ความคิดเห็นที่ 1 หากจะกล่าวกันถึงแนวรับของแมนยูไนเต็ดแล้ว ส่วนใหญ่ คนมักจะพูดถึงเป็นตัวๆไป โดยเฉพาะคู่เซ็นเตอร์ ที่มักจะจับกันตายตัวเป็นคู่คู่แล้วแต่ยุคสมัย แต่ในบางทีม ตัวหลักของแนวรับนี่เป็นแผงแบ๊กโฟร์อมตะเลยนะครับ เช่นของอาร์เซนอล( ลี ดิ๊กซัน, ไนเจล วินเทอร์เบิร์น, โทนี่ อดัมส์ และ สตีฟ โบลด์) แต่ของแมนยูเรา คนกลับไม่ค่อยนึกถึงแบ๊คโฟร์ทั้งชุดเท่าไหร่ แต่มักจะเป็นเซ็นเตอร์ที่เป็นที่กล่าวขวัญ น่าจะเป็นเพราะแผงสี่คนของเรา ไม่มีช่วงไหน ที่จะยืนระยะพร้อมเพรียงต่อเนื่องได้หลายๆปีพร้อมๆกัน จะมีโด่งดังเป็นพลุแตกก็ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของโลกนี่แหละครับ ที่ได้สร้างชื่อให้แนวรับของเราพากันโด่งดังขึ้นมาในยุคนั้น ผมได้เคยวิพากษ์ไปแล้วว่าชุดที่พิสูจน์ตัวเองว่าดีที่สุดคือชุดปี 99 (ชุดปัจจุบันรอพิสูจน์อยู่นะ ยังไม่นับ) มีชไมเคิล, แกรี่, เออร์วิน, สตัม, ยอห์นเซ่น แต่คู่เซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดของเราอีกคู่หนึ่ง ในความคิดผม ผมชอบคู่แกรี่ พัลลิสเตอร์ กับ สตีฟ บรู๊ซ แฮะ ผมชอบที่ทั้งคู่เป็นนักเตะที่ไม่ได้มาจากต่างประเทศ ถือเป็นคู่เซ็นเตอร์ที่เป็นอังกฤษแท้ๆเลยทีเดียวครับ ถึงแม้บรู๊ซจะไม่เคยติดธงก็ตาม เมื่อจับคู่กับแกรี่ เนวิลล์ และเดนนิส เออร์วิน ผมว่าเป็นแผงหลังที่ดูดีทีเดียว และเป็นจุดเริ่มต้นที่แผงหลังยุคถัดๆมานั้น ต้องเรียนรู้เป็นแม่แบบเลยครับ ในการก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ แฟนแมนยูไนเต็ดรุ่ลายครามหลายๆราย ยังยกย่องทั้งคู่ให้เป็นคู่ท่ดีทีสุดในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยซ้ำ หากเทียบว่า สตัม กับยอห์นเซ่น ไม่ได้ยืนระยะนานนัก พัลลี่ กับบรู๊ซซี่ นั้น ลูกกลางอากาศเก็บกินได้เรียบ ส่วนลูกบนพื้นก็ใช่ย่อย สามารถดัก และซ้อนเก็บกวาดได้ดีไม่แพ้สตัมกับยอห์นเซ่นเลย  ซึ่งเมื่อสตัมกับยอห์นเซ่นขึ้นมาทดแทน ทั้งคู่ก็ทำได้ดีมาก แถมยังมีดีกว่าในเรื่องของสปีดในการไล่กวดกองหน้าที่เร็วขึ้นกว่าคู่เดิมซะอีก ทั้งสองคู่ที่ว่ามา เมื่อผนึกกำลังกับชไมเคิลแล้ว ทำให้เรามักจะติดหนึ่งในสามทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกอยู่เสมอๆ หลังจากชุดนั้น แมนยูไนเต็ด แทบไม่เคยเจอคู่เซ็นเตอร์ที่ดูดีมีชาติตระกูลพอจะยืนระยะยาวๆได้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็น เฮนนิ่ง เบิร์ก, เดวิด เมย์, บล็องก์ (มาถึงก็แก่แล้ว), ฟิล เนวิลล์ก็เคย, หรือแม้แต่เด็กปั้นอย่างบราวน์เองก็เถอะ ยังคงผีเข้าผีออกอยู่เรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าจับคู่กับใคร หากจับกับผู้ดีไฮโซ บราวน์ก็จะมีสง่าราศี เล่นได้ดีตามไปด้วย แต่หากจับคู่กับซิลแวสตร์ หรือ โอเช หรือแม้แต่ที่เคยจับคู่กับไฮน์เซ่ ล่ะก็ โอ... พระเจ้า เราจะได้ยินเสียงอุทานนี้ออกมาจากปากแฟนๆแมนยูตั้งแต่เริ่มเกมจนจบเกมครับ ก็คิดดูเอาเอง ว่าอุทานทำไมกันนะครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:26:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ว่ากันถึงอดีตกันมาพอแล้ว มาถึงชุดปัจจุบันกันบ้างครับ ผู้รักษาประตู หลังจากชไมเคิลเดินจากไป ก็ดูว่ามีแค่น้าซาร์เท่านั้น ที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้ในระยะยาว(ตลอดทั้งฤดูกาลนะ ไม่ใช่ยาวแบบห้าปีเจ็ดปี) ตัวเลือกก่อนหน้าน้าซาร์นั้น ได้กดปุ่มทำลายตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยทั้งหมด ไม่ว่า บอสนิช, ตาอิบี้, คาร์โรลล์, ฮาวเวิร์ด หรือบาร์กเตซ แต่อย่าลืมว่า น้าซาร์เองอายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว ไอ้จะให้มายืนระยะอีกสามสี่ปีนี่เลิกหวังได้เลย จากที่ดูสองนัดล่าสุด แกเริ่มชกบอลมากขึ้นแล้วครับ ออกมาชกทิ้งตลอด การชกบอลออกไปนี่แสดงให้เห็นถึงการหลีกเลี่ยงการปะทะนะครับ หากจะเข้ามารับบอลก็คือต้องโถมมาทั้งตัว เอาตัวบล็อกทางคู่ต่อสู้ เอาลูกเข้าซองให้ได้ แต่ถ้าออกมาชก อันนี้ก็ไม่ต้องถึงกับปะทะกับกองหน้าอย่างเต็มที่เท่าไหร่ ผมสังเกตมาสองสามนัดแล้ว และก็เริ่มกังวลว่าสภาพร่างกายน้าซาร์เอง อาจจะเริ่มออกอาการบ้างแล้วครับถึงได้พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าปะทะเท่าที่ทำได้ สังเกตสิครับ เดี๋ยวนี้ออกมาตัดลูกครอส จะชกอย่างเดียวเลย ดูๆไป เริ่มคล้าย วากาชิมัตสึเข้าไปทุกที จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วตัวตายตัวแทนของน้าซาร์ล่ะครับ ตอนนี้เราก็ได้เซ็นสัญญาเอาคุสแซ็คมาร่วมทีมอย่างถาวรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุสแซ็คนี่ ดูจากโอกาสที่ได้รับเมื่อปีที่แล้ว ผมว่าเขาทำผลงานได้เข้าตาดีมากนะครับ อาจจะเป็นถึงจอมเซฟลูกโทษก็ได้ และการที่สโมสรต้องเซ็นเขามาอย่างถาวรหลังจากสิ้นสุดสัญญายืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้วนั้น ก็เพราะอาการบาดเจ็บยาวของผู้รักษาประตูดาวรุ่งของเรานั่นเอง ที่โชว์ฟอร์มได้ดีเหลือหลายจากการถูกส่งให้วัตฟอร์ดยืมตัวไปเล่น จนกลายเป็นแคนดิเดตทีมชาติอีกคนไปแล้ว แต่ฟอสเตอร์กลับโชคร้ายต้องมาบาดเจ็บ ละก็ยังไม่ทราบว่าจะกลับมาได้เมื่อไหร่ และการที่ฟอสเตอร์บาดเจ็บยาวนี้เองครับ ที่ทำให้แผนการดันดาวรุ่งผู้นี้ ขึ้นมาเป็นมือสองรองจาก ฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นอันต้องพับแผนไป และกลายเป็นเซ็นสัญญาคว้าตัวคุสแซ็คเข้ามาร่วมทีมเพิ่มอีกคนครับ เรื่องผู้รักษาประตู ผมว่าเรายังไม่น่าเป็นห่วงครับ ทั้งตัวจริงตัวสำรอง และกองหนุนที่มีอยู่ ผมว่ายืนระยะได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก นอกเสียจากว่า จะเกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติ แบบที่เชลซีเจอเมื่อปีที่แล้วค่อยว่ากัน จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เมื่อปีที่แล้ว หลังจากริโอ กับวิดิช โชว์ฟอร์มหักปากกาเซียนทั้งปวง พาแมนยูไนเต็ดโลดแล่นอยู่เหนือตารางด้วยสถิติเสียประตูน้อยที่สุด ทุกคนต่างก็ดีอกดีใจว่าในที่สุด การตามหาคู่หูดูโอเซ็นเตอร์แบ๊คของเรา ได้สิ้นสุดลงเสียที จนทั้งสองคนเริ่มมาทยอยบาดเจ็บช่วงในปลายๆฤดูกาล ทำให้อัตราการเสียประตูเพิ่มมากขึ้น และทำให้เราสังเกตได้ว่า ขุมกำลังสำรองทดแทนในตำแหน่งนี้ มันช่างอ่อนด้อยเสียเหลือเกิน เมื่อเทียบกับคู่ตัวจริง และหลังจากที่ริโอกับวิดิชกลับมาจากอาการบาดเจ็บ ทั้งคู่กลับลืมฟอร์มสุดยอดไว้ในโรงพยาบาล พกกลับมาแค่ฟอร์มดีในระดับหนึ่งเท่านั้น กับเซนส์ในการอ่านบอลที่ยังคงฝากฝังได้ ซึ่งวิดิชยังคงมีอาการหลุดให้เห็นอยู่ประปราย แต่ยังดีที่เขาแข็งแกร่งพอจะเบียดคู่ต่อสู้ได้ ไม่งั้นจะแย่กว่านี้ ส่วนริโอ ก็ไม่รู้จะติดแอ๊กไปถึงไหน ยิ่งตอนที่วิดิชยังไม่เข้าที่ ก็ยิ่งไม่รู้จะแอ๊กไปทำไม จนบางครั้งเหมือนติดลูกประมาทไปซะด้วยซ้ำนะครับ ก็ได้แต่หวังว่า ทั้งคู่จะไปค้นหาฟอร์มสุดยอดกลับมาให้ได้โดยเร็ววัน และเล่นอย่างมีวินัย มีสมาธิมากขึ้นครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาดูกำลังสำรองที่จะทดแทนเซ็นเตอร์ตัวจริงกันบ้างครับ บราวน์นั้น ผมว่าไม่สามารถยืนระยะเป็นตัวความหวังได้เลยนะครับ เพราะเราไม่รู้เลยว่า เมื่อไหร่เขาจะผีเข้า เมื่อไหร่เขาจะผีออก เพราะมันจะไม่เป็นช่วงเหมือนคนอื่น คนอื่นเขาจะมีช่วงพีค ช่วงเล่นดี ช่วงฟอร์มหลุด ที่ทำให้โค้ชพอสังเกตและเลือกใช้งานหรือเลือกดร็อปได้ แต่บราวน์ มันพีคเป็นนัดๆไป วันนี้เล่นดีสุดๆ พรุ่งนี้อาจเหวอสุดๆได้เหมือนกัน คิดแล้วก็เหนื่อยแทน เฟอร์กูสัน กับ ฟาน เดอร์ ซาร์ หลือเกิน และอีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ บราวน์กลายเป็นตัวแทนของแกรี่ ในตำแหน่งแบ๊คขวาไปซะแล้วครับ แต่ถ้าแกรี่หายเจ็บ บราวน์อาจจะกลับมาเป็นสำรองเซ็นเตอร์อีกครั้งก็ได้ เมื่อจะหวังพึ่งพาบราวน์ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ไม่ได้ แล้วคนอื่นล่ะครับ ไฮน์เซ่ก็ไปซะแล้ว มามองที่เหลือกัน ซิลแวสตร์ เป็นแบ๊กซ้ายสำรองเอวร่าก็มีเสียวพออยู่แล้ว แต่ถ้าต้องมายืนเซ็นเตอร์นี่เสียวสยองโลกเลยนะครับ ตั้งแต่หายเจ็บมาจากสองสามปีที่แล้ว แกยังตามหาฟอร์มแกไม่เจอเลยครับ จากที่เหนียวแน่น แข็งแกร่ง ตอนซื้อมาใหม่ๆ ตอนนี้กลายเป็นหลุดบ่อยๆ เหวอบ่อยๆ ซะงั้น ที่สำคัญ เช่นเดียวกับบราวน์ทางฝั่งขวาครับ ผมมองว่า โอกาสของซิลแวสตร์นั้น น่าจะอยู่ที่ฝั่งซ้ายมากกว่า โดยการเป็นสำรองของเอวร่าครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:28:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ปิเก้ จากการโชว์ฟอร์มได้ดีให้กับ เรอัล ซาราโกซ่า ในการยืมตัวที่ผ่านมา ดูเหมือนแฟนๆปีศาจแดงจะเริ่มฝากความหวังกับเขาไว้มากขึ้น อีกทั้งเมื่อไฮน์เซ่ไม่อยู่ในทีม เขาก็น่าจะได้รับโอกาสมากขึ้นเช่นกัน  และประสบการณ์ในการเล่นที่สเปน น่าจะทำให้เขาสามารถต่อกรกับบรรดากองหน้าสไตล์ยุโรปได้ดีไม่น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับเฟอร์กี้ด้วย ว่าเห็นปิเก้เป็นตัวเลือกอันดับที่เท่าไหร่ รองลงมาจากใคร