 |
.::: [ Theatre Of Dreams : โรงละครแห่งความฝัน ] EPL Match Day : EVERTON 2 - 4 MAN UTD ~* 04:29:2007 :::.
รายงาน : เอฟเวอร์ตัน 2 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4
แมนฯยูฯขยับเข้าใกล้ความสำเร็จในพรีเมียร์ชิพอีกก้าวใหญ่ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในครึ่งหลังของเกมที่กูดิสัน ปาร์ค
ทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งตามหลังเอฟเวอร์ตันอยู่ 1-0 ในช่วงพักครึ่ง ต้องตามหลังเพิ่มอีกหนึ่งประตูในครึ่งหลังก่อนจะยิงประตูแซงกลับมาชนะได้สำเร็จ และทำคะแนนทิ้งห่างเชลซีที่ทำได้แค่เสมอกับโบลตันในบ้าน 2-2 ไปเป็น 5 แต้มแล้ว
แมนฯยูฯคิกออฟเกมแรกของ 4 นัดสุดท้ายในพรีเมียร์ชิพที่เหลืออยู่โดยไม่มีชื่อของนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA รวมอยู่ด้วย ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงในสนามของเอฟเวอร์ตันได้แต่สงสัยว่ามันเป็นเรื่องของแท็คติกก่อนเดินทางไปเยือนมิลาน หรือคริสเตียโน่ โรนัลโด้จะโดนอาถรรพณ์อาการบาดเจ็บที่เล่นงานแผงหลังของทีมอยู่ไปอีกคน
ในที่สุดมันก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นอย่างหลังแต่ยังโชคดีที่ไม่ใช่ปัญหารุนแรงนัก แค่เป็นการป้องกันไว้ก่อนเท่านั้น
เอฟเวอร์ตันได้ลูกเตะมุมลูกแรกในนาทีที่ 2 และจากการเปิดบอลเข้ามาจากฝั่งขวาพวกเขาก็กือบจะได้ประตูขึ้นนำเมื่อโจเลียน เลสคอตต์ กองหลังของทีม ขึ้นโหม่งลูกเปิดของมิเคล อาร์เตต้าโล่งๆไปชนคาน
การพลาดของเลสคอตต์ถือเป็นความโล่งใจของแมนฯยูฯ แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นในลูกตั้งเตะครั้งต่อไปในนาทีที่ 12 เมื่ออาร์เตต้าถูกปาทริซ เอฟร่าทำฟาวล์ อลัน สตั๊บส์รับหน้าที่ยิงฟรีคิกเรียดแฉลบไมเคิ่ล คาร์ริคที่เหยียดขาออกมาสกัดทำให้บอลผ่านมือเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไป และเมื่อเกมกลับมาเล่นกันต่อแมนฯยูฯก็ต้องใจหายใจคว่ำยิ่งขึ้นเมื่อโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ดูเหมือนจะมีปัญหากับอาการบาดเจ็บ
แมนฯยูฯยังไม่สามารถตั้งเกมได้ ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินทำเกมรุกท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนบอลที่ต้องการชัยชนะนัดนี้เพื่อระลึกถึงอลัน บอลล์ อดีตนักเตะระดับตำนานของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งเสียชีวิตไปในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยวัย 61 ปี
เวย์น รูนี่ย์ อดีตฮีโร่ของกูดิสัน ปาร์คอีกคน เกือบจะตีเสมอให้แมนฯยูฯได้จากโอกาสที่จะแจ้งครั้งแรกหลังจากผ่านไป 20 นาที เขาได้รับบอลจากการจ่ายข้ามฟากมาให้อย่างยอดเยี่ยมของพอล สโคลส์ ก่อนจะตวัดยิงยัดเสาแรกของเอียน เทอร์เนอร์ ซึ่งลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ชิพเป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็เซฟเอาไว้ได้อย่างมั่นใจ
