ความคิดเห็นที่ 1 3 ปีหลังจากร่วมเล่นกับทีม ดันเฟิร์มลิน เขาก็ย้ายออกจากทีมด้วยค่าตัว 65,000 ปอนด์ เพื่อไปอยู่กับทีมบ้านเกิดของเขาคือ เรนเจอร์ส นั่นเอง ความใฝ่ฝันที่คิดไว้ในถิ่น ไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยม กลับไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ เขาล้มเหลวในการเล่นให้กับทีมในฝันของเขา และถูกขายให้กับ ฟอลเคิร์ก ในปี 1969 ที่ซึ่งเขาได้เริ่มต้นชิมลางการเป็นโค้ชอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะย้าย ไปเล่นกับ เอวายอาร์ ยูไนเต็ด ในปี 1973 แต่กลับกลายเป็นทางแยกให้กับอาชีพค้าแข้งของเขา จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 14:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อเขาอายุได้ 32 ปี เขาก็ประกาศแขวนสตั๊ด และหันหน้าเข้ามาเริ่มเป็นผู้จัดการทีมกับ สโมสร อีสต์ สเตอร์ลิง ในเดือนกรกฎาคม 1974ย้ายไปคุมทีม เซนต์ เมอร์เรน ในดิวิชั่น 1 ในเดือน ตุลาคม ปีเดียวกัน ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อนำทีมคว้าถ้วยแชมป์ในปี 1976/77 แต่แทนที่คุมทีมต่อไปด้วยตัวผู้เล่นที่จำกัด อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลับลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีม เนื่องจากมีการโต้เถียงเกิดขึ้น ระหว่างตัวเขาเองและประธานสโมสร ลาออกจาก เซนต์ เมอร์เรน และมีหลายสโมสรใน สกอตแลนด์ ที่สนใจดึงเขามาคุมทีม แต่เขาเลือกที่จะไปอยู่กับ อเบอร์ดีน ในเดือนสิงหาคม ปี 1978 จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 14:52:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เขาได้สร้างทีมที่แข่งแกร่งขึ้นมาเท่าเทียมกับทีมใหญ่ๆ อย่าง เรนเจอร์ส และ เซลติก ในช่วงเวลาที่แสนสั้น โดยส่งผลให้เขานำทีมคว้าแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก ถึง 3 ครั้ง, สกอตติช คัพ 4 ครั้ง และ ลีก คัพ 1 ครั้ง ในยุค 80 เหนือสิ่งอื่นใดชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาทำได้ ก็คือในปี 1983 เมื่อเขานำทัพขุนพล อเบอร์ดีน เอาชนะ เรียล มาดริด ได้ 2 - 1 ในศึก ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เมื่อเขาได้เข้ามาคุมทีมชาติ สกอตแลนด์ ชั่วคราวในศึกฟุตบอลโลกที่ เม็กซิโก ในปี 1986 แทนที่ จ็อค สตีน ที่เสียชีวิตลง แล้วเขาก็ปฏิเสธข้อเสนอจาก บาร์เซโลน่า, อาร์เซนอล, เรนเจอร์ส และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส เพื่อเข้ามาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจาก รอน แอตกินสัน ในวันที่ 7 พฤศจิกายน ปี 1986 จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 14:54:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การเข้ามาคุมทีม "ปีศาจแดง" ของเขาเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เขาตั้งใจที่จะลาออกจากการคุมทีม ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เช่นกัน เมื่อเขาทำได้ไม่เหมือนกับที่เคยนำทีมจาก สกอตแลนด์ ประสบความสำเร็จมาแล้ว โดยในปี 1988 เขาพาทีมได้ที่ 2 ในลีก รองจาก ลิเวอร์พูล และต่างได้รับเสียงโห่ร้องจากแฟนบอลทั่วสนามว่า "Fergie out" ให้เขาลาออกจากทีม แต่เบื้องหลังความพ่ายแพ้ของทีมจะมีใครรู้บ้างว่าเขากำลังสร้างทีมขึ้นมาใหม่และได้ปรับปรุงระบบทีมเยาวชนใหม่ ซึ่งเขาคิดว่ามันจะส่งผลดีต่อเขาในระยะยาว จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 14:55:40 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มกราคม ปี 1990 การพ่ายแพ้อย่างยับเยินต่อทีมร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5 - 1 ทำให้เขามีงานหนักที่ต้องรับมือ ในศึก เอฟเอ คัพ รอบที่ 3 เมื่อต้องพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ในนัดนี้ นั่นก็หมายถึง จุดจบของเขา ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อนาคตของ เฟอร์กี้ ยังไม่จบลงในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ง่ายๆ และเขาต้องขอบคุณ มาร์ค โรบินส์ นักเตะซึ่งลงเป็นตัวสำรองให้กับทีม ช่วยยิงประตูชัยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ฟอเรสต์ ไปได้ 1-0 และช่วยยืดอายุการคุมทีมของเขาออกไปได้ นับตั้งแต่ชัยชนะครั้งนั้น ก็เกิดจุดเปลี่ยนให้กับทั้ง เฟอร์กี้ และทีมปีศาจแดง จนท้ายที่สุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเก็บชัยชนะมาได้ตลอดและได้ชูถ้วย เอฟเอ คัพ โดยการเอาชนะ คริสตัน พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 1 – 0 จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 14:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คว้าแชมป์ได้ในปีถัดมา คือ ปี 1992 โดยหลังจากนั้น ลีกสูงสุดของอังกฤษ ก็เปลี่ยนชื่อจาก ดิวิชั่น 1 เป็น พรีเมียร์ชิพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นปีแรกได้ดีทีเดียวด้วยการคว้าถ้วย พรีเมียร์ชิพ ถ้วยแรกของประวัติศาสตร์ โดยการนำทีมของผู้ชายที่ชื่อว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทีมปีศาจแดงเริ่มต้นฤดูกาลด้วยฟอร์มที่แสนจะธรรมดา แต่สิ่งที่สร้างความฮือฮามากเป็นพิเศษในเดือน พฤศจิกายน นั่นคือการย้ายทีมของ เอริค คันโตน่า จาก ลีดส์ ยูไนเต็ด มายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด และความน่าทึ่งของนักเตะชาวฝรั่งเศสผู้นี้ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือ จิ๊กซอว์ ตัวสำคัญของ เฟอร์กี้ ในการพาทีมคว้าถ้วย พรีเมียร์ชิพ มาครองได้อีกสมัย จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในฤดูกาล 1993/94 แฟนบอลปีศาจแดงก็ได้รับข่าวดีอีกครั้งกับการมาของนักเตะของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ชื่อ รอย คีน ด้วยค่าตัวมูลค่า 3.5 ล้านปอนด์ และเป็นการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของสโมสร กับการคว้า ดับเบิ้ลแชมป์ คือ แชมป์พรีเมียร์ชิพ โดยเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ เอฟเอ คัพ ชนะ เชลซี 4 – 0 จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อถึงฤดูกาล 1995/96 ทีมกลับไม่มีนักเตะที่เคยมีส่วนสำคัญต่อทีมอย่าง เอริค คันโตน่า, มาร์ค ฮิวจ์ส, อังเดร แคนเชลสกี้ส์ และ พอล อินซ์ เพราะภาพต่างๆ เกี่ยวกับพวกเขากลับถูกลบด้วย นักเตะเด็กๆ ซึ่งมีรุ่นพี่อย่างคันโตน่า คอยประคับประคองเกม และพวกเขาก็สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ให้กับทีม ซึ่งในขณะนั้นมีนักเตะที่อายุต่ำกว่า 21 ปีมากกว่า 5 คนในทีมและพวกเขาเองก็เลื่อนชั้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสรนั่นเอง จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:03:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อมา