ความคิดเห็นที่ 1 มาถึงเรื่องของแมนยูกันนะครับ นัดนี้ ป๋ามาพร้อมแท็คติค 4-4-1-1 โดยการใช้โกล์และแผงหลังเดิมๆ ในขณะที่แผงกลางมีสโคลส์, คาร์ริค ฮาร์กรีฟส์ และนานี่ ส่วนหน้าเป้าใช้เตเวซ มีกิ๊กส์เป็นหน้าต่ำ ซึ่งก็เป็นแผนที่ผมเคยวิเคราะห์ไว้แล้วเช่นกันนะครับ แสดงว่าป๋าน่าจะได้อ่านวิพากษ์ของผมนะเนี่ย แหะๆ สิ่งที่เราได้เห็นจากเกมเมื่อคืนมีอะไรบ้าง นั่นก็คือ การต่อบอลสวยๆ และการวิ่งทำทางสวยๆ ในแดนกลางก่อนถึงกรอบโทษแมนซิตี้ ย้ำ ก่อนถึงกรอบโทษแมนซิตี้ และก็เช่นเดียวกับสองเกมก่อนหน้านี้ เมื่อคู่ต่อสู้ไม่เปิดพื้นที่ในกรอบเขตโทษให้เราเล่น ก็มีทางเดียวครับ นั่นคือ ต้องอาศัยทีมเวิร์ค และความสามารถ รวมทั้งความเข้าใจ ในการเจาะทะลุ และดึงตัวประกบออกมา มีการวิ่งฉีกตัวประกบหรือสอดขึ้นเติมเกมจากแถวสองเข้ามาช่วย ซึ่งเราทำได้ดีในจุดนี้ เพียงแต่สิ่งที่ยังขาดไป ก็คือความแม่นยำ และความเข้าใจกันครับ ทำให้หลายครั้งมาก ที่ทำทางกันมาดี หลุดเข้าไปได้ดี แต่ไม่ได้บอล หรือจ่ายผิดช่อง อีกทั้งยังมีริชาร์ดส ที่ยืนตำแหน่งได้เด่นสุดๆขวางทางอยู่อีก ทำให้การเข้าทำของเรา ก็ยังคงหวังผลในจังหวะสุดท้ายได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นนะครับ แผงกลางของเรา ทำหน้าที่ได้เด่นมากแล้วในนัดนี้ ผมไม่สามารถที่จะหาจุดอะไรมาติติงได้ หากจะมี ก็มีเพียงแค่การยิงแถวสองน้อยไปหน่อย แต่ก็นั่นแหละครับ การที่ซิตี้แพ็คเกมหน้ากรอบแน่นหนา ทำให้เราหาโอกาสส่องจากแถวสองได้ยากอยู่แล้วครับ ฮาร์กรีฟส์ น่าจะเป็นแมนออฟแมนยูได้ในนัดนี้ เนื่องจากทำผลงาน ไล่ตัดเกมคู่ต่อสู้ อีกทั้งยังครองบอลหนีการไล่ล่าของแดนกลางเจ้าถิ่นได้ดีมากอีกด้วย หากนี่คือฟอร์มการเล่นของเขาที่ยังไม่เต็มร้อย ผมก็คาดหมายไว้ได้เลยว่า เขาจะเป็นแกนหลักของทีมได้แน่นอนครับ ส่วนสโคลส์ ขยับขึ้นมาโดดเด่นในเกมรุกอีกครั้ง จากการที่มีฮาร์กรีฟส์คอยสกรีนบอลอยู่ข้างหลังให้ อีกทั้งมีคาร์ริค คอยช่วยเชื่อมเกม และเป็นตัวสอดประสานในแดนกลางอย่างกลมกลืน ทำให้สโคลส์ สามารถบงการเกมรุกได้อย่างโดดเด่นเหมือนสมัยก่อนครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 09:33:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกอย่าง ทำไมฮาร์กรีฟส์ถึงทำผลงานได้ดี ทั้งๆที่เป็นนักเตะใหม่เหมือนกัน ผมไม่อยากใช้เหตุผลเรื่องเขาเป็นคนอังกฤษมาอ้าง แต่อยากให้ดูถึงตำแหน่งของฮาร์กรีฟส์ ที่ไม่ได้เป็นแกนในการบุก ทำให้เรื่องทีมเวิร์คในการเข้าทำ ไม่ใช่จุดที่เขาต้องประสบ แต่เขายืนในพื้นที่ที่ออกไปในแนวทางการตั้งรับ การเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ ตัวตัดเกม เขาทำผลงานตรงนี้ครับ ทำได้ดีเสียด้วย และการที่เขาไม่ได้รับภาระในเกมรุก ทำให้เขาไม่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับการประสานทีมเวิร์คในเกมรุก จึงดูเหมือนว่า เขาปรับตัวกับทีมได้ ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เขาไม่ได้ต้องปรับตัวต่างหากครับ แค่อ่านเกม อ่านจังหวะ ตัดเกม แล้วจ่ายบอลให้เพื่อน ดูเหมือนง่าย แต่การไปอยู่ถูกที่ ถูกเวลา เพื่อตัดเกมนั่นแหละ คือสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ครับ เมื่อแดนกลางเราครองเกมได้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถหาจังหวะจบที่เด็ดขาดได้มากนัก ยิ่งทำให้เกมอดทนของเจ้าบ้านมีกำลังใจมากขึ้น และยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้น นานี่ ยังคงเกร็งๆเหมือนเดิมครับ ไม่เหมือนการเล่นให้ต้นสังกัดเก่า ที่ดูจะกล้าเล่น กล้าลุย และกล้ายิงมากกว่านี้ ส่วนเตเวซ ดูก็รู้ครับ ว่าแบกความกดดันมหาศาลว่าเป็นความหวังเดียวของทีมเอาไว้ ทำให้เตเวซออกอาการหน้าเสียทุกครั้งที่ทำสกอร์ไม่ได้ น่าเห็นใจเขามาก ที่ต้องถูกจับลงน้ำทั้งๆที่ยังไม่เข้าขากับเพื่อร่วมทีมนะครับ บอลจังหวะของเตเวซนั้น เพื่อนร่วมทีมยังตามไม่ทันอยู่ครึ่งก้าว สังเกตจากการทำชิ่งกับเตเวซ ที่มักจะจบด้วยการจ่ายเสีย แต่การจ่ายเสียหลายๆครั้งนั้น จะเป็นเราเสียอีกที่ต้องร้องเสียดายเพราะไม่มีใครเข้ามารับบอลที่ออกจากเท้าเตเวซ จะเห็นว่าลูกที่สโคลส์ยิงในเกมก่อน ก็เตเวซนี่แหละที่จ่ายให้ อีกทั้งลูกส้น ลูกไขว้ ลูกชิ่งของเตเวซ อันตรายแทบทุกลูกหากเพื่อนๆเข้าใจและเข้ามารับบอลได้ เซนส์บอลอย่างเตเวซนี้ หากจะต้องเล่นเป็นตัวจริงร่วมกับเพื่อนร่วมทีมไปอีกค่อนข้างนานเช่นนี้ ผมอยากให้ปรับเอาสโคลส์ ไปยืนเป็นหน้าต่ำเต็มตัวดีกว่า อย่างไรเสีย สโคลส์ก็เป็นกองหน้าอาชีพมาก่อน และเซนส์บอลเกมรุก ยังไงสโคลส์ก็ดีกว่ากิ๊กส์ค่อนข้างแน่ อีกทั้งยังเล็กและคล่อง แต่แข็งแกร่งกว่ากิ๊กส์ เมื่ออยู่ในกรอบโทษ ซึ่งจะส่งผลให้กดดันแผงหลังได้ดีกว่านี้ครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 09:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนเกมแดนกลาง การให้เอวร่าเติมเกมรุกมาเป็นปีก ร่วมกับบราวน์ในเกมที่แผงหลังคู่ต่อสู้แพ็คกันแน่นๆเช่นนี้ ผมว่าไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์กับสไตล์ปัจจุบันของทีมเท่าไหร่นัก อย่าลืมว่า ทั้งคู่ อย่างไรเสียก็เป็นกองหลัง ที่เซนส์บอลเกมรุกไม่สามารถจูนกับแผงเกมรุกเราได้ หลายครั้งที่เอวร่ากับบราวน์จ่ายบอลผิดจังหวะตลอด และทำให้การขึ้นบอลต้องติดขัดไปหลายครั้ง หากจะเล่นครองบอลกันเต็มที่อย่างนี้ มีทางเลือกเดียวครับ คือต้องจบบอลด้วยการยิงให้ได้ในการขึ้นเกมทุกครั้ง ไม่งั้น หลังต้องเติม แบ๊คต้องเติมขึ้นมาช่วยอย่างที่เห็น และสุดท้ายจังหวะเข้าทำก็เสีย เพราะรูปแบบการเข้าทำของเรา ไม่ใช่สไตล์เข้าฮอส เมื่อต้องใช้แบ๊คเติมริมเส้นขึ้นมา แทนที่จะจบด้วยการเปิดเข้ากรอบ แต่รูปแบบของเราบังคับให้แบ๊คต้องเจาะทำชิ่งเข้ามาอีก เช่น เอวร่า กับกิ๊กส์ ทางซ้าย หรือ บราวน์กับคาร์ริคทางขวา ซึ่งสุดท้ายแล้ว การทำชิ่งให้บอลดังกล่าว เอวร่ากับบราวน์ ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะครับ กิ๊กส์ ผมเองเคยเขียนถึงมาหลายครั้งแล้ว ว่าไม่เหมาะจะยืนหน้าต่ำ อย่างน้อยก็ในสไตล์ของทีมเราตอนนี้ครับ เมื่อก่อนอาจจะดูเหมาะ เพราะการเล่นในรูปแบบที่มีพื้นที่เปิดให้นั้น มันเข้าทางกิ๊กส์ เขาสามารถลากเลื้อย และทำชิ่งกับเพื่อนๆเข้าทำได้ง่าย แต่ตอนนี้ เมื่อพื้นที่ไม่มีให้เล่น กิ๊กส์จะหมดพิษสงไปกว่าครึ่ง เพราะนักเตะอย่างกิ๊กส์ ต้องมีพื้นที่ครับ และที่สำคัญ กิ๊กส์เป็นปีกอาชีพ ซึ่งการเล่นปีกนั้น ใช้พื้นที่ ความพริ้ว และการวิ่งเป็นหลักครับ ไม่เหมือนสโคลส์ ที่เป็นกองหน้ามาก่อน และขยับมาเป็นมิดฟิลด์ภายหลัง การมองเกมและการอ่านจังหวะเข้าทำ รวมทั้งการยิงประตูของสโคลส์ ถึงได้เด่นกว่ากิ๊กส์ การขยับสโคลส์มายืนหน้าต่ำ จึงน่าจะเกิดประโยชน์กับทีมมากกว่า เพราะอย่างไรเสีย คาร์ริค กับฮาร์กรีฟส์ ก็สามารถยืนแดนกลางได้ไม่ขี้เหร่อยู่แล้วครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 09:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ลูกที่เราเสียไป ผมอยากบอกเหลือเกินว่า เป็นความผิดกองหลังเต็มๆ ที่ยืนประคองห่างเกินไป ทำให้โจวานนี่ มีโอกาสยิงได้ง่ายๆ ครับ ทั้งที่ตามความเป็นจริง เขาขึ้นเกมมาแค่สองสามคน ในขณะที่ไม่ได้หลุดเดี่ยวเข้ามาด้วย แต่การบล็อกลูกยิงไกลของเรากลับพลาด ยืนห่างมากครับ จะบอกว่าประมาทไม่คิดว่าจะยิงก็คงได้แหละ เฮ้อ... เมื่อท้ายเกม การเปลี่ยนตัวยิ่งไม่ทำให้เราได้เปรียบ กลับยิ่งแย่ลงด้วยซ้ำ โอเคครับ ว่านานี่ อาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่เขามีโอกาสได้ยิงหลายๆครั้งจากความสามารถของเขา เมื่อต้องถูกเปลี่ยนออกไป ทำให้ลูกยิงจากแถวสองหายไปด้วย การได้อีเกิ้ลส์เข้ามา ผู้บรรยายพูดถูกว่า ไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยง แต่เปิดบอลได้สวยๆหลายครั้ง แต่ลืมไปหรือเปล่าว่า แผงหลังห้าหกคนของเจ้าถิ่น แค่ยืนก็บังกองหน้าเรามิดแล้ว การเปิดเข้าไปในกรอบ แบบแม่นบ้างไม่แม่นบ้าง ยิ่งทำให้เราเสียบอลง่ายขึ้น อีเกิ้ลส์ไม่ใช่เบ๊คแฮม ที่จะเปิดได้ตรงหัวกองหน้าเตี้ยๆที่ถูกประกบได้แม่นยำขนาดนั้นครับ การเปลี่ยนโอเชกับแคมป์เบลล์ลงมา ยิ่งทำให้ดูเหมือนกับว่า  หมดสิ้นหนทางในการเข้าทำ เป็นการแสดงให้เห็นว่า นักเตะที่มีอยู่ ไม่เพียงพอในการเจาะเข้าทำประตูคู่ต่อสู้ และผมคิดว่า มันก็ยังจะเป็นอย่างนี้ต่อไป ตราบใดที่คู่แข่งยังเล่นเกมอดทนกับเราอย่างนี้ และจะเป็นต่อไป ตราบใดที่ผู้เล่นของเรา ยังคงไม่เข้าขา ไม่เข้าใจกันเต็มที่นักครับ ปล. แก้คำผิดครับ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 10:06:08 แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 09:41:12 จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 09:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปัญหาหลักของเรา ผมอยากให้มองความเป็นจริง และยอมรับกันตรงๆ อย่างไม่มีอคติ อย่างไม่เข้าข้างตัวเอง อย่างที่ผมได้เคยวิพากษ์ไปแล้ว ว่าตอนนี้ เราอยู่ในระหว่างถ่ายเลือดครับ การถ่ายเลือดตามปรกติแล้ว เฟอร์กี้จะค่อยๆทยอยให้หน้าใหม่เข้ามาสู่ทีมทีละเล็กละน้อย เพื่อจับจังหวะก่อน เมื่อมีความมั่นใจเต็มที่ จึงค่อยปล่อยลงเต็มๆ หากจำได้ เบ๊คแฮม, กิ๊กส์, เนวิลล์, บัตต์, สโคลส์ ล้วนได้โอกาสลงเล่นมาเกือบสองปี แต่เป็นลำรองท้ายเกมตลอด หรือไม่ก็ลีกคัพ ก่อนจะถูกดันขึ้นมาอย่างเต็มตัวในภายหลัง คราวนี้ก็เช่นกัน เมื่อนักเตะใหม่ๆอย่างเตเวซ, นานี่, อันแดร์สัน และฮาร์กรีฟส์ ถูกวางตัวเป็นตัวแทน ซาฮา, โซลชา, กิ๊กส์, สโคลส์ ที่เริ่มโรยรา พวกเขาก็ต้องการเวลาเช่นกัน และย่อมต้องการการประคองการเล่นจากตัวเก๋า เพื่อจับจังหวะและสร้างความมั่นใจ ก่อนจะถูกส่งลงสนามแบบเต็มๆเช่นนี้ แต่เมื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น รูนี่ย์ กับโรนัลโด้ หายไป ก็เป็นพวกเขา ที่ต้องลงมากอบกู้สถานการณ์ ทั้งๆที่พวกเขาก็รู้ตัวดี ว่าตัวเองยังเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่เต็มที่ แต่พวกเขาก็ทำเต็มที่ เท่าที่พวกเขาจะทำได้ อย่างน้อย ผมก็อยากให้กำลังใจพวกเขาครับ บอลสไตล์เราต้องเทียบกับอาร์เซนอลครับ ที่ต้องให้เวลานักเตะใหม่ๆจูนระบบก่อน และอย่าเอาพวกเขาไปเทียบกับมาลูด้า, ตอร์เรส หรือนักเตะแมนซิตี้ ที่ซื้อมาใหม่ๆ แต่กลับสร้างผลงานได้ดี นั่นเพราะรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันนะครับ บอลของเราใช้ทีมเวิร์คเป็นหลัก ใช้ความเข้าใจเกม ความเข้าใจกัน ความเข้าขารู้ใจ ในการขึ้นบอลแต่ละช็อตๆ เพื่อจบด้วยการทำประตู ซึ่งนักเตะใหม่ๆต้องจับจังหวะให้ได้ก่อน แต่กับเชลซี ลิเวอร์พูล หรือแมนซิตี้ นั้น เป็นบอลจังหวะ เน้นการเล่นแน่นอน ถ่ายบอลรอจังหวะ รอพื้นที่เปิดค่อยเข้าทำ และเข้าทำโดยการใช้ผู้เล่นไม่เยอะ  เน้นที่ความสามารถและความเร็วของนักเตะพาบอลเข้าไปทำมากกว่าครับ หากพื้นที่ไม่เปิด ถูกแพ็คแน่น พวกเขาก็จะถ่ายบอลกลับไปกลับมารอหาช่องอีกที หากดูอย่างตั้งใจ เมื่อคืนจะเห็นว่า แมนซิตี้ต่อบอลในแดนหน้าได้ดูไม่จืดกว่าเราซะอีก จ่ายบอลขาดๆเกินๆตลอด สเวนก็ทราบดี ว่าทีมเวิร์คยังไม่เข้าที่ จึงไม่เน้นการต่อบอล จึงให้ริชาร์ดส์ยืนเซ็นเตอร์ และเน้นไปที่การขึ้นบอลอย่างแน่นอนเป็นคนๆไป มากกว่าการใช้นักเตะหลายๆคนมาทำชิ่งขึ้นเกมรุก หากทำความเข้าใจตรงจุดนี้แล้ว เราย่อมต้องยอมรับความจริง ถึงแม้อาจจะเจ็บปวดอยู่บ้าง หากการที่นักเตะใหม่จะต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่านี้ และอาจทำให้หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ก่อนเวลาอันควร อย่าลืมว่า ปีที่แล้ว ก็รูนี่ย์ กับโรนัลโด้ สองคนนี้เท่านั้น ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในเกมรุกของเรา ทั้งคู่ยิงรวมกันครึ่งร้อย และทำทางให้เพื่อนร่วมทีมได้ยิงอีกนับไม่ถ้วน เมื่อต้องขาดทั้งคู่ไป และหน้าใหม่ๆยังปรับตัวกับทีมได้ไม่ดี เราก็ต้องทำใจยอมรับมัน และจำให้ได้ว่า ตอนซื้อพวกเขามานั้น เรายังบอกว่า เป็นทีมแห่งอนาคตอยู่เลย ผมเองคาดหวังไว้เช่นกันว่า จะเห็นเกมรุกอันน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ลืมคิดไปว่า คู่แข่งทุกๆทีม ก็ย่อมหาทางป้องกันมาอย่างแน่นหนา อย่างเช่นสามเกมแรกที่เราประสบมาแล้ว แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 09:39:02 จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 09:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ได้แต่หวังเช่นเดิมๆ ครับ ว่าจะปรับตัวกันได้เร็วๆเสียที นานี่ กับเตเวซ คงต้องถูกเคี่ยวมากขึ้น ให้หมดความประหม่า และความกดดันโดยใช่เหตุ อันน่าจะทำให้ทั้งคู่เกร็งๆอยู่ ซึ่งต้องรีบทำเร็วๆด้วย ตอนนี้ ตามอยู่ห้าแต้มเข้าไปแล้ว ยังดีที่ออกเสมอกันทั้งสามทีมนะครับ ไม่งั้นเจ็ดแต้มนี่ดูไม่จืดแน่ๆ วันนี้ พอแค่นี้ครับ พบกันใหม่เกมหน้า สวัสดีครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 09:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยก๊าบ จากคุณ : Jaxx5788 - [ 20 ส.