อีแวนส์ เขาผ่านการลงเล่นในรูปแบบยืมตัวเช่นกันให้กับ รอยัล อันทเวิร์ป และซันเดอร์แลนด์ของรอย คีน ซึ่งอีแวนส์โชว์ฟอร์มได้ดีมากที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ และทำให้ คีน ต้องการซื้อตัวอีแวนส์ หรือไม่ก็ ยืมตัวต่อไป แต่สุดท้าย เฟอร์กี้ก็เก็บอีแวนส์ไว้เป็นกองหนุนของทีมในที่สุด ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าอีแวนส์จะได้รับโอกาสมากขึ้นในปีนี้ เฉกเช่นเดียวกับปิเก้ ไม่งั้น เราคงได้เห็น ปิเก้ หรือ อีแวนส์ เดินตามรอยรอสซี่ในไม่ช้าครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ฟูลแบ๊ค แกรี่ เริ่มโรยราลงไป และเจ็บถี่ขึ้น แต่ละครั้งนานมากขึ้น ทำให้ภาระต้องเป็นของบราวน์ที่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งตรงนี้ เขาน่าจะทำได้ดีกว่าการเป็นเซ็นเตอร์นะครับ และที่ผ่านมา เขาก็แสดงให้เห็นว่า การยืนเป็นแบ๊คขวา เขาทำได้ดีพอดูเลยทีเดียว แต่การเติมเกมรุกนี่ อย่าพูดถึง เติมได้ครับ แต่เติมไปไหนไม่รู้นะ แถมลงไม่ทันอีกต่างหาก บราวน์คงต้องถูกเคี่ยวอีกเยอะ หากจะมารับตำแหน่งนี้เป็นตัวทดแทนแกรี่ และเติมเกมรุกได้ในระดับที่แกรี่เคยทำครับ และสุดท้าย หากแกรี่ต้องอำลาสนามไป อาจจะเป็นบราวน์นี่แหละที่ได้ขึ้นมาแทน... เฮ้อ เก่งขึ้นเร็วๆนะเฮีย ส่วนเอวร่า ของเขาน่าจะการันตีตัวจริงได้ร้อยเปอร์เซนต์แล้ว ยิ่งไม่มีไฮน์เซ่คอยเบียดด้วย งานยิ่งง่าย เอวร่ามีความเร็วสูง ทักษะดี และคล่อง เปิดบอลใช้ได้ แถมยิงได้จากแถวสองด้วย แต่ที่ผมว่าควรพัฒนามากขึ้น ก็คือ การเข้าสกัดคู่ต่อสู้ และการยืนตำแหน่งของตัวเอง ที่หลายครั้งทำให้พวกเราหวาดเสียวอยู่บ่อยๆกับการหลงตำแหน่ง หรือลงไม่ทัน อีกทั้งสกัดเสียฟาล์วบ่อยเกินไปด้วย จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวสำรองในตอนนี้สำหรับฟูลแบ๊กนั้น ที่มีคือซิลแวสตร์ทางฝั่งซ้ายอย่างที่พูดไป ที่กำลังหาฟอร์มตัวเองอยู่สองสามปีแล้วก็ยังหาไม่เจอ  ก็คงเป็นอะไหล่ทดแทนทางซ้ายนั่นแหละครับ ถัดมาคือบราวน์ ซึ่งน่าจะเป็นตัวแทนทางฝั่งขวาของแกรี่ในตอนนี้ เพราะประจำตรงนี้มาตลอดตั้งแต่แกรี่เจ็บไป ซึ่งผมคิดว่า ทั้งบราวน์กับซิลแวสตร์นั้น ทำได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่ถึงกับจะฝากความหวังได้เหมือนที่เอวร่า กับ แกรี่ทำได้หรอกครับ ซึ่งทั้งคู่ก็คงต้องถูกเคี่ยวกันต่อไปจากทีมงานสโมสร อีกคนหนึ่งที่มีลุ้น และเคยทำผลงานได้ดีก็คือ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ เขาเคยลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่มาหลายต่อหลายนัดทดแทนแกรี่ครับ แต่ผมก็ไม่ทราบว่า ไปยังไงมายังไง สุดท้ายกลับเป็นบราวน์ ที่ได้โอกาสมากกว่าในตำแหน่งนี้ หากให้ผมคาดการณ์ ก็คงเป็นเพราะประสบการณ์ล้วนๆ นั่นก็คือ บราวน์ได้ลงเล่นให้แมนยูไนเต็ดชุดใหญ่มาเกือบๆสิบปีแล้ว ทั้งสำรอง ทั้งตัวจริง จึงน่าจะทำให้เฟอร์กูสันไว้วางใจเขามากกว่าบาร์ดสลี่ย์ แต่อย่างไรเสีย ผมก็อยากเห็นบาร์ดสลี่ย์ได้รับโอกาสเช่นกันครับ ฝีไม้ลายมือที่เคยเห็นเขาลงเล่นก็ถือว่าแข็งแกร่งเหนียวแน่นใช้ได้ ดังนั้น ตอนนี้ ไลน์อัพตัวจริงจึงยังคงเป็น เอวร่า   วิดิช   ริโอ    แกรี่ โดยมีตัวสำรองฟูลแบ๊กคือ ซิลแวสตร์, บราวน์ และ บาร์ดสลี่ย์ ส่วนตัวสำรองเซ็นเตอร์คือ (บราวน์), ปิเก้ และอีแวนส์ และอย่าลืมครับ สำรองของทุกตำแหน่ง จอห์น โอเช จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แนวรับโดยรวม ในปีนี้ เมื่อเราหันมาเล่นบอลบนพื้น เน้นการต่อบอล และมีมิดฟิลด์ตัวรับอย่างเต็มตัว นั่นทำให้งานของแผงหลังเราดูง่ายขึ้นทันที บอลมาไม่ค่อยถึงสักเท่าไหร่ แต่ แต่ แต่ อย่าลืมครับ ว่าที่ผ่านมา เราเล่นกดเขาอยู่ข้างเดียวอย่างนั้น แล้วบอลจะมาถึงตอนไหนล่ะครับ ครั้นพอบอลจะมาถึง ยังมีฮาร์กรีฟส์ สกรีนอีกคน ช้าลงไปอีก ดังนั้น ที่ว่ามานี่มันภาพลวงตาชัดๆเลยครับ อย่าไปหลงติดกับมันเข้าเชียว เดี๋ยวจะลืมตัว คิดไปว่าหลังเราแข็งแกร่งเสียเต็มประดา แต่ผมอยากให้มองดูบ้างว่า หากเราเจอการสวนกลับเร็วแบบจริงๆจังๆ โดยนักเตะที่มีความคล่องตัวสูง และสปีดรวดเร็ว เราจะเอาตัวรอดได้ไหม การเล่นติดประมาทของกองหลังของเราหลายๆครั้ง มันจะลงเอยแบบโชคดีทุกครั้งหรือไม่ครับ โจวานนี่ ทำไมมีโอกาสยิงโล่งๆขนาดนั้น อีกทั้งเราเสียประตูให้ปอร์ทสมัธอย่างไร  และการที่ทั้งสองทีมมีโอกาสยิงในเกมน้อยมาก แต่กลับได้หนึ่งแต้มสามแต้มจากทั้งสองเกมที่เรายิงไปร่วมๆครึ่งร้อยครั้ง แต่กลับได้แค่แต้มเดียว