ความคิดเห็นที่ 1 Never Say Possible จากคุณ : Duckcovery - [ 8 ส.ค. 50 17:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องรอดูเฟอร์กี้วางมือครับ ว่าใครจะเข้ามาคุมทีมต่อ แต่ถ้าพูดถึงการตลาดหละก็ คงจะยากครับที่จะแซงได้ เพราะผีแดงกินส่วนแบ่งไปเกือบหมดแล้ว จากคุณ : dramer - [ 8 ส.ค. 50 18:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยมีทางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ตราบใดที่ท่านเซ่อยังอยู่ จากคุณ : แหนมมัด - [ 8 ส.ค. 50 18:03:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 Impossible Is Nothing แต่กรณีนี้ ผมว่าไม่มีทาง จากคุณ : I Need Someone And Always - [ 8 ส.ค. 50 18:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องการตลาด ยากมาก ถึง โคตรมากที่สุด ส่วนเรื่องของผลงานในสนาม อันนี้ ก้อยังยากอยู่ดี แต่ มันก้อเป็นไปได้ในระยะยาวอะนะ แต่สำหรับ 4-5 ปีนี้ ยากโคตร จากคุณ : Ting SE - [ 8 ส.ค. 50 18:15:18 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ยังไม่ได้เตะนัดแรกเลย จะรีบมาถามทำไมครับ เรื่องอย่างนี้มันต้องดูไป 3-4 ปีโน่น ทีมหนึ่งเป็นทีมดังระดับโลก ใช้เวลาสร้างทีมมา 10-20 ปี อีกทีมล้มลุกคลุกคลานมาตลอด และพึ่งจะมาตั้งตัวได้เอาฤดูกาลนี้ จากคุณ : เกียงอุยศิษย์มังกรหลับ - [ 8 ส.ค. 50 18:21:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนนี้ก็นำอยู่นี่ครับ อาศัยโชคดีที่ชื่อว่า Man City เลยนำ Man United อยู่เพราะตัวอักษรมาก่อน (พูดเล่นนะ) ตอบดีกว้ ผมว่ามีโอกาส แต่ไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้นี้หรอก จากคุณ : poisson - [ 8 ส.ค. 50 18:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อาจมีโอกาส แต่คงอีกนานมั้ง จากคุณ : nouikj - [ 8 ส.ค. 50 18:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แซงด้านไหนล่ะครับ ผลงาน ??? เอาไว้สูสีกับ นิวคาสเซิล สเปอร์ เอฟเวอร์ตันก่อน แล้วค่อยคิด การตลาด??? การตลาดก็มาจากผลงานอีกนั่นแหล่ะ ทีมอันดับกลางตาราง ไม่ได้เล่นบอลยุโรป จะมีฐานแฟนบอลที่ไหนมาเพิ่ม? ดูอย่างจากเชลซีิ ได้แชมป์2ปี รากฐานแฟนบอลหน้าใหม่ทั่วโลกเพิ่มชึ้นมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว จากคุณ : เฮียว่าว - [ 8 ส.ค. 50 18:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยาก แต่ ยากส์ จากคุณ : ty[no] - [ 8 ส.ค. 50 18:37:35 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยาก พอ ๆ กะ เข็นควายเข้าขวด !!!! จากคุณ : *PIPPO* - [ 8 ส.ค. 50 18:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่น่าถามเลย ต้องการอะไรเหรอ มีจุดประสงค์แอบแฝงแน่ๆ จากคุณ : Grefeeze - [ 8 ส.ค. 50 18:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ยากส์ กว่าแมนยูจะมาถึงจุดนี้ใช้เวลากี่ปีล่ะครับ พูดถึงความยิ่งใหญ่ไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงิน แต่ มันต้องวัดกัน ด้านผลงานลีก และฝีมือการตลาด อีกนานหลายปีกว่าจะมายืนเทียบกันได้ อย่างเชลซีเค้าก็อยู่หัวตารางมาเรื่อยๆ มีดารา มาให้หวือหวาตลอด เพียงแต่ไม่ได้แชมป์มานานแสนนาน พอทุกอย่างลงตัวหมดได้เงิน ได้ถ้วย แต่ว่า ยังขาด ระดับ ยุโรป ยอดขายของเชลซี ก็ยังไม่ถือว่า ยึดตลาดได้ตลอดฮะ จากคุณ : " คุณชายช่างฝัน " - [ 8 ส.ค. 50 19:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ได้อยู่แล้วค่ะ ชัวร์ล้านเปอร์เซนต์ เพราะแฟรงค์เก่งทางธุรกิจ และก็ด้านโฆษณา คุณดูโฆษณาและการตลาดในธุรกิจก่อนๆของเขาสิ ค่ายอื่นสู้ไม่ได้เลย เมื่อหาตลาดได้กำไรมา ก็มีเงินซื้อนักเตะระดับเจ๋งๆเข้ามา เชลซียังใช้เงินซื้อความสำเร็จเลย (บวกกึ๋นมูรินโย่ด้วย) คุณอย่าลืมคำสัมภาษณ์ของแฟรงค์ที่ว่า "ผมมีวิธีการสร้างแฟนคลับและการตลาดที่ไม่เหมือนใคร"  แค่ได้ยินก็อยากรู้แล้วว่าแฟรงค์มีไอเดียแหวกแนวอะไรอีก ฉะนั้นไม่แปลกใจเลยถ้าแมนฯซิตี้จะแซงแมนยูทุกเรื่อง ภายใน 3 ปี รับประกัน อ้อ แต่การสร้างแฟนคลับอาจใช้เวลามากกว่านี้ จากคุณ : iamtum - [ 8 ส.ค. 50 19:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ^ ^ ^ ชี้ไปท่12นะ พอดีจิ้มนาน ขอล่ะนะห้องกีฬา อย่าเอาความคิดที่มันเลวร้ายมายัดไว้ที่นี่เลย คิดในแง่กีฬาก็พอ ที่เขาตั้งอาจจะเป็นเพราะแมนซิตี้ และแมนยูน่ะเป็นคู่แค้นร่วมเมืองก็ได้ การที่แฟนยูไนเต็ดเห็นซิตี้มีการเสริมทีมที่น่ากลัว กอปรกับได้แหล่งเงินทุนใหม่มาเสริมทีม ย่อมระแวงเป็นธรรมดา เลยมาขอความเห็นจากเพื่อนๆก็เป็นได้ ขอละนะที่นี่ห้องกีฬา เราอยู่ด้วยกันแบบสุขบ้างไม่สุขบ้างมานานแล้ว ถ้าจะมีปัญหาอะไรที่ไม่สุขก็ขอให้มันเกี่ยวกับกีฬาเถอะ อย่าเอาความคิดอาเพศมายัดให้เลย แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 50 19:01:38 จากคุณ : แหนมมัด - [ 8 ส.ค. 50 19:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับ # 12 ครับ จากคุณ : Knight - [ 8 ส.ค. 50 19:01:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #14 ทักษิณก็ไม่ใช่นักธุรกิจและนักการตลาดที่เก่งที่สุดในโกลนะคะ เหนือฟ้ายังมีฟ้าค่ะ เพราะท่านเซอร์ของเราก็ไม่ใช่ย่อย แมนยูเป็นทีมที่บุกเบิกการตลาดในรูปแบบนี้นะคะอย่าลืม จากคุณ : แหนมมัด - [ 8 ส.ค. 50 19:04:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ มีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีมีม ทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทางทาง จากคุณ : EMD-SD90 - [ 8 ส.