ค. 50 09:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แมนยู คงต้องหาทางกลับให้ได้ นัดหน้าเจอเสปอร์ ใน ดรีมเธียเตอร์ใช่ไหมครับ เจอเสปอร์ในเวลานี้ ก็ไม่ง่ายนัก แต่ก้น่าจะผ่านไปได้ อย่างน้อยคงไม่แพ้แน่ แต่จะเสมอหรือชนะหรือเปล่าไม่รู้ จากคุณ : หอมรำเพย - [ 20 ส.ค. 50 10:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ดูแมนฯยูฯเล่นมา 3 นัด แล้วเหมือนอาเซนอลฤดูกาลที่แล้วเลยแฮะ โอกาสเป็นสิบแต่โดนยิงทีเดียวจอด -*- จากคุณ : BzzzzY - [ 20 ส.ค. 50 10:00:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 คุณสงบใจวิเคราะห์ได้ดีมากครับ จากคุณ : Arc_ - [ 20 ส.ค. 50 10:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอหน้าคู่ได้ไหม T T จากคุณ : Chaoticz - [ 20 ส.ค. 50 10:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #11 เหลืออีกสัปดาห์กว่าๆ ไม่รู้ว่าป๋าจะไปซื้อใครมาได้หรือเปล่า เอ... ซื้อรอสซี่กลับจากบียาร์รีลตอนนี้เลยได้มั้ยเนี่ย ไหนๆ ลาลีกาก็ยังไม่เปิด 555+ เห็นตามว่าทุกประการครับ การเสียโรนัลโด้กับรูนีย์ไปก่อนเวลาอันควร มันเลยทำให้เตเบซต้องลงมาแบกทีมไว้ตอนนี้ ก็โทษใครไม่ได้อ่ะครับ รับไปทั้งทีมนั่นแหละ ในลีกอาจจะยาก แต่ผมว่าUCL กะ FA Cup น่าจะยังพอมีโอกาส มีเวลาปรับตัวนะ จากคุณ : Mikamura Kaoru - [ 20 ส.ค. 50 10:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เดี๋ยว MAN U ก็กลับมาครับ ช่วงนี้เราใช้โควต้าของผู้มีสิทธิ์เป็นแชมป์มากไปหน่อย ทีมเล่นได้ดีแล้ว เหลือขอการจบสกอร์เท่านั้น แต่อย่างว่าเล่นสวย แต่ไม่มีประตูก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงผมก็เชียร์ต่อไปคับ ว่าแต่ป๋าครับ โควต้าการใช้สิทธิมันเหลือน้อยแล้วนะ T_T แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 10:20:35 จากคุณ : trebla - [ 20 ส.ค. 50 10:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทีมเราเล่นกันดีแล้วครับ^^ ขาดแค่โชคเล็กๆน้อย เท่านั้นเองอ่ะ จากคุณ : ประธานชมรมคนรัก นู๋เข่ง - [ 20 ส.ค. 50 10:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 วิเคราะห์ได้ตรงดีครับ ตอนนี้ก็คาดหวังว่าให้นักเตะใหม่ๆจูนกับทีมเดิมให้ลงตัวเร็วที่สุดเท่านั้นครับ ยังไงก็จะเชียร์ต่อไปครับ จากคุณ : Kashira - [ 20 ส.ค. 50 10:18:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกะที่คุณ สงบใจ วิเคราะห์ครับ จากคุณ : ชีวิตเป็นของเรา - [ 20 ส.ค. 50 10:21:59 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ปีนี้คงยากที่จะเป็นแชมป์ (ถ้าทีมหัวแถวได้อย่างน้อย 7 แต้มกันหมด) แต่ที่น่าแค้นยิ่งกว่าคือไม่ได้ดู ได้เชียร์ทีมรักนี่สิ วู้ "การรุก คือ การรับที่ดีที่สุด เย้" จากคุณ : อาว์เอ็ด - [ 20 ส.ค. 50 10:22:04 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าคงต้องมองกันยาวๆถึงฤดูกาลหน้าไปเลยครับ สำหรับการถ่ายเลือดใหม่ครั้งนี้ ... ส่วนฤดูกาลนี้  มองมุมไหนก็ยังเหนื่อยครับ ^^' ปล. คห.ที่ 13 .... ถูกต้องนะคร๊าบบบ  อิอิ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 10:25:07 จากคุณ : Galaxian Explosion !!! - [ 20 ส.ค. 50 10:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมคิดว่า ป๋ากี้ กำลังปฎิบัติการฉกกองหน้าเป้าอีกคนให้ทันปิดเส้นตายสิ้นเดือนนี้แน่ๆ  จะรอซาฮาไม่รู้เมื่อไหร่มันจะพร้อม ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็น กุ๊ดจอนสัน ต้องมีใครสักคนที่มายืนคู่เตเบซ ไม่ยังงั้นเละแน่ๆ ลูกโด่งด้อยไปมากๆเลย โอกาสมีก็จริงยิงเยอะมากแต่ไม่มีความเฉียบคมเลย ให้เตเบซไปยืนหน้าเป้ารูปเกมส์ก็จะเป็นยังงี้ โดนกองหลังตัวใหญ่ๆเบียดแล้วไปไม่เป็นทุกที เตเบซคล้ายรูนี่ก็จริงแต่ที่แตกต่างก็คือความแข็งแกร่งของร่างกาย ซึ่งสำคัญมากๆกับพรีเมียร์ลีก นึกไม่ถึงจริงๆว่าแมนยูจะมาตกในสภาพเช่นนี้ ป๋ากี้รู้ดีที่สุดว่าทีมขาดอะไรถ้าไม่รีบทำอะไรสักอย่างจะสายเกินไป ยิ่งเห็นตอเรสของลิเวอร์พูลแล้วแสนเสียดาย แมนยูขาดใครสักคนที่พร้อมจะปิดบัญชียามที่รูปเกมส์กำลังสูสี ผมเชื่อของผมจริงๆว่าเราจะมีกองหน้าตัวใหม่เร็วๆนี้ จากคุณ : lingnoi2155 - [ 20 ส.ค. 50 10:24:08 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาติดตามผลงานเหมือนเดิมครับผม จากคุณ : ฮาตึงว่าแล้ว - [ 20 ส.ค. 50 10:24:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ทำไมไม่ซื้อกองหน้าอีกสัก 1 คนล่ะครับ จากคุณ : โจโฉ2000 - [ 20 ส.ค. 50 10:26:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาอ่านกระทู้ น้าสงบ ยังเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เหมือนเดิม น่าไปอยู่สตาร์ ซอคเกอร์ นะน้า จากคุณ : เทพบุตรแดนสนธยา - [ 20 ส.ค. 50 10:30:26 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอวิจารณ์บ้างนะค่ะว่า......ทำไมแมนยูถึงแพ้ 1. นักเตะแมนยูที่ตามเกมส์เตเบซทัน มีอยู่คนเดียวคือพอล สโคลล์  ถ้าแมนยูอยากใช้เตเบซให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ต้องให้เขาเล่นเป็นตัวฟรี 2. แมนยูต้องซื้อจอมทัพคนใหม่ เพราะสโคลล์อายุคงไม่น้อยลงไปกว่านี้แล้ว แล้วเอาฮากรีฟไปเป็นกลางรับ เขี่ยคาริคไปเป็นตัวสำรอง 3. อย่างไรอัน กิ๊กส์ ต้องเรียกว่าไม่รู้ตัวว่า"แก่" บอกตรงๆว่าเห็นเล่นมา 2 นัด ฟอร์มคงงัดไม่ขึ้นแล้ว ฤดูกาลหน้าย้ายไปเล่นเป็นเพื่อนเบ็คแฮมดีกว่ามั้ง 4. กองหลังแมนยูสอบตกทุกคนในแม็ตช์นี้ ถ้านัดนี้เจอบาร์ซ่า ไม่น่าต่ำกว่า 4-0 5. นานี่เล่นเลอะเทอะไม่แพ้รุ่นพี่ ยังไม่สมควรให้ลงเป็นตัวจริง 6. ท่านเซอร์เปลี่ยนตัวสำรองได้แย่มาก แทนที่จะลงมาช่วยทีม กลับลงมาเป็นภาระให้เพื่อน 7. ฝีเท้าของตัวสำรองแมนยูยังไม่ถึงขั้น ควรไปเล่นให้ทีมระดับเล็ก หรือดิวิชั่น 1 8. อย่าอ้างว่าเพราะขาดหนูโด้กับรูนี่ย์ ถ้าจะอ้างอย่างนี้ หมายความว่า แค่มี 2 คน แมนยูก็ได้แชมป์ อีกหน่อยก็ให้แค่ 2 คนลงสนามไปสู้ทีมอื่น 11 คน ดูซิว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร 9. แฟนแมนยูยอมรับเถอะว่า นาทีนี้ แมนยูสู้แมนซิตี้ไม่ได้เลยทั้งเรื่องกึ๋นของผู้จัดการทีมและกองเชียร์  ปีนี้กองเชียร์แมนซิตี้คึกคักมากและรวมตัวกันได้เร็ว เช็คดูจากกระทู้ของแมนซิตี้ดูได้ เรียกว่าแมนยูแพ้เพื่อนร่วมเมืองแบบ Land slide จากคุณ : Argentine girl - [ 20 ส.