ทั้งสองลูกที่เสียไป ไม่ใช่ว่าหลังเราสู้หน้าเขาไม่ได้ แต่เป็นการประมาทครับ ประมาทจริงๆ และเมื่อไรที่ประมาท ก็ทำใจไว้ได้เลย ว่าถูกลงโทษแน่ๆ ขึ้นอยู่กับว่าคู่ต่อสู้จะฉวยไว้ได้ไหม เท่านั้น และผมกำลังจะบอกว่า กองหลังเราไม่เคยกลัวการบอมบ์ครับ แต่จะกลัวมากกับการเจอคู่ต่อสู้ที่เร็ว, แข็งแกร่งและคล่อง อย่างกาก้า หรือซีดอร์ฟ และหากยังจำกันได้ มิเกลกับดร็อกบา และมาลูด้า ทำอะไรกับเราไว้ครับ นั่นล่ะที่เป็นจุดอ่อนของแผงหลังของเรา การต้องมาดวลกับนักเตะที่เร็วและคล่องคราใด หลังเราจะเสียเปรียบ และมีหลุดให้เห็นทุกที เพราะอะไรครับ เพราะเราดันเกมบุกกันตลอดเวลา แบ๊คก็เติมขึ้นสูงอยู่บ่อยๆ หากฮาร์กรีฟส์ยังปักหลักอยู่ตรงกลางก็ยังดีพอชลอเกมสวนกลับได้บ้าง แต่เมื่อไหรที่ฮาร์จังขึ้นเติมด้วยแล้วโดนสวน ตอนนั้นล่ะครับ พรวดเดียวถึงกรอบเราทันที นี่ยังดีนะครับ ที่ว่าที่ผ่านมาเรายังไม่โดนสวนเร็วแบบเต็มๆเท่าไหร่ แต่ขนาดไม่โดนเต็มๆเท่าไหร่ ยังเสียไปสองลูกนะเนี่ย ปล. แก้ตัวหนาครับ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 09:30:26 จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:29:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แต่ลองดูสามนัดต่อไปนี้สิครับ คือ เยือนเอฟเวอร์ตันที่มีอาร์เตต้า, เอ เจ, ยาคูบู, เคฮิลล์         เยือนลิสบอนที่เป็นบอลยุโรป เน้นแท็คติคเต็มตัว และความคล่องตัวสูง       และการรับมือเชลซี ที่มีดร็อกบา, มาลูด้า, โจ โคล, มิเกล, ร. ฟิลลิปส์     ฟุตบอลพวกนี้ ความเร็วสูงทั้งนั้น และแต่ละตัวก็คล่องใช่ย่อยซะที่ไหน แถมแข็งแกร่งมาก เบียดไม่ค่อยอยู่ หากเราไม่วางแผนรับมือดีๆล่ะก็ ผมว่าหนักแน่ๆครับ ยิ่งถ้าหากเรามัวแต่หลงกับการเล่นห้านัดเสียแค่สองลูก ทั้งๆที่เป็นภาพลวงตา ส่วนภาพจริงเราไม่ได้มองกันเลยครับ ว่าสองลูกที่เสียไปน่ะ มันมาจากการยิงแค่กี่ครั้งเอง ซึ่งตรงนี้ต้องแก้ไขครับ หากใจเย็น เราคงต้องแพ้อีกนัดสองนัดจึงรู้ตัว ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เฟอร์กี้ต้องรีบเคี่ยวตั้งแต่ตอนนี้ครับ แล้วเราจะรับมืออย่างไร  นึกถึงโรม่าสิครับ นัดแรกที่ชนะเราสองหนึ่ง โรม่าทำอย่างไร ก็คือครองบอลไว้ให้มากที่สุด มีสมาธิตลอด แต่ไม่ต้องบุกแบบโหมเต็มทีมแบบตะบี้ตะบัน อันจะทำให้หลังลอยแล้วโดนสวนเร็วได้ง่าย แผงหลังต้องมีวินัยสูงครับ ไม่ประมาท ไม่เสี่ยง ไม่ก่อความผิดพลาดแบบเด็กประถม และการเติมเกมรุก ต้องลงให้ทัน ไล่บอลให้สุด ปีกต้องช่วยประคองและชลอเกมเมื่อแบ๊คเราเติมแล้วโดนสวน ฮาร์กรีฟส์เองต้องสกรีนเกมรุกคู่ต่อสู้ให้ได้มากที่สุด ชลอความเร็วในการสวนกลับของคู่ต่อสู้ให้ได้นานที่สุด ที่สำคัญครับ อย่าหลงตำแหน่ง และอย่าทับกันเอง ซึ่งโรม่าในวันนั้น พลาดแค่ครั้งเดียว ที่สมาธิหลุดจนเผลอเติมเกมแล้วหลังลอยโดนรูนี่ย์หลุดเข้าไปซัด แต่หลังจากนั้น โรม่าก็ไม่พลาดอีกเลย  (แต่มาตกม้าตายเอานัดที่สอง) นี่ผมไม่อยากยกตัวอย่างสิ่งที่มิลานทำในแผงหลังนะครับ โดยเฉพาะนัดที่ซานซีโร่ แผงหลังเขายืนคุมพื้นที่ได้ดีมาก ไม่มีหลุดเลย มีสมาธิตลอดทั้งเกม เราต้องทำเช่นนั้นครับ ไม่ใช่ด้านแท็คติคนะ แต่หมายถึงระเบียบวินัยและสมาธิครับ ต้องนิ่งจริงๆเท่านั้น จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 สรุปก็คือ วินัยในการเล่น อย่างเดียวเลยครับ เล่นตามแผนที่สั่งมา อย่าลืมตัว(เอวร่า) อย่าเผลอ(บราวน์) อย่าประมาท(ริโอ) และอย่าเหวอ(วิดิช) หากทำได้ตามนี้ โอกาสเสียประตูของเราจะน้อยลงเยอะครับ ที่สำคัญ ยิงประตูให้ได้ด้วยนะครับ จะดีมากเลย ผมสรุปเช่นนี้ แต่อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่ายนะครับ การทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดเนี่ยแหละยากมาก ตลอดเกมสี่สิบห้านาทีต่อครึ่งการเล่น ส่วนใหญ่มักจะเกิดอาการเผลอตัวเผลอใจ ออกไปนอกลู่นอกทางอยู่แทบทั้งนั้นแหละครับ แต่หากมาออกอาการเช่นนี้กับ อาร์เตต้า กับเอเจ กับดร็อกบา หรือมาลูด้า หรือไม่ก็พวกโปรตุกีส ผมว่าไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยนะครับ โดนแน่ๆ เพราะฉะนั้น สิ่งเดียวที่จะช่วยได้ในตอนนี้ก็คือวินัยในการเล่นครับ และขอให้ทำกันได้ด้วยนะครับ สวัสดีครับ ปล. งานเข้ามาเยอะแล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 09:31:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับคุณ สงบใจ  ทำงานอะไรครับ ถึงได้มีเวลาเขียนเรื่องย้าววววยาววววววววววววววววว...