ค. 50 19:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 # 14 ตอนนี้อยากจะฝันยังไง  ก็ทำได้เต็มที่เลยครับ ผมให้ 10 ปีเลยด้วย  ไม่ต้องแค่ 3 ปี 5 ปีหรอก ผมดูการเติบโตของธุรกิจฟุตบอลมานานแล้ว กะอีแค่เข้าไปเทคโอเวอร์แล้วก็หยอดคำหวานอย่างเนี้ยะ พระพุทธเจ้าท่านยังสอนให้ "ฟังหูไว้หู" เลยครับ จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 8 ส.ค. 50 19:14:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 #14 แมนยูเป็นทีมที่บุกเบิกการตลาดในรูปแบบนี้ รูปแบบไหนเหรอ? เท่าที่ฟังแฟรงค์สัมภาษณ์นะคะ  เขาบอกว่าการตลาดของเขาไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน  ส่วนการตั้งอะเคเดมีนั้นจิ๊บๆค่ะ ทีมอื่นเขาก็ทำกัน ถึงตอนนี้ก็ได้แต่ให้เวลาพิสูจน์นะคะ แล้วคิดว่าคงจะได้เห็นการตลาดของฟุตบอลในสไตล์แฟรงค์ จากคุณ : iamtum - [ 8 ส.ค. 50 19:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คิดมากไปป่าว กระทู้นี้ถามเรื่องกีฬา  อย่ามองในแง่ร้ายเลย จากคุณ : เพิก ชุมแพ - [ 8 ส.ค. 50 19:30:29 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่ายากคับ ลองเทียบตำแหน่งผู้เล่น ตำแหน่งต่อตำแหน่ง มีตำแหน่งไหน Mancity ดีกว่าแมนยูมั่งคับ จากคุณ : gouppa - [ 8 ส.ค. 50 19:33:56 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ครับ มันมองกันแง่กีฬา ครับ ไม่ใช่การเมือง แต่โอกาส ยากหน่อยนะครับ ว่าแต่ความเห็นข้างบนที่ ยี่สิบสอง นี่รุ้จักแง่กีฬา จริง ๆ เหรอครับ เห็นมัวแต่ไปตั้งกระทู่้ปัญญาอ่อน เหมือนไม่รุ้จักคำว่ากีฬา สักเท่าไหร่ จากคุณ : Jiojo - [ 8 ส.ค. 50 19:36:30 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าตั้งแต่นี้ผลงานสม่ำเสมอ  คือ ได้ถ้วย   ทั้งในถ้วยยุโรป และ   อังกฤษ  เกือบทุกปี     ถึงจะทำผลงานมากกว่าแมนยู ก็ราวๆ 30-50 ปี แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 50 19:41:33 จากคุณ : Capillary - [ 8 ส.ค. 50 19:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท. ตื่นๆ จากคุณ : OrangE_KnighT - [ 8 ส.ค. 50 19:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่ตอบว่าได้หรือไม่ได้  แต่ผมคิดว่ามันก็มีโอกาสครับ จากคุณ : อัศวินสีส๊ม...ส้ม - [ 8 ส.ค. 50 19:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 28 คลอดลูกทางตรูดยังง่ายกว่า จากคุณ : CrisTooNo - [ 8 ส.ค. 50 19:53:53 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าจะได้ คงต้องแซง ลิเวอร์พูล อเซนอล เซลซี ให้ได้ก่อน ฟังดูแล้ว ให้แฟรงค์ หลุดคดีต่าง ๆ ยังง่ายกว่าอีก ก๊ากกกกกกกกก จากคุณ : nicky (nicky2003) - [ 8 ส.ค. 50 19:56:46 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่มีทางอยู่แล้น จากคุณ : เสาร์สนุก - [ 8 ส.ค. 50 20:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 31 "เพราะแฟรงค์เก่งทางธุรกิจ และก็ด้านโฆษณา" ถามจริง เกลเซอร์ ไม่เก่ง หรือเสียหมีก็ไม่เก่งกว่า แฟรงค์ใช่ใหม อันดับคนรวย ถึงอยู่สูงกว่าแฟรงค์.... แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ บิลเกตส์ยังโดนนักธุรกิจชาวเม็กซิกันล้มเลย แต่กว่าจะล้มได้ บิลเกตส์ก็ยืนอันดับไปซะเป็นสิบๆปี แต่กรณีแมนซิ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่ยากส์และใช้เวลานานหน่อยแค่นั้นเอง เอาเป็นว่าหวัง fa cup หรือ carling cup ให้ไ้ด้ก่อนดีใหม ต่อไปค่อยลุ้นพื้นที่ ucl และต่อไปลุ้นที่ 3 และรองแชมป์ และอีกครั้ง แชมป์ EPL และสุดท้ายเลย แชมป์ Ucl... แต่ต้องทำให้ได้หลายๆฤดูกาลติดนะ ไม่ใช่ฤดูกาลนี้แชมป์ลีก ฤดูกาลต่อไปหนีตกชั้นซะล่ะ รับรองแฟนๆจะท่วมท้นแน่นอน จากคุณ : charmingboy - [ 8 ส.ค. 50 20:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เชลซีก่อนจะมีวันนี้ (ช่วงโรมันเข้ามาเทคโอเวอร์) ใครที่ติดตามบอลอังกฤษมานานแล้วคงรู้นะครับ ตั้งแต่สมัยเกล็นฮอดเดิลยังเป็นผู้เล่น ผู้จัดการทีม ที่มีนักเตะพันธุ์แคระเต็มทีม จอห์น สเปนเซอร์ / เดนิส ไวส์ / เกวิน พีค็อกซ์ ฯลฯ ก็ไม่ต่างอะไรกับทีมแม้ว ซิตี้ตอนนี้เท่าไหร่ครับ ผมว่าการบริหารสโมสรของ ดร.ทักษิณ จะนำพา ซิตี้แซงหน้าทั้ง ลิเวอร์พูล และ เชลซีได้แน่ๆครับ ใครจะไปคิดล่ะครับว่าวันนึงสุดยอดทีมในอดีตที่ว่ากันว่ายากที่ใครจะมาล้มได้อย่าง พลีมัธ (ต้นสังกัดของปีเตอร์ ชิลตัน ยุครุ่งเรือง) จะร่วงได้ขนาดนี้ รับรองครับ ดร.ทักษิณ แซงทั้งเกรลเซอร์ และ โรมัน ได้แน่ๆครับ ปล.โรมัน กับ บิ๊กดั๊งค์ (ดันแคน เฟอร์กูสัน) นี่เค้าเปนญาติกันหรือเปล่าครับ ผมเห็นโรมันทีไร นึกถึงบิ๊กดั๊งค์ ทุกทีเลย จากคุณ : ZeroA - [ 8 ส.ค. 50 20:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อยากให้ตกชั้นอ่ะ จากคุณ : kittygz - [ 8 ส.ค. 50 20:17:04 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #32 ตื่น จากคุณ : tOYBox - [ 8 ส.ค. 50 20:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ดูจากประสบการณ์การทำธุรกิจ  ทางด้านการตลาดแมนซิตี้น่าจะดีขึ้นครับ เอาแค่ตอนนี้ตั๋วปีก็มียอดขายมากขึ้นแล้ว  แต่ผลงานคงอีกนานกว่าเทียบเท่าแมนยู เคยได้ยินคำพูดเหล่านี้มั้ย -"เพจเจอร์อะไรวะซื้อมาติดตัวทำไม ร้องปิ๊บๆก็ต้องโทรกลับ"ปรากฏว่าโฟนลิ้งทำยอดขายถล่มทลาย -"ใครจะไปซื้อมันใช้วะ โทรศัพท์อันเท่ากระติกน้ำ"แล้วธุรกิจมือถือตอนนี้เป็นยังไง -"มันบ้าหรือเปล่ามันจะยิงดาวเทียม" แล้วเป็นไงล่ะครับ 4-5ดวงไปลอยๆอยู่ ไม่เข้าการเมืองนะครับ มองที่ธุรกิจเพียวๆ คนๆนี้มองโอกาสทางธุรกิจได้ดีมากครับ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 50 20:30:33 จากคุณ : waphoo - [ 8 ส.ค. 50 20:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 มาแล้วครับ ตัวอิจฉา วี๊ดว้ายมาแล้ว 555+ ผมตอบให้เว่อร์ๆ ไปงั้นล่ะ ดักตัวอิจฉา มาแล้ว 2 จากคุณ : ZeroA - [ 8 ส.