ค. 50 10:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อืม ผมมองว่า ผี ขาดไปอย่างนึงครับ สมัยก่อน ๆ ถ้ารูปแบบ แบบการต่อบอลเข้าทำใช้ไม่ได้ ก็ัยังสามารถโยนเพื่อเข้าทำได้ แต่ในปีหลัง ๆ รูปแบบนี้ของผีหายไป ยิ่งปีนี้ จะยิ่งกลายเป็นการโยนหายไปเลย เพราะกองหน้า ที่สามารถจะเข้ารับบอลโยนเพื่อเข้าทำ หรือแม้กระทั่งพักบอลจ่ายให้เพื่อน ไม่มีแล้ว ซึ่งจุดนี้ผมสงสัยมากว่าทำไมเซอร์ไม่ซื้อหน้าแบบนี้มา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถ้าเล่นแบบต่อบอลแบบนี้ เจอ pack ยัดก็จะเข้ายาก ซึ่งน่าจะรู้เพราะฤดูก่อนก็เจอแบบนี้มาบ้างแล้ว จนกลายเป็นอย่างที่เห็นปีนี้ คือทุกทีมเจอผี จะเล่นแบบ pack หน้ากรอบแน่น และคอยซ้อน/ตัดจังหวะต่อบอล ทำให้รูปแบบต่อบอลไม่สามารถเข้าในกรอบได้จนทำให้ในที่สุดต้องยิงไกลเพียงอย่างเดียว ซึ่งทำให้อัตราการยิงตกลงไปอย่างหนัก... ถ้าผีไม่ปรับเปลี่ยน หรือแก้ไขจุดนี้ ผมว่า... ยากนะ เพราะคิดว่าต่อ ๆ ไป ผีจะต้องเจอเกม pack แบบนี้ตลอดแน่ ๆ เพราะทีมอื่นรู้กันแล้วว่าจุดอ่อนคืออะไร จากคุณ : บูจัง - [ 20 ส.ค. 50 10:43:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เข้่่ามาร่วมเสวนาครับ จากคุณ : ทนาย(ไม่ได้)ความ (P-DEVIL-S) - [ 20 ส.ค. 50 10:45:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เสียใจด้วยน่ะ คุณสงบใจ ดูฟอร์มผีแดงแล้ว การที่ไม่มีนู๋โด่ไม่รู้ล้ม กับหมูแดง นี้ เหมือนกับถอดเครื่องเฟอร์รารี่ กองไว้เลย ส่วนเตเบซ คิดว่ายังต้องใช้เวลาจูนอีกหน่อย อย่าเพิ่งเซ็งน่ะ นัดหน้าสู้ใหม่ ส่วนหงส์แดงเมื่อคืน ผมก็เสียดายจริง ๆ เกมส์บุกหอย ไม่ได้ทำอะไรระคายเคืองเรน่าเลยจริง ๆ มาเซ็งกรรมการ ยังไงบิ๊กโฟร์ ก็ยังเกาะกลุ่มกัน มองในแง่ดีไว้น่ะครับ จากคุณ : กัปตันหงส์แดง - [ 20 ส.ค. 50 10:48:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เกมส์หน้า นานี่ ผมว่าไม่สมควรได้ลงมาเป็นตัวจิงแล้วนะครับจากการที่ผมดูเค้าเล่นในนัดนี้  คือเค้าอาจจะเป็นนักเตะที่ดีและลีลาคล้ายโรนัลโด้เพียงแต่เค้ายังต้องใช้เวลาการปรับตัวให้เข้ากะเพื่อนร่วมทีม  เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าจังหวะที้เพื่อนทำกันมาสวยๆนั้นมาถึงนานี่มักจะเปิดเสียไปซะหมดทุกลูกแล้วเค้าเองก้อโดนสโคลส์โวยไปหลายดอกเลยทีเดียว................. อีเกิ้ล น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในตำแหน่งนี้ เพราะน่าจะเล่นเป็นทีมและจังหวะเปิดบอลน่าจะได้ลุ้นกว่า  เพราะในเวลานี้แมนยูคงต้องการเปิดบอมส์เข้าไปลุ้นซึ่งดูจากที่เล่นกะแมนซิในครึ่งหลังแล้วแมนยูใช้การบุกตรงนี้แล้วมีโอกาสที่ใกล้เคียงกะการได้ประตูได้มากกว่าการลากลุยเข้าไปในเวลาที่ไม่มีโรนัลโด้ ส่วนนักเตะใหม่ที่เพิ่งมีโอกาสลงสนามให้แมนยุอย่างเป็นทางการในนัดแรก ผมรู้สึกว่าทั้งสองคนนี้เล่นได้น่าประทับใจ  ในรายของเตเวซนั้นเฟอร์กี้วางตำแหน่งลงไปผิดเพราะเตเวซไม่ถนัดในการเล่นตรงนั้นแต่ถึงอย่างนั้น เค้าก็ทำหน้าที่จ่ายบอลจังหวะเดียวสวยๆหลายครั้ง ส่วนในรายของฮาร์กีฟนี่ไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะก้อเห็นๆกันอยู่ว่าเค้าทำหน้าที่เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ได้ดีเพียงไร ทั้งความขยัน และประสบการณ์ การอ่านเเกมส์ ขึ้นลงตลอด ส่วนนักเตะที่น่าชมเชยอีกคนก้อคือ เอวร่า ครับ ไวดี เทคนิคสูง มีหลายจังหวะที่เค้าแสดงให้เห็นถึงความฟิต จากซ้ายวิ่งไปตัดบอลทางฝั่งขวา ส่วนในรายของ แคมเบลป์ กะ ตง ฟาง ผมว่า ตงยังมีอะไรที่ดีกว่า แคมเบลป์ แผนการเล่นในนัดหน้า บราวน์      ริโอ         วิดิช          เอวร่า อีเกิ้ล       คาริคส์      ฮาร์กรีฟ        กิ๊ก              สโคลส์                                   เตเวซ จากคุณ : ชีวิตเป็นของเรา - [ 20 ส.ค. 50 10:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 วิเคราะห์ได้โดนใจจริงๆครับ เป็นบทความที่มีคุณภาพภาคครับ อ่านแล้วเพลินดีครับ "ฉันขอเวลาตั้งตัวสักครั้ง..." จากคุณ : แฟนผี1994 (BuscompanyteR) - [ 20 ส.ค. 50 11:06:03 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขออนุญาตตอบข้อคิดเห็นคุณอาร์เจนฯนะครับ 1. นักเตะแมนยูที่ตามเกมส์เตเบซทัน มีอยู่คนเดียวคือพอล สโคลล์  ถ้าแมนยูอยากใช้เตเบซให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ต้องให้เขาเล่นเป็นตัวฟรี   --- เห็นด้วยครับ และบอกไปแล้วว่าควรให้สโคลส์ไปยืนช่วยเตเวซครับ 2. แมนยูต้องซื้อจอมทัพคนใหม่ เพราะสโคลล์อายุคงไม่น้อยลงไปกว่านี้แล้ว แล้วเอาฮากรีฟไปเป็นกลางรับ เขี่ยคาริคไปเป็นตัวสำรอง  --- ขอรอดูฟอร์มคาร์ริคอีกสักฤดูกาลก่อนค่อยตัดสินครับ ผมว่าเขายังไม่สามารถทำผลงานได้เต็มที่นัก กับตำแหน่งนี้ หากเราให้สโคลส์ไปเป็นหน้าคู่กับเตเวซ แล้วบังคับให้คาร์ริครับบทจอมทัพเต็มตัว คู่กับฮาร์กรีฟส์ แล้วเขาทำไม่ได้ อันนั้น ค่อยว่ากันดีกว่า ไม่งั้น เกือบยี่สิบล้านปอนด์ นี่ได้แชมป์เดียวผมว่ายังไม่คุ้มครับ 3. อย่างไรอัน กิ๊กส์ ต้องเรียกว่าไม่รู้ตัวว่า"แก่" บอกตรงๆว่าเห็นเล่นมา 2 นัด ฟอร์มคงงัดไม่ขึ้นแล้ว ฤดูกาลหน้าย้ายไปเล่นเป็นเพื่อนเบ็คแฮมดีกว่ามั้ง  --- ผมเห็นด้วย แต่ยังไง กิ๊กส์ยังมีประโยชน์ตามกราบครับ และยังพอเป็นตัวกดดันฟูลแบ๊กได้ดีอีกคนหนึ่ง ตราบใดที่ไม่เอาเขาเล่นหน้าต่ำนะครับ 4. กองหลังแมนยูสอบตกทุกคนในแม็ตช์นี้ ถ้านัดนี้เจอบาร์ซ่า ไม่น่าต่ำกว่า 4-0  --- ผมว่าไม่ขนาดนั้นหรอกครับ หากเจอบาร์ซ่าจริง แล้วมาเปิดแลก ผมมั่นใจว่า บาร์ซ่า ก็ต้องเสียประตูเช่นกัน เพราะจะเปิดพื้นที่ให้เราเล่น อย่าลืมว่า ปรัชญาแมนยูกับบาร์ซ่า เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือถอยเป็นล้มนะครับ 5. นานี่เล่นเลอะเทอะไม่แพ้รุ่นพี่ ยังไม่สมควรให้ลงเป็นตัวจริง  --- ครับ นานี่ ยังไสมารถปรับจังหวะการเล่นให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ 6. ท่านเซอร์เปลี่ยนตัวสำรองได้แย่มาก แทนที่จะลงมาช่วยทีม กลับลงมาเป็นภาระให้เพื่อน  --- ก็เพราะไม่มีสำรองดีๆให้เปลี่ยนแล้วไงครับ ที่คุณเห็นน่ะ ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่แล้วล่ะ 7. ฝีเท้าของตัวสำรองแมนยูยังไม่ถึงขั้น ควรไปเล่นให้ทีมระดับเล็ก หรือดิวิชั่น 1 --- อันนี้ผมเห็นด้วย และเห็นด้วยมาสองสามปีแล้วครับ ไม่เถียง แหะๆๆ 8. อย่าอ้างว่าเพราะขาดหนูโด้กับรูนี่ย์ ถ้าจะอ้างอย่างนี้ หมายความว่า แค่มี 2 คน แมนยูก็ได้แชมป์ อีกหน่อยก็ให้แค่ 2 คนลงสนามไปสู้ทีมอื่น 11 คน