ความคิดเห็นที่ 1 ที่ผมข้องใจคือ มีสถานสอนมวยไทยไชยาในประเทศไทยหลายแห่ง  มีการรวมตัวเพื่อให้หลักสูตรอยู่ในทิศทางเดียวกันหรือเปล่า  ถามตรงๆคือ 1  ไม้มวยไชยาทุกไม้มีชื่อและการใช้เหมือนกันหรือเปล่า? 2  จากข้อหนึ่ง  มีไม้มวยไชยาชื่อเตะฝานบวบหรือเปล่าครับ  และถ้ามี  ลักษณะการเตะเป็นเช่นไร 3  จากที่คุณPGPได้แจ้งในกระดานมวยจีน  มวยครูแปรงเรียกแม่ไม้จรเข้ฟาดหางว่ากวางเหลียวหลัง   มวยไชยาสายอื่นเรียกอย่างเดียวกันหรือเปล่าครับ? 4  มีการต่อยอดจากครูแปรง  เกิดเป็นไม้มวยชื่อ"ไต่เขาพระสุเมรุ"  อันนี้ได้รับการยอมรับจากกลุ่มของมวยไชยาทุกสายหรือเปล่า?  หรือว่าเป็นแม่ไม้,;pครูแปรงครับ? ผมอยากเข้ามาถกต่อเมื่อได้ความกระจ่างข้างบนนี้ครับ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 14 ส.ค. 50 18:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้ขอตอบคห#  จากกรดานมวยจีนครับ จะให้ศิษย์สำนักเดียวกัน เรียนได้เท่าเทียมกัน ก็คงมีแต่น้อยมาก ๆ ไม่งั้นคนฝึกมวยไทยทุก ๆ ค่ายก็คงเก่งเท่ากันหมด และก็น่าจะทันกันในเรื่องรูปมวย ซึ่งในชีวิตจริงมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย ผมไม่ได้พูดถึงความเก่งของศิษย์ครับ  แต่พูดถึงความเข้าใจในวิชาที่กลับกันอย่างกะขาวกับดำ  คนหนึ่งบอกเตะตัดลง  แต่อีกคนบอกเตะเฉียงขึ้น อย่างเรื่องการตีความนี่ก็เหมือนกัน การยกแข้งหน้าขึ้นมาเพื่อคลุมอวัยวะ ทั้งสีข้าง และ อัณฑะ ของทางไชยาเขาก็เรียกว่า ยกย่างท่าครู ในขณะที่มวยเวทีปัจจุบันเรียกว่า ตั้ง "กำแพงหน้า" น่าสนใจว่า คำนิยามว่า กำแพงหน้า นี้ใครเป็นคนคิด (ไม่ได้บอกว่าผิดหรือถูกนะครับ) เป็นศัพท์เรียกแต่เดิมครั้งมวยไทยยุคไหน หรือเปล่า หรือ คิดกันเองขึ้นมาทีหลัง แล้วทำไมถึงแพร่หลายไปในหมู่นักมวยไทยเวที ทำไมในมวยโบราณ ไม่ว่าจะ ไชยา โคราช หรือ สายอื่น ๆ ไม่เห็นมีเรียกว่า ตั้งกำแพงหน้า เลย ถ้าจะบอกว่าทางไชยาเขาทำให้ศัพท์วิปริตผันแปรไป เรื่องกำแพงหน้า นี่ผมก็ว่ามันก็ไม่ต่างกัน ยกเว้นจะบอกว่า มวยไทยแต่โบราณมา เรียกว่า ตั้งกำแพงหน้า อยู่ทุกหัวระแหง ก็จบครับ อย่างนี้ไชยาเขาผิดแน่ ๆ คุณรักมวยไทยว่าอย่างไรดีครับ โดย เรื่องเดิม ๆ เซ็ง  เวลา 13:21:37 น. 14 ส.ค. 2007   ผมก็ต้องว่าคุณ"เรื่องเดิมๆ" ยกตัวอย่างได้เพี้ยนประเด็นมากๆครับ  ประเด็นอยู่ที่ไม้มวยไทยมาตรฐาน  และไม้มวยครูแปรง  ไม่ได้เกี่ยวกับมวยเวทีเลย  ไม้มวยไทยมาตรฐาน  ไม่ใช่มวยเวทีนะครับ  และก็คงไม่ใช่ไม้มวยครูแปรง  เพราะมีการเรียกชื่อต่างกัน  ส่วนคำว่า"กำแพงหน้า"ก็เป็นคำพากย์ของผู้บรรยายมวยไทยครับ  เช่นเดียวกับ"ไถนา"หรือกระตุกเสื่อ" ไม่ใช่ศัพย์ของมวยเวทีครับ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 14 ส.ค. 50 19:01:41 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามความเข้าใจของผมนะ... แต่เดิมมา.. สมัยโน้น การคมนาคมและการติดต่อสื่อสารมันไม่ได้ดีเท่าปัจจุบัน.. แต่ละบ้าน แต่ละหัวเมือง ก็จะมีครูมวยที่มีแนวคิดในการป้องกันตัวต่างๆกันไป... แต่ด้วยที่สรีระของคนธรรมดานั้นมันเหมือนกัน... วิธีออกอาวุธมันก็อาจซ้ำรูปแบบกันได้บ้าง.. เป็นธรรมดา... ด้วยที่ใช้ภาษา ใกล้เคียงกัน... ชื่อที่เรียก ก็อาจมีซ้ำ.. หรือผิดเพี้ยนกันออกไปบ้าง... ไม่มากก็น้อย... ชื่อท่านั้น.. บางครั้ง.. ครูมวยบางท่าน.. (ในสมัยก่อนนะครับ) อาจจะคิดท่าการต่อสู้ที่เหมือนกัน.. แต่ตั้งชื่อต่างกันออกไป.. บางครั้ง เรียกท่าที่ต่างกัน.. ด้วยชื่อที่บังเอิญตั้งพ้องเสียง หรือเป็นชื่อเดียวกันไปเลย... ก็ไม่แปลก.... ก็คงไม่ขนาดว่า... คิดท่าๆหนึ่งขึ้นมา.. แล้วต้องขี่ม้านั่งเกวียนไปทั่วสยามเพื่อจะบอกว่า "ทำยังงี้นะ.. แบบนี้นะ.. ชื่อท่านี้นะ" หรอกกระมังครับ... ข้อข้างบนนี้... ตอบประเด็นได้ส่วนหนึ่ง... ทีนี้.. ทำไม... บางท่า เราเรียกกันเป็นมาตรฐานกันทั่ว... ผมเชื่อว่า เป็นความพยายามในการรวบรวมท่าทางต่างๆในสมัยหนึ่งก่อนหน้านี้.. เพื่อทำการบรรจุเป็นตำราหนึ่งหละ... หรือมีมวยดัง.. มีฝีมือในยุคนั้น.. ทำการแพร่หลายจนชื่อท่านั้นเป็นที่รู้จักกันทั่ว.. หนึ่งหละ... มีอะไรอีกบ้างครับ.. ที่จะทำให้ "ท่ามวย" ท่าเดียวกัน.. ถูกเรียกได้หลายชื่อบ้าง... อาจเป็นเพราะการตั้งชื่อนั้น... เปรียบเสมือน "โค๊ดลับ" เพื่อบอกให้แต่เพียงกลุ่มของตนรู้... บ้างหละ.. อย่างถ้าหากประลองดาบกันอยู่.. ครูดาบตะโกนสั่งให้ "ตีขนาน" คู่ต่อสู้ก็อาจพะวงในเรื่องป้องกันตีขนาน... แต่คำที่ตะโกนไปกลับเป็นเพียง "โค๊ดลับ" เพื่อจะหลอกจัดการกับพวกที่รับ ตีขนานหละ... เออ.. ผมก็เพ้อเจ้อนะนี่... พอมองภาพออกมั้ยครับ... ว่าทำไม.. ถึงไม่เหมือนกัน... ถ้าข้าศึกรู้หมดเลย.. ว่าเราสั่งการกันอย่างไร.. ทำงานกันอย่างไร.. เรานั่นแหละ.. จะยาก.. ที่จะทำงานให้สะดวกได้... ทั้งหมดนี้ผมบ่นเรื่อยเปื่ยละกันนะครับ.. ตามประสาคนรู้น้อย... แต่ที่ตั้งใจมาเขียนนี่.. จะเขียนเรื่องนี้ต่างหากครับ.... ทำไมต้องเหมือนกัน... ทำไมต้องตั้งหลักสูตรให้เหมือนกัน... ผมเชื่อว่า... ความแตกต่างเป็นสเน่ห์ครับ.. ไม่ใช่ข้อแปลกแยก... หากคนไทยสมัยโบราณเป็นดาบเพียงสายเดียว... ต่อให้เพลงดาบยอดเพียงไร.. หากถูกจับทางได้.. ก็จบ... แต่เราแข็งแกร่งได้... เพราะเรา... เก่งหลายแบบครับ.. มีหลายวิชาที่เป็นยอดในตัวเอง... อยู่ในไทย... ลองคิดดูนะครับ... ว่าถ้าเมืองไทยมีแต่มวยสายโคราช... (ไม่ใช่ว่ามวยโคราชไม่เก่งนะ) และห้ำหันซัดกันนัวเนียอยู่แต่สายนี้... ซัดกันมันส์หยด... กับมวยโคราช.. ปะทะมวยลพบุรี.. แต่ละค่าย ทั้งโคราชและลพบุรีมีชือท่าที่เรียกต่างกัน... มีวิธีป้องกันตอบโต้โจมตีจากลาที่ต่างกัน... ลีลาต่างกัน... มันจะมันส์แค่ไหน.... จริงปะครับพี่... แล้วถ้าหากวันหนึ่ง... มวยลพบุรี... มวยไชยา... มวยท่าเสา.. ฯลฯ ต้องมาเรียน.. และฝึกฝนในหลักสูตรกลาง... ที่เหมือนกันทั้งประเทศ... มันจะเกิดอะไรขึ้น..... มันจะมีอะไรเด็ดๆหายไปมั่งมั้ยครับ.... หรือมันอาจจะเกิดการผสมผสานจนเกิดวิชาใหม่ขึ้นมา.. เด็ดดวงเลยหละมังครับ.. หุหุ...... มันอาจจะดีก็ได้นะครับ.. ใช่ปะครับ... ผมรู้น้อยนะ... เอาใว้คนรู้เยอะๆมาตอบแล้วกันครับ... ป.ล. สายของครูแปรงเรียกแบบนี้... เพราะเรียกกันอย่างนี้มาแต่สมัยก่อนครับ... ถ้าจะเปลี่ยนไปเรียกแบบมาตรฐานกลาง.. มันเหมือนไม่ยอมรับคำที่ครูท่านเรียก.... แต่ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับคำจากข้างนอกนะครับ... พวกผมก็พอเปรียบเทียบกันอยู่... ว่าอันไหน.. ไกล้เคียงกับอะไร... เป็นว่า.. ถ้าเรียกไม่เหมือนกันหละก็... ปล่อยให้เป็น "โคดลับ" ของพวกผมละกัน... เหอๆ........ ขอบคุณครับ..... จากคุณ : งาสาน (งาสาน) - [ 14 ส.ค. 50 22:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความจริงนะผมว่าเรื่องนี้จะยุติ เมื่อทางฝ่ายลูกศิษย์ครูแปรงเลิกเผยแพร่  และโพสเกี่ยวกับวิชาของตนในเว็บ  ส่วนพวกมวยไทยมาตรฐาน ก็เลิกยุ่งกับสายเค้าซักที    ปล่อยกันไป  อยู่ทางใครทางมัน   ถ้ามาโวยวายกันอย่างนี้ไม่ดีแน่    ให้แน่ไปสู้กันเลยครับ อย่ามาเถียงกันให้มันได้พระแสงอะไรล่ะ จากคุณ : kitler - [ 14 ส.ค. 50 22:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องขอเรียนคุณงาสานว่า เข้าใจเจตนาผมผิดครับ  ไม้มวยต่างๆย่อมเรียกแตกต่างกันได้ครับ  หากมีการบอกกล่าวที่มาที่ไป  ถ้าจะใช้โค๊ดลับ  ทำไมถึงออกมาเผยแพร่ให้เกิดการเข้าใจผิด?  การใช้ภาษาแอบแบ๊ว  ก็เป็นเสน่ห์ของกลุ่มวัยรุ่น  แต่เมื่อมีการนำมาใช้ไม่เลือกโอกาสก็ต้องมีการแย้ง  เพื่อไม่ให้ภาษาไทยเพี้ยน  หากกลุ่มครูแปรงจะกล่าวถึงไม้มวยของกลุ่ม  และบอกกล่าวว่าเป็นของมวยครูแปรง  ย่อมไม่เกิดการสับสน  คงไม่มีใครไปตำหนิว่าไม่ใช่แม่ไม้มวยมาตรฐาน  จะเผยแพร่ก็เป็นเรื่องปกติครับ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 15 ส.ค. 50 05:38:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 . สวัสดีครับ ผมมีความสนใจอยู่แต่ ....ไม้มวยไชยาชื่อเตะฝานบวบ... ว่าเป็นอย่างไร ถ้าว่างกรุณา อธิบาย ลักษณะเตะ ให้ทราบด้วย ครับ ผมรู้จักแต่ ...กลฝานลูกบวบ... หรือ ..ลักษณะรุกพร้อมเสยศอกเข้าแสกหน้า อันอาจจะเฉียง หรือ ตรงก็ได้ แต่ถ้าเป็นการเสยซีกโครงด้านข้าง ก็จะเป็น ..กลสักพวงมาลัย.. ฉนั้น ถ้าเป็นท่า ..เตะผมมองไม่ออกจริงๆ ครับว่า จะทำกันอย่างไร ? เอาละ ถ้าจะเป็นท่าเตะ น่าจะเป็นท่าในตระกูล ..กลบาทาลูบภักตร์.. เพราะลูกบวบเป็นนัยหมาย ถึง ร่างกายส่วนหัว และฝาน ก็คือ เสยจากล่างขึ้นบน ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 15 ส.ค. 50 06:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาอ่านนะครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 15 ส.ค. 50 06:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 8 #รักมวยไทย ผมเคยเห็น คุณสมรักษ์ คำสิงห์ สอนออกรายการ Sport Trick ทางช่อง 5 ก็เรียก "....ตั้งกำแพงหน้า....." เหมือนกันครับ คงไม่ต้องบอกนะครับว่า คุณสมรักษ์ เป็นมวยไทยแบบไหน รายการเดียวกันนี้ คุณสมรักษ์เคยเป็นพิธีกร และ ก็เคยประกาศว่า มวยไชยาที่ครูแปรงท่านสอน เป็น มวยไทยประยุกต์ (รายการนี้เคยนำเสนอ มวยไชยาของครูแปรงเหมือนกัน ) ถ้าจะดูว่าจริงไม่จริง ผมโกหกหรือเปล่าไม่ยากครับ ไปขอเทปที่ ช่อง 5 ดูก็หมดเรื่องกัน ไม่ได้ต้องการจะบอกว่า ใครผิดใครถูก แต่เห็นบอกว่า ไม่ใช่ศัพท์ของมวยเวที จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ เซ็ง - [ 15 ส.ค. 50 08:03:04 A:58.10.222.227 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อีกประการ การเปิดตัวของมวยไชยา ก็ บอกอยู่เสมอว่า เป็น "มวยไชยา" ถึงแม้มันจะมีคำว่า เป็นมวยไทยโบราณ แต่ก็มีการขยายความกันมาตลอดว่า เป็น สายไชยา และก็มีการทำประชาัสัมพันธ์อยู่ตลอดว่า ยังมีมวยไทยโบราณสายอื่น ๆ อยู่อีก เช่น โคราช ,ลพบุรี ,ท่าเสา ฯลฯ ไม่ได้ยกเมฆว่า เป็นมวยไทยโบราณ ที่เป็นเอกลักษณหนึ่งเดียว์ของประเทศไทยนี้เสียหน่อยนี่ครับ การสอนโดยยึดหลักของครูบาอาจารย์แต่อดีตมา มันไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ และก็มีการประชาสัมพันธ์อยู่เสมอว่าที่มาเป็นอย่างไร แบบไหน ไม่ได้ปกปิดหมกเม็ดอะไรไว้เลย ผมก็เลยไม่รู้ว่า ทางมวยไชยาสายครูแปรง จะต้องรู้สึกผิดตรงไหน ถ้าจะผิด ก็ผิดตรงที่ว่า ดันอนุรักษ์วิชาโบราณตามแบบที่ครูเก่าแก่สอนมา และ มีผู้สืบทอดไว้ได้เป็นรูปธรรมมากที่สุดเท่านั้นเองหละครับ เรื่องนี้ ผมว่ายังดูเหตุผลชี้แจงได้ดีกว่า เรื่องของ กรณี 2 องค์กรมวยไทยรวมกันไม่ได้อีกนะครับ 2 องค์กรนั่นหนะ มาตรฐานเดียวกันทุกอย่าง แต่ทำไมถึงรวมกันไม่ได้ น่าแปลกใจ กว่ากรณีนี้เยอะครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ เซ็ง - [ 15 ส.ค. 50 08:26:10 A:58.10.222.227 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ  คุณรักมวยไทย... จะนำไปพิจารณาครับ... แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 50 12:12:17 จากคุณ : งาสาน (งาสาน) - [ 15 ส.ค. 50 08:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 8   ผมเคยเห็น คุณสมรักษ์ คำสิงห์ สอนออกรายการ Sport Trick ทางช่อง 5 ก็เรียก "....ตั้งกำแพงหน้า....." เหมือนกันครับ คงไม่ต้องบอกนะครับว่า คุณสมรักษ์ เป็นมวยไทยแบบไหน ถ้าจะดูว่าจริงไม่จริง ผมโกหกหรือเปล่าไม่ยากครับ ไปขอเทปที่ ช่อง 5 ดูก็หมดเรื่องกัน ไม่ได้ต้องการจะบอกว่า ใครผิดใครถูก แต่เห็นบอกว่า ไม่ใช่ศัพท์ของมวยเวที จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ เซ็ง - [ 15 ส.ค. 50 08:03:04 A:58.10.222.227 X: TicketID:025907 ]  ชื่อที่ใช้นี่เหมาะสมเลยครับเรื่องเดิมๆ ไม่ใช่ประเด็นกระทู้เลย  แต่จะตอบให้ครั้งนี้คงพอนะครับ  ถ้าอยาถกก็ตั้งประเด็นมา  ผมจะไปถกด้วยครับ   คุณสมรักษ์เป็นพิธีกร  ผมเข้าใจว่าคงใช้ภาษาพิธีกรอธิบายกลยุธในการต่อสู้ของมวยเวที  การฝึกมวยเวทีนั้น  ไม่มีท่าไม้มวยที่มีชื่อเฉพาะแบบไม้มวยไทยมาตรฐานครับ ที่คุณเรียกว่าตั้งกำแพงนั้น  ผมว่าคุณเรื่องเดิมๆจำผิด  เพราะที่ผมเห็นพิธีกรเรียกตั้งกำแพง  คือ  เมื่อมีการเข้าปล้ำ  ฝ่ายหนึ่งจะยกขา  เอาแข้งพาดขวางต้นขาคู่ต่อสู้  ป้องกันคู่ต่อสู้ยกขาขึ้นมาตีเข่า ไม่ใช่อย่างที่คุณเรื่องเดิมๆอธิบายไว้ครับ อย่างเรื่องการตีความนี่ก็เหมือนกัน การยกแข้งหน้าขึ้นมาเพื่อคลุมอวัยวะ ทั้งสีข้าง และ อัณฑะ ของทางไชยาเขาก็เรียกว่า ยกย่างท่าครู ในขณะที่มวยเวทีปัจจุบันเรียกว่า ตั้ง "กำแพงหน้า" ความคิดเห็นที่ 9   อีกประการ การเปิดตัวของมวยไชยา ก็ บอกอยู่เสมอว่า เป็น "มวยไชยา" ถึงแม้มันจะมีคำว่า เป็นมวยไทยโบราณ แต่ก็มีการขยายความกันมาตลอดว่า เป็น สายไชยา และก็มีการทำประชาัสัมพันธ์อยู่ตลอดว่า ยังมีมวยไทยโบราณสายอื่น ๆ อยู่อีก เช่น โคราช ,ลพบุรี ,ท่าเสา ฯลฯ ไม่ได้ยกเมฆว่า เป็นมวยไทยโบราณ ที่เป็นเอกลักษณหนึ่งเดียว์ของประเทศไทยนี้เสียหน่อยนี่ครับ การสอนโดยยึดหลักของครูบาอาจารย์แต่อดีตมา มันไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ และก็มีการประชาสัมพันธ์อยู่เสมอว่าที่มาเป็นอย่างไร แบบไหน ไม่ได้ปกปิดหมกเม็ดอะไรไว้เลย ผมก็เลยไม่รู้ว่า ทางมวยไชยาสายครูแปรง จะต้องรู้สึกผิดตรงไหน ผมก็ไม่ๆได้ไปว่าผิด  ถ้าประกาศว่าเป็นมวยไชยาสายครูแปรง เรื่องนี้ ผมว่ายังดูเหตุผลชี้แจงได้ดีกว่า เรื่องของ กรณี 2 องค์กรมวยไทยรวมกันไม่ได้อีกนะครับ 2 องค์กรนั่นหนะ มาตรฐานเดียวกันทุกอย่าง แต่ทำไมถึงรวมกันไม่ได้ น่าแปลกใจ กว่ากรณีนี้เยอะครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ เซ็ง - [ 15 ส.ค. 50 08:26 อ้าว  ไหงแขวะกันดื้อๆตอนจบครับ  มันไม่เกี่ยวกับประเด็นเลย  ถ้าผมแขวะกลับว่า มวยไชยาแต่ละสายปรองดองกันดีหรือเปล่า?  มันจะยาวไม่จบนะครับ  คุณเรื่องเดิมๆฯไม่ใช่ตัวแทนสายครูแปรง  อย่าทำให้ผู้อื่นที่คุณปกป้องเสียหายสิครับ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 15 ส.ค. 50 14:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #รักมวยไทย ผมสงสัยต่อมาว่า จากที่คุณรักมวยไทยเขียนว่า " การฝึกมวยเวทีนั้น ไม่มีท่าไม้มวยที่มีชื่อเฉพาะแบบไม้มวยไทยมาตรฐานครับ" ผมจึงสงสัยต่อไปว่า แล้ว อย่างนี้ มาตรฐานที่ทำขึ้นมา มันจะมีผลบังคับใช้ต่อค่ายต่าง ๆ หรือครับ แล้ว ปัจจุบัน มีสำนักไหน หรือ ค่ายไหน หรือ สถาบันการศึกษาไหนที่สอนมวยไทยแบบมาตรฐานอยู่บ้างครับ ที่ถามอย่างนี้ เพราะว่า ผมกำลังสงสัยว่า ในเมื่อมีการสงสัยว่า มวยไชยาโดยเฉพาะ Focus ไปที่สายครูแปรง กำลังจะทำให้ คนทั่วไปเข้าใจผิดว่า บัญญัติศัพท์เพี้ยนไปจาก มวยไทยมาตรฐานแล้วนั้น ผมจึงอยากจะทราบเหมือนกันว่า แล้ว มีค่ายมวยเวทีไหน หรือ สถาบันการศึกษาที่สอนมวยไทยไหนบ้างที่สอนมวยไทยแบบมาตรฐาน บ้างครับ ซึ่งเข้าประเด็นนี้ คือ กรณีศึกษาอย่าง "ตั้งกำแพง" ไม้มวยไทยมาตรฐาน มีชื่อท่านี้อย่างไรหรือครับ ในขณะที่มวยเวที เรียก "ตั้งกำแพง" แล้ว ท่ามาตรฐานของมวยไทยมาตรฐาน เรียกชื่อท่านี้ว่าอะไรครับ ทำไมจึงไม่เรียกให้เหมือนกันครับ .... งงจริง ๆ นะครับ... วานคุณรักมวยไทยตอบผมทีครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 15 ส.ค. 50 15:23:50 A:58.10.222.124 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ทำไมต้องเถียงกันเรื่องเรียกชื่อท่ามวยกันด้วยครับ จะบอกว่าใครเป็นต้นตำหรับเหรอ ผมเห็นท่ามันก็เหมือนๆกัน แต่ล่ะที่ก็เรียกต่างกัน แล้วมันจะแปลกอะไร แล้วถ้าผมตั้งชื่อใหม่เป็นเฉพาะของผมล่ะ มันก็ไม่ผิด ไม่แปลกใช่หรือเปล่าครับ ไอ้ท่าตั้งกำแพงหน้า หรือว่าอะไรนั่นน่ะ อีกสายก็บอกว่า การตั้งฉัตร มันก็ไม่เห็นแปลกเลยที่ใครจะเรียกต่างกัน ไอ้ผมยังเรียก ท่าขาบังเลย เลิกเถียงกันได้แล้ว ความจริงบอร์ดมวยไชยาในเว็บไชยาก็มีนี่ครับ ลูกศิษย์ สายครูแปรงทั้งหลายก็ไปคุยกันในนั้นดีกว่า เพราะจากที่ผมอ่านจากกระทู้ของแต่ล่ะคน เหมือนจะหมั่นไส้มวยสายนี้เหลือเกิน จากคุณ : เชา - [ 15 ส.ค. 50 15:39:28 A:10.30.3.104 X:202.28.27.6 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องต่อมา ที่เขียนมาบอกว่า "ผมก็ไม่ๆได้ไปว่าผิด ถ้าประกาศว่าเป็นมวยไชยาสายครูแปรง" ครับ ผมเชื่อว่าทีมงานของเขา ก็ทำให้เห็นแล้วครับ จะได้ไม่ต้องกังวลใจอะไรกันอีก ซึ่งในกรณีประเด็นี้ คุณก๊าบเป็ด เปิดประเด็นด้วยเรื่อง การเตะแบบฝานบวบ ..ซึ่งก็มีการบรรยายไปพอสมควร ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ก็ว่ากันไป ตามหลักวิชา ทีนี้ ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า คุณก๊าบเป็ดเอง แกก็ประกาศในที่นั้นแล้วว่า "ความคิดเห็นที่ 13 ผ่านมาบอกว่า "ผมไม่เคยเรียนมวยไชยสจากครูแปรงแม้แต่น้อยเดียวครับ"" โดย ก๊าบเป็ด เวลา 18:19:58 น. 13 ส.ค. 2007 http://www.thaitaiji.com/board/index.php?action=vthread&forum=1&topic=5266 ถ้ามองโลกในแง่ดี การเขียนแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะ ครูคนละสายกัน แต่ คุณก๊าบเป็ด ก็ยัง คงใช้ศัพท์เฉพาะ การเตะ แบบไชยาท่าหนึ่งว่า "ฝานบวบ" ซึ่งมันก็เหมือนกับ สายที่ ครูแปรงท่านกำลังสอนกันอยู่อีกเหมือนกัน ก็แสดงว่า สายของครูแปรงท่านก็ไม่ได้ บัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาเอง ตามที่คุณรักมวยไทยเข้าใจ แต่ถ้าจะมองโลกในแง่ร้าย ก็คงจะมองกันได้ต่าง ๆ นานา ซึ่งผมไม่ขอยกมากล่าว เพราะไม่ต้องการชวนทะเลาะแต่อย่างใด ------------------------------------------------- เรื่องประเด็นองค์กรมวยไทยนั้น ใคร ๆ ก็รู้ครับ ข่าวก็มีออกประกาศอยู่ตามทุกหนังสือพิมพ์ (เผลอ ๆ ผมว่า ทั่วโลกจะรู้เสียด้วยซ้ำไปครับ )ผมเองเป็นคนที่อ่านในบอร์ดนี้ มานาน รับรู้เรื่องราวทั้งของ มวยเวที และ มวยโบราณมาก็เยอะ โดยส่วนตัวรู้สึกว่า ไม่ได้เป็นการแขวะครับ ผมก็แค่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ เลย เอากันใ้ห้เห็นชัด ๆ เลยว่า ขนาดองค์กรที่มีปัจจัยทุกอย่าง เหมือนกันแทบทุกอย่าง มาตรฐาน กฏ กติกา ศัพท์บัญญัติต่าง ๆ ก็เหมือนกันหมด ต่างกันแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางเรื่อง (กฏข้อบังคับของสมาชิก)ยังมีปัญหากันได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับ การที่องค์กรที่ มีรูปแบบของแนวคิดต่างกันคนละแนว ระหว่างแนวอนุรักษ์ กับ แนวทันสมัย มันจะให้เหมือนกันได้อย่างไรหละครับ -------------------------------------------- ผมเขียนในฐานะ ของคนที่เข้ามาอ่านในบอร์ดนี้มานาน ได้รับรู้เรื่องราวของการปะทะกันทางความคิดของทั้งสองขั้วมาตลอด ก็เขียนไปตามที่เห็นครับ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษครับ ข้อเขียนของผม ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ ของแต่ละท่านครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 15 ส.ค. 50 15:46:09 A:58.10.222.124 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องต่อมา ที่เขียนมาบอกว่า "ผมก็ไม่ๆได้ไปว่าผิด ถ้าประกาศว่าเป็นมวยไชยาสายครูแปรง" ครับ ผมเชื่อว่าทีมงานของเขา ก็ทำให้เห็นแล้วครับ จะได้ไม่ต้องกังวลใจอะไรกันอีก ซึ่งในกรณีประเด็นี้ คุณก๊าบเป็ด เปิดประเด็นด้วยเรื่อง การเตะแบบฝานบวบ ..ซึ่งก็มีการบรรยายไปพอสมควร ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ก็ว่ากันไป ตามหลักวิชา ทีนี้ ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า คุณก๊าบเป็ดเอง แกก็ประกาศในที่นั้นแล้วว่า "ความคิดเห็นที่ 13 ผ่านมาบอกว่า "ผมไม่เคยเรียนมวยไชยสจากครูแปรงแม้แต่น้อยเดียวครับ"" โดย ก๊าบเป็ด เวลา 18:19:58 น. 13 ส.ค. 2007 http://www.thaitaiji.com/board/index.php?action=vthread&forum=1&topic=5266 ถ้ามองโลกในแง่ดี การเขียนแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะ ครูคนละสายกัน แต่ คุณก๊าบเป็ด ก็ยัง คงใช้ศัพท์เฉพาะ การเตะ แบบไชยาท่าหนึ่งว่า "ฝานบวบ" ซึ่งมันก็เหมือนกับ สายที่ ครูแปรงท่านกำลังสอนกันอยู่อีกเหมือนกัน ก็แสดงว่า สายของครูแปรงท่านก็ไม่ได้ บัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาเอง ตามที่คุณรักมวยไทยเข้าใจ แต่ถ้าจะมองโลกในแง่ร้าย ก็คงจะมองกันได้ต่าง ๆ นานา ซึ่งผมไม่ขอยกมากล่าว เพราะไม่ต้องการชวนทะเลาะแต่อย่างใด ------------------------------------------------- เรื่องประเด็นองค์กรมวยไทยนั้น ใคร ๆ ก็รู้ครับ ข่าวก็มีออกประกาศอยู่ตามทุกหนังสือพิมพ์ (เผลอ ๆ ผมว่า ทั่วโลกจะรู้เสียด้วยซ้ำไปครับ )ผมเองเป็นคนที่อ่านในบอร์ดนี้ มานาน รับรู้เรื่องราวทั้งของ มวยเวที และ มวยโบราณมาก็เยอะ โดยส่วนตัวรู้สึกว่า ไม่ได้เป็นการแขวะครับ ผมก็แค่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ เลย เอากันใ้ห้เห็นชัด ๆ เลยว่า ขนาดองค์กรที่มีปัจจัยทุกอย่าง เหมือนกันแทบทุกอย่าง มาตรฐาน กฏ กติกา ศัพท์บัญญัติต่าง ๆ ก็เหมือนกันหมด ต่างกันแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบางเรื่อง (กฏข้อบังคับของสมาชิก)ยังมีปัญหากันได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับ การที่องค์กรที่ มีรูปแบบของแนวคิดต่างกันคนละแนว ระหว่างแนวอนุรักษ์ กับ แนวทันสมัย มันจะให้เหมือนกันได้อย่างไรหละครับ -------------------------------------------- ผมเขียนในฐานะ ของคนที่เข้ามาอ่านในบอร์ดนี้มานาน ได้รับรู้เรื่องราวของการปะทะกันทางความคิดของทั้งสองขั้วมาตลอด ก็เขียนไปตามที่เห็นครับ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษครับ ข้อเขียนของผม ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ ของแต่ละท่านครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 15 ส.ค. 50 15:46:43 A:58.10.222.124 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความคิดเห็นที่ 15 ถ้ามองโลกในแง่ดี การเขียนแบบนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะ ครูคนละสายกัน แต่ คุณก๊าบเป็ด ก็ยัง คงใช้ศัพท์เฉพาะ การเตะ แบบไชยาท่าหนึ่งว่า "ฝานบวบ" ซึ่งมันก็เหมือนกับ สายที่ ครูแปรงท่านกำลังสอนกันอยู่อีกเหมือนกัน ก็แสดงว่า สายของครูแปรงท่านก็ไม่ได้ บัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาเอง ตามที่คุณรักมวยไทยเข้าใจ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 15 ส.ค. 50 15:46:43 ถ้าคุณเรื่องเดิมๆเข้าใจประเด็น  คงไม่ถามให้เรื่องยืดเยื้อครับ คุณก๊าบเป็ดออกมาบอกว่า"ฝานบวบ"เป็นไม้มวยไชยา  เรื่องมันก็จบ  ทีนี้คุณPGPมาต่อ ว่า"ฝานบวบ"คือการเตะเฉียงขึ้น มันไม่เหมือนกัน ทำให้: 1  เกิดการขัดกันว่ามวยไชยาด้วยกัน  แต่ฝึกคนละสำนัก  ไฉนถึงไม่เหมือนกัน 2  คราวที่ผมถกกับคุณPGPนั้น  ไม่ได้มีการกล่าวว่า"ฝานบวบ"เป็นไม้มวยไชยาตั้งแต่แรก  แต่กล่าวว่าเห็นการเตะอย่างที่ครูอภิเดชเตะ  ไม่มีการอธิบายต่อถึงลักษณะของการเตะ  ผมสงสัยก็ไปถามครูอภิเดชว่า"ฝานบวบ"เตะอย่างไร  ครูบอกว่าไม่รู้จักเตะฝานบวบ  เพราะครูก็เตะอย่างที่สอนผม  เอาละสิ  สับสนครับ  ค้นดูแม่ไม้มวยไทยมาตรฐาน  ก็มีแต่ฝานลูกบวบ  ซึ่งเป็นการใช้ศอก  ผมก็กลับมาแย้งคุณPGP  เรื่องยืดเยื้อไปยาวไม่จบง่ายๆ  หากคุณPGPกล่าวตั้งแต่ต้นว่าเป็นไม้มวยไชยา  ผมก็คงไม่สนใจไขว่ค้น นี่คือที่มาของกระทู้นี้ครับ 2เรื่องหลักๆ   เรามีไม้มวยไทยมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั่วไป  หากจะกล่าวถึงไม้มวยอื่น  ควรระบุด้วย  เพื่อกันการสับสน  ที่คุณเรื่องเดิมๆกล่าวว่า"ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษครับ"  แสดงว่าไม่ได้เป็นศิษย์มวยครูแปรงสิครับ ปฏิเสธครูจะไม่เจริญนะครับ ส่วนความคิดเห็นที่ 12  คุณเรื่องเดิมๆฯตั้งกระทู้ขึ้นมาใหม่เลย  ผมจะถกให้ตรงประเด็นครับ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 50 17:00:15 จากคุณ : รักมวยไทย - [ 15 ส.ค. 50 16:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 . สวัสดีครับ  จากคำกล่าว  ....มวยครูแปรงเรียกแม่ไม้จรเข้ฟาดหางว่ากวางเหลียวหลัง... กลจรเข้ฟาดหาง เป็นลักษณะ หมุนเหวี่ยง ...ส้นเท้า... หรือจากกลปราย อาจใช้ หน้าเท้า .....อันเป็นแรงเหวี่ยงฟาด...เข้าสู่ ระดับคอ เสมือนกับลักษณะ  จรเข้ ฟาดหาง ของคู่ต่อสู้ ขึ้น เสมือนกับลักษณะ  ....จรเข้ ฟาดหาง.... กลกวางเหลียวหลัง เป็นลักษณะ หมุนเหวี่ยง ...ใช้หน้าเท้า... เป็นแรงถืบ เข้าสู่ลำตัวด้านหน้า ของคู่ต่อสู้  เสมือนกับลักษณะ   กวางเหลียวหลังแล้วถืบด้วยเท้าหลัง หรือเรียกว่า  .....กวางเหลียวหลัง หรือกวางถีบหลัง.... การเรียกผิด ก็อาจมาจากความเข้าใจว่า เป็นลักษณะที่ที่สนทนาเข้าใจกันผิด เพราะไม่น่าจะเข้าใจได้ว่า ...ผู้รู้ในระดับครู อาจารย์ สามารถจะมอง ว่ากวางมีหางที่แข็งแรงถึงขนาดเอามาฟาดได้ หรือเวลากวางหัน สามารถใช้เขากวางฟาดคู่ต่อสู้ หรือ จรเข้ฟาดหางเสมือนกับยิงธนู นั่นเอง ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 15 ส.ค. 50 21:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านเข้าใจความเห็น3ครับ จริงๆมีกระทู้แบบนี้คุยในทางสร้างสรรค์หาเหตุผลกันดีๆผมว่าดีนะครับ ผมก็เห็นหลายๆที่มีท่าแปลกๆ เช่น คลานลอดหว่างขาคู่ต่อสู้เพื่อหลบอาวุธคู่ต่อสู้ หรือเอี้ยวตัวผิดธรรมชาติหลบไปมาหลบหวุดหวิดแค่ไม่กี่เซนติเมตร ท่าเหล่านี้ใช้ในสถานการณ์จริงได้ไหม หรือชื่อท่าอะไรผมก็ยังสงสัย เอาไว้ว่างๆอาจตั้งกระทู้ถามมั่งก็ได้ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 15 ส.ค. 50 23:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าครูมวยไชยาไม่ได้มีครูแปรงคนเดียว ก็ไม่น่าแปลกที่ครูมวยไชยาท่านอื่นจะเรียกชื่อแม่ไม้ต่างกัน ครูแปรงก็มีสไตล์มวยเป็นของตัวเอง ครูท่านอื่นก็ต้องมีสไตล์มวยของตัวเองเช่นกัน เรียกต่างกันแต่ก็มาจาก"ราก"เดียวกัน โมริเฮย์ อูเอชิบะผู้สร้างวิชาไอคิโดมีศิษย์เอกอยู่หนึ่งคนชื่อ ชิโอดะ โกโซ ภายหลังชิโอดะ โกโซออกไปตั้งสำนักไอกิโดเหมือนกัน แต่ไอกิโดของโกโซเป็นสายแข็ง มีท่าบางท่าชื่อเรียกต่างออกไปจากสายหลัก แต่สุดท้ายมันก็มาจาก"ราก"และ"แม่"เดียวกัน ต่างกันเฉพาะสไตล์ของแต่ละคนเท่านั้นเอง เลิกสงสัยเถอะครับผมว่านะ มันไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไหร่ จากคุณ : phantomile (phantomile) - [ 16 ส.ค. 50 01:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เพิ่งกลับมาจากไปทำงานตัดต่อวีดีโอ ก็เพิ่งเห็นกระทู้ครับ เข้ามาช้าไปนิดนึงขออภัย จริงๆ อย่างคุณเชาบอก ไปคุยในนั้นอย่างเดียวก็จบเรื่องครับ แต่ในฐานะที่ผมเองก็ทำงานเผยแพร่เหมือนกัน ก็ต้องเขียนเผยแพร่ให้กับสาธารณะชนบ้างอะครับ ผมเองก็เคยจะไม่เข้า pantip มาครั้งนึงตอนโดนแบน ID PGP สาเหตุเรื่องอะไรก็ไม่ทราบ ไม่เคยทำผิดกฏน้า เอาอย่างนี้ละกันนะครับ ไหนๆก็เป็นเรื่องตั้งแต่ผมคุยกับคุณ รักมวยไทย มาตั้งนานแหละ ก็ขอสรุปเคลียร์ประเด็นให้จบเรื่องไปนะครับ จะได้เข้าใจกันซะที่ ข้อแรก หลักสูตร ของมวยไชยา แต่ละที่ๆสอนกันนั้นเหมือนกันหรือเปล่า ก็ขอบอกว่า แต่ละท่านที่เปิดสอนก็ได้เรียนมาไม่เท่ากันครับ บางท่าบางอันก็เลยสอนไม่เหมือนกัน สไตล์การสอนก็คนละแบบกัน อย่างท่างัดแข้งหลัง อันนี้ครูแปรงก็เพิ่มขึ้นมาในการเรียน เพื่อให้นักเรียนเตะเหวี่ยงแข้งได้ง่ายขึ้น ซึ่งในยุคที่ครูทองสอนมานั้น ยังไม่ได้มีท่าฝึกเช่นนี้ หรือการฝึกปีนป่ายเหยียบยัน และเคล็ดบางอย่างก็เป็นการฝึกที่เพิ่มขึ้นมาครับ เพื่อให้นักเรียนฝึกได้ง่ายขึ้นและเพื่อฝึกให้แก้ไขสถานการณ์ต่างๆที่เจอมากขึ้นด้วย 1  ไม้มวยไชยาทุกไม้มีชื่อและการใช้เหมือนกันหรือเปล่า? ท่าที่ถูกสอนมาจากครูทอง คนที่เรียนจากครูทองก็คงใช้ชื่อเหมือนกันครับ แต่บางอย่างก็อาจจะมีการเรียกที่ต่างกันไปแต่ละสำนักเพื่อเป็นรหัสลับ ส่วนท่าที่ถูกคิดขึ้นมาใหม่ ก็อย่างที่ว่าคงไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับแนวความคิดและการเรียกใช้ของครูแต่ละท่าน 2  จากข้อหนึ่ง  มีไม้มวยไชยาชื่อเตะฝานบวบหรือเปล่าครับ  และถ้ามี  ลักษณะการเตะเป็นเช่นไร การเตะฝานบวบตอนที่ผมได้ฝึกนั้น จริงๆ ปัจจุบันในลูกศิษย์ที่ฝึกมวยไชยาจากครูแปรง หากบอกว่าเตะฝานบวบ ทุกคนก็จะรู้ว่าต้องเตะอย่างไรครับ ซึ่งการเตะพื้นฐานที่ผมได้เรียนมาก็คือ เตะเฉียง 45 องศาขึ้นเป้าหมายบริเวณกระเดียดน้ำ (ย้ำว่าพื้นฐานนะครับ ซึ่งปรับเปลี่ยนทักษะการใช้ ปรับเป้าหมายได้ตามต้องการ) 3  จากที่คุณPGPได้แจ้งในกระดานมวยจีน  มวยครูแปรงเรียกแม่ไม้จรเข้ฟาดหางว่ากวางเหลียวหลัง   มวยไชยาสายอื่นเรียกอย่างเดียวกันหรือเปล่าครับ? อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน  - - รอคนอื่นมาตอบครับ แต่จระเข้ฟาดหางที่ผมได้ฝึกมาเป็นอีกท่าทางแบบนึง ซึ่งถ้าคนได้ยินว่าผมจะใช้ จระเข้ฟาดหางแล้วระวังการเตะตวัดก้านคอละก็ กันลูกไม้ผมยากแน่ครับ 4  มีการต่อยอดจากครูแปรง  เกิดเป็นไม้มวยชื่อ"ไต่เขาพระสุเมรุ"  อันนี้ได้รับการยอมรับจากกลุ่มของมวยไชยาทุกสายหรือเปล่า?  หรือว่าเป็นแม่ไม้,;pครูแปรงครับ? ชื่อไต่เขาพระสุเมรุ จำได้ว่าเป็นชื่อที่ครูทองตั้งให้ จากการที่ครูแปรงนำท่านี้ไปถามท่าน คงไม่จำเป็นต้องบอกว่าได้รับการยอมรับจากลุ่มอื่นมั้ย ซึ่งจริงๆผมก็ว่าไม่จำเป็นหรอกนะ เพราะก็บอกอยู่แล้วว่าครูแปรงคิด ใช้ได้ไม่ได้ ท่านอื่นๆคงไม่ต้องมานั่งรับรองกระมังครับ จริงๆท่านี้นำมาจากท่าพระรามเดินดง ซึ่งปกติจะเหยียบเตะแล้วยิงเข่า แต่เนื่องจากครูแปรงอาศัยแรงเตะขึ้นได้สูงเลยไปยืนแล้วทิ้งศอกแทน มันก็มาจากการสืบ+เหยียบแล้วเหิร ขึ้นในท่าครูนะแหละครับ ซึ่งมันก็สวยงามดี แต่ก็ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ได้เป็นท่าที่ดีที่สุด ในการต่อสู้นั้นท่าพื้นๆอย่างทิ่ม กระแทก ก็จบการต่อสู้ได้ง่ายๆเหมือนกัน (เหนื่อยน้อยกว่าด้วย) ขอพูดเพิ่มเติมครับ 1.ผมพูดว่าลักษณะของการเตะฝานบวบเนี่ย คล้ายกันกับท่าที่ครูอภิเดชเตะ ซึ่งผมได้เห็นจากวีดีโอที่เค้าเอามาถ่ายทอดให้ชมกัน เป็นวีดีโอมวยเก่าน่าจะของคุณทรงชัยนะ ซึ่งตอนที่ผมเห็นท่าที่ครูอภิเดชเตะ ผมก็บอกว่า เออเหมือนท่ามวยไชยาเลยแฮะ ซึ่งท่ามวยไชยาท่านั้นผมเรียกว่าเตะฝานบวบ ซึ่งก็เป็นท่าที่ครูฝึกผม เรียกใช้ในการฝึกซ้อมเช่นกัน ฉะนั้นหากครูอภิเดชไม่ทราบว่าลูกเตะฝานบวบนี่เป็นอย่างไร ก็ไม่แปลกครับ เพราะท่านไม่ได้เรียนมวยไชยา 2.เรื่องชื่อ ผมเองก็อธิบายไปไว้ในนั้นแล้ว ว่าการเรียกชื่อ การตั้งท่านั้น แต่ละที่ แต่ละค่ายเองก็ไม่เหมือนกัน เป็นโค๊ดลับสำหรับการบอกเพื่อให้รู้จักชื่อท่าและจำได้ว่า ท่านี้ลักษณะอาการเป็นเช่นไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าอาจารย์แต่ละท่านตั้งชื่อไว้เช่นไร ไม่เหมือนกัน ก็คงไม่แปลก อย่างตอนผมเห็นครูแปรงคิดชื่อท่าเพื่อเรียกท่าที่ครูใช้แก้สถานการณ์โดนเตะอย่างปราบทรพี ซึ่งผมก็ได้ดูมาหลายตำราแล้ว ยังไม่เคยเจอท่าแบบนี้ ซึ่งถ้าไม่ตั้งชื่อไว้ ลูกศิษย์ก็ไม่รู้ว่าท่านี้ทำอย่างไร ลักษณะอย่างไร แล้วถ้าถามว่าสำนักอื่นๆจะทราบมั้ยว่าท่านี้ทำอย่างไร ชื่ออะไร ก็ไม่ทราบแน่นอนละครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 50 03:22:00 จากคุณ : EZ2DJ - [ 16 ส.ค. 50 01:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อีกอย่างนึงเรื่องที่คุณรักมวยไทยกล่าวเรื่อง การเรียกว่าท่านั้น ท่านี้เป็นลูกไม้ของ มวยไชยา หรือ ของครูแปรง จริงๆเมื่อคืนผมก็เพิ่งปริทัศน์มวยไทยของอาจารย์เขตรไปอีกรอบนึงดูเรื่องการฝึกฝนนักมวยสมัยก่อน ซึ่งครูเขตรท่านก็กล่าวเช่นกันว่า นี่เป็นเพียงรูปแบบนึงของการฝึกมวยไทย ซึ่งแต่ละสำนักก็มีการฝึกไม่เหมือนกัน การใช้วิชาต่างกัน การเรียกก็ต่างกัน เป็นธรรมดา มวยไชยา มีการฝึกนั่งครก ซึ่งผมก็ยังไม่เคยเห็นมวยสายอื่นพูดถึงหรือมีระบบการฝึกแบบนี้ แต่ในการฝึกบางอย่างเช่น การเตะต้นกล้วย การชกลูกมะนาว ก็มีมวยสายอื่นๆพูดถึงเช่นกัน หรือ เอาตอนที่ผมไปสุรินทร์มาก็ได้เจอครูท่านนึงที่มีความรู้เรื่อง มวยหลุม มีการฝึกที่เรียกว่า เดินหลุม ซึ่ง ก็คล้ายๆกันกับ เดินขุม ของมวยไชยา เพียงแต่เรียกต่างกัน และวิธีฝึกก็มีลักษณะต่างกันเล็กน้อย แต่จุดประสงค์คล้ายกัน ท่ามวยหลายๆท่าที่ครูทองสอนให้ครูแปรง ครูแปรงก็นำมาสอนศิษย์ต่อเช่นกัน เพื่ออนุรักษ์วิชาที่ครูถ่ายทอดให้มา ครูแปรงเองก็เป็นรุ่นพี่ที่คอยตามครูไปสอนตามที่ต่างๆ รู้เรื่องหลักสูตรการสอนที่ครูทองสอนเป็นอย่างดีเช่นกัน และครูแปรงเองก็นำท่ามาเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกศิษย์ของครู ฝึกมวยไชยาได้ง่ายขึ้น บางท่า บางเคล็ดวิชา ก็เป็นสิ่งที่ครูแปรง คิดต่อยอดออกมาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่ได้เจอมากขึ้น ครูทองเองก็กล่าวกับครูแปรงไว้ว่า อย่าให้มวยไชยาตายไปพร้อมกับครู แตกท่ามวยได้ตามสถานการณ์ แต่ที่สำคัญอย่าทิ้งท่าครู รวมถึงตัวครูแปรงเองได้เรียนทั้ง มวยและอาวุธ ซึ่ง 2 สิ่งนี้ก็มีส่วนร่วมสนับสนุนซึ่งกันและกัน มีหลายๆท่าที่ครูแปรงได้จากการฝึกอาวุธ ซึ่งนำมาใช้ในมวยได้ และรวมถึง แนวความคิด และรูปร่างของท่าน ซึ่งเป็นคนตัวเล็ก คนเคยเจอท่านก็คงทราบ ก็ต้องหาหลักวิธีที่จะหยุดแรง สลายแรง โดยไม่ใช้ตัวปะทะ ซึ่งมันก็มีในหลักของมวยไชยาอยู่แล้ว การจับล็อค การหัก โดยใช้แรงน้อย ใช้หลักใช้เหลี่ยม การหยุดการปะทะด้วยความคม เป็นหลักที่แฝงอยู่ในมวยไชยาอยู่แล้ว ครูทองตอนที่ครูแปรงไปเจอนั้นอายุท่านก็มากแล้ว (ขออภัยผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ น่าจะ 50) แต่ครูแปรงที่ฝึกมวยไทยมาแล้วก็ยังหนุ่มอยู่ตอนนั้น ก็ยังสู้ท่านไม่ได้ ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี้ผมเองก็ไปเจอพี่คนนึงเป็นนักมวยไทย (ทราบจากครูแหลมว่าเคยไปชกมวยคาดเชือกที่แม่สอดมาเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งน่าจะ 8 ขอถามจากเค้าอีกทีละกันนะครับ) มาลองกับครูแปรง (ปัจจุบันก็ 50) เค้าก็ยกขาเตะไม่ขึ้นเช่นกัน ไม่ต่างจากวันที่ครูแปรงไปเจอครูทองเลย เนื่องจากหลักวิชาที่ได้เรียนจากครูทองมา มันก็ยังฝังอยู่ในตัวครูแปรงและพร้อมจะถ่ายทอดต่อไปให้รุ่นศิษย์ของท่าน และพี่คนนั้นก็มาฝึกมวยไชยาจากครูแปรงเช่นกัน มาทุกวันด้วย เรื่องการแบ่งสายผมว่ามันคงไม่แตกต่างจาก มวยจีน หรือ มวยอื่นๆที่มีสายมากมาย เพราะเนื่องจากหลักการ แนวความคิดของตัววิชา มันไม่เหมือนกัน ระบบ วิธีฝึกเองก็แตกต่างกัน ซึ่งปัจจุบันผมเองก็เห็นมวยไชยาหลายๆที่ก็มีระบบการฝึกในขั้นสูงต่างกัน วิธีการฝึกคนละแบบ ฉะนั้นจะเรียกว่า มวยไชยาแล้วจะเหมือนกันหมด ก็คงไม่ใช่นะครับ อ๋ออย่างสุดท้ายผมว่าหลายๆครั้งที่ผมพูดผมเองเวลาเผยแพร่ ผมก็บอกว่าเป็นท่ามวยไชยาสายครูแปรง แต่ท่าบางอย่างเป็นท่าที่มีมาอยู่แล้วผมก็บอกว่าเป็นมวยไชยาครับ จริงๆยังมีท่าอีกเยอะมากที่ครูแปรงถ่ายเก็บไว้แต่ยังคิดชื่อไม่ออก และท่าเหล่านั้นก็ไม่มีในตำราอื่นๆที่ไหนครับ แม้ในมวยไชยาด้วยกัน ก็ยังไม่มี เพราะครูแปรงท่านคิดจากประสปการณ์ของท่านครับ แต่ถ้าเห็นและรู้วิธี คนที่ฝึกพื้นฐานย่างสามขุมในแบบมวยไชยามาเหมือนกัน ก็จะสามารถรู้และทำตามได้ทันทีครับ เพราะมันอยู่บนพื้นฐานท่าครูเหมือนกันครับ แต่มันก็เหมือนเส้นผมบังภูเขานะครับ ผมเองเรียนมวยไชยามา 4 ปีแหละ ยังมีอีกเยอะเลยที่ผมได้เห็นจากครูแล้วยังอึ้งว่า ท่าพื้นฐานที่ฝึกมามันทำแบบนี้ได้ด้วยหรอเนี่ย ปล.นี่คือความรู้สึกส่วนตัว บางท่านมีความรู้เยอะแล้วเห็นอาจจะเฉยๆก็ได้ ผมคนความรู้น้อยครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 50 02:49:17 จากคุณ : EZ2DJ - [ 16 ส.ค. 50 02:39:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สุดท้ายแล้วหากว่า คุณรักมวยไทย สงสัยจริงๆ และอยากรู้หลักวิชา หลักการต่างๆ ว่างจะมาเยี่ยมผมหรือครูแปรงที่สำนักมั้ยละครับ ราม 39 ซอยวัดเทพลีลา ข้ามสะพานมาประมาณ 500 เมตร ก็น่าจะถึงซอย 5 สำนักอยู่ตึกหลังที่ 2 ครับ เชิญท่านอื่นๆที่สนใจในตัววิชามวยไชยาด้วยก็เชิญครับ จะได้สอบถามข้อมูลจากครูแปรงโดยตรง ผมว่าคงจะได้รับรู้ข้อมูลและคำถามต่างๆน่าจะเคลียร์มากกว่าการพิมพ์คุยกันผ่านบอร์ดนะครับ ยินดีต้อนรับแบบเป็นมิตรอยู่แล้วครับ จากคุณ : EZ2DJ - [ 16 ส.ค. 50 02:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ได้รับทราบว่าคุณPGPกับคุณEZ2ฯคือฅนเดียวกันนี่เอง ถ้าได้อ่านคห#16 และเข้าใจ  ทุกอย่างก็จบแล้วครับ 1 ในเมื่อแม้แต่สถานสอนมวยไชยาแต่ละ สำนักยังใช้ชื่อท่ามวยไม่เหมือนกัน  การเรียกท่ามวย โดยไม่แจ้งที่มาที่ไป ย่อมทำให้เกิดความสับสนต่อผู้อ่าน 2 หากคุณPGPกล่าวตั้งแต่ต้นว่าเป็นไม้มวยไชยา  ผมก็คงไม่สนใจไขว่ค้น นี่คือที่มาของกระทู้นี้ครับ 2เรื่องหลักๆ คงกระจ่างในข้อสงสัยของผมครับ  และตอบคห#22ด้วยครับ   ขอเหน็บส่งท้ายครับ ข้อแรก หลักสูตร ของมวยไชยา แต่ละที่ๆสอนกันนั้นเหมือนกันหรือเปล่า ก็ขอบอกว่า แต่ละท่านที่เปิดสอนก็ได้เรียนมาไม่เท่ากันครับ บางท่าบางอันก็เลยสอนไม่เหมือนกัน สไตล์การสอนก็คนละแบบกัน ผมถามอย่างนี้ครับ ที่ผมข้องใจคือ มีสถานสอนมวยไทยไชยาในประเทศไทยหลายแห่ง  มีการรวมตัวเพื่อให้หลักสูตรอยู่ในทิศทางเดียวกันหรือเปล่า  ถามตรงๆคือ 1  ไม้มวยไชยาทุกไม้มีชื่อและการใช้เหมือนกันหรือเปล่า? จากคุณ : รักมวยไทย - [ 16 ส.ค. 50 04:22:19 ]