ความคาดหวังในฤดูกาลหลังๆ ของทีมก็อยู่ในระดับที่สูงตลอด และในช่วงซัมเมอร์ เฟอร์กี้ ก็ได้ซื้อโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และ รอนนี่ ยอร์นเซ่น เข้ามาร่วมทีม และในเดือนพฤศจิกายน 1996 เฟอร์กี้ ก็ฉลองการคุมทีมครบ 10 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ และในฤดูกาลนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าถ้วยพรีเมียร์ ลีก มาครองเป็นถ้วยที่ 4 ของสโมสร และก็เป็นอีกครั้งที่เฟอร์กี้ ได้รางวัล “ผู้จัดการทีมแห่งปี” จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วเขาก็ได้นำพา เด็กสร้าง มาแนะนำตัวให้กับวงการฟุตบอลในระดับมืออาชีพ ได้แก่ เดวิด เบ็คแฮม, แกรี่ เนวิลล์, ฟิล เนวิลล์, พอล สโคลส์, นิคกี้ บัตต์ และ ไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งเป็นเด็กปั้นขึ้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสรเพื่อมาทดแทน นักเตะสูงอายุ เช่น มาร์ค ฮิวจ์ส, พอล อินซ์ และ อังเดร แคนเชลสกี้ส์ ทำให้ทุกฝ่ายต่างก็จับตามองทีมของเขาอย่างไม่ละสายตา จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มเปิดตัวได้ไม่ดีนักกับนักเตะหนุ่มๆ พวกเขาพ่ายแพ้ในช่วงแรกของฤดูกาล จนมีคนค่อนแคะว่า “คุณจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้กับเด็กๆ พวกนี้หรอก” แต่แล้วคำพูดนี้ ก็กลับไปหลอกหลอนคนพูดเองเมื่อ “เด็กสร้างของเฟอร์กี้” เหล่านี้ ช่วยพาทีมไปคว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง ถือเป็นครั้งที่ 4 ใน 5 ฤดูกาล จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ฤดูกาล 1998/99 เมื่อทีมสามารถสร้างปาฏิหารย์ คว้า 3 แชมป์ พรีเมียร์ ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูโรเปี้ยน คัพ และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมที่ยังทำงานอยู่คนแรกที่ ได้เดินทางไปยังพระราชวังบัคกิ้งแฮม เพื่อรับพระราชทานตำแหน่ง “ท่านเซอร์” จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 13 และก่อให้เกิดศูนย์หน้าคู่ใหม่ในวงการ โดย เฟอร์กี้ ได้จับคู่ แอนดี้ โคล เป็นศูนย์หน้าร่วมกับ ดไวท์ ยอร์ค และได้รับการขนานนามว่า “คู่หูผิวสี” และพวกเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง เมื่อช่วยให้ทีมปีศาจแดง คว้า 3 แชมป์ได้เป็นหนแรก คือแชมป์พรีเมียร์ชิพ และ เอฟเอ คัพ โดยเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2 - 1 และในศึก ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบัน ในรอบชิงชนะเลิศ พวกเขาต้องพบกับ บาเยิร์น มิวนิค โดยถูกยิงนำไปก่อน 1-0 แต่เมื่อมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น ซูเปอร์ซับ อย่าง เท็ดดี้ เชอริงแฮม มาทำประตูตีเสมอได้ และเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่มายิงประตูชัยปิดท้าย 2 - 1 อย่างเหลือเชื่อ จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ปี 2000/01 เมื่อนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง และในครั้งนี้พวกเขาคว้าแชมป์ตั้งแต่เดือนมกราคมเลยทีเดียว เมื่อมีแต้มนำทีมอันดับ 2 อย่างอาร์เซนอล ถึง 15 แต้ม จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ฤดูกาล 2001/02 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจบฤดูกาลมือเปล่าเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 