อิอิ พูดถึง Defensive Line (อิอิ เอ้ากะเค้าบ้าง) .. ทางแมนฯยูเอง ไม่ได้ เก่งทางด้านการ ปั้นกองหลังให้เป็นดาวมากนัก ถ้าเทียบกับทีมอื่นๆ นะครับ แต่ที่เป็นเทรนด์ของแมนฯยู คือ การปั้นปีกดีๆ นี่แหละเยี่ยมยอดนัก.. ดังนั้นกองหลัง ของเรา ณ ตอนนี้ ผมว่า มันลงตัวนะครับ ย้ำ!! เท่าที่ลงตัวจริงนะครับ ซึ่งก็มี เนวิว  วีดิช ริโอ และก็เอฟร่า  ดังนั้น สิ่งที่เป็นปัญหาเมื่อที่ผ่านๆมาก็คือ 1.กองลังเราไม่มีตัวตายตัวแทนให้เลือก พูดง่ายๆว่า อะไหล่สำรองของกองหลังเรา ยังไม่ถึงขั้นเทียบชั้นกับคุณภาพนักเตะตัวจริง ถ้านักเตะตัวจริงขาดไปคนหนึ่งปัญหาก็มีตามมาแน่ๆดังที่เราเห็นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งสิ่งที่อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ทำการปรับหมากการยืนเล็กน้อย เพื่อเปิดโอกาสในเกมส์รุก และรับให้ลงตัว คือการถ่างริโอ ออกมาด้านข้าง แล้วให้วีดิช ยืนเป็นเซนเตอร์ตัวเดียวซึ่งจะทำอย่างนี้บ่อยๆ เวลาที่ทีมได้บุก    แต่อย่างไรก็ตาม  การรับ ริโอเข้ามาช่วยวีดิชไม่ทัน นั่นเป็นเพราะว่า แบ็กขวา อย่างบราวน์ ลงมาช่วยเกมรับไม่ทันนั่นเอง...เมื่อบราวน์ลงไม่ทัน ริโอก็ต้องคอยพะลงกับตำแหน่งของบราวน์ไปในตัว  เมื่อไหร่ก็ตามที่บุกเพลิน การโดนสวนกลับก็เป็นปัญหาทันที เมื่อไม่มีตัวคอยสกรีนบอล เพราะบอลมาถึงริโอหรือวีดิช เร็วเหลือเกิน ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า คนที่มาช่วยในการสกรีน เกมส์รับให้บางเบาลง หลังจากปีที่แล้วไม่มี ซึ่งคนที่เข้ามาเติมก็คือ ชายชื่อโอเว่น ฮากรีฟ นั่นเอง ... ผมยืนยันว่า ถ้าท่านเซอร์ จัดการมอบหมายตำแหน่งให้ฮากรีฟ และ คาร์ริคให้ชัดเจน ว่าคนไหนรับ คนไหนรุก ผมกองกลางแมนฯยู 2 คนนี่แหละ ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระกองหลังของเราให้เล่นอย่างสบายใจขึ้นอีกเป็นกอง... แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 10:00:26 จากคุณ : พริบพรรณดาว - [ 5 ก.ย. 50 09:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เก่งจังเลยค่ะ วิเคราะห์แบบเห็นภาพ เจาะเป็นรายตัว อ่านแล้วทึ่งมากๆค่ะ ขอคารวะ คุณสงบใจ ^_^ จากคุณ : prettynarak - [ 5 ก.ย. 50 09:58:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ครับ ผมก็ชอบ ตู่พัลลี่ - บรูซซี่ เหมือนกัน จากคุณ : djnickyz - [ 5 ก.ย. 50 10:02:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 แหมๆๆ ไม่ได้อู้ขนาดน้านนนน นะครับ วันไหนมีอารมณ์อยากเขียน หรือมีหลังเกมให้เขียนถึง ผมจะพยายามมาถึงออฟฟิตั้งแต่เจ็ดโมงครับ ข้อมูลเตรียมไว้ในหัวแล้วล่วงหน้า มาถึงก็กดแป้นพิมพ์อย่างเดียวเลย ใช้เวลาอย่างมากก็ ชม. ครึ่ง เท่ากับอู้ได้ครึ่ง ชม. ตอนเช้าไงครับ นิดหน่อยน่า แต่ก็ขอบคุณครับ ที่ติดตามอ่านนะครับ และแลกเปลี่ยนความเห็นกัน จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 10:09:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ฮาประโยคนี้ " และอย่าลืมครับ สำรองของทุกตำแหน่ง จอห์น โอเช " เหอเหอ ^^ ปล.#12 พูดถึงปั้นปีก ยังไงผมก็ว่า สปอร์ติ้งลิสบอน ปั้นดีที่สุดนะ... แต่ปั้นแต่ละคน... ออกมาพิมพ์เดียวกันหมดเลยแฮะ... แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 10:11:46 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 10:11:17 จากคุณ : บูจัง - [ 5 ก.ย. 50 10:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 line up defene ของอาร์เซนอลน่อลมัน วินเทอร์เบิร์น - คีโอว์น - อดัมส์ - ดิ๊กซัน ไม่ใช่เหรอครับ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน - [ 5 ก.ย. 50 10:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คีโอวน์ มาหลัง โบลด์ มิใช่รึครับ เท่าที่ผมจำได้ ยุค บอริ่ง อาร์เซน่อลนั่น ของ จอร์จ เกรแฮม น่าจะเป็น โบลด์ นะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น แผงแบ๊กโฟร์ อภิมหาอมตะนิรันดร์กาลน่ะครับ ส่วนคีโอวน์ นี่ น่าจะเล่นทีหลัง แต่ก็ลากยาวมาจนยุคเวนเกอร์กลางๆเลยด้วยซ้ำใช่ไหมครับ แต่ถ้าจำผิด ก็ขออภัยด้วยเน้อ (แต่ผมค่อนข้างมั่นใจแฮะ ว่าไม่ผิด แหะๆๆๆ) แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 10:40:51 จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 10:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 " และอย่าลืมครับ สำรองของทุกตำแหน่ง จอห์น โอเช << รวมผู้รักษาประตูด้วยนะเอ้อ   จากคุณ : Batty_Bounce - [ 5 ก.