ความคิดเห็นที่ 24 #รักมวยไทย ผมก็ยังงงอยู่ว่า ผมเข้าใจไม่ตรงประเด็นตรงไหนครับ ที่ถามมาว่า " 1 เกิดการขัดกันว่ามวยไชยาด้วยกัน แต่ฝึกคนละสำนัก ไฉนถึงไม่เหมือนกัน " ผมก็อธิบาย ว่าลูกศิษย์แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน รวมไปถึง การประยุกต์วิชา และ ต่อยอดวิชาที่เรียนมาด้วยเหมือนกัน ลองอ่านความเห็นผมดี ๆ ก่อนสิครับ ผมว่า ผมก็อธิบายชัดเจนแล้วนะครับ 2 เรื่อง ปัญหาของ การเรียกชื่อท่าแม่ไม้ ตรงนี้ผมคิดว่า คุณ PGP เขาก็อธิบายชัดเจนดีแล้ว ผมคงไม่ไปขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ 3.."แสดงว่าไม่ได้เป็นศิษย์มวยครูแปรงสิครับ ปฏิเสธครูจะไม่เจริญนะครับ" ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่ครับ ว่าไม่ได้เป็นศิษย์ครูท่าน แต่ต้องการแสดงให้เห็นว่า ทางเราไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกันโดยไม่มีประโยชน์ เพราะมีแต่ผลเสีย ส่วนเรื่องประเด็นองค์กรมวย 2 องค์กรนั่น ผมก็ชี้แจงแล้วว่า เป็นการยกตัวอย่างประกอบให้เห็นชัดเจน และ ก็อธิบายประกอบแล้วว่า ทำไมผมถึงยกตัวอย่างประกอบแบบนี้ (ในความเห็นที่ 12 และ 13) ไม่ได้ต้องการจะทำให้เกิดความขัดแย้งแต่อย่างใด ดังนั้น ผมก็ไม่จำเป็นจะต้องเปิดกระทู้ใหม่ เพราะไม่เคยคิดจะสนใจจะไปหาว่า ผลที่ถูกต้องมันควรจะเป็นอย่างไรครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 08:59:02 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องที่ถามมาว่า หลักสูตรแต่ละที่สอนเหมือนกันหรือเปล่า ก็ต้องขอตอบว่า โครงสร้างหลักของวิชาเหมือนกัน(รากของวิชา) ต่างกันตรงที่ เกร็ดของวิชา ที่เกิดจากการสังเคราะห์วิชาต่างกันครับ ต่างกันมาจาก ความรู้ที่ได้รับไม่เท่ากัน , การประยุกต์และวิเคราะห์ ตีกลมวยต่างกันครับ ขอยกตัวอย่าง เปรียบเทียบให้เห็นชัด ๆ ว่า เหมือนอย่าง ท่าประกอบในการไหว้ครูมวยไทย ท่าหลัก ๆ ก็คือ พรหมสี่หน้า ต่อจากนั้นมา บางค่ายอาจมี พระรามน้าวศร หรือ สาวน้อยประแป้ง ฯลฯ ก็เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต่างกันไป ตามแต่ละคณะจะสรรหามา ก็เหมือนกับ เกร็ดของ ครูแต่ละท่านในสายมวยไชยา ที่ไม่เหมือนกัน นั่นหละครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 09:10:53 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอแก้ครับ พระรามน้าวศร แก้เป็น พระรามแผลงศร ครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 09:12:09 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 27 . . สวัสดีครับ ขอขอบใจคุณ เอฯ ที่อธิบาย ท่าเตะฝานบวบ ให้ ครับ  ขณะเดียวกันผมเข้าใจ ในกรณีย์ที่ คุณและคณะ ที่พยายาม เผยแพร่ มวยไชยาสายครูแปรง  และใกล่เกลี่ยในคำถาม ของ กระทู้ แต่ผมไม่ทราบว่า การที่คุณเอารูป มาแสดงประกอบ นั้น เพื่อประโยชน์ใด ครับ ผมเกรงว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ผลเสียมากกว่าได้ ครับ เอากันว่า จากในรูป คห ๒๐ ถ้าใครเขาเกิดไปลองทำดู อาจทำให้เกิดความคิดว่า คนที่สักต์ อยู่ด้านล่างเขาเพียงแต่ตีศอกกลับ หลัง คนที่อยู่ข้างบนก็กลิ้งแล้ว ครับ ทีนี้ถ้าเอา รูปที่สอง จาก คห ๒๑ มาดูกัน ในรูป ๑-๒ มาจาก ท่าของ ยูยุดสู อันเป็นท่าที่มีมาก่อน ครูแปรงเกิด และมิใช่ท่า ตระกูลมวย ครับ บางคนอาจมีความคิดว่า เอามือที่ ว่างใช้ให้เป็นประโยชน์ ตามแบบฉบับมวย คนที่จับบิดเขาคงชื่นใจ แล้วครับ รูปที่สามเป็นท่าดัดกดกับแขน ถ้าคนที่ถูกดัด ไม่ลืมว่า เท้าทั้งสองข้าง ตามตำหรับมวย สามารถใช้นอกจากยืน ก็จะทำให้คนจับ ทราบว่าสิ่งที่เขาทำ ไม่มีความสุขได้ ครับ เอารูปที่  สี่  ดูน่าจะเป็นลักษณะจะแสดง ..ท่าใถนา.. สำหรับ ถ่ายรูป แต่ท่าจริงแล้ว เขาจะยืนยันในด้านใน ครับ ผมเห็นชอบ ในสิ่งที่คุณและคณะ พยายามทำกันอยู่ แต่การนำรูปประเภทนี้มาแสดง ทำให้เกิดเข้าใจผิด กับมวยไชยาสาย เช่นเดียวกันกับ การใช้ชื่อใกล้เคียงโดยไม่แยกอธิบาย แหละครับ อย่างเช่น ในด้านหนึ่ง อ้างว่าเป็นมวยโบราณ แต่ในอีก ด้านหนึ่งแสดงท่าที่ไม่มี ตามลักษณะมวย ในอดีต ในด้านหนึ่งรับทอดมาแล้วก็ถ่ายทอดเช่นเดียวกันต่อไป ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นท่าที่ประยุกต์ขึ้นมาเป็นท่าเฉพาะ ในด้านหนึ่งแสดงว่าเป็นของแท้ แต่ในวิดิโอหรือภาพ ของแท้ แต่มิใช่ของแท้ ของ มวย จะให้เข้าใจกันอย่างไร ล๊ะครับ   เข้าใจใหมครับ ว่า ผมจะบอกอะไร กับ คุณและคณะ ? จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 16 ส.ค. 50 10:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 28 #คุณพลายทมิฬ เรื่องการแก้ท่าต่าง ๆ ผมคงขอสงวนไว้นะครับ เพราะเกรงว่าจะทำให้เรื่องบานปลาย เพราะ คิดว่าแต่ละท่านก็มีความรู้อยู่พอสมควร เอาเป็นว่าขอสงวนการแก้ท่าไว้นะครับ สำหรับเรื่อง ท่า ที่คุณพลายทมิฬบอกว่า เหมือนกับ ยิวยิตสู นั้น คงขอตอบสั้น ๆ ว่า ในรูปลายเส้นสมุดไท ที่มีมาแต่สมัย ร.3 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นมวยไทยแต่โบราณ (ไม่รู้สายไหนเหมือนกันครับ) ก็มีรูปแบบของการ จับ , หัก (Graping) อยู่แล้ว ซึ่งถ้ามองกันตามปกติ ยิวยิตสู สมัยใหม่ เข้าเมืองไทยเมื่อสมัย ร.5 พ.ศ.2450 นี้เอง มันก็ช้ากว่า สมัย ร.3 ตั้งเยอะ ถ้าจะมองว่า มันก็คงเข้ามาปนแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยา ก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรว่า มีการสอนยิวยิตสู ให้แก่คนไทย อย่างไรที่เป็นรูปธรรม ยกเว้นจะนึกจินตนาการกันไปเอง น่าสังเกตุว่า มวยของเขมร หรือ มวยของลาว ก็ดี ก็มีท่าทางการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ที่ ชวนให้คิดไปได้ว่า ลอกมาจาก ยิวยิตสู แต่มันก็น่าแปลกใจว่า ในเมื่อ ลาว ก็ไม่เคยติดต่อกับ ญี่ปุ่นมาเลย แล้วลาว จะไปเอา ยิวยิตสู ที่ไหนมา (นี่พูดถึง หลักฐานเก่า ๆ นะครับ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นะครับ) กับ เขมร ก็คงอ้างกันได้ว่า ก็เป็นพวกญี่ปุ่นที่หนีไปสมัย พระเจ้าปราสาททอง กวาดล้างหมู่บ้านญี่ปุ่น ก็ยังพอฟังขึ้นบ้าง แต่กับ ลาว นี่สิครับ มันน่าแปลก การจะตั้งสมมติฐานว่า ท่าต่าง ๆ นั้น ไม่มีในมวยไทยแต่โบราณ แต่เป็นท่าที่อาจยืม หรือ ได้แนวคิดมาจาก ยิวยิตสู ตามรูปที่ 21 นั้น (ผมเดาเอาตามที่คุณพลายเขียนว่า ผมต้องการจะบอกอะไรคุณ ซึ่งผมอาจผิดได้ ถ้าผมเข้าใจผิดก็ต้องขออภัย) ทางที่ดี การตั้งสมมติฐานแบบนี้ ก็ควรที่จะต้องมี หลักฐานมาชี้แจง ด้วยก็จะดีครับ เพราะจะทำให้น้ำหนักของ สมมติฐานนี้ น่าเชื่อถือขึ้น ผู้ตอบก็จะได้รับทราบหลักฐานที่คุณพลายจะนำมาเสนอด้วย มันเป็นการสนทนา ที่ดีของทั้งสองฝ่าย เพราะไม่งั้น ถ้าเอาเรื่อง "ความคิดส่วนบุคคล" มาถกกันล้วน ๆ มันก็จะเข้ากรณีเดิม ๆ ที่ ขัดแย้งกันจนกลายเป็นกระทู้ไม่มีสาระไปครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 12:10:52 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คนทีคิดว่ามันไม่มีก็จิตนาการไปเองเหมือนกันคับ เพราะ ก็หาอะไรพิสูจน์ไม่ได้ว่ามันไม่มี แต่พวกคิดโดดๆดิ่งก็คิดอย่างนี้ได้คับ เพราะไม่มีทางทีจะเชือมโยงได้แม้พวกนี้ จะเป็นญาติกับเราก็ พูดง่ายๆไม่นับญาติ ทั้งทีการประสมวิชาระหว่างสมัยไหนๆๆก็มีเหมือนกัน สมัยนี้ก็มี สมัยก่อนทำไม่จะไม่มี (เรืองธรรมดาคนสมัยไหนก็คิดได้)  ขนาดมวยจีนทีประสมมวยไทย เกิดก่อนมวยไชยาตั้งนานเรายังหาอะไรมายันไม่ได้ ว่านีมวยไทยนี้มวยจีน นับประสาอะไรจะเอาอะไรกับยิวยิตสู้ญีปุ่น  ก็มันหายไปตั้งแล้ว ไอ้ทีเหลืออยู่นะเป็นรองรอยว่าเคยมีอยู่ แต่จะบอกว่าอะไรจีนอะไรไทยบาง ผมก็บอกไม่ได้ แล้วถ้าผมยอนถามคุณบางเกียวกับอาหารไทย  ถ้าเราเอา กระทะออก มันจะเหลืออะไรไหมไอ้ทีเรียกว่าอาหารไทยเพราะ กระทะเป็นของจีนแต่คนทำเป็นคนไทย ไอ้ทีพัดๆนะอาหารจีนแต่รสชาติไทยคับ    ก็ไม่ต่างท่ามวย ไม่ต่าง โขนรามเกียรติ ไม่ต่างเรืองการรำ หรือริเก ทุกอย่างถูกปรับปรุ่งรสชาติ จังหวะ จะโคนให้เป็นไทยหมดคับ   ไอ้ทีเรียกไทยแท้ๆๆ มันมีหรอกคับ ยิงเป็นเป็นญาติกันยิงยากเขาไปใหญ่  ต้อนแรก ผมก็คิดเหมือนคุณนั้นและ ไม่มีอะไรบอกได้เหมือนเส่นผมบังตา พอเขี่ยออก ก็ถึงบางอ้อ อย่าว่า เราประสมเขาหรือเปล่า  มีแม้กระทั้ง ชามุไรเชือสายไทยครับ เขมรก็มีทหารอาสาครับ ไทยเคยไปยกตีกับพวกนี้คับแต่สู้ไม่ได้ เจ้าหนีกับมา แล้วก็ไม่บันทึกอะไรเลย จนต้องไปอ่านนู้นประวัติศาสตร์เขมร คับ พม่าก็มี  ถึงแม้บางสายของไชยาจะโมเมว่าไม่มี(ถึงแม้จะมี อจ มจ พิบูรณ์ กับอจ กิมเส็งเล่นและสอนยูยิตสูก็ตาม) แต่โทษทีคับบางสาย อย่างอจ. เจือก็คิดจะทำคับ ท่านจะเอามวยปล่ำมาประสม เพือแก้จุดอ่อนของท่านอนมวยไทยคับ เพราะในทัศนะของท่านทุ้มทับจับหักของเรามี แต่ไม่หลากหลายหรืออุดมอย่างที่โม้กันคับ จากคุณ : win_mma - [ 16 ส.ค. 50 13:25:26 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณรักมวยไทยเพิ่งรู้หรือครับ จริงๆผมเองก็เขียนบอกในหลายกระทู้ก่อนหน้านี้แล้วนะ ตั้งแต่เข้ามาเขียนด้วยชื่อนี้ใหม่ๆ เพราะว่าไอดีผมใช้งานไม่ได้ -*- ของคุณรักมวยไทย ผมว่าผมตอบน่าจะชัดเจนหมดแล้วนะครับ เรื่องหลักสูตรก็บอกอยู่แล้วว่า แต่ละที่สอนไม่เหมือนกัน ระบบการฝึก วิธีการคิด ก็แตกต่างกัน ก็แล้วแต่คนที่ไปฝึกชอบละครับ เรื่องชื่อผมก็ว่าตอบเคลียร์แล้วนะ บางท่าก็เหมือนกัน ชื่อเดียวกัน ใช้เหมือนกัน บางท่าก็คนละชื่อ ใช้เหมือนกัน หรือ ชื่อเดียวกันใช้คนละแบบ เพราะว่าเป็นรหัสลับของแต่ละสำนัก คงไม่ต้องอธิบายซ้ำนะครับ เรื่องคุณพลาย จริงๆไม่ติดใจอะไรมากมาย แต่ชื่อผมนะ อีแซดทูดีเจ ครับ ไม่ใช่ เอแซดทูดีเจ นะครับ บางทีอ่านๆแล้วก็ขัดๆ เรื่องการวิจารณ์ท่า คงไม่ต้องอธิบายกันมาก เพราะนั่นคือแนวความคิดแบบของคุณพลาย ซึ่งผมก็มีความคิดต่างกันครับ บอกไปก็คนละแนวอยู่แล้ว คงเข้าใจกันยาก ยกเว้นคุณพลายจะโดนท่าเหล่านี้ด้วยตัวเอง ก็คงจะเข้าใจมากขึ้น อ๋อแล้วก็รูปสุดท้ายก็ไม่ใช่ท่าไถนานะครับ มันคนละวิธีการทำเลย - - เช่นกันกับที่ผมได้ดูวีดีโอ ที่คุณพลายนำมาลง ผมเองก็คิดว่าท่ามันไม่รัดกุม ไม่น่าจะฟันแบบนี้ เพราะเหมือนเอาตัวเข้าไปอยู่ในแนวดาบของอีกฝั่งโดยป้องกันลำบาก แต่มันก็คือภาพนิ่ง ยังไม่ใช่การต่อสู้ ถ้าต่อสู้กัน คุณพรายอาจจะมีการป้องกันตัวแบบที่ผมนึกไม่ถึงก็ได้ ก็เช่นกันมันก็เนื่องมาจากระบบ วิธีการฝึกฝน แนวความคิดการใช้ดาบที่ต่างกัน จึงทำให้เห็นภาพและคิดได้ไม่เหมือนกัน แต่ที่ได้ดูมา ยังไม่เห็น สาธิตการต่อสู้ 5-1 วันนั้นได้สาธิตแล้วเก็บวีดีโอ ไว้มั้ยครับ อยากเห็นว่าใช้วิธีการสู้การโดนรุมหลายคนแบบนี้ยังไงนะครับ จากคุณ : EZ2DJ - [ 16 ส.ค. 50 13:50:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 20   ข้อแรก หลักสูตร ของมวยไชยา แต่ละที่ๆสอนกันนั้นเหมือนกันหรือเปล่า ก็ขอบอกว่า แต่ละท่านที่เปิดสอนก็ได้เรียนมาไม่เท่ากันครับ บางท่าบางอันก็เลยสอนไม่เหมือนกัน จากคุณ : EZ2DJ  - [ 16 ส.ค. 50 01:59:11 ] ความคิดเห็นที่ 24   #รักมวยไทย ผมก็ยังงงอยู่ว่า ผมเข้าใจไม่ตรงประเด็นตรงไหนครับ ที่ถามมาว่า " 1 เกิดการขัดกันว่ามวยไชยาด้วยกัน แต่ฝึกคนละสำนัก ไฉนถึงไม่เหมือนกัน " ผมก็อธิบาย ว่าลูกศิษย์แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน รวมไปถึง การประยุกต์วิชา และ ต่อยอดวิชาที่เรียนมาด้วยเหมือนกัน ลองอ่านความเห็นผมดี ๆ ก่อนสิครับ ผมว่า ผมก็อธิบายชัดเจนแล้วนะครับ ไม่ได้ต้องการจะทำให้เกิดความขัดแย้งแต่อย่างใด ดังนั้น ผมก็ไม่จำเป็นจะต้องเปิดกระทู้ใหม่ เพราะไม่เคยคิดจะสนใจจะไปหาว่า ผลที่ถูกต้องมันควรจะเป็นอย่างไรครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 08:59:02 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ] หรือว่าสองท่านEZ2ฯและคุณเรื่องเดิมๆฯคือฅนเดียวกัน[u/] --------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 24   #รักมวยไทย ผมก็ยังงงอยู่ว่า ผมเข้าใจไม่ตรงประเด็นตรงไหนครับ 3.."แสดงว่าไม่ได้เป็นศิษย์มวยครูแปรงสิครับ ปฏิเสธครูจะไม่เจริญนะครับ" ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนี่ครับ ว่าไม่ได้เป็นศิษย์ครูท่าน แต่ต้องการแสดงให้เห็นว่า ทางเราไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกันโดยไม่มีประโยชน์ เพราะมีแต่ผลเสีย จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 08:59:02 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ] ความคิดเห็นที่ 15   ผมเขียนในฐานะ ของคนที่เข้ามาอ่านในบอร์ดนี้มานาน ได้รับรู้เรื่องราวของการปะทะกันทางความคิดของทั้งสองขั้วมาตลอด ก็เขียนไปตามที่เห็นครับ [u]ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพิเศษครับ ข้อเขียนของผม ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ ของแต่ละท่านครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 15 ส.ค. 50 15:46:43 A:58.10.222.124 X: TicketID:025907 ]     เป็ฯศิษย์แล้วทำไมต้องออกตัวว่าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด?   ที่ผมไม่ตอบคุณเดิมๆเรื่องอื่นเพราะไม่ตรงประเด็นครับ  ผมรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนหน้าไม่มีผิดคือ  วกวน  ไม่มีประโยชน์  ไปใหนมาสามวาสองศอก  ที่ผมไม่สนใจไปดูมาวยครูแปรงเพราะเหตุนี้ครับ  สไตล์ความคิดคนละแนว   คงต้องขอผ่านกระทู้นี้เหมือนครั้งที่แล้ว  ไม่มาร่วมตอบอีกครับ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 16 ส.ค. 50 13:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #win เรื่องการพิสูจน์ว่า มวยไทยไปผสมวิชาจากยิวยิตสูมาหรือไม่ วิธีทำมันก็ไม่ยากครับ แต่มันยากในการหาแหล่งข้อมูล เพราะ ถ้าคุณ Win จะพิสูจน์ให้ได้จริง ๆ (ปราศจากอคติ หรือ คติ ความเชื่อส่วนตัวใด) คุณ Win ก็ต้องไปหามาก่อนว่า การต่อสู้ของไทย ก่อนยุคยามาดะ จะเข้ามาเนี่ยมันมีรูปแบบ ในแบบไหน ซึ่งในทางปฏิบัติ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมันไม่มีหลักฐานเหลือไว้อยู่แล้ว ที่เรารู้กัน และ "... เดา... " กัน มันก็อยู่ในหลังยุคยามาดะ เข้ามาแล้ว และ ในยุคที่ ยามาดะเข้ามาเอง ก็ยังไม่รู้อีกว่า มีซามูไรที่เป็น ยิวยิตสู มากน้อยแค่ไหน ตามเข้ามา จนมาการสอนให้คนไทยด้วย เพราะฉะนั้น ไม่น่าแปลกใจอะไร ที่ ก็ต้องมีคนเชื่อว่า มีการสอนให้คนไทย หรือแม้แต่คุณ Win เองจะบอกว่า มี ซามูไรที่เป็นคนไทย ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐานเหมือนกันว่า ญี่ปุ่นยุคยามาดะ ยอมรับการเป็นซามูไรของคนสยามตอนนั้นจริงหรือเปล่า เพราะฉะนั้น ผมถึงบอกว่า ถ้ามี "หลักฐาน" มาประกอบด้วย น้ำหนักที่ทำให้น่าเชื่อถือ มันก็จะมากขึ้น ไม่งั้น มันก็เป็น "ความคิดเห็นส่วนบุคคล" ซึ่งก็ไม่มีวันสิ้นสุด ในการที่จะหาความจริง และทำให้กระจ่าง และ ก็จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป ไปนั่งขัดแย้งกันอีก นานครับ ----------------------------------------------------------- สำหรับเรื่องอื่น ๆ เช่นการทำอาหาร หรือ รามายณะ ที่ คนไทยคิดเป็นรามเกียรติ นั้น สามารถหา "หลักฐาน" มายืนยันได้ว่า สยามรับเอา วัฒนธรรมของชาติอื่นมาจริง มันก็ถึงไม่มีปัญหาบานปลายอย่างไรหละครับ ซึ่ง มันต่างจาก กรณี การเสนอ สมมติฐานว่า มวยไทยผสมเอายิวยิตสู เข้ามา ที่ยังหาหลักฐานไม่ได้ครับ ----------------------------------------------------------- ในหนังสือปริทัศน์มวยไทย ครูเขตร ท่านเขียนไว้ชัดเจน ว่า ครูของ อาจารย์เจือ จักษุรัตน์ คือ นายอมโร หรือ ชื่อจริง ครูจรูญ ไชยสอาด ซึ่ง ครูเขตร ท่านบอกว่า นายอมโร คือ คนรับใช้ในบ้านของบิดาครูเขตร หรือ ก็คือ ท่านพระยาวจีสัตยารักษ (ขำ ศรียาภัย) ์คนใน "บ้านไชยา" เกือบทุกคนเป็นมวยไชยากันหมด เช่น กะลาสีเรือกลไฟ "รัศมี" ของ ครูกลัด ศรียาภัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา ของ ท่านครูเขตร สองพี่น้อง (จำชื่อไม่ได้แล้ว) ก็เป็นมวยไชยา และ ขึ้นประลองในหลายเวที ก็มีมาแล้ว ผมไม่แน่ใจว่า สิ่งที่คุณ Win เขียนว่า ท่าน อ.เจือ จะเอามวยปล้ำมาผสมกับ มวยไชยาจริงมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้ รบกวน ขอหลักฐานด้วยก็จะดี ไม่เกี่ยงครับ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานเป็นบุคคล หรือ จะเป็น เอกสาร เพราะผมก็เพิ่งทราบจากคุณ Win นี่หละครับ เพื่อสอบถามตามที่คุณ Win บอกมา --------------------------------------------- เรื่อง อจ.หม่อมเจ้า วิบูลย์สวัสดิ์ (ไม่ใช่พิบูรณ์ นะครับคุณ Win ท่านชื่อ วิบูลย์สวัสดิ์) กับ ครูกิมเส็ง เกี่ยวกับ ยิวยิตสูนั้น ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เพราะเท่าที่อ่านจากหนังสือปริทัศน์มวยไทย ครูเขตร ท่านไม่ได้บอกไว้ว่า ครูกิมเส็ง ท่านสอนยิวยิตสู หรือเปล่า ครูเขตร ท่านบอกแต่เพียงว่า ครูกิมเส็ง สอนมวยไทยที่เรียนมาจาก ครูเขียว เท่านั้นครับ ซึ่ง กว่าที่ อจ.หม่อมเจ้า วิบูลสวัสดิ์ ท่านจะมาเผยแพร่ที่ สามัคยาจารย์สมาคม(อยู่ในบริเวณโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปัจจุบัน) ก็ปาเข้าไป พ.ศ. 2455 เข้าไปแล้ว ในขณะที่ เมื่อ พ.ศ. 2449 ก่อน ที่ คุณหมอญี่ปุ่น จะมาสอนยิวยิตสูในประเทศไทย 1 ปี ที่สามัคยาจารย์สมาคม ก็มีการตั้งชมรม "มวยปล้ำ" ก่อนอยู่แล้ว ผู้ดำเนินการสอนท่านแรก คือ พระไชยโชคชกชนะ อดีตเจ้ากรมทนายเลือกหอกขวา(เป็น ครูสอนมวยไทยให้กับ ครูหลวงวิศาลดรุณกร ซึ่งเป็นครูท่านหนึ่งของ ครูเขตร ศรียาภัย ) และ ก็ก่อนเวลาที่ อ.หม่อมเจ้าวิบูลย์สวัสดิ์ จะทรงมาเผยแพร่ ยิวยิตสู ที่ สามัคยาจารย์สมาคม ถึง 6 ปี (เรื่องรายละเอียดตรงนี้ หาอ่านได้จาก หนังสือสารคดี เล่ม วิชาอาทมาฏ หัวข้อเรื่อง กระบี่กระบอง โดย อ.ประยุกต์ บุนนาค ครับ ) และ ท่านที่สอนต่อจาก พระไชยโชคชกชนะ ก็คือ ขุนยี่สารสรรพยากร (ครูแสงดาบ) วิชาที่สอน ก็มี มวยปล้ำ , และ อาวุธไทยต่าง ๆ ฉะนั้น ในข้อเขียน ในหนังสือปริทัศน์มวยไทย ครูเขตร ท่านจึงบอกว่า การทุ่มทับจับหัก ของมวยไทย ก็ไม่เหมือนกับ ของ ยิวยิตสู มันก็ดูน่าเชื่อถือกว่า เพราะ ครูเขตร ท่านเรียนกับ ทั้ง อ.หม่อมเจ้าวิบูลสวัสดิ์ ซึ่งเป็นยิวยิตสูแท้ ๆ กับ ครูหลวงวิศาลดรุณกร ที่สอนมวยไทยโบราณสาย พระไชยโชคชกชนะ ทั้งคู่ ถ้า มวยไทยผสม ยิวยิตสู มาจริง ครูเขตร ท่านก็ต้องบอกแล้วสิครับว่า มันเหมือนกัน ยกเว้นจะบอกว่า คนไทยเข้าข้างกันเอง ก็จบครับ ไม่ต้องสนทนาประเด็นนี้ต่อ ------------------------------------------------------------- เรื่อง เขมรอาสา หมายถึง อาทมาตเขมรหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ อาทตมาตเขมร เพิ่งมามี สมัย ร.3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นะครับ เรายกไปทำสงครามกับญวนในเขมร ไม่ใช่ไปรบกับ เขมร ครับ ที่บอกว่า เจ้าแพ้มา แล้วไม่เขียนไว้ ก็ไม่รู้ว่า หมายถึง ประวัติศาสตร์ตอนไหน เพราะ ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ที่ พระราชมนู ยกไปแพ้เขมรหนแรก ก็ยังมีบันทึกไว้ แพ้หนต่อมาก็สมัยพระเจ้าทรงธรรม ก็มีบันทึกไว้ ยังคิดไม่ออกว่า แพ้สมัยไหนแล้วไม่บันทึกไว้ คงต้องรบกวนคุณ Win บอกแล้วหละครับว่าแพ้สมัยไหน จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 14:09:25 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 33 # รักมวยไทย ผมไม่ใช่คุณ PGP ครับ ในความเห็นที่ 8 และ 9 ของผม ผมตอบไปแล้ว ไม่เชื่อก็ Check IP ดูก็ได้ครับ ไม่ต้องพยายามเดาหรอกครับ สมัยนี้ Check IP ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนี่ครับ ถ้าเป็นคน ๆ เดียวกัน จะวิ่งรอก ไปเล่นเครื่องคอมห่างกันเป็น กิโล ๆ ทำไมหละครับ ---------------------------------------------------------- เรื่องไม่เข้าข้างฝ่ายใด ตอบไปแล้วครับ ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกอะไรอีก เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ ดุลยพินิจ ของคุณรักมวยไทยครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 14:15:38 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนคุณรักมวยไทย จะสนใจไปพบครูของผมหรือไม่ ก็แล้วแต่ครับ ผมก็ไม่ได้อยากจะรู้ตรงนี้อีก เพราะมันเป็นคำเชิญของคุณ PGP เขา และก็ได้อธิบายไปแล้ว ในเรื่องของการยกตัวอย่างประกอบ ส่วนคุณรักมวยไทย จะพยายามเข้าใจหรือไม่ อันนี้ก็สุดแล้วแต่ดุลยพินิจ ของคุณรักมวยไทยอยู่ดีหละครับ เห็นตั้งกระทู้มา ผมก็มาตอบ ตามที่ผมพอจะรู้ ส่วนจะถูกใจแต่ละท่านมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้ผมคิดว่า ขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจ ของแต่ละท่านครับ อย่างที่บอกครับ เข้ามาชี้แจง ไม่ได้เข้ามาชวนขัดแย้งครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 14:21:52 A:58.10.222.187 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไอ้มวยปล่ำ ทีว่ามันคือมวยไทย ทีเรียกว่าเป็นหนึงในวิชาพหุยุทธ์   ผมยื นยันคับไม่เคยพูดว่ามวยไทยไม่มีทุ่มทับจับหัก ทุกวิชาในโลกนี้ล้วนมีทุ่มทับจับหักแต่มีไม่กีวิชา ทีใช้งานได้มีประสิทธ์ ส่วนตัวนะถ้าผมต้องใช้งานในศึกสงคราม ถ้าผมเลือกได้ ผมก็ต้องเลือกสิงทีดีในทัศนะของผม  แล้วอีกอย่างไม่เหมือนไม่ได้แปลว่าไม่มี ถึงมีคุณรู้เหรอว่ามี  รามเกียร์ติเรืองราวเดียวกัน เล่นไม่เหมือนกัน คุณรู้ไหมว่าเพราะอะไรไทยอย่าง อินเดียอย่างอินโดอย่าง   หรืออย่างขนมทองหยิบ ฝ่อยทอง  ตั้งเม จากขนมวิวัฒนาการมาเป็น   แกงมัสมั่น เต้าเจี้ยวหลน แกงจืด หรือยำใหญ่    ฃึ่งไม่มีเค้าเลยว่ามันเคยเป็นอาหารฝรั้งตรงไหน อีกอย่างขนมฝรั้งพวกนี้ ผมยังไม่รู้เลย  ภาษาโปตุเกตุเรียกว่าอะไร แต่เรามักตั้งชือกันแบบ "เคยปาก สะดวกปากกัน เช่นดอญ่า มารี กีมาร์ เด ปินา (เฮอ)หรือเราเรียกสันๆว่าท้าวท้องกีบม้า บางคนไม่รู้ด้วยฃำ ว่าขนมของเท้าทองกีปม้า ไม่ใช้ขนมโปตุเกตุเพียวๆแต่มีความขนมญีปุ่นด้วย  เรีองอย่างนี้คุณรู้ไหม อจ. เขตร ไม่ได้เป็นครุมวยคนเดียวในสมัยนั้น เพียงแต่อจ. เขตรได้รับการนับถือกับคนทั้วไปโดยเฉพาะสายไชยา  และก็อย่าคิดว่าอจ.เขตร รู้ทุกอย่าง ไม่เคยผิด  และไม่จำเป็นต้องเชือทุกอย่างทีเล่าหนังสือประวัติศาสตร์ไม่ได้มีเล่มเดียว และก็ประวัติศาสตร์ไม่ได้มีเฉพาะในหนังสือ  ผมฝังหูไว้หูคับ แล้วประวัติศาสตร์ทีเหลือเอาไว้ผมเล่าวันหนังคั บ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 50 16:51:02 จากคุณ : win_mma - [ 16 ส.ค. 50 16:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เฮ้ย 35 หาย จากคุณ : win_mma - [ 16 ส.ค. 50 16:57:53 ]

ความคิดเห็นที่ 38 #win ผมก็ว่า ผมเขียนในประเด็นที่ว่า คุณ Win บอกว่า มวยไทยโบราณ ผสม ยิวยิตสูนะครับ ไม่ได้ข้ามไปประเด็นอื่นนะครับ ---------------------------------- เรื่องรามเกียรติ์ มันก็ไม่ต่างกันนี่ครับ ของไทย กับ ของอินเดีย พระรามก็ชนะทศกัณฑ์อยู่ดี ของไทยมาแต่งเพิ่ม ตอนลูกของพระราม เช่น พระลพ (พระลบ) และ พระมงกุฏ ต่อไปยาวถึงรุ่นลูกของ พระราม รบกับ ลูกของทศกัณฑ์ ครับ --------------------------------------------- เรื่องขนมโปรตุเกส ผมก็จำชื่อไม่ได้เหมือนกัน แต่ คราวบอลยูโรที่ผ่านมา ก็มีคนไทยถามเรื่องนี้ในห้องประวัติศาสตร์ ก็มีคนเอารูปมาลงให้ดูพร้อมบอกชื่อเสร็จสรรพ เขาบอกว่า รสชาติต้นตำรับแท้ ๆ ของโปรตุเกส ไม่หวานเหมือนของไทย เรื่อง คุณท้าวทองกีบม้า ผมก็รู้มาบ้าง ท่านก็เป็น ภรรยาของ ออกญาวิชาเยนท์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน ผู้เป็นฝรั่งชาวกรีก แต่มาได้ดี ในราชสำนักสยาม กรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังเคยโดน พระเจ้าเืสือครั้งเป็นขุนหลวงสรศักดิ์ต่อยจนฟันหัก เสียด้วยซ้ำครับ ก่อนตาย ออกญาวิชาเยนท์ ยังไปสั่งเสียกับ ท่านท้าวทองกีบม้า ขอให้พระเจ้าคุ้มครองเสียด้วยซ้ำ) ท่านท้าวทองกีบม้า ท่านเป็น ญี่ปุ่นเข้ารีต ซึ่งมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร กรุงสยาม เพราะสมัย โอดะ โนบุนางะ มีการกวาดล้างพวกเข้ารีตอย่างโหดร้าย พวกเข้ารีต ก็เลยหนีมาพึ่งพระเจ้าแผ่นดินอยุธยา พวกนี้(เข้ารีพ) อยู่ช่วยอยุธยารบกับพม่าคราวกรุงศรีฯ แตกครั้งที่ 2 เสียด้วยซ้ำไป ไม่ได้โดนขับกลับไป เหมือน ญี่ปุ่นพวกยามาดะ ท่านท้่าวทองกีบม้า พอหมดวาสนาของสามี ก็ถูกพระเพทราชากล่อมให้ไปรับราชการในวังต่อ เพราะติดใจในฝีมือการทำอาหาร ครับผม ผมก็รู้ประวัติท่านคร่าว ๆ เท่านี้หละครับ ------------------------------------------------------------ เรื่องครูเขตร ท่านไม่ได้แต่งตั้งตัวท่านเองเป็นปรมาจารย์นะครับ คนอื่นที่เขาอ่านผลงานของท่านเป็นคนยกย่องท่านต่างหากครับ ไม่เชื่อลองไปถาม คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ที่ร้านโอลเล้ง RCA ดูก็ได้ครับ คุณอาจินต์ เป็นเจ้าของนิตยสารฟ้าเมืองไทย ที่ ครูเขตร เป็นคนลงเรื่อง ปริทัศน์มวยไทยครับ คุณอาจินต์ ก็ไม่เคยเรียนมวย และไม่ใช่นักมวยด้วยซ้ำไปครับ ครูมวยสมัยนั้น ครูเขตร ท่านก็ตระเวนไปหา และ ขอสัมภาษณ์ก็หลายราย ที่ลงในฟ้าเมืองไทยก็มี อย่าง ครูตู้ ไทยประเสริฐ(มวยโคราช) , ครูแฉล้ม สถีรศิลปิน (พระชลัมพิสัยเสนี), ครูพูน พระขรรชัย ฯลฯ ครูเขตร ท่านเองท่านก็ไม่เคยบอกว่า ท่านต้องถูกต้องที่สุด เมื่อมีจดหมายมาทักท้วง (ซึ่งก็ลงในปริทัศน์มวยไทย ไม่ได้หมกเม็ดไว้) ท่านก็ขอบคุณ ผู้ที่ทักท้วงท่านทุกครั้งนี่ครับ อย่างจดหมาของ คุณ รามารุต เป็นต้น แต่ก็เป็นเฉพาะกรณี ครูเขตร ท่านเล่าถึง ศิลปการต่อสู้ของญี่ปุ่น ซึ่งท่านไม่ชำนาญ แต่สำหรับมวยไทย ก็ไม่เห็นครูท่านใดจะท้วงท่าน ตรงกันข้าม ครูเขตร ท่านแสดงออกให้เห็นด้วยซ้ำว่า ท่านพยายามพิสูจน์ให็เห็นว่า ท่านพยายามบอกถึงความจริง พยายามพิสูจน์ข้อเท็จจริงเสียด้วยซ้ำ อย่างกรณี จี๊ฉ่าง ต่อยกับ นายยัง หาญทะเล เป็นต้น ซึ่งครูเขตร ท่านไปถามกับ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ หลายท่าน เช่น คุณพระชลัมฯ หรือ แม้แต่ ครูพูน พระขรรชัย ---------------------------------------------------- ในวงการประวัติศาสตร์ ถ้าจะอ้างอิงอะไร ส่วนใหญ่ก็ต้องมีหลักฐานประกอบครับ ขนาดมีหลักฐานประกอบ ถ้าดูแล้วมันออกจะเป็นอะไรที่เชื่อถือได้ยาก อย่างเช่น ตำนานต่าง ๆ คนเขาก็ยังไม่ยอมรับกันเท่าไรครับ ประเด็นนี้ ผมไม่แน่ใจว่า คุณ Win หมายถึง กรณี รบเขมรหรือเปล่า ถ้าตอบว่า ใช่ ผมก็ยังงง อยู่เหมือนเดิมครับว่า ตอนไหน ที่เจ้าไทยไปรบกับ เขมรแพ้กลับมา แล้วไม่บันทึกไว้ เพราะเท่าที่เคยผ่านตาประวัติศาสตร์มาบ้าง ก็ยังไม่เคยเห็นสักตอนครับ ถ้าเป็นไปได้ วันหลังคุณ Win เอามาลงให้อ่านก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ ----------------------------------------------------- ทิ้งท้าย ขนมญี่ปุ่น ที่คุณ Win ว่าไว้ว่า เป็นต้นตำรับ ส่วนหนึ่งของ ขนมไทย ที่ คุณท้าวทองกีบม้า ได้ประดิษฐ์ไว้ ผมอยากทราบว่า มีขนมอะไรบ้างอะครับ โมจิ หรือเปล่า หรือ ขนมอะไรอีก ถ้าไม่เป็นการรบกวน ก็ตอบด้วยนะครับ ผมจะได้ไปลองสืบกับ ผู้รู้ทางด้านญี่ปุ่นดูหนะครับ ขอบพระคุณครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 16 ส.ค. 50 17:15:05 A:58.10.222.54 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 39 วิชาเรียนกันมา มันก็มีเพี้ยนกันบ้างเข้าใจคนละทางก็ได้ วันนั้นไม่ได้มาเรียนเรื่องนั้น จดไม่ทัน โดดเรียน ขอเรื่องเรียนแล้วกัน ห้องเดียวกันครูสอนคนเดียวกัน ยังมีสอบได้สอบตกเลยครับ เรื่องธรรมดา แล้วที่ธรรมดาอีกเรื่อง ก็เรียนห้องเดียวกันแต่ไม่ลงให้กัน 5 จากคุณ : ธาตุไม้ - [ 16 ส.ค. 50 18:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แฮะๆ ไม่รู้สิ แต่รู้สึกว่า กระทู้ตอบเคลียร์แล้วใช่มั้ยครับ สำหรับคำถามของคุณ รักมวยไทย งั้นก็จบดีกว่า เอาว่าเดียวโปรเจคใหญ่ของผมเสร็จก่อนก็คงจะเคลียร์ข้อมูล มวยไชยา สายครูแปรงได้หลายๆเรื่องละครับ แต่ขอบอกไว้อย่างนึง ผมใช้ Ticket ID ไม่เป็นอะครับ (อายหงะ) แต่ก็เช็คได้นะครับ เพราะผมเล่นเครื่องเดิม ip เดิมตลอด เช็คดูได้ครับว่ามาจากที่ไหน จริงๆวิธีการเขียน สำนวนผมก็ไม่เหมือนกับคุณเรื่องเดิมๆอยู่แล้ว ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ขนาดนั้นผมก็ไม่มีเหมือนกัน (อายอีกรอบ) เรื่องเรียนมาจากครูเดียวกัน แต่ได้ความรู้ไม่เท่ากัน ผมว่าปกตินะ เพราะจะเห็นได้ในทุกการเรียนนะแหละครับ ไม่เฉพาะมวยไทย หรือ มวยใดๆหรอกครับ เรียนหนังสือ ก็ยังมีสอบได้ สอบตก ได้ความรู้ไม่เท่ากัน เหมือนที่คณธาตุไม้บอกนะแหละครับ (สมัยเรียนซึ่งผมก็เป็นประเภทโดดตลอดด้วยซิ เข้าเฉพาะวันสอบ ดีนะอาจารย์ไม่ให้ มส) จากคุณ : EZ2DJ - [ 16 ส.ค. 50 19:22:01 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เหมือนทางลูกศิษย์ ครูแปรงกันคนอื่นๆในกระทู้ กำลังเขม่นกัน เรื่องราวคล้ายๆคนเคยเจอผี กับคนไม่เคยเจอผี แล้วเอามาพูดเถียงกันว่าผีมีจริงหรือไม่มีจริง ........................................................................ มันจาเถียงกันทำไมว่ะ .....................................มันก็อยู่กับแต่ละคน ขอด่าหน่อย พวกในเว็บนี้ทำไมมันอวดโง่ๆกันก็ไม่รู้ จากคุณ : เชา - [ 16 ส.ค. 50 19:46:12 A:222.123.87.27 X: ]

ความคิดเห็นที่ 42 จริงๆ ไม่น่าจะบอกว่า อวดโง่ นะครับ บางเรื่องบางอย่างก็เป็นความรู้สำหรับคนไม่รู้นะครับ ถ้าปี 2546 เค้าไม่เถียงกันเรื่อง ทุ่มทับจับหัก มีในมวยไทยมั้ย ผมเองก็ยังไม่รู้ว่ามันมีหรอกครับ ส่วนเรื่อง ความคิดเห็นแตกต่างของแต่ละคน ก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะคนเราไม่เหมือนกัน ไม่ได้มีความคิดเหมือนกันหมด ประสปการณ์ไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : EZ2DJ - [ 16 ส.ค. 50 20:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 43 คนมันก็รูปร่างเหมือนกัน วิชาการต่อสู้ก็คงไม่ต่างกันนัก จากคุณ : ฉั่วเป่งใช้ - [ 16 ส.ค. 50 21:00:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 . . สวัสดีครับ ผมสงสัยถามเพียงแต่ว่า .....ด้วยสาเหตุใดถึงได้นำรูปมาเสนอ ? ..... โดยให้เหตุผลที่ผมถาม ตามต่อมา ครับ ส่วนคำตอบเรื่อง ยูยุดสู ทดลองเอารูป คห ๒๐ กับ คห ๒๑ มาวางเทียบกัน แล้วทดลองถามตัวเองว่า เคยมีปรากฎการใช้ใน ท่า ของ คห๒๑ ในการชกหรือแสดง ..มวย.. ในสังคมมวยหรือไม่ เมื่อใหร่  ที่ใหน มวยไชยาใช้พันมือ คห๒๐ คิดว่าน่าเป็น ไปได้หรือครับ ที่จะทำท่า ใน คห๒๑ ผมบอกว่า  .....ไม่ใช่ท่าที่มาจากตระกูลมวย..... อาจเป็นเพียงคำฟุ่งเฟ้อ และขอให้เอา หลักฐานมายืนยัน  ....ก็เอาหลักฐานมาแสดงซิครับ ว่าสิ่งที่ผมอ้างไม่เป็นจริง.....  การที่แม่ปูจะสอนให้ ลูกปูเดินตรง โดยที่ ตนเองยังทำไม่ไม่ได้ ผมมองได้จาก คห ของ คุณครับ คุณ เรื่องฯ เอาอย่างนี้ใหม คุณเปิดเป็นกระทู้ใหม แล้วเราคุยกัน อย่าง ผู้รู้ ไม่รู้ ด้วยกัน ครับ ผมไม่คิดว่า คุณ อีฯ จะเข้าใจ แต่จะทดลองดูครับ ชื่อของคุณ ถ้าเป็นภาษาไทย ผมอาจขออภัยถ้าเขียนผิด ผมแปลจากภาษา เยอรมัน อันตัวอักษรนี้ เรียกว่า เอ ครับ ผมมองเห็น เช่นเดียวกัน ระหว่าง เตะฝานลูกบวบ กับ เตะฝานบวบ ที่เข้าใจกันไม่ ถูกต้อง ครับ ลักษณะให้ คำตอบ ของคุณและคณะ เป็นเสมือน ลักษณะ ของ .....ศรีธนญชัย.... โดยมุ่งมิให้เสียชื่อเสียง เท่า นั้น อันนี้แหละ ส่วนหนึ่งที่ผมจะบอกให้ฟัง ครับ สำหรับเรื่อง ท่า ฯลฯ ผมยังจำได้ว่า .....ภาคปฎิบัติและประสบการณ์จริง .... ในวิชาการต่อสู้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ฉนั้นใน เมื่อผม ให้ คห คงไม่นั่งค้นข้อมูลมาอ้าง หรอกครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมองไม่เห็นก็ไม่ควรให้ คห เช่นนี้ เพราะบาง คนอาจเข้าใจผิดได้ ว่า ...คุณเป็นใคร ทำใมถึงปล่อยไก่บ่อยนัก.... แหละครับ  อย่าง เช่น คห เรื่องดาบ ข้อแรก เป็นลักษณะ ...สาดน้ำใส่กัน.... แต่มิใช่การสนทนา ครับ คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ...ท่าดาบที่ผมสาธิต เป็น ท่าต่อสู้ มีอันตรายตามลักษณะ ที่เข้าทำร้ายคู่ต่อสู้ แต่มิใช่ วิธีฟันดาบ เพื่อทำให้ ดาบคู่ต่อสู้ชำรุด ครับ.... ผมมอง จากคำตอบ และ คห ของคุณเพียงพอ ที่จะเชื่อถึง ....ความรู้ความเข้าใจของคุณในวิชาการต่อสู้ โดยมิต้องมองถึง ด้านประสพการจริง.... ปัญหาที่ผมเป็นห่วงก็คือ เพราะเหตุใดเป็นอุปสรรค์ ที่คุณถึงไม่เข้าใจ ความหมายแท้จริงของวัน นั้น เช่นเดียวกับ คำถามของผมข้างต้น แต่ผมก็ไม่เคยลืม ถึงพลังงานพลังใจที่คุณสละให้กับ มวยไชยาสายครูแปรง อัน น่าสรรเสริญ และเป็นเหตุสำคัญ ที่ผมยังยินดี สนทนา กับ คุณครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 16 ส.ค. 50 21:52:38 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ผมมีเรื่องเล่า รูปในคห 21 ภาพหักแขน รูปทางขวามือ ครูมัด ได้โชว์ท่าคล้ายๆกันแบบในภาพ (ถ้าจำผิดขออภัยครับ) ในงานพบกันที่สวนหลวง ช่วงท้ายๆงานแล้ว โดยก่อนแสดงได้บอกว่ามีหลายๆคนชอบสงสัยว่าท่าหักล้อคมวยไชยา เลียนแบบมาจากวิชาญี่ปุ่นอย่างไรหรือไม่ แล้วครูมัดก็สาธิตท่าคล้ายๆนี้ออกมาและอธิบายการหักเพิ่มว่าเราหักดื้อๆไม่มีบิดมากเท่าแบบของญี่ปุ่น มองเผินๆอาจคล้ายแต่วิธีการไม่เหมือนกัน (คำพูดประมาณนี้ ผมอาจเรียบเรียงไม่ถูกต้องนัก) ไม่มีใครแย้งอะไรสักคน คงไม่ต้องบอกว่ามีใครอยู่ในงานบ้าง ผมกำลังจะบอกว่ามีโอกาสแล้วถามเลยดีกว่าครับ หรือมองว่าไม่ใช่ครูแปรงเลยไม่ถาม ผมมาเห็นการท้วงถามในนี้จากหนึ่งท่านถามจากการเห็นภาพ  หรืออีกหนึ่งท่านมาผูกญาติท่าศิลปะการต่อสู้แล้วไม่เข้าใจทำไมมีโอกาสตอนเจอผู้สอนมวยไชยาท่านอื่นๆ ซึ่งก็สืบลำดับได้ว่าเรียนมาจากครูอาจารย์ ท่านอื่นและครูอาจารย์ท่านนั้นๆเรียนมาจากใครก่อนหน้า มาจากครูทองหรือปรมาจารย์เขตรหรือไม่อย่างไร และใช้ท่าแบบนี้สาธิตจริงๆต่อหน้าทำไมไม่ถาม หรือจะเจาะจงเล่นเฉพาะกลุ่มอย่างที่ผมเข้าใจครับ ลดทิฐิกันบ้างครับ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 16 ส.ค. 50 23:23:52 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าคุยกันขนาดนี้ แล้วเป็นไปได้มั้ยว่ามวยเองก็มีที่มาจากอินเดีย หรือขอม แล้ววิวัฒน์มาเป็นมวยสายต่างๆในปัจจุบัน เพราะสังเกตว่าในประวัติศาสตร์ไทยแต่ดั้งเดิมเราด้อยกว่าขอม และรับวัฒนธรรมจากทั้งขอม และอินเดีย แม้แต่ทางจีนเองก็รับวัฒนธรรมอินเดียมาด้วย จนเกิดเป็นวิชาชี่กงต่างๆ เผลอๆแม้แต่ศิลปะการต่อสู้จีนเองก็น่าจะรับมาจากเค้าอีกที ก่อนจะวิวัฒน์เป็นแบบแผนของตนเอง ตามวัฒนธรรมทางความคิดที่ต่างกัน จากคุณ : A,The Martial Artist (หมื่นกระบี่สู่หนึ่ง) - [ 17 ส.ค. 50 00:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 อย่างท่าหักของมวยอินเดีย(ลืมชื่อ) ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับไอคิโดที่ผมฝึกอยู่(แน่นอนก็ต้องคล้ายยิวยิตสูด้วย) ถึงจะบอกว่าไม่เหมือนซะทีเดียวก็เถอะ ซึ่งถ้ามองอีกจะเป็นไปได้มั้ยว่าจริงๆแล้วต้นกำเนิดศิลปะการต่อสู้ทั้งมวลของตะวันออกน่าจะมาจากอินเดีย แต่มาวิวัฒน์ต่อตามที่ต่างๆ จนเป็นเอกลักษณ์ของตน จากคุณ : A,The Martial Artist (หมื่นกระบี่สู่หนึ่ง) - [ 17 ส.ค. 50 00:05:20 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ---ทดลองถามตัวเองว่า เคยมีปรากฎการใช้ใน ท่า ของ คห๒๑ ในการชกหรือแสดง ..มวย.. ในสังคมมวยหรือไม่ เมื่อใหร่  ที่ใหน ----- จากที่คุณพลายตั้งคำถาม ผมในฐานะคนนอกไม่ใช่ศิษย์มวยผู้ใดขอตอบด้วยอีกความเห็นนะครับ เนื่องจากได้คำตอบจากประสปการณ์ศึกษาที่ผ่านตามาบ้าง ท่าหักแขน ที่ผมเห็นรูปมามีครูมวยอีกท่านคือท่านอาจารย์พันเอกอำนาจ พุกศรีสุข ท่านก็ใช้นะครับท่านเป็นมวยโคราชและมวยอื่นๆอีกมากมาย ถ้าคิดว่าครูท่านเอาวิชาอื่นมาปนอีก ก็คงตามสอบถามได้นะครับผมว่า เพราะท่านก็ไปสอนมวยยุโรปบ่อยเยอรมันก็ไปครับ (ส่วนท่านเรียนมวยโคราชแล้วทำไมมีท่าคล้ายท่าหักแบบมวยไชยาก็ต้องสอบถามเองครับ จริงๆอาจมีในมวยไทยหลายๆสายก็ได้) ส่วนท่ายืนที่คิดว่าคือท่าไถนา ที่จริงแล้วไม่น่าจะใช่ น่าจะเป็นจับตัวหมุนมาปักศอกหลังจากอีกฝ่ายเตะวืดแบบที่เขาสาธิตบ่อยๆมากกว่า  หรืออาจเป็นท่าหนุมานแบกแข้ง ไม่ก็กังหันต้องลมก็ได้ครับถ้ายืนเท้าแบบนั้นตามภาพ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 17 ส.ค. 50 00:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 49 . สวัสดีครับ ก่อนที่จะไม่เข้าใจกันมากขึ้น ขออธิบายเพิ่ม ครับ ลักษณะ ..มวย... คือการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอาวุธ  สำหรับท่าวิธี การค้นคิดหรือนำเอามาจากที่อื่น เป็นธรรมชาติของ วิชาการ คือ ....นำมาฝึกเพื่อหาทางแก้.... หรือ ...นำมาปรับปรุงท่าวิธีของตนเอง... แต่การเอามาใช้ทื่อๆ และอ้างว่าเป็น ท่ามวย ผมถึงบอกว่า มิได้อยู่ในตระกูล ..มวย.. ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขากลัวกันเหลือเกิน ที่จะถูกขโมยวิชา ก็แสดงว่า เขามีปัญญาสูงเพียงพอที่ จะค้นคิดขึ้นมาใช้เอง ถูกใหมครับ ปล. คุณไทยฯ ครับ ถ้าคุณเอาคำตอบนี้ไปใส่ ในกระทู้ใหม่ ผมยินดีจะอธิบายให้คำตอบ ครับ ส่วนเรื่อง คุณ อำนาจ ผมคิดว่า คุณอ่านภาษาเยอรมันนีได้ ก็เลยของส่งลิงค์ มาให้ดูเผื่อคุณจะได้เล่าให้ทางนี้ เข้าใจ อะไรขึ้น ครับ http://www.carookee.com/forum/muaythai/18/Ling_Lom_im_MTBD_mit_Grandmaster_Amnat_Pooksrisuk.2482354.0.01105.html?sid=6535219893f304b332111c73d7fd0f24 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 08:07:11 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 00:28:46 จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 17 ส.ค. 50 00:20:48 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ได้คับผมจะคุยกับคุณเรืองนี้ เอาให้ชัดไปเลยว่าจะมีหรือไม่มี แล้วการทีคุณมองตัวเอง เป็นคนไทย เป็นชาวไชยา คุณจะหาความจริงเจอเหรอครับ เพราะคุณรู้สึกตัวเองว่า เป็นคนของใคร ยังไง แง้มุม ความนึกคิดของคุณต้องผ่านความเชือเหล่านั้น ไทยมีอยู่จริงเหอร คุณตอบตัวเองซิ ใครคือไทย แล้วใครไม่ใช้ไทย (http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thai-martial-arts&date=31-01-2007&group=1&gblog=24)     การทีคุณจะหาความจริง เจอ โดยปราศ จากอคติและความเชือสวนตัวได้นั้นคุณต้องไม่มีความกลัวครอบง้ำ ถ้าผมยังกลัวว่าไม่เขาพวกใคร ผมจะหาความจริงเจอเหอร การทีจะหาความจริงเจอเราต้องรู้สึกให้ได้ก่อนว่า เราเกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกันหมดก่อนทีเราจะเป็นชาวไทยพม่าลาว เราเกิดมาเป็นมนุษย์ก่อนทีเราจะเป็นชาวพุทธชาวคริสต์หรือมุสลิม เราเกิดเป็นมนุษยย์ก่อนทีเราจะพูดต่างภาษากัน นี้คือความจริงทีเราปฎิเสธไม่ได้ *และความดั้งเดิมบริสุทธิของเชือชาติวัฒนธรรมไม่มีอยู่จริง ทุกอย่างเชือมโยงกันหมดไม่แยกออกจากกัน เมือความรู้ตกมาสู้คนอีกรุ่นหนึงความดังเดิมก็เปลียนไปมีแต่ของใหม่เขามาแล้วก็ไม่มีอะไรการันตีว่าของทีเรารับมาไม่สูญหายตกหล่นตามเส้นทางแห่งกาลเวลา* ------------------------------------------------------------------------------------   "จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป ไปนั่งขัดแย้งกันอีก นานครับ"            มันคงไม่ขัดแย่งหรอกครับถ้าคนรุ่นเราไม่ปลูกฝังความเชือทีผิดๆถ้าจิตคุณยังไม่หลุดพ้นทางด้านวุฒิภาวะ ยังแบงเขาแบ่งเราไม่เชือมโยงกับใคร มีตัวฉันของฉัน แบ่งเขาแบ่งเรา ไอ้นี้ไทย ไอ้นีจีน ไอ้นี้ญีปุ่น ความขัดแย้งมันก็อยู่อีกนานครับ(มันก็ญาติกันทั้งนั้นและ)  คาธธีเคยบอกไว้ว่าเขานึกไม่ออกว่าเขาไม่เชือมกับคนทั้งโลกตรงไหน เช่นเดียวกับศิลปต่อสู้คับผมก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ว่าศิลปการต่อสู้ในโลกนี้ ไม่"สัมพันธ์"เป็นญาติกับเราได้อย่างไง  ความสัมพันธของศิลปต่อสู้มันก็เหมือนปลากัดและคับ และมองตากันมันก็ท้องแล้ว!! -----------------------------------------------------------------------------------------  เช่นเดียวกับท่ามวยทีผมขอพูดทับอีกครั้งหนึง**ขนาดมวยจีนทีประสมมวยไทย เกิดก่อนมวยไชยาตั้งนานเรายังหาอะไรมายันไม่ได้ ว่านีมวยไทยนี้มวยจีน นับประสาอะไรจะเอาอะไรกับยิวยิตสู้ญีปุ่น  ก็มันหายไปตั้งแล้ว ไอ้ทีเหลืออยู่นะเป็นรองรอยว่าเคยมีอยู่ แต่จะบอกว่าอะไรจีนอะไรไทยบาง ผมก็บอกไม่ได้ **  เหมือน  *โขนผมไมได้บอกว่า เริมและจบอย่างไง แต่ผมบอกว่า***เรืองราวเดียวกัน ทำไม่เล่นไม่เหมือนกัน**คุณเขาใจไหม อินเดีย เล่นอย่างหนึง อินโด มาเล ลาว พม่า ไทยก็เล่นอย่างหนึงผมถามคุณว่าทำไม่เนือหาเดียวกันทำไม่ถึงเล่นไม่เหมือนกัน  ก็เหมือนท่ายิวยิตสู้ ท่าเหมือนกัน แต่เขาทำไม่ต้องเหมือนกันได้  มันและถนัดแต่ละบุคคล ปรับปรุ่งให้ถูกปากถูกคอเรา   แล้วไม่เหมือนไม่แปลว่าไม่มี ถึงมีคุณรู้เหรอว่ามีอยู่ ------------------------------------------------------------------------------------------- คุณ Win ก็ต้องไปหามาก่อนว่า การต่อสู้ของไทย ก่อนยุคยามาดะ จะเข้ามาเนี่ยมันมีรูปแบบ ในแบบไหน ซึ่งในทางปฏิบัติ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมันไม่มีหลักฐานเหลือไว้อยู่แล้ว http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thai-martial-arts&date=09-12-2005&group=1&gblog=27 ก่อนเขาก็มีของจีนและของแขกจามครับ แต่แขกจามทีเป็นทหารอาสาจะมีอธิพลกับศิลปการต่อสู้ไทยมากทีสุด เพราะมีการมีการเล่นโขน รำกระบีกระบอง ศิลปการต่อสู้มือเปล่า (ภายใต้อิทธิพลของรามารณะ) แต่ก็หน้าแปลกทีเรายอมรับกันได้ ว่ามวยไทย มาจากอินเดีย แต่ยุคเดียวสมัยกันนั้นไม่ได้มีแต่แขกจามเป็นทหารอาสาแต่ ยังมีจีน มาลายู ฝรั้ง ร่วมทั้งญีปุ่นรวมอยู่ด้วย ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงสักเท่าไร เป็นไปได้ว่า รสนิยมไทยกับแขกจาม อาจมีความคลายครึงสนิทสนม หรือความชอบทีคลายๆกัน แต่เชือได้ว่าความชอบของยอมไม่เหมือนกันหมด อาจจะมีนิยมอินเดียเป็นหลักแต่ เชือได้ว่าก็ต้องมีคนชอบแบบจีน มาลายู ฝรั้ง ญีปุ่น ปนอยู่ด้วย และทุกคน"เชือมโยงกันหมดไม่แยกออกจากกัน"   ---------------------------------------------------------------------------------------- เรารู้กัน และ "... เดา... " กัน มันก็อยู่ในหลังยุคยามาดะ เข้ามาแล้ว และ ในยุคที่ ยามาดะเข้ามาเอง ก็ยังไม่รู้อีกว่า มีซามูไรที่เป็น ยิวยิตสู มากน้อยแค่ไหน ตามเข้ามา จนมาการสอนให้คนไทยด้วยเพราะฉะนั้น ไม่น่าแปลกใจอะไร ที่ ก็ต้องมีคนเชื่อว่า มีการสอนให้คนไทย หรือแม้แต่คุณ Win เองจะบอกว่า มี ซามูไรที่เป็นคนไทย ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐานเหมือนกันว่า ญี่ปุ่นยุคยามาดะ ยอมรับการเป็นซามูไรของคนสยามตอนนั้นจริงหรือเปล่า อย่างว่าแต่มวยไทยประสมยิวยิตสู้มีอยู่จริงรึเปล่า ซามุไรไทยยังมีเลย จะมากจะน้อยแต่ก็มี  และค่อนข้างมีหลักฐานค่อนข้างแน่ชัด" ไม่ใช้ทหารไทย"พกดาบญีปุ่นแบบในหนังตำนานสมเด็จพระเณรศวร แต่เป็นซามุไรเชือสายไทยและเป็นทียอมรับทั้งประวัติศาสตร์ไทยและญีปุ่นรวมทั้งตัวยามาดะเองด้วย และค่อนข้างแน่ชัดเลยว่าไม่มีคนเดียว  คับ (คุยกันขนาดนี้มันยอมไม่เนี้ย) แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 16:38:15 จากคุณ : win_mma - [ 17 ส.ค. 50 15:37:53 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ผมว่าที่คุณรักมวยไทยไม่เข้าใจเพราะมองมวยไทยโบราณจากมุมมองมวยไทยเวที จึงมีความคิดว่ามวยไทยไชยาที่มีสอนกันหลายกลุ่ม นั้นมีการรวบรวมเพื่อให้หลักสูตรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และคงจะเป็นผลให้มีชื่อเรียกอย่างเดียวกัน มวยไทยในอดีตมีหลากหลาย ไปแต่ละท้องถิ่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าพอมาถึงปัจจุบันควรจะมีการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวหรือทิศทางเดียวกันจึงจะถูกต้อง เหมือนที่มวยไทยเวทีปัจจุบันได้ถูกทำให้เป็น ผมว่าสมัยอดีต มวยในสายเดียวกันจากกลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์กัน ก็คงมีการรวมกลุ่มกันอย่างหลวมๆ ได้บ้าง แต่ถ้าจะให้มวยแนวสายเดียวกันมารวมกลุ่มกันผลิตหลักสูตรในทิศทางเดียวกัน ก็คงต้องรอให้ผู้มีบุญญาบารมี และอำนาจมาจัดการล่ะครับ หากแม้นมียอดยุทธคนใดพยายามทำเช่นนั้นไซร์ อาจมองได้ว่า คนผู้นั้นมีเจตนาแอบแฝงหรือมีแนวความคิดที่ไม่รู้สภาวะความจริงของโลก ดังนั้น ชื่อเดียวกันคงไม่จำเป็นต้องมีท่าทางเดียวกันมั้งครับ ก็เพราะใครล่ะจะมายิ่งใหญ่เสียจนไปกำหนดเช่นนั้นได้ (ยุคนี้ทำได้เฉพาะมวยไทยเวทีครับ เพราะอำนาจจัดทำและเผยแพร่อยู่กับกระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยนโยบายและอำนาจรัฐ) การที่มวยไทยในอดีตจะแยกต่อยอดไปเรื่อยๆ โดยไม่ถูกรวบหลักสูตรนั้น ผมว่าอานิสงค์ผลบุญจะเกิดขึ้นแก่ศิลปการต่อสู้อย่างมากมาย เรียกได้ว่าเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ กลุ่มคนมวยแต่ละกลุ่มก็มีข้อสงสัยและข้อสังเกตกันได้ เสียอย่างเดียวไม่มีการประลองกัน (ก็เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม) ส่วนความขลังของชื่อไม้มวยนั้น มันเป็นมาแต่สมัยโบราณแล้วครับ ถึงกับเอาเรื่องราวในรามเกียรติย์มาเรียกเป็นชื่อไม้มวยให้ดูอลังการณ์ เรื่องมันก็อยู่ที่ใจน่ะครับ ทำไมเมื่อได้ยินท่าฝานลูกบวบที่ต่างจากการรับรู้ที่ยึดมั่นแล้ว ไม่คิดแปลกใจ สนใจว่า อืมมีท่าฝานลูกบวบในแบบอื่นอีกหรือนี่ แทนที่จะคิดว่าฝานลูกบวบอย่างนั้นมันผิด ฝานอย่างนั้นไม่ได้หรอก มันไม่อร่อย เผยแพร่อย่างผิดๆ เดี๋ยวลูกบวบจะไม่สวย ผมว่าอย่างไปห่วงแทนสังคมเลยครับว่าเขาจะรับรู้อย่างไร จากคุณ : เฮ้อ - [ 17 ส.ค. 50 16:11:22 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมว่าที่คุณรักมวยไทยไม่เข้าใจเพราะมองมวยไทยโบราณจากมุมมองมวยไทยเวที จึงมีความคิดว่ามวยไทยไชยาที่มีสอนกันหลายกลุ่ม นั้นมีการรวบรวมเพื่อให้หลักสูตรเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และคงจะเป็นผลให้มีชื่อเรียกอย่างเดียวกัน มวยไทยในอดีตมีหลากหลาย ไปแต่ละท้องถิ่น แต่ก็ไม่ใช่ว่าพอมาถึงปัจจุบันควรจะมีการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวหรือทิศทางเดียวกันจึงจะถูกต้อง เหมือนที่มวยไทยเวทีปัจจุบันได้ถูกทำให้เป็น ผมว่าสมัยอดีต มวยในสายเดียวกันจากกลุ่มคนที่มีความสัมพันธ์กัน ก็คงมีการรวมกลุ่มกันอย่างหลวมๆ ได้บ้าง แต่ถ้าจะให้มวยแนวสายเดียวกันมารวมกลุ่มกันผลิตหลักสูตรในทิศทางเดียวกัน ก็คงต้องรอให้ผู้มีบุญญาบารมี และอำนาจมาจัดการล่ะครับ หากแม้นมียอดยุทธคนใดพยายามทำเช่นนั้นไซร์ อาจมองได้ว่า คนผู้นั้นมีเจตนาแอบแฝงหรือมีแนวความคิดที่ไม่รู้สภาวะความจริงของโลก ดังนั้น ชื่อเดียวกันคงไม่จำเป็นต้องมีท่าทางเดียวกันมั้งครับ ก็เพราะใครล่ะจะมายิ่งใหญ่เสียจนไปกำหนดเช่นนั้นได้ (ยุคนี้ทำได้เฉพาะมวยไทยเวทีครับ เพราะอำนาจจัดทำและเผยแพร่อยู่กับกระทรวงที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยนโยบายและอำนาจรัฐ) การที่มวยไทยในอดีตจะแยกต่อยอดไปเรื่อยๆ โดยไม่ถูกรวบหลักสูตรนั้น ผมว่าอานิสงค์ผลบุญจะเกิดขึ้นแก่ศิลปการต่อสู้อย่างมากมาย เรียกได้ว่าเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ กลุ่มคนมวยแต่ละกลุ่มก็มีข้อสงสัยและข้อสังเกตกันได้ เสียอย่างเดียวไม่มีการประลองกัน (ก็เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม) ส่วนความขลังของชื่อไม้มวยนั้น มันเป็นมาแต่สมัยโบราณแล้วครับ ถึงกับเอาเรื่องราวในรามเกียรติย์มาเรียกเป็นชื่อไม้มวยให้ดูอลังการณ์ เรื่องมันก็อยู่ที่ใจน่ะครับ ทำไมเมื่อได้ยินท่าฝานลูกบวบที่ต่างจากการรับรู้ที่ยึดมั่นแล้ว ไม่คิดแปลกใจ สนใจว่า อืมมีท่าฝานลูกบวบในแบบอื่นอีกหรือนี่ แทนที่จะคิดว่าฝานลูกบวบอย่างนั้นมันผิด ฝานอย่างนั้นไม่ได้หรอก มันไม่อร่อย เผยแพร่อย่างผิดๆ เดี๋ยวลูกบวบจะไม่สวย ผมว่าอย่างไปห่วงแทนสังคมเลยครับว่าเขาจะรับรู้อย่างไร จากคุณ : เฮ้อ - [ 17 ส.ค. 50 16:17:14 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ทิ้งท้าย ขนมญี่ปุ่น ที่คุณ Win ว่าไว้ว่า เป็นต้นตำรับ ส่วนหนึ่งของ ขนมไทย ที่ คุณท้าวทองกีบม้า ได้ประดิษฐ์ไว้ ผมอยากทราบว่า มีขนมอะไรบ้างอะครับ โมจิ หรือเปล่า หรือ ขนมอะไรอีก ถ้าไม่เป็นการรบกวน ก็ตอบด้วยนะครับ ผมจะได้ไปลองสืบกับ ผู้รู้ทางด้านญี่ปุ่นดูหนะครับ ขอบพระคุณครับ http://203.151.206.93/art/art.php?srctag=0602010446&srcday=2007/03/01&search=no คนที่ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้เป็นชาวญี่ปุ่น คือ เรโกะ ฮาดะ (Reiko Hada) ได้เขียนบทความชื่อ Madame Marie Guimard Under the Ayudhya Dynasty of the Seventeenth Century ลงในวารสารสยามสมาคม (J.S.S., V.80. Part1, 1992) ฮาดะได้เสนอไว้ว่า อันที่จริงท้าวทองกีบม้าได้สูตร หรือถูกสอนให้ทำขนมลักษณะนี้มาจากแม่ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเมื่อครั้งที่ชาวโปรตุเกสเข้าไปในญี่ปุ่นมากขึ้น ก็ได้สอนให้ชาวญี่ปุ่นหัดทำขนมโปรตุเกส ซึ่งปัจจุบันขนมญี่ปุ่นหลายชนิดก็เป็นตำรับโปรตุเกส ขนมญี่ปุ่นบางอย่างมีลักษณะเหมือนฝอยทอง ยังคงทำกันอยู่ที่เกียวโต และคิวชู ในประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน ขนมญี่ปุ่นที่มีลักษณะเหมือนฝอยทองตามความเห็นของฮาดะ น่าจะหมายถึงขนมที่มีชื่อว่า เครันโชเมน ซึ่งมีหน้าตาและสีสันคล้ายกับฝอยทองอย่างมาก หากเป็นเช่นนี้จริง ก็เท่ากับว่า ขนมไทยสูตรท้าวทองกีบม้า ก็คือสูตรขนมญี่ปุ่นตำรับโปรตุเกส ที่ญาติพี่น้องของท้าวทองกีบม้าถ่ายทอดสืบต่อกันมา ไม่ใช่มีถิ่นกำเนิดในสยาม! ตอบ ไม่ใช้โมจิคับเป็นฝอยทองต่างหาก ขนาดฝอยทองทีเป้นขนมญีปุ่นยังถูกำปรับปรุ่งประสมกับวัตถุดิบทองถินจนกลายพันธ์เป้นขนมไทยรสจัดๆได้เลย แล้วยิวยิตสู้ทำไม่มันจะไม่กลายพันธ์หรือประสมเป็นทุมทับจับหัก ของไทยไม่ได้และคับ    เรีองยังนีคุณรู้ไม่ครับคงไม่ค่อยมีคนรู้ ท่องไว้นะคับไม่เหมือนไม่แปลว่าไม่มี  แต่ที่หน้าสนใจอีกอย่าง ก็คือ แม่ของ ท้าวทอง กีบม้าทำไม่ใช้สกุล ยามาดา เกียวพันอย่างไง อาญาเสนาภิมุกคุณว่าหน้าสนใจอีกไหม ผมไม่แน่ใจว่า สิ่งที่คุณ Win เขียนว่า ท่าน อ.เจือ จะเอามวยปล้ำมาผสมกับ มวยไชยาจริงมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้ รบกวน ขอหลักฐานด้วยก็จะดี ไม่เกี่ยงครับ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานเป็นบุคคล หรือ จะเป็น เอกสาร เพราะผมก็เพิ่งทราบจากคุณ Win นี่หละครับ เพื่อสอบถามตามที่คุณ Win บอกมา ไปคัดหนังสืองานศพกับคุณpgpไป หรือไปถามเขาก็ได้ หรือให้ดีตอบในเวปหน่อยก็ดี แต่ผมก้ยังค้างๆๆอยู่กับการทีมี่การดู หมิ่นอจ.พูดแล้วขนรุก อจ.ไม่กระจอก ขนาดนั้นหรอกบอกให้ ใครไม่เชือเรืองเวรกรรม แต่ผมเชือคับ ดูสิคับอยู่เฉยๆก็มีเรืองมาให้!!     บอกว่า เจ้าแพ้มา แล้วไม่เขียนไว้ ก็ไม่รู้ว่า หมายถึง ประวัติศาสตร์ตอนไหน เพราะ ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ที่ พระราชมนู ยกไปแพ้เขมรหนแรก ก็ยังมีบันทึกไว้แพ้หนต่อมาก็สมัยพระเจ้าทรงธรรม ก็มีบันทึกไว้ สมัยพระเจ้าทรงธรรมและครับ เจอทหารอาสาญีปุ่น ญวน แต่ไม่มีบันทึกไอ้ทีอ่านมานะ คัดมาจากราชพงศาวดาร กรุ่งกัมพูชา  เรืองไทยปราบเขมรไม่สำเร็จนี้ เราคนไทยสมัยใหม่ อ่านพบได้ในหนังสือฝรั้ง หนังสือญีปุ่น และพงศาวดารเขมร แต่ผู้เขียนได้ค้นดูในพงศาวดารไทยเราหลายฉบับในรัชสมัยของ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ก็ไม่มีผู้ใดเล่าบันทึกได้เลย คงจะอายทีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ รบสู้เขาไม่ได้ เลยไม่จดเอาไว้เสียดื้อๆๆ(นพ วิบูล วิจิตรวาทการ พระเจ้าประสาททอง หน้า 73) ขนาดนี้คุณยังไม่รู้เลย ว่าเรืองอยางนี้เขาคัดมา ประวัติศาสตร์เขียนโดยผู้ชนะนะครับ และชนชั้นไหนเขียน ก็รับใช้คนกลุ่มนั้น ไม่มีประวัติศาสตร์ชาติไหน ถูกต้องครบถ้วน 100เปอรเซ้นต่างเอนเอียงเขาข้างตัวเองทั้งนั้น ความจริงไม่ได้มีแต่ในหนังสือ เพราะในหนังสือก้ผิดได้ คำบอกเล่าของผู้คนก็มีสิทธิมีอคติเขาข้างตัวเองได้ทั้งนั้น ถ้าเรายังยึดตัวเราเป็นหลักความคิดมันก็โดดๆดิ่งๆอยู่อย่างนี้ ไม่มีทางจะหาความจริงเจอ ไม่มีทางที่จะเชือมโยงกับคนอื่นความขัดแย้งจะไม่มีวันสินสุด และนับประสาอะไร กับคนญีปุ่น ทีเรามีอคติกับเขาตั้งแต่สงครามโลก แต่เราก็ไม่พูดเหมือนกันต่อนเราล้างพลานชาวญีปุ่นสมัย พระเจ้าประสาทอง ทั้งทีคนเหล่านั้นก็ลูกหลานตัวเองแท้ๆๆ เรื่องครูเขตร ท่านไม่ได้แต่งตั้งตัวท่านเองเป็นปรมาจารย์นะครับ คนอื่นที่เขาอ่านผลงานของท่านเป็นคนยกย่องท่านต่างหากครับ ไม่เชื่อลองไปถาม คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ที่ร้านโอลเล้ง RCA ดูก็ได้ครับ คุณอาจินต์ เป็นเจ้าของนิตยสารฟ้าเมืองไทย ที่ ครูเขตร เป็นคนลงเรื่อง ปริทัศน์มวยไทยครับ คุณอาจินต์ ก็ไม่เคยเรียนมวย และไม่ใช่นักมวยด้วยซ้ำไปครับ   ผมก็ไม่ว่าอะไรนี้คับสวนใหญผมก็เรียกอจ.เขตร แต่อจ.เขตร เป็นครูมวย คุณอ.จินต์ ก็เป็นนักเขียน แต่ทั้งสองท่านไม่ใช้นักประวัติศาสตร์ และไม่มีใครทักทวงท่านว่าทหารญีปุ่นไม่ได้อยู่ในไทย 3ปีอย่างที่ท่านอ้าง (หรือมีแต่ไม่เรารู้) ท่านผิดอย่างแรงเลย เรารู้จักคนพวกนี้รวมๆแล้วมากกว่า600ปี ทหารอาสารุ่นแรกเป็น อาจเป็นปูเป็นตาได้ในสมัยพระเจ้าประสาททอง การทีคนเรายึดความคิดของคนๆเดียวแล้วมาฟันธงว่ามวยไทย ไม่มียิวยิตสุ้ปน มันถูกต้องแล้วเหอ ความคิดเห็นของท่านเอ้นเอียงเป็นไทยนิยมไปซักหน่อย หนังสือของท่านเหมาะกับคนทีวิจาณญาณในการอ่าน แต่ไม่เหมาะอย่างยิง สำหรับเป็นคำภีรมวยไทย แล้วยึดเป็นศูนย์กลางของความถูกต้อง (ไม่มีวิจาณญาณ)เพราะความคิดเห็นของท่านมันช่วนแบ่งเขาแบ่งเรา ไม่เชิญช่วนอยู่เกือกูล มีอคติกับมวยจีนและคนจีนอย่างชัดเจนทั้งที ท่านเองก็มีเชือสายจีน!!! แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 16:54:27 จากคุณ : win_mma - [ 17 ส.ค. 50 16:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ผมไม่เข้าใจภาษาเยอรมันครับ ถ้าเข้าใจก็คงดี เรื่องอาจารย์พันเอกโอเคครับท่านคนละสาย เรียนหลายอย่าง ไม่เป็นไรครับ รูปนั้นไม่เป็นไร ผมมีข้อมูลเสริมเรื่อยๆทีละขั้นๆอยู่แล้ว งั้นตัวอย่างตามภาพนี้ละครับ เหมือนกับภาพในคห21.ใช่ไหมครับ เรียงลำดับลงมานะครับ (ผมขออนุญาติครูมัด และครูเล็ก และลูกศิษย์ท่าน ณที่นี้เลยนะครับ ในการนำภาพมาลงและเผยแพร่วิชามวย) ภาพ1 -2 รูปครูมัด กับศิษย์ ในท่าหักแขน ภาพ3-4 รูปครูมัดกับศิษย์ ในท่าจับขา (ที่คุณพลายบอกว่าไถนา) ภาพ5-6 รูปครูเล็กกับศิษย์ ในท่าจับขาเช่นกัน ครูทั้ง2ท่านสายไชยาใช่ไหมครับ เรียนจากไหนยังไงโยงไปถึงอาจารย์ปู่ท่านใดบ้างลองหาข้อมูลดูครับ ผมเอามาให้ดูเพื่อแสดงว่าครูทั้งสองท่านถ่ายทอดท่าดังกล่าวตามที่เรียนมาจากครูอาจารย์ของท่านทั้งสองให้กับศิษย์ ศิษย์ก็รับไป ซึ่งเจตนาของคนที่โพสภาพในคห.21 ก็จะเจตนาที่จะบ่งบอกว่าครูแปรงเรียนมาจากครูทอง โดยมีรูปยืนยันชัดเจนว่า ครูแปรงไม่ได้ปรุงแต่งท่าตามภาพที่คุณพลายสงสัยว่าเป็นของญี่ปุ่น  ซึ่งก็เช่นกันครูมัดและครูเล็กท่านก็เรียนมาจากครูของท่านทั้ง2เหมือนกัน  ก็เป็นไปได้ว่าในสายไชยาไม่ว่าจะอาจารย์ท่านใดในปัจจุบัน เรียนท่านี้มาจากครูรุ่นก่อนๆจริง และมีในมวยไชยาจริง ผมมาตอบคำถามที่ว่า ---ทดลองถามตัวเองว่า เคยมีปรากฎการใช้ใน ท่า ของ คห๒๑ ในการชกหรือแสดง ..มวย.. ในสังคมมวยหรือไม่ เมื่อใหร่  ที่ใหน ----- อย่างน้อยก็ เคย6ปรากฏการณ์แล้วนะครับถ้านับตามภาพ ถ้าหากจะนับตามที่ครูทั้งหลายท่านเผยแพร่ตามที่ต่างๆก็คงอาจจะหลักร้อยหลักพันปรากฏการณ์แล้วล่ะครับ ส่วนการจบของท่าหรือเริ่มของท่าเป็นแบบใด พลิกแพลงจบแบบไหน ทำร้ายคู่ต่อสู้แบบไหนได้บ้าง ผมไม่ขอนำเสนอภาพต่อ หรือที่มาคลิ๊ปนะครับ เพราะผมไม่เกี่ยวข้องกับมวยเขามาก จะทำการล้ำเกินไปโดยไม่ได้รับอนุญาติคงไม่ได้ อีกเหตุผลก็คือผมเห็นด้วยกับที่คุณพลายกล่าวว่า ---ถ้าคุณมองไม่เห็นก็ไม่ควรให้ -----  เช่นกันครับผมก็ให้แค่นี้ เพราะผมคนนอกมวยไชยาเขาครับ คุณพลายจะตอบไม่ตอบและมีข้อแม้ว่าให้ผมไปใส่คำตอบในกระทู้ใหม่ ผมคงไม่เอาหรอกครับ คุณพลายสงสัยและถามในนี้ผมก็ตอบในนี้คงไม่ผิดอะไร ยังอยู่ในเรื่องไม้มวยไชยาอยู่ ในงานที่สวนหลวงไม่มีคนทักท้วงอะไรกันเลยนะครับ ในบอร์ดเท่านั้นหรือครับสำหรับบทสรุปข้อสงสัย อัดวีดีโอไว้นี่ครับถ้าถ่ายถึงลองเปิดสิครับมีอย่างที่ผมว่าจริงไหม แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 22:50:55 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 20:12:58 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 50 19:48:54 จากคุณ : j thailanfight (j thailandfight) - [ 17 ส.ค. 50 18:32:28 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เก่งจังเลย..เกยคิงจากค่ายอัศวินดำ จากคุณ : ตัวแสบ - [ 17 ส.ค. 50 21:38:18 A:58.136.52.54 X: TicketID:152058 ]

