Full Name Ole Gunnar Solskjaer
Place of birth Kristiansund, Norway
Height 1.78 m (5 ft 10 in)
Playing position Striker, Winger
Youth clubs
Clausenengen
Senior clubs
Years Club App (Gls)*
1990-1994 Clausenengen 109 (115)
1994-1996 Molde 042 (31)
1996-2007 Manchester United 235 (92)
Biography
First Career
โชลซาเริ่มค้าแข้งเป็นนักเตะ Clausenengen F.K. ในดิวิชั่น 3 ของนอร์เวย์ ด้วยสัญญาพาร์ทไทม์ และได้ย้ายไปสู่ทีม Molde ยอดทีมในลีคสูงสุดของนอร์เวย์ ในปี 1994 ด้วยสัญญานักเตะอาชีพแบบเต็มตัว และหลังจากที่เล่นให้กับ Molde 2ปีเต็ม ก็เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตของเซลชาขึ้น...
Manchester United debut
หลังจากที่ เฟอร์กูสัน ล้มเหลวในการซื้อตัว อลัน เชียร์เรอร์ จากแบล็กเบิร์น เขาได้ไปเซ็นสัญญากับ นักเตะโนเนมจากนอร์เวย์ ด้วยราคา 1.5ล้านปอนด์ ซึ่งผู้คนรู้แค่เพียงว่า เขาลงสนามให้ Molde 42นัด ยิงไป 31 ประตู และประตูแรกของเขา ก็เกิดขึ้นเพียง 6นาทีในนัดที่เจอกับ แบล็คเบิร์น ทีมคู่แข่งแย่งแชมป์นั่นเอง
ฤดูกาลแรกของโซลชาช่างหอมหวานยิ่งนัก เขาทำประตูได้ทั้งหมด 18 ประตู ช่วยให้แมนยูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคในช่วงสัปดาห์สุดท้ายไปอย่างระทึกใจ และ สื่อต่างพร้อมใจกันตั้งฉายาให้โชลซาว่า เพชรฆาตหน้าทารก "Baby-Faced Assassin" เพราะว่า โซลชาหน้าดูอ่อนกว่าวัยเสมอและยังเป็นจอมยิงประตูอีกคนนึง แต่แฟนบอลก็มักจะใช้ฉายาเขาว่า ยอดตัวสำรอง หรือ ผู้เล่นสำรองที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจาก มักเริ่มเกมบนม้านั่งสำรองบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยคิดย้ายออกจากทีม แม้มีข่าวกับสเปอร์สอยู่ช่วงนึงก็ตาม และ นอกจากนี้ ยังทำประตูสำคัญๆ ในช่วงท้ายเกมอยู่เป็นประจำ โดยนัดที่เข้าตาที่สุดก็เห็นจะเ้ป็น นัดที่เจอกับ ฟอเรสต์ ลงมาใน 20นาทีสุดท้าย ยิง4ประตูรวด ทำให้ แมนยูชนะไปอย่างมโหฬาร 8-1
Peak of career
โอเล่ มีความสุขในการค้าแข้งกับแมนยู ถึงแม้จะมีข้อเสนอจากสเปอร์ส ด้วยค่าตัว 5.5ล้านปอนด์ ในช่วงต้นปี 1998 แต่ก็ปฏิเสธไปอย่างไม่ไยดี และ ก็ก้มหน้าก้มตาทำผลงานให้แมนยูจนมีลุ้นคว้าแชมป์3ใบในปีนั้นนั่นเอง..และในปีเดียวกัน โชลชายังเป็นคนสำคัญอีก1คน ในการช่วยคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยนคัพ โดย เป็นคนทำให้ได้ลูกเตะมุมซึ่งนำมาสู่การตวัดบอลเข้่าประตู และ กลายเป็นประตูชัยอีก1ครั้งที่จะอยู่ในใจของชาวปีศาจแดง....
หลังจากพาแมนยูคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ แฟนบอลเรดอาร์มี่ ต่างช่วยกันแต่งเพลงให้โซลชาเป็นการขอบคุณเช่น "Who Put the Ball in the Germans' Net?" ซึ่งแฟนบอลอุลตร้าของบาเยิร์นเกลียดทีมแมนยูมากที่สุดในอังกฤษและเกลียดเชอริงแฮมกับโชลซาจนถึงปัจจุบัน และเพลง "You Are My Solskjaer" ก็กลายเป็นเพลงประจำตัวของโซลชาไป นัดไหนที่โซลชาลงก็จะร้องเพลงต้อนรับเป็นทุกทีไป
โชลชาเริ่มลงสนามเป็นตัวจริงบ่อยมากขึ้นเมื่อ แอนดี้ โคล และ ดไวท์ ยอร์ค ฟอร์มตกจนถูกดรอปและย้ายออกจากทีมไป โดยได้จับคู่กับ รุด ฟาน นิสเตอรอย แต่หลังจากการมาของ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ก็กลับไปเป็นตัวสำรองตามเดิม แต่เนื่องจากว่า เดวิด เบคแฮม บาดเจ็บ ทำให้ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มอบหมายตำแหน่ง ปีกขวา ให้โชลชา และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยังผ่านบอลให้เพื่อนได้ดีและยังทำประตูได้เยอะ โดยยิงไปทั้งหมด 16 ประตู ในปี 2002-03
Injury-plagued seasons
ในฤดูกาล 2003-04 โซลชาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง ต้องพักรักษาตัวอีกนาน ทำให้ เฟอร์กี้ ต้องซื้อ หลุยส์ ซาฮา มาเล่นเป็นกองหน้าแทน แต่โชลซายังหายเจ็บทันกลับมาเล่นในนัดชิง FA cup 2004 ที่เจอกับ มิลด์วอลล์
ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของโซลชาเริ่มขึ้นอีกครั้ง หลังการมาของ Alan Smith โดยอาจย้ายไปนิวคาสเซิลพร้อมกับ Nicky Butt แต่ โซลชาก็ปฏิเสธ ย้ายทีม ทำให้คนที่ต้องย้ายไปกลายเป็น David Bellion และคนที่มาแทนที่ก็คือ Wayne Rooney
โซลชาบาดเจ็บที่หัวเข่าอีกรอบ ในเดือนสิงหาคม 2004 แต่ด้วยความมุ่งมั่น ก็ได้พักรักษาตัวและทำกายภาพบำบัดอย่างหนัก เพื่อที่จะได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง และยังไปปรากฎตัวในสนามทุกนัดที่เล่นในโอลด์แทรฟฟอร์ด ถึงแม้ต้องใส่เฝือกและใช้ไม้พยุง เขาก็ยังมา...แฟนๆฝั่งStretford End ต่างเห็นใจและรู้สึกดีใจ ต่างชูป้าย "20 LEGEND" เพื่อให้กำลังใจโซลชาอีกทาง
Back from injury
โซลชาหายเจ็บอีกครั้งในปลายปี 2005 และลงเล่นในทีมสำรองในนัดที่เจอกับลิเวอร์พูลเพื่อเรียกความฟิต และได้ลงเป็นตัวสำรองในทีมชุดใหญ่ ในช่วงปีใหม่หฤโหด และยังได้เป็นกัปตันทีมในนัดที่เจอกับเบอร์ตัน แมตช์FA cupนัดรีเพลย์อีกด้วย แต่หลังจากลงสนามอย่างต่อเนื่องก็ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งในนัดที่เจอกับ มิดเดิ้ลสโบรห์ โดยเกิดอุบัติเหตุกับ ยูโก้ อีไฮอ็อก ที่โหนกแก้ม ทำให้ต้องพักยาวจนจบซี่ซั่นเลยทีเดียว
โซลชากลับมาลงสนามได้อีกในวันที่ 23 เดือนสิงหาคม 2006 และทำประตูได้ในนัดที่เจอกับชาร์ลตัน เพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลต่างร่วมแสดงความยินดีในการทำประตูของเขา โดย อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ให้สัมภาษณ์ ว่า "นี่เป็นโอกาสสำคัญของโอเล่, แฟนๆทุกมุมโลก,เพื่อนร่วมทีมและสต๊าฟโค้ช" "โอเล่ได้่รักษาอาการบาดเจ็บมายาวนานถึง2ปี, แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ และไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา และ เขาก็ได้รางวัลที่เขาควรจะได้รับ . และนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากจะเห็นจากเขา."
โซลชายังทำประตูได้อีกใน แชมเปี้ยนลีคในนัดที่เจอกับเซลติก และยังทำประตูได้เรื่อยมา และประตูที่เขาทำได้ในเสื้อสีแดงคือ วันที่ 31 มีนาคม 2007 นัดที่เจอกับ แบล็คเบิร์น ในนาทีที่ 89 ทำให้ชนะไป 4-1 และเขาก็ได้รับบาดเจ็บอีักครั้ง ทำให้โซลชาต้องตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวันที่ 27 สิงหาคม 2007 และ ตัดสินใจ เรียนโค้ชเพื่อที่จะได้มาเป็นโค้ชให้กัีบทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เขารัก....
Personal life
ตอนเด็กๆโซลชาเคยเป็นนักมวยปล้า ส่วนพ่อของเขาก็เคยเป็นแชมป์มวยปล้ำระดับประเทศมาแล้ว...
เขาแต่งงานและมีลูก2คน โดยเขาบอกว่า ลูกของเขาไม่ได้ชื่นชอบเขาเท่าไรนัก แต่กลับชอบ เวย์น รูนี่ย์มากกว่า
Honours
With Manchester United (1996-2007)
* Premier League - Champions (6): 1996-97, 1998-99, 1999-00, 2000-01, 2002-03, 2006-07
* Premier League - Runners Up: 1997-98, 2005-06
* FA Cup Winner (2): 1999, 2004
* FA Cup Runners Up: 2005, 2007
* League Cup Winner (1): 2006
* League Cup Runners Up: 2003
* UEFA Champions League Winner: 1998-99
* Intercontinental Cup: 1999
* UEFA Super Cup Runner Up: 1999
* Community Shield Winner (4): 1996, 1997, 2003, 2007
* Community Shield Runner Up: 1998, 2000, 2001, 2004
แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 50 11:06:21
จากคุณ :
olokung
- [
28 ส.ค. 50 10:43:58
]