ย. 50 10:37:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ละเอียดดีครับ ผมชอบอ่านบทความของคุณ สงบใจ มากครับ จะติดตามเรื่อยๆนะครับ จากคุณ : แฟนผี1994 (BuscompanyteR) - [ 5 ก.ย. 50 10:58:29 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มาตามอ่านครับ  อ่านเพลินมาก  ขยันพิมพ์จริง ๆ แมนฯยูฯ  เป็นทีมที่เล่นเกมรุกเป็นหลัก จึงไม่ค่อยปั้นกองหลังสักเท่าไหร่ จะคอยดูว่า  ปีนี้  กองหลังจะยังแข็งแกร่งเหมือนเดิมหรือเปล่า จากคุณ : ขุนไกรครับผม - [ 5 ก.ย. 50 11:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คีโอว์นเคยอยู่อาร์เซนอล แล้วย้ายไปเอฟเวอร์ตัน ก่อนที่จะย้ายกลับมาอาร์เซนอลอีกครั้งครับ ดังนั้นเค้าจึงเล่นให้อาร์เซนอลสองช่วงแบบเดียวกับ จอห์น ลูคิช (โกล) อะครับ ที่กองหลังอาร์เซนอลชุดนี้ได้รับการขนานนามว่าแบ๊กโฟร์เนื่องจากว่ามีการป้องกันที่แข็งแกร่ง จนกระทั่งได้แชมป์ด้วยสถิติเสียประตูน้อยสุดของสโมสร 18 ลูกทั้งฤดูกาล (แต่ยังไม่น้อยเท่าลิเวอร์พูลที่ ทำได้ 13 ลูก) จากคุณ : RZENON - [ 5 ก.ย. 50 11:10:32 ]

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้ที่คุณสงบใจเขียน ได้เก็บไว้หรือเปล่า  น่าจะเก็บไว้ในบล็อกก็ดีนะครับ วันไหนมีโอกาสและเวลาจะได้เข้าไปอ่าน เขียนดีดีแบบนี้ เก็บไว้เถอะครับ จากคุณ : yut - [ 5 ก.ย. 50 11:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เก็บไว้ครับ อยู่ในบล๊อกแล้ว แต่หลังๆแค่นั้นเองครับ ตอนแรกๆ ไม่ทราบว่าจะใส่เข้าไปยังไง เพราะเพิ่งทำบล๊อกเสร็จ จะเอาบทความเก่าๆเข้าไป มันก้จะหลอกกับวันที่น่ะครับ เรื่องเก่าๆเลยยังลังเลอยู่ สำหรับเรื่องคีโอวน์ กับ โบลด์ ผมชักไม่แน่ใจแล้วครับ เมื่อก่อนมั่นใจนะเนี่ย ว่าจำได้ แต่เจอสองท่านติงมา ชักหวั่นไหวแล้วแฮะ แต่ลองเช็คดู ที่เว็บไซต์ต่างๆ หาก search คำว่า back four arsenal มันยังจะขึ้นชื่อของโบลด์เหมือนกันเลยครับ แต่ไม่เป็นไรครับ จะโบลด์ หรือ คีโอวน์ ผมก็ว่าหลังของอาร์เซนอลยุคนั้น เหนียวซะยิ่งกว่าตังเมซะอีกครับ คีโอวน์ หรือโบลด์ก็ไม่ต่างกันหรอกเนอะ เพิ่มสถิติครับ หลังจากแวบไปเช็คมาให้ จาก วิกิฯ คีโอวน์ กับอาร์เซนอล 1984-1986 22นัด 1993-2004 311 นัด โบลด์ กับอาร์เซนอล 1988-1999 288 นัด ดังนั้น ช่วงที่ดีที่สุดของแบ๊กโฟร์ยุค จอร์จ เกรแฮม น่าจะเป็น โบลด์ครับ แต่รอแฟนปืนมาเฉลยดีกว่าเนาะ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 11:24:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แมนยูไม่เคยขาดปีกดีๆเลยนะ ตั้งแต่สมัยจอร์จ เบสต์,สตีฟ คอปเปลล์, ลี ชาร์ป,ไรอัน กิ๊กส์,เบ๊คแฮม,โรนัลโด้  ส่วนคู่เซนเตอร์ผมก็ยังยกให้ พัลลี่+บรูซซี่ เป็นอันดับ1อยู่ดี ลูกโด่งลูกเรียดเก็บกินหมด แถมยังทำ ประตูจากลูกตั้งเตะ+เตะมุมได้บ่อยอีกด้วย ถึงแม้ว่าเซนส์บอลของคู่นี้ จะไม่มากเท่ากับคู่ สตัม+ยอห์นเซ่น หรือ ริโอ+วีดิช ก็ตาม แต่ความมี ระเบียบวินัย เคร่งครัดในหน้าที่ มีสมาธิตลอด ไม่ติดประมาท ทำให้คู่นี้ ลงตัวที่สุดแล้วล่ะครับสำหรับผม จากคุณ : natureza - [ 5 ก.ย. 50 11:40:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ใช่ครับหากนับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในยุคแกรแฮมจริงๆ ก็ควรจะเป็นโบลด์ (ที่ผมให้ข้อมูลไม่ได้ติงนะครับ ^ ^ แต่เห็นมีการถามกันเลยให้ข้อมูลเพิ่มเฉยๆ) โดยหากดูเฉพาะผลงานในลีก เพราะช่วงที่อาร์เซนอลได้แชมป์ลีกสองสมัยในยุคเกรแฮมนั้น คีโอว์นเค้าย้ายออกไปแล้วครับ อยู่ในยุคของอดัมส์กับโบลด์พอดี จากคุณ : RZENON - [ 5 ก.ย. 50 11:41:26 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับคุณ อาร์เซนอล ที่เข้ามาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 11:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนตัวผมชอบคู่ สตัม-ยอนเซน มาก เพราะไม่ค่อยทันได้ดู คู่ พัลลี่-บรูซ เสียดายแต่ ตรงที่ ยอนเซน ไม่ค่อยยืนระยะได้นาน บาดเจ็บบ่อยเกินไป (ดีที่มีตัวแทนอย่าง เบิร์ก ที่สมน้ำสมเนื้อ) ถึงกระนั้นผมก็ยังคิดว่า คู่ วิดิช-ริโอ กับ สตัม - ยอนเซ่น จะเหมือนกันอยู่อย่างคือ ยอนเซ่น วิดิช มักทำประตูให้ทีมได้บ่อยๆ ขณะที่ สตัม - ริโอ.... มีหน้าที่เป็นกองหลังเท่านั้น จำได้ว่ามีแมตซ์หนึ่ง สตัมทำประตูได้ เฟอร์กี้ถึงกับปล่อยก้ากกก!! จากคุณ : ซุ่มอยู่ - [ 5 ก.ย. 50 12:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 29 มาติดตามผลงานคุณภาพ อีกแล้วครับท่าน อิอิอิ จากคุณ : ฮาตึงว่าแล้ว - [ 5 ก.ย. 50 12:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 30 #28 ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นนัดที่ชนะเลสเตอร์ 5-1 หรือ 6-1 รึเปล่าครับ สตัมยิงได้ 1 ลูก เท่าที่จำได้ก็เคยเห็นสตัมยิงเข้าไปลูกเดียวเองนะเนี่ย จากคุณ : natureza - [ 5 ก.ย. 50 12:48:00 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบมากๆ โอเช ตัวสำรองของทุกตำแหน่ง อิอิอิ เฮียเป็นมาหมดแล้วทุกบทบาท เอาไว้บารมีแก่กล้า จะเป็นตัวสำรองป๋ามั่ง แฮ่ๆ จากคุณ : Sifer2002 - [ 5 ก.ย. 50 13:04:14 ]