ความคิดเห็นที่ 56 . สวัสดีครับ คำถามของผมเป็นในรูป ...ท่าภาคปฎิบัติ...อันหมายถึงว่าผมแยก ระหว่าง ..การแสดง กับ ประสบการณ์จริง... ครับ ถ้าผมดูภาพยนตร์ ท่าต่อสู้ของคุณจา ในองศ์บาก หรือต้มยำกุ้ง มิได้ เป็นเหตุผล ที่ผมจะรู้สึกเข้าใจว่า ท่าต่อสู้เหล่านี้มีประสิทธิภาพ ในการใช้จริงได้ ฉนั้นท่าต่อสู้ มวย ที่ เป็นการแสดง จะให้ผมมอง เช่นเดียวกับ ท่ามวยเวที ไม่ได้ครับ กระทู้เป็น การสนทนาระหว่าง การใช้ชื่อเหมือน หรือคล้ายคลึง กันระหว่าง มวยแสดง กับมวยแข่งขัน อันเป็นปัญหาที่พยายาม ทำความเข้าใจกัน ด้วยเหตุ ด้วยผล สิ่งที่ผมแย้งก็คือ ไม่เข้าใจว่า ด้วยเหตุ ใด ..ถึงนำเอาภาพแสดงมาเสนอ.. ปัญหาก็ยิ่งปั่นป่วนไปใหญ่โตขึ้นมา ผลขณะนี้ก็คือ เริ่มออก จากจุด ตั้งกระทู้ ออกไป สิ่งที่ตกคาก็จะกรายเป็น มะเร็ง กับทั้งสองฝ่าย ถูกใหมครับ ผม ขออนุญาติให้ ความเห็นว่า ถ้าเราต่าง พยายามหาช่องเข้าใจ กับ คห ต่างๆ หาทางปรับความ เข้าใจ น่าจะดีกว่า พยายามหาข้อแก้ตัว ที่ผลสุดท้าย จะให้ตนเองเป็นฝ่ายถูก น๊ะครับ อย่างการให้ เหตุผลว่า เป็นภาษาลับของพวกเดียวกัน ก็ไม่ควรนำมาอ้างในสังคมถูกใหมครับ คุณ ไทยฯ ครับ คุณเองนำภาพ ลักษณะ คห ๒๑ ภาพ ๓ โดยมีทั้งที่ผมอ้างถึง ..ด้านใน.. และ ..ด้านนอก.. จากภาพของ คุณ อีฯ ถูกใหมครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 18 ส.ค. 50 09:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อุตส่าห์แค๊ปภาพมาให้ดูแท้ๆ แล้วจะพิมพ์ถามทำไมครับว่า ---ทดลองถามตัวเองว่า เคยมีปรากฎการใช้ใน ท่า ของ คห๒๑ ในการชกหรือแสดง ..มวย.. ในสังคมมวยหรือไม่ เมื่อใหร่ ที่ใหน ----- มีคำว่าหรือแสดงอยู่ถูกไหมครับ แล้วภาพที่นำมาลงให้ดูก็คือการแสดงการสาธิตตามที่คุณพลายระบุไว้ ว่ามีไหม ประโยคคล้ายประโยคคำถามแบบนั้นแสดงว่าคุณพลายมั่นใจว่าไม่มี ผมหาเจอว่ามีแล้วเอามาให้ดูแล้วไงครับ ก็หลายภาพด้วย แถมในวันงานที่สวนหลวงก็มีแสดงนะครับท่าตามในภาพ (พิมพ์ย้ำอีกครั้งหนึ่ง) คุณพลายก็อยู่ห่างไม่กี่ก้าว จำไม่ได้จริงๆหรือครับ แต่ทำไมคนในงานที่ผมสอบถามมาท่านอื่นอยู่ด้านนอกหลังคาซุ้มด้วยซ้ำเขาจำได้ละครับ... ปัญหาเกิดไม่เกี่ยวกับเขาเอาภาพมาลง ปัญหาเกิดก็คือการจ้องจะหาเรื่องว่ากล่าวและต้องการให้เกิดปัญหาครับ ผมไม่อ้อมค้อมละพิมพ์ตรงๆเลย ทำบ่อยเป็นนิจใครๆก็ดูออกครับ ลดทิฐิลงบ้างครับ อ้อขอเพิ่มข้อความ ขอถามคุณพลายอีกนิดครับ เหตุใดถึงมองว่าภาพใน คห .21 เป็นวิชายิวยิตสูครับ ภาพสองผมไม่ถามก็ได้ เพราะคุณพลายอาจลืมไปแล้ว และลืมถามผู้สาธิตในวันงานไป เลยมาถามในบอร์ดเจาะจงสายครูแปรงแทน งั้นเอาแค่ภาพแรกบิดข้อมือก็พอครับ ตรงไหนที่คือวิชายิวยิตสูครับ อธิบายผมหน่อยนะครับผมรู้น้อย ขอความรู้ มาเพิ่มครั้งที่สองเนื่องจากลืมตอบคุณพลายที่ถามว่า ผมนำภาพ ลักษณะ คห ๒๑ ภาพ ๓ โดยมีทั้งที่ผมอ้างถึง ..ด้านใน.. และ ..ด้านนอก.. จากภาพของ คุณ อีฯ ถูกใหมครับ ผมงงสำนวนคำถามครับ แต่ก็ขอตอบว่ารูปจับขาทั้งหมดที่ผมลงสี่รูปไม่ใช่ท่าไถนาสักท่าอย่างที่คุณพลายเข้าใจกับรูปตอนแรกครับ จะมีด้านในหรือด้านนอกก็ไม่เกี่ยวแล้วครับ เพราะไม่ใช่ไถนา  (หรืออาจตอนนี้คุณพลายก็ยังเข้าใจแบบนั้นอยู่ว่าเป็นท่าไถนา ก็ไม่รู้จะทำไงแล้วครับ)  เจตนาเอามาลงคือให้เห็นว่าของเขามีจับแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้จบแบบเดียวกันอีกตะหากทุกครั้งด้วย แต่จับแบบเนี้ยไม่ใช่ไถนาแน่นอน  และก็เอามาลงเพื่อบอกยืนยันว่าเกิดปรากฏการณ์หลายครั้งแล้ว แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 50 21:14:21 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 50 20:02:31 จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 18 ส.ค. 50 19:10:41 ]

ความคิดเห็นที่ 58 . สวัสดีครับ คุณ ไทยฯ อะไรครับ เป็นเหตุให้คุณไม่สบายใจกับผมขึ้นมาได้ ขนาดนี้ ครับ เพราะนอกจากจะ...ขอบใจ.... ที่คุณแค๊ปภาพและให้ คห ผมมิมีสิ่งใด ทั้งในใจและข้อความ พาดพิงถึงตัวคุณเลย ครับ เอาล๊ะถ้าเข้าใจผิด ผมยินดีอธิบาย ให้ฟัง อีกครั้ง ครับ คำถามของผม ..อันที่จริงแล้วกับคุณ อีฯ ที่นำเอารูปมาแสดง แต่เมื่อคุณไทยฯ นำเอารูป เป็นข้อมูลมาตอบแทน ก็มิได้ หมายถึงว่า ผมจะเปลื่ยนมาถามกับคุณ โดยปริยาย ถูกใหมครับ... การตั้งคำถามของผม ก็มิได้เกี่ยวว่า จะต่อว่าหรือวิจารณ์ คุณอี ฯ หรือ ฯลฯ แต่เป็นการหาข้อชี้แจง ถึงสาเหตุการเข้าใจผิด อันเป็นปัญหาของกระทู้  โดยใช้รูปภาพ เป็นหลักฐานการ อธิบาย นั่นเอง ในลักษณะวิชามวย ประเภทมวยแสดง กับ ประเภทมวยแข่งขัน และประเภทมวยป้องกันตัว มีมุมมอง และ ลักษณะปฎิบัติไม่เหมือนกัน ลักษณะพิสูจน์ของผม ผมนิยมเอาสิ่งที่สามารถเห็นกับตาในปัจจุบัน อันเป็นเหตุ ให้ตั้งเป็น คำถาม ถึงเมื่อใหร่ ที่ใหน ในการ ชก หรือ แสดง... เพื่อเป็นหลักฐานว่า ประเภทมวย ของคุณ อีฯ กับ ของ จขกท แตกต่าง กัน อย่างไร อันคำตอบควรจะมาจาก คุณอีฯ เท่านั้น มิใช่จาก ผม หรือผู้ใด ครับ อันนี้คือ ..ทดลองถามตัวเอง.. หรือเสมือนกับ พิจารณาตัวเอง ครับ หรือคุณ คิดว่า ไม่เพียงแต่ ผมเห็นตำตาในการแสดง ที่สวนหลวงและคำยืนยัน ว่าเป็นท่าแสดง จาก ท่าน อาจารย์ ของผู้แสดง จะเป็นสิ่งที่ สมควร กับการให้มองพิจารณาตัวเอง ล๊ะครับ ผมมองไม่เห็นว่าสมควรจึงไม่กล่าวถึง ครับ สิ่งที่ผมทำอยู่ปัจจุบัน หรือที่คุณไทยฯ มองเห็นเป็นการสร้างปัญหา ผมรับฟังครับ แต่ก็กรุณาขอให้ คุณทราบด้วยว่า เป็น หนทางที่ทำให้ สิ่งที่ครูอาจารย์ ให้เป็นจุดมุ่งหมาย ในวันพบที่สวนหลวง ให้เป็นความจริงขึ้นมา นั่นเอง ครับ ฉนั้นเพื่อเตือน ความทรงจำผมถึงได้ ให้จัดทำเป็นวิดิโอมาเสนอ อย่างที่เห็น แหละครับ มองและวิเคราะห์ ซิครับ ผมทำสิ่งใดบ้างที่ไม่ตรง กับที่พูดกันไว้ที่สวนหลวง เพื่อเป็นสาเหตุให้คุณ ข้องใจกับผม ได้นั่นเองครับ แน่ล๊ะไม่มีผู้ใด ที่จะทำอะไรโดยมิมีเสียง ตำหนิ ฉนั้นผมยินดีรับฟัง คห และความรู้สึกเข้าใจ ของคุณ ครับ ส่วน ภาพใน คห ๒๑ คุญลองไปหา หนังสือ ...ศิลป์ป้องกันตัว ของ นิตย์ พิบูลย์สวัสดิ์ จัดพิมพ์ครั้งแรก ปี ๒๕๐๓ .... และถ้าสนใจ ถามผมอีกครั้ง ครับ บอกตรง ๆ จากใจเลยน๊ะ ครับ ไม่ว่า จะเป็นสายครูแปรง หรือสายใดก็ตาม ไม่อยู่ใน ความสนใจของผม ครับ แต่บุคคลที่สนทนาด้วย หรือสิ่งที่ อ้างถึง ผมถึงบอกตามที่ผม รู้สึกเข้าใจตรงไปตรงมา อย่าง คห ของผม คห ๖ -  คห ๑๗ และ คห ๒๗ เป็นบทความหรือคำถาม ประเภทใหน และต้องการคำตอบ อย่างไร หรือ เป็น คห ที่มีแนวโน้ม เจาะจงกับ สายมวยครูแปรง ครับ ? ในภาพ คห๒๑ ภาพ ๓ เป็นท่าที่ผมมอง ..ลักษณะที่เห็นเป็นท่าใถนา.. แต่โดยจากภาพ ผู้ใช้ท่ายืนด้านนอก จากที่ผม ทราบ ผู้ใช้ท่าจะยืน ด้านใน ในเมื่อคุณเอาภาพสุดท้ายมาเสนอ คห ๕๔ ที่มีทั้ง ยืนด้านในและด้านนอก ก็แสดงให้เห็นว่า เป็นไปได้ ทั้งสองวิธี หรือพูดกันง่าย ๆ อันนี้แหละเป็นจุด ที่ทำให้เข้าใจกันผิด แต่มิใช่ผู้ใดผิด ผมเรียกว่า ..ท่าใถนา.. ขออภัยน๊ะครับ ........ผมเรียก...... มิได้หมายถึงว่า คุณหรือใครจำเป็นต้องเรียกและเข้าใจเหมือนกัน อย่างทางคุณ อีฯ เรียก ...เตะฝานบวบ... คนอื่นเข้าใจว่า น่าจะเป็น ...เตะฝานลูกบวบ... ผมบอกว่า ผมรู้แต่ ...กลฝานลูกบวบ เป็นท่าใช้ ศอก... สามฝ่าย สามคำแปล ควรจะเข่นฆ่ากันเพื่อเป็นฝ่ายถูก หรือพยายามปรับความเข้าใจกัน ถึงการใช้ชื่อล๊ะ ครับ ในส่วนตัวแล้ว ผมมองเห็นแต่ว่า คุณก้าวเข้ามาตอบแทนคุณ อีฯ แต่ก็พยายามบอกว่าเป็นกลาง ในขณะเดียวกันก็เคือง ใจ กับผม ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับ คุณเลย เข้าใจใหม ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 19 ส.ค. 50 08:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 4รูปที่ผมนำมา จริงๆมีรูปเดียวที่จบแบบ ภาพใน21ครับ (ต่างกันนิดเดียว) ส่วนนำมาสี่รูปก็เพื่อให้ดูได้ครบๆว่า เขาจับได้หลายอย่างจริงๆ และท่าจับแบบนี้มีจริงๆ ซึ่งไม่ใช่การไถนา ผมถือว่าผมเคลียร์ในส่วนของผมนะครับ จากทั้งรูปและการอธิบาย ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผม ผมมาตอบแทนคุณEZ2DJ ถูกครับ เนื่องจากเพราะพอรู้บ้างแล้วมาช่วยแชร์ความคิดเห็นความรู้ที่พอมีผิดหรือครับ แล้วกระทู้นี้ละครับ ด้านบนๆก็ระหว่างEZ2DJตอบสนทนากับผู้อื่นนำรูปให้ผู้อื่นชมไม่ใช่หรือครับ คุณพลายยังร่วมได้เลย เอ๊ะแล้วทำไมผมร่วมด้วยไม่ได้ล่ะ มีกฏข้อไหนในเวปนี้บอกหรือปล่าวครับ ผมเป็นกลางอยู่แล้วครับไม่งั้นคงไม่เดินทางไปร่วมงานของคุณพลายหรอก รูปต่างๆผมก็นำมาเสนอช่วยให้ แต่ที่ทำไปหวังดีช่วยก็เสียปล่าว ย้อนไปดูที่นี่ครับ หาที่ผมพิมพ์ดูครับhttp://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2007/03/S5241017/S5241017.html คำตอบอยู่ในนี้ คุณพลายกับผมเกี่ยวกันอยู่แล้วครับ ผมไม่ชอบการตบหัวแล้วลูบหลัง ที่มาตอบในนี้ไม่ใช่มาแค้นเคือง แต่มาตอบเพราะพอรู็บ้าง และก็ใช้สไตร์ตอบตรงๆก็เพราะหมดความเกรงใจแล้วไงครับ ตอบในนี้มันก็สิทธ์ของผมที่จะมาร่วมพุดคุยนี่ครับ จุดหมายในวันงานสวนหลวง ที่เกริ่นไว้ตอนนั้น สิ่งที่ทุกคนอยากไปเห็นคือ เห็นคุณพลายโชว์การฟันดาบแบบจังหวะจริง แบบไม้ป่า ดีกว่าในคลิ๊ปที่ฝรั่งเขาคอมเม้นต์มาและเป็นไปในแบบที่คุณพลายต้องการนะครับ แต่ในงานมีใครเห็นคุณพลายทำสักช๊อตไหมครับ นอกจากการสโลว์ทีละช็อตแบบหนังแมททริกซ์ แล้ว วิชาดาบคุณพลาย หรือมวย เห็นได้กับตาในปัจจุบันที่ไหน อย่างไร มีการผลิตหรือสอนนักกีฬาขึ้นชกจริงๆ ที่ไหนเมื่อไหร่ ใครบ้าง ขอชื่อ สถานที่ วันเวลา รูปยืนยัน ผลการแข่งขัน และยืนยันใช่ไหมครับใช้ได้จริง และในวีดีโอที่ลงทั้งหมดไม่ใช่การแสดง (ผมไม่ได้ดูถูกวิชาสิ่งที่ท่านเรียนมานะครับ แต่การนำเสนอและการตอบแสดงคำสนทนาแต่ละครั้งของคุณพลายยังไม่ชัดเจนพอครับ เมื่อคนอื่นๆมองย้อนกลับไป ใครเสียครับ??) ขอบ้างจะได้ไหมครับ ข้อมูลเหล่านี้ ผมคาดว่ามีคนอยากถามแบบนี้เยอะนะครับ แต่เขาเกรงใจ ผมหมดไปแล้วเลยอยากจะถามเลย สุดท้ายแล้วท่ายิวยิตสูในภาพ1 ของคห 21 เป็นหลักการอะไรครับ ผมรออยู่นะ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 19 ส.ค. 50 09:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 . สวัสดีครับ คุณไทยฯ ผมมองไม่เห็นถึงเหตุผลใด  ...ที่คุณจะมีความจำเป็นต้องให้ความเคารพนับถือกับผมครับ... ขออภัยครับ วันพบที่สวนหลวง เป็นการพบปะตามจุดประสงศ์ที่ระบุไว้ล่วงหน้า ถ้าคุณหรือที่คุณอ้างว่า ...ทุกคน.. ไปเพื่อ จุดประสงศ์ อย่างอื่นเขาก็ไปผิดงาน ช่วยไม่ได้ ครับ ผมมอง ไม่เห็นอีกเช่นกัน ว่าด้วยเหตุผลใด ที่ผมจะต้องพิสูจน์ว่า ผมมีความรู้ในวิชาการต่อสู้ ให้คุณ หรือ ใคร ทราบ เช่น เดียวกัน กับสิ่งที่ผมสาธิต หรือ เป็น คห ในกระทู้ต่าง ๆ เพราะสิ่งที่แน่ ก็คือ ผมรู้ทราบตัวเอง ก็ใช้ได้แล้วครับ คุณ ไทยฯ ครับ ไม่ว่า คุณ หรือใคร ก็ตาม มองผม หรือสิ่งที่ผมให้ ในรูปลักษณะอย่างไร  ฉนั้นตามสบาย ครับ ...ถ้าแสงอาทิตย์แรง คุณจะเข้าที่ล่มก็เป็นเรื่องของคุณ.... ถูกใหมครับ คุณรู้ใหม ...ผมมีความรู้วิชาการต่อสู้ มิได้ใช้เป็นเครื่องมืออวดอ้าง ฉนั้นการได้รับความเชื่อถือ ยกยอง หรือมีชื่อเสียงโดง ดัง ไม่เคยมีความสนใจ หรืออยากได้ เลยครับ.... ผมชอบ ที่ไม่ต้องรักษาชื่อเสียงเมื่อไม่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าใครเขาไม่ เชื่อถือ ไม่ต้องอวดตัววางก้าง อยากทำก็ทำ ไม่อยากก็เลิก แหละครับ จาก คห และในลักษณะที่คุณมองผม ๆ เพียงแต่แปลกใจ ....คุณไปถามควาย เพื่อหาคำตอบภาษาควายที่คุณไม่เข้าใจ..... เพื่อประโยชน์อะไร ครับ ? จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 19 ส.ค. 50 10:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 61 Humm... good question...J thailandfight!! จากคุณ : F.G.R.T(P.M.) - [ 19 ส.ค. 50 11:02:12 A:124.120.133.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 62 Dear Khun Plai, When you asked question in the way that would discredit someone, on the otherhand, you should be able to prove that you are not guilty of the same accusation. จากคุณ : F.G.R.T(p.m.) - [ 19 ส.ค. 50 11:17:12 A:124.120.133.146 X: ]

ความคิดเห็นที่ 63 สวัสดีครับ คุณ ฟรั่งฯ ผมจะขอบใจอย่างมาก ถ้าคุณจะใช้ คห เป็นภาษาไทย ครับ การที่ผู้อ่าน ...หนังสือ... ไม่ว่าจะเข้าใจเนื้อหา อย่างไร มิใช่สิ่งที่ผู้ประพันธ์  จะบังคับเจาะจงได้ใช่ใหม ครับ การให้ความรู้ ก็ เช่นกัน เป็นเพียงลักษณะแนะนำเท่านั้น ผู้รับสามารถตัดสินเอาเองถึงการรับ และการนำไปใช้ด้วยตัวเอง ครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ เป็นปัญหาที่เกิดกับบุคคล ที่ได้รู้ทราบและเชื่อถือในแนวหนึ่ง โดยตนเองเชื่อมั่นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ฯลฯ เสมือน มวยสายหนึ่ง เป็นวิชาการต่อสู้ ที่มีประสิทธิภาพสูงส่ง และเป็นวิชาแท้ดั้งเดิม ในวันหนึ่งเกิดได้ยินว่า สิ่งที่ตนเอง รู้ทราบและเข้าใจ เป็นเพียงการแสดงใช้ในการต่อสู้จริงไม่ได้ และสำคัญที่สุดก็คือมิใช่วิชาแท้ ผลจะเป็นอย่างไรล๊ะ ครับ ในด้านหนึ่ง หาคำแย้งในสิ่งที่รู้ใหม่ ไม่พบ แต่ถ้าจะยอมรับในสิ่งใหม่ก็จะหมายถึง ยอมรับว่าเชื่อถือในสิ่งผิดมาก่อน ทาง เดียวที่จะมิให้ ความเลื่อมใสสูญสลาย ก็คือพยายามหาข้อผิดในสิ่งใหม่ นั่นเอง คำถามหรือการส่องหาข้อพิสูจน์ มิเพื่อ จะให้ยอมรับสิ่งใหม่ แต่เพื่อทำลายเท่านั้น ไม่ว่าจะตอบอย่างไร ก็เสมือนกับ ..ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ... แต่การรับของ ใหม่ ถ้ามองเหตุผล ก็จะเห็นว่าคำถามเหล่านี้ ไม่มีความจำเป็น นั่นเอง ผมเป็นใคร ? เรียนรู้มาจากใหน ? มีความรู้ความสามารถแค่ใหน ? มิใช่คำตอบว่า วิชาการและความเชื่อถือ ของเขาเหล่า นั้น เป็นความจริงหรือไม่ แต่ถ้าเขามองแต่แรกว่า สิ่งที่เขารู้ทราบเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทั้งหมด เขาจะดีใจที่มีโอกาสทราบ มากขึ้น คำถามก็จะเป็นลักษณะ อยากได้ความรู้ นั่นเองครับ ด้วยเหตุนี้ ผมถึงไม่สนใจ ว่าใคร เขาจะมองหรือเชื่อถือในตัว ผมเองอย่างไร และก็ไม่จำเป็นที่ต้องตอบคำถามที่มิใช่สิ่งที่เป็น ความรู้หรือประสบการณ์ ที่ผมมีอยู่ ครับ ไม่ว่าเขาทั้งหลาย จะคิดหรือเข้าใจอย่างไร สิ่งที่แน่ก็คือ เขาไม่ทราบในสิ่งที่ผมทราบ ฉนั้นคุณมองเห็นใหม ว่าด้วยเหตุใดผมจึงต้องไปบังคับ ให้เขารู้มากกว่าเดิมล๊ะ ครับ อีกอย่างหนึ่ง ลักษณะพิสูจน์ ความรู้ความสามารถโดยใช้ ใบรับรอง ฝึกเรียนจากครูอาจารย์ที่มีชื่อเสียง หรือได้รับความเชื่อ ถือยกยองในสังคม มิใช่ลักษณะของผู้รู้ตามธรรมเนียมประเพณีไทย ครับ เสมือน ดอกไม้ ถ้ามิได้ขึ้นอยู่ในสวน ก็จะเป็นดอก ไม้เทียมไปโดยปริยาย ถูกใหมครับ ผมสูญเสียอะไรบ้างครับ ถ้าไม่มีใครอยากทราบในสิ่งที่ผมรู้ ? แน่ล๊ะสิ่งที่ผมรู้ วันหนึ่ง อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่รู้ก็ได้ ในวันนั้นก็คือวันที่มีใครสักคนสามารถแย้งด้วยเหตุผลถึงความเข้าใจผิดของผมได้ นั่นเอง แต่จะเอา ประวัติศาสตร์ ฯลฯ มาอ้าง จะเป็นไปไม่ได้ ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 19 ส.ค. 50 12:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 64 --- ผมเรียกว่า ..ท่าใถนา.. ขออภัยน๊ะครับ ........ผมเรียก...... มิได้หมายถึงว่า คุณหรือใครจำเป็นต้องเรียกและเข้าใจเหมือนกัน ----- ถ้างั้นประโยคดังกล่าวก็ยืนยันได้แต่แรกเลยสิครับ ว่าคุณพลายเข้าใจคำว่า โค้ตลับตั้งแต่แรก  แล้วจะถามมาเรื่อยๆทำไมครับ ทั้งฝานบวบ   จรเข้ฟาดหาง  กวางเหลียวหลัง จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 19 ส.ค. 50 13:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 65 . สวัสดีครับ แทนที่จะถามผม กรุณาทบทวน คห ของผมเสียก่อน ครับ คุณไทยฯ บางทีคุณจะอ่านพบ ....... .....ด้วยสาเหตุใดถึงได้นำรูปมาเสนอ ? ..... จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 19 ส.ค. 50 19:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ผมเคลียร์เรื่องรูปที่มีปัญหาที่คุณพลายจุดประเด็นต่อ ว่าเป็นวิชาญี่ปุ่น  หรือท่าเป็นการโชว์ท่าไถนา แต่ถ่ายรูปมาผิดมุมได้ แต่สุดท้ายย้อนกลับมาที่จุดที่ว่า เหตุใดนำรูปมาเสนออีกแล้ว ผมให้ข้อมูลทีอ่านง่าย มีหลักฐาน ตอบตรงไปตรงมา ไม่ต้องอุปมาอุปมัยซับซ้อน ผมคิดว่าผมทำให้คนที่เข้ามา อ่านเข้าใจได้ง่าย และไมสับสนเรื่องอื่นๆ ที่มีการกล่าวหากันลอยๆ เมื่อผมมีหลักฐานมีภาพ มีการอธิบายที่เข้าใจในภาษาไทยไม่ต้องมาแปลไทยเป็นไทยต่อครบถ้วน ผมถือว่าผมร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างถูกต้องครับ เอาละครับมาดูรูปแรกในคห 21ที่ค้างไว้นะครับ ในเมื่อคุณพลายบอกว่าเป็นวิชายิวยิตสู หรืออาจจะวิชาญี่ปุ่นอื่นๆ  ที่ทำให้คิดว่าเป็นวิชายิวยิตสูเพราะว่าเห็นการบิดข้อมือใช่หรือไม่?? ผมคิดว่าคุณพลายคิดว่าใช่ เพราะมันก็เป็นการกระทำ จุดเดียวในภาพที่บ่งบอกถึงการกระทำคู่ต่อสู้อีกฝ่าย สรุปคือมีบิดข้อมือ ภาพจากคลิ๊ปของพาหุยุทธ์ภาพนี้เป็นวิชายิวยิตสูด้วยหรือป่าวครับ เพราะก็เห็นอยู่ในหลักการบิดข้อมือเหมือนกัน จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 19 ส.ค. 50 21:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 67 คุณเจครับ... ส่วนตัวผมแล้ว...   ผมเชื่อมั่นในตัวคุณคุณครับ... จากคุณ : งาสาน (งาสาน) - [ 19 ส.ค. 50 21:44:32 ]

