็พอ  ได้ก็ดีไม่ได้ก็เสมอตัว                      เค้าท์       เคร้าช์ เพนเนนท์        อลองโซ่         มาสเค      เจิด รีเซ่       แอ็กเกอร์        คาร์ร่า         ฟินแน่น                          เรย์น่า ผมว่าจัดเพนแนนท์ไปป่วนแบคขวาเชลซี(เฟอร์ไรร่า) ต่อจากนัดนิวคาสเซิล วันนั้นเห็นนักการยังกล้าย้ายปีกขวา(มิลเนอร์)ไปถล่มจุดนี้ทั้งคืน ถ้าป๋ากล้าใช้แผนนี้ต่อมีสิทธิ์เวิร์ค เพราะเค้ากำลังเพลียเลย ให้เพนแนนท์ชวนทะเลาะแค่ครึ่งแรก ครึ่งหลังก็หาวกลางสนามแล้ว  (คืนฉะกะโบโรเห็นลองย้ายไปเล่นปีกซ้ายสลับกะกอนซาเลสซะตั้งนาน สงสัยป๋าจะใจเดียวกะผม) หากคาร์วัลโญเจ็บไม่ได้ลง ยังงี้ยิ่งต้องให้ปีเตอร์ เคราซ์ลงไปป่วนลูกกลางอากาศซึ่งเหลือแค่เทอรรี่แค่คนเดียว มีสิทธิ์หลวมได้น่ะ  ถ้าเล่นนอกบ้าน ตุนสกอร์ไว้ได้ซัก 1-2 ประตู ก็สบายแฮ   กลองกลางผมอยากให้มาสเคลงแทนโมโม่ดีกว่า เพราะเน้นทำเกมส์บุกเค้าไม่มีทั้งเอสเซียงและบัลลัค (คาดว่าจะเจ็บ)  โมโม่ตัดบอลดีแต่เสริมเกมส์รุกไม่ดี เพราะชอบจ่ายบอลเสีย  เก็บโมโม่ไว้ชวนทะเลาะนัดที่แอนด์ฟิลด์ดีกว่า ทีมเค้าน่าจะสมบูรณ์มากขึ้น  โมโม่จะมีประโยชน์มากในเกมส์นัดสองถ้าเราตุนสกอร์ไว้ได้แล้ว จากคุณ : ฟ้าบัญชา - [ 25 เม.ย. 50 09:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 (8) ตรงกลางคาร์ร่าไม่เป็นรองแน่ แต่ถ้าต้องขยับไปช่วย แบ๊กบริเวณริมเส้นล่ะ? เทอร์รี่ อาจจะโดนพาทัวร์ก็ได้งานนี้ พูดถึงตรงนี้คิดว่าคุณอยากได้กองหลังแบบไหนอยู่ ในทีมมากกว่ากัน? ทุกวันนี้นักเตะที่เล่นได้ใกล้เคียงกับ คาร์ราเกอร์ที่สุด อย่างวิลเลี่ยม กัลลาส ไม่ได้อยู่ในทีมเชลซีแล้ว และทุกวันนี้ พวกเขายังอุดแผลตรงนี้ไม่ได้เลย อยู่ที่ว่า ราฟาเอล เบนิเตซ จะเปิดแผลได้แค่ไหน... ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ vs ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ถึงเวลาที่เขียน คาร์วัลโญ่ อยู่ในสภาพ 50-50 ที่จะได้ ลงสนาม ซึ่งถ้าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟโปรตุกีส ลงเล่นไม่ได้ ตัวเลือกที่ 2 คือเอสเซียง เผอิญว่า เอสเซียง ติดโทษแบนอีก ไม่ว่าจะเลือก บูลาห์รูซ, เฟอร์ไรร่า หรือแม้แต่ มาเกเลเล่ ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีทั้งนั้น ถ้า คาร์วัลโญ่ ลงไม่ได้ คงยังจำเกม 2-0 ที่แอนฟิลด์ได้ ว่า ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงไปทำอะไรมาแล้ว หรือต่อให้มีแล้วไม่สมบูรณ์ กระทั่งสมบูรณ์เต็มที่ก็ตาม เจ้าตัวก็ไม่ถนัดลูกกลางอากาศมากนัก โดยเฉพาะช่วงหลัง เชลซี ดูจะมีปัญหาการรับมือลูกกลางอากาศ ซึ่งทำให้ ปีเตอร์ เช็ก ต้องทำงานหนักอยู่ร่ำไป จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:41:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 (9) แต่คงไม่ใช่เรื่องถูกแน่ๆ ถ้าจะบอกว่า แอ็กเกอร์ เก่งกว่า คาร์วัลโญ่ ณ เวลานี้ ยังต้องรอการพิสูจน์ คาร์วัลโญ่ เคยคว้าแชมป์ยุโรปกับ ปอร์โต้ และทำผลงาน ได้สม่ำเสมอในพรีเมียร์ชิพมาตลอด เขาเป็นปราการหลังชั้นแนวหน้า อย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนแอ็กเกอร์ยังต้องพัฒนาอีกมาก แต่การได้เล่นเคียงข้าง กับ คาร์ราเกอร์ ทำให้ทุกอย่างง่ายสำหรับเขา ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็เคยเรียนรู้จาก โซล แคมพ์เบลล์ ในทีม ชาติอังกฤษมาแล้ว ทำให้เขาโดดเด่นมากในฟุตบอลโลก 2002 แอ็กเกอร์ในวันนี้ยังไม่ออกดอกออกผล แต่ฟอร์มของเขา ก็อยู่ในระดับคงเส้นคงวามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเล่นอยู่หลัง อลอนโซ่ ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ที่สำคัญเขายังมีลูกยิงไกล และการเติมขึ้นไปโหม่ง เป็นทีเด็ด ถ้าสมบูรณ์เต็มที่ แอ็กเกอร์ ยังเป็นรองเรื่องประสบการณ์ แต่นาทีนี้ แอ็กเกอร์ สมบูรณ์กว่าแน่ๆ ส่วนคาร์วัลโญ่ จะได้ลงหรือไม่ พุธนี้ได้รู้กัน จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:41:39 ]

ความคิดเห็นที่ 51 (10) แอชลี่ย์ โคล vs อัลบาร์โร่ อาร์เบลัว อีกหนึ่งตำแหน่งที่เราเป็นรองเช่นเดียวกับ แอ็กเกอร์ ตามหน้าสื่อ แต่นั่นไม่ใช่ ว่าเราจะสู้ไม่ได้ แอชลี่ย์ โคล โด่งดังกว่า และเหมือนมีญานวิเศษ ของกองหลังที่มักจะสกัดบอลจากเส้นประตู ขณะที่ อาร์เบลัว ยังต้องการเวลาปรับตัว แต่การที่ เขาหยุด ลิโอเนล เมสซี่ ได้ในรอบที่ผ่านมา คงจะง่ายกว่า การหยุด โจ โคล หรือ ไรท์-ฟิลลิปส์ แน่ๆ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ อาร์เบลัว ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมมองว่าต้องมี รีเซ่ ลงมาด้วย เพื่อ สร้างสมดุลทางฝั่งซ้าย ส่วนแอชลี่ย์ โคล เป็นแบ๊กจอมบุก ซึ่งเขามีขวัญใจ คือ โรแบร์โต้ คาร์ลอส และได้เอาวีดีโอของ คาร์ลอส มาศึกษา อยู่เสมอ รวมทั้งการที่เขามีขวัญใจอย่างเปเล่ แม้จะสไตล์แตกต่าง แต่นั่นก็มีส่วนทำให้ แอชลี่ย์ โคล เป็นแบ๊กที่มีเบสิกดีที่สุดในอังกฤษคนนึงเวลานี้ และยึดตำแหน่ง ในทีมชาติมาอย่างยาวนาน ซึ่งผมเชื่อได้เลยหากเขาไม่เจ็บหนัก วันนึงเขาจะกลายเป็นนักเตะที่ติดทีมชาติมากที่สุดของอังกฤษได้เช่นกัน ที่น่ากลัวของ แอชลี่ย์ โคล อีกอย่างคือลีลาสะดุดยอดหญ้า ในเขตโทษ(ฮา...) ซึ่งถ้าโดนเข้าไปก็ขำไม่ออกเช่นกัน ซึ่งแม้แต่ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ยังอาจจจะทำได้ไม่เนียนเท่า จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:42:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 (11) แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดในช่วงที่เขาอยู่กับทีมปืนโต ทุกวันนี้ แอชลี่ย์ โคล ทะลุทะลวงเข้าไปในเขตโทษน้อยกว่าเดิม ส่วนหนึ่งคือ เขามีปัญหาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้างในปีนี้ และถ้าคู่ต่อสู้คือ เพื่อนซี้ที่เขายกย่องว่าเป็นนักเตะที่ เปิดบอลแม่นที่สุดในโลกอย่าง เจอร์เมน เพนแน้นท์ ถ้าเกิดเขา ต้องรับมือ และมันสมพรปากขึ้นมา