ความคิดเห็นที่ 48
เบนิเตซสามารถที่จะทำสิ่งเหล่านั้นให้เกิดขึ้นที่ลิเวอร์พูลได้หรือ ? ทำไมจะไม่ล่ะ ? ไม่มีใครคาดคิดว่าทีมของเขาจะทำการโค่นทีมยักษใหญ่อย่างบาร์ซ่าหรือ รีล มาดริด ลงได้ในลา ลีกา แต่เขาทำสำเร็จ แต่อะไรล่ะ? ที่จะบอกได้ว่าเบนิเตซจะสามารถทำการหยุดยั้งทีมที่มีกำลังทรัพย์เป็นแรงพลักดันอย่าง แมนฯยูไนเต็ด เชลซีหรือ อาร์เซนอลได้
ความไม่สบายใจยังคงรบกวนจิตใจของผม ได้แต่คิดว่า ลำพังคนเพียงคนเดียวจะสามารถกอบกู้สถานการณ์ของลิเวอร์พูลได้จริงๆหรือ? หรือว่า ผมจะต้องติดอยู่ในวังวนของการดิ้นรนเพื่อที่จะได้ลงวาดลวยลายบนเวทีแชมเปียนส์ ลีกต่อไป
ผมบินไปโปรตุเกสเพื่อเข้าร่วมแข่งขันในรายการยูโรเปี้ยน แชมเปียนส์ชิพในนามทีมชาติ หอบหิ้วเอาปัญหาทั้งหลายที่ยัดใส่ลงในกระเป๋าจนเต็มไปด้วย ผมควรที่จะป่าวประกาศอย่างนั้นหรือ? ใช่เลย เพื่อนเอ๋ย.. ที่ผมแบกอยู่นั้นมันหนักเป็นตันๆเลยเชียวล่ะ ถ้าในยูโร 2000 ผมประสบกับปัญหาคิดถึงบ้านแล้วล่ะก็ ในยูโร 2004 นี้ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่จิตใจของผมสุดแสนจะว้าวุ่น ผมประสาทเสียสุดๆ
ดูเหมือนว่ามันจะยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมนึกย้อนกลับไปที่แอนฟิลด์ สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากโปรตุเกสก็คือในทัวร์นาเมนต์หน้าผมควรจะต้องมีสมาธิมุ่งมั่นในหน้าที่ของตนเองให้มากขึ้น ผมล่ะรู้สึกยกย่องพวกนักเตะที่ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นไว้ในระดับที่ดีได้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา แม้ว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างรบกวน .. ผมทำแบบนั้นได้ซะที่ไหนกันเล่า ..
ตอนนี้สมองของผมควรจะต้องปลอดโปร่ง แต่ผมกลับไม่เคยนึกถึงเกมยูโร 2004 เลยสักนิด ผมมัวแต่เฝ้าครุ่นคิดเรื่องของลิเวอร์พูล หลังการฝึกซ้อมหรือหลังการแข่งขันทุกครั้งผมมักจะโทรศัพท์กลับบ้าน พร้อมกับข้อสงสัยที่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างผมกับลิเวอร์พูล
เพื่อนและครอบครัวมักจะโทรมาและบอกเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด สโมสรที่มีชื่อของผมเข้าไปเกี่ยวข้องตามหน้าหนังสือพิมพ์ เชลซี, รีล มาดริด :เชลซี, อินเตอร์ มิลาน:เชลซี ,บาร์เซโลน่า:เชลซี , เอซี มิลาน:เชลซี(อีกแล้ว) ผมรู้สึกหัวหมุน
แกจะยังอยู่ใช่ไหม?พ่อถาม
นายจะไปจริงๆหรือ?พอลถาม พระเจ้าเท่านั้นที่รู้
ความรุ่มร้อนจากการคิดใคร่ครวญอย่างหนัก เปรียบเสมือนเปลวไฟที่คอยแผดเผาตัวผมให้ค่อยๆหมอดไหม้ ฟุตบอลของผมถึงคราวจบสิ้นแล้ว ไม่มีใครตำหนิฟอร์มการเล่นของผมหลังจากจบเกมยูโร 2004 นอกจากตัวผมเอง มันเป็นความผิดของผมแต่เพียงผู้เดียว กับการช่วยส่งอังกฤษให้กลับบ้านเร็วขึ้น บ้าฉิบ.. ผมเสียใจจริงๆ
ผมดันเกิดประสาทเสียขึ้นมาซะเฉยๆในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ผมซึ่งยังอ่อนต่อโลก ซื่อเกินไป ไม่มีประสบการณ์ ไร้ความสามารถที่จะรับมือกับบรรดาข่าวลือทั้งหลายขณะปฏิบัติหน้าที่ในนามทีมชาติ ผมทำให้แฟนบอล เพื่อนร่วมทีม รวมถึงเสวนต้องผิดหวัง ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม ผมมักแสดงสีหน้าวิตกกังวลหรือเผลอแสดงความหงุดหงิดออกมา
ขณะอยู่ ในโรงแรมที่พักระหว่างทัวร์นาเมนต์ถือเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด สถานที่ที่ได้รับรู้ว่าสโมสรต่างๆ ต่างกำลังพากันพยายามอย่างยิ่งที่จะตามล่าตัวคุณ แน่นอนว่าต้องมีรีล มาดริด อยู่ด้วย อาร์เซนอล , เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลานและบาร์เซโลน่า
อันที่จริงผู้คนส่วนใหญ่ต่างพากันพูดถึงเชลซี สโมสรที่มีโรมัน อับราโมวิช ผู้ร่ำรวยเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ตาม แทบทุกสโมสรต่างพากันพยายามแสดงความสนใจต่อตัวผมผ่านสื่อ หยอดนิดหยอดหน่อย โน่นทีนี่ที แถมมีการพูดเป็นนัยๆอีกว่าพวกเขากำลังใกล้จะได้ตัวผมไปร่วมทีมในเร็ววัน หนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับที่ผมหยิบขึ้นมาอ่าน จะมีเนื้อความที่ว่ารีล มาดริดและเชลซี ให้ความสนใจในตัวผมมากแค่ไหน และเมื่อถึงเวลาที่ผมควรจะมีสมาธิเพื่อพร้อมในการลงแข่งขัน ความคิดของผมกลับล่องลอยออกไป นึกวาดฝันว่าตัวเองกำลังเล่นให้กับเชลซี หรือบาร์เซโลน่า
ก่อนทัวร์นาเมนต์นี้จะเริ่มต้นขึ้น อาร์แซน เวนเกอร์, โฆเซ มูริญโญ่ รวมไปถึงเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้ให้คำยกยอผมเป็นอันมาก มันเลยง่ายสำหรับผมที่จะเข้าใจได้ว่า พวกเขาปรารถนาที่จะเซ็นต์สัญญากับผมเพียงใด เฟอร์กี้ให้สัมภาษณ์ที่แสนพิเศษถึงผมในหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทม์ เขาให้คำนิยมกับผมว่า ผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของอังกฤษ ยากที่จะมีใครหยุดยั้ง โอ้โหแฮะ !
จากคุณ :
K.Ruan
- [
11 มิ.ย. 50 13:09:45
]
|
|
|