ความคิดเห็นที่ 68 . สวัสดีครับ คุณ ไทยฯ ผมสงสารคุณจังเลยครับ ถ้าอยากจะโจมตีก็ควรหา ข้อมูลให้ดีกว่านี้ ครับ ท่านี้เป็นท่าดวลมีด ที่มีแต่เฉพาะวิชาพาหุยุทธ์ ที่ค้นคิดจากบรรพบุรุษสตรีไทย  ครับ สนใจลองไปหาเทียบดูได้ทั่วโลก ครับ ไม่ใช่ท่าหักมือ หรือ ท่ามาจาก ยูยุดสู  หรือ ฯลฯ ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 20 ส.ค. 50 00:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 69 # Win โทษทีนะครับไม่อยู่หลายวัน มาตอบแล้วครับ 1..เรื่่องที่คุณ Win เขียนว่า "..มันคงไม่ขัดแย่งหรอกครับถ้าคนรุ่นเราไม่ปลูกฝังความเชือทีผิดๆถ้าจิตคุณยังไม่หลุดพ้นทางด้านวุฒิภาวะ ...และมองตากันมันก็ท้องแล้ว" ก็ผมก็ถึงบอกไงครับ ถ้าหาหลักฐานมา ทุกอย่างก็จบ แต่ละท่านจะได้ไม่ต้องนำเอา "ความคิดเห็นส่วนตัว มาเถียงกันให้เสียเวลาอีก หรือไม่จริงครับ " 2.. ที่เขียนว่า ".. เช่นเดียวกับท่ามวยทีผมขอพูดทับอีกครั้งหนึง**ขนาดมวยจีนทีประสมมวยไทย ..." ก็ผมถึงบอกไงครับ หาหลักฐานมาคุยกันก็จบ ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวก็เอา "ความคิดส่วนตัว มาเถียงกันอีก" ท่านี้ฉันเคยฝึกมา มันก็ต้องมาจากมวยของฉันสิ <--- ความคิดแบบนี้ ก็ที่ทำให้เถียงกันอยู่ทุกวันนี้หละครับ หรือไม่จริง ? ถ้าหาหลักฐานมาดูกันให้ชัดไปเลยว่า ก่อนยุคยามาดะมวยไทยเป็นไง หลังยุคยามาดะเป็นไง ทุกอย่างก็จบครับ แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ? เห็นชัดเจนดี ที่ถามผมว่า รู้เหรอว่าไม่มีอยู่ ผมก็อยากถามคุณ Win หละครับ ว่า เอาอะไรมาวัดครับว่ามันมีอยู่ ? นอกจาก "ความรู้สึกส่วนตัวของคุณ Win" แล้วคุณ Win มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ได้มั่งครับว่า อะไรมีหรือไม่มี ? 3.. เรื่องโขน ผมอธิบายให้ฟังครับ แล้ว โขนของ อินเดีย ,พม่า,ลาว,เขมร เล่นต่างกันอย่างไรครับ ? หมายถึงเนื้อเรื่อง หรือว่า เครื่องแต่งตัว ? ที่คุณ Win บอกหนะครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 20 ส.ค. 50 07:50:11 A:58.10.222.70 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 70 5.. เรืื่่อง Blog ของคุณ Win ผมไม่ดูหรอกนคะรับ ขนาดกระทู้ที่แล้ว ยังเล่นเปลี่ยนแปลงตัดคำพูดได้่เลย ผมไม่เชื่อแล้วหละครับ 6.. ที่เขียนมาว่า "ก่อนเขาก็มีของจีนและของแขกจามครับ แต่แขกจามทีเป็นทหารอาสาจะมีอธิพลกับศิลปการต่อสู้ไทยมากทีสุด เพราะมีการมีการเล่นโขน รำกระบีกระบอง ศิลปการต่อสู้มือเปล่า (ภายใต้อิทธิพลของรามารณะ) แต่ก็หน้าแปลกทีเรายอมรับกันได้ ว่ามวยไทย มาจากอินเดีย ..." คุณ Win แกล้งผมอีกแล้วครับ แขกจามหนะ เขานับถืออิสลามนะครับ ! คุณ Win กำลังจะหมายถึง พวกอาณาจักร เจนละ ที่นับถือฮินดู หรือเปล่า ? อย่าเอามาปนกันสิครับ ไปดูตรงชุมชนบ้านครัว แถว ๆ อุรุพงศ์ กทม.ก็ได้ครับ นี่พวกจามของแท้เลย ผมเห็น เขาสร้างสุเหร่ากันหนะครับ ไม่เห็นมีโบสถ์พรามหณ์สักนิดเลย จาม ที่อยู่ อยุธยา ก็เป็นอิสลามเหมือนกัน ผมยังงง อยู่ว่า จาม เนี่ยไปนับถือ ฮินดูตั้งแต่เมื่อไร ? วาน คุณ Win ช่วยบอกทีครับ 7... ที่เขียนมาว่า "...แต่ยุคเดียวสมัยกันนั้นไม่ได้มีแต่แขกจามเป็นทหารอาสาแต่ ยังมีจีน มาลายู ฝรั้ง ร่วมทั้งญีปุ่นรวมอยู่ด้วย ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงสักเท่าไร เป็นไปได้ว่า รสนิยมไทยกับแขกจาม อาจมีความคลายครึงสนิทสนม หรือความชอบทีคลายๆกัน...." เดี๋ยว ๆ ครับ ยุคสมัยที่ว่าเนี่ย ยุคไหนครับ ? อาสาฝรั่งเนี่ย มาก่อน ญี่ปุ่นเกือบร้อยปีนะครับ (อาสาฝรั่งโปรตุเกส มาช่วย พระไชยราชา รบศึกเมืองเชียงไกรเชียงกราน : ส่วนอาสาญี่ปุ่น มาช่วย สมัย พระนเรศวร เป็นอย่างเร็ว ห่างกันเป็นสิบ ๆ ปีเลยนะครับ) จะเอายุคไหนขอให้ชัดเจนครับ อย่าตีขลุม และที่ว่า ไม่มีกล่าวถึง อาสาจาม คุณ Win เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ ? ตำแหน่ง ออกญาราชวังสัน แม่ทัพเรือแห่งกรุงศรีฯ นี่ถูกตีตราจองว่า ต้องเป็น "มุสลิมจาม" เท่านั้นนะครับ เขาแบ่งตำแหน่งกันอย่างชัดเจน เหมือนอย่าง กรมท่าขวา ที่ คนที่ปกครองคือ ออกญาจุฬาราชมนตรี ซึ่งเป็น อิสลาม ทุกคนเหมือนกัน 8.. ที่่เขียนมาว่า "... แต่เชือได้ว่าความชอบของยอมไม่เหมือนกันหมด อาจจะมีนิยมอินเดียเป็นหลักแต่ เชือได้ว่าก็ต้องมีคนชอบแบบจีน มาลายู ฝรั้ง ญีปุ่น ปนอยู่ด้วย และทุกคน"เชือมโยงกันหมดไม่แยกออกจากกัน"" อ้าว ไหนบอกว่า แยกออกอย่างไรไงครับ ? ไหนบอกว่า แยกออกว่า ไหนเป็นญี่ปุ่น ไหนเป็นฝรั่ง ไหนเป็นไทย แล้วแบบนี้ ทำไมแยกไม่ออกหละครับ ? ตกลงจะแยกไม่ออก หรือแยกออกกันแน่ครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 20 ส.ค. 50 08:02:23 A:58.10.222.70 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 71 9.. ที่เขียนมาว่า "...อย่างว่าแต่มวยไทยประสมยิวยิตสู้มีอยู่จริงรึเปล่า ซามุไรไทยยังมีเลย จะมากจะน้อยแต่ก็มี และค่อนข้างมีหลักฐานค่อนข้างแน่ชัด" ไม่ใช้ทหารไทย"พกดาบญีปุ่นแบบในหนังตำนานสมเด็จพระเณรศวร แต่เป็นซามุไรเชือสายไทยและเป็นทียอมรับทั้งประวัติศาสตร์ไทยและญีปุ่นรวมทั้งตัวยามาดะเองด้วย และค่อนข้างแน่ชัดเลยว่าไม่มีคนเดียว คับ (คุยกันขนาดนี้มันยอมไม่เนี้ย)......" ที่เขียนมาว่า มีหลักฐานชัดเจน หมายถึง ซามูไรไทยหรือเปล่าครับ ? ถ้าใช่ แล้วหลักฐานอยู่ไหนหละครับ ที่ว่า หลักฐานชัดเจนหนะครับ ? ขอดูหน่อย เรื่องคุยกันขนาดไหนจะยอมไม่ยอมเนี่ย มันขึ้นอยู่กับว่า "หลักฐานที่ทำให้ ดูน่าเชื่อถือ มันมีแค่ไหนหละครับ ?? " ไม่ใช่ว่า เอามาแต่ ความคิดเห็นส่วนบุคคล แบบนี้ ใคร ๆ ก็มีครับ ผมก็มี คุณ Win ก็มี เถียงกันจนตายไปข้างก็ไม่จบครับ หรือไม่จริง ? 10... เรื่องขนมฝอยทอง คุณ Win เขียนไว้ว่า... ".. ฮาดะได้เสนอไว้ว่า อันที่จริงท้าวทองกีบม้าได้สูตร หรือถูกสอนให้ทำขนมลักษณะนี้มาจากแม่ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น เนื่องจากเมื่อครั้งที่ชาวโปรตุเกสเข้าไปในญี่ปุ่นมากขึ้น ก็ได้สอนให้ชาวญี่ปุ่นหัดทำขนมโปรตุเกส ซึ่งปัจจุบันขนมญี่ปุ่นหลายชนิดก็เป็นตำรับโปรตุเกส ขนมญี่ปุ่นบางอย่างมีลักษณะเหมือนฝอยทอง ยังคงทำกันอยู่ที่เกียวโต และคิวชู ในประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน...." ชัดเจนแล้วนะครับว่า โปรตุเกส สอน ญี่ปุ่น เน้นย้ำนะครับ โปรตุเกส สอน ญี่ปุ่น ไม่ใช่ ขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่นคิดเองนะครับ ผมก็ถึง งง ๆ ว่า ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เนี่ย ญี่ปุ่น เป็นต้นตำรับหรอกเหรอ ผมถึงเขียนถามไปแบบนั้น สรุป ก็คือ โปรตุเกส ถ้าคุณ Win อ่านที่ผมเขียนไปไม่เข้าใจ รบกวนไปทำความเข้าใจใหม่อีกรอบนะครับ เรื่อง โมจิ นั่นผมแซวคุณ Win ครับ โทษทีนะครับ ไม่นึกว่า จะเถรตรงได้ขนาดนี้ 11..ที่เขียนมาว่า "... ไปคัดหนังสืองานศพกับคุณpgpไป หรือไปถามเขาก็ได้ หรือให้ดีตอบในเวปหน่อยก็ดี แต่ผมก้ยังค้างๆๆอยู่กับการทีมี่การดู หมิ่นอจ.พูดแล้วขนรุก อจ.ไม่กระจอก ขนาดนั้นหรอกบอกให้ ใครไม่เชือเรืองเวรกรรม แต่ผมเชือคับ ดูสิคับอยู่เฉยๆก็มีเรืองมาให้!!..." หนังสืองานศพท่านใดครับ ? อจ.เจือหรือเปล่า ? ถ้าใช่ แสดงว่า คุณ Win ก็มีหนังสือ ก็ลอกมาลงเลยก็ได้ครับ ผมไม่มีหนังสือเล่มนี้ครับ ผมสงสัยว่า ผมไปหมิ่น อจ.เจือ ตรงไหน ? ผมอธิบายว่า ครูของ อจ.เจือเป็นใคร ท่านทำงานที่ไหน ไปหมิ่น อจ.เจือตรงไหนครับ ? ยกเอาประโยคนั้นมาให้ผมอ่านหน่อยสิครับ ผมจะได้อธิบายถูก 12.. ที่เขียนมาว่า "....บอกว่า เจ้าแพ้มา แล้วไม่เขียนไว้ ก็ไม่รู้ว่า หมายถึง ประวัติศาสตร์ตอนไหน เพราะ ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ที่ พระราชมนู ยกไปแพ้เขมรหนแรก ก็ยังมีบันทึกไว้แพ้หนต่อมาก็สมัยพระเจ้าทรงธรรม ก็มีบันทึกไว้ ....นพ วิบูล วิจิตรวาทการ พระเจ้าประสาททอง หน้า 73) " นึกแล้วว่าต้องตอบแบบนี้ เขารู้กันมานานแล้วครับ คุณ Win ลองไปดูที่ http://www.tv5.co.th/service/mod/heritage/king/ayuthaya/ayuthaya4.htm#403 <--- สมัยพระเจ้าทรงธรรม ตรงประโยคนี้ครับ "เนื่องจากพระองค์ไม่นิยมการทำสงคราม ด้วยเหตุนี้กรุงศรีอยุธยาจึงต้องเสียเมืองทวาย อันเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางตะวันตก ในทะเลอันดามัน พม่ายกกำลังมาตีเมืองทวายได้เมื่อปี พ.ศ.๒๑๖๕ ต่อมากัมพูชา และเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเคยเป็นประเทศราช ของไทยมาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนเรศวร ฯ ต่างก็พากันแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา" เรื่องง่าย ๆ ครับ จบเลย 13.. ที่เขียนว่า "... ผมก็ไม่ว่าอะไรนี้คับสวนใหญผมก็เรียกอจ.เขตร แต่อจ.เขตร เป็นครูมวย คุณอ.จินต์ ก็เป็นนักเขียน แต่ทั้งสองท่านไม่ใช้นักประวัติศาสตร์ และไม่มีใครทักทวงท่านว่าทหารญีปุ่นไม่ได้อยู่ในไทย 3ปีอย่างที่ท่านอ้าง (หรือมีแต่ไม่เรารู้) ท่านผิดอย่างแรงเลย เรารู้จักคนพวกนี้รวมๆแล้วมากกว่า600ปี ทหารอาสารุ่นแรกเป็น อาจเป็นปูเป็นตาได้ในสมัยพระเจ้าประสาททอง การทีคนเรายึดความคิดของคนๆเดียวแล้วมาฟันธงว่ามวยไทย ไม่มียิวยิตสุ้ปน มันถูกต้องแล้วเหอ ความคิดเห็นของท่านเอ้นเอียงเป็นไทยนิยมไปซักหน่อย หนังสือของท่านเหมาะกับคนทีวิจาณญาณในการอ่าน แต่ไม่เหมาะอย่างยิง สำหรับเป็นคำภีรมวยไทย แล้วยึดเป็นศูนย์กลางของความถูกต้อง ...." ผมก็ถึงเขียนไงครับคุณ Win ว่า ไปเอา "............หลักฐาน............"มาคุยกัน มวยไทยก่อนยุคยามาดะมา เป็นอย่างไร มวยไทยหลังยุคยามาดะมา เป็นอย่างไร หาได้ ก็เอามาคุยกัน จะได้จบครับ ไม่งั้น เถียงกันจนรุ่นเหลน คุณ Win มันก็ไม่จบ ครับ 14.. ที่เขียนมาว่า "...(ไม่มีวิจาณญาณ)เพราะความคิดเห็นของท่านมันช่วนแบ่งเขาแบ่งเรา ไม่เชิญช่วนอยู่เกือกูล มีอคติกับมวยจีนและคนจีนอย่างชัดเจนทั้งที ท่านเองก็มีเชือสายจีน!!!...." ผมก็ยังงงว่า ครูเขตร ท่านไปดูถูกคนจีนตอนไหน ? เอาง่าย ๆ ในหนังสือปริทัศน์มวยไทย บรรทัดไหนที่ครูเขตรท่านไปดูถูก วิชาของจีนหรือมวยจีนครับ ? เรื่องไหนครับ รบกวนคุณ Win ชี้แจงหน่อยครับ ขอเน้น ๆ ชัดเจนนะครับ ประเภทว่า "ความรู้สึกฉัน" นี่ไม่เอานะครับ ตอนแรกพูดเรื่องญี่ปุ่น มาอีกหน่อยโผล่ไปจาม ตอนนี้ ชวนมาทะเลาะกับคนจีน ผมหละทึ่งในความสามารถของคุณ Win จริง ๆ ครับ ..........(ฮา..ฮา..ฮา) จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 20 ส.ค. 50 08:35:52 A:58.10.222.70 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เอ้าแถมครับ แขกจาม เป็นมุสลิมที่อพยพมาจากอาณาจักรจามปาในเขตเวียดนาม ปรากฏในแผนที่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่าตั้งบ้านเรือนอยู่ในกำแพงพระนคร มีอาชีพสานเสื่อขาย และยังมีกลุ่มจามที่เป็นทหารอาสา มีชื่อว่ากรมอาสาจาม มีพระราชวังสันเป็นผู้นำ ข้อมูลจาก http://www.literatureandhistory.go.th/FineArts/DataService/data_service_list.aspx?topicCode=C <--- หัวข้อ ชาวจาม ------------------------------------------- ศาสนาของชาวจาม พวกจามเดิมนับถือพระพุทธศาสนาแต่ชาวมลายูได้ไปเผยแพร่ศาสนาอิสลาม ชาวจามจึงหันมานับถือศาสนาอิสลามคนไทยจึงเรียกว่า แขกจาม http://th.wikipedia.org/wiki/อาณาจักรจามปา <--- นำมาจากนี้ครับ ถ้าคุณ Win เข้าใจผิด ก็เข้าใจเสียใหม่นะครับ ชาวจาม ที่มาจาก จามปา นับถือ อิสลาม นะครับ ไม่ใช่ ฮินดู เหมือนพวก เจนละ ในเขมร ที่คุณ Win เข้าใจนะครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 20 ส.ค. 50 08:47:07 A:58.10.222.70 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 73 รามายณะ เนี่ย อิสลามไม่นับถือ ไม่เคยแต่งนะครับ ฤาษีวาลมิกิ เนี่ย เป็น พวกพรามหณ์ฮินดู นะครับคุณ WIn เข้าใจเสียใหม่นะครับ เรื่อง จาม หนะครับ อีกอย่าง เจนละ ก็สลายไปก่อน อยุธยา จะตั้งเป็นร้อย ๆ ปีครับ กลายเป็นพวกเขมรไปหมดแล้วครับ คุณ Win เข้าใจตามนี้ใหม่นะครับ เห็นไหมครับ ถ้ามี "......หลักฐาน....." มาคุยกัน ก็จบครับ ไม่ต้องมานั่งเถียงกันให้ปวดหัว หลักฐานบ่งบอกชัดเจน ทุกอย่างจบ ดีกว่ามานั่ง เอา "ความเห็นส่วนตัว" มาคุยกันเยอะครับ จากคุณ : เรื่องเดิม ๆ - [ 20 ส.ค. 50 08:51:40 A:58.10.222.70 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 74 . สวัสดีครับ คุณเรื่องฯ ผมขอแยกมองจาก คห ๖๙ ของคุณ น๊ะครับ การที่คุณ ขอให้เอาหลักฐานมาพิสูจน์ ก็เป็นไปได้เช่นกัน โดยคุณเองเอาหลักฐานมาพิสูจน์ ถูกใหมครับ เช่นเดียวกันกับ คำถามว่า มีนรกสวรรค์ หรือไม่ และต่างฝ่ายให้ฝ่ายตรงข้ามเอาหลักฐานมาพิสูจน์ นั่นเอง ครับ ตามปรกติแล้ว สำหรับผู้มีความรู้ ความสามารถใน ...วิชามวย... อย่างแท้จริง ผมหมายถึง ภาคทฤษฎี และปฎิบัติ มิใช่ประ เภท ...อยากเป็น หรือ แอบอ้าง... น๊ะครับ เขาเหล่านี้ มีความรู้สึกเข้าใจ ถึง ลักษณะวิธี ของ มวย ลึกซึ้งเพียงพอ ที่สามารถ จะแยก ระหว่าง ท่าแสดง ท่าต่อสู้  ออกจากกันได้ อันเสมือนกับ ...นายพราน ที่ทราบรู้ความแตกต่าง ระหว่าง สัตว์ป่า กับ สัตว์เลี้ยง... แหละครับ เขาเหล่านี้ จะสามารถ ใช้ประสบการณ์ และความรู้ของตน มองท่ามวย ว่า เป็นท่าแท้ หรือ เทียม โดยมิจำเป็น ต้องใช้ข้อพิสูจน์ในภาค ...ทฤษฎี... หรอกครับ ตัวอย่างเช่น ท่ามวย จาก คห ๒๑ รูป ๑ เป็นท่าตอบ โดยเมื่อคู่ต่อสู้  ....แบมือดันที่หน้าอก... โดยใช้ ...วิธีดัดนิ้วและอุ้งมือ หักข้อมือของผู้ดันหน้าอก... หรือพูดง่ายๆ เป็น ....กลแก้ ท่าดันหน้าอก... จากลักษณะวิธี ของ มวย น่าจะใช้ชกหน้าอก แทน การใช้แบมือดัน และในเมื่อถูกชก จากความเร็วและรุนแรงของหมัด โอกาสที่จะจับบิดอย่างในรูป นั้นน้อย กว่า ๐ เปอร์เซ็นตร์  เอาแค่นี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่า มิใช่เป็นท่าวิธี ของ มวย นั่นเองครับ แต่ถ้ามีผู้ใด นำมายืนยันว่า ท่านี้ เป็นท่า มวยแท้จริง ก็แสดงออกในตัวอยู่แล้ว ว่าผู้นั้นมีความรู้ ในวิชามวย ประเภทใหน แหละครับ ปล. ขออภัยที่ถามครับ คุณเรื่องฯ คุณมองเห็นอย่างผมใหม ประวัติที่เขียนขึ้นมาก็คือความรู้สึกเข้าใจของ ผู้เขียน แต่มิจำเป็นต้องเป็นความจริงแท้แน่นอน และจะมีคุณค่าการใช้เป็นข้อพิสูจน์ ไม่แน่นอน ครับ ...คุณเอาประวัติมาพิสูจน์ แล้วประวัติเอาข้อพิสูจน์มาจากใหน... แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 09:17:29 จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 20 ส.ค. 50 09:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 75 *คุณเอาประวัติมาพิสูจน์ แล้วประวัติเอาข้อพิสูจน์มาจากใหน...*เห็นด้วยนะคับ ประวัติศาตร์ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเอง คนแต่งประวัติศาสตร์ก็คือคน ขึ้นชิือว่าคนแล้วท่ายึดติดกับคนกลุ่มใดกลุ่มแล้ว ยอมมีัอคติเอนเอียงได้ ไม่มีประวัติศาสตณ์ทีไหนถูกต้องครบถ้วนร้อยเปอร์เซ้น และไม่มีประวัติศาสต์ไหนสมบรูณ์แบบ ชิวิตไม่ใช้แบบเกม อเคเดมีแฟนตาเชียหรือเรียวริตี้โชิ เพราะมันไม่ถูกบันทึกตลอดเวลา ถ้าจิตใจเราไม่เป็นคนของโลกแล้วยอมไมมี่่ทางเชือมโยงกับบุคคลใดบุคลหนึง แม้คนพวกนี้จะเป้นญาติเราักับก็้ตามที     เพราะคุณต้องการเอาชนะเท่านั้นคุณไม่ต้องการหาความจริง มันมีประโชยน์อะไรละคับเพราะถึงทีสุดแล้วมันก็เป็นความจริงทีคุณไม่ต้องการ ให้ผมหาขอมูลดีแค่ไหนหนาแน่นอย่างไรคุณจะตะแบงต่อไปเรือย ความสงบและสันติจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมือจิตใจคุณทำสงครามตลอดเวลาในนามของความรักและเชือชาติ ทีไม่มีอยุ่จริง และคุณไม่รู้สึกผิดใดๆๆเพราะคุณแบ่งแยกแล้วเขาไม่ใช้พวกเรา เขาไม่ใช้พวกเรา เพราะผมถามคุณไปแล้วว่าไทยคืออะไรและอะไรไม่ใช้ไทย นั้นคือหัวใจ ของประเดนนี้ว่ายิวยิตสู้กับมวยไทยเชือมโยงจริงหรือเปล่า) เพราะคุณตอบได้ว่าไทยคืออะไร คุณจะเอ้อเว้ย มันจะไทยจะลาวมันก็เพือนร่วมเกิดแก่เจ็บตายกันทั้งนั้น จะแบ่งแยกกันทำไม่ญาติกันทั้งนั้น แต่คุณก็ไม่เลี่ยวมองประเด่นนี้ หลีกเลียงทีจะไม่ตอบ หาความจริงทีมัน่เก่าๆๆ  จากหนังสือและวัตถุพยานทีมันหลอกไม่้ครบถ้วนแล้วส่วนใหญมีแต่ความเแต่อคติลำเีอียงเท็จปนจริงสุดแล้วแต่ใครจะจับปากกาเขียน แต่ไม่ยอมหาความจริงใหม่ๆในหัวใจตัวเอง ประวัติศาสตร์มันไม่อยู่แต่ในหนังสือ แต่มันอยู่ในตัวเรานั้นและ  ลองเลิกเป็นคนของใครแล้วถามใจตัวเองว่ามันจริงไหม เพราะตัวคุณอยู่ในปัจจุบันแต่จิตใจคุณอาจอยุ่ในอดืตและอณาคตได้ ในเมือปัจจุบันมี การmixการประสมประสานเพือให้เกิดสิงใหม่ ทำไม่คนในอดืตจะคิดไม่ได้เรืองธรรมสามัญทีสุด อย่างนายทองดีฟันขาวผมถือว่าเขาเป้นคนทีหัวสมัยใหม่ในสมัยก่อนแสวงหาสิ่งใหม่ๆให้ตัวเองชอบ และสนุก่ทีจะเรียนรู้ไม่ว่าถ้าตีรังกาของงิ้วจีน หรือรำเรียนวูซูจากคนจีนจนอจ.ของท่านยกย่องว่าท่านเป็นเซียนกับชาติมาเกิด แต่ถ้าคุณไม่เชือและไม่ชอบก้คงตะแบ่งต่อไปอยากเอาชนะ เดียวก็เรียกร้ืองหาหลักฐาน ไหนว่าประวัติศา่สตร์เชือไม่ได้ วิชาอะไร ท่าไหนอย่างไงฯลฯ ว่ายวนอยู่ในอ้างกับมุกตืนๆหน้าสมเพชอยู่อย่างเนีย (ผมไม่เป็นไรหรอกแต่มันจะเสียถึงสำนักคุณนะซิเพราะใครๆก็เดาว่าพวกไหน)    ประวัติศาสตร์ของโลกนับล้านปีสร้างให้คุณเป้นคุณทุกวันนี้ คุณนะเชือมโยงต่อทุกสิงบนโลก โลกก็คือคุณ คุณทำตัวอย่างไงโลกก็เป็นเช่นนั้น ถ้าคุณทำตัว ขัดแย้งคนทั้งโลกก็คัดแย้งไปกับคุณครับ!! แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 17:10:04 จากคุณ : win_mma - [ 20 ส.ค. 50 16:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 76 แต่ถ้าคุณยังไม่เคลียเดียวผมแวะไปหาคุณไหม จากคุณ : win_mma - [ 20 ส.ค. 50 17:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 77 a แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 03:37:48 แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 20:44:26 แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 20:18:28 แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 20:07:46 จากคุณ : win_mma - [ 20 ส.ค. 50 20:02:46 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ครับผมไม่ได้ดูถูกวิชาคุณพลายหรอกครับ  ผมมีแต่นำมาเทียบให้คนอื่นใช้วิจารณญาณดู  ว่าคุณพลายควรจะมองตนเองก่อนจะว่าคนอื่น ดวลมีดแต่ก็เอามือไปบิดข้อมือเขาไม่ใช่หรือครับ โอกาสที่มีดเสียบมาแล้วจะจับมือเขาทำแบบนั้นได้จะบอกว่ามีเปอร์เซ็นต์มากหรือครับ แบบสไตร์แมททริกซ์คุณพลายในวีดีโอผมยอมรับว่าได้ครับ แต่ของจริงละครับ ....คิดว่าไง อย่างน้อยผมก็มองว่าอีกมือที่เหลือก็ควรใช้ให้เป็นประโยชน์นะครับ เอามือที่ ว่างใช้ให้เป็นประโยชน์ แบบที่คุณพลายว่าไว้ไงครับ การเห็นแค่ภาพนิ่งแล้วเหมือนรู้กระบวนหมด อันนี้คุณพลายออกจะประมาทไปหน่อยนะครับ  เช่นรู้ว่าเขาเริ่มแบมือดันหน้า  รู้ว่าชักศอกก็ถึง  รู้ว่าท่าไถนาแต่หันด้านผิดเพื่อถ่ายรูป ผมนำข้อเท็จจริงมาให้ชมยังพลิ้วไปมาได้ อย่าเพิ่งขู่ด้วยคำว่าค้นคิดจากบรรพบุรุษสตรีไทยครับ เอาตามเห็นล้วนๆ   แล้วท่านี้เป็นยังไครับ ทำไมถึงมุดครับ ผมเห็นในวีดีโอแบบแมททริกซ์ยังมุดแทบไม่พ้น คนปักศอกต้องชะงักให้มุดผ่านถึงจะปักลงมา ผมว่าคนปักศอกถ้าเลือกเป็นต่อยก็น่าจะโดนแล้วนะครับ ไม่ก็นั่งกระแทกน้ำหนักตัวลงมาที่หลังก็ได้ ยืนยันไหมครับ ใช้ได้จริง ไม่ใช่แสดง หรือเป็นการดวลมุดครับ เป็นวิชามวยประเภทไหนครับ  ขอความรู้ครับ ไม่ได้ดูถูกนะครับ แต่ว่าก็น่าปรับปรุงวีดีโอในจังหวะเร็วให้เห็นว่าใช้ได้จริงด้วย กลัวว่าฝรั่งคนทำตัดต่อวีดีโอดาบที่เป็นปัญหาจะมาเห็นเข้า คำถามเก่าที่ยังไม่ได้ตอบผมมีเยอะนะครับ อ้อ คุณwin_mma  จะร่วมวิเคราะห์ภาพนี้ด้วยก็ได้นะ ไม่ต้องเกรงใจครับ จะบอกว่าจบด้วยท่าล็อคท่าไหนได้บ้าง หรือว่าจะมุดได้จริงไหม  หรือจะบอกว่าถ้าใช้ในสังเวียนแกรปปิ้งได้จะยอมรับไหม ตามสบายเลยครับ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 20 ส.ค. 50 20:20:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ดูๆแล้วมันก็ใช้ยากเหมือนกัน แต่อาจใช้ได้มั้งแต่ต้องฝึกหนักแบบเช้าซ้อมเย็นซ้อม จังหวะต้องพอดี มีดวงด้วยละเจอคนออนๆอาจจะได้นะ ถ้าผมเลือกผมได้จะใช้ถ้าง่ายกว้านี้  เช่นท่านีบปูหรือท่ากรรไกร จังหนีบบิดซ้ายบิดขวาให้ล้มต้อเนืองด้วย ท่าหักหัวเข่าหรือ หักสนเท้าหรือข้อเท้า และ้แต่สภานการ จริงท่าคลาน4ขานี้ ในยูโดก็ถือเป็นทักษณะในการวอรมอัฟ ส่วนใหญ่เป็นท่าพืนฐานก่อนการซ้อมจริง เช่น 4ขา 2แขน เอามือต่างเท้าฯลฯ น้อกเหนือจากการตบเบาะ ใชไง้อย่างก็ขึ้นต่อสถานการคับ จากคุณ : win_mma - [ 20 ส.ค. 50 21:02:52 ]

ความคิดเห็นที่ 80 สวัสดีครับ ผมว่า คุณไทยฯ คงจะทานไม่ได้นอนไม่หลับ ในขณะนี้ ระวังสุขภาพบ้างครับ ขอบใจครับ ที่อุตสาห์โปรโมตให้กับวิชา ...ลิงลม... ทดลองดูซึครับ สิ่งที่คุณวิจารณ์คุณก็จะได้ คำตอบ และถ้าคุณอ่านภาษาอังกฤษได้ เขาก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นท่าฝึกซ้อม ครับ และคุณก็ลืมไปอีก ด้วย สิ่งที่ผมให้เป็นวิทยาทาน มิได้เรียกค่าตอบแทน ฉนั้นการที่คุณเรียกร้องผิดธรรมเนียม ครับ ลักษณะที่คุณกำลังทำอยู่ จะมิช่วยให้คุณ มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นได้ ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 21 ส.ค. 50 00:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 81 #Win ไม่เห็นคุณ Win ตอบอะไรผมไปสักอย่างเลยครับ อีกอย่างประวัติศาสตร์ที่บอกว่าไม่ชัดเจนหนะ ผมเดาเอาว่า คุณWin กับ คุณพลายฯ น่าจะหมายถึง ของครูเขตรท่านเขียนมากกว่ามั้งครับ หรือจะบอกว่า ของกรมศิลปากร ก็ไม่ชัดเจนกระนั้นหรือ ? ------------------------------------------------- ที่คุณ Win เขียนว่า " เพราะคุณต้องการเอาชนะเท่านั้นคุณไม่ต้องการหาความจริง มันมีประโชยน์อะไรละคับเพราะถึงทีสุดแล้วมันก็เป็นความจริงทีคุณไม่ต้องการ " และ ".. จากหนังสือและวัตถุพยานทีมันหลอกไม่้ครบถ้วนแล้วส่วนใหญมีแต่ความเแต่อคติลำเีอียงเท็จปนจริงสุดแล้วแต่ใครจะจับปากกาเขียน แต่ไ.." คุณ Win ครับนักประวัติศาสตร์ทั่วโลก เขาก็ต้องหาหลักฐาน ไม่่ว่าจะเป็น วัตถุโบราณ หรือ บันทึกโบราณ และ การวิเคราะห์นั้น เขาต้องมี "หลักฐาน" มาประกอบก่อน จึงจะสามารถ "วิเคราะห์ ด้วยความเห็นส่วนตัว" ได้ว่า อะไรเป็นอะไร ผมยังไม่เคยเห็นมีนักประวัติศาตร์คนไหน มาถึง ก็บอกเอาว่า เชื่อมาอย่างนี้ ต้องเป็นอย่างนี้ มีแต่พยายาม จะหาหลักฐาน มาพิสูจน์ความคิดของตนเองครับ ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ เขาก็ยังไม่สรุปอะไรทั้งนั้น อย่างหลาย ๆ เรื่อง ที่คุณ Win จินตนาการว่ามันเป็นจริง และ บอกด้วยว่า เชื่อว่ามันเป็นจริง อย่างเช่น ซามูไรไทย เป็นต้น ก็ยังไม่มีหลัีกฐานอะไรที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้สักนิด มันเป็นแค่ "ความเชื่อ และ ความคิดเห็นส่วนตัวคุณ Win เท่านั้นเองครับ " ------------------------------------------------------------ ผมมองว่า ตอนนี้ คุณWin ก็คงไม่มีหลักฐานอะไร จะเอามาแสดงต่อได้ ผมก็เลยคิดว่า เขียนต่อไป ก็เสียเวลาเปล่า ๆ เพราะ มันก็เหมือนกรณีที่ผมไม่อยากให้เกิดคือ เอา "่ความเห็นส่วนตัวมาถกกัน " ซึ่งก็รังแต่จะเถียงกันเปล่า ๆ เถียงไม่มีประโยชน์เสียด้วย กระทู้ เขาก็จะเน่าไปเปล่า ๆ ดังนั้น ถ้าคุณWIn หรือ คุณพลายฯ ยังไม่มีหลักฐานอะไร ใหม่ ๆ มาถกกัน ผมก็ขอตัวก่อนนะครับ เปลืองกระทู้เขาหนะครับ จากคุณ : เบื่อเรื่องเดิม ๆ - [ 21 ส.ค. 50 07:47:31 A:58.10.222.239 X: TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 82 . สวัสดีครับ .......ตามลักษณะของการสนทนาในบอร์ด ผู้สนใจอยากให้ คห เขาก็ให้ โดยมิต้องเชื้อเชิญเป็นทางการ และเมื่อ เห็นว่า ไม่สมควรจะให้ คห ก็มิจำเป็นต้องขอตัว..... การที่คุณมาให้เหตุผลของการถอนตัว ...เพื่อประโยชน์อะไรครับ ?..... สำหรับผม บอกตรงๆ ไม่อยู่ในความสนใจ ของผมครับ หลายคนคงลืมไปว่า ...ในสมัยที่เริ่มเขียนประวัติศาสตร์ ผู้ที่สามารถเขียนอ่านได้มีแค่ ๕ เปอร์เซ็นตร์ และ ผู้อยู่ในเหตุการณ์ จริง เป็นผู้ที่เขียนอ่านไม่ได้ ๙๕ เปอร์เซ็นตร์ ครับ เราไม่ต้องเอากันใกล ถ้าสิ่งที่ปรากฎในประเทศไทย นับแต่เริ่มเป็นประ เทศขึ้นมา เขียนเป็นบันทึกประจำวัน ๆ ล๊ะหนึ่งหน้า ก็พอ ถึงแม้ว่าเทียบกับหนังสือพิมพ์รายวันยังลงข่าวได้ไม่ครบถ้วนเลย เอากันง่าย ๆ ประมาณ ๑๐๐๐ ปี หรือ ๓๖๕๐๐๐ วัน หมายถึง ประวัติศาสตร์ ไทย อย่างน้อย ควรจะมีไม่ต่ำกว่า กี่หน้าครับ คุณ เบื่อฯ หรือ ฯลฯ เคยเห็น หนังสือประวัติศาสตร์ใดมีจำนวนหน้าขนาดนี้บ้าง ครับ หรือในวันนี้ เอาเฉพาะหนังสือพิมพ์ รายวันในประเทศไทย  คุณทราบใหมถ้าพิมพ์เป็นหนังสือจะได้กี่หน้าครับ และจะมีระบุในหนังสือประวัติศาสตร์กี่หน้าล๊ะ ครับ คุณเองก็เกิดและใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย นานพอสมควรมีการกระทำและประสบการณ์ ทุกวันมาจนบัดนี้ อันก็เป็นข้อ มูลอย่างหนึ่งของไทย เคยมีหนังสือพิมพ์รายวันเคยระบุถึงใหมครับ ? การเป็นไปไม่ได้เช่นนี้  คุณพยายามจะให้ผมงมงาย ยึดประวัติศาสตร์ เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างไร ครับ ? สมมุติว่า คุณเคยอ่านหนังสือพิมพ์  ก็คงจะเห็นว่า นักข่าวเป็นเพียงผู้มอง สัมผัสกับข้อมูล อันเขาจะเขียนเป็นข่าว ตามความรู้สึกเข้าใจของเขา แต่มิใช่ในความรู้สึกนึกคิดของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ถูก ใหมครับ  น่าเสียดายที่คุณยังมองไม่เห็นเลยว่า ข่าวเดียวกันแต่เหตุใดถึงมีข้อความในหนังสือพิมพ์แต่ล๊ะฉบับ เขียนออกมา ไม่เหมือนกันได้ ล๊ะครับ อาจเป็นไปได้ใหม ครับ สาเหตุที่คุณขอตัว เพราะถ้ายิ่งให้ คห ต่อไปก็เป็นเสมือนคุณถอดเสื้อผ้าออกทีล๊ะชิ้น ครับ คุณคง เห็นตัวอย่างในบอร์ด พอสมควร เริ่มแรกก็อวดอ้างยกตัวข่ม แต่พอใช้เหตุผลจริง ๆ ก็ดำดินกันไปหมด พอมองเห็นช่องที่ จะปล่อยไก่ได้ ก็โผล่ กันออกมา แต่พอถูกตึงจนเถียงข้างๆ คูๆ ไม่ออก ก็ดำดินกันไปอีก ผมเชื่อแน่ว่า คุณไม่เป็นเช่นนี้ใช่ ใหมครับ วิชามวย มิใช่วิชาภาคทฤษฎี แต่เป็นภาคปฎิบัติ อันมีขอบข่าย ตามรูปลักษณะของมนุษย์ ท่าปฎิบัติ ตราบใดที่การเป็นมนุษย์ ในอดีต จนถึงปัจจุบัน ไม่เปลื่ยนไป ก็จะทำให้สามารถหาข้อพิสูจน์ทางปฎิบัติได้ทันที ครับ จะให้ผมเข้าใจอย่างไรล๊ะครับ ในเมื่อผู้ร่วมสนทนา อ้างมีความรู้มวย และมวยในสายของตนเก่งกาจ แต่มิสามารถโต้ตอบปัญหาหรือให้เหตุผลในภาค ปฎิบัติ ได้ ผมอุตสาห์เปิดกระทู้ให้โดยเฉพาะ เพื่อให้เขาเอาความรู้ความสามารถมาสนทนา แต่เขากับมาให้ผม ปล่อยไก่ แทน ที่ผมเขียนนี้ ก็เพียงแต่จะให้ผู้ร่วมอ่านได้ร่วมรับ ความบันเทิง เช่นเดียวกับผมนั่นเอง ครับ แน่ล๊ะครับ ผมได้ประสบการณ์ และความบันเทิง กับ การเป็นผู้รู้ ของเขาเหล่านี้ อันเป็นสาเหตุที่ ผมเข้ามาในบอร์ด บ่อย ๆ ครับ สุดท้ายก็ขอย้ำว่า กระทู้ที่ มีการสนทนาให้ความรู้ จะไม่เน่าได้หรอก ครับ นอกจากเป็นครั้งคราวที่เขามาปล่อยไก่ อาจมีกลิ่นอุจจาระไก่ติดบอร์ด อยู่บ้าง ก็ได้ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 21 ส.ค. 50 11:57:55 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เข้ามาอ่านครับ ไม่ได้เข้ามาหลายวัน เห็นมีพาดพิงถึงที่สวนหลวงร.๙ วันนั้น ในฐานะเจ้าภาพก็อดไม่สบายใจไม่ได้ รปภ.เขามาจำกัดการใช้สถานที่ทำให้เราจำเป็นต้องเก็บของ ไม่สามารถเล่นได้ตามใจชอบ ว่างๆถ้าใจตรงกันคงได้จัดอีก น่าจะเต็มที่ได้กว่านั้นเยอะครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 21 ส.ค. 50 20:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ที่ผมอึดอัดใจมีแค่ประเด็นคุณพลายทมิฬ ส่วนท่านอื่นๆในงาน ผมไม่ได้กล่าวถึงและไม่คิดจะกล่าวถึง เนื่องจากผมเข้าใจทุกท่าน แต่อยากให้ทุกท่านรับฟังว่า ที่ผมกล้านำมาคือข้อเท็จจริงที่เราควรยอมรับแค่ไหน เดี๋ยวผมจะสรุปมาให้ คงอีกไม่นานครับ สรุปให้แน่นอน งั้นผมว่าในคลิีปคุณพลายคงฝึกซ้อมทั้งหมดแหละครับ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มีเป็นช็อตๆจังหวะแมทริกซ์ นอกจากช้อยที่มีให้เลือกว่า ยืนยันว่าใช้ได้จริงไหม   แสดงใช่ไหม  ก็ยังมาออกที่คำตอบว่าท่าซ้อมกัน  แหมผมไม่น่าตกไปในตอนแรกเลย   ปกติท่าที่ซ้อมก็คือท่าที่ต้องใช้ไม่ใช่หรือครับ งั้นบอกผมหน่อยนะครับ ท่าไหนคือท่าใช้จริงบ้าง  ขอความรู้ครับ งั้นผมช่วยโปรโมทต่อครับ ท่านี้ละครับ มีความจำเป็นต้องโยนขนาดนั้นเลยหรือครับ ผมมองว่าภาพที่2 มัวแต่สนใจดาบที่โยนขึ้นไปนะครับ เปิดช่องว่างได้ทั้งตัว ใช้ได้จริง??  แสดง?? ซ้อม?? จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 21 ส.ค. 50 21:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 85 วิชามีดสั้นคุณพลายผมเห็น การที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับมีดฝ่ายตรงข้ามค่อนข้างมาก ใกล้มากๆ มีทั้งเอาแขนอ้อมแขน อ้อมไหล่เปลี่ยนมีดได้ หันหลังได้ ผมก็มีคำถามเยอะ อีกทั้งส่วนใหญ่ที่เห็นในงาน ก็คือการให้คนฟันมาหยุดอยู่แค่จังหวะเดียว  ที่เหลือคือคุณพลายทำได้ตามใจชอบทั้งหมด2-3จังหวะขึ้นไปโดยที่คนแรกที่ฟันมา แขนนิ่งหยุดไว้  ถ้าเป็นของจริงคนแรกจะหยุดที่การฟันครั้งเดียวไหม ทุกท่านลองนึกดูถึงสถานการณ์จริงนะครับ แซมเปิ้ลนะครับ ภาพนี้ผมมองว่าคนขวาไม่ต้องชะงักก็ได้ รูปแรกมือขวาเขาถือมีด ไหล่และแขนเขายังไม่โดนล็อค อีกฝ่ายมีดอ้อมไปด้านหลังแล้ว ไฉนต้องรอคนซ้ายเอามือลอดแล้วเปลี่ยนมีดมาที่มืออีกข้าง ใช้ได้จริง??  แสดง?? ซ้อม?? ทุกท่านลองนึกดูถึงสถานการณ์จริงนะครับ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 21 ส.ค. 50 21:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 86 ขอตำหนิคุณ j thailandfight อย่างแรงครับ ที่ทำผิดมารยาท  รูปที่คุณเอามาโพสนั้น ผิดที่ผิดทางครับ คุณต้องไปโพสไว้ทื่กระทู้  ....สนทนา ระหว่างผู้รู้ และผู้ไม่รู้ ท่าต่อสู้....  ครับ จึงจะถูกที่ถูกทาง ตรงตามกระทู้ ผู้รู้ทั้งหลายจะได้เข้ามาตอบกัน ให้หายข้องใจ ผู้ไม่รู้ก็จะได้หูตาสว่างไปด้วย   แล้วที่ว่า .....ไปไหนมา สามวาสองศอก..... นี่เมื่อไหร่จะเลิกเล่นกันซะทีครับ อ่านแล้วงงจริงๆครับท่านผู้ชม จากคุณ : ธาตุไม้ - [ 21 ส.ค. 50 22:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 87 อันไหนถ้าคิดว่าผมผิดมารยาทผมยอมรับความเห็นครับคุณธาตุไม้ ถ้าสาเหตุแค่โพสผิดที่ผิดทาง (แต่ผมว่าก็ไม่น่าเรียกว่าแรงนะ) แต่กระทู้ที่จะให้ผมไป ความเห็นผมหายไปหลายอัน จนผมโพสไปก็งง หายหมดเลย ของท่านอื่นๆก็น่าจะเช่นกัน โพสใหม่ก็เสียอารมณ์หายหลายครั้งมากๆ จนล่าสุดก่อนหน้านี้ก็เพิ่งลองโพสข้อความเก่ามาโพสใหม่ดู ไม่รู้จะหายอีกไหม จริงๆผมน่าจะตั้งกระทู้เองด้วยซ้ำ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการที่แท้จริง ความจริงก็คือการต้องการยกตัวอย่าง ให้มองตัวเองก่อนที่จะว่าคนอื่นเขา ที่ว่าเขาท่าแสดง ใช้ไม่ได้จริง แล้วของท่านเองท่านมีคำตอบไหมเพียงแค่นั้น ซึ่งสิ่งที่มองมาถึงปัญหา ณ วันนี้ ผมมีสิ่งที่อยากจะบอกถึงท่านที่อ่านในบอร์ดนี้ทุกท่านที่พอจะทราบความเป็นมาเป็นไปของเรื่อง ถ้าให้ไปกระทู้ดังกล่าวก็คงไม่ไปอยู่ดี เพราะตัวกระทู้แต่แรกดำเนินมาสักพักทำให้รู้แล้วว่า เจตนาไม่ใช่ให้ผู้รู้หรือผู้ไม่รู้มาสนทนากัน แต่เจตนาเป็นอื่น ของผมใกล้จบแล้ว แต่ยังไงสิ่งที่เจ้าของกระทู้นี้ตั้งถามแต่แรกสุดผมก็มีข้อมูลเป็นแนวทาง พรุ่งนี้ถ้าตัดเสียงในไฟล์ไม่ทัน ก็จะพิมพ์ให้อ่านก่อน (จากครูอีกท่านหนึ่ง) พรุ่งนี้ผมจะสรุปส่งท้าย จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 21 ส.ค. 50 23:10:11 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อาจจะเอาลิงค์มาลงด้วยหรือเปล่าครับ คุณเจ เพราะว่าเคยเหมือนกันลงกระทู้แล้วใส่ลิงค์เวปบางเวปที่ ทาง pantip ไม่ยอมให้ลงเช่น บล็อค ของทาง กูเกิ้ล นะครับ ถ้าเอามาลงเวปจะลบข้อมูลอันนั้นทิ้งทันที จากคุณ : EZ2DJ - [ 22 ส.ค. 50 01:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 89 . สวัสดีครับ คุณไทย ฯ ผมรู้สึกว่า ความฟุ้งฟ้านของคุณ อาจเป็นสาเหตุให้ คุณนำเอาเรื่องนอกกระทู้ เข้ามาปนน๊ะ ครับ ทด ลองให้เกียร์ติ เจ้าของกระทู้ บ้างครับ ถ้าคุณจะ ให้ คห เรื่อง วันพบที่สวนหลวง หรือข้อสงสัยเกียวกับ ท่าปฎิฺบัติ ก็มีกระทู้อยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องเขียนบอก ถูกใหม ครับ ? ที่โน่น คุณจะได้รับ คำตอบแน่นอนกว่าที่นี่ ครับ  ทางที่ดี คุณควรจะไปทำบุญใส่บาตร์ ในตอนเช้า หรือไปกราบใหว้ พระ ลดอัคติในใจ ก่อนที่จะให้ คห แล้วผมจะให้โอกาสกับคุณ ครับ คุณเองก็ชอบถ่ายภาพ และทำงานเกี่ยวกับการนำภาพไปแสดง และก็มีความรู้  ถูกใหมครับ  ......ผมแปลกใจที่คุณเอารูปที่ มิใช่เป็นเอกสิทธิ์ของคุณ มาใช้อย่างนี้ โดยไม่ทราบว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกควร ล๊ะครับ......  ถ้าใครเขาทำกับคุณ ๆ จะคิดอย่างไร ครับ ? ผมมอง คุณไทยฯ ในขณะนี้ ผมเข้าใจถึงทิถิของคุณ แต่เมื่อมาเทียบกับ ...วัยของคุณ... ก็จะบอกว่า  ...น่าสมเพศครับ.... จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 22 ส.ค. 50 08:17:56 ]