ดูซิว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร  --- เรื่องนี้ต้องย้อนไปดูสถิติ ยิงประตูกับแอสซิสต์ปีที่แล้วครับ จะเห็นว่าทั้งคู่เป็นหัวใจหลักของทีมจริงๆ ลองพิจารณาดูว่า เชลซีมี ดร็อกบา, เอสเซียง, เทอร์รี่ ถูกไหมครับ แมนยูมีรูนี่ย์, โรนัลโด้, วิดิช  อาร์เซนอลเคยมี วิเอร่า, อองรี เรื่องคีย์แมนนี่ เป็นเรื่องสำคัญของแต่ละทีมครับ ถ้าดูกันตามความเป็นจริง ลองหักเอา กาก้า กับ เซดอร์ฟ ออกจากมิลาน หักเอา ต๊อตติ ออกจากโรม่า หักเอา เมสซี่ กับ ดินโญ่ ออกจาก บาร์ซ่า มันก้ครือๆกัน เพียงแต่ แมนยูไนเต็ด ยังไม่มีตัวสำรองที่เทียบชั้นได้เท่านั้นเองครับ 9. แฟนแมนยูยอมรับเถอะว่า นาทีนี้ แมนยูสู้แมนซิตี้ไม่ได้เลยทั้งเรื่องกึ๋นของผู้จัดการทีมและกองเชียร์  ปีนี้กองเชียร์แมนซิตี้คึกคักมากและรวมตัวกันได้เร็ว เช็คดูจากกระทู้ของแมนซิตี้ดูได้ เรียกว่าแมนยูแพ้เพื่อนร่วมเมืองแบบ Land slide --- มันเกินไปครับ สรุปเอาดื้อๆขนาดนั้น เรื่องกึ๋นของผู้จัดการทีม สเวนก็ยังตามหลังถ้วยแชมป์ใหญ่ๆของเฟอร์กี้เป็นสิบๆใบ และนี่เพิ่งแค่สามนัด ยังพูดอะไรไม่ได้  หากจบฤดูกาลแล้วสเวนพาซิตี้มีอันดับสูงกว่ายูไนเต็ด ผมจะออกมาตั้งกระทู้ยอมรับให้เลยครับ ว่ากึ๋นของสเวนเหนือกว่าเฟอร์กี้ ส่วนเรื่องกองเชียร์ในกระทู้ ต้องยอมรับว่า ส่วนใหญ่เลยนั้น มาจากการที่มีคนไทยเป็นเจ้าของครับ คุณอาร์เจนฯลองพิจารณาดูอีกทีก็แล้วกัน ส่วนคุณบูจัง ผมเคยเห็นด้วยกับกรณีที่ว่ามาหลายครั้งแล้วครับ การเจาะตามช่องอย่างเดียว จะก๊อปอาร์เซนอลมากเกินไป ซึ่งเราเห็นแล้ววา หลายครั้ง ที่มีโอกาสเป็นสิบ แต่ทำไม่ได้ เพราะเจาะหาจังหวะเหน่งๆไม่มี แต่ก็ไม่ทราบว่าป๋าจะว่ายังไง เพราะเดินมาทางนี้เต็มตัวแล้วด้วยครับ ส่วนคุณชีวิตฯ ผมเองเห็นด้วยในหลายๆประเด็น แต่ก็ยังคิดว่า นานี่ ควรได้รับโอกาสมากกว่านี้ ก่อนจะตัดสินเขานะครับ คืออย่างน้อย เขาอาจจะลงมาในตอนเกมขาดแล้ว หรือลงมาก่อน ก่อนถูกเปลี่ยนออก ก็น่าจะดีกว่าได้แต่ซ้อม แล้วไม่ได้ลง ครับ แต่สำหรับเอวร่า ถ้าเป็นการเติมขึ้นมาแล้วจบด้วยการโยนเข้ากรอบ ผมไม่เถียงครับ เอวร่าทำได้ดี แต่ถ้าเป็นเกมอย่างเมื่อคืน เอวร่าจะเคาะบอลเสียซะเปล่าๆครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 11:17:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ตามอ่านด้วยนะครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 11:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับคุณสงบใจนะครับว่าทีมนี้ยังต้องใช้เวลาและความอดทนอีกพอสมควรเลยเพราะเป็นไปได้ยากมากๆที่จะทำให้ทุกอย่างลงตัวในตอนนี้เพราะมีนักเตะใหม่ลงสนาม 3 คน โดยที่ 2คน ไม่ได้ลงเล่นปรี ซีซั่นกับทีมเลย (ฮากรีฟฟ์ลงแต่ไม่นับเพราะนัดนั้นเหมือนลงไปเรียกความฟิตเฉยๆมากกว่า) และนานี่ก็ยังเด็กคงต้องให้เวลาปรับตัวซักพัก ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อาจใช้เวลาพอๆกับโรนัลโด้ก็ได้ใครจะรู้แต่นักเตะใหม่ต้องรับภาระหนักตั้งแต่เริ่มต้นเลย ผมว่าเค้าคงไม่คิดว่าโอกาสและภาระจะมาถึงเร็วขนาดนี้ หวังว่าคงไม่เสียศูนย์ไปก่อน โดยเฉพาะนานี่ นอกจากนักเตะใหม่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับทีมแล้วผมว่านักเตะเก่าก็มีหน้าที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับนักเตะใหม่เหมือนกัน เห็นด้วยที่บางครั้งนักเตะเก่าไม่ทันจังหวะของเตเวซ ซึ่งผมว่าเรื่องของการปรับตัวและจับจังหวะกันและกันนั้นเผลอๆอาจต้องเวลากว่าค่อนฤดูกาล ซึ่งเวลานั้นต้องดูกันต่อไปว่าเราจะไปอยู่ส่วนไหนของตารางอาจอยู่ใน top 6 หรือ top 4 ก็ได้ ผมว่าฟอร์มในช่วงนี้เป็นต้นไปของแมนยูนั้นคงจะเป็นไปในลักษณะที่ว่าประตูที่ได้เกิดจากการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะมากกว่าที่จะเิกิดจากการเข้าทำ ผลการแข่งขันคงจะออกได้ทุกหน้าในทุกๆนัด คือลงเตะคงไม่สามารถมั่นใจเต็มที่ว่าชนะแน่ๆ แต่ก็คงจะแพ้ยาก ตอนนี้ผมภาวนาให้ไม่ซาฮาหรือโซลชาคนใดคนหนึ่งกลับมาให้ไว การจัดตัวและรูปแบบการเล่นคงลงตัวมากขึ้น การได้เห็นฮาร์กรีฟลงเล่นในแมทช์เมื่อวานทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่เราได้คนที่เรารอคอยแล้ว ต่อไปก็ภาวนาให้นักเตะจับจังหวะกันได้ให้ไว้ เพื่อรอให้นักเตะที่ยังเจ็บอยู่ทยอยกันกลับมา จากคุณ : rudy - [ 20 ส.ค. 50 11:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วตกลงซื้อ Anderson มาทำไมครับเนี่ย พี่น้อง - -" จากคุณ : sWINGin' - [ 20 ส.ค. 50 11:38:03 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ยังเจ็บอยู่ครับพี่น้อง จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 11:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 35 อ่อ...กระจ่างแล้วครับ นึกว่าซื้อมาร้องเพลงให้ป๋าเต้นหมีแพนด้า เอิ๊กๆ ^^" จากคุณ : sWINGin' - [ 20 ส.ค. 50 11:44:54 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ลุ้นยาวๆครับแมนยู ผมไม่ได้เป็นแฟนแมนยูนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่แมนยูยังดีอยู่และเหนือกว่าคนอื่นคือเรื่องการต่อบอลนะครับ ผมว่ามันไหลลื่น ดี วางบอลแม่น ในพรีเมียร์ผมว่ามีแค่2ทีม คือแมนยูกะอาร์เซนอล ยังอยากให้หงส์ผมต่อบอลได้แบบนี้มั่งเลย  แต่จุดดีตรงนี้ระยะยาวก็จะกลายเป็นจุดด้อยได้เหมือนกัน คือคู่ต่อสู้จะเริ่มจับทางได้ ดังนั้นแมนยุน่าจะมีวิธีเข้าทำที่หลากหลายกว่านี้ ผมนึกถึงยุคที่ยังมีเบคแฮมกับรุด นั่นแหละ แมนยูน่ากลัวที่สุดในยุคนี้ล่ะ เพราะสามารถเข้าทำแบบโยนยาวจากปีกให้กองหน้าเข้าชาร์จอย่างได้ผล โดยที่ยังมีการรุกรูปแบบอื่นๆอยู่ซึ่งผมว่ามันหายไปในแมนยูยุคนี้ครับ จากคุณ : seven-elephant - [ 20 ส.ค. 50 11:46:40 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มีนักแตะใหม่เข้ามาก็ปรับทีมกันอีกเยอะ อย่างเอฟร่า กับวิดิช ก็เริ่มมาดีตอนฤดูกาลที่แล้ว การมีนักแตะใหม่เป็นการปรับทีมในอนาคต เมื่อทุกอย่างลงตัว มันคงจะดีของมันเอง เชื่อมือเฟอร์กี้นะ เขาทำแมนยูมานาน จนทำให้เรา เกิดความเชื่อมั่น ว่ายังไงเฟอร์กี้จะพาแมนยูกลับมาได้อีกครั้ง จากคุณ : ผักทอดยอด - [ 20 ส.ค. 50 12:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 39 น้องแอน เจ็บอยู่ จากคุณ : dabodabo55 - [ 20 ส.