ความคิดเห็นที่ 32 แฟนคลับมาลงชื่อ.. เดี๋ยวกลับมาอ่านครับ... จากคุณ : next station - [ 5 ก.ย. 50 13:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาอ่านแล้วค่ะ ยังยืนยันว่าเหมือนอ่านนิยายดีๆ สักเล่มหนึ่งเลยทีเดียว ใช่สิ มันคือโรงละครแห่งความฝันนี่นา จากคุณ : กากีแกมเขียว - [ 5 ก.ย. 50 13:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณคุณสงบใจมากที่เปิดประเด็นนี้ หลายๆท่านพูดถึงไปเยอะแล้ว แต่อยากให้นึกถึงสิ่งนึง คือกองหลังเราที่ชื่อชั้นเหมือนจะดี ดูเหนียวแน่น แต่ที่จริงแล้ว หายใจได้ด้วยกองกลาง ไม่ใช่กองกลางที่ลงมาช่วยเกมรับ แต่เป็นกองกลางที่คุมเกม คุมบอลตรงกกลางสนามได้อยู่หมัด แต่หากเกมใดก็แล้วแต่กองกลางคุมบอลไม่อยู่ เกมนั้นทุกท่านจะได้เห็นแผงหลังปั่นป่วนในเกมนั้น กองหลังแมนยูมีปัญหาทุกครั้งเมื่อดวลเดี่ยว เพราะเกมรับแมนยูไม่ช่วยกันเล่นกันซ้อน ซึ่งเป็นปกติวิสัยของแมนยูอยู่แล้ว ถ้ามีคนนึงเข้าบอลแล้วอีกคนนึงจะยืนดูไม่ก็คุมโซน เพราะฉะนั้นวันเสาร์นี้ถ้าเราเอาตัวรอดไม่ได้ นั้นหมายความว่าการป้องกันแชมป์จะลําบากขึ้น แต่เมื่อดูโปรแกรมของทีมอื่นแล้ว ก็ยังไม่น่าวิตกว่าจะทําแต้มทิ้งไปไกล เพราะจ่าฝูงลิเวอร์พูล มีคิวไปเยือนปอร์ทสมัธ จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง - [ 5 ก.ย. 50 14:13:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ได้ดูอาเจนติน่าในบอลโคปปาที่ผ่านมาไหมครับ เสียประตูน้อยเพระเปิดเกมส์บุกเข้าใส่คู่แข่งตลอด เลยคิดว่าแผงหลังมันเหนียวพอดีแล้ว เหมือนแมนยูตอนนี้เนี่ยแหละ แต่พอมาเจอกับบราซิลที่เล่นสวนกลับเก่ง มีตัวเร็วๆคล่องๆ เบ็ดเสร็จโดนไป 3-0 น้ำตาร่วงเลย จากคุณ : Mesia_82 - [ 5 ก.ย. 50 14:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณสงบใจวิเคราะห์เจาะลึกได้ดีจังค่ะ จากคุณ : Red Pine - [ 5 ก.ย. 50 14:43:01 ]

ความคิดเห็นที่ 37 พูดถึงคู่เซนเตอร์เรา ริโอ จุดเด่น คือ ทักษะ และ การอ่านทางบอล  ก็บอลเชิงนิครับ  ประเภทกงอหน้า จี๊ดๆ คล่องๆ  บอลเชิง  จะสบายเขา [ยกเว้นพวกเทพๆอย่างกาก้านะ -*- ] จุดอ่อน คือ แรงปะทะ   ถ้าเจอกองหน้าอย่าง ลูก้า โทนี่ ... ริโอดับครับ  อีกอย่างคือ เล่นบอลนิ่ม+สะอาดเกินไป วีดิช จุดเด่น คือ แรงปะทะ กับลูกกลางอากาศ จุดด้อย คือ ขาดทักษะ และ ทื่อ เกินไปหน่อย  เวลาเจอตัวจี๊ดๆ คล่องๆ ... วีดิชเราเละครับ  ลนลาน เกินไป ส่วนแบค ... อยากให้ลองเอาปีเก้ลงเล่นแบคขวาบ้าง   แต่ใจจริง อยากให้เอา ฟิล บาร์ดลีย์ลง [ยังอยู่แมนยูรึเปล่า งงๆ เหมือนกัน] แบคซ้าย ... โอเช เถอะครับ  ดูแล้ว เฮียจับฉ่ายแกเล่นแบคซ้ายดีกว่าแบคขวา อย่างเห็นได้ชัด [ หลังๆ ลงมาแทนบราวน์ แล้วดันเล่นห่วยกว่าบราวน์อีก] สำรองเซนเตอร์ ... โอเช ก็น่าลงเป็นอะไหล่แทนได้ทั้ง ริโอ กับ วีดิช นะครับ เพราะแกเล่นได้ทั้ง 2 แบบเลย  เพียงแต่ดีไม่เท่าตัวจริง แค่นั้น บราวน์ ... แก เร็ว คล่อง  อ่านทางบอลใช้ได้   แต่ไม่รู้ทำไม แกถึงชอบเหม่อ  สมาธิหลุดง่าย+บ่อย ขนาดนั้น  ไฮเปอร์เหมือน ทิม ฮาวเวิร์ด รึเปล่าเนี่ย ปล.  ดีใจครับ เจอคนคนที่ชอบ รอนนี่ ยอห์นเซ่น เหมือนกัน ... แกเล่นแบบ ปิดทองหลังพระจริงๆ  ไม่เคยมีปัญหาโวยวายเลย   เสียตรงที่เจ็บบ่อยแค่นั้นเอง จากคุณ : o_extreme - [ 5 ก.ย. 50 14:53:18 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ยอดเยี่ยม ขอบคุณครับ.. จากคุณ : ~-=AUSFAhRT=-~ - [ 5 ก.