ความคิดเห็นที่ 90 หากจะมีความฟุ้งซ่านหรือทิฐิในใจผมจะมีหรือไม่มี หรือจะมีเมื่อไหร่ กับใคร มันเรื่องของผมครับ คนรู้ดีสุดคือผมครับ ไม่ต้องชี้ทางให้คนอื่นคิดตามหรอกครับ จับภาพมาโพสมาถาม เพื่อให้เห็นชัด ไม่ต้องกลับไปดูวีดีโอไปมาๆ ก็มีกันทั่วไปครับ อีกอย่างคุณก็บอกเองว่า ขอบใจที่โปรโมทวิชาให้ (ก็แสดงว่าแต่แรกไม่ได้โกรธ และไม่ว่าอะไร ผมก็นำมาอีกผิดตรงไหนครับ) และภาพนำมาใช้ในการตั้งคำถามครับ ยังไม่ได้ต่อว่า หรือใช้คำเสียดสีสรุปตามความคิดตนเองเหมือนกระทู้อื่นๆครับ ถ้าสมมุติคุณพลายมองเห็นทิฐิผมจริงๆ แล้วเทียบกับวัยวุฒิผม ที่ยังน้อย แล้วยังน่าสมเพส แหมผมไม่อยากจะย้อนมองทิฐิผู้อื่น และวัยวุฒิหรือคุณวุฒิกลับเลยนะครับ เอ้าเข้าเรื่องผมครับตอบเจ้าของกระทู้ดังนี้(ขออภัยตัดเสียงมาประกอบไม่ทันแต่ถอดความมาจากที่อัดไว้แทบทุกคำแน่นอน) ผมคุยกับครูพันครูมวยทางเหนือเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมาครับขอพิมพ์มาให้อ่านเป็นภาษากลางดังนี้ ครูพันเล่าว่า สมัยคาดเชือกทางภาคเหนือเนี่ยจะสอนกันในที่ลับๆ สอนกันตามวัดร้าง ปิดประตูวิหาร ปิดโบสถ์สอน สอนในป่าช้า กลางดึกกลางคืน ไม้ตายอะไรของเค้า คนธรรมดามักจะไม่ได้เห็น ถ้าเห็นแล้วเค้าก็แก้ได้ ไอ้คนที่มีไหวพริบมีภูมิปัญญามันก็เอาไปแก้ไขได้ เขาก็เลยซ่อนสอนกัน ผมถามต่อว่า ท่ามวยโบราณที่ผมเห็น เช่นหนุมานถวานแหวน ที่อะไรที่ว่าเขาเขียนเป็นเรื่องรามเกียรต์ มวยเหนือนี่คล้ายๆกันไหมครับ อย่างตะเพียนแฝงตอ อย่างในหนังเรื่ององค์บากครับ (คาดว่าครูคงได้ดูและน่าจะนึกภาพต่างๆได้ออกชัดเจนมากกว่า เลยยกตัวอย่าง อย่างชื่อหนังเรื่องนี้ขึ้นมา) ครูพันท่านว่า อันนั้นเป็นคำคมของการต่อสู้ เป็นท่าเขาตั้งชื่อขึ้นมา 1.เพื่อเป็นคำคมคำผวน 2.เพื่อเป็นโค้ตลับที่ไม่ให้ใครรู้อะไร ก็พอจะให้แนวทางกับกระทู้นี้ได้ว่า มวยโบราณคงจะไม่ว่าสายไหนมีการเก็บความลับเรื่องท่า และมีโค้ตลับชื่อท่า ที่อาจไม่สอดคล้องกับท่วงท่าเหมือนของคนอื่นๆ นั้นเป็นความจริงครับ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 50 18:48:20 จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 22 ส.ค. 50 18:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ท่าเดียวกัน แต่คนละสำนักเรียกคนละชื่อนั้นมีจริงครับ คนละท่าแต่ดันมาเรียกชื่อพ้องกันก็มีจริงครับ จากคุณ : PUFF - [ 22 ส.ค. 50 23:45:25 ]

ความคิดเห็นที่ 92 . สวัสดีครับ คุณไทย ฯ อาจเป็นไปได้ ...ว่าคนเรามีปัญหา เรื่องยุคสมัย... อันเป็นสาเหตุให้ทำ ความเข้าใจกัน ลำบาก คุณเคยได้ยินใหมเมื่อไม่นานมานี้ ยังมีสายมวย ...หนึ่งที่จะขอจดลิขสิทธิ์   การห้ามใช้ท่ามวย... การที่ผมไม่อ้างขึ้นมาก่อน ก็หมายถึงให้โอกาสกับคุณเพื่ออาจรู้ตัวเองได้ แต่ ก็มิได้หมายถึงสมยอม ถึงแม้จะหยอกว่า ..ขอบใจที่คุณโปรโมทให้... ถูกใหมครับ ผมไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องฟังคำแก้ตัวของคุณ ครับ แต่ขอเตือนให้ระวังการกระทำของคุณเช่นนี้ เท่านั้น ครับ คำที่ผมว่า ..น่าสมเพศ.. หมายถึงว่า อย่างน้อยผมเองเดินมากว่า ครึ่งทางของชีวิต และได้รู้ได้เห็นมาเพียงพอ และก็คงอีกไม่นานนักคงจะเป็น แค่ผงขี้เท่าเท่านั้น แต่คุณยังมีเส้นทาง ชีวิตอีกยาวนาน ทิฐิที่คุณมีอยู่ขณะนี้ อาจจะเรียกว่าเลือดหนุ่มก็ได้ อันสิ่งที่ผมมอง คุณอาจประสพ ด้วยตัวเองในวันข้างหน้า ที่จะเป็นอุปสรรค์ติดตัวโดยไร้ประโยชน์ นั่นเอง พยายามสร้าง มิตรครับ ศัตรูธรรมชาติสิ่งแวดล้อม มีมากเกินต้องการ มากันแต่กำเนิดแล้วครับ ผม ไม่สนใจครับ ว่าคุณคิดอย่างไร ทั้งหมดเป็นข้อแนะเตือนฉันท์มิตร เท่านั้น ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 23 ส.ค. 50 03:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 93 คุณเจครับ... คุณไม่ได้น่าสมเพชหรอกครับ...   เวลาเรื่องมันร้อนถึงตัว...  คนร้อนก็จะให้คุณร้อนแทน...  พลิกจากที่ถูกต่อว่า...   มาทำให้เหมือนคุณเป็นคนผิดแทน... ผมเชื่อมั่นในตัวคุณครับ... แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 50 12:51:54 จากคุณ : งาสาน (งาสาน) - [ 23 ส.ค. 50 12:19:12 ]

ความคิดเห็นที่ 94 บอกไปอย่างนั้นเพราะกลัวภาษามันจะดิ้นได้ ห่วงก็ห่วงคุณอยู่ ใจก็เอาใจช่วยอยู่ สุดท้ายเรื่อง ความเห็น78 84 85 คุณพลายก็ไม่ตอบให้พวกเราหายสงสัย มุดทำไม โยนทำไม ทีพวกมวยไชยาเอารูปมาลง เห็นพูดเป็นทฤษฏีได้เป็นคุ้งเป็นแคว พรรณาได้ยึดยาว พอโดนเองก็เทศนาสั่งสอน ซะยาว ในมุมมองผมนะ มองว่า 78 มุดไปนะได้ จะซ้อม.แสดง.ใช้จริง มุดได้ทั้งนั้นถ้ามีโอกาสให้มุด ที่สำคัญ มันมุดเข้าไปทำอะไร อ้อ แค่มุดผ่าน ให้อีกฝ่ายตีศอกแล้วมันก็หลบถอยไป แล้วมุดให้เหนื่อยทำไมครับ มองว่า 84 จังหวะดาบเท่ากัน ตัวเองดันไปโยนขึ้นฟ้าซะ อีกฝ่ายไม่แทงท้องทะลุ ยังเปลี่ยนดาบไปอีกมือ แล้วคอยรับดาบที่ฟัน ดีที่ฟันได้ระยะดาบมากไม่ฟันห่างเหมือนที่โดนด่านั้น คนรู้เรื่องดาบดีน่าจะมาคุยหน่อย เป็นกลางนะ มองว่า 85 คล้องแขนทำได้ดี ปลายมีดอยู่แค่คอ น่าจะปาดคอไปซะ ไม่ต้องเสียเวลาเอาอีกมาอ้อมมาแทงท้อง คนโดนอีกมือว่างก็ไม่กัน ก็สงสัยอยู่แต่ไม่กล้าถ้าไหนๆก็มีคนนำแล้ว มองไม่เห็นคนตามผมก็เลยขอนำด้วยอีกคน  ไม่ได้เข้าข้างคุณ j thailandfight นะครับ สงสัยจริงๆเหมือนกัน แล้วผมก็ไม่เชื่อด้วยว่าทั้งหมดนี่เป็นบรรพบุรุษบรรพสตรีไทยคิดขึ้นจริงๆ จากคุณ : ธาตุไม้ - [ 23 ส.ค. 50 16:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดเห็นที่ 86   คุณ j thailandfight ครับ แล้วที่ว่า .....ไปไหนมา สามวาสองศอก..... นี่เมื่อไหร่จะเลิกเล่นกันซะทีครับ อ่านแล้วงงจริงๆครับท่านผู้ชม จากคุณ : ธาตุไม้  - [ 21 ส.ค. 50 22:06:37 ] ความคิดเห็นที่ 90   เอ้าเข้าเรื่องผมครับตอบเจ้าของกระทู้ดังนี้ ก็พอจะให้แนวทางกับกระทู้นี้ได้ว่า มวยโบราณคงจะไม่ว่าสายไหนมีการเก็บความลับเรื่องท่า และมีโค้ตลับชื่อท่า ที่อาจไม่สอดคล้องกับท่วงท่าเหมือนของคนอื่นๆ นั้นเป็นความจริงครับ แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 50 18:48:20 จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight)  - [ 22 ส.ค. 50 18:30:03 ] ความจริงกระทู้ของผม ไม่ได้มีใจความสำคุญอยู่ที่มวยครูแปรง  มีชื่อไม้มวยไทย  ต่างจากชื่อและการกระทำ  ของไม้มวยไทยมาตรฐาน  แต่อยู่ที่ศิษย์ของครูแปรงนำมาเผยแพร่  โดยไม่ระบุว่าเป็นไม้ครูแปรง  ย่อมทำให้เกิดความเข้าใจผิด  และสับสนกับไม้มวยไทยมาตรฐาน  ที่คุณjเพียรยกขึ้นมากล่าวอ้างจึงไม่ตรงประเด็นครับ   เป็นคำตอบที่ซ้ำซาก redundant เหมือนพายวนอยู่ในอ่างครับไปไหนมา สามวาสองศอก ส่วนที่ว่าหลักสูตรของมวยครูแปรง  ไม่เหมือนสำนักมวยไชยาอื่นเพราะเรียนมาได้ไม่เท่ากันนั้น  เป็นการหมิ่นครูมวยไชยาท่านอื่นนะครับ   คงปฏิเสธไม่ได้ครับว่า ไม่ได้ดูหมิ่นความรู้ครูมวยไชยาสำนักอื่น แล้วถ้าศิษย์มวยครูแปรงจะไปฝึกสำนักอื่นก็คงจะไม่ได้แล้ว   เอาแค่ชื่อไม้มวยก็ไม่เหมือนกัน  ยิ่งเอาไปยกขึ้นมากล่าวโดยไม่บอกที่มาที่ไป  ยิ่งสับสนครับ  แค่จะบอกว่าเป็นชื่อไม้มวยไชยายังไม่น่าจะได้  ที่เป็นได้คงแค่ไม้มวยครูแปรง  เพราะคงไม่เหมือนกับครูมวยไชยาอื่นๆเขา ขอนอกประเด็นสักนิด  มวยเวทีก็มีครูที่ความสามารถต่างกัน  แต่ก็ร่วมสอนค่ายเดียวกันได้  ครูมวยไทยเวทีย้ายค่ายสอนได้  ไม่มีใครรังเกียจ  นักเรียนจะไปเรียนค่ายใหน  ก็เรียนต่อจากที่เคยเรียนหรือฝึกมาได้เลย  แล้วครูมวยไชยาที่มีอาจารย์คนเดียวกัน  พอสิ้นอาจารย์ไปแล้ว  กลับไม่ร่วมวงไพบูลย์กัน  ที่คุณเฮ้อเคยดูถูกว่ามวยไทยมีแต่ก้าวลง ครูไร้ความรู้มวยไทยลึกซึ้ง ลองตรองดูนะครับว่าคนนอกเขาก็มองมวยครูแปรงอย่างไร อ้าว  ไหงแขวะกันดื้อๆตอนจบครับ  มันไม่เกี่ยวกับประเด็นเลย  ถ้าผมแขวะกลับว่า มวยไชยาแต่ละสำนักปรองดองกันดีหรือเปล่า?  มันจะยาวไม่จบนะครับ  คุณเรื่องเดิมๆฯไม่ใช่ตัวแทนสายครูแปรง  อย่าทำให้ผู้อื่นที่คุณปกป้องเสียหายสิครับ ผมเตือนคุณเรื่องเดิมๆแล้ว  คุณเรื่องเดิมๆก็ยังดันทุรัง  ผมก็ต้องงัดเรื่องเดิมๆมาแขวะบ้างครับ  องกรณ์มวยไทยทั้งสอง  มีผลประโยชน์ขัดกัน  ไม่ได้เกี่ยวกับไม้มวยไทยเลย  และมวยเวทีไม่มีชื่อเรียกท่าไม้มวย หรือท่ามาตรฐานโดยตรงครับ  อย่าดึงดันยัดเยียดว่าตั้งกำแพงเป็นชื่อท่ามวยไทยเวทีมาตรฐานครับ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 23 ส.ค. 50 20:34:02 ]

ความคิดเห็นที่ 96 . สวัสดีครับ คุณธาตุไม้ ที่จริงแล้ว นอกจากให้ คห เรื่องชื่อเรียกของ ...ท่ามวย... ผมเพียงแต่ถามถึงสาเหตุ ว่า  .......ด้วยเหตุ ใด คุณอีฯ ถึงได้นำเอารูปมาแสดง..... ครับ คห ๗๘ ๘๔ ๘๕ เป็นคำถาม ....นอกกระทู้... เข้าใจใหมครับ ............สำหรับผู้รู้ จะแบ่งเป็นสอง ประสองประเภท ประเภทหนึ่ง  เขาจะภูมิใจในตัวเอง โดยไม่ต้องให้ คำตอบอันนี้ กับ ใคร ๆ ไปจนตาย อีกประเภทหนึ่ง เขาจะรุ่มร้อนใจในตัวเอง โดยมีแต่คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ จากใคร ๆ ไปจนตาย....... การร่วมสามัคคี รักษาชื่อเสียง ของคณะหรือกลุ่มของคุณ ตราบใดที่ไม่เป็นในลักษณะ เมามัวหรือสุนัขสามัคคี ก็จะเป็นสิ่ง ที่น่าชื่นชม ครับ  ในสมัยผมยังเด็กเพื่อนเคยบอกเปรียบให้ระวังกับ  .....พวกด็อกขี้ โนบอดี้ ยกเทล.... ครับ เอากันว่า ช่วยกัน สามัคคี ตอบคำถามของ จขกท จะไม่ดีกว่าหรือครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 23 ส.ค. 50 22:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ผมมองออกนะครับคุณพลายทำไมมารูปแบบประนามผมในท้ายสุด กะเล่นล้างความน่าเชื่อถือ ล้างการถามของผมด้วยวิธีนี้สินะครับ ไม่เป็นไรครับคำถามที่ผมถามไว้ อย่างน้อยก็น่าทำให้คนมาอ่านเจอฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง ใจเย็นๆครับอย่าเพิ่งทิ้งวิถีของตนเอง  การคุยผมกับคุณพลายในนี้ คุณพลายน่าจะยอมรับได้นะครับ เพราะเคยทิ้งคำไว้หลายครั้งแล้ว เป็นการบอกเป็นนัยว่าคุณพลายเป็นคนใจดี ใจเย็น รับฟัง อยากให้ถาม อยากสนทนาอยากตอบ ผมคงมองไม่ผิดนะครับลองทบทวนดู <<  แต่ด้วยข้อมูลทั้งหลายทำให้ทุกฝ่าย ผมหมายถึง กับผู้ติดตามรวมอยู่ด้วย ที่มีโอกาสที่จะนำเอาไปเป็นประโยชน์ ส่วนตัวได้ อันนี้แหละครับ เป็นสาเหตุ ที่เกิดมีการโต้เถียงกันขึ้นมา เราโต้เถียงกันรุนแรงอย่างจริงจัง เพื่อต่างได้ประสบการณ์จริง และสามารถป้องกันยามคับขันได้ อันการสทนาที่มีแต่ยกย่องชมเชยกัน จะไม่ได้ นั่นเอง ครับ  >> <<  ..ผมถามเพราะสงสัย..... แต่กลับกรายเป็น ...การสร้างความเสื่อมเสีย...  แทนที่ ...จะตอบให้เข้าใจ... กลับใช้  ...วิธีถามย้อนและปรับปรำต่อว่า....  เป็นสิ่งอัศจรรย์อย่างหนึ่ง ถูกใหมครับ  >> << ถ้าไม่ตอบ ก็หมายถึง เป็นสิ่งอัศจรรย์  อย่างหนึ่ง   >> << ส่วนการ ถกเถียงกัน พี่เห็นเป็นธรรมดา เสมือนกับการลองดาบ กัน เราแลกเปลื่ยนความรู้ความเข้าใจกันแต่มิได้หวัง ทำลายกัน ครับ ถ้าน้องไม่เคยถกเถียงกับพี่ ก็จะมิมีโอกาสเข้าใจกันได้ นั่นเอง ครับ     >> << การสนทาในบอร์ด ก็เป็นเหมือนกับ การชกกันบนเวที อันมิได้ชี้ชัดว่า ความจริงที่อยู่เบื้องหลังของ นามแฝงจะเป็น อย่างไร ครับ ลักษณะลีลาการเขียน ถามตอบ ก๊คือการใช้ท่าวิธีต่าง ๆ อย่างเช่น การแกล้งโง่ เพื่อเปิด ช่อง ลองวิชา ลองเชิง  หรือเราเรียกกันว่า ..อำ..ครับ ลักษณะของ ลีลาการสนทนา ในบอร์ด เป็นเสมือน กับเชิงการต่อสู้ ของแต่ล๊ะคน เท่านั้น แต่มิใช่เป็นความจริง ถึงความรู้ความสามารถ ที่แท้จริง กับ บุคคล ที่อยู่ เบื้องหลัง ครับ แต่ด้วยการสนทนาไม่เพียง แต่คู่สนทาเท่านั้น ที่จะสามารถรู้นัย ซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ติดตามยังสามารถได้รับประโยชน์ จากข้อมูล ที่ตามปรกติธรรมดา จะไม่ได้รับรู้เห็น แหละ ครับ     >> <<  อย่าลืมครับ... เราสนทนากันอย่าง จริยาชนไทย ๆ กับคนไทยด้วยกัน    >> ส่วนเรื่องจดลิขสิทธิ์  การห้ามใช้ท่ามวย สำหรับผมที่เดินเข้าออกตามตรอกตามประตูอย่างตรงๆของฝั่งนั้นมา ไม่เคยได้ยินคำนี้นะครับ  ถ้าจะมีจดมีแต่จดแบบอื่นครับ คำว่า จดลิขสิทธิ์  การห้ามใช้ท่ามวย  ที่ตีความหมายเพี้ยนได้แบบนี้ไม่มีครับ ฟังมาหลายต่ออาจผิดพลาดได้ครับ ผมฟังมาต่อเดียว ผมเชื่อหูผมครับ ส่วนคุณรักมวยไทยน่าจะก๊อปคำคุณธาตุไม้มาให้ครบนะครับ ตัดมาประโยคที่ว่า คุณ j thailandfight ครับ แล้วที่ว่า .....ไปไหนมา สามวาสองศอก..... นี่เมื่อไหร่จะเลิกเล่นกันซะทีครับ อ่านแล้วงงจริงๆครับท่านผู้ชม ไม่ครบจากความเห็นเขาครับเพราะผมมองว่า .....ไปไหนมา สามวาสองศอก.. นี่คุณธาตุไม้ น่าจะหมายถึง เรื่องราวผมกับคุณพลายที่คุยกันมากกว่าครับ  คงไม่ได้หมายถึงผมอ้ำอึ้งเรื่องชื่อท่ามวยแล้วยังไม่ตอบ ถ้าไงคุณธาตุไม้มายืนยันอีกทีก็ดีครับ คำตอบออกทางไหนผมก็ยอมรับความเห็นครับ ส่วนคำตอบของผมที่ตอบเรื่องชื่อท่าโดยยกตัวอย่างที่สัมภาษณ์ครูพันมาประกอบ หากไม่รัดกุมหรือมองว่าซ้ำซากไม่พอจะเป็นคำตอบได้ก็ไม่เป็นไรครับ ถือว่าผมนำความมาซ้ำแต่เป็นคำอธิบายจากครูอีกท่านมาให้ได้อ่านกันก็ยังดีครับ จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 23 ส.ค. 50 22:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ครูแปรง ฝึกมวยไชยา และสอนมวยไชยา ทำไมวิชาที่ครูแปรงคิดขึ้นมาจะเป็น ลูกไม้ของมวยไชยา ไม่ได้ครับ ในเมื่อครูก็แตกออกมาจากท่าครูของมวยไชยา ผมไม่เข้าใจ - - มันผิดตรงไหนหรือครับ แล้วเรื่องการเรียนแล้วได้ความรู้ไม่เท่ากันมันหมิ่นคนอื่นตรงไหนหรือครับ ก็ถ้าถามว่าผมเรียนกับครูแปรงแล้ว ศิษย์พี่ผมหรือศิษย์น้องผมจะเก่งกว่า เพราะมาซ้อมมากกว่า มีแนวคิดดีกว่า ขยันซ้อม ขยันฝึกมากกว่า ผมจะเสียหายตรงไหนครับ ความรู้ผมก็ไม่เท่ากับคนที่ขยันซ้อม ขยันถามกว่าอยู่แล้วครับ ผมไม่เห็นรู้สึกว่าเสียหายตรงไหนครับ แล้วการฝึกสอน ระบบการเรียนมันก็ต่างกันจริงๆ เพราะแต่ละท่านก็มีแนวความคิดเรื่องการสอนไม่เหมือนกัน ยังไม่ต้องพูดเรื่องขั้นสูงนะครับถ้าสายอื่นจะมาเรียนกับสำนักผมก็ต้องปรับพื้นฐานใหม่ เพราะพื้นฐานที่สายอื่นฝึกมาก็ต่างกันกับของครูแปรงฝึก การเน้นการฝึกก็ต่างกัน ก็เป็นแบบนี้ทุกคนที่มาฝึกละครับ ส่วนจะดีขึ้น หรือ ตกต่ำลง รอเวลาพิสูจน์เถอะครับ - - จากคุณ : EZ2DJ - [ 23 ส.ค. 50 22:57:49 ]

ความคิดเห็นที่ 99 . สวัสดีครับ คุณไทยฯ ครับทบทวน คห ๘๙ อีกครั้ง ครับ อีกอย่างหนึ่ง ถ้าคุณพยายาม หรือทดลองแสดงให้ผมเห็นว่า เป็นคำถามของผู้สนใจวิชาการ โดยแยกความไม่สำคัญ ของตัวบุคคล หรือเล่นพวก ผมเชื่อแน่ ว่า คุณจะได้คำตอบ ครับ คุณคงเคยได้ยิน ...หวานเป็นลมขมเป็นยา... คุณคงเคยมีเพื่อนๆ ที่ยอมให้คุณโกรธดีกว่า ให้คุณชมเชย ฉนั้นต้องแยกระหว่าง ...ติเพื่อก่อกับติเพื่อทำลาย... ถูกใหมครับ อย่างที่คุณอ้าง แหละครับ ..การสนทาในบอร์ด ก็เป็นเหมือนกับ การชกกันบนเวที.. คุณ แสดงให้ผมเห็นซิครับ คุณอยากเอาชนะ หรือ อยากเอาความรู้ กับการสนทนากับผม ครับ ถ้าจะเอาชนะ ไม่ยากหรอกครับ ที่ผมจะให้คุณเป็นฝ่ายชนะ แต่จาก คห ของคุณก็น่าจะเชื่อได้ ว่าไม่อยากเป็นผู้แพ้ ผมตอบไม่ได้ ผมเลี่ยงคำถาม ฯลฯ คุณก็ชนะอยู่ตั้งนานแล้ว ติดใจอะไร อีกล๊ะ ครับ ถ้าจะเอาความรู้ ก็จำเป็นที่จะต้องยอมรับการติเตียน หรือถูก สอนมวย ตามธรรมดา ไม่มีใคร ที่รักวัวจะไม่ผูก หรอกครับ ก็เพราะ ...เราสนทนากันอย่าง จริยาชนไทย ๆ กับคนไทยด้วย กัน.. ผมถึงสนทนากับคุณ จนถึงทุกวันนี้ ครับ อย่าไปสนใจใน บุคคลพลายทมิฬ เลยครับ เขาเป็นคนไม่น่าคบ ไม่น่านับถือ ไม่น่าสนใจ ตามประสาทุเลศทุลังของเขา เอาไว้ให้เป็นตัวโจก ในบอร์ด ก็แล้วกัน ครับ ถ้าคุณรู้จักกับเขา ส่วนตัวอย่างบางคน คุณจะปวดหัวกับเขามากกว่านี้ ครับ ผมขออภัย กับ จขกท อีกครั้งที่ต้องมารบกวนเนื้อที่ น๊ะครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 24 ส.ค. 50 00:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ผมว่าเพราะคุณรักมวยไทยมีอคติกับผู้ฝึกมวยไทยไชยากับครูแปรงนั่นแล้ว จึงได้เพียรตั้งข้อสงสัย และให้ความเห็นอย่างที่ได้เห็นเป็นประจำ นอกเหนือจากเพียรประชาสัมพันธ์ว่ามวยไทยเวทีปัจจุบันนั่นดีแน่แท้ นั่นคงเพราะแต่แรกมีผู้เข้ามาแลกความเห็นว่ามวยไทยเวทีปัจจุบันตกต่ำลงในด้านศิลปะวิชา เหลือแต่การออกอาวุธไปตามแกนเท่าที่ร่างกายให้มา (ทั้งที่เป็นการวิจารณ์เพราะไม่อยากทนเห็นมวยไทยตกในสถานการณ์อย่างที่เป็นอยู่) ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณรักมวยไทยเพียรทำความเข้าใจว่าฝึกมวยไทยตามค่ายมวยแล้วจะได้เรียนรู้มวยไทย รู้การป้องกันตัว และเป็นการออกกำลังกายที่ดี ซึ่งมันก็จริงนะ ก็บอกแล้วว่ามันคนละเรื่องกัน อาจพาดพิงกันได้บ้างเล็กๆ และที่ผมวิจารณ์ถึงความตกต่ำของศิลปะมวยไทย ก็เพราะเห็นว่าคนนอกที่สนใจศิลปโดยส่วนใหญ่แล้ว เขามองมวยไทยว่าย่ำแย่ลงจริงๆ (ไม่เกี่ยวกับการตลาด) เขาได้รู้ได้เห็น โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปสัมผัสกับค่ายมวยเลยสักนิด เพราะผลมันแสดงออกมาตามรายการชกต่างๆ ดังนั้น จึงไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องคนนอกเขามองมวยไทยไชยาที่เรียนกับครูแปรงว่าเป็นอย่างไรหรอกครับ เพราะอันนี้มันเป็นเรื่องที่รับรู้กันทางข้อเขียนกันเท่านั้น เป็นเพียงแวดวงเล็กๆ ไม่ใช่เห็นกันตำหูตำตาทางทีวีเป็นมหาชนเหมือนสภาพมวยไทยเวที และมันเกิดจากความไม่รู้จริงๆ ต่างหาก เช่นคุณรักมวยไทยนั่นไง สงสัยเสียจัง เป็นปีๆ ก็ไม่เคยไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาเสียที ทำยังกับจะไปเข้าถ้ำเสือ รังโจรงั้นล่ะ ดังนั้น เมื่อคุณรักมวยไทยไม่รู้จริงเรื่องมวยไทยโบราณ คุณจึงไม่สามารถเข้าใจได้เลยและคิดไปว่าพวกมวยไทยโบราณนี่ไม่รักกันเอาแต่แก่งแย่งชิงดี รวมกันไม่ได้ โดยเอามวยไทยเวทีมาเป็นตรรกะ เขาจะปรองดองกันหรือไม่ ขนาดผมได้มีโอกาสเรียน ผมยังไม่รู้อะไรเลย แล้วคุณไม่ได้มาสัมผัสแม้สักนิดจะไปรู้ได้อย่างไร หรือพิจารณาแค่เรื่องราวในกระดานนี้เท่านั้น จริงๆ แล้วข้อสงสัยของคุณนั่น หากแม้นคุณสนใจ (คุณรักมวยไทยขนาดนี้ น่าจะสนใจ) ก็จะได้รู้ได้เห็นว่าเป็นเช่นใด มัวแต่มาตั้งข้อรังเกียจว่าพวกฝึกมวยไทยโบราณมันดูถูกมวยไทยเวที ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เพราะจริงๆ มันก็มวยไทยทั้งเพ ผมสนใจมวยไทยเวที จริงใส่ใจกับศิลปะมวยไทยในอดีตที่ผ่านมา สนใจรากเหง้าของมวยไทย และได้รับรู้ ได้สัมผัส ได้เห็นสภาพไม่เที่ยงแท้ของสังขาร แต่ก็ยังคงยึดมั่นถือมั่นอยู่ดี อยากให้มวยไทยเรามีศิลปะ มีชีวิต ไม่อยากให้ตกต่ำเพราะผมไม่ได้มองว่ามวยไทยโบราณกับมวยไทยเวที เป็นคนละมวยกัน ที่จะมาห่ำหั่นกัน ยังคิดเลยว่าหากแม้นมวยไทยโบราณแต่ละสายได้มีโอกาสเชื่อมโยงมวยไทยเวที ความหลากหลาย และการต่อยอดวิชาคงจะเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะกับนักมวยอาชีพที่พร้อมในร่างกายและเวลา จากคุณ : เฮ้อ - [ 27 ส.ค. 50 17:07:10 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 101 . สวัสดีครับ คุณเอ้อครับ ข้อความของกระทู้    ......ข้อข้องใจไม้มวยไทยครูแปรง......  คุณอ้างว่า ....มีอคติ.... อันผมเข้าใจว่า จขกท มีความขุ่นใจเป็นพื้นฐาน ที่พยายามตั้งข้อสงสัย อันเป็นเสมือนใส่ร้าย ฯลฯ คุณเข้ามาตรงจังหวะพอดี ครับ   ผมเชื่อว่า คุณเอ้อ ได้เคยดู  ..วิดิโอ มวยไทยไชยาสายครูแปรง.. มาแล้ว ผมและ คนทั่วไปในสากล ก็เช่นกัน ครับ แน่ล่ะการ มองและสนทนากัน กับสิ่งที่แสดงออก ของวิดิโอ จะกรายเป็น .....ข้อวิจารณ์  หรือ ข้อข้องใจ.... ขึ้นมา แต่ก่อนที่คุณจะมอง ในรูปการมี ...อัคติ... ของ จขกท ก็ควรที่จะมองลึกก่อนหน้าเสียก่อน ว่าการกระทำของ มวยสายนี้ นั่นเอง ที่เป็นสาเหตุให้ เกิดเป็นข้อวิจารณ์ กันขึ้นมา  ผมขออนุญาติเอาตัวอย่าง จากวิดิโอ มาเป็นเหตุผล ครับ ...จาก ภาพการแสดง มวย ที่สวนกุหลาบ จะเห็นจากลักษณะ การใช้ท่าและชั้นเชิง และชื่อนักมวย เป็นข้อสงสัยว่า มิใช่มวย และนักมวยไชยา.... ....จากภาพการต่อสู้ ที่ตัดต่อมาเสริมในวิดิโอ การต่อสู้สงครามในลักษณะนี้มีก่อนบังเกิดมวยไชยาและเป็นการต่อสู้ที่ไม่มี ลักษณะมวยไชยาให้เห็น อันน่าเป็นข้อสงสัยว่า ....ภาพเหล่านี้มิได้เกี่ยวข้องอะไร กับ มวยไชยา.... ....เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า มวยไชยาสายครูแปรง ไม่มีการเข้าแข่งขัน มวยเวที และ มวยเวทีในวิดิโอ ก็ไม่มีการชกตามลักษณะ ของมวยไชยา  อันก็เป็นข้อสงสัยว่า ....มวยเวทีในวิดิโอมิใช่มวยไชยา.... ถ้าสิ่งเหล่านี้ ไม่ปรากฎขึ้นจาก บุคคลของ มวยไชยาสายครูแปรง ผมคิดว่า ปัญหา ของ จขกท ก็คงไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง .....เมื่อตนเองอ้าง ว่าหวงแหนรักษาศิลป์วิชาแนวสายของตนเอง อย่างเคร่งครัด และเป็นของแท้ดั้งเดิม..... ถูกใหม ครับ ฉนั้นผมมองว่า มิใช่ ...อคติ... แต่เป็นการชี้ท้วงในสิ่ง ที่ จขกท ไม่เข้าใจได้ นั่นเอง ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 27 ส.ค. 50 18:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 102 เอ่อ เรื่องที่เถียงกัน ผมไม่ยุ่งนะครับ ไม่รู้จับ ไอ้เรื่องเรียกชื่อผทก็เห็นว่าเคลียร์ไปหลาบช่องรีไพล์แล้ว แต่ก็ยังกลับมาเอาผิดกันเรื่องเรียกชื่ออีก เฮ้อ.....ผม ไม่อิจฉาหรือเขม่นมวยไทยโบราณของสายไหน ของครูท่านไหนหรอกครับ ดีเหมือนกันหมดนั่นแหละ ดีต่างกันไป ส่วนเว๊ปของคุณพลายทมิฬ ผมไม่ออกความเห็นครับ ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ที่แน่ๆ ทุกท่านครับ คุณwin เนี่ยรู้สึกจะป่วนไปทั่วบอร์ดการต่อสู้เลยนะครับ ผมเมื่อก่อนเคยเข้าไปเว๊ปของสำนักฉางชุนถัง ของมวยไท่จี้ บ่อยๆ ที่นั่นเค้าก็ไม่ชอบใจคุณwin อะไรนี่เหมือนกัน ในนั้นผมใช้ชื่อว่าไทยจีนสามัครคีครับ แต่ที่แน่ๆ พี่แกชอบบอกว่ามวยไทยโบราณเอามาจากยิวยิตสู ประจำ.... รู้สึกว่าอะไรที่ล๊อกได้ ทุ่มได้ พี่แกจะเหมาว่าเป็นของแปลงจากยิวยิตสูหมด อย่างงี้มวยปล้ำของมองโกล หรือ มวยปล้ำทางกรีกโรมันก็เอามาจากญี่ปุน ยิวยิตสูหมดน่ะสิ บ้าญี่ปุนเข้าขั้นเลยนะครับ โอตาคุสายต่อสู้รึเปล่าเนี่ย ทุกท่านครับ เลิกเถียงกันเถอะครับ ไม่ว่ามวยไทยเวที มวยไทยโบราณจะคนละสายหรือสายเดียวกัน จะคนละครูหรือครูเดียวกัน หากยังเถียงกันต่อ รับรองมวยไทยได้กลายเป็นมวยลูกหม้อยิวยิตสูโดยสมบูรณ์ครับ รักกันไว้เถิด จากคุณ : ไก่บ้าน(Khaiban) - [ 27 ส.ค. 50 23:08:24 A:124.121.121.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 103 อีกนิดนะครับ.... เพราะหากยังเถียงกันแบบนี้  จะเปิดช่องว่างสำหรับคนที่ไม่หวังดีต่อชาวเรา ชาวมวยไทยทุกแขนงนะครับ ผมไม่ใจว่าคุณwin เคยไปป่วนบอร์ดเทควันโดหรือคาราเต้ มาบ้างรึเปล่า...หวังว่าคงไม่นะครับ  แต่คุ้นๆ มากเลย  เพราะมีคนเคยด่าว่าคนชื่อwinมาป่วน แต่อาจมีคนเอาชื่อมาแอบอ้างก็ได้  (เพราะส่วนใหญ่เป็นฟรีบอร์ดจะพิมพ์ชื่อไงก็ได้) ทุกท่านครับ เราทุกคนทุกสังคมมีความต่างครับ  ขนาดสังคมเดียวกันยังคิดต่างกัน ฝาแฝดที่ว่าเหมือนกัน  พอโตมาก็คิดอ่านทำ  ต่างกันคนละขั้ว เป็นธรรมดาครับทุกท่านที่รักมวยไทยทั้งหลาย บอร์ดมวยจีนคนละสาย คนละอาจารย์  เค้ายังมีไมตรีกันเลย  ขนาดมาขอความเห็นในบอร์ดที่ไม่ใช่ ที่ที่ของตน  เพราะเค้าถือว่าเป็นมวยจีนเหมือนกันครับ แล้วเราล่ะ   เรามวยไทยนะครับ คนไทย ที่ไม่ใช่คนไทยก็คงมี  แต่ก็มวยไทยใช่มั้ยครับ  ไม่รักไม่ศึกษาหรอก  ไม่รักไม่เรียนหรอก  ไม่รักไม่ถกปัญหากันหรอกใช่มั้ยครับ  ทุกๆ คนต่างรักมวยไทย   อีกอย่างยิวยิตสูไม่ว่าจะต้นตำหรับจากญี่ปุ่นหรือจากที่บลาซิล  เค้าก็ไม่เห็นเป็นอย่างเราเลยนะครับ  เป็นตัวอย่างที่ดี   ยกเว้นคนบางคน ผมเคยเข้าไปในบอร์ดมวยไชยาวนารัตน์(บอร์ดเก่า) มีการเถียงกันยกใหญ่  ว่าของใครแน่ครูใครเจ๋ง  ตัวครูท่านต่างอยู่เฉยๆกัน  ลูกศิษย์ก็พามาทะเลาะกันซะนี่  เข้าใจครับเรารักครูเรา  แต่ผมก็เข้าไปพูดลักษณะนี้  ทุกคนต่างก็เข้าใจกันดีเลิกทะเลาะกัน  ไม่ใช่เพราะผมแน่ครับ  แต่เพราะจิตสำนึกของทุกๆ คนเองต่างหากที่เลิกบาดหมางกัน   แต่ก็ไม่วายมีตัวกวนมาหาว่าผมเที่ยวสอนนั่นสอนนี่(ตอนนั้นผมใช้ชื่อไก่บ้าน   มันใช้ชื่อไก่หลงทาง ไก่ฯลฯสารพัดที่ใช้ล้อเลียนผม แต่ไม่ใช่คุณwinนี่แน่ครับ)  แต่ก็มีคนในบอร์ดนั้นออกมาช่วยผม  ออกต่อว่าตัวป่วน  ผมรู้สึกอบอุ่นมากครับ  นี่ล่ะน้ำใจมวยไทย  ผมไม่ทราบหรอกว่าคนที่ออกมาช่วยผมนั้นเค้าอยู่บอร์ดไหน  แต่ที่แน่ๆ เค้าชอบมวยไทยเหมือนกันครับ จากคุณ : ไก่บ้าน (Koc) - [ 27 ส.ค. 50 23:35:04 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ถามจริงเหอะคุณไก่บ้าน คุณอ่านกระทู้ผมหรือเปล่า ถ้าอ่านเขาใจว่าอย่างไง บอกอธิบายผมหน่อยซิ ผมสือสารอะไรคนอ่านผิดหรือเปล่า ***อีกอย่างยิวยิตสูไม่ว่าจะต้นตำหรับจากญี่ปุ่นหรือจากที่บลาซิล  เค้าก็ไม่เห็นเป็นอย่างเราเลยนะครับ  เป็นตัวอย่างที่ดี   ยกเว้นคนบางคน***  แล้วเขาเป็นอย่างไงหรือครับ?   แล้ว"เราเป็นอย่างไงคับ"ขยายความให้ผมฟังหน่อยซิ       ถ้าคุณได้รุ้ประวัติศาสตร์มา คุณจะเห็นคนพวกนี้ ดูหมิ่นท้าทาย(ยิงตระกูลgracieยิงแล้วใหญ่ประกาศท้าลงข่าวกันก็มี)ประลองกันตีกันแบบไม่มีจรรยาบรรณ นั้นหรือตัวอย่างทีดีของคุณ เวปมันอยู่ไหน ตูยังไมรู้เลย ของอย่างนี้นะครับถามเวปมาสเตอร์ได้ ถ้าไม่กล้าถามว่าใช้ผมหรือเปล่า เดียวผมถามเอง  ไอ้เรืองนี้ไม่ใช้ครั้งแรกทีผมเจอ คิดคล้ายผมไม่จำเป็นต้องผมก็ได้ ไอ้เรืองอย่างนี้ ใครก็คิดได้ ไม่ชอบผม ก็ไม่ต้องมาโทษผม  ถ้าหาได้เดียวผมจับผิดไอ้บ้านั้นให้ดู ถ้าเป็นผม ถ้า"ผมพูด ผมจะแม่นเรืองขอมูลมาก"ยิงในเรืองเชิงประวัติศาสตร์  จะไม่มีหรอกคับ มวยไทยเอามาจากยิวยิตสู้ บ้าเปล่า ท่องถินไหน ในโลกถ้ามันไม่ติดเกาะมัน ก็มีศิลปะต่อสู้ของตัวเองทั้งนั้น ทั้งมีชือเสียง หรือไม่มีก็แล้วแต่ แต่มันก็มี แล้วยิงท่องถิ้นไหนมีความหลากหลายทางชาติพันธ์แล้วละก็ ท่องถิ้นนั้นจะอุดมด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้าน วิทยาการและศิลปวัฒณธรรม เช่นจีน ไทยลาว เขมรฯลฯ เพราะมันแลกเปลียนตลอดเวลาจะไม่มีอะไรโดดๆดิ่งๆ อย่างนีหรอกครับ เช่นมวยไทยมาจากยิวยิตสู้ หรือมวยไทยมาจากมวยจีน หรือ  เขมร ลาว พม่า อินเดีย  แต่จริงๆ"มันแลกเปลี่ยนกันจนไม่มีใครเป็นเจ้าของใครได้" ถ้าเขมร ลาว พม่า จีน มันบอกว่า มวยไทย มันจากมัน บอกได้เลย "ถูกส่วนหนึง" แต่ให้ถูกทีสุด ก็อย่างทีกล่าวข้างตัน  "มันแลกกันจนไม่ไม่ใครเป็นเจ้าของใครได้" (มันเป็นญาติกัน) ตกลงมันมีไม่ได้ใช้ไหม ไอ้มวยไทยปนยิวยิตสู้เนีย ถ้าคุณมีเหตุผม ทีดีก็แย้งมาซิไม่ต้องไปอ้างคนอื้นหรอก ไม่ใช้มากล่าวหา ผมลอยๆว่าผมไปด่าชาวบ้านเขา  ชิวิตผมไม่ว่างมาเล่นคอมทุกวันหรอก ถ้าจะเขาขอเขาบรอดทีชอบจริงๆไว้พักผ่อน จะไปนั้งปวดหัวเรืองไม่เป็นเรืองทำไม่ พอมันไม่ชอบมันก็โทษตู  พอไล่ว่าผมไปหมิ่นเขาตรงไหน ก็ไม่มีก็ไม่ตอบ "ถูกต้องหรือไม่รู้แต่ไม่ถูกใจ"  คุณไก่ ทุกคนมีสิทธิทีจะแสดงความคิดเห็ฯฯได้  แต่ทุกๆความคิดเห็นไม่มีใครทำให้ทุกคนถูกใจได้หมด ถ้ามันสวนกระแส่ ก็ไม่ต้องไปอ่านมัน หรือวิจาณมันกลับก็ได้ คุณมีสิทธอยู่แล้วนี้ อย่างกรณีบางเวปก็เคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้ว http://www.pantown.com/board.php?id=484&name=board2&area=1 พอจับได้ว่าใคร แล้วมันไอ้ทีว่าผมมันก็หายไปไม่พูดลืมมันซะลบมันทิ้งไม่รู้ไม่ชี้  ไม่รับผิดชอบอะไรเลยไม่ชดเชย และมีเจตณาอย่างชัดเจนว่าจะไม่แก้ข้าว  คุณไก้ บ้านคุณจะเอาอะไรกับผมเหรอ  ความจริง หรือความพอใจ!! อย่างหลังผมคงไม่มีให้ ผมมาออกความคิดเห็น ไม่ได้มาเล่นลิเก ถ้าความคิดเห็นผมดีก็เก็บคิด พิจาณา  ไม่ต้องเอาไปทุกอย่างหรอก ถ้าไม่ชอบก็ลืมมันซะ  ปล่อยให้ไอ้นี้มันบ้าไปอยู่คนเดียว หนักๆเขาเดียวพันทิพย์ก็ยึด ล็อกอิ้นมันเองและ   เอา!?คนเกลียดมันมากนี้  ผมก็รอเมือไรมันจะยึดผมซะที่!! ถ้าไม่มี ไม่แน่ใจว่าไม่ใช้ผม กรุณาขอโทษผมด้วยคุณนะมีสิทธโดนฟ้องนะครับ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 50 09:49:42 แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 50 08:42:44 แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 50 08:30:46 แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 50 08:17:29 จากคุณ : win_mma - [ 28 ส.ค. 50 07:32:18 ]