13 ปี แต่สโมสรก็ได้รับข่าวดีว่า เซอร์ อเล็กซ์ ตัดสินใจที่จะต่อสัญญากับทีมออกไปอีก 3 ปี รวมทั้งการที่ทีมซื้อตัวศูนย์หน้าอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย และฟอร์มของเขาก็ไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวัง เมื่อเขาทำประตูได้ถึง 36 ประตูในฤดูกาลแรก จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ฤดูกาล 2002/03 เขาก็สามารถนำทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกได้อีกเป็นครั้งที่ 8 ในรอบ 11 ปี จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:12:41 ]

ความคิดเห็นที่ 17 และในปีนี้ 2006/2007 เฟอร์กี้ ก็พาทีมคว้าแชมป์ EPL ได้อีกครั้ง ถึงแม้จะพลาด ถ้วยยุโรบ และ FA cup ปล. #49 ขอบคุณคะ พอดี รีบไปหน่อยเมื่อวาน  เลยพิมพ์ผิดจนได้ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 50 08:03:50 จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:14:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ความกระหายในชัยชนะของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงไม่หมดลงง่ายๆ  และเขาจะยังอยู่กับทีมต่อไปเพื่อนำทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไล่ล่าถ้วยแชมป์มาสู่ "โรงละครแห่งความฝัน" ต่อไป จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สำหรับเรา ณ ตอนนี้ ไม่ว่าป๋าจะนำทีมชนะหรือแพ้ จะเดินออกจากโอลแทรฟฟอร์ด หรือ ยังอยู่ต่อ เค้าก็คือ ฮีโร่ และ เป็นผู้จัดการที่มที่ยอดเยี่ยมในใจเราตลอดไป Ferguson United  and Smith     5 5 5 อยากจะบอกแฟนๆว่า ไม่ว่าจะ พลาดบ้าง หรือ ไม่ได้ดังใจบ้าง น่าจะให้กำลังใจเค้า มากกว่า ออกมาด่าทอ ตะโกนไล่ เพราะหลายๆปีที่ผ่านๆมา เค้าทำไรให้กับสโมสรไว้เยอะแยะ ทำให้เรายิ้ม ทำให้เราหัวเราะ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 50 15:33:22 แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 50 15:31:57 จากคุณ : fan_man_u - [ 21 พ.ค. 50 15:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อิอจบยังหว่า ชอบรุปสุดท้ายจังเลย55+ จากคุณ : Striker no.9 - [ 21 พ.ค. 50 15:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 5555 ว่าแล้วทำไมป๊ะป๋าถึงชอบมิตตี้นัก ว่าไงว่าตามกันตลอด เฟอร์กี้เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งในแง่ของผลงาน และความเป็นมนุษย์ ถ้าวันไหนป๋าไม่อยู่กับทีม ไม่รู้จะรับได้ยังไงเหมือนกัน จากคุณ : cirE - [ 21 พ.ค. 50 15:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 พึ่งจะเคยเห็นรูปสมัยยังเป็นนักฟุตบอล ขอบคุณครับ ^_^ จากคุณ : เซียวฟง (ผีเฮี้ยน) - [ 21 พ.ค. 50 15:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอให้ป๋าอยู่กับทีมไปนานๆนะครับ...^^ จากคุณ : Khomritz - [ 21 พ.ค. 50 15:36:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อุๆๆ นับถ้วยแล้ว ยังไง ป๋าเราก้อมีดี แหละฟระ จากคุณ : vn, man - [ 21 พ.ค. 50 15:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณนะที่หามาให้อ่าน นึกภาพไม่ออกเหมือนกันนะถ้าแมนยูไม่มีป๋า มันจะเป็นยังไง ไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลย ขอบคุณป๋า สำหรับความสุขที่ป๋าทำให้กับแฟนๆปีศาจแดง รักป๋าจัง อิอิ จากคุณ : ManRed - [ 21 พ.