ค. 50 20:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แซงได้ แซงไปเลยครับ จากคุณ : Sweet Chin Music - [ 8 ส.ค. 50 20:46:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 หึ หึ แซงได้จ้ะ แต่คงต้องนอนฝันเปียกกันหลายยกหน่อยนะจ๊ะ ... แหม อย่าเพิ่งคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้ให้รกสมองเลย จากคุณ : ยายเชื่อม - [ 8 ส.ค. 50 21:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โอ้... เทียบบอลคนละชั้นเลยนะนั่น เนื่องจากเป็นแฟนทั้งสองทีม (เพื่อนมักจะว่า ว่าไม่มีใครเค้าเชียร์ทีมเมืองเดียวกัน) เลยตอบไม่ได้เลยค่ะ ^^' จากคุณ : ไร้นาม - [ 8 ส.ค. 50 21:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ที่ว่าแมนยูเริ่มบุกเบิกการตลาดด้านนี้ไม่ใชแค่ตั้งอคาเดมี่ค่ะ เขานำฟุตบอลเข้ามาสู่ภาคธุรกิจอย่างเต็มตัว เอาชื่อเสียงของทีมมาโฆษณาขายของขายLC เอามาหากินกับธุรกิจโฆษณา เจาะตลาดสู่เอเซียค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่มาก เข้าใจไปถึงไหนน่ะ งั้นรอดูผลงานละกัน สามปีนะ ตอนแรกเฉยๆกับทีมนี้นะ เข้าข้างด้วยซ้ำ เห็นแฟนบอลบางคนละ โม้ยิ่งกว่าแฟนคู่อริบางทีมแถวนี้อีก - - /me เปลี่ยนทาเก็ตโดยด่วน จากคุณ : แหนมมัด - [ 8 ส.ค. 50 21:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 41 แมนยู      ---> แชมป์พรีเมียร์ลีก แมนซิตี้    ---> ---> ---> ---> ---> ---> ---> --->เดอะแชมเปี้ยนชิป แซงแรงไปหน่อย เลยป้าย จากคุณ : นาซ่าโพส - [ 8 ส.ค. 50 21:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 43 อ่ออีกอย่างนะ โรมันมันรวยอันดับ11ของโลก ทักษิณเท่าไหร่อะ? โรมันเขาจะซื้อนักเตะมาทิ้งข้วางเล่นหรือปาหัวหมาเล่นก็ได้เพราะทุนเขาหนา ที่ซื้อๆมาทั้งหมดนี่ยังไม่ได้เสี้ยวเงินที่เขามีเลย แต่ทักษิณ แน่ใจหรอว่าทุ่มได้เท่าเขา? จะเอาอย่างเชลซีน่ะต้องทุ่มพอๆกันหรือมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะขนาดทุ่มขนาดนี้ ปีนี้ยังไม่ได้แชมป์เลย แต่แชมป์กลับเป็นแมนยูที่พวกคุณบอกจะว่าแมนซิจะแซงหน้าในสามปีนั่นอะ ปล.ริจะเล่นห้องนี้ต้องรับการเกทับบลัฟแหลก แซวแรงๆ ให้ได้นะจ๊ะ แฟนหงแฟนผีแฟนสิงโตแฟนปืนโดนมาครบละ:p ปลล.ขอมอบตำแหน่งแฟนทีมขี้โม้แห่งปีทีมใหม่ให้แก่แฟนทีมแมนซิ แทนทีมถาดแห้วปีที่แล้ว:p จากคุณ : แหนมมัด - [ 8 ส.ค. 50 21:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สามปี -*- แซงสเปอร์หรือไม่ก็นิวฯก่อนเถอะครับ ว่าแต่ รู้จักสเปอร์หรือเปล่าเถอะ จากคุณ : suansiam - [ 8 ส.ค. 50 21:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แซงลิเวอร์พูล เชลซี อาร์เซนอล ให้ได้ก่อนแล้วกัน เรื่องแบบนี้ต้องดูยาวๆน่ะ แต่ถ้าจะแซงด้านจำนวนแชมป์คงต้องรอสักร้อยปีน่ะ จากคุณ : Rarm41 - [ 8 ส.ค. 50 22:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 46 บริหารธุรกิจเก่ง แต่็้ไม่ได้หมายความว่าจะบริหารทีมฟุตบอลให้เก่งเสมอไป ทรัพยากรด้านบุคคลของ City ยังเป็นรอง United และทีมอื่นๆอีกมาก คิดว่าภายใน 5 ปีไม่มีทางที่จะแซง United หรือพวก Big4 ได้แน่นอน จากคุณ : สายฟ้าสีเพลิง - [ 8 ส.ค. 50 22:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมก็รอดูตามคำพูดของแฟรงค์ว่า  "ผมมีวิธีการสร้างแฟนคลับและการตลาดที่ไม่เหมือนใคร"  จะเป็นการพิสูจน์ว่าภายใน 5ปี 7ปี จะเป็นยังไง จะเป็นไปได้ตามที่คุยหรือเปล่า คำพูดเป็นนายตน พูดไปแล้วต้องรับผิดชอบ  เราต้องเฝ้ารอดูการเปลี่ยนแปลง ไปเรื่อยๆ ว่ามันจะผิดจากคำพูดไม๊!ดีขึ้นไม๊! แต่ตามความรู้สึกคือเป็นไปได้ยาก อย่าพึ่งมาเทียบกันเลย รากฐานแมนยูนเค้ามาจากคนที่จมปักมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี และผลงานก็ยังอยู่ยงคงกระพันอยู่ ผลงานไม่ได้สร้างขึ้นพียงชั่วครู่ชั่วยาม ถึงแม้แมนยูฯจะตกต่ำอีกสัก 10 ปี แต่ฐานแฟนคลับยังอยู่ เค้าเรียกว่ารากบานยังแน่น ไม่ต่างจากลิเวอร์พูลที่ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์มาเป็น10 เกือบ 20 ปี แต่ฐานแฟนคลับก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง อย่าพึ่งเอะอะโวยวายตีตนก่อนไข้เลย รอให้มันเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยมาวิภาควิจารณ์กัน ผลงานเท่านั้นที่เราต้องรอการพิสูจน์ ตอนนี้ไม่รู้ตอนหน้าไม่แน่ ครับเจ้านายยยยยย ขนาดสึนามิเกิดขึ้นได้บอกใครก่อนหน้ายังไม่มีใครเชื่อเลย เพราะฉะนั้น รอดูคำพูดของคน ว่ามันจะจริงหรือเปล่าไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ พูดกันไปเรื่อยเปลื่อย ครับ! จากคุณ : อเดเดช - [ 8 ส.ค. 50 22:18:40 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อาจจะแซงได้หรือไม่ได้ ถ้าทุ่มทุนสร้างอย่างเซลซี ที่เสี่ยหมีเขาใช้เศษเงินซื้อนักแตะเข้ามา แล้วเก็บถ้วยแชมป์ให้ได้ตลอดก็อาจจะได้นะ แต่เมื่อไหร่ก็ไม่สามารถบอกได้เหมือนกัน จากคุณ : ผักทอดยอด - [ 8 ส.ค. 50 22:20:28 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณคิดว่า ซิตี้ พัฒนาอยู่ทีมเดียว แล้วทีมอื่นหยุดนิ่ง หรือถอยหลังป่าวหละ ถ้าคิดงั้นซิตี้ก็แซงแน่ๆ อยู่แล้ว พูดแค่นี้แหละ พอ จากคุณ : KiDMaIOoK - [ 8 ส.ค. 50 22:25:03 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คำถามนี้ไม่มีคำตอบครับ เพราะอนาคต  เป็นสิ่งที่เราไม่รู้ จากคุณ : นางสเตนเลส - [ 8 ส.ค. 50 22:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เอาบทวิเคราะห์ที่โอเวอร์มาตอบหน่อยเดียวว่าจะแซง ยุงบินมาตรึมเลยแฮะ รู้ก็รู้ว่าเป็นไง ซิตี้แค่ทีมเล็กๆ ในแมนเชสเตอร์ (แต่แฟนบอลในแมนเชสเตอร์ส่วนมากเชียร์ซิตี้นะจ๊ะ) การก้าวกระโดดมันยากครับ แต่ที่บอกว่าจะตกชั้นไหม ก็เป็นไปได้เพราะเราทุกคนไม่ใช่ผู้รู้อนาคตครับ แต่ดีใจจังดักขบวนการตาร้อนได้เพียบเลย หุๆๆ จากคุณ : ZeroA - [ 8 ส.