ความคิดเห็นที่ 105 . สวัสดีครับ คุณไก่บ้าน ครับ ...ส่วนเว๊ปของคุณพลายทมิฬ ผมไม่ออกความเห็นครับ ไม่ทราบรายละเอียดมากนัก.. ถ้าคุณต้องการออกความเห็น กรุณาตั้งกระทู้ใหม่ เถอะครับ เมื่อคุณต้องการให้สามัคคี ผมเห็นว่า  ...รดน้ำ น่าจะดีกว่า ก่อไฟ ครับ... จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 28 ส.ค. 50 12:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ยอมรับเลยว่ายังไม่ได้ดูเลยครับคุณพลายทมิฬ ผมเข้าใจเรื่องที่คุณรักมวยไทยสงสัย และก็เข้าใจด้วยตนเองว่าคุณรักมวยไทยมีอคติอยู่ ก็จากความเห็นอื่นๆ ของคุณรักมวยไทยเอง ผมก็เลยสรุปเข้าไปด้วยซะเองเลย ว่าในส่วนของข้อข้องใจนั้น ที่เจ้าของกระทู้ตั้งไว้ ชัดเจนครับว่ามาจากการแสดงความเห็นในที่นี้กันมาโดยตลอด และความเห็นส่วนตัวผมนั้นมองว่า เพราะความสงสัยนั้นเกิดจากการยึดถือในข้อสรุปหนึ่ง จึงเกิดความสงสัยขึ้นเมื่อมีเหตุที่ต่างจากข้อสรุปนั้น "แม่ไม้มวยไทยมาตรฐาน" คืออะไร ใครกำหนด และจากสาเหตุอันใด บางทีอาจเกิดมาจากการพยายามรวบรวมวิชามวยไทยให้เป็นมาตรฐานสำหรับศึกษาอ้างอิง ซึ่งก็คงทำมาจากหน่วยงานรัฐนั่นเอง แต่การจัดทำนั้นเอาข้อมูลมาจากที่ใดบ้าง ผู้จัดทำเข้าถึงมวยไทยทุกรูปแบบแล้วหรือ ถ้านำมาจากมวยไทยปัจจุบัน ก็เอวังครับ แน่ล่ะย่อมต้องมีข้อมูลจากประวัติศาสตร์ เช่นภาพลายเส้นแม่ไม้ลูกไม้มวยไทยสมัย ร.3 ด้วย แต่ใครเป็นคนมาสรุปล่ะว่านั่นมาตรฐาน ก็มีคำถามเพิ่มว่ามาตรฐานสำหรับอะไร เมื่อยึดมาตรฐานดังกล่าวเป็นสรณะแล้ว ก็จะสงสัยทันทีว่าทำไมครูมวยไทยเวทีจึงสอนข้ามค่ายได้ไม่เห็นมีปัญหา (ก็เพราะมีมาตรฐานเดียวไงครับ) แต่ทำไมมวยไทยโบราณจึงขัดแย้ง (เพราะไม่ได้ถูกครอบโดยมาตรฐานนั้น และยังไม่รู้จักมวยไทยโบราณไงครับ) ที่สำคัญมาสรุปเอาเหมือนกับว่ามวยไทยโบราณขัดแย้งกัน เพียงจากความเห็นในที่นี้ ที่เจ้าของกระทู้ก็ย้ำเหลือเกินว่าน่าจะไม่เกี่ยวกับครูผุ้สอน ผมจึงว่ามีทางเดียวที่คุณรักมวยไทยจะเข้าใจได้ ก็คือหาเวลาพบปะพูดคุยกับครูมวยไทยโบราณดู ใหนก็รักมวยไทยแล้ว ก็น่าจะศึกษารากเหง้าของมวยไทยให้ความรักมวยไทยนั้นมีมิติมากขึ้น จากคุณ : เฮ้อ - [ 28 ส.ค. 50 15:24:41 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 107 ความจริงก็ได้บอกว่าจะเลิกตอบในกระทู้นี้แล้ว  แต่มีความเห็นเข้ามากล่าวถึงผมไม่หยุด  เลยต้องเข้ามาให้ความกระจ่างต่อท่านผู้อื่นที่เข้ามาอ่านครับ  ผมไม่เคยมีความคิดที่เป็นอคติต่อมวยโบราณ  ไม่ว่าจะเป็นสายใหนก็ตาม รวมถึงมวยไชยาด้วยครับ อันนี้ยืนยันได้ แต่มีความเป็นอคติอย่างมากต่อนักเรียนมวยสำนักครูแปรง(ไม่ทุกฅน)  เช่นคุณเฮ้อนี่  เพราะคุณเฮ้อมักจะสรุปดูถูกมวยเวที "แม่ไม้มวยไทยมาตรฐาน" คืออะไร ใครกำหนด และจากสาเหตุอันใด ถ้าได้ดูตามสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์ต่างๆของหน่วยราชการ โดยเฉพาะสถานศึกษา ที่มีการกล่าวถึงแม่ไม้มวยไทย  จะเห็นเหมือนกันว่าท่ามวยแม่ไม้และลูกไม้มีชื่ออะไร  ลักษณะของการกระทำเป็นเข่นไร  สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษ์และเป็นที่ยอมรับคือ  ชื่อจะคล้องจองกัน  ชื่อแม่ไม้มวยไทยเหล่านี้  เป็นที่ยอมรับของฅนไทยทั่วไปแม้กระทั่งที่อยู่นอกวงการหมัดมวย  เช่นจรเข้ฟาดหางหรือฤาษีบดยา ที่สำคัญมาสรุปเอาเหมือนกับว่ามวยไทยโบราณขัดแย้งกัน ผมไม่ได้สรุป  คุณเฮ้อสรุปเอง  อย่ามั่ว  ผมถามว่ามวยไชยาที่มีหลายสำนักทำการสอน  มีการสอนในแนวเดียวกันหรือเปล่า?  ซึ่งก็ได้รับตอบว่าไม่ได้มีแนวเดียวกัน  เพราะครูได้รับวิชามาไม่เท่ากัน ข้อแรก มวยไชยาไม่ใช่มวยโบราณทั้งหมดครับ  เคยมีฅนแย้งมาก็หลายครั้ง  คุณเฮ้อก็ยังตะแบงเช่นเดิม ข้อสอง มวยไทยเวที  ไม่ได้เกี่ยวกับแม่ไม้มวยไทยมาตรฐาน  ครูมวยไทยเวทีหลายท่านรู้จักไม้มวยไทยมาตรฐานดี  แต่การสอนมวยไทยเวทีไม่ได้ยึดถือไม้มวยไทยมาตรฐานเป็นหลักครับ  อย่านำมาโยง แต่ทำไมมวยไทยโบราณจึงขัดแย้ง (เพราะไม่ได้ถูกครอบโดยมาตรฐานนั้น และยังไม่รู้จักมวยไทยโบราณไงครับ) อ่านแล้วงง  แต่ที่ทำให้ยิ่งงงคือ มวยไชยาทุกสำนักต่างก็เริ่มมาจากครูท่านเดียวกัน ที่มีการกล่าวว่าได้รับวิชามาไม่เท่ากัน  การสอนจึงต่างแนวกันออกไป  อันนี้ไม่น่าจะใช่เหตุผล เพราะทุกสาขาวิชา  ครูที่สอนก็มัวิชาความรู้หรือความสามารถไม่เท่ากันอยู่แล้ว  การสอนก็ยังใช้หลักสูตรหรือแนวเดียวกันได้  แต่น่าจะเป็นเพราะครูมวยไชยาบางฅนมีอคติ ถือทิฐิว่ารู้มากกว่าอีกฅน  หรือเป็นเพราะว่าผลประโยชน์ขัดกัน?  นอกจากที่ออกมายอมรับว่าการสอนถือแนวไม่เหมือนกันแล้ว  ยังมีการโจมตีระหว่างแต่ละสำนักของมวยไชยาให้เห็นบนกระดานนี้  คุณเฮ้อลองบอกสิครับว่า  ใครกันแน่ที่มีอคติ  และคุณเฮ้อเองก็ไม่รู้จักมวยไทยเวที  ถึงกับเอาไม้มวยไทยมาตรฐานมาโยงกับมวยไทยเวที  ใครกันครับที่อคติ  อย่างไรก็ดีเรื่องที่นำมากล่าวว่าผมนั้น  ก็เรื่องสามวาสองศอกเช่นเดิม  เพราะกระทู้นี่เริ่มต้นที่ขอให้นักเรียนมวยสำนักครูแปรง เมื่อมีการกล่าวถึงไม้มวย  ให้ระบุด้วยว่าไม้มวยที่กล่าวถึง  เป็นไม้มวยมาตรฐาน  หรือไม้มวยครูแปรง  ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสับสน  แต่การตอบมีการแขวะกลับ  ผมก็เตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า  ถ้าแขวะมาแล้วจะโดนแขวะกลับ  จะเสียหายหนักครับ  ถ้ายุติเสีย  ก็จะไม่ทำให้พวกคุณต้องเจ็บ จากคุณ : รักมวยไทย - [ 28 ส.ค. 50 21:56:37 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ขอตอบเรื่องคุณวินแล้วกันนะครับ เอ่อ ในบอร์ดมวยโบราณบอร์ดนั้น เค้าเขียนเรื่องนายไร้นามเนี่ย ตั้งแต่ปี 46 แล้วนะครับ เกี่ยวอะไรกันกับคุณวินหรือครับ งงๆ แล้วนายไร้นามเนี่ย เราก็พอรู้ตัวตั้งแต่เค้ามาเขียนโพสในบอร์ดนั้นแรกๆแล้วครับ เพราะลักษณะการเขียนแล้วก็ที่อยู่คอมพิวเตอร์ที่ตรวจสอบไปตอนแรกนั้นก็บ่งบอกแล้วว่าเค้าเป็นใคร ก็เลยไม่ได้สงสัยคนอื่นครับ เลยงงว่าที่เอามาลงนั้นเพื่ออะไรหรือครับ เรื่องคุณรักมวยไทย ผมก็ตอบส่วนใหญ่ไปแล้วแต่ในส่วนเรื่องการเรียนการสอน หรือ ลูกไม้แต่ละสำนักไม่เหมือนกันนั้น ผมว่าลองค้นหาเวปไซต์มวยไชยาของสำนักอื่นอย่างเช่น บ้านช่างไทย หรือ ของอาจารย์ภูวศักดิ์แล้วลองเปรียบเทียบดูครับว่ามีของสำนักใดเหมือนกันหรือไม่ หรือไม่งั้นลองเอาหนังสือที่มีในปัจจุบันมาลองเทียบกันดูสิครับว่ามันแตกต่างกันแค่ไหน มาตฐานนะ ผมก็ยังสงสัยว่า กำหนดจากอะไรครับ ถ้าเอามวยไทยปัจจุบันมากำหนด แล้ว ลูกไม้ ของมวยไชยา มวยลพบุรี มวยท่าเสา มวยโคราช ที่ท่าทางชื่อเรียกแตกต่างไปมันก็ไม่ใช่ของมาตฐานนั้นใช่มั้ยครับ แล้วมวยไชยา เป็นมวยไทยหรือเปล่าครับ - - ลูกไม้ที่คิดค้นโดยผู้ฝึกมวยไชยา จะนับว่าเป็นลูกไม้มวยไทยได้มั้ยครับ จากคุณ : EZ2DJ - [ 28 ส.ค. 50 22:40:33 ]

ความคิดเห็นที่ 109 (ท่าไม่ท่วงแรงก็คงเงียบๆไปแล้ว)ถ้าผมไม่ท่วงแรงว่า เป็นหมาหัวเน่า งั้นครูแหลมจะมาขอโทษผมทำไม่ ครับ  ก็มันพาดพิ่งมาถึงผมเว้ย!!! ผมด่ากับไอ้คนพวกนี้มันเงียบชี่เลยไม่เถียงผมสักคำ  ไอ้กระทู้พวกนั้นทำไมไม่เก็บไว้และคับ จะได้ประจานความมั้วนิ้มของพวกคุณ ใครอ่านก็คิดว่าเป็นผมทั้งนั้น   คู่กรณีของคุณนะเป็นขอต่อลิ้งประจานผมเอง  โอ้ยต้อนนันนะสนิทแนบแน่นไม่เหมือนต่อนนี้หรอก           แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นผมยกโทษให้ไปแล้วไม่ต้องมายกพ่านมาขมาผมหรอก ผมกรวยดน้ำอุทิศส่วนกุศล ไปเรียบร้อย ผมไม่ทราบว่าพวกคุณสูงสงแค่ไหน แต่ผมไม่อยากอยู่ระดับเดียวกับคุณ ok ไหมคับ แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 50 08:12:59 จากคุณ : win_mma - [ 29 ส.ค. 50 08:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 110 แหม คุณรักมวยไทย มีทั้ง "มั่ว" มีทั้ง "ตะแบง" "แขวะ" เชียว ประเด็นที่คุณสงสัยมันก็เหมือนเดิมคือการยึดกับ ไม้มวยมาตรฐาน ที่รัฐหรือกลุ่มองค์กรปัจจุบันกำหนด ผมว่ามันตลกมาก ที่มวยไทยมีมาตั้งนาน แต่พอยุคสมัยนี้ มีกลุ่มคนที่รู้จักมวยไทยเพียงลักษณะมวยไทยเวที มวยไทยอาชีพ ก็มากำหนดไว้ว่าท่ามวยไทยมาตรฐาน ต้องมีชื่ออย่างนั้นอย่างนี้ ของอื่นที่ไม่เป็นไปตามกำหนดก็บอกว่าไม่ถูก ที่เรียกว่ามวยไทยโบราณ ก็เพียงต้องการเรียกเพื่อใช้ในการแสดงความเห็นเท่านั้น จะเรียกมวยไทยไชยา ก็จะไม่รวมถึงมวยไทยสายอื่นไปเสีย และไม่ใช่ว่าพอเป็นมวยโบราณแล้วก็ไม่มีการพัฒนา ผมน่ะปักหลักมั่นคงมานานแล้วว่า ไม่อยากให้มวยไทยเป็นเหมือนดนตรีไทย ที่พอถูกเรียกว่าเพลงไทยเดิมเพื่อให้ต่างจากเพลงไทยยุคหลัง กลายเป็นเกิดการอนุรักษ์ และหยุดการพัฒนาเพลงไทยแต่โบราณ และเครื่องดนตรีไทยไประยะหนึ่งเลย ซึ่งการที่มวยไทยโบราณแต่ละสายมีการพัฒนามาโดยตลอด ความแตกต่างย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่การสรุปว่าเพราะครูมวยบางคนมีอคตินั้น ก็จะง่ายไปครับ (เหมือนคุณรักมวยไทยได้คลุกคลีตีโมงกันมางั้นล่ะ) ผมว่าตั้งแต่โบราณมา ความคิดที่ว่ามวยของตนดีกว่าคนอื่นมีกันทั้งนั้นแหละ มันอยู่ที่ว่าพอมีการประลองกันแล้ว เขาก็ยอมรับกัน หรือไม่ยอมรับ แต่ก็พัฒนาปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอยู่ดี ก็มียุคสมัยหลังนี่ล่ะที่มีข้อสันนิษฐานว่า เพราะมวยไทยถูกเปลี่ยนแปลงรูปแบบในจุดสำคัญทำให้ภาพมันกลายไป และองค์ความรู้ขาดหายไป (หากแม้นสังคมสยามในอดีตมีวัฒนธรรมการจดบันทึกเป็นล่ำเป็นสัน การณ์ก็อาจไม่เป็นเช่นนี้) เรื่องแขวะไปแขวะมานั่น มันไม่มีพวกใครพวกใหนหรอกครับ เป็นเรื่องความเห็นส่วนบุคคล ฝีมือหรืออายุการฝึก ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจธรรมได้ แต่ไม่ใช่ว่าดีหรือไม่ดี และที่ผมสังเกตดูน่ะ เรื่องการโจมตีระหว่างสำนักอะไรนั่นน่ะ มันเคยมีมาจริง แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราวต่อเนื่องในกระทู้บอร์ดนี้เท่าไรนัก ช่วงหลังแทบจะไม่มีเสียเลย ก็เห็นมีแต่คนนอกที่คอยปลุกผีขึ้นมาเล่นอยู่ได้ตลอด ไม่รู้ทำไมดิ สำหรับกระทู้เริ่มต้นที่ขอให้ผู้ฝึกมวยไทยไชยาบอกมาด้วยว่าไม้มวยมาตรฐานหรือไม้มวยไชยา ผมไม่เห็นความจำเป็นถึงขนาดนั้นเลย คนที่สับสนก็น่าจะเป็นคุณรักมวยไทยเสียส่วนใหญ่ งั้นยิ่งง่ายใหญ่ ก็ถามเขาดีดีก็ได้นี่ครับ ไม่ต้องทำเหมือนให้เขากำหนดมาเลยว่าไม้มวยไชยา หรือไม้มวยไชยาครูแปรง ผมก็บอกแล้วว่ามวยไทยไชยา หรือสายใดๆ หรือมวยไทยเวที ก็มวยไทยทั้งเพ อย่าทำให้การกำหนดมาตรฐานไม้มวยปัจจุบันมาทำให้ไม้มวยไทยโบราณกลายเป็นแปลกแยก อย่างน้อยผมก็คนนึงล่ะ ที่ไม่ยอมรับว่าไม้มวยมาตรฐานนั่น มันเป็นมาตรฐานจริงๆ เรื่องดูถูกมวยไทยน่ะ ถ้าจะจับให้ดูถูกจริงๆ ผมก็คงดูถูกพวกมีอำนาจในวงการนั่นแหละ แต่วิชามวยไทยเวทีนั่น ความรู้สึกคือไม่น่าเลย สับสน สงสัย สมเพศ (คำนี้จะมีปัญหามั้ยเนี่ย) ว่าวิชามวยไทยที่ผมรักทำไมถูกทำให้เป็นเช่นนี้ สำหรับค่ายมวยที่คุณรักมวยไทยมักแนะนำให้ไปฝึก ผมก็ไม่ได้ดูถูกอะไรเขาในการสอน แต่ผมเห็นว่าองค์ความรู้มันขาดไปด้วยเหตุปัจจัย ถ้ายังจะเหมาว่าดูถูกอยู่อีก ก็เอาเถอะ ผมรู้ใจผมดี แต่คนไทยยุคใหม่ต่างหากที่น่าห่วงเขาอาจจะดูถูกดูแคลนเอาได้ง่าย แค่นักพนันในเวที ตามหน้าจอตู้ ที่แสดงอาการกดดันกรรมการ กดดันนักมวย นั่นผมก็ว่ามันดูถูกวิชามวยไทยนักแล้ว เมื่อก่อนตอนได้เห็นหนังสือมวยไทยที่จัดพิมพ์โดย อะไรที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมเนี่ย ผมคิดไปเลยว่า นี่แหละขุมทรัพย์อันอำไพ แต่พอความสงสัยทำให้ใฝ่หา และได้รู้มากขึ้น ผมเห็นว่ายังมีขุมทรัพย์มวยไทยอีกมากมายที่หนังสือเล่มนั้นไม่มี และผมก็ได้พบว่าหนังสือเล่มนั้น หากอ้างเป็นไม้มวยมาตรฐานจะเป็นการครอบงำองค์ความรู้ที่มีอยู่ด้วยซ้ำไป จากคุณ : เฮ้อ - [ 29 ส.ค. 50 08:53:17 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 111 . สวัสดีครับ ....มาตราฐาน คือ สิ่งถือเอาเป็นหลักสำหรับเทียบกำหนด....   มาตราฐาน ..มวย... ก็คือลักษณะการต่อสู้ประเภทหนึ่ง ที่ใช้ หมัด เท้า เข่า และ ศอก เป็นอาวุธ อันลักษณะ การใช้ หรือที่เราใช้คำศัพท์ ต่าง ๆ อย่างเช่น แม่ไม้ ลูกไม้ กลมวย กลแก้มวย ท่ามวย ฯลฯ ที่บุคคลในสังคม มวย สามารถเข้าใจเป็นอย่างเดียวกัน หรือเรียกว่า เป็นสิ่งยึดถือทั่วไป นั่นเอง มาตราฐาน มวยไชยา หรือมวยไชยา ฯ ก็คือ ลักษณะการต่อสู้มวย ประเภทหนึ่ง ที่อาจคล้อยตาม มาตราฐาน สังคมมวย หรือเป็นมาตราฐาน ของสังคมไชยา ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่ระบุ หรือค้นคิดมาใช้ เฉพาะใน สังคมไชยา แตกต่างกับ ของสังคมมวยทั่วไป สิ่งเหล่านี้ ถือว่า มิใช่มาตราฐานมวย หรือสังคมมวย ครับ ใน เมื่อ สังคมมวยไชยา เป็นมาตราฐานที่กำเนิดหลัง สังคมมวยทั่วไป การใช้ชื่อเหมือนกัน แต่แปลไปอย่างอื่น จะให้ สังคมมวยทั่วไป ยอมรับว่าอยู่ในมาตราฐานไม่ได้ และยังเป็นการไม่สมควรอีกด้วย ครับ อย่างเช่น การใช้คำว่า ....มวยไชยาคือมวยโบราณ.... เป็นคำไม่สมควรหรือไม่เป็นมาตราฐาน ๆ ก็คือ ...มวย ไชยา มวยลพบุรี มวยท่าเสา หรือ มวยโคราช ต่าง ก็คือมวยโบราณสายหนึ่งเท่านั้น.... ครับ และลูกไม้ที่คิดค้น โดยผู้ฝึกมวยไชยา จะนับเป็นลูกไม้มวยไชยาเท่านั้น แต่มิใช่ลูกไม้มวยมาตราฐาน ครับ จะเป็นลูกไม้มวย มาตราฐานได้ ก็ต่อเมื่อสังคมมวยทั่วไปยอมรับนำเอาไปใช้ เท่านั้น แหละครับ ผมมองว่า มวยไชยา มีพื้นฐานมาจาก มวยมาตราฐาน ที่ประยุกต์จนออกนอก ลักษณะมวยมาตราฐาน ไปเป็น มวยประเภทจำเพาะ ของสังคมไชยา ขึ้นมา มวยไชยา ก็มิใช่ มวยโบราณ  อีกเช่นกัน มวยโบราณ คือมวยที่มี ลักษณะต่อสู้มาแต่อดีตกาล ที่ปัจจุบันไม่อยู่ ในสังคมนิยม หรือเรียกว่า ตามกฎิกา มวยมาตราฐานปัจจุบัน ถูกห้ามใช้ แต่มิใช่ ลักษณะท่ามวย ที่ประยุกต์ ขึ้นมาใหม่ พร้อมไม่เคยมีประวัติการใช้ใน มวยมาตราฐานมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ครับ การเอาสิ่งที่เกิดใน ปัจจุบัน มาอ้างว่า เป็นโบราณ จะเป็นไปได้อย่างไร ครับ อย่างมากก็จะบอกได้เพียงว่า มีรกรากถ่ายทอด และ ประยุกต์ มาจาก มวยโบราณ เท่านั้นแหละ ครับ สิ่งที่ผมอ้าง ก็คือมาตราฐาน ของการใช้ภาษาไทย แต่ก็มิใช่ มาตราฐานภาษาไทยไชยา ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 29 ส.ค. 50 09:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 112 คำว่ามาตรฐานนี่ล่ะครับ ที่เป็นปัญหา ผมเข้าใจความเห็นของคุณพลายทมิฬ แต่ที่ยังคงข้องใจคือ ใครกำหนดให้เป็นมาตรฐาน ถ้าบอกว่าสังคมสมัยนี้ยอมรับ ก็มีข้อแย้งว่า แล้วคนในสังคมนี้รับรู้เพียงใดเกี่ยวกับที่มาของมวยไทย มิฉะนั้นจะกลายเป็นว่ารัฐ หรือองค์กรใดกำหนดขึ่นมา ก็จะเหมารวมไปหมด โดยไม่รู้เลยว่ามาตรฐานนั้นชอบหรือไม่ (สังคมไทยและสังคมโลกมักเป็นเช่นนี้ แต่ในสังคมประเทศที่มีการศึกษาวิเคราะห์จะมีคนแย้ง และไม่ยอมรับได้เสมอ) อย่างน้อยคนในสังคมมวยก็ไม่ได้มีเพียงแค่มวยไทยตลาด (มวยไทยเวที) เท่านั้น มาตรฐานมวยไทยตลาด ก็ไม่ได้มีกฎหมายกำหนดไว้ให้เรียกตาม มันเป็นสิ่งที่กลุ่มคนในสังคมมวยตลาดใช้เรียกกัน โดยมีการอุปโลกจากหน่วยงานรัฐมารับรองทางอ้อม ดังนั้น หากมีกลุ่มคนที่ไม่ยอมรับกติกานั้น ก็ย่อมทำได้ (โดยเฉพาะในความคิดผม มองว่ามวยไทยตลาดขาดองค์ความรู้ ผมจึงไม่เห็นความสำคัญของมาตรฐานภาษาแม่ไม้มวยไทยนั้น) มวยไทยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาแต่ละสายมีเอกลักษณ์ของตนเอง แม้แต่อำนาจของพระเจ้าแผ่นดินยังไม่มาแตะด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่มวยในวังใช้เรียกกัน แต่ก็ไม่หมายความว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น เมื่อมันเผยแพร่ออกไปก็อาจมีชื่อเรียกไปตามภูมิปัญญาเฉพาะบุคคล ผมสงสัยว่าก่อนจัดทำมาตรฐานชื่อไม้มวย ผู้จัดทำได้เคยศึกษาและรู้จักเข้าใจมวยไทยตั้งแต่อดีตเพียงใด จุดประสงค์การอธิบายยืดยาว (เพราะสรุปไม่เก่ง) เพื่อจะให้เห็นว่า ยอมรับเป็นมาตรฐานได้แน่หรือ และแม้จะกำหนดเป็นมาตรฐานมาก่อน แต่เมื่อมีข้อมูลอื่นโผล่ขึ้นมา จะทำให้ความเชื่อถือหรือยืดหยุ่นของมาตรฐานที่กำหนดไว้สั่นคลอนได้หรือไม่ มวยไทยไชยา หรือมวยไทยสายอื่นๆ ย่อมมีชื่อเรียกเฉพาะตัวของแต่ละสายมวยได้ โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนกับมาตรฐานมวยตลาดด้วยซ้ำ นั่นปล่อยให้เป็นปัญหาของคนทำวิจัย ทำปริญญาแล้วกันว่าจะหามาตรฐานใดมากำหนด เคยมีคนให้ความเห็นไปแล้วว่า ที่เรียกมวยโบราณ ไม่ได้หมายว่ามันโบราณ เพียงแค่เรียกเพื่อแยกระหว่างมวยเวทีกับไม่เวทีเท่านั้นเอง ซึ่งเขาก็รู้กันอยู่เองว่ามวยไทยไชยามันก็พัฒนาของมันเองไปตามวิถีของผู้ฝึก และเรียนไม่รู้จบ แม้แต่มวยไทยตลาดเองก็มีทางเรียนไม่รู้จบเหมือนกัน ยิ่งหากได้ประลองกับศิลปการต่อสู้อื่นๆ ก็ยิ่งต่อยอดได้เรื่อยๆ อาจจะยากหน่อยหากผู้ที่เรียนมวยแล้วจำกัดแนวทางมวยตนเองไว้แน่นอน (เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ และไปฝืนมัน) ถูกต้องมวยไทยไชยาไม่ใช่มวยโบราณแน่นอน (มีมาแต่โบราณ) เพราะมันไม่เคยหยุดนิ่ง มันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ต่อให้ครูมวย ค่ายมวยไม่ถูกกัน ไม่สามัคคีกัน มันก็สามารถเติบโตไปของมันเองได้ การแตกต่างของท่วงท่า ของชื่อ ในมวยแต่ละสาย นั่นคือสิ่งธรรมดา ไม่แปลกอะไรเลย และบางทีที่ว่าแปลกแยกนั่นก็คือมาตรฐานมวยไทยในปัจจุบันของคนกลุ่มเดียวนั่นเอง จากคุณ : เฮ้อ - [ 29 ส.ค. 50 15:02:51 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 113 กระทู้ยืดยาวไปทุกที ที่คุยกันวนไปมาก็แค่มาตรฐานกับไม่มาตรฐาน พอตอบไปแล้วก็วนมาถามใหม่ วิจารย์เขาได้พอถูกวิจารย์บ้างกลับฉุนขาด ทำตัวเป็นยอดอาจารย์มาโปรด ที่จริงเหน็บเขาว่าเขาตลอด นี่ตกลงจะให้ทุกมวยเป็นมวยจากบรรพบุรุษบรรพสตรีไทยไปหมดเลยหรือไง ถึงจะได้ไม่ถูกแตะต้องครับ สงสัย 00000000000000000000 แล้วเข้าใจใช้คำนะครับ -สุนัขสามัคคี- ผมว่าผมเคยเห็นแถวๆนี่แหละ ตอนที่นัดกันว่าจะไปถ่ายคลิปพวก5รุม1 ไปก็ไม่เห็นมี ต่างคนต่างแย่งกันโชว์ตัว ขัดกันก็มีทั้งที่เขาให้แนะนำตัว แบบนี้ที่บ้านผมเรียก ขี้โม้ ครับ ว่าจะไม่ยุ่งแล้วอดไม่ได้ จากคุณ : ธาตุไม้ - [ 29 ส.ค. 50 18:13:49 ]

ความคิดเห็นที่ 114 . สวัสดีครับ คห ของคุณธาตุไม้ ....ตอนที่นัดกันว่าจะไปถ่ายคลิปพวก5รุม1 ไปก็ไม่เห็นมี... อันนี้กรุณาอธิบายให้ชัดด้วยครับ ว่า ใครเป็นผู้นัดแนะกับใคร ? ไม่ควรพูดลอย ๆ จะเข้าใจผิดได้ ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 29 ส.ค. 50 19:28:25 ]

ความคิดเห็นที่ 115 . สวัสดีครับ การให้ คห ในกระทู้ ทุกคนอ่านและมอง เนื้อหาและบทความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ ทั้งหมดนี้ เป็นความรู้อย่างหนึ่งกับทุกคน อันถ้าไม่มีกระทู้เช่นนี้ ก็จะไม่มีโอกาสได้รับ ครับ คำว่า ...มาตราฐาน... ถ้าจะมองถึงต้นกำเนิด ก็สามารถเรียกได้ว่า ว่าคือ .....ขอบเขตุธรรมชาติของสิ่งปรากฎ นั้นๆ... และจะแบ่งระหว่าง ....มาตราฐานแน่นอน กับ มาตราฐานนิยมรับรอง.... นั่นเอง อย่างเช่น การเป็น มนุษย์ คือลักษณะ หลับนอน รับประทาน ขับถ่าย และสืบพันธ์ จะเป็นลักษณะเดียวกันแต่ดึกดำบรรณ์จนถึง ปัจจุบัน อันหมายถึงเป็น มาตราฐานแน่นอน โดยธรรมชาติของการเป็นมนุษย์ เป็นผู้กำหนด เช่นเดียวกันกับ ลักษณะการใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก เป็นอาวุธต่อสู้ ผู้ที่ให้เป็นกำหนด ก็คือธรรมชาติของ มวย นั่นเอง ส่วนมาตราฐานนิยมรับรอง ก็คือการยึดถือในสิ่งที่เป็นไปได้ ที่อยู่ในขอบเขตุภายใน ของมาตราฐานแน่นอน อย่างเช่น นั่งหลับ ยืนหลับ ฯลฯ เป็นต้น หรือ ลักษณะ ใช้หมัดตรง หมัดโค้ง หมัดผสม ฯลฯ อันอยู่ในธรรม ชาติ ของมวย นั่นเอง ผู้ยึดถือก็คือผู้นิยมรับรองให้เป็นไปได้ หรือ ก็คือ ผู้กำหนดให้เป็น มาตราฐาน นั่นเอง ในเมื่อ ลักษณะการต่อสู้ โดยจับล๊อก ทุ่มเหวี่ยง ฯลฯ อันอยู่นอกกับ การเป็นธรรมชาติของ ..มวย... ถึงแม้ว่า จะเป็นไปได้ ตามธรรมชาติของมนุษย์ ก็ตาม แต่ก็จะอยู่นอก มาตราฐานมวย นั่นเองครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 29 ส.ค. 50 20:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 116 เอ่อ งั้นมาตราฐานที่ท่านกล่าวถึง กับการเกินธรรมชาติเนี่ยผมเห็นในคลิีปเพียบเลยครับ  แต่ผมไม่สงสัยหรอกครับ เพราะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร จากคุณ : j thailandfight (j thailandfight) - [ 29 ส.ค. 50 23:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คนร่ำเรียนสายไชยา มิได้มีแค่สายครูแปรง คุณพลายทมิฬไม่พอใจใครเป็นยส่วนตัว ก็ได้โปรดอย่าเหมารวมวิชาของคนอื่นเลย เพราะยิ่งอ่านยิ่งเห็นว่า คุณพลายทมิฬพนายามจะวิเคราะห์จากมุมมองของคุณเท่านั้น หาเปิดตายอมมองจากมุมอื่นบ้าง ส่วนวิชาใครจะมาตรฐาน ไม่มาตรฐาน ไม่เห็นจะสำคัญแต่อย่างใด ตราบเท่าที่มีผู้รักษาไว้ จะมากน้อย ผิดถูกก็ย่อมเปลี่ยนไปตามวัฏ หรือคุณจะกล้าพูดว่า วิชาของคุณวันนี้ กับเมื่อหลายร้อยปีก่อนเหมือนกันมิได้ผิดเพี้ยนแม้สักเสี้ยวเดียว สิ่งใดมีการถ่ายทอด ย่อมมีการบิดเบือน สาบสูญ เป็นธรรมดา โตๆ แก่ๆกันแล้ว ปลงๆบ้างเถอะ ยึดมั่นถือมั่น มันหนัก จากคุณ : วางมันเถอะ - [ 30 ส.ค. 50 03:09:01 A:124.121.25.16 X: TicketID:123364 ]