เกมนี้จะไม่สนุกสำหรับเขาแน่ หรือต่อให้เป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด แม้เขาจะหยุดได้ แต่จะช่วยเติมเกมให้ได้เปรียบคงเป็นภาพที่จะเห็นได้น้อยในเกมนี้ ส่วน อาร์เบลัว ยังได้เห็นมาไม่มากนัก แต่ถ้าเล่นได้อย่าง ที่ผ่านมาที่ได้โอกาสลงสนาม แฟนหงส์น่าจะพออุ่นใจได้ ปีเตอร์ เช็ก vs เปเป้ เรน่า นี่เป็นอีกหนึ่งที่ลิเวอร์พูลเป็นรอง ซึ่งความจริงก็เป็น อย่างนั้นด้วยสิ แต่ถ้ามองความแตกต่างระหว่าง เช็ก กับ เรน่า เทียบกับที่ลิเวอร์พูล ได้เปรียบอย่าง ฟินแน่น กับ ดิอาร์ร่า ถือว่าความแตกต่างของคู่ เช็ก - เรน่า มีน้อยกว่ามาก ผู้รักษาประตูได้โชว์ฟอร์มเมื่อไหร่ ก็แปลว่าเกมของ ทีมแย่เท่านั้น ผิดกับกองหลังยังพอที่จะเห็นจุดเด่นอื่นจากการ เติมเกมได้ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 53 (12) สำหรับแฟนลิเวอร์พูล อยากให้ปีเตอร์ เช็ก ในเกม มากกว่า เรน่า อย่างแน่นอน เช็ก มีทุกอย่างที่จะคู่ควรกับการเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของโลก ทั้งรูปร่าง ปฏิกิริยา และหลายสิ่งหลายอย่าง ขณะที่ เรน่า ดูจะมีปัญหาในลูกกลางอากาศ ช่วงแรก ที่ค้าแข้งในอังกฤษ แต่ทุกวันนี้ เรน่า ดูดีขึ้นมาก และแทบทุกประตูที่ทีมเสีย มักจะเป็นลูกที่สุดวิสัย เช่นเดียวกับ ปีเตอร์ เช็ก แต่ความเร็วของ ผู้รักษาประตูเช็ก บางทียังเกิดปัญหาที่พุ่งผิดทางได้เช่นกัน เมื่อไป ก่อนบอล จากการตัดสินใจที่เร็วเกินไป พอบอลเปลี่ยนทางก็เสร็จ กระนั้นก็เป็นเพียงมุขตลกเท่านั้น เพราะนั่นไม่ใช่ เรื่องที่จะไปโทษผู้รักษาประตู ตลอด 3 ปี ในแดนผู้ดี เช็ก มีช่วง ที่ฟอร์มแกว่งอยู่เหมือนกัน แต่ก็เทียบแล้วน้อยมากๆ ขณะที่ 2 ปี ของเรน่า ก็ทำผลงานได้ดีวันดีคืน ทั้งสองคนยังเป็นผู้รักษาประตูที่สั่งการแนวรับได้ดี และเปิดบอลได้ไกล เร็ว รวมทั้งสมดุลดี แต่ถ้าเห็นใครมากกว่าก็แปลว่าทีมเล่นไม่ดีเท่าไหร่น่ะ แล้วคุณอยากเห็น เช็ก หรือเรน่า มากกว่ากันล่ะ? จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 54 (13) โชเซ่ มูรินโญ่ vs ราฟาเอล เบนิเตซ ตรงส่วนนี้จะพูดรวมถึงสภาพทีม ความสมดุล และ กำลังสำรองไปด้วย ขอแวะไปคู่ แมนฯ ยู - มิลาน คืนนี้นิดนึงก่อน ตอนนี้ แมนฯยู มีปัญหาต้องใช้แนวรับเป็น โอ'เช คู่ เวสต์ บราวน์ ทัศนะหลายท่านที่ได้คุยกัน เชื่อว่านี่เป็นโอกาสดีของมิลาน ที่อย่างแย่น่าจะบุกมายันเสมอ ขณะที่ ผี ก็หวังจะทำได้เหมือนเกมกับ โรม่า แต่แนวรับมันคนละเกรดกัน ไม่ว่าจะเป็น เนสต้า, มัลดินี่, อ็อดโด้, คาฟู หรือจะใช้ มาเร็ค แยนคูลอฟกี้ แมนฯ ยูเจองานหนักแน่ แต่ถ้าเกมนี้ มิลานแพ้ละก็ นัดหน้า แมนฯยู จะสมบูรณ์กว่าเดิม แม้จะเล่นที่ ซาน ซิโร่ ก็เป็นงานหนักแน่ มิลาน ต้องคว้าโอกาสแรกนี้ให้ได้แม้จะเล่นที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ด ก็ตาม กลับมาดูที่ เชลซี - ลิเวอร์พูล คู่นี้ก็เป็นโอกาสของราฟาเอล เบนิเตซเช่นกัน เพราะอีกหนึ่งสัปดาห์ เชลซี จะสมบูรณ์กว่านี้ เว้นแต่จะมีใครในเชลซี