ค. 50 22:48:40 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ยากมากๆ แมนยู กับลิเวอร์พูลกว่าจะถึงจุดนี้ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี สเปอร์ อาร์เซนอล ก็มีประวัติมายาวนาน เซลซี ก็ถือว่า ก่อนโรมันจะมา ก็ติด ท็อปซิกส์มาตลอดอยู่แล้ว ถ้าจะบอกว่า การบริหาร เจ้าของใหม่ของเสปอร์ ก็ทำธุรกิจด้านการกีฬาหลายอย่างในเมกา เจ้าของทีม แมนยูกับลิเวอร์พูลก็บริหาร ทีมเมกันฟุตบอลมาก่อนแล้ว มองไม่เห็นตรงไหนเลยว่า พวกเขาจะมีอะไรด้อยกว่าทักษิณ จากคุณ : Niceguy_C (Niceguy_C3) - [ 8 ส.ค. 50 22:49:44 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ใช่ครับ ต้องดูยาวๆ    ไม่ใช่ว่าไม่มีทาง   แต่มันยากกกกกกกกกส์  มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก    แค่นั้นเองครับ จากคุณ : Pong Ji-Sung - [ 8 ส.ค. 50 22:50:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ถ้าพูดเรื่องธุรกิจ ไปโต๊ะสีลมหรือสาธรมั๊ยครับ ถ้าพูดเรื่องกีฬา แมนซิตี้มีผู้จัดการทีมชื่อ สเวน โกรัน อีิริกสันครับ เขาคือคนที่คุณควรจะตั้งคำถามว่าจะนำพาแมนซิตี้แซงหน้าแมนยูได้หรือไม่ ไม่ใช่ทักษิณ.. จากคุณ : underX - [ 8 ส.ค. 50 22:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 55 #54 แต่โรมันก็เป็นคนที่นำพาเชลซีแซงแมนยูได้นะเออ จากคุณ : แหนมมัด - [ 8 ส.ค. 50 23:04:12 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอโทษจขกท.นะครับ ผมไม่ห้ามความคิดคุณหรอกนะครับ แต่ถ้าแมนซิตี้ ได้อันดับต่ำกว่าที่10นี่ ผมยังกลัวว่าจะมีคนบ้า อมขี้มาพ่นใส่หน้าผมเลยนะครับ เอาเป็นว่าค่อยๆเป็น ค่อยๆไปดีกว่าครับ เอา1ใน10ก่อนดีกว่านะ ผมว่าอ่ะ จากคุณ : ฮาตึงว่าแล้ว - [ 8 ส.ค. 50 23:04:42 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เทียบนักเตะ แต่ล่ะตำแหน่ง ตัวจริง สำรอง บอกตรงๆ แมนซิตี้ ยังสู้ สเปอร์ไม่ได้เลย ถึงแม้นในอีก 2-3 ปีข้าง จะซื้อมาอีก ซัก 2ชุด สำรองตัวจริง ก็ยังไม่มี ใครมาการันตีได้ว่าจะเล่นเข้าขาทำผลงานดี จนล้ม Big4 ได้ ส่วนเรื่อง ถ้วยรางวัล ........ เฮ้อ หนักใจแทนคนถาม จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า - [ 8 ส.ค. 50 23:07:46 ]

ความคิดเห็นที่ 58 แมนยู เป็นทีมที่วางรากฐานทั้งทางธุรกิจและการกีฬา มานาน จัดได้ว่าเป็นทีมที่มีระบบการจัดการระดับแนวหน้าของโลก ถ้าในระยะสั้น มองแล้วโอกาสเทียบเข้าไปใกล้รัศมี ก้อยากครับ แต่ในระยะยาว ต้องดูฝีมือคณะผู้บริหารว่าจะเอาจริง เอาจังสักแค่ไหน ที่สำคัญขึ้นอยู่กับฝีมือด้วย จากคุณ : ::Sholl:: - [ 8 ส.ค. 50 23:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 แม้ในหมู่ทีมที่อยู่ในอันดับต้น 4 ทีมที่ถือว่าเป็นขาประจำก็ยัง เข่นกันแบบสุด ใจขาด กินกันแทบไม่ลง แมนฯซิ อาจต้องใช้เวลานานๆๆหลายปี เหมือนที่ เชฟฟิลด์ตกชั้น หรือเอฟเวอร์ตันไม่ได้เป็นคู่ดาร์บี้แมทช์ที่ต้องถ่ายทอดฟรี ทีวีแล้วแบบนั้นล่ะ จากคุณ : Am_Nuchi - [ 8 ส.ค. 50 23:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ทีมแมนยูวางรากฐานกว่าจะถึงจุดสูงสุด เป็นสิบปี หลังจากถึงจุดสูงสุดก็พยายามคงอยู่ให้ไม่ตกจากมาตราฐานเดิม(เป็นแชมป์ยากแล้วรักษาแชมป์ยากกว่า) อีกเป็นสิบปี แมนซิตี้ เพิ่งเริ่ม..ตั้งไข่ จะต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่.... กว่าจะดำเนินรอยตาม เอาแค่ตาม ทีมอย่าง สเปอร์ นิว... ได้ แล้วค่อยมาพูดกันก็ไม่สาย เสี่ยหมีใช้เงินในการสร้างทีม ระดับท๊อป5  "หลายร้อยล้านปอนด์" ถ้าปธ คนใหม่เรือใบ จะสร้างทีมระดับนี้ต้องเกทับ อีกหลายร้อยล้านปอนด์ ไม่ต่ำกว่า 300-400ล้านปอนด์ มันไม่ใช่แค่ซื้อนักเตะ แต่มันรวมถึงบริหารทั้งนักบอลและสต๊าฟรววมทั้งโครงการต่างๆของสโมสร อีกเป็นเงินมหาศาล และใช้เวลาที่ยาวนาน.... อีกไกล ยังอีกไกล....ในความเป็นไปได้ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 50 23:26:23 จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า - [ 8 ส.ค. 50 23:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ก็ท่านนี้เขาถนัดในการปั้นนโยบายขายฝันอยู่แล้วนี่ ถ้าจะแซงแมนยูให้ได้ก็ต้องได้แชมป์พรีเมียร์ซัก 6-7 ปีติดๆกัน ถ้วยยุโรปซัก 2 สมัย เชลซีที่มีเจ้าของรวยกว่าทักษิณอีกยังทำไม่ได้เลย จากคุณ : bigcy - [ 8 ส.ค. 50 23:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แซงด้านไหน ? ถ้าแซงด้านเป็นแชมป์พรีเมียร์อังกฤษแล้ว พวกผู้บริหารพรีเมียร์เขาก็อยากให้แซงอยู่แล้ว เขาจึงถวายให้แม้วรีบๆทำเลย ไม่เห็นพวก nge พวก junta ที่มันแหกปากอยู่ปาวๆ อยู่ในสายตา พวกผู้บริหารพรีเมียร์เขาก็อยากให้อีก 19 ทีมที่เหลือแซงทั้งนั้นแหละ เพราะแข่งกัน 20 ทีม ก็ควรที่จะให้มีโอกาสทั้ง 20 ทีมเท่ากัน ไม่ใช่เปิดฤดูกาลขึ้นมาก็รู้แชมป์ว่าเป็นทีมไหนแล้ว มันไม่สนุก แฟนทีมอื่นเลยเลิกดู พรีเมียร์ก็เจ้ง  แข่งทีมเดียวก็แล้วกัน แซงในกี่ปี ถ้าภายใน 2-3 ปีนี่คงยังไม่มีใครแซง พวกท๊อป 4 ถ้าแซงเรื่องหนี้สิน ภายใน 2-3 ปีนี่ แมนซิตี้ก็คงแซงแมนยูไม่ทันอยู่ดี แต่ซิตี้มีประธานที่การตลาดเก่ง แถมติดดิน ไปนั่งร้องเพลงกับสาวกได้ แถมเลี้ยงข้าวฟังดนตรีฟรี ทีมอื่นๆ เขาเลยกลัว ปีนี้ซื้อนักเตะกันใหญ่ มูลค่ามากกว่าปีที่แล้วเกือบเท่าตัว ทีมอื่นกลัว แต่ผู้บริหารพรีเมียร์ลีก ยิ้ม หัวเราะกันกิกๆ ชอบใจ ฟรีเมียร์ลีกกำลังจะใหญ่ที่สุดในยุโรป เพราะแม้วมาโปรดแท้ๆ สาวกซิตี้ก็ชอบใจเชียร์กันใหญ่ ถ้าแซงเรื่องคนเกียจผู้จัดการทีมแล้ว ซิตี้แซงเรียบร้อยแล้ว เพราะส่วนใหญ่คน เกียจ สเวน เป็นทุนอยู่แล้ว ขนาดวันก่อนสัมภาษณ์นักเตะผิดถามว่าทำไมจึงเลือกมาเล่นที่แมนยู แทนที่จะสัมภาษณ์ว่าทำไมจึง มาเลือกเล่นที่แมนซิตี้ นักข่าวเลยสนุกใหญ่ ล้อสเวนว่าใจของสเวนคงคิดแต่แมนยู ดังนั้นพอทำทีมเจ้งคนก็ด่าแต่สเวน เลยลืมด่าเสี่ยแม้ว แซงเรื่องสาวกกลัวทีมตรงข้าม ซิตี้แชงไปเรียบร้อยแล้ว เพราะในเวปแมนซิตี้มีอีแอบปลอมตัวเข้ามาดีสเครดิตกันจม จนพวกสาวกเดิมจำได้ว่า พวกอีแอบนุ่งกระโปรงไม่กล้าเปิดเผยตัวพวกนี้มันสมัครเข้ามาโพสใหม่ มันอิจฉา(jealous)เลยไล่กลับให้ไปที่โฮมเพจตัวเอง พวกนี้รับตังเขามารึเปล่าก็ไม่รู้ ขืนกลับไปโฮมเพจตัวเองก็ไม่ได้ตังซิ เลยด่ากันใหญ่  เพราะระแวงกลัวแซง จากคุณ : abcz - [ 8 ส.