ค. 50 12:20:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ต้องซื้อใครใหม่แล้วครับ รอตัวหลักๆกลับมาก็โอเคแล้ว ให้เวลาเตเวซจูนความเข้าใจกับทีมหน่อย เห็นใจเตเวซมากๆ ที่ตอนนี้ต้องแบกรับหน้าที่ในการยิงประตูคนเดียวเลย เห็นด้วยกับคุณสงบใจครับเรื่องสโคลส์ ไหนๆฮาร์กรีฟก็ลงเล่นได้แล้ว อยากให้ป๋าเอาสโคลส์ไปเล่นคู่เตเวซดูบ้าง ผมมั่นใจว่าเซนส์สโคลส์กับเตเวซทันกันแน่ๆ อีกอย่างตอนขึ้นมาใหม่สโคลส์ก็เล่นหน้ามาก่อน เรื่องการหาจังหวะ การยิงประตู น่าจะดีกว่ากิกส์ ขนาดลงมาเล่นกลาง แกยังยิงในลีกไปแล้วเกือบร้อยลูก แล้วเห็นตัวเตี้ยๆแบบนี้สโคลส์พังประตูจากลูกโหม่งได้เยอะทีเดียว อีกคนคือซาฮา ระหว่างที่หมูเจ็บ ถ้ามีซาฮายืนคู่เตเวซมันคงดีกว่านี้ ซาฮาเป็นตัวเป้าขนานแท้ กลิ่นในการหาจังหวะยิง ผมว่าดีกว่าทุกคนในทีม ผมยังคิดว่าความคมซาฮาดีในระดับหนึ่ง แต่เพราะอาการบาดเจ็บ ความฟิตไม่ดี ทำให้ดูว่าพลาดง่ายๆหลายครั้ง หลังจากหงุดหงิดกับซาฮามานาน ตอนนี้ผมหวังให้ดุกหายเจ็บกลับมาเร็วๆ เห็นป๋าแก้เกมโดยส่งโอเชกับแคมป์เบลลงแล้วใจหาย เหอๆ ได้ฮาร์กรีฟมาแล้ว ผมอยากให้ป๋าจัดสโคลส์เล่นเกมรุกเต็มตัวเลย จะได้กลบข้อด้อยเรื่องการเข้าบอลโฉ่งฉ่างไปด้วย กิกส์เล่นปีน่าจะดีสุดแล้ว ผมว่าในทีมตอนนี้กิกส์ครอสบอลได้ลุ้นที่สุดแล้ว แล้วอย่าลืมว่ารูนีย์ ซาฮา อันแดร์สัน โซลชาก็เจ็บอยู่ หากพวกนี้หายกลับมา ปัญหากองหน้าไม่มีก็คงหมด สุดท้ายผมว่า 4-4-2 เหมาะกับผีที่สุดแล้ว ยิ่งไม่มีหน้าเป้ายิ่งไม่น่าเล่น 4-3-3 เชื่อใจเฟอร์กี้เถอะครับ ช่วงสัปดาห์นี้แกคงหาทางแก้ไขปัญหาได้ เกมเจอสเปอร์ผีน่าจะทำได้ดีขึ้น จากคุณ : สับขา...ตามหารัก - [ 20 ส.ค. 50 12:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เกมเมื่อวานผมว่าแมนยูก็ยังเล่นดีนะครับ แต่ยิงไม่เข้าและยังไม่รู้ว่าจะยิงไม่เข้าไปอีกนานแค่ไหน โดยภาพรวมนักเตะก็ยังทำผลงานได้ดี ยกเว้นกองหน้า ยิงเยอะแต่ดูแล้วไม่ค่อยหวาดเสียวเท่าไหร่ จังหวะที่ควรยิงได้ก็ยิงไม่ได้ทั้งเตเวซและ นานี่ เมื่อวานผมชอบเอฟร่า กับฮาร์กรีฟมากๆ สโคลส์ คาร์ริกก็ทำผลงานได้ดี ที่น่าผิดหวังน่าจะเป็นกิ๊กซ์มากกว่า ดูมา 3 เกมเริ่มเห็นว่าแมนยูน่าจะเจอปัญหาใหญ่แล้วครับ ไม่ใช่แค่เรื่องนักเตะเจ็บกับโดนแบน แต่ผมว่าเป็นเรื่องของแท็คติก ตลอดทั้ง 3 เกม แมนยูครองเกมได้ดีกว่าคู่แข่งมาก ทำเกมรุกได้ตลอด เปอร์เซ็นต์ครองบอลก็สูง โอกาสยิงก็เยอะ 3 เกมมีโอกาสร่วม 40-50 ครั้ง แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้แค่ประตูเดียว ผมรู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่ของแมนยูแล้วล่ะครับ ผมขอสรุปปัญหาของแมนยูดังนี้นะครับ ถ้าไม่เห็นด้วยก็เชิญแลกเปลี่ยนความเห็นได้ครับ 1.ผมว่าจุดเด่นของแมนยูปีนี้คือการครองเกมและทำเกมรุก แมนยูครองเกมได้เหนือกว่าคู่แข่งตลอด แต่ขณะเดียวกันการครองเกมรุกก็สร้างปัญหาให้แมนยูได้เช่นกัน เพราะคู่แข่งจะลงไปตั้งรับเยอะ ทั้งกองหน้า กองกลาง กองหลัง ปักหลักอยู่ในแดนตัวเองเกือบหมด บอลแมนยูแทบไม่เข้าเขตโทษเลย บอลที่ผ่านเข้าไปในเขตโทษได้ก็ไม่อันตราย สามารถเคลียร์ทิ้งได้ เมื่อนักเตะแมนยูพาบอลเข้าไป จังหวะยิงก็โดนแซะโดนเบียด บางครั้งก็ต้องเร่งจังหวะ จนทำอะไรไม่ได้ถนัดนัก กองหน้าแมนยูเร็วแต่ตัวนิดเดียว แต่กองหลังคู่แข่งตัวอย่างกับยักษ์ เตเวซ รูนีย์ เล่นลำบากมาก เมื่อได้บอลแทบไม่มีเวลาคิดมากเลย การส่งบอลเพื่อจะเจาะเข้าไปยิงก็ถูกเร่งจังหวะเพราะคู่แข่งเข้ามารุมเร็ว ไม่มีพื้นที่เล่น การยิงแถวสองก็มีฝ่ายตรงข้ามเข้ามาบังทางไว้หมด โอกาสยิงแถวสองน้อย ยิงได้ก็เป็นลูกยากไม่ค่อยอันตราย ลองคิดว่าแมนยูบุกหมดก็ได้แค่ 10 คนเพราะต้องทิ้งไว้เฝ้าประตู แต่ฝ่ายรับตั้งรับหมดก็มี 11 คน สถานการณ์ก็เป็น 10 ต่อ 11 ถ้าฝ่ายตั้งรับหาโอกาสเคาท์เตอร์แอ็ทแท็ก ก็จะทิ้งกองหน้าไว้ 1 คน สถานการณ์ก็ยังเป็น 10 ต่อ 10 ก็ต้องมีคำถามต่อว่าเมื่อก่อนก็เจอสถานการณ์คู่แข่งตั้งรับเยอะเหมือนกัน ทำไมถึงทำได้ ผมคิดว่าเมื่อก่อนแมนยูไม่ได้เดินเกมรุกแบบครองเกมได้มากขนาดนี้ เกมแมนยูเปิดให้ฝ่ายตรงข้ามทำเกมรุกเข้าใส่มากกว่านี้ ทำให้สามารถอาศัยจังหวะโต้กลับได้ สถานการณ์ก็จะต่างออกไป กองหน้าแมนยูสามารถใช้ความได้เปรียบเรื่องความเร็วเอาชนะความใหญ่แต่ช้าของคู่แข่งได้ ลองสังเกตดีๆตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วเรามีปัญหาบ่อยครั้งเวลาเจอคู่แข่งเน้นรับ ซึ่งจริงๆทีมไหนมาเจอแบบนี้ก็มีปัญหาทั้งนั้น ถ้าฝีเท้าไม่ได้ต่างกันสุดกู่ เรื่องจะเลี้ยงเข้าไปยิงดื้อๆแบบบอลเหนือชั้น สมัยนี้ทำได้ยากแล้วครับ แต่ถ้าปล่อยให้นักเตะแมนยูมีพื้นที่เล่น คู่แข่งก็ลำบากแน่ครับ 2. ผมว่าปัญหาของแมนยูคือนักเตะในแนวรุกตัวเล็กไปครับ เล่นลูกกลางอากาศไม่ดี ชนหรือกระแทกกับกองหลังฝ่ายตรงข้ามไม่ไหว เมื่อเจอฝ่ายตรงข้ามยั้วเยี้ยในแดนตัวเอง พื้นที่ไม่มีให้เล่น เจาะไม่เข้าก็ต้องโยน ซึ่งไม่มีกองหน้าคนไหนเด่นเรื่องลูกกลางอากาศเลย เมื่อตอนต้นฤดูกาลที่มีข่าวว่าเซอร์อเล็กซ์จะซื้อกองหน้าผมถึงอยากได้โคลเซ่ เพื่อกดดันฝ่ายตรงข้ามเรื่องลูกกลางอากาศ หรือกองหน้าตัวใหญ่เพื่อมาชนกับกองหลังรุ่นน้องยักษ์ของพรีเมียร์ลีก อย่างลาร์สัน สลาตัน เบอร์บาตอฟฯลฯ แต่หวยมาออกที่เตเวซ ก็งงไปเหมือนกัน ก็เข้าใจว่าจะเน้นที่ความเร็ว แต่จาก 3 เกมที่ผ่านมา โอกาสที่จะใช้ความได้เปรียบเรื่องความเร็วแทบไม่มีเลย เนื่องจากเจอเกมตั้งรับ 3.เหมือนที่หลายๆคนบ่นและเบื่อกัน ผมก็เบื่อ 4-4-1-1 หรือ 4-2-3-1 เหมือนกันครับ ผมเห็นท่านเซอร์ลองระบบหน้าตัวเดียวหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ค่อยจะเห็นว่ามันได้ผลซักเท่าไหร่ เท่าที่ดูแมนยูมา แมนยูจะเล่นดีที่สุดเมื่อเล่น 4-4-2 หรือมีกองหน้าคู่ครับ 1 ตัวหลัก 1 ตัวสนับสนุน เมื่อวานตอน 15 นาทีสุดท้ายที่ส่งแคมพ์เบล ตัวเยาวชนขึ้นมา ผมว่าซิตี้ดูจะเปิดโอกาสให้แมนยูมากกว่า 75 นาทีแรกซะอีก เพียงแต่นักเตะที่มาเล่นหน้าคู่นั้นชั้นยังไม่ถึง จึงสร้างอันตรายในเกมไม่ได้ถ้าเปลี่ยนเป็นลาร์สันคู่เตเวซ ผมว่าดีกว่าเมื่อวานเยอะเลย แต่ตอนนี้เราไม่มีกองหน้าแท้ๆที่ชื่อชั้นดีเหลืออยู่แล้ว ก็คงต้องเอาเท่าทีมีมาเล่น ใจจริงผมก็อยากให้สโคลส์มายืนคู่เตเวซแก้ขัดไปก่อน เพราะสโคลส์ก็เคยเล่นกองหน้ามาก่อน แต่กลัว่าจะยืนต่ำซะเคยตัวจนลืมการเล่นกองหน้าไปแล้วเท่านั้นเอง แต่ถ้าเอาไรอัน กิ๊กซ์มายืน ผมเห็นเหมือนคุณสงบใจว่ากิ๊กซ์เล่นดีที่สุดเมื่อเป็นปีกซ้ายเท่านั้นครับ ขอแสดงความเห็นแค่นี้ครับ อยากให้แฟนๆทั้งแมนยูและทีมอื่นๆลองมาแลกเปลี่ยนความเห็นเชิงสร้างสรรค์กันบ่อยๆน่ะครับ จะได้เรียนรู้และพัฒนามุมมองการดูบอลด้วยกัน เพราะที่เขียนมาหลายๆอย่างผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 12:33:43 จากคุณ : Army (Army2000) - [ 20 ส.