ทำตัวเองให้ชวดเกมที่แอนฟิลด์ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:43:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 (14) โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นกุนซือที่ตัดสินใจเร็ว อย่างที่หลายคนอาจจะ ชอบ รวมทั้งการแบกรับความกดดันแทนที่ลูกทีม ซึ่งนั่นคือการมองใน แง่ดี แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่? แต่ที่แน่ๆ เขาเป็นสุดยอดผู้จัดการทีมแห่งยุค ไม่ต่างจาก ราฟาเอล เบนิเตซ ทั้งคู่ต้องแข่งกันพาทีมเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่สอง ของตัวเอง แต่การวางแผนตอนนี้ ลิเวอร์พูล ได้เปรียบกว่า เพราะผู้เล่น ให้เลือกมากกว่า สมบูรณ์มากกว่า ขณะที่ มูรินโญ่ ยังต้องรอเช็กความฟิตของ คาร์วัลโย่, บัลลัค และขาดเอสเซียงที่ติดโทษแบน รวมทั้งต้องระวัง มิชาเอล บัลลัค,โจ โคล, ลาสซาน่า ดิอาร์ร่า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และ อาร์เยน ร็อบเบน ไม่ให้โดนใบ เหลือง ถ้าหวยออกที่ ดร็อกบา เกมที่แอนฟิลด์ พวกเขามีปัญหาแน่ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 56 (15) เชลซี จะเล่นอย่างไร? พวกเขาต้องการชัยชนะ แต่การไม่เสียประตูน่าจะเป็นเรื่อง สำคัญกว่า นั่นทำให้เป็นไปได้ว่าทั้ง มิเกล และมาเกเลเล่ อาจจะได้ เล่นทั้งคู่ ส่วนเกมรุกต้องเริ่มต้นจากการพักบอลที่ ดร็อกบา ซึ่งผมยัง เชื่อว่า มูรินโญ่ จะใช้ปีกเพียงตัวเดียว ระหว่าง โจ โคล กับ ไรท์-ฟิลลิปส์ แต่เลือกใน เชฟเชนโก้ สลับมาทำเกมริมเส้นในบางโอกาส แต่ถ้า บัลลัค เจ็บจนเล่นไม่ได้ ทั้งคู่ถึงจะมีโอกาสมากขึ้น ที่จะเล่นด้วยกัน นั่นจะทำให้แลมพาร์ด ต้องถอยลงไปบ้าง และถ้าทีมที่ลงไปทำงานไม่ได้ผล ซาโลมง กาลู จะเป็น ตัวเลือกแรกที่ลงเปลี่ยนเกม รวมทั้งแผนที่เห็นกันเมื่อ เจาะคู่แข่ง ไม่เข้า เราอาจจะเห็น บูลาห์รูซ ลงมาเล่นกองหน้า มูรินโญ่ ตัดสินใจเร็ว แต่บางครั้งก็เป็นปัญหาเช่นกัน เมื่อเปลี่ยนแล้วมีปัญหาทั้งการเล่น และนักเตะบาดเจ็บ หลายเกมพวกเขาอยู่ในสภาพจำยอม เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป เป็นอีกคนที่เล่นลูกนิ่งได้น่ากลัว แต่เขา มักถูกจัดให้เล่นแบ๊กขวาถ้าได้ลงสนาม และเกมนี้หากนักเตะเจ็บหลาย คนเขาก็มีสิทธิ์ได้เล่นอยู่ แม้จะน้อยก็ตาม ขณะที่ เวย์น บริดจ์ ยังเป็นรอง แอชลี่ย์ โคล ทุกอย่าง และลงมาก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเกมได้ มูรินโญ่ ต้องเน้นที่ 11 ตัวจริงเป็นหลักที่จะไม่เสียประตู ไว้ก่อน และพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของ ดร็อกบา, เชฟเชนโก้ และ แลมพาร์ด เป็นหลัก รวมทั้งปีกอย่าง จ.โคล หรือไรท์-ฟิลลิปส์ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:43:59 ]