ค. 50 15:40:01 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากๆๆๆเลยครับ จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 21 พ.ค. 50 15:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับ....รักป๋ามากมายครับ จากคุณ : กระแตตาโต - [ 21 พ.ค. 50 15:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ป๋าน่ารัก คึกคักเวลาลงเล่น... จากคุณ : ขอบชีสหนานุ่ม - [ 21 พ.ค. 50 15:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29 The Living Legend of United !! ไม่ว่าจะยังไง  ผลงานของป๋าก็ไร้เทียมทานคนหนึ่งล่ะครับ ยังไงๆ  ก่อนจะเลิกคุมก็ขอแชมป์อีกซัก 4-5 ใบก็แล้วกันนะป๋า จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 21 พ.ค. 50 15:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ช่วยโหวต...ให้แฟนผีได้อ่านกันถ้วนหน้า ยังไงก็รัก...ป๋าแพนด้า ป๋าแพนด้า จากคุณ : P-PRESENT - [ 21 พ.ค. 50 16:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ป๋าเฟอร์กี้ ป๋าเฟอร์กี้ ป๋าเฟอร์กี้ ป๋าๆ เฟอร์กี้ ป๋าเฟอร์กี้ ดูช่างน่ารัก อยากรู้จักนัก เพราะรักป๋าเฟอร์กี้ Scottish A&BC of Sir Alex from the 70-71 season จากคุณ : K-modjung - [ 21 พ.ค. 50 16:02:31 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ไม่ว่านานสักเพียงใด...ไม่เคยเปลี่ยน Alex Ferguson at Falkirk จากคุณ : K-modjung - [ 21 พ.ค. 50 16:03:28 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รักป๋าคนเดียว Alex Ferguson at Rangers จากคุณ : K-modjung - [ 21 พ.ค. 50 16:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เด็ดขาดอยางไร้เทียมทาน ............................... Th เฟอร์กี้ .... มีปัญหาเจอลูกน้องกรูได้ จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งเพียงมีรัก... - [ 21 พ.ค. 50 16:06:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ป๋าตอนหนุ่มๆ นี่น่ารักน่าจีบ จากคุณ : ปโยนิธิ - [ 21 พ.ค. 50 16:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เกิดเมื่อ 31 ธันวาคม 1941 ที่เมือง Govan, Glasgow ประเทศ Scotland 1957 : ร่วมทีมควีนส์ปาร์ค ในฐานะนักเตะสมัครเล่นและเป็นลูกจ้างฝึกหัด ในโรงงานที่กลาสโกว์ 1960 : ร่วมทีมเซนต์ จอห์นสโตน 1964 : ย้ายไปเล่นให้ทีมดันเฟิร์มลิน 1967: ย้ายไปเล่นให้ทีมเรนเจอร์ส ด้วยค่าตัว 65,000 ปอนด์ 1969 : ถูกเลหลังให้ฟัลเคิร์ก ด้วยค่าตัว 20,000 ปอนด์ 1974 : เป็นผู้จัดการทีมอีสต์ สเตอร์ริ่ง ในเดือนกันยายน 1977 : ย้ายไปคุมทีมเซนต์ เมียร์เรน แต่อีกหนึ่งปีถูกปลดออกจากตำแหน่งไปรับช่วงเป็นผู้จัดการทีมอเบอร์ดีนต่อจาก บิลลี่ แม็คนีลส์ 1985 : คุมทีมสก็อตแลนด์ชั่วคราวไปแข่งฟุตบอลโลกปี 1986 ที่เม็กซิโก แทน จ๊อดสตีน แต่นำทีมตกรอบแรกในการแข่งขันรอบสุดท้าย 1986 : เดือนพฤศจิกายน ตัดสินใจรับงานผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ต่อจาก รอน แอ๊ตกินสัน จนถึงปัจจุบัน รักป๋าที่สุด จากคุณ : K-modjung - [ 21 พ.ค. 50 16:10:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบรูปป๋ากะมิตตี้จัง อิอิ จากคุณ : poojo_ke - [ 21 พ.ค. 50 16:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มิตตี้หล่อแสด ๆ ๆ ๆ จากคุณ : Clockheart - [ 21 พ.