ความคิดเห็นที่ 118 . สวัสดีครับ จากกระทู้ บทความสนทนา ผู้ร่วมสนทนา รวมทั้งกรณีย์ ที่พาดพึง หรือข้อมูลที่อ้างถึง ผมมีความ เข้าใจว่า ...มวยไชยา หมายถึงมวยไชยาสายครูแปรง... แต่เนื่องผมพยายามจะไม่อ้างตัวบุคคล ที่มิได้ เข้าร่วม สนทนาโดยตรง ก็พยายามที่จะไม่อ้างซ้ำซาก ครับ ในกรณีย์ แย้งจาก คห ของคุณ วางฯ ผมมองไม่เห็นครับ ขออภัยครับ ผมมิได้วิเคราะห์ แต่ผมให้ ...ความเห็นจากมุมมองของผม.... คุณก็สามารถทำได้มิใช่หรือ ครับ และถ้าคุณต้องการให้ผมยอมมองในมุมอื่นๆ ทำใมไม่ใช้ ...เหตุผล... มาแนะนำล๊ะ ครับ คุณอ้างว่าผม ..เหมา รวมวิชาคนอื่น.. แต่ไม่ระบุแน่ชัดว่า ด้วยเหตุใดคุณถึงมองเช่นนี้ ถ้าผมเป็นคุณ ๆ จะรู้สึกอย่างไร ? ครับ เรื่อง มาตราฐาน ผมให้ คห ตามที่เป็นคำถามในกระทู้ ในฐานะผู้ร่วมสนทนา แต่มิใช่เป็นการพิจารณาตัดสิน ถ้าคุณเห็นเป็นอย่างอื่น ก็ควรให้ คห ที่เป็นความรู้สึกเข้าใจ ของตัวคุณเอง อันก็เป็นคำตอบอีกอันหนึ่ง ขึ้นมา ครับ ส่วน คห ใด ของใคร จะถูกหรือผิด สมควร ไม่สมควร อันนี้ขึ้นอยู่กับผู้อ่านแต่ล๊ะคน ครับ การที่คุณ อ้าง   ....โตๆ แก่ๆกันแล้ว ปลงๆบ้างเถอะ ยึดมั่นถือมั่น มันหนัก... ผมมองไม่เห็นว่าจะมีข้อ เกี่ยวข้องอย่างไร กับการให้ คห ของผม ถ้าคุณไม่ช่วยกรุณา ให้เหตุผลประกอบ ครับ สมมุติว่า จาก คห ของคุณ วางฯ ผมเข้าใจว่า ....คุณพยายามยุแหย่ให้ผมมีปัญหา กับมวยไชยาสายอื่น ๆ .....คุณจะกล้าพูดว่า วิชาของคุณวันนี้ กับเมื่อหลายร้อยปีก่อนเหมือนกันมิได้ผิดเพี้ยนแม้สักเสี้ยวเดียว... คุณพยายามให้คนที่อ่าน มองว่า ...การที่ผมไปว่าชาวบ้านในสิ่งที่ตัวเองก็เป็นเช่นเดียวกัน.... ....โตๆ แก่ๆกันแล้ว ปลงๆบ้างเถอะ ยึดมั่นถือมั่น มันหนัก.... คุณพยายามจะบอกว่า ....คุญพูดเตือนในฐานะสมภาร หรือ เจ้าอาวาส กับผม.... สรุปก็คือ ....พลายทมิฬ ให้ คห เหลวใหล สมควรที่วางตัวให้สมกับ วัยวุฒิ.... หรือแท้ที่จริงก็คือ ...การ ปิดปาก และทำลายบุคคลิค ของ พลายทมิฬ... นั่นเอง .........ผมหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าคุณเข้าใจ กับ คห ของผมน๊ะครับ คุณ วางมันเถอะ...... ปล.  คุณไทยฯ ครับ ขอบใจที่บอกให้ทราบ ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 30 ส.ค. 50 09:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ก็เป็นซะแบบนี้ คิดเอง เออเองหมด ใครจะกล้าอธิบาย ผ่านๆไปถอะครับ ถือว่าผมไม่ได้พูด ผมไม่เก่งการชักโวหารแบบคุณครับ สวัสดี จากคุณ : เฮ้อ - [ 30 ส.ค. 50 10:21:42 A:124.121.25.16 X: TicketID:123364 ]

ความคิดเห็นที่ 120 สงสัยว่าทำไมการจับล๊อก ทุ่มเหวี่ยง จึงไม่เป็นธรรมชาติของมวยครับ ยังไม่เห็นเหตุผลเลยว่าไม่เป็นยังไง แต่ถ้าเพราะความเห็นในคำว่า มวย ของคุณพลายทมิฬ เท่านั้น ก็คงใช่ แต่คงมีคนทั่วโลกไม่ยอมรับแน่เลย ผมว่า ก๊อง คงไม่ใช่หมัด เท้า เข่า ศอก ต่อสู้กันเป็นหลักแน่ ผมว่าท่าน ก๊องในยุคดึกดำบรร คงจะนิยมการกอดปล้ำเสียมากกว่า มวยสากล เขาก็คงมองว่า มีเพียงต่อยหมัดเท่านั้นที่คือมวย ยูโดก็จะบอกว่าผิดธรรมชาตินะ ธรรมชาติมันต้องกอดปล้ำกันเป็นหลัก อ้าว มวยปล้ำอีกด้วยคนนะ งั้นก็ต้องไปดูความหมายของ มวย ก็มีความหมายเปิดกว้าง เช่นนี้แล้ว จึงไม่ใช่มาตรฐาน ยุคหนึ่งมวยไทยตลาดทำให้เกิดมาตรฐานขึ้นมา แต่ปัจจุบันองค์ความรู้ที่มวยไทยตลาดไม่รู้ได้ถูกนำเสนอต่อสังคม มาตรฐานดังกล่าว จึงไม่เป็นมาตรฐานไปโดยปริยาย น่าจะจบเรื่องหลักภาษากันได้แล้วนะครับ ต่อไปหากคนเรียนมายไทยสายต่างๆ เขาพูดถึงท่ามวยอย่างไรขึ้นมา คุณรักมวยไทยสงสัยก็สอบถามเขาว่ามันเป็นอย่างไร เหมือนอย่างนี้ไช่หรือไม่ พอเขาบอกแล้วก็รับรู้ แล้วอาจให้ความเห็นว่าท่านั้น มวยไทยตลาดเขาเรียกอย่างนั้นอย่างนี้ครับ มันก็จะเป็นการให้การยอมรับกันทุกฝ่าย ในเรื่องที่ไม่มีอะไรผิดถูก หากมีใครสงสัยเขาก็ต้องวิเคราะห์ข้อมูลที่อ่านเอาเองตามปัญญามนุษย์ที่ธรรมชาติให้ทุกคนมา มวยไทยจะได้เป็นมวยไทยที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงมวยเวที มวยโบราณ จากคุณ : เฮ้อ - [ 30 ส.ค. 50 11:25:37 A:203.146.11.154 X: TicketID:145175 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ฟ้องได้มั้ยครับเนี่ย... จากคุณ : งาสาน (งาสาน) - [ 30 ส.ค. 50 12:40:04 ]

ความคิดเห็นที่ 122 แล้วเข้าใจใช้คำนะครับ -สุนัขสามัคคี- ผมว่าผมเคยเห็นแถวๆนี่แหละ ตอนที่นัดกันว่าจะไปถ่ายคลิปพวก5รุม1 ไปก็ไม่เห็นมี ต่างคนต่างแย่งกันโชว์ตัว ขัดกันก็มีทั้งที่เขาให้แนะนำตัว แบบนี้ที่บ้านผมเรียก ขี้โม้ ครับ ว่าจะไม่ยุ่งแล้วอดไม่ได้ จากคุณ : ธาตุไม้ ----------------------------------------------------------------- ๕ รุม ๑ นี่ผมพูดเองครับ แต่มีปัญหารปภ.อย่างที่บอก คุณได้ไปหรือเปล่าครับ?   แย่งกันโชว์ตัว ผมไม่ได้รู้สึกงั้นนะ แต่ก็ดีกว่าคนที่ไปแล้วไม่อยากโชว์ตัวกลัวคนจะรู้จัก แล้วผมก็ไม่เจอคนถามว่าดาบแต้มมันใช้ได้หรือเปล่าสักคน เห็นในเวปวิจารณ์กันจัง จัดใหม่เอาไหมละครับคุณธาตุไม้? คุณเป็นเจ้าภาพก็ได้ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 30 ส.ค. 50 20:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 123 . สวัสดีครับ เราสนทนากันเรื่อง ...มาตราฐาน.... จนกระทั่งกรายเป็น ..คอก.. ที่ต่างอ้างอยู่ข้างนอก ข้างในกัน ผลที่สุดก็คือ ....ความเชื่อถือยอมรับส่วนบุคคล.... ที่เป็นแก่นอยู่ภายใน เท่านั้น ครับ คุณ เฮ้อ ครับ การสนทนาในบอร์ด คือการแรกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ ระหว่าง ผู้ร่วมสนทนา อัน ตัวกระ ทู้ เป็นจุดกลาง และผู้สนทนายืนอยู่รอบ อาจจะเป็นจุดเดียวกัน หรือ แตกต่างกัน ก็ได้ ส่วน คห ของแต่ล๊ะคน ก็คือ ผลของการมองในจุดยืนของตน กับสิ่งเดียวกัน สมมุติกันว่า ในกรณีย์ที่คุณ ยืนอยู่ด้านหน้า ผมยืนอยู่ ด้านหลัง ของพระประธาน ในวัดใดวัดหนึ่ง ก็จะเห็นว่า เราทั้งสอง จะมีผลการมองไม่เหมือนกัน พระประธาน ที่เราทั้งสอง ยืนมองเป็นเพียง ส่วนหนึ่ง ของทั้งหมด นั่นเอง หลักการสนทนา หรือให้ คห ก็คือ เรา ต่าง พยายามเอา ผลจากการมองเห็นของเราทั้งสอง มาแรกเปลี่ยนกัน เพื่อให้เราทั้งสองมีมุมมอง พระ ประธาน ได้ชัดเจนขึ้นนั่นเอง ครับ ปัญหาโต้ตอบ ที่มีอยู่ขณะนี้ มิใช่ว่าเราพยายามจะขยายมุมมอง .....พระประธาน.... ให้กว้างขึ้น จากการ ยอมรับ คห ต่าง ๆ ของผู้สนทนาด้วยกัน แต่พยายามให้ คนอื่นยอมรับว่า มุมมองของตน เป็นมุมมองที่ถูก ควร อันเสมือนให้มองแคบเฉพาะมุมเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ได้ ก็ต่างเกิดปัญหากับ อารมณ์ ของตัวเองและ สุดท้าย ก็คือ โทษะ ความหยิ่งในตัว ฯลฯ การแสดงต่อมา ก็จะเปลี่ยนไปเป็นการ สาดน้ำ ถูกใหมครับ ผมให้ คห และเหตุผล ของการมี คห เช่นนี้ เสมือนกับ ผมให้ผลของการมอง พระประธาน เป็น คห และ อธิบายเหตุผล ถึงการมอง จากจุดยืนของผม ให้ทราบ ครับ และเมื่อผมอธิบาย เช่นนี้ได้ แสดงว่า ผมเอง เข้าใจที่จะ ยินยอมรับฟัง ผลการมองของผู้ให้ คห ทุกคนอยู่แล้ว เพื่อขยายมุมมองของผมออกไป ปัญหา นั้นมีอยู่ว่า ถ้าผมทราบถึงผล ของมุมมอง จากผู้ให้ คห อื่นแต่ไม่ ทราบ ว่าเขายืนมองจากจุดใด หรือไม่ให้เหตุผลถึงการมอง อันผมก็พยายามสอบถาม นั่นเอง  ครับ ในกรณีย์ ที่บางคน ยืนอยู่หน้าพระประธาน แต่ผลการมอง เป็น คห ถึง ส่วนหลังพระประธาน เสมือนผู้ที่อ้าง ประสบการณ์ จริงที่ไม่ได้ประสพด้วยตนเอง เป็นต้น หรือ การให้ คห โดยไม่มีเหตุผลว่า ด้วยเหตุใดหรือมองจากจุดใด จะให้ผมรับว่าเป็น การขยายจุดมองได้อย่างไร ล๊ะครับ โดยเฉพาะกับ คห ลอยๆ อย่างเช่น ...ที่คุณมองนั้น ผิด... หรือ ...คุณเองก็มีข้อบกพร่อง ฯลฯ... เป็นต้น มันง่าย ครับ ถ้าผมจะบอกว่า ...ต่างคนต่างอยู่ ไม่น่ามาสนใจกับปัญหาเหล่านี้.... หมายถึง ..เอาตัวรอด.. ผลก็ คือ สิ่งที่บังเกิด ก่อนที่ผมจะเข้ามาพัวพัน อย่างที่บางคนเห็นทราบ ประมาณ ๑ ปีที่ผ่านมา ทดลองมองซิครับ ว่า ทุกคนที่ติดตาม รับรู้เห็นมีการเปลื่ยนแปลงตัวเอง และ รูปลักษณะสังคมในบอร์ด อย่างไรบ้าง อันนี้ คือ จุดประสงศ์ การมาที่บอร์ด ของผม ๆ ได้รับในสิ่งที่ผมต้องการ นั่นเอง ที่เป็นสาเหตุ ให้ผมมีพลังกาย และ พลังใจ กับการสนทนา ในบอร์ด ครับ ผู้ใดมอง หรือ มีจุดประสงศ์ เป็นอย่างอื่น เป็นสิ่งที่ ตัวของเขาเองจะ พิจารณาตัดสิน และมีปฎิกริยา เป็นส่วนตัวของเขา อันไม่อยู่ในขอบข่ายความสนใจของผม ครับ ผมเคยอ้างมาครั้งหนึ่งแล้ว ....ผมยินดีที่จะให้ในสิ่งที่ผมรู้ทราบทั้งหมด ตราบใดที่ขอบเขตุหรืออิสสระภาพ ที่ให้ผมใช้ชีวิตอย่างมนุษย์เดินดิน อย่างเช่น นั่งทานข้าวแกงข้างทางและขึ้นรถเมล์เบียดกับชาวบ้านได้ เป็น ต้น ไม่สูญสลายลงไป เท่านั้น ที่แน่นอนก็คือ  ........ผมพยายามที่จะส่งเสริมวิชาความรู้ของไทยในด้านนี้  แต่มิใช่ตัวของผมเอง ครับ....... จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 30 ส.ค. 50 21:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ออผมจำได้แล้ว คุณรักดาบไทยพูดเองไม่ใช่หรือวันนั้นนะว่า -ถ้าจะถ่ายคลิปต้องก็ต้องให้น้องสองคนนี่(เด็กที่มาเล่นดาบคู่กัน)ต้องซ้อมให้ดีกว่านี้ก่อนค่อยถ่าย- อันนี่รปภ.ไม่เกี่ยวเพราะกะจะไม่ถ่ายอยู่แย้ว จำได้ คิดว่าจะเล่นเอง พูดไว้ในบอร์ดเองนี่ครับ กลับไม่ทำไปโยนให้เด็กอย่างนี้ก็ไม่ควรครับ ที่พูดคุยกันก็มีคุณพลายผสมโรงไปด้วยนี่ถึงได้มีการนัดเจอกันว่าจะทำคลิปให้ดีกว่าที่พวกฝรั่งด่า อันนี่คุณพลายจะไม่รับผิดชอบด้วยก็ไม่ได้นะ ได้หน้าไปแล้วนี่ตอนพูดเขียนในบอร์ด แล้วยังไปเป็นหน้าม้าให้คุณพลายถ่ายวีดีโอด้วย ยังโทษตัวเองเลยว่าโง่จนทุกวันนี้ จากคุณ : ธาตุไม้ - [ 30 ส.ค. 50 21:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 125 . คุณธาตุไม้ ครับ จะให้ผมรับผิดชอบอะไร ครับ ? เรื่องการถ่ายวิดิโอ ของผม อันหนึ่ง ความมุ่งหวังของ น้องคนรักฯ ก็อีกอันหนึ่ง มิใช่อันเดียวกัน ครับ สอบ ถามและทบทวนข้อความในกระทู้ อีกทีครับ อีกอย่างในวิดิโอคุณมองเห็นความเป็นกลางใหม ครับ เป็นการ แสดงให้เห็นว่า เรามีสิ่งใดแต่มิใช่อันใหนเป็นของแท้ หรือดีเด่น แม้แต่ชื่อยังไม่ระบุเลย ถูกใหม ครับ แต่ถ้า สามารถนำเอา วิดิโอ มาเป็นคำตอบให้ กับ ฟรั่ง เพื่อเราทุกคน ทำใมเราจะไม่ทำล๊ะ ครับ ผมมิได้ ได้หน้า แต่ เราทุกคน ที่เข้าร่วมสามารถภูมิใจได้เสมอภาคกัน ครับ นอกจากผู้ที่ไม่มาร่วมช่วยแหละ ครับ ...ประเภทไม่ พายแต่เอาเท้าราน้ำ... ผมรักมากจริง ๆ ครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 30 ส.ค. 50 23:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ถ้าจะถ่ายคลิปต้องก็ต้องให้น้องสองคนนี่(เด็กที่มาเล่นดาบคู่กัน)ต้องซ้อมให้ดีกว่านี้ก่อนค่อยถ่าย --------------------------------------- ครับหมายถึงถ่ายไปให้ฝรั่งดูซึ่งต้องทำให้ดีที่สุดซึ่งมันดีกว่านั้นได้เยอะ แต่ก็ไม่ได้ห้ามถ่าย ใครถ่ายไว้จะเอามาลงวิจารณ์ก็ได้ครับ เรื่องคลิปเรื่องดาบสองมือห้ารุมหนึ่งนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ของคนฝึกดาบสองมือมานานๆอยู่แล้วครับ แต่การจัดคนลงรุมจะต้องจัดฝีมือให้เหมาะสม ซึ่งจะต้องตรวจสอบฝีมือคนที่ลงรุมก่อนว่าพอเป็นไปได้แค่ไหน ทั่วไปห้าคนนั้นก็ต้องฝีมือเป็นรองคนถูกรุมแต่ไม่อ่อนจนเกินไปจึงจะสู้กันได้ วันนั้นดาบเตรียมมาเยอะครับพร้อมใช้อยู่แล้วแต่เวลาก็ไม่พอที่จะทดสอบฝีมือคนที่มาร่วมงานแล้วครับ(ตอนที่ต้องเลิกนั้นบ่ายสองแล้ว) คนที่พอจะให้ถูกรุมในวันนั้นได้มีสามคน คุณลองจัดชุมนุมใหม่สิครับ ผมไม่ได้เก็บภาพหรือวีดีโอไว้เลย และคุณก็ไม่ได้ทำอะไรให้ใครดู ไม่มีใครได้หรือหาประโยชน์จากการมีภาพคุณติดกล้องไป จุดประสงค์ของงานก็เพื่อพบปะรู้จักกัน ใครมีความเห็นหรือความรู้อะไรจะเอามาแสดงก็ทำไป ใครที่จะดูจะถ่ายก็ทำไป อยากซักอยากถามอยากลองก็ทำได้ ผมก็ไม่เห็นว่าคนลงไปสาธิตจะได้ประโยชน์อะไรนักหนา ส่วนการที่ผมขอให้บางคนที่ร่วมงานนำภาพมาลงก็เพราะเห็นว่าเป็นงานของส่วนรวม ผมไม่ได้คิดว่าใครจะได้อะไร และไม่คิดว่าคนที่ทำอะไรไปจะคิดว่าทำเสียเปล่าหรือทำฟรีไม่ได้อะไร ถ้าคิดเช่นนั้นผมก็เสียใจด้วย ส่วนคุณจะคิดว่าโง่ที่ไปนั้นก็แล้วแต่คุณ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 50 07:40:24 แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 50 07:33:08 จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 31 ส.ค. 50 07:30:50 ]

ความคิดเห็นที่ 127 เมื่อคืนไปงานคอนเสริต์มา ฟังเพลงนี้แล้วชอบมาก อยากให้ฟังกันแล้วคิดกันว่า เรามีวิถีทางของตัวเอง เลิกทะเลาะกันแล้วก็ทำงานกันไปตามวิถีทางเราดีกว่ามั้ยครับ แล้วก็ดูผลงานกันดีกว่าครับ ไปทำงานละครับ http://www.ethaimusic.com/lyrics5/891.html วิถีทาง - Ebola คนต่างคน ก็ใจต่างกัน ก็ใฝ่ก็ฝัน กันเรื่อยไป หนทาง เลวหรือดี ตัดสินกันทุกที วัดกันยังไง แค่ศรัทธา ที่เราต่างกัน จุดยืนที่ฉันไม่เหมือนใคร อย่าโกรธฉัน ที่ไม่คิด อย่างเธอฝัน อยากให้ลองเข้าใจ I did it my way ก็ไม่มีใครรู้ ข้างหน้า จะเป็นไง จะเป็นความปวดร้าว ทุกย่าง ที่ก้าว หรือมีแต่แสงตะวัน สดใส ก็คนเรามี วิถีทาง ต่างกันไป จะกี่ทางข้างหน้า แค่เลือกจะกล้า ต้องลองให้รู้ว่าเป็นอย่างไร ดีไม่ดี ก็มีแต่เรา ไม่เกี่ยวกับเค้า หรือว่าใคร ชัดเจนในตัวตน ตอกย้ำความเป็นคน ฟ้องกันที่ใจ แค่ศรัทธา ที่เราต่างกัน จุดยืนที่ฉันไม่เหมือนใคร อย่าโกรธฉัน ที่ไม่คิด อย่างเธอฝัน อยากให้ลองเข้าใจ I did it my way * ก็ไม่มีใครรู้ ข้างหน้า จะเป็นไง จะเป็นความปวดร้าว ทุกย่าง ที่ก้าว หรือมีแต่แสงตะวัน สดใส ก็คนเรามี วิถีทาง ต่างกันไป จะกี่ทางข้างหน้า แค่เลือกจะกล้า ต้องลองให้รู้ว่าเป็นอย่างไร รู้กันไป You Can’t Push Me Away, It’s My Way, I Trust This Way, It’s My Way, God Gives Me Away, It’s My Way, Get Out Of My Way, It’s My Way On My Way ก็หากันต่อไป คงมีสักวันที่ดี กี่หนทางที่มี ฉันเลือกมันเอง ชีวิตยังอีกไกล มันต้องมีสักวันที่ดี กี่หนทางที่มี ฉันไม่เคยจะกลัว แค่อยากจะรู้ว่าเมื่อไหร่ หนทางที่ไกล ฉันจะเจอจุดหมาย (ซ้ำ * ) เส้นทางข้างหน้า ขอแค่เรากล้า ไม่ต้องกลัวว่า มันจะเจ็บยังไง เส้นทางข้างหน้า ขอแค่เรากล้า ไม่ต้องกลัวว่า มันเจ็บเท่าไร ลองให้รู้กันไป จากคุณ : EZ2DJ - [ 1 ก.ย. 50 07:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ความหมายดีครับ เอามาว่างได้ถูกที่ถูกเวลาดี ส่วนตัวเพลงเด็กๆไม่ค่อยชอบฟัง ไม่รู้เรื่อง ผมว่ามันตะโกนเพลงกันมากกว่า ดาบแต้ม? อาจะพาดพิงอะไรผมละครับ ผมไม่เคยคุยเรืองดาบแต้มกับคุณนะที่เห็นก็เข้าทีดีนี่ครับ แล้วเกี่ยวอะไรกับที่ว่าจะถ่าย5รุม1ด้วย หรือว่าจะถ่ายดาบแต้ม5รุม1เหรอครับ ไม่เอานะก็บอกจะถ่ายดาบกระบี่กระบองไม่ใช่หรือเครับ ตกลงยังจะถ่ายหรือเปล่า เหรอว่าผ่านไปแล้วไม่ต้องถ่ายก็ได้ แค่อยากรู้ครับ จากคุณ : ธาตุไม้ - [ 4 ก.ย. 50 22:42:27 ]

ความคิดเห็นที่ 129 . สวัสดีครับ ถ้าผมเข้าใจ ฑูตสาร ของคุณ อี ฯ และคุณธาตุ มาแงะอีกประเด็นหนึ่ง ซึ่งถ้าเป็น รูป กระบี่กระบอง อาจทำให้ คุณคมแฟก สนใจเพราะเรียนมา ผมเองก็สนใจครับ เป็นไปได้ใหม ครับ คุณกรุณาเปิดเป็นกระทู้ใหม่ ครับ ....สถานที่ขอสงบศึก และยึดถือ ก็ไม่ควรที่จะจุดไฟตั้งค่ายใหม่ ครับ...... ปล. ผมหมายถึงกับ ทุกคนเช่นกัน น๊ะครับ จากคุณ : พลายทมิฬ - [ 5 ก.ย. 50 09:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 130 บรรยากาศวันนั้นเป็นไปด้วยดีครับ ใครอยากดู อยากสาธิตก็ทำไป จากคลิปข้างบนก็เห็นว่าผมเปิดให้ซักถามที่สงสัยตลอด ถ้าติดใจน่าจะถามวันนั้นไปเลย การใช้มารยาทดังนี้ ผมเองก็ไม่คิดว่าจะมีคนที่ร่วมงานอยู่แถวนั้นจะมีนะ --------------------------------- ความคิดเห็นที่ 113   ............. แล้วเข้าใจใช้คำนะครับ -สุนัขสามัคคี- ผมว่าผมเคยเห็นแถวๆนี่แหละ ตอนที่นัดกันว่าจะไปถ่ายคลิปพวก5รุม1 ไปก็ไม่เห็นมี ต่างคนต่างแย่งกันโชว์ตัว ขัดกันก็มีทั้งที่เขาให้แนะนำตัว แบบนี้ที่บ้านผมเรียก ขี้โม้ ครับ ว่าจะไม่ยุ่งแล้วอดไม่ได้ จากคุณ : ธาตุไม้  - [ 29 ส.ค. 50 18:13:49 ] --------------------------- ความคิดเห็นที่ 124   ออผมจำได้แล้ว คุณรักดาบไทยพูดเองไม่ใช่หรือวันนั้นนะว่า -ถ้าจะถ่ายคลิปต้องก็ต้องให้น้องสองคนนี่(เด็กที่มาเล่นดาบคู่กัน)ต้องซ้อมให้ดีกว่านี้ก่อนค่อยถ่าย- อันนี่รปภ.ไม่เกี่ยวเพราะกะจะไม่ถ่ายอยู่แย้ว จำได้ คิดว่าจะเล่นเอง พูดไว้ในบอร์ดเองนี่ครับ กลับไม่ทำไปโยนให้เด็กอย่างนี้ก็ไม่ควรครับ ที่พูดคุยกันก็มีคุณพลายผสมโรงไปด้วยนี่ถึงได้มีการนัดเจอกันว่าจะทำคลิปให้ดีกว่าที่พวกฝรั่งด่า อันนี่คุณพลายจะไม่รับผิดชอบด้วยก็ไม่ได้นะ ได้หน้าไปแล้วนี่ตอนพูดเขียนในบอร์ด แล้วยังไปเป็นหน้าม้าให้คุณพลายถ่ายวีดีโอด้วย ยังโทษตัวเองเลยว่าโง่จนทุกวันนี้ จากคุณ : ธาตุไม้  - [ 30 ส.ค. 50 21:46:23 ] -------------------------------------------------------- มีอะไรถามเสียตรงนั้นก็หมดเรื่องไปแล้ว มาพาดพิงให้น่าเกลียดอย่างนั้น ไม่ทราบมารยาทสำนักไหน? เอาอย่างนี้คุณธาตุไม้นัดถ่ายมาเลยก็แล้วกัน จะเอาวันไหนก็ลองหาเวลาว่างดูนะครับ โทรผม ๐๘๑-๙๑๙๗๙๖๗ 5/1 นะ ถ้าคุณคิดว่าทำไม่ได้ก็อย่าไปสนใจเลยครับ คิดเสียว่าผมทำไม่ได้ก็แล้วกัน ถ้าอยากจะเอามาให้ดูก็เพราะอยากจะทำ ไม่ได้อยากจะอวด มันมีให้ดูเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละครับ ขอโทษที่รบกวนกระทู้ครับ แต่ไม่ตั้งใหม่นะครับและก็คงจะไม่ตอบเรื่องนี้แล้วครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย - [ 5 ก.ย. 50 11:14:48 ]

ความคิดเห็นที่ 131 โอ้ อ่านผ่านกระทู้นี้ไปได้อย่างไร เริ่มอ่านเริ่มเข้าใจ ว่าทำไม คุณวิน โยงผมไปได้..... จบเรื่องคุณวิน ..................................................................................... มาเข้าเรื่องกระทู้นี้ดีกว่า เอ่อ อยากถามแค่ว่า...... มวย คือ อะไร ถามไม่ต้องการคำตอบครับ แค่อยากให้ไปคิดเฉยๆ..... คำนิยาม..........อาจแตกต่างตามแต่ละพื้นที่นะครับ อย่าคิดมากเลยครับ ก็แค่ เรียกไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเข้าใจเหมือนกันก็พอแล้ว...... เหมือนอย่าง ชมพู่...คุณนึกถึงผลไม้แบบใด......แต่ถ้าคุณลงใต้ ชมพู่ แปลว่า ฝรั่งลูกเขียวๆนะครับ.....หรือ บักหุ่ง เนี่ย มันก็มะละกอในภาษาอีสาน..... เรื่องเรียกชื่อไม่เหมือนกัน เรื่องแค่นี้ เรื่องขี้หมาครับ...... เรื่องมาตรฐานก็เหมือนกัน มาตรฐานคือการยอมรับหรือข้อตกลงในกลุ่ม......แต่คนนอกกลุ่ม ก็อาจจะไม่ยอมรับ หรือมีมาตรฐานต่างกันก็ได้ครับ......อย่างกฎหมายไทยไม่มีใครว่า ว่าคุณจะมีเพศสัมพันธุ์ท่าไหน..... แต่ในบางรัฐ บางเมืองในอเมริกา การมีเพศสัมพันธุ์ผิดท่า หรือ ผิดเวลา มีความผิดตามกฎหมาย......เห็นไหมครับ ว่ามันยังต่างกัน แล้วจะไปเถียงไร้ประโยชน์กันทำไม........... แต่ถ้า จะปกป้องนิยาม หรือ มาตรฐาน โดย ไม่ฟังว่า นิยามอาจจะต่างกันได้......แบบนิยามของกรูต้องถูกผู้เดียว...ความคิดกรูต้องถูกคนเดียว.....คนความรู้น้อยจะมาหาครับ ป.ล. 1. ฉัด เป็นภาษาใต้ แปลว่า เตะ ครับ ถ้าดูรูปของสายไชยา ฉัด จะหมายถึง การถีบไปด้านหน้า ผมเข้าใจถูกไหมครับ.....ก็แค่ชื่อเรียก รู้จักคนเรียก รู้ความหมาย จะเรียกอะไรก็เข้าใจครับ 2. มนุษย์ มีร่างกาย องคาพยพน้อยใหญ่ 32 ประการเหมือนกัน อาจต่างกันบ้างตามสรีระ เพราะฉะนั้น การออกอาวุธ มันไปไหนไม่ได้หรอกครับ จะกี่ชาติกี่ภาษา ก็วนเวียนอยู่ในรูปแบบเดิมๆ กำหมัด แบมือ เหวียงแขน พุ่งตรงๆ จีบนิ้ว งอนิ้ว แต่ลีลา ต่างหากที่ต่างกัน......เหมือนปรุงอาหารครับ ท้องถิ่นมี วัตถุดิบ เครื่องปรุงอะไร อาหารก็รวมๆมาจากสิ่งนั้นแหละครับ..... จะบอกว่า มวยไทยไม่มีการจับรัด ทุ่ม ก็คงไม่ถูก หรือบอกว่า ยิวยิตสู เตะไม่เป็น ก็คงไม่ใช่.........ก่อนมนุษย์จะยกการ์ดตั้งท่าเป็น เคยลองย้อนคิดไหมครับ ว่าก่อนนั้นสู้กันยังไง.......คงกระโจนใส่กัน ขึ้นคร่อมเหมือนหมากัดกันในปัจจุบัน เริ่มเดินสองเท้าเมื่อไร ก็ค่อยเปลี่ยนไป หลังจากนั้นต่างหากจึงพัฒนา มาเป็ฯนมวยจีน มวยไทย ยิยิตสู ฯลฯ หรือเรื่องศอก เราภูมิใจว่า เราใช้ศอกได้ดีที่สุด......ลองดู คาราเต้สาย โอกินาวา ดูครับ ใช้ศอกได้คม และอันตรายเหมือนเราไม่มีผิด ไม่ใช่สักแต่กระแทกๆไปอย่างฝรั่ง ถ้าอย่างนั้นขอยกตัวอย่างคาราเต้ละกัน คาราเต้ ยังแบ่งแยกเป็นสารพัดสาย สารพัดที่มา ท่าร่าง ท่าคุมก็แตกต่างกัน แต่ก็คือคาราเต้..........มวยก็เหมือนกัน จะโคราช ไชยา ลพบุรี ท่าเสา มันก็มวยเหมือนกัน......เข้าใจแค่นี้ก็จบ แค่เรียกชื่อต่างกัน แค่ลีลาต่างกัน.....จะมาอะไรกันนักกันหนา รับรู้ก็พอว่า ท่าทางแบบนี้...ที่นี่เรียก ก ที่นู่นเรียก ข ที่นั่นเรียก ค.. จบง่ายๆ แต่ถ้ามาบอกว่า ก ผิด ต้อง ข ต้อง ค ตีกันตาย ยิ่งตีกับพวกอัตตาสูงๆ เละครับ ....การถกความรู้มีสองแบบ...... แบบแรกคือ คนที่เปิดใจ ไม่มีคำตอบล่วงหน้า มีเหตุ มีผล ค่อยๆว่า ตัดสินจากเหตุแหละผลโดยตรง แบบที่สอง คือ คนปิดใจ พวกนี้มีคำตอบล่วงหน้า หลักฐาน เป็นเพียงเครื่องแสดงความยึดติด ถ้ามีหลักฐาน สิบชิ้นชี้ไปทางตรงข้าม เขาจะมองข้าม ...แล้วไปยกชิ้นที่ 11 ที่สนับสนุนความคิดของเขา เอามาตั้งป้อม ฟาดฟัน คุยกับคนแบบแรกสนุกครับ ได้พัฒนา เปิดความไม่รู้ ให้เกิดรู้ คุยกับบุคคลประเภทนี้ จะสุภาพ อ่อนนุ่ม ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเจอคนแบบที่สอง เหนื่อยครับ เพราะคนแบบนี้ มักคิดว่าตนถูกเสมอ....ถ้าทำได้ ไปให้ห่าง อย่าไปเถียงเลย......เพราะยิ่งเถียง จะยิ่งเบื่อ ยิ่งรำคาญ ผมว่าหลายๆท่านแถวนี้คงเคยรู้สึก........ฮา แล้วก็มีเรื่องแปลกที่คนแบบแรก มักจะพูดน้อย แสดงความเห็นน้อย แต่ไอ้แบบที่สองนี่สิครับ มักจะ ตัวเล็กเสียงดัง....... พอจนแต้ม หาคำตอบไม่ได้ ก็พาลอาละวาด ยกข้ออ้างมาสวนคนถามซะอย่างนั้น...... ไปดู แฮรีพอตเตอร์ก่อนนะครับ ใครเป็นแบบไหน ก็คิดเอาเองครับ คุณคนที่รู้ว่าใคร.......... จากคุณ : ความรู้น้อย - [ 7 ก.ย. 50 23:13:58 A:124.121.20.76 X: TicketID:138368 ]

ความคิดเห็นที่ 132 สวัสดีครับผม คือว่าผมเรียนเทควันโดนะครับ ผมอยากจะรู้ว่าจะทะเลอะกันทำไมนะครับ ในเมื่อพวกคุณๆเองก็คนไทยด้วยกัน และเรียนศิลปะที่เรียกว่ามวยของไทยด้วยกัน จะทะเลอะกันให้ได้อะไรขึ้นมาครับ ผมว่าเอาเวลาของแต่ละคนไปฝึกจะดีกว่านะครับ เพราะว่าตอนนี้เริ่มมีศิลปะต่อสู้ของชาติอื่นๆ เข้ามาในประเทศไทยทำให้คนไทยหันไปสนใจ เราควรจะต้องร่วมมือกันเพื่อไม่ให้ของชาติอื่นๆเข้ามาลบคำว่ามวยไทยในไทยนะครับ ผมเองก็เรียนของต่างชาติ แต่ก็รักมวยไทยมากๆเพราะตระกูลของผมเป็นมวยไทย(คนเดียวในตระกูลที่เรียนเทฯ)ผมจึงอยากเห็นมวยไทยรักและสามัคคีมากว่าครับ มาช่วยกันทำให้มวยไทยสามัคคีจะดีกว่านะครับ อย่าทะเลอะกันเลย คนไทยด้วยกันครับ จากคุณ : คนกลางครับผม - [ 9 ก.ย. 50 21:21:57 A:125.26.157.185 X: ]

ความคิดเห็นที่ 133 ทะเลอะ นี่แปลว่าอะไร ใครรู้บ้างตอบหน่อยดิ จากคุณ : มีไรอะป๊ะ - [ 10 ก.ย. 50 07:41:04 A:58.10.222.101 X:203.144.144.164 TicketID:025907 ]

ความคิดเห็นที่ 134 คือว่าโทษทีครับผม เครื่องรวนน่ะครับ ใช่โน๊ตบุ้คก็อย่างนี้แหละครับ เป็นประจำ อย่าคิดมากเลยครับ คือว่าไม่เก่งภาษาไทยมากน่ะครับ เรียนภาษาต่างประเทศมากไปหน่อยครับ อย่าถือผมเลยน่ะครับ T-T ทีหลังจะหัดอ่านไทยให้มากขึ้นก็แล้วกันครับ ไม่ทราบว่ารู้จัก เท ควัน โด กันบ้างไหมครับผม จากคุณ : คนกลางครับผม - [ 10 ก.ย. 50 21:13:56 A:125.26.156.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 135 ดีครับผม จากคุณ : คนกลางครับผม - [ 10 ก.ย. 50 21:18:27 A:125.26.156.94 X: ]

ความคิดเห็นที่ 136 ผ่านเข้ามาเจอ กำลังอยากเรียนศิลปะป้องกันตัว เผื่อเอาไว้ว่าอาจจะได้ใช้ มาเจอเห็นเถียงกันเรื่อง ชื่อท่าว่าเรียกว่าอย่างไรแล้วขำครับ ว่าอะไรจะว่างกันขนาดนั้น มีหลายท่านแล้วที่บอกว่าคนมันก็มีกายวิภาคเหมือนกันหมด การจะโจมตีให้ได้ผลมันก็ต้องคล้ายกันอยู่แล้ว จะหักแขนตรงข้อศอกมันก็ต้องดันให้แบะออกมาจะไปงอเข้ามันก็ไม่หักใช่ไหมครับ ไม่ว่าจะเรียกมันว่าอะไรผมว่าขอให้มันได้ผลก็แล้วกัน ไม่ต้องรู้ชื่อท่าก็ได้ขอให้ฝึกจนร่างกายมันจดจำจนเป็นอัตโนมัติตอบโต้ได้โดยไม่ต้องมาคิดว่ากูจะใช้ท่านี้เล่นงานมัน แล้วตามด้วยท่านี้ ต่อด้วยท่านี้ ถ้ายังใช้สมองคิดอยู่ กว่าจะสั่งไปถึงมือถึงเท้าเราคงตายไปแล้วมั้งครับ ชาตินิยม มาจนถึงครูที่กูนิยมมันก็ดีครับ เป็นการรู้รักบรรพบุรุษครูบาอาจารย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่ามนุษย์ที่มามันก็คงมาจากแหล่งเดียวกัน ก็ต้องมีการผสมผสานรูปแบบต่างๆที่เคยเห็นมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ถ้าเจอคู่ต่อสู้ที่ถนัดนอนสู้ เราไม่ถนัด เราก็ต้องหาทางให้เขายืนสู้ เขาก็ต้องหาทางล้มเราไปนอนกับพื่นอย่างที่เขาถนัด จะมามัวยึดติดว่าวิชากูต้องยืนเตะ หรือต้องนอนสู้ หรืออันนี้มันท่าของวิชานี้ ของครูนี้ กูใช้ไม่ได้เสียศักดิ์ศรีก็คงจะไม่ทันคนที่เขาคิดอีกอย่าง ผมเคยอ่านผ่านตามาว่า พระยาพิชัยดาบหัก ก็เคยเรียนมวยจีนด้วย ซึ่งท่านก็ถือว่าเป็นตำนานของนักรบไทยคนหนึ่งไม่เห็นท่านจะยึดติดกับความคิดที่ว่ากูเป็นคนไทยกูต้องใช้แต่วิชาของคนไทยเท่านั้นใช่ไหมครับ ขอเพียงแต่มันเป็นวิชาที่ดี เราเอามาใช้ในทางที่ดี เพื่อปกป้องตัวเองหรือคนอ่อนแอหรือประเทศชาติมันย่อมเป็นประโยชน์ทั้งตัวเราเองและผู้อื่น ส่วนใครที่ฝึกเพื่อต้องการอนุรักษ์สายวิชาของบรรพบุรุษเราก็เป็นสิ่งที่ดีครับ จะได้ทราบรากเหง้าของเราว่ามีความเป็นมาอย่างไร แต่สำหรับคนที่เขาต้องการที่จะพัฒนาให้หลากหลายมากขึ้น มันก็ต้องมีการดัดแปลง ประดิษฐ์อะไรใหม่ๆ ผสมผสานหลายๆวิชาก็ต้องแบ่งเขาไปอีกแนวหนึ่ง อย่ามาเถียงกันเลยครับ น่าจะพึ่งพาแลกเปลี่ยนกันได้ด้วยซ้ำ อย่าเป็นน้ำล้นแก้วกันอยู่เลยครับ จากคุณ : แขก - [ 18 ก.ย. 50 02:10:59 A:203.113.37.8 X: ]

ความคิดเห็นที่ 137 ศูนย์ศึกษาสยามยุทธ์ “บ้านครูแปรง” เปิดสอนมวยไทยไชยา หลักสูตรขั้นพื้นฐาน (สายดำ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2652-0684 หรือ siamyuth@yahoo.com จากคุณ : siamyuth - [ 25 ก.ย. 50 15:51:49 A:58.136.115.42 X: ]