ความคิดเห็นที่ 57 (16) ลิเวอร์พูล จะเล่นยังไง? สิ่งที่เห็นจากการทำทีมของราฟาเอล เบนิเตซ คือการเคารพ คู่แข่งเต็มที่ เขาพร้อมจะโจมตีในจุดที่มองว่าคู่แข่งมีจุดอ่อน เชลซี ขาด เอสเซียง แน่ๆ นี่คือจุดแรกที่ราฟาจะมอง และแบ๊กสองข้างเช่นกัน จุดสุดท้ายคือ ต้องทำให้ เทอร์รี่ พะวงกับการเข้าไปช่วย ริมเส้น ซึ่งแน่นอนว่าในเกมเราอาจจะเห็นไม่ชัด เพราะบอลจะ ครอสเข้ามาตรงกลาง หรือทะลวงตรงกลางได้ แต่นั่นก็อยู่ที่ว่าทำ ให้ริมเส้นของ เชลซีมีปัญหา โมโม่ หรือ มาสเค จะต้องกันบอลที่มาถึง เชฟเชนโก้ หรือมิดฟิลด์ตัวรุกของเชลซี ส่วน คาร์ราเกอร์ หรือแอ็กเกอร์ ต้อง คอยสกรีนดร็อกบาไม่ให้มีส่วนในเกม ถ้ามี ปีเตอร์ เคร้าช์ อยู่ในสนาม เคิร์ค เค้าท์ จะโดดเด่น เช่นเดียวกับ หากเลือก เบลลามี่ ลงคู่ เค้าท์ หัวหอกเวลส์จะเด่น ขึ้นมาเช่นกัน แต่ถ้า ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงเป็นตัวพักบอล แล้วทำได้ดีละก็ โอกาสที่เกมจะง่ายกว่าที่คิดก็มีสูง โดยเฉพาะถ้า บัลลัค กับ คาร์วัลโญ่ ลงไม่ได้จริงๆ ราฟา ต้องใช้การเจาะเข้าไปตรงนี้ จากลูกโด่ง จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 58 (17) เทอร์รี่ จะต้องเจองานหนักแน่ และเกมรุกของลิเวอร์พูล จะเป็นการสร้างพื้นฐานของเกมรับ เชลซี ก็มองจุดเดียวกัน พวกเขาหวังเกมแดนกลาง และดร็อกบาจะต้องเล่นให้ออก โอกาสที่จะมีลูกยิงตัดสินชั่วพริบตาก็เป็นไปได้ แต่ทีม ที่ดีกว่าน่าจะเป็นฝ่ายชนะ ทีมที่เล่นดีโดยรวมน่าจะทำได้สำเร็จมากกว่า เค้าท์, เคร้าช์ และเจอร์ราร์ด เป็นของตายที่ทุกคนคาดถึง การทำประตู เช่นเดียวกับ ดร็อกบา, เชว่า, แลมพาร์ด หรือโจ โคล แต่อยากให้จับตา ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ให้ดี พื้นที่ของเขากว้างกว่า คนอื่นๆ ในเกมนี้ หรือแม้แต่ เพนแน้นท์ หากราฟาเลือกลงสนาม ที่อาจจะ ทำสกอร์ได้ในเกมนี้ หรือกระทั่ง อาร์เบลัว, มาสเค, อลอนโซ่ แต่ 2 คนแรก มีโอกาสเซอร์ไพรซ์กว่า ผล 0-0, 1-1, 1-0, 2-0 หรือ 0-1 เป็นไปได้ที่สุดตามหน้าสื่อ ส่วนผมมองว่าจะอยู่ที่ 1-2 จากประตูของ เคร้าช์ และรีเซ่ ทำให้หัวหอกร่างโย่งได้ลุ้นดาวซัลโว แต่สกอร์ไหนก็ไม่สำคัญหากทีมได้ผ่านเข้ารอบต่อไป สำหรับ แฟนบอลทั้งสองทีม และตำแหน่งดาวซัลโวก็ไม่สำคัญมากนัก ทั้งหมดก็เป็นแค่เรื่องสมมุติ ของจริงต้องดูคืนวันพุธนี้... http://www.liverpoolthailand.com จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 09:45:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 เซ็งมิลานจริง ๆ ช่วงเชียร์ทั้งคืน ดีด้าดันแจ้งเกิดซะงั้น จากคุณ : Private Part - [ 25 เม.ย. 50 09:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 60 Thank you จากคุณ : Lu Xun - [ 25 เม.ย. 50 09:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับภาพ+ข่าวครับ คืนนี้พบกันเวลา 1.30 เป็นต้นไป ทางช่อง 3 , 7 และ 65 ทาง Truevision ครับ จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 - [ 25 เม.ย. 50 10:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โอมเพี้ยง! จากคุณ : ninue - [ 25 เม.ย. 50 10:04:49 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ขอฝันซักทีเถอะ เห็นกาก้า เล่นเมื่อคืนแล้วอยากได้ หงส์มี 40 ล้าน ซื้อ กาก้า ได้ป่าวน้า อยากได้ๆๆๆๆๆๆ ถ้าเอามาเล่นคู่ เจอราร์ด ระบบ 4-2-3-1  คงจะมันดีเนอะ จากคุณ : อะไรก็ได้45 - [ 25 เม.ย. 50 10:06:33 ]