อลัน สมิธ คู่หูในเกมรุกของรูนี่ย์ มีโอกาสที่ดียิ่งกว่าเมื่อเขาประสานงานกับไรอัน กิ๊กส์ที่หน้ากรอบเขตโทษของเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่กัปตันทีมแมนฯยูฯในนัดนี้จะแตะบอลทะลุช่องระหว่างสตั๊บส์และลี คาร์สลี่ย์มาให้ แต่สมิธยิงหลุดกรอบออกไป
การบดเบียดกันด้วยพละกำลังระหว่างเจมส์ วอนและกาเบรียล ไฮน์เซ่เกิดขึ้นตลอดครึ่งแรก เมื่อนักเตะทั้งคู่ต่างพายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด และเป็นวอน ซึ่งเป็นหัวหอกคนเดียวของเอฟเวอร์ตันที่ฟิตพอ ที่ถูกผู้ตัดสินอลัน ไวลี่ย์แจกใบเหลืองไปในนาทีที่ 29 จากการทำฟาวล์กองหลังอาร์เจนไตน์
สโคลส์โชว์การจ่ายบอลที่เหนือชั้นอีกครั้งในนาทีที่ 37 ด้วยการโยนบอลจากขวาไปซ้ายให้กิ๊กส์วอลเลย์ในจังหวะแรกกลับไปที่หน้าประตูเอฟเวอร์ตัน แต่รูนี่ย์พุ่งเข้าชาร์จไม่ถึงบอล
เอฟเวอร์ตันถูกกดันอย่างหนักแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่มีอันตรายอะไรมากนักที่หน้าประตูของเทอร์เนอร์ แม้แต่ลูกฟรีคิกที่เปิดไปหน้าประตูของกิ๊กส์ก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับนายประตูที่อ่อนประสบการณ์ของเอฟเวอร์ตันได้ก่อนจะหมดครึ่งแรก โดยบอลโค้งไปถึงเสาไกลโดยมีไฮน์เซ่เป็นนักเตะในเสื้อสีแดงคนเดียวที่พยายามจะเข้าเล่นบอลแต่ไม่ถึง
ครึ่งแรกจบลงโดยไฮน์เซ่มีปัญหาอยู่ที่อีกฝั่งของสนาม จากการปะทะกับอาร์เตต้าจนกลายเป็นนักเตะแมนฯยูฯคนแรกที่รับใบเหลืองไป เขายังโชคดีที่ฟรีคิกลูกนั้นไม่ได้กลายเป็นบทลงโทษซ้ำสองสำหรับการกระทำที่บุ่มบ่ามของเขา
แมนฯยูฯเริ่มต้นครึ่งหลังได้ดีโดยได้ลูกเตะมุมสองครั้งและมีโอกาสลุ้นประตูสองครั้ง กองหลังเอฟเวอร์ตันต้องบล็อกลูกยิงของรูนี่ย์เอาไว้ก่อนที่ลูกยิงของสโคลส์จะถูกป้องกันไว้ได้อีก แต่หลังจากนั้นจู่ๆมานูเอล เฟอร์นานเดสก็ยิงให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 2-0 อย่างเหนือความคาดหมาย เมื่อเขาแตะบอลจากการจ่ายของอาร์เตต้าหลบเวส บราวน์ไปได้ก่อนจะตะบันเต็มเหนี่ยวเสียบสามเหลี่ยมซ้ายมือของฟาน เดอร์ ซาร์เข้าไป ครึ่งหลังผ่านไป 5 นาทีและแมนฯยูฯตามหลัง 2-0
เทอร์เนอร์ต้องทำหน้าที่ทันทีที่อีกฟากของสนามไม่นานหลังจากนั้น และเขาก็ยงไม่ผิดพลาดเมื่อพุ่งออกไปบล็อกลูกที่รูนี่ย์ได้จิ้มบอลจากการจ่ายมาให้ของกิ๊กส์ ฟรีคิกจากปีกชาวเวลส์ก็ถูกเทอร์เนอร์เซฟไว้ได้สบายๆ โดยไม่ถูกนักเตะแมนฯยูฯคนใดเข้าไปกดดัน
เซอร์อเล็กซ์เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกในนาทีที่ 56 แต่ไม่ใช่สิ่งที่แฟนบอลแมนฯยูฯหวังหรืออยากจะได้เห็น เป็นคีแรน ริชาร์ดสันที่ถูกส่งลงไปแทนปาทริซ เอฟร่าที่เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้เกิดการเดาไปต่างๆนาๆว่าอาการบาดเจ็บของโรนัลโด้อาจจะรุนแรงกว่าที่คิด หรือไม่อย่างนั้นกุนซือทีมปีศาจแดงอาจจะแค่เก็บปีกรายนี้เอาไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ จากการรู้ว่าเชลซียังเสมอกับโบลตันอยู่ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