ค. 50 12:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นแค่ช่วง 1 ที่ต้องผ่าน จากคุณ : ชีวิตเป็นของเรา - [ 20 ส.ค. 50 12:40:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ผมชอบกระทู้ที่มีคุณภาพอย่งนี้จัง ไม่เป้นไรครับ แค่สองนัด ลักษณะการเล่นไม่ใช่ว่าไม่มีอนาคต อาจต้องปรับตัวกันบ้างในหลายตำแหน่ง แต่ที่ติดใจมานานแล้ว ทำไมเซอร์ถึงติดใจ 4-3-3 ทั้งๆที่ศูนย์หน้าตัวกลางของตนไม่ใช่สไตรเกอร์เลยแม้แต่คนเดียว(ลองเทียบกับดร็อกบาดูดิ) จากคุณ : the symbol of solitude - [ 20 ส.ค. 50 12:59:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขออนุญาตคุณ อาร์มี่ ครับ เรื่องเจอเกมตั้งรับ มันเป็นของมันเช่นนั้นเองครับ ไม่ว่าจะอย่างไร คู่แข่งก็เลือกที่จะมาแพ็คเกมกับแมนยูแน่นอนครับ ยิ่งเห็นผลงานสามนัดแรกของทีมที่มาแพ็คเกมสู้แล้ว ยิ่งตอบโจทย์พวกเขาได้ดีที่สุดด้วย ณ วันนี้ แมนยูจะแพ้ทางทีมแพ็คเกมครับ และดูเหมือนแพ้มานานแล้ว ตั้งแต่หมดเดวิด เบ๊คแฮมไปจากทีม ไม่ว่าจะมีรุด หรือหน้าเป้าคนอื่น เช่น ลารส์สัน ก็ตาม สังเกตได้เลย ว่าเวลาเจอแพ็คเกมแน่น แมนยูจะเจาะยากมาก และคู่แข่งก็ตั้งใจมาแพ็คแน่นอยู่แล้ว ดังนั้น การจะหวังให้คู่แข่งเปิดพื้นที่โดยการที่เราให้โอกาสเขาครองบอล เขาก็จะใช้ผู้เล่นแค่สองสาม อย่างมากสี่คน เดินเกมขึ้นมา ที่เหลือก็แพ็คอยู่กลางสนาม รอจังหวะเราบุก ก็เหมือนเดิมครับ พอเวลาเราได้บอล อย่างน้อยก็มีสามสี่คนคอยสกรีน ดึงจังหวะ หรือสกัด ก่อนถึงแผงหลัง พอเราเสียเวลา ก็โดนแพ็คเกม ก็เหมือนเดิม สิ่งที่เราต้องแก้ก็คือ ต้องเข้าขากันกว่านี้ ช่องน่ะมันมีอยู่แล้ว จ่ายให้ถูกช่อง ให้ถึงเท้ากันให้ได้ เท่านั้นเองครับ ส่วนเรื่องลูกกลางอากาศ ผมไม่คิดว่าป๋าจะกลับมาใช้ลูกไม้เดิมเหมือนตอนเบ๊คอยู่อีกครั้ง เพราะการหาปีกเช่นนั้นมาอีก ก็จะยิ่งเพิ่มนักเตะเข้ามาอีกอย่างน้อยสามคน คือปีกหนึ่ง หน้าอีก หนึ่ง สำรองหน้าอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นภาระในระยะยาวครับ หากจะแก้ปัญหาในระยะสั้นด้วยนักเตะใหม่จริงๆ ผมว่า การยืมตัวในระยะสั้นๆ กับกองหน้าร่างใหญ่หน่อย ที่ทำเกมเองได้ พาบอลไปได้ เคยเล่นในลีกอังกฤษ น่าจะช่วยได้ค่อนข้างแน่ อย่างน้อย พิงได้ บังบอลได้ พลิกได้ และยิงได้ น่าจะช่วยเตเวซได้ดีครับ อย่างอาเนลก้า หรือ กุ๊ด ที่ยังช่วยเรื่องกลางอากาศได้ในระดับหนึ่งด้วย แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 50 13:18:46 จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 13:11:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เพิ่งได้ดูรีแมทซ์ มันยิงไม่ได้ได้ไงวะ? ผีอาเซเนอล(ปีก่อน)เข้าสิงแท้ ๆ แพ้ใครไม่แพ้ ดันมาแพ้แมนซิตี้ ณ ตอนนี้ เจ็บใจยกกำลังสิบ จากคุณ : ซุ่มอยู่ - [ 20 ส.ค. 50 13:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 46 จากการดูแมนยู ฤดูกาลนี้ การต่อบอล การครองบอล ดีมากกกก แต่ ไม่เอาได้มะ จะเอายิงได้... ถ้าจะแพ้ แพ้แบบยิงได้ ดีกว่าอึดอัดแบบนี้ เฮ้อออออ มันไม่มีคะแนนสวยงามนี่นะ จากคุณ : K-modjung - [ 20 ส.ค. 50 13:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 47 โดยส่วนตัวแล้วผมชอบแนวทาง การเล่นบอลกับพื้น จ่ายตามช่องอย่างนี้มากๆมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลังจากที่เสียเบคแฮมไป ผมก็ไม่เคยหวังกับลูกโยนที่โยนจากด้านข้างหรือด้านหลังให้เข้าทำในกรอบเขตโทษอีกเลย ผมมองว่าการเล่นลูกโยนเป็นการเสียการครองบอลให้คู่แข่งง่ายเกินไปครับ แต่ 3 เกมส์หลังสุดโดนแพ็คหลังกับกลางแน่น ทำให้ขึ้นบอลตรงกลางไม่ได้ต้องถ่ายออกข้าง พอเจาะเข้าไปไม่ได้ต้องโยน โอกาสที่จะหวังให้เป็นประตูนั้นยากแสนยาก เพราะศูนย์หน้าเราไม่ใช่ดรอกบา หรือปีเตอร์ เคราช์ ผมมองว่า นานี่ กดดันมากๆนะครับ สังเกตได้เลยจากการจ่ายถ้าเขาจ่ายเสีย จะโดนพวกรุ่นพี่ต่อว่า สโคลส์ แน่ๆ คนนึง( ที่ผมเห็น ) ส่วนการเปลี่ยนอีเกิ้ลส์ลงมา ผมคิดว่าเฟอร์กี้ ไม่พอใจนานี่ในจังหวะที่ สโคลส์ เตเวซ กิ๊กส์ ไปรอกันในเขตโทษ 3 คนแล้วเหลือกองหลังแมน ซิตี้คนเดียว แต่นานี่เปิดบอลออก และอีกหลายๆจังหวะที่เปิดบอลไม่ดี เลยให้อีเกิ้ลส์ที่เปิดบอลดีกว่าลงมา ซึ่งผมเห็นด้วยกับเฟอร์กี้นะครับ แต่เวลาที่อีกิ้ลส์อยู่ในสนามมันสายไปแล้ว ที่แมน ซิตี้จะพลาดเผยช่องโหว่ให้อีก เพราะเหลือไม่กี่นาทีจะจบเกมส์ เกมส์หน้า เจอสเปอร์ส ซึ่งขึ้นชื่อว่าหลังรั่ว โดยเฉพาะแบ็ค ( แต่เกมส์ล่าสุด ได้อี ยอง เพียวกลับมาแล้ว และเล่นดีกว่าสตัลเทรี่มาก..เจ็บต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอไงนะ ฮ่าๆ ) ป๋าคงจะเจาะด้านปีกค่อนข้างแน่ เราจะได้เห็นกิ๊กส์กลับไปยืนในตำแหน่งถนัดอีกครั้ง ส่วนปีกอีกข้าง ลึกๆอยากจะเชื่อว่าป๋าคงให้โอกาส นานี่ อีกครั้ง แต่ถ้าต้องการเน้นผลการแข่งจิงๆ คงเลือก อีเกิ้ลส์ หรือ เฟลตเชอร์ลงมาแทน สโคลส์ ก้อน่าจะถูกดันเป็นหน้าต่ำอย่างที่คุณสงบใจเรียกร้อง ฮาร์กรีฟ คารร์ริค จะคอยเป็นแบ็คอัพในแผงกองกลาง และมันคงออกมาในฟอร์เมชั่นเดิมๆ( เพราะมีนักเตะอยู่เท่านี้ ) ก็ได้แต่หวังว่า จะละเอียดในการเข้าทำมากขึ้น เพราะแนวรุกมีพื้นที่เล่นแน่ๆ สเปอร์ส ไม่ใช่ทีมเล่นรับอยู่แล้ว เกมส์นี้สวนกันมันหยดแน่นอน จากคุณ : Archdemon - [ 20 ส.ค. 50 13:57:52 ]

ความคิดเห็นที่ 48 #44 คุณสงบใจครับ ความหมายของผมคือแมนยูครองบอลครองเกมมากไป คู่ต่อสู้จึงเน้นตั้งรับเต็มที่ ทำให้เราไม่มีช่องว่าง ไม่มีพื้นที่เล่น แต่ถ้าเราปล่อยให้เค้าเล่นบ้าง ครองบอลบ้าง บุกบ้าง แล้วอาศัยความผิดพลาดขณะที่คู้ต่อสู้รุกนั้น โต้กลับเร็ว เราสามารถใช้ความเร็วและทักษะที่ดีของกองหน้าเข้าทำได้ ซึ่งจะทำให้ได้เปรียบกองหลังตัวใหญ่ เนื่องจากมีการปะทะโดยตรงน้อยลง แต่เน้นที่ความเร็วมากขึ้น น่าจะได้เปรียบกว่า จริงๆผมก็เห็นด้วยกับคุณสงบใจเรื่องการเข้าขากัน มีทีมเวิร์กมากขึ้นจะช่วยได้ ซึ่งตรงนี้อาศัยระยะเวลามากกว่าน่ะครับ ผมไม่แน่ใจว่าเรามีเวลาขนาดนั้นหรือเปล่า ถ้าลองเทียบการเล่นของแมนยูกับอาร์เซนอลดู แม้ว่าทั้งสองทีมมีปรัชญาการเล่นด้วยการบุกอย่างต่อเนื่องคล้ายๆกันแต่กว่าที่เวนเกอร์จะทำมาได้ขนาดนี้ต้องอาศัยระยะเวลามากทีเดียว นักเตะถึงจะรู้จังหวะกัน และที่สำคัญผมคิดว่าแม้แมนยูกับอาร์เซนอลจะเล่นบอลบุกเหมือนกัน แต่จะต่างกันในรายละเอียดวิธีการเข้าทำ เพราะอาร์เซนอลจะเน้นการทำชิ่งอย่างรวดเร็ว (เป็นที่มาของคำพูดประชดว่าต้องชิ่งกันจนครบ 5,525 ครั้งก่อนยิง) แทบจะไม่ครองบอลเลย กองหลังคู่แข่งตามไม่ทัน กว่าจะประกบบอลก็ถูกปล่อยออกไปแล้ว แต่แมนยูครองบอลไว้กับตัวนานกว่า และเลี้ยงเจาะเข้าไป ทำให้กองหลังคู่แข่งมีเวลาจัดการมากกว่า ตัวเล็กๆเร็วๆ โดนตัวใหญ่ๆถึกๆแซะก็ไปไม่เป็นเหมือนกันครับ แค่จังหวะจะยิง โดนเบียดนิดนึงก็เป๋ ทิศทางการยิงก็เสียไปแล้ว ผมว่าน่าจะเปลี่ยนมาปล่อยให้คู่ต่อสู้บุกและลอยขึ้นสูง แล้วเล่นแบบเคาท์เตอร์แอทแท็กบ้างในบางจังหวะของเกม ความเห็นของผมจะคล้ายๆกับคุณกระบี่เก้าสำเนียงเรื่องการเล่นบอลบนพื้นแล้วบุกอย่างต่อเนื่องในกระทู้บนๆน่ะครับ ขออภัยที่อาจจะอธิบายได้ไม่ชัดเจน จากคุณ : Army (Army2000) - [ 20 ส.