ความคิดเห็นที่ 64 หงส์ สู้สู้ ปล. เจ็บใจไม่หายเมื่อคืน ไม่น่าเลยมิลาน ฮือ จากคุณ : rtype - [ 25 เม.ย. 50 10:08:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เซ็งดี๊ด๊า ด้วยคนครับ แบบอดหลับอดนอน เพื่อดูพี่แกแจ้งเกิดทดเจ็บซะงั้น วันนี้ลุ้นกันเต็มที่ครับพี่น้อง จากคุณ : ตัวตุ้ย - [ 25 เม.ย. 50 10:30:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 คืนนี้ ผมว่าเสมอ จากคุณ : สายน้ำตะวันออก - [ 25 เม.ย. 50 10:46:41 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ขอตอกบัตรก่อน เดี๋ยวขึ้นไปอ่าน (เบลอ+เซ็ง+เศร้ามาจากเมื่อคืน) จากคุณ : i am tabo - [ 25 เม.ย. 50 10:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 68 เข้ามารายงานตัวครับ คืนนี้ เชียร์หงส์แดงให้สุดฤทธิ์เลยครับ บุกไปชนะได้แน่นอน จากคุณ : กัปตันหงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 10:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 69 กาก้าสุดยอดครับ ถ้าเมือคืนโกลมิลานไม่ใช่ดีด้า แมนยูคงเหนื่อยมากกว่านี้ ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : Mesia_82 - [ 25 เม.ย. 50 10:57:21 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาแอบอ่านข่าวอลองโซ่ฮับ จากคุณ : MBA ฮาเฮ - [ 25 เม.ย. 50 11:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณสำหรับข่าวสารครับผม จากคุณ : neoheart (โมบี_ดิก) - [ 25 เม.ย. 50 11:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 72 thanks ka จากคุณ : nemo663 - [ 25 เม.ย. 50 12:03:46 ]

ความคิดเห็นที่ 73 หวังว่าหงส์คงจะชนะได้  ซึ่งมันไม่ง่ายเลย  -_-" คืนนี้ขั้นต่ำขอเสมอแบบมีสกอร์ล่ะกัน จากคุณ : JuRic - [ 25 เม.ย. 50 12:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 74 คืนนี้ขอสักลูกนะครับ จากคุณ : TeyTaey - [ 25 เม.ย. 50 12:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณคับ "พวกเขาไม่ยอมจ่ายแม้กระทั่งยาแอสไพรินให้ไมเคิ่ล โอเว่นนับตั้งแต่โยนการดูแลมาให้เรา" - เฟร็ดดี้ เชพเพิร์ดประธานสโมสรนิวคาสเซิ่ลประชดเอฟเอที่เอาเบบี้โกล์ไปใช้งานแล้วปัดความรับผิดชอบหลังเข่าพังจนพักเป็นปี เอาพาราเซตามอลแทนได้ป่ะ ^ ^ จากคุณ : Bearlandia - [ 25 เม.ย. 50 12:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 76 มาตอกบัตรครับ จากคุณ : peterflix - [ 25 เม.ย. 50 12:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มุมแดง......มุมน้ำเงิน แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 50 12:42:11 จากคุณ : peterflix - [ 25 เม.