ย. 50 14:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ผมว่ากองหลังเท่าที่มีอยู่ชุดนี้ ถ้าเป็นในพรีเมียร์ผมว่ายังเอาตัวรอดได้ครับ แต่ถ้าออกยุโรปเมื่อไหร่ผมว่าถ้าฝันถึงแชมป์มันยังไม่พอครับ ผมว่าเหมือนมันขาดอะไรก็ไม่รู้ครับ เท่าที่พอนึกออกน่าจะเป็นความเก๋าหรือความเขี้ยวในการเล่น โดยเฉพาะเมื่อไปเป็นทีมเยือน พูดถึงเรื่องความเก๋าในการเล่นเกมรับผมนึกถึงพวกอิตาลีก่อนเลย โดยเฉพาะมิลาน สิ่งเหล่านี้เงินมันซื้อไม่ได้แต่มันจะมาเองในอนาคต (หลังจากตกรอบบ่อยๆ55) แต่ผมยังคิดนะครับว่าถ้าแกรี่กลับมายืนแบ็คโฟร์เมื่อไหร่ทุกอย่างจะดีขึ้น ไม่ใช่ว่าแกรี่จะเก่งกาจมากมาย แต่มันจะได้ความลงตัวกลับมามากกว่า ผมว่าแม้ลงลึกเป็นรายตัวเราอาจดูมีปัญหา แต่เมื่อรวมกัน 4 คนนี้แล้วผมว่าผมยังสบายใจนะครับ แล้วด้วยกองหน้ากับกองกลางที่เรามีอยู่ผมว่าในฤดูกาลนี้น้อยทีมที่จะกล้าเปิดเกมรุกสู้กับเราครับ ปีนี้กองหลังผมว่าไม่ต้องซื้อหรอกครับเอาเท่าที่มีและเปิดโอกาสให้กับ ปิเก้ บาร์ดสลี่ย์ และอีแวนส์ หรือซิมพ์สันให้มากขึ้นก็พอ ปล.ผมสังเกตวิธีต้งรับของแกรี่เวลาโดนกองหน้าหรือปีกเลี้ยงด้วยความเร็ว แกมักจะตั้งรับด้วยวิธีถอยหลังไปเรื่อยๆ ซึ่งผมสังเกตุดูแม้มันจะทำให้ไม่ถูกเลี้ยงหลบไปได้ก็ตามแต่กองหน้าฝ่ายตรงข้ามกินแดนเราไปได้เยอะทีเดียว ซึ่งนำมาซึ่งการจบสกอร์บ่อยเหมือนกัน แต่ที่ผมหงุดหงิดคือเพื่อนร่วมทีมมักปล่อยให้แกรี่ โดนเลี้ยงจี้อยู่นั่นแหละ ไม่เห็นมีใครคิดมาซ้อนเลย เป็นข้อสังเกตุเฉยๆนะครับ จากคุณ : rudy - [ 5 ก.ย. 50 15:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณ จากคุณ : darkoly - [ 5 ก.ย. 50 15:48:19 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณรูดี้ครับ มันเป็นอย่างนั้นแทบทุกคนเลยครับ เพราะอย่างที่คุณกระบี่ว่าไว้แหละ เรารุกกันหลายคน จนหลือคนในแนวรับน้อยลง ทีนี้พอโดนสวนมาสองสามคน แนวรับเราก็ต้องกระจายกันคุมให้ครบ ไม่งั้นจ่ายไปได้หลุดเดี่ยวแน่ๆ ครั้นพอกระจายกันคุมคนปุ๊บ มันก็จะเกิดเคส สาม-สาม หรือ สอง-สอง อยู่บ่อยๆ ซึ่งอีตรงนี้แหละ ที่ทำให้หลังของเราไม่กล้าเข้า ต้องถอยประคองลงมา เพราะขืนเข้าพรวดพราด ทีนี้หลุดเดี่ยวเลยครับ เพราะเราไม่มีตัวซ้อน ตัวซ้อนไปไหน กระจายคุมตัวที่หลุดตามกันมานั่นแหละครับ ทีนี้ จะแก้อย่างไร ผมว่าป๋ารู้ครับ แต่แก้ลำบาก มันเป็นเรื่องของความมีสติครับ และวินัยในแผนการเล่นด้วย รุกเพลิน รุกนาน แต่ยิงไม่ได้ รุกไปรุกมา มันจะค่อยๆลอยขึ้นเรื่อยๆน่ะครับ กลายเป็นหลังลอยโดยไม่รู้ตัว เห็นริโอขึ้นมาหน้ากรอบไหมล่ะครับ เสียวเชียวล่ะ ต้องเล่นรัดกุมกว่านี้หน่อยครับ อย่าไปเพลินมาก เพราะเกมแบบนี้ หากโดนสวนมาตูมนึงเป็นประตู เราจบเห่เลยครับ เพราะยิงยากอยู่แล้ว ยิ่งเขาขึ้นนำไป ยิ่งยากเลยทีนี้ มีแต่จะโดนสวนให้เสียมากขึ้นก็เท่านั้น เฮ่อ... ใจเย็นๆครับ เดี๋ยวก็ดีขึ้น เชื่อผมเถอะ ตอนนี้มันยังไม่ลงตัว เมื่อเกมรุกไม่ลงตัว หลังก็ต้องขึ้นไปช่วยเป็นธรรมดา อีกหน่อยก็ดีขึ้นครับ จากคุณ : สงบใจ - [ 5 ก.ย. 50 16:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อยากเห็นฟอร์มปิเก้ อีแวนส์บ่อยๆในบอลถ้วย ได้ลงบ่อยๆ เราอาจมีกองหลังดีใช้งาน จากคุณ : SamuDi Knight - [ 5 ก.ย. 50 16:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เขียนได้ดีมากเลยครับ จากคุณ : dabodabo55 - [ 5 ก.ย. 50 17:46:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณสงบใจอย่าลืมรวบรวมทำเป็นหนังสือขาย ชื่อ เจาะลึกแมนยู โรงละครแห่งความฝัน จากคุณ : นายชัย - [ 5 ก.ย. 50 18:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 45 #34 คำพูดของคุณกระบี่ฯที่ว่า " จ่าฝูงลิเวอร์พูล " นี่ผมยังฟังแล้วมันขัดๆอยู่นา... มันไม่ใช่อ่ะ มันไม่ใช่ แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 50 19:19:55 จากคุณ : Archdemon - [ 5 ก.ย. 50 19:19:30 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โอ สุดยอดผลงานอีกแล้วครับทั่น ไม่รู้จะพิมว่าไรดีขอตอบจากใจเลยว่า วิเคราะห์ดีมั่ก ๆ จากคุณ : Jaxx5788 - [ 5 ก.ย. 50 20:25:50 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากครับ :) จากคุณ : ป้อแป้เป็นเยลลี่ปีโป้ - [ 5 ก.ย. 50 21:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 48 . เสียดายนะ... เสียดายที่กระทู้คุณภาพของคุณสงบใจไม่เคยได้ขึ้นกระทู้แนะนำเลย (...ถ้าเคยขึ้นแล้วก็ขออภัย เผื่อจำผิด) . จากคุณ : เทพบุตรโลกันตร์ - [ 5 ก.ย. 50 22:12:00 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นกระทู้พาลให้นึกถึงแดงเดือด บาเบล เทพเงาะแอนฟิลด์ มาเช่ เบนายูน โวโรนิน ตอเรส เค้าท์ ปีนี้หงส์ของกระพ้มดูมีความหวังนิด ๆ แล้วล่ะ ที่จะเอาชนะปีศาจแดงของทั่นสงบใจ จากคุณ : โจโฉ2000 - [ 6 ก.ย. 50 13:34:46 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มาอ่านกระทู้ดีดี ขอบคุณนะคะ จากคุณ : ผ่านมาทักทาย - [ 6 ก.ย. 50 14:42:59 ]