ค. 50 16:17:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แก้มแดงน่าหยิก หรือน่าจุ๊บดีนะ ^_^ จากคุณ : Am_Nuchi - [ 21 พ.ค. 50 16:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณคร้าบบบบบบบ ชอบที่เขียนใน #19 มากครับ จากคุณ : loopdaloop - [ 21 พ.ค. 50 16:19:07 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มาอ่านค่ะ ไม่มีอะไรนอกจากซาบซึ้ง ขอบคุณ ทั้งป๋า และจขกท ภาพ # 19 น่ารักมากเลยย วันเสาร์น่ะ ป๋าส่งสมิธมาช้าจัง ไม่ใช่อะไรนะ ได้เห็นแป๊บเดียวเองอะดิ 555 จากคุณ : BabyRed - [ 21 พ.ค. 50 16:22:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมแฟนลิเวอร์พูลนะครับ แต่ยอมรับนับถือในความสามารถของท่านเซอร์มาก ถ้าลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ ต้องได้ในช่วงเฟอร์กี้คุม ถึงจะเรียกว่าได้แชมป์อย่างสมบูรณ์ครับ จากคุณ : the symbol of solitude - [ 21 พ.ค. 50 16:42:41 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณครับ จากคุณ : SamuDi Knight - [ 21 พ.ค. 50 17:17:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 United = Sir. Alex ลดทิฐิมานะลงนิ้ดดดดด ลองตัดสินใจขายริชาร์ดสัน เพื่อเพิ่มสปิริตของทีม(โดยเฉพาะแฟนบอล) อีกสักครั้งนะครับ จากคุณ : ซุ่มอยู่ - [ 21 พ.ค. 50 17:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เคยอ่านเว็บแฟนบอลต่างประเทศ เขาก็เชียร์ให้ขาย ริชาร์ดสั้น + ซิลแวส เหมือนกัลลลลลล .. เอ่อ ป๋า เฟอร์กี้ เคยได้ดาวซัลโวสูงสุดลีกสก๊อตซ์ด้วยนะ ยิงไป 31 ประตู ในปีที่ทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์โลกนั่นแล ... จากคุณ : paphartnet - [ 21 พ.ค. 50 17:37:14 ]

ความคิดเห็นที่ 46 สุดยอด มากๆ ขอบคุณมากครับ “คุณจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้กับเด็กๆ พวกนี้หรอก” ยังจำปีนั้น ที่เด็กๆเหล่านั้น พาเหรดเข้ายึดทีมชุดใหญ่ได้ดีเลย เพราะผมเองก็เป็นหนึ่งใน "พวกที่คิดแบบนั้น" ขอโทษครับ ป๋าา จะไม่คิดงั้นอีกแล้วว จากคุณ : luzifer - [ 21 พ.ค. 50 17:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นแฟนหงส์ครับ... แต่ก็ประทับใจเฟอร์กี้มาก ๆ คนดีมีฝีมือ สมควรได้รับการเชิดชูครับ จากคุณ : ทองทา - [ 21 พ.ค. 50 17:46:59 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ความเห็น 42 ซาบซึ้งมากๆ เป็นหนึ่งในคำชื่นชมป๋าที่ดีที่สุดที่เคยได้ยินมาเลย #45 ปี 1966 อังกฤษเป็นแชมป์โลก ป๋าเป็นดาวซัลโว และเป็นปีเกิดของเอริค คันโตน่า (555 เอาให้เกี่ยวจนได้) จากคุณ : cirE - [ 21 พ.ค. 50 18:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คห 17  ฤดูกาล 2004/2005   เชลซีได้แชมป์ EPL ไม่ใช่เรอะ หมายถึงปี 06/07 รึเป่า จากคุณ : [toey] - [ 21 พ.ค. 50 18:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ป๋ายิ่งแก่ยิ่งหล่อนะนิ จากคุณ : MBA ฮาเฮ - [ 21 พ.ค. 50 18:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 อ่านจบ กดให้ 1 โหวต จากคุณ : เท่ง หงส์แดง - [ 21 พ.ค. 50 19:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ป๋าหล่อมากมาย ตอนหนุ่มๆ ตอนนี้น่ารัก55+ จากคุณ : ตามล่านายหน้าหนอน - [ 21 พ.ค. 50 20:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาแจมอ่าน ให้ไป ๑ จึ๊ก จากคุณ : drunk master - [ 21 พ.