ย. 50 12:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 78 มุมแดง Vs มุมน้ำเงิน จากคุณ : peterflix - [ 25 เม.ย. 50 12:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สวัสดีค่ะ ^ ^ ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคนค่ะ ขอ no.555 นะคะ ^ ^ พรุ่งนี้จะได้มาฉลองด้วย ^ ^ จากคุณ : โลกมนุษย์นี่ช่างสนุกจริง ๆ - [ 25 เม.ย. 50 12:45:08 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ขอบคุณครับ ... คืนนี้ขอให้พวกเราโขคดี จากคุณ : Between Angels And Insects - [ 25 เม.ย. 50 12:47:04 ]

ความคิดเห็นที่ 81 Many thanks for news and pics krub. จากคุณ : No.84 (สมบัติล้ำค่าของวงการฟุตบอล) - [ 25 เม.ย. 50 12:47:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ในเมื่อเฮียมูบอกทีมเราได้เปรียบ ก็ขอให้สมพรปากเฮียมูนะ เรื่องใบเหลืองดร็อกบาด้วยนะขอให้คืนนี้ได้อีกซักเหลืองนะครับ ^^ จากคุณ : ชิววี่ - [ 25 เม.ย. 50 13:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สตีฟ แม็คมานานแล้ว - [ 25 เม.ย. 50 13:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ตอกบัตรครับ จากคุณ : ต้นตาล พ.ล. - [ 25 เม.ย. 50 13:45:53 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ความคิดเห็นที่ 79   สวัสดีค่ะ ^ ^ ขอสมัครเป็นสมาชิกด้วยคนค่ะ ขอ no.555 นะคะ ^ ^ พรุ่งนี้จะได้มาฉลองด้วย ^ ^ จากคุณ : โลกมนุษย์นี่ช่างสนุกจริง ๆ  - [ 25 เม.ย. 50 12:45:08 ] ------------------------------------------------ วันนี้คงอัพให้ได้แค่เบอร์ 511 ครับ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 25 เม.ย. 50 14:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ลงชื่อ จากคุณ : จ๊ากกกกก - [ 25 เม.ย. 50 14:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 87 มารายงานตัว จากคุณ : wthep - [ 25 เม.ย. 50 14:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณครับ  แล้วพบกันคืนนี้ จากคุณ : MAD MAN_TO - [ 25 เม.ย. 50 14:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณครับสำหรับอัพเดท คืนนี้ลุ้นเต็มที่ สู้ๆครับ จากคุณ : ChocolateMousse - [ 25 เม.ย. 50 14:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล #39 พอจบการแข่งขันพวกเราเหล่าหงส์แดง ก็จะนอนหลับฝันดีครับ จากคุณ : สำลี ณ.แอนฟิลด์ - [ 25 เม.ย. 50 14:53:58 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขอบคุณครับสำหรับข่าวอันมากมายจนเต็มอิ่ม จากคุณ : 456 (barnes) - [ 25 เม.ย. 50 16:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92 มาลงชื่อ ตอกบัตรด้วยคนครับ จากคุณ : onesider - [ 25 เม.ย. 50 16:11:48 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ตอกบัตรค่า เซ็งมิลานเมื่อคืน ร่วมเชียร์หงส์คืนนี้ สู้! fighting! จากคุณ : Sommerbrise - [ 25 เม.