ค. 50 23:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยกับ #55 ครับ ถ้าเอาชื่อโรมันไปตั้งที่สีลมแบบที่ #54 บอกคงโดนไล่กลับมาอ่ะ - -" แยกแยะกันหน่อยเถอะครับ เค้าก็ไม่ได้เล่นการเมืองแล้ว จากคุณ : RyanUtd - [ 8 ส.ค. 50 23:41:57 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามหลักจิตวิทยา แทนที่จะถ่อมเนื้อถ่อมตัว ให้แฟนทีมอื่นๆเค้่าร่วมเอาใจช่วย แต่แฟนๆดันเลือกทางโม้สุดขั้ว แบบไม่ดูศักยภาพในความเป็นจริง ให้คนอื่นเค้าหมั่ี่นไส้เล่นๆซะยังงั้น เปรียบเทียบเหมือนสามล้อถูกหวย3ล้าน แต่โม้บอกว่าจะแข่งขันทำธุรกิจให้เหนือกว่าบริษัทCPยังไงยังงั้นเลย จากคุณ : 98 ดีกรี - [ 8 ส.ค. 50 23:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ใน5ปีนี้  ยากมากๆครับ  หลังจากนั้น  ค่อยดูสถานะการณือีกที แต่ผมว่าแมนcity  ควรตั้งเป้าไปลุยบอลยูฟ่าคัพ ก่อนจะดีกว่า จากคุณ : yariv_80 - [ 9 ส.ค. 50 00:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เอาแค่เตะ 10 นัดแรกก่อนครับ แล้วค่อยคิดกันใหม่ครับ ฤดูกาลนี้ทีมอื่นๆ เค้าก็ไม่อยู่นิ่งกันครับ เวลาแข่งกันจริงๆ หืดครับกว่าจะได้แชมป์ และระบบทีมต้องดีในระยะยาว รอดูเหมือนกันครับ จากคุณ : Sorn มาคับ - [ 9 ส.ค. 50 00:18:53 ]

ความคิดเห็นที่ 67 "ความคิดเห็นที่ 14   ได้อยู่แล้วค่ะ ชัวร์ล้านเปอร์เซนต์ เพราะแฟรงค์เก่งทางธุรกิจ และก็ด้านโฆษณา คุณดูโฆษณาและการตลาดในธุรกิจก่อนๆของเขาสิ ค่ายอื่นสู้ไม่ได้เลย" คุณทักษิณยอดเยี่มมากครับ แต่นั่นเป็นการ "ลงมือก่อน" "เริ่มทำธุรกิจแบบใหม่" และ "ทำตลาดในประเทศ" ธุรกิจหลัก ๆ อย่างมือถือที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ชินคอร์ป เกิดจากความกล้าเสี่ยงที่จะลงทุนในธุรกิจแขนงใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย ถ้าติดตลาดก็รุ่ง ถ้าพังก็เจ๊งเรียบ เรียกได้ว่าเป็นเดิมพันครั้งสำคัญ กว่าค่ายอื่นอย่างยูคอมจะขยับตัวมาทำแข่ง เอไอเอสก็ไปโลดแล้ว การบริหารชินคอร์ปจึงอยู่ในภาวะ "ผู้นำตลาด" เสมอ การบริหารแมนซิตี้ ต่างจากการบริหารชินคอร์ป เพราะตกอยู่ในสถานะไล่ตาม ไม่ใช่ผู้นำ หรือเป็นผู้กำหนดตลาดอย่างสมัยบริหารชินคอร์ป ดูอย่างเขลซีหรืออาร์เซนอล แย่งแชมป์จากแมนยูได้ก็หลายครั้ง แต่ทำไมการตลาดถึงยังแซงแมนยูไม่ได้สักที โดยเฉพาะเชลซี ที่ทุ่มเงินมโหราฬ + ดึงตัวปีเตอร์ เคนยอน คนที่ทำให้แมนยูเป็นผู้นำด้านการตลาดในโลก เชลซียังแซงแมนยูไม่ได้เลย เสี่ยหมีทุ่มขนาดนั้น ยังทำให้ผลงานเชลซีแซงแมนยูแค่ 2 ครั้ง แถมโดนแซงคืน ส่วนเรื่องการตลาดยังตามไกลอีกเยอะ ถ้าคุณทักษิณจะทำให้แมนซิตี้แซงแมนยูได้ทั้งสองเรื่อง คงต้องทุ่มเป็น 2 เท่าของเสี่ยหมี จากคุณ : :: AdvanceTactics :: - [ 9 ส.ค. 50 01:01:43 ]

ความคิดเห็นที่ 68 กลับไปนอนต่อดีกว่ามั่ง จากคุณ : นี่หรือคน (rnon) - [ 9 ส.ค. 50 01:40:27 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ก่อนอื่น ..... ขอบอกก่อนว่าจะไม่ตอบแบบการเมือง...แต่มันก็ช่วยไม่ได้ว่าจะเอี่ยวการเมืองนิดๆ เพราะทั่น Frank ทำเพื่อปูทางการเมื่องแต่ไหนแต่ไร .. ดังนั้นนโยบายหลายๆอย่าจิงอิงการเมืองอย่างช่วยไม่ได้ ... เพราะแนวทางทั่นมาแบบนี้อง...ผมตอบจากการกระทำของทั่น..ไม่ได้พูดถึงการเมือง แต่ถ้าใครจะคิดไปเอี่ยวการเมืองก็ช่วยไม่ได้ .... เพราะท่านทำของท่านเอง ... ถ้าจะไม่ให้ไปเอี่ยวการเมือง ... ก็เควรลิกทำให้มันไปเกี่ยวกันเอง ... (เกริ่นท่าจะยาวกว่าตอบ) ... อ้างอิงก่อน ... "เท่าที่ฟังแฟรงค์สัมภาษณ์นะคะ  เขาบอกว่าการตลาดของเขาไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน" <-- การตลาดของท่าน Frank ไม่เหมือนแน่ๆครับ .. เพราะโดยปกติการตลาดของท่านเป็นเชิงผูกขาด และสัมปทาน ... แต่ EPL ไม่ได้ให้ สัมปทานท่านนะครับ .. ผมคิดว่าไม่น่าจะง่ายแบบการตลาดของท่านที่ผ่านๆมา ... ถ้าEPL ให้สัมปทานท่านก่อน ... ผมว่า Man City มีสิทธิซง Top 4 ใน2 ปีได้ง่ายๆ.. อีอย่าง อันนี้สำคัญมากๆ .. อย่าง Chelsea เค้าประสพความสำเร็จ ... เค้าไม่ได้แค่ทุ่มเงินกับตัวผู้จัดการทีมและนัดแตะ ..แต่องค์กรณ์ภายในเค้าก็เปลี่ยนด้วย .. ถ้าเอาชัดๆก็เริ่มด้วยการนำเอาตัว ผู้บริหารระดับสูงมาก คือ Peter Kenyon ไปจาก man Utd เพื่อที่จะไปดูการตลาดและบริหารทีม Chelsea ... เร่องแบบนี้แหละครับ Man City ได้ขยับหรือยัง?? หลายๆคนคนคงไม่ได้คิดถึง kenyon ในกรณีของ Chelsea ..