ทิศทางของเกมเปลี่ยนมาอยู่ฝั่งแมนฯยูฯบ้างเมื่อเทอร์เนอร์ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ไม่มีใครเข้าไปกดดัน แต่เขารับลูกเตะมุมจากฝั่งขวาของกิ๊กส์หลุดมือ และจอห์น โอเชีย ซึ่งเป็นตัวแสบแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ ก็แก้คืนมาได้หนึ่งลูกจากการยิงง่ายๆเข้าไป เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำที่อีกฟากของสแตนลี่ย์ ปาร์คมาแล้วคือที่แอนฟิลด์เมื่อเดือนมีนาคม ดาวเตะร่างใหญ่ชาวไอริชไปอยู่อย่างถูกที่ถูกเวลาอีกครั้ง
ฟิล เนวิลล์ อดีตเพื่อนร่วมทีมของโอเชีย เป็นคนที่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาในมุมมองของเอฟเวอร์ตัน เมื่อโรนัลโด้ ซึ่งถูกส่งลงสนามในที่สุด โหม่งบอลมาที่หน้าประตูจากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายของกิ๊กส์ จังหวะแรกบอลถูกบล็อกไว้ได้แต่เนวิลล์ไม่สามารถทำงานให้จบได้และแทนที่จะสกัดบอลที่หลุดมาเข้าทางทิ้งไปได้ เขากลับสกัดบอลเข้าประตูตัวเองไป แฟนบอลปีศาจแดงส่งเสียงเฮอย่างโล่งอกกับการตีเสมอได้สำเร็จ ขณะที่นักข่าวเริ่มสงสัยว่าโชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของเชลซี จะพูดยังไงถึงการทำเข้าประตูตัวเองลูกนี้ ซึ่งมาจากน้องชายของกัปตันทีมแมนฯยูฯ
ฟาน เดอร์ ซาร์แทบไม่มีงานต้องทำอีกเลยหลังจากเสียประตูสุดสวยลูกที่สองให้เอฟเวอร์ตันไป แต่เขาก็ต้องเซฟลูกฟรีคิกของอาร์เตต้าไว้ในช่วงกลางครึ่งหลัง ขณะที่เทอร์เนอร์ดูจะเป็นคนที่งานยุ่งกว่ามาก เขาต้องวิ่งออกมานอกเส้นมากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อสกัดลูกที่รูนี่ย์พาบอลทะลุไปที่หน้าประตู
อย่างไรก็ตาม เทอร์เนอร์ก็หมดปัญญาป้องกันเมื่อรูนี่ย์ได้บอลจากการเปิดแฉลบเข้ามาของโอเชีย เขาแตะหลบฮิบเบิร์ตที่พุ่งพรวดเข้ามาสกัดและยิงอย่างใจเย็นเข้าไปเป็นประตูที่สามให้แมนฯยูฯขึ้นนำเป็นครั้งแรกในเกม และทำคะแนนทิ้งห่างเชลซีที่ยังเสมอกับโบลตันอยู่ออกไปอีก
โรนัลโด้มีโอกาสสองครั้งที่จะทำประตูที่สี่ให้แมนฯยูฯได้ แต่เขาก็ถูกเทอร์เนอร์ปฏิเสธเอาไว้ได้เยี่ยมทั้งสองครั้ง แต่เป็นคริส อีเกิ้ลส์ ซึ่งลงไปแทนโซลชาร์ ที่ยิงประตู 4-2 ได้จากการยิงไซด์เสียบเสาไกล
ประตูนี้ตอกย้ำสถานะที่ดียิ่งขึ้นของแมนฯยูฯในการลุ้นแชมป์ โดยมีคะแนนนำเชลซีไป 5 แต้มและต้องการอีก 5 แต้มเป็นอย่างมากในการคว้าแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ไปครอง
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :
เอฟเวอร์ตัน : เทอร์เนอร์ 4,ฮิบเบิร์ท 6,โยโบ้ 6,สตับบ์ 7,เลสค็อตต์ 6,อาร์เตต้า 8,เนวิลล์ 6,คาร์สลี่ย์,เฟอร์น็องเดซ 7,ออสมัน 6(แม็คฟาดเด้น น.72),วอห์น 6(บีตตี้ น.72)
สำรองไม่ได้ใช้ : ริชาร์ด ไรท์,เนย์สมิธ,ฟาน เดอร์ เมย์เด้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ซาร์ 6,จอห์น โอเช 7,เวส บราว์น 6,กาเบรียล ไฮนเซ่ 6,ปาทริซ เอวร่า 6(ริชาร์ดสัน น.56,6),โอเล่น กุนนาร์ โซลชา 6(อีเกิ้ลส์ น.86),พอล สโคลส์ 7,ไมเคิ่ล คาร์ริค 7,ไรอัน กิกส์ 8,เวย์น รูนี่ย์ 9,อลัน สมิธ 6(โรนัลโด้ น.63,7)
สำรองไม่ได้ใช้ : คูสแซ็ค,ลี
Credit :: MANUTDTH.COM http://www.manutdth.com
Rating :: ซอกเกอร์ซัก http://www.soccersuck.com
จากคุณ :
:: AdvanceTactics :: 
- [
29 เม.ย. 50 12:57:22
]
|
|
|
|
|
|