ค. 50 14:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 49 บอลอย่างนี้มันน่าโมโหครับ    สวยงามแต่ยิงไม่ได้ มันต้องอาศัยความอดทนในการครองเกมและเข้าทำจนกว่าจะเจาะเข้าไปได้ ซึ่งเมื่อทำได้แล้ว  มันก็จะเริ่มไหลมาเทมา  แบบว่าเห็นช่องแล้ว แต่ตอนนี้มันก็ต้องรอไปก่อนแหละครับ  จนกว่าไอ้ที่นวดๆ มามันจะน่วม พอทำได้ลูกแรกแล้ว   เด๋วมันก็ตามมาเป็นระลอกนั่นแหละครับ  ใจเย็นๆ ดูบอลกันสนุกๆ ครับ  อย่าไปเครียด  ยังไงปีนี้มันก็หนักอยู่แล้ว จากคุณ : เดอะ ปูด - [ 20 ส.ค. 50 14:44:15 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่ได้จะบอกว่าผิดนะครับ คุณอาร์มี่ฯ ผมเห็นด้วยกับคุณนั่นแหละครับ ผมจึงได้บอกไว้ว่าต้องใช้เวลา และให้ทำใจแต่เนิ่นๆ หากเราจะหลุดวงโคจรเร็วกว่ากำหนดน่ะครับ แหะๆ เพราะการจะไปถึงฝั่งฝันอันนั้น อันที่ว่า หลับตาก็ยังส่งบอลให้ถูกคน ถูกจังหวะ มันคงไม่ได้เกิดขึ้นมาง่ายๆ เพียงแต่ว่า เวลานี้ เป็นเวลาต่อเนื่องจากการเป็นแชมป์ หลายๆคนอาจจะยังหอมหวลอยู่กับกลิ่นแชมป์ จนลืมมองความจริงว่า หลายๆทีม เริ่มเล่นแพ็คเกมกับเราตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่แล้วแล้วนะครับ แล้วผลก็ออกมาดีเสียด้วย มันจึงเป็นช้อยส์ที่ตรงใจทีมที่หาทางรับมือแมนยูอยู่ ส่วนลักษณะการเล่นที่คุณอาร์มี่ฯบอกมา ผมก็เห็นด้วยครับ แต่คงไม่ต้องถึงขนาดให้เค้าครองเกมบุกมาหรอก อันตรายเกินไปเนอะ  เอาแค่ หากบุกต่อเนื่องแล้วยังทำไม่ได้ ลองนึกถึงรอย คีน ดูมั้ย เค้าทำอย่างไร เค้าพักหายใจครับ เก็บบอล ถ่ายออกทางกว้าง แล้วบอกเพื่อนๆ ให้ใจเย็นๆ ค่อยๆทำ การถ่ายบอลออกด้านกว้าง เป็นการพักที่ดีอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการเรียกสมาธิกลับมาหาตัว แทนที่จะเลือดเข้าตา ตาลีตาเหลือกกดดันเข้าไป ทั้งๆที่ไม่มีช่อง ก็ถ่ายบอลคืนกลับมากลางสนาม เคาะบอลหาจังหวะ รอจังหวะ สักนาที สองนาที ขี้คร้าน ไอ้ที่แพ็คๆอยู่อาจจะ หลวมลงบ้างก็ได้ครับ อีกทั้ง การออกมาดูเกมกว้างๆบ้าง แทนที่จะตะบี้ตะบัน ก้มหน้าก้มตามุดหาช่องในที่แคบๆ อาจจะทำให้เราเห็นอะไรมากขึ้น เห็นช่องง่ายขึ้น และมีพื้นที่มากขึ้นครับ อีกทั้งยังสามารถเปิดโอกาสให้กองหน้าเรา ดึงตัวประกบออกมานอกพื้นที่ ให้แถวสองเรา ได้เข้าไปง่ายขึ้นด้วย เมื่อก่อน ตอนตื้อๆอยู่ คีนมักทำแบบนี้แหละครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 20 ส.ค. 50 14:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้ และมีคุณภาพคับ แม้ผมจะไม่ใช่แฟนผี แต่ก็ชอบในเนื้อหาและบทวิเคราะห์คับ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆคับ ^^ จากคุณ : BalsamiC - [ 20 ส.ค. 50 14:58:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นเค้าบอกมาว่าจะได้ อเนลกา ถ้าได้มาจริงนะ .................                                                                                                     อเนลกา                                                  เตเบซ                        กิ๊กส์(นานี่)   ฮากรีฟ    สโคล์(คาริค)   โรนัลโด(อีเกิ้ล)                       เอฟร่า           วีดิช         เฟอร์ดินาน     บราวน์                                                  เดอร์ซาร์ แจ่มไปเลย............. มาเร็วๆนะจะรอ จากคุณ : lingnoi2155 - [ 20 ส.ค. 50 15:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 53 มาแปะโป้งก่อนฮับ เด๋วเย็นนี้กลับมาอ่าน จากคุณ : Duckcovery - [ 20 ส.ค. 50 15:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แพ้แบบนี้เจ็บปวดมึนตึ๊บจริงๆครับ-*- ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ครับ เขียนได้เยี่ยมเช่นเคยครับ :) จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 20 ส.ค. 50 15:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาอ่านด้วยคนครับ ชอบมุมมองคุณสงบใจครับ ถึงจะเชียร์แมนซิติ้ก้ตาม จากคุณ : yut - [ 20 ส.ค. 50 16:40:08 ]

ความคิดเห็นที่ 56 วิเคราะห์ได้เยี่ยมครับ คุณสงบใจ แต่ผมรอโด้กลับมาอ่ะ มันกลับมารูปเกมส์คงเปลี่ยนไปได้ในระดับนึง เพราะตอนนั้น เตเวสก็คงพร้อมแล้ว จากคุณ : เบื่อความเกลียดชัง (kung lee) - [ 20 ส.ค. 50 16:44:17 ]

ความคิดเห็นที่ 57 วิเคราะห์ได้ดีครับ ทำใจเหมือนกัน บุกสวยวิ่งสวย แต่ยิงไม่ได้ จ่ายกันไปมาแล้วก็ตันอยู่นอกกรอบ จากคุณ : tOYBox - [ 20 ส.ค. 50 18:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบ่นหน่อยครับ เบื่อบางความเห็นในกระทู้นี้จัง ๕๕๕ ทำเสียบรรยากาศของเจ้าของกระทู้หมดเลย  อ่านแล้วรู้ว่า เขียนแบบนี้ไม่ใช่แฟนปีศาจแดงแน่ ๆ สรุปมาได้ไงหว่าแบบนั้น รักกันจริงเชียร์กันจริงคงไม่คิดสรุปแบบนั้นหรอกนะครับ จากคุณ : น้องเก้า - [ 20 ส.ค. 50 22:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 59 รอทุกอย่างจูนกันเข้าที่เท่านั้นค่ะ ตอนนี้ ปล. ตามอ่านกระทู้คุณสงบใจมานานแล้ว เพิ่งเคยตอบ ^^ ชอบอ่านที่คุณสงบใจวิเคราะห์มากๆ ขอให้เขียนกระทู้ดีๆ อย่างนี้ไปนานๆ นะคะ จากคุณ : Merope - [ 20 ส.ค. 50 22:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 60 โทษทีครับพิมพ์ผิด แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 50 21:33:45 จากคุณ : SavageDancer - [ 21 ส.ค. 50 21:32:23 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เห็นด้วยกับ #49 ครับ ทุกทีมเค้าก็อยากจะล้มแชมป์ทั้งนั้น มันก็เป็นเรื่องที่เราต้องผ่านไปให้ได้ มั่นใจป๋าครับ ท่านพาเราผ่านมาได้ทุกปี เดี๋ยวติดปีกเมื่อไหร่หละก็ยาว จากคุณ : SavageDancer - [ 21 ส.ค. 50 21:32:35 ]