แต่ผมว่าหมอนี้แหละครับ เป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งในความสำเร็จของ Chesea .. มาดูผู้บริหารกันบ้าง ... เอาจริงๆ ถ้าเทียบความสามารถในการบริหาร ... ผมว่าทั้ง Glazer และ เสี่ยโรมัน มีความสามารถกว่าเสี่ยวแม้วเยอะ .. ธุรกิจของเสี่ยทั้ง 2 นั้นมากมายกว่าเสี่ยแม้วเยอะ ... เพียงแต่พวกเราเห็นและรับข่าวของเสี่ยแม้วมากกว่า ในขณะเดียวกัน .. เรารู้แค่ว่าเสี่ยโรมันและเสี่ Glazer รวย .. แต่ไม่ได้รู้ว่าเก่งมาจากไหน ... เลยอาจทำให้คิดว่าเสี่ยแม้วเก่งและมีความสามารถสูงมากจนสามารถนำทีมแซงไปได้ ... แต่ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากๆ ... สรุป . ผมคิดว่าเป็นไปได้ยากมาก ... มากถึงมากที่สุด ... คิดเหมือนหลายคนที่ตอบมาแล้ว เอาแค่แซง new utd กะ spurs ให้ได้ก่อนดีกว่า ... เรื่องการยืนระยะเองก็สำคัญ... Man City จะยืนระยะได้นานไหม (เรื่องนี้นาย Frank ไม่เก่งซะด้วย) ... ความสำเร็จหนะ ต้องใช้เวลา ... ไม่ใช่แค่ 1 ปีได้มาเลย ... ผมว่า Man City อย่าเร็วก็ต้องมี 5 ปีครับ ...นี่พยายามตอบไม่อิงการเมือง .. แต่ จขกท ถามถึง Frank เลยต้องตอบเกี่ยวกะ Frank ... ช่วยไม่ได้นะคับถ้าบางคนจะไปคิดเป็นการเมืองเอง ....... Only United จากคุณ : Mr.United - [ 9 ส.ค. 50 01:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าเอาจริงก็ทำได้ครับ ลองช็อปปีละ 50-100 ล้านปอน ต่อเนื่องสัก 5ปีสิได้แน่แต่จะกำไรหรือขาดทุนไม่รู้นะ จากคุณ : กร (saronkorn) - [ 9 ส.ค. 50 03:13:31 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอาเป็นว่า 3 ปี ถ้าแมนซิตี้อยู่ในฟรีเมียร์ได้ ก็ได้ที่ลงทุนคืนไปอ่ะนะฮะ ส่วนความสำเร็จเทียบกะแมนฯยู ผมว่าภาวนาให้ยกเลิกบาร์เกย์ ฟรีเมียร์เป็นรายการใหม่ดีกว่า เผื่อจะตามทัน แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 04:28:29 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 04:27:55 จากคุณ : ชาฟ (PJ_MAS) - [ 9 ส.ค. 50 04:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ยากอ่ะ จากคุณ : K-modjung - [ 9 ส.ค. 50 07:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 74 มีอีกหลายทีมที่จะให้แมนซิตี้ไปเทียบน่ะคัรบ เช่น ลิเวอร์พูล เชลซี อาเซนอล หรือแม้แต่ สเปอร์ จากคุณ : เด็กผี ปีศาจแดง - [ 9 ส.ค. 50 08:32:17 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เออ ความคิดเห็น 72 อย่าหาว่าจับผิดเลยนะ มันไม่ใช่บาร์เกย์นะที่เป็นสปอนเซอร์ พรีเมียร รู้สึกจะชื่อบาร์คเลย์ พรีเมียร แมน ซิตี้ คงไม่ใช่ของนอก ปีเตอร์ เคนยอน เราคงต้องใช้ของในครับ ตอนนี้คงเอาบุญคลี มาทำตำแหน่งแทนครับ  ตลกๆ อย่าซีเรียส บอกตรงๆ อ่านหลายความเห็น ขำ มาก อีกอย่าง โรมัน ที่รวย ก็เป็นเชิงผูกขาดและสัมปทานน้ำมัน ที่รัสเซียครับ เกือบเจอปูตินกวาดล้างด้วย ดีๆ ที่ ยัดใต้โต๊ะเจรจากับ ปูติน แต่เพื่อนพี่แก โดนเก็บหลายคน(เก็บคือยึดทรัพย์นะ) ทำให้โรมัน เข้าประเทศไม่ได้ช่วงหนึ่ง ความเห็น ที่ 69 เหมือนวิจาร์ณ รู้ธุรกิจ เปรียบเทียบเหมือนรู้ทุกคน แต่รู้สึกจะใส่ข่อมูลพี่แฟร์คด้านเดียวนะครับ จริงๆ เส้นทาง รวย ธุรกิจ ของมหาเศรษฐีระดับโลกแต่ละคนไม่ต่างกันหรอก ต้องผูกขาดธุรกิจให้ได้ ในเส้นทางที่ตนทำ ส่วนเกลเซอร์ แกมีประสบการ์ณ จากแทมป้า เปย์ บัคคาเนีย แกค่อนข้างให้อิสระองค์กีฬา ที่แกเป็นเจ้าของ ที่แทมปา เป้ย เนี่ย จอหน์ กรูเด้น แทบมีอิสระทำทีม มาก ตัดสินเฉียบขาด และ รวดเร็ว จนได้แหวนมาแล้วหนึ่งวง พอมาเทคแมนยู แกจึงรู้ว่าทำไง ส่วนพี่แฟร์ค ด้วยประสบการ์ณ ธุรกิจ ความเก๋า แกคงรู้ควรทำไง กับ สโมสรนี้ แกค่อนข้างปล่อยให้องค์กีฬาเดินหน้าอย่างอิสระ ยืนอยู่ในจุดที่ถูก ปล่อย สเวน และ ผู้บริหารทำงานอย่างเดิม แล้วปล่อยระบบทำงานไปก่อน ดุอยู่วงนอก แล้วต่อมาจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงยังไง เพื่อนแกมีระดับเจ้าของสโมสรหลายคน คงเล่าและแนะบางอย่างให้ฟัง เช่น อัล ฟาเย็ท แบร์ลุสโคนี ไอ้ที่บอกยืนระยะไม่นาน นี่มันเชิงการเมืองเลยล่ะ เพราะ ชินคอร์ป เติบโตจนถึงจุดพีค ใช้เวลากว่า 20 ปี ก่อนที่จะขายเพราะมันไม่โตกว่านี้ คู่แข่งธุรกิจเริ่มเยอะขึ้น พลาดไปลงการเมือง ในการเมืองที่บอกไม่นาน ก็ครบเทอมคนแรกในรอบหลายสิบปี อันนี้บอกเลยว่า ยืนระยะไม่นาน นี่อคติเต็มๆๆ ส่วนมากอยู่ไม่ครบเทอม ก็รู้กันอยู่คนไทย (อย่าว่าอิงการเมืองเลย ความเห็น ที่ 69 บอกไม่อิง แต่ขอบเขตแนวนี้) ผมว่านะ เรียนรู้เส้นทางธุรกิจแต่ละคนก่อนนะ ที่จะมาใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบ ถ้าคุณเสนอแผนงานอย่างนี้ที่ประชุมองค์กรใหญ่ ไม่ต้องถึงบรรทัดที่ 6 แล้วเจอไล่ลงแล้ว มีข้อมูลทางเดียว ส่วนเปรียบเทียบนั่งเทียนเขียน อันนี้แนะนำนะความเห็น 69 อย่าโกรธล่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 08:54:49 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 08:52:41 จากคุณ : solo one - [ 9 ส.ค. 50 08:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 76 เออลืมตอบคำถามนี่ครับ คำตอบผมไม่รู้ครับ เพราะอะไรจะเกิดในอนาคตก็ไม่รู้ แมน ยู บูมได้ เพราะมาประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ในช่วงยุค ที่การสื่อสารของโลกถึงกันหมด อย่างลิเวอร์พูล ตอนผูกขาด บอลลีกกมีเอฟเวอร์ตัน ฟอเรสต์ เป็นคู่แข่ง  ยังอยู่ช่วงทีวีขาว ดำ แล้วเปลี่ยนมาทีวี สี เลย  บอลอังกฤษ ยังไม่บูมขนาดนี้เลย จริงๆ แล้ว สยามสปอต์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเรียกว่า เติบโต อิง มาด้วยกัน เลยในไทย ไม่งั้น บิ๊กจ๊ะ จะเปรียบเหมือนสัญลักษณ์หนึ่งแมน ยู ของ  คนไทย การเติบโต ของตลาดแมน ยูในไทย กับ สยามสปอต์ กราฟค่อนข้างไปทิศทางเดียว (ไม่ใช่ว่าสยามสปอต์ เขียนเชียร์แมนยูนะ แต่การบูมของมันมาจากแนวทิศเดียว)  เพราะฉะนั้น การบูมแมนยู  คล้ายสยามสปอต เช่นเดียวตอนนี้ ที่มี สนพ เจ้าอื่นเข้ามาแบ่งตลาด แต่ตลาดส่วนใหญ่ ก็ยัง สยามสปอต์ และ แมนยู อยู่ เรื่องที่แมน ซิตี้ มาเป็นผู้นำส่วนแบ่ง ถือว่ายาก ขนาดลิเวอร์พูล แผนการตลาดยังเดินช้ากว่าแมนยู หลายก้าวเลย สรุปต้องคอยดูทิศทางตลาดผู้มาใหม่อีกที ปล.