ค. 50 20:17:31 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ส่วนนึงที่ทำให้ผมเชียร์แมนยูก็ ป๋าเฟอร์กี้คนนี้ล่ะครับ ชอบมากครับ บังเอิญหน้าตาเหมือนปู่ผมด้วยครับ เลยชอบ 55 จากคุณ : พุงพลุ้ย - [ 21 พ.ค. 50 21:37:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ จากคุณ : petrified - [ 21 พ.ค. 50 21:59:17 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขออณุญาตแจมข้อมูลสมัยป๋าคุมทีมครั้งแรก ในปี1974 ซักนิดนะครับ มีอะไรสนุกๆ  เยอะเลย   ตอนที่ที่ป๋าเข้ามาจับงานคุม   อีสต์ สเตอร์ลิง ทีมเพิ่งจบฤดูกาล 1973 ในตำแหน่งท้ายๆของดิวิชั่น 2 ทั้งทีมมีผู้เล่นหลงเหลืออยู่แค่ 8 คน  และไม่มีผู้รักษาประตูเหลืออยู่เลยซักคน ป๋าเข้าไปโวยวายกับประธานสโมสรว่า " คุณไม่รู้หรือว่าฟุตบอลน่ะ เขาเล่นกันสิบเอ็ดคน แล้วต้องมีตัวสำรองอีก สอง " วิลลี่  มัวร์เฮด ประธานสโมสร รับปากว่าจะรีบประชุมบอร์ดบริหาร และอนุมัติเงินให้ป๋าไว้ใช้ช้อป นักเตะได้ตามใจชอบโดยเร็ว 2 - 3 วันถ้ดมา ป๋าได้รับข่าวดีว่าสโมสร มีมติอนุมัติเงินให้ซื้อนักเตะใหม่ ได้แล้ว  เป็นจำนวนเงิน   2000 ปอนด์     เล่นเอาป๋าลมแทบจับ 555+ ด้วยจำนวนเงินเพียงเท่านั้น ทำให้ป๋าจำเป็นต้องมองหานักเตะที่หมดสัญญาเป็นตัวฟรี  หลังจากเพียรติดต่อกับสโมสรโน้นที นี้ที จนสายโทรศัพท์แทบไหม้ นักเตะคนแรกในชีวิต  ที่อเล็กซ์  เฟอร์กูสัน  เซ็นต์สัญญาซื้อตัว เป็นผู้รักษาประตูชื่อ  ทอม   กูร์ลีย์ จากทีมพาทริค ด้วยราคาค่าตัวมหาศาลถึง 750 ปอนด์   555+ ป๋ากล่าวถึงนักเตะคนแรกขอเขาว่า " ทอมเป็นโกล์ที่ใช้ได้   กล้าหาญ และเป็นประโยชน์ต่อทีมมาก    แต่ว่าเขาน้ำหนักเกินพิกัดอยู่ประมาณสองสโตน " ข้อมูลจากหนังสือ  อเล็กซ์  เฟอร์กูสัน  ชีวิตเป็นของผม   ของสยามอินเตอร์คอมิกส์  นุ่น แปล - เรียบเรียง จากคุณ : Devil In Love - [ 21 พ.ค. 50 22:47:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน ^_^ จากคุณ : แพ้เป็นพระ ชนะเป็นผี - [ 21 พ.ค. 50 22:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ยังอ่านไม่จบค่ะ แวะมาลงชื่อขอบคุณก่อน ขอบคุณเจ้าของกระทู้ ขอบคุณป๊ะป๋ามาก ๆ นะคะ รักป๊ะป๋าที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยยยย... จากคุณ : nanni - [ 22 พ.ค. 50 09:46:52 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ป๋าสุดยอดมากมายเลยครับ จากคุณ : tough_army - [ 22 พ.ค. 50 09:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ป๋าสุดยอดที่สุดคับ จากคุณ : MAN_INDEX - [ 22 พ.ค. 50 10:27:43 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ป๋าคือตำนานที่ไม่่มีวันตายจริงๆ จากคุณ : กาเซี่ยง - [ 22 พ.ค. 50 11:07:58 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โหวตให้ป๋าครับ จากคุณ : Kisugi - [ 22 พ.ค. 50 11:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ยอดเยี่ยมครับ ^^ จากคุณ : noome - [ 22 พ.ค. 50 11:59:14 ]

ความคิดเห็นที่ 64 โหวตให้ จากคุณ : Mr.Submarine - [ 22 พ.ค. 50 13:13:35 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ป๋าเป็นเหมือนแบรนด์คู่มากับแมนยู   คิดถึงป๋าก็คิดถึงแมนยู  พูดถึงแมนยูก็ต้องคิดถึงป๋าเฟอร์กี้ ว่าแต่ป๋ายิ่งแก่ยิ่งน่ารัก   อิอิอิอิ เห็นแล้วแอบปิ๊งชายสูงวัย จากคุณ : I am mayfairy - [ 22 พ.ค. 50 16:16:33 ]