ย. 50 16:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 94 thx 4 news krab จากคุณ : red wings - [ 25 เม.ย. 50 16:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบบพี่น้อง จากคุณ : wi_pae - [ 25 เม.ย. 50 16:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 96 คืนนี้มาร่วมส่งแรงใจไปให้ทีมของเรากันค่ะ หงส์แดงสู้ๆ จากคุณ : แล้วเราก็จะพบกัน - [ 25 เม.ย. 50 16:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 97 คืนนี้อย่าแค่ลุ้นอย่างเดียวค่ะ ต้องช่วยกันส่งกำลังใจให้ทีมของพวกเราด้วยน่ะ ไม่เอาเสมอจะเอาชนะเท่านั้น จากคุณ : เขาแก้ว - [ 25 เม.ย. 50 17:14:43 ]

ความคิดเห็นที่ 98 หงส์สู้ๆๆๆ จากคุณ : bellmotte - [ 25 เม.ย. 50 17:40:53 ]

ความคิดเห็นที่ 99 คืนนี้เชียร์เต็มที่ ... \(^_^)/ จากคุณ : รุ้งกินน้ำตัวอ้วน - [ 25 เม.ย. 50 17:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ... จากคุณ : บ้านน้อก...บ้านนอก - [ 25 เม.ย. 50 18:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 101 อ่านอย่างเดียวมานาน ขอลงชื่อเป็นสมาชิกด้วยคนคับ หมายเลขอะไรก็ได้ ขอบคุณคับ จากคุณ : guiltyinlovesmokingherb - [ 25 เม.ย. 50 18:04:39 ]

ความคิดเห็นที่ 102 คืนนี่สถิติไม่แพ้ใครใน รังตัวเอง ต้องโดนเราทำลาย แน่นอน อาฮ่อย อาฮ่อย อิอิอิ จากคุณ : At The End[less] - [ 25 เม.ย. 50 18:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 103 511 ก็ได้ค่ะ T T จากคุณ : โลกมนุษย์นี่ช่างสนุกจริง ๆ - [ 25 เม.ย. 50 18:27:19 ]

ความคิดเห็นที่ 104 หงส์แดงสู้ๆๆๆๆ หวังว่าคืนนี้คงหลับฝันดีหลังการแข่งขัน จากคุณ : nando19 - [ 25 เม.ย. 50 20:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ปีนี้แชมป์เดียวพอ อิอิ สู้ๆ จากคุณ : คนโคราช - [ 25 เม.ย. 50 20:13:12 ]

ความคิดเห็นที่ 106 สู้ๆครับ จากคุณ : [a]hiT - [ 25 เม.ย. 50 21:20:37 ]

ความคิดเห็นที่ 107 สู้ ๆ สู้ ตายยยยยย!!!! จากคุณ : ShoEiz - [ 25 เม.ย. 50 21:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณสำหรับข่าว ครับ คืนนี้ เชิญชวนชาว the KOP ทุกท่าน ร่วมเป็นกำลังใจให้ทีมที่เรารัก ชนะให้ได้คร๊าบบบบ   จากคุณ : Batty_Bounce - [ 25 เม.ย. 50 22:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 109 หงส์สู้ๆนะ จากคุณ : mars_kop - [ 25 เม.ย. 50 22:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 110 เอาใจไปเชียร์อย่างเงียบสงบ และหวังว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะมีความสุขด้วยกัน จากคุณ : ณ ดินแดนแห่งความบ้าคลั่ง (CrazySpace) - [ 25 เม.ย. 50 23:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 111 198 มาแล้วครับ ... จากคุณ : Assembly - [ 26 เม.ย. 50 01:20:01 ]

ความคิดเห็นที่ 112 [รายงานสด] Chelsea h2h Liverpool จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 26 เม.ย. 50 01:33:31 ]