จอหน์ กรูเด้น เนี่ย เหมือนก่อนอยู่โอ้คแลนด์ เรดเดอร์ เจอเจ้าของเขามาวุ่นวายพอสมควร ในการเทรดผู้เล่นเลยไปไม่ไกล พอมาอยู่แทนป้า เบย์ นี่เกลเซอร์ ให้อิสระเต็มที่ไม่ยุ่ง คว้าแชมป์ในปีต้นที่คุม แต่ตอนนี้มีปัญหาควอเตอร์ แบ็ค แค่อยากสื่อ ประสบการ์ณ ในองค์กรกีฬา เกลเซอร์มีไม่น้อย ส่วน โรมัน มีที่ปรึกษา อันชาญฉลาดที่อยู่ในวงการ คือ ซาฮาวี เอเยนต์ ยิว การเดินทางเข้าสู่เส้นทางฟุตบอลก้าวแรกๆ เลยค่อนข้างจะถูกต้อง ไม่ว่าเรื่องปีเตอร์ เคนยอน ส่วนพี่แฟร์ค เกมธุรกิจ เปิดข่าวสร้างประชาสัมพันธ์ แต่ปิดข่าวการบริหาร องค์กร และ เรื่องภายใน ไม่ให้รั่ว  เราเลยยากจะบอกว่า หมากธุรกิจ พี่แฟร์คจะไปในแนวไหน นี่เป็นกลยุทธที่แกใช้มาตลอดเส้นทางธุรกิจ ของแก สุดท้ายอยากบอก ผม รัก ย โย่งนะ เพราะ ย โย่งทำให้ผมรักฟุตบอล และ เชียร์ลิเวอร์พูล (ไม่เกี่ยว แต่อยากบอก) เหมือน คุณ ศุภพร มาพึ่งคง(นามสกุลผิดหรือปล่าวไม่รู้) ที่เสียสละ เวลามานั่งอธิบายกติกา อเมริกา ฟุตบอลซ้ำไป ซ้ำมา  ตอนพากย์ใหม่ จนผมมีความอดทน นั่งดูจนรู้เรื่อง แม้ตอนหลังไม่ได้ดู แต่เป็นประเพณีชีวิตผมมากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ว่าเรียนหรือ ทำงาน ต้องอยุดวันที่แข่งซุปเปอร์โบล เพื่อดูหนึ่งในความยิ่งใหญ่ในวงการกีฬา ตอนไปอยู่ต่างประเทศก็ทำนะ แม้ว่าในเมืองไทย เกม ซุปเปอร์ โบล คนพากย์จะแย่งกันพูด แต่ทุกครั้งที่เห็นการรับรางวัลแชมป์ ความดีใจของทีมงานทั้งหมด ขนลุกทุกครั้งเลย (ไม่เกี่ยวเหมือนกัน แต่อยากจะพูด) แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 09:25:16 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 50 09:24:34 จากคุณ : solo one - [ 9 ส.ค. 50 09:10:24 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มีเกิดย่อมมีดับครับ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอก เชลซีก็เพิ่งจะมายิ่งใหญ่เมื่อไม่กี่ปีนี่เอง เมื่อก่อนอยู่กลางตาราง ที่เหลือก็ลองคิดดู จากคุณ : Nakamurai - [ 9 ส.ค. 50 09:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 78 เชลซีก่อนจะดังแบบนี้ กี่ปี ถ้านับจากยุคฮ๊อทเดิ้ล คุมทีม แล้วมาเป็นกุลลิต วิอัลลี่ รานิเอรี่ แล้วค่อยเป็นมูรินโย่ เคนท์ เบส ทุมเงินไปเยอะมาก แล้วมากำไรตอนขายให้เสียหมี แต่กินเวลา 10 กว่าปี แล้วถ้าไม่มีเงินเสี่ยหมี กับมูรินโย่ ทีมก็ไม่ได้แชมป์พรีเมียร์หรอกครับ แต่ถ้าดูว่าเกลเซอร์เทคแมนยู ปีเดียวได้แชมป์ ทีมมันดีมาอยู่แล้วปรับไม่เยอะ หรือเสี่ยหมีเข้ามา 2 ปีได้แชมป์ ทีมมีตัวเลือกแบบอยากได้ใครก็เอาเลย แถมทีมเดิมไม่ขี้เหร่มาก แต่ทีมแมนซิตี้ ดูนับจากนี้ซัก 3 ปี ถ้าเกาะ top 7 ได้ ก็เก่งแล้ว ระดับทีมอย่างสเปอร์ เอฟเวอร์ตัน นิว แบ็ลคเบินส์ ไม่หมูครับ แถมทีมที่ไม่มีดาราแต่สปิริทดีอย่าง เรดดิ้ง ยังผ่านยากเลยครับ จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 9 ส.ค. 50 09:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เอาในแง่การตลาดละกันมีโอกาสแซงครับ แต่เมื่อไรไม่รู้ แต่จะแซงได้ก็ต้องประเภท ปีนี้ได้ แชมป์พรีเมีย ปีหน้า ป้องกันแชมป์ได้ และเป็นแชมป์ UCLA และปีต่อๆๆๆๆๆไป ก็ได้แชมป์อีก ในขณะที่แมนยูไม่ได้แชมป์อะไรอีกเลย เปลี่ยนรูปแบบการเล่น ไม่ได้เล่นบอลบุก ไม่มีการซื้อตัวดารามาเสริม ตกชั้น นี่เทียบเฉพาะกับแมนยูนะครับ ซึ่งปรากฎการณ์นี้คงยากที่จะเกิด แต่อย่าลืมนะครับ แมนยูไม่ได้ถ้วยมาเกือบ 3 ปี ก็ไม่ได้ส่งผล ว่าแฟนจะลดลงเลย ฉะนั้นมีโอกาสแซงได้ครับแต่ไม่รู้ผมจะได้อยู่เห็นหรือเปล่า จากคุณ : chocolato - [ 9 ส.ค. 50 10:39:12 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ตามความคิดของผม  ถ้าแฟรงค์มีความจริงใจ ในการทำทีมอย่างต่อเนื่อง แมนฯซิตี้ ก็มีสิทธิ์ติดอันดับท๊อปของพรีเมียร์ได้ครับ  แต่ก็คงใช้เวลาสะสม บารมีและศรัทธาไม่ต่ำกว่า 20 ปีอ่ะครับ จากคุณ : chayapop - [ 9 ส.ค. 50 10:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 81 สร้างทีมฟุตบอลนะคุณ  ไม่ใช่สร้างศาลาวัด  เชลซี กว่าจะมีวันนี้  ก็ต้องเริ่มมาตั้งแต่กลางยุค 90 ที่ดึงพวก กุลลิท,วิอัลลี่มา    ลิเวอร์พูล,แมนยู,อารเซนอล กว่าจะมีวันนี้ ใช้อดีตเป็น 100 ปี   ถ้าเปรียบเทียบจริงๆ ตอนนี้ ถ้า แฟรงค์ มุ่งมั่นจริง ตอนนี้ก้เท่ากับว่า แมนซีตี้ เริ่มจะหัดเดิน ให้ไปสู่ทีมที่ยิ่งใหญ่ ครับ   ในอดีต ทีมที่หัดเดินที่จะไปสู่ทีมที่ยิ่งใหญ่ ก็เคยมีมาแล้วครับ อย่าง ลีดด์ ที่ท่มซื้อ มาหลายปี ซื้อแบบไม่คิดไร  แต่พอทีมไม่ได้แชมป์อะไรเป็นกอบเป้นกำ หรือไม่ได้เล่นในยุโรป เงินก็หมุนไม่ทัน ก็มีอันต้องแพแตก ครับ ดังนั้น  ต้องใช้เวลาครับ เพราะ ถ้าจะเอาแค่ ปีนี้ได้ อันดับดี แบบพวก วีแกน หรือ เรดดิ้ง  แต่ปีต่อไปไม่รู้ เพราะมาตรฐานไม่แน่นอนก็ลำบากครับ จากคุณ : re_der - [ 9 ส.ค. 50 11:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ถ้าแมนซิตี้ ชนะ 38 นัดรวด ในฤดูกาลหน้า แซงแน่ครับ แซงขาดเลย   ดังระเบิด เป็นไปได้มั้ยหว่า ทางทฤษฎี มีทางเป็นไปได้ 100% ทางปฏิบัติ มีทางเป็นไปได้ 5% นัดที่สาม คงจะได้รู้ผลแล้ว จากคุณ : คีโน่ (New_BlackCat) - [ 9 ส.ค. 50 11:47:02 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เสี่ยหมีจ่ายเท่าไหร่กว่าจะได้แชมป์ เสี่ยแม้วจ่ายยังไม่ถึงครึ่งเลย เอาเป็นว่าค่าตัวนักเตะโดนรวมยังสู้นิวหรือสเปอร์ไม่ได้เลย คิดสิ จากคุณ : tatae_kung - [ 9 ส.ค. 50 12:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 84 คนอื่นเค้าก็มีมือมีเท้า...นา.. ฮิๆ อนาคตของทีมนี้อยู่กับสเวนว่าจะทำทีมออกมาอย่างไรในฤดูกาลแรก มากว่ามาดูเรื่องฝีมือบริหารของพี่แฟรงค์เค้า จริงเรื่องบริหารก็มีส่วนอยู่ แต่ว่าผลงานในสนามในฤดูกาลแรกมีส่วนมากกว่า ว่าแนวโน้มการลงทุนจะคุ้มค่าหรือไม่ ได้ใจแฟนๆหรือไม่ ถ้าทำออกมาดี สาวกควักไม่อั้นอยู่แล้ว  ส่งเสื้อแท้มาขายเมืองไทย ก็น่าจะขายได้ สรุปว่าเอาแค่ปีนี้ไม่ตกชั้น หรือหวังสูงได้ท็อปเทนเป็นอย่างน้อยจะดีกว่าใหม ทางธุรกิจมันต้องดูหลายๆปี กว่าจะถอนทุนกลับมาได้ ดูเชลซีเป็นตัวอย่างซะก่อน ลงทุนไปเท่าไร3-400ล้านปอนด์แล้วมั่งนั่น ขนาดว่าได้แฃมป์แล้วหลายแชมป์ คาดว่ายังต้องใช้เวลา10ปีเป็นอย่างน้อย... กลัววแต่ว่าพี่แฟรงค์เค้าจะมาอีกหรอบดียวกับเพื่อนซี้แก ที่เป็นเจ้าของทีมฟูแล่มนะซี้.. ฟูแล่มฤดูกาลนี้ท่าทางร่อแร่ๆอยู่นา..เสริมทีมแล้วดูไม่กระเตื้องจากฤดูกาลที่แล้วเท่าไร ผมว่าพี่แฟรงค์แกไม่ค่อยโม้เหมือนที่เคยเป็นเท่าไรที่ว่าปีแรกขอ 1ใน10 ปีหน้าไป ยูฟ่า แต่แฟนๆแถวนี้สิ..เห่อไปนิด ก็พอเข้าใจอะนะ.. อีกอย่าง อย่าลืมว่า ที่อังกฤษ แฟนบอลเค้าขับไล่ใสส่งโค้ชกันแรงก็มีนะ เผลอๆอาจจะลามมาถึงประธานสโมสรด้วยหละ บริหารให้ดีๆหละพี่แฟรงค์นะ จากคุณ : Olivier - [ 9 ส.ค. 50 13:31:44 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ยังมีคนกล้าคิดว่าภายใน 3-4-5-6-7 ปี ซิตี้จะแซงแมนยูได้ 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 ถ้า สัก 30 - 4 0 ปีข้างหน้าล่ะพอไหว จากคุณ : POZZ - [ 9 ส.ค. 50 13:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เล่าแปะ....กล่าวไว้ว่า  ใดๆในโลกล้วนไม่มีที่สุด ที่ว่าไม่มีทางเป็นไปได้   ก็อาจเป็นได้. จากคุณ : แมกไม้สายน้ำ - [ 9 ส.ค. 50 15:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ไม่มีทาง  ไม่มีทาง  ไม่มีทาง เอ... แต่ทุกครั้งที่พิมพ์ ทำไมมันต้องมีคำว่า "มีทาง" อยู่ด้วยนะ จากคุณ : Gunship (คุณสนุกคิด) - [ 9 ส.ค. 50 16:39:29 ]

ความคิดเห็นที่ 88 กับมาดูอีกที ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเมื่อไรนะครับ จากคุณ : chocolato - [ 9 ส.ค. 50 16:42:49 ]

ความคิดเห็นที่ 89 OHO! ช่างเป็นฤดูการลที่แตกต่างเหลือเกิน ฤดูกาลที่แล้วยังไม่เห็นมีแฟนแมนซิตี้ในห้องนี้เลย แต่ฤดูกาลนี้ เพียบเลย ..... ขอตอบจขกท.... เป็นไปไม่ได้ค่ะ จากคุณ : Nong_Janeen - [ 9 ส.ค. 50 16:56:02 ]

ความคิดเห็นที่ 90 #87 ลึกซึ้งจริงๆ จากคุณ : iamtum - [ 9 ส.ค. 50 17:32:42 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ถ้าจะบอกว่าแซงเรื่องแชมป์ดิฉันคิดว่ายังพอเป็นไปได้ แต่ถ้าเรื่องแฟนคลับหรือชื่อเสียงประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน สิ่งนี้ซิตี้ต้องใช้เวลาค่ะ เอ แต่มันก็ไม่แน่นะคะ เพราะทักษิณมีในสิ่งที่คนอื่นไม่มีคือ ถ้าคนเกลียดได้ยินแม้แต่ชื่อก็ไม่ได้  แต่ถ้ารักเนี่ยก็รักแบบสุดๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ ดิฉันเป็นแฟนแมนยูมา 10 ปี  ทุกวันเสาร์ต้องหาร้านที่เปิดแมนยูฯแข่ง เป็นอย่างนี้มายาวนาน วันไหนแมนยูฯแพ้ ถึงขนาดเซ็งยิ่งกว่าแฟนทิ้งอีก แต่ตอนนี้เป็นแฟนซิตี้หมดหัวใจเลยค่ะ ซึ่งดิฉันคิดว่าน่าจะมีแฟนบอลที่เป็นอย่างดิฉัน ไม่เฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น จากคุณ : iamtum - [ 9 ส.ค. 50 17:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 92 #91 แมนยู เป็นแชมป์ลีกสูงสุด 16 ครั้ง เป็นแชมป์ถ้วยใหญ่สุดของยุโรป (ยุโรเปี้ยนคัพ+UCL) 2 ครั้ง เอาแค่นี้ซิติ้ก็ต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปีแล้วครับ ถ้าคิดจะแซงเรื่องแชมป์ที่คุณคิดว่าพอเป็นไปได้ จากคุณ : ยืมล็อกอินภรรยามาโพสท์ (คุณแม่น้องคะเน็ด) - [ 9 ส.ค. 50 17:59:39 ]

ความคิดเห็นที่ 93 จะแซงเรื่องไหนครับ ผลการแข่งขันผลงาน =  พอเป็นไปได้ แต่ต้องทุ่มเงินมหาศาลซื้อความสำเร็จ แต่ยากนะ ยากมาก เฮียหมียังต้องทุ่มมหาศาลเลย การตลาด =  ไม่มีทางแซงได้  แมนยูนั้นไปไกลมองไม่เห็นฝุ่นแล้ว แค่แฟนในเอเชียก็ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว  แล้วคนที่เขาเชียร์อยู่แล้วน่ะ เขาไม่เปลี่ยนใจหรอก จะมีก็แค่คนไทย ที่อาจเปลี่ยนใจหรืออาจมาเชียร์เพราะเห็นว่าคนไทยเป็นประธานสโมสร แต่แฟนๆ ประเทศอื่นเขาไม่เปลี่ยนแน่ จากคุณ : ManUtdFC - [ 9 ส.ค. 50 20:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ถ้าคุณจะทำอะไรให้สำเร็จ ต้องไม่มองว่าจะแซงได้หรือไม่ได้ คุณต้องมองว่า  ถ้าจะให้ Man City แซงหน้า United  ต้องทำอะไรบ้าง ผมมองว่า  ด้านการตลาด  ต้องทำต่อเนื่องยาวนาน แต่ ถ้าทัก บุกแฟนๆในเอเชียหนักๆ  อาจจะเป็นการตีจากภายนอก โดยเฉพาะตลาดจีนแผ่นดินใหญ่  ก็ไม่แน่เหมือนกันนะครับ ส่วนผลงานในสนาม ถ้าวัดแข่งแบบเจอกันเนี่ย ผมว่าฟุตบอลลูกกลมๆไม่แน่ว่าใครจะชนะนะ  แต่ถ้าผลงานในลีก  ต้องยอมรับว่าแมนยูที่มีระบบทีมที่ดีกว่า นักเตะที่ดีกว่า ได้เปรียบแบบเทียบกันไม่ได้ จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 9 ส.ค. 50 22:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 95 แม๊วตายไปก็คงตามไม่ทันหรอก... ไม่เชื่อรอดูนะ จากคุณ : PLUS+A - [ 10 ส.ค. 50 15:09:59 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ปีหน้ายังอยู่ใน พรีเมียร์ ค่อยมาพูดเรื่องแซงดีไหมครับ การตลาดไทยหรือการตลาดโลก การตลาดไทยไม่แน่ แต่โลกเนี่ย นอนก่อนดีครับ นอนเปิดพัดลมแล้วฝันต่อไปเหอะ แล้วบ้าตัวไหนนะ บอกว่าคนเมือง manchester ชอบ ซิตี้ มากกว่า ยูไนเต็ด ฝันรอบที่เท่าไหร่อะ จากคุณ : ยุ่งแฮะ - [ 11 ส.ค. 50 12:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ไม่มีอะไรแน่นอนครับ จากทีมออกบ๊วย จะให้ชนะทีมอันดับหนึ่ง-สอง นั้น มันมีอะไรมากกว่า นั้น ว่าแต่ ... คำถาม ห่วยมาก จากคุณ : ตองหก - [ 14 ส.ค. 50 16:54:20 ]